เพราะรักเขา หรือเราไม่มีประสบการณ์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะรักเขา หรือเราไม่มีประสบการณ์  (อ่าน 2323 ครั้ง)

คนที่คุณไม่รู้ว่าเป็นใคร

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงนี้ผมรู้สึกเครียดๆ ครับ และเรื่องเดียวที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ก็คือเรื่องของหัวใจครับ ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะผมไม่ได้ระบายความรู้สึกออกไป ความอัดอั้นตันใจทั้งหลายมันคงทำให้ผมเป็นแบบนี้ จึงต้องขออนุญาตมาเล่าให้ทุกคนฟัง เผื่อมีใครจะให้คำแนะนำผมได้บ้าง

ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยมีแฟนมากก่อนครับ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยมี (ไม่ว่าผู้ชาย หรือผู้หญิงก็ตาม) เพราะผมชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว รู้สึกว่ามันสะดวกดี ไม่ต้องรอคอยใคร (เฉพาะเวลาส่วนตัวนะครับ) แต่อยู่มาวันหนึ่งชีวิตอันปกติสุขของผมก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาคนนั้นเข้ามาในชีวิต ซึ่งแต่ก่อนเขาก็เป็นเหมือนคนๆหนึ่งที่ผมรู้จักแต่ตอนนี้เหมือนกับว่ามันมากกว่านั้น แต่ก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร

อันที่จริงผมก็พอจะรู้ตัวว่าตัวเองอาจจะเป็นเกย์ก็ได้ แต่บางครั้งที่ผมเห็นผู้หญิงน่ารักๆ ขี้อ้อนหน่อยๆ ผมก็รู้สึกชอบเหมือนกันนะ บางที่ผมคงจะเป็นพวกไบเซ็กชวล แต่จะค่อนไปทางเกย์ซะมากกว่า ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าผมเป็น เพราะผมไม่แสดงออก ไม่บอกใครด้วย และไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องรักๆใคร่ๆ มากนักเพราะไม่อยากเสียเวลาอันมีค่าในชีวิต แต่ตอนนี้เวลาของผมกับเสียไปกับมันทุกๆวัน ผมยังอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากจะมีลูกตัวน้อยๆน่ารักๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองยังคงสับสนว่าควรจะเลือกทางไหนดี

ส่วนเขาทำงานเป็นช่างเทคนิคที่บริษัทเดียวกันกับผม ซึ่งเพิ่งเข้ามาทำงานที่บริษัทได้ไม่นาน ประมาณปีกว่าๆ อายุประมาณ 20 ต้นๆ น้อยกว่าผมปีหนึ่ง ส่วนผมทำงานเป็นฝ่ายบุคคลครับ เรื่องราวต่างๆ มันเกิดขึ้นมาถึงตอนนี้ก็จะครบปีแล้ว แต่ทุกอย่างมันยังคงกำกวม ไร้ความชัดเจน จนทำให้ผมสับสนว่ามันคืออะไรกันแน่

เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งในขณะที่ผมเดินออกจากบริษัทเพื่อกลับบ้านหลังจากเลิกงานตามปกติ ซึ่งต้องเดินผ่านร้านขายของที่เขานั่งดื่มเบียร์ เพื่อไปยังโรงจอดรถของบริษัท ในขณะที่ผมกำลังเดินคุยกับพี่ที่ทำงานด้วยกันผมก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งทำสัญลักษณ์มือแบบว่า “I love you” มาทางผม ตอนนั้นผมก็งงๆ ครับว่ามันบอกรักใครวะ เพราะคนที่เดินผ่านในเวลานั้นมีแค่ผม กับพี่ที่ทำงานรุ่นราวคราวป้า (อายุประมาณ 40 ปลายๆ เกือบ 50) ผมก็คิดในใจว่า มันหมายถึงกู หรือมันชอบป้าเขาวะ

แล้วหลังจากนั้นมันก็มีหลายๆ อย่างที่ทำให้ผมคิดว่าเขาคงจะหมายถึงผม เนื่องจากช่วงหลังๆมานี้ผมต้องเดินเข้าไปในไลน์การผลิตบ่อยๆ และก็เจอเขาบ่อยขึ้นด้วย ซึ่งทุกครั้งที่เจอกันเขาก็จะจ่องมองผมตลอด จ่องจนผมรู้สึกตัว จนกระทั้งหลังๆ กลายเป็นว่าผมกลับเป็นคนที่คอยมองหาเขาเสียเอง  แต่เราก็แทบจะไม่เคยได้คุยกันเลยเสียด้วยซ้ำ

ผมยังจำได้ว่าไม่กี่ครั้งที่ได้คุยกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องงาน และผมก็เป็นคนทักไปก่อนเสมอ เขาก็จะตอบมาแบบอายๆ รู้ได้จากน้ำเสียงของเขาและบางครั้งเขาก็หน้าแดงด้วย จนหลังๆ ก็ทำเอาผมตื่นเต้นไปด้วยเมื่อจะเอ่ยปากทักเขาไปซักครั้ง

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมต้องทำหน้าที่ถ่ายรูปให้กับพนักงานทั้งหมด เพื่อทำบัตรประจำตัวพนักงานใหม่ ซึ่งผมเป็นพวกโรคจิตอย่างหนึ่งครับ ถ้าเห็นคอเสื้อใครเบี้ยวก็จะไปจัดให้ เพื่อให้รูปออกมาสวย วันหนึ่งเขาก็มาถ่ายรูปคนเดียว (เพราะกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาถูกผมบังคับให้ถ่ายรูปก่อนแล้ว เนื่องจากตอนนัดไม่มาตามนัด พอเจอก็จับถ่ายรูปเลย) ซึ่งเขาเป็นคนท้ายๆ ของกลุ่ม และตอนจะถ่ายรูป ผมก็เข้าไปจัดคอเสื้อให้กับเขาเหมือนคนอื่นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่มันแปลกออกไปคือ ทั้งเขาและผมต่างรู้สึกตื่นเต้น ร่างกายรู้สึกสั่นอย่างบอกไม่ถูก (ผมเห็นเขาสั่นและก็หน้าแดงด้วย)

ผมอยากรู้ว่าเขาคิดยังไงกับผม แต่จะให้ถามต่อหน้าตรงๆ มันก็ไม่กล้า ผมเลยแอด Facebook เขาไป แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกไม่ดี เพราะสถานนะใน Facebook ของเขาขึ้นว่า “มีคู่หมั่นแล้ว” ผมรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูกและคิดว่าตัวเองไม่ควรจะไปยุ่งกับเขาอีก

เขาเป็นพวกที่นานๆ จะออน Facebook และจะออนจากมือถือ ซึ่งผมก็ไม่รู้เป็นไงทั้งๆ ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับเขาอีก แต่ตาเจ้ากรรมก็ชอบจ่องหาว่าเขาจะออนเมื่อไหร่เสมอ และวันหนึ่งเขาก็ออน (เขาออนก่อนที่ผมจะเข้าไปนะครับ) ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก และตัดสินใจพิมพ์ทักไปว่า “วันนี้คิดยังไงถึงได้ออนเฟส” (ตอนนั้นตั้งใจจะทักแบบอยากให้เป็นเพื่อนกันครับ) ผมรออยู่สักพักเขาก็ไม่ตอบกลับ มันทำให้ผมรู้สึกนอยด์มากๆ และผมก็ออกจากเฟสไป หลังจากนั้นผมก็ไม่ทักเขาในเฟสอีกเลย เขาก็ไม่เคยทักผมเหมือนกัน

หลังจากวันนั้นตอนไปทำงานผมก็ไม่ค่อยกล้าสบตาเขา มันยังรู้สึกนอยด์ๆ ครับ แต่ทุกเช้าผมก็อดไม่ได้ที่จะกวาดสายตาดูทั่วโรงจอดรถเพื่อมองหารถของเขา (เมื่อก่อนผมไม่เคยมองป้ายทะเบียนรถใครเลย แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า รถคันไหนขับผ่านต้องอ่านป้ายทะเบียนตลอด ไม่รู้เป็นไง) ซึ่งพักหลังมานี้ผมสังเกตเห็นว่าเขาเปลี่ยนรถขับมาทำงาน โดยตอนแรกๆ เขาจะใช้รถเก๋งฮอนด้าสีขาวที่ซื้อมาใหม่ แต่หลังๆ กลับขับรถเก๋งเก่าๆ มาทำงานแทน (บางครั้งก็สลับเอามา แต่มักจะขับรถเก๋งคันเก่าที่ว่ามามากกว่า) ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม เพราะทั้งๆ ที่เขาเคยโพสต์ในเฟสว่า ฮอนด้าสีขาวคันนั้นเป็นรถคันแรกจากน้ำพักน้ำแรงของเขา แต่ทุกครั้งเขาก็จะเอารถมาจอดตรงช่องท้ายๆ ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ของผมเสมอถ้ามีที่ว่าง (จะมีอยู่ 2 ล็อคที่เขาจะจอดเสมอ แต่บางที่เขาอาจจะชอบจอดแถวๆ นั้นก็ได้ ผมอาจจะคิดไปเอง)

หลังจากที่ผมรู้ว่าเขามีคู่หมั่นแล้ว ผมก็พยายามไม่พบเขา เวลาเดินผ่านในไลน์ก็ทำเป็นไม่สนใจ ตอนเย็นๆ ขับรถออกจากโรงจอดรถผ่านร้านขายของที่เขานั่งอยู่ ก็ทำเป็นไม่สนใจเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาจ่องมา   เวลาเขายิ้มให้ ผมก็จะหันหน้าหนี เพราะคิดว่าถ้าปล่อยใจไปมากกว่านี้มันคงไม่ดีสำหรับผม ตัวเขาและแฟนของเขาด้วย

จนวันหนึ่ง ผมต้องไปจัดอบรมที่ห้องอบรมใหญ่ ซึ่งอยู่ในไลน์การผลิต ผมกับเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่ง (เป็นผู้หญิงอายุเท่ากันกับผม) ก็จัดเตรียมของว่างอยู่ข้างนอกห้อง และคุยกันฆ่าเวลาระหว่างที่รอ (ผมชอบพูดกับเธอแบบหยอกๆ กระหนุงกระหนิง แต่ไม่ได้มีอะไรกันนะครับ) ส่วนเขาก็กำลังซ่อมเครื่องจักรอยู่แถวๆ นั้น ขณะที่ผมกำลังคุยกันอยู่ เขาก็แอบมานั่งในมุมลับๆ และจ่องมาทางผมชนิดที่ว่าตาไม่กระพริบเลยทีเดียว และก็นานกว่าทุกครั้งด้วย แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจเขา (แต่ก็มีเหลือบมองไปทางเขาบาง ก็เล่นจ่องซะขนาดนั้น)

หลายๆ ครั้งที่เขาทำให้ผมรู้สึกว่าเขาคิดยังไงกับผมกันแน่ อย่างตอนที่ผมลองเปลี่ยนร้านตัดผมใหม่ เปลี่ยนทรงผมใหม่ วันแรกที่เขาเห็นผม ผมรู้สึกได้ว่าเขาจ่องอยู่ และทำเป็นเดินเขามาคุยกับพี่ที่เขารู้จักซึ่งเดินมาข้างๆ ผม อีกครั้งผมลองเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ ตอนที่ผมมาถึงโรงจอดรถ และหันไปคุยกับเพื่อนร่วมงานว่าผมใส่คอนแทคเลนส์แล้วเป็นไงบาง ผมก็เหลือบไปเห็นเขาซึ่งกำลังออกมาจากรถที่จอดอยู่ตรงข้ามกับจุดที่ผมยืนอยู่ แล้วเขาก็หลบเข้าไปในรถอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่บริษัทฯ มีการแข่งขันกีฬาสี ซึ่งผมจะไปดูทุกวันเพราะหอพักอยู่ใกล้ๆ และไม่รู้จะทำอะไรตอนเย็นๆ พอเขาเดินมากับเพื่อน และเห็นผมยืนดูอยู่ก็จะชวนเพื่อนๆ เขาหยุดดูอย่างน้อยก็ ครึ่งแรกของการแข่ง

   เขาเป็นนักกีฬาฟุตบอลครับ ตอนที่เขาแข่งผมก็ไปดู (จริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาลงแข่ง แต่บังเอิญต้องไปดูเป็นเพื่อนลูกพี่ และก็ไม่ได้ไปเชียร์เขาด้วย เพราะลูกพี่ผมอยู่อีกสีหนึ่ง) พอเขาเห็นผม ก็เหมือนอยากจะโชว์ออฟ เกินความจำเป็น ประมาณว่ามึงอยู่นิ่งๆบ้างก็ได้ เดี๋ยวก็เหนื่อยตายก่อนจะชนะหรอก

   ส่วนผลการแข่งขันเหรอครับไม่ต้องถาม ทีมที่ผมไปเชียร์ก็ชนะสิครับ ส่วนทีมเขาแพ้ แล้วอีกครั้งหนึ่งที่ผมไปเชียร์ คราวนี้ผมตั้งใจไปเชียร์ทีมของเขา เพราะว่าส่วนใหญ่ผมรู้จักคนในทีมนั้นมากกว่าอีกทีมหนึ่ง คราวนี้เขากลับเล่นดีครับ ทำประตูได้ตั้ง 2 ลูก ชนะขาดรอย ผมก็ดีใจด้วยครับ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปพูดด้วย ทำได้แค่ส่งสายตาไปให้เท่านั้น

ช่วงนี้ผมค่อนข้างรู้สึกดีมากๆ เพราะหลายครั้งที่ผมไปดูกีฬา เขาก็มักจะมายืนดูอยู่ใกล้ๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาเอามอเตอร์ไซค์มาทำงาน แต่ก็มายืนดูกีฬาจนจบ ไม่ห่างจากที่ผมยืนอยู่ (เขามากับเพื่อนนะครับ ไม่ได้มาคนเดียว) วันนั้นคงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เราได้เดินกลับพร้อมกัน และขับรถออกไปพร้อมกัน มันทำให้ผมรู้สึกเขินมากๆ

แต่แล้วเหตุการณ์หนึ่งก็ทำให้ผมตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งกับเขาอีก วันนั้นผมไปยืนดูกีฬาอย่างเช่นเคย และเพื่อนผู้หญิงที่ทำงานด้วยกันก็เลยมาดูเป็นเพื่อน เขาก็มาดูและยืนคุยกับพนักงานอีกคนหนึ่งที่เป็นนักกีฬาฟุตบอลสีเดียวกับเขา ตอนแรกผมก็แอบเหลือบไปมองเขาบ้าง แต่มีประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจถอยห่างจากเขา เมื่อมีเสียงหนึ่งถามว่า “พี่อยู่บ้านไหน” อีกเสียงตอบกลับมาว่า “พี่อยู่บ้านแฟนพี่” ผมแน่ใจว่าเสียงที่สองต้องเป็นเสียงของเขาแน่ๆ แม้เขาจะพูดกันค่อนข้างเบาก็ตาม ผมรู้สึกอึ้งครับ (แสดงว่าเขากับแฟนถึงขั้นอยู่กินด้วยกันแล้วนี่) ผมก็เลยหันกลับไปคุยกับเพื่อนของผมโดยไม่สนใจเขาอีกเลย ซักพักเขาก็เดินออกไปจากสนามแข่ง

ทุกอย่างที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้สึกทั้งดีใจ และเศร้ามากๆ ไม่รู้จะทำตัวยังไงดี ยิ่งตอนนี้ เกิดกรณีพนักงานในบริษัทซึ่งมีคนรักอยู่แล้วและไปเป็นกิ๊กกัน ทำให้คนอื่นๆ เอาเรื่องทั้งสองมานินทา อีกกรณีหนึ่งพนักงานผู้หญิงสองคนเป็นแฟนกันก็ถูกแม่เข้ามาต่อว่าต่อหน้าต่อตาคนอื่น มันทำให้ผมรู้สึกว่าไม่อยากจะเป็นอย่างนั้น เพราะเรื่องของผมมันคงจะเป็นทั้งสองกรณี

ตอนที่ผมกลับบ้านช่วงปีใหม่ ที่บ้านก็มักจะถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะมีแฟน ที่บ้านอยากจะอุ้มหลานเร็วๆ แล้ว แต่ใจผมกลับมีแต่เขาเท่านั่น

ผมกลัวว่าผมอาจจะคิดไปเองว่าเขาชอบผม ผมไม่อยากเจ็บและไม่อยากทำให้ใครเจ็บ ไม่อยากถูกใครรังเกียจ ไม่อยากถูกใครนินทา ไม่อยากถูกใครต่อว่า ไม่อยากให้ที่บ้านต้องผิดหวัง และไม่อยากจะรักเขาอีกแล้ว ผมควรจะทำอย่างไรดี

ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำได้อย่างเดียวในตอนนี้คือทำใจ แต่มันก็ทำไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นเขาผมก็รู้สึกใจสั่นโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อไม่เห็นเขาก็เฝ้าแต่มองหา มันเป็นเพราะผมไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนหรือเปล่า หรือเพราะผมมีความรู้สึกดีๆ ต่อเขา ผมต้องทำยังไงดีใครพอมีคำแนะนำบ้างครับ :katai1:
Share This Topic To FaceBook

MoOyang

  • บุคคลทั่วไป
ตอบตามความรู้สึกเลยนะครับ
แต่ละคน ต่างจิตใจ พื้นฐานของแต่ละคนก็แตกต่างกัน

"ฉันรักผัวเขา" มีให้เห็นอยู่มากในสังคม
การจะบอกว่า "ให้เป็นคนเลวที่ได้รักเธอ" มันก็จะกลายเป็นคนเลวไปจริงๆ

จะบอกว่า "ตัดใจเหอะ" แต่เจ้าของกระทู้คงตัดใจได้ยากใช่มั้ยครับ

สำหรับผม พูดได้เต็มปากเลยว่า ไม่เคยมีกิ๊ก หรือปล่อยให้แฟนมีกิ๊ก (จับได้เลิก!!!!)

สุดท้ายเจ้าของกระทู้คงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว แต่แค่อยากรู้ความเห็นของเพื่อนๆ
เป็นกำลังใจให้ครับ (อยากให้เดินออกมา ให้รู้สึกถึงความภาคภูมิใจในตัวเอง)

เชื่อเถอะครับ รักแท้มีอยู่จริง แต่มันก็แค่ยังไม่เจอ ก็เท่านั้นเอง

เหนือฟ้ายังมีจักรวาล

  • บุคคลทั่วไป
เขาก็ไม่ชัดเจนแล้วยังมีแฟนอยูแล้วด้วยเป็นรักที่อันตรายน่ัะ ดีแล้วล่ะที่ถอยออกมาก่อนอย่างน้อยตัวเราเองก็จะได้ไม่เจ็บไปกว่าเดิมด้วย

คนที่คุณไม่รู้ว่าเป็นใคร

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากนะครับสำหรับคำแนะนำ ช่วงนี้ผมกำลังอยู่ระหว่างทำใจ กำลังย้อนหาตัวเองเมื่อครั้งตอนที่ยังไม่มีเรื่องพวกนี้เข้ามารบกวน มันอาจจะต้องใช้เวลาซักระยะ แต่ผมก็เชื่อว่าตัวเองจะก้าวข้ามมันไปได้ ชีวิตมันไม่ได้มีแค่นี้ซักหน่อยนี่นา มีอีกหลายๆ เรื่องที่เราต้องพบเจอ ผมพยายามสนุกกับทุกสิ่งที่ทำ ตอนนี้ก็เริ่มทำใจได้บ้างแล้วหล่ะครับ หาโน้นหานี่ทำ ก็ทำให้ลืมๆไปได้บ้าง คิดอยู่อย่างเดียว "ชั่งมันเถอะ อย่าไปสนใจอะไรมาก" คว้าเอาความสุขที่อยู่รอบตัวเราดีกว่า
 :z2:

ออฟไลน์ bosslovely

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-29
เราอาจจะฟังผิดหรือเปล่า เค้าอาจจะคุยกันว่า อยู่บ้านแฟนพี่ชาย อะไรประมาณนี้

เอาใจช่วยครับ

ไม่ได้เป็นแฟน แต่อย่างน้อยลองคุยลองทักทายเป็นเพื่อนกันก็ได้ครับ ไม่ใช่ว่าไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วจะเมินหนีไปเลย อย่างน้อยก็มอบรอยยิ้มให้แก่กันได้ ไม่แน่ว่าชาติที่แล้วคุณกับเค้าอาจเคยเป็นเนื้อคู่กัน มันจึงมีเหตุดลใจอะไรแบบนี้ไง

เป็นกำลังใจให้ครับ ว่างๆมาเล่าต่อนะครับ

paiwit

  • บุคคลทั่วไป
อยากบอกว่าทุกอย่่างมันเกิดจากใจครับ ถ้าไม่คิดมันก็ไม่มีอะไร เราก็อยู่ของเรา เขาก็อยู่ของเขา  แต่ที่พี่ทุกอยู่อย่างนี้เพราะใจพี่ไปยึดในตัวเขานะครับ  แล้วยิ่งเขามีคู่แล้วด้วย ไม่ควรเลยครับ

คนที่คุณไม่รู้ว่าเป็นใคร

  • บุคคลทั่วไป
ทุกวันนี้ผมก็ไม่ค่อยสนใจอะไรมากแล้วครับ กลับมาทำตัวเหมือนเดิม แค่อยากจะระบายเท่านั้นเอง ปกติกลไกการป้องกันตัวเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ ของผมจะดีนะ ถ้ารู้สึกสนใจใครหรือมีใครมาสนใจ ถ้าผมรู้ว่าคนๆนั้นมีแฟนแล้ว ผมก็เลิกสนใจไปเลย แต่คราวนี้พลาดครับที่รู้ช้าไปหน่อย...ก็เลยเผลอใจไป (กว่าผมจะรู้ว่าเขามีแฟนแล้วทุกอย่างมันก็ผ่านมาตั้งครึ่งปีแล้วครับ...มองกันไป-มองกันมาแบบนั้นตลอด)

sakurako38

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่ คุณจขกท กับมาเป็นปกติอย่างที่เคยเป็นค่ะ แต่ถ้าจะมีหวั่น ๆ ใจบ้างเวลาเจอหน้ากันมันก็เป็นเรื่องปกตินะคะ จริง ๆ แล้วช่วงที่เราแอบชอบก็มักจะบวกคะแนนให้ตัวเองอยู่แล้วค่ะ การมองหรือจ้องมองบางทีตัวของเค้าเองอาจจะคิดอีกแบบ ว่าผู้ชายคนนี้เก่งน่าชื่นชม หรือผู้ชายคนนี้ทำไมหยิ่งจัง มันเป็นไปได้หมดค่ะ ดันมีแต่เราที่รู้สึกไปไกลแล้ว อะไรแบบนั้นคะ...

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ขอบคุณคนที่ถามคำถามว่าอยู่บ้านไหน เพราะคำตอบ มันทำให้ จขกท รู้เร็วขึ้น
คงเป็นความรู้สึกชอบ เป็นการแอบชอบ ที่เราชอบคนนั้นเร็ว อาจจะเป็นเพราะว่า
เราคิดว่าเขาเองก็คงจะชอบเราเหมือนกัน แต่ดูจากที่เล่ามา ท่าทางเขาก็ชวนให้คิด
เป็นกำลังใจให้ จขกท ผ่านความรู้สึกเหล่านี้ไปให้ได้นะคะ ไม่ต้องพยายามตัดใจก็ได้
ถ้าจะทำให้เหมือนเหนื่อย แต่ก็อย่าปล่อยความรู้สึกให้มีมากกว่าเดิม เพราะเราจะเจ็บเนอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด