Chapter 56
“มีอะไรด้านนอกหรือเปล่าวารินทร์”
“ไม่มีอะไรหรอก นี่กาแฟ…ครุฑราชให้แม่อุ้มหนูไหมลูก”
“อือออ~~” เด็กน้อยส่ายหน้าหนีพร้อมกับซบเข้าอกของผู้เป็นพ่อทันที
“ทำไมวันนี้ลูกถึงหวงคุณจัง”
“เอาน่าไม่เป็นอะไรหรอก ความจริงผมก็ชอบนะที่ลูกหวงผมแบบนี้นะ…ว่าแต่คุณเถอะไม่หวงผมบ้างหรอ” พายุแกล้งพูดเบาๆพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆวารินทร์
“เล่นบ้าอะไรเนี่ยพายุ” วารินทร์พูดเสียงหงุดหงิดแต่สีหน้ากลับแดงอย่างคนเขินอาย พายุหัวเราะเบาๆในลำคอกับท่าทางเคอะเขินของภรรยาตัวเอง
“ก๊อกๆ…ขออนุญาตนะคะพี่พายุ แต่ใกล้ได้เวลาประชุมแล้วค่ะ”
“เดี๋ยวพี่ตามไปครับ ปันเตรียมเอกสารแล้วไปรอพี่ที่ห้องประชุมเลยแล้วกัน”
“เดี๋ยวปันรอไปพร้อมพี่ก็ได้ค่ะ”
“แอร๊!!! แง๊!!!” ครุฑราชหวีดเสียงขึ้นทันทีจนเลขาสาวนึกหมันไส้เด็กทารกอยู่ในใจแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ก่อนจะเดินออกไป
“ไม่ให้ไป!!!” พายุกับวารินทร์หันมองไปที่ต้นกำเนิดเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เสียงคุณหรอวารินทร์”
“…” วารินทร์เพียงแต่ส่ายหน้าเบาๆ ดังนั้นต้นกำเนิดเสียงจะเกิดมาจากใครไม่ได้นอกจาก…
“แม่ ไป พ่อ”
“ไม่ได้หรอกนะลูก คุณพ่อต้องประชุมนะครับ เดี๋ยวน้องราชรอคุณพ่อเลิกงานกับคุณแม่ที่นี่นะครับ” วารินทร์พยายามดึงตัวครุฑราชออกจากตัวพายุ แต่เด็กน้อยกลับเกาะพ่อของตัวเองแน่นขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน วารินทร์ก็ไม่สามารถแกะตัวครุฑราชออกมาจากพายุได้แม้ว่าพายุจะช่วยดึงด้วยก็ตาม
“ครุฑราช…จะไม่ฟังแม่ใช่ไหม” เหมือนเป็นคำถามธรรมดา แต่น้ำเสียงกลับเย็นสุดขั้วหัวใจบวกกับท่าทางและสีหน้าที่บ่งบอกว่าวารินทร์กำลังจะหมดความอดทนกับลูกน้อยที่แสนจะดื้อเป็นพิเศษในวันนี้
“วารินทร์…ใจเย็นๆ…น้องราชอยากเข้าไปกับพ่อใช่ไหมลูก หืม…งั้นเราเข้าไปด้วยกันนะครับ”
“คุณจะตามใจลูกมากเกินไปหรือเปล่า คนอื่นเค้าจะมองคุณไม่ดี”
“ช่างเรื่องของคนอื่นสิ ผมแคร์แค่ลูกกับคุณเท่านั้นแหละ…ไปลูก” วารินทร์หมดอารมณ์จะดึงดันต่อไป ได้แต่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้ากับพฤติกรรมของสองพ่อลูกอย่างระอาพร้อมกับเดินไปยังห้องประชุมพร้อมกับพายุและเลขาส่วนตัว
“ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอนานครับ…วารินทร์รับลูกทีนะครับ”
“พายุ!!! ทำไมถึงพามันมาที่นี่”
“ก็ไม่แปลกนี่ครับ ผมจะพาภรรยามาที่ทำงานบ้าง…มันแปลกงั้นหรือครับ”
“มันจะไม่แปลกถ้าแกไม่มีเมียวิปริตแบบนางนี่!!!”
“เลิกพูดจาดูถูกคนของผมด้วยนะครับคุณป้าลดา ถึงจะเป็นคุณป้าผมก็ไม่เว้น อย่าให้ผมต้องหมดความอดทนนะครับ…แล้วจะประชุมหรือเปล่าครับ ถ้าไม่…ผมจะได้ไปทำธุระอย่างอื่น” ลดาได้แต่กำหมัดจนตัวสั่นอย่างอาฆาตแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไงเสียถ้านับกันตามตำแหน่งแล้ว สุบรรณคือผู้มีอำนาจสูงสุดในบริษัทนี้ ทุกคนจึงทำได้แค่นั่งประจำตำแหน่งของตัวเอง
“รบกวนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปรอข้างด้วยนะคะ” เลขาสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจิกกัดเล็กๆ แต่สายตาเหยียดหยามและเย้ยหยันอย่างไม่ปิดบัง
“คงไม่ต้องให้คนอย่างคุณมาบอกหรอก ฉันรู้ตัวเองดีว่าควรจะอยู่ในจุดๆไหน ไม่เหมือนคนบางคนที่ไม่รู้หน้าที่และจุดยืนของตัวเอง…ดีใจที่ได้พบกับทุกคนอีกครั้งนะครับ เราคงได้พบกันเร็วๆนี้ ผมจะกลับมาเอาตำแหน่งผมคืนแน่นอน” วารินทร์ปลายตามองปันนิ่งๆพร้อมกับทักทายผู้บริหารท่านอื่นๆ ซึ่งทุกคนก็ได้แต่ยิ้มและพยักหน้าตอบรับ ถึงแม้วารินทร์จะเคี่ยวและดุในหน้าที่การงาน แต่การทำงานกับวารินทร์ไม่ยากอย่างที่คิดหากมีเหตุมีผลในการทำงานมากพอ วารินทร์จึงเป็นที่ชื่นชมในหมู่พนักงานอยู่มากที่สามารถทำงานได้อย่างมืออาชีพ
“จะมามัวพูดมากอะไรของแก รีบออกไปได้แล้ว ไม่มีมารยาทเลยจริงๆ อบรมคนของเธอบ้างนะพายุ”
“ฉันว่าคุณควรจะอบรมคนของคุณบ้างเหมือนกันนะ ทั้งเรื่องมารยาทและการทำงาน…คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าคนของคุณทำงานห่วยแตกแค่ไหน แค่มองผ่านๆฉันก็อธิบายได้เป็นฉากๆว่าเลขาคนนี้บกพร่องเรื่องอะไรบ้าง คุณอยากจะลองฟังดูไหม” บุคคลที่อยู่ในห้องประชุมเบือนหน้าหนีแทบไม่ทันเพราะต้องกดอารมณ์ที่อยากจะหัวเราะออกมาอย่างถูกอกถูกใจเอาไว้ แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะว่าอีกฝ่ายก็เป็นคนของคุณหญิงลดาผู้มีศักดิ์เป็นป้าของท่านประธานเหมือนกัน
“ส่วนเธอ…การเป็นเลขาต้องมีใจในการบริการในการประสานงานกับผู้อื่นและความคล่องตัวรวมถึงไหวพริบในการแก้ปัญหา ไม่ใช่มานั่งแต่งหน้าแล้วก็กลับบ้านหลังเลิกงานแล้วก็คอยคิดแต่จะหาทางลัดกระโดดข้ามขั้นด้วยการเอาตัวเข้าแลก…ฉันเตือนด้วยความหวังดี” พูดจบเสียงของผู้บริหารใจกล้าคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“พวกเราจะรอนะครับ คุณรินทร์” สิ้นเสียงการตอบรับของผู้บริหารคนอื่นๆ วารินทร์ก็อุ้มครุฑราชเตรียมจะออกไปห้องประชุม แต่…
“แก๊ก…แก๊ก แก๊ก แก๊ก”
“มีอะไรหรือเปล่าวารินทร์” พายุถามอย่างสงสัยเมื่อวารินทร์ยืนหมุนประตูอยู่นานแต่ก็ไม่สามารถเปิดออกได้
“ประตูมัน…” พายุลุกขึ้นไปช่วยวารินทร์ทันที แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงประตูก็ไม่สามารถเปิดได้ พายุและวารินทร์หันมองหน้ากันก็เข้าใจทันที
“ครุฑราช…ทำไมวันนี้ถึงได้ดื้อแบบนี้นะ”
“เอาน่าคุณ เดี๋ยวคุณนั่งรอผมที่มุมห้องทางนั้นก็ได้ ถือว่าเข้ามารื้อฟื้นเรื่องคุ้นเคยละกันนะ”
“นี่!!! พายุเธอจะให้อภิสิทธิ์มันมากเกินไปหรือเปล่า แค่คนที่ไม่เกี่ยวข้องเดินก้าวเข้ามาในห้องประชุมได้นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับบริษัทแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่ก่อตั้งมา เธอจะให้ความศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่พังลงเพราะเธอหรือไง!!!” ลดาลั่นวาจาอย่างเหลืออดเพราะไม่ว่าจะพยายามต่อล้อต่อเถียงกับวารินทร์สักกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถทำให้วารินทร์สะดุ้งหรือสะเทือนได้สักครั้งเดียว และก่อนที่วารินทร์จะได้พูดอะไรออกไปเสียงร้องอย่างเกรี้ยวกราดของเด็กทารกก็ดังขึ้น
“แอร๊!!!” ร่างของลดาทรุดลงกับเก้าอี้อย่างไม่ทันตั้งตัว เรี่ยวแรงหายไปอย่างประหลาด และเมื่อมองไปทางต้นกำเนิดเสียงเธอก็ยิ่งผวาหนักเมื่อเห็นภาพซ้อนทับระหว่าง เด็กทารก นกตัวใหญ่ยักษ์ และ งูใหญ่ขนาดมหึมาพร้อมกับสายตานักล่าที่เธอไม่เคยเห็น คนอื่นๆที่มองมาที่เด็กน้อยถึงจะไม่เห็นอย่างลดาแต่ก็ขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
“ไม่เอานะลูก มาอยู่กับแม่มุมนี้มา” วารินทร์อุ้มครุฑราชหันหนีจากสายตาของทุกคน สุบรรณจึงกลับไปนั่งที่และเริ่มเปิดการประชุมทันที
การประชุมดำเนินไปอย่างดุเดือดเพราะขณะนี้ คณะผู้บริหารกำลังแบ่งออกเป็นสองฝ่ายเพื่อโต้เถียงกันเรื่องแผนการตลาดในปีต่อไป เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ทำให้ผลกำไรจากบริษัทลดลงแต่ทุกคนก็ยอมรับได้กับเรื่องนี้ เพราะทุกๆที่ก็ประสบกับปัญหาเดียวกัน ซึ่งทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธการตลาดใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะคล่องตัวนักในขณะนี้
“ฉันไม่เห็นว่าแผนการตลาดของคุณจะสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทตรงไหนเลยนะคะ”
“ขออนุญาตนะครับคุณหญิงลดา แต่แผนการตลาดของฝั่งคุณหญิงเองก็มีช่องโหว่มากมายเหมือนกัน”
“นี่คุณวิวัฒน์!!!”
“นี่คือการทำงานนะครับ ผมพูดความจริงจากสิ่งที่ผมสามารถคิดได้ ถ้าไม่ถูกใจคุณหญิงยังไงก็ต้องขอโทษด้วย” ทั้งสองฝั่งเถียงกันไปมาอย่างดุเดือด พายุแสดงอาการเบื่อออกมาอย่างเห็นได้ชัด ในจังหวะนั้นเองครุฑราชก็คลานมาหาผู้เป็นพ่ออย่างรวดเร็ว ซึ่งพายุก็อุ้มลูกขึ้นมาเล่นด้วยอาการเซ็งๆเพราะการประชุมตรงหน้ายังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงเสียที
“นี่พายุ!!! แกช่วยวางไอ้เด็กเหลือขอนั่นแล้วหันมาตัดสินใจสักทีได้ไหม” พายุหันขวับทันทีที่ลดาพูดจบ
“คุณป้ามีสิทธิ์อะไรมาว่าลูกผมแบบนี้” พายุบอกเสียงเข้มอย่างดุดัน ทำเสียงในห้องประชุมเงียบลงทันทีทันใด
“อ๋อ…ลูกแกเองเหรอ…เหอะ ไปทำใครท้องมาล่ะ ถึงได้มีมาเป็นตัวขนาดนี้…แกก็ใจกว้างไม่เบานะ เลี้ยงลูกคนอื่นอย่างกับลูกตัวเอง” ลดาหันมองวารินทร์อย่างสมน้ำหน้า ซึ่งวารินทร์ก็ได้แต่เงียบเพราะขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืดด้วย
“ครุฑราชเป็นลูกของผมกับวารินทร์ครับ ผมไม่ได้ไปทำใครท้องมาทั้งนั้น…แล้วก็ไม่ต้องรู้หรอกนะครับว่าทำได้ยังไง ผมเป็นพ่อ วารินทร์เป็นแม่ รู้ไว้แค่นี้ก็พอครับ…ส่วนเรื่องแผนการตลาดผมจะเอาไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง วันนี้เราพอกันแค่นี้เถอะนะครับ เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว” พูดจบพายุก็พาวารินทร์และลูกออกมาจากห้องประชุมแล้วกลับไปห้องทำงานส่วนตัวทันที แต่ก้าวขาเข้ามาได้ไม่นานสิ่งที่พายุคิดมันก็เกิดขึ้น
“ปัง!!! พายุแกนี่มันหน้าไม่อายจริงๆ คนเค้าคงพูดกันสนุกปากว่าท่านประธานของวายุเทพคนคนปัจจุบันเป็นพวกวิปริต แถมยังพามาออกหน้าอย่างเปิดเผย น่าขายขี้หน้านัก!!!”
“รับไม่ได้หรอครับ” พายุถามกลับอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจแทบจะปะทุออกมาเดี๋ยวนี้แล้ว
“ใช่!!! และไม่วันรับได้ด้วย ผู้หญิงดีๆมีเป็นร้อยเป็นพันทำไมแกไม่คว้าไว้ ห๊ะ…ไปคว้าตัวกาลกิณีให้เป็นเสนียดกับวงตระกูล…”
“หยุดพูดสักทีเถอะครับคุณป้า…ถ้าคุณป้ารับไม่ได้ ไม่พอใจก็ขายหุ้นบริษัทแล้วลาออกไปซะ ผมก็เบื่อเหมือนกันที่จะต้องมีคนมาคอยยุ่งวุ่นวายกับชีวิตผมแบบนี้…เชิญคุณป้าออกไปก่อนด้วยนะครับ ผมอยากใช้เวลาส่วนตัวกับคนในครอบครัว!!!”
“นี่แกกล้าเอ่ยปากไล่ฉันหรอพายุ!!!!!!” ลดาแผดเสียงดังลั่นอย่างไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต เพราะความโมโหและความรู้สึกเสียหน้ากับเหตุการณ์ตรงหน้า
“ออกไปครับ” พายุพูดพร้อมกับเมินหน้าหนีไปอีกทาง
“…” ลดาได้แต่ยืนกำมือแน่นหน้าตาแดงกล่ำ หากเธอแปลงร่างได้ เธอคงกลายร่างเป็นร่างขั้นสุดยอดของปิศาจที่พร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่ง แต่ติดตรงที่ลดาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
“ผมบอกให้ออกไปไง!!!” ร่างของลดาลอยละลิ่วออกจากห้องพร้อมกับเสียงดังของประตูที่ปิดตัวเองลงและล็อคทันที ดวงตาของพายุกลายเป็นสีแดงอย่างคนโมโหรุนแรง วารินทร์เข้าใจสถานการณ์ของพายุดี จึงเดินเข้าไปปลอบพร้อมกับจูบอย่างอ่อนโยนที่ริมฝีปากของสามี พายุไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ จัดการวางครุฑราชที่โซฟาพร้อมกับกอดรัดวารินทร์เอาไว้ทั้งตัวพร้อมกับเป็นฝ่ายรุกคืนวารินทร์อย่างโหยหาและรุนแรงแต่ก็เร่าร้อนในเวลาเดียวกัน
“อื้มมมมม…จ๊วบ…อื้อออออ…ละ เลิกไหม” เสียงกระเส่าของวารินทร์เอ่ยขึ้น
“หมายความว่ายังไง”
“ฉันอยู่กับคุณก็มีแต่ปัญหา เราแยกกันอยู่ไหม” พายุผละออกจากตัววารินทร์และจ้องมองลึกลงไปในดวงตาของภรรยาตนเองนิ่งๆ
“ไม่มีทาง…อย่ามาแสดงบทนางเอกกับผมหน่อยเลยคุณเมียที่รัก” พายุพูดจบก็กลับไปซุกดมคลอเคลียร์กับวารินทร์อีกครั้งเพื่อสูดกลิ่นเฉพาะตัวของวารินทร์ที่ไม่มีใครเหมือน ความหอมที่เหมือนจะกระชากวิญญาณของเค้าออกไปได้ตลอดเวลา
“หมับ!!!…ฉันก็ถามไปอย่างนั้นแหละ ถึงอยากจะแยกจริงๆ ก็ต้องตายจากกันเท่านั้น” วารินทร์คว้าจับแขนของคนตรงหน้าไว้ทั้งสองข้างและมองพายุด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แต่ก็ยั่วยวนในเวลาเดียวกัน
“จริงๆลองทำกันในห้องทำงานก็ไม่เลวเหมือนกันนะ”
“ทะลึ่ง ลูกมองอยู่” ทั้งสองคนหันไปมองลูกน้อยของตัวเอง แต่เหมือนเจ้าตัวน้อยจะรู้ว่านี้เป็นเวลาของพ่อกับแม่ ถึงได้อัปเปหิตัวเองไปนอนหลับอยู่ที่โซฟาอีกฟากหนึ่งอย่างเรียบร้อย
“ลูกก็เป็นใจ คุณก็หมดข้ออ้างสินะ”
“ดะ เดี๋ยว อื้มมมมมม…อ๊าาาาาา” หลังจากนั้นเวลาของความสุขในรอบหลายวันของสองสามีภรรยาก็เกิดขึ้นภายในห้องทำงานส่วนตัวอย่างสงบและเงียบเชียบ ต่างกับคนข้างนอกอีกคนที่แทบจะกลายเป็นระเบิดที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามต้องการ
“ในเมื่ออยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ก็อย่าได้อยู่เลย ไอ้ตัวกาลกิณี…ไอ้เด็กนรก!!!”
ปล. ต่อไปนี้คนเขียนจะขอแจ้งข่าวสารทั้งหมดผ่านหน้าเว็บแฟนเพจนะจ๊ะ
---> สำหรับคนไม่รู้นะ
https://www.facebook.com/pages/MsShizuru/472539859575097