Chapter 58
รถตู้ที่มีร่างของเด็กทารกนอนหลับสนิทอยู่ วิ่งออกมาจากเมืองหลวงหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อนำตัวเด็กน้อยคนนี้ไปให้ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างที่บ้านพักตากอากาศกลางเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว ดังนั้นการที่จะมีคนเข้าออกเส้นทางนี้ จะต้องได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของที่เสียก่อน
“ครับคุณหญิง” หนึ่งในคนร้ายกดรับโทรศัพท์จากผู้ว่าจ้างที่โทรเข้ามาเช็คความคืบหน้าในการดำเนินงาน
(เรียบร้อยดีใช่ไหม)
“ทุกอย่างโอเคครับ อีก 10 นาทีพวกเราก็จะถึงบ้านพักของคุณแล้วครับ”
(ดีมาก ฉันจะให้รางวัลพวกแกอย่างงาม…แค่นี้แหละ ฉันจะรอเจอเด็กนั่น” คนที่อยู่ปลายสายตัดสัญญาณทิ้งทันทีที่พูดจบ
“ใครโทรมา”
“คุณหญิงน่ะสิ มึงรีบๆขับหน่อย กูนึกภาพตอนที่พวกเราได้รับเงินก้อนใหญ่ก็รอแทบไม่ไหวแล้ว หึหึ” คนขับรถรีบเร่งเครื่องตมคำบอกของเพื่อนทันที เพราะตัวเองก็อยากจะได้เงินแล้วรีบกลับไปพักผ่อนเช่นกัน จนกระทั่งในที่สุดรถตู้ก็เคลื่อนเข้าจอดเทียบทางด้านหน้าของบ้านพัก
“เบาๆนะมึง อย่าให้มันแหกปากร้องเสียงดัง กูยิ่งเกลียดๆเด็กอยู่”
“เออรู้แล้วน่า นั่นคุณหญิงมาแล้ว” ชายผู้ถูกจ้างทั้งหมดหันไปมองยังร่างของผู้ว่าจ้างทันที ซึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับสีหน้าที่แสนจะเบิกบาน
“ไหนดูสิ…ส่งตัวมันมาให้ฉัน” ครุฑราชถูกส่งตัวให้กับหญิงตรงหน้าทันที เธอยกยิ้มอย่างสะใจและแทบจะรอดูเหตุการณ์ต่อจากนี้ไม่ไหวแล้ว
“คุณหญิงลดาครับ แล้วเรื่อง…”
“เอาไป…นี่เงินสองแสนที่ตกลงกันไว้” ลดายื่นซองใส่เงินให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ก่อนจะหันหลังอุ้มเด็กเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว
“เรียบร้อยแล้ว พวกเรากลับเว้ย!!!” เมื่อได้รับเงินแล้วกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดก็ขับรถออกจากบ้านของคุณหญิงลดาอย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้เลยว่าสัญญาณชีวิตของพวกเค้ากำลังแผ่วลงทุกที
“งานง่ายได้เงินดีแบบนี้ นานๆจะมีมาสักงาน แวะเที่ยวกันหน่อยดีไหมพวกมึง”
“ก็ดีว่ะพี่ ไปปลดปล่อยกันหน่อยดีกว่า” เสียงพูดคุยกันในรถเริ่มดังขึ้นอย่างสนุกปาก โดยที่ทุกคนไม่รู้สึกเลยว่า…บางอย่าง กำลังคืบคลานเข้าใกล้มาเรื่อยๆอย่างเงียบเชียบ
“เฮ้ย!!! พวกมึงเงียบเสียงลงหน่อยสิ…เสียงอะไรดังวะ”
“เสียงอะไร…ก็เสียงพวกกูคุยกันไง มึงขับรถไปเถอะ ตามองทางด้วยนะมึง เดี๋ยวจะไม่ได้พาพวกกูเที่ยว”
“ฟ่อ…ฟ่อ…ฟ่อ” เมื่อเสียงลึกลับเริ่มดังและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนก็เงียบเสียงลงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“พวกมึงได้ยินไหมวะ” ทุกคนพยักหน้ารับก็จะหันซ้ายหันขวาเพื่อหาต้นตอของเสียง จนกระทั่ง…
“ไอ้เหี้ย!!! งู!!! งู!!! งู!!! อ๊ากกกกกก” อสรพิษเขี้ยวเงาวับพุ่งเข้ากัดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดจนจมเขี้ยวทันทีที่เหยื่อรู้ตัว
“ไอ้เหี้ย!!! งูอะไรวะ อ๊ากกกก”
“โอ้ยยยยยยย!!! มันกัดกู” ก่อนที่ทุกคนจะได้ตั้งตัวทำอะไรนั้น งูตัวอื่นๆก็พุ่งกัดทุกคนบนรถพร้อมกับจำนวนของงูที่เริ่มปรากฏตัวออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ในจังหวะที่ทุกคนกำลังสติแตก รถตู้ที่กลุ่มคนร้ายนั่งอยู่ก็ค่อยๆเบนออกข้างทางจนตกเขาไป เกิดเสียงระเบิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง เรียกความสนใจจากชาวบ้านระแวกนั้นได้มากเลยทีเดียว
ทางด้านคุณหญิงลดาก็รีบพาเด็กน้อยที่หลับลึกและไม่มีท่าทางว่าจะตื่นไปในไว้ในทีที่ๆเตรียมไว้ เพื่อล่อให้พวกพ่อแม่ของครุฑราชมาพบกับกับตนเองในที่แห่งนี้ ซึ่งเธอได้เตรียมการต้อนรับแขกพิเศษเอาไว้เป็นอย่างดี
“นี่น่ะหรอเด็กที่ว่าเป็นลูกของพวกนั้น”
“คนนี้แหละ แต่ฉันก็เวทนาเด็กมันนะ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย…แต่ช่วยไม่ได้ ในเมื่อแม่กับพ่อมันดื้อด้านนัก ก็ต้องเล่นกันแบบนี้แหละ” ลดาพูดอย่างขึงขังเสมือนว่าเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน
“คุณหญิงให้คนไปทำเรื่องที่ฉันสั่งแล้วใช่ไหม” ชายชุดดำเอ่ยถามต่อ
“เรียบร้อยทุกอย่าง รับรองว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน”
“เฮ้อ…เอาตรงๆเลยนะคุณหญิง ฉันน่ะอายุอานามก็มากแล้ว ไม่อยากจะมายุ่งวุ่นวายกับพวกมีฤทธิ์มีเดชแบบนี้หรอก ยิ่งเป็นสัตว์อาฆาตอย่างพวกงูด้วยแล้ว ยิ่งไม่น่ายุ่งเข้าไปใหญ่”
“แต่ยังไงพ่อหมอก็ลงเรือลำเดียวกับฉันแล้วนะ!!! ถ้าคิดจะมากลับลำตอนนี้ล่ะก็…พ่อหมอได้เห็นดีกับฉันแน่ๆ” ลดาพูดขู่ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอไสยเวทย์ที่เก่งกาจและโด่งดังคนหนึ่ง แต่เพราะเงื่อนไขบางอย่างทำให้คนๆนี้ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือลดาอย่างช่วยไม่ได้…ถ้าลูกชายของเค้าไม่ติดหนี้ผู้หญิงใจมารคนนี้มากมายมหาศาลละก็...ต่อให้จ้างด้วยเงินร้อยล้านเค้าก็ไม่ขอยุ่งกับเรื่องนี้ด้วยเด็ดขาด!!!
“คุณหญิงคงไม่ถึงกับจะเอาชีวิตพวกเค้าใช่ไหม” ถึงแม้จะเป็นหมอไสยเวทย์ทั้งทางด้านขาวและดำ แต่ก็ยังมีคุณธรรมในใจ ไม่ชอบทำร้ายคนอื่นพร่ำเพื่อ ถ้าไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสจริงๆ
“ฉันไม่ฆ่าพวกมันหรอก” ถึงปากลดาจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ในใจกลับหมายมั่นจะเอาชีวิตวารินทร์อย่างแน่วแน่
“วืดดดดดด…วืดดดดดด” เสียงลมพายุที่พัดแรงขึ้นอย่างกระทันทำให้ทั้งสองคนรับรู้ได้ทันทีว่า แขกพิเศษของคุณหญิงลดาเดินทางมาถึงที่แห่งนี้เรียบร้อยแล้ว
“เร็วดีเหมือนกันนี่…พ่อหมอไปเอาตัวเด็กนั่นออกมา ฉันจะไปต้อนรับพวกมันเอง…พวกแกก็เตรียมตัวให้พร้อมด้วยล่ะ” ลดาหันไปสั่งให้กลุ่มลูกน้องที่ยืนหลบซ่อนกันอยู่ในบ้านไม่ต่ำกว่า 30 คน นี่เค้าลงทุนเตรียมคนมากมายขนาดนี้ไว้รอต้อนรับเหล่าหลานๆที่รักของเธอโดยเฉพาะเลยทีเดียวเชียว
“อ้าว วารินทร์…เธอเองหรอกหรอ”
“คงไม่ต้องถามว่าฉันมาที่นี่ทำไม…คุณเอาครุฑราชไว้ที่ไหน”
“ไม่ต้องร้อนรนอะไรขนาดนั้น ฉันก็แค่อยากเห็นหน้าหลานบ้างเท่านั้นเอง”
“คุณคงไม่คิดว่าฉันจะโง่เชื่อคุณใช่ไหม…ถ้าอยากเห็นเค้าจริงๆ ทำไมไม่เข้าไปหาที่บ้านให้เป็นกิจจะลักษณะ” ลดากัดฟันข่มความโมโหเพราะการจ้องจับผิดเธอจากคนตรงหน้า แต่ก็พยายามปั้นหน้ายิ้มเข้าสู้ต่อ
“ไว้ฉันจะบอกเหตุผลกับเธอทีหลัง…ตอนนี้เข้ามาก่อนเถอะ เด็กน้อยกำลังหลับอยู่ในบ้าน” ลดาก้าวขานำหน้าวารินทร์เข้าไปในบ้านอย่างว่องไว วารินทร์ชั่งใจคิดอยู่ครู่หนึ่งเพื่อวิเคราะห์ว่าหญิงมาดร้ายตรงหน้านี้จะมาไม้ไหน
“เอ้า เข้ามาก่อนสิเร็วเข้า” วารินทร์ตัดสินใจก้าวขาตามเข้าบ้านไปทันที เพราะใจที่เป็นห่วงครุฑราชด้วยส่วนหนึ่ง อย่างน้อยก็ขอให้ได้เห็นว่าลูกน้อยของเค้านั้นปลอดภัยดี
“นั่งก่อนสิ” ลดาเอ่ยขึ้น และทันทีที่วารินทร์นั่งลงลดาก็เริ่มเปิดฉากพูดเป้าหมายของตัวเองทันที
“เลิกกับพายุซะ แล้วก็เอาลูกเธอไปด้วย”
“คุณว่าฉันต้องฟังคุณหรือเปล่า” วารินทร์จ้องหน้าคุณหญิงลดากลับทันที
“ก็คอยดูว่าฉันจะทำได้ไหม…พ่อหมอออกมาได้แล้ว” ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของชายชุดดำที่อุ้มเด็กทารกกำลังหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขนเดินออกมา
“ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันบอก…เธอคงไม่อยากจะคิดว่าฉันจะจัดการยังไงกับเด็กนั่น” วารินทร์ร้อนรนหนักกว่าเดิม ลำพังเค้าคนเดียวเอาตัวรอดได้แต่ครุฑราชเนี่ยสิ วารินทร์ไม่อยากเสี่ยงกับอำนาจในตัวของลูกน้อย เพราะครุฑราชยังควบคุมพลังในตัวไม่ค่อยได้
“อย่าคิดจะลองดีกับฉันนะคุณหญิง!!!” วารินทร์แผดเสียงกร้าวก่อนที่ดวงตาของวารินทร์จะกลายเป็นสีแดงเพลิงอย่างดุดัน แต่…
“ก็ลองแกเข้ามาใกล้อีกนิดสิ…ฉันจะเสียบไอ้เด็กนี่ด้วยมีดอาคมอันนี้” ลดาถือมีดจ่อร่างของเด็กน้อยเอาไว้อย่างน่าหวาดเสียว ทำเอาวารินทร์ใจเต้นระส่ำและพยายามหาทางเอาตัวครุฑราชคืนมาให้ได้
“หยุดนะป้าลดา!!! ป้าจะทำอะไรลูกผม!!!” พายุโผล่พรวดเข้ามาในบ้านพร้อมกับนารินทร์และวายุที่วิ่งตามมาติดๆ แต่ก็ถูกกันไว้ด้วยลูกน้องของคุณหญิงลดา
“ปล่อยกู!!! กูจะไปหาลูกหาเมียกู!!! ปล่อยยยยยยย!!!” พายุอาละวาดฟาดงวงฟาดงาจนลูกน้องนับสิบที่พยายามกันกลุ่มของพายุไว้กระเด็นกันไปคนละทิศละทาง
“ถ้าแกก้าวขาเข้ามาอีกก้าวเดียว ไอ้เด็กนี่ตาย!!!” ลดายื่นคำขาดทำให้พายุและคนอื่นๆขาชะงักไม่กล้าเข้าใกล้วารินทร์มากไปกว่านี้
“ยืนอยู่ตรงนั้นแหละหลานรัก…ในเมื่อฉันบอกแกดีๆแกไม่ยอม…เคร้ง!!!” ลดาโยนมีดเล่มยาวไปทางวารินทร์ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้คนในบ้านต่างตกตะลึงไปตามๆกัน
“แกก็ตายซะ!!! เอามีดนั่นแทงตัวเองแลกกับชีวิตเด็กนี่…ไม่อย่างนั้น ฉันจะฆ่ามันทิ้งต่อหน้าแกนี่แหละ!!!”
“คุณหญิง!!! เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือไง!!!” พ่อหมอพูดยังไม่ทันจบก็ถูกลูกน้องของลดาคมตัวไว้พร้อมกับเปลี่ยนคนอุ้มครุฑราชเป็นลดาแทน จากนั้นเธอจึงกลับมาสนใจวารินทร์ต่อ
“ว่าไงล่ะ…แกไม่ต้องจ้องเหมือนอยากจะฆ่าฉันหรอกนะ จริงๆก็ต้องขอบใจพ่อหมอนะ เขตอาคมที่ทำให้อำนาจของพวกแกไม่มีผลในที่ๆฉันยืนอยู่”
“ไม่ตลกแล้วนะคุณป้า!!!” วายุพูดขึ้นอย่างเหลืออด
“แล้วใครว่าฉันตลกกับแก!!! ฉันอุตส่าห์หาคนที่เหมาะสมมาเป็นคู่ชีวิตพวกแก แล้วดูพวกสิไปคว้าเอาอะไรมาก็ไม่รู้!!!”
“คุณป้าไม่เข้าใจ!!! พวกผม…”
“หุบปากของแกซะ!!! ก่อนที่ฉันจะโมโหไปมากกว่านี้…ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าแกไม่ทำละก็…” ลดายิ้มอย่างสะใจกับท่าทีอย่างหมาจนตรอกของและสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของวารินทร์รวมถึงสีหน้าที่ทุกข์ร้อนปนกังวลของทั้งสามคนที่เหลือ
“หนึ่ง” วารินทร์ยังคงนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง จนในที่สุดวารินทร์ก็ตัดสินใจหยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมาดู ซึ่งมันก็เป็นมีดอาคมที่ถูกเตรียมเอาไว้เพื่อฆ่าเค้าโดยเฉพาะนั่นแหละ
“คุณหญิง คุณไม่น่าทำแบบนี้เลย คุณจะต้องเสียใจที่ทำกับพวกเค้าแบบนี้”
“พ่อหมอแค่ดูอย่างเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องมาพูดมากให้ฉันรำคาญ!!! เอาสิแทงลงไปเลย แลกกับชีวิตเด็กนี้ไง แกรักมันไม่ใช่หรอ” รอยยิ้มเยาะเย้ยปนสะใจถูกส่งไปให้วารินทร์อย่างต่อเนื่อง แต่วารินทร์ไม่ได้รู้สึกเสียหน้าแต่อย่างใด เพียงแต่รู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้อยู่ดูการเติบโตของครุฑราช
“ไม่!!! อย่านะวารินทร์!!! อย่าทำแบบนี้!!!” พายุตะโกนสุดเสียงพร้อมกับโทสะที่เข้าครอบงำจิตใจ ดวงตาแดงก่ำของพายุกวาดไปทั่วบ้าน ทำให้ลูกน้องของลดาที่อยู่นอกเขตอาคมล้มตึงกันเป็นแถบ เพราะทนแรงกดดันจากจิตอาฆาตของพายุไม่ไหว
“ฉันฝากลูกไว้กับคุณนะ”
“ไม่!!! วารินทร์!!! ไม่!!!!!!!!!!!!!” วารินทร์ค่อยๆหันมีดเข้าหาตัวเตรียมจะปักมันลงตัดขั้วหัวใจ แต่ก็มีเสียงเรียกน้อยๆจากเด็กทารกดังขึ้นเสียก่อน
“แม่…แม่” ครุฑราชที่ตื่นขึ้นมายิ้มแป้นทันทีที่เห็นหน้าวารินทร์อยู่ห่างออกไปก่อนที่จะหันซ้ายหันขวาเพื่อสำรวจว่าใครอุ้มตัวเองอยู่
“ตื่นมาก็ดีแล้ว…ตื่นมาดูแม่แกตายไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ” ลดาหัวเราะลั่นด้วยอย่างน่าเกลียด ครุฑราชหันกลับไปหาวารินทร์ทันที
“แม่รักหนูนะลูก อย่าดื้อกับพ่อเค้าละ” สิ้นเสียงของวารินทร์ มีดอาคมก็ถูกดึงเข้าหาตัวอย่างแรงและรวดเร็ว แต่…
“แง๊!!!!!!!!!!!!!!!! แว๊!!!!!!!!!!!!!! แง๊!!!!!!!!!!!!!!” เสียงของครุฑราชแผดขึ้นดังลั่นอย่างเอาเรื่อง ทุกคนจึงให้ความสนใจกับร่างเด็กทารกที่กำลังแสดงท่าทางอย่างเกรี้ยวกราด
“แอ๊~~~~~” มีดที่วารินทร์ถืออยู่นั้นยังไม่ได้ปักลงไปที่กลางหัวใจเพราะมีบางสิ่งต้านทานไว้ได้ทัน…ครุฑราชค่อยๆลอยออกจากอ้อมแขนของลดา แต่ทันทีที่ลดาได้สติก็รีบตะคลุบร่างนั้นเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง
“แม่!!!!!!!!!!!!!” ครุฑราชตะโกนสุดเสียงเพราะต้องการเข้าไปหาวารินทร์แต่กลับถูกลดารั้งไว้ ทำให้เด็กน้อยเริ่มโมโหขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดมีดในมือของวารินทร์ก็ถูกดึงเข้ามาแทงแขนของลดาจนมิดด้าม ซึ่งนั่นทำให้เธอร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดจากคมมีดของเธอเอง
“แก!!! ไอ้เด็กผี!!! ไอ้ปิศาจ!!!”
“ครุฑราชมาหาแม่เร็วลูก!!!” วารินทร์เห็นเป็นโอกาสดีจึงใช้จังหวะนี้เรียกให้ลูกน้อยเข้ามาหาตน ซึ่งทารกก็รีบจะเข้าไปหาวารินทร์ แต่ลดาเองก็ไม่ยอมง่ายๆยื้อยุดฉุดกระชากจนครุฑราชแสดงอาการโมโหสุดขีด
“ปล่อยครุฑราชเดี๋ยวนี้นะ!!! ก่อนที่คุณป้าจะเดือดร้อน!!!” พายุที่เห็นท่าทางลูกของตนกำลังเปลี่ยนไปรีบตะโกนเตือนป้าของตัวเองทันที ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ไข
“ฉันไม่ยอมให้พลาดเด็ดขาด!!! ไม่มันก็ฉันต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!!!”
“แอร๊!!!!!!!!!!!!” ครุฑราชร้องเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่นัยต์ตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับหมุนตัวเข้าหาลดาอย่างช้าๆในขณะที่ยังลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนจะกัดเข้าที่คอของลดาจนจมเขี้ยว ผิวหนังของครุฑราชค่อยๆแปรสภาพเป็นเกร็ดสีทองของพญานาคและปีกสีทองกลางหลังที่ค่อยๆสยายออก เนื่องจากครุฑราชเป็นลูกครึ่งของสองเผ่าพันธุ์ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นร่างของลูกผสมระหว่างนาคกับครุฑ
“ครุฑราช!!!” พายุเห็นว่าได้โอกาสจึงวิ่งเข้าไปกอดครุฑราชเอาไว้ จากนั้นก็ตรงเข้าไปหาวารินทร์ทันที ซึ่งในตอนนั้นลดาก็ล้มลงไปนอนกับพื้นเรียบร้อยแล้ว
“คุณไม่เป็นไรนะ วารินทร์”
“ฉันไม่เป็นไร…ครุฑราช หนูเจ็บตรงไหนไหมลูก” เด็กทารกโผเข้าหาอ้อมอกของมารดาทันทีพร้อมกับซบหน้าลงกับซอกคออย่างออดอ้อน วายุและนารินทร์ที่เห็นว่าทุกคนปลอดภัยดีก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง
“ไม่เป็นไรแล้วนะลูกนะ…กลับบ้านกับพ่อกับแม่นะลูก” วารินทร์ลูบหลังครุฑราชอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันมาสบตากับพายุ แล้วก็หันไปมองสภาพของลดาที่กำลังนอนชักดิ้นชักงออยู่กับพื้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะพิษของครุฑราช
“คุณป้าจะเป็นอะไรไหมครับ วารินทร์” วายุเอ่ยถามอย่างกังวล ถึงผู้หญิงคนนี้จะร้ายกาจยังไง แต่เธอก็คือพี่สาวของสุดาผู้เป็นแม่ของเค้าและพายุ
“ฉันไม่รู้หรอกนะวายุว่าครุฑราชทำอะไรได้บ้าง แต่ถ้าเค้าได้ความสามารถแบบฉัน…ก็คงไม่รอด และฉันจะไม่เอื้อมมือเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด!!! เอาเค้าส่งโรงพยาบาลแล้วให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ไปซะ” วายุพยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะลดาเองก็ก่อปัญหาที่รุนแรงเหมือนกัน โชคดีที่สุดาและสุพจน์ยังไม่รู้เรื่องประเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน แต่กลับไปยังไงก็คงต้องรายงานให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้
“ทำไมเด็กคนนี้ถึงมีร่างจำแลงแบบนั้นล่ะ” เสียงของพ่อหมอถามขึ้นหลังจากหลุดออกจากการจับกุมของลูกน้องลดา ซึ่งพากันหนีไปกันหมดแล้วตั้งแต่ที่เห็นครุฑราชแสดงอิทธิฤทธิ์
“เค้าเป็นลูกครึ่ง” นารินทร์เอ่ยตอบแทนเพราะคนอื่นๆเลือกที่จะเงียบ
“ถ้าเธอเป็นนาค คนๆนี้ก็คงเป็นครุฑสินะ ตั้งแต่ฉันเดินทางสายนี้มา เห็นแบบพวกเธอมาก็ไม่บ่อยนักหรอก แต่ไม่เคยเห็นแบบเจ้าหนูนี่” พ่อหมอยืนมือเข้ามาลูบหัวครุฑราชเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกับพายุที่จ้องมองมือของพ่อหมอด้วยดวงตาสีแดงเพลิงเพราะอาการหวงลูกของตน
“ไม่ต้องมองด้วยสายตาแบบนั้นหรอก ฉันไม่ทำอะไรเค้าหรอก จริงๆฉันก็ไม่อยากจะยื่นมือเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ แต่ความจำเป็นบางอย่างทำให้ฉันต้องทำ…ยังไงก็ขอโทษพวกเธอด้วยนะที่ทำให้เดือดร้อน” ไม่มีใครพูดอะไรต่ออีกเพราะทุกคนต่างก็เดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จริงๆ
“พวกเรากลับกันเถอะ” ทั้งสี่คนพากันเดินออกจากบ้านแล้วขับรถออกไปในที่สุด แต่ก่อนไปก็โทรเรียกรถพยาบาลให้มารับร่างของลดาที่นอนหมดสติอยู่ด้านใน และหลังจากที่รถของพายุแล่นหายไปจนลับตา พ่อหมอก็ปาดเหงื่ออย่างโล่งใจที่สุดในชีวิต
“ดีเท่าไรแล้วที่เค้าไม่ฆ่าเราทิ้ง” พ่อหมอได้แต่เปรยกับตัวเองอย่างแผ่วเบา เพราะผ่านโลกนี้มามากพอจะรู้ถึงนิสัยความอาฆาตพยาบาทของเหล่าอสรพิษดีอย่างวารินทร์ดี ส่วนตอนนี้ก็เพียงแค่รอรถพยาบาลมารับร่างของผู้หญิงใจมารตรงนี้พร้อมกับเค้าจะขอเกาะติดรถออกไปด้วยและกลับไปอยู่ในที่ของตัวเองอย่างเดิม
ปล. หายไปเป็นเดือนเบย >.<