Older Brother.....29
[กาย:Part]
“เฮ้! นายก็อยู่นิ่งๆสิ เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก”
“อื๊อๆ....”
“มือๆ เอาออกไปเลย โอ้ย!!! ไม่เอา........ไม่ทำเล่า” เบื่อคนมือไวจริงๆเลย ดูดิบอกให้ผมเข้ามาโกนหนวดให้ แต่แค่ผมเข้าไปใกล้ๆมือปลาไหลของไอ้พี่หมอมันก็ทำงานทันที พอผมโน้มหน้าลงไปใกล้ๆอีกก็มองซะตาเยิ้ม แล้วใครมันจะทนสายตาแบบนั้นได้ล่ะ
“โธ่ กาย ผมก็แค่จับนิดเดียวเอง กันร่วงไง ให้นั่งขอบอ่างแบบนี้ถ้าพลาดท่า ได้เลือดเลยนะคุณ” แก้ตัวดีเหลือเกิน ตอนถอดชุดกาวออกเนี่ย ลบภาพคุณหมอผู้แสนดีออกไปจนหมดเหลือแต่ความหล่อที่มาพร้อมกับความเจ้าเหล่เท่านั้นแหละ
“งั้นก็.....” ผมดึงแขนพี่หมอให้ลุกจากขอบอ่างอาบน้ำมายืนดีๆ ก่อนจะยัดมีดโกนหนวดใส่ในมือหนา “โกนเอง....ชิท์!!!” ผมบอก จะเดินออกจากห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้ากลับโดนร่างสูงดึงเอวบางเข้าหาตัวกลับไปซะก่อน
“เดี๋ยวดิ ทำให้เสร็จออกสิ ไม่มีความรับผิดชอบเลยนะ.....” สายตาเจ้าเหล่มองสบตาผมผ่านกระจกเงา พี่หมอมันกอดผมไว้จากด้านหลัง ด้วยความสูงโคตรเปรตทำให้ปลายคงของพี่มันมาเกยอยู่บนไหล่ผม ฟอด!!!
“อ่ะ นี่นาย.....งี้ ครีมโกนหนวดติดแก้มผมเลยเห็นมั้ย เล่นอะไรเนี่ย...ปล่อย” ผมดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนคนตัวสูง ที่ยกมือสองข้างขึ้นมาประสานอ้อมแขนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย อยู่ท่านี้แล้วมันร้อนวูบแปลกๆ ยอมรับเลย >///<
“ปล่อยก็ได้ แต่ต้องโกนหมวดให้ผมให้เสร็จก่อน เร็วเข้า ผมจะได้อาบน้ำ” ผมพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เพราะรู้สึกหน้าร้อนผ่าวเพิ่มขึ้นมาอีก ไอ้พี่หมอเมายาหรือไง ตามันนี่ส่อ.....โอ้ย!!! กูจะบ้า
“ปล่อยดิ” ผมบอก พี่หมอยิ้มขำๆ ก่อนจะหันหลังไปถอดเสื้อออก “เฮ้ย!! จะ....จะถอดทำไมเล่า เดี๋ยวค่อยถอดสิ” ไอ้พี่หมอหันกลับมา ผมอดไม่ได้ที่จะมองร่างกายหนากำยำ หน้าท้องเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อหกลูกเรียงตัวกันอย่างสวยงานคล้ายนายแบบในนิตยาสารก็ว่าได้ เวอร์ล่ะ
“ก็เดี๋ยวจะอาบน้ำอยู่แล้วนา....มาเร็ว....ผมอยาก......” ผมเบิกตากว้าง เมื่อพี่มันเข้ามากระซิบข้างหูผมเสียงพร่า แถมคำพูดของมันก็ “อยากโกนหนวดให้เสร็จเร็วๆ...หึหึ”
“งี้! เดี๋ยวเหอะ! อยากได้เลือดหรือไงห๊ะ!!!”
“โอ๊ะๆ โธ่ แกล้งนิดเดี๋ยวเอง.....รู้มั้ยตอนคุณหน้าแดงเนี่ย น่ารักสุดๆเลยนะ” ยัง มันยังไม่หยุดพูดอีกนี่ถ้าหน้าผมไหม้ได้ มันคงดำไปทั้งหน้าแล้วมั้ง “ไม่เล่นแล้วๆ มาเร็วๆ หึหึ” บอกไม่เล่นแต่ แม่ง ขำไม่หยุดอ่า
วันนี้เป็นวันหยุดของไอ้พี่หมอครับมันเลยไปรับผมมาที่บ้านมันก็ตอนสายๆแล้วแหละ เห็นบอกว่าช่วงนี้เข้าเวรทั้งกลางคืนแล้วก็กลางวัน ถ้ามีคนไข้เคสพิเศษเข้ามาด่วนก็ต้องรีบไปทันที
ผมจะจำไว้ มีลูกมีหลานจะไม่ให้เป็นหมอ แม่งไม่มีเวลาให้กูเลย (อันนี้คือพาลช่ะ?) ได้ข่าวว่าเมื่อเช้าก็เพิ่งออกเวรมาจากโรงพยาบาลเหมือนกัน เหนื่อยแทนอ่ะ
Tru............ Tru.............
ในระหว่างที่ผมรอพี่หมออาบน้ำอยู่เสียงโทรศัพท์บนเตียงใกล้ๆมือผมดังขึ้น ซึ่งเป็นของไอ้พี่หมอนั่นแหละ ปกติผมไม่ค่อยยุ่งกับโทรศัพท์ของมันเท่าไหร่เพราะผมคิดว่ามันเป็นของส่วนตัว แต่ผมกลัวว่าจะเป็นเรื่องงานเลยหยิบขึ้นมาดู ชื่อบนหน้าจอที่ปรากฏ มีตัวพีจุดย่ออยู่ก็น่าจะเป็นคนไข้ของมัน ผมเลยเดินไปหน้าประตูห้องน้ำ
“เน้! มีคนโทรมาอ่ะ น่าจะเป็นคนไข้นะ” ผมบอก ในห้องน้ำยังได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ก็น่าจะยังอาบน้ำไม่เสร็จ สำองสำอางจริงๆ ครึ้งชั่วโมงแล้วเนี่ย หรือมาหลับในไปแล้ววะ
“รับเลยกาย....รับได้ มีอะไรฝากไว้” พี่หมอบอก ผมรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่คนมีความลับกับผมแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่กล้ารับ ยืนชั่งใจอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะตัดสินใจรับสาย
“อะ....”
“พี่หมอค่ะ.....พริ้นรู้สึกแน่นอกอีกแล้วค่ะ....เนี่ยเป็นตั้งแต่โทรหาพี่หมอเมื่อคืนแล้ว พริ้นทำตามที่พี่หมอบอกแล้วนะคะ แต่ไม่หาย พี่หมอมาหาพริ้นที่คอนโดหน่อยนะคะ พริ้นไม่ไหวแล้ว” ชีไม่เว้นระยะให้ผมได้พูดเลยครับ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ร้ายนะ แทนที่จะไปหาหมอกลับให้หมอไปหา...ถึงคอนโดด้วย เหอะ!!!
“โทษนะ แน่นอกเพราะเสื้อในคับหรือเปล่าครับ หรือแน่นอกเพราะขาดของ อันนี้หมอช่วยไม่ได้นะครับ ถ้าหาคนช่วยไม่ได้คงต้องหาอุปกรณ์เสริมมาช่วยตัวเองแล้วล่ะครับ”
“นะ...นั้น...คะ......” ผมตัดสายทิ้งหลังจากที่ให้คำแนะนำที่แสนจะดีที่สุดสำหรับเธอไป แม่ง! แค่เสียงพูดกูก็รู้แล้วว่าอยาก.......ขนาดไหน ล่ะไว้ในที่เข้าใจตรงกัน
“.....................” ผมหันกลับไปทางประตูห้องน้ำ ถึงกับผงะเมื่อเห็นร่างสูง ออกมายื่นพิงกรอบประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ยืนกอดอกมองผมนิ่งๆ มีผ้าขนหนูพันเอวจนเห็นไรขนใต้สะดือด้วย ต่ำไปไอ้หมอ (เรียกเหมือนเพื่อนเลยอ่ะ)
“กะ....ก็......คนไข้นายโรคจิตหรือเปล่าแค่แน่นอกถึงต้องโทรมาเรียกให้ไปหา เกินไปนะ หมอนะไม่ใช่ พิซซ่า เดลิเวอรี่ที่ หิวเมื่อไหร่ก็โทรสั่งๆน่ะ” ผมบอก ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวติดกับปลายเตียง โธ่ มันออกมาตอนไหนเนี่ย เสียเซลฟ์หมด
“ไม่ได้ว่าอะไรเลยครับ.....ไหนดูซิ ใครโทร....” คนตัวสูงเดินมานั่งลงข้างๆก่อนจะเอามือมาโอบเอวผมไว้แบบหลวมๆ มันทำเนียนดูสิ แต่ช่างเหอะ “อ่อ.....น้องพริ้น” ผมหันขวับไปมองทันที เรียกน่งเรียกน้องด้วย ชิท์!
“มีคนไข้แบบนี้บ่อยหรอ......คงชอบล่ะสิท่า รักษายังไงคนไข้ถึงได้ติดใจแบบนี้เนี่ย” ผมถาม เหลือบมองคนข้างๆด้วยหางตา มันรู้สึกหงุดหงิดนิดๆอ่ะ
“ก็รักษาปกตินะ.......” ไอ้พี่หมอบอกหน้าตาย “โธ่กาย คุณอย่ามองแบบนั้นสิ ฟอด! ก็.....คนมันหล่อทำไงได้ล่ะ” นั่น หอมแก้มกูแล้ว ยังทำให้กูหมั่นไส้อีก หล่อ เหอะ ก็หล่อจริงน่ะนะ แต่แม่งหลงตัวเองที่สุดในสิบโลกเลย
“เน้ๆ ไหลไปเรื่อยแล้วนะ ไปแต่งตัวสักทีสิ นั่งหน้าด้านหน้าทนอยู่ได้ ไม่อายบ้างหรือไง”
“ไม่เห็นมีอะไรต้องอายเลย หรือคุณอาย...” ผมเม้มปากเข้าหากัน ไอ้พี่หมอโยนโทรศัพท์ไปไว้บนเตียงก่อนจะขยับเข้ามาแนบชิดติดกับผมมากขึ้นอีก “กาย......” เสียงแบบนี้มัน แม่ง
“อะไรเล่า....” ผมขยับหนีแต่ก็ไม่พ้นวงแขนของคนตัวสูงอยู่ดี
“ไหนๆก็ไหนแล้ว เรายังไม่เคย......กันเลยนะ ไข่มุกขวางคอตลอดอ่ะ.....ผมไม่ไหวแล้ว...” ผมเม้มปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ไอ้หมอบ้ามันพูดออกมาแบบไม่อายปาก ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร เอ่อ ใช่เรายังไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากันหรอก
“จะบ้าหรอ...ปล่อยนะ เพิ่งออกเวรมาไม่เหนื่อยหรืองะ......อุ๊บ!!!” คำพูดของผมโดนคนข้างๆกลืนกินลงคอไปเสียแล้ว ร่างสูงกดจูบนุ่มนวลก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้อนแรงสลับกันไป
“สูบพลังไง แค่มีกายพี่ก็หายเหนื่อยแล้วนา......นะ” ใจแข็งไว้สิวะไอ้กาย ใจนะใจเต้นเบาๆหน่อยลูก แม่ง!!! บ้าจริงผมเกลียดสายตาเย้ายวนของพี่หมอตอนนี้เหลือเกิน มันคือหลุมพรางดีๆนี่เอง
ผมจ้องมองสบตาคนตรงหน้าอย่างหลงใหล กว่าผมจะรู้ตัวเองทีก็ตอนที่ริมฝีปากร้อนเข้ามาครอบครองริมฝีปากนุ่มของผมซะแล้ว รสจูบอ่อนหวานเชื้อเชิญให้ผมสอดลิ้นเข้าไปลิ้มรสภายในโพรงปากของอีกคนแทนที่ผมควรจะรอให้ลิ้นร้อนเข้ามาในปากผมก่อน
“อื๊อ.......นะ....นี่....ปล่อยนะ.....ไม่งั้นโกรธจริงๆด้วย” แล้วสุดท้ายผมก็ตัดสินใจผลักออก ไม่ยอมๆ ไม่ยอมเว้ย!!! ไอ้พี่หมอน่ะ เจ้าเหล่จะตาย ผมเปลืองตัวขาดทุนกับมันตลอดอ่ะ คนแบบนี้ต้องเล่นตัวซะให้เข็ด
“โธ่ กาย......ดูสิเนี่ย....” ร่างสูงคอตก ก่อนจะพูดบอกและเบนสายตาให้ผมมอง เอ่อ....ไอ้นั่นของมันอ่ะ “เห็นมั้ย นานะ ...... อย่าใจร้ายนักเลย” ผมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและขยับหลบมือหนาที่ยื่นมาคว้าตัวผมจนสุดแขน
“ไม่เว้ย!!! ไปเดินเล่นดีกว่า แปร่บๆ” ผมแลบลิ้นใส่พี่หมอ ก่อนจะออกจากห้องมายืนอมยิ้มยู่หน้าประตู ได้ยินเสียงบ่นงึมงำเบาๆมาจากด้านในก่อนจะเงียบไป เดี๋ยวรอให้มันนอนหลับแล้วค่อยกลับเข้าไปใหม่ อ่าๆๆ คึคึ
“อ้าวกาย....มายืนทำอะไรหน้าห้องล่ะลูก” อุ๋ย! เสียงแม่ของพี่หมอเปิดประตูห้องข้างๆออกมา ท่านรู้จักผมดีครับเพราะพี่หมอพามาบ่อยๆ และดูเหมือนท่านจะเข้าใจเราดีว่าเรามีความสัมพันธ์กันยังไง
“เอ่อ คือ พี่....รักษ์ เค้าพักผ่อนน่ะครับ กายไม่อยากกวน” ผมบอกพร้อมกับยิ้มให้ อยู่ต่อหน้าผู้ผมต้องเรียกพี่รักษ์ครับ ท่านยิ้มตอบกลับมาเ
“ลงไปเดินเล่นข้างล่างก็ได้นะ ในสวนหลังบ้านร่มรื่นดี.....เดี๋ยวแม่จะออกไปหาพ่อหน่อย ตามสบายนะลูก” ท่านจับแขนผมอย่างคุ้นเคยก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง
ดูเหมือนพ่อกับแม่พี่หมอจะตามใจมันนะ ตอนเรากินข้าวด้วยกันไอ้พี่หมอมันคุยเรื่องงานกับพ่อนี้แบบเออออตามตลอด ไม่มีขัดส่วนแม่นี่แล้วใหญ่ทั้งตามใจทั้งหวงทั้งห่วง เดี๋ยวซื้อนั่นซื้อนี่มาให้ ทั้งเสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้า บางทีก็เผื่อแผ่มาถึงผมด้วย
ผมลงไปเดินเล่นในสวนสักพักก็เข้ามาในบ้านและกลับขึ้นมายังห้องนอน ไอ้พี่หมอหลับเป็นตายเลยครับ ผมนั่งลงข้างๆร่างหนา มองหน้าคมเข้มที่มองกี่ทีกี่ทีก็ต้องยอมรับว่าดูดีเกินใคร แต่ก่อนผมยอมรับก็ได้ว่าเคยหลงชอบพี่หมอเพราะหน้าตา แต่พอยิ่งอยู่ใกล้ผมก็ยิ่งหลงรักในความเป็นตัวเองของตัวเองของมัน อ่ะๆ อย่าบอกมันล่ะ
ผมโน้มหน้าลงหอมแก้มร่างหนาเบาๆกลัวเหลือเกินว่าพี่มันจะตื่นขึ้นมาเห็น ผมอมยิ้มให้กับสิ่งที่ผมทำลงไป ก่อนจะนอนลงข้างๆ มองหน้าคนตรงหน้าไปสักพักก็เผลอหลับตามไปด้วย
Tru………. Tru………….
“อือ..........” เสียงรบกวนจากโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนของผมดังขึ้น ผมบิดตัวเล็กน้อย ความรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรมารัดตัวไว้จนแน่น
ผมลืมตาขึ้นช้าๆ ภาพพร่ามัวตรงหน้าคุ้นๆ อ่ะ!!! ที่แท้ก็โดยไอ้พี่หมอกอดรัดไว้นี่เอง แต่ว่า....รับโทรศัพท์ก่อนดีกว่า คงเป็นเซฟที่โทรมา
“อืม.........” เสียงทุ้มต่ำครางออกมาเมื่อผมขยับตัวแค่นิดเดียว “กาย....” เออ ผมดีใจมากที่ได้ยินชื่อผมคนแรกออกมาจากปากบางนั่น ทั้งที่มันยังไม่ลืมตา
“ว่าไงเซฟ.......” ผมรับโทรศัพท์ ไอ้พี่หมอลืมตาขึ้นมามอง ผมทำปากให้คนข้างๆอ่านว่า ไอ้เซฟโทรมา พี่หมอพยักหน้ารับก่อนจะหอมแก้มผมและลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ
“กินข้าวยัง....กูไปรับมั้ย........”เซฟถาม
“เอ่อ.....ไม่ต้องหรอกกูอยู่ข้างนอกน่ะ กี่โมงแล้วเนี่ย” ผมลุกขึ้นมานั่ง มองไปรอบๆห้องเผื่อดูนาฬิกา
“บ่ายสองแล้ว อยู่กับพี่หมอหรอ.......งั้น แค่นี้นะ” มันพูดจบก็ตัดสายไปเลยครับ อะไรของมันเนี่ย จู่ๆก็วางไปไม่บอกไม่กล่าวเลย ผมมองโทรศัพท์ในมือแบบงงๆ
“มีอะไร...หืม” พี่หมอถาม
“ไอ้เซฟน่ะ ไม่มีอะไรหรอก....ร้อนอ่ะ อาบน้ำได้มั้ย” ผมว่า ก่อนจะลุกจากเตียง
“ได้สิ.....จะให้ช่วยอาบให้ก็ได้นะ” นั่นไง หื่นไม่ปันใครหรอกคนนี้น่ะ มองแต่หน้าหารู้ใจมันไม่ กูเริ่มเกลียดคนหล่อล่ะ (เกลียดอะไรได้อย่างนั้น)
ผมกับพี่หมอออกมาทานข้าวข้างนอก จากนั้นก็เดินเล่นกันจนถึงเย็น ก่อนที่เราจะเข้ามาที่ร้าน ตอนนี้ยังไม่มีใครมา ผมไล่พี่หมอกลับไปพักผ่อนที่บ้านแต่ว่ามันไม่ยอมกลับ บอกว่าจะอยู่รอกลับพร้อมผม ผมก็เลยให้นอนพักที่ห้องทำงานเนี่ยแหละ จะให้ไปนอนห้องไอ้เซฟก็ไม่ไป ยอมนอนโซฟา
“มานาน.......ยัง” ผมนั่งทำงานจนเสร็จไม่นานไอ้เซฟก็มาถึง มันหันไปมองพี่หมอตรงโซฟาก่อนจะหันมาถามผม
“ตั้งแต่เย็น มึงไปไหนมา ไลน์ไปก็ไม่ตอบ” ผมถาม ไอ้เซฟเดินมานั่งลงบนโต๊ะทำงานที่ผมนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่
“กินข้าวกับกิ๊กมา....มีไรให้กูทำอีกมั้ย” มันดึงเอกสารที่นั่งทับอยู่ออกมาดู โซฟามีไม่นั่งเสือกนั่งบนโต๊ะทำงานนะมึง
“ไม่มี มึงลงไปดูข้างล่างเหอะ ไอ้ธารไม่มาน่ะ คงอยู่ดูแลลีวายส์” ผมบอก ไอ้เซฟพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไป พูดถึงไอ้ธาร แม่ง มันทำลูกกูเจ็บ.....เฮ้อ!!! แต่ก็นะ มันรักของมันผมรู้ มันรักมากด้วยยังไงซะสักวันเรื่องแบบนั้นก็เกิดขึ้นอยู่ดี แต่ผมจะไม่พูดกับมันสามวัน ผมบอกแล้ว หึ! แค่ไลน์ไปถามอาการลีวายส์เฉยๆ =_=^
“นี่! นาย....นี่! ผมจะลงไปข้างล่างนะ ได้ยินหรือเปล่า” ผมเขย่าตัวพี่หมอเบาๆ พี่มันหลับเป็นตายครับ เรียกอยู่หลายครั้งกว่าจะรู้สึกตัว
“ครับ.....อืม.....คุณจะกลับกี่ทุ่มก็เรียกแล้วกัน อืม....ยิ่งนอนก็ยิ่งง่วงหรือเปล่าเนี่ย” พี่หมอยกมือขึ้นตบท้ายทอยเบาๆ
“นอนต่อเหอะ วันนี้ไอ้ธารไม่มาผมว่าจะกลับดึกหน่อย ก็บอกให้กลับไปนอนบ้านก็ไม่ยอมกลับ เดี๋ยวผมไปดูข้างล่างก่อนแล้วกัน” ผมบอก พี่หมอพยักหน้ารับจากนั้นผมก็ลงมาด้านล่าง
วันนี้แขกในร้านเยอะเหมือนทุกวัน เสียงวงดนตรีของรุ่นน้องที่พึ่งจะเข้ามาเล่นไม่กี่วันเล่นเพลงร็อคหนักๆพาให้คนฟังเต้นตามอย่างเมามันส์ ผมมองหาเพื่อนตัวเองว่านั่งอยู่มุมไหน ไม่นานก็เจอ เซฟอยู่กับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง มันกำลังยกแก้วเหล้าขึ้นชนกับคนในกลุ่มสี่ห้าคนก่อนจะยกขึ้นดื่ม
“อ้าว หวัดดีกาย” ไอ้เทสทักผม เป็นเพื่อนที่รู้จักกัน เพราะมันเป็นขาประจำที่นี่
“หวัดดี....ไม่พาเมียมาด้วยล่ะ” ผมแขวะมัน เพราะไอ้เหี้ยนี่มีเมียแล้วแต่ดันหิ้วกิ๊กมานั่งด้วยน่ะสิ ผู้ชายก็นะ...แม่ง มีแล้วยังจะไม่พอ
“โธ่.....อย่าพูดงี้ดิ คืนนี้ผมโสดคร้าบบบ” มันพูดก่อนจะหันไปหอมแก้มกิ๊กมันฟอดใหญ่
ผมปัดมือเซฟออกจากตักมันก่อนจะนั่งลงบนตัก เพราะไม่มีที่นั่งว่าง ทุกคนรู้ดีว่าผมกับเซฟสนิทกันมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะใกล้ชิดกันแบบนี้
เซฟมองผมเล็กน้อยก่อนจะผลักผมออกเบาๆ เหมือนไม่ให้นั่งแต่ผมขืนตัวไม่ยอมลง อะไรของมันวะ ผมเหล่ตามองมันอย่างเคืองๆ มันถึงได้ยอมให้ผมนั่งดีๆและยกมือขึ้นมากอดเอวผมไว้กันหล่น
“ดื่มมั้ย....” เซฟถามระหว่างที่เรานั่งคุยกันไปสักพัก ผมดึงแก้วในมือมันมาดื่ม งี้
“ไอ้เซฟ มึงดื่มเพียวๆเลยเนี่ย เดี๋ยวก็เมาหรอ ไอ้บ้า!!!” ผมหันกลับไปว่ามัน เท่านั้นแหละ เพิ่งเห็นว่ามันเริ่ม ตาเยิ้มๆล่ะ ผมรู้ว่ามันคอแข็งแค่ไหนแต่ว่าถ้าเป็นเหล้าเพียวๆแบบนี้ใครไม่เมากูให้ถีบเลย
“ไม่...เมา....นา” เสียงแหบเชียว เนี่ยนะเรียกไม่เมา
“ไปๆ ไม่ให้ดื่มแล้ว เฮ้ยพวกมึง กูขอตัวก่อนนะ.......” ผมบอก วางแก้วเหล้าในมือไว้บนโต๊ะ ก่อนจะดันตัวมันออกเอาแขนมาพัดบ่าผมไว้ หนักอ่ะ! “เฮ้ย! ไอ้แมนทางนี้เว้ย” ไอ้แมนพอดี ผมเลยเรียกมันให้มาช่วยพาไอ้เซฟไปด้านบน
“แดกไรนักวะ.....มึงออกไปดูข้างล่างเหอะ เดี๋ยวกูจัดการเอง” ไอ้แมนบอก
“ไม่อ่ะ มึงไปเหอะ กูดูไอ้เซฟเอง” ไอ้แมนมองผมกับเซฟสลับกันก่อนจะพยักหน้าและเดินออกไปจากห้อง ผมมองร่างหนาบนเตียงก่อนจะส่ายหน้าไปมา เฮ้อ! น้อยครั้งนะที่มันจะเมาแบบนี้เป็นไรของมันวะ
“กาย.....กาย.....มึงรักกูป่ะ” เซฟปรือตาขึ้นมามองผม ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งในขณะที่ผมเช็ดหน้าให้มัน ถามอะไรของมันน่ะ เฮ้อออ
“เออๆ รักๆ กูเพื่อนมึงนะ ทำไมจะไม่รักมึง กิ๊กคนไหนทิ้งมาล่ะเนี่ย” เพราะผมนั่งใกล้มันมากเซฟเลยเอนหัวลงมาซบกับไหล่ผม คล้ายกับว่าเรากำลังกอดกันอยู่
“กูรักมึงนะ.....” มันพูดบอกเสียงพร่า ผมนิ่งเงียบไปก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหลังมันเบาๆ “กูขอโทษ” มันบอกอีก ผมรู้และรู้ดีว่ามันขอโทษเรื่องอะไรแต่ผมแค่ไม่อยากให้เรื่องในอดีตเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง
“อืม....นอนนะเซฟ กูอยู่กับมึงเนี่ย นอนนะ” ผมบอก เซฟยกมือขึ้นกอดเอวผมไว้ เหมือนมันกลัวว่าผมจะทิ้งมันไป
แกร๊ก!!!
ผลั่ก!!!
“ไอ้สัด! มึงทำอะไรห๊ะ!!!” จู่ๆ พี่หมอก็พรวดพราดเข้ามาในห้อง กระชากผมออกจากตัวเซฟ ก่อนจะเข้าไปดึงคอเสื้อคอบนเตียงและซัดหมัดใส่โดยที่ผมห้ามไม่ทัน
“นี่!!! หยุดนะ มันเมา!!! บ้าไปแล้วหรอ ดูบ้างเซ้!!!” ผมเข้าไปขว้างพี่หมอไว้ หันกลับไปมองเซฟที่ตอนนี้เริ่มสร้างเมาเพราะโดนหมัดหนักจนปากแตก
“ถึงเมามันก็ควรจะรู้ตัว...ว่ากำลังทำอะไรอยู่!!!!” พี่หมอมีสีหน้าโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด พี่มันขึ้นเสียงใส่ผมอย่างโหดอ่ะ จะบ้าหรือไงวะ แค่นี้ก็โกรธ
“ไอ้เหี้ย!!!” เสียงเซฟดังขึ้นจากด้านหลังผม มันผลักผมออกและเข้าหาพี่หมอแต่เพราะมันเมามากแค่พี่หมอออกแรงผลัก มันก็ล้มกลับลงไปบนเตียง แถมยังตามไปดึงคอเสื้อมันอีก
“นี่!!! ปล่อยเซฟเดี๋ยวนี้!!! มันเป็นเพื่อนผมนะ!!!!” ผมตะคอกใส่พี่หมอเสียงดัง พี่มันขบกรามจนเส้นเลือดผุดบนแก้มก่อนจะสะบัดมือออกจากคอเสื้อเซฟและหันมาคว้าแขนผม ออกแรงบีบหนักๆ
“หยุดหลับหูหลับตาสักทีกาย!!! ยิ่งคุณทำแบบนี้มันก็จะยิ่งยาก คุณจะให้ความหวังมันหรือไงกัน คุณรู้ไม่ใช่หรอ ว่ามันคิดกับคุณเกินเพื่อน!!!” พี่หมอออกแรงบีบแขนผมหนักขึ้นจนรู้สึกเจ็บ
ผมรู้ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเซฟคิดกับผมเกินเพื่อน แต่ด้วยความที่เราสนิทกันมาก ผมแค่ไม่อยากให้มันอึดอัด ผมรักเพื่อนคนนี้มากไม่อยากสูญเสียมันไปเหมือนครั้งก่อนที่เคยเกินขึ้นมาแล้ว
เซฟเคยบอกรักผม แต่ผมปฏิเสธมันไป ทำให้ทั้งผมและมันไม่กล้ามองหน้ากัน ผมเสียใจที่ทำร้ายจิตใจของเพื่อนที่ผมรักมาก เลยไม่กล้าคบกับมันต่อ ช่วงเวลานั้นมันเหมือนผมฝันร้าย ผมนอนร้องไห้ทุกคืน ยิ่งกว่าคนหกอัก เอาแต่โทษตัวเองว่าผมทำร้ายมัน
จนกระทั้งผมนึกสนุกขึ้นมา พอดีแม่เพิ่งซื้อรถใหม่ให้ ผมเลยแอบพวกไอ้ธารไปลงแข่ง แต่มันกลับไม่สนุกอย่างที่คิด ผมรถคว่ำบาดเจ็บบางตาย ผมโดนไอ้ธารด่าว่าจนหูชาและสั่งห้ามไม่ให้คิดเรื่องจะแข่งรถอีกเลย แต่ตอนปีสามปีสี่ก็ยังแอบๆไปแข็งบ้าง
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำเอาพวกไอ้ธารวิ่งวุ่นกันไปหมด รวมทั้งเซฟด้วย เราไม่เคยทิ้งกันเราไม่เคยห่างกันเลย เพราะแค่มันบอกรักผมถึงกับทำให้เราเลิกคบกันเป็นเพื่อนได้ ไอ้ธารกับไอ้แมนเลยให้เราปรับความเข้าใจกัน ผมกับมันถึงได้กลับมาเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม
ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันยังไม่สามารถตัดใจจากผมได้ แต่ผมก็ทำเป็นไม่รู้เพราะไม่อย่าเสียมันไปจริงๆ ผมรักมันนะ เพราะมันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผม ผมไม่อยากให้มันเสียใจ
“ช่างผมสิ! อย่ามาขึ้นเสียงกับผมนะ แล้วก็มาทำร้ายเพื่อนผมด้วย” พยายามแกะมือหนาออกจากแขน ที่เริ่มเพิ่มแรงบีบหนักขึ้นไปอีกเมื่อผมพูดบอกแบบนั้น สายตาดุดันจ้องมองผมเขม็ง
“กาย......คุณรักมันหรอ ผมถามหน่อย ถ้าคุณรักมันในถานะเพื่อนคุณก็ไม่ควรทำแบบนี้ แทนที่มันจะจบ มันก็จะไม่จบสักที เข้าใจมั้ย!!!”
“ผมไม่ยอมทำร้ายเพื่อนผมหรอก เซฟมันรู้ว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ ผมก็รู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ เราโตแล้ว.....ผมเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ ปล่อยผม.......ผมเจ็บ!!” พี่หมอหอบหายใจออกมาแรงๆก่อนจะปล่อยมือออก
“ถ้าถึงตอนนั่นมันไม่ยอมจบ ผมจะทำให้มันจบเอง......คุณค่อยดู!!!” พี่หมอเดินออกไปจากห้องอย่างหัวเสีย หลังจากพูดจบ
ผมยืนมองแผ่นหลังกว้างเดินออกไปก่อนจะหันมาหาเซฟ มันยันตัวลุกขึ้นมาปรือตาขึ้นมองผมช้าๆ เหมือนมันจะได้ยินทุกอย่างที่ผมกับพี่หมอคุยกัน
“กูขอโทษ”เซฟพูด ผมซบหน้าลงกับไหล่กว้างก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหล่ออกมา “กูขอโทษ กาย” เซฟพูดอีก ผมส่ายหัวให้มันก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง
“มึงไม่ผิดเลย.....เซฟ” ผมไม่ได้ให้ความหวังมันนะ เพราะผมไม่เคยปิดเรื่องพี่หมอ มันก็ไม่เคยเคืองพี่หมอเลยเวลาเห็นพี่หมออยู่กับผม เพราะเราเข้าใจกันดี
ผมรู้ว่าเซฟรักผมและผมก็ไม่มีวันทำร้ายมันด้วยการบอกให้มันเลิกรักผม เซฟรู้ว่าผมรักใครและมันจะไม่มีวันทำร้ายผมเช่นกัน
<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>>
สงสารใคร.......
พี่หมอ.... กาย แม่ง! รักเพื่อนมากกว่าผม!
เซฟ.... กายรักพี่หมอ ผมรู้....
กาย.... T.T
#ไม่ชอบอย่าด่า....เม้มว่ากันนิดๆได้ คริคริ
หายไปไม่นานเนอะ

แอบแว๊บมาลงเบื่อหนังสือกะลังเตรียมสอบโทอิคอยู่จร้า
เจอกันเมื่อนักอ่านต้องการ
