Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)  (อ่าน 167998 ครั้ง)

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ฮือๆๆๆ  อยากให้พี่หมอเคลียร์กะกายเร็วๆจัง คู่นี้ดูอึมครึม T_T
ถ้าให้เดา พี่หมอน่าจะกำลังน้อยใจอยู่นะ
ส่วนแพ็ค-เซฟ คาดว่าน่าจะมันหยดติ๋งๆ อิอิ

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
อ่านแล้วไม่ชอบคู่กายกับพี่หมอเลยงะ

อยากให้เซฟมีความสุขไวๆ <3

ออฟไลน์ Plengaay

  • เป็ดย่าง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบคู่เซฟแพ็คจัง55555 :-[
มาต่อเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
แพ็คคงเขิลเนอะ
คู่พี่เซฟน่ารักอะ

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....32
ฮัดชิ้ว! อ่า คงเพราะผมเข้าๆออกๆห้องแอร์ทั้งวันแถมอากาศวันนี้มันก็ร้อนจัดอีกด้วย สงสัยหวัดจะทำพิษซะแล้วสิ ถึงได้จามไม่หยุด

 

“ทำไมช้าจังนะ” ผมมารอรับลีวายส์ครับ แต่มันไม่ออกมาซะที สิบนาทีเข้าไปแล้วเนี่ย โรงเรียนก็เลิกแล้วด้วย เห็นเด็กออกมากันแล้ว

 

“พี่ธาร.....มานานยังฮะ”

 

“นาน เป็นชั่วโมงแล้ว” ผมบอกหลังจากลีวายส์เปิดประตู ขึ้นมานั่งบนรถ

 

“จริงหรอฮะ ลีวายส์นั่งทำการบ้านอยู่น่ะฮะ ขอโทษฮะ จุ๊บ!!!” เออๆ ผมโกรธมันไม่ลงหรอก ก็ดูมันทำท่าสิเหมือนแมวขี้อ้อนเจ้าของซะขนาดนั่น

 

“จุ๊บ! เออๆ คราวหน้าเร็วหน่อยก็ดี” ผมจุ๊บมุมปากสีสดเบาๆก่อนจะออกรถ “เดี๋ยวแวะร้านอาหารก่อน แม่มาหา”

 

“คุณแม่หรอฮะ มาทำไมหรอฮะ” ลีวายส์ถาม

 

“ไม่รู้สิ เห็นบอกว่า มาทำธุระเลยแวะมา” แม่ ท่านโทรหาผมเมื่อตอนเที่ยงบอกว่ามาทำธุระกับหุ้นส่วนคนใหม่ที่นี่ เลยนัดผมไปทานข้าวเย็นด้วยกัน

 

“หรอฮะ.....จริงสิพี่เซฟ ไปเรียนทีเชอร์ที่โรงเรียนด้วยนะฮะ”

 

“งั้นหรอ”

 

“ฮะ พี่เซฟสอนสนุกมากฮะ เพื่อนๆในห้องบอกว่ามีทิชเชอร์หล่อเท่ แล้วก็สอนไม่เบื่อจนไม่อยากขาดเรียนเลยฮะ แถมพี่เซฟยังเป็นคลาสทิชเชอร์อีกด้วย”

 

“งั้นหรอ ไอ้เซฟเนี่ยนะ หรือไอ้กายจะขอให้มันไปสอน” ผมพูดบอกอย่างใช้ความคิด ไม่อยากเชื่อว่าไอ้เซฟมันจะไปสอนได้จริงๆ คงเป็นเพราะไอ้กายอีกล่ะสิ เหอะ!

 

“พี่ธารฮะ พี่เซฟรู้จักนายแพ็คด้วยล่ะ” หืม! ผมหันไปขมวดคิ้วมองลีวายส์

 

“ยังไง”

 

“ก็ลีวายส์ เห็น พี่เซฟมีรู้ของนายแพ็คด้วย ลีวายส์ถามนายแพ็คแล้ว เค้ารู้จักกันจริงๆ แต่...นายแพ็คไม่บอกว่ารู้จักกันยังไงอ่ะ เอ่อคือ...โทรศัพท์พังเพราะเรื่องนี้แหละฮะ ลีวายส์คืนโทรศัพท์ให้นายแพ็คไปแล้วนะฮะ” ลีวายส์พูดจบ ร่างเล็กหลบสายตาผมเล็กน้อยเพราะกลัวผมต่อว่าอะไรอีก

 

“ลงสิ ถึงแล้ว” ผมบอก เรามาถึงร้านอาหารที่ผมนัดกับคุณแม่ไว้พอดี ไอ้เซฟมีเพื่อนเยอะแต่ผมไม่คิดว่ามันจะรู้จักกับน้องชายคุณแพ็ทได้ มันยังไงกันนะ

 

“อ้าว....มากันแล้ว” แม่ผมทัก เมื่อเห็นผมกับลีวายส์เดินเข้ามาในร้านก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะอาหารที่ท่านนั่งอยู่ก่อนแล้ว “ลีวายส์มาด้วยหรอ...นั่งสิ”

 

“มีใคร มาด้วยหรอครับ” ผมถาม เพราะเห็นว่าโต๊ะที่เรานั่งกันมีสี่ที่ และมีกระเป๋าผู้หญิงวางอยู่ด้วย

 

“อ่อ....ลูกสาวของคุณจิราภาน่ะ หุ้นส่วนคนใหม่ของแม่ แม่ชวนเธอมาเอง ทานกันหลายๆคนดีออก ลีวายส์มานั่งตรงนี้สิ” ท่านบอกให้ลีวายส์ไม่นั่งข้างๆท่าน ผมเลยรู้ถึงจุดประสงของท่านทันที

 

“ไม่ต้อง....มานั่งนี่มา” ผมบอกพร้อมกับดึงมือลีวายส์ให้นั่งลงข้างๆ จากนั่นก็เรียกพนักงานในร้านมาจัดโต๊ะใหม่โดยไม่ได้สนใจสีหน้าของผู้เป็นแม่ ผมควรอดทนกับสิ่งที่ท่านกำลังทำใช่มั้ย

 

“เอมี่มาพอดี....นั่งข้างๆแม่นะลูก” ไม่นาน สาวสวยร่างเพรียวบาง เดินมาหยุดอยู่ข้างๆโต๊ะ ในระหว่างที่อาหารกำลังมาจัดว่างโดยพนักงานของร้าน เธอมองผมกับลีวายส์สลับกันไปมาก่อนจะนั่งลง ผมไม่คิดว่าจะเป็นเธอหรือผมแทบจะลืมเธอไปแล้ว

 

 

“นี่เอมี่ ลูกสาวของคุณจิราภาหุ้นส่วนคนใหม่ ที่แม่บอก นี่อีธารลูกชายของแม่เองค่ะ น้องเอมี่” แม่บอก พร้อมกับแนะนำเธอให้ผมรู้จักก่อนจะแนะนำผมให้เธอรู้จักเช่นกันแต่กลับไม่ได้พูดถึงลีวายส์ที่กำลังจ้องมองเอมี่นิ่งๆ มันไม่น่าจะจำได้นะ

 

“จริงๆ ไม่ต้องแนะนำก็ได้ค่ะ เราเคย.......เป็นแฟนกันตอนเรียนมหาลัย ใช่มั้ยค่ะธาร” เธอพูดบอกอย่างสนิทสนม โดยที่ผมไม่ได้ตอบอะไร ยังรู้สึกรำคาญสายตาเธอที่มองมาซะมากกว่า ลีวายส์หันมามองผมก่อนจะจับมือผมไว้

 

“งั้นหรอ....แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย อ่าๆ งั้นก็ดี ถ้าเกิดเราทำงานด้วยกันจะได้ไม่มีปัญหา ดีมั้ยลูก” ผมหันไปมองคนข้างๆที่ตอนนี้ สีหน้าอ่อนลง เพราะรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศบนโต๊ะอาหารตรงหน้าเต็มที

 

“คงไม่ดีหรอก เพราะผม.....ไม่ได้คิดและไม่เคยคิดจะทำงานบริหารขอโทษด้วยครับ ผมขอตัวก่อน” ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารพร้อมกับดึงมือลีวายส์ให้ลุกตาม

 

“อีกอย่าง คราวหน้าถ้าแม่นัดผม แม่ก็ควรบอกผมก่อนว่ามีใครมาด้วย ผมไม่ชอบให้คนนอกมานั่งร่วมโต๊ะกับคนในครอบครัว นอกจากจะคุยเรื่องงานกันจริงๆ”

 

“อีธาร......!!!” เสียงแม่ดังไล่หลังผมออกมา ผมดึงมือร่างเล็กออกจากร้านอาหารมาขึ้นรถ

 

“พี่ธารฮะ....คุณแม่โกรธพี่ธารแน่ๆเลยฮะ พี่ธาร เรากลับไปหาคุณแม่ดีกว่า”

 

“ไม่ต้องหรอกท่านรู้ว่ากูนิสัยยังไง” ผมบอก ขับรถกลับคอนโดทันที แม่คงอยากให้ผมมีแฟนหรืออะไรแบบนี้แน่นอน ท่านคงไม่สบายใจเรื่องผมกับลีวายส์แต่เอมี่มาได้ไงอันนี้ผมไม่รู้ รู้แต่ว่า ผมไม่ชอบและเกลียดเรื่องแบบนี้ที่สุด

 

 

 

“ไปอาบน้ำไป.....แล้วค่อยออกมาทานข้าว” ผมบอกกับลีวายส์เมื่อเรากลับมาถึงคอนโด ลีวายส์พยักหน้ารับและเข้าไปอาบน้ำไม่นานมันก็ออกมา

 

“พี่ธาร ไม่สบายหรอป่าว” ลีวายส์ ยื่นมือมาทาบลงบนหน้าผากผมเพื่อวัดไข้ “อ่ะ! ตัวร้อนนี่ฮะ พี่ธารไม่สบายหรอฮะ” ลีวายส์ถามน่าตาตื่นเชียว

 

“คงเป็นหวัด เดี๋ยวก็หาย”

 

“ลีวายส์ไปเอายามาให้นะฮะ เดี๋ยวจะได้ทานยาเลย” ลีวายส์เดินเร็วๆ ไปหยิบยามาให้ผม “นี่ฮะ กินข้าวก่อนกินยา”

 

“รู้แล้วๆ” เรานั่งทานข้าวที่ผมสั่งมาเมื่อครู่ เพราะผมไม่ได้แวะซื้อหรือจะให้ทำก็ไม่ไหวแล้ว รู้สึกอยากนอนพักเต็มที

 

“พี่ธารอย่าอาบน้ำเลยนะฮะ เดี๋ยวลีวายส์เช็ดตัวให้ รอแป๊บฮะ” ลีวายส์บอก เมื่อมันเข้ามาเห็นผมกำลังนุ่งผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ผมโดนมันลากออกมานั่งอยู่กับเตียง จริงๆแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมายหรอ

 

“ทำอะไร” ผมถาม ลีวายส์ออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับกะละมังใบเล็กและผ้าสำหรับเช็ดตัว

 

“ก็เช็ดตัวให้พี่ธารไงฮะ”

 

“ไม่ต้องหรอก กินยาแล้ว นอนพักก็หาย” ผมบอก ลีวายส์ทำหน้างอใส่

 

“ไม่เอาฮะ พี่ธารอย่าดื้อสิฮะ ลีวายส์เช็ดให้นะๆ ลีวายส์ไม่อยากให้พี่ธารป่วย” ลีวายส์ เอาผ้าขนหนูมาซับแก้มให้ผมเบาๆ ความเย็นจากผ้าชื้นน้ำทำให้ผมขนลุกชันเพราะพิษไข้

 

“อื๊ออ... มา กูเช็ดเองดีกว่า” ผมบอก

 

“ไม่ฮะ ลีวายส์อยากทำ ให้ลีวายส์เช็ดให้เถอะ นะฮะ” จุ๊บ! ร่างเล็กจุ๊บข้างแก้มผมเบาๆก่อนจะหันไปบิดน้ำออกมาผ้าอีกครั้ง

 

“ชิท์! ตามใจ ฟอด!” ผมหอมแก้มมันฟอดใหญ่ จนร่างเล็กตรงหน้าแก้มขึ้นริ้วแดงทั้งสองข้าง

 

ลีวายส์ก้มหน้าลงเล็กน้อย เช็ดตัวให้ผมตรงลำคอเบาๆ ลากผ่านลงมาถึงแผงอกกว้าง ผมมองร่างเล็กที่กำลังเม้มปากเข้าหากัน ก่อนจะคลายออก ปากสีสดน่าจูบดูดกำลังกัดปากล่างของตัวเองก่อนจะลากผ้าเช็ดตัวลงต่ำไปถึงหน้าท้องแกร่ง

 

ฟอด!!!

 

“พี่ธารอ่ะ.....ลีวายส์เช็ดตัวให้อยู่นะ อยู่นิ่งๆสิฮะ” เพราะผมหอมแก้มมันอีกฟอดใหญ่ มันเลยโวยวาย ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เดี๋ยวนี้มันเขินเป็นครับ

 

“ทำไม หอมนิดหอมหน่อยเดี๋ยวนี้เขินหรอ” ผมถาม ลีวายส์ทำปากยื่นน่ากัด

 

“เปล่าซะหน่อย ลีวายส์ไม่ได้เขิน” ฟอด! งั้นก็หอมอีกที “พี่ธาร! ไม่สบายอยู่นะฮะ ทำไมไม่อยู่นิ่งๆล่ะฮะเนี่ย” ผมยกมือขึ้นดึงเอวมันเข้าหาตัว

 

“ทำไม ก็แค่เป็นหวัดนา หืม!” บางที ผมก็ไม่อยากอดทนหรือฝืนตัวเอง กับมันสักเท่าไหร่ ยิ่งมาทำตัวน่ารักกับผมใกล้ๆแบบนี้ ใครจะอดใจไหว ว่ามั้ยล่ะ

 

“พี่ธาร....อุ๊บ!!!” ผมทาบริมฝีปากร้อนๆลงกับริมฝีปากสีสดเมื่อมีโอกาสยกแขนข้างหนึ่งโอบมันไว้ ร่างเล็กดิ้นอยู่ในอ้อนแขนของผมก่อนจะยอมอ่อนโอนตาม

 

ผมรุกจูบดูดปากเล็กนุ่มนวลร้อนแรงปะปนกันตามอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้น ตั้งแต่ลีวายส์เริ่มเช็ดตัวให้และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนหยุดไม่ได้ ลิ้นร้อนๆไล่ท่อนหยอกล้อกับลิ้นเล็กสักพักเมื่อรู้สึกว่าร่างเล็กเริ่มขาดอากาศหายใจ จึงถอนริมฝีปากออก

 

“พรุ่งนี้วันหยุด.....สินะ” ผมบอก ลีวายส์มุดหน้าลงกับแผงอกกว้าง ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะก้มลง หอมหลังใบหูเล็ก จากนั้นก็ผลักร่างเล็กเบาๆ ให้นอนราบไปกับเตียงกว้าง

 

“พี่ธารฮะ.....ลีวายส์......”

 

“ไม่ต้องกลัว....เชื่อพี่หรือเปล่า” ผมบอก ก่อนจะก้มลงซุกซอกคอขาวเนียนของคนใต้ร่าง ขบเม้มเบาๆทำให้ร่างเล็กยกมือขึ้นจับต้นแขนผมและออกแรงบีบเบาๆ

 

“อื๊ออออ.......พี่......” ร่างเล็กครางเสียงพร่าแทบไม่ได้ยิน เพราะริมฝีปากร้อนของผมจูบดูดไปทั่วซอกคอขาวจนลีวายส์ เคลิ้มตามเผลอตอบรอบสัมผัสของผม

 

“อืมมมมม” มือผมลูบไล่ไปทั่วร่างเล็ก เริ่มจากต้นขาเรียวลูบไล่ขึ้นมายังหน้าท้องแบนราบผ่านเสื้อตัวบาง ก่อนจะไล่ไปรอบเอวและเลิกเสื้อขึ้น ในขณะที่ยังซุกหน้าลงกับซอกคอขาวเนียน

 

“อ่ะ!.....พี่ธาร......” มือผมลูบไล่ไปทั่วแผนหลัง เมื่อร่างบางแอ่นอกสะดุ้งรับริมฝีปากร้อนที่กำลังไล่ลงมาจากซอกคอมาวนเวียนอยู่กับยอดอกสีสวย เสื้อตัวบางของมันถูกเลิกขึ้นไปกองอยู่เกือบถึงคอ

 

“อืมมมม.....ลีวายส์........รักพี่หรือเปล่า” ผมถาม ไม่รู้ว่าผมมองร่างเล็กด้วยสายตาแบบไหน แต่สายตาลีวายส์ตอนนี้กำลังเยิ้มหวานเยิ้มจนผมใจเต้นรัว

 

“รักฮะ รักมากที่สุด....รัก....อุ๊บ!” ผมทาบริมฝีปากลงไปกลืนกินคำพูดของคนใต้ร่าง แค่คำว่ารักมักก็มากเกินพอแล้วแต่ยิ่งกว่านั่น ผมกลับหลงมันมากขึ้นทุกวันๆจนแทบจะไม่อยากออกห่างจากมันเลย

 

เพียงเวลาแค่ไม่ถึงห้านาทีทั้งผมและร่างเล็ก มีเพียงร่างเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงกว้าง แท่นร้อนของผมกำลังเชื่อมเราเข้าหากันอย่างแนบแน่น ผมพยายามนุ่มนวลเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ร่างเล็กบอบช้ำน้อยที่สุด

 

“อ่ะๆๆ....พะ....พี่....อื๊อออ....อ่ะๆๆๆ” เสียงหวานครางระงมทั่วห้องนอน ผมขยับร่างแกร่งตามจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะหันไปจูบซับข้อเท้าเล็กบนบ่าที่พาดขาเรียวไว้

 

“อืมมมมม....ซี๊ดดดดด.....อ่า....อดทนหน่อย...ซี๊ดดดด” ความอุ่นร้อนภายในตอดรัดถี่รัว เร้าอารมณ์ของผมได้ดี ลีวายส์บิดกายไปมา มือเล็กขย้ำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่

 

“มะ....ไม่ไหว......อ่ะๆๆๆ....จะ....อุ๊บ!!!” ผมจะหยุดถ้าหากลีวายส์พูดคำว่าเจ็บออกมา ผมจึงต้องก้มลงกลืนกินคำพูดของมันลงคอ

 

ไม่นานร่างกายของลีวายส์กระตุกเกร็งก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขุนออกมาโดยที่ผมไม่ได้จับต้องแกนกายเล็กของมันเลยแม้แต่น้อย

 

ผมขยับสะโพกเร็วขึ้นอีกในที่สุดผมก็ปล่อยน้ำรักสีขุนออกมาเช่นกัน ผมก้นลงจูบซับหน้าผากเล็กที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อจนชุ่มไปทั่วหน้า ไล่จูบลงมาผ่านเปลือกตา จมูก ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงริมฝีปาก

 

“คงไม่ติดไข้หรอนะ.....จุ๊บ!!”

 

 

 

 

“ลีวายส์.........ลีวายส์ ตื่นมากินยาก่อนเร็ว” ผมตื่นขึ้นมาในตอนดึกหลังจากที่นอนหลับไปกับลีวายส์ รู้สึกตัวลีวายส์จะอุ่นๆ ในขณะที่อาการของผมเริ่มดีขึ้น ผมว่าคงต้องให้ลีวายส์กินยาไว้ก่อน พรุ่งนี้เป็นวันหยุดแต่ผมต้องไปทำงาน

 

“อื๊อออ....อึกๆ พี่ธาร” ร่างเล็กรู้สึกตัวขึ้นมา มันก็เรียกหาผมทันที

 

“อยู่นี่ๆ....กินยาเร็วเข้า.....อ้าปากกินเองหรือต้องป้อนให้หืม” ลีวายส์พยักหน้ารับผมเลยใช้วิธีเดิมป้อนยาให้มัน ผมอมยาและน้ำไว้ในปากก่อนจะทาบริมฝีปากกับลีวายส์ป้อนยาให้

 

“แค่ก...แค่ก”

 

“ดื่มน้ำตามเร็ว......ลีวายส์....อย่าเพิ่งหลับสิ” เฮ้ออออ งอแงทุกทีเลยจริงๆ

 

“ลีวายส์....โกรธ....พี่ธาร....ด้วย” มันพูดเสียงเบาจนผมต้อง ก้มลงไปฟังใกล้ๆ ปึก! ตามันปิดครับ แต่เหวี่ยงมือนี่ โดนเต็มๆบ้องหูเลย ตบกลับดีมั้ยวะ =_=

 

“ตัวแสบ....นอนๆ” ผมเกลี่ยแก้มใสเบาๆ ก่อนจะโอบกอดร่างเล็กไว้ในอ้อนแขน

 

Truuu........... Tru...........

 

เสียงโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงดังขึ้น ผมจึงเอื้อมมือไปหยิบเอามาดู ชื่อไอ้กายที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้ผมส่ายหน้า ไม่อยากรับเลยจริงๆ

 

“ว่า....”

 

“มึงอยู่ไหน ทำไมไม่มาร้าน.....ลีวายส์ล่ะ”

 

“กูเป็นหวัด วันนี้ไม่เข้าร้านแค่นี้แหละ” ผมว่ารีบวางดีกว่า ไอ้กายแม่ง ด่ากูหูชาอีก น่ารำคาญ

 

“เดี๋ยวๆ กูคุยกับลีวายส์หน่อย” จะคุยได้ไงมันหลับไปแล้ว เฮ้อออ “ไอ้ธาร!!! มึงไม่ได้คิดจะทำอะไรลีวายส์ใช่มั้ย พรุ่งนี้วันหยุด มึงไม่ต้องเลยนะ” ไอ้สัด กูทำไปแล้ว

 

“เออ!!!! กูรำคาญ แค่นี้นะ” ผมพูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที มันอะไรนักหนา

 

 

 

“พี่ธาร......ไปไหนอ่ะ” ผมยืนแต่งตัวอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า หันกลับไปมองลีวายส์ที่กำลังยันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง

 

“ไปทำงาน วันนี้มีงานนิดหน่อย อยู่คนเดียวได้มั้ย จุ๊บ!!!!” ผมเดินมานั่งลงข้างๆลีวายส์ก่อนจะ จุ๊บมุมปากเน้นๆ ทีหนึ่ง

 

“ไม่ให้ไปฮะ อึกๆ ลีวายส์ไม่อยากอยู่คนเดียว อึกๆ” ลีวายส์กอดเอวผมแน่น ร่างบางซุกหน้าเข้าหาแผงอกกว้างของผม พร้อมกับสะอื้นไห้เบาๆ ผมไม่อยากทิ้งมันหรอแต่ว่าผมเองก็ไม่ได้ทำงานอาทิตย์นี้หลายวัน

 

“ลีวายส์ ไม่เอา อย่าดื้อ.....ไปแป๊บเดียว ตอนเที่ยงก็แล้ว” ผมก้มลงกดจมูกหอมแก้มใส ลีวายส์เงยหน้าขึ้นมอง มีน้ำตาคลอด้วย

 

“อึกๆ....อื๊ออออ...ลีวายส์เจ็บ ลีวายส์ปวดหัวด้วย.....พี่ธารอย่าไปนะฮะ” ลีวายส์กอดแน่นไม่ยอมปล่อย เอาไงดีล่ะทีนี้ เพราะเมื่อคืนผม....เอ่อ...ทำมันนี่นะ

 

“ก็ได้ๆ....ไม่ไปแล้ว หยุดร้องนะ จุ๊บ! จะนอนต่อหรือเปล่า” เอาเถอะ เพราะผม ลีวายส์ถึงได้งอแง ผมจะอยู่ดูแลมันแล้วกัน

 

“ไม่ฮะ อึกๆ....เดี๋ยวพี่ธารหนี”

 

“ไม่หรอกนา ไหนดูซิ ตาบวมหมดแล้ว หยุดร้อง จะไปล้างหน้ามั้ย ลุกไหวหรือเปล่า” ลีวายส์สั่นหัวไปมาแทนคำตอบ ผมเสยผมที่ลงมาปรกหน้าให้ก่อนจะก้มลงจูบปากสีสดเน้นๆอีกครั้งจากนั้นก็อุ้มพาร่างเล็กไปล้างหน้า

 

กริ๊งงงงงง กริ๊งงงงงง

 

“คงไม่ใช่ไอ้กายหรอกนะ” ผมพูดกับตัวเอง หันไปหอมแก้มร่างเล็กข้างๆ เราออกมานอนในห้องนั่งเล่นบนพรมล้างโซฟากัน

 

“เอ่อ...ไอ้กายให้มาดูมึง” ไอ้เซฟมาครับ ไอ้กายนะไอ้กาย มันห่วงจริงๆ

 

“บ้าตามไอ้กายนะมึง” ผมหลบให้มันเดินเข้ามาในห้อง มันมองสำรวจไปทั่ว ผมรู้เลยว่ามองหาลีวายส์ชัวร์

 

“เออๆ ไม่ต้องมองกู กูมาดูลีวายส์นั่นแหละ กูซื้อของกินมาด้วย หิวจะตายห่าอยู่แล้ว” ไอ้เซฟว่า มันเดินตรงไปห้องครัว ผมเองก็เดินตามมันไปด้วย

 

“ลีวายส์บอกว่า....มึงรู้จักกับน้องชายคุณแพ็ทด้วยหรอวะ ที่ชื่อแพ็คน่ะ” ผมถาม ไอ้เซฟผงะเล็กน้อยก่อนจะหันมามองผม

 

“เปล่านี่.....แล้วลีวายส์รู้ได้ไง”

 

“ลีวายส์บอกว่า มึงมีรูปเค้า กูก็ไม่รู้ว่ารูปอะไร แล้วก็บอกอีกว่า มันทะเลาะกันเพราะรู้นั่น” ไอ้กายขมวดคิ้ว เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

 

“เฮ้ย!!!! จริงดิ โธ่! มันไม่ใช่อย่างนั่น ลีวายส์นะลีวายส์ งี่เงาจริงๆ” ไอ้เซฟยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง อะไรของมันนะ

 

“ยังไง”

 

“ก็....คืองี้ เมื่อหลายวันก่อนมีเด็กคนหนึ่งเมาจนเข้ามาในบ้านกู ตื่นมานะมันโว้ยวายใส่กูอีก มันคิดว่ากูเอามันด้วยล่ะ กูสาบานได้ ว่ากูไม่ได้ทำ แล้วก็เพิ่งรู้ว่ามันคือเพื่อนในห้องของลีวายส์”

 

“แล้วมึงถ่ายรูปไว้ทำไม”

 

“กะ......ก็แค่.....อยากถ่ายไว้น่ะ ใครจะรู้ล่ะว่าลีวายส์จะเห็นเข้า ยุ่งจริงๆเลยเมียมึงเนี่ย”

 

“ไอ้เซฟ!!!!” ผมตกใจกับคำพูดของมัน คำว่า เมียมึง น่ะ

 

“อะไรเล่า ตกใจหมด ทำไมต้องขึ้นเสียงด้วยวะ” ผมไม่เคยใช้คำนี้กับลีวายส์ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเพื่อนใช้กับผม ความรู้สึกของผมคือไม่อยากใช้คำนี้กับลีวายส์เลย มันไม่เหมาะยังไงก็ไม่รู้

 

“มึงอย่าพูดแบบนี้อีก” ไอ้เซฟทำหน้างง ก่อนจะจิ้มลูกชิ้นใส่ปากตัวเอง

 

 

 

 

 

“ถ้าไอ้กายรู้ มันด่ามึงหูชาแน่ กูพนันเลย” ไอ้เซฟ มองสำรวจลีวายส์ที่ยังคงนอนหลับอยู่ เพราะเพลีย และมันก็เริ่มมีไข้นิดๆ

 

“มึงก็อย่าบอกมันสิ”

 

“กูไม่บอกหรอกนา กูทำโจ๊กไว้ให้ลีวายส์แล้วนะ ส่วนของมึง มีข้างผัด กูกลับล่ะ” ผมพยักหน้ารับ ไอ้เซฟเลยเดินออกไปจากห้อง

 

“ลีวายส์ ตื่นมากินข้าวก่อนเร็ว จะได้กินยา”

 

“พี่ธาร ลีวายส์ปวดหัวลุกไม่ไหวด้วย ลีวายส์ปวดไปหมดทั้งตัวเลยฮะ” กูคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่ทำ..มันลงไป

 

“ลุกขึ้นมานั่งก็พอ” ผมบอก ดึงแขนลีวายส์ให้ลุกขึ้นมานั่ง หยิบเอาหมอนมารองหลังให้พิงเข้ากับโซฟา “กินสิ เดี๋ยวป้อน”

 

“ฮะ ดีจัง อยากป่วยบ่อยๆ พี่ธารจะได้ดูแลลีวายส์บ่อยๆ” ลีวายส์ยิ้มกว้างอย่างดีใจ

 

“งั้นหรอ” หึ! ผมยกยิ้มมุมปากกับความคิดของมันซึ่งแตกต่างจากผมอย่างสิ้นเชิง ถ้าอยากป่วยบ่อยๆ ก็ต้องทำบ่อยๆเหมือนกัน หึๆ

 

<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>>>>>>

 
มีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษด้วยยยย

ขอบคุณสำหรับเม้o  ถึงเม้oด่า(?)เราก็ยิ้ม 55555   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ว๊ายๆๆๆ ไม่ดีนะคะพี่ธารขาาาา  เว้นบ้างไรบ้าง เด๋วลีวายส์ช้ำหมด

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไปจ้า ^^

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....33
 
 
“พี่ธารฮะ....”
 
“อืม....” ผมละสายตาจากงานบนโต๊ะหน้าโซฟาไปมองร่างเล็กที่กำลังนอนหนุนตักผมอยู่ในตอนนี้ ลีวายส์เงยหน้าขึ้นมองผมตาใส
 
“พี่ธารฮะ ถ้าลีวายส์โตขึ้น พี่ธารจะทิ้งลีวายส์มั้ยฮะ” ร่างเล็กถามด้วยแววตาจริงจังพาให้หัวใจผมวูบไหว น้อยครั้งนักที่ลีวายส์คิดที่จะถามผมแบบนี้
 
“ทำไมล่ะ” ผมวางปากกาในมือ มาลูบลงบนเส้นผมนุ่มบนตัก
 
“ก็....ลีวายส์กับพ่อเราเคยเป็นคนสวิสมาก่อน คนที่โน้นถ้าเค้าเลี้ยงดูเด็ก เอ่อ ที่ไม่มีพ่อแม่อย่างลีวายส์ พอเด็กโตขึ้น เค้าก็จะ......ให้ออกจากบ้านไปทำงานหรืออยู่คนเดียว”
 
“คิดอะไรไร้สาระ ก็เราเป็น....” เป็น...พี่น้องหรอ ใช่ที่ไหน ผมไม่เคยคิดว่าลีวายส์เป็นน้องชายผมตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แฟนหรือมันข้ามขั้นมันไปแล้วด้วยสิ ส่วน....เมียหรอ จะเรียกอย่างนั่นก็ไม่ผิด แต่สำหรับผม ไม่อยากใช้คำนี้กับมัน
 
หนึ่ง ลีวายส์ไม่เหมาะกับคำนี้ สอง มันเร็วเกินไปสำหรับลีวายส์ มันอาจจะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำ....เอ่อ หมายถึงการที่เรามีอะไรด้วยกันน่ะ เพราะในความคิดของผมลีวายส์ยังเด็กและเด็กมาก
 
“เป็น...คนรักกันฮะ” ร่างเล็กยิ้มกว้างกับคำตอบของตัวเอง รอยยิ้มน่ารักสดใสของมันทำให้ผมอมยิ้มตาม
 
“ใครรักใคร....” ลีวายส์หุบยิ้มทันทีจนผมอดขำไม่ได้
 
“ก็.........ถึงพี่ธารจะไม่รักลีวายส์ ลีวายส์ก็รักพี่ธารแหละ บู้ๆ จุ๊บ!!!” พูดจบร่างเล็กผงกหัวขึ้นมาจุ๊บริมฝีปากผม
 
คำว่ารักของลีวายส์ใช่ว่าจะไม่มีค่าสำหรับผม แต่ที่มีค่ามากกว่าคำว่ารักสำหรับผมคงเป็น...ตัวมันเอง
 
เมื่อก่อนผมอาจจะไม่ยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเด็กตัวเล็กๆตรงหน้า แต่ตอนนี้ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมคิดยังไงกับมันเอาไว้ให้ลีวายส์โตกว่านี้ก่อนและให้ผมได้แน่ใจอะไรๆหลายๆอย่างก่อน ผมถึงจะบอก ว่าผมเองก็....รักมันมากแค่ไหน
 
“ตัวแค่นี้เนี่ยล่ะนะ แค่ก้าวออกจากห้องไปไม่ถึงไหนก็คงสะดุดขาตัวเองล้มแล้วมั้ง นับประสาอะไรกับจะออกไปอยู่คนเดียว”
 
“พี่ธารอ่ะ....ลีวายส์สิบห้าแล้วนะ”
 
“เนี่ยนะสิบห้า.....ขาลีบอย่างกะโอลีป ตูดก็แฟบ เอวก็บางจะขาดแล้ว นี่อะไรเนี่ย ไม้ตะเกียบขาบตัวหรือไง”
 
“อื๊มมมมม.....พี่ธารอ่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว ชิท์!!!!” ลีวายส์พลิกตัวนอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาหน้าท้องผม เพราะยังคงนอนหนุนตักผมอยู่
 
“หึๆ ถึงจะโตก็ไม่ให้ไปอยู่คนเดี๋ยวหรอก.....เก็บไว้.....ใช้งาน” ฟอด!!!!! ผมก้มลงหอมแก้มใสฟอดใหญ่ สังเกตได้ว่าแก้มใสเริ่มมีสีแดงระเรื่อขึ้นมา ดูท่ามันจะแอบเขิน ฟอด!!!!! หึๆ
 
 
กริ๊งงงงงงง       กริ๊งงงงงงงงง
 
“ไปเปิดประตูไป” ผมดึงแขนลีวายส์ลุกขึ้นนั่งก่อนจะบอกให้มันไปเปิดประตู เมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้อง บ่งบอกว่ามีแขกมา
 
“ใครมา....” ผมถาม เมื่อได้ยินเสียงฝีเท่าเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น ผมหันไปมอง เป็นแม่ที่เดินเข้ามาพร้อมกับลีวายส์
 
“ห้องสวยดีนะ.....แม่ได้มีโอกาสได้มาเยี่ยมลูกบ้างเลย” ผมเข้าใจว่าท่านกลับไปแล้วซะอีก
 
“นั่งก่อนครับ.....ลีวายส์ไปเอาน้ำมาให้แม่ไป” ลีวายส์พยักหน้ารับและเดินออกไป
 
“ธาร แม่มีเรื่องจะคุยกับลูก”
 
“ถ้าเป็นเรื่องของลีวายส์ ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว” ผมบอกเปลี่ยนจากนั่งบนพรมตรงพื้นห้องขึ้นมานั่งบนโซฟาในระดับเดียวกับแม่
 
“คุยเรื่องธารนั่นแหละ ธารมีแฟนหรือยัง....ธารอายุยี่สิบหกแล้วนะลูก แม่ว่า....”
 
“แม่ครับ ผมคิดว่านี่มันคือเรื่องส่วนตัว....แล้วอีกอย่างมันไม่ใช่เรื่องที่จะให้ใครคนไหนมาจัดการไห้ผม ขอบคุณครับ แต่ผมคิดว่าผมสามารถจัดการเรื่องของตัวเองได้”
 
“แต่ธาร ถ้าอย่างนั้น....ให้ลีวายส์ไปอยู่กับแม่นะ ลีวายส์ไม่ได้เป็นอะไรกับเราทางสายเลือด เราไม่รู้ว่าต้นกำเนิดเค้าเป็นยังไง แม่เป็นห่วง”
 
“ลีวายส์อยู่กับผมมาห้าปี ยังไงไม่พออีกหรอครับ” ดูเหมือนท่านจะกังวลเรื่องของผมมากเกินไป
 
“มันไม่ใช่อย่างนั่น ถ้าอีกหน่อยธารมีครอบครัวล่ะ ธารจะให้ลีวายส์อยู่กับธารได้ยังไง อย่างน้อยให้ลีวายส์มาเป็นบุตรบุญธรรมของแม่ก็ได้ แม่สัญญาว่าจะดูแลลีวายส์ให้ดีที่สุด” ผมเชื่อท่านนะว่าท่านจะดูลีวายส์ได้ดีอย่างที่พูดจริงๆ
 
บุตรบุญธรรมจะทำให้ผมกับลีวายส์ใช้นามสกุลร่วมกัน แต่ผมอยากให้ลีวายส์ใช้น้ำสกุลของพ่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และผมก็ไม่ได้อยากจะมีน้องชายด้วย
 
“ไม่ครับ”
 
“ธาร......”
 
“น้ำฮะ...เอ่อ มีขนมด้วยฮะ” ร่างเล็กเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าเหมือนเคย แม่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะมองลีวายส์อย่างเอ็นดู
 
“ลีวายส์ อยากไปอยู่กับแม่มั้ย”
 
“ถ้าลีวายส์ไปแล้วใครจะอยู่กับพี่ธารล่ะฮะ ลีวายส์จะอยู่กับพี่ธารฮะ” ลีวายส์พูดออกมาตามที่ตัวเองคิดจริงๆ
 
“เข้าใจแล้ว....แม่รักลีวายส์เหมือนลูกคนหนึ่งของแม่นะ....เอาเถอะ ธารว่ายังไงก็ตามนั่นแล้วกันแม่เห็นแบบนี้แล้วก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคน” ท่านยกมือขึ้นลูบหัวลีวายส์ที่นั่งอยู่กับพื้นก่อนจะส่งยิ้มให้
 
“ขอบคุณครับ” ผมตอบ
 
“ส่วนเรื่องเมื่อวาน แม่ขอโทษด้วย ลูกคงรู้สึกอึดอัดกับเอมี่”
 
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ”
 
“งั้นแม่กลับก่อนนะ ที่รีสอร์ทมีงานรออยู่ ไว้ว่างๆไปเที่ยวกันบ้างนะลูก” ท่านบอก ลีวายส์ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่ท่านพูด จริงๆก็อยากไปนะแต่ไม่มีเวลา
 
 
 
 
“พี่ธารๆ เราไปห้องพี่แมนกันนะ” เมื่อกี้เราลงไปส่งแม่หน้าคอนโดมา ระหว่างกลับขึ้นมาลีวายส์ก็นึกอยากจะแวะห้องไอ้แมน
 
“ไปทำไม....มันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้”
 
“ก็ลีวายส์อยากไป นะๆ” คิดเหมือนกันมั้ยว่าลีวายส์มันช่างอยากรู้อยากเห็นซะจริงๆ เรียกง่ายๆว่าเสือกนั่นแหละ =_=
 
“มาไม.......” ลีวายส์กดกริ่งหน้าห้องไม่นานไอ้แมนก็เป็นคนมาเปิด นี่คือแบบมันถามเพื่อนมันนะว่า...มาทำไม ไอ้สัด! “เข้ามาก่อนสิ”
 
ฟิ้ววว   
 
“อ่ะ.......” อยู่ๆก็มีกระป๋องอะไรไม่รู้ลอยตรงมาหาลีวายส์ ผมดึงร่างเล็กหลบเข้ามาอยู่ในอ้อนแขนจนพ้น ทำให้มันลอย เลยไปด้านหลับ
 
โป้ก!!!!!
 
“โอ๊ย!!!!!” โดนไอ้แมนเต็มๆครับ ดูท่าจะเจ็บไม่น้อยเพราะมันถึงกับลงไปนั่งกุมหัวกับพื้นเลยทีเดียว
 
“พี่แมน! เจ็บมากมัยฮะ” ลีวายส์ถาม มันก้มลงไปมองไอ้แมนอย่างห่วงๆ
 
“โอ๊ต!!! มึง.........เดี๋ยวมึงจะโดน!”มันลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหน้าประตูห้องนอนของมัน ห้องผมกับมันก็คล้ายๆกัน แค่ห้องผมเพิ่มห้องนั่งเล่นเข้ามาเท่านั้น “เปิดประตูเว้ย! ออกมา” มันทุบประตูห้องเสียงดังแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากบุคคลภายในเลย
 
“กลับห้องเถอะ” ผมบอกกับลีวายส์ แม่ง ไม่รู้จะมาทำไม จะมาดูไอ้แมนทะเลาะกับเมียมันหรือไง ผมเบื่อล่ะ ไม่เห็นว่าพวกมันจะดีกันได้สักนาที
 
“ก็ได้ฮะ” ลีวายส์บอก ผมดึงมือร่างบางออกมาจากห้องไอ้แมน ซึ่งเจ้าของห้องมันไม่ได้สนใจเลยว่าผมจะอยู่หรือจะไปจากห้องมัน เฮ้ออ เพื่อนกู อาการหนักขึ้นทุกวัน
 
 
 
“พี่ธารกินไอติมมั้ยฮะ” ลีวายส์เอาไอติมรสวนิลามากินหลังจากทารข้าวเสร็จ มันตักไอติมมาจ่อปากผม ผมเลยกิน ฟอด!!! ก่อนจะยื่นหน้าเลยไปหอมแก้มมันฟอดใหญ่
 
“พี่ธารอ่ะ ไอติมเลอะเลย” เพราะลีวายส์ไม่ทันตั้งตัวมันเลยทำช้อนตักไอติมเล็กๆ โดนหน้าท้องผมเข้า ผมเองก็ไม่ได้ใส่เสื้อด้วยสิ
 
“อ่ะๆ กินเลยๆ.....” ลีวายส์ทำหน้างงเมื่อผมหยุดมือมันที่กำลังเช็ดไอติมออกและบอกให้มันกิน “กินเลยนะ....ตัวเองทำเลอะ ไม่งั้นคราวหน้าไม่ซื้อให้กินแล้ว” ผมบอก ยกยิ้มมุมปาก
 
“แต่ว่า.........” ลีวายส์กัดปากล่างของตัวเอง มองหน้าท้องผมอย่างชั่งใจก่อนที่แก้มใสๆทั้งสองข้างจะขึ้นสีแดง หึๆ
 
“เร็วสิ เดี๋ยวมันละลาย ลงต่ำกว่านี้นะ” ผมบอก ตากลมโตเบิกกว่าขึ้นมองผม และยอมก้มหน้าลงไปกับหน้าท้องผม ลิ้นเล็กเลียไอติมรสหวานเข้าปากไปทั่วกล้ามเนื้อสวยตรงหน้าท้องแกร่ง พาลให้รู้สึกวูบไหวตาม
 
“หมด.....แล้วฮะ” ลีวายส์บอกเสียงแผ่ว หน้าแดงแป๊ดเงยขึ้นมาแต่ไม่ยอมมองสบตาผม ผมใช้มือจับท้ายทอยร่างเล็กเบาๆให้เชิดหน้าขึ้นมาจูบ
 
“เหนียวตัวแย่ คงต้องอาบน้ำล่ะมั้ง ไปอาบน้ำกันเถอะ” ผมบอกลุกขึ้นมาอุ้มลีวายส์ตรงเข้าไปในห้องน้ำ หึ! อย่ามองผมแบบนั่นสิ ไม่ทำอะไรหรอกนาแค่....
 
“อ๊ะๆๆ พะ.....พี่ธาร.....อ่า....ไม่ไหวแล้วฮะ....อ่าาาาาา” หลังจากที่ผมให้ร่างเล็กทำ....ให้ผมด้วยโพรงปากนุ่มๆของมัน ผมก็ทำให้มันบ้าง กลิ่นคาวฝืดของน้ำรักลงคอผมไปบางส่วนเมื่ออีกคนปลดปล่อยออกมา
 
ผมขยับเข่าของตัวเองเหยียดลง ซึ่งมีร่างเล็กนั่งคร่อมอยู่ เราลงมาแช่น้ำในอ่างพร้อมกับทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่เข้าไปในตัวมันเพราะเดี๋ยวไอ้ตัวแสบจะป่วย อีกอย่างพรุ่งนี้ก็เป็นวันเปิดเรียนด้วย
 
“อืม......ลีวายส์....จ๊วบ!” ผมจูบปากเล็กจนเกิดเสียง จ๊วบ ลีวายส์นอนคร่อมอยู่บนตัวผมร่างกายเรายังคงแนบชิดติดกัน
 
“ฮะ.....ลีวายส์.....หลับนะฮะ”
 
“หืม....จะหลับในน้ำเนี่ยนะ.....” ผมถาม ร่างเล็กพยักหน้ารับก่อนจะหลับตาลงจนปิดสนิท หึ! ผมก้มลงจุ๊บปลายจมูกเล็กอีกที ไม่นานผมก็ล่างตัวทั้งผมและมันก่อนจะออกจากห้องน้ำมานอนบนเตียง บางทีลีวายส์อาจจะเริ่มโตขึ้นแล้วล่ะ
 
 
 
“พี่กายยยยยยยย” ผมเข้าร้านในตอนค่ำ พาลีวายส์มาด้วยนั่นแหละ ไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียวอยู่แล้ว
 
“คิดถึงจูงงงงงงง.....ไอ้ธารมึงไม่ได้ทำอะไรลูกกูใช่มั้ย”
 
“มึงคิดแต่เรื่องแบบนั้นหรอไง....อยู่นี่ห้ามลงไปด้านล่างนะ เดี๋ยวกูไปดูด้านล่างก่อน” ผมบอก ลีวายส์พยักหน้ารับจากนั้นผมก็ออกมาจากห้องทำงาน
 
“เห็นไอ้แมนมายัง” ผมถามพนักงานคนหนึ่งในร้าน
 
“มาแล้วครับอยู่หลังร้าน” ผมพยักหน้ารับและเดินไปหาไอ้แมน มันยืนเท้าสะเอวยืนคุยอยู่กับคุณโอ๊ตที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ ดูท่าไอ้แมนมันจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ ผมไม่รู้ว่าพวกมันมีปัญหาอะไรกันแต่ไอ้แมนดูเครียดไม่น้อยซึ่งต่างจะคุณโอ๊ตที่เอาแต่นิ่งตลอด
 
“ไม่ให้กลับ มึงจะกลับไปทำไม ถ้ามึงไป กูจะไปด้วยเอาสิกูกลัวที่ไหน” เสียงไอ้แมนดังมา ผมหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินไปหามัน
 
“ถ้ามึงไป มึงคิดว่าจะรอดออกมาหรอ บางทีกูเองก็อาจจะไม่รอดก็ได้”
 
“โอ๊ต!.....กูเป็นคนพามึงมานะ”
 
“กูเป็นคนเลือกที่จะมาเอง” คุณโอ๊ตพูดทำให้ไอ้แมนชะงักไป สีหน้ามันดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด บางที มันอาจจะรักคุณโอ๊ตเข้าแล้ว เพราะไอ้แมนไม่เคยคิดจะทำอะไรเพื่อใครแบบนี้
 
แต่อยู่ๆไอ้แมนมันกลับยกเท้าขึ้นถีบเก้าอี้ไม้ที่คุณโอ๊ตนั่งอยู่ จนร่างบางเกือบล้มถ้าหากลุกขึ้นยืนไม่ทัน คุณโอ๊ตเลยหันกลับมาเหวี่ยงมือตบไอ้แมนเข้าให้ ดีนะที่ไอ้แมนหลบทันไม่งั้นผมว่ามันคงเจ็บหน้าดู
 
ไอ้แมนใช้มือจับไหล่คุณโอ๊ตไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างมันดึงท้ายทอยคุณโอ๊ตเข้ามาจูบหนักๆ สัด! ผมเชื่อมันเลยจริงๆ
 
“ไอ้เลว!!!” คุณโอ๊ตด่ามันหลังจากผลักออก จากนั้นก็เดินออกมา ร่างบางชะงักเท้าเมื่อเห็นผม
 
“เอ่อ......ไอ้แมน......” ผมยังไม่ทันได้พูดจบ คนโอ๊ตก็รีบหลบออกไปซะก่อน เห็นแวบหนึ่งที่แก้มใสๆเมื่อครูขึ้นสีแดงด้วยล่ะ เหอะๆ ตกลงพวกมันรักกันหรืออะไรกันแน่เนี่ย
 
“มึงแอบดูกูหรอ ไอ้ธาร”
 
“กูโตแล้วไอ้สัด ไม่ต้องแอบ” ผมบอก ไอ้แมนส่ายหน้าไปมาก่อนจะหยิบซองบุหรี่จากในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาจุดสูบและส่งมาให้ผม
 
“มีอะไรให้กูช่วยมั้ยวะ” ผมถาม
 
“กูไม่อยากให้มึงเข้ามายุ่งกับเรื่องแบบนี้ว่ะ อีกอย่างกูก็อย่างจะแก้ไขมันด้วยตัวเอง” มันบอก ไอ้แมนมันก็เป็นคนแบบนี้แหละ มันไม่ค่อยให้พวกผมไปยุ่งกับเรื่องที่จะพาลให้เราเดือดร้อนเท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็น
 
“เอาเถอะ ยังไงถ้ามึงอยากให้กูช่วย กูก็พร้อมเสมอ” ผมว่าอีก พวกผมย่อมไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว “เจอรักเข้าแล้วล่ะสิมึง”
 
“เหอะ! มึงคิดว่างั้นหรอ” ผมพยักหน้ารับทำถามของมันเป็นคำตอบ “ไปข้างในเหอะว่ะ คืนนี้กูจะเมา” อ้าว ซะงั้น
 
ผมกับไอ้แมนมานั่งดื่มกันตรงบาร์ของร้าน จริงๆผมไม่อยากดื่นหรอกแต่มันขยั้นขยอเกิน ว่าให้ผมดื่มเป็นเพื่อน ผมก็เลยนั่งดื่มมาสักพักแล้ว
 
“ธารคะ” มีเสียงทักผม ดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับมือของใครบางคนมาเกาะอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของผม
 
“อ้าว เอมี่ ไม่เจอกันนานเลยนะคร้าบบบบ” นั่นไม่ใช่ผมครับแต่เป็น ไอ้แมนที่พูดกับเธอ
 
“เอมี่ไปเรียนอักกฤษมาน่ะค่ะ แมนยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะคะ” เธอบอก ไอ้แมนเอื้อมมือเธอไปจูบหลังมือตอบแทนคำชม
 
“แล้วนี่มาหาไอ้ธารหรอ ก็คิดว่าเลิกคบกันไปแล้ว”
 
“ก็ใช่แต่ว่า.....เอมี่จะมาทวงธารคือนี่ไง” ผมปัดมือเธอที่กำลังไล่ไปตามโครงหน้าผมออก
 
“กลับไป!!!!” ผมบอกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
 
“ทำไมล่ะคะ....กะอีกแค่เด็กคนนั้นน่ะหรอ มี่สู้ได้สบายๆอยู่แล้วนา อีกอย่าง....” เธอเข้ามาโอบรอบคอผม และเอาร่างกายของเธอมาเบียดเสียดจนแนบชิดติดกัน “คืนนี้เราไปต่อกันนะคะ”
 
“ไม่ล่ะ!!!”
 
“ทำไมล่ะคะ.......เอมี่ไม่ดีหรอ หรือเพราะเด็กนั่น”
 
“ไม่ใช่ไม่ดีแต่ผม.......รังเกียจ!!!!!” ผมผลักเธอออกและเดินกลับขึ้นมายังห้องทำงานด้านบน ผมก็ปล่อยไอ้แมน แม่ง ทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ
 
คำว่ารังเกียจมันคงแรงพอที่จะทำให้เธอเลิกคิดที่จะมายุงกับผมได้นะ
 
“หลับแล้วโน้น” ไอ้กายบุ้ยหน้าไปทางลีวายส์ที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา
 
ผมนั่งลงข้างๆร่างเล็ก ลูบเรือนผมนุ่มเบาๆก่อนจะโน้มหน้าลงไปหมอแก้มใส ตอนนี้ในใจผมมีแต่มันเท่านั้น ผมควรจะเลิกนอนกับผู้หญิงคนอื่นได้แล้ว
 
“ให้มันน้อยๆหน่อย กูอยู่ตรงนี้นะ ไอ้สัด!!!” ไอ้กายมันขว้างก้อนกระดาษใส่หัวผมครับ หวงลูกหรืออิจฉาวะนั่น
 
“มึงจะกลับพร้อมกูมัย กูจะกลับล่ะ”
 
“ไม่อ่ะรอไอ้เซฟก่อน” ไอ้เซฟอีกแล้ว เฮ้อออ ผมเข้าใจมันนะว่ามันรักเพื่อนมากแต่คนอื่นสิจะเข้าใจได้อย่างผมหรือเปล่า
 
“ไอ้กาย.....บางที สิ่งที่มึงเป็นอยู่มันก็มากเกินไปจนบางคนเค้าอาจจะไม่รู้ว่ามึงคิดยังไง คนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนน่ะ” ไอ้กายเดินมานั่งลงข้างๆผม
 
“กูรู้ว่ามึงหมายถึงอะไร แต่กูไม่อยากเสียมันไปนี่”
 
“แล้วมึงอยากเสียคนที่มึงรักไปหรอ” ไอ้กายมองผมนิ่งๆ ก่อนจะสั่นหัวเบาๆ มันเอนหัวลงมาซับกับไหล่ผม
 
“กูควรทำไงดีวะ อึกๆ.....ไอ้ธาร”
 
“กูพูดแค่นี้มึงก็ร้องซะแล้ว ไหนมึงไม่ทำเป็นเข้มแข็งเหมือนที่อยู่ต่อหน้าพวกมันล่ะ” ผมผลักหัวไอ้กายออกแรงๆ
 
“พี่ธาร! ทำพี่กายร้องไห้หรอฮะ!!!”  ลีวายส์ลุกขึ้นมาทำหน้าตาตื่นตกใจ
 
“จะบ้าหรือ มันทำตัวเองเหอะ ไปกลับบ้าน มึงด้วยไอ้กาย....กลับพร้อมกูเนี่ยแหละ”
 
“ไปฮะพี่กาย....พี่ธารอ่ะ นิสัยไม่ดี ชอบทำพี่กายอยู่เรื่อย”
 
=_= นี่ตกลงกูผิดใช่มั้ย ไอ้กายหันมาแลบลิ้นใส่ผมตอนเราออกจากห้องทำงาน ผมเลยเตะขามันกลับจังหวะนั้นลีวายส์หันมาเห็นพอดี
 
“เห็นมั้ยอ่ะ พี่ธารใจร้าย!”
 
“ช่ายยยย อึกๆ ไอ้ธารใจร้าย คืนนี้ลีวายส์นอนบ้านพี่กายมั้ย ห้องพี่กายเกมเยอะเลย”
 
“เอ่อ....ไม่ดีกว่าฮะ......ลีวายส์อยากกลับไปนอนกับพี่ธาร” หึๆ เป็นไงล่ะเด็กกู ผมยักคิ้วให้ไอ้กายก่อนจะผลักมันออกจากลีวายส์ และดึงลีวายส์มากอดคอไว้
 
“ฟอด!!!! พรุ่งนี้เลิกเรียนจะพาไปซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่”
 
“ไอ้เหี้ยธาร.....ไอ้สัด!!!!”
 
 
<<<<<<<TBC>>>>>>>>

ก็แต่งไปเรื่อยๆอ่ะนะ แบบ ก็ไม่รู้สินะ *&^%$$#@!


อย่าเพิ่งเบื่อล่ะกัน >/./<
 
 
มีอะไรผิดพลาดต้องของโทษด้วยน้าาา

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ไม่เบื่อค่ะ แต่งมาเรื่อยๆน๊าาาา เค้ารออ่านเสมอๆ
รู้สึกว่าตอนนี้ทุกคู่จะมีปัญหาเข้ามาเนอะ
แต่พี่ธารเด็ดขาด ชัดเจนมาก ชอบค่ะ
ลีวายส์จะได้ไม่เสียใจเนอะ

ขอบคุณนะคะ รอตอนต่อไปจ้า ^^

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
พี่ธารจะเป็นคนดีแล้ว!! o13

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อิพี่ธารเนี่ยเดี๋ยวจับหอมเด๋ียวจับน้องจูบตลอดเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ลึวายน่ารัก ดีแล้ว อีธารเริ่มคิดได้ว่าไม่ควรนอนกับ  คนอื่นอีก
เพราะถ้าลีวายรู้คงเสียใจมาก

กายรีบเครียตัวเองเถอะสงสารเซฟกับพี่หมอ

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....34
 
 
[โอ๊ต:Part]
 
“สุดที่ร๊ากกกกกกกกกกกกกกก” ที่รักพ่องมึงสิ!!! ผมเกลียดคนเมาที่สุดเลยรู้มั้ย ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะพามันไปทิ้งไว้กลางถนนปล่อยให้รถ แม่ง! เหยียบไปเลย
 
“เงียบหน่อยได้มัย!” ผมกัดฟันบอกไอ้แมนที่กำลังเมาเหมือนหมา ไม่ใช่หมาธรรมดานะ หมาบ้าด้วย เดินไปก็ผลักคนอื่นเค้าไปทั่ว
 
“ทำไม! ก็ไม่ชอบเงียบอ่า มึงรู้มั้ย กูเกลียดที่สุดเลยตอนมึงเงียบใส่กู กูเกลียดดดดดดดดดดดดด”
 
“เออ ไอ้สัด!!!” ผมเอาแขนมันที่พาดกับคอผมเพื่อประคองตัวขึ้นมาบนห้องออก ทำให้ร่างสูงทิ้งตัวลงบนโซฟา แต่เพราะสติมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้มันกลิ้งตกลงพื้น
ทิ้งให้นอนนี่แหละแม่ง
 
“มึงทิ้งกูหรอ.....มึงจะไปจริงๆใช่มั้ย!!!!” แต่อยู่ๆ ร่างสูงกลับลุกขึ้นมาดึงแขนผมที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องนอนไว้ ก่อนจะออกแรงบีบต้นแขนผมจนเจ็บ
 
“ปล่อยกู! มึงเมามากแล้ว!!!” ผมบอก พยายามดิ้นให้หลุด มันเอาแรงมาจากไหนกันเมื่อกี้ ยืนก็แทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว
 
“ไม่!!! กูไม่ปล่อยให้มึงไปง่ายๆแน่ๆ” มันเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ไอ้แมนดึงผมเข้าหาตัวก่อนจะซุกไซ้ซอกคอลงมาสลับซ้ายขวา
 
ริมฝีปากร้อนขบเม้มแรงๆ ยังไม่พอมันจะขบเม้มฝังเขี้ยวจนรู้สึกเจ็บ นี่มันบ้าที่สุด ถึงผมจะรู้ว่ามันชอบทำรุนแรงแค่ไหนแต่นี่มันไม่ใช่แล้วล่ะ
 
“ปล่อยกู ไอ้เลว ปล่อย!” ผมผลักร่างสูงออก แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวเท้าหนีเข้ามาหลบในห้อง มันกลับตามมาผลักผมลงบนเตียงกว้าง
 
“มึงเป็นของกู....เป็นเมียกูนะ” ไอ้แมนพาร่างหนาๆ ของตัวเองทับทาบลงมา ซุกไซ้ซอกคอจากด้านหลังผมที่กำลังอยู่ในท่านอนคว่ำจากที่มันผลักผมเมื่อกี้
 
“อ่ะ!!” มือหนาลูบไล่ไปทั่วช่วงล่างของผม ผ่านกางเกงยีนสีซีด และมันก็มากพอที่จะทำให้ผมเกิดความรู้สึก จนต้องกัดฟันแน่น
 
“ความรู้สึกเร็วดีจังนะ....เมีย งับ!” มันงับใบหูผมหลังจากพูดออกมา มือหนาปลดเข็มขัดและดึงกางเกงผมออกก่อนจะใช้มือรวบมือทั้งสองข้างของผมไว้และใช้มืออีกข้างถอดเสื้อตัวเองตามด้วยเสื้อของผมด้วย
 
“ไอ้.....อุ๊บ” นิ้วเรียวของมันถูกสอดเข้ามาในโพรงปากผม
 
“ดูดสิ ถ้าไม่กูจะให้ดูดที่ใหญ่กว่านี้ จุ๊บ!!!” ไอ้โรคจิต ไอ้เหี้ย ไอ้สัด!!! ผมได้แต่ด่ามันอยู่ในใจก่อนจะทำตามที่มันบอก นิ้วเรียวขยับเข้าออกในโพรงปากให้ผมดูดจนชุ่ม
 
“อ่ะ!!!” ไอ้แมนก้มลงกัดบั้นท้ายผมจนผมสะดุ้งเฮือก จากนั้นลิ้นร้อนก็เริ่มเลียวนไปทั่วทั้งพวงไข่สองลูก ทำให้ผมถึงกับเม้มปากเพราะวูบช่องท้องจนอยากปลดปล่อยเต็มที
 
“อืม.......หวานชะมัด” กูเกลียดมึง ไอ้เลว จะทำเสียงเซ็กซี่ไปไหน
 
ลิ้นร้องลากผ่านร่องก้นขึ้นมาเลียวนอยู่ตรงช่องทางรักของผมที่กำลังตอดขมิบรัว ก่อนจะดันลิ้นเข้าไปภายในให้ผมขมิบเล่น
 
“อ่าาาาา......ไอ้.......อ่าาาาา” ผมครางเสียงพร่าอย่างกลั้นไม่อยู่ บนเตียงเหมือนมีกองไฟกำลังสุมไฟร้อนได้ที่
 
“จะใส่แล้วนะ.........ที่รัก เอาแบบวิเดียวเสร็จเป็นไง” พูดจบ ร่างสูงก็ไม่รอช้ามันถอดกางเกงตัวเองอย่างรอดเร็วก่อนจะหันมาจับสะโพกผมและแทรกกายเข้ามาเต็มลำ จากนั้นก็ขยับใส่ไม่ยั้งทั้งเร็วและแรงจนน่าใจหาย
 
“อ๊ะๆๆๆ อ๊ะๆๆๆๆ.....ช้าๆ....อ๊ะๆๆๆ....อ่าาาาาาา” เสร็จเร็วอย่างที่มันบอกจริงๆ ผมของเหลวอุ่นร้อนไหลออกมาและรู้สึกเจ็บช่องทางรักด้านหลังมาก ผมคิดว่ามันต้องฉีกขาดจนเลือดออกแน่ๆ แทนร้อนของผมถูกมือหนาขยับรูดเอาน้ำรักออกเพราะเพิ่งจะปลดออกมาเช่นกัน
 
“ไปกินบรรยากาศข้างนอกกันหน่อยมั้ย....” ไอ้แมนกระซิกบอกข้างหูผม แต่มันหรือจะรอให้ผมตอบ ร่างสูงอุ้มผม พาไปยังระเบียงห้องนอน
 
“ไม่นะ....ปล่อยนะ” นี่มันบ้าจริง ถึงจะดึกแล้วก็เถอะ แต่นี้มันใจกลางเมืองนะ ป่านนี้อาจจะมีคนเห็นก็ได้
 
“ไม่เป็นไรนา ใครเห็นก็ช่างมันสิ จ๊วบ!” ร่างสูง จูบแผ่นหลังผมไปทั่ว มันทำรอยไว้ทุกทีที่ริมฝีปากร้อนลากผ่าน ไอ้แมนพยายามให้ผมยืนเกาะราวระเบียงแต่ผมไม่ยอม ผมทรุดตัวนั่งลงกับพื้นแทน
 
แต่มันก็ใช่ว่าจะหยุด มือหนาจับไหล่ผมให้หันมาหาตัวเองก่อนจะ นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าผม มันจับขาผมขึ้นพาดบ่าจนผมต้องใช้มือสองข้างยันพื้น จากนั้นมันก็เริ่มสอดใส่และแทรกกายเข้ามาอีกครั้ง
 
ไม่รู้ว่าเราหยุดกันเป็นรอบที่เท่าไหร่ในตอนรุ่งสาง ผมรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัวจนแทบจะขยับไม่ได้ ผมค่อยลืมตาขึ้นช้าๆ ปรับสายตาให้เข้ากับแสงภายในห้องนอน ผ้าชื้นๆถูกทาบลงตรงแก้มซ้ายก่อนจะกดลงมาเบาๆและเปลี่ยนไปแก้มขาว
 
“ลุกไหวมั้ย....” ไอ้แมนถาม ก่อนจะช่วยประคองผมที่กำลังยันตัวลุกขึ้นมานั่ง
 
เพี้ย!!!!!
 
“ไอ้เลว!!!!”
 
“ขอบใจ.......กูเลวทุกวัน วันหยุดก็เลว” ดูมันสิ สำนึกซะที่ไหน แต่แปลกที่วันนี้แววตามันดูเศร้าลง ไม่เหมือนปกติ หรือจะเป็นเพราะ....เราที่ผมบอกว่าจะกลับไปหาพี่ชาย
 
“ถอยกูจะไปอาบน้ำ”
 
“อาบอะไรกัน ตัวร้อนอย่างเนี่ย แล้วก็....กูเอาออกให้แล้วไม่ต้องห่วง กูทำแล้วรับผิดชอบ” ไอ้บ้า!!! แม่ง!
 
“ไอ้.......” ป่วยการที่จะด่ามันครับ “กูหิว” ผมบอกอีก มันลุกขึ้นออกไปจากห้องทันที และกลับมาพร้อมกับข้าวไข่เจียว
 
“อ่ะ.....กินซะ จะได้กินยา หรือให้กูป้อน ฉากนี้จะได้ดูดี”
 
“ไม่ต้อง ไอ้สัด!!!” ผมดึงจานข้าวไข่เจียวจากมือมัน ไอ้แมนยกยิ้มมุมปากก่อนจะโน้มหน้าลงมาหอมหน้าผากผมและเดินออกไปจากห้องนอน
 
ทิ้งให้ผมรู้สึกวูบไหวไปกับมัน กะอีแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยมันกลับทำให้ผมอ่อนไหวมากว่าสิ่งที่มันทำรุนแรงกับผมอีก นี่มันบ้าชัดๆ ผมควรทำยังไงดีถ้าหากผมไม่อยากไปจากที่นี่แล้ว
 
“ไปไหน....!!!” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงไอ้แมนดังมาจากโต๊ะทำงานด้านนอก เมื่อผมเปิดประตูออกมา เพราะผมคิดว่ามันออกไปทำงานแล้ว
 
“เซเว่น” ผมบอก เดินตรงไปยังประตูด้านนอก ได้ยินเสียงมันปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานก่อนจะเดินตามมา
 
“มึงไม่เป็นไรนะ” อะไรของมันอีก วันนี้มาแปลก แค่นี้ผมไม่ป่วยหรอ แค่กินยาก็หาย เพราะผมไม่ใช่คนขี้โรค
 
“เอามาโบโร่ แบล็ค มิ้นซองนึ่ง” ผมบอกกับพนักงานสาวเซเว่น
 
“ไม่เอาน้อง เอาหมากฝรั่งมินต์” ไอ้แมนมายืนข้างๆผม ผมมองไอ้แมนด้วยหางตา กูจะสูบมันเรื่องของกู
 
“เอามาโบโร่ มึงอย่าเสือก”
 
“เอ่อ พี่คะ พอดีมาโบโร่หมดค่ะ ขอโทษด้วย” ไอ้แมนยักคิ้วให้ผมแบบกวนๆ ก่อนที่มันจะจ่ายเงินค่าของทั้งของที่มันซื้อและของผมด้วย
 
“ทำไมมึงไม่ลองลดลงบ้างวะ บุหรี่น่ะ ปอดเป็นรูหมดแล้วมั้ง” แหม พูดอย่างกะมึงสูบน้อยๆอย่างนั้นแหละ กูมาแรกๆ ก้นบุหรี่กองเท่าภูเขา
 
“มึงลดก่อนสิ” ผมบอก เกาะไอติมกินระหว่างเดินกลับคอนโด
 
“ได้แต่มึงต้องให้กูดูดนมทุกวัน กูเลิกได้เลยนะ”
 
“ไอ้สัด!!! ไปไกลๆกู” ผมผลักหน้าหล่อคมของมันให้ออกห่างๆจากหน้าผม เพราะมันเล่นยื่นหน้ามากระซิบข้างหูน่ะสิ
 
“อ้าว กูพูดจริง เดี๋ยวกูให้ดูดกลับก็ได้” ถ้ากูไม่เสียดายไอติมกูจะเอามายัดปากมึงเลย
 
อยู่ๆมีรถหรูสีดำสองคันวิ่งมาจอดเทียบฟุตบาทใกล้ๆกับทางเดินที่พวกผมกำลังเดินกลับคอนโด คนในรถทำให้ผมเปิกตากว้าง ปล่อยไอติมในมือลงพื้น ไอ้แมนจับมือผมไว้และบีบเบาๆ สีหน้าของมันนิ่งเฉย
 
“โอ๊ต กลับไปกับพี่....และอย่าให้กูต้องพูดซ้ำ” พี่โอ๊ตปลายตามองไอ้แมนก่อนจะพูดกับผม ผมรู้ว่ายังไงพี่โอ๊ตก็ต้องหาผมเจอ
 
“ไม่ได้ โอ๊ตจะอยู่กับผม” ไอ้แมนบอก มันคิดว่าตัวเองจะเอาชนะพี่ชายผมได้งั้นหรอ  ผมกระตุกมือมันไม่ให้พูดต่อ
 
“ผมขอเวลาอีกสองวัน” ผมบอก
 
“ไม่! มึงต้องกลับเดี๋ยวนี้” พี่โอ๊คบอก ลูกน้องของมันสองคนเข้ามาจะจับตัวผม
 
“เฮ้ย!!!! ไม่มากไปหน่อยหรอวะ เป็นพี่น้องกันจริงๆหรือเปล่า ทำไมไม่เข้าใจน้องชายของตัวเองว่าโอ๊ตมันต้องการอะไรแบบไหน ไม่คิดถึงจิตใจของมันบ้างหรอ”
 
“เงียบปาก!!! กูเห็นว่ามึงเป็นน้องของไอ้มาศกูเลยไม่เอาเรื่อง เพราะ พวกมึงสองคนหยุดแค่นี้จะดีกว่า ไปโอ๊ต” พี่โอ๊ค จับข้อมือผมก่อนจะดึงแรงๆแต่ไอ้แมนมันก็จับมือผมอีกข้างไว้เหมือนกัน
 
“ไม่ มันจะอยู่ที่นี่” ไอ้แมนผลักพี่โอ๊ตออกไปก่อนจะตามไปซัดหมัดหนักๆ ตายห่า! แล้วคนของพี่ผมก็เข้าไปจับมันไว้สิทีนี้
 
“มึงกล้ามาก.....จัดการมัน” พี่โอ๊ตสั่งกับลูกน้องของตัวเองเสียงเข้ม ถ้าผมยังนิ่งอยู่มีหวัง ไอ้แมนได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่
 
“พวกมึงหยุด!!! ห้ามใครทำอะไรมัน!!!!” ผมเข้าไปถีบลูกน้องคนหนึ่งของพี่ชายกระเด็นออกไป พี่โอ๊คมองผมอย่างไม่เข้าใจเพราะปกติผมไม่เคยปกป้องใครมาก่อน
 
“ก็ได้......กูจะให้เวลาอีกสองวัน ถ้ามึงยังไม่กลับ รู้ใช่มั้ยว่าใครจะเดือดร้อนมากกว่ากัน” ผมเข้าใจความหมายของพี่โอ๊คดี ถ้าผมไม่กลับไปแต่งงานพี่โอ๊คก็จะเดือดร้อนแต่นอกจากนั้น ไอ้แมนก็จะโดนพี่โอ๊คเล่นงานจนย่อยยับเลยก็ได้
 
พี่โอ๊คกลับไปแล้ว ผมและไอ้แมนก็กลับมาที่ห้องทันที ไอ้แมนเงียบตลอดทางขากลับขึ้นห้อง ไม่พูดไม่จา สีหน้าเรียบเฉยจนผมอ่านไม่ออกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
 
ปัง!!!!!!!!
 
ผมเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง ตามมาด้วยไอ้แมน มันเดินตรงไปยังห้องนอนก่อนจะปิดประตูเสียงดัง จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงข้าวของภายในห้องที่โดนขว้างปาโครมคราม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันบ้าอีกแล้ว
 
ผมทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า อยากหายตัวไปจากโลกนี้ซะเหลือเกินแต่ความเป็นจริงแล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ งั้นก็ช่วยไม่ได้ว่ะ ผมคงต้องหาทางออกให้กับตัวเอง.........
 
“ฮัลโหล เมล์หรอ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย...............”
 
..............................................
 
“เปิดประตู!!! จะเปิดไม่เปิด” ผมเรียกคนในห้องน้ำ ที่มันเข้าไปเป็นชั่วโมงหลังจากที่ มันได้ระบายอารมณ์กับข้าวของภายในห้องเสร็จเรียบร้อย จนตอนนี้ห้องนอน แม่ง ดูไม่ได้เลย แทบจะไม่มีที่เหลือให้นอนเลยด้วยซ้ำ
 
แกร๊ก!!!! มันเปิดประตูออกมา มีผ้าขนหนูพันรอบเอว ตัวก็ไม่เช็ดผมก็เปียก ผมสังเกตเห็นตรงหลังมือมันมีแผลด้วย 
 
“ถ้าไม่โง่ทำไม่ได้นะมึง” ผมพูดก่อนจะเดินผ่านมันเข้าห้องน้ำ เหอะ!
 
“...................................” ผมออกมาจากห้องน้ำในเวลาต่อมา ไอ้แมนยังไม่ได้แต่งตัว มันยังนั่งนิ่งใช้ความคิดอยู่ปลายเตียง
 
“อ่ะ!” มันคว้าเอวผมเข้าไปกอด แต่ยังคงนิ่งไม่พูดจา
 
 
 
“โอ๊ต! กูว่า.......กูรักมึงว่ะ” ผมนิ่งอึ่ง กับสิ่งที่มันพูดบอก ‘รัก’ มันจะเกิดขึ้นกับผมและมันได้หรอ ทั้งที่ผมกับมันไม่มีอะไรที่เข้ากันได้ดีเคยซักอย่าง
 
“เอ่อ......ปล่อยกูก่อน” รู้สึกเหมือนน้ำท่วมปากยังก็ไม่รู้สิ
 
“ไม่ กูจะไม่ยอมปล่อยมึงไปง่ายๆแน่ กูเชื่อว่ามันต้องมีทางออก” ผมเองก็เชื่ออย่างนั้น มันกอดผมแน่นขึ้นอีก
 
“ปล่อยกู!!!”
 
“ไม่!!!”  เพี้ย!!!!
 
“กูอึดอัดเว้ย!!! แม่ง หายใจไม่ออก!!! ต้องให้ลงไม้ลงมือใช่มั้ย ไอ้เหี้ย” ตบบ่องหูแม่งเลย รู้ว่าตัวเองแรงเยอะยังจะกอดแน่นอีก เอวกูจะขาดอยู่แล้ว
 
“เจ็บนะ!!! มึงชอบตบกูจริงๆ มานี่ กูตบบ้าง” เอาจริงๆถ้ามันตบผมบ้าง ผมคงหน้าหันหัวหลุดพอดีแต่มันกลับ....
 
“มึงกล้า....อุ๊บ!!!!!!” มันดึงผมเข้าหาตัว ก่อนจะกดริมฝีปากลงมาหนักๆ ผมปล่อยให้มันดูดจูบอยู่สักพัก แล้วไม่นานมือไม้มันก็เริ่มอยู่ไม่สุข เดี๋ยวมึงโดน!
 
“อ่ะ...เอ็บๆๆ อ่อยๆ” ผมกัดลิ้นมันครับ มันถึงจะยอมหยุด
 
“แต่งตัว! กูอยากไปกินข้าวข้างนอก” ผมบอก ไอ้แมนมองผมแบบงงแต่ก็ยอมลุก
 
“เออๆ รอแป๊บ เจ็บเลยแม่ง!!!” มันง้างมือทำท่าตบผม แต่ผมรู้ว่ามันไม่กล้าหรอก ผมเลยเชิดหน้าใส่ ร่างสูงกัดปากตัวเองอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะยื่นหน้ามาขบเม้มซอกคอผมจนเกิดรอย
 
“ไอ้เหี้ย!!!” ทำไมต้องรู้สึกวูบไหวด้วยก็ไม่รู้ อยู่ๆหน้าก็ร้อนแปลกๆขึ้นมา โอ้ย!!!
 
แลมโบกีนี่สีเขียวเข้ามาจอดในห้างดัง ผมลงจากรถพร้อมๆกับไอ้แมน ไอ้แก่ ยี่หกแล้ว(หรือเปล่า) ยังจะแต่ตัวเป็นเด็กไปได้ ใส่เสื้อยืดสีเหลืองทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงยีนขาเดฟตึง เปรี๊ยะจนผมอึดอัดแทน ใส่กับรองเท้าฝ้าใบสีเหลือ นี่ถ้ามันไม่โกนหนวดนะ ผมไม่เดินข้างมันแน่นอน
 
 
“เฮ้อออ....แล้วจะซื้อทำไม” มีบ่นครับ ก็เมื่อกี้ผมอยากกินชาไข่มุกแต่พอซื้อมากินกลับหวานมากเกินไป ผมเลยส่งไปให้มัน
 
“เสียของ” ผมบอก
 
“เออ! ก็โยนมาให้กูล่ะเนี่ย” ถึงจะบ่นแต่มันก็กินอ่ะนะ
 
“อ้าว ไอ้โอ๊ต” เจอไอ้ยีนครับ เพื่อนผมที่มอเดี๋ยวกัน มันมากับผู้หญิงน่ารักเชียว เอ๊ะ!!! ปกติผมไม่เคยมองใครน่ารักเลยนะ
 
“เออ...”
 
“ไม่ไปเรียนหลายวันเลยนะ ตามงานทันป่ะ แล้วนี่มากับใครอ่ะ” เพราะไอ้แมนมันยืนมอง ร้านขายซีดีอยู่เลยดูเหมือนเราไม่ได้มาด้วยกัน
 
“มากับคนขับรถ” =_=
 
“เหี้ยสิ รุ่นพี่ๆ” มันหันขวับมาบอก อ้าว ฟังอยู่หรอกหรอ
 
“เอ่อๆ อย่าลืมตามงานล่ะ กูไปนะ อ่อจริงสิ เมื่อกี้เห็นเทียนด้วยอ่ะ คงไม่ได้นัดมึงไว้ใช่ป่ะ” เทียนที่ว่าคือเพื่อนที่มอและเหมือนเธอนะชอบผม
 
“เปล่า” ไอ้ยีนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับแฟนของมัน
 
“ใครคือเทียร เทียรคือใคร แล้วเกี่ยวไรกับมึง หรือว่ากิ๊กมึง นี่มึงนอกใจกูหรอ” เอากับมันสิ
 
“ไม่ใช่.....นอกใจเหี้ยรัย!!! บ้านมึงสิ” โอ๊ะ!!! มันชักสีหน้าใส่ผมด้วย แล้วกูเป็นไรกับมันเนี่ย
 
“กูกินร้านนี้.....อ้าว!” ผมหันไปบอกกับไอ้แมนแต่ไม่ได้ดูว่ามันเดินเลยผมไปแล้ว เหมือนผมมาคนเดียวเลย ดูมันจะสนใจไปซะทุกอย่าง ตอนนี้มันกำลังเดินไปยังร้านกล้องถ่ายรูป แล้วพอมันรู้ตัวว่าผมไม่ได้อยู่ข้างๆ มันก็หมุนสามร้อยหกสิบองศาหา มีตกใจด้วย ทำเอาผมหลุดขำ
 
“ทำไมไม่เดินตามมาล่ะวะ” มึงสิ เดินทิ้งกูยังจะมาว่ากูอีก
 
“กูจะกินร้านนี้ มึงเดินเหมือนมาคนเดียว” ผมบอกและเดินเข้าไปในร้านโดยไม่รอมัน
 
“ก็นานๆที กูถึงจะได้มา มีเวลาซะที่ไหน” มันตามมานั่งลงกับโต๊ะสำหรับสองที่ ที่ผมมานั่งก่อน
 
“ไม่มีเวลา?”
 
“ก็มีตอนมึงมาอยู่กับกูเนี่ยแหละ” ผมเงยหน้าจากเมนูอาหาร มามองสบตากับมันที่กำลังจ้องมองผมอยู่ก่อนแล้ว
 
“สั่งสิ มองอยู่ได้” เป็นผมเองที่ต้องหลบสายตาของมันก่อน
 
“มึงก็มองกูเหมือนกัน” บางทีมันก็หน้ามึนเกินว่ามั้ย
 
 
 
“มึง ไม่ไปทำงานหรอ” ผมถามระหว่างขึ้นมาบนห้องหลังจากกลับมาถึงคอนโดเมื่อครู่ ในช่วงเย็น
 
“ไม่ล่ะ กูอยากอยู่กับมึง” บางทีอาจจะไม่ใช่แค่มันที่คิดแบบนั้น ผมเองก็เหมือนกัน พรุ่งนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน....เอ่อ หมายถึงที่ผมจะได้อยู่ที่นี่น่ะ
 
“กูอาบน้ำก่อน” ผมบอก เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอว “ถ้ามึงไม่อาบก็ออกไปก่อน” ผมบอกอีกเพราะรู้สึกได้ว่ามันกำลังมองผมเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
 
“ใครว่า....กูจะอาบพร้อมมึง” เฮ๊ะ!!! มันดึงผมเข้ามาในห้องน้ำแล้วครับ ผ้าขนหนูเกือบหลุดแม่ง
 
“ไม่ๆ กูไม่อาบ ปล่อย!!!” แล้วผมก็ห้ามมันไม่ได้ สุดท้ายผมจึงต้องลงมานั่งหน้าบูดอยู่ในอ่างน้ำกับมัน
 
“กูไม่ทำไรหรอกนา มึงยังเดินข้าถ่างอยู่ หันหน้ามาสิวะ เดี๋ยวถูตัวให้” กูเชื่อมึงตายล่ะ ขนาดกูใส่เสื้อผ้าอยู่ มันยังหื่นขึ้น แล้วนี้ เสื้อผ้าก็ไม่มีซักชิ้น เหี้ย!
 
“ไม่ต้องกูถูเอง”
 
“จุ๊บ!!! ไหนบอกลบรอยสักไปแล้วไง” มันจูบลงไปบนไหล่ซ้ายด้านหลังของผม จริงๆผมปิดมันไว้กับเยื่อหนังเทียมตอนที่เจอมัน และผมก็รู้ว่ามันคงไม่เชื่อที่ผมโกหกว่าลบออกไปแล้ว เพราะจริงๆแล้วมันลบไม่ออก ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เลยคิดจะลบจริงๆ
 
“ก็มันเสือกลบไม่ออก”
 
“เพิ่มอีกเอามั้ย หลังมึงสวยดี” มันบอกไม่หื่น ไม่คิดจะทำอะไรแต่มือข้างหนึ่งกอดเอวผมไว้ส่วนอีกข้างกำลังลูบแผ่นหลัง นี่เค้าเรียกไม่หื่น? =_=
 
“ไม่เว้ย!!! ปล่อยเลยไหนบอกไม่ทำอะไรไง”
 
“เปล๊า....ทำอะไร...ยังไม่ทำอะไรเลย หันมาเร็วเดี๋ยวถูสบู่ให้”
 
“ไม่ๆ ก็บอกว่าถูเองไงวะ” ผมปัดมือมันออกจากไหล่ เอาจริงๆนะ ผมอาย ไม่รู้สิว่าทำไมต้องอายทั้งที่เราก็ เอ่อ แบบเคยๆกันน่ะนะ
 
“งั้นเอางี้” เฮ้ย!!! มันจับไหล่ผมให้เอนหลังไปผิงแผงออกมัน ก่อนจะเอาแขนสองข้างกดทับไว้ไม่ให้ผมลุกขึ้น
 
“เน้!!!! กูบอกให้ปล่อยไง” ผมใช้มือดึงผมมันครับ ผมทำให้มันโน้นหน้าลงมาจนปลายจมูกเราเกือบชนกัน
 
“หน้าแดงทำไมวะ หน้าแดงทำไม่คะ ที่รัก!” คะพ่อง!!! มันยักคิ้วกวนส้นตีนด้วย อ๊ากกกกกกก แม่ง!!! จากที่อายอยู่แล้วผมก็อายเข้าไปใหญ่เลยกดหัวมันลงมาจูบซะเลย มันจะได้ไม่เห็นว่าผมอายไง (ความคิดดีว่ะ)  >/////<
 
<<<<<<<<<<TBC>>>>>>>

คิดว่าโอ๊ต โดนไม่โดน

แหมระดับแมน คงเชื่อได้หรอก =_=

ปอลิง.ช่วงนี้อาจลงไม่ถี่นะค่ะคนโพสติดกิจกรรมรับน้อง

เหนื่อยมากๆๆๆๆ :hao5:  :hao5:  :hao5:

แต่ถ้าว่างจะมาโพสให้โดยด่วน  รักคนอ่านคนเม้นคร๊าบ :mew1:  :mew1:  :mew1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โฮๆๆๆ ไม่อยากให้แยกกันเลยอ่ะ พี่โอ๊คเข้าใจน้องด้วยนะคะ
อยากรู้จังว่าโอ๊ตคิดจะทำไร จะทิ้งแมนไปหรอ ไม่น๊าาาาา T_T

รอตอนต่อไปค่ะ ลุ้นมากมาย ^^

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

โดนแน่ ไม่เหลือ เสี่ยแมนซะอย่างงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
เวลาโอ๊ตมาพูดเองแบบนี้น่ารักไปอีกแบบ
ไม่อยากให้สองคนนี้ต้องเจออุปสรรคเลย
โอ๊คเข้าใจน้องหน่อยสิ เค้าจะไปแต่งงานได้ไง สามียืนอยู่นั้นน
แมนไปสู่ขอกับที่บ้านโอ๊ตเลย ให้รู้กันไป


ปล.เสร็จแมนแน่ๆ มีเรอะจะทนไหว 555

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โอ๊ตซึนอ่าาาาา ส่วนแมนก้อ S
สมกันเกินไปแระค่ะ =_=
แต่ยังไงก้ออยากให้สมหวังน๊าาาา

ปล. พึ่งอ่านมาทันคร้า ชอบคู่หลัก ธารxลีวายส์ ที่สุดคร้าาาาาา ^O^

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
พี่โอ๊คจะมาเอาโอ๊ตไปแร้ววว
แมนทำไงดีๆๆ

 :katai5:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
พี่โอ๊คอย่ามาดราม่านะ
แง้วๆ

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....35
 
[กาย:Part]
 
เหล่านักเที่ยวกลางคืนมากหน้าหลายตากำลังโยกย้ายไปตามเสียงเพลงร็อคหนักๆ ที่คอยสร้างความบันเทิงในผับยามนี้ แสงไฟหลากสีส่องวิบวับท่ามกลางความมืดสลัว ชวนให้เคลิบเคลิ้มไปกับบรรยายกาศรอบข้าง 
 
“กาย นั่งดีๆดิ๊”เซฟ ดึงต้นแขนผมให้ออกห่างจากใครคนหนึ่งข้างๆโต๊ะ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าไปพิงเข้าตอนไหน
 
“คืนนี้กูนอนกับมึงได้ป่ะ” ผมถาม เซฟมีเงิบครับ ฮ่าๆๆๆ “กูล้อเล่นนา......กูขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” จริงๆนะ   กลับไปก็นอน จะนอนก็นอนไม่หลับ ผมเป็นแบบนี้มาราวๆเกือบอาทิตย์แล้วล่ะ
 
“งั้นมึงก็นอนนี่ แต่กู...นัดสาวไว้เว้ย มึงนอนคนเดียวนะ” มันบอก ผมรู้นา ว่ามันออกตัวไม่อยากให้ผมอยู่กับมันอ่ะ
 
“เออ! กลับบ้านก็ได้ แต่....มึงต้องไปส่งกูก่อน โอเค๊!!!”
 
“เออออออ กูไปส่งอยู่แล้ว คร้าบบบบบบบ”
 
“คึคึๆ ขอบใจไอ้เพื่อนนนน จ๊วบบบบ” ผมยื่นหน้าไปจูบแก้มมันจ๊วบยาว จนน้ำลายติดแก้มเลย
 
“กาย........!!!”
 
ผลั่ก!!    เพล้ง!!!
 
ผมถูกใครบางคนดึงออกมาจากโต๊ะ ก่อนที่เซฟจะถูกผลักออกไป มือมันปัดโดนขวดแก้วตกแตกลงพื้น
 
“มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงเข้มบอก ใบหน้าคมมีแววตาโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั่นก็ยังดูหล่อ น่าหลงใหลเช่นเคย
 
เราไม่เจอกันนานหลายวันจนผมคิดว่า เราจะจบกันแล้วซะอีก แต่ไม่ซิ เรายังไม่เคยตกลงจะคบกันเลยด้วยซ้ำ ผมสะบัดแขนออกจากมือหนากะจะไปช่วยพยุงเซฟให้ลุกขึ้น แต่อีกคนกลับกระชากแขนผมให้เดินตามขึ้นมาบนห้องทำงานด้านบนแทน
 
“ปล่อยนะ!!!! มีสิทธิอะไรมาทำเพื่อนกู!!!!!” ผมโว้ยวายเสียงดังแข่งกับเสียงดนตรีด้านล่างด้วยความโกรธ
 
“แล้วกาย มีสิทธิอะไร ไปทำแบบนั้นกับมัน!!! กายจะเอายังไงกันแน่!!! พี่หมดความอดทนแล้วนะ”
 
“งั้นก็ไม่ต้องทน!!!! ออกไป!!!!” พี่หมอขบกรามจนเส้นเลือกผุดขึ้นข้างแก้ม แววตาดุดันน่ากลัว มันทำให้ผมสั่นเล็กน้อย
 
“ทำไมกายถึงใจร้ายกับพี่นัก” พี่หมอกัดฟันพูด “สิ่งพี่ทำมันยังไม่ชัดเจนใช่มั้ย หรือพี่ต้องทำมันให้ชัดเจนมากกว่านี้ ห๊ะ!!!!” เสียงตะคอกดังกองไปทั่วห้อง ก่อนที่ผมจะถูกร่างสูงรวบตัวเข้าหา
 
“นี่!!! นายจะทำอะไรน่ะ อ่ะ! ปล่อย.....อุ๊บ!!!” ผมไม่เคยคิดมาก่อน ว่าพี่หมอจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ มันดึงเสื้อผมจนกระดุมขาด ก่อนจะซุกไซ้ซอกคอสลับกับจูบดูดรุนแรง
 
“กายทำตัวเอง.....” คำพูดของพี่หมอทำให้ผมน้ำตาซึมออกมา ผมผิดตรงไหน....ทำไมพี่หมอไม่เข้าใจผมบ้าง ตลอดเวลาหลายวันที่เราไม่เจอกัน...ผมเอาแต่คิดถึง อยากเห็นหน้า อยากโทรหา อยากคุยด้วย แต่ผมเลือกที่จะรอ รอให้พี่หมอมาหา...รอที่จะได้คุยกันให้รู้เรื่อง แต่พอมาเป็นแบบนี้ผมกลับคิดว่า ผมไม่น่ารอมันเลย
 
“อึกๆ.........ทำไม.....อึกๆ......ทำไมไม่ฟังกันบ้างวะ อึกๆ” ผมสะอื้นไห้ออกมา พร้อมกับน้ำตา ในขณะที่ร่างสูงยังคงซุกไซ้ซอกคอไม่เลิก
 
“กาย....!!!!” พี่หมอชะงักนิ่ง และหยุดการกระทำบ้าๆของมัน เมื่อรู้ตัวว่าผมกำลังร้องไห้อย่างหนัก จริงๆผมไม่อยากร้องต่อหน้ามันนะ แต่...ผมรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หมายถึงปัญหาที่ว่า...ทำไมเราถึงไม่เข้าใจกัน
 
แกร๊ก....
 
ประตูห้องถูกเปิดออกโดยเซฟ มันเบิกตากว้างเมื่อเห็นสภาพของผม ตอนแรกมันทำท่าจะเดินเข้ามาแต่พอพี่หมอหันไปมอง มันกลับถอยหลังออกไปและปิดประตูลง
 
พี่หมอถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับตาลงคล้ายกับพยายามข่มอารมณ์ตัวเอง และจับมือผม พี่หมอจูงมือผมมาขึ้นรถ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันจะพาผมไปไหน ได้แต่นั่งนิ่งๆ อาการสะอื้นค่อยๆหายไป ตอนนี้มีเพียงคราบน้ำตาที่หลงเหลืออยู่
 
 
 
 
“น้ากายยยยยยยยยยยยย ไข่มุกคิดถึงจังเลย” ตายจริง นี่เที่ยงคืนแล้ว ไข่มุกยังไม่นอนอีก
 
“ไข่มุกไปนอนไปเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสายนะคะ” พ่อกับลูกเค้าคุยกันครับ
 
“ไข่มุกอยากนอนกับคุณพ่อค่ะ นะๆๆๆๆ”
 
“ไม่ค่ะ วันนี้คุณพ่อเหนื่อย ไข่มุกไปนอนกับพี่เจนนะคะ” ไข่มุกทำปากยื่นนิดๆเมื่อโดนขัดใจ ให้กลับไปนอนกับพี่เลี้ยง
 
“ก็คุณพ่ออ่ะ ทำไมกลับมาถึงไม่พักก่อนล่ะคะ กลับมาก็ออกไปรับน้ากายเลยอ่ะ ก็เลยเหนื่อยไง” กลับมา นี่หมายถึงออกเวรที่โรงบาลหรือเปล่านะ
 
“ก็พ่อคิดถึงน้ากายนี่” ไม่ต้องเหล่กู กูยังโกรธอยู่ “ไข่มุกไปนอนนะคะ อุตส่าห์ตื่นมารับคุณพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณพ่อจะไปรับที่โรงเรียน แล้วก็พาไปให้น้ากายเลี้ยงขนมด้วย เอามั้ย” อ้าว เรื่องไรของผมล่ะ ลูกใครลูกมันสิ ลูกผมน่ะ ลีวายส์โน้น (ก็ไอ้ธารมันไม่รับเป็นลูกผมเลยรับแทน)
 
“ก็ได้ค่ะสัญญา จุ๊บ! จุ๊บ!”เอิป เค้าสัญญาอะไรกัน “สัญญากับน้ำกายด้วยค่ะ...จุ๊บ! จุ๊บ!” ร่างเล็กดึงมือผมให้ก้มลงและจุ๊บแก้มซ้ายขวาเช่นเดียวกับพ่อของตัวเองแล้วก็เดินจากไป =_=
 
พี่หมอดึงมือผมเข้ามาในห้องของมัน ผมยังคงเงียบไม่พูดจาส่วนอีกคนเปลี่ยนจากตอนอยู่ในผับอย่างสิ้นเชิง พี่มันปล่อยให้ผมนั่งอยู่ในห้องโดยที่ตัวเองเข้าไปอาบน้ำ
 
ไม่นานมันออกมาจากห้องน้ำ ผมเข้าใจนะว่าห้องนอนเป็นของมันแต่ว่า.....มันก็น่าจะเกรงใจสายตาผมบ้าง เล่นใส่ผ้าขนหนูเปลือยท่อนบนอย่างเนี่ย แบบ ผมอาย(จนหน้าแดง)แทน
 
“กาย......” ร่างสูงเดินมาตรงหน้าผมก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นซึ่งผมนั่งอยู่บนปลายเตียง พร้อมกับจับมือผมไว้ “พี่ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
 
“..............”พี่หมอเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาที่บ่งบอกว่ามันรู้สึกผิดจริงๆ และแปลกมากที่ความโกรธที่ผมมีกับมัน จางหายไปในพริบตาแต่ก็นะ....   ผมยกมือขึ้นกอดอกเบือนหน้าหนี คึคึ
 
“โธ่กาย ลองคิดดูสินาทีนั่น ถ้ากายเห็นคนรักกำลังนั่งจูบอยู่กับผู้ชายคนอื่น กายจะทำยังไง”
 
“ก็จะเตะไข่มันให้แตกเลย! แล้วอีกอย่าง ผมไม่จูบกับเซฟซะหน่อย!!! อย่ามากล่าวหากัน”  ผมผลักไหล่คนตรงหน้าอย่างเคืองๆ
 
“ไม่เรียกว่าจูบได้ไง ปากจะ.....” ยังไม่หยุดพูดอีก ผมเลยส่งสายตาคมๆไปมอง “โอเค....งั้นเราก็อย่าโกรธกันเรื่องนี้เลยนะ”
 
“.....................” ผมเงียบ ไม่ได้ตอบอะไร พี่หมอยิ้มนิดๆ เพราะรู้ว่าจริงๆผมก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมาย แล้วมันก็กลับมาจับมือผมอีกครั้ง
 
“กาย......พี่ว่าเรามา....เป็นแฟนจริงๆจังๆกันสักทีนะ” ดวงตาสีนิลจ้องลึกเข้ามานัยน์ตาผม “พี่อยากให้ช่องว่างของเราลดลง กายรู้ใช่มั้ยว่าพี่คิดยังไงกับกาย”
 
“..................” รู้สิ รู้ว่าพี่หมอมีใจให้ผมและผมเองก็มีใจให้พี่หมอเช่นกัน
 
“ตลอดเวลาที่เราไม่ได้เจอกัน พี่คิดเรื่องของเรามาตลอด ไม่รู้ว่า กายจะโกรธพี่เรื่องเซฟมากขนาดไหน แต่พี่ไม่ได้โกรธกายเลยนะ พี่แค่ไม่ชอบตอนที่เห็นกายอยู่กับมันบ่อยๆ และพี่ก็รู้ว่ากายรักเพื่อนมาก เพราะงั้นพี่คิดว่า พี่อยากจะ เข้าใจกายให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เรามาเป็นแฟนกันนะ กาย”
 
“.........................” ผมควรตอบตกลงใช่มั้ย หรือว่า ยังไง แต่หัวใจของผมมันตอบตกลงไปแล้ว
 
“นะ......กาย” พี่หมอสบหน้าลงบนตักผมเพราะ ยังคงนั่งอยู่บนพื้นห้อง
 
“อืม..” ผมครางตอบเสียงไม่ดังนัก แต่ก็ทำให้ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมามอง ส่วนผมก็อมยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนีแก้เขิน
 
“จริงสิ.....” พี่หมอปล่อยมือผมก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาจากโต๊ะทำงานและเดินกลับมา คราวนี้มันนั่งลงข้างๆผม “จริงๆ อยากจะให้ตั้งหลายวันแล้วล่ะ แต่ไม่มีโอกาส”
 
พี่หมอเปิดกล่องนาฬิกาแบรนด์ดัง ตัวเรือนเป็นเงิน รอบๆมีเพชรฝังสี่จุดดูเก๋ดี ไม่ได้ดูหรูหราจนเวอร์ แต่ก็ดูท่าว่าจะแพงพอสมควร พี่หมอสวมมันให้ผม จริงๆผมไม่ใช่คนชอบใส่นาฬิกาอย่างมัน เพราะมันเป็นหมอด้วยล่ะจึงต้องใส่นาฬิกาติดตัวตลอด
 
“รู้มั้ย ว่า...เวลามันมีค่ามากสำหรับพี่ ตอนนี้เราช่วยรักษาคนไข้ กายก็เปรียบเสมือนเวลาสำหรับพี่เหมือนกัน” พูดจบ ริมฝีปากอุ่นจัดทาบลงมากับริมฝีปากของผมอย่างนุ่มนวลและร้อนแรงสลับกัน
 
ร่างสูงเปลี่ยนมาบดจูบอ่อนหวานน่าหลงใหลจนยากที่จะปฏิเสธได้ ผมจับต้นแขนพี่หมอไว้ก่อนจะจูบตอบกลับไปเช่นกัน เราจูบกันเนิ่นนานจนกระทั่งอีกคนเริ่ม เลยเถิด หึ! คิดจะรวบหัวรวบหางล่ะสิ ไอ้หมอเจ้าเล่ห์
 
“อืม.....พอ.....คิดจะทำไร....รู้นะ” ผมกัดริมฝีปากล่างตัวเองหรี่ตามองพี่มัน “ผมยัง...ไม่พร้อมอ่ะ”
 
“โธ่กาย....เราโตๆกันแล้วนะ..ชิท์! แล้วเราก็เป็นแฟนกันแล้วด้วย”
 
“ก็จะทำไมล่ะ.....โตไม่โตไม่เห็นเกี่ยว อีกอย่าง.....ไหนบอกไข่มุกว่าเหนื่อย ไปนอนเลยไป”
 
“จำไว้ๆ ถ้า....เมื่อไหร่ล่ะก็ จะทบต้นทบดอกยันเช้าเลย จุ๊บ!!!” ไอ้บ้า ยันเช้าอะไรกัน พูดออกมาได้ ไม่อายปาก
 
“บ้า!!! ถอยไป จะอาบน้ำ แล้วก็ไปแต่งตัวได้แล้ว ดูสิไม่อายบ้างหรือไงนั่งเปลือยอยู่ได้” ผมดันไหล่คนตรงหน้าเบาๆก่อนจะลุกขึ้น
 
“ถึงจะเปลือย กายก็ไม่เห็นหวั่นไหวเลย” เสียงทุ้มดังไล่หลังตามผมเข้ามาในห้องน้ำ ไม่หวั่นไหวอะไรล่ะ กูหน้าแดงไปถึงหูตั้งแต่มันออกมาแล้ว ไอ้หมอบ้า!!!
 
 
 
“เย้ๆ คุณพ่อจะพาไข่มุกไปกินไอติมใช่มั้ยคะ” วันนี้พี่หมอเข้าเวรเช้าและออกเวรช่วงเย็นเลยทิ้งรถไว้ให้ผมไปรับไข่มุกแทน
 
“ใช่สิ เดี๋ยวเราไปรับคุณพ่อไข่มุกกัน” ผมบอก ไข่มุกกระโดดขึ้นมานั่งบนรถจากนั้นอีกไปถึงยี่สิบนาทีเราก็มาถึงโรงพยาบาล
 
“ขอบใจมากนะรัตน์ โอ้ย! เมื่อยไปหมดเลยเนี่ย” เสียงพี่หมอ
 
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรัตน์นวดให้บ่อยๆนะคะ” เอาล่ะสิ ผมกับไข่มุกหยุดยืนมองหน้ากันอยู่หน้าห้องทำงานของมัน ไข่มุกกัดปากแน่น ก่อนจะผลักประตูเข้าไป
 
“คุณพ่อ!!! ทำอะไรคะ!” ไข่มุกเดินไปนั่งลงบนโซฟาข้างๆมันซึ่งด้านหลังพนักพิงมีผู้หญิงใส่ชุดพยาบาลยืนอยู่สองมือของเธอวางอยู่บนไหล่พี่หมอ
 
“เอ่อ....อะไรคะไข่มุก พี่รัตน์เค้าแค่เห็นว่าพ่อเมื่อยเลยมานวดให้” มองลูกมึงสิไม่ต้องมองกู - -
 
“ไม่นวดอย่างอื่นด้วยล่ะ” อันนี้ผมบอกครับ หญิงสาวในชุดพยาบาลเลิกคิ้วมองผมก่อนจะไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเหยียดๆ อ้าวอีนี่ ตบกะกูมั้ย(?)
 
“พี่หมอ ก็เมื่อยบ่อยๆล่ะ รัตน์ก็เข้ามานวดให้บ่อยๆ ดูท่าพี่หมอจะถูกใจนะคะ” มานวดบ่อยๆงั้นหรือ “ไว้รัตน์จะมานวดให้ใหม่นะคะ” นางก้มลงพูดข้างหูไอ้หมอ(เปลี่ยนสรรพนาม) และหันมายกยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกไป ห่าราก นี่กูต้องทำศึกกับผู้หญิงหรอ ไม่เอาว่ะ ไร้สาระ
 
“ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย คิดอะไรกันอยู่เนี่ย”
 
“ไข่มุกไม่ชอบคนนั้น คุณห้ามเข้าใกล้นะคะ ไข่มุกโป้งคุณพ่อด้วย เน้อ พี่กาย เราโกรธคุณพ่อนะคะ” เออๆ ใช่โกรธ เฮ้ย!!! นี่ผมโกรธด้วยหรอ
 
“โธ่....ไข่มุก เอาล่ะ ไปกันเถอะ คุณพ่อออกเวรแล้ว” ไอ้พี่หมออุ้มไข่มุกขึ้น “กาย คุณถือเสื้อกับกระเป๋าให้ผมด้วยนะ” หน้าที่กูหรอเนี่ย ภาพแม่งออกจะเหมือน พ่อ...แม่....ลูก ><
 
“อ้าว รัตน์ออกเวรเหมือนกันหรอ” อะไรวะตามมาหรือไง นางมายืนอยู่ข้างๆรถครับ ไม่รู้หายตัวมาตอนไหน
 
“ค่ะ นี่ก็ว่าจะไปแวะห้างซะหน่อยน่ะค่ะ” หราาาา สตอป่าว
 
“ไปด้วยกันมั้ย พี่ก็กำลังจะไปเหมือน.....กัน” ทั้งผมและไข่มุกหันขวับไปมองจนมันเพิ่งรู้ตัวว่าคิดผิดที่พูดชวนเธอไปด้วย “เอ่อ....หรือยังไง...”
 
“ไปค่ะ ก็ดีเหมือนกัน”
 
“แต่ไข่ไม่อยากไปกับคนอื่นนี่คะ ไข่มุกไปชอบ” ไข่มุกกอดคอคนเป็นพ่อแน่น
 
“ไข่มุกคะ เราต้องมีน้ำใจรู้มั้ย อีกอย่างเราไปทางเดียวกัน ไปด้วยกันเนี่ยแหละนะคะ ใช่มั้ยกาย”
 
“ก็ไม่รู้สินะ!” ผมตอบแค่นั้นก่อนจะเดินผ่านมันไปขึ้นรถด้านข้างคนขับพร้อมกับไข่มุก
 
“เอ่อคือว่า.....รัตน์เมารถน่ะค่ะ ให้รัตน์นั่งด้านหน้าดีกว่ามั้ยคะ รัตน์กลัวทำรถพี่หมอเลอะ” ด้านหน้าหรือหน้าด้าน! สาบานว่านางตอแหลยิ่งกว่านางร้ายในละครอีก
 
“เอ่อ....งั้นหรอ.....” พี่หมอมองผมนิด ไม่ต้องออกปากไล่กูลงเอง ผมเลยลงจากรถและเปลี่ยนมานั่งด้านหลังแทน
 
“ไข่มุกมานั่งกับพี่รัตน์มั้ยคะ” นางพยาบาลสาวบอก
 
“ไม่เอา! ไข่มุกไม่ชอบนั่งกับคนอื่น ไข่มุกจะนั่งกับพี่กาย” ไข่มุกลงตามผมขึ้นมานั่งด้านหลัง พี่หมอมองผมผ่านกระจกมองหลังก่อนจะเปลี่ยนไปมองลูกสาวตัวเองที่กำลังนั่งกอดอกหน้าบึ่ง และแอบเหงื่อตกนิดๆ
 
เมื่อมาถึงห้างหญิงสาวชื่อรัตน์ก็แยกออกไป เห็นเธอบอกว่าพี่ชายมารับแต่ผมว่าไม่เชื่อเพราะดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็น ผัว เฮ้ย!!! แฟนมากกว่า
 
“นี่ๆ อย่ามองกันแบบนั้นสิ พ่อผิดอะไรล่ะไข่มุก พี่ไม่ได้อะไรกับเค้าเลยนะกาย” มีร้อนตัว เหอะๆ ผมก็ไม่ได้อะไรกับเธอหรอกเพราะรู้ดีว่าพี่หมอมันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น
 
“คุณพ่อใจดีผิดคนแล้วค่ะ พี่คนนั้นอ้อร้อจะตาย” ทั้งผมและพี่หมอตกใจกับประโยคของไข่มุกจนต้องหันไปมองพร้อมกัน
 
“ไข่มุก! ไปได้ยินมาจากไหนคับ รู้มั้ยไม่น่ารักเลยนะ” ผมบอก
 
“นั่งสิ เอาใหญ่แล้วนะ รู้ตัวหรือเปล่า ว่าคำแบบเนี่ยเด็กไม่ดีเค้าพูดกัน หรือจะให้พ่อตี” พอโดนว่าเป็นชุดนางก็เริ่มน้ำตาซึมครับ
 
“อึกๆ ก็ไข่มุกไม่ชอบคนนั้นนี่นา อึกๆ ไข่มุกไม่อยากให้คุณพ่อไปยุ่งกับเค้า อึกๆ” สุดท้ายนางก็ปล่อยโฮ่ออกมา ไข่มุกกอดผมที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำเอาผมไปไม่ถูกเลยทีเดียว
 
“พ่อไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย แค่ไม่ชอบให้ไข่มุกพูดไม่ดี รู้มั้ย”
 
“พอๆ เพราะพี่นั่นแหละมันเริ่มจากพี่ ไข่มุกไม่รู้เรื่องก็เลยพูดออกมา ไม่ต้องร้องนะเดี๋ยวพี่กายพาไปซื้อของเล่น เอาเยอะๆเลย นะๆ” ผมบอก มองพี่หมออย่างตำหนิ
 
“เฮ้อออ พี่ผิดตลอดดดดดดดดด”
 
 
 
 
“ทำไม่ ต้องมาส่งไข่มุกก่อนล่ะ ไม่แวะส่งผมก่อน” ผมถามระหว่างนั่งรถ หลังจากที่เราไปส่งไข่มุกที่บ้านในช่วงค่ำ ทั้งที่จริงๆแล้วจะแวะส่งผมก่อนก็ได้
 
“พี่....จะพากายดูอะไรนิดหน่อย” อะไรของเค้านะ ชิท์!
 
“มาหาใครหรอ” ผมถามเมื่อพี่หมอพาผมมายังคอนโดหรู ออกห่างมาจากใจกลางเมืองไม่มาก แต่ไอ้พี่หมอมันไม่ตอบ จูงมือผมเข้ามาอย่างเดียว
 
“สวยมั้ย กายว่า” พี่หมอเปิดห้องๆหนึ่งบนชั้นบนสุดของคอนโด ภายในห้องตกแต่งอย่างหรูหราบ่งบอกถึงราคาที่น่าจะสูงนับกว่าสิบล้าน
 
“สวย.....มาก! อย่างบอกนะว่า...ซื้อคอนโดนี้น่ะ”ผมถาม ก็ไม่แปลกหรอก เพราะมันรวย!
 
“อืม.....กายชอบมั้ย” ผมเดินมาหยุดยืนมองหวิวภายนอกผ่านกระจกใสบานใหญ่ มองเห็นภาพสวยงามจากดวงไฟในเมืองใกล้ๆยามค่ำคืน พี่หมอเดินมายืนซ้อนหลังผมก่อนจะกอดเอวผมไว้แบบหลวมๆ
 
“เพื่ออะไร.....เนื่องในโอกาส?”
 
“เรือนหอมั้ง” ฟอด!!! ผมอมยิ้มเมื่อโดนร่างสูงหอมแก้มฟอดใหญ่ พี่หมอกระชอบอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก ปลายคางมันวางไว้กับไหล่ผม
 
“เรือนหอบ้าไร ไม่ได้แต่งงานซะหน่อย”
 
“หรือกายจะแต่งงาน พี่ก็ทำให้ได้นะ มีลูกด้วยก็ได้ เอามั้ย” ฟอด!!! ไอ้บ้าแก้มช้ำหมดแล้วเนี่ย
 
“จะบ้าหรอ แล้วอีกอย่าง เราก็เป็นแค่....แฟนกันเหอะ คิดไกลแล้ว” ผมยกมือขึ้นบีบจะหมูกร่างสูงอย่างหมั่นไส้
 
“ก็กายมาเป็นภรรยา พี่ไง”
 
“บ้าน่ะสิ แล้วตกลง ซื้อทำไมจะมาอยู่ที่นี่หรอ” เปลี่ยนเรื่องๆ เดี๋ยวผมละลายซะก่อน
 
“อืม....จริงๆก็อยากซื้อบ้านนะ แต่ว่า...มันกว้างเกินที่จะอยู่สองคน” พี่หมอปล่อยอ้อมกอดออก จับข้อมือผมดึงไปนอนลงบนโซฟาตัวยาวโดยให้ผมนอนอยู่บนตัวของมัน
 
“กับไข่มุกน่ะนะ...แล้วใครจะดูแลไข่มุกตอนที่พี่ไปทำงานล่ะ”
 
“ก็กายไง”
 
“กายหรอ....จะให้กายมาอยู่นี่หรอ ได้ไงกันล่ะ”
 
“ได้สิ......” พี่หมอพลิกตัวทีเดียวก็กลายเป็นว่ามันขึ้นมาคร่อมผมอยู่ด้านบน “กายมาอยู่กับพี่นะ มาดูแลพี่กับลูกของเรา”
 
“แต่ว่า....ไข่มุกยังเด็ก จะรับเรื่องแบบนี้ได้หรอ อีกอย่างไข่มุกก็เป็นผู้หญิง” นั่นสิ ผมเห็นผู้ใหญ่บางคนก็ยากที่จะรับเรื่องแบบนี้ หมายถึง ชายรักชายน่ะ
 
“ได้สิ เชื่อพี่นา พี่อยากลองมีครอบครัวดู ถ้าเกิดยังไง เราก็ค่อยให้ไข่มุกกลับไปอยู่กับแม่ที่บ้านก็ได้”
 
“อยากมีครอบครัว......งั้นก็ไปเอาผู้หญิงสิ” ผมบอกเพราะแวบหนึ่งคิดถึงครอบครัวแบบพ่อแม่ลูกที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา
 
“ไม่เอา!....เอากายเนี่ยแหละ” พูดจบร่างสูงก็ทาบริมฝีปากลงมากับปากผม รสจูบนุ่มนวลและร้อนแรงสลับกันเหมือนเช่นเคย “ให้พี่นะ”
 
“ไม่ให้....!!!”
 
“ก็จะเอา...คืนนี้ไม่รอดหรอก...เชื่อสิ” ผมอบยิ้มนิด ก่อนจะหลบสายตาพริ้มหนาวเยิ้มของร่างสูง
 
จากนั้น ริมฝีปากร้อนก็ลงมาฝากรอยไว้ตรงซอกคอย้ำๆ สลับกับกลับขึ้นมาบดจูบริมฝีปาก ท่อนล่างของเราต่างเบียดเสียดกันอย่างแนบชิดจนไร้ซึ่งอากาศแทรกผ่าน ผมรู้สึกดีและดีมาก จนตอนนี้ปล่อยให้ร่างกายทำตามที่ใจต้องการ
 
“อ่ะๆๆๆ........พี่รักษ์” ผมครางลั่นห้อง ในขณะที่ร่างสูงขยับอยู่บนโซฟากำลังพาผมไปถึงจุดสุดยอด ร่างกายของคนบนร่างผมเต็มไปด้วยเหงื่อโซกกาย
 
“กาย...ซี๊ดดดดด....อ่า.....กาย.......อ่า....” พี่หมอเองก็ครางเรียกชื่อผมไม่ขาดสายเช่นกัน ต่างคนต่างสุขสม และยังไม่คิดจะหยุดถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้วสามรอบ
 
“อ่าาาาาาา......” ร่างกายผม กระตุกเกร็งเมื่อรู้สึกว่ากำลังปลดปล่อย ก่อนจะแอ่นอกขึ้นนิดๆและไม่นานน้ำรักสีขุ่นก็พุ่งออกมาจนเต็มหน้าท้องเฉกเช่นเดียวกับอีกคนที่ปล่อยน้ำรักเข้ามาในตัวผม
 
“ยังไหวมั้ย...” พี่หมอเสยผมตรงหน้าผากผมขึ้น ก่อนจะถาม มันไม่คิดจะหยุดจริงๆหรอเนี่ย
 
“ไม่เอาแล้ว....กายปวดท้อง” ผมบอก พยายามเอื้อมไปหยิบเอาเสื้อของตัวเองมาใส่ “อ่ะ!!!...พี่หมอ!!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อพี่หมอแกล้งขยับตัวเพราะมันยังคงแช่ลำไว้ในตัวผม
 
“อ่า....อีกรอบนะ....นะกาย” ปฏิเสธหรอ ก็อยากอยู่แต่มันพูดไปขยับไปนี่ กูปฏิเสธได้มั้ย เจ็บเป็นนะเว้ย!!!
 
“รอบเดี๋ยวนะ....อ่ะๆ...นี่” มันจะรีบไปไหนนนนนนนน ผมยังไม่ทันพูดจบก็เดินเครื่องทันที แม่ง!!!
 
 
 
“ก็บอกว่า....อ่ะ! พี่หมอ เจ็บนะ!!!” พี่หมอกำลังล่างตัวให้ผมครับ ยังไม่พอ มันยังมาเอาน้ำรักของมันออกให้ด้วย แต่มันโคตรเจ็บอ่ะ
 
“พี่ทำให้นา กายทำเองเอาออกไปหมดเดี๋ยวปวดท้องนะ” เออ! ผมควรเชื่อหมอใช่มั้ย
 
“ก็เบาๆหน่อยสิ....อ่ะ! เจ็บ”
 
“ตอนทำกับตอนนี้ ตอนไหนเจ็บกว่ากัน” ถามเหี้ยไรเนี่ย
 
“ไม่รู้เว้ย! เสียเปรียบฉิบหายเลย เจ็บอยู่คนเดียว อ่ะ!!! เน้!!! เบาๆสิ” ผมโว้ยวายใส่ มองเห็นตัวเองในกระจก แม่ง ตัวแดงอย่างกะเป็นไข้เลือดออก ช้ำไปหมด
 
“เสร็จแล้วๆ....เสร็จแล้วครับ เมีย” ฟอด!!!
 
“เมียบ้าไรล่ะ อายปากบ้าง!!!”
 
“อายทำไม ตอนทำไม่เห็นอายเลย” เราพูดเรื่องเดี๋ยวกันใช่มั้ย ถามจริง!!! =_=
 
<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>>

รีบมาลงกลัวนักอ่านค่อยนาน(หรือเปล่า) =_=^

ขอบคุนนักอ่านทุกคนนะค่ะทั้งคนที่เม้นหรือนักอ่านเงาเราดีใจมาก

ที่มีนักอ่านหน้าใหม่และขาประจำมาอ่านมาเม้นให้ :mew1:  :mew1:

เพิ่งแต่งไม่นานภาษาหรือสำนวนอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ก้อหรือมีอะไรผิดพลาดต้องของโทษด้วยน้า

มีอะไรติชมได้ค่ะ 

ปล.อยากสอบถามเรื่องรวมเล่มอ่ะค่ะใครสนใจรบกวนช่วยตอบหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ จิ้มโลด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2014 12:54:15 โดย ampmiya^^ »

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โฮๆๆๆ ดีใจสุดๆ อยากให้คู่นี้ดีกันนานแล้ว
กาย รักเพื่อนได้ แต่ก็ต้องคิดถึงจิตใจของพี่หมอด้วยนะ

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไป ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
เพิ่งเห็นว่าเอาลงที่นี่ด้วย
สู้ๆ จ้า

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ดีใจกับพี่หมอแล้วก็กาย ดีกันแล้ววว
กายไม่ต้องห่วงเซฟนะ ยังไงก็มีเด็กแพคด้ามใจแน่นอน

ดูเหมือนพี่หมอจะรีบปั้มน้องให้ ไข่มุกเลย กี่รอบล่ะนั้นนนน

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....36
 
 
[ลีวายส์:Part]
 
“เอาล่ะค่ะ ครูจะให้แบบกลุ่ม กลุ่มละสี่คน และก็ให้นักเรียนไปสำรวจพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งตามหัวข้อที่ครูให้ เพื่อทำรายงานและใช้ในการเรียนคาบหน้า มีคะแนนเก็บจากการทำรายงานด้วยนะคะ เลิกเรียนได้ค่ะ”  ทีเชอร์บอก ก่อนที่ทุกคนในห้องจะทำความเคาพรเพื่อบอกล่าเหมือนทุกๆครั้ง
 
“ลีวายส์เราอยู่กลุ่มเดียวกันนะ” บุ๊ค ซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าหันมาบอกกับลีวายส์
 
“ได้สิ แต่ว่า สี่คนไม่ใช่หรอ แล้วอีกคนล่ะ” นั่นสิ ปกติกลุ่มเราก็มีสามคนอยู่แล้ว เพื่อนในห้องก็อยู่กันเป็นคู่ๆโดยส่วนใหญ่
 
อยู่ๆ คนที่นั่งข้างๆลีวายส์ก็ยกหัวขึ้นจากการฟุบหลับกับโต๊ะ รู้ใช่ป่ะว่าใคร ก็นายแพ็คไงล่ะ
 
เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยทะเลาะกันฮะ ต่างคนเหมือนต่างอยู่ แต่ก็มีคุยกันบ้างก็ตอนที่ต้องทำงานกันเป็นคู่ ซึ่งลีวายส์จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะคู่กับมัน ก็มันมานั่งข้างลีวายส์นี่นา
 
“ก็ แพ็คไง” เรเนสออกความคิดเห็น
 
“ก็ได้ เขียนชื่อไปเถอะ ยังไงเราก็ทำสามคนก็ได้อยู่แล้ว” บุ๊คบอก เหอะๆ มันก็จริงล่ะนะ เพราะตอนทำงานเป็นคู่ๆ ลีวายส์ก็ทำคนเดียว นายเนี่ยมันสนใจจะช่วยซะที่ไหน
 
“นั่งสิ ใส่ๆไปก็แล้วกัน ชิท์” ลีวายส์พูดเหน็บ มันรู้ตัวฮะเลยผลักหัวลีวายส์ ลีวายส์ยังไม่ทันได้เอาคืน นายแพ็คก็ลุกออกจากโต๊ะไปซะก่อน
 
   Tru.....
 
เสียงโทรศัพท์ฮะๆ ลีวายส์รีบๆ ล้วงออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูเผื่อพี่ธารโทรมา แต่ว่า...........ข้อความอ่ะ =_= เมื่อวานพี่ธารซื้อให้ใหม่แล้วล่ะ น่ารักที่สุด(?)
 
“.....................” โทรเองก็ได้ฮะ ตอนนี้พักเที่ยงฮะลีวายส์กำลังเดินไปโรงอาหารพร้อมกับบุ๊คและเรเนส
 
(ว่า............) พี่ธารรับซะ เหมือนไม่อยากคุย แต่ก็นะ! ปกติของเค้าล่ะ
 
“ทานข้าวยังฮะ พี่ธารทำงานอยู่หรือเปล่า”
 
(ยังเลย ทำงานอยู่.......ไร้สาระนา......ไปเรียนไป)
 
“พักเที่ยงอยู่ฮะ โทรนิดเดียวเอง วันนี้ลีวายส์ขอไปสำรวจพื้นที่แถวริมแม่น้ำใกล้ๆโรงเรียนได้มั้ยฮะ”
 
(ไม่ได้! เลิกเรียนแล้วจะไปรับ) ว่าแล้วเชียว ว่าพี่ธารต้องไม่ให้ไป เมื่อกี้ก่อนออกจากห้องเรียนลีวายส์กับบุ๊คและเรเนสตกลงกันว่าจะไปสำรวจพื้นที่แถวๆริมแม่น้ำใกล้ๆนี่เอง
 
“แต่ว่า ลีวายส์ต้องทำงานส่งนะฮะ อีกอย่างจะให้ผู้หญิงไปทำกันสองคนได้ยังไงฮะ”
 
(แล้วตัวเองต่างจากผู้หญิงหรือไงวะ)
 
“พี่ธารอ่ะ อย่างน้อยลีวายส์ก็อยากช่วยเพื่อนนะฮะ ลีวายส์ไม่อยากเห็นแก่ตัว” ลีวายส์บอกเหตุผล พี่ธารเงียบไปฮะ หรือจะโกรธลีวายส์กันนะ
 
“ก็ได้ แต่.......เดี๋ยวจะพาไปเอง เลิกเรียนแล้วก็รอกันอยู่หน้าโรงเรียนนั่นแหละ” ลีวายส์ยิ้มนิดๆ เมื่อพี่ธารบอกอย่างนั้น
 
“ฮะ ขอบคุณฮะ เอ่อ....คิดถึงนะฮะ บายๆ” ลีวายส์บอกก่อนจะวางสาย คึคึ
 
“แหม ลีวายส์เนี่ย รักพี่ชายจังเลยนะ อย่างกะแฟนแน่ะ คิคิ” เรเนสพูดแซว ลีวายส์อบยิ้มให้ ไม่ใช่แฟนแต่เป็นมากกว่านั้น คึคึ
 
“ตัวเล็ก” เสียงพี่เซฟฮะ อ่อ ก็พี่เซฟมาเป็นทีเชอร์อยู่ที่นี่ไงฮะ
 
“พี่เซฟ  มีอะไรหรอฮะ”
 
“เห็นพวก ปรพัฒน์ มั้ย” พี่เซฟกำลังตามหาพวกนายแพ็คฮะ พวกนั้นคงไปก่อเรื่องอะไรอีกแน่ๆ
 
“ไม่เห็นฮะ ตั้งแต่ออกจากห้อง ก็หายไปเลย พี่เซฟ มีอะไรหรือเปล่าฮะ”
 
“เปล่าหรอ มานี่สิ......” พี่เซฟ ดึงมือลีวายส์ออกมาคุยนอกโรงอาหาร “เราน่ะ เห็นรูปแพ็คในไอแพดใช่ป่ะ” โอ๊ะ!!! พี่เซฟรู้ได้ไงอ่ะ
 
“คือ....ว่า แฮ่ะๆ ฮะ แต่ลีวายส์ไม่ได้ตั้งใจนะฮะ บังเอิญเห็น” ลีวายส์ยิ้มยิงฟันให้พี่เซฟ
 
“หราาาาาาาา เหอะ! งั้นก็รู้ไว้ด้วย ว่าพี่ไม่ได้มีอะไรกับไอ้เด็กนั่นเข้าใจ๊ น่าตีจริงๆ ไปๆ ไปกินข้าว เดี๋ยวไม่โต”  พี่เซฟบอก ลีวายส์ทำแก้มป่องให้ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในโรงอาหาร
 
 
 
 
“สนิทกันมากหรอมึง” อยู่ๆนายแพ็คก็ถามลีวายส์ขึ้น ตอนนี้เราเข้าเรียนช่วงบ่ายแล้วฮะ เป็นการเรียนแบบปฏิบัติ
 
“ใครหรอ” ลีวายส์ถามกลับอย่างงงๆ ก็อยู่ๆมาถามกันแบบนี้ใครจะไม่รู้ล่ะ
 
“ก็ไอ้! ..............ครูใหม่นั่นน่ะ” อ่อ ที่แท้ก็ถามถึงพี่เซฟนี่เอง ปกติไม่เห็นคุยกะลีวายส์เลย ไหนอยู่ๆถึงได้จะมาถามถึงพี่เซฟกันนะ
 
“ก็ สนิทสิ พี่เซฟเป็นเพื่อนพี่ธารนี่ นายทำไมหรอ วันนี้พี่เซฟถามถึงนายด้วยล่ะ”
 
“เปล่า! ไอ้นั่นมันโรงจิต ไม่รู้หรอ ถึงจะเป็นเพื่อนพี่ชายมันก็ไว้ใจไม่ได้” อะไรของหมอนี่ มาว่าพี่เซฟได้ไงกัน
 
“นี่! นายรู้จักพี่เซฟดีพอแล้วหรอ ถึงได้ว่าพี่เซฟแบบนั้น เรารู้จักกับพี่เซฟมาห้าปีแล้ว พี่เซฟเป็นคนดีและเท่มากๆด้วย”
 
“เหอะ! รู้ดีมากแค่ไหนล่ะ อยู่กับมันทุกวัน ทุกที่งั้นหรอ มันคิดอะไรอยู่มึงรู้หรอ”
 
“เอ๊ะ!!!! นายเป็นไรมากหรือเปล่าเนี่ย อคติอะไรห๊ะ แล้วอีกอย่างนะ พี่เซฟบอกว่าคืนนั้นพี่เซฟก็ไม่ได้มีอะไรกับนายด้วย”
 
“มึง!!!” นายแพ็ค กระชากคอเสื้อลีวายส์ฮะ ลีวายส์ตกใจเล็กน้อยและเผลอไปจับมือของมันเข้า
 
“นี่ๆ สองคนนั้นน่ะ เพื่อนๆเค้าเรียนกัน นั่งเล่นกันอยู่ได้ ไปจับมือกันยืนขาเดียวนอกห้องจนหมดคาบเลยไป” เอาแล้วงั้น ซวยๆๆๆๆ จริงๆเลย ทะเลาะกันทีไร ซวยทุกที
 
นายแพ็คสะบัดมือออกจากคอเสื้อลีวายส์ก่อนจะเดินไปหน้าห้อง ลีวายส์เองก็เดินตามมันไปด้วย กว่าจะหมดคาบ อีกตั้งครึ่งชั่วโมงอ่ะ ขาชาแน่ๆ -*-
 
“จับมือสิ เพราะนายล่ะ” ลีวายส์หันไปว่านายแพ็คที่ยืนอยู่ข้าง เมือเห็นว่ามันไม่ยอมจับมือง่ายๆ พอลีวายส์ยืนขาเดียวก็ยืนไม่ค่อยอยู่
 
“เพราะมึงแหละ!” มันเขกหัวลีวายส์ฮะ นายแพ็คมองมือลีวายส์ที่ส่งไปให้ก่อนจะจับมือและยืนขาเดียว เดี๋ยวจะแกล้งดึงให้ล้มเลย
 
ผลั่ก!!!! =[]=
 
ล้มจริงๆด้วยฮะ แต่เป็นลีวายส์ที่ล้ม อื๊ออออ พี่ธาร(?)ช่วยลีวายส์ด้วยมันแกล้งลีวายส์อีกแล้ว T^T
 
“ไอ้!!!”
 
“เอ้า อยากนั่งหรอ หึๆ” หัวเราะชอบใจล่ะ ที่แกล้งคนอื่นยิ้มซะโลกสดใสเชียว “ลุกขึ้นมาสิ เร็วๆ เดี๋ยวครูได้เปลี่ยนใจให้ไปวิ่งรอบสนามหรอก” นายแพ็คส่งมือมาให้ลีวายส์จับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้น
 
“ฝากไว้ก่อนเหอะ!”
 
 
 
“พี่ธารมาแล้วไปกันเหอะ!” ลีวายส์บอกกับบุ๊คและเรเนส เดินไปขึ้นรถพี่ธารที่เพิ่งจะมาถึงหน้าโรงเรียน
 
“จุ๊บ!!! มารอนานยัง” เอิ่ป @.@ คือ....พี่ธารก็แบบจุ๊บแก้มลีวายส์ เหมือนทุกๆครั้งนั่นแหละแต่ว่า.....
 
“ไม่นานฮะ เอ่อ.......” ลีวายส์หันไปมองบุ๊คกับเรเนสที่ตอนนี้กำลังนั่งอบยิ้มอยู่ด้านหลัง “บุ๊ค เราจะไปริมแม่น้ำใช่ป่ะ”
 
“อื่มๆ ใช่ เลี้ยวซ้ายตรง ข้างสะพานลอยขับไปอีกสามสิบเมตรก็ถึงแล้วค่ะ” บุ๊คตอบ พี่ธารพยักหน้ารับและออกรถไป
 
Tru.........  Tru.........
 
“ว่าไงไอ้เซฟ” พี่ธารรับโทรศัพท์หลังจากที่หยุดรถอยู่ใกล้ๆกับริมแม่น้ำ “เอ่อๆ เดี๋ยวกูไปรับ....เอ่อๆ รอนั่นล่ะ” พี่ธารสะบัดหัวท่าทางเซ็งๆก่อนจะวางสาย “อย่าไปไกลนักล่ะ เดี๋ยวจะกลับมารับ เสร็จแล้วก็มารอ......อยู่ร้านกาแฟนั่นล่ะกัน”
 
“พี่ธารไปไหนหรอฮะ”
 
“ไปร้านเครื่องดนตรีกับไอ้เซฟ เห็นว่ามีปัญหานิดหน่อย ไม่นาน ดูแลตัวเองด้วย”
 
“ฮะ.....ลีวายส์กับเพื่อนๆจะรีบทำ จะได้เสร็จเร็วๆ แล้วจะโทรหาฮะ” ลีวายส์บอกก่อนลงจากรถพร้อมๆกับบุ๊คและเรเนส จากนั้นพี่ธารก็ขับรถออกไป
 
“พี่ธารนี่ดูจะรักลีวายส์มากเลยนะ มีจุ๊บแก้มด้วยอ่ะ คึคึ”
 
“ก็....ต้องรักสิเรเนสพี่ชายกับน้องชายนี่” บุ๊คบอกยิ้มๆ แต่ลีวายส์ว่า แก้มลีวายส์เริ่มร้อนยังไงก็ไม่รู้อ่ะ
 
“พอๆ เราว่ารีบสำรวจกันเหอะ จะได้เสร็จเร็วๆ” นาทีนี้แก้เขินไปก่อนฮะ คึคึ
 
“อ่ะ นั่นแพ็คนี่” ในขณะที่เรากำลังวัดอุณหภูมิของน้ำในแม่น้ำซึ่งเรเนสเป็นคนผูกเชือกกับแก้วน้ำพลาสติกและตักมันขึ้นมาเมื่อครู่ เสียงของบุ๊คพูดที่ขึ้นทำให้ลีวายส์หันไปมอง
 
“.......................” นายแพ็คเดินมาหยุดอยู่บริเวณที่เรายืนอยู่
 
“มาทำไมอ่ะ” ลีวายส์ถาม ก็ไม่คิดว่าจะเจอนายนี่นี่นา ปกติไม่เห็นจะช่วยงานใครเลย ยิ่งกับลีวายส์คงเป็นไปไม่ได้ใหญ่
 
“เอามาสิ ช่วย!!!” เราสามคนมองหน้ากันอย่างคาดไม่ถึง
 
“เอ่อ ได้สิ งั้น เดี๋ยว เราไปตรงโน้นกันดีกว่า อย่างน้อยไปกันเยอะๆ จะปลอดภัยด้วย” บุ๊คเป็นคนออกความคิดเห็น จากนั้นเราก็เดินสำรวจกันไกลออกไปเรื่อยๆ
 
“ไง ไอ้ขี้เก๊ก เดี๋ยวนี้อยู่กับผู้หญิงแล้วหรอวะ” มีใครก็ไม่รู้สองสามคนเข้ามาทักนายแพ็ค แต่ดูแล้วท่าทางไปค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
 
“สำรวจเสร็จยัง พวกเธอกลับไปได้แล้ว” นายแพ็คว่า เป็นอีกครั้งที่เราสามคนมองหน้ากัน อยู่ๆก็มาไล่ บ้าหรือเปล่า
 
“เดี๋ยวสิ อีกแป๊บก็เสร็จแล้ว” ลีวายส์บอก
 
“กลับ! ไป! ก่อน!” นายแพ็คพูดบอก สายตาแกมบังคับ แสดงว่าไอ้พวกที่มาทักต้องเป็นเด็กไม่ดีแน่ๆ คงไม่ปลอดภัยล่ะ
 
“เรากลับกันเหอะ” บุ๊คเองก็คงดูออก ว่าท่าจะไม่ดีถ้าเรายังอยู่ต่อ เลยดึงมือลีวายส์และเรเนสออกมา ลีวายส์หันกลับไปมองเมื่อเราเดินห่างออกมาได้ซักระยะ เห็นนายแพ็คโดนใครคนหนึ่งในนั้นยกเท้าขึ้นถีบ
 
“อ่ะ....เราว่า พวกเธอรีบกลับไปหาพี่ธารก่อนแล้วให้พี่ธารมาช่วยดีกว่า เราว่านายแพ็คเละแน่ๆเลย รีบไปเร็ว” ลีวายส์บอก บุ๊คกับเรเนสรีบวิ่งออกไปทันที
 
ส่วนลีวายส์ก็คิดจะเข้าไปช่วยแต่ว่า ต้องหาอุปกรณ์ก่อนสิ ตัวเปล่าคงสู้ไหวหรอก เหอะๆ ลีวายส์หันซ้ายหันขาวและก็เจอ....ก้อนหินฮะ ก้อนหินก้อนเล็กๆ ลีวายส์เลยรีบเอาก้อนหินใส่ถุงพลาสติกเก่าๆที่ตกอยู่ใกล้ๆก่อนจะรีบวิ่งไปหานายแพ็ค
 
“นี่แน่ แกล้งเพื่อนเราหรอ มื้อนี้กินหินแทนข้าวอ่ะ!!!” ลีวายส์กระหน่ำขว้างก้อนหินใส่พวกมันไป จนพวกมันต้องปล่อยนายแพ็คและหันมาป้องกันตัวเองแทน
 
“ทำบ้าอะไรของมึง!!!” นายแพ็คว่า พอนายนั้นมีโอกาสเอาคืนพวกมัน นายแพ็คก็เลยถีบพวกมันเรียงตัวและรีบวิ่งมาหาลีวายส์
 
“ก็มันรุมนายอ่ะ นายสู้ไม่ไหวหรอก”
 
“มึงนี่.....รีบไปเร็ว!!!” นายแพ็คแย่งถุงก้อนหินไปจากมือลีวายส์ขว้างใส่พวกมันและแรงพอที่จะทำให้พวกมันได้เลือด ก่อนจะดึงข้อมือลีวายส์ให้วิ่งตาม
 
“เดี๋ยวๆ เราวิ่งไม่ทัน” เพราะเราออกมาไกลร้านที่ลีวายส์นัดกับพี่ธารไว้เลยนานหน่อยกว่าจะถึง นายแพ็คนี่ก็วิ่งเร็วเหลือเกินลีวายส์เลยต้องดึงมือให้หยุดวิ่ง
 
“มันตามมา เร็ว เดี๋ยวได้กินตีนหรอก” ลีวายส์หันกลับไปมองทางที่เราวิ่งมา ก็ยังเห็นพวกมันตามมาอีก ก็วิ่งต่อสิจะรอให้มันกระทืบหรอฮะ โอ๊ย ไม่ไหวแล้วอ่ะ
 
“โอ๊ย!” ล้มฮะ ลีวายส์ล้ม ความเจ็บแล่นปี๊ดอยู่ตรงข้อเท้าด้วย
 
“ลุกเร็วสิวะ”
 
“เราเจ็บข้อเท้า วิ่งไม่ไหวแล้วนะ อึกๆ.....อื๊อออออ” ไม่เอาแล้วอ่ะ ไม่วิ่งแล้วเหนื่อยมากด้วย พี่ธารรรรร
 
“อะไรกันวะเรียกพ่ออยู่นั้นแหละ....ขึ้นหลังมาเร็ว” นายแพ็คหันหลังย่อตัวลงหน้าลีวายส์ “เร็วๆสิ จะร้องอีกนานป่ะ” ลีวายส์เลยรีบยันตัวลุกขึ้นมาขี่หลังหมอนี่
 
“หนักเหมือนกันนะมึง” ชิท์ เบาเหอะ ที่พี่ธารยังอุ้มได้ทั้งวันเลย (มันคนละระดับกันอีหนู)
 
นายแพ็คพาลีวายส์เดินเข้าซอยมามันบอกว่าทางลัดเมื่อคิดว่าไอ้พวกเด็กเกเรสามคนนั่นไม่น่าจะตามมาแล้วจึงเดินช้าๆ ไม่นานนายแพ็คก็ออกมาจากซอยจนตอนนี้เราสองคนกลับมาเดินอยู่แถวๆริมน้ำ
 
“เมื่อไหร่จะถึงอ่ะ มืดลงเรื่อยๆแล้วนะ เราอยากไปหาพี่ธาร อึกๆ เรากลัวอึกๆๆ อืออออ”
 
“ไม่นานแล้วนา จะร้องทำไมเนี่ย ยิ่งกว่าเด็กสามขวบ” นายแพ็คว่า น้ำเสียงออกจะเซ็งๆ ก็ลีวายส์กลัวจริงๆนี่
 
“โทรหาพี่ธารที นะๆ อึกๆ” นายแพ็คหยุดเดิน และย่อตัวให้ลีวายส์ลงจากหลัง ลีวายส์นั่งลงบนพื้นหญ้า
 
“เป็นอะไรอีกล่ะ” นายแพ็ค นั่งลงตรงหน้าลีวายส์ ก่อนจะเอื้อมมือมาใช้แขนเสื้อของมันเช็ดคราบน้ำตาให้ เพราะหมอนี่ใส่เสื้อแขนยาว
 
“โทรศัพท์หาย อึกๆ อืออออ อึกๆ......” ลีวายส์ยิ่งร้องไห้เข้าไปใหญ่เมื่อพบว่าโทรศัพท์ไม่ได้อยู่ในกระเป๋ากางเกงแล้ว
 
“กูก็ไม่ได้เอามา อยู่ในรถโน้น ช่วยไม่ได้ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวจะมืดไปกว่านี้” นายแพ็คเช็ดคราบน้ำตาให้ลีวายส์อีกครั้ง ก่อนจะหันหลังย่อตัวลง “รู้มั้ยตอนมึงร้อง มันดูไม่ได้เลย”
 
“อึกๆ ทำไมล่ะ!!! งับ!” ลีวายส์กัดไหล่มันฮะ เวลาแบบนี้ยังจะเล่นอีก
 
“โอ๊ยๆๆ เจ็บนะเว้ย!!! เดี๋ยวทิ้งที่นี่ซะเลย” ในขณะที่มันเดินไปโดยมีลีวายส์อยู่บนหลัง นายแพ็คเหมือนจะหาเรื่องมาแกล้งไม่ให้ลีวายส์ร้องไห้ตลอด จะว่าไปนายแพ็คก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดแฮะ เพราะถ้าเป็นเพื่อนคนอื่น ป่านนี้คงทิ้งลีวายส์ไปแล้ว
 
“ลีวายส์!!!” เสียงพี่ธารฮะ ลีวายส์เงยหน้าขึ้นจากแผ่นหลังนายแพ็ค เห็นพี่ธารกับพี่แซฟวิ่งหอบๆกันมา เหงื่อโชกเชียว
 
“พี่ธาร....อึกๆ...อืออออออ พี่ธาร” พี่ธารวิ่งมาหาลีวายส์ ลีวายส์เลยกางเขนโผเข้าหาทันทีทั้งที่ยังอยู่บนหลังนายแพ็คอย่างลืมตัว
 
“ไปไหนกันมาห๊ะ! สร้างเรื่องอีกแล้วล่ะ นายน่ะ” นี่คือเสียงพี่แซฟฮะ พอเห็นว่าเป็นนายแพ็คก็ขึ้นเสียงใส่เลย โหมดโหดเข้าสิงล่ะ
 
“เจ็บตรงไหน!” พี่ธารอุ้มลีวายส์เหมือนเด็กลงจากหลังนายแพ็ค ก่อนจะให้ลีวายส์ยืนเกาะเอวไว้ บุ๊คกับเรเนสคงให้คนที่บ้านมารับกลับไปแล้ว เพราะเราตกลงกันว่าถ้าสำรวจพื้นที่เสร็จบุ๊คจะให้ที่บ้านมารับพร้อมกับเรเนส
 
“ข้อเท้าฮะ.....พี่ธาร....อึกๆ....อืออออ.....โทรศัพท์หายอีกแล้วอ่ะ อึกๆๆ”
 
“ช่างเหอะ ไม่ต้องร้อง กลับบ้านก่อน ไม่เจ็บตรงไหนแล้วใช่มั้ย” พี่ธารถามอย่างห่วงๆ ลีวายส์พยักหน้ารับจากนั้นพี่ธารก็อุ้มลีวายส์ไว้ในอ้อมแขน
 
“ไอ้ธาร มึงกลับไปก่อนนะ กูจัดการกับเด็กนี่ก่อน....” พี่ธารหันกลับไปพยักหน้าให้พี่เซฟ
 
“ไม่ต้องมายุ่งกับ....ผม!!! อย่ามาจับนะ!!!” ลีวายส์ชะโงกหน้าผ่านแขนพี่ธาร มองสองคนนั้น แพ็คไม่ได้ก่อเรื่อง พี่เซฟจะเข้าใจมั้ยนะ
 
“แพ็คไม่ก่อเรื่องนะฮะ พี่เซฟ” ลีวายส์ตะโกนบอก ไม่รู้ว่าพี่เซฟจะได้ยินหรือเปล่า เพราะพี่ธารรีบเดินมาขึ้นรถ งั้นก็....โชคดีนะนายแพ็ค
 
 
 
 
“เจ็บตรงไหนนอกจากข้อเท้ามั้ย.....นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย เฮ้อ!!!!” พี่ธารพูดก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ ท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์มากนัก
 
“มีคนมาหาเรื่องนายแพ็คก่อน พวกมันรุมนายนั้นด้วย ลีวายส์เลยเข้าไปช่วยฮะ” พี่ธารวางเท้าของลีวายส์ไว้บนตักตัวเอง และกำลังทายาที่ข้อเท้าแล้วก็นวดให้ด้วย ลีวายส์นั่งบนโซฟาฮะ
 
“ช่วยเพื่อน?.....เหอะดีเนอะ คิดว่าตัวเองเก่งมากหรอไงห๊ะ” พี่ธาร เงยหน้าขึ้นมองจ้องตาลีวายส์
 
“ก็...........ลีวายส์ขอโทษฮะ” จะร้องไห้อีกแล้วฮะ อึกๆ
 
“ถ้าเป็นอะไรไป....แล้วจะทำยังไงล่ะ หื่ม ทำอะไรต้องคิดดีๆรู้หรือเปล่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น วันนี้ดีเท่าไหร่แล้วที่เจ็บแค่นี้ ถ้ามากกว่านี้ล่ะ” มาโหมดนี้ น้ำตาก็ไหลเป็นเขื่อนแตกสิฮะ
 
“อึกๆ...ลีวายส์ขอโทษฮะ...อึกๆๆ อืออออออ” ลีวายส์ ลงจากโซฟามานั่งบนตักพี่ธารและกอดเอวไว้แน่น
 
“ไม่ต้องร้อง....จู่ๆๆ...เงียบเลยนะ....เดี๋ยวจะโกรธจริงๆแล้ว จุ๊บ!!!” พี่ธารจุ๊บหน้าฝากลีวายส์และลูบหัวปลอบเบาๆ ลีวายส์เงยหน้ามองก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบปากบางสีคล่ำ
 
“คราวหน้าลีวายส์จะคิดก่อนทำอะไรๆให้ดีๆฮะ ลีวายส์สัญญา”
 
“อืม.....สัญญา” พี่ธาร กดจูบลงมาอีกครั้ง แต่กลับไม่ยอมถอนจูบง่ายๆ ปากบางยังคงบดจูบไปเรื่อยๆ จนลีวายส์แทบจะขาดอากาศหายใจกว่าพี่ธารจะถอนริมฝีปากออกและทำท่าจะกดจูบลงมาอีก
 
“เอ่อ.....คือลีวายส์อยากอาบน้ำฮะ ลีวายส์ง่วงนอนด้วย” ลีวายส์บอก แบบว่าไม่ได้ขัดนะ แฮ่ะๆ วันนี้เหนื่อยจริงๆ
 
“งั้นหรือ จะอาบด้วยพอดี งั้นก็.....ไปเดี๋ยวอาบให้” OoO
 
“พี่ธารๆ....เอ่อ....คือ...”
 
“เดินก็ไม่ได้ด้วยสิ หึหึๆ.....อาบน้ำกันดีกว่า” =[]=
 
<<<<<<<<TBC>>>>>>>

*&^%$#@! เม้นบ่นได้ค่ะ เราไม่ว่า แฮ่ะๆ

ช่วงนี้ว่างช่วงเช้าเลยรีบลงให้ค่ะ   เจอกันตอนต่อไปน๊า

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
หวายๆๆๆ พี่หมอได้กะกายแร้วววว

พี่เซฟจะพานุ้งแพ็คไปสำเร็จโทษที่ไหนเนี่ยะๆๆ

 :katai5:


ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
อาบน้ำกันๆๆๆๆๆ อิอิ
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
คู่พี่หมอ กะ กาย นี่มันดูไมเคลียร์เนอะ ว่าตกลงปรับความเข้าใจกันจิงๆ??

พี่ธาร ลีวายส์ น่าร๊ากกกกกกกกกกก
เท้าแพลง ร้องไห้ ยังไงก้อน่าร๊าากก ^O^

ส่วนคู่พี่เซฟ กะ แพ็ค ลุ้นๆๆๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มีเรื่องตลอดเลยน่ะกับลีวายส์เนี่ย

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
กล้าหาญมากลูกลีวาย
ตอนนี้เหมือสองนายเอก?เค้าช่วยกันต่อสู้เลย 555
แพ็ครวมพลังกับลีวาย โกยแน่บ!!!

ทำอะไรคิด่อนนะลีวาย คิดถึงพี่ธารไว้ จะได้ระวังตัวน่าา

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :-[ :-[
ลีวายน่ารักอ่ะแก อยากได้ไปไว้บ้านสักคน
ถ้าขออีธาร อีธารจะให้ป่ะแก :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ลีวายส์น่าร๊ากกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด