Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)  (อ่าน 167598 ครั้ง)

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother .....10
 
“เย้ๆ  พี่ธารจะพาไปเที่ยวจริงๆหรอฮะ” ร่างเล็กขึ้นมากอดคอผมไว้จากด้านหลัง ผมกำลังนั่งเรียงเอกสารอยู่บนพื้นหน้าโซฟา เมื่อกี้ผมเพิ่งจะบอกมันว่าจะพาไปต่างจังหวัดในวันหยุดนี้
 
“บอกเมื่อไหร่ว่าจะพาไปเที่ยว” ลีวายทำหน้าเศร้า ก่อนจะปล่อยมือออกลงมานั่งมองผมตาใสแป๋ว  มันน่าจริงๆเวลาทำหน้าแบบนี้
 
“พี่ธาร ไปทำงานหรอฮะ” ร่างเล็กถาม นั่งมองผมเรียงเอกสารไปด้วย
 
“คงงั้น....” ผมบอก สำรวจความเรียบร้อยของเอกสารในมือ ทำไว้ก่อนเดี๋ยวเคยเอาไปฝากไอ้กายส่งวันจันทร์เผื่อผมไม่ได้กลับ
 
“ทำไมต้องทำงานหนักด้วยฮะ” ลีวายส์ถาม มันแอบหยิบเอกสารไปพลิกๆดู ผมเลยตีมือเข้าให้
 
“ถ้าไม่ทำ จะเอาตังที่ไหนจ่ายล่ะ  อย่าเล่นเดี๋ยวเหอะกูขี้เกียจเรียงใหม่” ลีวายส์หน้างอนิดๆ มันเอามือกอดอกไว้
 
“พี่ธารไม่ต้องทำงานแล้วฮะ  เดี๋ยวลีวายส์เลี้ยงเอง  ลีวายส์มีเงินลีวายส์ให้พี่ธารหมดเลยฮะ” ดูมันพูดเข้า กับแม่เลี้ยงแมร่งไม่ให้เนอะ
 
“นี่  เดี๋ยวตบปากแตกเลย  กูไม่เอาเงินเด็กมาใช้หรอ เห็นกูเป็นคนยังไง” ผมยกมือขึ้นทำท่าตบจนร่างเล็กทำคอหดซะ น่าสงสารเลย
 
“ก็ เป็นคนรักลีวายส์ไงฮะ” เอาอีกแล้ว กูไม่ได้หมายความว่าคนยังไง.....เอ่อ......โอ้ย!!!! นี่กูพูดไม่รู้เรื่องหรือมันฟังไม่รู้เรื่องวะ
 
“ไปไกลๆเลยไป  กูบอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง” ผมบอก ลุกขึ้นยกเอกสารที่เสร็จเรียบร้อยแล้วไปไว้ในห้องทำงาน  ลีวายส์เองก็ลุกตามมาเหมือนทุกที
 
“ถ้างั้น  คราวหลัง ลีวายส์ไม่ให้พี่ธารจูบแล้วนะฮะ” ผมถึงกับชะงักหยุดเดิน เมื่อมันพูดออกมา  นับวันกูจะยิ่งบ้าขึ้นทุกวันเพราะความไร้เดียงสาของมันเนี่ยแหละ
 
“ไปนอนไป  ถ้าพรุ่งนี้ตื่นไม่ทันกูทิ้งแน่” ผมบอก ร่างเล็กสะบัดหน้าใส่ผมอย่างน่าหมั่นไส้ก่อนจะวิ่งไปในห้องนอน เฮ้อออออออออออ
 
ผมจัดการตรวจดูงานอีกนิดหน่อยและเก็บของให้เรียบร้อยก่อนจะเข้ามาในห้องนอน ลีวายส์ยังไม่หลับ มันนอนอ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษที่ผมซื้อให้เมื่อหลายวันก่อนอยู่ ไอ้เด็กนี่มันเรียนนานาชาติไง เหอะ สู้เค้าได้หรอ
 
“นอนได้แล้ว.....พรุ่งนี้ไม่ตื่นกูไม่ปลุกนะ” ผมบอกนอนพลิกตัวตะแคงข้างไปหามันยกมือขึ้นคำหัวตัวเองไว้  เมื่อเช้ามันตื่นสายล่ะเหอะๆ
 
“ฮะ.......ฝันดีฮะ  ฟอด” ลีวายส์บอกหลังจากเก็บหนังสือเข้าทีข้างเตียง  มันยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มผม  ผมแปลกใจนิดๆเพราะปกติมันจะจุ๊บปากทุกครั้ง ผมมองสบตามันนิ่งๆ จนร่างเล็กหลบตาหนี
 
“เป็นอะไรอีก ห๊ะ” ผมถามจ้องตามันเขม็ง
 
“ก็ห้ามจูบ  ห้ามจุ๊บด้วย” ร่างเล็กบอกทำหน้างอปากยื่น ที่แรกผมก็งงแต่ก็นึกขึ้นได้ แมร่ง  เอาจริงหรอเนี่ย
 
“เออ  ก็ได้ไม่เห็นอยากจูบเลย ชิส์!!!” ผมพลิกตัวหันหลังให้ลีวายส์ มันเงียบไปครับแต่ผมว่าแป๊บเดียว หึ
 
“ลีวายส์ให้จูบก็ได้ฮะ แต่พี่ธารอย่าโกรธนะฮะ” กูว่าแล้ว ฮ่าๆๆๆ   ผมพลิกตัวกลับไปดึงมันมาจูบเน้นๆ ทำโทษที่มันทำตัวน่ารักเกินเหตุ หึหึ
 
 
 
เช้า....................
 
“พี่ธารฮะพี่ธาร  เราจะไปทะเลกันหรือป่าวฮะ”
 
“อื่ม...........”
 
“เย้ๆ  ลีวายส์อยากเล่นน้ำ ลีวายส์เล่นน้ำได้หรือป่าวฮะ”
 
“อืม...................”
 
“ลีวายส์ว่ายน้ำเป็นด้วยนะฮะ แดดดี๊สอนให้ ลีวายส์ว่ายน้ำปุ๋มๆเลยฮะ” =_=^ ตั้งแต่ขึ้นรถมาแมร่ง พูดตลอดไม่หยุดปากเลยจากที่ผมงัวเงียเมื่อกี้ เล่นเอาตาสว่างเลยครับ
 
วันนี้วันศุกร์และเป็นวันหยุดรถเลยเยอะหน่อยแม้ว่าเราจะออกจากคอนโดกันตั้งแต่หกโมงเช้า
ผมก็เลยขับไม่เร็วมากนัก เรากำลังเดินทางไปชะอำ ผมบอกมันว่าจะไปทะเล ลีวายส์เลยดีใจใหญ่ มันนั่งโม้นั้นโม้นี้ตลอดทางผมเลยไม่ต้องใช้กาแฟเป็นตัวช่วยแก้ง่วง
 
“ถึงแล้วหรอฮะ” ลีวายส์ถามเมื่อรถจอดนิ่งสนิทอยู่หน้ารีสอร์ท บรรยากาศค่อนข้างโอเคดี
 
“อื่ม....ลงได้แล้ว” ผมบอกร่างเล็กที่ชะเง้อมองสำรวจอย่างตื่นเต้น ในขณะที่ผมเอาเป้และกระเป๋าลงจากรถ
 
“ไหนทะเลอ่ะ พี่ธาร  พี่ธารโกหกหรอฮะ” มันถามหน้างอคิ้วผูกโบว์  ผมเลยดีดหน้าผากมันเข้าให้
 
“อยู่ด้านหลังโน้น ดูป้ายๆ” ผมชี้ไปที่ป้ายบอกทาง ก่อนจะเดินเข้ามาด้านในร่างเล็กเลยรีบกำชายเสื้อผมเดินตาม ไม่นานมีพนักงานสองคนมาบริการถือกระเป๋าให้
 
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าได้จองไว้ล่วงหน้าหรือเปล่าค่ะ” พนักต้อนรับถาม เธอคงไม่รู้จักผมเพราะผมเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก
 
“เปล่าครับ....คือ.....”
 
“อีธาร.......ทางนี้ลูก” แม่ออกมาทักผมพร้อมกับพนักงานสาวอีกคน
 
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ก่อนจะกอดท่านทักทาย  แม่ผมยังดูไม่แก่เท่าไหร่เพราะถึงท่านจะทำงานหนักแต่ก็ยังดูแลตัวเองดีอยู่เสมอ
 
“จร้า....คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอกันซะนาน.....อ่ะ.....นี่” แม่บอกก่อนจะนิ่งเงียบ  ชี้ไปทางลีวายส์ที่เอียงหัวโผล่ออกมาจากด้านหลังผม  อย่างอึ่งๆแบบ  O.o ลูกใครอ่ะ
 
เอ้า ผมกันยังไม่ได้คิดเลยว่าจะบอกแม่เรื่องลีวายส์ว่ายังไง แต่วันที่แม่โทรมาผมบอกว่าเป็นหลานเพื่อน ลืมไปเลยว่าลีวายส์เรียกผมว่าพี่
 
“เอ่อ....คือ  น้อยชายเพื่อนผมน่ะครับ พอดีว่ามันไปต่างประเทศสองสามวันผมเห็นว่ามานี่เลยให้มาเที่ยวกับผมน่ะครับ” ผมบอก ดึงลีวายส์ออกมาจากด้านหลัง
 
“สวัสดีฮะ คุณป้า.... เอ่อ...ผมชื่อลีวายส์ฮะ” ลีวายส์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมก่อนจะยิ้มกว้าง
 
“จ้า  น้อยชายของเพื่อนหรอ น่ารักจังนะ เรียกแม่ก็ได้ค่ะ มาเร็วมาหอมทีหนึ่ง” แม่บอก ผมเลยดันหลังมันไปท่านก้มลงหอมแก้มร่างเล็กอย่างเอ็นดู
 
“เออ  ขอโทษด้วยนะค่ะเมื่อกี้ที่ไม่รู้ว่าเป็นคุณอีธาร” พนักงานต้อนรับบอกพร้อมกับยกมือไหว้ผม
 
“ไม่เป็นไรครับ”
 
“แม่ว่า ไปดูห้องพักกันดีกว่า  แม่เตรียมไว้ให้แล้วล่ะ” แม่บอกจูงมือลีวายส์และเดินนำไป ร่างเล็กหันมามองผมเป็นระยะ ไม่รู้มันจะคิดว่าผมเอามันมาทิ้งอีกหรือเปล่านะ
 
แม่เดินนำมาถึงห้องพักพร้อมกับผมลีวายส์และพนักงานอีกคนที่จะมาเปิดห้องให้  ห้องพักมีระเบียง ด้านหน้าติดชายหาดสวยได้บรรยากาศ มีสระน้ำเล็กตรงระเบียงไว้สำหรับพักผ่อนแบบส่วนตัว ภายในห้องตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ประดับด้วยของตกแต่งโทนสีขาวดูเข้ากันได้ดี
 
“เอาล่ะ พักผ่อนกันก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเที่ยงจะให้เด็กมาตามไปทานข้าวด้วยกันนะ” แม่บอก ยิ้มใจดีให้ลีวายส์และหยิกแก้มมันทีหนึ่งก่อนจะเดินออกไป
 
“ไปฮะพี่ธาร ไปเล่นน้ำกัน” ลีวายส์วิ่งมาหาผมหลังจากที่ออกไปเดินดูตรงระเบียงห้องด้านหน้า
 
“ก็ไปคนเดียวสิ  ในสระไง” ผมบอกเอนหลังลงบนเตียงกว้าง เพราะรู้สึกเมื่อยตัวนิดๆ
 
“ไม่เอาอ่ะ  ลีวายส์จะเล่นน้ำทะเล  นะๆๆๆ” ร่างเล็กขึ้นมานั่งบนเตียงข้างผมก่อนจะเขย่าแขนผมเบาๆ   ให้ตายสิ  เนี่ยแหละมันวุ่นวายจริงๆ
 
“ไปเล่นคนเดียวเลยไป เดี๋ยวตามไป” ผมบอกอย่างไม่สนใจมากนัก พลิกตัวนอนคว่ำลงกับหมอน
 
“งั้นลีวายส์ไปเล่นแล้วนะฮะ เดี๋ยวพี่ธารตามไปนะฮะ” ลีวายส์บอก จากนั้นผมก็ไม่ได้ยินเสียงมันอีกเลยเพราะผม  หลับ!
 
ไม่รู้ว่าผมหลับไปนานแค่ไหน ตื่นขึ้นมาดูนาฬิกาอีกทีสิบเอ็ดโมงกว่าเข้าไปแล้ว ผมมองไปรอบๆห้องกว้าง  และสิ่งแรกที่นึกขึ้นได้คือ แมร่ง!!!  ลีวายส์หาย
 
ผมรีบออกจากห้องพักวิ่งมาหน้าหาด มีคนมาเล่นน้ำไม่เยอะเท่าไหร่ ผมมองสำรวจไปทั่วแต่ว่า ไม่เจอะ บ้าจริงมันไปเล่นที่ไหนของมันนะ  ผมเดินไปเรื่อยๆมองไปยังกลุ่มเด็กที่เล่นน้ำกันอยู่ใกล้ๆคิดว่ามันน่าจะมาเล่นด้วยกันแต่ไม่มี เวรแล้วไง
 
ใจผมเริ่มสั่นไหวรู้สึกเหมือนโกรธตัวเองที่เผลอหลับไป  ไม่สิที่ปล่อยให้ลีวายส์ไปเล่นคนเดียวแล้วถ้าเกิดมัน  จมน้ำอ่ะ เหี้ย!!!  พอคิดแบบนี้ผมก็ยิ่งห่วงมันมากขึ้น จนเริ่มลนลาน
 
“เอ่อ  คุณธารค่ะ มีอะไรหรือเปล่า” พนักงานสาวที่มากับแม่ในครั้งแรกถามเมื่อเห็นผมวิ่งมา
 
“เออ เห็นเด็กที่มากับผมบ้างไม่ครับ.....มัน...เอ่อ เค้าไปเล่นน้ำที่ชายหาดแต่ผมหาไม่เจอ” ผมบอกออกไป พนักสาวงานตกใจนิดๆ
 
“ค่ะๆ งั้นเดี๋ยวดิฉันช่วยหา คุณธารลองไปดูที่สระน้ำด้านโน้นนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปดูแถวๆชายหาดอีกทีหนึ่ง” ผมพยักหน้ารับก่อนจะรีบวิ่งมายังโซนสระน้ำสระใหญ่
 
ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ มีแขกมาเล่นน้ำกันมากพอสมควร ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปเรื่อยๆจนทั่วสระก่อนจะเห็นสระเล็กสำหรับเด็กที่เชื่อมกัน หวังว่ามันคงอยู่ที่นั้นนะ
 
“ฮ่าๆๆๆ  ขอบคุณฮะพี่ปอนด์” เสียงนั้นทำให้ผมรีบเดินตรงไปหา มันนั่งอยู่กับเด็กฝรั่งตัวโตกว่ามันไม่เท่าไหร่ มันกำลังนั่งกินไอติมหัวเราะท่าทางสนุกเชียว
 
“พี่ธาร...” ลีวายส์ลุกขึ้นเมื่อเห็นผมเดินตรงมาหา “ลีวายส์กินไอ.....”
 
“มึงมาทำอะไรตรงนี้ห๊ะ!!!!  แล้วนี่อะไร ใส่อะไรมา  มึงไม่มีเสื้อผ้าใส่แล้วหรือไง!!!!” ไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง ทั้งดีใจที่หามันเจอและโกรธที่มันทำให้ผมเป็นห่วง ผมเลยปัดไอติมในมือร่างเล็กที่ส่งมาให้ลงพื้น ก่อนจะตวาดใส่มันเสียงดัง จนร่างเล็กอีกคนที่ลุกตามมาสะดุ้งตามลีวายส์ที่น้ำตาเริ่มรื้อขึ้นขอบตา
 
“อึก.....อึก....ลีวายส์.....อึก......ก็พี่ธาร อึก อือออ” และแล้วลีวายส์ก็ร้องให้ออกมา ผู้คนรอบสระเริ่มหันมามองผม ที่กลายเป็นคนใจร้ายในทันที
 
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ  ลีวายส์ร้องไห้ทำไมลูก” แม่วิ่งเข้ามาหาอย่างตกใจถาม ก่อนจะย่อตัวลงเช็ดน้ำตาให้มัน
 
“ลีวายส์   หยุดร้อง.......” ผมบอกเสียงเรียบและมันก็หยุดร้องแต่เปลี่ยนมาเป็นสะอื้นไห้ตัวสั่น แม่เลยกอดมันไว้พร้อมกับมองผมอย่างไม่เข้าใจ
 
“ขอโทษ.....อึก.......ฮะ อึกๆ” ลีวายส์รีบวิ่งมาดึงมือผมไว้ เมื่อผมหันหลังเดินออกมาเพียงไม่กี่ก้าว ผมเองก็รู้สึกผิดเช่นกันที่ตวาดมันเมื่อกี้ทั้งที่จริงๆแล้วผมเป็นคนปล่อยให้มันมาคนเดียว แต่ว่า.....เฮ้อออออออ
 
ผมก้มลงมองหน้าลีวายส์ที่เงยหน้ามองผมทั้งน้ำตา มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดมากกว่าเดิมซะอีก ผมมองสำรวจใบหน้ามันแล้วรู้สึกเจ็บแปลกๆยังไงไม่รู้ ผมก้มลงอุ้มร่างเล็กขึ้นมาก่อนจะจูบซับเปลือกตามันเบาๆ
 
“เอ่อ.....แม่ว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีมั้ย เดี๋ยวจะได้มาทานข้าวกัน” =_=  เออ กูลืมว่าแม่อยู่ด้วยแต่ว่าก็มันจูบไปแล้วนี่หว่าช่างมันเหอะ
 
ผมพาลีวายส์กลับมายังห้องพัก ร่างเล็กซุกหน้าลงกับไหล่ผมยังมีอาการสะอื้นไห้ไม่หาย ลีวายส์ใส่กางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียว ที่คอมีแว่นตาดำน้ำสวมอยู่ ผมพาร่าเล็กเข้ามาล้างตัวในห้องน้ำ
 
“อึกๆ...พี่ธารโกรธลีวายส์มั้ยฮะ” ร่างเล็กถาม แววตากลมใสกระพริบไล่น้ำตาที่รื้อขึ้นมา ผมมองมันก่อนจะถอนหายใจแรงๆไล่อารมณ์โมโหของตัวเองที่ติดมาจากเมื่อกี้ ก่อนจะเปิดน้ำให้
 
“เปล่า  รีบอาบน้ำ จะได้ไปกินข้าว” ผมบอกจุ๊บแก้มใสเบาๆและเดินออกมาจากห้องน้ำ ออกมานั่งคิดถึงความรู้สึกของตัวเองระหว่างรอมัน
 
ทั้งที่ผมกับลีวายส์เราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดเลยแม้แต่นิด แถมยังเพิ่งจะรู้จักกันเพียงไม่กี่เดือนแต่ทำไมเวลาที่ร่างเล็กร้องไห้หรืออยู่ไกลตาผม ผมถึงได้ห่วงมันและรู้สึกผิดมากขนาดนี้เวลาที่ผมทำให้มันร้องไห้ 
 
ลีวายส์ทำให้ผมฟุ้งซ่านและในบางครั้งก็ต้องการมันเช่นกัน ยิ่งนานวันเข้ามันยิ่งมีอิทธิพลต่อหัวใจผมมากขึ้นเรื่อยๆ จากสงสารเป็นอยากดูแล จากห่วงใยกลายเป็นห่วงหวง
 
“บ้าเฮ้ย!!!!!”
 
 
 
หลังจากที่ลีวายส์อาบน้ำเสร็จออกมา ผมก็พูดคุยกับมันนิดหน่อย เพื่อให้ลีวายส์กลับมาร่าเริงเป็นปกติเหมือนเดิม จากนั้นผมก็ไปอาบน้ำ และเราก็พากันออกมากินข้าวกับแม่ของผม
 
“นี่ปอนด์ เป็นลูกชายของคุณรัตนาหุ้นส่วนของแม่เอง พอดีคุณรัตนาเค้าออกไปข้างนอกเลยฝากแม่ดูแลน่ะ” แม่แนะนำเด็กฝรั่งที่ก่อนหน้านี้ผมเห็นมันอยู่กับลีวายส์ข้างสระน้ำ
 
“สวัสดีฮะ” เด็กปอนด์ยกมือไหว้ผมก่อนจะส่งยิ้มมาให้ แต่ผมไม่ยิ้มรับแค่รับไหว้พอก่อนจะหันไปมองลีวายส์ที่กำลังยิ้มกว้างให้มัน =_=^ (ตากระตุก)
 
“ลีวายส์แพ้อะไรหรือเปล่าลูก  มีแต่อาหารทะเลนะ” แม่ถาม ตักกุ้งเผาตัวโตใส่จานร่างเล็ก แต่ไม่แกะให้ ผมเลยต้องแกะให้เอง
 
“กินได้หมดเลยฮะ ลีวายส์ชอบกุ้งฮะ” มันบอกจิ้มกุ้งเข้าปากคำโต ผมว่าเดี๋ยวแมร่งติดคออีก
 
“พี่ก็ชอบกินกุ้งคับ” ไอ้เด็กปอนด์พูด มันตักกุ้งจากจานตัวเองที่มันแกะเรียบร้อยแล้วให้ลีวายส์ ไม่เห็นหรือไงว่ากูแกะให้อยู่ =_=^^
 
“ลีวายส์ๆ  กินหมึกมั้ย” ยัง  ยังจะถามต่ออีก ผมเหลือบมองมันด้วยหางตานิดๆ
 
“ชอบฮะชอบ ลีวายส์กินได้หมดเลยฮะ” ลีวายส์บอก ยิ้มกว้างดีใจ ที่กับกูหน้าบูดหน้างอตลอด
 
“กูก็ชอบ!” กึ่ก  เอ่อ ผมเผลอหลุดปากออกมา ผมคิดว่าเสียงตัวเองเบาแล้วนะ แต่แม่ถึงกับหันมามองพร้อมๆกับพวกมันด้วย “เอ่อ....คือ ปูน่ะ ปูก็น่าจะชอบ  ใช่มัยลีวายส์”
 
“ชอบฮะๆ  พี่ธารแกะให้ลีวายส์นะฮะ” แป่ว แล้วก็มาลำบากกูอีกนั่นแหละ ชิส์!
 
 
หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็พากันมาห้องทำงานของแม่ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่พอสมควร ลีวายส์กับไอ้เด็กปอนด์ไปนั่งเล่นอีกมุมหนึ่ง ที่จะจัดไว้เป็นที่สำหรับพักผ่อนด้านหลังโซฟารับแขกที่ผมนักคุยกับแม่และหุ่นส่วนท่านที่เพิ่มมาถึงเมื่อครู่ แต่ว่าผมไม่ได้ฟังพวกท่านเลย.....
 
“ลีวายส์อยู่โรงเรียนนาๆชาติฮะ  ที่โรงเรียนสวยมาเลย ทำไมพี่ปอนด์ไม่ไปเรียนด้วยล่ะฮะ” ไอ้เด็กขี้โม้พูดโอ้อวดใหญ่เลยนะ
 
“พี่ก็อยากไป  แฮ่ะๆ แต่ จะไปอยู่กับใครอ่ะ”  พวกมันพูดกันไปเรื่อยเปื่อย มีหัวเราะคิคักบ้างบางครั้ง ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องหน้าและเอียงทำมุมโฟกัสเห็นลีวายส์ที่กำลังนั่งเล่นตุ๊กตาของรีสอร์ทอยู่  (อีธารเริ่มเป็นเอามากล่ะ =_=)
 
“ลีวายส์น่ารักอ่ะ  น่ารักแบบนี้มีแฟนหรือยังเนี่ย” หื่ม?  เหี้ย ตัวแค่นี้คิดจะจีบกันหรือไง บ้าจริงเด็กอะไรวะแก่แดด
 
“คิคิ......มีแล้วฮะ  คึคึ”ลีวายส์ตอบหัวเราะ คิคัก  กูว่าสั่งคัตก่อนดีกว่าเดี๋ยวงานเข้า
 
“เอ่อผมขอตัวก่อนนะครับ  ไปลีวายส์” ผมบอกก้มหัวให้แม่ลุกออกมา ก่อนจะไปดึงร่างเล็กให้ลุกตาม แม่มองตามอย่างงง  ถ้าขืนอยู่ลีวายส์มีหวังตอบไอ้เด็กนั้นว่าเป็นแฟนผมชัวร์คอนเฟิร์มและฟันธงเลย
 
“ไปไหนฮะ” ลีวายส์ถามผมอย่างไม่เข้าใจ  ผมมองมันด้วยหางตานิดๆแต่ไม่ได้ตอบอะไรร่างเล็กกลับไป
 
ผมพาร่างเล็กมาเดินเที่ยวชายหาด ลีวายส์วิ่งเล่นไปตลอดทางข้างๆผม ผมยังไม่ได้ว่ายน้ำเลย แต่ถ้าไปว่ายน้ำลีวายส์มันก็คงอยากลงว่ายอีก งั้นค่อยว่ายพรุ่งนี้แล้วกันเดี๋ยวมันไม่สบายจะยุ่ง
 
“พี่ธารๆ   เค้าทำไรกันอ่ะ” ลีวายส์ถามพลางชี้ไปยังฝรั่งวัยรุ่นคู่หนึ่งที่กำลังนอนนัวเนียแลกจูบกันอยู่กลางแดด
 
“จูบไง.....เด็กห้ามดู” ผมบอกดึงลีวายส์ให้เดินกลับมานั่งเปลใต้ร่มไม้ ผมนอนลงในเปลก่อนจะอุ้มมันขึ้นมาให้นั่งบนหน้าท้องแกร่งของผม
 
“ไม่เห็นเหมือนตอนพี่ธารจูบลีวายส์เลย” =_=^ กูอยากมุดดินหนีจริงๆ พูดถึงเรื่องแบบนี้กับมันทีไรแมร่ง พากูฟุ้งซ่านตลอด
 
“มึงรู้หรือไงว่ากูจูบมึงแบบไหนถึงคิดว่าไม่เหมือน ห๊ะ” ผมถาม  กอดเอวมันไว้กันตก แมร่ง เด็กอะไรตัวแค่นี้มีคอดเอวด้วย หรือว่ากูเลี้ยงไม่ดีมันเลยผอมวะ
 
“ก็เค้าทำแบบเนี่ย.....” ร่างเล็กก้มลงมาก่อนจะแลบลิ้นแตะริมฝีปากผมเบาๆ ตอนนี้ผมเริ่มไปไม่ถูกครับ ใจเย็นลูกใจเย็นนี่ยังบ่ายอยู่อย่าเพิ่งตื่น =w=
 
“มึงนี่อาการนักขึ้นทุกวัน  อย่าทำแบบนี้กับใครรู้มั้ย” ผมบอก มันนอนคว่ำลงบนตัวผมเอามือเท้าคางตัวเองไว้  ผมว่ามันใส่เสื้อคอกว้างไปนะ เห็นข้างในขาวๆ เหอะๆ  มันขาวอยู่แล้วไอ้ธารมึงคิดอะไร เหี้ย!!!
 
ผมเบือนหน้าไปมองทะเลกว้าง ไม่ได้มาพักผ่อนแบบนี้นานแล้วก็ตั้งแต่เริ่มเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย จะมีบ้างที่ได้ไปกับพวกไอ้กายหลังจากสอบเสร็จแต่ก็ไม่บ่อยนัก แต่ไปกันทีหนึ่งนี่ไม่ค่อยได้พักผ่อนกันหรอก แมร่ง แดกเหล้าเมายากันดึกทุกที
 
“ทำได้กับพี่ธารคนเดี๋ยวอะป่าวฮะ” นี่กูคิดว่าจบไปแล้วนะ มันยังมีถามต่อ
 
“จุ๊บ!!!  เออ  ถ้าไปทำกับคนอื่นกูโกรธ” ผมยกหัวจุ๊บมุมปากมันเบาๆอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพูดบอก ลีวายส์ทำปากยื่นเกือบแตะปลายคามผม
 
 
“จุ๊บ!!!  ลีวายส์ทำกับพี่ธารคนเดี๋ยวแหละ  พี่ธารห้ามโกรธด้วย” ไอ้ที่ว่าทำนี่มันอะไรกานนนนนนนนน    ดึงมาจูบแมร่งเลย!!!   เด็กเหี้ย!
 
<<<<<<TBC>>>>>>>

ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก เรื่อยๆไปก่อนนะ

ตาเริ่มลายภาษาเริ่มมั่ว  ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ถ้าเม้นเยอะเค้าจะมาลงให้พรุ่งนี้เลย ฮี่ๆๆๆๆ

มีในสต๊อคพอสมควรทั้งสองเรื่องเรย  :katai3:  :katai3:  :katai3:

ไปละ  :mew1:  :mew1:  :mew1:

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
รอวันที่อีธารตบะแตก  :m20:

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
เห็นด้วยกับเม้นบน :hao6:

พี่ธารจะอดทนไปถึงเมื่อไหรค้าาา

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
สักวันอีธารตบะแตกแน่ ๆ  555

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
วร๊ายยยยยย
อีธารหึงน้องงง 55555555555555 :katai2-1:

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
ถ้าวันไหนอีธารตบะแตกขึ้นมา ไม่อยากคิดสภาพน้องลีวายเลว่าจะเป็นยังไงบ้าง

แอร๊ยยยยย  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เด็กนะคะเด็ก อย่าพึ่งเลยอดใจรอมัธยมหน่อยเหอะ ถึงเราจะชอบแต่ก็ไม่สนับสนุน

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เด็กมันน่าฟัดเอ้ยน่ารักเนอะ

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เนื้อเรื่องน่ารักมากๆคะ ชอบ ติดเลย น้องลีน่ารักน่าฟัดมากๆ พี่ธารก็ปาก(หมา)ร้ายพอกันเลยทีเดียว แต่งต่อไวๆนะคะ รออ่านอยู่

ปล.เวลาแต่งถ่้าไม่ใส่อิโมติคอนลงไปจะดูน่ารักเลยที่เดียว(ความชอบส่วนตัวคนอ่านแฮะๆ ใส่อยู่ก็ยังอ่านคะ)
ปล.2 ไม่แน่ใจว่าคำบางคำวิบัติรึเปล่าหรือลืมตัว ตรงนี้อยากให้ลองแก้ลองปรับดูนะคะ (เช่น สัจ ก็สัดเลย มันให้อารมณืดิบเถื่อนตรงๆดีคะ จร้า เป็นจ้าไปเลย อ่าลองฝากไว้ลองพิจรณาดูนะคะ )

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
ดูว่าอีธารจะมีความอดทนมากแค่ไหน

เจอลีวายยั่วขนาดนี้

ออฟไลน์ +HaNeul+

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ๋อยยยยยยยยยยยยยอะไรเนี่ยย ธารแพ้ใจตัวเองละๆๆ

น้องมันก็น่ารักกก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
น้องมันจะรอดไปจนโตไมอย่างนี้

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ตกลงอีธารหรือว่าลีวายน่าที่ร้าย
ขยันยั่วขนาดนี้ ระวังโดนจับกดนะลูกลีวาย

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother .....11
 
“ฮัดชิ้ว!!!!!!” วันนี้ตอนสายๆผมพาลีวายส์ลงเล่นน้ำเพราะเมื่อคืนผมบอกว่าจะว่ายน้ำด้วย และก็อย่างที่ผมคาดไว้ แมร่ง ตามติดกูตลอด มองหญิงก็ไม่ได้ก็เล่นมันขี้คอผมเหมือนลิงไม่ยอมลง
 
“กูว่าแล้วอย่าเล่นนานๆ แมร่ง” นั่นแหละพอผมลงสระใหญ่มันก็ลงด้วยเกาะหลังผมที่ว่ายน้ำไปทั่วสระ ยังไม่พอยังจะไปเล่นต่อสระเล็กสำหรับเด็กอีก
 
“ฮัดชิ้ว.....ก็มันสนุกนี่ฮะ” มันฟังที่ไหนล่ะดูดิ เพราะเล่นน้ำนานเกิน ตั้งแต่ขึ้นรถมา แมร่ง ยังจามไม่หยุด
 
ตอนนี้เรากำลังเดินทางกลับกันแล้วครับ จริงๆแม่ผมอยากให้ผมอยู่ต่อแต่ด้วยความที่เราไม่ได้เจอกันนานมันทำให้ผมและแม่ทำตัวไม่ถูกจะพูดจากันหรือทำอะไรร่วมกันมันก็เกร็งๆยังไงไม่รู้ผมเลยบอกท่านว่ามีเรียนต้องกลับวันอาทิตย์เย็นจะได้กลับถึงไม่ดึกนักเพราะพรุ่งนี้ลีวายส์เองก็ต้องไปเรียนด้วย
 
“ยุ่งจริงๆเลย” ผมบอก หักเลี้ยวรถเข้าข้างทาง เอื้อมมือไปเปิดเก๊ะหน้ารถหยิบเอายาพารามาหนึ่งเม็ดพร้อมกับน้ำขวดส่งให้ลีวายส์ มันแปะปากไม่อยากกินทันทีเมื่อเห็นยา
 
“ลีวายส์  ไม่กินฮะ ลีวายส์ไม่ได้เป็นไข้ซะหน่อย” มันบอก สูดลมหายใจเข้าบอดยืดตัวขึ้นให้ผมดูว่ามันน่ะแข็งแรง กูเชื่อมาก!
 
“ถ้าไม่กินกูทิ้งมึงไว้ตรงนี้ จบนะ” เท่านั้นแหละรีบเลยครับ หึๆ  แล้วมันก็ทำหน้างอนอีกตามเคย ก่อนจะกินยา
 
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีผมหันไปมองร่างเล็กเป็นระยะปรากฏว่ามันหลับ ผมเลยต้องจอดรถอีกครั้งเพื่อปรับเบาะและเอาเสื้อนอกผมมาห่มให้ร่างบาง นี่ผมว่าตั้งแต่มีมันผมใจดีขึ้นเยอะแล้วนะ =_=
 
 
 
“อึก......อือออ”
 
“จุๆๆๆ อย่าร้อง ใกล้ถึงแล้วๆ” ผมอุ้มลีวายส์ขึ้นมาบนห้องเพราะมันยังหลับอยู่ร่างเล็กตัวร้อนนิดๆ คงรู้สึกไม่สบายตัวเลยร้องงอแง
 
“อึกๆ.......ลีวายส์....อือออ..ปวดหัว” นั้นไงกูว่าแล้วไม่ผิด พอผมวางมันลงบนเตียงปุ๊บร้องบอกปั๊บเลย แล้วกูต้องทำไง =_=;;
 
“พี่หมอ  มาดูลีวายส์ที รู้สึกเหมือนจะมีไข้ว่ะ” ผมโทรหาพี่หมอรักษ์ หลังจากที่โทรไปบอกพนักงานคอนโดให้เอาของจากท้ายรถขึ้นมาให้ที่ห้อง
 
(กูติดคนไข้อยู่อีกสี่ห้าคน รอก่อนประมาณสามชั่วโมง  ถ้ากินยาแล้ว ยังไม่ครบสี่ชั่วโมงมึงเช็ดตัวไปก่อนถ้ากินยาครบสี่ชั่วโมงแล้วให้กินข้าวและก็กินยาอีกที จากนั้นก็เช็ดตัวเรื่อยๆ โอเคเสร็จแล้วกูจะรีบไป)
 
“อื่มๆ อย่าช้าล่ะ” ผมบอกก่อนจะตัดสายไป
 
ผมมองร่างเล็กตรงหน้าที่ตอนนี้ตัวเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆเพราะพิษไข้ ผมเลยเข้าไปหากะละมังใบเล็กกับผ้ามาเช็ดตัวให้ ผมถอดเสื้อผ้าลีวายส์ออกจนหมดเพื่อระบายไอร้อนออกจากตัวก่อนจะเริ่มเช็ดตัวให้เบาๆ
 
“อึกๆ....หนาวฮะ.....แดดดี๊...อึกๆ.....พี่ธาร.....” ชิส์ กูก็ไม่รู้จะทำยังไงน่ะนะเข้าใจป่ะ พอมันเพ้อออกมาเลยตกใจนิดๆล่ะ
 
“นอนซะ....เดี๋ยว‘พี่’มา” ผมบอกก้มลงจูบหน้าผากมันและห่มผ้าให้
 
ตอนนี้ต้องให้มันกินข้าวก่อน โจ๊กซองง่ายสุด ผมลงมือต้มโจ๊กซองโดยใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีเพราะใช้ไฟแรง จากนั้นก็เข้ามาดูลีวายส์ในห้องนอน พักโจ๊กให้เย็นแป๊บหนึ่งในระหว่างนั้นก็เช็ดตัวให้มันอีกรอบ บอกตามตรงผมอยากร้องเลยนาทีนี้ ทำไมเช็ดเท่าไหร่ตัวมันก็ยังไม่เย็นลงซะที
 
“พี่ธาร....อือออ” ลีวายส์ร้องเสียงพร่า ผมเลยดึงมันมากอดไว้บนตัก
 
“กินข้าวก่อนจะได้กินยา  เร็วเข้า” ร่างเล็กปรือตาขึ้นมองเล็กน้อยก่อนจะสั่นหัว ผมตักโจ๊กมาเป่าก่อนจ่อกับปากเล็ก
 
“อึก...ไม่เอา อึกๆ....” มันสั่นหัวไม่เอาท่าเดียวเลย เดี๋ยวจับกรอกปากแมร่ง
 
“ลีวายส์คับ รักพี่ธารหรือเปล่า” คงต้องใช้วิธีนี้ล่ะ มันป่วยอยู่จะให้ผมขึ้นเสียงใส่เดี๋ยวมันจะยิ่งร้องเข้าไปใหญ่
 
“รักฮะ อึก...รักที่สุด” ร่างเล็กบอก ซุกหน้าเข้าหาแผงอกผม
 
“ถ้ารักก็ต้องเชื่อฟังนะคับ กินข้าวกินยานะ แล้วพี่ธารจะรักลีวายส์ด้วยนะคับ” ผมบอกอีก ตักโจ๊กขึ้นมาจ่อปากมันอีกครั้ง
 
“ฮะ...สัญญานะฮะ”   ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะพูด
 
ผมเลยพยักหน้าให้และจุ๊บมุมปากเล็กทีหนึ่ง ลีวายส์เลยยอมกินข้าวแต่ก็กินได้แค่สามคำมันก็ไม่ยอมกินต่อ ผมก็ให้กินยาเลย ไม่อยากให้มันงอแงอีก จากนั้นผมก็ยังเช็ดตัวให้มันตลอดเพราะพี่หมอโทรมาบอกอีกว่าให้เช็ดตัวทุกๆครึ่งหรือหนึ่งชั่วโมงถ้าตัวร้อนจัดกลัวมันชัก ผมก็เลยต้องทำ
 
“กว่าจะมานะพี” ผมออกมาเปิดประตูให้พี่หมอ เมื่อมันมาถึงสี่ทุ่มกว่าๆได้ เล่นเอาผมเหนื่อยเลย
 
“เอานา....ก็มาแล้วไง” พี่แกบอก ผมเดินนำเข้ามายังห้องนอน ลีวายส์หลับไปแล้วหลังจากที่ผมเช็ดตัวให้เมื่อกี้นี้
 
“เป็นไงบ้าง” ผมถามพี่หมอ ที่กำลังตรวจอาการลีวายส์อย่างเงียบๆ ผมนั่งลงบนเตียงข้างๆร่างเล็ก ก่อนจะยกมือลูบหัวมันเบาๆ
 
“ห่วงจริงนะ รู้จักห่วงคนอื่นเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่มึง” พี่หมอถาม เพราะปกติผมจะไม่ค่อยแสดงออกว่าห่วงคนอื่นมากนัก
 
“งั้นหรอ ไม่รู้สิ  ทำไมล่ะ” พอผมคิดตามที่พี่หมอพูดมันเลยเกิดคำถามขึ้นกับตัวเอง
 
“หึ รักไง อยู่ด้วยกันเป็นเดือนๆ  ความผูกพันมันสร้างกันได้ แต่......รักแบบไหนกันวะ” ผมมองพี่หมออย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของพี่แก “เอานานานไปมึงจะรู้เอง ลีวายส์เป็นไข้หวัดมึงพาตากแดดเล่นน้ำถึงได้เป็นแบบนี้”
 
“ก็มันพูดไม่ฟังนี่ ยิ่งโตยิ่งดื้อ” ผมบอกบีบจมูกร่างเล็กเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
 
“หึ ไม่ใช่ว่ามึงตามใจมันมากขึ้นหรอกนะ” พี่หมอหรี่ตามองผม มันก็....นิดหน่อยเองนะ “เอาเถอะ ยังไงเดี๋ยวกูจัดยาให้ แต่มึงก็ต้องเช็ดตัวให้ทุกๆชั่วโมงนะ เพราะเด็กเพิ่งเริ่มมีไข้เพราะงั้น ต้องขยันเช็ดตัวและกินยา คืนนี้มึงไม่ได้หลับแน่ พรุ่งนี้ก็คงไม่ได้ไปเรียน”
 
“เออๆ  รีบๆ พี่จะได้กลับไปนอนมั่ง ทำงานจนหาเมียไม่ได้แล้วเนี่ย” ผมบอก เพราะเห็นว่าพี่แกทำงานซะแทบจะมีเวลาไปไหนมาไหนเลย
 
“เออ แล้วเพื่อนมึงน่ะหายไปไหน ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเลย” พี่หมอถามขณะที่เก็บของเตรียมตัวกลับ
 
“ใคร ไอ้กายน่ะหรอ มันก็เที่ยวเล่นกับไอ้เซฟอีกตามเคยแหละ” ผมบอก
 
“หรอ งั้นไปล่ะ” ผมเดินออกมาส่งพี่หมอ มองตามแผนหลังที่สูงกว่าผมไม่น้อย เดินออกจากห้องไป ผมว่าพี่หมอคงสนใจไอ้กายล่ะนะแต่ผมไม่อยากเข้าไปยุ่งมากนัก
 
และคืนนี้ทั้งคืนผมก็ไม่ได้นอนจริงๆ ก็ลีวายส์ตัวร้อนตลอดพอหมดฤทธิ์ยาผมเลยต้องเช็ดตัวให้ทั้งคืนจนเกือบเช้ากว่าไข้จะค่อยๆลดลง เล่นเอามึนเลยทีเดียว
 
 
“อื๊อออออ....” ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงร่างเล็กข้างๆขยับตัว พบว่าตอนนี้เช้าแล้ว ผมเอามืออังหน้าผากลีวายส์เพื่อวัดไข้ ร่างเล็กเลยบิดตัวนิดหน่อยและค่อยๆลืมตาตื่น
 
“ไข้ลดแล้ว....ห้าววววว” ง่วงมากง่วงสัจๆเลยล่ะ ผมลุกจากเตียงเดินมาเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาก่อนจะออกมาสั่งข้างกิน
 
“ลีวายส์ปวดหัวฮะ” ผมมองรางเล็กบนเตียง มันลุกขึ้นมานั่งและเอามือกุมหัวตัวเองไว้
 
“อื่ม....เดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวเช็ดตัวก่อนจะได้กินยา” ผมบอกนั่งลงข้างๆร่างเล็ก และเริ่มเช็ดตัวให้แต่ดูเหมือนมันจะงอแงด้วยล่ะ
 
“ไม่เอา อึก....อืออ ลีวายส์หนาว” ลีวายส์บอกซุกตัวเข้าหาผม ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วผมก็ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าให้มันเพราะต้องเช็ดตัวอยู่ตลอด ผมก็แค่หอตัวมันด้วยผ้าห่มไว้เนี่ยแหละ
 
“ลีวายส์คับ เมื่อคืนสัญญาอะไรไว้ จำได้มั้ยหื่ม” ผมบอกพยายามพูดไม่ให้มันงอแง
 
“จำได้ฮะ” ร่างเล็กบอกเงยหน้าขึ้นมองผม มันพยักหน้าเบาๆก่อนที่ผมจะก้มลงจูบหน้าผากมัน
 
“งั้นก็ต้องเชื่อฟังพี่ธารนะ  มาเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้” ผมจัดการเช็ดตัวให้ลีวายส์
 
“พี่ธารอย่าลืมสัญญานะฮะ พี่ธารรักลีวายส์นะฮะ” หึ ผมหรอ ผมจะรักมันได้มั้ยนะ
 
 
 
 
“เย้ๆ พี่กายคนสวยลีวายส์หายแล้วฮะ” เสียงลีวายส์ดังมาจากหน้าประตู พอดีไอ้กายมันโทรมาบอกว่าจะมาหา พอผมบอกลีวายส์มันเลยไปยืนรอหน้าประตูโน้น
 
“โอ้ไม่น่ามาเลย........หายแล้วหรอเนี่ยสงสัย พี่ธารดูแลดี ชิมิๆ” ไอ้กายเดินอุ้มลีวายส์เข้ามาหน้าโซฟาพร้อมกับของเต็มมือ ผมให้ลีวายส์หยุดเรียนสามวันพรุ่งนี้ก็ว่าจะให้ไปแล้วล่ะ
 
“ซื้อไรมากินบ้าง” ผมถามเพราะเที่ยงนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย
 
“อ่ะ นี่ของมึง  ส่วนหมดนี่ของลีวายส์คร้าบบบบ” แมร่ง ของกูมีถุงเดียวในถุงนี้ก็แค่ ไก่ทอดกับพิซซ่า แต่ของลีวายส์สามถุงครับ
 
“เออ เอาใจกันเข้าไป ตามใจกันเข้าไป เดี๋ยวนี้มา คิดถึงกูไม่ถึงสิบเบอร์เซ็น” ผมบอกลุกขึ้นเอาของกินของตัวเองมานั่งกินบนพื้นล่างโซฟา
 
“เอานา  มึงก็  กูรักของกูนี่ เนอะๆลีวายส์เนอะ” ไอ้กายหันไปพยักหน้ากับลีวายส์ที่กำลังสนใจของเล่นในถุงใหญ่
 
“ของกูเหอะ  ใครของมึง” ผมบอกอย่างลืมตัว
 
“อ่ะๆๆๆ นั่นไง คึคึ  เดี๋ยวนี้มียอมรับว่ะ ฮ่าๆๆๆ” กูอยากบ้า เฮ้ออออออออ
 
หลังจากนั้นพวกมันก็พากันเล่นไปทั่วห้องและปล่อยให้ผมตามเก็บเหมือนเคย ไอ้กายกับลีวายส์แมร่ง อายุเท่ากันหรือไงมันเล่นกันได้ตลอดเวลาที่มาอยู่ด้วยกันจริงๆ แต่ก็ดีลีวายส์จะได้ไม่เบื่อเพราะปกติผมก็ไม่ได้เล่นกับมัน แค่ดูการ์ตูนหรือหนังด้วยกันเท่านั้น
 
 
“เออ  เดี๋ยวอยู่กับไอ้กายก่อน กูไปธุระแป๊บ” ผมบอก พอดีไอ้แมนโทรมาบอกว่ามีแข่งรถแต่ไอ้คนแข่งแมร่งดันไม่มาอีกแล้ว มันเลยขอช่วยผมอีกเนี่ย
 
“ไม่เอาอ่ะ พี่ธาร......อึกๆ” นั้นไงเพราะมันยังไม่หายดีล่ะมั้งเลยงอแงอีกแล้ว
 
“แป๊บเดียวอยู่กับไอ้กายไปก่อน เดี๋ยวให้พี่หมอมาตรวจอีกทีด้วย” ผมบอกใส่เสื้อนอกเตรียมตัวจะออกไป
 
“เฮ้ยๆ ไอ้หมอนั้นอีกแล้วหรอ ไอ้เอาอ่ะ”ไอ้กายเองก็งอแงไม่แพ้กัน
 
“มึงอย่างอแงอีกคนได้มั้ยวะ กูไปแป๊บเดียว” ผมก้มลงอุ้มลีวายส์เดินมาหน้าประตู “กูไปแป๊บเดียวเดี๋ยวมานะ เด็กดีเชื่อฟังพี่ธารหรือเปล่า ฟอด!” ผมบอกหอมแก้มใส่ หนึ่งฟอดเน้นๆ แมร่งหอมอ่ะ
 
“ก็ได้ฮะ....พี่ธารรีบกลับนะฮะ” ร่างเล็กบอกจูบปลายจมูกผมเบาๆ มันยังหมั่นเขี้ยวไม่หายเลยเผลอจูบปากเล็กเข้าให้
 
“แอ่มๆ  จะไปก็ไป ไอ้เหี้ยธาร” =_= ไอ้กายไอ้เหี้ย
 
 
 
“เป็นไงทำไมเด็กมึงนัดไม่เป็นนัดแบบนี้วะ” ผมถามไอ้แมนเมื่อมาถึงสนามแข่ง ไอ้โด่งอีกแล้วอะไรจะติดเมียซะขนาดนั้น
 
“กูก็ไม่รู้ว่ะ  แมร่ง มัดจำไปแล้ว สองแสน มึงกับกูคนล่ะแสน” มันคงลงให้ผมก่อนเพราะมันรู้ถ้าไอ้โด่งแข่งผมจะลงพนันด้วยตลอดเราเชื่อมือกัน
 
“แข่งกี่ทุ่ม” ผมถาม เราเดินมานั่งข้างๆสนาม การแข่งรอบแรกพึ่งจะจบลงเมื่อกี้ตอนนี้กำลังเริ่มรอบสอง
 
“ห้า” มันบอกหน้าตาย
 
“ไอ้สัจ!!! แล้วมึงจะให้กูมาทำพ่องหรอ นี่ยังไม่สามทุ่มเลย” ผมบอกอย่างเซ็งๆ ถ้าบอกผมแต่แรกว่าแข่งห้าทุ่มผมจะได้อยู่กับลีวายส์อีกหน่อย
 
“ห่วงเด็กหรือไงวะ เหอะๆ” ไอ้แมนพูดเหลือบมองผมนิดๆ
 
“เสือก!!!” ไม่อยากยอมรับและก็ไม่อยากปฏิเสธว่ากูห่วงมาก โอ้ยป่านนี้แมร่งเล่นกับไอ้กายกันห้องพังไปแล้วมั้ง
 
ผมนั่งดูการแข่งในสนามไปเรื่อยๆ มีลงพนันบ้างถ้ารอบไหนที่ผมคิดว่าโอเค ผมโทรหาไอ้กายทุกๆชั่วโมงเห็นมันบอกว่าไอ้พี่หมอไม่ว่างวันนี้มีประชุมเลยไม่ได้มา ผมเลยกำชับให้มันเอายาให้ลีวายส์กินและเช็ดตัวให้ด้วย
 
“เฮ้ยไอ้ธาร ไปเตรียมตัวไป” ไอ้แมนเดินมาตามผมที่นั่งอยู่ข้างสนาม จากนั้นผมก็เข้าไปเตรียมตัว มันรู้สึกใจหวิวๆยังไงก็ไม่รู้ว่ะ บอกไม่ถูก
 
“รถคันไหนกูจะดูก่อน” ผมเตรียมตัวเสร็จเดินออกมาหาไอ้แมน ผมจะตรวจเช็ครถก่อนเสมอเพื่อความรอบคอบ เพราะผมต้องใช้รถมัน
 
“โอเคยัง   ถึงรอบมึงแล้ว” ผ่านไปสักพักไอ้แมนก็เข้ามาบอก ผมสูบบุหรี่ม้วนหนึ่งก่อนจะขับรถเข้าสนาน
 
ผมลดกระจกลงมองรถของคู่แข่งที่ตกแต่งมาอย่างดี มันเองก็ลดกระจกลงเช่นกันแถมยังมองหน้ากูแบบกวนตีนสัจๆ แต่ผมทำเป็นไม่สนใจผมก็แค่มาแข่งให้ชนะก็พอนี่
 
ปัง!!!!!
 
ทันทีที่เสียงปืนส่งสัญญาณให้รถออกสตาร์ท ผมก็กระชากรถออกตัวด้วยความเร็วมุ่งไปข้างหน้า เช่นเดียวกับคู่แข่งผมก็เช่นกันและดูเหมือนมันจะมีฝีมือใช่ย่อย ใครขับครบสามรอบและถึงเส้นชัยก่อนชนะเหมือนเคยแต่ครั้งนี้ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายอย่างที่ผมคิดไว้
 
ผมกับคู่แข่งขับไล่ตามกันด้วยความเร็วสูงและสลับกันนำในรอบแรกและรอบสอง มันขับแบบเถื่อนๆ มีสองสามครั้งที่พยายามเบียดรถผมออกจากสนามแต่ผมรู้ทางไม่ปล่อยให้มันขนาบข้างได้ง่ายๆ
 
เข้ารอบที่สามผมรีบเร่งความเร็วขึ้นอีกเท่าแต่มันก็ยังรั้งท้ายตามมาติดๆอีกสองโค้งผมก็จะเข้าเส้นชัยและโค้งข้างหน้าผมต้องลดความเร็วลงแต่ถ้าผมลดความเร็วลงมันจะพยายามเร่งขึ้นมาแซงผมแน่นอนผมเลย คำนวณความกว้างของสนามและเร่งความเร็วเท่าที่ทำได้ ผมไม่อยากแพ้
 
“เหี้ย!!!!” แต่จู่ๆรถของคู่แข่งมันกลับไม่เข้าโค้งด้านนอกและพยายามเบียดผมอีกครั้งซึ้งทางโค้งมันอันตรายทั้งคนโดนเบียนและคนที่เบียดผมไม่คิดว่ามันจะกล้า
 
ผมพยายามควบคุมพวงมาลัยรถให้อยู่ แต่มันก็เบียดเข้ามาจนผมหลุดโค้ง ผมก็คิดอยู่แล้วว่ามันจะควบคุมรถตัวเองไม่ได้ด้วย รถมันเลยเบียดเข้าหารถผมกลายเป็นว่ามันพาผมพุ่งเข้าชนข้างสนามซึ่งเป็นกำแพงเหล็ก
 
ผมไม่คิดเลยว่าอีกวิเดียวมันจะเกิดอะไรขึ้นนอกจากตายกับตาย แต่ผมจะตายไม่ได้ มีเด็กคนหนึ่งรอให้ผมกลับไปหา ‘พี่ธารรีบกลับนะฮะ’ เสียงลีวายส์ดังก้องขึ้นในหัวมันทำให้ผมตัดสินใจหักพวงมาลัยอีกครั้งแม้จะรู้ว่ารถต้องเสียงหลักพลิกคว่ำแน่นๆแต่ก็ยังดีกว่าชนกำแพงเหล็กเพราะมันมีโอกาสรอดน้อยกว่า และกูจะต้องไม่ตาย “ลีวายส์.......”
 
เอี๊ยด!!โครม           ปัง!!!
 
 
“อื๊ออออออออ  อึกๆๆ  อืออออออออออ” ผมได้ยินเสียง เสียงเด็กดังก้องอยู่ในหูตลอดเวลาแต่ผมไม่สามารถลืมตาขึ้นได้
 
“อึกๆ.....อีลีวายส์คับ กินข้าวก่อนนะ อย่าร้องเดี๋ยวพี่ธารก็ตื่น อึกๆ...นะๆ” ผมได้ยินมันตลอดและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะตื่นขึ้นมาซักที
 
เสียงของลีวายส์มันติดอยู่ในจิตรใต้สำนึกของผมในคณะที่ผมนอนสลบอยู่ ผมอยากตื่นมา อยากตื่นมาด่ามาว่ามันให้มันหยุดร้อนเพราะผมไม่ชอบเสียงร้องของมันเลย
 
 
 
“ลีวายส์............”คำแรกที่ออกจากปากผม เมื่อผมรู้สึกตัว ผมค่อยลืมตาขึ้นช้าๆปากและคอแห้งฝาดไปหมด
 
ผมยกมือขึ้นจับหัวตัวเองเพราะรู้สึกปวดหนึบ มันมีผ้าพันรอบๆอย่างน่ารำคาญ ผมพยายามขยับตัวและยันตัวลุกขึ้นแต่กลับพบว่าผมหนักตัวเพราะกำลังโดนกอดรัดอยู่ ผมเลยก้มลงมองปรากฏว่ามีร่างเล็กกำลังซุกหน้าลงกับหน้าท้องผม
 
ผมยิ้มบางๆมองใบหน้าใส่อย่างสำรวจเหมือนไม่ได้เจอกันนานแสนนานก่อนจะลูบหัวมันเบาๆลีวายส์ขยับตัวเล็กน้อย ดูเหมือนมันจะร้องให้อีกแล้วเพราะเห็นจากคราบน้ำตาข้างแก้มมัน ผมหันมามองสำรวจตัวเองบ้าง ผมไม่ได้ใส่เสื้อ ตรงสีข้างมีรอยผ่าตัวคงเดาได้ไม่ยากว่าซี่โครงคงมีปัญหา ผมจำเหตุการณ์ทุกอยากได้ดี
 
“พี่ธาร!!!.....อึกๆ...อือออออ พี่ธารๆ อืออออ” ลีวายส์ตื่นแล้วครับ พอตื่นปุ๊บมันก็กอดผมไว้แน่นคล้ายกับกลัวว่าผมจะหายไป
 
“จุๆๆๆ อย่าร้องๆ  พี่ธารอยู่นี่แล้วคับ” ผมบอกกอดตอบร่างเล็ก ก้มลงหอมผมมันเบาๆ
 
“พี่ธาร อึกๆ อือออ  อึกๆ  นอนไม่ยอมตื่น อึกๆๆ” ลีวายส์สะอื้นบอก กอดแน่นไม่ยอมปล่อยจริงๆ
 
“คับๆ ตื่นแล้วไง หยุดร้อง พี่ธารไม่ชอบ” ผมบอกอีก ลีวายส์หยุดร้องก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม น้ำตาเปื้อนเต็มสองข้างแก้ม
 
“อึกๆ  ลีวายส์กลัวพี่ธารหายไป” ร่างเล็กบอก ผมเกลี่ยน้ำตาบนแก้มใสอย่างเบามือและก้มลงจูบปากกเล็กเบาๆ
 
“พี่ธารไม่หายครับ สัญญา” ผมบอก ทำให้ลีวายส์ยิ้มกว้างกลับมา มันเองก็ยืดตัวขึ้นจูบปลายคางผมเช่นกัน
 
“สัญญาฮะ  ลีวายส์รักพี่ธารฮะ” ร่างเล็กบอกผมด้วยสายตาจริงจัง
 
“ถึงพี่จะร้ายกับลีวายส์งั้นหรอ  หื่ม”
 
“ฮะ ถึงร้ายลีวายส์ก็จะรักฮะ  รักที่สุดในโลกเลย” หึ ผมยิ้มขำๆ กับคำพูดบอกของมัน เนี่ยแหละจะให้ผมทิ้งมันได้ยังไง
 
“รักให้ตลอดก็แล้วกัน” ผมบอกจูบปากร่างเล็กแน้นๆแต่ก็ไม่แรงมากนัก
 
“พี่ธารก็ต้องรักลีวายส์ด้วยฮะ พี่ธารสัญญาแล้ว” โอ่ มันจำได้ว่ะ  แล้วผมรักมันมั้ยวะ ไม่รู้รักหรือเปล่าแต่ที่รู้คือห่วงและหวงมาก ผมก้มลงจูบปากเล็กอีกครั้งอย่างนุ่มนวลและอ่อนหวานแทบจะไม่อยากล่ะปากออกแม้แต่วินาทีเดียวเลยล่ะ
 
<<<<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>>

เอิ่ป บางทีเราก็แต่งแบบงงแต่ที่รู้คือ มีเด็กรักคนแก่และคนแก่ก็....ปากแข็ง ว่ะ

ตอนต่อไปลีวายส์จะโตไม่โตนะ คิคิ

มาแล้วจร้า   :mew1:  :mew1:   :mew1:

เราจะลงเร็วถ้าเม้นเยอะแม้ว่าเราจะไม่ได้ตอบเม้นแต่เราอ่านทุกเม้นน๊า

(ตอนนึงเราขอแค่ประมาณ 10  เม้นไม่รุจะเยอะไปป่าว )  :katai2-1:   :katai2-1:   :katai2-1:   :katai2-1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อ่า......นึกว่าจะไม่ฟื้นขึ้นมาซะแล้ว ไม่งั้นสงสารลีว่ายส์แย่

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ดีนะที่พี่ธารไม่เป็นไรมาก
ไม่งั้นไอ้คู่แข่งตาย!!!!

รีบยอมรับว่ารักลีวายเร็วๆนะ ดูจิ เด็กบอกรักตั้งหลายรอบแล้ว :impress2:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ดีนะที่ฟื้นขึ้นมา ต่อไปต้องระวังตัวหน่อยเพื่อตัวเองและน้อง

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
อีธารต้องรักลีวายอยู่แล้ววว ก็น้องมันน่ารักกกกน่ากินขนาดนี้ :hao7:

ออฟไลน์ Ok_fine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
อยากให้ลีวายส์เป็นเด็กอย่างนี้ไปนานนาน :katai3:  :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
เลิกเถอะ ไป่การแข่งรถเนี่ยยย
มันเสี่ยงงงงงงงง คราวนี้โชคดี แต่ถ้าคราวหน้าหละ ใครจะรู้
อีธารเป็นอะไรไป น้องอยู่ไม่ได้แน่ๆ  :o12:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โต โต โต เหอะ เขาอยากเห็นลีวายส์โต(ขึ้นมานิดนึง)

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ค่อยๆโตสิ กริ๊ดด ><

ออฟไลน์ +HaNeul+

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
โอ่ยยย พี่ธารนี่ก็หยุดแข่งรถได้แล้วววว

หวงตัวเองก๊อนน

ออฟไลน์ jub_jub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชั้นก้อรักของชั้นเข้าใจบ้างไหม!!? เข้ามาเป็นเม้นทีม10(หรือป่าว)  ><"  รอๆๆตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
น่ารักทั้งธารแล้วก็ลีวายเลย

MASENTA.WK

  • บุคคลทั่วไป
 อีธารรร เธอไม่น่าไปแข่งรถเลยยยย ทำให้น้องร้องเลยอ่าา
 เลิกไปเถอะะ น้องจะได้ไม่ต้องมาร้องให้อีกน้าา
 ตอนหน้าน้องจะโตแล้วเหรอคะะ แอร็ยย จะรอค่าาา  :mew3:
 
  ปล.อยากอานเรื่องของน้องกายกับพี่หมอจังเลยค่ะ มาลงอีกน้าา

  ขอบคุณที่มาลงให้อ่านกันค่ะ

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
เข้ามารอติดตามด้วยคนค่ะ แอบอ่านซักพักแล้วล่ะ อิอิ น้องลีวายน่ารักมากเลย
ตอนนี้พี่ธารเริ่มเป็นเอามากแล้ว ทั้งหวง ทั้งห่วงลีวายจนไม่ยอมตายกันเลย
รอติดตาม และบวก บวก เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปนะคะ  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother .....12
 
“พรุ่งนี้แกต้องไปพัทยา  แล้วเดี๋ยวจะโทรมาบอกอีกที ต้องกลับไปทำงานก่อน” พี่ชายเพียงคนเดียวของผมบอก งานที่จะให้ผมไปทำ โดยที่ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่
 
“ผมไม่อยากทำบอกตามตรง ทำไมไม่เลือกที่อื่น” เพราะพี่ชายผมเกิดอยากทำธุรกิจในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแต่มันคงไม่ดีนักถ้าที่นั่นมันเป็นแหล่งธุรกิจแบบเดียวกัน คือ ผับและบาร์มากอยู่แล้ว
 
“แมน เชื่อพี่สิ ไปดูงานไว้ก่อน จะทำไม่ทำค่อยว่ากัน อีกอย่างตัวเองก็ว่างอยู่ไม่ใช่หรอ” พี่มาศบอกก่อนจะที่ร่างสูงจะออกไปจากห้องทำงาน
 
ผมมองตามแผ่นหลังพี่ชายอย่างไม่เข้าใจ ว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ที่จู่ๆ เกิดจะให้ผมไปดูงานเกี่ยวกับธุรกิจที่ว่า ซึ่งผมคิดว่าถ้าพี่มาศอยากทำจริงๆ ก็คงลงมือทำไปเองแล้ว เฮ้ออออ
 
Tru.............  Tru.............
 
“ว่าไงมึง...” ผมกรองเสียงใส่โทรศัพท์อย่างเซ็งๆ ตามอารมณ์
 
“เป็นเหี้ยไร.......อาทิตย์หน้ากูจะกลับแล้ว มึงมารับกูด้วย” เสียงเข้มๆของอีธาร เพื่อนสนิทผมที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศพูดบอก
 
“เออๆ แมร่ง!!!  ที่แบบนี้ล่ะโทรมานะมึง เชื่อสิว่ากูรอของฝากจากมึงด้วย” ผมบอก เมื่อสี่ปีก่อนมันไปเรียนต่อโทต่างประเทศ พร้อมๆกับเพื่อนอีกคนคือไอ้กาย ไม่สิมี‘เด็กมัน’อีกคน ลีวายส์ไง
 
“เออ!!! แค่นี้ก่อน เดี๋ยวกูไปรับลีวายส์ก่อน แมร่งยุ่งฉิบ”
 
“เหอะๆ ไปเหอะ เดี๋ยวฝรั่งจะงาบไปกินซะก่อน” ผมพูด ก่อนจะกดวางสาย ลีวายส์โตแล้ว ก็คงเดาไม่ยากหรอกนะว่ามันจะน่ารักขนาดไหน แต่ได้ข่าวว่าขี้อ้อนน่าดู
 
ตอนนี้ผมเองก็เรียนจบโท HR แต่ไม่ได้ไปเรียนเมืองนอกเพราะอะไรหลายๆอย่างที่ผมรับผิดชอบ จึงทิ้งไปไม่ได้ ทั้งผับที่ยังร่วมหุ้นกับพวกไอ้ธารและสนามแข่ง
 
หลังจากเรียนจบมาเมื่อปีที่แล้ว ผมก็ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัททั้งของไทยและต่างชาติอีกสองสามแห่ง  โดยที่ไม่ต้องเข้าบริษัทผมก็สามารถใช้เทคโนโลยีรอบตัวทำงานส่งผ่านอีเมลล์ได้สบาย เดือนๆหนึ่งใช้แค่สมองแทบจะไม่ต้องออกแรงเลยด้วยซ้ำ นอกจากเรื่องอย่างว่า
 
แต่ดูเหมือนหลายปีที่ผ่านมาผมจะเรียนและทำงานไปซะส่วนใหญ่ ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้ผมไม่ค่อยมีเวลาหรือให้ความสำคัญกับเรื่องอย่างว่าสักเท่าไหร่แต่ละคนถึงแม้ว่าจะเป็นเด็กอย่างที่ผมชอบใจแต่ก็ใช่ว่าจะสุขสมเสมอไป ตั้งแต่ตอนนั้นผมยังนึกถึงใบหน้าและเสียงหวานที่ติดตาและติดหูอยู่ ถึงแม้มันจะผ่านมานานแสนนานแล้วก็ตาม
 
 
“พี่ขับก่อนดิ ผมง่วงมากเลยอ่ะ โคตรง่วงเลย” ผมเหลือบมองไอ้ติณด้วยหางตา มันทำงานกับผมมานานและเป็นคนที่ผมสนิทใจด้วย ซึ่งก็มีไม่กี่คน
 
“งั้นกูให้ไอ้ต่อไปแทน” ผมบอก และพูดถึงเพื่อนมันอีกคนที่ทำงานมาด้วยกัน
 
“โอ๊ะๆๆ ไม่เอาๆ ผมขับเองก็ได้” มันรับกุญแจรถไปจากมือผมก่อนจะเปิดประตูให้เสร็จสรรพและวิ่งมาขึ้นรถขับออกจากสนามแข่งซึ่งเป็นที่ที่ผมพักอยู่
 
ผมยังพักอยู่ที่นี่เพราะมันสะดวกในการทำงาน ไม่อยากไปๆมาๆคอนโด หรือไม่ก็บ้าน ผมมีบ้านครับเป็นบ้านของพ่อบุญธรรมซึ่งรับผมและพี่ชายมาเลี้ยง พ่อของผมเสียตั้งแต่ผมอยู่มอต้นด้วยอุบัติเหตุ
 
พ่อบุญธรรมเลยรับผมและพี่ชายมาเลี้ยงเพราะท่านไม่มีครอบครัว ท่านเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้มีพระคุณยิ่งสำหรับผมและพี่ชาย  จากนั้นพี่ชายผมก็เดินตามรอยท่านเรียนรู้ที่จะทำธุรกิจอย่างจริงจังโดยมีพ่อเป็นผู้สนับสนุน ท่านรักพวกเรานะรักมากด้วย ผมคิดแบบนั้น
 
“ถึงแล้วคับ.....โอ๊ย เมื่อยมากเลยว่ะ” ไอ้ติณลงจากรถไปบิดขี้เกียจ ก่อนจะมาเปิดประตูให้ผม
 
วันนี้ผมมาดูงานตามที่พี่ชายผมบอก ขับรถออกจากกรุงเทพฯมาโดยใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึง ผมมองเข้าไปยังโรงแรมเบื้องหน้าที่ดูหรูหราและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างดี
 
“กูต้องเช็คอินมั้ยวะ” ผมถามไอ้ติณเพราะพี่ชายผมได้บอกรายละเอียดกับมันไว้แล้ว
 
“ไม่นะ พี่มาศบอกว่าให้ไปตามห้องเนี่ย เห็นว่ามีคนที่พี่เค้ารู้จักมาดูแลเรานะ” ผมรับเอกสารจากมือไอ้ติณมาดู ก่อนจะเดินเข้ามาในโรงแรม จากนั้นก็ขึ้นลิฟท์มายังชั้นห้องพักตามที่ระบุไว้
 
ผมเข้ามาในห้องพักชั้นวีไอ้พี ซึ่งเป็นห้องสูทหรูตกแต่งด้วยโทนสีเขียนอ่อนดูแล้วสบายตาดี ผมกับไอ้ติณแยกกันพักคนล่ะห้อง และมันก็พักห้องถัดไปจากผม
 
ก๊อกๆๆๆ
 
เสียงเคาะประตูบานใหญ่ดังขึ้นผมเลยเดินไปเปิด เป็นพนักงานหนุ่มที่ใส่ยูนิฟอร์มของโรงแรมที่ผมสักเกตุเห็นตอนเดินขึ้นมา
 
“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณคือคนที่คุณภาณุมาศส่งมาดูงานใช่มั้ยครับ” พนักงานหนุ่มถามอย่างนอบน้อม
 
“ใช่ ผมเป็นน้องชายของเค้า” ผมบอก จากนั้นก็เดินตามพนักงานมายังห้องส่วนตัวอีกห้องตามคำเชิญ คาดว่าน่าจะเป็นห้องไว้สำหรับพูดคุยธุรกิจของคนที่เข้ามาพักที่นี่
 
แกร๊ง!!!  ผมมานั่งรอราวๆห้านาทีได้ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออก
 
ผมหันไปมองบุกคลที่พึ่งมาใหม่ก็ ถึงกับชะงักนิ่ง ซึ่งเป็นคนผมไม่คาดคิดว่าจะมาเจอที่ ทันทีที่เห็นใบหน้าของร่างบางสูงโปร่งทำให้ผมคิดถึงเสียงหวานและค่ำคืนอันร้อนแรงผุดขึ้นมาในหัว
 
จ้องมองหน้ามันไม่วางตา แต่งร่างบางกลับมีสีหน้าเรียบเฉยซะจนผมคิดว่ามันจำผมไม่ได้ แต่ไม่มีทางหรอก เราโตกันแล้วต้องจำได้สิ มันนั่งลงตรงข้างผมพร้อมกับเด็กสาวอีกคนซึ่งผมก็เพิ่งเห็นเมื่อเธอนั่งลงข้างๆมัน
 
“ผมมารับหน้าที่ดูแลคุณซึ่งเป็นผู้ที่มาดูงานที่นี่” ผมเริ่มขยับปากพูดในขณะที่ผมยังจ้องหน้ามันไม่วางตาโดยไม่ได้สนใจเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันแม้แต่น้อย
 
“งั้นหรอ” ผมบอกแค่นั้นก่อนจะยกยิ้มมุมปาก กับประโยคที่มันพูด สรรพนามที่ใช้มันเหมือนกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันจริงๆ สีหน้าและการวางตัวของมันบอกได้ชัดเจนว่าไม่เคยรู้จักกันเลย
 
“ผมจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆก่อนแล้วกัน............” ร่างบางตรงหน้าผมเริ่มอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจที่ว่าด้วยท่าทางปกติและไม่มีสีหน้าอื่นใด
 
สายตาผมยังคงจับจ้องคนตรงหน้าโดยไม่ล่ะสายตาไปไหน มันอธิบายไปเรื่อยจนกระทั่งปากสีสดหยุดนิ่ง สายตาที่สบตากับผมยังคงว่างเปล่า มันทำให้ผมเริ่มหงุดหงิดจนต้องดันลิ้นกับกระพุ้งแก้ม
 
“ผมคิดว่าคุยคงจะเข้าใจให้ร
ายละเอียดที่ผมอธิบายไปแล้ว คืนนี้จะมี..........”
 
“ยัง! ผมยังไม่เข้าใจเลยสักนิด” ผมพูดขัดร่างบางตรงหน้า มันกัดฟันแต่ก็ยังปรับสีหน้าให้เป็นปกติอยู่
 
“ผมคิดว่า...ผมอธิบายชัดเจนแล้ว”
 
“ไม่  ตอนคุณอธิบายรายละเอียดนั่น คุยไม่มองหน้าผมเลย ผมไม่เข้าใจอ่ะ” ผมบอกอย่างเอาแต่ใจ โดยไม่สนเด็กสาวที่นั่งมองอยู่ข้างๆมัน
 
“ก็ได้ ผมจะอธิบายให้คุณฟังอีกครั้ง” ร่างบางพูดบอกขณะที่จ้องตาผมไปด้วย เราสบสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
 
“จะดีกว่า ถ้าผมจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว” ผมเหล่มองไปยังเด็กสาวที่มีสีหน้ากังวลใจไม่น้อยกับการกระทำของผม
 
“ไม่จำเป็น....”แต่ดูเหมือนมันจะไม่อยากอยู่กับผมสองคนสักเท่าไหร่ ผมจึงพยายามกดดันเด็กสาวนั้นทางสายตา เพราะดูแล้วเธอกลัวๆผมยังไงไม่รู้
 
“เอ่อ เมล์ออกไปก่อนก็ได้ค่ะ” และแล้วเธอก็ยอมลุกขึ้นเดินออกไป ก่อนจะเปิดประตูบานใหญ่ลง
 
ในห้องเล็กตอนนี้จึงมีเพียงผมกับมัน สีหน้ามันเปลี่ยนไม่นิดหน่อยจากนิ่งเฉยเมื่อกี้กลายเป็นขมวดคิวยุ่ง มันถอนหายใจเบาๆก่อนจะเริ่มอธิบายรายละเอียดนั่นอีกครั้ง โดยที่ผมก็ไม่ได้สนใจจะฟัง แต่ครั้งนี้มันจับจ้องตาผมโดยไม่ละสายตาไปไหนเลย
 
“ซึ่งเรามีการบริกา.......อื๊อ.........” เพราะโต๊ะระหว่างผมกับมันที่นั่งตรงข้ามกันไม่ได้กว้างนัก ผมเลยใช้จังหวะช่วงที่มันมองดูเอกสารบนโต๊ะลุกขึ้นและโน้มตัวลงไปดึงท้ายทอยมันเข้ามาประกบริมฝีปากผมลงไปกับริมฝีปากสีสด
 
มันคงตกไม่น้อยที่จู่ๆ ผมก็รุกมันได้เร็วอย่างนี้ ผมรุกจูบอย่างหนักหน่วง ร่างบางดิ้นและดันแผงอกผมออกซึ่งมันนั่งอยู่บนเก้าอี้ และก็แคบมากทำให้ร่างบางผลักออกจากผมได้ยาก
 
กึก!!!!
แต่แล้วผมก็ต้องหยุดนิ่ง เพราะสัมผัสเย็นวาบตรงขมับซ้าย คงเดาได้ไม่ยากนะว่ามันคืออะไร ผมนิ่งก็จริงแต่ปากผมกับมันยังคงทาบติดกัน ผมหมั่นเขี้ยวเลยขบแรงๆไปทีหนึ่งก่อนจะยอมผลักออก
 
พรึ่บ!!!!
 
“เล่นแรงนะมึง” ผมบอกหลังจากที่คว้าข้อมือมันที่เหวี่ยงปืนเข้าหาผม แต่ผมดันหลบทัน
 
“สารเลว” มันกัดฟันพูด จ้องหน้าผมเขม็ง แต่ผมไม่ได้สะทบสะท้านแม้แต่นิด ร่างบางมีสีหน้าเคืองสุดขีดมันเก็บปืนก่อนจะเดินออกๆ
 
“เดี๋ยว.......ไม่คุยกันก่อนหรอ   ที่รัก!!!” แต่ผมก็ไวเช่นกัน เพราะแค่ผมก้าวเท้าเพียงสามก้าวก็สามารถ ดึงแขนมันไว้ได้
 
 
“ที่รักพ่อง มึงสิ!!!!” มันหันกลับมามองผมอย่างโกรธแค้น แทบอยากจะฉีกร่างผมออกเป็นชิ้นๆเสียให้ได้
 
“ปากดีได้อีก  ไหนๆก็เจอกันทั้งที เราจะไม่มาระลึกชาติกันหน่อยหรอ” ผมผลักร่างบางติดกับประตูบานใหญ่ก่อนจะเข้าไประชิดตัวจนแทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างกัน
“กูยังเก็บ คลิปคืนนั้นเอาไว้อยู่เลย ดูดิ” ผมบอกก่อนจะชูโทรศัพท์ให้มันดู มันกัดฟันกรอดๆ ด้วยความโกรธหน้าขึ้นสีแดงซ่าน
“ฮั่ก!!!.......” ผมล้มลงพื้นเมื่อโดนมันยกเข่าขึ้นแทรกเข้าหว่างขาอย่างจัง
 
“ไอ้สารเลว.....ปึ่ก!!!!” ยังไม่พอร่างบางเก็บโทรศัพท์ของผมที่ตกลงพื้นเมื่อกี้มาซัดหน้าผมเต็มๆก่อนที่ร่างบางจะเดินออกไป ทิ้งให้ผมนั่งตัวงอทั้งจุกและเจ็บใจอยู่ตรงนั้น
 
ผมเก็บโทรศัพท์ก่อนจะยันตัวลุกขึ้น กุมเป้ากางเก่งตัวเอง แมร่ง แรงเยอะชะมัด ผมยกมือขึ้นจับขมับที่รู้สึกตึงๆเพราะโดนมันซัด ปรากฏว่า ได้เลือดครับ แต่ก็เล็กน้อย เหอะๆ
 
ผมชะงักฝีเท้าเมื่อเปิดประตูออกมาจากห้องนั้น พบว่าด้านนอกมีผู้มาใหม่อีกสองสามคน หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ผมจำได้ว่าคือ คุณโอ๊ค  ที่ยืนประชันหน้าอยู่กลับน้องชายตัวเอง และมองมายังผม
 
เพี้ย!!!!
 
“กูให้มึงมาดูแลคุณแมนเค้า ไม่ใช้ให้มาหาเรื่อง!!! ถ้ายังมีนิสัยแบบนี้อีก ก็กลับไปซะ” เสียงฝ่ามือปะทะกับใบหน้าเรียวใส่จนหน้าหัน ทำให้ทุกคนเปิกตากว้างอย่างตกใจรวมทั้งผมเองก็เช่นกัน
 
“เอ่อ คือ.....เรามีเรื่องเข้าใจผิด นิดหน่อยเอง ไม่เห็นจะต้องลงไม้ลงมือกันนี้ครับ” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างๆร่างบางที่ยังไม่หันมามอง
 
“นิสัยเสีย จนเสียการเสียงงาน ผมต้องของโทษด้วยนะครับ.....เดี๋ยวผมจะให้คนอื่นมาดูแลคุณแมนแทน” ผมไม่รู้หรอกว่าพี่ผมไปผูกมิตรกับพวกมันได้ยังไง คุณโอ๊คถึงได้รับรองและดูแลผมขนาดนี้
 
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมบอกแล้วว่าแค่เข้าใจผิดนิดๆหน่อยๆ  แค่....ให้คุณโอ๊ต! รับผิดชอบแผลที่เกิดขึ้นก็พอ” ผมบอกอีก เท่านั้นแหละ ร่างบางก็หันขวับมามองทันที
 
“ได้ครับ พาคุณแมนไปทำแผลที่ห้อง....และหวังว่าแกจะไม่สร้างปัญหาอีกนะ” คุณโอ๊คบอกก่อนจะเดินออกไป โอ๊ตเลยเดินนำไปยังห้องพักของผมด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์
 
มันเอากล่องพยาบาลมานั่งจ้องเฉยๆราวๆสิบนาทีๆได้แล้วครับ แต่ไม่ยอมทำแผลให้ผมซะที ผมเองก็นั่งมองเรียวหน้าใสไม่วางตา ไม่รู้หน้ามันมีอะไรนักหนาผมถึงได้ชอบมองนัก
 
“แผลกูจะเน่าแล้วนะ ตกลงจะทำมั้ย” หน้าเรียวมองผมอย่างโกรธเคืองก่อนจะเริ่มหยิบจับกล่องพยาบาล แต่ทันทีที่มันขยับตัว ผมก็ดึงร่างมันมากดลงบนโซฟาและพาร่างหนาของตัวลงทับทาบลงไป
 
“ปล่อย!!!!  ไอ้เลว  ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” มันดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่างผม พร้อมๆกับปากที่ด่าว่าไปด้วย
 
“นิ่งๆนา.......!!!” ผมส่งสายตาคมๆสบตากับมันจนมันนิ่งเงียบไป ผมดึงมันขึ้นมานั่งดีๆ แต่มันทำท่าจะยกมือขึ้นต่อยผมอีก ไอ้นี่กูดีด้วยไม่ได้เลย
“กูบอกนิ่งๆไง หรือจะให้กูของขึ้น” ผมจับข้อมือมันไว้ ร่างบางนิ่วหน้านิดๆก่อนจะแสมองไปทางอื่น
 
“ทำอะไร!!!!!” มันถามด้วยหน้าเสียงเชิงตะคอกใส่ เมื่อผมดันตัวมันให้หันหลัง
 

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
“กูบอกนิ่งๆไง......” ผมแค่อยากเห็นอะไรบางอย่างที่ผมเคยทิ้งไว้บนตัวมันเมื่อสี่ปีก่อนก็เท่านั้น ผมดึงคอเสื้อมันลง เพราะเสื้อมันคอกว้างมากพอที่จะดึงมาด้านหลังตรงหัวไหล่ได้
 
“กูลบแล้วไม่ต้องหาหรอก” มันบอกก่อนจะดึงเสื้อลงให้ผมดูเอง รอยสักที่ผมเคยทำไว้ตอนนี้มันหายไปแล้ว ผมแทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะหายไปได้ยังไงในเมื่อ..... “สิ่งสกปรก.....จากคนสกปรก กูไม่อยากเก็บไว้......อ่ะ!!!!!” ไม่รู้ความโกรธมันเข้ามาปะทะหน้าผมได้ยังไงผมถึงได้กดมันลงบนโซฟาอย่างแรงด้วยมือเดียว ส่วนมืออีกข้าง รวบเจ็บข้อมือมันทั้งสองข้างไว้
 
ผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาโกรธหรือโมโหใครเข้ามากๆ แต่ครั้งนี้มันมากเกินไปจริงๆ ผมเองก็ไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่ากับอีแค่รอยสักนั้น พอเห็นมันหายไปผมถึงไม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้ขนาดนี้
 
“สกปรกงั้นหรอ  หึ!!! มึงยิ่งลบกูก็ยิ่งอยากทำให้มึงสกปรกขึ้นอีกเป็นเท่าตัว” จบคำพูดผม ร่างบางก็ไม่มีสิทธิได้ต่อกรกับผมอีกเพราะริมฝีปากมันโดนผมฉกจูบรุนแรงแทบจะไม่มีเวลาให้ทันได้หายใจเข้าปอด
 
“อื๊ออออออ” ร่างบางพยายามจะดิ้นและขัดขืนเต็มที่แต่ด้วย กำลังและร่างกายของผมเป็นฝ่ายได้เปรียบกว่า มันจึงไม่สามารถผลักผมออกได้
 
ผมรุกจูบคนใต้ร่างอย่างหนักหน่วง จนร่างบางแทบขาดอากาศหายใจกว่าผมจะละปากออก ปากสีสดเจ่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมรีบหายใจเข้าปอดแรงๆ แต่แค่ไม่ถึงสิบวิผมก็ทาบริมฝีปากร้อนลงไปใหม่
 
“อื๊อออออออ” ร่างบางพยายามดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะยิ่งดิ้นผมก็ยิ่งเพิ่มแรงกดมากขึ้น ความหวานในโพรงปากสีสดทำให้ผมพอใจจนไม่อยากจะละปากออก แต่เมื่อความต้องการก่อตัวขึ้นผมก็เปลี่ยนจากรุกริมฝีปากมาเป็นซอกคอขาวเนียน
 
“ไอ้เลว ปล่อยกู.....อ่ะ!!!” ผมไม่สนใจคำด่าทอจากมันแม้แต่น้อย ผมลูบไล่ไปทั่วร่างก่อนจะเลิกเสื้อมันขึ้นจนถึงคอใช้มือหนาสัมผัสผิวเนียนใต้ผ้าบาง
 
“เงียบนา หรือจะหาอะไรมายัดปากดีมั้ย” ผมบอกในขณะที่ใบหน้าจะซุกไซ้อยู่กับซอกคอขาวเนียน
 
“มึง.....อะ” ผมเกิดรำคาญเสียงมัน ไล่นิ้วเรียวขึ้นไปถึงปากสวยก่อนจะสอดเข้าไปภายในโพรงปากรสหนาว หวังจะให้มันดูดเลียนิ้วเรียว
 
“อ๊ากก  อ่ะ.....มึง!!!” แต่ผมกลับลืมไปว่าคนอย่างมันหรือจะยอม ร่างบางกัดนิ้วผมจนผมร้องเสียงหลง
 
เพี้ย!!!!!!!  ด้วยความโกรธที่เข้ามาครอบงำทำให้ผมฟาดฝ่ามือหนาลงบนหน้ามันเต็มแรงจนหนาเนียนใสหันไปตามแรงปะทะ
 
ร่างบางนิ่งเงียบและผ่อนแรงขัดขืนจนผมรู้สึกได้ มันนิ่งซะจนผมรู้สึกวูบไหวตาม เลือดสีสดค่อยซึมออกมาจากมุมปากสวย มันทำให้ผมไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจู่ๆ ถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมา
 
นานนับหลายนาที ผมนิ่งมองหน้ามันที่ยังคงนิ่งเงียบไป ก่อนที่ผมจะโน้มตัวลงไปกดจูบเลือดจากมุมปากร่างบาง และมันก็ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเอาซะมากๆเพราะมันนอนนิ่งไม่มีท่าทีขัดขืนแม้แต่น้อย ผมล่ะปากออก เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาก่อนลุกออกจากตัวมัน
 
ไม่นานร่างบางก็ลุกขึ้นจากโซฟาเก็บกล่องพยาบาลจะออกไป ผมดึงมือมันไว้มันเองก็หยุดแต่โดยดีจนผมแปลกใจ  ผมมองร่างบางที่ไม่ยอมหันมาสบตากับผม อยากจะพูดอะไรสักอย่างกับมันแต่ก็รวบรวมคำพูดนั้นออกมาไม่ได้ ผมเลยเลือกที่จะปล่อยมือ
 
“เหี้ยรับวะ!!!!” ผมทิ้งตัวลงกับโซฟาอีกครั้ง นั่งจมอยู่กับความรู้สึกหน่วงๆที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน   ก่อนจะปล่อยตัวให้นอนหลับลง
 
 
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่ได้มาดูแลคุณด้วยตัวเอง เพราะช่วงนี้ยุ่งๆเลยให้โอ๊ตมันมาดูและคุณแทน”  ผมไม่เข้าใจเลยว่าพี่ชายตัวเองคิดอะไรอยู่ ถึงได้มายุ่งเกี่ยวกับพวกนี้แต่ผมก็ไม่มีสิทธิ์แย้งอะไร
 
“ไม่เป็นรัยคับ” ช่วงค่ำ ผมถูกเชิญให้มาทานข้าวกับคุณโอ๊ค หลังจากที่อ่านเอกสารของโอ๊ตที่มันเอามาอธิบายให้ผมฟังนั่นแหละ
 
“อ้าว.....เมล์ แล้วโอ๊ตล่ะ  ทำไมไม่มาด้วยกัน” คุณโอ๊คถามหาน้องชายกับเด็กสาวที่มากับโอ๊ตเมื่อตอนกลางวัน
 
“เอ่อ คือ พี่โอ๊ตบอกว่าไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ  ขอพักผ่อนค่ะ” เธอบอกมองหน้าผมนิดๆ
 
“เสียมารยาทจริงๆ ขอโทษจริงๆนะครับ”
 
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ” ผมตอบคุณโอ๊คกลับไป ใจจริงก็อยากให้มันมานั่งร่วมโต๊ะด้วยแต่มันคงอึดอัดนาดูที่ต้องมานั่งร่วมโต๊ะกับคนที่ตังเองเกลียด
 
“เอ่อนี่เมล์ พรุ่งนี้เรากับโอ๊ตจะไปเกาะกันใช่มัย” เราพูดกันไปเรื่อย จนกระทั่งคุณโอ๊คถามเด็กสาวที่นั่งทานข้าวอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ
 
“ใช่ค่ะ ว่าจะออกไปตอนเช้าๆคะ” ผมฟัง และไม่ได้สนใจมากนัก
 
“จริงสิ ผมลืมบอกไป เมล์เป็นคู่หมั้นของโอ๊ตน่ะ” คุณโอ๊คหันมาบอกประโยคนั้นกับผม คู่หมั้นงั้นหรอ เหอะ!!!
 
“ก็......เหมาะกันดีนะครับ” ผมบอกแค่นั้นก่อนจะเหลือบมองเด็กสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของโอ๊ตด้วยหางตา
 
 
วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อจะมายังท่าเรือ ผมให้เงินไอ้ติณให้กลับไปกรุงเทพก่อนผม ผมบอกกับมันว่าจะอยู่ทำธุระอีกวันสองวัน
 
หลังจากที่มาถึงท่าเรือผมก็หาทางลงเรือของโอ๊ตโดยไม่ให้มันรู้ เหอะ!!! บอกตามตรงผมยังไม่อยากจบเรื่องของเราแค่นี้ ยิ่งรู้ว่ามันกำลังจะตัดผมออกไปจากชีวิตมันโดยการมีคู่หมั้น ผมก็ยิ่งอยากได้มันมาเป็นของตัวเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ใจมันอยากได้ และกูก็ต้องได้
 
ผมแอบอยู่หลังเรือตลอดตั้งแต่เรือออกจากท่ามุ้งหน้าไปยังเกาะ ดูเหมือนผมจะทำตัวเป็นโจรยังไงยังงั้น เพราะผมต้องแอบเข้ามาด้านในโดยไม่ให้มันรู้ตัว
 
“พี่โอ๊ต   พี่โอ๊ตคะ   เป็นอะไรหรือเปล่า คะ” เสียงเล็กๆของเด็กสาวดังมาจากด้านในของมุมหนึ่ง ผมเลยเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น
 
“เปล่า น่ะ” โอ๊ตตอบแค่นั้น สีหน้าและท่าทางของมันไม่เหมือนกับคนที่จะมาเที่ยวสนุกกับคู่หมั้นเลยสักนิด
 
“งั้น เดี๋ยวเมล์มานะคะ” เด็กสาวบอก สีหน้าของเธอเองก็ไม่ได้ยิ้มแย้มเช่นกัน
 
“ไง” ผมทักและเดินเข้าไปหามัน ร่างบางเปิกตากว้างเมื่อเห็นผม มันรีบลุกขึ้นและดึงแขนผมมาอีกมุมหนึ่งของเรือเพื่อหลบเด็กสาว
 
“มาได้ไง  ทำบ้าอะไร!!!!!” โอ๊ตกัดฟันถามอย่างสงสัยก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนผม
 
ผมไปตอบออกจากมุมนั้นเพื่อเอาอะไรบางอย่างไปใส่ลงในแก้วน้ำของเด็กสาวที่มากับมันก่อนจะกลับมาดึงแขนมันออกมาบนเรือ
 
“ทำอะไร ต้องการอะไรอีก!!!”
 
“ต้องการมึงไง!!!” มันนิ่งเงียบก่อนผลักผมออกทำท่าจะกลับเข้าไปด้านใน แต่ผมจะไม่ยอมง่ายๆไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว เชื่อสิว่ามันออกมาวันนี้ไม่ได้ปกอาวุธมาหรอและผมก็สู้มันได้สบาย
 
“ปล่อย มึงใส่อะไรให้เมล์กิน” ร่างบางพยายามดึงแขนเล็กออกจากมือผมอีกครั้งหลังจากที่ผมคว้ามันไว้เมื่อกี้
 
“แค่สลบนาไม่ตายหรอก” ผมบอก เรือมาถึงเกาะพอดี ผมเลยรีบลากมันลงจากเรือ ส่วนเด็กสาวคนนั้นก็ช่างมันสิ
 
“นี่ ปล่อยนะ ที่นี่ถิ่นกูมึงไม่รอดหรอก” โอ๊ตบอก ทุบตีผมจนแดงไปทั่วแขนระหว่างเดินเข้ามาในรีสอร์ท
 
“แล้วถ้ากูบอกว่า  กูเป็น ผอ อัว ผัว มึงใครมันกล้า อีกอย่าง พี่มึงคงไม่ชอบใจนักถ้ารู้เข้า จริงมั้ย” ผมโอบเอวบางเข้าหาตัว ส่งยิ้มหวานให้มัน
 
“ทุเรศ ไอ้เลว” โอ๊ตมองสบตาผมอย่างโกรธเคืองและดันร่างผมออกห่าง ก่อนจะรีบเดินนำไปไม่สิเรียกว่าเดินหนีต่างหาก ผมมองแผนหลังร่างบางก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูเหมือนมันจะเกลียดผมเข้ากระดูกดำจริงๆ
 
โอ๊ตเดินมายังห้องพักติดริมทะเล รีบไขกุญแจเข้าไปด้านในและจงใจจะปิดประตูอย่างรวดเร็วไม่ให้ผมเข้าไปแต่ผมรู้ทัน ก้าวไปผลักมันเข้าไปข้างในก่อนจะตามไปติดๆ พร้อมกับล็อคประตูเสร็จสรรพ
 
“เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับกูซะที เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องมารื้อฟื้นอีก และอีกกูก็ไม่ได้หักหลังมึง เพราะไม่อยากยุ่งกับมึงอีก ไม่อยากเลยสักนิด” ร่างบางพูดบอกอย่างโกรธเคือง
 
“บังเอิญกูอยากยุ่งไง” ผมบอก มองสำรวจใบหน้าเนียนใสที่ตอนนี้ คิ้วขมวดเข้าหากัน ผมเดินเข้าไปใกล้ๆมัน ก่อนจะคว้าตัวมันเข้ามาจูบ
 
“อื๊ออออ” ร่างบางทุบตีบผมด้วยกำหมัด แต่ผมไม่สนใจ ยกมือขึ้นกดท้ายทอยมันไว้ไม่ให้ละออกห่าง ลิ้นร้อนสอดเข้าไปเกี่ยวตวัดรสหวานจากโพรงปากสีสดเนินนาน
 
“มีคู่หมั่นทำไมไม่บอก” ผมถามขณะที่ล่ะปากออก
 
“ไม่จำเป็น” ร่างบางบอกก่อนจะหลบตาผม “เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” คำพูดนั้น ทำให้ผมหงุดหงิดจนต้องลากมันเข้ามายังโซนห้องนอนซึ่งมีแค่ผ้าม่านบางๆกั้นไว้
 
“งั้น เรามาระลึกชาติกันดีมั้ย” เพี้ย!!!! ผมยังไม่ทันได้ก้มลงประกบปากมัน ร่างบางกลับฝาดฝ่ามือเข้าให้บนหน้าผมเต็มแรง
 
“สารเล............อื๊ออออ” จากนั้นอารมณ์ผมก็พลุ่งพล่านไปทั่วร่าง ฉกจูบปากสีสดแรงๆไม่พอยังขบเม้มจนรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือด
 
“ถ้าไม่ได้เป็นอะไรกัน มึงก็หยุดกูให้ได้สิ ที่รัก!” มือเล็กยังตุบตีข้างตัวผมแรงๆแต่ผมไม่สนใจรุกจูบปากสีสดต่อ พร้อมกับมือไม้เริ่มแกะกระดุมเสื้อมันทีล่ะเม็ด
 
“ไอ้....เหี้ย ปล่อยกู!!!!  อ่ะ!!!!” ผมกัดซอกคอมันแรงๆจนเกิดรอย ก่อนจะไล่มือลงมาถอดกางเกงขาสั้นแค่เข่าของมันทิ้ง
 
“หึ ไหนว่าไม่ได้เป็นอะไรกันไง ทำไม......ของมึงมันชี้หน้ากูแบบนี้วะ” ผมบอกพร้อมกับมองสำตรวจร่างกายมันไปทั่วร่างอย่างหื่นกระหาย จนคนใต้ร่างผมหน้าร้อนขึ้นสีแดดเทือกแม้ว่าจะผ่านมีตั้งสี่ปีแต่มันก็ยังดูแลร่างกายได้ดีทุกซอกทุกมุม
 
“ไอ้เลว อ่ะ!!!!” ผมแกล้งกดแกนกายของมันเพื่อหยุดคำด่าทอนั่น และหันมาถอดเสื้อผ้าตัวเองออก
 
“จะไปไหน!!! มานี่ หรือมึงอยากโดนมัดห๊ะ!!!!” โอ๊ตใช้จังหวะที่ผมถอดเสื้อผ้าจะลุกหนีแต่ผมคว้าตัวมันไว้ได้
 
“ปล่อย!!!” ผมดึงมันเข้ามากอดจนร่างกายเราเบียดชิดติดกัน ถึงแม้ว่ามันจะร่างเล็กกว่าผมแต่แรงมันก็เยอะใช่น้อย ผมจะหมดแรงก่อนจะตอนที่ไล่จับมันเนี่ยแหละ
 
“ทำไมดื้ออย่างนี้ห๊ะ!!!!  มานี่!!!!” ผมเริ่มมีอารมณ์โกรธเลยเผลอตวาดใส่มันเสียงดัง ร่างบางนิ่งไป ก่อนที่จะกลับมาตุบตีผมอีกครั้งเมื่อผมอุ้มร่างมันเข้ามาในห้องน้ำ
 
“ปล่อย ไอ้เหี้ย!!!!  ไอ้อุบาทต์!!!” ปากมันดีอย่างนี้แหละผมถึงทนไม่ได้
 
ผมดันมันลงไปในอ่างน้ำที่มีน้ำอยู่เกือบเต็ม ร่างบางเกือบจมลงไปในน้ำทั้งร่างเพราะอ่างน้ำที่กว้างเป็นพิเศษ ผมเริ่มรุกจูบอย่างร้อนแรงทันทีเมื่อมีโอกาส และจะไม่ยอมให้มันขัดใจอีกแล้ว
 
“อ๊ะ......ไอ้.....อื๊ออออ” ผมซุกดูดเม้มซอกคอขาวจนร่างบางเคลิ้มและคล้อยตาม มือเล็กที่เอาแต่ทุบตีผมเมื่อกี้ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโอบรอบคอผมแทน
 
“อื่มมมม.....ยอมตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง” ผมบอกก้มลงขบกัดยอดอกสวยของมันที่กำลังชูชันสู้ลิ้นร้อน ไล่มือลงไปปลดปล่อยรูดรั้นแกนกายให้มัน
 
“อ่าส์.............อ๊ะๆๆ” ผมรูดรั้นแกนกายอุ่น และเร่งจังหวะเร็วๆ ร่างบางครางออกมาอย่างเสียวซ่านก่อนจะปลดปล่อยออกมาเพียงแค่เวลาไม่นาน
 
“ถึงทีกูมั่ง ล่ะ” ผมดึงร่างมันขึ้นมาจากอ่าง ให้นั่งคร่อมตักผมแทน “ใส่เอง หรือจะให้กูใส่ให้” ผมบอก เพี้ย!!! โดนบ่องหูกูเต็มๆครับ มันทำท่าจะขัดขืนแต่ผมหรือจะยอมปล่อย มันไม่ใส่กูก็ยัดใส่เองสิ
 
“อ๊ะ!!!!  ไอ้.........อ๊ะๆๆๆๆ” ผมไม่ปล่อยให้มันได้ด่าทออีก เพราะน้ำในอ่างผสมสบู่เรียบร้อยแล้ว ผมเลยไม่คิดจะเปิกทางให้มัน ร่างบางถึงกันนิ่วหน้าเพราะความเจ็บแถมผมก็ไม่ให้มันทำความคุ้นชินกับแท่นร้อนผมเลย ใส่ปุ๊บ ก็สวนไม่ยั้ง
 
“อ่าส์.....” บทรักอันร้อนแรงในห้องน้ำเกิดขึ้นวงไปเวียนมาเกือบทุกท่วงท่าที่ผมสามารถทำได้ ความอุ่นร้อนที่กำลังตดรัดผมมันทำให้มีอารมณ์ความต้องการก่อตัวขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด จนเวลาล้วงเลยมาจนถึงช่วงบาย  เรียกว่าข้าวปลาไม่ได้กินกันเลยทีเดียว
 
ผมเองก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หยุดน่ะหยุดให้   แต่แค่ไม่ถึงสามสิบนาที ผมก็เริ่มปลุกอารมณ์มันขึ้นมาใหม่ จนตอนนี้ร่างบางหนังตาเริ่มปิดลงเต็มที
 
“พอ.....อ่าส์......ไม่ไหว” โอ๊ตบอกเมื่อผมเริ่มรุกจูบมัน หลังเสร็จไปอีกรอบบนเตียงเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว
 
“อื่ม.......กูยังไม่อิ่มเลย” ผมบอก มันเลยกัดหัวไหล่ผมเต็มแรงเพราะคงไม่เหลือแรงที่จะยกมือขึ้นมาฟาดใส่ผมแล้ว
 
“อื๊อออออ.........” เมื่อผมเริ่มแล้วก็จะไม่ยอมให้ค้างคาเด็จขาด
 
“ไปว่ายน้ำกัน...” ผมบอกอุ้มมันขึ้นมาจนเตียงกว้าง ทั้งที่ร่างกายไม่มีผ้าปกปิดแม้แต่ชิ้นเดียว  ผมพามันมาลงสระน้ำของห้องพัก ซึ่งเป็นที่ส่วนตัว เพราะงั้นจะทำอะไรก็ได้ไม่มีใครเห็น
 
“ไม่!!!!....อ๊ะ.....ไอ้โรคจิต....ไอ้....อุ๊บส์” ผมกลืนกินคำพูดจากโพรงปากรสหวานลงคอ มือลูบไล่ไปทั่วร่างเพรียวบาง ที่สัมผัสกี่ทีกี่ทีก็ทำให้ผมร้อนรุ่มไปทั้งตัว นี่แหละไม่ยากเลยที่ผมจะมีอารมณ์มันกับได้ง่ายๆ และเหมือนจะไม่อยากหยุดเลยด้วยซ้ำ
 
ผมดำน้ำลงไปโดยให้ร่างมันพิงกับขอบสระ กระตุกอารมณ์มันด้วยลิ้น ผมไล่ลิ้นกับสะดือเล็กให้มันเสียวเล่น จากนั้นก็ไล่ลิ้นลงมาขบเม้มแกนกายที่กำลังชูชันตรงหน้า น้ำในสระดับความร้อนในตัวก็จริงแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับผม
 
ผมครอบปากลงกับแกนกายร่างบางจนขาเรียวหนีบเข้าหากัน ก่อนจะรูดรั้นแกนกายมันด้วยปากเพื่อให้มันปลดปล่อยออกมาก่อน แต่ดูเหมือนร่างบางจะทนความเสียวซ่านไม่ไหวเลยปล่อยตัวลงมาใต้น้ำให้ผมเกาะเอวมันไว้ และไม่นานน้ำรักสีขุนก็พุ่งออกมาเต็มปากผม มีบางส่วนที่เผลอกลืนลงคอไป แต่แปลกที่ผมไม่ได้รังเกียจเลยสักนิด
 
“อ่าๆ.....เฮ้ย! อย่าเพิ่มหลับ” ผมโผล่ขึ้นมาจากน้ำเห็นร่างบางใกล้หลับเต็มที ผมเลยไม่รอช้าจับขามันสองข้างมาเกี่ยวเอวไว้ก่อนจะแทรกแท่นร้อนเข้าไปในช่องทางคับแคบของมันรวดเดียวเต็มลำ
 
“อ๊ะๆๆๆๆๆ................” เสียงครางพร่า ดังตามแรงกระแทกกระทั้งจากสะโพกสอบของผม ความอุ่นร้อนภายในตดรัดจนทำให้ผมคลั่งแทบควบคุมสติไม่อยู่
 
“อ่าส์/อ่าๆๆ” ผมปล่อยน้ำสีขุนภายในร่างกายมันจนไหลเยิ้มออกมา ก่อนจะค่อยๆถอดแทนร้อนออกช้าๆ ร่างบางโอบรอบคอผมไว้แน่นและนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
 
“กูล้างให้” ผมบอกโดยไม่รอคำตอบจากมันสอดนิ้วเข้าไปภายในช่องแคบสีหวานควานน้ำรักออกให้จนหมด ก่อนจะพามันไปล้างตัวอีกครั้งและกลับมานอนพักบนเตียงกว้างอย่างหมดแรง
 
ก็อกๆๆ
 
เสียงประตูห้องพักดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะลุกไปเข้าห้องน้ำพอดี ผมเลยเดินไปเปิดทั้งที่ยังใส่เพียงเสื้อคลุมอาบน้ำ
 
“อาหารครับ” ผมรับอาหารจากพนักงานก่อนจะเดินกลับเข้ามา
 
“โอ๊ต  จุ๊บๆ.......ลุกมากินข้าวก่อน ค่ำแล้ว” ผมปลุกมันโดยการจุ๊บมุมปากเน้นๆสองที ร่างบางปรือตาขึ้นมองนิดๆ ก่อนจะพลิกตัวนอนหาย
 
“อื่ม.......” โอ๊ตยันตัวลุกขึ้นนั่ง เพี้ย!!!!  โดนเต็มๆอีกดอกครับ  มันฟาดมือลงบนหน้าผมอีกแล้ว
 
“ยังมีแรงนะมึง......กินข้าวก่อนจะได้กินยา” ผมไม่เคยแคร์ใครจนถึงขนาดเอาข้าวเอาน้ำมาให้แบบนี้หรอก เนี่ย คนแรกเลย
 
“ถามหน่อย” มันเอ่ยปากถาม หลังจากที่ทานข้าวทานยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมหันไปเลิกคิ้วรอคำถามนั่น “ทำอะไรเคยคิดถึงจิตใจคนอื่นบางหรือเปล่า”
 
โอ๊ตมองสบตาผมเหมือนรอคำตอบ แต่คำถามนั่นทำให้ผมจุกแน่นในอกจนพูดไม่ออก มันกำลังหมายถึงสิ่งที่ผมทำกับมันหรือเปล่า และผมก็ไม่มีคำตอบให้มัน ทำได้เพียงคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้  ผมจะทำยังไงดีพรุ่งนี้ผมต้องกลับแล้วและก็อยากให้มัน.............
 
“ไปอยู่กับกูมั้ย”
 
 
 <<<<<<TBC>>>>>>>>>>>>

ภาษาเราแข็งมากกกกกกกกกก พยายามคิดตามเน้อ

ขอโทษที่ให้รอนาน อยากอ่านลีวายส์กันชิมิ อย่าเพิ่มโวยกันน้าาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด