[Ultimate Love] ยากนัก... รักนี้ ♥♥♥ ตอนส่งท้าย up!! 011114/P.44 จาก ss1 สู่ ss2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณปลื้มหนุ่มคนไหนมากที่สุด? (เลือกได้ 2 ข้อ)

รักชาติ  (คุณหนูผู้ไล่ตามความรัก)
101 (21.8%)
ไอ  (หนุ่มเฟรนด์ลี่ที่เดาใจได้ยาก)
41 (8.8%)
เมโล่  (แมวยักษ์จากต่างดาว)
109 (23.5%)
ปูเป้  (โชตะวัยประถมฯ)
5 (1.1%)
เฮียภาค  (กัปตันสุดเข้ม)
32 (6.9%)
เฮียภูมิ  (ผู้กองจอมกะล่อน)
14 (3%)
แกรี่  (แบดบอย+ค้ำคอร์)
32 (6.9%)
ชายต่าย  (ผู้เกิดมามีเสน่ห์โดยธรรมชาติ 555)
130 (28%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 273

ผู้เขียน หัวข้อ: [Ultimate Love] ยากนัก... รักนี้ ♥♥♥ ตอนส่งท้าย up!! 011114/P.44 จาก ss1 สู่ ss2  (อ่าน 279303 ครั้ง)

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
ยากนัก... รักนี้ ♥




ตอนที่ 12




“อะไรนะ? ไปถึงแล้ว?”


ผมเผลออุทานเสียงดังนิดหน่อยเมื่อได้ยินจากปลายสายว่าอีกฝ่ายไปถึงที่นัดหมายเรียบร้อยแล้ว ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมองก็เห็นว่ายังเหลืออีกเกือบ 20 นาที กว่าถึงเวลาที่ตกลงกัน


“เออ ถึงแล้ว แล้วมึงอยู่ไหนแล้วเนี่ย? อย่าสายนะโว้ย ขี้เกียจรอ”  ถึงรูปประโยคจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่น้ำเสียงนั้นบอกชัดเจนว่าคนพูดกำลังอารมณ์ดีสุดๆ


“คือเรา..”  และมันยิ่งทำให้ผมพูดไม่ออก


แต่ยังไงก็คงต้องพูดออกไป.. 


“วันนี้ยกเลิกนัดไปก่อนได้ไหม? เราไปไม่ได้แล้วน่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อย..”


“ทำไมล่ะ?”  น้ำเสียงที่ถามแทรกกลับมานั้นเบาหวิวจนคนฟังอย่างผมยังใจหาย


เสียงโครมครามดังแว่วมาจากห้องน้ำ ผมเหลียวไปมองประตู นึกสงสัยว่าไอคงจะทำขวดอะไรสักอย่างในนั้นหล่น


“พอดีมีเรื่อง..นิดหน่อย”  ผมก้าวออกจากห้อง ปิดประตู แล้วเดินลงบันไดมาชั้นล่าง


“หรือมึงเป็นอะไร?”


“ไม่ เราไม่ได้เป็นอะไรหรอก”


“หรือว่าแม่มึง น้องสาว หรือพี่สาวเป็นอะไร?”


“ไม่ๆ ไม่มีใครเป็นอะไรทั้งนั้น ทุกคนสบายดี ไม่ต้องห่วง”


“งั้นแล้วทำไมถึงมาไม่ได้?”  เสียงของหมอนั่นเริ่มแข็งขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกถึงอารมณ์คนพูดที่กำลังจะเม้งแตกในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้ว


“พอดี.. ไอมาที่บ้านน่ะ แล้วท่าทางก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”


“แล้วไง?”


“เราคงต้องอยู่เป็นเพื่อนไอสักพัก อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะดีขึ้นกว่านี้สักหน่อย เพราะงั้นวันนี้นายกลับบ้านไปก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เราจะรีบไปหาแต่เช้าเลย ..นะครับ?”


“มันเป็นอะไร?”  รู้สึกได้เลยว่าคนพูดพยายามข่มอารมณ์จนถึงที่สุด แต่ผมไม่เข้าใจคำถามเท่าไหร่


“ครับ?”


“ไอ้ไอมันเป็นอะไร?” 


“เอ่อ ปัญหา..ส่วนตัวน่ะ” 


“ถ้าส่วนตัวของมันแล้วมึงไปเสือกอะไรด้วย? ก็ช่างหัวมันสิ! จะมีปัญหาหรือจะเป็นจะตายอะไรก็เรื่องของมัน กูนัดมึงก่อน มึงต้องมาหากู เดี๋ยวนี้เลย!”


เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของไอ ผมจึงไม่อยากเอามาตามใจ แต่ปฏิกิริยาที่ได้กลับมานั้นเกินคาดทีเดียว


“มีเหตุผลหน่อยสิ” ผมพยายามพูดอย่างใจเย็น แม้จะรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่อีกคนดูจะไม่มีน้ำใจเอาซะเลย


“กูไม่มี! กูรู้แค่ว่าจะต้องได้เห็นหน้ามึงภายในครึ่งชั่วโมงนี้ เข้าใจนะ!” 


นั่นเป็นไปไม่ได้ ระยะทางจากบ้านผมไปถึงย่านที่นัดหมาย ในช่วงเวลาปกติก็เกินครึ่งชั่วโมงอยู่แล้ว แล้วยิ่งวันฝนตกหนักแบบนี้ ให้สองชั่วโมงจะถึงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แต่ทางนั้นก็กดตัดสายไปแล้ว ผมจึงรีบกดต่อสายใหม่ รอสัญญาณไม่กี่อึดใจ ก็ได้ยินเสียงตอบรับของอีกฝ่ายแบบไม่เต็มใจนัก


“เราขอร้องล่ะ วันนี้กลับบ้านไปก่อน.. เดี๋ยวนะ!”  ผมสังเกตว่าเสียงฝนที่ดังผ่านลำโพงออกมามันดังขึ้นเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงคู่สนทนาไม่ชัดเท่าไหร่  “ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?”


“ก็อยู่ที่จุดนัดสิ”


“แต่ฝนมันตก”


“มันก็มีร่ม”


ร้านที่เรานัดกันมันอยู่บนลานโล่งกลางย่านช็อปปิ้ง มันมีร่มก็จริง เป็นร่มคันใหญ่ที่ตั้งกางเอาไว้ให้กับทุกโต๊ะ แต่ร่มแค่นั้นกับฝนที่แรงขนาดนี้.. แม้แต่ผนักงานก็คงจะปิดร้านแล้วหนีไปหลบฝนที่ร้านอื่นแล้วล่ะ


“ร่มแค่นั้นมันจะไปกันอะไรได้ หาร้านที่มีหลังคาดีๆ เข้าไปหลบสิ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”


“ถ้าเป็นห่วงขนาดนั้นมึงก็รีบมาหากูเซ่!”


“แต่เรา..”  หมอนั่นทำให้ผมลำบากใจ  “จะให้เราทิ้งไอไว้คนเดียวได้ยังไง?”


“ทำไมจะทิ้งไม่ได้? มึงเป็นอะไรกับมันถึงต้องไปคอยเป็นห่วงเป็นใย ไปดูแลมันแบบนั้น?”


“ก็เพื่อนไง” ผมพูดชัดเจน อย่างใจเย็น  พยายามมีเหตุมีผล และนุ่มนวลที่สุด  “เวลาที่เพื่อนแย่ เราก็ต้องคอยอยู่ข้างๆ ไม่ใช่เหรอ? นายก็มีเพื่อนเยอะแยะ นายน่าจะรู้สิ”


“ไอ้ไอก็มีเพื่อนเยอะแยะ มีเยอะกว่าเพื่อนกูกับมึงรวมกันอีก แล้วทำไมมันไม่ไปหาเพื่อนคนอื่น? ทำไมจะต้องเจาะจงเป็นมึง? ทำไมวะ!?”


“เรื่องนั้น..”  ถ้าให้พูดตรงๆ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน


“กูไม่กลับ!”


“ห๊ะ?”


“ยังไงก็ไม่กลับ! กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะรอจนกว่ามึงจะมา! แค่นี้นะ”


“เดี๋ยว! รัก! ..รัก?”


ผมพยายามต่อสายอีกครั้ง แต่ก็ได้รับเพียงข้อความอัตโนมัติตอบกลับมา ..หมอนั่นเปิดเครื่องไปแล้ว


นึกว่าจะยอมฟังกันบ้าง แต่ดูเหมือนผมจะคิดไปเอง..



“คุณชาย?”  เสียงเรียกจากชั้นบนทำให้ผมที่เดินงุ่นง่านไปมาต้องหยุดคิดเพื่อตัดสินใจ


เอาเถอะ เดี๋ยวทนไม่ไหวก็คงกลับไปเองมั้ง หรือแย่กว่านั้นหน่อยก็คงจะบุกมาถึงนี่เลย ยังไงหมอนั่นไม่ใช่ประเภทที่มีความอดทนสูงอยู่แล้วนี่นะ ..ตามนั้นแล้วกัน


“อยู่นี่ครับ”  ผมรีบเดินกลับขึ้นไปชั้นบน


พอเข้าห้องก็เห็นไอยืนถือเสื้อผ้าเปียกๆ ของตัวเองไว้ ส่วนชุดที่ใส่เป็นชุดของไอเอง ทิ้งเอาไว้ตั้งแต่ครั้งที่แวะมาล้างตัวบ้านผมคราวก่อน จำได้ว่าตอนนั้นผมเอาไปให้แม่ช่วยซัก แม่ตกใจใหญ่เพราะคิดว่าเป็นเลือดผม ต้องอธิบายกันยาวเลยแม่ถึงสบายใจ


“เครื่องซักผ้าอยู่ตรงไหนเหรอ? ขอยืมปั่นแห้งหน่อยสิ”


“เดี๋ยวเราทำให้”  ผมยื่นมือไปรับ แต่ไอลังเลที่จะส่งให้


“ไม่เป็นไร แค่บอกว่าอยู่ตรงไหนก็พอ เดี๋ยวเราจัดการเอง”


“เถอะน่า”  ผมเข้าไปดึงมันมาจากมือไอเลย สังเกตหน้าตาซีดเซียวของเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงยื่นมือไปแตะหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ


“วันนี้ไม่ขออนุญาตก่อนแตะเหรอ?”  ไอพูดยิ้มๆ ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม  “คุณสุภาพบุรุษ?”


“อ้อ งั้นขออนุญาตนะครับ”  ผมเพิ่งเก็ทมุขล้อเลียนของอีกฝ่าย แล้วก็รับสมอ้างต่อซะเลย


ไอหัวเราะเบาๆ แต่รอยยิ้มของเขามันก็ไม่ได้กลับไปสว่างไสวเหมือนอย่างเคย.. ไอคงจะชอบผู้หญิงคนนั้นมาก ถึงได้เสียใจมากขนาดนี้ ถึงได้ร้องไห้จนตาแดงแบบนี้.. ใจหนึ่งก็อยากจะถามเหลือเกินว่าอะไรคือสาเหตุให้ต้องเลิกรา แต่อีกใจก็แย้งไว้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะไปละลาบละล้วง


“อาการผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ? มีโอกาสที่ผมจะรอดไหม?”  เสียงแซวของอีกคนทำให้ผมรู้ตัวว่าแตะหน้าผากเขานานไปแล้ว เลยรีบเอามือลง


“ยาก”  ผมตอบกลับยิ้มๆ อีกฝ่ายก็หัวเราะออกมา  “ลงไปข้างล่างกันดีกว่า”


ผมรุนหลังไอลงไปข้างล่าง หลังพาไอไปนั่งรอหน้าทีวี ผมก็เอาเสื้อผ้าไปใส่เครื่องซักผ้า เข้าครัวไปชงโอวัลตินอุ่นๆ มาให้ไอ และหลังอิ่มท้อง ไอก็ทิ้งตัวลงนอน...โดยใช้ตักผมหนุนต่างหมอน


มันไม่ใช่ความคิดหรือข้อเสนอของผม..  “เอาคืนคราวก่อน”  แต่เพราะไอพูดแบบนั้น ผมก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร


“เรามักจะถูกทิ้งบ่อยๆ”  ไอพูดเบาๆ ด้วยดวงตาเหม่อลอย มือกอดหมอนอิงไว้แนบอก  “จากครอบครัว ผู้หญิง ..หรือแม้แต่คนที่เคยสัญญาว่าจะไม่มีวันทิ้งเรา"


"แต่ไม่ว่าจะเจอแบบนั้นสักกี่ครั้ง ..มันก็ไม่เคยชินสักที”  คนพูดหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า  “มันก็ยังเจ็บทุกครั้ง” 


ผมนึกอยากจะเอามือไปลูบหัวอย่างปลอบประโลม แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ วางมันไว้ข้างตัวตามเดิม สถานการณ์แบบนี้มันคืออะไร? ผมตอบไม่ได้.. มันใช่แค่มิตรภาพลูกผู้ชายหรือเปล่า? ผมไม่รู้.. ผมไม่ค่อยเข้าใจไอเท่าไหร่


แต่ผมเองก็กำลังเจ็บเหมือนกัน..





ไอผล็อยหลับไปพักใหญ่ ระหว่างนั้นผมจำไม่ได้ว่ามองโทรศัพท์สลับกับนาฬิกาไปทั้งหมดกี่ครั้ง แน่นอนว่าผมต้องเป็นกังวล ผมไม่รู้ว่าป่านนี้รักชาติจะกลับถึงบ้านหรือยัง ฝนข้างนอกแม้จะเบาลงบ้างแล้ว แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก และหมอนั่นยังไม่ยอมเปิดโทรศัพท์ ผมโทรไปฝากข้อความไว้ 4-5 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับการตอบกลับจากอีกฝ่าย สุดท้ายผมก็เลยลองโทรไปที่บ้านดู


“พี่แจ๋ม คุณหนูของพี่กลับถึงบ้านหรือยังครับ?”  ผมรีบกรอกคำถามไปเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูดังมาตามสาย


“ยังค่ะ ตอนออกไปคุณหนูบอกว่าอาจกลับเย็นๆ เธอก็คงจะกลับมาเย็นๆ ตามที่บอกนั่นแหล่ะค่ะ คุณต่ายมีอะไรด่วนหรือเปล่าคะ? ฝากพี่ไว้ได้ไหม? แล้วมือถือคุณหนูโทรไม่ติดเหรอคะ?”


“เอ้อ ครับ.. งั้นไม่เป็นไร แค่นี้นะครับ”  ผมกดวางสายด้วยใจที่เป็นกังวลมากกว่าเดิม ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อได้ก็ผ่านไปเกือบ 3 ชั่งโมงแล้ว ไม่รู้ป่านนี้หมอนั่นจะกำลังทำอะไรอยู่


คงไม่ได้อยู่ที่เดิมหรอกนะ นั่นน่ะบ้าเกินไปแล้ว..


“มีอะไรเหรอ?”  คำถามจากคนที่ยืมตักหนุนทำให้ผมต้องก้มลงมอง


“ตื่นแล้วเหรอ?”


“ก็นายยุกยิก”  ไอยันตัวลุกนั่ง


“โทษที..”


“มีอะไรหรือเปล่า? นายดูร้อนรน”


“นิดหน่อย..”  ผมขมวดคิ้วมองอีกฝ่าย  “ไออยู่คนเดียวสักพักได้ไหม เรามีเรื่องต้องจัดการนิดนึงน่ะ”


“ถ้าไม่กลัวว่าเราจะยกเค้า ก็เชิญไปทำธุระได้ตามสบายเลยครับ”  สีหน้าที่ดูดีขึ้นเล็กน้อยหลังได้พักผ่อน ทำให้รอยยิ้มของไอดูสว่างสดใสขึ้นด้วย


“แน่ใจนะ?”  ผมใช้สายตาจริงจัง


“นี่เราไม่ใช่เมียท้องแก่ของนายนะ ที่จะเจ็บท้องคลอดตอนไหนก็ได้เมื่อละสายตาน่ะ”  คำพูดติดตลกนั้นทำให้ผมเบาใจ


“งั้นฝากบ้านแป๊บนึงนะ”


“โอเค”


“อย่าเปิดประตูให้คนไม่รู้จักเข้ามาล่ะ”


“ครับๆ”


“แล้วก็..”


“รีบไปเท้อออ!”


ผมคว้ากุญแจรถได้ก็รีบออกจากบ้านมา ฝนเกือบจะหยุดตกแล้ว ผมเสียเวลบนท้องถนนไปชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงบริเวณนัดหมาย แต่ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่ใต้ร่มของร้านค็อฟฟี่ช็อปนั้นเลยสักราย รักชาติคงจะไปแล้ว..


แต่ผมก็วิ่งวนหาอีกหลายรอบจนมั่นใจว่าไม่อยู่แถวนี้แน่ๆ ระหว่างนั้นก็ลองกดโทรหาหมอนั่นไปด้วย แต่ก็ยังเป็นข้อความอัตโนมัติเหมือนเดิม สุดท้ายเลยตัดสินใจขับรถมาเรื่อยๆ ตามเส้นทางกลับบ้านของหมอนั่น สายตาสอดส่ายมองหาร่างคนที่คุ้นตา จนกระทั่งมาถึงหน้าประตูบ้าน ‘เศรษฐสวัสดิ์โยธิน’


“พี่แจ๋ม ต่ายเองนะ”  ผมโทรเข้าไปถามข่าวคราวจากคนในบ้านก่อน


“อ้าว คุณต่าย คุณหนูเพิ่งกลับมาเมื่อกี๊เองค่ะ เปียกโชกมาทั้งตัวเลย แถมยังอารมณ์เสียสุดๆ สั่งทุกคนในบ้านว่าถ้าคุณต่ายมา ห้ามเปิดประตูให้เข้ามาเด็ดขาด ใครเปิดจะไล่ออกให้หมด เธอพูดขนาดนั้นเลยแหล่ะค่ะ”  พี่แจ๋มเล่ากระซิบกระซาบเหมือนกลัวใครจะได้ยิน 


คำพูดที่กำลังจะขอให้ช่วยมาเปิดประตูให้เลยเป็นอันต้องกลืนกลับลงคอไปก่อน


“คุณไปทำอะไรให้เธอโกรธขนาดนั้นคะ?”


“อ่า.. ผมไม่ดีเองครับ”  ผมเลี่ยงที่จะตอบ  “ไว้พรุ่งนี้ผมจะไปขอโทษเขานะครับ”


“ค่ะ เดี๋ยวพี่จะบอกคุณหนูให้”  บางทีพี่แจ๋มอาจไม่รู้ว่าตอนนี้ผมอยู่หน้าบ้านพวกเธอแล้ว


“ขอบคุณมากครับ”


เอาเถอะ ได้รู้ว่าหมอนั่นถึงบ้านแล้วผมก็เบาใจไปเปราะหนึ่ง ตอนนี้ให้พูดยังไงก็คงจะไม่ยอมฟัง รอไว้อารมณ์เย็นกว่านี้หน่อยค่อยมาใหม่แล้วกัน




‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากข้อความไว้หลังสัญญาณ...’


“รัก.. วันนี้เราขอโทษจริงๆ นะ ..ขอโทษจริงๆ”






กว่าผมจะกลับมาถึงบ้านก็มืดมากแล้ว เห็นไฟบางส่วนในบ้านถูกเปิดไว้ แปลว่าไอยังอยู่ และพอเข้ามาข้างในจริงๆ ก็ต้องเลิกคิ้วประหลาดใจเมื่อเห็นไอฟุบหลับบนโต๊ะกินข้าว ข้างหน้ามีจานข้าวผัดอเมริกันหน้าตาน่ากินวางอยู่ 2 จานใหญ่


ผมยืนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย..


ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะดีใจ แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกอยากจะร้องไห้แทน


“ไอ”  ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ก่อนเอื้อมมือไปเขย่าปลุกคนหลับเบาๆ


“อือ กลับมาแล้วเหรอ..”  ไองัวเงียตื่น


“อื้อ”  ผมยิ้มให้  “โทษที ไปนานเลย”


“แป๊บเดียวอ่ะ แค่ 5 ชั่วโมง”


ผมยิ้มรับคำประชดนั้นอย่างไม่มีข้อแก้ตัว


“เสร็จธุระแล้วเหรอ?”


“ก็.. มั้ง”


“มั้ง?”


“นี่ไอทำเองเหรอ?”  ผมเบนความสนใจมาที่จานข้างผัดตรงหน้า


“อื้อ ขอโทษที่ใช้ครัวตามอำเภอใจนะ”


“ไม่เป็นไร กำลังหิวๆ พอดีเลย ขอกินเลยได้ไหม?”  ผมจับช้อนจับส้อม


“ไม่ได้”


คำตอบของอีกฝ่ายทำให้ผมง้างช้อนค้าง หูหางตก แล้วไอก็หลุดหัวเราะออกมา


“นายชื้นไปทั้งตัวแบบนั้นน่ะ ไม่คิดจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนหรือไง?”


จริงสิ.. ผมก้มมองตัวเอง ถึงว่ารู้สึกหนาวๆ ชอบกล


“แต่เราหิวอ่ะ”  ผมสารภาพ


“อาบน้ำแป๊บเดียว” 


“เราหิวจนแทบจะกินนะ..”  ผมยั้งปากตัวเองไว้ทัน แล้วยิ้มกลบเกลื่อน  “โอเค แป๊บเดียว”


“เราจะอุ่นข้าวรอ มันเย็นหมดแล้ว”


“ขอบใจ”  ผมลุกจากเก้าอี้ เป้าหมายใหม่คือห้องนอนบนชั้นสอง





ถึงจะดูเหมือนกลับสู่สภาพปกติแล้ว แต่เวลาที่เผลอ ไอก็จะเหม่อเป็นพักๆ ถ้าเขาบอกว่าจะกลับบ้าน ผมก็ตั้งใจว่าจะขับรถไปส่ง แต่เพราะไอบอกว่าจะกลับหอ ผมเลยรั้งให้เขาค้างคืนซะทีนี่ ผมยังไม่มั่นใจที่จะปล่อยให้เขากลับไปอยู่คนเดียว แล้วก็ไม่แน่ใจว่า ‘เมโล่’ ที่อยู่หอเดียวกันจะละเอียดอ่อนพอที่จะดูแลไอในตอนนี้หรือเปล่า


ตอนแรกผมก็กะจะยกห้องนอนให้ไอ แล้วย้ายตัวเองไปนอนในห้องน้องสาวแทน แต่ไอยืนยันว่าตัวเองนอนที่พื้นห้องผมได้ ไม่ว่าผมจะพูดยังไง สุดท้ายก็เลยต้องยอมแล้วปล่อยให้ไอนอนบนพื้น ส่วนผมนอนบนเตียง


“ถ้าไม่ไหวก็ขึ้นมานอนข้างบนนะ”  ผมบอกหลังปิดไฟ ถึงจะหานวมหนาๆ มาให้ แต่มันก็คงจะนอนไม่สบายตัวเท่าบนเตียงหรอก


“ให้นอนกับคุณชายน่ะเหรอ?”  ถึงจะมองไม่เห็นหน้า แต่ก็แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะต้องยิ้มล้อเลียนกันอยู่แน่ๆ


“ก็.. เดี๋ยวเราลงไปนอนข้างล่างเองก็ได้”  ผมบอกหลังจากคิดดีแล้ว  “เตียงมันแคบน่ะ นอนสองคนคงเบียด”


“ฮ่ะๆๆ”  เสียงหัวเราะที่ดังฝ่าความมืดมาเบาๆ ทำให้ผมประหลาดใจ


“อะไร?”  ผมพลิกตัวหันไปมองคนบนพื้น แสงสลัวที่เล็ดลอดมาจากทางหน้าต่างทำให้เห็นว่าทางนั้นก็นอนตะแคงเหมือนกัน แต่หันหลังให้ผม


“เปล่า แค่คิดว่า.. ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ นายคงจะแหย่กลับ หรือพูดหยอดอะไรเราสักอย่างสองอย่างไปแล้ว”


ผมเคยทำแบบนั้น แต่มันก็เป็นตอนก่อนที่ไอจะมีแฟน และตั้งแต่ไอมีแฟน ผมก็พยายามรักษาระยะห่าง พยายามวางตัวในที่ที่ถูกที่ควรมาตลอด ผมพยายามที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของเขามาตลอด..


“ก็ตอนนั้นไอยังไม่มีแฟน”


“ตอนนี้เราก็ไม่มีแฟน”


“แต่เรามีแฟนแล้ว”


พูดไปแล้วก็รู้สึกว่าทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เงียบจนไม่ได้ยินกระทั่งเสียงหัวใจของใครเลย


“แล้วจะเปลี่ยนสถานะเป็น ‘ไม่มี’ เร็วๆ นี้ไหม?”  ในที่สุดเสียงของไอก็ทำลายความเงียบลง


“พูดแบบนั้นเหมือนแช่งกันเลยนะ”


“ฮ่ะๆๆ ก็อยากมีคนอกหักเป็นเพื่อนนี่นา”


“.........”


“รู้ใช่ไหมว่าเราแค่พูดเล่น?”  ไอคงเห็นว่าผมเงียบไป ก็เลยพูดขึ้น


ผมรู้อยู่แล้วว่ามันก็แค่เรื่องล้อเล่น ผมรู้.. แต่ทั้งที่รู้ มันก็ยังเจ็บ


“รู้สิ.. ทำไม? คิดว่าเราจะทำตามจริงๆ หรือไง?”


ผมขยับพลิกตัวหันหน้าเข้าหาผนัง



“ไอไม่สำคัญขนาดนั้นสักหน่อย”



“เย็นชาจัง ฮ่ะๆๆ”




(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2014 23:29:50 โดย White Raven »

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
(ต่อ)



แรงสั่นสะเทือนจากโทรศัพท์ที่ปิดเสียงไว้ดังปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า ทั้งที่รู้สึกหัวหนักๆ ปวดหนึบๆ แต่ก็ต้องฝืนกดรับอย่างไม่มีทางเลือก เพราะบางทีอาจจะเป็นแม่หรือน้องสาวผมโทรมาก็ได้


“บันนี่”


ดูเหมือนจะไม่ใช่ญาติฝ่ายไหนของผมทั้งนั้น เพราะคนที่เรียกผมด้วยชื่อนี้มีอยู่แค่คนเดียว


“เมโล่?”  ความคิดผมได้รับการยืนยันความถูกต้องโดยชื่อที่โชว์หน้าจอ


แน่นอนว่ามันทำให้ผมแปลกใจ ผมไม่ได้ติดต่อกับหมอนั่นเลยตั้งแต่ปิดเทอม เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องทำแบบนั้น ผมสนิทกับไอ แต่ไม่ได้สนิทกับแมวยักษ์ต่างดาวนั่นด้วย ถึงพักหลังๆ หมอนั่นจะชอบมาป้วนเปี้ยนรอบตัวผม แต่เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก


“ช่ายยย เค้าเอง ไออยู่ที่บ้านบันนี่เปล่า?”


“เอ๊ะ?”  ผมเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อคืนมีไอมาค้างด้วย เลยรีบผุดลุกขึ้นนั่ง หันมองหา แล้วก็ต้องใจหายเพราะตรงที่ที่ให้ไอนอนตอนนี้มีเพียงแค่ผ้าห่มที่ถูกพับเก็บไว้อย่างเรียบร้อย


“เมื่อคืนไอไม่ได้อยู่ที่บ้าน แล้วก็ไม่ได้อยู่ที่หอ เลยสงสัยว่าไปอยู่บ้านบันนี่เปล่า?”  เมโล่พูดต่อจังหวะเดียวกับที่ผมได้ยินเสียงกดชักโครกดังมาจากห้องน้ำพอดี


ผมหันไปมองประตูห้องน้ำ แล้วถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้รู้ว่าอีกคนยังไม่ได้ไปไหน


“อื้อ อยู่”


“งั้นเดี๋ยวเค้าไปรับไอนะ ช่วยบอกทางไปบ้านบันนี่ทีสิ”


“เอ๊ะ อ้อ โอเค..”  ผมบอกทางให้ตามที่ทางนั้นขอ ทั้งที่อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมต้องมารับ?


“แล้วเจอกันนะ”  พอได้ข้อมูลที่ต้องการ หมอนั่นก็วางสายไป


ไอออกมาจากห้องน้ำพอดี ดูท่าทางจะอาบน้ำแปรงฟันเรียบร้อยแล้วด้วย ไอส่งยิ้มเป็นเชิงทักทาย ผมจึงทำแบบเดียวกันตอบกลับไป


“ตื่นเช้าจัง”


“สงสัยแปลกที่มั้ง.. เดี๋ยวนะ”  ไอยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามผมที่กำลังจะลุกออกจากเตียง เขาค้นหามือถืออยู่สักพักก็ยกมันขึ้นมาถ่ายรูปผมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว


“เฮ้”  ผมร้องประท้วงที่ถูกเก็บภาพในสภาพยับยู่ยี่หลังตื่นนอน ยื่นมือหวังจะไปคว้าเอาโทรศัพท์เครื่องนั้นมากดลบภาพซะ แต่เจ้าของก็รีบกระโดดถอยห่างและซ่อนมันเอาไว้ข้างหลังให้พ้นมือผม


“ฮ่ะๆๆ จะเอาไปให้พวกสาวๆ ดู เผื่อจะเปลี่ยนใจหันมาเป็นแฟนคลับเราบ้าง”


“แฟนคลับไอมีตั้งเยอะ เหลือไว้ให้เราบ้างเถอะ”  ผมลุกตามไป ยังไม่ละความพยายามที่จะกำจัดภาพนั้นทิ้ง


“ใครบอก เพื่อนผู้หญิงกลุ่มเราเป็นแฟนคลับคุณชายทั้งนั้นแหล่ะ”


ผมตามคว้าทางซ้าย ไอเบี่ยงตัวหลบทางขวา พอผมตามคว้าทางขวา ไอก็เบี่ยงหลบอีก ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมจับโทรศัพท์ไอไว้ด้วยมือทั้งสองข้างทั้งที่เจ้าของเขาก็ยังไม่ปล่อยมือ


แบบนี้มันก็เหมือนผมกำลังกอดไออยู่เลยน่ะสิ?


“โทษที..”  ผมปล่อยมือและยอมถอยออกมาก่อน


!.. แต่กลับถูกอีกฝ่ายคว้าต้นคือไว้ แล้วดึงกลับไปให้หน้าผากแนบกัน


“ตัวร้อน มีไข้นี่นา”  ไอรายงานหลังใช้วิธีวัดอุณหภูมิที่ทำเอาผมเกือบหัวใจวาย


“เพราะไอตัวเย็นหรอก”  ผมค่อยๆ ผละห่างออกมาอย่างไม่ให้น่าเกลียด  “เพิ่งอาบน้ำมานี่นา”


“ไม่ นายตัวร้อน เรารู้สึกได้ถึงไอร้อนจากตัวนายเลย”  อีกคนยืนกราน ขยับจะเข้ามา แต่ผมยกมือห้ามไว้ แล้วเบี่ยงตัวเดินไปทางห้องน้ำ


“ธรรมดาของหนุ่มฮอตน่ะ”  ผมหันกลับไปยักคิ้ว คนฟังดูอึ้งไป ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงหัวเราะดังไล่หลังมา


“ไอลงไปรอข้างล่างก่อนนะ เราอาบน้ำแป๊บ เดี๋ยวลงไปทำอะไรให้กิน”  ผมตะโกนบอกข้ามห้อง ได้ยินเสียงรับคำกลับมา ตามด้วยเสียงเปิดปิดประตู


ผมถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งพักบนฝาชักโครกเพราะอาการวิงเวียนคล้ายจะหน้ามืด


“ปวดหัว..”




สุดท้ายแล้วคนที่ ‘หาอะไรให้กิน’ ก็ไม่ใช่ผม แต่เป็นไอที่ทำโจ๊กจากโจ๊กสำเร็จรูปที่หาได้ในครัว


“ให้แขกหาข้าวให้กินทั้งสองมื้อเลยเรา”  ผมยิ้มแห้งๆ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับไอ


“คิดมากน่า”  อีกคนอุตส่าห์ยิ้มปลอบใจ  “กินโจ๊กแล้วก็หายากินซะด้วยนะ สีหน้านายดูไม่ดีเลย”


“อื้อ..”  ผมรับคำยังไม่ทันสุดคำ เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น


“ใครมาหานายแต่เช้าเลย?”  ไอชะเง้ออกไปทางหน้าบ้าน


“สงสัยเป็นเมโล่..”  พูดแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับไอเลย


“เมโล่?” 


“หมอนั่นโทรมาเมื่อพักใหญ่ๆ บอกว่าจะมารับนาย” 


“หมอนั่น..”  ไอถอนหายใจเฮือกใหญ่  “ห่วงไม่เข้าเรื่องอีกแล้ว”


ผมยิ้มให้อย่างไม่มีความเห็น แล้วเดินออกมาเปิดประตูให้คนตัวสูงโย่งที่ยืนรออยู่นอกรั้ว


เป็นอีกครั้งที่ลุคของเมโล่ทำให้ผมรู้สึกสนใจ วันนี้หมอนั่นใส่กางเกงขาห้าส่วน เสื้อยืด สวมทับด้วยสเวสเตอร์ไหมพรม(แต่เนื้อไม่หนามาก) แถมยังพันทับอีกชั้นด้วยผ้าพันคอขึ้นมาจนถึงปาก(..เข้าใจว่าคงเพราะอากาศมันเย็น นี่ก็ปลายเดือนตุลาฯแล้ว แล้วเมื่อวานฝนก็เพิ่งตกไป แต่ยิ่งกว่านั้นคงเพราะมันเป็นหวัดด้วยแหล่ะ หลักฐานคือเสียงสูดน้ำมูกเป็นระยะนั่น (ก็ว่าเสียงตอนคุยโทรศัพท์ฟังแปลกๆ))


และที่สะดุดตาสุดๆ นอกจากความสูงของเจ้าตัว ก็เป็นไอ้หมวกกันน็อคหูแมวแบบครึ่งใบนั่นล่ะ ไม่รู้ว่าไปซื้อมาจากไหนล่ะ แต่ดูน่ารักเชียว ฮ่ะๆๆ


“บ้านเราหายากหรือเปล่า?”  ผมทักทายระหว่างเลื่อนประตูรั้วเปิด


มองเลยไปด้านหลังอีกฝ่ายก็เห็นรถเวสป้าสีม่วงอ่อน รุ่นเดียวกับของไอจอดอยู่ ..คงเป็นพาหนะที่หมอนั่นใช้พาตัวเองมานี่ที่ ..แต่พูดก็พูดเถอะ ปกติเวสป้ามันก็ไม่ใช่รถคันใหญ่อยู่แล้ว ยิ่งพอเอามาเทียบกับขนาดตัวไซส์ไททันของเมโล่.. ผมว่ามันดูเหมือนรถของเล่นไปเลยล่ะ


“ไม่เท่าไหร่ แล้ว..”  คนพูดชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน ผมเลยเดาว่าคงมองหาไอ


“ไออยู่ในบ้านแน่ะ เรากำลังจะกินข้าวเช้ากันพอดี”


“เค้ามาทันข้าวเช้าพอดีใช่ไหม?”


“ห๊ะ?”


จ๊อกกกกกกกกก..


ชัดเลย..  ผมมองหน้า มองท้องที่เพิ่งส่งเสียงร้อง แล้วก็ไปมองหน้าอีกครั้ง


“เอ่อ มากินด้วยกันสิ”


“อื้อ”  เมโล่ยิ้มรับสดใสราวกับเด็กๆ


ตกลง..


ที่ไอ้หมอนี่มันรีบมาแต่เช้า เพราะห่วงไอ? หรือเพราะอะไรกันแน่?




หลังเสร็จจากมื้อเช้า ผมก็เดินออกมาส่งไอกับเมโล่ที่หน้าบ้าน ไอดูละล้าละลังเพราะเป็นห่วงอาการของผม แม้จะเห็นว่าผมกินยาไปบ้างแล้วก็ตาม จนผมต้องยืนยันว่าหลังจากนี้จะไปหาหมอ ไอถึงยอมวางใจกลับไป


“เมโล่”  ผมดึงเสื้อเจ้าของชื่อตอนที่กำลังจะไปขึ้นรถ


“อะไรเหรอ?”


“ทำไมถึงคิดว่าไอจะมาบ้านเราล่ะ? หรือว่าไล่โทรถามจากเพื่อนไอทุกคน?”  ผมถามสิ่งที่สงสัยมาตลอด


เพื่อนไอก็ไม่ใช่น้อยๆ นะ แล้วทำไมถึงคิดว่าจะมาหาผมล่ะ? หรือหมอนี่จะไล่โทรทีละเบอร์จนมาถึงเบอร์ของผม


“เปล่า นอกจากที่บ้านไอ ก็โทรหาบันนี่คนแรกนี่แหล่ะ”


“ทำไมล่ะ?”


“อืออ ก็แค่รู้สึกว่าไอน่าจะมาที่นี่น่ะ”


คำตอบของเมโล่ไม่ได้ช่วยให้ผมเข้าใจสักนิดเลย


“อะไรกันเหรอ?”  ไอที่ไปคร่อมรถแล้วกลับมามองพวกเรา


“ไม่มีอะไร”  ผมยิ้มตอบไป  “ขี่รถกลับดีๆ ล่ะ”


“นายก็รีบไปหาหมอด้วยล่ะ”


“อื้อ เดี๋ยวก็จะออกไปแล้วล่ะ” 


“ไว้วันหลังเค้าจะมาเล่นด้วยนะ”


“อ่ะ..อื้อ”  ผมโบกมือตอบเจ้าแมวไททันกับรถของเล่นทั้งที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่


เมื่อเวสป้าสองคันลับหายไปจากสายตา ผมก็หมุนตัวกลับเข้าบ้าน หยิบเอากระเป๋าตังค์กับกุญแจรถ แล้วออกจากบ้านมา..




ปี๊นนน!


เสียงแตรจากรถคันหลังทำให้ผมสะดุ้งรู้สึกตัว เงยหน้ามองสัญญาณไฟก็พบว่ามันเป็นสีเขียวแล้ว..
แต่ผมยังรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ ช่วงที่ขับรถมาก็รู้สึกตาพร่าเป็นพักๆ พอติดไฟแดงก็เลยถือโอกาสพักสายตา แต่ดูเหมือนว่าผมจะเผลอเหม่อไป


ปี๊นนนน!!


เสียงแตรดังขึ้นอีกครั้ง ผมตัดสินใจขับแอบไหล่ทาง ยาลดไข้ที่กินไปก่อนหน้านี้ดูจะไม่ช่วยผมสักเท่าไหร่ นอกจากไข้จะไม่ลดแล้ว อาการปวดหัวยังไม่ทุเลาลงสักนิดเดียว แย่จริง..


ก๊อก ก๊อก ก๊อก..


มีตำรวจมาเคาะกระจกรถผม ผมเลยจำใจต้องลดกระจกเพื่อให้เขาได้ทักทายสักหน่อย


“จอดตรงนี้ไม่ได้นะน้อง”


“ครับๆ ผมกำลังจะไปแล้ว”


“เป็นอะไรหรือเปล่า สีหน้าดูไม่ดีเลย”


“ผม.. เมารถน่ะ”


“เมารถหรือเมาค้างกันแน่?”


สุดท้ายผมก็ได้ลงไปเป่าวัดแอลกอฮอล์ซะหนึ่งฟู่ เพื่อความสบายใจของพี่ตำรวจและเพื่อนร่วมถนนคนอื่น แน่นอนว่าผมรอดกลับมาอย่างปลอดภัย(ก็ผมไม่ได้เมานี่) แต่ก็โดนเทศน์ไปกลายกัณฑ์โทษฐานหลับใน(ผมก็ไม่ได้หลับในเหอะ) กำลังจะกลับขึ้นรถ ก็เหลือบไปเห็นเด็กขายดอกไม้พอดี ก็เลยได้กุหลาบขาวดอกโตไปฝากคนที่กำลังจะไปหาหนึ่งดอก


ไม่รู้ว่าจะชอบหรือเปล่า แต่ก็คงดีกว่าไปมือเปล่าล่ะ





“พี่ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ คุณหนูสั่งห้ามเด็ดขาดว่าห้ามเปิดประตูให้คุณ”  เสียงลำบากใจของพี่แจ๋มดังผ่านลำโพงมือถือที่แนบอยู่กับหูผม ขณะที่ผมยืนแหงนมองประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทด้วยความสิ้นหวัง


ใช่สิ พี่แจ๋มน่ะลำบากใจ ส่วนผมน่ะลำบากแล้ว ไม่คิดว่าจะถูกโกรธมากขนาดนี้ แล้วนี่ผมจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ?


“วันนี้คุณกลับไปก่อนนะคะ ไว้รอคุณหนูอารมณ์ดีก่อน คุณค่อยมาใหม่นะคะ”


“ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ?”  ผมพยายามอ้อน


“โธ่ คุณต่าย พี่ก็อยากจะช่วยคุณนะคะ แต่ถ้าคุณรู้จักคุณหนูดี คุณก็น่าจะรู้ว่าเวลาที่โกรธเธอจะไม่ยอมฟังใครเลย เอาไว้ค่อยมาใหม่ทีหลังเถอะนะคะ”  เสียงโทรศัพท์ตัดไปพร้อมกับความหวังสุดท้ายของผม


ผมมองดอกกุหลาบสีขาวในมืออย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อไป พลันภาพที่เห็นก็พร่ามัวจนผมต้องกระพริบตาถี่ๆ เพื่อขับไล่ความไม่ปลอดโปร่งพวกนั้น ..มันดีขึ้น อย่างน้อยก็ตอนนี้


“พโย? พโย!”  ผมสังเกตเห็นแม่บ้านชาวพม่าที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ไม่ไกลนัก เธอสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้ว่าถูกผมเห็น


“พโย มานี่ๆ”  ผมกวักมือเรียกเธอพลางยิ้มดีใจ  “ช่วยเปิดประตูให้หน่อยสิ”


เธอดูพะวักพะวง เธอเป็นแฟนคลับคนหนึ่งของผมนะ เวลาผมมาบ้านหลังนี้ เธอจะชอบยกนั่นยกนี่มาเสิร์ฟบ่อยๆ แต่วันนี้เธอกลับดูไม่อยากจะเข้าใกล้ผมชอบกล ผมเห็นเธอหันซ้ายหันขวา ลังเลว่าจะมาหรือไม่มา แล้วสุดท้ายเธอก็ทิ้งสายยางแล้ววิ่งหนีไป


“อ้าว เฮ้ย! พโย!! กลับมาาา”  ผมยื่นมือผ่านลูกกรงประตูเข้าไปไขว่คว้าหาอะไรที่ไม่สามารถจับต้องได้


ให้ตาย.. จู่ๆ ผมก็นึกอยากจะเอาหัวโขกประตู แต่ถ้าทำแบบนั้นก็กลัวว่าจะต้องปวดหัวมากกว่าเดิม เลยตัดสินใจไม่ทำดีกว่า ผมแหงนหน้ามองประตูที่สูงตระหง่านอีกครั้ง แล้วตัดสินใจ..


“เอาวะ!”


แม้จะดูไม่ใช่วิธีของสุภาพบุรุษเท่าไหร่ แต่นาทีนี้ใครจะมัวมาห่วงเรื่องนั้นกัน!


ในเมื่อไม่ยอมเปิดให้เข้าก็ ปีนแม่ง!!




“หยุดอยู่แค่นั้นแหล่ะ”


ยังไปไม่ทันถึงดวงดาวก็มีเสียงปริศนาดังขึ้น พร้อมกับวัตถุบางอย่างที่มีสถานะเป็นของแข็งมาจิ้มเข้าที่เอวของผม


ผมหันกลับไปมอง เจ้าของเสียงเป็นชายวัยฉรรจ์ในเครื่องแบบ ปีกตรงอกบ่งบอกว่ามาจากกองทัพอากาศ ดาวบนบ่าบ่งบอกว่ายศนายร้อย กระเป๋าในมือบ่งบอกว่าเพิ่งเดินทางมาถึง ส่วนปืนซึ่งหันปากกระบอกมาทางผมนี่คงไม่ต้องบอกแล้วใช่ไหมว่ามันหมายถึงอะไร?


“ลงมาจากประตูบ้านกูเดี๋ยวนี้เลย ไอ้หัวขโมย”










TBC.

ตอนแรกๆ ก็ไม่รู้ว่าจะรักจะเชียร์ใครดี พอถึงตอนนี้ก็กลายเป็นว่าไม่รู้จะเกลียดใครดี.....รึเปล่า? ฮ่าๆๆๆๆ
เขาถึงได้มีคำพูดว่า ‘ดูคนต้องดูยาวๆ อ่านนิยายก็ต้องอ่านหลายๆ ตอน’ ไงคะ ( :confuse: เอ๊ะ มีไหมนะ?)


มนุษย์เราก็แบบนี้แหล่ะ มีคละเคล้ากันไป ทั้งด้านมืดด้านสว่าง ไม่มีใครดีไปทั้งหมด
ไม่มีใครเลวไปทั้งหมด ไม่มีขาว ไม่มีดำ ไม่มีเกนหลง (เอ๊ะ เกี่ยวไร? o17 )

ตัวละครของไวท์ก็เป็นอะไรประมาณนั้นแหล่ะค่ะ


ปล. จริงๆ มันก็แค่นิยายแหล่ะเนาะ จะอินแล้วเกลียดตัวละครก็ได้ ไม่ว่า แต่อย่ามาเกลียดเค้านะตัวเอ๊งงง :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2014 23:44:03 โดย White Raven »

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
มาดึกจังเลยค่ะ อิอิ
แต่ว่าตอนนี้เริ่มเกลียดชายต่ายละ ฮืออออออออออออ รักของช้านนนนนนนน
ตอนนี้ไอดูเคะจัง สรุปชายต่ายเป็นเมะ เมโล่มันเป็นตัวปประกอบเฉยๆ
ต่ายรีบไปง้อรักนะ จูบเค้าแล้วจะทำงี้กับดาวร้ายของพี่ไม่ได้เลยนะ!
ลองเดาเล่นๆว่าเกิดไอมาชอบต่ายอีก เรื่องรักมันก็จะยุ่งเหยิงไปอีก  :serius2:

เหลือกตาดูเลขตอนแล้วก็คิดได้ว่าเรื่องมันเพิ่งเริ่มไม่นาน
เดาต่อไป ทาเคชิ!!  :impress3:

 :pig4: นะคะ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ไอแค่ต้องการคนดามใจ ต่ายคิดให้ดี

ออฟไลน์ Serioz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ่านแล้วหน่วงๆจัง เฮ้อออ

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เบื่อไออออ มาทำไมมม มาทางไหนกลับไปเลยป๊ายยย ชิ่ว -..- อิตอนมีแฟนก็ไม่ใช่ว่าจะบอกชายต่ายให้รู้หนิ ชายต่ายรู้ก็เพราะเมโล่พูดขึ้นมา แล้วพอตอนเลิกทำไมทีนี้ล่ะแจ้นมาหามาให้คนอื่นเขาร่วมรับรู้จ๊ะ โอ๊ยโมโหๆ โดยเฉพาะมาขัดจังหวะมารั้งชาวบ้านเขาไว้เนี่ย

อันที่จริงถ้าเพื่อนเรามีปัญหาแบบไอมาหาที่บ้าน เราก็ไม่กล้าทิ้งไว้เหมือนกันนะ โดยเฉพาะเค้าถูกทิ้งมา ถ้ายิ่งเราออกไปก็เท่ากับทิ้งเค้าอีก กลัวเค้าจะยิ่งอาการหนัก -_-; อืมมม จริงๆมันก็เลือกยากอยู่นะ แต่เค้าก็สงสารน้องรักของเค้าอ่ะ  ชายต่ายก็ไม่ได้สนิทกับไอขนาดนั้นซะหน่อย เหอะ

แต่จะโทษไอคนเดียวก็ไม่ได้ อ่านตอนนี้แล้วอารมณ์เกลียดชายต่ายตีขึ้นมาพั่บๆๆ มือจับมือถืออ่านอยู่นี่เกร็งงงเชียว รู้สึกอยากจะเขวี้ยงมือถือไปจูบผนังระบายความอัดอั้นมาก แต่ห้ามตัวเองไว้ทัน มือถือพังนี่ไม่คุ้มนะ ฮ่าๆๆ ชายต่ายทิ้งรักชาติไว้กลางฝนเหรอ! ชายต่ายเลือกไอเหรอ! ไม่มีวิธีแก้ปัญหาดีกว่านี้แล้วรึไงห๊ะอิตาปลาไหลหน้ามึนเอ๊ย
 :beat:

สงสารรักชาติ แงงง ชายต่ายถ้าโลเลหรือคบรักชาติไว้ให้ลืมใครคนอื่นก็เลิกเหอะ สงสารคนอื่นบ้าง เท่าที่อ่านตอนที่แล้วต่ายก็ดูไม่ได้รู้สึกรักรักชาตินะ อาจแค่เอ็นดูหรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่า? คือยังไงก็เหอะ ส่วนตัวเห็นว่ามันยังไปไม่ถึงคำว่ารักหรือชอบอ่ะ แล้วนี่ตอนท้ายไอมาพูดอ่อยอิคุณชายอีก โอ๊ย ไหวไหมเนี่ยๆ พอถูกทิ้งนางก็มาหย่อนเบ็ดไว้ทันท่วงทีมากเลยข่าาา กร๊าซซซซ พ่นไฟๆๆ *พาลใส่รัวๆ*

เมโล่ล่ะ? หายไปนานแล้วนะ สงสัยว่าอนาคตน่าจะมีบทเพิ่มขึ้นนะคนนี้ ไม่งั้นนางก็ดูเป็นตัวประกอบไปหน่อยละ ในบรรดาผู้เข้าชิงทั้งสามตอนนี้ รักชาติดูบทเยอะสุด ไอรองลงมา เมโล่อยู่ท้ายขบวน เราล่ะกลั๊วกลัวว่าที่รักชาติมีบทเยอะสุดในช่วงแรกนี้เพราะต่อไปนางจะบทน้อยลงป่ะ เหมือนให้มีบทบาทก่อนเพื่อนแล้วก็โดนคัดออกไรเงี้ย แล้วเหลืออีกสองหนุ่มมาห้ำหั่นกันต่อ ถ้าเป็นงั้นนี่โอ้วม่ายยยย รักชาติของฉัน

รู้สึกเม้นต์ครั้งนี้แอบพาลไปจิกไอกับต่ายเล็กน้อย จริงๆหมั่นพวกนางสองคนมากกก อยากระบายความอัดอั้น ขนาดเรากดโหวตให้ต่ายในโพลล์นะเนี่ย ตอนนี้เริ่มมาติ่งรักชาติแล้ว เอ็นดูความซึนและความที่ดูออกง่ายของรักชาติอ่ะ ฮ่าๆๆ

รอดูตอนหน้า ชายต่ายจะจัดการแก้ปัญหายังไง ตอนไอมาพูดหยอดดูอิคุณชายเธอยังมีเจ็บป่งเจ็บปวด ฉันล่ะกลัวคุณเธอจะหวั่นไหวจัง อย่าทำให้เราผิดหวังเลยนะ ฮอลลลลลลล
 :m31:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2014 03:39:20 โดย RoseBullet »

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
โอ่ยยยย ไอ
แกจะมาทำไมตอนนี้ T^T
เชียร์รักชาติสุดใจ

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
รู้สึกเหมือนว่าไอจะเป็นนางร้ายของเรื่องเลย ไม่ชอบเลยจริงๆนางมาแบบแรดเงียบ ชิส์!!!!
เกลียดอิต่าย หวังว่ารักชาติจะใจแข็งนะอย่ายกโทษให้ง่ายๆ
จะยังไงซะเราว่าต่ายทำไม่ถูกเพราะเรามองว่าเรื่องของไอไม่ใช่เรื่องใหญ่คอขาดบาดตาย
พอที่จะทำให้ต่ายผิดนัดแล้วยิ่งรักชาติต้องตากฝนรอถ้าเป็นเราๆคงโกรธมากถึงมากที่สุด
ขนาดเจอหน้าแล้วสามารถกระทืบต่ายมันได้เลย   :katai1:

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
สุดท้ายคุณชายก็ปล่อยให้รักชาติรอ ไม่ได้เรื่องเล๊ยยย ถึงตอนหลังจะไปก็เหอะ แต่ความรู้สึกคนที่เสียไปมันเรียกคืนไม่ได้นะ
เฮ้อออ ไอนะไอจะกลับมาทำให้คุณชายเจ็บอีกรึไง
เมโล่เค้าหายยยย เอาเมโล่คือมานะ ชิส์!! :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ชายต่ายยังโลเลอยู่เลย คนที่เจ็บก็เพิ่มมากขึ้นด้วย สงสารรักชาตินะ  :mew6:
เฮ้อ มันยากจริงๆความรักเนี่ย ให้ตายเถอะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ zojikarn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ณ ตอนนี้โกรธชายต่ายกับไอมาก นี่บอกเลย เข้าใจนะว่าอาการไอน่ะน่าเป็นห่วงแต่การทิ้งอีกคนไว้แบบนี้ไม่ควรเลยนะถ้าจะชอบไอก็ชอบไปอย่ามาให้ความหวังรัก ไอก็เหมือนกันเพื่อนคนอื่นไม่มีหรอเมลโล่งี้ทำไมไม่ไปหาค้าาาาาคนอื่นที่สนิทกว่าต่ายก็มีนี่ฮึ่ยย สองคนนี้นี่ไม่ชัดเจนพอกันเลย  :katai1:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
บอกคำเดียว ชายต่ายยัง โลเลนะจ๊ะ ในแง่ความรู้สึก
ปล สงสาร รักจุงเบย คุณหนูผู้เอาแต่ใจ งุงิ แต่อดทนเพื่อความรัก (ทนที่ยืนรอชายต่ายทั้งๆที่รู้ว่าจะไม่มา แอบเจ็บปวดเบาๆ)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
โถรักชาติ น่าสงสารจริง ๆ เลยลูก
สำหรับชายต่ายผลของการโลเลก็เป็นเช่นนี้แล

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
สงสารรัก สงสารรัก สงสารรัก :'(

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
รักกกก สงสารรักอ่ะ ตอนแรกไม่รู้จะเชียร์ใครคู่ชายต่าย
ตอนนี้เริ่มไม่อยากเชียร์ชายต่ายละ เชียร์รักคนเดียวก็ได้55
คือถ้าเราเป็นรักคงโกรธมากอ่ะ แล้วไอจะมาทำไมมมแงๆๆ
เริ่มไม่ชอบไอขึ้นมานิดนึง ตอนมีปัญหาถึงค่อยมาหาชายต่าย
มาขัดขวางรัก :ling1: อยากเห็นชายต่ายโดนรักเอาคืนนเอาให้เจ็บจี๊ดดด

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
จะเริ่มเชียร์เมโล่แหละ ดูท่าจะติ๊ง๊อง ไม่เครียดสุด 555

ตกลงชายต่ายคบกับรักแล้ว? ออกตัวเป็นแฟนขนาดนี้ อ๊ากกกกกก
สงสารไอนะ แต่ไออยากไปมีแฟนทิ้งชายต่ายก่อน ก็สมควรที่ชายต่ายจะเลือกคนอื่น
แต่หวังว่าชายต่ายจะลับมามองไอสักนิด
เพราะดูเหมือนคนที่ให้สัญญากับไอคงเป็นชายต่ายแน่ๆเลย

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ชั้นผิดหวังกับชายต่ายมาก ๆ แค่นี้นะชายต่าย  :seng2ped:

สงสารรักชาติ นัดไว้ก่อนแท้ ๆ ตั้งตาคอยของขวัญ  :o12:

ส่วนไอ ชั้นเบื่อเธอ ตอนมีแฟนก็ไม่สนใจชายต่าย แต่พออกหัก เชอะ มาทางไหนไปทางนั้นเลยปะ  :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เบื่อตายล่ะ โลเลสุดๆอ่ะไม่รักกันก้อย่ามาให้ความหวังสิ  :z3:


ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับไอทีไร ทิ้งรักชาติเราตลอดเลย ไม่เข้าใจชายต่ายมากๆ ถ้าแค่รู้สึกดีไม่ได้รักจริงๆไม่ต้องมาคบกับรักชาติหรอกถ้าทุกครั้งจะทิ้งไปหาไอแบบนี้ เราสงสารรักชาตินะ ส่วนไอ ไอมักจะมาในตอนที่ผิดเวลาเสมอเลย ไม่รู้เป็นไร หมั่นไส้นิดๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minibusez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

สับสนจังเลยนะ หันซ้ายหันขวา ไม่ว่าทางไหนก็ดูไม่เหมาะไม่ควรไปหมด
ในขณะที่ผิดนัดรักชาติ แต่ก็โทรไปพยายามไกล่เกลี่ยแล้ว
ตอนที่ปล่อยให้ไอรอ ก็ไม่ได้บอกว่าให้รอแต่แรก ไอมีสิทธิที่จะไม่รอ หรือกลับบ้านไปเลยก็ได้
อย่างไรก็ตาม หวังว่าจะมีบทแมวยักษ์ในเร็ววันนะคะ  :katai5:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
ไงดีอ่ะ ตอนไอมีแฟนก็ไม่เห็นจะสนชายตายนี่นา
ถ้าแฟนผญไม่บอกเลิกก็ไม่ชายตาแลมาหรอกกกก  :katai4:
เราก็เข้าใจอ่ะว่าคนเรามีด้านดีด้านร้าย รักก็ไม่ใช่คนน่ารักเท่าไหร่ แต่ถ้าตกลงคบกันแล้วก็ต้องยกความรู้สึกเค้าเหนือคนอื่น
ผีย่อมเห็นผี ทั้งสามคนรู้กันดีแหละว่าความสัมพันธ์แม่มไม่ชอบมาพากลอ่ะ
(รู้ว่านิยาย อินจุงเบย สนุกจุงเบย อิอิ)

อาจจะเพราะเรามีเพื่อนที่เจอคนแบบไอละมั้ง ไม่ได้ไม่ดีกลับมาซุกตลอด พอแฟนตัวจริงมาง้อก็เฉดหัวเพื่อนเราทุกรอบ มันใช่หราาาาาา  :katai1:

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :a5: ข้อมือเปนอะไรมากรึป่าวคะ หายไวไวนะคะ

รอนิยายเรื่องนี้เสมอค่ะ ชอบมาก ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร
เราว่า เลือกทั้งหมดเรยก็ได้นะอิอิ :hao6:

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
บอกตามตรงยังไงเราก็ยังคงไม่ชอบไออยู่
และตอนนี้กำลังจะเริ่มเซ็งชายต่ายละ
มันใช่เรื่องป่ะ  โอ่ยย...อารมณ์เสีย
 :z3:

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
ไอ , ต่าย , รัก จะวุ่นต่อไปก็ไม่เป็นไร
เพราะประกาศตัวเลยว่า "แม่ยกเมโล่" จ้าาาา

ปล.คิดถึงเมโล่จังเลย

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ใครจะเป็นอะไรไม่รู้ รู้แต่ คิดถึงเมโล่ววววววว :hao7:

ปล. เกนหลงมาจากไหนอ้ะ :laugh:

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
เชียร์รักชาติอ่ะ 

ออฟไลน์ Liliz

  • บนโลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญหรอก จะมีก็แต่พรหมลิขิต♥
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอใช้สิทธ์ผู้อ่าน ส่งชายต่ายกับไอลงสุสาน แล้วอัญเชิญตัวละครชายคนใหม่มาคู่กับรักชาติ จบเทิร์น

//กระดึ๊บหนี :katai5:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
รักชาติไม่มีเหตุผล ไม่มีน้ำใจ ไม่ค่อยน่าสงสารเท่าไร
ถ้ามีแค่ "คนรู้จัก" ต้องถึงขนาดเพื่อนก็ได้ มาหาเราในสภาพแย่มากๆ
คนที่มักใจดีกับคนอื่น อย่างชายต่ายจะไม่ช่วยได้ไง ความรู้สึกประมาณว่า "ไม่ว่าอย่างไรก็ปล่อยไว้คนเดียวไม่ได้"
ในขณะที่แฟนก็ ปกติครบ 32 คนเป็นแฟนกันไม่ยืดหยุ่น ไม่มีเหตุผล เดี๋ยวก็เลิกกัน
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องคอยดูแลจนกว่า คนที่มาหาจะดีขึ้นเท่านั้นแหละ
รักชาติก็ชอบชายต่าย เพราะชายต่ายใจดีและชอบดูแลตัวเองไม่ใช่เหรอ
พอเป็นแฟนกันแล้ว ห้ามชายต่ายใจดีหรือดูแลคนอื่นนอกจากตัวเองเหรอ "เห็นแก่ตัว" ไปหรือเปล่า
อย่ามา "ผิดหวัง" กับชายต่าย ที่ยังคงความเป็นชายต่ายไว้นะ
เพราะปกติ ชายต่ายก็เป็นแบบนี้ก็แล้ว ถ้าชายต่ายไม่เป็นแบบนี้ "ก็ไม่ใช่ชายต่ายสิ"
ไม่ชอบรักชาติ และไม่เคยเชียร์รักชาติด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2014 12:56:12 โดย korinasai »

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ชักเริ่มเกลียดชายต่ายกับไอแล้ว   :katai1:
เกลียดความโลเลของต่ายจริงๆ อย่าลากรักชาติเข้าไปเจ็บเลย สงสารรักชาติมากๆ    ไปหาคนที่รักเราดีกว่านะรักชาติ ปล่อยชายต่ายมันไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด