[Ultimate Love] ยากนัก... รักนี้ ♥♥♥ ตอนส่งท้าย up!! 011114/P.44 จาก ss1 สู่ ss2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณปลื้มหนุ่มคนไหนมากที่สุด? (เลือกได้ 2 ข้อ)

รักชาติ  (คุณหนูผู้ไล่ตามความรัก)
101 (21.8%)
ไอ  (หนุ่มเฟรนด์ลี่ที่เดาใจได้ยาก)
41 (8.8%)
เมโล่  (แมวยักษ์จากต่างดาว)
109 (23.5%)
ปูเป้  (โชตะวัยประถมฯ)
5 (1.1%)
เฮียภาค  (กัปตันสุดเข้ม)
32 (6.9%)
เฮียภูมิ  (ผู้กองจอมกะล่อน)
14 (3%)
แกรี่  (แบดบอย+ค้ำคอร์)
32 (6.9%)
ชายต่าย  (ผู้เกิดมามีเสน่ห์โดยธรรมชาติ 555)
130 (28%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 273

ผู้เขียน หัวข้อ: [Ultimate Love] ยากนัก... รักนี้ ♥♥♥ ตอนส่งท้าย up!! 011114/P.44 จาก ss1 สู่ ss2  (อ่าน 279338 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไอ ทำไมทำตัวแบบนี้
รักมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ไอกลับทำตัวแย่ลง
เมโล่มาเอาไอไปเก็บด่วน
ชายต่ายรับบทหนักคนเดียวเลยตอนนี้

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เมโล่ แอบชอบไอรึเปล่าเนี้ยย ทำไมทำชายต่ายดร้ายยยย
บันนี่ผู้น่าสงสาร
 :hao5:

ออฟไลน์ อ้วนน้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อยากให้ชายต่ายเป็นคนที่ถูกปกป้องบ้างค่ะ เพราะที่ผ่านเห็นแต่ปกป้องคนอื่น ดูแลคนอื่น อยากให้มีคนมาดูแลต่ายบ้าง โดนต่อยหน้าแทนไอ โดนต่อยท้องแทนรัก มีใครสงสารชายต่ายของเค้าบ้าง :sad4:  :hao5: เค้ารักต่ายนะ :monkeysad: ถ้ามีแต่คนให้ต่ายปกป้อง มาหาเค้าเถอะเค้าจะปกป้องต่ายเอง :o8:

ออฟไลน์ uchikas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ก็รู้อยู่หรอกนะว่า ต่ายรัก
แต่ก็แบบเชียร์ไอมาตั้งแต่ต้นมันเลยอดเสียใจไม่ได้
เรื่องมันเศร้าของเหล้าเข้มๆ
 :heaven

ออฟไลน์ icecreammaniac

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai1: :katai1:

อดใจอ่านไม่ไหว ตอนแรกเก็บเอาไว้ว่าจะไม่อ่านเพราะเรากลัวไวท์ ก่อดรามาตอนจบ
เลยจะอ่านเรื่องนี้ทีเดียวตอนรวมเล่ม 55555555555 แถมเรายังติดบอสฟางอมแงม
แต่รอแล้วรอเล่า ไวท์ไม่มาอัพมาดาม (เกี่ยว???) เลยมาอ่านเรื่องนี้และขอบอกว่า....

ติดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ยิ่งอ่านยิ่งกลัวดรามา ขนาด 20 ตอนแล้วยังเดาไม่ถูกว่าใครจะคู่กับใคร
แต่ลึกๆในใจเราว่าชายต่ายไม่น่าจะเมะอ่ะ ทำไมไม่รู้... แค่ความรู้สึกส่วนตัว

เพราะมันดูไม่เข้ากันกับทั้งรัก ทั้งไอ ยิ่งรักนี่เราว่าไม่ใช่สุดๆ
ส่วนไอเหมือนจะมีความหลังกันมามากมาย สมัยเด็กเราเดาเอาว่าไอชอบชายต่ายนั่นแหละ
คงฝังใจแต่ก็โกรธเพราะอิคุณชายลืมสัญญา เลยออกมาในรูปแบบนี้

ส่วนตัวเราแอบเชียร์เฮียภาค รู้สึกว่าคนที่บอบช้ำทางจิตแบบชายต่าย ควรมีคนปกป้อง
(เพราะอะไร 55555555555555 ) เวิ่นมากมาย เพราะเราอ่านทีเดียวรวดตอนนี้เลยสับสน

เอาเป็นว่าไวท์ สู้ๆนะ  :katai5:

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
โอ๊ยยยยย นังไอ หล่อนจะมาคันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน อะไรตอนนี้

ดูปากณัชชานะคะ แรด

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5

ออฟไลน์ Linea-Lucifer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชายต่ายยยยยยยย เจ็บไหมลูกกกกก TWT//
ยังเชียรชายต่ายเคะต่อไป

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
ตอนนี้โกรธเมโล่อ่ะ!!! โกรธมากกกกกกกกก ทำไมต้องไปชกต่ายด้วยชายของชั้นทำอะไรผิดดดด!
จะอวยไอไปถึงไหน ไม่ชอบไอตอนนี้เลย ไม่ชอบมากกกก! รู้ว่าชีวิตน่าสงสารแต่จะไปทำตัวงั้นก็ไม่ใช่ หึ่ยยยยย :katai1:
เอาเป็นว่ารักเด็กดาวร้ายที่สุด เชียร์ๆ เมโล่กะคู่กะไอไปละกัน ชิ

ขอบคุณนะคะ :L2:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
รู้สึกชอบแกรี่ขึ้นมากะทันหัน  จะโผล่มาอีกไหมอ่ะ
แต่ต่ายคู่กับรักชัวแล้วแหละงานนี้  :ling2: เชียร์คนที่ตัวเองชอบ ดูท่าจะเชียร์ไม่ขึ้น
อยากอ่านแกรี่ และอยากอ่านตอนต่ายเมาด้วย อยากดาร์กอ่ะค่ะ o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
กลัวว่าถ้าเมาแล้วชายต่ายจะเป็นพวกไม่สนใจคนอื่นนอกจากแฟนมากกว่า
อะไรลึกๆ ที่เก็บไว้มันจะออกมาหมด


ทำให้อยากเห็นมากเลยค่า

ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เมโล่ควรไปคู่กับไอ เค้าว่าจบ - _-

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ถ้าถามใจอยากให้ ชายต่ายxรัก  เมโล่Xไอ นะ

แต่!!!!! ฟีลตอนนี้มัน เฮ้ออออ เค้าขอรอให้เรื่องจบก่อนได้ป่ะ ขอรู้แน่ๆว่าใครเป็นพระเอกอ่ะ จะได้เชียร์ถูกคน   

คือรู้ตัวว่าทำใจไม่ได้แน่ๆ ถ้าคนที่เราเชียร์ มันไม่ใช่อ่ะ 

ถ้าพระเอกเฉลยอย่างแน่นอนแล้ว เค้าจะเช้ามาเชียร์ให้ถูกคนนะ สัญญา

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
ก็ยังสงสารไออยู่ดี  :hao5:

ออฟไลน์ Moonwish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ไอจ้ะ คนเราอ่อนแอกันได้ แต่อย่าเอาความอ่อนแอของตัวเองไปทำร้ายคนอื่น
เข้มแข็งหน่อยลูก ลูกผูู้ชาย ลูกผู้ชาย จะทำในสิ่งที่มีศักดิ์ศรี (เพลงช่องเจ็ดลอยมา)
พลาดเองเจ็บเนอะ ที่ไม่เลือกชายต่ายแต่แรก รักที่ซื่อตรงกว่าก็เลยได้ไป
ส่วนต่ายจ้ะ ตอนนี้ก็เกือบจะดีและนะ ติดตรงที่ทำไมความคิดที่ว่า ทำไมเพิ่งมาบอกถึงได้พุดขึ้นมา
เสมือนว่าแอบเสียดาย ถ้าบอกกับรักว่าเพื่อนก็ต้องเป็นแค่เพื่อนทั้งใจนะจ้ะ
อีกคนนึงเมโล่ ตอนนี้งี่เง่ายิ่งกว่าไออีก ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ตอนนั้น ไม่รู้ไม่เห็น
รู้แค่ว่าไอเจ็บ ใครทำไอเจ็บต้องโดนเอาคืน  นักเลงช่างกลมาก แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มีใครทำอย่างนี้
อีกอย่างไอกับรักเขาแรกหมัดกันจบไปแล้ว แบบแฟร์ๆ สังเกตนิดนึงนะ
จากจุดนี้ก็บอกได้อีกอย่างว่า ไอกับเม่โลว์ไม่เหมาะกัน อีกคนอ่อนแออีกคนเด็ก ไม่รอดชัวร์
ส่วนรักตอนนี้ให้คะแนนเต็ม  น่ารักดี พยายามได้ดีมากเพื่อคนที่เรารัก



ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
แม๊...รู้สึกสมน้ำหน้าไอบอกมะถูก  :katai5:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อยู่ก็คิดพิเรณว่า ถ้าไอกับรักมันดันไปชอบกันเองจะเกิดอะไรขึ้น
เราอาจจะได้คู่รัก SM ก็ได้ หึหึ

ออฟไลน์ Linea-Lucifer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อยู่ก็คิดพิเรณว่า ถ้าไอกับรักมันดันไปชอบกันเองจะเกิดอะไรขึ้น
เราอาจจะได้คู่รัก SM ก็ได้ หึหึ

เห็นด้วยค่ะ ///-/// แอบจิ้นคู่นี้เหมือนกัน คงฮามุ้งมิ้งน่ารักน่าดู

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
จากข้างต้นมีเม้นนึงบอกว่า ไอกะเม่โล่ไม่เหมาะ คนนึงอ่อนแอคนนึงเด็ก
ช่ายยยยยย (ทำเสียงแบบเมโล่) เค้าเห็นด้วย
แต่บันนี่ต้องคู่กะรักนะ เค้าเชียร์แล้ว
ส่วนแกรี่นายไปกินเด็กปูเป้ซะนะ
เฮียภาคครับมารับไอไปเอ็นดูที
ส่วนเฮียภูมิ เฮียยังหนุ่มยังแน่นไปหาเอาเองกะแล้วกัน
แบบนี้ก็จบลงตัว 5555 (เพ้อ)
ส่วนแมวยักษ์ หนูมาหาป่ะป๊ามา เดี๋ยวป๊าเลี้ยงดูหนูเอง เอิ๊กๆ

ปล. แมวเหมียวของป๊า ทำไมหนูถึงทำกระต่ายผู้น่ารักอย่างบันนี่ได้ลงคับ ไหนตอบป๊าสิ

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
เบื่อพวกแฟนบอยของชายต่ายมาก
ได้เวลาโละเหลือแต่คู่เรียลรึยังต่าย

 :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






mujika_keita

  • บุคคลทั่วไป
เมโล่! กล้าต่อยท้องชายต่ายหรอ เสียแรงที่เคยเชียร์ให้เป็นพระเอก
โป้งแล้วย่ะ เดี๋ยวตบฟ่ำเลย  :katai1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ชายต่ายยยยแมนมากลูกกรี๊ดดดดด

ก็ยังเอ็นนดูเมโล่นะคะ เขาชัดเจนของเขา55

แล้วก็เรื่องชายต่ายเมา เราพอเดาออกแหะ หมอนี่เมาอันตรายชัวร์

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
ถึงเสียใจที่เชียร์ไอต่ายไม่ขึ้น
(คิดว่าเด็กๆอคนนี้ต้องเคยสัญญาอะไรไว้)

แต่เมโล่ดีสุดแล้วสำหรับไอ

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
ยากนัก... รักนี้ ♥



ตอนที่ 22
 




“ว่าไงมึง ให้เดินหาตั้งนาน”


“เจ็บนะครับ”  ผมหันไปพ้อแบบอ้อนๆ ใส่รักที่เอาแก้วไวน์มากดแนบกับรอยช้ำบนหน้าผม


“ทำไมมานั่งหลบมุมอยู่ตรงนี้?”  คนพูดหัวเราะเบาๆ แล้วทิ้งตัวนั่งบนพื้นหญ้าเคียงข้างกัน


หลังเล่นเกมเมื่อตอนกลางวัน เสธ.ดี้ก็เชิญทุกคนไปทานมื้อเที่ยงที่บ้านของเขา และชวนมาปาร์ตี้เคาท์ดาวน์ด้วยกันในตอนกลางคืนอีก งานนี้ไม่ใช่แค่ที่บ้านของเจ้าของไร่ที่ประดับปะดาไฟสวยงาม ทั่วทั้งรีสอร์ทก็ตกแต่งไฟสวยงามรับเทศกาลเช่นเดียวกัน นี่เห็นว่าจะมีการจุดพุฉลองศักราชใหม่ด้วย ผมเองก็รอดูอยู่เหมือนกัน


“วิวดี”  ผมแหงนหน้ามองฟ้าที่มีดาวพร่างพราว


คืนนี้ทั้งอากาศ ทั้งบรรยากาศล้วนดูสวยงามไปหมด แต่ไม่รู้ทำไมในใจผมถึงรู้สึกหน่วงอยู่ลึกๆ อย่างบอกไม่ถูก


สาเหตุคงจะมาจากเรื่องเมื่อเช้า มีบางสิ่งบางอย่างคอยรบกวนจิตใจผมอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ตอนนั้น กับคำพูดนั้น ..คำสารภาพของไอ.. ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่สามารถสลัดมันออกจากหัวได้สักที ทั้งที่ตอนนี้ผมก็มีคนตรงหน้านี้เป็นเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว ทั้งที่ผมก็ตัดใจจากไอไปตั้งนานแล้ว งั้นแล้วทำไม..


ความรู้สึกนี้มันคือสงสารหรืออะไรกันแน่


“เอาไหม?”  รักยื่นแก้วไวน์มาให้  “อร่อยนะ ตั้งแต่มายังไม่เห็นมึงแตะสักแก้วเลย”


ผมส่ายหัว  “เราไม่ดื่มน่ะ”


“ทำไมอ่ะ?”  รักเลิกคิ้ว


“เดี๋ยวเมา”  ผมพูดยิ้มๆ


“แล้วไงต่อ?”  รักผุดรอยยิ้มซุกซนขึ้นมา


“แล้ว..”  ผมเว้นช่วงให้คนฟังได้ลุ้น  “ก็อาจจะลุกขึ้นมาปล้ำแฟนกลางงานเลี้ยงไงล่ะ”


รักหัวเราะชอบใจ ผมก็หัวเราะไปกับเขาด้วย


“หัวเราะแบบนี้อยากโดนปล้ำอ่ะดิ”  ผมแซว


“ก็เอาดิ”  รักพูดกลั้วหัวเราะ


“หว่าาา น่าไม่อายเลย”  ผมแกล้งว่าแล้วจี้เอวคู่กรณี ทำให้รักระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแบบดังกว่าเดิม


รักดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ไม่รู้เป็นเพราะบรรยากาศ หรือเพราะแอลกอฮอล์ แต่ผมเห็นแล้วก็พลอยรู้สึกดีไปด้วย เขาเริ่มต้นเล่าเรื่องที่คิดว่าตลกเวลาที่เขากับพวกพี่ๆ มาอยู่ที่ไร่แห่งนี้ให้ฟัง ผมก็ฟังไปยิ้มไป หัวเราะบ้างตามสมควร ยิ่งเห็นผมตั้งใจฟัง รักก็ยิ่งกระตือรือร้นที่จะเล่า เขาดูพูดมากกว่าทุกที แต่ผมคิดว่านั่นน่ารักดี นานๆ จะได้เห็นรักในมุมนี้ ก็เลยไม่รู้สึกเบื่อที่จะฟัง


ระหว่างนั่งมองหน้ายิ้มแย้มกับฟังเสียงเจื้อยแจ้วของรักเพลินๆ พลันสายตาผมก็เหลือบไปเห็นไอเดินผ่านข้างหลังพวกเราพอดี เราได้สบตากันเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายเบือนหนีกลับมาที่รักก่อน..


“ครับ?”  ผมเห็นรักขมวดคิ้วมองผมอยู่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่


“เบื่อเหรอ?”  รักดูมีแววกังวลในดวงตาตอนที่ถามประโยคนั้น


“เปล่านี่”


“เพราะกูเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว?”


“ไม่เป็นไรเลย เราชอบฟังมากกว่าอยู่แล้ว”


“แต่เมื่อกี๊มึงเหม่อ”


“เอ้อ..”  ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอเหม่อไปตอนไหน


“.........”  รักมองเหมือนจับผิด ผมเลยต้องรีบยิ้มประจบเอาใจ


“เรามองรักเพลินไปหน่อยน่ะ”  พูดแล้วก็ขยับเข้าไปนั่งใกล้จนไหล่ชิดกัน พลางส่งสายตาออดอ้อน  “ไม่โกรธนะ?”


“อือ”  รักดูเหมือนจะยังติดใจอยู่เล็กๆ แต่สุดท้ายก็เลือกตัดใจไม่ซักไซร้ต่อ เขาเอนหัวมาซบไหล่ผม จนผมอดมองซ้ายมองขวาดูว่ามีใครสังเกตเห็นพวกเราตรงนี้หรือเปล่าไม่ได้


“รัก ทำแบบนี้เดี๋ยวมีใครมาเห็นนะ”


“ใครล่ะ?”


“ใครก็ได้.. ในงานเลี้ยง”  เราไม่ได้อยู่ไกลจากพวกเขาเลยนะตอนนี้


“ช่าง”  รักตอบมาง่ายๆ โดยไม่ยอมขยับหนีไปไหน


แต่จะช่างได้ยังไง จะให้ช่างถ้าพ่อรักจะมาเห็น หรือช่างถ้าแม่ผมจะมาเห็นตอนนี้คงไม่ได้หรอก มันยังเร็วเกินไป ถ้าเกิดพวกเขารับไม่ได้ขึ้นมา มันก็จะลำบากใจกันทุกฝ่าย


“พวกคนงานอีก”


“มึงแคร์สายตาคนอื่นขนาดนั้นเลยเหรอ?”  รักยอมยกหัวขึ้นมามองหน้าผมตรงๆ


“เรากลัวว่าพวกเขาจะเอาไปพูดถึงรักในทางไม่ดี ตัวเราน่ะไม่มีปัญหาหรอก เพราะมาแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับ แต่รักเป็นลูกเจ้าของไร่ ยังไงก็ต้องมาที่นี่บ่อยๆ เราไม่อยากให้รักเป็นขี้ปากพวกคนงาน”  ผมพยายามอธิบายอย่างนุ่มนวล


รักหลุบตาลง ท่าทางเขาคงยอมรับในเหตุผลของผมได้ ก่อนที่มือร้อนของเขาจะวางทับบนหลังมือผม แล้วบีบเบาๆ


“งั้นก็ไปที่ที่พวกนั้นจะไม่เห็น..”  เสียงชวนนั้นเบาหวิว แต่ก็ฟังกระตือรือร้นอยู่ในที


บอกเลยว่าน่ารักสุดใจ แล้วแบบนี้ใครจะปฏิเสธลง จริงไหม? ฮ่ะๆๆ





“ใจเย็น..”  ผมกระซิบบอกคนที่มาถึงก็ขยำจุดยุทธศาสตร์ของผมหวังปลุกปั้นให้มันพร้อมรบเลย


พอลองสัมผัสของอีกฝ่ายดูบ้าง ‘ตาย.. แข็งเป็นหินเลย’ คือประโยคที่ผมอุทานในใจ รู้เลยว่าทำไมรักถึงไม่พาผมไปไกลกว่านี้ ความจริงจุดที่เราอยู่นี่ก็ห่างจากจุดแรกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็แค่ขยับจากที่โล่งเข้ามาซ่อนตัวใต้ร่มเงาไม้ยืนต้นที่อยู่ใกล้ๆ อย่าไปพูดถึงบ้านหลังน้อยของรักหรือที่อื่นที่มันรโหฐานกว่านี้เลย แค่รักไม่จู่โจมผมตั้งแต่ก่อนย้ายที่ก็ถือว่ามีความอดทนแล้วล่ะ ฮ่ะๆๆ


อันที่จริง ลองมีเซ็กส์แบบเอาท์ดอร์สักครั้งนี่เป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกันนะ ติดอย่างเดียวคืออากาศหนาวไปนิด แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นอุปสรรคต่อความหื่นเท่าไหร่ ฮ่ะๆๆ


ผมดึงรักขึ้นมานั่งคร่อมตัก แล้วตัวเองเอนหลังพิงต้นไม้ แอบรู้สึกสะดุ้งกับอากาศเย็นเล็กน้อยตอนที่รักเอาน้องชายผมออกมานอกกางเกง แต่มือของเขาที่คอยเอ็นดูมันอยู่ตลอดก็ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้มันได้อย่างรวดเร็ว ผมใช้มือของตัวเองล้วงเข้าไปทางด้านหลังรักบ้าง ขยำขยี้แก้มก้นที่มีอยู่ไม่มากนักแต่ก็พอให้เล่นได้อย่างเพลินมือสักพัก ก่อนจะลองรุกหนักเข้าไปลึกกว่านั้นดู..


รักสะดุ้งตอนที่ผมกดนิ้วลงไปตรงจุดนั้น แต่ยังไม่รุกล้ำเข้าไป เพราะยังไงก็อยากจะถามความสมัครใจของอีกฝ่ายก่อน รักเงยหน้าสบตากับผม แววตาไหวระริกด้วยแรงอารมณ์ผสมกับความหวาดหวั่นทำให้ผมยื่นหน้าไปจูบปากเขาอย่างอ่อนโยนแทนการปลอบประโลม และเมื่อผละออกรักก็ตามมาประกบด้วยจูบที่ร้อนแรงเรียกร้องกว่า ผมจะถือว่านั่นเป็นการอนุญาตก็แล้วกัน..


ผมเริ่มออกแรงกดนิ้วให้ลึกเข้าไป รักยังคงไม่ว่าอะไร ยังคงใช้มือและปากของตัวเองปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่ก็แอบมีสะดุ้งเป็นพักๆ ทุกครั้งที่นิ้วของผมมีการเคลื่อนไหว จนเมื่อผมสอดผ่านเข้าไปได้ราวสองข้อนิ้ว รักก็เริ่มออกอาการให้เห็น เขาเลิกจูบผมแล้วเอาปากไปช่วยจมูกจัดการกับระบบหายใจ ซบหน้าผากไว้ที่ไหล่ผม และสองมือก็กำแขนเสื้อผมแน่นจนผมชักเป็นห่วง


“รักครับ”  ผมกระซิบเรียกข้างหู แล้วขบกัดใบหูนั้นเบาๆ  “ไม่เกร็งนะ?”


รักไม่ตอบ แต่ร่างกายของเขาดูเหมือนกำลังพยายามทำตามที่ผมบอกอยู่ ผมเลยดันเข้าไปจนสุดนิ้ว แล้วดึงออก แล้วก็สอดเข้าไปใหม่ ซ้ำๆ แบบนั้นอย่างใจเย็น จนรักเริ่มส่งเสียงครางออกมาเบาๆ เขากลับมาจูบผมอีกครั้ง และเริ่มขยับสะโพกด้วยตัวเองบ้าง


“เอาของรักออกมาสิ” 


รักไม่รอให้ผมบอกซ้ำ เขาดึงขอบบ็อกเซอร์และกางเกงชั้นของตัวเองลง เผยให้เห็นรักน้อยที่คึกคักจนส่วนปลายเริ่มมีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมา ผมจับรักขยับขึ้นมาให้น้องชายเราได้ทักทายกัน ก่อนที่รักจะรวบมันทั้งคู่ไว้ด้วยกันอย่างรู้หน้าที่ ผมลองเพิ่มเข้าไปอีกนิ้ว รักก็สะดุ้งเหมือนเดิม แต่ใช้เวลาปรับตัวให้คุ้นเคยเร็วกว่าเดิมมาก พอผมเริ่มเร่งจังหวะให้ถี่ขึ้นหนักขึ้น รักก็เริ่มขยับสะโพกรับมากขึ้น และเสียงครางข้างหูผมก็เหมือนจะดังขึ้นตามไปด้วย ..โชคดีที่ในงานเปิดเพลงเสียงดัง คงไม่มีใครผ่านมาได้ยินเสียงพวกเราหรอกมั้ง...หวังว่านะ


“อือออ จะแตก”  รักบอกเสียงกระเส่า


“เอาเลยสิ”


“ไม่เอาท่านี้ เดี๋ยวเสื้อมึงเลอะ”


“เดี๋ยวเราถอดเสื้อก่อนก็ได้”


“ไม่ต้อง มันหนาว”  รักจับมือผมที่กำลังจะถลกชายเสื้อเอาไว้  “ปล่อยกูก่อนดีกว่า”


“เอางั้นเหรอ”  ผมยอมตามใจให้รักลงจากตักไป แล้วนั่งดูเขาช่วยตัวเองอยู่ข้างๆ ด้วยอารมณ์สุขใจอย่างบอกไม่ถูก


“กูก็อายเป็นนะ”  คงเพราะเห็นผมเอาแต่นั่งดูเฉยๆ เจ้าตัวเลยอดพูดขึ้นมาไม่ได้


ผมหัวเราะชอบใจเบาๆ ก่อนแสดงน้ำใจ  “ให้ช่วยไหม?”


“จูบหน่อย”  รักอ้อน


ผมเต็มใจทำตามคำขอ มือก็ลูบไล้ร่างกายเขา ผ่านกลางลำตัวแล้วล้วงลึกไปถึงด้านหลัง


“ให้ช่วยตรงนี้ด้วยไหม?”  ผมถามยิ้มๆ


รักไม่ยอมตอบ แต่อาการหลบตาของเขามันฟ้องว่าเขาไม่รังเกียจกับการถูกนิ้วของผมลุกล้ำ ผมก็จัดไปนั่นแหล่ะ ฮ่ะๆๆ รักถึงกับก้นไม่ติดพื้น เขาเร่งจังหวะมือตัวเองถี่ขึ้นๆ จนในที่สุดก็ถึงจุดหมาย


“เป็นไงมั่ง?”  ผมเกลี่ยผมชื้นเหงื่อของคนที่นั่งหอบพิงไหล่ผมออกจากหน้าผาก


รักไม่ยอมตอบอีกครั้ง แต่เขาเอื้อมมือมารูดน้องชายผมเล่นแทน สักพักเขาก็ล้วงตามกระเป๋ากางเกงตัวเองเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง ก่อนจะชูซองพลาสติกแบนๆ พิมพ์ยี่ห้อ ‘Durex’ ให้ผมดู


“จิ๊กเฮียภูมิมา”  รักบอกโดยไม่สบตาเมื่อเห็นผมเลิกคิ้ว  “ทำไหม?”


ผมต้องเลิกคิ้วสูงกว่าเดิมกับคำถามน่ารักๆ นั้น  “ได้เหรอ?”


“ถ้ามึงอยาก..”


“ต้องอยากอยู่แล้วสิ”  ผมยอมรับ  “แต่ไม่มีเจลช่วย รักจะไหวเหรอ? ของเรามันต่างจากสองนิ้วเมื่อกี๊นะ" 


ก้มมองของตัวเอง รักก็มองด้วย แล้วก็มีแวววูบไหวลังเลขึ้นมาบนสีหน้า เอาจริงๆ ผมก็แอบกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจเหมือนกันนะ


“ลองดูก่อน”  รักเหมือนกลั้นใจพูดอ่ะ ฮ่ะๆๆ  “แล้ว..กูต้องทำไง?”


“ถอดกางเกงสิ”


รักลุกขึ้นถอดกางเกงอย่างว่าง่าย ผมแบมือยื่นไปให้เขา เขางงในตอนก แต่ที่สุดก็วางมือลงบนฝ่ามือผม ผมจึงดึงเขามานั่งคร่อมตักผมเหมือนกันหน้านี้


“เป็นอะไร?”  ผมเห็นรักทำหน้าย่อคล้ายไม่ชอบใจอะไรสักอย่าง


“หนาวตูด”


คำตอบเล่นเอาผมหลุดฮาก๊ากออกมาแบบยั้งไม่ทัน


“ให้กูนั่งเหรอ?”  รักไม่ได้สนใจเสียงหัวเราะของผมนัก เขาดูกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเกิดต่อจากนี้มากกว่า


“อื้อ รักทำเอง จะได้รู้ว่าไหวไม่ไหว”  ผมเอาสองมือไปวางแหมะที่แก้มก้นเขา ลูบบ้าง ขยำบ้าง ตีเบาๆ บ้าง ก็หวังว่ามันจะช่วยคลายหนาวให้เขาได้บ้าง ฮ่ะๆๆ  “แต่ก่อนอื่นช่วยใส่ถุงให้เราก่อน”


รักเอาซองพลาสติกมาแกะอย่างเงอะงะ จะว่าไม่คุ้นกับการแกะซองแบบนี้ก็ไม่น่าใช่ ผมว่าเขาน่าจะเขินมากกว่า


“ใช้ปากช่วยใส่ได้ไหม?”  ผมเอานิ้วไปแตะปากเขาตอนที่เขาเอาถุงมาวางบนหัวน้องผม


“กูยังไม่แอดวานซ์ขนาดนั้น ..นี่มึงเคยทำบ่อย หรือว่าดูหนังโป๊บ่อยวะ ไอ้หื่น”


“เรียกซะเสียเลย”  ผมหัวเราะกับคำจิกกัดของอีกคน  “เริ่มเลยนะ”


จบคำผมก็ดึงรักให้นั่งคุกเข่า เลิกเสื้อของเขาไปไว้ใต้คาง แล้วเริ่มละเลงลิ้นกับหน้าอกทั้งสองข้างของเขา ผมบอกให้รักจับเสื้อตัวเองค้างเอาไว้ แล้วผมก็เลื่อนมือกลับมาเล่นกับด้านหลังของเขาเพื่อเตรียมความพร้อมบวกกับบิ๊วอารมณ์ไปในตัว ผมว่ารักคงจะชอบเล่นอะไรแบบนี้อยู่พอสมควร เพราะขนาดผมยังไม่ได้ไปแตะต้องข้างหน้าของเขาเลย น้องชายเขายังผงกหัวขึ้นมาชี้หน้าผมอีกรอบได้


“รัก.. นั่งนะครับ”  ผมกระซิบบอกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายน่าจะพร้อมสำหรับขั้นต่อไป  “ช้าๆ ..จับของเราให้ตรงกับของรักก่อนสิ...แบบนั้น...เก่งมาก...ค่อยๆ นะ...อย่างนั้นแหล่ะ...กดสะโพกลงมาอีกสิ”


ผมถึงกับซี้ดเมื่อร่างกายของรักค่อยๆ กลืนกินผมเข้าไปทีละนิด ทีละนิด อย่างช้าๆ จนต้องผมพยายามนับหนึ่งให้ถึงมากที่สุดเพื่อหักห้ามใจตัวเองไม่ให้กระแทกสวนขึ้นไปเพราะความอึดอัดอยากปลดปล่อยจนแทบคลั่งของเจ้าน้องชายนี่


“ต่าย..ไม่ไหว”  รักวางพักแขนบนบ่าผม หายใจหอบถี่ ใบหน้าเหยเก เหงื่อผุดพายเต็มขมับและหน้าผากทั้งที่อากาศออกจะหนาวเย็น


“ไม่ไหวก็ขึ้นก่อนนะ ไม่ต้องฝืน ค่อยๆ ทำไป”


“มึงไม่เป็นไรนะ?”  รักยังอุตส่าห์มีน้ำใจมาห่วงผมอีก ทำไมน่ารักขนาดนี้นะ ชักรู้สึกหวงขึ้นมาแล้วสิ


“ไม่เป็นไร ได้เห็นรักพยายามทำให้เราขนาดนี้ เราก็สุขจนลอยเกือบจะถึงสวรรค์อยู่แล้ว”


“ให้เป็นของขวัญปีใหม่”  คนพูดหอมแก้มผมเขินๆ


“จะจดจำไว้ตลอดชีวิตเลยครับ”  ผมหอมกลับไปบ้าง  “รักนะ ดาวร้ายของต่าย”


รักค่อยๆ กดสะโพกลงมาอีกครั้ง แล้วก็ถอนกลับไป กดลงมาอีก ถอนกลับไปอีก ทำซ้ำอยู่หลายครั้งจนสามารถรับผมเข้าไปจนหมดลำได้ในที่สุด


รักเริ่มขยับเป็นจังหวะแบบติดลม มือก็สัมผัสเร้าอารมณ์ข้างหน้าของตัวเองไปด้วย ตาหลับพริ้ม มีเลียริมฝีปากสลับกับส่งเสียงครางเป็นระยะ เชื่อเถอะว่าฉากสุดเซ็กซี่นี้จะติดอยู่ในหัวผมไปอีกนานแสนนานเลย


“อา.. รัก.. เราจะไม่ไหว..”  ผมร้องบอกคนที่ยังขยับไม่หยุดพร้อมกับจูบลงไปบนลูกกระเดือกนั้น


รักเหมือนรู้งาน เขาเร่งจังหวะให้ถี่กระชั้นขึ้น หนักหน่วงขึ้น แถมมีทั้งร่อนทั้งโยก โอยยย จะบ้าตาย รักกำลังจะทำให้ผมคลั่ง! ผมจำไม่ได้ว่ามีใครเคยทำให้ผมเป็นขนาดนี้มาก่อนหรือเปล่า ลืมไปหมดเลยด้วยซ้ำว่าเซ็กส์ที่ผ่านมาของผมเคยเป็นแบบไหน นึกไม่ออก เหมือนถูกลบไปจากความทรงจำ ตอนนี้ในหัวผมมีแค่รัก กับเซ็กส์ของรักคนเดียวเท่านั้น และสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดในตอนนี้ก็คือการปลดปล่อย!


“รัก!”  ผมคว้าสะโพกที่แสนจะร้ายกาจนั้นเอาไว้แน่น กดให้มันกลืนกินผมเข้าไปจนมิด แล้วปลดปล่อยสุดยอดปรารถนาออกมาให้สาแก่ใจ


“อืออ”  เสียงครางต่ำๆ ที่ข้างหูบอกให้รู้ว่าอีกคนก็ไปถึงจุดหมายปลายทางเดียวกัน


ผมจับสะโพกรักให้ขยับต่ออีกหน่อยเพื่อจะได้ปลดปล่อยออกมาให้หมดก๊อกกันไปเลย


“เลอะจนได้”  รักพูดปนหอบขณะก้มมองร่องรอยอารยธรรม(?)ที่ตัวเองปล่อยไว้บนเสื้อผม


“ไม่เป็นไร”  ผมพูดกึ่งหัวเราะแล้วยื่นหน้าไปจูบอีกฝ่ายอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะจ้องลึกซึ้งเข้าไปในดวงตาอีกคู่


“มีอะไร?”  รักแปลกใจ(และคงจะเขินด้วย)ที่ผมเอาแต่จ้องอย่างเดียว


“คิดว่าเราคงหลง รัก แล้วล่ะ”  ผมทำตาเชื่อม แต่รักกึ่งยิ้มกึ่งเบะปากใส่


“หลงกูหรือหลงอะไรกันแน่”


ผมหัวเราะที่ถูกรู้ทัน(แต่ก็ไม่ซะทั้งหมดนะ) 


“ก็รักเก่งอ่ะ”  ผมพูดด้วยเสียงออดอ้อน


“นะ”  รักตอบรับสั้นๆ เหมือนไม่ใส่ใจ แต่หูนี่แดงเถือกไปแล้ว เขาค่อยๆ ถอนสะโพกออกจากตัวผม แล้วลงไปนั่งข้างๆ ปล่อยให้ผมได้จัดการกับน้องชายตัวเอง


“อูยยยย”  การขยับตัวดูเหมือนจะทำให้รักเจ็บปวด เขาเลยนั่งพักพิงผมนิ่งๆ ก่อน


“เจ็บมากไหม?”  ผมหันไปถามด้วยความเป็นห่วง


“พอไหว.. แต่พรุ่งนี้ไม่อยากจะคิดเลย”  คนพูดเบ้หน้า ผมรู้สึกเห็นใจระคนรู้สึกผิด


“ขอโทษนะ”


“ช่างเหอะ ใช่ว่ามึงบังคับขืนใจกูซะเมื่อไหร่”


“แน่ะ จริงๆ แล้วติดใจอ่ะดิ”  ผมแกล้งแซว  “แถมให้อีกรอบก็ได้นะ แรงยังเหลือ”


“ไม่ต้องเลย ไอ้หื่น”  รักหัวเราะพลางเอาหัวโขกไหล่ผม ก่อนจะซบมันเอาไว้นิ่งๆ แบบนั้น


“หื่นอยู่คนเดียวซะเมื่อไหร่”  ผมแกล้งบ่น ก่อนจะหัวเราะชอบใจคลอไปกับเสียงของรัก



เก้า แปด เจ็ด หก..


เสียงนับถอยหลังจากคนในงานปาร์ตี้ดังขึ้น เราสองคนเหลือบมองกันและกัน ก่อนจะนับคลอไปพร้อมกับทุกคน


“ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง ศูนย์ แฮปปี้นิวเยียร์/สุขสันต์ปีใหม่”  เราหันมาอวยพรในจังหวะเดียวกัน


“ขอให้เป็นที่รักของแฟนตลอดไป”  ผมอวยพรให้รัก


“ขอให้เป้นที่รักของแฟนตลอดไป”  รักอวยพรให้ผม


“ลอกอ่ะ!”  ผมท้วง


“ฮ่ะๆๆๆ”  เราหัวเราะให้กัน ก่อนจะจูบกันต้อนรับปีใหม่


พร้อมกับดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้น



ปัง ปัง ปัง!



แฮปปี้ นิวเยียร์ ครับทุกคน





(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2014 16:49:53 โดย White Raven »

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
(ต่อ)



“ขับรถดีๆ นะ ถึงแล้วโทรบอกด้วย”


ผ่านมาจนถึงวันที่ 2 ของ พ.ศ.ใหม่ ถึงกำหนดที่ครอบครัวผมต้องเก็บกระเป๋ากลับกรุงเทพฯ รักกับพ่อของเขามาส่งพวกเราที่หน้าบ้านพัก ระหว่างที่พวกผู้ใหญ่คุยกัน รักก็เดินมาสั่งเสียผมซะน่ารักเชียว


“คร้าบ”  ผมอมยิ้มรับคำ


“อย่าลืม”  แน่ะ มีย้ำอีก


“ไม่ลืมครับผม”  ผมเห็นพี่น้องทยอยเดินไปที่รถแล้ว เลยต้องบอกลา  “งั้นกลับก่อนนะ เจอกันที่มหา’ลัย”


“เออ”


ครอบครัวรักจะกลับกันวันพรุ่งนี้ ส่วนครอบครัวเมโล่และไอกลับกันไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว


“ไปลูก”  แม่มาขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย ขณะบอกให้ผมออกรถก็หันไปโบกมือบ๊ายบายให้เจ้าของไร่ที่ยืนยิ้มอาลัยอาวรณ์ส่งลา ..ลูกเจ้าของไร่ก็ดูไม่ต่างกันเท่าไหร่ ฮ่ะๆๆ


“พ่อลูกคู่นั้นเขาเหมือนกันจังเลยเนอะ”  น้องกวางหัวเราะคิกคักตอนที่รถเคลื่อนตัวออกมาแล้ว


“แต่พี่ว่าไม่ค่อยเหมือนนะ พี่ภาคกับพี่ภูมิดูเหมือนพ่อเขามากกว่าน้องชายอีก”  พี่หงษ์ออกความเห็นแบบพาซื่อ


“เหมือนกันสิ”  น้องแย้งพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาทางผมผ่านกระจกมองหลัง  “เหมือนตรงที่หลงคนบ้านนี้ทั้งคู่ไงล่ะ คิกคิก”


“คนบ้านนี้..”  พี่หงษ์ดูเหมือนยังจับคีย์เวิร์ดไม่ได้ ส่วนแม่หันไปบิดขาน้องแล้ว 


“พูดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะเรา”  แม่ดุ แต่ไม่ได้ซีเรียสอะไรนัก


“แม่อ่ะ!”  น้องทำหน้ายู่ไม่พอใจ แต่แป๊บเดียวก็กลับมาเจื้อยแจ้วต่อจนถึงกรุงเทพฯ...





“รถใครมาจอดหน้าบ้านเราอ่ะแม่?” 


พอขับรถเข้ามาในซอยก็เห็นรถสปอร์ตหรูคันหนึ่งจอดขวางหน้าประตูบ้านเราอยู่แต่ไกลเลย


“แม่ก็เพิ่งมาถึงพร้อมน้องกวางเนี่ย”  แม่พูดยิ้มๆ ทำเอาน้องควับไปสองวงซ้อน


แต่ผมรู้ เพราะผมจำรถคันนี้ได้ฝังใจ และมันไม่ใส่สิ่งที่ผมอยากจะเห็นเป็นอันดับแรกๆ ในปีใหม่นี้ด้วย


“เดี๋ยวพี่ลงไปบอกให้เขาขยับรถหนีให้”


“เดี๋ยวต่ายไปเอง”  ผมหันไปห้ามพี่สาวแล้วลงจากรถมาเอง


พอเดินมาใกล้รถเจ้าปัญหาก็เห็นว่าคนขับกำลังนั่งเอนหลังอยู่ในรถนิ่ง ไม่รู้หลับหรืออะไร ผมเลยเคาะกระจกรถเพื่อเรียกความสนใจ พอคนข้างในหันมาเห็นผม เขาก็เลื่อนกระจกไฟฟาลง


“Where'd you go?”  คนถามชะโงกหน้าออกมามองรถของครอบครัวผมที่ถอดจ่อท้ายอยู่ไม่ห่าง


“มาทำอะไรที่นี่?”  ผมถามสวนไป


“I asked you first.”


“Yeah, but I asked you first after you asked me first, so you must answer me first.”  ผมพูดหน้าตาเฉย


“Kidding me?”  คนถามยิ้มมุมปาก พ่นลมออกทางจมูกแบบขำๆ ที่เห็นผมเป็นฝ่ายเริ่มกวนเขาก่อน


ผมหัวเราะลงคอ ก็นะ ไม่อยากเริ่มต้นปีด้วยความหงุดหงิดหรอก แค่การปรากฏตัวของคนที่ไม่ได้อยากเจอแค่คนเดียวเลยไม่เห็นต้องเก็บมาเป็นอารมณ์เลย


“I miss you.”  คนพูดเว้นวรรคไปเล็กน้อยเหมือนรอดูปฏิกิยาผมก่อน  “อยากให้ไอตอบแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ?”


“ช่วยขยับรถนายให้พ้นประตูหน่อยสิ รถเราเข้าบ้านไม่ได้”  ผมส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนเดินไปเปิดประตูบ้าน 


เจ้าของรถสปอร์ตยอมเคลื่อนรถหลีกทางให้แม่ผมขับรถเข้าไปจอดในบ้าน ผมเดินไปไขกุญแจบ้าน เสร็จแล้วก็ไปขนกระเป๋าสัมภาระของทุกคนเข้าบ้านโดยไม่สนใจหมอนั่นอีก ปล่อยให้หน้าที่รับแขกที่ไม่ได้เชิญเป็นของแม่ไป


“อ้าว แกรี่? ไม่เจอกันนานเลย กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”


“เดือนก่อนโน้น.. ไอผ่านมาแถวนี้เลยแวะเข้ามาทักทายปีใหม่ นี่ไปเที่ยวกันมาเหรอ?”


ทักทายปีใหม่เนี่ยนะ? ..ผมนึกขำกับเหตุผลนั่นในใจ


“จ้ะ ไปไร่องุ่นแถววังน้ำเขียวน่ะ เข้ามาคุยกันในบ้านสิ”


ผมขนกระเป๋าทั้งหมดขึ้นมาไว้ข้างบน แล้วก็เดินเข้าห้องตัวเองเลย ทิ้งตัวนอนแผ่บนที่นอนได้สักพักก็นึกได้ว่าต้องโทรรายงานรักว่ามาถึงบ้านแล้ว ทางนั้นจะได้ไม่เป็นห่วง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทันได้กดโทรออก ก็มีข้อความแทรกเข้ามาก่อน


‘ถึงยัง?’  จากคนที่ผมกำลังคิดจะโทรไปหาเลย


ผมยิ้มกว้าง แล้วกดส่งสติกเกอร์รูปหัวใจกลับไป ก่อนจะกดโทรออก และทางนั้นก็กดรับทันที


“ถึงแล้วครับ ที่รัก”  หยอดนำไปเลยผม ฮ่ะๆๆ คิดแล้วก็อยากเห็นหน้าคนฟัง


“เออ ดี”  ตอบมาสั้นๆ แต่คิดว่าคงจะกำลังยิ้มอยู่แน่ๆ


“แล้วรักล่ะ ทำอะไรอยู่?” 


“ช่วยอาตรวจบัญชีรีสอร์ท”


“หือ รู้เรื่องบัญชีด้วย เก่งจัง”


“คนมันฉลาดก็เงี้ย”


“ไม่ค่อยเลย”  ผมหัวเราะ ทางนั้นก็หัวเราะเหมือนกัน


“งั้นกูทำงานต่อแล้ว”


“ครับผม ตั้งใจทำงานนะ”


“อือ”


“บายครับ”


“บาย”


ผมกดวางสายจังหวะเดียวกับที่มีคนเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี


“เข้าห้องคนอื่นทำไมไม่เคาะประตูก่อน?”  ผมตำหนิพลางดีดตัวลุกขึ้นนั่ง


“Are you a girl?”  ทางนั้นถามกลับมายิ้มๆ


“จะห้องใครก็ควรมีมารยาททั้งนั้นแหล่ะ”  ผมลุกเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ตั้งใจจะหาเสื้อที่มันบางกว่าที่ใส่อยู่นี้มาเปลี่ยนสักหน่อย ที่วังน้ำเขียวมันหนาว แต่พอกลับถึงบ้านแล้วร้อนเลย  “แล้วเข้ามานี่มีธุระอะไร?”


“ก็แค่มาเยี่ยมชม”  คนพูดเหลียวมองไปรอบห้องผม


“ขอร้องเลย ที่นี่ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชมหรอกนะ”  ผมได้เสื้อตัวใหม่แล้วก็เลยถอดเสื้อตัวเก่าออก


“ไอก็ไม่ใช่คนทั่วไปสักหน่อย..” 


ผมรู้สึกว่าเสียงมันอยู่ใกล้หูเกินไป เลยหันกลับไปมอง แล้วก็ต้องผงะถอยหลังชนตู้เพราะอีกฝ่ายมายืนเสียชิดเลย   


“Kiss marks?” 


ก่อนที่ผมจะได้ต่อว่า หมอนั่นก็สังเกตเห็นรอยจ้ำประปรายตามไหล่และอกผมที่รักทำเอาไว้ตั้งแต่คืนที่ผมไปค้างที่บ้านหลังน้อยของเขา แต่มันก็จางลงไปเยอะแล้วนะ


“Who done it?”


“ถอยไปน่ะ”  ผมไม่สนใจคำถามนั่น แต่ใช้แขนดันอีกฝ่ายให้พ้นทางเพื่อที่จะได้ออกไปจากตรงนี้ รู้สึกไม่ค่อยดีที่ต้องเผชิญหน้ากับแกรี่ในที่แคบ


แต่หมอนั่นกลับใช้มือยันประตูตู้ กันทางออกของผมไว้ พอผมจะหนีไปอีกทาง มันก็ใช้มือมือมากันไว้อีก ตอนนี้ผมเลยถูกสองแขนนั่นกักขังไว้โดยสิ้นเชิง


“แกรี่..”  ผมใช้น้ำเสียงอ่อนใจ ยังไม่ทันเอ่ยจบ อีกฝ่ายก็กดเสียงต่ำพูดแทรก


“Answer me! …who?”


ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องตอบ จึงถอนหายใจหนักๆ บอกให้รู้ว่ารำคาญแล้วตั้งใจจะผลักอีกคนให้พ้นทาง


“ไม่เกี่ยวกับ.. โอ๊ยย!”  ผมถึงกับเสียงหลงเมื่อถูกกัดเข้าที่บ่าจุดใกล้กับคอแบบเกือบจมเขี้ยว ก่อนจะรีบผลักอกคนทำออกเต็มแรง


“หึ”  แกรี่เซถอยหลังไปหลายก้าว แต่มุมปากกลับยกยิ้มพึงพอใจที่ดูกวนประสาทสิ้นดี!


“เป็นหมาหรือไง?”  ผมถามเคืองๆ มือกุมไหล่ข้างที่ถูกกัดเอาไว้ แต่ทางนั้นนอกจากจะไม่ตอบโต้แล้วยังยิ้มเหมือนขบขันอะไรนักหนา พาลพาให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่


“ไอว่า.. ไอกลับล่ะ”  หมอนั่นพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี แล้วก็เดินออกจากห้องไป


ทิ้งให้ผมยืนงงว่าต้องลงมันเข้ามาทำบ้าอะไรกันแน่? ..แต่พอนึกได้ว่าคิดไปก็เท่านั้น อารมณ์เสียเปล่าๆ เลยเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อส่องกระจกดูร่องรอยที่ถูกกัด


“บ้าเอ๊ย!”  ผมสบถอย่างหงุดหงิด หมอนั่นเล่นกัดกันซะเลือดซึมเลย เห็นเป็นรอยฟันขึ้นชัดเจนด้วย แถมยังกัดทับรอยที่รักทำเอาไว้อีก ..บ้าชัดๆ ไม่เข้าใจมันเลยว่าคิดอะไรอยู่ในหัว


ผมสำรวจใบหน้าตัวเองเล็กน้อย มันไม่เหลือร่องรอยฟกช้ำจากหมัดของรักแล้ว รวมทั้งรอยช้ำที่ท้องจากหมัดของเมโล่ด้วย ทั้งนี้คงต้องขอบคุณยาสมุนไพรที่ญาติของรักเอามาให้ทา แค่ 2 วันรอยช้ำก็หายสนิท ของเขาดีจริงๆ แต่พอเลื่อนสายตาไปที่รอยกัดของแกรี่ก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผมวักน้ำลูบรอยแผล คิดว่าไปหาแอลกอฮอล์มาเช็ดอีกทีท่าจะดี เลยรีบใส่เสื้อแล้วเดินลงมาข้างล่าง


“แกรี่เขากลับไปแล้วแน่ะลูก”  แม่บอกทั้งที่ผมไม่ได้อยากจะรู้สักนิด


“ดีแล้วครับ”  ผมพึมพำตอนที่เดินผ่านแม่ไปหาตู้ยา


“ฮึ ว่าไงนะ?”


“เปล่าครับ”  ผมเปิดตู้ยาหาขวดแอลกอฮอล์ล้างแผล แต่ไม่เห็นมีเลยแฮะ


“เห็นว่าคุณตาเขาเพิ่งเสีย เขาเลยกลับมาช่วยคุณแม่ทำงาน.. เป็นเด็กเอาการเอางานดีเหมือนกันนะ”  แม่พูดไปเรื่อยระหว่างรื้อของสดของแห้งที่ซื้อมาจากโคราชจัดเก็บเข้าที่


ผมชะงักมือที่กำลังค้นของเพราะข้อมูลที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน  “เหรอครับ..”


ผมเคยรู้จากปารีสว่าครอบครัวของแกรี่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสถานเริงรมย์ โดยเฉพาะตาของแกรี่นี่เรียกได้ว่าเป็นระดับเจ้าพ่อของธุรกิจชนิดนี้เลยก็ว่าได้ ได้ยินว่าเขาเป็นฝรั่งที่มาลงทุนในไทย มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็เคยมีพ่อของผมรวมอยู่ด้วย แล้วนี่..เขาเสียชีวิตแล้วเหรอ? 


เอ้อ ที่ต้องรู้จากปารีสก็เพราะผมกับแกรี่ไม่เคยคุยกันแบบเป็นกิจลักษณะเลยสักครั้ง(แหงล่ะ หมอนั่นถ้าไม่โผล่มาแกล้งผม ก็มากวนประสาทผม เราไม่เคยมีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันหรอก) แต่ผมสนิทกับปารีสที่เคยคลั้งไคล้แกรี่อย่างหนัก ผมเลยได้ยินเรื่องของหมอนั่นมาพอสมควร ..แม้จะไม่ได้อยากได้ยินเลยก็ตาม


“อ้าว เขาไม่ได้บอกพี่ต่ายเหรอ?”  แม่แปลกใจ ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ


“แล้วตาเขาเป็นอะไรเสียเหรอครับ?”


“หลายโรคน่ะ เห็นว่าป่วยมาพักใหญ่แล้วก่อนจะเสีย”


“อ่อ..”  ผมพยักหน้า แล้วกลับมามองตู้ยานิ่ง  “แม่ครับ แอลกอฮอล์ล้างแผลหมดแล้วเหรอ?”


“ตายจริง เพิ่งนึกขึ้นได้ หมดตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้วล่ะ ว่าจะซื้อทีไรก็ลืมทุกที”  แม่หันมามองสำรวจผม  “พี่ต่ายเป็นแผลเหรอ?”


“เอ้อ.. ก็นิดหน่อยครับ ต่ายซุ่มซ่ามเอง”  ผมหยุดคิดเล็กน้อย  “งั้นเดี๋ยวต่ายออกไปซื้อที่ร้านยาหน้าปากซอย.. แม่จะเอาอะไรไหมครับ?”


“งั้นฝากเอาขยะไปทิ้งที”  แม่ชี้ไปทางถังขยะ


ผมเดินไปมัดปากถุงขยะในถัง แล้วหิ้วออกมาจากครัว เห็นพี่สาวกับน้องสาวกำลังนั่งเมาท์นั่งกินเค้กช็อคโกแลตปอนด์ใหญ่อยู่หน้าทีวีอย่างสนุก


“อ้าว ต่าย มากินเค้กด้วยกินสิ”


“พี่แกรี่เขาเอามาฝากอ่ะ” 


“ตามสบาย ไม่อยากอ้วนเป็นเพื่อนใครหรอก”


“หยาบคาย!”  สองสาวแหวพร้อมกัน ส่วนผมหัวเราะชอบใจ


“จะเอาไรเปล่า? จะออกไปหน้าปากซอยน่ะ”


ทั้งคู่ปฏิเสธ ผมเลยเดินออกจากบ้านมา ทิ้งขยะเสร็จก็กลับมาเอาจักรยานข้างบ้านปั่นออกไป..





ซื้อแอลกอฮอล์ล้างแผลกับพลาสเตอร์ยาแบบแผ่นใหญ่ที่ร้านขายยาเสร็จ ก็เดินเข้าร้านเซเว่นฯที่อยู่ข้างกันเพื่อหาใบมีดโกนโกนหนวดที่จำได้ว่ามีเหลืออยู่ที่บ้านแค่ใบเดียว พอได้ของที่ต้องการก็จะเดินไปจ่ายเงิน ระหว่างเห็นเด็กผู้ชายคุ้นหน้าคุ้นตานั่งขมวดคิ้วอยู่ตรงชั้นขายพวกลูกอมกับขนมแบบเด็กๆ


“ปูเป้”  ผมเข้าไปสะกิดแล้วยิ้มกว้างให้


เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัว ก่อนรีบยืนขึ้น  “ต่าย! กลับมาเมื่อไหร่?”


“เมื่อกี๊เอง ปูล่ะ ไปเที่ยวปรายสนุกไหม?”


“ไม่เห็นสนุกเลย มีแต่ถ่ายรูปๆ ..อ้อ แต่ปลากับแม่คงสนุกอยู่หรอก”  ปูเป้บ่นกระปอดกระปอด  “รู้งี้ชวนพ่อไปวังน้ำเขียวกับต่ายก็ดี.. แล้วที่ไร่องุ่นสนุกไหม?”


“สนุกสิ”  ผมพยักหน้า แล้วหันไปมองที่ชั้นวางของ  “แล้วนี่กำลังซื้ออะไรเหรอ? ลูกอม? ขนม?”


“ไม่ซื้อหรอก ขนมเด็กๆ”  แล้วคนพูดก็เดินออกไปจากตรงนั้นเฉยเลย  “ไปรอข้างนอกนะ”


ผมมองตามแผ่นหลังเล็กๆ นั่นไปแบบงงๆ แล้วหันกลับมามองที่ชั้นขนม ก้มลงไปหยิบขนมที่แน่ใจว่าปูเป้นั่งดูอยู่เมื่อขึ้นมาพลิกดู มันเป็นเยลลี่คลุกน้ำตาลแผ่นยาวๆ ที่เขียนบอกว่า ‘รสสตรอว์เบอร์รี่’ ผมตัดสินใจเอามันไปจ่ายเงินด้วย..




“เอาไหม?”  ผมยื่นขนมเจลลี่คลุกน้ำตาลแบ่งให้คนที่ยืนรออยู่หน้าร้านครึ่งหนึ่ง


อีกครึ่งที่เหลือก็เอามากัดกินเอง มันเหนียวๆ หนึบๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ แต่ก็อร่อยดี ผมหันไปยิ้มให้คนที่ยืนมองผมคล้ายอึ้งเล็กน้อย


“อร่อยดีนะ”  ผมพูดแล้วกินเข้าไปอีกคำ ปูเป้จึงยอมรับส่วนที่ผมแบ่งให้ไปกินบ้าง


“ต่ายชอบเหรอ?”  คนถามแหงนมองหน้าผม


“อือฮึ ผู้ใหญ่ก็ชอบอะไรแบบนี้เหมือนกันนะ ไม่เฉพาะกับเด็กหรอก”  ผมยักคิ้ว แล้วดันหลังอีกคนไปทางจักรยานที่จอดไว้  “ป่ะ พี่เอาจักรยานมา”


ผมพ่วงปูเป้กลับมาจนเกือบจะถึงบ้าน แต่แลเห็นพี่หงษ์ยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่หน้าบ้านโดยมีประตูรั้วกั้นตรงกลางซะก่อน ก็เลยชะลอรถแล้วจอดแอบข้างทางเพื่อสังเกตการอยู่ห่างๆ


“นั่นใช่แฟนพี่หงษ์หรือเปล่า?”  คนที่ซ้อนข้างหลังถาม ผมตอบอือออในลำคอ


นั่นใช่ ‘พี่แดน’ แฟนตัวร้ายของพี่สาวผมจริงๆ นั่นล่ะ ผมขมวดคิ้วดูอยู่สักพักก็เห็นพี่แดนเตะประตูรั้วดังโครม แล้วกลับไปขึ้นรถตัวเองขับออกไปด้วยท่าทางหัวเสียพอดู ..เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?


ปกติถ้าทะเลาะกัน แล้วพี่หงษ์หลบมาที่บ้านนี้ ไม่เกิน 1 คืน พี่แดนจะต้องมาง้อมาตามกลับ แล้วพี่หงษ์ก็ไม่เคยใจแข็งได้สักครั้ง ไม่ว่าก่อนมาจะทะเลาะกันรุนแรงยังไง แต่ก็เห็นยอมใจอ่อนตามเขากลับไปทุกที แต่ครั้งนี้มาแปลกแฮะ นอกจากจะไปค้างอ้างแรมที่อื่นมาตั้ง 3 คืนแล้ว วันนี้ก็ยังไม่ยอมตามแฟนกลับไปอีก ..แปลกจริงๆ



“เดี๋ยวเอาเห็ดมาให้นะ”  ผมบอกตอนส่งปูเป้ลงหน้าบ้านของเขา


“เห็ดเหรอ?”


“ใช่ ซื้อเห็ดมาเยอะแยะเลย”  ผมบอกกลั้วหัวเราะ อีกฝ่ายก็หัวเราะแล้วเข้าบ้านไป


ผมจูงจักรยานมาบ้านตัวเอง กำลังจะเลื่อนประตูเปิด ก็หันไปเห็นเวสป้าคันจ้อยกับมนุษย์แมวยักษ์ขับมาจอดเทียบพอดี..


วันนี้มันวันอะไรเนี่ย? รู้สึกว่าหัวกระไดบ้านไม่แห้งเลยจริงๆ


“ว่าไง เมโล่?”  ผมทักคนที่กำลังถอดหมวกกันน็อคหูแมว ข้างหลังมีกระเป๋าเป้พิมพ์ลายเส้นรูปหน้าแมวสีขาวดำ



“เค้าหนีออกจากบ้าน”



“ห๊ะ?”



“ขออยู่ที่นี่สักพักนะ”



เฮ้ย?!!










TBC.

เมโหล่ววววววว  :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2014 10:12:48 โดย White Raven »

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
คือ...ตื่นมาจะไปทำงานไง
เจอฉากนี้เข้าไปเลือดพุ่งนะ  :m25:
นิสัยอะไรของรักที่เคยขัดหูขัดตา ลืมหมดเลยนะ
รักดูไม่น่าจะกล้ารุกขนาดนี้ แล้วนี่...งืออออออ  :hao7:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น่ารักอ่าา รัก ที่อยู่ๆก็กลายเป็นมีความอดทน ไม่ขี้โวยวาย น่ารักมากเลยยย

ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
รักชาตินัลลั๊คคค :-[

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อุต๊ะ...ตาสว่างตาแจ้งไปเลย  :pighaun:
อิชายแกห้ามโลเลเด็ดขาดไม่งั้นชั้นเสียบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด