[Ultimate Love] ยากนัก... รักนี้ ♥♥♥ ตอนส่งท้าย up!! 011114/P.44 จาก ss1 สู่ ss2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณปลื้มหนุ่มคนไหนมากที่สุด? (เลือกได้ 2 ข้อ)

รักชาติ  (คุณหนูผู้ไล่ตามความรัก)
101 (21.8%)
ไอ  (หนุ่มเฟรนด์ลี่ที่เดาใจได้ยาก)
41 (8.8%)
เมโล่  (แมวยักษ์จากต่างดาว)
109 (23.5%)
ปูเป้  (โชตะวัยประถมฯ)
5 (1.1%)
เฮียภาค  (กัปตันสุดเข้ม)
32 (6.9%)
เฮียภูมิ  (ผู้กองจอมกะล่อน)
14 (3%)
แกรี่  (แบดบอย+ค้ำคอร์)
32 (6.9%)
ชายต่าย  (ผู้เกิดมามีเสน่ห์โดยธรรมชาติ 555)
130 (28%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 273

ผู้เขียน หัวข้อ: [Ultimate Love] ยากนัก... รักนี้ ♥♥♥ ตอนส่งท้าย up!! 011114/P.44 จาก ss1 สู่ ss2  (อ่าน 279350 ครั้ง)

ออฟไลน์ posh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชายต่ายกลับมาเร็วๆ นะ

ออฟไลน์ LittlePrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

“แล้วมึงคิดแบบไหน?! พวกมึงคิดอะไรกันอยู่? ห๊ะ ปากบอกเพื่อนๆๆๆ แต่เพื่อนเหี้ยอะไรวิ่งโร่มาหากันทันทีที่รู้ว่าเจ็บ? เพื่อนเหี้ยอะไรชวนกันออกไปกินข้าวดูหนังลับหลังแฟน? เพื่อนเหี้ยอะไรบอกให้ทิ้งแฟนแล้วไปหามัน? ไหนบอกกูหน่อยว่ามีเพื่อนโลกไหนเขาทำกันแบบนี้บ้าง!?”

“กูเกลียดคำว่า ‘เพื่อน’ ของมึงมาก”
ชอบคำพูดและอารมณ์ของรักตอนนี้มาก มันแบบ...สะใจ
ส่วนตอนจบนี่แบบ เสร็จแน่ชายต่าย
คนที่เชียร์ให้ต่ายโดนกดท่าทางจะสมหวังในเร็ววัน

ปล. ก็ยังคงเชียร์ไออยู่ แม้จะทำตัวเหมือนเชียร์รัก
เราเป็นพวกรักแรกฝังใจ เริ่มมาชายต่ายชอบไอ มันก็ต้องได้กับไอ(สิวะ)

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
นานแล้วน้าาาาาาาาา

ออฟไลน์ puengkiss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชายต่ายหายไปนานมากเบยย กลับมาเถอะจะรุกหรือรับเค้าก้อรักอ่ะ :z13: :heaven

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
คิดถึงชายต่าย หายไปทำใจนานแล้วเน้อ

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
ตามอ่านทันจนได้ อิอิ

อ่านแรกๆ ก้องงนะ ว่าใครจะบนจะล่าง ถึงตอนนี้ก้อยังงงๆอยู่ดี อิอิ

พอมาอ่านคำขอของรัก 555 เข้าใจเลยว่าพี่ต่ายเราต้องโดนแน่


 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:


ชอบทั้งพี่ต่าย รัก ไอ เมโล่(แมวเหมียว) ขอ 4P เลยล่ะกัน  :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
ยากนัก... รักนี้ ♥



ตอนที่ 26
 




“อื้อ”


ผมตอบพร้อมยิ้มทั้งน้ำตา “..ได้สิ”


รักดันผมให้เอนหลังหนุนหมอนอิงตามเดิม เขาไม่ได้มีท่าทีพอใจหรืออะไรกับคำตอบของผมทั้งสิ้น แววตาของเขาช่างยากต่อการทำความเข้าใจของผมในตอนนี้ รักที่ผมคิดว่าตอลดว่าเป็นคนอ่านง่ายดูแตกต่างไปสิ้นเชิง จนผมนึกกลัวใจ เลยกำเสื้อนักศึกษาของเขาเอาไว้แน่นเหมือนเด็กเล็กๆ ที่กลัวว่าจะถูกทิ้ง เขาใช้นิ้วโป้งช่วยเกลี่ยน้ำตาออกจากหางตาผมข้างหนึ่ง ก่อนโน้มตัวลงมาเลียคราบน้ำตาที่ขมับอีกข้างหนึ่ง


“กูสิต้องร้องไห้..”  เขากระซิบบอกข้างหู


“รัก”  ผมยกมือโอบหลังอีกฝ่ายไว้แน่น รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา ถ้ารักจะให้โอกาสผมอีกสักครั้ง


ขอแค่อีกสักครั้ง..


“ขอโท..”  เสียงของผมถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เพราะปากที่ถูกปิดด้วยปากของรัก เขาแกะแขนผมออกแล้วกดมันไว้ข้างตัวผม ขณะที่ปากก็คอยป้อนจูบดื่มด่ำสลับกับจูบซับอ้อยอิ่ง ริมฝีปากเราแทบไม่ได้แยกออกจากกันเป็นหลายนาที ก่อนที่รักจะเริ่มย้ายจมูกกับปากของเขาลงไปแถวคอผมบ้าง


ลมหายใจของเขาเริ่มปั่นป่วน ..เช่นเดียวกับลมหายใจของผม


“อืออ..รัก”  มือที่ยกแตะหูเขาถูกกดลงข้างตัวอีกครั้ง ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนนิ่งให้เขาจูบอย่างเดียว


รักไล่ปลดกระดุมเสื้อผมจากบนลงล่าง พร้อมกับปากที่พรมจูบตามลงไปเรื่อยอย่างอ่อนโยน จนกระทั่งกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออก รักชะงักไป เขายันตัวขึ้น จ้องมองรอยช้ำที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงอย่างน่ากลัว..


“รัก?” ผมจับมือที่เริ่มกลัดกระดุมเสื้อผมให้เข้าที่เหมือนเดิม


รักเลื่อนสายตาขึ้นมามองที่หน้าผม แววตาของเขาดูวูบไหวต่างจากเมื่อครู่ เขาแกะมือผมออกจากข้อมือเขา แล้วฟุบลงมากอดผมไว้โดยไม่พูดอะไร ซุกหน้านิ่งอยู่ที่ซอกคอของผม


“รัก..”  ผมเรียกเจ้าของชื่ออีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าบ้านทั้งหลังเงียบเกินไป ..นานเกินไป


อีกสักพักกว่ารักจะเริ่มขยับตัวอีกครั้ง ผมรู้สึกถึงริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่กดลงข้างลำคอ ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดผิวเนื้อ เสียงเต้นของหัวใจจากอกที่แนบชิดกัน ทั้งหมดนั่นทำให้ผมเริ่มยิ้มได้


ผมยกสองแขนขึ้นหวังโอบกอดแผ่นหลังของอีกฝ่าย แต่ก็ชะงักค้างเพียงอากาศเพราะเสียงที่กระซิบบอกข้างหู


“เลิกกันเถอะ” 





ผมได้ยินเสียงกริ่ง..


เสียงกริ่งหน้าบ้านดังรัวๆ อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...รู้แค่ผมเพิ่งได้ยิน แต่ก็ไม่มีความคิดว่าอยากจะลุกออกจากโซฟาไปที่หน้าประตู ผมเพิ่งสังเกตว่ารอบตัวนั้นมืดสนิท...บ้านทั้งหลังมืดสนิท แต่ก็พอจะมองเห็นเงาของสิ่งต่างๆ จากไฟถนนที่ส่องผ่านกระจกหน้าต่างที่มีผ้าม่านสีอ่อนปิดกั้นเข้ามา


เวลาเท่าไหร่...ผมไม่รู้ 


ต้องทำอะไรต่อไป...ผมยังนึกไม่ออก


ผมปล่อยใจล่องลอยห่างจากร่างกายไปอีกครั้ง ก่อนที่เสียงของใครสักคนจะเรียกมันกลับมา


“ต่าย! ต่าย! ต่ายครับ!”


ผมต้องใช้เวลาพักหนึ่ง.. ต้องฟังซ้ำๆ อีกพักหนึ่ง กว่าจะนึกออกว่าเสียงที่ตะโกนมาจากด้านนอกนั้นเป็นของใคร


“ต่าย! ต่ายอยู่ในบ้านใช่ไหมครับ? ตอบหน่อยสิ!”  คราวนี้มีเสียงทุบประตูหน้าบ้านร่วมด้วย


ผมเอาขาลงจากโซฟา ยันตัวลุกขึ้นนั่ง โงนเงนอยู่อีกครู่ก่อนจะตั้งหลักได้ จึงเดินออกไปที่ประตู


“ปูเป้! อย่าไปตะโกนแบบนั้นสิลูก มันรบกวนเพื่อนบ้านนะ”


“แต่ต่าย..”


“พี่ต่ายเขาคงไม่ได้อยู่บ้านหรอกมั้ง ปิดไฟมืดขนาดนี้...อ้าว พี่ต่าย?”


ผมโผล่หน้าออกไปจังหวะที่คนหน้าบ้านเงื้อมือขึ้นจะทุบประบ้านผมพอดี ทางนั้นถึงกับผงะพร้อมถอยหลังกลับไปโดยอัตโนมัติ ผมเลือกหันไปทักทาย ‘น้าปอ’ แม่ของลูกปลาและปูเป้ที่ยืนชะโงกหน้าข้ามรั้วบ้านมาก่อน


“นึกว่าไม่อยู่บ้านซะอีก”  น้าปอว่า


“พอดีต่ายเผลอหลับไปน่ะ เลยไม่ได้เปิดไฟ”  ผมยกมือลูบหน้าลูบตา


“อยู่บ้านปลอดภัยไม่เป็นไรก็ดีแล้วจ้ะ เจ้าตัวยุ่งดูเป็นห่วงพี่ต่ายมากเชียว”  คนพูดบุ้ยใบ้มาทางเจ้าของชื่อ  “วันนี้คุณแม่ทำโอทีเหรอ?”


“ครับ กวางก็ยังไม่กลับมาจากที่เรียนพิเศษ”  ผมยกนาฬิกาขึ้นดู แอบโล่งใจที่ยังไม่ถึงสองทุ่ม น้องยังไม่เลิกเรียน และนึกขอบคุณปูเป้ที่ช่วยให้ผมระลึกได้ว่าผมยังมีคนที่ต้องดูแลอยู่อีก


“ลูกปลาก็ยังไม่กลับจากคณะเหมือนกัน เห็นบอกว่าต้องเตรียมงานโอเพ่นเฮาส์อะไรนี่ล่ะ เอ้อ นี่คงยังไม่ได้กินข้าวเย็นล่ะสิ? มากินที่บ้านนี้ก็ได้นะ”


ผมนึกถึงกับข้าวที่รักซื้อมาเมื่อตอนเย็น.. ตอนนี้มันก็ยังวางอยู่ที่เดิม


“พอดีมีกับข้าวแล้วครับ”


“งั้นเหรอ งั้นไว้วันหลังก็ได้จ้ะ มาได้ตลอดนะ ลุงวุฒิเขาก็บ่นๆ ว่าพักนี้ไม่ค่อยได้คุยกับพี่ต่ายเลย” 


“ครับ”  ผมรับคำ


“แล้วเราน่ะ..”  น้าปอหันไปทางลูกชายคนเล็ก  “เข้าบ้านได้แล้ว”


“เดี๋ยวไป”  ปูเป้บอกหน้าง้ำงอกับแม่ที่ผละออกจากรั้วไป 


ผมหันกลับมามองคนตรงหน้าหลังเห็นน้าปอกลับเข้าบ้านไปเรียบร้อยแล้ว


“แล้ว..”  ผมย่อตัวนั่งลงบนพื้นหน้าประตู เพื่อให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับคู่สนทนา  “ปูมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ?”


“ผมแค่ห่วงว่าต่ายจะเป็นอะไรหรือเปล่า..”  คนตอบตอบไม่เต็มเสียงนัก


“หือ?”


“ผมเห็นบ้านต่ายมืด แต่..แต่ตอนที่ผมกลับมาจากโรงเรียนบังเอิญสวนกับเพื่อนต่ายที่เพิ่งออกไปพอดี เลยคิดว่าต่ายน่าจะอยู่บ้าน ..แต่มืดแล้วก็ไม่เห็นเปิดไฟ ผมเลยเป็นห่วง...ว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่า?”


“แค่เผลอหลับไปน่ะ..”  ผมพยักเข้าใจ แล้วยิ้มออกมา แต่มันคงจะเป็นยิ้มที่ยืดชืดทีเดียวล่ะ แถมยังดูเหมือนมันจะไม่รอดพ้นสายตาของเด็กอย่างปูเป้ไปได้อีกต่างหาก


“ต่ายไม่เป็นอะไรนะ?”  คนถามขยับเข้ามา ด้วยแสงสว่างที่มีจำกัดทำให้เขาต้องขยับเข้ามาใกล้ๆ จนผมนึกกลัวว่าเขาจะมองเห็นอะไรที่มากกกว่ารอยยิ้มฝืนๆ เห็นอะไรที่อยู่ข้างในใจผม ..ฟุ้งซ่านไปใหญ่ล่ะ


“ไม่เป็นอะไร..”  ผมส่ายหน้าพลางนึกขำตัวเอง  “ก็แค่อกหัก


ไม่รู้ทำไมผมถึงพูดออกไปแบบนั้น หรือบางทีอาจจะแค่อยากพูดให้ใครสักคนฟังก็ได้มั้ง และปฏิกิริยาตกใจที่อีกฝ่ายแสดงออกมาตรงๆ ใสๆ สมวัยก็ทำให้ผมยิ้มได้โดยไม่ต้องฝืน ผมนั่งกอดเข่าเท้าคางมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาของปูเป้อย่างเย็นใจ ผมไม่รู้ว่าความเสียใจของผมหายไปไหน รู้แค่มันหายไปพร้อมๆ กับน้ำตาตั้งแต่ที่ได้ยินคำคำนั้นแล้ว


“เลิกกันเถอะ”


มันดังก้องอยู่ในหัวของผมจนกระทั่งรักออกจากบ้านไป และยังดังอยู่หลังจากนั้นอีกพักใหญ่จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะดังอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตของผมเลยหรือเปล่า ..แต่ก็เปล่า


ผมก็แค่คิดไปเอง พอมาถึงตอนนี้ผมแทบนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าน้ำเสียงที่กระซิบบอกคำเลิกลานั้นที่ข้างหูผมนั้นเป็นน้ำเสียงแบบไหน? มันเศร้า? มันแหบพร่า? หรือว่ามันไร้ความรู้สึก? อย่างไหนกันแน่นะ?


ทำไมผมถึงนึกไม่ออก..


ผมนึกแปลกใจตัวเองที่สามารถลืมเลือนความรู้สึกมากมายเหล่านั้นได้ภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง


“เจ็บไหม?”  แต่คำถามซื่อๆ ของปูเป้ก็ทำให้ผมได้ตาสว่าง


ว่าความจริงแล้วผมไม่ได้ลืม ผมแค่ ‘ทำเหมือน’ ว่าลืมมันไปต่างหาก


“เจ็บสิ” ความรู้สึกที่กดเอาไว้ปะทุออกมาเป็นน้ำตาอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ


ผมจำได้ถึงอ้อมกอดที่รัดแน่น จูบอ้อยอิ่งที่ซอกคอ และเสียงกระซิบแหบพร่าตอนที่พูดประโยคนั้น


“เลิกกันเถอะ”


ผมจำได้แล้ว จำได้ทั้งหมด และหลังจากนั้นที่รักเดินออกไป แผ่นหลังตั้งตรงสง่างาม เข้มแข็งอย่างคนที่เติบโตมาในครอบครัวทหารของเขาไม่ได้หันกลับมาอีก.. เป็นภาพสุดท้ายในความทรงจำที่ผมพยายามจะลืม


!


ผมเบิกตากว้างกับแผ่นอกเล็กที่เสนอเข้ามาเป็นที่ซับน้ำตาให้ ปูเป้ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่โอบแขนไว้รอบหัวผม ไม่รู้ทำไมตอนนี้ผมถึงรู้สึกว่าเขาไม่ใช่เด็ก แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง แผ่นอกของเขาถึงจะเล็กและแคบ แต่มันก็เพียงพอให้ผมได้ซุกใบหน้าที่เปรอะน้ำตาในเวลาที่อยากจะหนีไปจากโลกความเป็นจริง


กลิ่นแป้งเด็กจากตัวเขา กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจากเสื้อชุดนอนของเขา กลิ่นคุ้นเคยเหล่านั้นทำให้ใจผมเริ่มสงบ ผมสงสัยว่าบางทีอาจเป็นเพราะผมกับลูกปลามักออกไปเลือกซื้อของใช้เข้าบ้านด้วยกัน หลายครั้งพวกเราจะชอบซื้ออะไรเหมือนๆ กัน เลยทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นเดียวกัน ผมถึงได้คุ้ยเคยกับกลิ่นของปูเป้แบบนี้ รู้สึกเหมือนเขาเป็นคนในครอบครัวของผม ทำให้ผมรู้สึกอุ่นในหัวใจ ..อยากจะใช้เวลาอยู่ตรงนี้อีกสักนิด


ผมหลับตาลง.. แต่เสียงหัวใจที่ดังราวกับจะประท้วงเจ้าของอกก็ทำให้ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง และยิ้มออกมาได้


“เด็กแก่แดด..”  ผมอดหมั่นไส้เล็กๆ ไม่ได้ที่เห็นเขาพยายามจะปลอบผมโดยการลูบหัว


“ผู้ใหญ่ขี้แย”  ทางนั้นว่ากลับมา


ผมหัวเราะเบาๆ ใช้เสื้อเขาเช็ดหน้าเช็ดตาซะเลย  “อื้อ ไม่เท่เลยเนอะ”


“ถ้าเป็นผม..”


“หือ?”  ผมเงยหน้าขึ้นมอง ได้ยินไม่ถนัดว่าเมื่อกี๊อีกฝ่ายพูดอะไร


ปูเป้ก้มมองผมด้วยแววตาจริงจังผ่านแว่นเลนส์สายตาของเขา ทำให้ผมแน่ใจได้เลยว่าเรื่องที่เขากำลังจะพูดต่อไปนี้ไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่นแน่


“ถ้าเป็นผม.. จะไม่ทำให้ต่ายร้องไห้เด็ดขาด”


“.........”  ผมยิ้มอย่างไม่รู้จะพูดยังไง เลี่ยงหลบสายตาเสมองไปทางอื่น


น้ำตาเล็กน้อยของผมมันเทียบไม่ได้กับความเสียใจที่ผมเคยทำไว้กับคนอื่นหรอก ทั้งจะโดยตั้งใจ...หรือไม่ตั้งใจ รู้ตัว...หรือไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะทั้งรัก ทั้งไอ อาจรวมถึงแฟนคนก่อนหน้านี้ของผมด้วย พวกเธออาจจะเคยแอบร้องไห้ตอนที่ผมไม่เห็นก็ได้ ..ยิ่งเห็นปูเป้มาโกรธแทนผมเพราะเรื่องนี้ ผมยิ่งรู้สึกละอายใจ


“ต่ายจำคืนวันลอยกระทงได้ไหม? ที่ผมบอกว่าจะปกป้องต่าย..”


ผมเหลือบมองคนพูดทีหนึ่ง แล้วเหม่อมองออกไปทางถนนโล่งๆ นอกรั้ว  “อืม”


“ผมพูดจริงนะ.. ให้ผมได้เป็นคนปกป้องต่ายนะ!”


“.........” 


ผมหันกลับมามองใบหน้าน่ารักที่กำลังเคร่งเครียดเอาเป็นเอาตาย ปากบางเม้มแน่น ขอบตาขึ้นสีแดงเรื่อ สองมือกำแน่น




“ในฐานะน้องชายเหรอ..?”


คำถามหลังจากเงียบไปนานของผมพาเอาน้ำตาหยดแรกจากดวงตาคู่สวยร่วงลงมาด้วย ปูเป้ถอดแว่นออก แล้วใช้แขนเสื้อเช็ดแรงๆ เจ้าตัวพยายามกลั้นสะอื้นอย่างอย่างสุดความสามารถ แต่ยิ่งเช็ดเท่าไหร่ก็ดูเหมือนมันจะยิ่งไหลมากขึ้นเท่านั้น


“ก็ได้”  เสียงอู้อี้ตอบกลับมา  “ตอนนี้เป็นน้องชายไปก่อนก็ได้”


ตอนนี้...?


ผมเลิกคิ้ว นึกขำอีกฝ่ายในใจ ..เด็กแก่แดดก็ยังเป็นเด็กแก่แดดอยู่วันยันค่ำ


“แก่แดดแล้วยังขี้แยอีก”  ผมยื่นมือไปลูบหัวอีกฝ่าย


“ไม่ต้องเลย เมื่อกี๊ต่ายก็ขี้แยเหมือนกัน”  ทางนั้นปัดมือผมออกอย่างไม่ชอบใจ


“งั้นเรามาร้องไห้ขี้มูกโป่งไปด้วยกันดีไหม?”  ผมหัวเราะ


“ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะสักหน่อย”


“ฮ่ะๆๆ”



พี่ขอโทษนะ ปู..




(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-10-2014 02:19:36 โดย White Raven »

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
(ต่อ)



ผมยิ้มรับน้องสาวที่เพิ่งลงจากรถเมล์ ยื่นมือไปรับกระเป๋าน้อง น้องก็คว้าแขนผมไปกอด แล้วเดินควงกันกลับเข้าบ้านอย่างไม่เร่งร้อน


“เหนื่อยเหรอ?”  ผมเห็นน้องท่าทางง่วงๆ เพลียๆ ซบหัวไว้กับต้นแขนผม


“มากกกกก” 


ก็น่าอยู่หรอก เรียนที่โรงเรียนมาทั้งวันแล้ว ยังต้องมาเรียนพิเศษจนดึกดื่นขนาดนี้อีก


“อยากเป็นหมอต้องอดทน”  ผมยิ้มให้กำลังใจ


“อือออ”  น้องเอาหัวมุดๆ แขนผมเหมือนอยากอ้อน  “ทำไมวันนี้ไม่เอาจักรยานมารับเหมือนทุกทีอ่ะ?”


“ปั่นไม่ไหว”


“เป็นอะไร?”  น้องเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะขมวดคิ้ว  “ทำไมตาแดงๆ?”


“ตอบอันไหนก่อนดี?”  ผมยิ้มนิดๆ


“ไม่ต้องมาเฉไฉเลย”  น้องไม่หลงกล แถมตีหน้ายุ่งกว่าเดิม  “ร้องไห้เหรอ?”


“นี่พี่นะ”  ผมจ้องตาน้อง


“ก็พี่น่ะสิ”  น้องก็จ้องตากลับไม่มีถอย


จนสุดท้ายผมต้องเป็นฝ่ายถอยโดยเสตาไปมองทางข้างหน้า  “ไม่ใช่คนขี้แยสักหน่อย..”


“พี่ต่าย”  แต่เสียงคาดคั้นก็ยังตามมา


“ไม่มีอะไรหรอก”  ผมยังปฏิเสธ


“.........”  แต่ความกดดันก็ยังถูกส่งผ่านความเงียบมาได้


“โอเค...”  ผมยอมแพ้ สารภาพ  “เพิ่งถูกบอกเลิกมา”


“.........”


“อะไร?”  ผมสงสัยเมื่อน้องยังไม่เลิกขมวดคิ้วจ้องหน้าผม


และคำถามต่อมาของเธอทำให้ผมต้องแปลกใจเข้าไปใหญ่  “แล้วร้องทำไมอ่ะ?”


ผมก็เพิ่งบอกไปว่าถูกบอกเลิก แล้วทำไมน้องถึง...


“.........”  ผมจ้องมองน้องสาวที่วิ่งไปดักหน้า พลางเดินถอยหลังสัมพันธ์กับจังหวะการก้าวเดินของผม เมื่อเว้นจังหวะแล้วยังไม่มีคำพูดใดหลุดจากปากผม เธอจึงเริ่มพูดความคิดของเธอออกมา โดยมือทั้งสองจับกันไว้ข้างหลัง ตากลมโตใคร่รู้จับจ้องที่ใบหน้าผม


“มันก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? ทุกทีพี่ก็เป็นฝ่ายถูกบอกเลิกก่อน.. แต่ก็ไม่เห็นจะเสียใจเท่าไหร่”


“พี่เสียใจนะ”  ผมแย้ง


“ใช่ พี่พูด”  น้องยอมรับ นั่นยิ่งทำให้ผมงง


“แต่..?”


“พี่ก็แค่พูด..”  แล้วน้องก็เงียบไปเหมือนกำลังคิดอะไรในใจ


“กวาง”  ผมรู้สึกคาใจ


“คะ?”  น้องเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวว่าเผลอเหม่อไป


“พูดมาสิ”  ผมจ้องตาเธอตรงๆ


“หนูรักพี่นะ”  คราวนี้เธอเป็นฝ่ายหลุบตาหนีผมบ้าง  “แต่บางครั้งหนูก็ไม่ชอบที่พี่ทำเหมือนตัวเองเป็นผู้เสียหาย.. ทั้งที่เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าฝ่ายไหนเจ็บปวดมากกว่า”


“.........”


“พี่ยังจำพี่ครีมได้ไหม?”


“อืม”  เป็นชื่อของผู้หญิงที่ผมเคยคบด้วยช่วงหนึ่งตอนผมอยู่ ม.6 ส่วนเธออยู่ปี 2 มหา’ลัยเอกชนแห่งหนึ่ง


แต่ผมไม่เข้าใจว่าน้องยกเรื่อง ‘ครีม’ ขึ้นมาทำไม?


“หนูชอบพี่ครีมมากนะ”  คนพูดก้มมองเท้าที่หยุดเดินของตัวเอง  “ไม่ใช่แค่เพราะพี่เขาใจดีกับหนู แต่เพราะพี่เขาดูจะรักพี่ของหนูมาก ..มากๆ”  น้องยอมเงยหน้าสบตากับผมหลังจบประโยค


“แต่ครีมก็บอกเลิกพี่”  ผมข้ามไปตอนจบ


“ไม่ใช่เพราะเขาหมดรักพี่หรอก ...เขาหมดแรงน่ะ”


“.........”


“คราวนี้พี่รักชาติใช่ไหม?” 


ผมประหลาดใจที่จู่ๆ น้องก็เปลี่ยนไปพูดถึงอีกคน


“หนูพอจะดูออก.. ตอนแรกก็ตกใจนะ แต่พอมาลองคิดดู บางทีพี่หนูอาจจะเหมาะกับผู้ชายด้วยกันมากกว่าก็ได้”  น้องหัวเราะเบาๆ ผมยิ้มฝืดตอบทั้งที่คิ้วยังขมวดติดกันอยู่


“คิดว่าแม่จะดูออกไหม?”


“นั่นแม่เชียวนะ!”  คนพูดทำตาโต ผมหยักหน้าเข้าใจ น้องพูดต่ออีก  “แต่หนูว่าพี่หงษ์ยังไม่น่าจะรู้หรอก แต่พี่ลูกปลาต้องรู้แน่ๆ”


“อืม.. แต่ยังไงมันก็จบแล้วล่ะ”  ผมเสหน้าไปมองหมาของเพื่อนบ้านที่กำลังนั่งมองพวกเราอยู่เช่นกัน


“เดาว่าอีกคนคงเป็นพี่ไอ”


“เอ๊ะ?”  ผมหันกลับมามองคนตรงหน้า


“หนูสงสัยตั้งแต่ตอนเห็นพวกพี่หน้าช้ำที่วังน้ำเขียวละ พี่ไอเป็นคนที่มาจากอดีต พี่รักชาติคือคนปัจจุบัน หนูนึกภาพออกเลยล่ะ ก็คงเหมือนครั้งพี่ครีมกับพี่ปารีส มันเกิดขึ้นซ้ำซาก พี่ไม่รู้สึกแบบนั้นเหรอ?”


“...!...”


น้องกลับมากอดแขนผม แล้วออกแรงดึงให้ออกเดินไปพร้อมกัน ปากก็พูดเจื้อยแจ้วแบบไม่ติดขัด


“ตอนนั้นพี่ปารีสคบกับพี่แกรี่สักพักแล้ว แต่ก็รักๆ เลิกๆ พองอนกันทีไรก็ชอบโทรเรียกให้พี่ต่ายออกไปหาทุกที พี่ก็ไม่เคยปฏิเสธ ดึกดื่นยังไงก็ออกไป แถมบางครั้งยังออกไปทั้งที่นัดกับพี่ครีมไว้ก่อนด้วยซ้ำ พี่ครีมก็แสนดี ไม่เคยวีน ยอมให้ตลอด หนูว่าตรงนี้คงต่างจากพี่รักชาติสินะ เพราะพี่เขาดูท่าทางไม่ใช่คนยอมคนสักเท่าไหร่ เอ..จะว่าไปพี่ไอก็ไม่ได้ดูเหมือนคุณหนูชอบเรียกร้องความสนใจเหมือนพี่ปารีสเท่าไหร่แฮะ...แต่ก็นั่นแหล่ะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะวีนหรือไม่วีนก็ไม่มีใครเอาพี่ชายต่ายของหนูอยู่สักคน สุดๆ ไปเลยเนาะพี่เนี่ย


“นี่เรา.. ทำไมถึงได้..”  ผมมองน้องสาวตัวเองแบบไม่อยากเชื่อหู


“พี่ไม่รู้เหรอ? หนูอ่ะแฟนคลับตัวยงของพี่เลยนะ”  น้องยิ้มน่ารักพร้อมชูสองนิ้ว


“.........”  แต่ผมขำไม่ออกจริงๆ ณ จุดนี้


น้องหันกลับไปมองทางข้างหน้าแล้วเริ่มพูดต่อ


“หนูเคยเกลียดพี่ปารีสอยู่ช่วงหนึ่ง.. จำได้ไหมมันมีวันหนึ่งที่อยู่ดีๆ พี่ปารีสก็โผล่มาที่บ้านเรา แล้วมารู้ตอนหลังว่าทะเลาะกับพี่แกรี่มา.. วันนั้นพี่ต่ายมีนัดไปดูหนังกับพี่ครีม ก็บอกพี่ปารีสไปตามตรงว่าจะออกไปหาพี่ครีม นัดไว้แล้ว แต่ทางนั้นกลับถามมาว่าเดี๋ยวนี้พี่เห็นผู้หญิงคนอื่นสำคัญกว่าเขาแล้วเหรอ? ด้วยท่าทางนิ่งๆ อย่างคนที่มั่นใจในตัวเองของเขาน่ะ มันเหมือนว่าเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่รู้สึกยังไง เขาสำคัญต่อพี่ขนาดไหน พี่ไม่มีทางเมินเฉยต่อเขาแน่ แต่ตัวเขากลับเมินพี่ไปคบผู้ชายคนอื่นซะงั้น แถมยังไม่ยอมปล่อยมือจากพี่อีก เหมือนจงใจปั่นหัวพี่อ่ะ”


ยิ่งฟังน้องพูดผมยิ่งเห็นภาพของไอซ้อนทับกับปารีสชัดขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวผมก็เหมือนกำลังกลับไปย่ำอยู่ที่จุดเดิม ..ซ้ำชาก.. อย่างที่น้องว่า


“แล้วพี่ของหนูก็ให้ความร่วมมือสุดๆ ด้วยการยอมนั่งลงที่เดิม โทรไปยกเลิกนัดกับพี่ครีมอีก ยิ่งทำให้เขามั่นหน้าตัวเองสุดๆ หนูล่ะสงสารพี่ครีมจับใจ แต่ไม่สงสารพี่ต่ายหรอกนะ เพราะพี่เต็มใจพาตัวเองไปอยู่ที่จุดนั้นเอง ก็อย่างที่บอกว่าบางทีหนูก็ไม่ชอบที่พี่ทำตัวเหมือนเป็นผู้เสียหาย ทั้งที่มีคนเสียหายมากกว่า แต่จะให้เกลียดพี่ด้วยก็เกลียดไม่ลง เพราะหนูรักพี่สุดๆ ไปเลยอ่ะ ลำเอียงเนอะ?”  น้องปิดท้ายด้วยการขยับมากอดเอวผมพร้อมยิ้มกว้าง แต่ผมกำลังช็อคอยู่..


เพิ่งรู้ว่า ‘น้องสาวผู้น่ารัก’ ของผมคิดยังไงก็วันนี้แหล่ะ


“สุดท้ายพี่ครีมก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ก่อน.. ก่อนจะรู้ว่าพี่ปารีสก็ไม่ได้แคร์พี่ต่ายมากขนาดนั้น เขาเลือกที่จะตามพี่แกรี่ไปเมืองนอก เจ็บไหมล่ะ?”


“.........”  เอาจริงๆ จุดนี้ช็อคมากกว่าจะรู้สึกอะไรได้แล้วล่ะ


นี่น้องสาวผมจริงๆ เหรอ?


“เออ จริงสิ! หนูเพิ่งบังเอิญเจอพี่ครีมไม่กี่วันก่อน เขายังถามถึงพี่อยู่เลย สวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกนะ แถมยังโสดดดดสนิท”  คนพูดทำตาวาววับ


“อยากให้พี่กลับไปคบกับครีมหรือไง?”


“อย่าเลย ปล่อยเขาไปเถอะ”  น้องส่ายหน้า  “พี่ไม่รู้เหรอว่าการตัดใจจากผู้ชายอย่างพี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ..คนที่ทั้งหล่อทั้งดีกับเรา คอยเทคแคร์เรา เอาใจ ตามใจเราทุกอย่าง ควงเดินอวดใครต่อใครได้อย่างภูมิใจ ไม่มีเรื่องอะไรเสียหายด้วย นอกจากข่าวลือเป็นพักๆ แค่นั้น..  เรียกว่าเป็น ‘ผู้ชายในฝัน’ เลยใช่ไหม?”


“งั้นทำไมต้องตัดใจล่ะ?”


“เพราะไม่มีใครจะอยู่ในฝันได้ตลอดไงล่ะ สักวันทุกคนต้องตื่นมาใช้ชีวิตบนความเป็นจริงทั้งนั้นแหล่ะ”


“.........”


“ความจริงที่ว่าถึงจะดีแค่ไหน...เขาก็ไม่ได้รักเรา”



“แล้วเขารักใคร?”  ผมสงสัย


“ตัวเองล่ะมั้ง! ใครจะไปรู้ หนูไม่ใช่ ‘เขา’ สักหน่อย”  น้องเน้นคำพลางมองหน้าผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นซบอกออดอ้อน แต่คำพูดต่อมากลับแทงใจดำกันสิ้นดี


“พี่เป็นผู้ชายที่ชีวิตนี้หนูไม่อยากเจอในฐานะอื่นที่ไม่ใช่ ‘พี่ชาย’ เลย รู้ไหม?” 


“พี่เจ็บนะ”  ผมอดครวญไม่ได้


“หนูก็แค่อยากบอก..”


“ให้มันนุ่มนวลกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง?”


“หนูแอบสายเอสนิดๆ ล่ะ”


“.........”





ช่วงสายของวันถัดมา ผมรู้สึกตัวเพราะมีมือเย็นของใครบางคนมาแตะที่หน้าผาก ลืมตาจึงเห็นพี่หงษ์กำลังก้มมองพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มน้อยๆ มาให้


“ไงเรา? ได้ยินจากแม่ว่าไม่สบาย พี่เลยแวะมาดู”  คนพูดนั่งลงบนเตียงข้างกับผม  “ดีขึ้นบ้างไหม? หรือแย่ลง?”


“ไม่รู้เหมือนกัน..”  ผมจับมือเย็นๆ ของพี่มาวางทับลงบนตาที่รู้สึกร้อนๆ ของตัวเอง


เมื่อเช้าผมมีไข้ ก่อนออกไปทำงานแม่ก็ปลุกผมลงไปกินข้าวกินยารอบหนึ่งแล้ว ก่อนผมจะกลับขึ้นมานอนต่อ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันดีขึ้นหรือแย่ลง รู้แต่ว่าผมไม่รู้สึกอยากลุกออกจากเตียงไปทำอะไรเลย วันนี้ก็หยุดเรียนไปตามระเบียบ


“ไปหาหมอไหม?”


ผมส่ายหน้าแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือพี่


“ไม่ใช่แค่ป่วยอย่างเดียวแล้วล่ะมั้ง?”  คงเพราะเห็นท่าทีที่ผมแปลกไป พี่เลยถามแบบนั้น


“.........”  ผมเงียบแทนการตอบคำถาม และคนถามก็ไม่ได้คะยั้นคะยออยากได้คำตอบ


พี่หงษ์นั่งนิ่งสักพัก ก่อนจะชักมือที่เริ่มอุ่นของตัวเองกลับ แล้วลุกขึ้น  “เดี๋ยวพี่ไปเอาคูลแพคมาให้ดีกว่า”


“ขอบคุณครับ”


ครู่เดียวพี่ก็กลับขึ้นมาพร้อมคูลแพคเย็นๆ วางลงบนหน้าผากของผม


“วันนี้ไม่ไปทำงานหรือครับ?”  ผมถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งลงที่เดิมแล้ว


“ลาหยุดน่ะ ..ไปหาหมอมา”


ผมเลิกคิ้วแทนความสงสัย  “ป่วยเหรอครับ?”


“เปล่า ไปฝากครรภ์”


“ห๊ะ?”  ผมถึงกับเหวอออกปาก อีกฝ่ายหัวเราะพร้อมกับลูบท้องอันราบเรียบของตัวเอง


“ในนี้.. เกือบ 7 สัปดาห์แล้ว”


“.........”  ผมนึกไม่ออกว่าควรจะพูดอะไร


ไอ้น่าดีใจมันก็น่าดีใจอยู่หรอก ผมกำลังจะมีหลานทั้งคนนี่นะ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ยินดีต้อนรับเข้ามาเป้นสมาชิกใหม่อยู่แล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่าคู่ของพี่หงษ์เขาพร้อมสำหรับเรื่องนี้แน่แล้วหรือยัง ..โดยเฉพาะคนที่กำลังจะได้เป็น ‘พ่อ’ น่ะ


“จะไม่ยินดีกับพี่หน่อยเหรอ?”


“...ยินดีด้วยครับ”  พอผมพูด อีกฝ่ายก็ยิ้มรับ ท่าทางมีความสุขจนผมอดยิ้มตามไม่ได้  “แล้วพี่แดน..”


“รู้แล้ว เขาเป็นคนขับรถพาพี่ไปโรงพยาบาลเมื่อเช้า ส่วนขากลับพี่ขอกลับเอง เพราะตั้งใจแวะมาดูต่ายนี่แหล่ะ”


“ยินดีด้วยนะครับ” 


“พูดไปแล้ว”


“แค่อยากพูดอีก”


“ฮ่ะๆๆ อะไรกันเนี่ยเรา.. แต่ยังไงก็ขอบใจนะ แล้วพี่ยังมีข่าวดีอีกเรื่องด้วยล่ะ”


“อะไรครับ?”


“พี่กับพี่แดน เราวางแผนจะแต่งงานกันเดือนหน้าน่ะ”


“...ยินดีด้วยนะครับ”


“พูดอีกแล้ว อย่างกับโปรแกรมอัดเสียงแน่ะ”


“ก็ต่ายรู้สึกดีใจกับพี่จริงๆ นี่นา”


“ขอบใจ”


“ต่ายดีใจที่เห็นพี่มีความสุข”


“แล้วต่ายล่ะ ตอนนี้มีความสุขดีหรือเปล่า?”  พี่จ้องตาผมตรงๆ จนผมต้องเฉไฉไปมองโมบายหอยที่ห้องอยู่ตรงหน้าต่าง


“คิดว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่..”


“ความรัก?”  พี่เดาถูก และถูกอีกกับข้อถัดมา  “ถูกบอกเลิกอีกแล้วเหรอ?”


ผมพยักหน้าอย่างไม่รู้จะปฏิเสธไปทำไม แค่นยิ้มหยันตัวเอง


“มันเป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดกับต่ายอยู่แล้วใช่ไหม?”


“หมดหวังกับความรักแล้วเหรอ?”


“จะพูดให้ถูก.. หมดหวังกับตัวเองมากกว่า”  ผมถอนหายใจลึก  “..ต่ายรู้สึกว่าตัวเองอาจไม่ได้เสียใจเท่าที่คิด” 


ยอมรับว่าความเห็นจากน้องสาวเมื่อคืนนั้นมีอิทธิพลต่อผมอยู่มากเหมือนกัน


“บางทีก็สงสัยว่าจริงๆ แล้วต่ายรักเขาคนนั้นหรือเปล่า? หรือจริงๆ แล้วความรักมันเป็นยังไงกันแน่? ..บางทีต่ายก็รู้สึกสับสน ..บางทีก็รู้สึกผิด”


“.........”


“พี่หงษ์ ..จริงๆ แล้วความรักมันเป็นยังไงกันแน่เหรอ?”



“ไม่รู้สิ แต่พี่คิดว่าต่ายกำลังมีความรักอยู่นะ”


ผมเบนสายตากลับมายังคนที่เพิ่งตอบคำถามด้วยสีหน้าเรียบเรื่อย


“ถ้าไม่รักก็คงไม่เกิดความสับสน ไม่ว้าวุ่นใจ ไม่รู้สึกผิด คงไม่ต้องมานั่งทุกข์นอนทุกข์แบบนี้...ใช่ไหม?”


“.........”


“ก็เพราะรักนั่นแหล่ะ ถึงได้เป็นแบบนี้ไง”


เพราะรักเหรอ..?


“แต่บางทีรูปแบบความรักของคนหนึ่ง ก็อาจจะไม่เหมาะกับอีกคนหนึ่งก็ได้ สมมุติว่าถ้าต่ายรักของต่ายแบบนี้ แต่ฝ่ายตรงข้ามเกิดมาเพื่อรักอีกแบบ มันก็ยากที่จะเห็นตรงกัน..  ดูอย่างพี่กับพี่แดนสิ พวกเรารักกัน แต่ต่ายก็ยังเห็นพวกเราทำร้ายกันได้เรื่อยๆ ใช่ไหม? ขอโทษที่ต้องทำให้เป็นกังวลบ่อยๆ นะ ..แต่เพราะพี่แดนเขาเป็นประเภทที่ต้องการความรักตลอดเวลา เขาชอบที่จะทำให้พี่ประสาทเสียเพราะหึงหวงเขา ชอบเห็นพี่คลั่งรักเพราะเขา ทำให้พี่ขาดเขาไม่ได้ แต่พอพี่รู้สึกว่าเหนื่อย พี่ท้อ พี่กลับมาที่บ้าน หรือไปที่ไหนก็แล้วแต่ที่เขาจะไม่เห็นพี่.. ก็เหมือนอย่างที่ต่ายเห็น เขาไม่เคยปล่อยพี่ไปไกลหูไกลตานานๆ ต้องรีบมารับพี่กลับ ความจริงแล้วเขานั่นแหล่ะที่เป็นฝ่ายขาดพี่ไม่ได้ ขณะที่พี่ก็ยังอยู่ได้ต่อให้ไม่มีเขาก็เถอะ ตลกใช่ไหม?”  คนพูดยิ้มขำ ส่วนผมกำลังอึ้งอยู่ 


“พี่รู้ตัวมานานแล้วล่ะว่าถือไพ่เหนือกว่า แต่ก็ยังทำเหมือนว่าไม่มีไพ่ในมือ ให้พี่แดนเชื่อต่อไปว่าตัวเองเป็นฝ่ายควบคุมพี่ ทั้งที่ความจริงแล้วมันตรงกันข้าม.. นี่เป็นวิธีรักษาความรักของพี่ เป็นรูปแบบความรักของพี่น่ะ”


เมื่อคืนผมเพิ่งช็อคกับตัวตนของน้องสาวไป ไม่คิดว่าเช้าวันถัดมาผมต้องมาอึ้งกับตัวตนของพี่สาวอีก


ยอมรับว่าคาดไม่ถึงจริงๆ เกือบ 20 ปีที่เป็นพี่น้องกันมาไม่ได้ช่วยให้ผมรู้จักพวกเธอได้ทะลุปรุโปร่งเลย ยิ่งไม่กล้าฟันธงเลยว่านี่คือตัวตนทั้งหมดของพวกเธอแล้ว..


“แน่นอนว่ามันอาจไม่ใช่รูปแบบที่เหมาะกับคนส่วนใหญ่ รวมทั้งต่ายด้วย แต่มันเหมาะกับพี่..”


ผมก็ไม่คิดว่าแบบนั้นจะเหมาะกับผมเหมือนกัน


“บางครั้งการที่คู่รักไปกันไม่ได้ มันอาจไม่ใช่เพราะเขา ‘ไม่รัก’ กัน แต่เป็นเพราะเขา ‘ไม่ใช่’ ของกันและกันมากกว่า เมื่อเขาก็ไม่ใช่ เราก็ไม่ใช่ สุดท้ายก็ต้องแยกกัน ..มันเป็นเรื่องธรรมดา”


“.........”


“ส่วนพี่แดน พอรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูก ก็ดูเขากระตือรือร้นอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกันนะ พี่ก็แอบเอาใจช่วยว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดีได้ ถึงพวกเราจะไม่ใช่คู่รักที่ดีเท่าไหร่ แต่ไม่ว่ายังไงก็อยากจะเป็นครอบครัวที่ดี”


“ต้องดีแน่ครับ”  ผมเชื่อแบบนั้น


“ขอบใจ..”  พี่ยิ้มให้ผม





เย็นวันเดียวกัน ผมรู้สึกตัวอีกครั้งเพราะสัมผัสแผ่วเบาที่แก้ม.. ลืมตามองก็ได้สบตากับไอที่โน้มหน้าลงมาหาระยะประชิด ตอนนั้นก็ตกใจอยู่นะ แต่ไม่ได้ถึงกับสะดุ้งอะไร


“พี่หงษ์อยู่ข้างล่างน่ะ”  ไอยืดตัวตรง เขานั่งอยู่ข้างเตียงผม พูดถึงพี่สาวผมเหมือนจะแก้เก้อ หูขึ้นสีแดง


“ไอมานานแล้วเหรอ?”  ผมยันตัวลุกขึ้นนั่ง


“เพิ่งมา เห็นวันนี้นายไม่ไปมหา’ลัย ไม่ตอบไลน์ เลยมาดูว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”  เขาพูดติดตลก


ผมยิ้มออกบ้าง  “ทำไมถึงคิดว่าจะไม่อยู่ล่ะ?”


“ก็นึกว่าถูกฆ่าหมกท่อไปแล้ว เมื่อวานหน้าตาหมอนั่นดูเอาเรื่องมากเลยนี่นา”


ผมยิ้มเจื่อนลง แต่ก็ยังทำเป็นเรื่องขำๆ อยู่  “อื้อ ก็เกือบไปแล้วล่ะ”


“จริงดิ!”


“จะจริงได้ไงล่ะ”


“ก็ว่า.. งั้นคงไม่ได้มานอนตีพุงสบายจนขี้เกียจไปเรียนแบบนี้หรอก”


“เกินไป”  ผมแอบบ่น ไอหัวเราะ


วันนี้ไอดูท่าทางอารมณ์ดี ผมนั่งมองหน้าเขา เขาก็ยิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบ เรายิ้มให้กันสักพักจนผมรู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องพูดกันสักที



“เราเลิกกับรักแล้วล่ะ”


ไอดูตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามที่จะไม่แสดงมันออกมา


“รักบอกเลิกเราเมื่อวาน ..เราถูกทิ้งแล้ว”  ผมพูดโดยไม่ละสายตาไปจากอีกฝ่าย


แววตาตกใจของไอหายไป เปลี่ยนเป็นความรู้สึกอื่นขึ้นมาแทน


“ดีใจหรือเปล่า?” ผมพยายามจับสังเกตสิ่งที่เกิดในดวงตาเรียวสวยคู่ตรงข้าม แต่อีกฝ่ายก็ยังก่อกำแพงป้องกันตัวเองหนาแน่นไม่ต่างจากทุกที


“พอจะทำให้ไอหายโกรธเราได้บ้างไหม?”


ไอลุกขึ้นยืน หันหน้าไปทางประตู


“ต้องกลับคณะแล้วล่ะ.. พี่เปิ้ลให้แว้บออกมาได้แป๊บเดียว เดี๋ยวโดนด่าว่าอู้งานอีก”  คนพูดพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนเสียงที่เริ่มสั่นของตัวเอง


“อื้อ กลับดีๆ นะ”  ผมจับจ้องแผ่นหลังที่ห่อลงเล็กน้อยของอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เขาคงจะเข้าใจหากจะลองหันกลับมามองอีกสักครั้ง


ไอออกจากห้องไปโดยไม่มีคำใดอีก


ผมเฝ้ามองจนกระทั่งประตูห้องปิดลง จึงผ่อนลมหายใจเบาๆ ก่อนไถลตัวลงนอนตามเดิม


ตาเหม่อมองโมบายเปลือกหอยที่ใครบางคนเอามาติดไว้ให้



“.........”












TBC.

ตอนหน้าจบ ss แรกค่ะ
แล้วจะมี ตอนของไอ ตอนของรัก ออกมา
ก่อนจะต่อด้วย ss2 ในห้องนี้เลยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-10-2014 02:27:36 โดย White Raven »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โอ๊ยยยยยยยย เจ๊จิบ้าตายกะอิรักสี่ห้าหกเจ็ดแปดเส้านี่ :katai1:
ยังคงกินมาม่าอย่างต่อเนื่อง ต้มน้ำซุปใส่หมูใส่ไก่กันต่อไป...... :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ vivalasvegus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พลิกล๊อคน่าดู

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
สรุปที่รักบอกเลิกชายต่ายเป็นจริงใช่มั๊ย ถ้าใช่เราจะได้หัวเราะด้วยความสะใจ
คนอย่างต่ายไม่สมควรจะเป็นคนรักของใครเลยซักคน เป็นคนไม่หนักแน่น โลเล เป็นผู้ชายประเภทที่เราเกลียดที่สุด
ดูเป็นสุภาพบุรุษกับคนอื่นไปทั่วให้ความสำคัญกับคนอื่นไปหมดโดยขาดการใช่สมองไตร่ตรองเรียงลำดับ
เป็นผู้ชายประเภทที่เราเราโคตรเกลียดที่สุดและไม่คิดจะเอาคนแบบนี้มาเป็นแฟนจริงจังแม้มันจะหล่อจะรวยแค่ไหนก็ตาม
เราว่าต่ายมันหวั่นไหวกับคนได้ง่ายมาก และที่น่าตบที่สุดคือการที่ต่ายมันทำผิดกับแฟนแต่ไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งนั้นผิด เลวบริสุทธิ์จริงๆ
คนแบบนี้มันควรอยู่ตัวคนเดียว หรือไม่ก็เป็นแค่คู่ควงไปวันๆอย่าไปเอามันมาเป็นแฟนเลย เสียเวลาป่าว
ใครจะมองว่ามันดีเลิศประเสิริฐศรียังไงก็ช่าง แต่สำหรับเราต่ายมันก็แค่พวกแรด+ร่านเงียบดีๆนี่เอง
ไร้ซึ่งคุณค่าที่คู่ควรเอามาเป็นแฟนอย่างยิ่ง มีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลานด้วยนะ
ว่าคนแบบต่ายมันน่ากลัวกว่าพวกเลวหรือเจ้าชู้โต้งๆซะอีก เพราะทุกการกระทำที่มันทำมันไม่ได้รู้สึกว่าผิดอะไรเลย
และไม่รู้ตัวด้วยว่าสิ่งที่ทำจะทำให้แฟนตัวเองรู้สึกแย่แค่ไหน :z6: :beat:
ส่วนอิไอรู้อยู่ว่าเค้ามีแฟนก็ยังแรดมายุ่งกับเค้าอีกทั้งที่ตัวเองก็เคยโดนเคยเจ็บมาแล้ว
แทนที่จะเห็นใจและเข้าใจแฟนของต่ายได้บ้างแต่ป่าวเลย กลับไม่สำนึก
คนอีกประเภทที่เราเกลียดก็คือคนที่เคยมีประสบการณ์ที่แย่มาแล้วเรื่องความรัก
แต่ไม่เอามาเป็นบทเรียนซ้ำยังเอามาทำร้ายคนอื่นๆอีก แต่ก็เหมาะกันดีนะเลวบริสุทธิ์ทั้งคู่


ปล.ไหนๆถ้ารักจะไม่ได้คู่กับต่ายแล้วก็อยากให้รักผันตัวมาเป็นตัวร้ายมันซะเลยและตามรังควานอิชายต่ายอย่าให้มันได้มีความสุขยิ่งดี และถ้ายิ่งต่ายได้คู่กับไอนะ คงจะเป็นเรื่องแรกที่เราเชียร์ตัวร้ายให้มันเอาคืนทั้งคู่ให้ถึงที่สุดไปเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2015 23:54:20 โดย AMINOKOONG »

ออฟไลน์ ChiiCaLorz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
คนที่ทำให้ต่ายร้องไห้ ไม่ใช่รัก แต่เป็นต่ายทำเองต่างหาก

สงสารรัก คิดว่ารักคงเจ็บมากกว่าต่าย  :m15:

สุดท้ายแล้วไอก็ทำให้เขาเลิกกันสำเร็จจนได้ 

ไม่ชอบคนแบบต่ายเลย พอต่ายทำผิดแล้วขอโทษ มันรู้สึกว่าพูดไปตามมารยาทเท่านั้นเอง

สมมติว่าครั้งนี้รักให้อภัย ครั้งหน้าพอไอมาอ่อยอีก ต่ายก็จะทำอีก มีความรู้สึกว่ายังงี้จริงๆ

ส่วนไอเราก้ไม่ชอบเหมือนกัน คือแสดงเจตนามาแต่แรกแล้วว่าจะทำให้เขาเลิกกัน

คือไอดูร้ายอะ มีทั้งร้องไห้ ทั้งให้เขาสัญญาอะไรต่างๆนาๆ คือเป็นคนน่าสงสาร ที่ไม่น่าสงสารเลย  :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2014 18:35:18 โดย ChiiCaLorz »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ต่ายควรจะมาคิดว่าสรุปแล้วตัวเองรักใครกันแน่

kjkjji

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดด รักชาติ! ทำดีมาก
 :hao5: :hao5: :hao5:
ปล่อยอีชายต่ายไปกับบรรดากิ๊กๆของมันเถอะ คือถ้าต่ายเลิกกับรักแล้วไปคบกับไอนี่เรารับไม่ได้จริงๆนะ
เราเกลียดคนนิสัยแบบไอมากอ่ะ
คือถ้าจะได้ก็ได้กับคนอื่นเถอะ
แต่ที่จริงลึกๆยังหวังให้มีรีเทิร์นอยู่นะ คือเค้าบอกเลิกแล้วไงอะ?ปรับปรุงตัวแล้วไปง้อเอาเค้ากลับมาเซ่!!!!!!!!!!!!!!!
รักของแกน่ะ แกได้เค้าแล้วนะเฟร้ยยยยยยยย
ไหนว่าขอโอกาสไง จะรอเค้ายื่นให้มันก็ไม่ใช่ปะ?แกต้องไปแสวงหาเอาเองสิ  :katai1:
ตอนหน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆขอชายต่ายช้ำรักหลายๆตอนเลยนะคะ ทำรักชาติของเจ้ไว้เยอะ ให้น้องรักได้เอาคืนบ้าง ฮรึ

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เฮ้ออออ   ต่ายคงต้องคิดให้มากๆนะ ว่าควรจะหนักแน่นไดัแล้ว

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ้าวรักทำไมถอดใจเร็วอย่างนี้ล่ะ
คิดจะรักคนแบบชายต่ายต้องใจคอหนักแน่นให้มาก ๆ
แต่ถ้าคิดว่าไม่ไหวแล้ว ยื้อไว้ก็เจ็บ ก็ต้องตัดให้ขาด เพราะไม่งั้นก็คงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำ ๆ
ชายต่ายเจ้าเสน่ห์ ใจดี ขี้สงสาร ใครอยู่ใกล้มักจะหลงใหลได้ง่าย ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก
ก็ไม่รู้ว่าวังวนของรักหลายเส้านี้จะมีทางออกยังไง ลุ้นต่อไป

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ขอไม่สงสารต่ายนะคะ

เป็นแฟนต่ายไม่มีความสุขหรอก รักทำถูกแล้วที่เดินออกมา เพื่อให้ต่ายได้เคลียตัวเอง

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ไปดีเถอะรักชาติ  ปล่อยต่ายให้ไอไป ไออยากได้เค้าตั้งแต่แรกดันไม่คว้าไว้มาคอยแอบตอดตอนที่เค้ามีเจ้าของแล้วอยู่นั่นแหละ  ชายต่ายเองก็ชอบปันใจอยู่เรื่อย  อ้างเพื่อนกันตลอด

เรารู้สึกว่าน้ำตาชายต่ายไม่มีค่าเลย  แต่ตอนนี้ทำให้เรารู้ว่ารักชาติรักชายต่ายมากจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2014 19:10:25 โดย bennnyyy »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Moonwish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เลิกกันก็ดีแล้ว เรามีความเชื่อว่า หนังสือเล่มเก่าอ่านกี่ครั้งตอนจบมันก็เหมือนเดิม
ต่ายก็คงไม่ต่างกัน ต่ายเป็นคนแบบนี้คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้ เป็นนิสัย เป็นสัน...
รักได้ทำดีที่สุดแล้วในฐานะคนๆ นึงที่เคยเป็นแฟนต่าย จากนี้ก็ไปหาคนที่ดีกับรักจริงๆ เถอะ
ส่วนหนังสือเล่มเก่า เราไม่อ่านแล้วก็เอาไปบริจาคเถอะนะรัก เก็บไว้ก็รกป่าวๆ

ออฟไลน์ posh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ก็ยังแอบหวังไอกับต่ายอยู่นะ

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
เฮ้อออออ เหนื่อยกะต่ายว่ะ เคลียร์ไปสองเหรอ
พาร์ทแรกต่ายอาจจะไม่คู่กับใครเลยนะ ต่ายอาจจะยังเด็กเกินไปสำหรับความรักก็ได้
คือกำลังทำความเข้าใจอยู่ว่าสรุปคุณชายมันเป็นคนยังไง พยายามใช้เหตุผลในการมองต่ายอยู่นะ
สรุปต่ายรักรักจริงเหรอ? ถ้ารักเค้าจริงก็ห้ามคบใครนะพาร์ทนี้อะ
ไว้ถ้ามีพาร์ทสองนายโตกว่านี้ รักกับต่ายอาจจะกลับมารักกันก็ได้ ให้เวลากับความรักที่นายมีให้รักหน่อย เพราะเราว่ารักไม่เลิกรักนายง่ายๆหรอก ไม่รู้นะเดาเอา (คืออยากให้เป็นแบบนี้ด้วยแหละ)
เพราะถ้าต่ายไปคบกับคนใหม่เราว่ามันไม่ใช่อะ ยิ่งไอนี่ถ้าต่ายคบไอนะ จะเกลียดต่ายเลย แกรี่นี่โอเคนะเขาดูดูแลต่ายได้ แต่เวลานี้เราว่าไม่เหมาะถ้าต่ายจะมีคนใหม่ พาร์ทนี้อย่าคู่กับใครเลยต่าย ไม่งั๊นเราเกลียดนายแน่
อ่อ ส่วนเมโล่อะของเรานายห้ามยุ่ง โอเค?

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
อ่านไปอ่านมา ชายต่ายทำตัวเองทั้งนั้น
จะเหลือใครให้เลือกอีกไหมเนี่ย
จากฮาเร็มกลายเป็น no choice

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
สงสารรักเบาๆ ต่ายเหมือนคนโลเล

ออฟไลน์ leceto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
น้องรักจะไม่มีบทบาทแล้วเหรอคะ แม่ยกเศร้าใจ Y___Y

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
ให้สิบคะแนนกับเม้นคุณ AMINOKOONG
ไปดีเถอะรัก ปล่อยให้คนแร่ดๆเค้าคบกันเองนะ
ต่ายกับไอเป็นตัวเอกที่เราคงเกลียดไปจนจบเรื่อง  อาเมนค่ะ

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4
ทำให้ฮาเร็มชายต่ายจบสักทีเถอะค่ะ!
โอ๊ยยยย หงิดกะนางมากเหลือเกิน
คือสไตล์ชายต่ายนี่น่าจะเป็นเพื่อนที่น่ารักมากแน่ๆ
แต่อย่าแอบชอบขึ้นมาเชียว
อภิมหาความชิบหาไม่เจอจะมาเยือน
น่ารักนะ ดีกะใครเขาไปทั่ว มองลักษณะคือดีอย่างจริงใจ (แต่อาจจะมีเบื้องหลังเล็กๆ เกี่ยวกับปัจจัยครอบครัว)
แต่ถ้าชอบคนประเภทนี้... เขาดีไงคะ ดีไปทั่ว ได้รับการดูแลแต่ไม่ใช่การดูแลที่พิเศษ
แถมมันยังไปดูแลคนอื่นเหมือนดูแลเราอีก!
ไม่อยากใช้คำว่าเลว เพราะนางไม่ถึงขั้นคำนั้น แค่ไม่น่าให้อภัย
ในนิยายมันรับได้นะ แต่ไอ้การโลเลไปมาแบบนี้ ในเรื่องจริงมันใช่ที่ไหน
รักเองก็คงจะเหลือทนแล้วจริงๆ นั่นแหละ

ส่วนตอนนี้เชียร์ให้นางไม่มีคู่ (ในภาคนี้)
อยากให้ไอไปคู่กะเมโล่ อาจจะไม่ใช่ในแง่ความรัก แต่เราไม่อยากให้ไอคู่กับต่าย
ในสายตาเรามันเหมือนคนเปราะบางสองคนมาเจอกันอ่ะ
เกิดจิตวิปลาสขึ้นมาล่ะจะทำยังไง? น่ากลัวจะตาย... แล้วมันเหมือนต่างฝ่ายต่างพยายามดูแล
แต่กลับกลายเป็นดูแลคนนี้คนเดียว แต่ทำร้ายคนอื่นหมด
สุดท้ายแล้วถ้าวันไหนหันมาทำร้ายกันนี่ปวดตับกันไปข้าง

สำหรับรักเราหวังว่านางจะได้คู่กับชายต่ายนะ (ยังเชียร์จนถึงตอนนี้ T_T)
แต่เอาเป็นเวลาผ่านไปนานๆ แล้วดีกว่ามั้ย

ส่วนปูเป้ป้ายตัวประกอบผู้น่ารักมาเต็ม ปักธงไว้เลย
เราไม่นิยมโชตะ แต่บางทีอาจจะเหมาะกับฝาแฝดหรือแกรี่ก็ได้
อันที่จริงกับแกรี่นี่อาจจะเหมาะมากๆ เลยด้วยซ้ำ

เอาล่ะ... รีบๆ มาต่อนะคะ!

ปล. เม้นยาวที่สุดเท่าที่เคยเม้นมาเลย ฮา

ออฟไลน์ lovegoldfish

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ถ้ามีการทำโพสใหม่ตอนนี้ ชายต่ายคงโดนกดลบกระจาย

สงสารรัก  :mew4: คิดอยู่ว่าคงไปไม่รอด แต่รักใจเย็น+ใจดีกว่าที่คิดนะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เลิกกันได้ก็ดี สงสารรักง่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด