รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 345203 ครั้ง)

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #300 เมื่อ15-04-2014 21:58:50 »

สุดท้ายก็ยังคงไม่โดนเจ้าชายเขมือบ ไม่รู้คนอ่านจะดีใจหรือเสียดายแทนดี นึกว่าคราวนี้จะมีคนโดนยากำหนัดอีกซักรอบ ฮี่ฮี่

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #301 เมื่อ16-04-2014 11:55:33 »

บทที่ ๑๖

ฟีเรียสกลับไปเยี่ยมบ้านมาแล้ว อาการของมารดาดีขึ้นอย่างที่น้องสาวบอกเขามาในจดหมาย
เพียงแต่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ หมอที่ดีที่สุดในหมู่บ้านบอกแก่เขาว่า หากต้องการให้เรเซียมีสุขภาพที่ดีกว่านี้
ไม่กลับไปทรุดอีกก็ต้องบำรุงด้วยยาดีอย่างสม่ำเสมอ

ของดีไม่มีถูก ฟีเรียสเข้าใจเรื่องนี้ดี

ปัญหาคือเรื่องเดิมๆ... เงิน

ขณะที่เขากำลังกลุ้มใจ มิทรอสก็เอางานใหม่มาให้เขาพอดี ฟีเรียสแปลกใจอยู่บ้าง
เพราะปกติคุณชายหนุ่มจะใช้ให้คนของเขาเอามาให้

อย่างไรก็ดี ทันทีที่อ่านรายการจ้างงานที่อีกฝ่ายเอามาให้เลือกจบ เขาก็เข้าใจทันทีว่าทำไมอีกฝ่ายจึงต้องเอามาให้เอง

รายการสุดท้ายเป็นงานที่ดูจะง่ายที่สุด ทว่าตัวเลขค่าจ้างกลับสูงโดดเด่นกว่าทุกรายการอย่างน่าตกใจ

นักเรียนองครักษ์หนุ่มชั่งใจอยู่นาน ก่อนจะกลืนน้ำลาย

... กลืนน้ำลายตัวเอง...

“งานนี้” ชายหนุ่มชี้ “ข้าตั้งเงื่อนไขได้ไหมครับ”

มิทรอสเลิกคิ้ว งานง่าย เงินดีอย่างนี้ยังจะกล้าเสนอเงื่อนไขอีกหรือ

“ว่ามาสิ ข้าจะไปกราบทูลให้ ได้ไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินพระทัย”





ฟีเรียสได้งานใหม่แล้ว เป็นงานระยะยาวที่เขาต้องทำไปอีกตลอดสามเดือน... หากว่าไม่มีปัญหากับนายจ้างเสียก่อน
แต่เขาต้องการเงินจริงๆ คราวนี้คงได้แต่พยายามไม่ทำตัวมีปัญหา

‘กระหม่อมไม่ได้ขายตัว’

เขาเคยถ่มน้ำลายขึ้นฟ้าอย่างทระนงตั้งแต่ที่ได้พูดคุยกับ ‘ฟ้า’ เป็นครั้งแรก
ถึงจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่ในที่สุดน้ำลายที่เขาเคยถ่มก็ตกลงมาสู่หน้าของตัวเขาเอง

สุดสัปดาห์นี้เขาไม่ได้กลับบ้าน บ้านริมผาเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนหากว่าต้องการเงินจำนวนมากภายในเวลาอันรวดเร็ว

ทั้งที่เตรียมใจมาแล้วก็ยังอดชะงักไม่ได้เมื่อเห็นม้าสีขาวปลอดตัวคุ้นตายืนอยู่ในคอกหลังบ้าน
โดยมีเจ้าของมันทรงยืนอยู่ใกล้ๆ กัน

ฟีเรียสลงจากหลังม้า ค้อมกายถวายความเคารพอย่างที่เขารู้ตัวดีว่าต่ำเป็นพิเศษ นานเป็นพิเศษ
เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีสีพระพักตร์แบบไหน รู้สึกยังไง แต่พระองค์ไม่รับสั่งอะไรเลย
ปล่อยให้เขายืดกายขึ้นมาเอง ตัดสินใจเอาม้าไปเข้าคอกเอง แล้วเดินกลับมาเผชิญหน้า

นักเรียนองครักษ์หนุ่มมองสบสายพระเนตรแวบหนึ่งแล้วมองตรง แต่ไม่มองหน้า

สงสัยว่าวันนี้เจ้าชายหกแห่งไมซีนคงจะทรงลืมเอาเสียงมา

“ฝ่าบาทเสด็จมานานแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”

เขาพูดก่อนก็ได้ เป็นลูกจ้างก็ต้องเอาใจนายจ้างสินะ

“ก่อนหน้าเจ้าเดี๋ยวเดียว” สองชั่วโมง

“จะโปรดให้กระหม่อมทำอะไรบ้างพระเจ้าค่ะ”

ข้อความที่ปรากฏในรายการจ้างงานคือ ‘อยู่เป็นเพื่อนเที่ยวในวันหยุดของเจ้าชายหก’
แวบแรกที่คิดขึ้นมาทันทีที่เห็นข้อความก็คือ

‘ไม่มีใครคบรึไง ถึงต้องจ้างนักเรียนองครักษ์คนหนึ่งไปเป็นเพื่อนเที่ยว’

แต่เขาก็ยังตอบตกลง บ้าแท้ๆ

“กินมื้อเช้ามารึยัง”

“เรียบร้อยแล้วพระเจ้าค่ะ” ยัง

“งั้นก็กินเป็นเพื่อนข้าหน่อย”

พออยู่ในฐานะนายจ้างก็ไม่ต้องถามความสมัครใจของเขาสินะ เพราะไม่ว่าจะสั่งอะไร เขาก็มีแต่ต้องทำตามเท่านั้น

ถึงจะไม่ได้มาเกือบสามเดือนแล้ว แต่บ้านหลังนี้ก็ดูจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย
ราวกับว่าเวลาของที่นี่หยุดนิ่ง บรรยากาศโดยรอบยังคงร่มรื่น
ถึงจะใกล้เข้าฤดูร้อนแล้ว แต่สายลมที่พัดมาในเวลาเช้าของปลายฤดูหนาวอย่างนี้ยังคงเย็นไม่ต่างจากครั้งสุดท้ายที่มาอยู่
มุขหน้าบ้านดูสะอาดสะอ้านดี คงเพราะมีคนมาทำความสะอาดเป็นประจำ ไม่ใช่ผลงานที่เขาทำไว้เมื่อคราวก่อน

ห้องครัวยิ่งเหมือนเดิม เขาจำได้หมดว่าอะไรอยู่ตรงไหน

“เจ้าจัดโต๊ะ ข้าจะไปเก็บดอกไม้มาใส่แจกัน ตกลงไหม”

“ไม่เป็นไรพระเจ้าค่ะ ฝ่าบาทประทับเถิด กระหม่อมจัดการเอง”

อย่าพยายามทำอะไรให้เหมือนก่อน อย่าทำให้เขาต้องคิดถึงวันเวลาที่เคยมีร่วมกันมา

เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวล

“จัดสองที่ เผื่อตัวเจ้าเองด้วย”

รับสั่งแล้วก็เสด็จออกไปนอกห้องพร้อมกับกรรไกรตัดดอกไม้

ถ้าคิดจะเอาแต่ใจตั้งแต่แรกอยู่แล้วยังจะมาถามเขาอีกทำไมว่า ตกลงไหม





กินเสร็จก็นั่งย่อย นอนย่อย รับลมชมนกชมไม้อยู่ในสวนข้างบ้าน
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำเอาผู้ถูกว่าจ้างรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเป็นกำลัง
ฟีเรียสอดทนสงบปากสงบคำอยู่นาน ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงโดยปราศจากบทสนทนาและกิจกรรมอื่น
ในที่สุดนักเรียนองครักษ์หนุ่มก็ทนไม่ไหว

“ฝ่าบาท”

“หือ”

ประกอบรับสั่งตอบรับคือการแย้มพระสรวล ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่คนมองเห็นรู้สึกขัดหูขัดตาเหลือเกิน
เหมือนพระองค์จะรับสั่งผ่านรอยยิ้มออกมาได้ว่า

‘ข้านึกอยู่แล้วว่าเจ้าต้องทนไม่ได้’

“กระหม่อมขอประทานพระอนุญาต บังอาจทูลถามสักเรื่องได้ไหมพระเจ้าค่ะ” ทั้งที่ว่าจะไม่ถามแล้วแท้ๆ

“หลายเรื่องก็ได้”

คนฟังเกือบจะสบถออกมา ว่าเขาไม่ใช่พูดหญิง อย่าพูดแบบคนใจดีแบบนี้กับเขาให้บ่อยนักเลย

“ทรงทำอย่างนี้เพราะมีพระประสงค์จะทำบุญ ช่วยเหลือคนยากจนอย่างกระหม่อมใช่ไหม”

พระพักตร์อย่างคนอารมณ์ดีของเจ้าชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึม ก่อนจะทรงเงียบนาน

ฟีเรียสได้ข้อสรุปให้กับตัวเอง เขารู้ล่ะว่าเขาไม่ควรถาม

“กระหม่อม...” ขอประทานอภัย

“ฟีเรียส”

“...พระเจ้าค่ะ”

“ถ้าข้าตอบ เจ้าพร้อมจะเชื่อข้าไหม” ฟีเรียสขยับปาก แต่ไม่ทันได้พูด

“หรือว่าเจ้ามีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องถามข้า”

นักเรียนองครักษ์หนุ่มเม้มปากเกือบเป็นเส้นตรง

เพราะเป็นเจ้าชายหรือไง เพราะฉลาดกว่า หรือเพราะว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนเขาถึงแปดปี
พระองค์ถึงได้ทรงดักทาง รู้ทันเขาไปเสียทุกอย่าง

“กระหม่อมจะเชื่อฝ่าบาท”

“ข้ารวย เจ้ารู้ไหม”

เพราะคิดว่าเป็นแค่ประโยคบอกเล่าจึงนั่งฟังเฉย กว่าจะรู้ว่าต้องตอบอีกฝ่ายก็มองหน้าเขาอยู่เกือบครึ่งนาที

“ทราบพระเจ้าค่ะ”

“แม่ข้าเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านตา ตาของข้าเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก
ข้ารับมรดกของท่านมาทั้งหมด กำไรจากการค้าขายในแต่ละปีมากถึงหนึ่งในสิบของภาษีหลวงทั่วทั้งแคว้น”

ยิ่งฟัง ฟีเรียสยิ่งเครียด มาบอกเขาทำไม

“ข้ามีเงินมาก อยากจะได้อะไรก็ใช้เงินซื้อ”

นั่นสินะ แม้แต่ตัวเขา พระองค์ก็...

“ยกเว้นตัวเจ้า”

เจ้าชายหนุ่มทรงถอนพระทัยเบาๆ

“ข้าแค่ใช้เงินซื้อความสุขให้ตัวเอง เจ้าจะคิดยังไงก็ได้ แต่อย่าคิดว่าข้าซื้อตัวเจ้า หรือทำบุญทำทานให้เจ้า”

ฟีเรียสกัดฟัน รู้สึกว่าขอบตาและปลายจมูกร้อนกว่าส่วนอื่นบนหน้า เจ้าชายรามิเรสสบตาเขาแล้วก็รับสั่งถามอ่อนโยน

“ได้ไหม”

นักเรียนองครักษ์หนุ่มมองสบสายพระเนตรนิ่งนาน... ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

เจ้าชายหนุ่มแย้มพระสรวลพึงพระทัย

“มีอะไรจะถามอีกไหม”

ฟีเรียสพยักหน้า “ฝ่าบาททรงจ้างกระหม่อมมาทำอะไรพระเจ้าค่ะ”

“ทำให้ข้ามีความสุข”

ครั้นทอดพระเนตรเห็นสีหน้าหวาดระแวงของอีกฝ่าย พระองค์ก็ทรงพระสรวล
ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เห็นสีหน้าแบบนั้นของเขา พระองค์ก็อารมณ์ดี

“ก็เป็นเพื่อนเที่ยวอย่างที่บอก เพียงแต่บางวันอาจจะแค่อยู่เป็นเพื่อนกันที่นี่” เว้นวรรคแล้วก็รับสั่งถาม

“เจ้าอยากจะไปเที่ยวไหนรึเปล่า”

รับสั่งถามราวกับว่าเขาเป็นคนจ้างพระองค์มาเป็นเพื่อนเที่ยว

“กระหม่อมมาทำงานพระเจ้าค่ะ”

“เจ้าอยากจะไปเที่ยวไหนรึเปล่า”

ถามซ้ำ ประโยคเดิม น้ำเสียงแบบเดิมเปี๊ยบ ฟีเรียสเพิ่งตระหนักว่าเขาคิดผิดอย่างใหญ่หลวงเสียแล้วที่เห็นว่างานนี้เป็นงานง่าย

งานง่าย เงินงาม ไม่มีที่ไหนในแผ่นดิน แค่คุยกับพระองค์เขาก็เหนื่อยไปแล้ว

“สุดแท้แต่พระทัยพระเจ้าค่ะ”

“เจ้าอยาก...”

ฟีเรียสลุกจากเปลแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันที เจ้าชายรามิเรสทรงชะงัก
จะรับสั่งตำหนิสักประโยค แต่สุดท้ายก็ได้แต่แย้มพระสรวลแบบทั้งขำทั้งเหนื่อยใจ
ทั้งพระองค์เองที่ทำเหมือนเด็กเอาแต่ใจ กับอีกฝ่ายที่จริงจังเหลือเกินกับคำถามง่ายๆ แค่นี้

เข้าพระทัยแล้ว ว่าสำหรับคนคนนี้ การจะให้เขาบอกความต้องการของตัวเองออกมาสักประโยคช่างเป็นเรื่องยากเย็น

แต่ก็แปลกเหลือเกิน กับคนที่ไม่อยากจะร้องขออะไรเลยสักอย่างเดียว พระองค์กลับยิ่งอยากจะให้ อยากจะตามใจ

“เคยไปสวนพฤกษศาสตร์ไหม” หวังว่าคำถามนี้จะง่ายขึ้น

“ที่นอกเมืองหรือพระเจ้าค่ะ”

“ใช่”

“เคยไปสองครั้งพระเจ้าค่ะ”

“ชอบไหม” อีกฝ่ายลังเล “ต้องคิดนานหรือ”

“ชอบพระเจ้าค่ะ”

“งั้นไป”





สวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในไมซีนตั้งอยู่ที่เมืองหลวงบริเวณชานเมือง
เป็นสวนที่เจ้าชายพระองค์ใหญ่แห่งไมซีนมีพระดำริให้สร้างขึ้น
ปลูกพันธุ์ไม้ต่างๆ ไว้มากมาย แทบจะทุกชนิดที่มีในไมซีน
แบ่งเขตเป็นสวนฤดูร้อน ฤดูหนาว และฤดูฝน จัดแต่งไว้อย่างสวยงามน่าชม
มีทั้งเรือนกระจก เขาวงกต ซุ้ม อุโมงค์ แม้กระทั่งป่าจำลอง ตอนสายๆ อย่างนี้แสงแดดจัดจ้าอยู่ไม่น้อย

ฤดูหนาวในไมซีนก็อย่างนี้ ไม่ค่อยจะหนาวจริง

ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของทางการ เปิดให้ประชาชนทุกคนเข้ามาหาความรู้หรือพักผ่อนหย่อนใจได้ทุกวัน
ตั้งแต่เช้าถึงเย็น วันนี้มีคนมาเที่ยวกันมากพอสมควร มาเป็นครอบครัวก็มาก มาเป็นคู่รักก็เยอะ
แต่ผู้ชายสองคนมาด้วยกันนั้นฟีเรียสยังไม่เห็น

แม้จะไม่ได้เป็น ‘แม่บ้านแม่เรือน’ แต่นักเรียนองครักษ์หนุ่มก็ทำอาหารเป็น
เขาเตรียมอาหารง่ายๆ ใส่ตะกร้าใบใหญ่มาด้วย ไม่ได้อยากจะแสดงฝีมือทำอาหารแล้วบังคับให้อีกฝ่ายต้องเสวย
เพียงแต่เขาเคยมีประสบการณ์มาก่อน ที่นี่ไม่ค่อยมีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของ
เพราะคนส่วนใหญ่ที่มากันเป็นครอบครัวหรือเป็นคู่รักมักจะเตรียมอาหารกันมาเอง
คราวก่อนที่เขามาตัวเปล่ากับเพื่อนที่สนใจเรื่องเดียวกันอีกสามสี่คนต้องทนหิ้วท้องกลับไปกินอาหารที่โรงอาหารของโรงเรียน

แต่วันนี้เขาได้ประสบการณ์ใหม่

เจ้าหน้าที่ที่นี่ดูจะรู้จักเจ้าชายหกแห่งไมซีนเป็นอย่างดี
เขาไม่ต้องเดินถือตะกร้าตามเสด็จเพราะพระองค์ทรงฝากมันไว้กับเจ้าหน้าที่
หลังจากเดินเที่ยวชมได้ไม่กี่นาที หัวหน้าสวนก็กระวีกระวาดมาถวายความเคารพแล้วทูลขอประทานอภัย
ที่ไม่ได้มารับเสด็จตั้งแต่แรก เจ้าชายรามิเรสต้องรับสั่งซ้ำหลายประโยค
กว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจว่าพระองค์ไม่ต้องการอะไรเลยนอกจาก

‘เดินเล่นกับเพื่อน’

แน่ล่ะว่านั่นเป็นฐานะที่พระองค์ทรงยัดเยียดให้เขาแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาไม่เคยเออออห่อหมกด้วย

สวนพฤกษศาสตร์นั้นไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เขียวครึ้ม เย็นตาไปหมด
มีแผ่นหินจารึกชื่อและสรรพคุณของต้นไม้ดอกไม้ชนิดต่างๆ เอาไว้ให้ศึกษา
เจ้าชายรามิเรสหยุดอ่านเป็นบางครั้งเมื่อพบต้นไม้ที่แปลกตา ฟีเรียสพยายามรักษาระยะห่าง
ทว่าเมื่ออีกฝ่ายเดินเงียบๆ เขาก็เผลอเข้าใกล้พระองค์มากกว่าที่คิดโดยไม่รู้ตัว
เหตุเพราะพยายามจะอ่านข้อความบนแผ่นหินด้วย

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ฝ่ายนั้นทรงหันมา เลิกพระขนงขึ้นนิดหนึ่งแต่ทำเอาเขาหน้าร้อน ก่อนจะทรงทำอะไรสักอย่างกับไหล่ของเขา

“ใบไม้”

ให้ตาย ก็แค่เจ้าชายหยิบใบไม้ออกจากเสื้อให้เท่านั้น ถึงกับใจสั่นเป็นสาวน้อยไปได้

เขานี่ท่าจะใกล้บ้า



เมื่อเจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์มากราบทูลว่าได้เตรียมจัดโต๊ะเสวยไว้เรียบร้อยแล้ว
เจ้าชายหกก็ตรัสชวน ‘เพื่อนเที่ยว’ ไปกินมื้อกลางวัน

สถานที่ตั้งโต๊ะเสวยคือในศาลาไม้หลังใหญ่ที่มีไม้เลื้อยพาดพันอยู่แทบทั้งหลัง
ออกดอกสีเหลืองเหลือบชมพูพราวสะพรั่ง หัวหน้าสวนยืนรออยู่ก่อนแล้ว
เจ้าชายหนุ่มจึงตรัสชวนให้เขาร่วมโต๊ะเสวยด้วย

ฟีเรียสมองอาหารร้อนๆ หน้าตาน่าทานที่วางอยู่เต็มโต๊ะแล้วก็หน้าขรึมไปนิดหนึ่ง

เขาน่าจะรู้ ว่ามากับเจ้าชายไม่มีวันเสียล่ะที่จะอด ทั้งที่เจ้าชายหกรับสั่งบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องเตรียมอาหารมา
แต่เขาก็ยังยืนกรานทำมา ดันทุรังจนน่าขายหน้า

หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์เป็นชายวัยกลางคนที่มีความรู้ดีในงานของตน ทั้งยังเป็นคนรู้จักพูดอย่างพอเหมาะ
ทำให้นักเรียนองครักษ์หนุ่มฟังเพลินและอารมณ์ดีมากทีเดียว และเพราะฟังเพลินนี่เองถึงได้ลืมกิน
แต่ถึงเขาไม่กินก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับกระเพาะของเจ้าชายหก

ทำไมจะต้องหยิบอะไรมาใส่จานของเขาด้วย

หัวหน้าสวนทำหน้าสงสัยอย่างปิดไม่มิดขนาดนั้นน่ะ เห็นบ้างมั้ย

“ช่วยข้ากินที กินคนเดียวท่าจะแย่”

สงสัยจะไม่เห็น เพราะทำราวกับว่าตรงนี้มีเขากับพระองค์อยู่แค่สองคน

ว่าแต่ แซนด์วิชที่อยู่ในจานของเขานี่มัน...

“ฝ่าบาทโปรดแซนด์วิชหรือพระเจ้าค่ะ”

หัวหน้าสวนกราบทูลถาม ฟีเรียสนิ่วหน้านิดหนึ่ง ก่อนมองไปในตะกร้า

บ้าน่า เขาทำมาเต็มตะกร้า ทำไมมันเหลือน้อยขนาดนั้น

“ก็กินได้ ทำไมหรือ”

“ไม่มีอะไรพระเจ้าค่ะ กระหม่อมเพียงแต่คิดว่าบางทีฝ่าบาทอาจจะไม่โปรดอาหารจำพวกผัก
ถ้าเป็นเช่นนั้นกระหม่อมจะได้สั่งให้พ่อครัวทำอาหารอย่างอื่นขึ้นมาถวายเพิ่มพระเจ้าค่ะ”

อาหารบนโต๊ะทำมาจากผักเสียเป็นส่วนใหญ่ และเจ้าของสถานที่ก็กราบทูลตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็นผักที่ปลูกไว้ในสวนแห่งนี้ทั้งสิ้น

“ข้าชอบ ฝากชมพ่อครัวของเจ้าด้วยว่าทำอร่อย แต่ที่กินมากไม่ได้เพราะต้องเผื่อท้องไว้กินของที่เตรียมมาด้วย”

“แซนด์วิชเย็นๆ ไม่ต้องเสวยก็ได้”

ฟีเรียสสาบานได้ ว่านี่เป็นอีกครั้งที่เขาพูดก่อนคิด เห็นหัวหน้าสวนมองเขาอย่างแปลกใจแล้วชายหนุ่มก็สำนึกตัวว่าไม่ควรพูด

ทว่าคนเป็นเจ้าชายกลับยิ้ม

“ต้องกินให้หมด ไม่อย่างนั้นคนทำจะเสียใจ กินสิ อร่อยนะ”

รับสั่งอย่างนี้เอาไว้ใช้ตอนจีบสาวโน่น พูดอย่างนี้กับเขา จะอ่อยเขารึไง

ฟีเรียสหยิบขึ้นมากัดคำหนึ่ง ขณะหัวหน้าสวนพูดยิ้มๆ อย่างคนไม่รู้อะไร

“แม่ครัวที่วังของฝ่าบาทโชคดีนะพระเจ้าค่ะ ที่ฝ่าบาททรงคิดถึงใจเขามากขนาดนี้”

ฟีเรียสสำลัก




tbc.

*********************************

แมะ... ไม่อยากจะบอก แต่ก็เหมือนจะบอกไปแล้ว
ลุ้นให้ตายยังไงก็คงจะไม่มีอะไรกันหรอกค่ะคู่นี้ (นอกจากตอนแรกที่พลาดไปแล้ว)

ความสัมพันธ์ระหว่างกันก็ประมาณนี้... ไปเรื่อยๆ น่ารักเนาะ (ยังจะกล้าพูด...)

ตอบคุณ matame - ใช่ค่ะ ^^

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #302 เมื่อ16-04-2014 12:05:09 »

เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ดี คู่นี้ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #303 เมื่อ16-04-2014 12:20:28 »

ฝ่าบาทหยอดบ่อยขึ้นอ่ะ เค้าชอบ อิอิ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #304 เมื่อ16-04-2014 13:00:12 »

เจ้าชายรุก :m11: ถ้าเจ้าชายไม่บุกก่อน

คนอย่างฟีเรียสคงไม่กล้าเข้าหาเองแน่ๆ

เจ้าชายเกิดเป็นผู้นำต้องสู้ อย่ายอมแพ้ง่ายๆน้า :a2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #305 เมื่อ16-04-2014 13:04:49 »

แหม่ แบบนี้ที่แหละที่ชอบ ดูยากแต่มีคุณค่าดี

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #306 เมื่อ16-04-2014 13:56:12 »

เอาใจช่วยรามิเรสฝุดๆ
ลูกผู้ชาย ต้องรุกค่ะองค์ชาย ต้องรุก!!
จัดไปอย่าให้เสีย

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #307 เมื่อ16-04-2014 14:53:56 »

 :-[

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #308 เมื่อ16-04-2014 15:01:40 »

เรื่องดูเหมือนจะไม่มีอะไรเลยนะ ตัวละครหลักสองคน คนนึงเยอะคนนึงซึน nc ก็ไม่มี แต่ทำไมอ่านแล้วอ่านแล้วมันก๊าวใจมาก บิดไปบิดมาเลยทีเดียว
ฝีมือจริงๆ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #309 เมื่อ16-04-2014 15:08:37 »

แหม ถ้าเจ้าชายไม่รุก ก็ไม่รู้จะได้กันตอนไหนแหละ :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
« ตอบ #309 เมื่อ: 16-04-2014 15:08:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #310 เมื่อ16-04-2014 15:34:53 »

องค์ชายค่อยๆกล่อมไปแล้วกัน
เพราะฟีเรียสเป็นคนคิดมากคิดเยอะ
ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #311 เมื่อ16-04-2014 15:52:35 »

ไม่มีไรเกินเลย แต่ขอหวิดๆ บ้างจิ๊

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #312 เมื่อ16-04-2014 16:52:48 »

ต้องบอกกับตัวเองอีกแล้วว่า "พลาดอีกละที่ไม่อ่านเรื่องนี้"  :เฮ้อ:

ก่อนอื่นต้องบอกว่าชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ มันเรียบๆเรื่อยๆ แต่เป็นอะไรที่ "ค่อยเป็นค่อยไป" อย่างชัดเจน กำลังดีไม่มากไม่น้อย ถ้าเปรียบเป็นรสชาติอาหาร ก็คืออาหารที่ "กลมกล่อม" ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่มแล้ว เว้นแต่บางคนเช่นฟีเรียส ที่ชอบหวาน ก็อาจจะจิ้นหวานกันตามแต่ใจไป

ชอบเจ้าชายรามิเรสมากพอสมควรเลยค่ะ ดูอบอุ่น เรียบๆลื่นๆ แต่ก็น่าชื่นชมและมีความเป็น "เจ้าชาย" ในตัวเอง แต่เรื่องที่ชอบให้อยากให้ฟีเรียสจนเขาฉุนขาดเนี่ย อืม... มันก็นะ เว้นไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน

มาที่เรื่องของคู่หมั้นฮี แอบจุกเล็กๆ (ที่จริงก็จุกมาก) ตอนที่เจ้าชายบอกว่าอยากเป็นผู้ชายตัวเปล่า เพื่อจะได้ไปบอกใครอีกคนว่ารู้สึกพิเศษด้วย ตรงนี้ก็เป็นปัญหาที่ "ควรเร่งแก้ไข" อย่างด่วนๆเลย ไม่งั้นอาจเจอปัญหาจากฟีเรียสในตอนหลังได้นะ ขอบอกๆ

ถ้ามันไปกับคู่หมั้นไม่รอด ก็ค่อยๆถอยห่างออกมาซะ จนกระทั่งเขารู้ว่า "เขาไม่มีความสำคัญ" อีกต่อไป นั่นแหละก็อาจจะพอช่วยได้ ละมั้ง...

แต่อย่าลืมว่า ฟีเรียสคงไม่ยอมแน่ ถ้าเจ้าชายยังเป็นคนที่มีพันธะอยู่แบบนี้น่ะ


อุปสรรคมีเพื่อให้ข้ามไป สำหรับคนที่มีเป้าหมายอยู่หลังอุปสรรคนั้น เอาใจช่วยให้ทั้งสองคนไปรอด และเข้าใจกันเสียทีนะ สู้ๆทั้งสองคน


 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #313 เมื่อ16-04-2014 18:39:18 »

แหม่...ต้องให้คนอื่นพูด อีตาฟีเรียสถึงจะเข้าใจ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #314 เมื่อ16-04-2014 21:05:13 »

เจ้าชายหยอดไปเรื่อยๆเลยค่ะ  :o8:

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #315 เมื่อ16-04-2014 21:20:01 »

คู่นี้ต้องให้คนอื่นมาช่วยเพิ่มความหวาน 555

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #316 เมื่อ16-04-2014 22:57:23 »

ใส่ใจกันขนาดนี้แล้ว  :กอด1:

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #317 เมื่อ16-04-2014 23:50:26 »

ค่อยๆดูกันไปเรื่อยๆ ช้าๆเนิบๆ นี่ล่ะ ไม่ปวดตับดี ไม่มีฉากให้อิจฉา มีแต่ฉากให้ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะรู้สึกตัวกันซักที

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #318 เมื่อ18-04-2014 12:21:53 »

โอ๊ยยยย อ่านเรื่องนี้คิดถึงเจ้าชาย คาอิล สวรรค์ลำน้ำแดง


อยากได้บ้าง มีคนเข้าหาตั้งเยอะแยะไม่สนใจ สนใจแค่คนธรรมดาคนนึง ที่รู้สึกพิเศษ

รู้สึกดีจังงง

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #319 เมื่อ18-04-2014 15:03:35 »

 :katai5:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
« ตอบ #319 เมื่อ: 18-04-2014 15:03:35 »





ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #320 เมื่อ18-04-2014 16:25:50 »

นี้จะเรียกได้ว่า ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นได้ไหม

ออฟไลน์ Nemasis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #321 เมื่อ19-04-2014 02:05:55 »

อ่านทันแล้วววววว ชอบมากกกกก

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #322 เมื่อ19-04-2014 15:04:35 »

โฮรร เขินเจ้าชาย กรี๊ด ตอนนี้เจ้าชายทำดีค่ะทำดี

ออฟไลน์ poogan_zadd

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #323 เมื่อ19-04-2014 19:33:16 »

มาติดตามตอนใหม่ นี่เขามาเดทกันสินะคะ อร๊ายยยย
ชอบเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันมาก
เจ้าชายนี่เหมือนจะนิ่ง แต่ความจริงรุกหนักอยู่นะ รอฟีเรียสใจอ่อนเท่านั้น
ชอบบรรยากาศเรื่องมากๆค่ะ ฟินแปปป

ออฟไลน์ Pine_apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #324 เมื่อ19-04-2014 22:37:41 »

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

อยากจับมาแต่งเอง ไม่ได้ดั่งใจสักที  :laugh:

สนุกมากคร้าบบ ชอบภาษา :-[

รอตอนต่อปายยย  :katai5:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 16 (16 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #325 เมื่อ22-04-2014 10:38:50 »

คู่นี้นี่จะเอื่อยไปเรื่อยๆใช่ไหมเนี้ย แต่แบบนี่ก็ดีนะไม่ร้อนดี  :hao7:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 17 (24 เม.ย. 57) หน้า 11
«ตอบ #326 เมื่อ24-04-2014 11:08:25 »

บทที่ ๑๗

ก่อนกลับ หัวหน้าสวนถวายต้นใยรัก ซึ่งเป็นดอกไม้หายากและออกดอกยากสองต้น เจ้าชายรามิเรสตรัสขอบใจและรับสั่งว่าจะทรงพยายามดูแลเอาใจใส่ให้ออกดอกในเร็ววัน เจ้าของต้นไม้จึงกราบทูลยิ้มๆ อย่างคนที่พอจะคุ้นเคยกับพระอัธยาศัยคนใจดีอย่างพระองค์บ้างแล้วว่า

“ว่ากันว่ามันจะออกดอกเวลาที่คนปลูกมีความรักพระเจ้าค่ะ หากมันออกดอก กระหม่อมคิดว่าอาจจะได้ยินข่าวมงคลของฝ่าบาท”

เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวล

“อีกต้นหนึ่งจะประทานให้พระคู่หมั้นก็ได้พระเจ้าค่ะ หากสองต้นออกดอกพร้อมกันจะเป็นนิมิตหมายอันดี แต่ถึงจะไม่มีดอกก็ปลูกไว้เป็นไม้ประดับได้พระเจ้าค่ะ”

ฟีเรียสก็ได้รับสองต้นเช่นกัน ทว่าเขายังไม่ทันยื่นมือไปรับก็มีมารผจญ

“เขาออกจะอารมณ์ร้อนอยู่บ้าง บางทีอาจจะปลูกไม่รอด”

หัวหน้าสวนชะงัก ไม่แน่ใจว่าเจ้าชายหนุ่มมีพระประสงค์อะไร ทว่านักเรียนองครักษ์หนุ่มหน้าขรึมไปเรียบร้อยแล้ว

“จริงอย่างที่องค์ชายรับสั่ง คุณเวลธ์เก็บไว้ให้คนอื่นเถอะครับ ข้าเอากลับไปมันจะตายเปล่าๆ”

เจ้าของต้นไม้หายากขยับปาก นึกอยากจะพูดอีกสักสองสามประโยคว่าถ้ากลัวเลี้ยงไม่รอด อย่างน้อยเอาไปให้สาวที่ชอบช่วยเลี้ยงให้ก็ได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำให้เจ้าชายเจ้ากรมสรรพาวุธทรงขัดเคืองพระทัยหรือไม่ ขืนพูดอาจจะไม่คุ้มกัน ไหนๆ วันนี้เขาก็นับว่าประสบความสำเร็จ ทำให้พระองค์พอพระทัยการต้อนรับของเขาได้แล้ว

“งั้นก็ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าสนใจต้นไหนเป็นพิเศษก็บอกได้ ไม่ต้องเกรงใจกัน”

“ขอบคุณครับ” แต่เขาไม่เอา

คนอย่างฟีเรียสน่ะหรือ เขาไม่เกรงใจหรอก แต่เขาหยิ่งในศักดิ์ศรี

แค่ต้นไม้ต้นสองต้น เขาไม่ได้อยากได้จนตัวสั่น ต่อให้มันขายได้ต้นละหลายร้อยเหรียญก็เถอะ

แต่ก็นั่นแหละ ต้นไม้แค่ต้นสองต้น ทำไมเจ้าชายที่เขาสะบัดไม่หลุดจากชีวิตเสียทีนี่ถึงกับต้องขัดลาภเขาด้วย ต้นไม้ขององค์เองรึก็ไม่ใช่




ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างเดินทางกลับ ขี่ม้ากันคนละตัว เกือบจะเคียงข้างกันทว่าฟีเรียสรั้งหลังอยู่เล็กน้อย นักเรียนองครักษ์หนุ่มไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยในเรื่อง ‘ลาภผล’ เขาจึงไม่รู้สึกอะไรเมื่ออีกฝ่ายส่งต้นอ่อนของไม้ยืนต้นดอกสวยทั้งสองต้นให้เขาเป็นผู้ถือกลับไป ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ของเขา

“ข้าชอบมาที่นี่ตอนที่ต้องการพักผ่อน หรือไม่ก็มีเรื่องคิดไม่ตก มองต้นไม้เขียวๆ แล้วอารมณ์เย็นขึ้น มาทีไรข้าเดินเล่นเงียบๆ คนเดียวได้เป็นวัน” ทรงพระสรวลเบาๆ นิดหนึ่งแล้วจึงว่า “แต่ก็ไม่เคยได้เดินคนเดียวจริงๆ สักที หัวหน้าสวนคนก่อนก็ต้อนรับดีอย่างนี้เหมือนกัน”

เมื่อไม่มีเสียงตอบ เจ้าชายหนุ่มก็หันมามองหน้าคนร่วมทาง

“เป็นอะไร ทำไมไม่ตอบ เคืองที่ข้าทำให้เจ้าไม่ได้ต้นไม้สองต้นนั่นหรือ”

“หามิได้พระเจ้าค่ะ”

หาเรื่องกันชัดๆ เขาไม่ใช่เด็กขนาดนั้น แล้วตั้งแต่เขาฟังมายังไม่เห็นว่าประโยคไหนเป็นประโยคคำถาม จะให้เขาตอบอะไร

“หาอะไรไม่ได้”

คราวนี้ฟีเรียสถึงกับจ้องหน้า นี่จะหาเรื่องกันจริงๆ ใช่ไหม ชักจะกวนกันเกินไปแล้วนะ

เจ้าชายรามิเรสทรงพระสรวลเบาๆ แล้วก็กระตุ้นม้าให้ออกวิ่งเร็วขึ้นโดยไม่ได้ทรงรอคำตอบ ทิ้งให้นักเรียนองครักษ์หนุ่มบ่นงึมงำ

“ท่าจะบ้า”

ก่อนจะกระตุ้นม้าตามไปบ้าง




คืนนี้ฟีเรียสพักที่บ้านริมผา ‘ตามเงื่อนไข’ ของการว่าจ้าง นั่นคือเขาจะต้อง ‘รับจ้าง’ ครั้งละสองวันและพักค้างคืนที่นี่กับพระองค์ด้วยทุกครั้ง ความกระอักกระอ่วนใจที่เขาคิดว่าอาจจะเกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิด เพราะหลังจากกินอาหารเย็นด้วยกันแล้ว เจ้าชายหนุ่มก็โปรดให้เขาไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนได้เลย ก่อนขึ้นห้องพัก ยังส่งต้นไม้หายากความสูงเท่าศอกให้เขา

“ให้เจ้าต้นหนึ่ง”

ฟีเรียสเงียบไปสองวินาที

“ให้ทำไมพระเจ้าค่ะ”

“จะให้ข้าเลี้ยงสองต้นเลยหรือ”

“ก็ประทานให้พระคู่หมั้น”

“ข้าตั้งใจจะให้เจ้า”

ฟีเรียสเงียบไปอีกห้าวินาที แต่สงสัยสีหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยความคลางแคลง อีกฝ่ายจึงรับสั่งเพิ่ม

“ที่ไม่ให้เจ้ารับมาอีกก็เพราะข้ารับมาแล้ว ข้าต้นหนึ่ง เจ้าต้นหนึ่ง รวมเป็นสองต้น ก็น่าจะพอแล้ว” เว้นไปครู่หนึ่งจึงถาม “หรือเจ้าอยากจะได้อีกต้นไปให้ใคร”

“หามิได้พระเจ้าค่ะ” ทำไมต้องทำหน้าเคร่งขนาดนั้นด้วยเล่า

“หาไม่ได้ก็ดี”

คราวนี้พระสุรเสียงเบา ทำเอาฟีเรียสงงๆ ไปเหมือนกัน ก่อนจะเสด็จเข้าห้องบรรทมไปก่อน เจ้าชายหนุ่มยังรับสั่งทิ้งท้าย

“ออกดอกเมื่อไหร่อย่าลืมบอกข้า ถ้าสองต้นออกดอกพร้อมกันก็คงวิเศษ”

ฟีเรียสยืนนิ่งอยู่หน้าประตู

เขาสงสัยตงิดๆ มาหลายหนแล้ว

เจ้าชายหกทรงจีบเขาใช่ไหม?




ยังหัวค่ำอยู่มาก ฟีเรียสจึงนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทั้งที่การนอนแต่หัวค่ำไม่ใช่เรื่องผิดปกติของเขา คืนไหนต้องทำกิจกรรมดึก คืนถัดมาก็นอนแต่หัวค่ำเป็นการชดเชยได้ แต่คืนนี้อาจจะเพราะแปลกที่ เตียงนี้ไม่ได้นอนมาสองสามเดือนแล้ว จะเป็นเพราะเสื้อผ้าชุดที่สวมอยู่ก็ไม่น่าใช่ มันใส่สบายดี แล้วเขาก็ไม่ได้คิดมากเรื่องที่ว่ามันเป็นชุดที่เจ้าชายหกซื้อประทานให้อีกแล้ว หรือจะเป็นเพราะเขาคิดมากที่ได้เงินจำนวนมากทั้งที่ดูเหมือนจะไม่ได้ทำงานอะไรเลย

ไม่หรอก เจ้าชายหกรับสั่งแล้วว่าพระองค์รวย เพราะฉะนั้นถ้าพอใจจะใช้เงินขนาดนี้ซื้อ ‘ความสุข’ แบบนี้ก็ช่างพระองค์ปะไร ถึงเขาจะรู้สึกทะแม่งๆ กับคำว่า ‘ความสุข’ ก็เถอะ

แล้วเขานอนไม่หลับเพราะอะไรล่ะ นี่มันโรคคนแก่แท้ๆ ถ้าอีกฝ่ายนอนไม่หลับสิถึงจะปกติ เพราะอายุมากกว่าเขาตั้งแปดปี นี่ไม่ได้ตั้งใจจะสอดรู้หรอกนะ แค่ได้ยินคนอื่นพูดเท่านั้น

“แกะตัวที่หนึ่ง...” ฟีเรียสเริ่มงึมงำ “แกะตัวที่สอง... ตัวที่สาม... ตัวที่สี่...” ชายหนุ่มหลับตา

“ตัวที่ยี่สิบห้า...”

แล้วภาพในจินตนาการก็พลันเปลี่ยนไป

“เจ้าชายหกตัวที่หนึ่ง... เจ้าชายหกตัวที่สอง... หึหึ... ฮ่ะๆๆๆๆ”

ภาพเจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงย่อองค์กระโดดข้ามรั้วทำเอาคนมีจินตนาการล้ำเลิศหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง

กลายเป็นว่าตื่นเต็มตาแล้วทีนี้

ตื่นไม่พอ ยังหิวอีก ฟีเรียสจึงลงไปที่ครัว หาเครื่องดื่มให้ตัวเองแล้วถือขึ้นมาบนห้อง เปิดประตูไปสู่ระเบียงแล้วเอาเก้าอี้นั่งกึ่งนอนออกไปด้วยเพื่อที่จะพบว่า

คนห้องข้างๆ ก็กำลังนอนดูดาวอยู่เหมือนกัน

เขามองแก้วไวน์ในพระหัตถ์ ส่วนฝ่ายนั้นก็มองแก้วนมในมือของเขา

ถูกเห็นเข้าแบบนี้แล้ว จะถือแก้วนม ลากเก้าอี้เข้าไปในห้องก็คงจะไม่ได้แล้วสินะ

“นอนไม่หลับหรือ”

โชคดีที่ไม่ต้องหาเรื่องพูดขึ้นก่อน

“พระเจ้าค่ะ”

“ข้าก็เหมือนกัน”

ฟีเรียสพยักหน้า แต่คิดในใจ... ใครถาม ชายหนุ่มจำใจนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ลากออกมา และเพราะไม่มีโต๊ะตัวเล็กเอาไว้วางแก้วเหมือนอีกฝ่ายจึงต้องถือแก้วนมเอาไว้

ยิ่งรู้สึกว่าเด็กกว่าอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก ดีที่พระองค์ไม่ตรัสถามเขาว่า

“ชอบนมหรือ”

นั่นไง

“ก็กินได้พระเจ้าค่ะ”

ดีที่อีกฝ่ายไม่ยิ้มอย่างที่อาจจะทำให้เขาเข้าใจว่าพระองค์ทรงเยาะ อย่างไรก็ตาม ฟีเรียสคิดว่าเขาคิดว่าคงจะนั่งตรงนี้อีกไม่นาน
“ข้างนอกนี่เย็นกว่าข้างในมาก เอาผ้าห่มออกมาด้วยสิ”

“กระหม่อมคงจะนั่งไม่นานพระเจ้าค่ะ”

“อึดอัดที่ข้านั่งอยู่ด้วยหรือ”

บางครั้งคนเราก็ไม่ต้องพูดสิ่งที่คิดออกมาทั้งหมดก็ได้มั้ง โดยเฉพาะถ้าพูดแล้วทำให้คนฟังลำบากใจที่จะตอบ ไม่มีใครสอนพระองค์บ้างรึไง

“ไม่ใช่พระเจ้าค่ะ” ถ้าเขาจะบาปเพราะพูดโกหก ขอให้บาปกรรมทั้งหมดตกไปอยู่กับเจ้าชายหกแห่งไมซีนด้วยเถิด ในฐานะที่พระองค์เป็นคนทำให้เขาต้องพูด สาธุ

“ถึงนั่งไม่นานก็อาจจะไม่สบายได้ เข้าไปเอาผ้าห่มออกมาตามที่ข้าบอกล่ะดี”

สั่งจริงๆ สั่งได้สั่งดี

ฟีเรียสกลับเข้าไปในห้องแล้วออกมาหลังจากสวมเสื้อตัวหนาทับชุดที่ใส่นอนอีกชั้นหนึ่ง ทีพระองค์ยังแค่สวมฉลองพระองค์คลุม เรื่องอะไรเขาจะเอาผ้าห่มออกมาห่อตัวเป็นเด็กๆ ให้อีกฝ่ายดูถูก

เจ้าชายรามิเรสทอดพระเนตรคนที่ทำตามรับสั่งแบบครึ่งๆ กลางๆ แล้วก็ไม่ได้ตรัสว่าอะไร จิบไวน์ของพระองค์ไปเรื่อยๆ ฟีเรียสไม่ได้ตั้งใจจะมอง แต่เขาก็คิดว่า

กระดกสองทีก็หมดแก้วแบบนั้นไม่น่าจะเรียกว่าจิบ

หวังว่าเมาแล้วคงไม่โหด

นักเรียนองครักษ์หนุ่มจิบนมของตัวเองบ้างก่อนที่มันจะหายอุ่น หลังจากนั่งมองดาวเงียบๆ อยู่สักพัก ความรู้สึกอึดอัดในตอนแรกก็หายไปจนหมดแม้จะยังรับรู้อยู่ตลอดเวลาว่ามีคนข้างห้องนั่งอยู่ด้วยก็ตาม

นานๆ ไปก็รู้สึกเหมือนก้นมีรากงอกออกมายึดติดกับเก้าอี้ จะลุกก็ลุกไม่ขึ้น เปลือกตาก็หนักเต็มที ในที่สุดก็ผล็อยหลับไป นานเท่าไหร่ไม่รู้ ตื่นอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเรียก

“ฟีเรียส”

ในสายตาที่ยังพร่ามัว เขามองเห็นว่าพระพักตร์ของอีกฝ่ายดูจะหล่อเหลาเป็นพิเศษ เลือนๆ เหมือนภาพฝัน

“น้ำค้างเริ่มแรง เจ้าเข้าไปนอนข้างในเถอะ”

แปลกที่พอไม่เมาขี้ตาแล้ว ความหล่อเหลาน่ามองของอีกฝ่ายก็ยังไม่ลดลง ฟีเรียสจึงเดินกลับเข้าห้องไปทั้งที่หัวใจยังเต้นแรง
มีลางสังหรณ์ว่าอาจจะต้องนอนนับเจ้าชายหกอีกหลายตัว




นักเรียนองครักษ์หนุ่มตื่นตั้งแต่เช้า ตั้งใจว่าจะไปจ่ายตลาดคนเดียว ทว่าเจอใครบางคนออกกำลังกายด้วยการซ้อมกระบี่อยู่ที่ลานหน้าบ้านเสียก่อน ตอนที่เห็นพระองค์หันมาแล้วแย้มพระสรวลให้ เขาก็สังหรณ์ใจอยู่แล้ว ว่าคงจะไม่ได้ไปคนเดียว

“จะไปไหนหรือ”

“ไปจ่ายตลาดพระเจ้าค่ะ”

“ข้าไปด้วยได้ไหม”

“พระเจ้าค่ะ”

เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าถ้าตอบว่า ‘ไม่ได้’ จะเป็นยังไง

ตอนอยู่ที่บ้าน ฟีเรียสเป็นคนทำอาหาร ฉะนั้นเขาจึงเคยชินกับการไปซื้อของ บ่อยครั้งก็ไปกับน้องสาว แต่มาจ่ายกับข้าวกับเจ้าชายนี่เพิ่งเคยเป็นครั้งแรก ไม่รู้จะมาทำอะไร อาศัยพึ่งพาอะไรก็ไม่ได้ เดินมาด้วยอย่างเดียว ถามว่าอยากกินอะไรก็ว่า อะไรก็ได้ จะช่วยเลือกผักเลือกเนื้อรึก็เปล่า ความรู้เรื่องเครื่องเทศก็ไม่มี แถมยังให้เขาถือของอยู่คนเดียว ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะให้พระองค์ช่วยถือหรอกนะ เพียงแต่... อย่างนี้มาคนเดียวไม่ดีกว่าหรือ

ผู้ชายสองคนมาซื้อกับข้าวด้วยกันมันออกจะแปลกไปหน่อย แต่ก็ช่างเถอะ เพราะคนแถวนี้ไม่มีใครรู้จักเขา

แต่การมีผู้ชายหน้าตาดีที่มีกลิ่นเหงื่ออ่อนๆ มาเดินอยู่ข้างๆ แถมหันไปมองหน้าทีไรก็ยิ้มให้ทุกทีนี่มันก็...

“มีใครเคยบอกไหม”

ฟีเรียสหันไปมองพระพักตร์ หลังจากรับเงินทอนค่าส้มเรียบร้อยแล้ว

“ว่าหน้าตาเจ้าเหมือนกำลังนินทาใครสักคนอยู่ตลอดเวลา”

รู้สึกเหมือนส้มจะหนักเพิ่มขึ้นอีกสักห้ากิโล คนถูกถามกระแอมให้คอโล่ง ขณะที่รู้สึกว่าหน้าร้อนเห่อ

“เพิ่งมีฝ่าบาทเป็นคนแรกพระเจ้าค่ะ”

“แสดงว่าเจ้านินทาแต่ข้าคนเดียวหรือ”

“พระ... เอ่อ...”

อีกฝ่ายแย้มพระสรวลกว้าง ดูขำขันอารมณ์ดีเสียเต็มประดา นี่เขาเพิ่งเล่นตลกให้พระองค์ดูใช่ไหม

“ต่อไปอย่านินทา”

ไปห้ามไฟไม่ให้มีควัน ห้ามพระอาทิตย์พระจันทร์ไม่ให้ส่องแสง ห้ามอายุให้หันหวนคืนได้เสียก่อนแล้วค่อยมาห้ามเขาจะดีกว่า

“เจ้าคิดยังไง รู้สึกยังไงก็บอกข้าตามตรงได้ พอใจหรือไม่พอใจอะไรก็พูดได้ ไม่ต้องกลัว”

โอเค เขาเข้าใจล่ะว่าพระองค์ต้องการสื่ออะไร เพียงแต่ ไม่ต้องทำน้ำเสียงนุ่ม สีหน้าอ่อนโยนขนาดนั้นก็ได้ นี่แหละที่เขากลัว รู้สึกว่าเขาจะเคยบอกไปแล้วนะ ว่าเขาชอบพระองค์ ถึงจะบอกอ้อมๆ ก็เถอะ แต่การบอกว่าคืนนั้นเขาเต็มใจน่ะ มันก็ไม่ได้แปลว่าชอบหรอกหรือ แล้วยังมาทำหน้าทำเสียงอย่างนี้อีก จะให้เขาหลงไปถึงไหน ต้องการอะไรทำไมถึงไม่บอกเขาบ้าง

มาทำให้เขาสับสนแบบนี้ทำไม

หรือเป็นเพราะเขาเอง ที่ไม่ยอมมาฟังคำตอบของพระองค์ตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน

“แบบนี้เลย”

ฟีเรียสขมวดคิ้ว เจ้าชายหนุ่มทรงชี้ให้หันไปมองข้างหลัง ตรงนั้นมีร้านขายกระจก

“ตอนที่เจ้านินทาข้า สีหน้าเจ้าจะฟ้อง”

แสดงออกชัดจริงๆ... ให้ตาย สีหน้าที่เข้มขึ้นนั่นคงแก้ยาก เอาเป็นว่าปั้นหน้าเฉยไว้ก่อนท่าจะดี

“เคยมีใครกราบทูลฝ่าบาทไหมพระเจ้าค่ะ”

“ว่าอะไร”

“ว่าฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องรับสั่งทุกอย่างที่ทรงคิดออกมาก็ได้”

อยากให้เขาพูดกับพระองค์ตามตรงใช่ไหม ได้ เขาจัดให้ ดูซิว่าจะกริ้วหรือไม่กริ้ว

เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวล สั่นพระเศียรเป็นเชิงปฏิเสธ

“เจ้าเป็นคนแรก”

ตา... ฟีเรียสภาวนา นอกจากน้ำเสียงและสีหน้าแล้ว ยังมีตาอีกอย่าง ได้โปรดอย่ามองเขาแบบนั้น มันทำให้เขารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ ชวนให้คิดว่าพระองค์ทรงมีความหมายแฝง




tbc.

**********************************************


ครั้งหนึ่งเคยคิดว่า จะตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า ใยรัก ทำนองว่าหมายถึงเยื่อใยบางๆ แต่เหนี่ยวแน่นที่ค่อยๆ ถักทอขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ถูกพันธนาการเอาไว้มั่นคงจนดิ้นไม่หลุด ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแน่น... ประมาณนั้นค่ะ แต่สุดท้ายก็... เอาวะ เอาเป็นชื่อพระเอกก็แล้วกัน ง่ายดี 

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 17 (24 เม.ย. 57) หน้า 12
«ตอบ #327 เมื่อ24-04-2014 11:55:56 »

ใยรัก ที่ร่วมกันค่อยๆถักขึ้นมาใช่มั้ย

ถึงตอนนั้นคงดิ้นไม่หลุดด้วยกันทั้งคู่

อยากอ่านสิ่งที่เจ้าชายหกทรงคิดบ้างจัง

ส่วนฟีเรียสหน่ะชอบเจ้าชายอยู่แล้ว แต่เป็นชอบที่ไม่อาจเอื้อม เลยออกไปทางไม่ค่อยกล้าอยู่ใกล้ๆสักเท่าไหร่

สร้างกำแพงป้องกันตัวเองเจ็บอยู่สินะ  :pig4: นักเขียนค่ะ

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 17 (24 เม.ย. 57) หน้า 12
«ตอบ #328 เมื่อ24-04-2014 12:03:01 »

 :mew1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 17 (24 เม.ย. 57) หน้า 12
«ตอบ #329 เมื่อ24-04-2014 12:10:33 »

ชอบที่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป


ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด