รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 349410 ครั้ง)

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #780 เมื่อ15-12-2014 18:20:08 »

ด้วยนิสัยของฟีเรียส เรียกว่าเป็นแบบทดสอบที่โหดเอาเรื่องเลยนะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #781 เมื่อ15-12-2014 18:25:21 »

ช่างซับซ้อนยิ่งนักกกกก  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #782 เมื่อ15-12-2014 18:25:34 »

จะสุขก็ไม่สุขเนอะ

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #783 เมื่อ15-12-2014 19:13:31 »

ทำไมอ่านแล้วเครียดสุดๆไปเลยก็ไม่รู้. แบบท้องไส้งี้บิดเป็นเกลียว

แต่ถึวยังไงก็เป็นการกระทำที่ดูเป็น"ฟีเรียส"ดีนะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #784 เมื่อ15-12-2014 19:16:31 »

สงสารฟีเรียสที่สุด ไม่รุ้อยู่คนเดี่ยว

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #785 เมื่อ15-12-2014 19:58:47 »

โดนต้มจนเปื่อยเลยฟีเรียส
น่าสงสาร นางเป็นคนคิดมากอยู่ด้วย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #786 เมื่อ15-12-2014 20:12:27 »

ทำไมรู้สึกเขินล่ะเรา ฮ่าๆ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #787 เมื่อ15-12-2014 20:39:02 »

องค์ชายก็พยายามมาเยอะแล้วจริงๆ

ฟีเรียสเป็นฝ่ายยอมบ้างก็ดีแล้วนะ

มีโอกาสมีความสุขได้ จะทุกข์ไปเพื่อ... อยากได้แบบองค์ชายสักคน :hao7:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #788 เมื่อ15-12-2014 21:57:03 »

ตอนนี้อ่านแล้วเครียดดี
แต่ก็ชอบมากๆถึงมากๆที่สุด
ลุ้นดีครับ...แบบต้องเดาเนื้อเรื่องอยู่ตลอดเวลา

รอคอยครับ :katai5:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #789 เมื่อ15-12-2014 22:37:39 »

ฟีเรียสรู้ใจตัวเองซะทีนะ
เพราะงั้นก็อย่าคิด อย่ากังวลจนเกิดไป
รักแล้วก็เดินหน้าสู้ไปกับองค์ชายเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
« ตอบ #789 เมื่อ: 15-12-2014 22:37:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #790 เมื่อ15-12-2014 23:13:07 »

แม่ชีโหดอ่ะ สงสารฟีเรียส  :sad4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #791 เมื่อ15-12-2014 23:27:10 »

โอ๊ยฉากชกกำแพง :sad4:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #792 เมื่อ15-12-2014 23:36:29 »

 สงสารฟีเรียสที่ทำร้ายตัวเอง คนแข็งๆ ที่จริงๆ แสนจะใจอ่อน
แค่ฟีเจ็บ เจ้าชายก็ใจจะขาดแล้ว นานนนนๆ จะเห็นท่านกริ้วสักที
ลูกสะใภ้ผ่านบททดสอบแล้วค่ะท่านแม่ รักเจ้าชายอ่ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #793 เมื่อ15-12-2014 23:43:16 »

เสด็จแม่ยังไม่วายมีบททดสอบรับลูกสะใภ้นะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ AKAMEBIKEI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #794 เมื่อ16-12-2014 09:28:37 »

เรื่องคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่อดใจหายไม่ได้ที่อีกไม่นานเรื่องนี้ก็จะจบแล้ว อ่านแล้วหลงรักเรื่องนี้ ใจหายT^T

ออฟไลน์ benzgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #795 เมื่อ16-12-2014 21:10:28 »

สนุกมากจริงๆค่า จนไม่อยากให้จบเลย
อ่านแล้วทั้งลุ้น ทั้งอึน ทั้งหวานเลยจริงๆ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #796 เมื่อ17-12-2014 00:48:49 »

คือดูออกแต่แรกว่าฟีเรียใต้องแกล้ง มันไม่เหมือนคนความจำเสื่อมเลยนะ 555 แต่อย่าทำร้ายตัวเองดิ สงสารเจ้าชายแก

จะจบแล้วววว

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #797 เมื่อ18-12-2014 09:18:45 »

คือความสุขจะอยู่กะเรานานๆไม่ได้จริงๆสินะ
งืดดดดดดดด
เป็นอารมณ์แบบไม่ชอบ
เหมือนโดนหลอกอยู่คนเดียว
ที่สำคัญคนที่เรารักก็ดันไม่ยอมบอก
เฮ่อออออออ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #798 เมื่อ19-12-2014 11:14:52 »

ฟีเรียสคิดมากเกินไป

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #799 เมื่อ19-12-2014 12:43:24 »

 :กอด1: คิดถึงนะคะ  มาต่อเร็วๆนะคะ  :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
« ตอบ #799 เมื่อ: 19-12-2014 12:43:24 »





ออฟไลน์ KS.F

  • มือใหม่หัดแต่งนิยาย ช่วยแนะนำด้วยน่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #800 เมื่อ19-12-2014 13:11:29 »

เจ้าชายน่ารัก  :o8:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #801 เมื่อ19-12-2014 13:36:17 »

ทรมานดีแท้  :monkeysad:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #802 เมื่อ21-12-2014 13:40:04 »

ชอบเรื่องนี้นะคะ อาจจะแอบรำคาญความปากแข็งใจแข็งของฟีเรียสไปบ้าง แล้วก็เจ้าชายรามิเรสนี่ก็ทำใจหายหลายรอบเหมือนกัน (เช่น ตอนฟีเรียสแก้ผ้าแล้วบอกไม่มีอารมณ์อ่ะ แทบอยากหาอะไรปาใส่คุณเจ้าชายเลยแหละ) แต่ก็เรียลดี ลุ้นดี สรุปก็ชอบมากแหละค่ะ

แต่ไอว่าตั้งชื่อแบบนี้ไม่โออ่ะ เพราะชื่อนี้นี่แหละถึงไม่เข้ามาอ่าน ดูไม่น่าสนใจและคิดว่าเป็นแนวทะเลทรายอะไรประมาณนั้น พอรู้ว่าเป็นของใครถึงเข้ามาอ่านนี่แหละค่ะ ไอว่าชื่อ"ใยรัก"หรืออีกชื่อที่ตั้งกันเล่นๆยังดีกว่าอีกค่ะ

อยากถามว่า เรื่องนี้มีนิยายเรื่องไหนที่เกี่ยวพันด้วยไหมคะ พอดีไออยากอ่านคู่อื่นด้วยน่ะค่ะ อิอิ
ที่ไอรู้ก็มี "มีเพียงกระหม่อม...จนกว่าฝ่าบาทจะทรงเบื่อ" ที่เป็นเรื่องขององค์ชายสี่ (ไอชอบมากๆๆค่ะ เสียดายสั้นไปหน่อยนะคะ)

แล้วเรื่องทาสรักที่จะออกกับนาบู นี่เกี่ยวพันกันไหมคะ? เป็นเรื่องขององค์ชายไหนในราชวงศ์นี้ไหมคะ? หรือธีมเหมือนกันเฉยๆไม่เกี่ยวพันกันเลยคะ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2014 13:43:29 โดย เกริด้า(๐-*-๐)v »

ออฟไลน์ PrInceZz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 32 (15 ธ.ค. 57) หน้า 27
«ตอบ #803 เมื่อ26-12-2014 11:49:04 »

Log in เพื่อจะมาเป็นกำลังใจผู้เขียนเลยค่ะ เราแอบอ่านมานานมาก อยากจะบอกว่า เราติดตามผลงานของคุณชุนทุกเรื่องเลยนะคะ รวมทั้ง e-bookด้วย
 :mew1:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
บทที่ ๓๓


   ช่วงนี้ฟีเรียสต้องหยุดพักเพราะมือขวาถูกห้ามใช้งาน แต่ก็พยายามจะขอช่วยงานเรจินเท่าที่พอจะช่วยได้ ตอนนี้ก็เหมือนจะกลายเป็นผู้ช่วยของฝ่ายนั้นอยู่กลายๆ ระหว่างนี้เขาก็ฝึกใช้มือข้างซ้ายไปด้วย

ที่แน่ๆ ก็คือกินอาหารด้วยมือซ้าย เพื่อไม่ให้เจ้าชายหกตรัสถามบ่อยๆ ว่า

“ให้ข้าป้อนไหม”

เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงปรนนิบัติคนอื่นไม่เป็นหรอก และคงจะทรงทราบพระองค์ดี เลยไม่ได้คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเฝือกหรือผ้าคล้องแขนของเขา หรือช่วยเขาจัดการธุระส่วนตัว เพียงแต่ประทานมหาดเล็กมาให้คนหนึ่งเท่านั้น

แต่เรื่องป้อนอาหารนี่คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง พระองค์ทรงทำได้แน่ เพียงแต่ว่าเขายังไม่อยากจะอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ก็เลยทำด้วยตัวเอง

เขายังไม่หายรู้สึกผิด ที่การกระทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบของเขาทำให้เกิดผลเสียตามมาหลายอย่าง มือใช้งานไม่ได้ไปข้างหนึ่งอย่างนี้ จะทำอะไรก็ติดขัด ลำบากไปหมด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องบนเตียง

แต่การมือเจ็บไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำให้เจ้าชายรามิเรสทรงงดเว้นกิจกรรมอย่างว่า

“ไม่เป็นไร เจ้าใช้มือข้าก็ได้”

ก่อนจะมี ‘ครั้งแรก’ ด้วยกัน ฟีเรียสไม่เคยคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนแบบนี้ รับสั่งเรื่องน่าอายออกมาได้หน้าตาเฉย

เจ้าชายหนุ่มไม่ได้รับสั่งถึงเรื่องที่เขาแกล้งสูญเสียความทรงจำอีก ไม่ดุ และไม่ถามเหตุผลเพิ่มเติม แม้จะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง แต่ก็โล่งใจมากกว่าจึงตัดสินใจไม่พูดถึงอีกเช่นกัน ถึงกระนั้นก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เขาต้องทำเกี่ยวกับเรื่องนี้






ฟีเรียสถามพ่อบ้านประจำพระตำหนักว่าพระมารดาของเจ้าชายรามิเรสโปรดผลไม้อะไร ชายวัยกลางคนตอบมาว่าแอปเปิ้ลกับส้ม แถมยังให้คำแนะนำเพิ่มเติมโดยที่เขาไม่ได้ถามด้วยว่า ถ้าเขาจะนำไปถวายพระสนม ก็ให้ทางห้องเครื่องหลวงจัดหามาได้ จะดีกว่าหาซื้อตามท้องตลาดมาก และการหาส้มรสเลิศไปถวายทั้งๆ ที่ไม่ใช่ฤดูกาลของส้มก็ไม่ใช่เรื่องยาก ทว่าองครักษ์หนุ่มเพียงแต่กล่าวขอบคุณและขอให้อีกฝ่ายช่วยส่งจดหมายไปกราบทูล ขอนัดหมายเวลาให้เขาได้เข้าเฝ้าเท่านั้น เพราะการไปพบโดยไม่บอกให้รู้ก่อนเป็นเรื่องเสียมารยาทอย่างมาก

พระมารดาของเจ้าชายรามิเรสประทานคำตอบมาว่า ให้เขาเข้าเฝ้าได้ในวันพรุ่งนี้

เช้าวันรุ่งขึ้น ฟีเรียสไปตลาดตั้งแต่เช้า เลือกซื้อแอปเปิ้ลพันธุ์ดี ผิวเต่ง ผลใหญ่ เนื้อหวานกรอบมาถุงหนึ่ง ซึ่งกว่าจะได้ก็ใช้เวลาเลือกอย่างพิถีพิถันอยู่นาน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังวิหารนอกเมือง แวะเข้าไปเคารพเทวรูปเทพเจ้า บริจาคเงินเล็กน้อย เดินผ่านสุสาน และตรงไปยังเรือนหลังงามของแม่ชี

สถานที่ที่โปรดให้เข้าเฝ้ายังคงเป็นที่เดิม ทว่าคราวนี้ไม่มีเจ้าชายรามิเรสอยู่ด้วย องครักษ์หนุ่มทูลถามสารทุกข์สุกดิบพระมารดาของคนรักสองสามประโยค เป็นทั้งถ้อยคำตามมารยาท...และคำถามจากใจจริง

“มือไปทำอะไรมา”

“เป็นอุบัติเหตุพระเจ้าค่ะ”

ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ทรงเชื่อ แต่ฟีเรียสก็ไม่คิดจะทูลอธิบาย อย่างไรก็ดี แม่ชีทรงทราบรายละเอียดจากจดหมายของพระโอรสแล้ว

“ที่มาวันนี้จะมาบอกยกเลิกสินะ”

ฟีเรียสกำลังหาทางเข้าเรื่องอยู่พอดี ไม่คิดว่าจะถูกดักคอเสียก่อน รู้สึกตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย แต่ก็ตั้งสติอย่างรวดเร็ว

“พระเจ้าค่ะ”

“เหตุผลล่ะ เพราะกลัวว่ารามิเรสจะอดทนไม่พอ หรือเพราะคิดว่าแค่เขารักเจ้าก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนใจเงื่อนไขของข้า”

ไม่ใช่ว่าฟีเรียสไม่เคยชินกับการถูกถามอย่างตรงไปตรงมา เพียงแต่อดคิดไม่ได้ ว่าพอไม่มีเจ้าชายหกอยู่ด้วย แม่ชีก็คงไม่จำเป็นต้องพูดดีกับเขามากนัก

“พระอาญามิพ้นเกล้าฯ เป็นเพราะว่ากระหม่อมไม่ต้องการทำแล้วพระเจ้าค่ะ”

“นั่นน่ะข้ารู้แล้ว ที่ถามคือ ทำไมถึงไม่ต้องการทำ”

เป็นคำถามที่ต้องตอบให้ชัดเจน ใช่ว่าจะตอบกำกวมๆ แล้วผ่าน

“กระหม่อมไม่อยากทำให้เจ้าชายหกเสียพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“แล้วคิดว่าการที่ข้าไม่ยอมรับเจ้า จะไม่ทำให้เขาเสียใจหรือ”

เรื่องนี้ฟีเรียสเตรียมคำตอบมาแล้ว

“เหตุผลที่กระหม่อมยอมทำตามเงื่อนไข ไม่ใช่เพราะกระหม่อมอยากจะทดสอบความอดทนของเจ้าชายหก แต่เป็นเพราะกระหม่อมอยากจะพยายามทำเพื่อพระองค์บ้าง ไม่อยากจะให้พระองค์ไม่สบายพระทัย แต่ตอนนี้กระหม่อมทราบแล้วพระเจ้าค่ะ ว่ากระหม่อมกำลังทำให้พระองค์ทรงเป็นทุกข์เสียเอง”

แม่ชีไม่ได้รับสั่งอะไร เพียงมองมานิ่งๆ องครักษ์หนุ่มจึงกราบทูลต่อ

“ตอนที่กระหม่อม...รู้สึกไม่ดีที่มีผู้หญิงเข้ามาใกล้ชิดเจ้าชายหก ถึงกระหม่อมจะโกรธ” เขาไม่พูดเด็ดขาดว่าหึง “แต่ก็โล่งใจว่าพระองค์ไม่ได้ทรงตอบรับความรู้สึกของพวกนาง คนอื่นจะทำยังไงก็เป็นเรื่องของพวกเขา ขอเพียง...” คนของเรา “เจ้าชายหกยังไม่ทรงเปลี่ยนแปลงก็พอพระเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นกระหม่อมจึงคิดว่า กระหม่อมก็จะไม่ทำให้พระองค์เสียพระทัยเหมือนกัน ส่วนเรื่องการพิสูจน์ตัวเองกับฝ่าบาท กระหม่อมก็จะพยายาม...โดยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การหลอกลวงพระเจ้าค่ะ”

ตอนพูด เขามั่นใจ แต่พอพูดแล้วไม่มีการตอบสนองกลับนี่เขาก็ชักจะหวั่นๆ ขึ้นมา เพียงแต่ จะแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้

“ต้องรีบกลับรึเปล่าจ๊ะ”

จู่ๆ ก็แย้มพระสรวลประทานให้ แล้วยังรับสั่งจ๊ะจ๋า บอกตามตรงว่าเขาใจคอไม่ค่อยดี

“ไม่รีบพระเจ้าค่ะ”

“อย่างนั้นคงจะอยู่รับมื้อกลางวันด้วยกันได้สินะ”

“ได้พระเจ้าค่ะ เป็นพระกรุณา”

แต่ว่า...กว่าจะถึงกลางวันนี่มันก็อีกหลายชั่วโมง ระหว่างนั้นจะให้เขาทำอะไร






อาทิตย์ใกล้จะอัสดงแล้ว องครักษ์ประจำพระองค์และประจำพระทัยของเจ้าชายหกแห่งไมซีนเพิ่งจะได้กลับออกมาจากเรือนหลังกะทัดรัด เจ้าของเรือนทอดพระเนตรตามร่างสูงโปร่งแข็งแรงนั้นไปทั้งที่ยังมีรอยแย้มพระสรวลประดับอยู่ตรงมุมพระโอษฐ์

ถึงจะได้ ‘ลูกสะใภ้’ ที่ผิดความคาดหมายไปมาก แต่ก็ไม่เสียพระทัย

นึกถึงอาการหน้าเสียของฝ่ายนั้น ตอนที่พระองค์รับสั่งบอกว่า

“เจ้าสอบไม่ผ่าน”

แล้วก็อดจะทรงขำไม่ได้

“กระหม่อมหวังว่า จะมีโอกาสได้สอบใหม่พระเจ้าค่ะ”

ตอบกลับมาอย่างนั้น พระองค์ก็เลยไม่ได้รับสั่งบอกต่อไปจนจบว่า ‘แต่เจ้าชนะใจข้า’ เขาบอกว่าจะขอสอบใหม่ ก็ดี หวังว่ามาสอบคราวหน้า จะพาพระโอรสของพระองค์มาด้วย คุยกันทางจดหมายยังไงก็ไม่สู้ได้เห็นหน้าค่าตากัน

คราวหน้าคงจะต้องรับสั่งบอกพระโอรส ว่าพระองค์พอพระทัย แค่เหตุผลที่ว่า ไม่อยากทำให้คนรักเสียใจด้วยมือของตัวเอง ก็เป็นเหตุผลที่ดีเพียงพอแล้ว

เคยรับสั่ง ‘ขอ’ พระโอรส ก่อนที่จะออกบวชเอาไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นอันธียา หรือจะเป็นคนอื่น ก็ขอเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น

“ตลอดชีวิตของลูก ขอให้มีแค่นางคนเดียว”

และพระโอรสก็ทรงรับคำ

วันนั้น ที่รับสั่งเรื่องแผนสูญเสียความทรงจำ มีประโยคหนึ่งซึ่งพระองค์จะทรงจำไว้ไม่ลืม

“เขาเป็นคนคนนั้นของลูกพระเจ้าค่ะ”

ไม่บ่อยนักที่อีกฝ่ายจะแทนตัวด้วยคำว่าลูก

“คนที่ลูกจะรักไปชั่วชีวิต”

ถ้ารักผู้หญิง แต่ไม่สามารถมีแค่นางคนเดียวได้ สู้รักผู้ชาย แต่จะซื่อสัตย์กับเขาไปจนตายเสียดีกว่า



**************************************



เจ้าชายรามิเรสทรงพาคนรักไปเข้าเฝ้าพระมารดาราวๆ เดือนละครั้ง บางเดือนก็มากกว่านั้น ฟีเรียสรอ ‘ข้อสอบ’ ข้อใหม่อยู่ แต่ก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะประทานให้เสียที นานไปเขาก็คิดได้ว่า บางทีพระสนมอาจจะค่อยๆ ทำใจยอมรับเขาเพราะเห็นแก่เจ้าชายหกซึ่งเป็นพระโอรสเพียงองค์เดียวก็เป็นได้ ไม่เคยคิดเลยว่าพระองค์จะพอพระทัยเขา ดังนั้นเมื่อประมาณสามสี่เดือนต่อมาพระองค์ประทานกำไลทองประดับเพชรให้เขาวงหนึ่งแล้วรับสั่งว่า

“คิดว่าจะเก็บเอาไว้ให้ลูกสะใภ้ แต่ไหนๆ ตอนนี้ก็คงจะไม่มีแล้ว...ข้ายกให้เจ้าก็แล้วกัน”

แล้วฟีเรียสทำหน้าตื่นๆ แม่ชีก็มีเรื่องให้ขำทุกครั้งที่นึกถึงเพิ่มขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง

เข้าพระทัยจริงๆ แล้ว ว่าเหตุใดพระโอรสจึงรับสั่งว่าองครักษ์หนุ่มนั้น ‘น่าเอ็นดู’






ฟีเรียสกลับบ้านบ่อยพอสมควร เจ้าชายรามิเรสเสด็จไปด้วยทุกครั้งที่ทรงว่าง ถ้าไม่ทรงว่าง เขาก็ไปเองคนเดียว เมื่อผ่านด่านพระมารดาของเจ้าชายหกมาได้แล้ว เขาก็มีกำลังใจที่จะทำให้มารดาของตนยอมรับด้วย แต่นางไม่เหมือนพระสนม จึงไม่เคยพูดตรงๆ กับเขาเลย และฟีเรียสก็ไม่กล้าพอที่จะเป็นฝ่ายเริ่ม

อย่างไรก็ดี เจ้าชายรามิเรสเคยโปรดให้คนไปรับเรเซีย เฟย์ และวอลเซนส์มาเที่ยวที่เมืองหลวงครั้งหนึ่ง และให้พักอยู่ที่บ้านริมผา

“แต่ก่อนเป็นของมิทรอส แต่ข้าซื้อต่อมาเพราะฟีเรียสชอบที่นี่”

น้องสาวของฟีเรียสไม่ใช่คนโง่ เจ้าชายหนุ่มรับสั่งแบบนี้นางยิ่งมั่นใจเพิ่มขึ้น จากที่เดิมก็ระแคะระคายอยู่ก่อนแล้ว เฟย์ไม่กล้าทูลถามตามตรงและไม่กล้าถามพี่ชายด้วย จึงไปคุยกับคนรัก วอลเซนส์แปลกใจมาก เขาไม่พูดอะไรแต่ไปถามเพื่อนรักเอาง่ายๆ เลยว่า

“เจ้ากับเจ้าชายหกเป็นอะไรกัน”

ฟีเรียสนิ่งอึ้งไปเพราะไม่เคยคิดว่าคนถามคนแรกจะเป็นว่าที่น้องเขย แต่เขาก็ไม่คิดจะอ้อมค้อมอยู่แล้ว

“...คนรัก”

คิดว่าพูดด้วยน้ำเสียงขรึมๆ และดังปกติ แต่ทำไมถึงออกมาแผ่วขนาดนั้นได้ น่าอายจริงๆ

เจ้าของฟาร์มม้าหนุ่มจ้องหน้าเพื่อนอยู่ครู่หนึ่ง ฟีเรียสมองตอบนิ่งๆ แต่ที่จริงกำลังเตรียมตัว ‘รับมือ’

“ข้าคิดว่าเฟย์คิดมากไปเอง แต่เห็นหน้าเจ้าแดงๆ แบบนี้ข้าก็เชื่อล่ะ”

พูดมาแบบนี้ ต่อให้เตรียมตัวดียังไงก็รับมือไม่ถูก

“แล้วเจ้า...ไม่ว่าอะไรหรือ”

วอลเซนส์หัวเราะ

“ข้าจะไปว่าเจ้าทำไม คนรักกันชอบกันมันห้ามไม่ได้นี่หว่า เจ้าชายก็เป็นคนดี เจ้าอยู่กับพระองค์แล้วดูมีความสุขจะตาย” คนพูดยักไหล่ “ถึงจะแปลกใจนิดหน่อยก็เถอะว่ะ”

แล้วก็ตามด้วยยักคิ้ว

ฟีเรียสหน้าร้อนวาบ แต่ก็โล่งใจมากเช่นกัน

เฟย์เข้ามาคุยกับเขาหลังจากนั้น และเมื่อเขาตอบนางไปอย่างที่ตอบวอลเซนส์ นางก็ซักไซ้เขาละเอียดยิบ เจาะลึกชนิดที่ว่าเขาอาย ต้องทำหน้าดุ เสียงดุตอบกลับไปบ้าง ว่าแก่แดดเกินไปแล้ว

“เจ้ารับได้ไหม”

“...ทำไมจะไม่ได้ล่ะจ๊ะ ความสุขของพี่นี่นา”

มองตาน้องสาวแล้วฟีเรียสก็คิดว่า แม้จะยังไม่สนิทใจ แต่เวลาคงจะช่วยได้

คราวนี้ก็เหลือเพียงมารดาของเขาคนเดียวแล้ว






เจ้าชายรามิเรสทรงปฏิบัติต่อมารดาของคนรักเสมอกับปฏิบัติต่อพระมารดาของพระองค์เอง ไม่ถึงกับเอาอกเอาใจ แต่ก็เอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ ประทานทั้งเวลา สิ่งของ และน้ำใจ ทำเอาเรเซียยิ่งรู้สึกหน่วงใจมากขึ้นเรื่อยๆ

บางที...ความดีก็ทำให้ทรมานใจได้มากยิ่งกว่าความเลวเสียอีก

อย่างไรก็ดี นางไม่เคยเอ่ยปากพูดเรื่อง ‘ลูกสะใภ้’ อีกเลย และไม่เคยถามถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างลูกชายกับเจ้าชายหกแห่งไมซีนด้วย

ลึกๆ แล้วก็รู้ดีว่า ทั้งนางและฟีเรียสต่างก็รอเวลา






เวลาที่ว่านั้นมาถึงหลังจากที่ฟีเรียสได้รับ ‘กำไลลูกสะใภ้’ มาได้ประมาณหนึ่งปี เฟย์กับวอลเซนส์แต่งงานกันแล้ว เรเซียย้ายไปอยู่ที่บ้านของลูกเขย แต่กลับมาอยู่ที่บ้านเดิมทุกครั้งที่ฟีเรียสกลับมาเยี่ยมบ้าน สวนผลไม้ก็ให้คนอื่นเช่าทำ เจ้าชายรามิเรสทรงซื้อที่ดินใกล้ๆ กับฟาร์มม้าของวอลเซนส์เพื่อทำฟาร์มวัวนมและโปรดให้คนของพระองค์มาดูแล รวมทั้งเป็นหุ้นส่วนกับฟาร์มม้าของวอลเซนส์ด้วย เวลานี้ฟาร์มม้าของชายหนุ่มเป็นฟาร์มใหญ่ที่สุดในเมือง

ฟีเรียสกลับมาบ้านในช่วงที่หมู่บ้านมีการจัดงานเทศกาลสามวันติดกัน วันแรกทุกบ้านจะทำความสะอาดบ้านเรือนของตน ซักเสื้อผ้าทั้งหมด เอาฟูกนอนมาตากแดด ตัดหญ้า จัดแต่งสวน เจ้าชายรามิเรสพยายามจะทรงช่วยอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เรเซียเพิ่งค้นพบว่าเจ้าชายหกแห่งไมซีนทรง ‘ไร้ความสามารถ’ ด้านไหน ตอนที่พระองค์ทรงทำพื้นห้องเปียกนองด้วยน้ำสกปรก สรุปแล้วระหว่างที่คนอื่นช่วยกันทำความสะอาด เจ้าชายหนุ่มทรงอยู่ฝ่ายให้กำลังใจ จากนั้นตอนกลางคืนก็จะมีการแสดงและการละเล่นที่ลานประชุมในหมู่บ้าน

วันที่สองเป็นวันทำความสะอาดสุสาน ตกกลางคืนมีงานประกวดผ้าทอ ชายหนุ่มที่ไปร่วมงานประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ไม่ได้สนใจผ้าทอแม้แต่น้อย มองเพียงหญิงสาวที่ใส่ผ้าทอมาเดินบนเวทีให้ชมเท่านั้น

วันสุดท้ายเป็นวันพักผ่อน คนในหมู่บ้านจะพากันไปนั่งชมดอกไม้ในสวนใกล้ทะเลสาบซึ่งจะบานสะพรั่งในช่วงนี้พอดี เอาผ้าไปปูรองนั่งใต้ต้นไม้ และเตรียมอาหารไปกิน

ฟีเรียสพยายามไม่หงุดหงิดเมื่อเห็นว่ามีหญิงสาวหลายคนมองมาทางคนรักของเขา บ้างแสดงความสนใจ บ้างทอดไมตรี

“นอกจากแอนจิเทียแล้วยังมีผู้หญิงคนไหนชอบเจ้ามากๆ อีกรึเปล่า”

องครักษ์หนุ่มนิ่วหน้า

“ไม่มีพระเจ้าค่ะ” เขาก็ไม่รู้ แต่ก็ทูลตอบแบบ ‘ป้องกันตัว’ เอาไว้ก่อน

เจ้าชายรามิเรสทรงพยักพระพักตร์ ดีแล้วที่ฟีเรียสไม่รู้ตัว พระองค์จะได้ไม่ต้องทรงเป็นกามเทพ หาวิธีให้พวกนางแต่งงานกันไปให้หมดอีก โชคดีที่แอนจิเทียรอไม่ไหว แต่งงานกับผู้ชายคนอื่นไปเสียก่อน





คืนวันสุดท้ายจะมีการลอยโคมอธิษฐาน ชายหนุ่มมักชวนคนรักหรือหญิงสาวที่ตนพึงใจไปลอยด้วยกัน หากหญิงสาวผู้นั้นตอบรับ ก็แสดงว่ามีไมตรีตอบ

หลังจากกลับมาจากไปชมดอกไม้ที่สวนใกล้ทะเลสาบแล้ว เรเซียก็พักผ่อนอยู่ในห้อง ฟีเรียสเคาะประตูห้องของมารดาแล้วเปิดเข้าไปเมื่อได้ยินคำอนุญาต

“มีอะไรจะคุยกับแม่หรือจ๊ะ ฟีเรียส”

มองหน้าลูกชายที่เลี้ยงดูมาตลอดยี่สิบกว่าปี เรเซียก็พอจะรู้แล้วว่าเขาคงจะมาพูดเรื่องสำคัญ องครักษ์หนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ส่วนมารดาของเขาก็วางผ้าที่กำลังถักอยู่ลงบนตัก

“เจ้าชายหกทรงชวนข้าลอยโคมกับพระองค์คืนนี้ แม่จะอนุญาตรึเปล่าครับ”

ความรู้สึกเหมือนกับแม่ที่ลูกสาวมาขอไปเที่ยวกับผู้ชายที่มาชอบพอนี่มันมาจากไหนกันนะ ทั้งๆ ที่ลูกชายของนางก็ดูเป็นชายในฝันของสาวๆ ถึงขนาดนี้

“มันจะ...ไม่ดูแปลกๆ หรือจ๊ะ” สุขภาพของนางดีขึ้นมากแล้ว แปลกที่น้ำเสียงที่ถามเหมือนจะขาดๆ หายๆ

“เป็นคนรักกัน...ก็ไม่น่าจะแปลกนะครับ”

“ฟีเรียส...”

องครักษ์หนุ่มยิ้มอ่อนๆ ให้มารดา ทั้งที่ใจเต้นอย่างหนักหน่วง เขาพูดแล้ว ที่เหลือ ก็แค่ให้แม่เป็นฝ่ายถามมา

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

คนถูกถามดึงมือมารดามากุมไว้ด้วยสองมือ

“เป็นแบบไหนครับ ชอบผู้ชาย หรือว่าชอบเจ้าชายหก”

“ลูก...ไม่ได้...ชอบ...แค่เจ้าชายหกหรอกหรือ”

ถึงจะเตรียมใจมาแล้ว แต่ก็ยังอดรู้สึกเหมือนถูกใครเอาของหนักๆ มาทุบอกไม่ได้ ฟีเรียสส่ายหน้า เขาพยายามหาอากาศให้ตัวเองได้หายใจลึกๆ ก่อนจะเล่าว่าตั้งแต่อายุประมาณสิบสี่สิบห้า เขาก็รู้ตัวแล้วว่าชอบมองผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และมารดาก็ไม่ได้เลี้ยงเขามาแบบผิดๆ เขาคิดว่ามันเป็นแค่ความชอบ

เหมือนบางคนชอบกินขนมเค้ก ไม่ชอบกินผลไม้ บางคนชอบแอปเปิ้ล ไม่ชอบสาลี่ ก็แค่นั้นเอง

“ตอนที่ข้ารู้ตัวว่าชอบผู้ชาย ข้าคิดว่าสามารถปกปิดมันเอาไว้ตลอดชีวิตได้ สามารถแต่งงานกับผู้หญิงเพื่อให้แม่ภูมิใจได้ ตอนที่ข้ารู้ตัวว่าชอบเจ้าชายหก ข้าก็ยังคิดอยู่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ข้ามาไกลเกินไปแล้วครับ แม่ ข้าอยากให้ท่านรู้ว่าข้าพยายามทุกวิถีทางแล้ว พยายามตัดใจ พยายามออกห่าง พยายามคิดว่ามันไม่เหมาะไม่ควร มันเป็นไปไม่ได้ พยายามไม่ถลำใจ แต่เจ้าชายหกไม่ทรงยอมปล่อยข้าเลย ทำให้ข้าถลำใจลึก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอพระองค์ทรงยอมปล่อยมือจากข้า ข้ากลับเป็นฝ่ายยอมไม่ได้เสียเอง
 พระองค์พระทัยดี น้ำใจงาม หวังดีต่อข้าเสมอ ไม่มีที่สิ้นสุด มีอารมณ์ขัน เป็นผู้ใหญ่ สั่งสอน และให้แต่สิ่งดีๆ กับข้า ข้อเสียของพระองค์ก็มี พระองค์ชอบมัดมือชก เอาแต่พระทัย ชอบตัดสินใจแทนข้าบ่อยๆ ข้าไม่ชอบเลย... แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว มันเล็กน้อยมากครับ”

เรเซียไม่รู้ว่าจะแย้งตรงไหน นางเองก็พอจะรู้ว่าเจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงดีงามตามที่ลูกชายพูด สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งๆ ติดอยู่ตรงลำคอ ก็คือหน้าตาที่ดูมีความสุขของเขา

“ลูกรักพระองค์มากหรือจ๊ะ”

ฟีเรียสชะงักไปนิดหนึ่ง ดูขัดเขินประหลาดๆ อยู่บ้าง แต่ก็ตอบ

“...ครับ”

เรเซียนิ่งเงียบไปอึดใจใหญ่ๆ รู้สึกว่าอะไรบางอย่างใกล้จะหลุดลอย แต่ก็ยังพยายามที่จะมีหวัง

“รักพระองค์อย่างนาย อย่างผู้มีพระคุณ ไม่ได้หรือจ๊ะฟีเรียส บางที...ลูกอาจจะแค่เข้าใจผิดไป”

อาจเพราะพระองค์ทรงช่วยไว้มาก ก็เลยคิดไปเองว่ารัก นางเองก็สำนึกในพระคุณอันเปี่ยมล้น แต่ไม่เคยอยากให้ลูกชายตอบแทนด้วย...ร่างกาย

“อย่างนาย อย่างเจ้าชีวิต ข้าก็รักครับ แต่ข้ารักอย่าง...คนรัก...ด้วย”

ฟีเรียสไม่ได้หลบสายตามารดา เขามองนาง เผยความรู้สึกในดวงตาของเขาให้นางเห็น บอกให้รู้ว่าเขารู้สึกจริงๆ  ไม่ใช่แค่หลงใหลเข้าใจผิด

เรเซียดูเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร ฟีเรียสจึงพูดต่อเสียเอง

“ข้าเป็นคนหยิ่ง แม่ก็รู้ ข้ารักศักดิ์ศรีของข้ามาก ไม่อยากได้ชื่อว่าอาศัยร่างกายไต่เต้าหาความสบาย ไม่อยากถูกใครด่าว่าเป็นผู้ชายที่ไม่สมชาย แต่ศักดิ์ศรีมีความหมายน้อยกว่าเจ้าชายรามิเรสมากครับ ตอนแรก ข้าหลงชอบรูปร่างหน้าตาของพระองค์ แต่สิ่งที่ทำให้ข้าหลงรักคือความดี ข้าแพ้ความดีของพระองค์ครับ ข้าไม่รู้ว่าตัวเองทำบุญอะไรมา พระองค์จึงทรงรักข้าตอบ

แต่ข้าปล่อยมือจากพระองค์ไม่ได้แล้ว

แม่โปรดอย่าให้ข้าต้องเลือกระหว่างท่านกับเจ้าชายหก ข้าขอร้องท่าน ยินดียกชีวิตที่เหลืออยู่ทำอะไรทุกอย่างที่ท่านต้องการให้ข้าทำให้ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ลำบากยากเย็นแค่ไหนข้าก็จะหามาให้ ขอแต่ให้ในชีวิตข้ามีเจ้าชายหกอยู่ด้วย...ในฐานะคนที่ข้าจะรักไปจนวันตาย”

เรเซียร้องไห้แล้ว ฟีเรียสขยับขึ้นไปนั่งบนเตียง โอบกอดมารดาไว้ในอกกว้างของเขา และบีบมือนางเอาไว้อย่างปลอบประโลม เขาอยากจะขอโทษนาง แต่เขาก็พูดไม่ออก ในเมื่อตอนนี้ไม่มีความรู้สึกนั้นอยู่เลย เขาไม่ได้รู้สึกผิดอีกแล้ว และไม่มีความลังเลอีกด้วย แม้กระทั่งขณะที่มารดาถามทั้งที่ยังสะอื้น

“จะมั่นคงจริงหรือลูก...ความรักแบบนี้ พระองค์เป็นถึงเจ้าชาย จะรักลูกไปตลอดหรือ”

องครักษ์หนุ่มยิ้ม แม้ว่าคนในอ้อมแขนจะไม่เห็น

“ข้าตอบแม่ไม่ได้หรอกครับ มันไม่มีอะไรแน่นอน จะทรงรักตลอดไปรึเปล่าก็ไม่มั่นใจ แต่ที่บอกได้ตอนนี้คือต่อให้วันข้างหน้าพระองค์ทรงหมดรักและมีคนอื่น ข้าก็ไม่เสียใจที่ได้รักผู้ชายคนนี้ เจ้าชายรามิเรสเป็นคนอย่างนั้น ครับ คนที่ต่อให้ไม่รักข้าตอบ ข้าก็ไม่เสียใจที่ได้รักพระองค์”

เรเซียเสียน้ำตายิ่งกว่าเดิม ลูกชายของนางเติบโตขึ้นมาก มากเสียจนนางทั้งตกใจและหมดหวัง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้...คงเป็นเพราะเจ้าชายพระองค์นั้น

ผู้ชายที่ทำให้ลูกชายของนางเสียหัวใจ และตัวนางเอง...สูญเสียความหวังแล้วอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายได้เคยรับสั่งบอกนางมานานแล้ว นางยังจำได้

...ข้าไม่ได้คิดจะเอาพี่ชายของเจ้าไปเป็นของตัวเอง...เพียงแต่เสนอตัวมาเป็นอีกคนหนึ่งในครอบครัวของเจ้าเท่านั้น...

บอกกับเฟย์ แต่หันมามองนาง

มนุษย์อยู่ได้ด้วยความหวัง เมื่อสูญเสียความหวังหนึ่งไป ก็มีความหวังใหม่ขึ้นมาแทนที่

หวังว่า...คนรักของลูกชายจะทำตามที่รับสั่งได้จริงๆ





คืนนั้นมีดวงดาวเต็มท้องฟ้า และมีโคมกระดาษลอยขึ้นไปสู่สวรรค์นับร้อย นับพันดวง มีคำอธิษฐานมากมายส่งไปถึงเทพเจ้าเพื่อวอนขอให้พระองค์ทรงรับฟังและประทานให้ตามที่ขอ มีมือนับสิบ นับร้อยคู่ที่เกาะกุมกันเอาไว้ในความมืดยามราตรี

มือคู่หนึ่งเป็นของเจ้าชายหกแห่งไมซีนกับองครักษ์ของพระองค์

ส่วนคำอธิษฐานที่ฝากไปกับดวงโคมที่กำลังลอยไปถึงดวงดาว
.
.
.
...วันข้างหน้าไม่ว่าจะมีสุขหรือมีทุกข์...ขอให้คนที่เลือกแล้วที่จะรัก
.
.
.
...อย่าได้ปล่อยมือ...




END


ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
บทส่งท้าย


“เจ้าจะไม่คิดดูใหม่สักหน่อยหรือ”

ถามเป็นครั้งที่ร้อย...อืม...เขาอาจจะพูดเกินไปหน่อย แต่เจ้าชายรามิเรสตรัสถามเขาบ่อยจริงๆ เรื่องที่จะให้เขายอมรับความหวังดีของพระองค์ ไม่ต้องแบ่งเงินเดือนทุกเดือนมาใช้หนี้ให้พระองค์อีกแล้ว เหตุผลก็คือ

“คนรักกันก็เหมือนคนคนเดียวกัน”

“ข้ารู้สึกแปลกๆ ที่ต้องรับเงินจากคนรักของตัวเอง”

“มันทำให้ข้ารู้สึกว่าเจ้ายังไม่รักข้าอย่างสนิทใจ”

ทะเลาะกันไปก็หลายหนเพราะเรื่องนี้ เหตุผลที่ทำให้เขาหมั่นไส้ที่สุดก็คือ

“ข้ารวย”

เขาเข้าใจและยอมรับทุกเหตุผลของพระองค์ เพียงแต่อีกฝ่ายก็ต้องทรงยอมรับด้วย ว่าเขาก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจของตัวเอง ทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้เงินเดือนของตัวเองมากนัก เพราะไม่ว่าสิ่งของจำเป็นอะไรก็ประทานมาให้ทั้งนั้น

สมุดชำระหนี้ใกล้จะเต็มเล่มแล้ว แต่หนี้ของเขาน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักยี่สิบปีจึงจะชดใช้ได้หมด

บางทีเจ้าชายรามิเรสก็ทรงหาวิธีช่วยลดหนี้ให้เขา เป็นต้นว่า

“ข้าเขียนลงไปว่า วันนี้เจ้ายิ้มต้อนรับข้ากลับบ้าน น่ารักมาก ลดหนี้ให้ห้าพันเหรียญ ได้ไหม”

ไม่ทะเลาะกันก็เกือบไปล่ะ ดีที่ไม่รับสั่งลดหนี้หลังจากมีอะไรกันเสร็จ และโชคดีมากที่คนรักของเขาพระทัยเย็นสุดๆ จึงทรงเงียบ พับเรื่องนี้เก็บไปทันทีที่เห็นว่าเขาชักจะหงุดหงิด

ที่จริงแล้วเขาก็เงียบเหมือนกัน

จะไม่เงียบได้หรือ ในเมื่อพระองค์ทรงจูบติด ปิดปากเอาไว้ขนาดนั้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดว่าพระองค์ยังไม่ทรงล้มเลิกความคิดเรื่องยกเลิกการใช้หนี้ก็คือ วันที่เขาแบ่งเงินเดือนครึ่งหนึ่งไปใช้หนี้ แล้วพระองค์ทรงเซ็นรับในสมุดหน้ารองสุดท้าย

“เหลืออีกแค่หน้าเดียว”

แทนที่จะรับสั่งถึงสมุดเล่มใหม่ กลับตรัสถึงเรื่องอื่น

“เจ้าพี่เฮเดสจะทรงพาธามไปฮันนีมูนอีกแล้ว เดี๋ยวนี้ไปบ่อย”

ฟีเรียสนิ่วหน้านิดหน่อย ไม่รู้จะแสดงความคิดเห็นอะไร

“เราไปกันบ้างไหม”

จะไปได้ยังไง ในเมื่อ...

“แต่งงานกันก่อน”

“!!!”

“จัดงานที่วิหารนอกเมือง หรือที่วิหารในหมู่บ้านของเจ้าก็ได้ ข้าจะขอให้เจ้าพ่อกับเจ้าแม่เสด็จไปสู่ขอเจ้ากับน้าเรเซีย ส่วนสินสอดก็คงจะเป็นเงินส่วนตัวของข้าทั้งหมด เอาเป็นทรัพย์สินครึ่งหนึ่งที่ข้ามี หุ้นส่วนครึ่งหนึ่งของกิจการทุกอย่างที่ข้าทำ แล้วก็...ยกหนี้ให้เจ้าด้วย ตกลงไหม จะได้เขียนลงไปในหน้าสุดท้าย”

ฟีเรียสรู้สึกเหมือนถูกกระหน่ำชกรัวๆ จนตั้งตัวไม่ทัน พอจะเริ่มพูด

“ฝ่าบาท...”

“ข้าจริงจังนะ”

อีกฝ่ายก็จัดการส่งหมัดฮุคมาเป็นหมัดสุดท้าย




องครักษ์หนุ่มใช้เวลาคิดทบทวน ‘ตามลำพัง’ อยู่หนึ่งคืน ก่อนจะถวายคำตอบในวันรุ่งขึ้น

“ไม่ต้องกราบทูลพระกรุณาจากองค์ราชาหรอกพระเจ้าค่ะ เพียงแต่ถ้าพระสนมจะประทานพระกรุณา เสด็จไปทรงพูดคุยกับแม่ กระหม่อมก็ยินดี จัดงานเล็กๆ ที่วิหารนอกเมืองก็ได้พระเจ้าค่ะ กระหม่อมอยากเชิญแต่คนสนิทๆ ไป ส่วน....เอ่อ...สินสอด...แค่ทรงยกหนี้ให้ก็พอพระเจ้าค่ะ ส่วนทรัพย์สินส่วนพระองค์ของฝ่าบาท กระหม่อมไม่อยากได้”

เขาอุตส่าห์ทูลตอบอย่างเป็นการเป็นงาน แต่เจ้าชายหกทอดพระเนตรเขานิ่งๆ อยู่ชั่วอึดใจ แล้วก็ตรัสถามแค่

“ข้าจูบเจ้าสักทีหนึ่งได้ไหม”

มาขออะไรกันตอนนี้ แล้วที่ว่าจูบหนึ่งทีอะไรนั่น

โกหกทั้งเพ! มันเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนหมดแล้ว




เจ้าชายหกก็ยังคงเป็นเจ้าชายหก ชอบมัดมือชกไม่เคยเปลี่ยน สองสามวันต่อมาก็รับสั่งบอกแบบไม่ให้เขาได้ตั้งตัวทันว่า

“เจ้าพ่ออยากจะพบเจ้า ข้ากราบทูลไปแล้วว่าจะแต่งงาน”

ฟีเรียสตื่นเต้นมากตอนไปเข้าเฝ้า เข้าเฝ้าธรรมดาก็ตื่นเต้นแล้ว นี่รู้อยู่แก่ใจว่าเข้าเฝ้าเรื่องอะไรยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ ถึงจะได้รับคำปลอบใจว่า

“ท่านไม่ดุหรอก พระทัยดี” ก็ตามที

องค์ราชาแห่งไมซีนมีพระชนมายุราวหกสิบพรรษาทว่ายังทรงแข็งแรงดีอยู่ พระวรกายสูงใหญ่อย่างพระโอรสพระองค์โต พระพักตร์ดูเข้มงวด เต็มเปี่ยมด้วยลักษณะของเจ้าชีวิต

บทสนทนาใช้เวลาไม่นานมากนัก พระองค์ไม่ได้ตรัสถามเขายืดยาวอย่างแม่ชี เพียงแค่ทรงบ่นๆ ว่า

“มีลูกชายกี่คนๆ ก็มีคนรักเป็นผู้ชายหมด” แย้มพระโอษฐ์นิดๆ รับสั่งว่า “หรือว่าข้าจะลองมีคนรักเป็นผู้ชายดูบ้าง” แล้วก็ทรงพระสรวลลั่น ดังจนฟีเรียสตกใจ

“คงจะไม่ดีสินะ เดี๋ยวแม่เจ้าจะเคืองข้า ออกเดินทางไปแสวงบุญที่ไหนแล้วไม่ยอมกลับมาให้เห็นหน้าอีก คราวนี้ข้าแย่แน่”

องครักษ์หนุ่มพอจะเข้าใจอยู่เลาๆ ว่าทำไมองค์ราชาถึงมีพระสนมมาก ทั้งสง่างาม พระอารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน แล้วยังเข้าใจรับสั่งให้คนฟังรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นที่รัก ที่ต้องการอยู่เสมออย่างนี้นี่เอง

แม้ว่าคนฟังจะเป็นลูกชายของนาง ไม่ใช่ตัวนางเองก็ตาม

เหตุผลที่พระสนมออกบวช ก็เพราะองค์ราชาทรงผิดสัญญา เรื่องที่ว่าจะมีนางเป็นคนสุดท้าย ฟีเรียสหวังแต่ว่า เจ้าชายรามิเรสจะไม่ทรงทำตามอย่างพระบิดาในเรื่องนี้

“ถ้ามั่นใจแล้ว อยากแต่งก็แต่งเถอะ ข้าอนุญาต เดี๋ยวให้คลังหลวงส่งสินสอดสำหรับสะใภ้หลวงไปให้ด้วย”

เรื่องเงินทองยังไม่ทำให้คนฟังตกตะลึงได้เท่ากับคำว่า ‘สะใภ้หลวง’

องครักษ์อย่างเขา ผู้ชายอย่างเขาเนี่ยนะ สะใภ้หลวง! ให้ตาย เขาเกลียดคำนี้จริงๆ




ราวกึ่งเดือนต่อมา เจ้าชายรามิเรสก็ทรงพาพระมารดาไป ‘สู่ขอ’ ฟีเรียส องครักษ์หนุ่มไม่รู้ว่าทั้งสามคนคุยอะไรกันบ้าง เพราะตัวเขาถูกแม่ชีกีดกันไม่ให้อยู่ฟัง แต่ใช้เวลาไม่นานนัก การเจรจาก็สำเร็จผล เขาคิดว่านั่นเป็นเพราะมารดาของเขาสู้คารมของแม่ชีไม่ได้
แต่ไม่นึกว่าจะสู้ไม่ได้ขนาดต้องยอมรับ ‘สินสอด’ จำนวนมากมาด้วย แม้จะไม่ถึงกับมากมายอย่างตอนแรกที่เจ้าชายรามิเรสรับสั่งว่าจะประทานให้ก็ตาม หนึ่งในสินสอดคือฟาร์มวัวนม

อย่างไรก็ดี ฟีเรียสพยายามกู้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของเขาคืนมาด้วยการขอออกเงินค่าแหวนหมั้น และเจ้าชายหกก็ทรงตกลง ไม่มีท่าทีคัดค้านอะไรเลย แม้ว่าเขาจะพาพระองค์ไปเลือกซื้อแหวนที่ตลาด ทั้งยังทรงเลือกอย่างกระตือรือร้นอีกด้วย

แหวนที่ช่วยกันเลือกมาเป็นแหวนคู่ สวยถูกใจ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทองใช่เพชร หรืออัญมณีสูงค่าอื่นๆ แต่ก็เป็นเงินแท้ ราคาแพงสำหรับฟีเรียสอยู่เหมือนกัน

พอแลกกันสวมให้กันแล้ว องครักษ์หนุ่มก็สวมไว้ตลอดเวลา แม้จะรู้สึกเขินอย่างช่วยไม่ได้ เวลาถูกใครถามหรือแซว แต่ก็ไม่เคยถอดออก ไม่นึกเลยว่าคนที่เป็นฝ่ายอายยิ่งกว่าเขาคือเจ้าชายรามิเรส

ฟีเรียสเห็นหลายครั้งแล้วว่าพระองค์ทรงถอดออก เขาพยายามคิดในแง่ดีกว่ามันอาจจะทำให้ไม่สะดวกเวลาทรงงาน แต่ก็ปลอบใจตัวเองไปได้ไม่นาน เพราะเห็นต่อหน้าต่อตาว่าพอเขามาเข้าเฝ้ากะทันหัน พระองค์ก็ทรงรีบหยิบแหวนออกมาสวม พอเขากำลังจะเดินพ้นประตูไป พระองค์ก็ทรงถอด บ่อยเข้าเขาก็ทนไม่ไหว

“ถ้าไม่โปรด ก็ถอดออกเถิดพระเจ้าค่ะ”

นี่เขาพยายามพูดอย่างใจเย็นและ ‘เบา’ ที่สุดแล้ว แต่พอได้ยินอีกฝ่ายเรียกมาคำเดียวว่า

“ฟีเรียส”

ความอดทนของเขาก็ขาดผึง หมุนตัวจะเดินออกไปอย่างเสียมารยาท เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันตอนนี้

“เดี๋ยวฟีเรียส ข้าแพ้”

อีกฝ่ายตามมาดึงแขนไว้ แต่ถ้อยรับสั่งทำให้เขาโมโหยิ่งกว่าเดิม ไม่ได้กำลังต่อสู้กันเสียหน่อย จะมายอมแพ้เขาทำไมกัน

“ข้าแพ้เงิน”

เจ้าชายหนุ่มทรงยื่นพระหัตถ์ให้ดูใกล้ๆ

“ใส่ไว้เดี๋ยวๆ ก็พอได้ แต่ถ้าใส่นานๆ จะเป็นแผล หมอบอกว่านิ้วอาจจะเน่าได้ ข้าก็เพิ่งรู้ว่าข้าแพ้”

ฟีเรียสมองพระอนามิกาข้างซ้าย สลับกับมองพระพักตร์ แล้วก็ทั้งอับอาย ทั้งละอายแก่ใจ ทั้งรู้สึกผิดระคนกัน เขานี่มัน...โง่จริง

“ขอโทษที่ทำให้เจ้ารู้สึกไม่ดี”

ยังจะรับสั่งขอโทษให้เขารู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิมอีก

“กระหม่อมต่างหากที่ต้องขอประทานอภัย แต่ฝ่าบาทก็น่าจะรับสั่งบอกกระหม่อมตั้งแต่แรก แพ้ก็ถอดออกเถิดพระเจ้าค่ะ กระหม่อมไม่คิดมาก”

หลังจากความรู้สึกละอายใจและรู้สึกผิดผ่านพ้นไป เขาก็รู้สึกหมั่นไส้นิดๆ ขึ้นมาแทน อดคิดไม่ได้ว่าสมกับเป็น ‘เจ้าชาย’ ดีเหลือเกิน แพ้อะไรไม่แพ้ มาแพ้ ‘ของถูก’ เป็นแบบนี้แล้วยังจะมา...หลงรักผู้ชายจนๆ อย่างเขาอีก




งานแต่งงานของฟีเรียสกับเจ้าชายรามิเรสเป็นงานเล็กๆ จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่เป็นไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็นทุกประการ แขกเหรื่อที่มาในงานมีแต่คนในครอบครัวและ ‘คนสนิท’ รวมแล้วไม่ถึงยี่สิบคน แต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นมาก

แหวนแต่งงานที่เจ้าชายรามิเรสทรงทรงหามาเป็นสีคล้ายๆ เงินเช่นเดียวกัน เพียงแต่ดูแวววาวกว่า และมีน้ำหนักมากกว่า ฟีเรียสคิดว่าคงจะมีราคาไม่แพง เพราะเจ้าชายหนุ่มอยากจะไม่ให้ดูแตกต่างจากแหวนหมั้นที่เขาซื้อมามากนัก แต่พอทูลถามว่าใส่แล้วจะไม่ทรงแพ้อีกหรือ อีกฝ่ายก็ว่า

“ข้าใส่ทองคำขาวได้”

เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนั้น ว่าทองคำสีขาวก็มีด้วย และขึ้นชื่อว่า ‘ทองคำ’ ราคาก็คงไม่ใช่ถูกๆ

นึกขึ้นมาไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไรแล้ว ว่านี่เขาแต่งงานกับ ‘เจ้าชาย’ ของแท้เลยสินะ เพราะแม้แต่พระทัยของพระองค์ ก็เป็นทองคำเช่นกัน

เสร็จจากพิธีเช้าก็เป็นการรับประทานอาหารร่วมกัน และ ‘ฉลอง’ ต่อเนื่องไปถึงเย็น แต่ฟีเรียสรู้สึกสนุกได้ไม่ค่อยเต็มที่นัก เพราะมองพระพักตร์ทีไร สายพระเนตรคู่นั้นก็ชวนให้นึกถึงถ้อยรับสั่งกระซิบหลังจากจูบสาบานขึ้นมาว่า

“ข้าเกือบจะรอเวลาเข้าหอไม่ไหว”

เขาหงเข้าหออะไร...เข้ากันมาไม่รู้กี่ทีต่อกี่ทีแล้ว

อายนักบวชเสียบ้าง ท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ได้ยินก็จริง แต่หน้าขึ้นสีแบบนั้นคงได้ยินเต็มสองรูหู




คืนนี้เรเซียพักอยู่ที่พระตำหนักของเจ้าชายหก หลังจากแม่ชีกลับไปพักผ่อนที่ห้องแล้ว นางก็ยังหลับไม่ลง ตาสว่างด้วยความอิ่มเอมใจ...ไม่ต่างอะไรกับเมื่อสองปีที่แล้วที่เฟย์แต่งงาน

ถึงจะเห็นจากการกระทำของเจ้าชายหนุ่มมาตลอด ว่าพระองค์ทรงเอาใจใส่ฟีเรียสอย่างดีและสม่ำเสมอ แต่ก็เพิ่งจะได้ยินจากพระโอษฐ์ในวันที่มาสู่ขอ ว่าพระองค์ทรงรักลูกชายของนางที่ตรงไหน

“ลูกชายของท่าน เขาเป็นคนที่ไม่เหมือนใคร ข้ารักทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นเขา รักศักดิ์ศรีของเขา รูปร่างหน้าตาของเขา หัวใจของเขา ข้ารัก... ทุกวินาทีที่ได้อยู่กับเขา เขาทำให้ข้ามีความสุข และข้าก็อยากจะทำให้เขามีความสุข แม้แต่ตอนที่เขาทำให้ข้ามีความทุกข์ ข้าก็ยังอยากมีเขาอยู่ใกล้ๆ ความปากแข็งของเขา ความทระนงในศักดิ์ศรีของเขา ความคิดมากของเขา ข้าคิดอยู่บ่อยๆ ว่า มันน่ารักดี

ฟีเรียสเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน เขาอดทน เขาปากแข็ง แต่ลูกชายปากแข็งของท่านยอมบอกว่าเขารักข้า

ขอลูกชายของท่านให้ข้า ข้าสัญญาว่าจะดูแลชีวิตและถนอมความรู้สึกของเขาให้ดียิ่งกว่าใคร จะซื่อสัตย์และมั่นคงต่อเขาไปจนกว่าข้าจะไม่มีลมหายใจ”

นั่นคือคำพูดของผู้ชายที่รู้จักลูกชายของนางดีเท่าๆ กับตัวนางเอง และพระองค์ก็ทรงรักในสิ่งที่เขาเป็น


วันนั้น...นางยกลูกชายอันเป็นที่รักให้...


...ฝากเอาไว้ในมือของพระองค์อย่างเต็มใจ...




END



***********************************

ฮูเร้! จบแล้วค่ะ
คิดว่าจะลงให้จบภายในปีนี้ ช่วงวันสิ้นปีกับวันปีใหม่เรื่องอื่นๆ คงจะอัพเดตกันเยอะจนอ่านไม่ไหว ก็เลยลงก่อนวันนึงค่ะ

ต่อไปเป็นช่วงตอบคำถามนะคะ ส่วนใหญ่เป็นคำถามของคุณเกริด้า + อัพเดตเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งเนียนโฆษณาขายของค่ะ 555

- ชื่อเรื่อง "รามิเรส" นี่ใช้เพราะขี้เกียจคิดน่ะค่ะ เอาง่ายเข้าว่า ที่จริงเขียนเรื่องของเจ้าชายเฮเดส (รัชทายาทแห่งไมซีน) มาก่อน อันนั้นใช้ชื่อเรื่องว่า "ยอม" เจ้าชายเมืองนี้มี 8 องค์ ทุกคนชอบผู้ชายหมด ตอนแรกมี 7 แต่กลัวจะไม่มีคนสืบบัลลังก์เลยแทรกมาอีกคนนึง ให้เจ้าชายรองท่านชอบผู้หญิงไปซะ ก็คิดๆ ว่าจะเขียนให้หมดทุกคนนะคะ แต่ว่าความจริงคงเป็นไปได้ยาก ไม่เคยทำเรื่องอะไรแบบนี้สำเร็จเลย

เคยคิดว่าจะตั้งชื่อเรื่องให้คล้ายกัน เช่น ยอม ใย(รัก) ยั่ว เย้า ฯลฯ แต่ก็...ไม่ได้ทำน่ะค่ะ เรื่องเจ้าชายองค์อื่นก็มีพล็อตคร่าวๆ แต่ก็เป็นเหมือนนักเขียนคนอื่นๆ คือมีอะไรที่อยากเขียนล้านแปด แต่ไม่ได้เขียนเร็วอย่างใจ เรื่องที่อยากเขียนก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ จนไม่ได้เขียนเรื่องที่คิดไว้สักที

เฮเดสนี่เขียนเป็นวายแล้วไม่รุ่งเท่าไหร่ เลยแปลงเป็นชายหญิงส่งสนพ.ไป พิมพ์เป็นเล่ม ชื่อเรื่อง "หนึ่งฤทัย" ออกกับสนพ.กรีนมายด์นะคะ จะหมดสัญญาวันที่ 3 ม.ค.58 ว่าจะเอามาทำเป็น e-book ค่ะ (แบบวาย) อยากเขียนตอนพิเศษด้วย แต่ถ้าคิดไม่ออกก็อาจจะทำ e-book แต่เนื้อเรื่องหลักไปก่อน คิดตอนพิเศษได้ค่อยเอาไปเติมทีหลัง

เนื้อเรื่องทั้งหมดของยอม สามารถหาอ่านได้ในบอร์ดฝูนะคะ
ต้องเป็นสมาชิกบอร์ดถึงจะอ่านได้นะคะ ตอนสมัครน่าจะต้องตอบคำถามสกรีนนิดนึงค่ะ
link บอร์ด
http://www.funovels.com/

อยากจะบอกว่า...เรียบๆ เนือยๆ เสียยิ่งกว่ารามิเรสอีกค่ะ 555

เจ้าชายองค์อื่นยังไม่มีโครงการจะเขียนในเร็วๆ นี้

ส่วนเรื่องรามิเรส ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงน่าจะพิมพ์กับสนพ.นาบูค่ะ แต่ยังไม่มีกำหนดออก

ไหนๆ ก็พูดแล้ว ขอเนียนโฆษณาเลยละกันนะคะ ชุนมีเรื่องที่กำลังเปิดจองกับสนพ.นาบูเรื่องนึงคือ ทาสรัก ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้ตาม link นี้ค่ะ

http://nabushop.lnwshop.com/

มีตัวอย่างเนื้อเรื่องให้อ่านอยู่ในเด็กดีนะคะ ใช้นามปากกาว่า chunpus ค่ะ และเนื่องจากเป็นแค่ตัวอย่าง จึงไม่ได้นำมาลงในเล้านะคะ

- เรื่องทาสรัก พระเอกเป็นเจ้าชายหกแห่งเบลไลน์ เรื่องนี้ก็คล้ายเจ้าชายแห่งไมซีนค่ะ คือในเรื่องมีเจ้าชายเต็มไปหมด อยากจะเขียนไปซะทุกคน แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเรื่องแบบนี้เลย เพราะฉะนั้นเจ้าชายเบลไลน์นี่ก็มีแค่เรื่อง ทาสรัก เรื่องเดียวนะคะ ที่จริงเรื่องนี้ก็เคยเอาไปทำเป็นชายหญิงอีกล่ะค่ะ ฉบับชายหญิงนั่นมีเรื่อง เจ้าชายรัชทายาท และเจ้าชายห้าด้วย ซึ่งไม่คิดจะเอาสององค์นั่นมาแปลงเป็นวายนะคะ

ต่อไปคิดว่า ชญ ก็ ชญ วายก็วาย ไม่มีการแปลงไปแปลงมาเพื่อหากินหลายต่ออีกต่อไป

และเนื่องจากว่าตอนนี้อยู่ในช่วงที่ไม่สามารถจะเขียนเรื่องยาวๆ ได้ (คือเขียนไม่ค่อยจบ) ก็เลยหันมาเอาดีทางการเขียนเรื่องสั้นๆ และทำเป็น e-book แทนค่ะ เรื่องสั้นแต่ละเรื่องเป็นเอกเทศต่อกัน ตัวละครไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด (เรื่องมีเพียงกระหม่อมฯ ก็เป็นเอกเทศเหมือนกันค่ะ)

หลังจากจบรามิเรสแล้วอาจจะหายหน้าไปสักพัก (?) อาจจะไปโผล่ในหน้านิยายของคนอื่นแทน สำหรับเรื่องใหม่คิดว่าจะต้องเขียนให้ได้อย่างน้อยสักครึ่งเรื่องก่อนถึงจะเอามาลง เพราะอัพไปเขียนไปนี่...ไม่รอดแหงแก๋ค่ะ

ตกประเด็นใดไปจะมาตอบใหม่ให้ทีหลังนะคะ

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกๆ คนที่อยู่ด้วยกันมาจนจบเรื่องนะคะ ส่วนใหญ่ชุนจะเป็นพวกแอบอ่านแล้วไม่แสดงความคิดเห็น เพราะฉะนั้นเวลาอ่านความคิดเห็นของคนอื่นในเรื่องของตัวเองก็จะรู้สึกดีมาก และอยากจะขอบคุณมากๆ เลยค่ะ (ผสมกับความรู้สึกผิดหน่อยๆ แหะๆ)

วันนี้เพิ่งแต่งกลอนให้กับที่ทำงานไปสองบท ขอยกเอามาที่นี่ด้วยละกันนะคะ

ปีใหม่ขอให้สำราญ
เบิกบานสุขสันต์ถ้วนหน้า
การงานรุ่งเรืองวัฒนา
ปีม้าอย่าเจ็บอย่าจน
สำเร็จสมหวังดังปอง
เงินทองล้นหลามหลั่งไหล
ไร้ทุกข์ไร้โศกโรคภัย
สุขกายสบายใจตลอดปี

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2014 12:25:22 โดย ชุน »

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
จบซะแล้ว ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ สนุกและละมุนละไมมากๆ

สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ไม่มีตอนพิเศษสำหรับเข้าหอหรือคะ :z1:

สนุกมากขอบคุณค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ jessiblossom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านนิยายเรื่องนี้ ได้ความรู้สึกเหมือนดูละครดั่งดวงหฤทัย ตอนสมัยเด็กๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
ง่าาาา จบแล้วว
ชอบเรื่องนี้นะ เป็นเรื่องที่เรียบๆเรื่อยๆ แต่ก้อน่าติดตามมากก
ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆนะคะ เราชอบตัวละครเรื่องนี้มากกก โดยเฉพาะเจ้าชายหก 555
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด