★หัวใจ♥ซ่อนรัก Special★ เมียรัก (เจฟฟ์♡ปอนด์ฉบับรีไรท์) ตอนจบ วันที่ ๑๘/๒/๒๕๕๗
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★หัวใจ♥ซ่อนรัก Special★ เมียรัก (เจฟฟ์♡ปอนด์ฉบับรีไรท์) ตอนจบ วันที่ ๑๘/๒/๒๕๕๗  (อ่าน 55462 ครั้ง)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น่ารักมุ้งมิ้งมากคู่นี้ เจฟแกล้งปอนด์ได้ทุกวัน อิอิ อีกคนก็ขี้อาย มารอตอนต่อไปจร้า

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
น่ารักที่สุดดดดดดด
ก้าวมาอีกขั้น
เป็นแฟนกันแล้ว

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
หวานนนนนนน

เหมือนจะหวานกว่าเวอร์ชั่นเก่าอีกหรือเปล่าน้าาา อิอิ :กอด1:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
โอย ... อากาศมันร้อนเนาะ! ^_^
ชอบตอนที่เรียวแขนเอื้อมไปคล้องคอเจฟฟ์
มันบอกถึงการยอมรับโดยไม่ต้องมีคำพูด ... หวานมากค่ะ  :mew3:

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
อากาศร้อนมากไหมคะ :hao7:
อยากกินขนมปังหวานๆบ้าง
ปอนด์น่ารักมากกกกกกกกกก
และตอนนี้ก็คบกันแล้วด้วย กิ้วๆๆๆ
คือเจฟฟ์เท่ห์และหล่อมากไง รู้สึกชอบผู้ชายแบบนี้มาก
ดูเป็นผู้ชายที่รักขนมปังปอนด์มากอะ คึคึคึ
เรื่องนี้มีในเล่มด้วยใช่ไหมคะ แอบฟินเบาๆ>_<
จำได้เลยตอนอ่านคราวนู้น ชอบตอนอินโทรตอนที่เจฟฟ์เอานิ้วจิ้มอกปอนด์อะ
อ่านแล้วมันกิ๊ดดดดดดดมาก ฮ่าๆ (ไม่ค่อยเท่าไหร่เลยเรา55)
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆคร้าบบ อิอิ :กอด1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เจฟ เป็นฝรั่งที่อ่อนโยนมากๆ น่ารักจังเลย

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
มันร้อนจริงๆนั่นล่ะ :laugh3: เล่นเอาอุณหภูมิพุ่งสูง
ก็ท่าทางน่ารักน่าหมั่นเขี้ยวอย่างนี้แหละ เจฟถึงได้หื่น
เรื่องของคนอื่นก็ผ่านพ้นไปแล้ว ต่อไปก็เรื่องของตัวเอง
ปอนด์ขี้หึงนะเจฟ แล้วก็ท่าทางจะขี้งอนพ่วงมาด้วย
อย่าได้ให้สาวที่ไหนมาเจ๊าะแจ๊ะเชียว ขนมปังเอาตาย
แต่เจฟจะมีตาไปมองใครได้ คนเดียวนี่ป่วนจะแย่แล้ว :laugh:
เป็นอีกตอนที่อ่านแล้วยิ้มไม่หุบ 
ขอบคุณวันใหม่มากๆค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
เมียรัก

ตอนที่ ๖ ที่รัก



สายน้ำจากฝักบัวราดรดเส้นผมหนานุ่มของคนที่พาดวางศีรษะไว้บนต้นขาขาว มือเรียวค่อยเอื้อมไปหยิบขวดแชมพูมาบีบใส่มือแล้วขยำเส้นผมเปียกให้เกิดฟอง นวดคลึงเบาๆทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนแทบหลับคาอ่าง วันนี้ปอนด์อารมณ์ดี พอยักษ์เจฟฟรี่เขาอ้อนให้สระผมให้เลยไม่ขัด จัดให้ตามใจยักษ์สักวันหนึ่ง

“ผมยาวแล้วนะเจฟฟรี่” คนตัวเล็กเอ่ยทัก มือก็สางเส้นผมอีกคนเบาๆ

“จะตัดให้หรือที่รัก?” เอ่ยถามกลับไปยิ้มๆ เหลือบสายตามองคนรักที่ใจดีสระให้ไม่มีงอแงแล้วมันชื่นใจ

“อยากหูแหว่งหรือไง?” ปอนด์ว่าแล้วหัวเราะ มือก็ยังคงทำหน้าที่นวดๆคลึงๆ

ตอนนี้เจฟฟรี่เริ่มเข้ารับการฝึกขั้นพื้นฐานสำหรับการเป็นบอดีการ์ด หากเรียนจบกันจริงๆแล้วเวลาเจอกันคงน้อยลงไปอีก จนกว่าเจฟฟรี่จะได้เป็นบอดีการ์ดอย่างเต็มตัว เมื่อถึงตอนนั้นอเล็กซานเดอร์คงพอจะมีวันหยุดให้บ้าง แต่ ณ เวลานี้ที่ยังคงเป็นเพียงบอดีการ์ดฝึกหัด เจฟฟรี่ก็ยังคงต้องทำตามตารางการฝึกฝนอย่างครบถ้วน

“เหนื่อยไหมเจฟฟ์?” ปอนด์เอ่ยถาม แค่เรื่องเรียนก็หนักพออยู่แล้ว นี่ยังต้องแบ่งเวลาไปฝึกฝนตัวอีก ถึงจะตัวใหญ่ยักษ์ก็น่าเป็นห่วง

“ไม่หรอก กลัวก็แต่ว่าคุณจะเบื่อที่ต้องรอผม”

“ต่างคนก็ต่างหน้าที่ คุณรักในอาชีพของคุณ ผมก็รักในอาชีพของผม ไม่ได้นั่งรอคุณทุกวันเสียหน่อย” ปอนด์บอกอย่างเข้าใจ เขาไม่ได้เรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเขาเองก็ทำงาน เข้าใจดีว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมามันสำคัญแค่ไหน

“ไม่รอ แล้วคิดถึงผมบ้างไหม?”

“............” ปอนด์นิ่งกับคำถาม คว้าฝักบัวมาล้างฟองแชมพูให้ก่อนดันศีรษะหนักๆให้ยกขึ้นจากต้นขาตนเอง

“เสร็จแล้ว” ว่าพลางลุกจากขอบอ่างไป

“อย่าเลี่ยงสิที่รัก” เจฟฟรี่เอ่ยเย้าพลางยิ้มยั่ว

“จะอาบน้ำแล้ว” คนตัวเล็กว่า เสียบฝักบัวไว้ที่เดิมแล้วเปิดอาบ

เจฟฟรี่มองผิวขาวหยวกตาเป็นมัน ลุกจากอ่างน้ำตามมาโอบเอวบางเข้าแนบชิด หยดน้ำที่เกาะตามผิวกายถูกน้ำจากฝักบัวที่ปอนด์เปิดราดรดจนตัวเปียกโชกอีกครั้ง

“เจฟฟรี่ ไม่เอาแล้วนะ” ปอนด์เอ่ยท้วง ก่อนจะเข้ามาอาบน้ำก็กอดกันไปทีแล้ว

“ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่คนตัวโตก็ยังกดจูบหัวไหล่มน ขณะที่อีกคนเอื้อมไปหยิบสบู่มาถูตัวไม่สนใจคนด้านหลังที่พยายามบดเบียดเนื้อตัวแนบชิด

“มีความสุขไหมปอนด์?” คำถามจากคนด้านหลังทำให้ปอนด์นิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อกำลังตีความหมาย เมื่อไม่เห็นแววยั่วเย้าให้คิดลึกในประโยคนั้นจึงได้ตอบกลับไป

“ก็พอประมาณ”

“ยังไม่เบื่อกันใช่ไหม?”

“ถามมาก” ตากลมปรายมามอง

“อยากรู้นี่ กลัวคุณคิดว่าผมเปลี่ยนไป”

“คุณไม่ได้เปลี่ยนหรอกเจฟฟ์ ผมเข้าใจว่าอะไรทำให้เราต้องห่างกัน คนเราต้องการความรักความเอาใจใส่ แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต”

คำพูดที่ดูมีเหตุมีผลของขนมปังปอนด์ทำให้ยักษ์เจฟฟรี่อมยิ้ม

“น่ารักจริง เมียใครนะ?”

“พูดคำว่าเมียอีกทีเดี๋ยวตีปากเลย” มือเรียวเงื้อง่า เจฟฟรี่ชอบพูดนักล่ะคำนี้ พ่อเจ้าประคุณที่รู้ภาษาไทยดีกว่าคนไทย ชอบใช้คำแปลกๆกับเขาอยู่เรื่อย

“ไม่ชอบหรืออาย?” คนตัวโตเลิกคิ้ว ยิ้มนิดๆเมื่อเห็นแก้มคนรักขึ้นริ้วแดงน้อยๆ

“ไอ้บ้าเจฟฟรี่ ทำไมชอบล้อนักนะ!”

เจฟฟรี่หัวเราะในลำคอ หยอกล้อกันพอประมาณจนกระทั่งอาบน้ำเสร็จ ทั้งคู่พยายามเติมความหวานให้กันและใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด เพราะงานของเจฟฟรี่มันกำหนดเวลาอะไรแน่นอนไม่ได้ แต่ปอนด์ก็ยังเข้าใจมัน แม้บางทีจะงอแงไปบ้างตามประสา แต่กลับเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจกันมากที่สุดแล้วในเวลานี้


-----------------


เจฟฟรี่เข้ารับการฝึกเป็นบอดีการ์ดเต็มเวลาหลังเรียนจบ ในขณะที่ปอนด์ได้เป็นผู้จัดการร้านอาหารตามที่แพททริกบอกเอาไว้ แต่ละคนต่างก็เดินตามทางที่ตนเลือก ตั้งแต่วันที่ตกลงคบหากันเป็นจริงเป็นจัง พวกเขาก็ยังคงทำตัวเหมือนปรกติที่เคยเป็นมา เพราะก่อนหน้านั้นมันก็เกินคำว่าผูกพันมาตั้งนานแล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างต้องทำหน้าที่ของตน วันเวลาเปลี่ยนคน และเปลี่ยนหัวใจของใครอีกหลายคนให้ขยับมาตรงกันมากขึ้น

“นายเป็นพ่อประสาอะไรทอม ปล่อยให้ยายหนูป่วยได้ไง... อย่ามาเถียง! เดี๋ยวก่อนนะ เดี๋ยวก่อน ฉันจะจับพ่อยายหนูตีก้น!!”

ปอนด์ชะเง้อมองตามเสียงที่ดังมาให้ได้ยิน เจ้าของเสียงอย่างแพททริกเดินหัวเสียมาหาเขาพร้อมฝากงาน

“ฝากดูร้านหน่อยนะไอ้หนู ฉันจะไปจัดการพ่อลูกอ่อนหัวดื้อสักหน่อย”

“นานไหม?”

คำที่ถามกลับไปทันทีนั่นทำให้หนุ่มใหญ่เหลือบมองคนถาม ปอนด์กลั้นยิ้มในสีหน้า พยายามทำหน้าให้นิ่งที่สุดแล้วในตอนนี้

“แป๊บเดียว” ในที่สุดแพททริกก็ตอบกลับมาได้

“อ่าฮะ ได้ยินว่าลูกทอมไม่สบาย ดูเด็กก่อนนะค่อยดูพ่อเด็ก” ปอนด์ว่า นัยน์ตาเต้นระริกอย่างคนกำลังนึกสนุก

“รู้แล้วน่า แซวจริง” แพททริกดุไอ้ตัวเล็ก ดูก็รู้ว่ากำลังกลั้นขำเขาอยู่

เมื่อหนุ่มใหญ่เดินออกไปปอนด์ก็หัวเราะ มองส่งจนแพททริกขับรถไปจากร้านแล้วปอนด์จึงเข้าไปช่วยคุมงานในร้านแทนเจ้าของที่ติดภารกิจด่วน ต้องไปตีก้นพ่อลูกอ่อนหัวดื้อ เขาว่าอย่างนั้น

หลังยุติความสัมพันธ์กับแพททริก ทอมก็ออกไปทำงานที่อื่นและมีภรรยาเป็นสาวนั่งร้าน ซึ่งก็คือแองจี้คนที่ปอนด์เคยเจอทอมควงมาคนนั้น ก็ตามประสาพวกชอบเที่ยวเหมือนกัน มีความสัมพันธ์ฉาบฉวยแต่ดันปุบปับรับโชคมีเด็กขึ้นมา ยังดีที่ทอมมีสำนึกที่ดีอยู่บ้างทำให้เขาขอแองจี้ให้เอาเด็กไว้แล้วดูแลเด็กเอง ในตอนนี้แองจี้ก็ยังทำงานที่ผับแห่งนั้นอยู่ ขณะที่ทอม พ่อลูกอ่อนตัวคนเดียวต้องพยายามหาเงินเลี้ยงลูกน้อย มันไม่ง่ายเลยเพราะไม่มีงานที่ไหนเขาให้เอาเด็กไปทำด้วยได้ สุดท้ายทอมจึงบากหน้ากลับมาที่ร้านอาหารของแพททริก แพททริกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายลำบากมาจึงได้รับกลับเข้าทำงาน แถมดูแลทั้งพ่อทั้งลูกเสียดิบดีด้วยสิ

พวกเขาสองคนเดินวนกันอ้อมโลก กว่าจะวนกลับมาบรรจบกันได้มันน่ายินดีด้วยไม่น้อย รู้ตัวรู้ใจกันวันนี้ก็ยังไม่สายจนเกินไป

ปอนด์กลับห้องมาหลังเลิกงาน เปิดไฟในห้องแล้วเดินไปนั่งที่เบาะนุ่มท่าทางเหนื่อยล้า มองรอบกายที่มีเพียงความว่างเปล่าแล้วก็ถอนใจ นั่งนิ่งอยู่ครู่ใหญ่กว่าที่ปอนด์จะลุกไปอาบน้ำแล้วเข้านอน

วันนี้เจฟฟรี่ยังคงโทรมาหา แต่การจำกัดเวลาของเฟอร์ริงตันทำให้พวกเขาได้คุยกันน้อยลง พอวางสายจากอีกคนแล้วปอนด์ก็นั่งนิ่ง พิงศีรษะกับผนังห้องแล้วเงยขึ้นมองมัน ผนังที่เจฟฟรี่ช่วยทาสีให้ใหม่ในตอนนั้น มองแล้วก็ให้คิดถึงช่วงเวลาเก่าๆ เขารู้ดีว่าต้องอดทนเพราะมันคือหน้าที่ที่แต่ละคนต้องทำ เจฟฟรี่ไม่ได้อยากอยู่ห่างเขาเพราะเหตุผลส่วนตัว แต่เพราะการที่จะเป็นบอดีการ์ดที่ดีทำให้มันต้องเป็นเช่นนั้น

หนุ่มตัวเล็กนั่งกอดเข่า ระบายลมหายใจยาวกับความเงียบเหงาของห้องสี่เหลี่ยมห้องเดิม แต่ความรู้สึกตอนนี้มันกลับไม่เหมือนเดิม เหงายิ่งกว่าตอนจากบ้านมาใหม่ๆเสียอีก เพราะความเคยชิน เพราะเจฟฟรี่เข้ามาสร้างความเคยชินให้เขา แขนเรียวกอดตัวเองแน่นขึ้นแล้วหลับตาลงช้าๆ ทุกสัมผัสยังตราตรึง ยังคงจำได้ เมื่อห่างกันไกลแบบนี้ก็ยิ่งคิดถึง

บางทีเขาอาจเหนื่อยเกินไป ควรจะพักบ้างได้แล้วกระมัง เขากลับบ้านปีละครั้ง นอกนั้นก็ได้แต่โทรคุยกับครอบครัว แม่ชอบส่งของมาให้ทั้งที่เขาบอกว่าค่าส่งมันแพง จะกลับไปหาทานเองเมื่อกลับบ้านแต่ท่านก็ยังส่งมาให้อยู่เสมอ

ปอนด์พลิกโทรศัพท์ในมือขึ้นมา กดหมายเลขที่จำได้ขึ้นใจ โทรหาคนห่างไกลที่หัวใจเขาเฝ้าคิดถึงเสมอมา ครอบครัวของเขา ครอบครัวที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ที่ที่รอเขากลับไป

“แม่ครับ หยุดหน้าร้อนปอนด์จะกลับบ้านนะ อยากกอดแม่ใจจะขาด”


---------------


เจฟฟรี่ได้วันหยุดจากเฟอร์ริงตันมาห้าวัน การฝึกร่างกายและทักษะต่างๆในการเป็นบอดีการ์ดของเฟอร์ริงตัน แต่ละวันแสนเหนื่อยหนัก กลับมาที่พักก็แทบไม่มีแรงเหลือทำอะไรแล้ว บางวันยังถูกทดสอบจากผู้ฝึกสอนเรื่องการระวังภัย จะหลับจะนอนก็ไม่เต็มตาเพราะประสาทสัมผัสต้องดี หากมีภัยมาใกล้ตัวแล้วมัวแต่ห่วงหลับมันจะได้หลับไม่ต้องตื่นกันแน่ทีนี้

ราวยกความหนักหน่วงทุกอย่างวางกองไว้ เจฟฟรี่รีบมาหาปอนด์ที่ห้อง อยากขอเติมแรงใจ อยากเห็นหน้าคนตัวเล็กที่ไม่ได้เห็นมาหลายเดือน ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง จะคิดถึงเขาไหม หรือจะงอนที่ไม่ได้กลับมาหาเลย ทุกทีมีแต่โทรหากัน พักหลังมาถูกจำกัดเวลาโทรเข้มงวดขึ้นทำให้ได้คุยกันไม่นานก็ต้องปิดเครื่อง คิดถึงจะแย่แล้วตอนนี้

เมื่อมาถึงกลับเห็นเพียงทอมที่เข้ามาอาศัยอยู่ห้องข้างๆ แถมยังมีลูกน้อยติดสอยห้อยท้ายมาด้วย เขาก็เพิ่งรู้เพราะปอนด์ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย นี่พวกเราห่างกันไปไกลแค่ไหนแล้ว

“ปอนด์ไม่อยู่หรอก กลับบ้านไปหลายวันแล้ว” ทอมบอกกล่าวเมื่อเจฟฟรี่กดกริ่งหน้าประตูห้องปอนด์แล้วยืนรออยู่นานแล้ว

“กลับบ้าน?” ชายหนุ่มตัวโตมุ่นคิ้ว กลับไปตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่เห็นบอกกัน

“ใช่ ที่เมืองไทย”

“........” ได้ยินแบบนั้นแล้วเจฟฟรี่ก็เงียบ ไม่เห็นบอกเขาเลยสักคำ

“แล้วเขาจะกลับมาที่นี่วันไหน รู้ไหม?”

“ไม่ได้บอกไว้ แต่หมดวันลาคงกลับมามั้ง...”

“........”

ทอมเหลือบมองหนุ่มรุ่นน้องที่ยืนนิ่งแล้วก็เปรยขึ้นมาเบาๆ “ไม่ได้เจอนายตั้งนาน นึกว่าเลิกกันไปแล้ว”

เจฟฟรี่เงยมองคนพูด ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป นึกว่าเลิกกันไปแล้วอย่างนั้นหรือ บางทีปอนด์อาจคิดแบบนั้นด้วย... หรือเปล่า?


--------------


วันต่อมาเจฟฟรี่ก็ยังคงมารอปอนด์ที่ด้านล่างของตัวอาคารที่พัก ทอมอุ้มลูกพลางตบก้นเบาๆกล่อมให้หลับอยู่บนระเบียงทางเดินหน้าห้อง มองเจฟฟรี่ที่เดินเตร่อยู่ข้างล่าง เดี๋ยวนั่ง เดี๋ยวลุกเดินแล้วก็เวียนหัวแทน ทำไมไม่โทรไปถามว่าปอนด์จะกลับวันไหน จะได้ไม่ต้องมารอทุกวันแบบนี้

ด้านล่างนั่นแพททริกกลับมาจากที่ร้าน พ่อลูกอ่อนเขามัวแต่ดูแลลูกคงไม่ได้ออกไปหาอะไรทานเลยใจดีเอามาให้ถึงที่ เจอเจฟฟรี่ที่เดินเตร่ไปมาก็เลิกคิ้วแปลกใจ ก่อนเข้าไปถามไถ่ตามประสาเจ้าของที่พัก

“มาหาปอนด์หรือ?”

“ครับ” เจฟฟรี่ผงกศีรษะทักทายก่อนตอบกลับไป

“อืม เขากลับบ้านน่ะนะ ไม่โทรถามเขาล่ะว่าจะกลับเมื่อไร”

“ปิดเครื่อง” เจฟฟรี่ยิ้มจืด อยู่ก็ไกล ติดต่อก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นกังวลอยู่แบบนี้

“ถ้าอย่างนั้นไว้เจ้าหนูนั่นกลับมาแล้วฉันโทรไปบอกให้เอาไหม ดีกว่ามารอโดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับตอนไหนตั้งเยอะ” แพททริกเสนออย่างมีน้ำใจดี

“ผมเหลือวันหยุดอีกแค่สามวัน ถ้าเขาไม่กลับมาตอนนี้คงไม่ได้เจอกันอีกนานเลย” ราวบ่นพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า

แพททริกมองอย่างเข้าใจ มือหนาเอื้อมไปตบบ่าหนุ่มตัวโต “ถ้าอย่างนั้นก็เอาใจช่วยให้เขากลับมาหานายไวๆแล้วกัน”

“ขอบคุณ”

แพททริกตบบ่าให้กำลังใจเจฟฟรี่อีกครั้งก่อนเดินขึ้นห้องพักไป เจฟฟรี่ถอนใจ มองตรงไปยังถนนด้านหน้าอาคารที่พัก ไม่เห็นวี่แววว่าคนที่ตนเองรอจะกลับมาก็ชักถอดใจ

“วันนี้คงไม่มาแล้ว กลับดีกว่า”

เจฟฟรี่กลับมานอนเอกเขนกอยู่ที่ห้องพักของตนเองและอัลเบิร์ตภายในที่ฝึกสอน สายตามองเหม่อดูเพดานห้องที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ อัลเบิร์ตมานั่งด้วยเขาจึงละสายตามามองเพื่อน

“ไม่กลับบ้านหรือเจฟฟ์?”

“กลับไปแล้ว ขี้เกียจฟังแม่บ่นเลยกลับมา” เขามันลูกคนกลาง ไม่ค่อยมีคนสนใจหรอก แต่พอกลับบ้านทีที่บอกไม่สนใจนั่นล่ะเข้ามาบ่นเขาอยู่เรื่อย

“นายล่ะ?” เอ่ยถามเพื่อนบ้าง

“ไว้ตอนฝึกเสร็จค่อยกลับไปทีเดียว บ้านฉันไม่ได้อยู่ในลอนดอนนะ” อัลเบิร์ตว่า

“จริงด้วยสิ”

“ไม่เจอปอนด์หรือ?” เอ่ยถามเพราะพอรู้อยู่ว่าสองคนนี้คบกัน เรื่องแค่นี้ปอนด์ไม่เคยปิดเขา

“ไม่”

“อ้อ” อีกคนพยักหน้ารับรู้ แล้วต่างก็เงียบกันไป

“เฮ้อ คิดถึงจนจะบ้าแล้ว” เจฟฟรี่ครวญ อัลเบิร์ตยิ้มขำเขา แต่อย่าได้ใส่ใจ ก็คนมันคิดถึงนี่ โทรหาก็ไม่ติด จะไปหาก็ไม่ได้ แย่ชะมัด

เวลาฝึกมันหนักจนทำให้ไม่มีเวลามานั่งคิดถึง แต่พอตอนนี้ที่อยู่ว่างๆทำให้ว้าวุ่นน่าดู อยากเจอใจแทบขาดแล้วปอนด์ กลับมาสักทีเถิดที่รัก


----------------


วันต่อมาเจฟฟรี่ก็มาที่ห้องพักของปอนด์อีก เสียงยายหนูลูกสาวของทอมร้องกระจองอแง เจฟฟรี่เงยมองแล้วก็ยิ้มเมื่อคิดว่าทอมกำลังปลอบลูกอยู่เหมือนเคย ชายหนุ่มนั่งลงที่ม้านั่งใต้อาคาร การนั่งรอปอนด์คืองานประจำของเขาไปเสียแล้ว

เสียงร้องของลูกสาวทอมยังคงดังแว่ว เหมือนคนด้านบนจะกำลังเดินวนไปวนมาเพื่อปลอบหนูน้อย เจฟฟรี่คงไม่ได้สนใจมันมากไปกว่าการมองทางเข้าที่พักหากไม่ได้ยินเสียงพูดของคนที่เขาคิดว่าเป็นทอม

“อย่าร้องสิตัวเล็ก พี่ปลอบใครไม่เป็นนะรู้เปล่า?”

หือ?

เจฟฟรี่หูผึ่ง ดีดตัวลุกแล้วเดินออกมาหน้าอาคาร เงยขึ้นไปมองเห็นที่รักของเขากำลังโอ๋เด็ก ดวงตาคมเบิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มที่เปิดกว้าง ขายาวรีบก้าวเร็วๆขึ้นบันไดไป แต่ดูเหมือนจะไม่ทันหัวใจที่ติดปีกลอยขึ้นไปหาคนบนนั้นแล้ว

คนที่กำลังปลอบเด็กน้อยในอ้อมแขนหันมาเห็นเขาแล้วก็ชะงัก สีหน้าดูแปลกใจก่อนริมฝีปากอิ่มจะขยับเรียก

“เจ...”

ร่างสูงใหญ่ก้าวไม่กี่ก้าวก็สามารถรวบกอดอีกคนมาแนบกาย ทั้งยายหนูลูกสาวของทอม ทั้งคนรักของเขาที่ยืนงงอยู่ในอ้อมแขน

“เจฟฟ์ ปล่อยก่อน เดี๋ยวยายหนูก็แบนหรอก”

เสียงเตือนจากคนรักทำให้เจฟฟรี่รู้สึกตัว คลายอ้อมแขนแล้วถอยออกมา

“กลับมาแล้วก็ไม่บอกผมเลย”

“เพิ่งมาถึงเมื่อเช้า กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปแล้ว ฮะๆ”

ปอนด์บอกกล่าวพร้อมหัวเราะขบขันตัวเอง ก่อนจะชะงักเมื่อมือหนาเอื้อมมาแนบแก้ม

“คิดถึงมากรู้ไหม?”

แววตาจริงจังทั้งยังหวานล้ำทำให้ปอนด์มองซ้ายขวาหลุกหลิก ทำหน้าไม่ถูกกับยักษ์ตัวโตอารมณ์นี้

“มาพูดอะไรตรงนี้ล่ะ” ต่อว่าด้วยความขัดเขิน นี่มันหน้าห้องนะ แถมยังต่อหน้าหนูน้อยที่เงยมองพวกเขาตาแป๋วอีก

เจฟฟรี่หัวเราะในลำคอ รับเอาเด็กน้อยมาอุ้มเสียเอง ดูไปแล้วก็เข้าทีดีเหมือนกัน ฝรั่งตัวโตกับหนูน้อยผมทอง

“เปิดห้องสิที่รัก”

คนตัวโตเอ่ยบอกพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ปอนด์ทำหน้ารู้ทัน แต่ก็ยอมก้าวไปเปิด โดยมีเจฟฟรี่มายืนซ้อนหลัง แขนข้างหนึ่งอุ้มเด็กน้อยขณะที่อีกข้างกอดเอวคนรัก อา... ตอนนี้จะมีใครสุขใจเท่าเจฟฟรี่ที่ได้กอดขนมปังปอนด์เสียทีคงไม่มีอีกแล้วกระมัง

เข้ามาในห้องแล้วเจฟฟรี่ก็ยังต้องมานั่งเล่นกับยายหนูของทอม ดูเด็กน้อยจะชอบเขาเป็นพิเศษเพราะมีผมยาวๆให้ดึงเล่น ถึงมือจะเล็กแต่เล่นขยุ้มกำแล้วดึงก็เจ็บไม่เบาเลย ปอนด์ก็ได้แต่นั่งหัวเราะ ไม่มีเข้ามาช่วยกันสักนิด พอจับหนูน้อยวางจุ้มปุ๊กบนเบาะนุ่มเธอก็ร้องไห้จ้าจนเจฟฟรี่ต้องอุ้มมานั่งตักใหม่อีกรอบ

“ท่าทางจะหิวนมมั้ง ผมก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กด้วยสิ” ปอนด์ว่าเพราะยายหนูเริ่มดูดนิ้วตัวเองแล้ว

“แล้วนี่ทอมไปไหน?” เจฟฟรี่จับมือน้อยๆนั่นออกจากปาก ดูดนิ้วมากเดี๋ยวฟันเหยินนะลูก

“ไปทำงานที่ร้าน ลาหลายวันแล้วเจ้าของร้านเขาชักบ่นจนน่ารำคาญ” ว่าแล้วก็หัวเราะ “เดี๋ยวผมไปชงนมให้แกก่อนนะ ดูแลกันดีๆล่ะ”

ฝากฝังโดยไม่ฟังคำทัดทาน เจฟฟรี่ได้แต่อ้าปากค้างเมื่อปอนด์ลุกไปชงนมตามที่บอก ก้มมองเด็กน้อยบนตักแล้วก็ถอนใจ ยังไม่แต่งงานเลย มีลูกน้อยเสียแล้วหรือเรา

ปอนด์เอานมมาให้น้องหนูเมื่ออุณหภูมิได้ที่แล้ว ทอมสอนก่อนออกไปทำงานทำให้เขาพอจำได้อยู่ พอได้ดื่มนมลูกสาวทอมก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้น เล่นกับคนนั้นคนนี้จนเหนื่อยแล้วนอนพับหลับไป ปอนด์จึงจัดแจงให้หนูน้อยได้นอนพัก เห็นเธอหลับปุ๋ยแล้วเจฟฟรี่ก็แทบถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

“น่านับถือทอมจริงๆ ต้องเลี้ยงลูกทุกวันท่าจะเหนื่อย” หนุ่มตัวโตพูดขึ้นมา หมดเวลาของเด็กน้อยแล้วก็ถึงเวลาของผู้ใหญ่แบบเขาเสียที เสียเวลาไปกับเรื่องอื่นจนไม่ได้หวานกันอย่างที่ตั้งใจเอาไว้เลย

“คุณก็ดูโอเคนะ ดูเป็นคุณพ่อมือใหม่ เก้ๆกังๆแต่ใช้ได้” ปอนด์วิจารณ์ ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเจฟฟรี่เท่าไร ก็คนมันไม่เคย

“คุณกลับบ้านไม่บอกกันเลย ผมโทรหาก็ไม่ติด”

ปอนด์ชะงัก เงียบไปครู่หนึ่งก่อนหันมาตอบ “มือถือผมตกน้ำ อืม... อ่างล้างจานที่ร้านแพททริกน่ะ ใจผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ของแพงด้วย เสียดายมากเลยอ่ะ”

“ซ่อมไม่ได้หรือ?”

“คิดว่าปล่อยให้มันแห้งอาจใช้ได้ แต่ก็นะ เฮ้อ” คนตัวเล็กถอนใจ ลุกจากเตียงที่ให้หนูน้อยนอนมาที่ครัว จริงๆอยากนอนพักสักหน่อยเหมือนกัน แต่หาอะไรรองท้องก่อนก็น่าจะดี ทอมเอาลูกมาฝากแต่เช้าทำให้ไม่ได้ทานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

“เดี๋ยวซื้อให้ใหม่” เจฟฟรี่ตามเข้ามาแล้วเอ่ยบอกคนตัวเล็กที่ค้นของในตู้เย็นออกมาวางบนโต๊ะ

“บ้า ที่บ่นนี่ไม่ได้จะให้ซื้อให้นะ” ปอนด์ตอบกลับไปพลางคว้าผ้ากันเปื้อนมาใส่แล้วจัดการทำอาหารง่ายๆตามแบบฉบับของตัวเอง

“อยากให้ จะได้ติดต่อกันได้ ผมว้าวุ่นสุดๆตอนโทรหาคุณไม่ติด”

“เว่อร์ละ”

“จริงๆ ใจจะขาดรอนๆ”

“แหวะ”

เจฟฟรี่อมยิ้มเมื่ออีกคนหันมามองเขาแล้วทำเป็นเลี่ยนกับคำพูดพวกนั้น ที่รักของเขากำลังเขิน

“ปอนด์”

“หือ?”

“ขอเรียกเมียได้ไหม?”

ปอนด์หันขวับมามอง กะพริบตาปริบๆเมื่อเจฟฟรี่พูดคำว่าเมียอีกแล้ว “บ้าไปแล้ว”

“เรียกได้ไหมล่ะ?” อีกคนยังทวงถามยิ้มๆ

“ที่พูดนี่รู้หรือเปล่าว่ามันแปลว่าอะไร ภาษาไทยแตกฉานเหลือเกิ๊น”

อดประชดไม่ได้ ปรกติเวลาเขาแอบด่าเป็นภาษาไทยเจฟฟรี่ก็มักจะฟังออก ทำให้ปอนด์ไม่คิดจะหลอกด่าแล้วเปลี่ยนมาด่ากันตรงๆเลยเสียมากกว่า ไม่เคยถามด้วยสิว่าไปเรียนมาจากไหน หรือทำไมฟังออก แต่ตอนนี้ชักอยากจะรู้แล้ว เพราะดูเหมือนฝรั่งตัวโตตรงหน้าจะใช้ภาษาบ้านเกิดเมืองนอนของเขาได้ดีเสียเหลือเกิน แม้มันจะไม่ได้ชัดแจ๋วเช่นเจ้าของภาษาก็เถอะ

“เมียก็คือไวฟ์ ไวฟ์ก็คือเมีย ปอนด์เป็นมายไวฟ์ ก็คือปอนด์เป็นเมียผม” เจฟฟรี่อมยิ้ม อธิบายคำว่าเมียเสียชัดแจ้ง

“ไอ้บ้า” ปอนด์ทำหน้าไม่ถูกกับคนรู้ดี

“เมียจ๋า”

“เจฟฟรี่!!” หนุ่มตัวเล็กแยกเขี้ยว ชอบแกล้งเขานักตาคนนี้

“หึๆ เขินหรือ?” สายตาแพรวพราวส่งมาให้คนรัก

“ไม่เรียกเมียได้ไหม มันฟังดูขนลุกยังไงไม่รู้” ปอนด์แทบไม่รู้เลยว่าเสียงที่ตนเองเอ่ยกับอีกฝ่ายนั้นมันแผ่วเบาแค่ไหน เมื่อใบหน้าคมคายโน้มลงมาหา

“อยากเรียกนี่”

มือหนายกขึ้นมาเกลี่ยแก้มใส บังคับให้มองสบตา ก่อนโน้มลงไปจุมพิตเรียวปากสวย กระซิบถ้อยคำแนบชิดเมื่อประกบปิด มอบจูบหวานล้ำให้เจ้าของริมฝีปาก

“เมียรัก”

ปอนด์หัวเราะ “เลี่ยนจัง”

“ชอบล่ะสิ”

“บ้า”

ทุบคนขี้แกล้งไปเบาๆ สอดแขนคล้องลำคอหนาเมื่อยอมรับจุมพิตอ่อนหวาน เจฟฟรี่ค่อยตักตวงอย่างช้าๆ กวาดต้อนลิ้นเล็กที่กระถดหนีเมื่อเขาปาดไล้ เสียงหัวเราะในลำคอจากคนตัวเล็กทำให้เขายิ้ม แนบนาบริมฝีปากบดเบียดแล้วดูดดุนลิ้นลื่น เฝ้าจูบให้สมรักที่ต่างฝ่ายก็เฝ้ารอ

“เจฟฟ์ ไม่เอา...” มือเรียวดันบ่าแกร่งเมื่อแขนแข็งแรงโอบรัด ทั้งยังเลื่อนมือมาบีบสะโพกแน่นตึงแล้วบดเบียดให้ท่อนล่างเสียดสี

เหมือนเจฟฟรี่จะไม่ได้ยินคำห้ามปราม ยังคงตามจูบริมฝีปากอิ่มไม่ลดละ โหยหาเหลือเกินกับสัมผัสนี้ ความหวานของขนมปังทำให้เขาติดใจจนไม่อยากผละไปง่ายดายนัก

“เจฟฟ์ เด็กนอนอยู่” กระตุ้นเตือนอีกหนก่อนที่ตนเองจะคล้อยตามการโอ้โลมจากคนรัก

“ใช่ เด็กนอน และหลับไปแล้ว” เจฟฟรี่ว่า ลงมือปลดกางเกงของคนตัวเล็กออกแล้วสัมผัสก้อนเนื้อนุ่มมือนั้นเต็มกำ

“เดี๋ยวทอมกลับมา” ปอนด์ยังประท้วงแม้ตัวเองกำลังจะเป็นฝ่ายพ่าย

“ให้รอไปก่อน เราติดธุระสำคัญ”

“อื้อออ”

ริมฝีปากหนาจูบปิดคำประท้วงที่อีกคนจะเอื้อนเอ่ย ยกกายที่รักนั่งบนขอบโต๊ะแล้วยืนแทรกกลางขาเรียว ลูบไล้ต้นขาเปลือยเปล่าและปลีน่องพลางกระซิบชิดเรียวปากด้วยเสียงพร่าสั่นเล็กๆ

“สงสัยผมจะโดนยาเสน่ห์”

ปอนด์หัวเราะ ทั้งคู่ยังคงจูบกันต่อจนกระทั่งแผ่นหลังบางถูกเอนลงไปบนโต๊ะนั่น ผ้ากันเปื้อนที่ยังหลงเหลือปิดกายาถูกเจฟฟรี่เลิกขึ้นเพียงนิดเดียว มันดูเร้าใจกว่ากันเยอะหากจะปิดๆบังๆเอาไว้ ตื่นเต้นดีชะมัดเลยเมียจ๋า

แผ่นหลังบางแอ่นหยัดจากโต๊ะเมื่อคนตัวโตกดแทรกกายเข้ามาช้าๆ ตากลมรื้นด้วยหยาดน้ำตามองสีหน้าเหยเกของคนรักแล้วแก้มก็พาลร้อนผ่าวจนลามไปทั้งตัว เท้าเรียวเหยียบขอบโต๊ะเพียงหมิ่นเหม่ทำให้มือหนารั้งมาเกาะเกี่ยวเอวสอบแทน โน้มก้มลงรวบดูดยอดอกสีสวยพลางกระทุ้งเบาๆจนคนตัวเล็กหลุดเสียงคราง

เจฟฟรี่เบี่ยงหน้า จูบริมฝีปากอิ่มพลางขยับโยกกาย เขายังมีแรงล้นเหลือ อยากจะรักปอนด์อีกหลายๆครั้ง วันหยุดยังเหลืออีกสองวัน หากจะขอรักแบบนี้ทุกวันขนมปังปอนด์เมียรักของเขาจะช้ำมากไหมหนอ...?



TBC



ตอนที่ 6 แล้วฮะ เขยิบกันไปอีกนิดหน่อย

ขอบคุณที่ติดตาม บวกและบวกให้ทุกคนค่ะ :L2:

วันใหม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
คู่นี้ไม่หวือหวา แต่น่ารักมาก   :o8:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
ไม่ต้องขอแล้วเจฟฟ์ จัดไปเลย ขนมปังปอนด์พรุนแน่ๆ
ตอนเรียกเมียรักนี่อยากจะกิ๊ดมาก น่ารักมากไม่ไหว
ขอให้การฝึกของเจฟฟ์ผ่านไปด้วยดี จะได้มาหวานแหววเยอะๆ คึคึ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ PoppyPrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re
«ตอบ #75 เมื่อ10-02-2014 19:30:10 »

เข้ามาตามอ่านคู่นี้ น่ารักมาก><

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ขอบจัง เมียรัก อิอิ จัดเลยให้หายคิดึถึง อิอิ

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
เฮอ! ค่อยหายคิดถึงหน่อยเพราะปอนด์กลับมาแล้ว ^^
"มายไวฟฟ์"  อิอิ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ MixsinDee

  • การ ขอ โทด แบบ จิงใจ จะ ได้รับ การ อภัย ด้วย ใจ จริง....
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






jokirito

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เสียงโต๊ะขยับมันอาจจะดังจนเด็กน้อยตื่นก็ได้นะ 555555  :haun4:

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1

- aoeaม -

  • บุคคลทั่วไป
แวะเอาไอดีใหมมาแปะเรื่องของน้องขนมปังปอนด์กับเฮียเจฟฟ์ หลังจากที่เอาไอดีเก่าไปแปะหัวใจซ่อนรักฉบับดั้งเดิมเมื่อนานมาแล้ว....  :z6:

สเปเชี่ยลเรื่องนี้ ต่างจากฉบับดั้งเดิมอยู่มากโข ปรับเปลี่ยนอารมณ์ชนิดสุดขั้ว จากี่เคยดราม่าฮาหาย กลับมาหวานละมุนจนแทบจะละลายตรงหน้าจอคอม แอร้ยยยย แต่ฉาก NC เยอะเหมือนเดิมค่ะพี่ขาาาา  :impress2:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ยังคงหวานอย่างต่อเนื่อง มีแววว่าจะเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ
แต่ทางที่ดีอย่าห่างกันนานเลยนะ ปอนด์จะแย่เอาน่ะสิ
ไม่ได้หวานถึงขั้นมดขึ้น แต่อยู่ด้วยกันทีไรก็ทำเอาเราอายได้เลย :o8:
ส่วนเรื่องทอมกับแพทริก บอกตรงๆว่าดีใจที่ลงเอยแบบนี้
ได้ดูแลกันแถมยังได้หนูน้อยมาเป็นแก้วตาดวงใจอีกหนึ่ง
เอาเป็นว่าปอนด์ทำสำเร็จ แต่อาจจะช้าไปนี้ดดด :laugh:
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
เมียรัก

ตอนที่ ๗ ยอดยาหยี



รสจุมพิตอ่อนหวานจากคนตัวโตทำให้ร่างเล็กที่ถูกครอบครองเรียวปากนุ่มราวกำลังเคลิ้มฝัน ริมฝีปากอิ่มสวยเผยอน้อยๆตอบรับจุมพิตที่ค่อยเลาะเล็มไม่รีบร้อน ปลายลิ้นอุ่นสอดแทรกค้นคว้าในโพรงปาก ตวัดไล้หยอกล้อปลายลิ้นเล็กขณะที่มือหนาเคลื่อนมาที่กระดุมเสื้อ ปลดมันออกทีละเม็ดจนเปิดเปลือยแผ่นอกขาวบางน่าฝากฝังรอยจูบ ไม่รอช้าเมื่อละริมฝีปากจากการไล่ต้อนให้คนตัวเล็กหัวหมุนมันก็ถูกทำหน้าที่อื่นในเวลาต่อมา ค่อยซุกไซ้ลากไล้ลิ้นร้อนไปตามผิวเนื้ออ่อน เสียงครางเบาๆในลำคอเจ้าของร่างกายที่เขากำลังสัมผัสยิ่งทำให้ลำพองใจ ลิ้นสากลากไล้ตวัดวนบนยอดอกสีอ่อน

“พอแล้วเจฟฟ์...” ปอนด์ดันบ่ากว้าง แต่ก็สู้แรงคนตัวโตไม่ไหว พอดันออกอีกฝ่ายกลับงับยอดอกเขาติดไปด้วยจนต้องร้องประท้วง

“อีกนิดหนึ่งที่รัก ยังมีเวลาเหลือ” คนตัวโตยังดื้อดึง ดูดกลืนเม็ดทับทิมจนมันชุ่มโชก

“เวลาคุณเหลือ แต่ของผมไม่เหลือแล้วเจฟฟรี่!” กำปั้นเล็กทุบไหล่แกร่ง “คนจะไปทำงาน”

ใบหน้าเรียวงอง้ำ แก้มใสขึ้นสีระเรื่อเพราะอารมณ์ที่ถูกปลุกปั่น เจฟฟรี่บุ้ยปาก ยื่นหน้าไปจูบปากอิ่มจนถูกคนตัวเล็กตีแก้มเอาซ้ำอีก มือเรียวบี้แก้มสากไรเคราแล้วตบเบาๆ

“กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองได้แล้วยักษ์บ้า”

เจฟฟรี่กุมมือเรียวมาจูบกลางฝ่ามือแล้วมองดวงตากลมอย่างแสนเสียดาย “คิดถึงผมบ้างนะเบบี๋”

“ทำเหมือนจะลาไปไกลอย่างนั้นแหละ เดี๋ยวก็ฝึกเสร็จแล้ว ผมจะรอ”

คนฟังอมยิ้มแก้มจะแตก รวบกอดรัดคนตัวเล็กจนอีกฝ่ายร้องโวยวาย

“อย่าแอบไปมองใครที่ไหนนะปอนด์”

“รู้แล้ว จะมองใครได้เล่า รีบไปได้แล้วเดี๋ยวสายก็ถูกลงโทษเอาหรอก”

“รักปอนด์นะ”

“อือ เหมือนกัน”

ปอนด์มองส่งคนรักที่ขึ้นรถกลับไปที่ฝึกจนกระทั่งรถคันดังกล่าวลับสายตาไป เจฟฟรี่ไปแล้ว หมดวันหยุดที่ได้มา ต่อไปก็คงต้องรอจนกว่าเจฟฟรี่จะได้เป็นบอดีการ์ดเต็มตัว ช่วงเวลานั้นเขาก็ต้องทำงานของตัวเองให้ดีเช่นกัน

เจฟฟรี่กลับมารับการฝึกต่อจนจบหลักสูตร จนเมื่อถึงวันทดสอบทักษะและความสามารถ เขาและอัลเบิร์ตสามารถผ่านการทดสอบมาได้จนได้รับตำแหน่งบอดีการ์ดที่เฟอร์ริงตันเตรียมไว้ให้ เจฟฟรี่ได้เป็นมือขวาของอเล็กซานเดอร์ที่จะขึ้นเป็นผู้นำของเฟอร์ริงตันคนต่อไป เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมานานทำให้รู้ใจกันเป็นอย่างดี ขณะที่อัลเบิร์ตได้เป็นหนึ่งในบอดีการ์ดของวิคเตอร์ ทำให้ทั้งสองคนต้องแยกกันทำงาน จนกระทั่งวันที่อเล็กซานเดอร์เรียกตัวอัลเบิร์ตมาทำงานด้วย พวกเขาถึงได้ทำงานด้วยกัน

วันเวลาค่อยๆผ่านไป เขาและปอนด์ต่างก็ค่อยปรับตัวกับเวลาของแต่ละคนที่มีไม่เท่ากัน ปอนด์ยังคงเลิกงานสามทุ่มครึ่งขณะที่เจฟฟรี่ต้องรอส่งต่อหน้าที่ให้บอดีการ์ดของคฤหาสน์เฟอร์ริงตันจึงจะหมดเวลาทำงานในแต่ละวัน หากบางวันอเล็กซานเดอร์เกิดอยากไปเที่ยว วันนั้นเขาก็ไม่ได้กลับมาหาปอนด์ที่ห้องเพราะกว่าจะกลับก็ดึกดื่นจนข้ามไปช่วงเวลาของวันใหม่ ดูเป็นการเอาเปรียบที่ให้ปอนด์รอเสียทุกที แต่ปอนด์ก็ไม่เคยบ่นเรื่องนั้น ถ้าเป็นเรื่องงานปอนด์จะไม่พูดถึง แต่อย่าให้รู้ว่าที่หายไปนานๆเพราะแอบไปมีใครซุกไว้ที่ไหน ไม่อย่างนั้นมีหวังบ้านแตก


----------------


ร้านอาหารของแพททริก

อัลเบิร์ตมาหาปอนด์ที่ร้านในวันหนึ่ง ปอนด์ออกจะแปลกใจอยู่สักหน่อยที่เพื่อนมาหาตนเองได้ จนเมื่อได้มานั่งคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันแล้วถึงได้รู้ว่าเพื่อนท่าทางจะกำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะยอมอเล็กซานเดอร์มากไปนั่นล่ะถึงได้ต้องเหนื่อยใจอยู่แบบนี้ แต่เขามันก็คนนอกจะเข้าไปยุ่งมากก็ไม่ได้ ได้แต่ยุให้เพื่อนลุกขึ้นสู้บ้างถึงแม้มันจะไม่มีทางเลยก็เถอะ เพราะอย่างไรเสียนอกจากความเป็นเพื่อนที่แสนจะคลุมเครือในความสัมพันธ์แล้วอัลเบิร์ตก็ยังอยู่ในฐานะลูกน้อง คงหือกับเจ้านายอย่างอเล็กซานเดอร์ได้ยาก แต่ในเมื่อวันนี้ที่อัลเบิร์ตมาหาแล้วบอกว่าตัดสินใจที่จะถอยห่างจากอเล็กซานเดอร์ เขาก็พร้อมจะช่วยเพื่อนเต็มที่ แม้เพื่อนจะไม่ได้เรียกร้องแต่เขาก็ยินดีจะทำ หมั่นไส้อเล็กซานเดอร์มานานหลายปีละ คราวนี้เอาให้อกแตกตายไปเลยท่าจะดี

“เฮ้ย! ไม่ดีมั้งที่รัก เดี๋ยวได้โดนอเล็กซ์แหกอกเอาหรอก” เจฟฟรี่ทักท้วงมาตามสายเมื่อขนมปังปอนด์ตัวยุ่งกำลังจะก่อเรื่องอีกแล้ว เรื่องเมื่อคราวทอมกับแพททริกยังไม่เข็ดอีกหรือ เขาล่ะหวั่นใจว่าสุดที่รักตัวป่วนของเขาจะทำอะไรแผลงๆเสียจริง

“ปอดแหก!” นั่น โดนว่าเข้าให้ “ถึงยังไงผมก็อยู่ข้างอัล คุณเลือกมาเลยดีกว่าว่าจะอยู่ข้างใคร ผม หรือ อเล็กซานเดอร์!”

หนุ่มตัวเล็กยื่นคำขาด ทำให้คนปลายสายมีสีหน้ายุ่งยากใจ

“เลือกได้ที่ไหนล่ะ” บ่นพึมพำ หนักใจกับพ่อเจ้าประคุณปังปอนด์เหลือเกิน

“เลือกไม่ได้ไม่เป็นไร คุณก็อยู่ข้างเจ้านายคุณไป แล้วต่อไปผมทำอะไรก็อย่ามาห้าม โอเค๊?” มีการเลือกข้างให้เสร็จสรรพเสียอีก อยากอ้ำๆอึ้งๆนัก เสียเวลาจริงเจฟฟรี่นี่

“ปอนด์ อย่าทำให้ผมลำบากใจได้ไหม?” เจฟฟรี่โอดครวญ

“ก็จัดการให้แล้วนี่ไง คุณไม่ต้องหักหลังอเล็กซ์ ยังเป็นลูกน้องที่ภักดี ยอดเยี่ยมไปเลย”

คนตัวโตถอนใจกับคำประชดประชัน ลองให้ตัดสินใจทำแล้วปอนด์ไม่มีทางถอยแน่ เกิดเป็นเจฟฟรี่นี่มันลำบากจริ๊ง

ปอนด์จัดการนัดแนะกับเพื่อนหลังจากที่เพื่อนหนีอเล็กซานเดอร์มาได้ เขาจะพาเพื่อนกลับไทยด้วย ที่นั่นมันถิ่นเขา รับรองได้เลยว่าต่อให้อเล็กซานเดอร์จะเก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางหาเจอ แต่แล้วสิ่งที่นัดกันเอาไว้ก็กลับล่ม เมื่อก่อนไปไทยอัลเบิร์ตได้กลับไปบ้านที่เคมบริดจ์แล้วเกิดเรื่องขึ้นที่นั่น และอเล็กซานเดอร์ก็เป็นคนตามไปช่วยเอาไว้ได้ทันพร้อมกับพาเพื่อนของเขากลับมาที่เฟอร์ริงตัน ปอนด์ที่รู้เรื่องจากเจฟฟรี่ก็ได้แต่ทอดถอนใจ สองคนนี้มันเป็นคู่เวรคู่กรรมกันหรืออย่างไร หนีกันไม่พ้นเสียที

หลังจากนั้นมาปอนด์ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับอัลเบิร์ตนัก เพราะอีกฝ่ายถูกกักให้อยู่แต่ในเฟอร์ริงตัน จนกระทั่งได้เห็นข่าวเรื่องที่อเล็กซานเดอร์จะแต่งงานผ่านทางรายการโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ปอนด์ก็ร้อนรนแทนเพื่อน มันมากไปแล้วแบบนี้ จะแต่งงานกับลูกสาวตระกูลผู้ดีเก่าแล้วจะให้เพื่อนเขาไปอยู่ตรงไหน อเล็กซานเดอร์ท่าจะบ้าไปแล้ว

ปอนด์คว้าโทรศัพท์จะกดโทรหาอัลเบิร์ต วันนี้เป็นไงเป็นกันสิ เขาทนไม่ไหวแล้ว เพื่อนของเขาทนได้ แต่เขาจะไม่ทน ปอนด์จะไม่ทนได้ยินไหม!

ประสบการณ์ที่เคยทำอะไรพลาดผิดจากเรื่องของทอมกับแพททริกทำให้ปอนด์ไม่กล้าพอจะยื่นมือเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องของคนอื่น กลัวมันผิดพลาดซ้ำสอง แต่คราวนี้มันไม่ใช่ คนอย่างอเล็กซานเดอร์ควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง!

แต่ก่อนที่จะได้กดโทรไปไหนอัลเบิร์ตก็เป็นฝ่ายโทรมาหาเขาเสียก่อน ปอนด์รีบกดรับก่อนจะนิ่งไป เพียงคำพูดสั้นๆจากเพื่อนของเขาก็ทำให้ใจที่ร้อนรนสงบลงได้

“ปอนด์ ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม?”


------------------


เมื่อวันแต่งงานของอเล็กซานเดอร์เดินทางมาถึง ปอนด์ได้แต่นั่งเจ็บใจอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ยังมีหน้ามายิ้มระรื่นไม่ห่วงความรู้สึกของเพื่อนเขาเลย หนุ่มตัวเล็กปิดโทรทัศน์แล้วโยนรีโมทไว้บนเตียง ก่อนจะลุกไปเปลี่ยนชุดเพื่อออกไปข้างนอก วันนี้เขาหยุดเพราะมีแผนจะบินกลับไทยในเร็ววัน จึงลาหยุดแต่เนิ่นๆเพื่อตระเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสรรพรอเวลากลับบ้าน

ปอนด์ลงมาเดินเตร่อยู่แถวสวนสาธารณะใกล้ที่พัก ป่านนี้เจฟฟรี่คงกำลังควบคุมดูแลเรื่องความปลอดภัยอยู่ในงานแต่งของอเล็กซานเดอร์ เขานี่ดูว่างงานจังแฮะ มีเวลามามองฟ้ามองนกด้วย

เสียงโทรศัพท์ของปอนด์ดังขึ้น เบอร์ที่โทรมาคือเจฟฟรี่ทำให้หัวคิ้วปอนด์ขมวด ปรกติเวลาทำงานเจฟฟรี่จะไม่ใช้โทรศัพท์พร่ำเพรื่อเพราะงานที่ทำมันต้องใช้สมาธิ

“ฮาโหล...”

“ปอนด์ รีบไปที่โรงพยาบาลตอนนี้เลยได้ไหม อเล็กซ์ถูกยิง ผมกลัวว่าอัลเบิร์ตจะสติแตกจนทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้เกวน เจฟเฟอร์สันก็อยู่ที่นั่นด้วย”

เจฟฟรี่รัวมาเป็นชุดเมื่อปอนด์กดรับ หนุ่มตัวเล็กพยายามตั้งสติหลังจากตกใจที่รู้ว่าอเล็กซานเดอร์ถูกยิง

“ผมจะรีบไป คุณก็ระวังตัวเองด้วยนะเจฟฟ์”

“ครับ ไม่ต้องห่วงนะที่รัก ฝากอัลเบิร์ตด้วย”

“อื้อ”

ปอนด์ตรงมาที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ เกิดเหตุชุลมุนขึ้นกลางงานแต่งงานจนอเล็กซานเดอร์ถูกยิงบาดเจ็บต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน และตอนนี้เจฟฟรี่ก็กำลังควบคุมดูแลสถานการณ์ทั้งยังไปให้ปากคำกับตำรวจ เท่าที่รู้มาคือหนึ่งในตำรวจที่อเล็กซานเดอร์ให้มาช่วยดูแลภายในงานยิงคนร้ายที่เข้ามาป่วนงานจนเสียชีวิต แทนที่จะจับตัวไปสอบปากคำหาคนบงการ เมื่ออเล็กซานเดอร์ต้องรีบเข้ารับการรักษา ดังนั้นเจฟฟรี่ผู้ซึ่งเป็นมือขวาจึงต้องจัดการทุกอย่างแทนทั้งหมด

ปอนด์ก้าวไปหาอัลเบิร์ตที่ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าห้องผ่าตัด จับมือเพื่อนแล้วรั้งให้เดินตามมานั่งรอพลางปลอบใจ ที่ตรงนั้นยังมีเกวน เจฟเฟอร์สัน เจ้าสาวของอเล็กซานเดอร์อยู่ด้วย

“จะเอายังไงต่อไป?” เอ่ยถามเมื่อเพื่อนดูจะเย็นลงบ้างแล้ว

“เรื่องที่ขอให้นายช่วย...”

“ฉันจัดการให้แล้ว จะไปจริงๆใช่ไหม?” ปอนด์ตอบกลับไป พร้อมถามเพื่อความแน่ใจอีกหน

อัลเบิร์ตพยักหน้า ดูหมองเศร้าจนปอนด์พลอยเศร้าไปด้วย มือเรียวลูบหลังเพื่อนเบาๆ อยากให้เพื่อนของเขาหลุดพ้นจากความเจ็บปวดนี้เสียที...

อัลเบิร์ตอยู่เฝ้าจนกระทั่งอเล็กซานเดอร์ฟื้น หลังจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อยดีแล้วปอนด์จึงได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนคนนี้ให้มาหาเพราะเจ้าตัวเขาไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถก้าวออกมาจากชีวิตอเล็กซานเดอร์อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ได้ หนุ่มตัวเล็กจึงมาโดยเร็วรี่ ยืนรอเพื่อนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วก็ถอนใจ ขาเรียวก้าวไปหาพร้อมคว้าแขนพาเดินออกมา หากครั้งนี้อัลเบิร์ตใจอ่อนอีกคงต้องติดอยู่ที่นี่ไม่มีทางไปไหนได้แล้ว

ปอนด์มาที่สนามบินกับเพื่อน เขาจะพาเพื่อนคนนี้บินลัดฟ้าสู่ประเทศไทย พาไปให้ห่างจากความเจ็บช้ำให้มากที่สุด อัลเบิร์ตคือเพื่อนรักเพียงคนเดียว คนที่คอยห่วงใยกันและกันมาตลอด เมื่อเพื่อนกำลังทุกข์หนักเขาก็ไม่สามารถที่จะวางเฉย แม้ตลอดมาจะทำอะไรไม่ได้เพราะเพื่อนไม่ได้ขอ เขาจึงยุ่งวุ่นวายมากไม่ได้ แต่ในวันนี้ที่ความอดทนของอัลเบิร์ตหมดลง เขาก็พร้อมจะพาเพื่อนไปพบสิ่งที่ดีกว่า

เจฟฟรี่ตามมาสมทบหลังจากจัดการธุระหลายอย่างแทนอเล็กซานเดอร์ที่นอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งอัลเบิร์ตและอเล็กซานเดอร์ต่างก็เป็นเพื่อนของเขาทั้งสองคน เขาไม่สามารถจะตัดสินใจแทนใครได้ เมื่ออัลเบิร์ตเลือกที่จะไปเขาก็ทำได้แค่มาส่ง และหวังว่าสิ่งที่พวกเขาเลือกมันจะไม่ทำให้ต้องมานึกเสียใจทีหลัง

“ขอให้นายโชคดี เริ่มต้นใหม่นะอัล ทิ้งความเจ็บช้ำไว้ที่นี่ ฉันได้แต่หวังว่าสักวันพวกนายจะมีความสุข” เจฟฟรี่บอกกับเพื่อน ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับเบาๆ

“ขอบคุณเจฟฟ์ ขอบคุณมาก...”

เจฟฟรี่ยิ้มให้ หันมาหาหนุ่มตัวเล็กแล้วบอก “ดูแลตัวเองด้วย อย่าทำอะไรโลดโผนนัก”

“รู้แล้วน่า” คนตัวเล็กบุ้ยปาก ถูกบ่นอีกละ

เจฟฟรี่มองส่งคนรักและเพื่อนที่เดินออกไปเมื่อได้เวลาขึ้นเครื่อง หนุ่มตัวโตทอดถอนใจ สำหรับอัลเบิร์ตมันจบแล้ว แต่อเล็กซานเดอร์เล่า

เมื่อกลับมาที่โรงพยาบาลเจฟฟรี่ก็เข้ามารายงานตัวกับอเล็กซานเดอร์ ท่าทางมองเหม่อไปแสนไกลนั่นทำให้เขาต้องเงียบ ก่อนจะชะงักเมื่ออเล็กซานเดอร์เอ่ยถามราวรู้ว่าอัลเบิร์ตไม่อยู่แล้ว เจฟฟรี่ได้แต่ขอโทษ เพราะทุกอย่างมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว อัลเบิร์ตจากไปแล้ว และคงไม่มีทางกลับมาในเร็ววันนี้


---------------


ณ บริษัทการเงินเฟอร์ริงตันหลังจากนั้น

อเล็กซานเดอร์ทุ่มทำงานเป็นบ้าเป็นหลังทำให้เจฟฟรี่ผู้เป็นมือขวาต้องเหนื่อยตามไปด้วย เพราะปอนด์พาอัลเบิร์ตไปซ่อนทำให้อเล็กซานเดอร์ตามหาไม่เจอ ความหงุดหงิดที่มีจึงลงที่งาน และเจฟฟรี่ก็รับผลพลอยไปเต็มๆจนเวลาให้ปอนด์มีน้อยลงไปอีก แต่คนตัวเล็กกลับไม่บ่น เพราะดูจะสนุกที่ได้ปั่นหัวอเล็กซานเดอร์เสียมากกว่า เจฟฟรี่ก็ได้แต่โอดครวญให้เลิกกลั่นแกล้งผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและนายตน ยิ่งทำ งานเขาก็ยิ่งเพิ่ม ผัวใกล้จะตายแล้วเมียจ๋า

“แค่นี้มันยังน้อยไป” เสียงปอนด์ตอกกลับมาเมื่อเขาโทรไปคร่ำครวญ

“โธ่ ปอนด์ นี่มันก็นานมากแล้วนะ จะไม่ให้พวกเขาได้เจอกันเลยหรือไงที่รัก?” เจฟฟรี่ทวงถามแทนนายตน รู้สึกเห็นใจอยู่เหมือนกันนา

“ถ้าหาไม่เจอก็แสดงว่าสวรรค์ไม่เข้าข้าง ปล่อยให้แห้งเหี่ยวเฉาตายอยู่ที่เฟอร์ริงตันนั่นแหละ แค่นี้นะ”

“ปอนด์ เดี๋ยวปอนด์...”

วางสายไปเสียแล้ว เจฟฟรี่ได้แต่ทอดถอนใจ เป็นคนกลางนี่มันเหนื่อยใจจริ๊ง

เวลานี้อเล็กซานเดอร์กับภรรยาสาวก็หย่าร้างกันไปแล้ว ทั้งคู่จากกันด้วยดี ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มันคงจะดีกว่านี้หากอเล็กซานเดอร์จะยอมรับใจตัวเองในขณะที่ยังมีโอกาส มันน่าเสียดายแทนที่มานึกเสียใจเมื่อสายไปเช่นนี้

เจฟฟรี่กลับเข้าบริษัทมาหลังจัดการธุระในฐานะตัวแทนของอเล็กซานเดอร์เสร็จ ร่างสูงใหญ่ก้าวเดินอย่างมั่นคงโดยมีลูกน้องเดินตามหลังมา หางตาคมเหลือบไปเห็นหญิงสาวแสนคุ้นตาที่นั่งอยู่ตรงชุดรับแขกหน้าห้องทำงานของอเล็กซานเดอร์ เมื่อหันกลับไปมองก็ถึงกับนิ่งงันเพราะไม่ใช่เพียงคุ้นตา แต่เขายังจดจำเธอคนนี้ได้ดี

ที่เจฟฟรี่พูดไทยได้ไม่ใช่เพราะเขาใฝ่เรียนใฝ่รู้อะไร แต่เพราะครั้งหนึ่งเคยจีบสาวไทยจึงต้องทุ่มทุนสร้างให้เธอประทับใจ อยากสื่อสารกับเธอโดยใช้ภาษาของเธอ มันคือกลยุทธ์พิชิตใจอย่างหนึ่งทำให้เขาหาข้อมูลและเริ่มเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถที่จะบอกปอนด์ได้ หากปอนด์รู้อาจมีการวางมวยกันเกิดขึ้น และคนที่จะน่วมก็คือเขาเอง

เจฟฟรี่ยืนนิ่งอยู่นานเท่าไรไม่รู้ จนกระทั่งหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วส่งยิ้มมาให้นั่นล่ะเขาถึงหลุดจากภวังค์ ร่างสูงใหญ่ผงกศีรษะเป็นการทักทายเธอเล็กน้อยก่อนจะเข้าห้องทำงานของอเล็กซานเดอร์ไป

ด้านในนั้นมีแขกจากบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นลูกหนี้ของเฟอร์ริงตันอยู่ด้วย เมื่อหันมาเห็นเจฟฟรี่อเล็กซานเดอร์จึงได้เอ่ยแนะนำลูกน้องคนสนิทของตนว่าหากมีอะไรก็สามารถติดต่อกับเจฟฟรี่ได้ เจฟฟรี่สามารถตัดสินใจได้เทียบเท่ากับการตัดสินใจของเขาเอง
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณดีฟไคล์” ชายสูงวัยผู้เป็นเจ้าของบริษัทกล่าวทักทายเขา ซึ่งเจฟฟรี่ก็จับมือทักทายตอบกลับไป

ฝ่ายนั้นมาคุยเรื่องผัดผ่อนหนี้สิน ซึ่งอเล็กซานเดอร์ก็พิจารณาให้กระทำการดังกล่าวได้เพราะนี่เป็นครั้งแรก เมื่อพูดคุยตกลงกันเสร็จแล้วเจฟฟรี่จึงได้เดินไปส่งชายสูงวัยที่ด้านนอก ทำให้ได้รู้ว่าหญิงสาวผู้ซึ่งเคยเป็นคนรู้จัก หรือพูดกันตรงๆคืออดีตคนรักของเขานั้นทำงานอยู่ที่บริษัทนี้ จากนี้ไปเขาอาจได้เจอเธอบ่อยขึ้น

หลังจากวันที่ได้พบอดีตคนรักในวันนั้นและไม่ได้มีโอกาสคุยกันเพราะเธอต้องรีบตามผู้เป็นเจ้านายกลับไป เมื่อเธอมาติดต่อประสานงานที่เฟอร์ริงตันอีกครั้งเจฟฟรี่ถึงได้มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอ และเพราะการพบกันหลังจากผ่านมาเสียหลายปีทำให้เธออยากจะทานข้าวด้วยกันสักมื้อ หากเป็นเมื่อก่อนเจฟฟรี่คงตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดอะไร แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ทำให้เขายกเรื่องงานมาอ้างแล้วบอกอเล็กซานเดอร์อาจต้องใช้งานด่วน

“ไปสิ ฉันอนุญาต”

มันอาจเป็นคราวซวยของเจฟฟรี่เมื่อคนที่เขายกมาอ้างดันมาได้ยินเข้าและเอ่ยอนุญาตหน้าตาเฉย

“อเล็กซ์...”

“คงมีเรื่องอยากคุยกันใช่ไหม ฉันอนุญาตให้นายลา เอริคก็อยู่ไม่ต้องเป็นห่วง”

อดีตคนรักของเขาขอบคุณอเล็กซานเดอร์ ขณะที่เขาแทบยกมือกุมศีรษะ ไม่อยากให้อนุญาตโว้ย!

ไม่รู้เพราะอยากเอาคืนปอนด์กับเขาหรือเปล่าถึงได้อนุญาตให้ลา มันแกล้งกันชัดๆแบบนี้ ถ้าปอนด์รู้จะเป็นอย่างไรเขายังไม่อยากจะคิด สุดท้ายแล้วเจฟฟรี่ก็ออกไปทานข้าวกับหญิงสาว เขาให้เธอเป็นคนเลือกร้าน แต่นั่นเขาคงคิดผิดเมื่อเธอพามายังร้านที่เธอบอกว่าเป็นร้านอาหารไทยที่มีฝรั่งเป็นเจ้าของแต่รสชาติของอาหารกลับไม่เพี้ยนมากนัก ยังคงมีความเป็นไทยอยู่ ไม่ได้ดัดแปลงจนเสียรส

เจฟฟรี่ยืนนิ่งอยู่หน้าร้านอาหาร กลืนน้ำลายแสนหนืดคอ ขาแทบก้าวไม่ออก เพราะมันคือร้านของแพททริก ซวยแล้วไงไอ้เจฟฟ์

ถึงจะคร่ำครวญหวนไห้ภายในใจสักแค่ไหน แต่เจฟฟรี่ก็จำต้องเดินตามหญิงสาวเข้ามาในร้านอยู่ดี เมื่อมานั่งที่โต๊ะเขาก็แทบอยากจะยกเมนูขึ้นมาบังหน้า แต่นั่นมันคงไม่เหมาะนักจึงได้แต่นั่งตัวตรงรักษาอาการเอาไว้สุดกำลังที่มีจนกระทั่งอาหารมาเสิร์ฟ

“ไม่อร่อยหรือคะเจฟฟ์? เห็นเมื่อก่อนคุณชอบทาน หรือที่นี่จะทำไม่ถูกปากคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามไถ่ เธอยังจำได้ว่าเจฟฟรี่ชอบทานอะไรและมักจะให้เธอทำให้ทานอยู่บ่อยๆ ดังนั้นถึงได้เลือกมาเผื่อจะถูกปากเขา

“เอ่อ... ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”

เจฟฟรี่บอกปฏิเสธไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะลงมือทานอาหารตรงหน้าไม่ได้อธิบายอะไรต่อ สายตาทิ่มแทงที่กำลังจ้องมองมาจากที่ใดที่หนึ่งในร้านนี้ทำให้เจฟฟรี่แทบไม่รู้รสอาหารที่ทานเข้าไป ที่รัก ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฮือ

เมื่อทานข้าวเสร็จเจฟฟรี่จึงได้ไปส่งหญิงสาวกลับบริษัท ก่อนที่ตนเองจะย้อนกลับมาที่ร้านของแพททริกอีกครั้งเพื่อฟังคำพิพากษาจากขนมปังปอนด์ที่ยืนกอดอกตาเขียวปั้ด

“ที่รัก” เจฟฟรี่ทำเสียงอ้อนไปก่อนเผื่อรอดตัว

“ค่อยกลับไปเคลียร์กันที่ห้อง!”

“จ้า” คำเดียวรู้เรื่อง ไม่กล้าเถียง ไม่กล้าแย้ง

คนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปทำงานของตน ในขณะที่เจฟฟรี่ก็ได้แต่รอเวลา ตอนนี้เขาควรกลับบริษัทเฟอร์ริงตันเสียก่อน อเล็กซ์นะอเล็กซ์ทำกันได้ลงคอ งานเข้าเสียแล้วไหมล่ะ เฮ้อ


---------------


ปอนด์นั่งทับขากอดอกอยู่บนเบาะนั่ง ตรงหน้าคือยักษ์ตัวโตที่นั่งหน้าเจื่อน พออ้าปากจะอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นก็ถูกคนตัวเล็กยกมือห้ามจนสุดแขน

“เดี๋ยว ก่อนจะพูดอะไรขอผมพูดให้จบก่อน”

“...........” เจฟฟรี่งับปากฉับแล้วพยักหน้าก่อนผายมือเชิญให้สุดที่รักพูด

“กล้าดียังไงพาสาวมากินข้าวที่ร้าน พามาเย้ยผมถึงที่แบบนี้อยากมีเรื่องกันใช่ไหม!”

“อ่า...”

“เงียบแล้วฟัง! จะอธิบายอะไร จะแก้ตัวอะไรค่อยพูดทีหลัง ยูโนว!?” ตบโต๊ะปังแล้วรีบดักเมื่อเจฟฟรี่จะอ้าปากพูด

“ครับ...” คนตัวโตเสียงอ่อย ปล่อยให้คนกำลังโมโหพูดต่อ

“ไอ้เรานะปล่อยให้รอเป็นชาติกว่าจะมีเวลาได้อยู่ด้วยกันที เราก็เอ๊ออออ เข้าใจว่าเขาทำงาน คงปลีกเวลามาหาไม่ได้ แต่ที่ไหนได้ดันมีเวลามานั่งกินข้าวกับสาว ให้ตายเหอะเจฟฟรี่ ผมอยากจะบ้า!!”

“คือ...”

“เข้าใจความรู้สึกของผมปะ? ในขณะที่ผมต้องรอ แต่คนอื่นกลับได้มานั่งหัวร่อต่อกระซิกกับคุณเป็นชั่วโมง ผมล่ะอยากเดินเข้าไปกระชากหัวคุณแรงๆให้หน้าหงาย บ้าเอ๊ย!!”

“ปอนด์...”

“ยังไม่ได้บอกให้พูด!”

“...ครับ”

ปอนด์ถอนใจแรง เมื่อครู่ออกท่าออกทางมากไปหน่อย ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะนุ่ม ตากลมจ้องคนตัวโตที่นั่งหน้าเจื่อนเขม็ง โมโห คนมันโมโหรู้ไหม อุตส่าห์อดทนเฝ้ารอกันมา เวลาอยู่ด้วยกันก็น้อย มันน่าน้อยใจนัก แทนที่มีเวลาจะมาหาดันพาสาวที่ไหนไม่รู้มาเย้ยหน้ากัน คนบ้า

“เอ่อ... ที่รัก”

ตาเขียวขุ่นตวัดมามอง เห็นแบบนั้นแล้วเจฟฟรี่ก็ชักไม่มั่นใจว่าควรพูดดีไหม จำต้องเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

“ผมพูดได้หรือยังที่รัก?”

“ก็พูดสิ ใครไปอุดปากไว้หรือไง”

เจฟฟรี่หน้าเหรอ ร้องอ้าวออกมาเบาๆ นี่เขาผิดใช่ไหม?

“ที่คุณเห็นน่ะลูกค้าของบริษัท แล้ว... คือผมก็รู้จักกับเธอมาก่อน แบบ... มันไม่ได้เจอกันนานน่ะที่รัก เราก็เลยมาทานข้าวด้วยกัน...”

เหลือบมองคนตัวเล็กก็ยังเห็นนั่งนิ่ง หน้าก็ยังงออยู่เหมือนเดิม ที่เขาเล่าข้ามขั้นข้ามตอนไปก็เพราะคิดว่าจะโยนความผิดให้อเล็กซานเดอร์ก็คงไม่ได้ มันไม่สำคัญเท่าเขาเองที่ไม่ปฏิเสธไปแต่แรก แต่ดันยกอเล็กซานเดอร์มาอ้าง พอฝ่ายนั้นบอกอนุญาตเลยยากที่จะปฏิเสธได้อีก

ปอนด์ถอนใจเบาๆก่อนพูดเสียงเรียบ “เอาตรงๆเลยเจฟฟรี่ พูดกันให้จบตรงนี้แล้วไม่ต้องพูดถึงมันอีก”

เจฟฟรี่กลืนน้ำลาย รู้สึกหวั่นใจกับท่าทีของคนตัวเล็ก

“เธอเป็นใคร?”

คำถามง่ายๆจากปอนด์แต่ตอบยากเหลือเกิน สายตาคาดคั้นที่มองตรงมาทำให้เจฟฟรี่ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจหนักๆ เป็นไงเป็นกันวะ

“เธอเป็นลูกค้าของบริษัท... เฮ้ เดี๋ยวสิ!” มือหนารีบคว้าแขนทั้งร้องห้ามเมื่อปอนด์จะลุกหนีเพราะเขาเยิ่นเย้อ

“...........” ตากลมปรายมามอง เจฟฟรี่จึงต้องบอกความจริงไปเสียงอ่อย

“เคยคบกันพักหนึ่ง...”

เมื่อได้ฟังคำตอบปอนด์ก็นิ่ง เจฟฟรี่เองก็ลุ้นว่าจะถูกอาละวาดไหม หรือจะงอนหนักกว่าเดิม แต่สิ่งที่กลัวกลับไม่เกิดขึ้นสักอย่างเพราะปอนด์ค่อยซบหน้าวางหน้าผากลงกับโต๊ะเตี้ย เห็นแบบนั้นแล้วเจฟฟรี่ก็รีบอ้อมมาหาด้วยความตกใจ มือหนาวางบนแผ่นหลังเล็กอย่างลนลาน

“ปอนด์ เป็นอะไรน่ะ ผมขอโทษ”

“ขอโทษทำไม” เสียงอู้อี้ย้อนถามกลับมา แต่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ

“ก็... ไม่รู้สิ คุณอาจจะโกรธ หรือเสียใจ หรืออะไรแบบนั้น ผมไม่รู้ แต่คุณทำแบบนี้ผมกังวล”

“.........” น้ำเสียงเป็นกังวลจากคนตัวโตทำให้ปอนด์เงียบ ยังคงนั่งนิ่งก้มซบโต๊ะ

“ปอนด์...”

“ผมเข้าใจ... คุณก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร มันก็ต้องเคยมีแฟนมาบ้างแหละ”

“ปอนด์...” เอ่ยเรียกเสียงเบา รู้สึกสะท้อนใจกับน้ำเสียงของคนรัก

“ผมแค่...”

“.........”

“แค่อดเปรียบเทียบไม่ได้ก็แค่นั้น”

“โธ่ ที่รัก” ฟังคำเฉลยแล้วเจฟฟรี่ก็รู้สึกโล่งอกที่มันไม่ใช่ปัญหาหนักหนาอะไร “ไหนเงยขึ้นมาพูดกันซิ หืม”

“ไม่ใช่เด็กนะ หลอกล่อบ้าอะไร?” อีกคนตอกกลับเคืองๆ พลางเงยขึ้นมามองคนตัวโต

“หึๆ” หัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปเกลี่ยแก้มนุ่มแล้วโน้มจูบหน้าผากนูนก่อนผละออกมามองตากลม “ไม่ใช่เด็กหรอก แต่เป็นเมียผม เป็นผู้ชายตัวเล็กๆแต่ขี้โวยวาย”

“ไม่เห็นมีอะไรดีเลย” คนตัวเล็กว่า

“ดีสิ ผมชอบแบบนี้แหละ ชีวิตไม่จืดชืด”

“บ๊องหรือเปล่า ชอบอะไรแปลกๆ”

“อาจจะ” เขาว่าอย่างนั้น ก่อนรั้งตัวเล็กเข้ามากอด “อดีตก็คืออดีต เพราะมันผ่านมาแล้วมันถึงเป็นอดีต ปัจจุบันคือคุณ อนาคตก็ยังเป็นคุณคนเดียวนะยาหยี”

“หือ?” ปอนด์ทำเสียงแปลกใจ อิงซบอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมองเจ้าของอ้อมแขน

“อะไร?” เจฟฟรี่เลิกคิ้ว ถามกลับมายิ้มๆ

“เมื่อกี้พูดว่ายาหยี” ปอนด์ทวนคำ

“ใช่ ยาหยีแปลว่าที่รัก ฮันนี่ มายเดียร์” คนนี้ก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจกับภาษาไทยของตัวเองเหลือเกิน

“โฮะ เยอะจริง ฝรั่งดอง”

“ฝรั่งดองคืออะไร?”

“คือการถนอมอาหารชนิดหนึ่ง”

“หา???” เจฟฟรี่อุทานกับคำตอบกลับหน้าตายนั่น

“หึ... หึ ๆ ฮ่า ๆ ๆ”

เห็นอีกคนทำหน้างงแล้วปอนด์ก็หัวเราะ เจฟฟรี่มองแล้วก็มันเขี้ยว แกล้งฟัดแก้มขาวของยอดยาหยี ปอนด์ได้แต่เบี่ยงหลบ พยายามรูดตัวออกจากอ้อมแขนแต่ก็ถูกกักไว้ทุกทางจนต้องยอมให้ฟัดจนหนำใจ

มองตากันในระยะประชิดแล้วทั้งคู่ก็ค่อยยิ้มออกมา หัวเราะน้อยๆกับการหยอกล้อเมื่อครู่ ปัดปัญหาคาใจออกไปจนหมด อย่างที่ปอนด์บอก พูดกันวันนี้ จบวันนี้ และจะไม่พูดถึงมันอีก

“เจฟฟ์...”

“ครับ?”

“อยากไปเยี่ยมพ่อแม่ผมไหม?”

“จริงอ่ะ!?”

“ตื่นเต้นอะไร?” ปอนด์หัวเราะ

“โธ่ จะได้เจอพ่อตาแม่ยายทั้งทีนี่นา ต้องเตรียมหาของฝากดีๆไปให้ท่าน ฝากเนื้อฝากตัวให้ท่านเอ็นดู”

ปอนด์ยิ้มขำคนตัวโต นับจากนี้ก็ถือว่าก้าวไปอีกขั้น ทีละขั้น... ทีละขั้น... ให้ความรักของเรามั่นคง



TBC



ช่วงคาบเกี่ยวกับเฮียอเล็กซ์จบลงแล้วฮะ ต้องย้อนความกันแบบนี้อาจทำให้คนอ่านเซ็งที่ต้องอ่านฉากเดิมซ้ำ อย่าเพิ่งเบื่อเค้านะ :o12:

ขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่ด้วยกัน บวกและบวกเช่นเคยค่ะ :pig4:

วันใหม่

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ถึงเวลาให้พ่อตา แม่ยาย เฉือด ไม่ใช่ๆๆๆ ให้เอ็นดู อิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อัยย่ะ ตอนหน้าพบกับพ่อตาแม่ยาย

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
อ๊ะ เขาจะพาไปหาพ่อแม่กันแล้ว เปิดตัวแบบเป็นทางการ ^^
รอให้กำลังใจเจฟฟ์นะคะ 'ยาหยี' อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด