F.L.Y. ~ Fall in Love with You (หมอแพท&กัปตันติ๊ก) จบแล้ว ย้ายเล้ยค่า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: F.L.Y. ~ Fall in Love with You (หมอแพท&กัปตันติ๊ก) จบแล้ว ย้ายเล้ยค่า  (อ่าน 53765 ครั้ง)

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
คุณวายศรีรบกวนช่วยใส่ตอนกับวันที่ตรงหัวเรื่องด้วยนะครับ แก้ไขตรงรีพลายแรกได้เลยนะครับ

หวา กัปตันงอนแล้วนะหมอ

วายศรี

  • บุคคลทั่วไป
ปรับแล้วค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:  แอบสงสารกับตันเบา เบา  :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ happy-jigsaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
แอบปวดใจแทนกับปตันนะคะ... :mew5:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
-0-
“ติ๊ก! ทางนี้ ติ๊ก!” เสียงตะโกนเรียกชื่อดังสู้กับสิ่งแวดล้อมที่อื้ออึ้ง >>>>>>>อื้ออึง

-1-
สองขาก้าวลงบันใดออกจากคารอย่างรีบเร่ง >>>>>>>>>อาคาร
หน้าหล่อง้อง้ำ>>>>>>>>>งอง้ำ
"เปล่า” กัปตันหนุ่มเอาแต่เสมิงมองออกไปนอกหน้าต่าง >>>>>>>>>>>คำเกินมา
จึงถึงแก่บังอ้อ >>>>>>>>>>บางอ้อ
"ไปก่อนนะเว้ย นี่หลบงานมา บอสจับได้จะเดี๋ยวยุ่ง">>>>>>>>>>>>>>เดี๋ยวจะยุ่ง
ข้างสวิชช์ไฟ เท่านั้นก็ถอยหายใจอย่างโล่งอก >>>>>>>>>>>>>สวิตช์/ถอน
ที่เขาเอกก็ติดใจในรสชาติอยู่เช่นกัน >>>>>>>>>>>>เขาเอง
หมอแพทหยุดเสียปลุกไว้>>>>>>>>>>เสียงปลุก

ก็อยากจะเข้าใจติ๊กอยู่นะ แต่เข้าใจหมอแพทมากกว่า และเห็นด้วยกับหมอกานต์
เรายังอยากเป็นได้สักครึ่งของหมอแพทเลย

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
อ่าาาาา. กัปตันอย่าเพิ่งคิดมากดิ  :katai4:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
อย่าคิดมากเลยนะคุณติ๊ก
คนดีแบบหมอแพทหายากนะ  :z2:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อย่าโกรธไปเลยกัปตันติ๊ก หมอแพทไม่นอกใจหรอกค่ะ :hao3:
คนน่ารักก็คงมีคนแอบปลื้มธรรมดา ยังไงหมอแพทก็รักกัปตันติ๊กคนเดียวน้าาาา :impress2:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เจอคำนึงค่ะ

โอกาศ => โอกาส


เข้าใจทั้งคู่นะ คนเราไม่เหมือนกันหรอก  บางทีเรารู้เราเข้าใจว่ามันคือหน้าที่ มันคืออะไร แต่เพราะรักมันก็อดน้อยใจไม่ได้ อีกคนก็คิดว่าอีกคนเข้าใจ อีกคนก็คาดหวังว่าอีกคนจะเข้าใจ แต่ไม่พูดกันตรงๆ มันมีแต่บั่นทอนความรักเพราะคิดไปเอง


แต่ความรักนอกจากความเข้าใจ มันก็ต้องการการเอาใจด้วยนะ "การเอาใจใส่" จะทำให้ความเข้าใจมั่นคงยาวนานนะ

วายศรี

  • บุคคลทั่วไป
-0-
“ติ๊ก! ทางนี้ ติ๊ก!” เสียงตะโกนเรียกชื่อดังสู้กับสิ่งแวดล้อมที่อื้ออึ้ง >>>>>>>อื้ออึง

-1-
สองขาก้าวลงบันใดออกจากคารอย่างรีบเร่ง >>>>>>>>>อาคาร
หน้าหล่อง้อง้ำ>>>>>>>>>งอง้ำ
"เปล่า” กัปตันหนุ่มเอาแต่เสมิงมองออกไปนอกหน้าต่าง >>>>>>>>>>>คำเกินมา
จึงถึงแก่บังอ้อ >>>>>>>>>>บางอ้อ
"ไปก่อนนะเว้ย นี่หลบงานมา บอสจับได้จะเดี๋ยวยุ่ง">>>>>>>>>>>>>>เดี๋ยวจะยุ่ง
ข้างสวิชช์ไฟ เท่านั้นก็ถอยหายใจอย่างโล่งอก >>>>>>>>>>>>>สวิตช์/ถอน
ที่เขาเอกก็ติดใจในรสชาติอยู่เช่นกัน >>>>>>>>>>>>เขาเอง
หมอแพทหยุดเสียปลุกไว้>>>>>>>>>>เสียงปลุก

ก็อยากจะเข้าใจติ๊กอยู่นะ แต่เข้าใจหมอแพทมากกว่า และเห็นด้วยกับหมอกานต์
เรายังอยากเป็นได้สักครึ่งของหมอแพทเลย


ขอบคุณมากเลยค่าาาา แอร๊ยๆๆๆ  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
แปะไว้นะคะ ตามทันแล้วจะกลับมาเม้นเพิ่ม

ice-vanilla

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามากรี๊ดให้กับเรื่องนี้

กัปตันติ๊กง๊องแง๊งมาก เหมือนเด็กน้อยเลย

ส่วนหมอแพทก็ดูเป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากกก จนเกือบเกิน

แต่นิสัยคนเป็นหมอก็แบบนี้ล่ะมั้ง หุหุ

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :hao7: :hao7:
ให้สะเทือนไปถึงเพจคุณหมอฮอบบิท
ในเรื่องนี่หมอเก่งทุกอย่างจริงๆนะคะ
ยกเว้นเรื่องความรักเนี่ย อิอิอิ
 :hao6: :hao6: :katai3:

โตแล้วน้า ทำตัวเหมือนเด็กๆเลย
ต้องแกล้งคนที่ตัวเองชอบแบบนี้ คริๆ

รอตอนต่อไปนะคะคุณวายศรี
 :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
แอบปวดใจแทนกัปตันนิดหน่อย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2014 11:28:27 โดย nutan_2911 »

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
เหอๆๆ เริ่มเครียดเป็นเพื่อนกัปตันติ๊กแล้วอ่ะ เหอๆๆ :a5:

ออฟไลน์ domekikung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
กัปตันคิดมากไปนะ

อย่าคิดมากๆๆ

วายศรี

  • บุคคลทั่วไป


Chapter 2: I'm sick of it.



แม้รู้ดี ว่าความรักของเราไม่เหมือนใคร

แต่ก็อดคิดมากไม่ได้ทุกที


"คิดมากไปอีกแล้ว” หมอกานต์เอ่ยด้วยน้ำเสียงละเหี่ยใจ มองดูเพื่อนของตนที่ยังคงนัดมาถามเหมือนเดิมซ้ำ ๆ และวันนี้ยังมาด้วยอาการกระวนกระวาย ดูร้อนอกร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด

"แต่ถึงขั้นเล่นโทรศัพท์กัน มันดูสนิทสนมกันเกินไปนะ”

หมอกานต์ยกกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามกลับไป "ทำไม? ไม่ไว้ใจเขาเหรอ?”

"ตกลงแกจะไม่บอกจริง ๆ ใช่ไหม ว่าใคร” ชาญวิทย์ไม่ตอบ แต่กลับตีคำถามกลับ คุณหมอวางแก้วกาแฟลง ก่อนจะประสานมือวางไว้บนตัก

"หมอแพทก็สนิทกับทุกคน ทั้งหมอ ทั้งพยาบาล ผู้ช่วย เพราะเขาเป็นคนเฟรนลี่มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แกเองก็รู้ เขาคุยสนุก เขามีอารมณ์ขัน แต่แกวางใจเถอะ คนอย่างแพทน่ะรักใครแล้วรักจริง  เพราะฉะนั้น...มันไม่มีอะไรอย่างที่แกคิดหรอก”

"คนอย่างแพท?” ชาญวิทย์หรี่ตามอง "แกดูเหมือนจะรู้จักเขาดี”

"ก็เรียนมาด้วยกัน รู้จักกันมันก็ไม่แปลกนี่” ตอบก่อนเอื้อมมือไปจับแก้วกาแฟของตน

 "รู้จัก แล้วก็สนิทกันด้วย”

และเมื่อแววตาของชาญวิทย์แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมเขาทั้งสอง ขณะที่คนหนึ่งเอาแต่จดจ้องนิ่ง ๆ แต่อีกคนยังดูใจเย็น ค่อย ๆ ดื่มกาแฟอย่างละเมียด

"ฉันไว้ใจแพท แต่ไม่ได้หมายความว่าจะวางใจคนที่เข้าหาเขา”

หมอกานต์จะเคลื่อนสายตาขึ้นมองกลับพร้อมรอยยิ้มเจือจาง "อย่ามองอย่างนั้น”

 ใช้เวลาสักพัก ชาญวิทย์จึงยอมละสายตา เขาเอนตัวไปกับพนักพิกโซฟา พ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ

"งั้นเล่าเรื่องแพทสมัยนั้นให้ฟังหน่อยสิ”

"ไม่ถามเขาเองล่ะ?” หมอกานต์ตอบกลับ แล้วจึงก้มหน้าจัดการกับกาแฟของตัวเองที่เหลืออยู่ครึ่งแก้ว

"เคยถามแล้ว แต่ไม่ค่อยตอบ ชอบเฉไฉไปเรื่องอื่นแทน” ชาญวิทย์ว่า และแม้เขาจะอยู่ในท่าทางสบาย ๆ แต่ยังคงมองคู่สนทนาอย่างไม่วางตา

"อย่างเช่น เรื่องแฟนคนแรก”

หมอกานต์นิ่งไปครู่หนึ่ง แต่เพียงไม่นาน ก็จิบกาแฟอีกคำเล็กๆ ก่อนตอบกลับไป "เรื่องเก่า ๆ จะขุดคุ้ยทำไมวะ แปลกคน”

"แปลกตรงไหน? ฉันรักแพท เลยอยากรู้เรื่องของเขา แต่ก่อนเขาเป็นยังไง คนที่เคยคบมาเป็นยังไง แกไม่เข้าใจเหรอ ว่าพอเราอยู่ในสภาพที่ไม่รู้อะไร มันค้างคาใจนะเว้ย”

หมอกานต์ยิ้ม หัวเราะในลำคอเสียงผะแผ่ว ก่อนจะรีบซดกาแฟที่เหลือจนหมดแก้ว แล้ววางลงในทันที

"บางเรื่อง...ไม่รู้อาจะดีกว่านะ”

"ตกลงแกจะไม่เล่าใช่ไหม?”

"ฉันว่าให้หมอแพทเล่าเองดีกว่า”

คำตอบที่ไม่น่าพึงใจเป็นเหตุให้หมอกานต์ตกเป็นเป้านิ่งทางสายตาของกัปตันหนุ่มอีกหน ต่างคนต่างเงียบ จนบรรยากาศยิ่งน่าอึดอัดไปกว่าเดิม

"อย่ามองอย่างนั้น” หมอกานต์ยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

"จะไปไหน” กัปตันหนุ่มต้องขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ เพราะพูดกันยังไม่ทันจะรู้เรื่อง

"กาแฟหมดแล้ว ก็ไปทำงานต่อสิวะ ส่วนแกก็เลิกซะทีเถอะ นิสัยคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ หมอแพทรักแกจะตาย อย่าระแวงอะไรให้มากนักเลย จะเครียดเอาเปล่า ๆ”

หมอกานต์ปัดมือไหว ๆ แล้วเดินจากไป ชาญวิทย์ได้แต่มองตามจนแผ่นหลังของเพื่อนหมอหายลับออกจากร้าน แล้วจึงกลับมาถอนใจกับตนเอง

ก็ไม่ได้อยากจะเป็นคนคิดมาก หรือคิดเล็กคิดน้อย

แต่พอเป็นเรื่องของคนที่รัก ก็หยุดความคิดไม่ได้จริงๆ

"เฮ้อ...” ถอนหายใจอีกหน พลางเสยผมที่ปรกหน้าขึ้น ปลายนิ้วกดนวดมุมขมับที่รู้สึกแน่นตึง

ไม่นานนักเขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นของโทรศัทพ์ส่วนตัว จึงรีบเปิดหน้าจอตรวจสอบ พอพบว่าเป็นสายเข้าจากคนรักก็แทบจะโยนอารมณ์สลดเมื่อสักครู่ทิ้งไปเสียหมด แล้วรับสายโดยพลัน

[กินข้าวรึยัง เราจะออกเวรแล้ว ไปกินด้วยกันไหม]

"ไปจ้า!!!” กัปตันหนุ่มลุกพรวดขึ้นตอบปลายสายเสียงดัง แต่เขาอาจลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่ในร้านกาแฟ เมื่อรู้สึกตัวอีกที ก็ถูกทุกคนในร้านมองเป็นตาเดียวกัน

กัปตันหนุ่มค้อมหัวเป็นเชิงขอโทษ ก่อนจะตอบกลับปลายสายที่เรียกเขาอยู่ "เราอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงานแพทแหละ เดี๋ยวจะไปรอที่เดิมแล้วกัน ถ้ากินข้าวเสร็จแล้ว ไปดูหนังกันต่อดีไหม?”

[ไม่ดีอะ...เราอยากพักมากกว่า กินข้าวเสร็จแล้วกลับเลยได้ไหม?]

ชาญวิทย์หน้าเสียเล็กน้อย แต่ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ฝืนยิ้มจาง ๆ

"ได้สิ ได้อยู่แล้ว”








"แพท วันนี้ไม่มีเวรนี่นา ไปเที่ยวกันไหม” คำถามจากกัปตันหนุ่ม เขาย้ายตัวเองลงจากเตียง ลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งซ้อนทางด้านหลัง และสวมกอดคุณหมอตัวเล็กที่กำลังนั่งง่วนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ สลับกับจอมินิไอแพดเครื่องกระทัดรัดซึ่งวางอยู่ไม่ห่างกัน

เป็นอีกวัน ที่เมื่อตื่นขึ้นมา ก็พบว่าอีกคนลุกมาทำงานหน้าคอมแต่เช้า และยังดูขมักเขเม้นกับมัน จนไม่หันมาสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย

เมื่อถามไปแล้วไม่ได้คำตอบจึงกระชับแรงกอดให้แน่นขึ้น

คุณหมอหันมาส่งยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน "โทษนะติ๊ก เราต้องส่งต้นฉบับพรุ่งนี้แล้วอ่า”

"อีกแล้วเหรอ?” ชาญวิทย์เบ้หน้า "ทำไมเรามาหาทีไรก็ยุ่งตลอดเลย”

"ถึงติ๊กไม่มา เราก็ยุ่งตลอดนั่นแหละ”

"คร้าบคุณหมอ งานโรงพยาบาลมันยุ่งไม่พอใช่มะ คราวก่อนก็เริ่มเปิดเพจ คราวนี้หาอะไรมาทำอีกล่ะ? ” ชาญวิทย์ชะเง้อคอมอง และเกยคางไว้บนหัวไหล่เล็ก "เขียนคอลัมน์? อะไรเนี่ย?”

"อย่ากวนเราน่า” มือเล็กดันหน้าหล่อให้ผละออกไป ด้วยเริ่มรำคาญแล้วนิด ๆ

ชาญวิทย์จึงเปลี่ยนมาซบท้ายทอยแทน แต่วงแขนยังคงกอดรัดอยู่ไม่คลาย พูดตัดพ้อเสียงอ่อน "แล้วแบ่งเวลาให้เราบ้างไม่ได้รึไง ทำไมเดี๋ยวนี้เวลาเรามาหา แพทก็ยุ่งตลอดเลย”

"ก็แบ่งให้เมื่อคืนแล้วไง ไม่พอใจอะไรอีก” หมอแพทย์ตอบแบบส่ง ๆ ทำเอาคนได้ยินรู้สึกฉุนขึ้นมาตะหงิด ๆ มือจึงเริ่มแตะไต่ลวนลาม

หมอแพทย์พยายามเบี่ยงตัวหนีแต่ดูท่าจะไม่เป็นผล เพราะตอนนี้แทบจะจมหายไปในอ้อมอกของกัปตันเสียแล้ว จึงจำเป็นต้องวางมือจากอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน มาผลักดันอีกฝ่ายไม่ให้แนบชิดยิ่งไปกว่านี้

"ปล่อย...เรากำลังใช้สมาธินะ” หน้าหวานบูดบึ้ง เมื่อไม่พอใจที่งานถูกขัดจังหวะ แต่ชาญวิทย์ไม่สนใจฟังสักเท่าไร เขาพยายามเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ ๆ หมายจะฉกชิงริมฝีปากที่เอาแต่พูดอะไรไม่ถูกหู แต่ยังไม่ทันจะสำเร็จ

"เรานับถึงสาม ถ้าไม่ปล่อยนะ!”

"....”

เพราะเจอคุณหมอใช้บทขู่ไม้ตาย ชาญวิทย์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยอมปล่อยแต่โดยดี เขาพ่นลมหายใจฮึดฮัด ลุกจากเก้าอี้กลับไปนั่งเท้าคางบนเตียงอย่างเซ็ง ๆ สักพักก็หันไปเอาโทรศัพท์ตัวเองมาเล่น เร่งเสียดังจนสุดเพื่อให้อีกฝ่ายได้ยิน

สายตายังคงลอบมองคนรัก ที่ไม่สนใจจะหันมามองกันบ้างเลย ในหัวเต็มไปด้วยความคิดว้าวุ่น

ทำไมเราถึงไม่มีเวลาให้กันเหมือนคนอื่นบ้าง?

อยากให้เรามีเวลาเหลือเฟือไว้ใช้ร่วมกันบ้าง ไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง

ไม่ใช่หมกอยู่่แต่ในห้องแบบนี้...

ไม่ใช่เอาแต่นั่งมองอีกฝ่ายแบบนี้...

"ถ้าแพทจะยุ่งขนาดนี้ เราตกลงไปเที่ยวกับคนอื่นแต่แรกดีกว่า วันก่อนรุ่นน้องก็อุตส่าห์มาชวนไปเที่ยวเกาะแท้ ๆ” ชาญวิทย์เอ่ยขึ้นลอย ๆ ด้วยน้ำเสียงระรื่น แต่แฝงไปด้วยการประชดประชัน หากกลับไม่ทำให้อีกฝ่ายชะงักมือจากงานได้เลยสักนิด

"ก็ไปสิ ยังไงวันนี้เราก็ไม่ว่างอยู่แล้ว อยู่แต่กับห้องติ๊กคงเบื่อแย่”

ชาญวิทย์เงยหน้าขึ้นมองทันที และเมื่อพบว่าหมอแพทไม่ได้หันมามองเลยแม้แต่น้อย อารมณ์น้อยใจปะทุขึ้นในอกอีกครั้ง

"แพท”

"ฮึ?” มีเสียงตอบกลับห้วน ๆ ที่ต่อมาไม่นานก็ตามด้วยเสียงรัวแป้นพิมพ์ไม่ยั้ง

"เราคบกันมาสามปีแล้วนะ..." กัปตันถามเลื่อนลอย ขณะที่สายตาจ้องมองปฏิทินในโทรศัพท์มือถือ

"เพราะหน้าที่การงาน ทำให้เราไม่ค่อยมีเวลาให้กัน...”

"...”

"จนบางครั้ง เราก็อดสงสัยไม่ได้...”

"...”

"แพทยังรักเราเหมือนเดิมไหม?”

"...”

"แพท...” เมื่อไม่มีเสียงตอบกลับ ชาญวิทย์จึงเรียกซ้ำ แต่คุณหมอตัวเล็กยังคงไม่ตอบ ขณะที่มีเสียงพิมพ์งานดังแว่วอยู่ต่อเนื่อง ทำเอากัปตันหนุ่มมีอาการฉุนเฉียวยิ่งกว่าเดิม

"แพท!” จนกระทั่งเขาตะโกนเรียก ค่อยทำให้เสียงกดแป้นเงียบชะงัก ชาญวิทย์นิ่งเพื่อรอฟังคำตอบของอีกฝ่าย

หมอแพทผินหน้ามาเพียงเล็กน้อย "เมื่อกี๊ถามว่าไงนะ?”

"...”

"โทษที เราไม่ทันได้ฟัง”

นั่นทำให้ความอดทนของชาญวิทย์ขาดผึง เขาลุกพรวดขึ้นจากเตียง มือซ้ายยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางอย่างลวกๆ มือขวาก็เอื้อมไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่ตรงโต๊ะข้างหัวเตียง เสร็จแล้วจึงเดินไปทางประตูห้องนอนอย่างรวดเร็ว

"ไปไหนติ๊ก” หมอแพทหันมาถามด้วยสีหน้างุนงง ยิ่งทำให้กัปตันหนุ่มไม่สบอารมณ์ไปกันใหญ่

"เราจะไปข้างนอก ไปไกล ๆ อย่างที่แพทบอกให้เราไป เราจะไม่อยู่ที่นี่ เราเบื่อ!” หันหน้าบึ้งตึงไปตอบ ก่อนจะออกจากห้องนอนไปพร้อมปิดประตูดังปัง
กัปตันหนุ่มสาวเท้าเดินตัดผ่านห้องนั่งเล่นไปยังประตูหน้าสุด
"เดี๋ยวติ๊ก!" แต่ระหว่างที่กำลังจะเกิดประตูออกไปข้างนอก หมอแพทก็ชะโงกหน้าออกจากห้องนอนมาเรียกรั้งไว้

ชาญวิทย์หันกลับไปมอง แม้สีหน้ายังบึ้งตึง อารมณ์ยังคุกรุ่น แต่ในใจเขาเกิดความหวังขึ้นเล็กๆ ว่าอีกฝ่ายจะรั้งเขาไว้

"แล้วอาทิตย์หน้ากลับไหม?”

"หา?” เขาต้องบิดหน้าเหยเก เมื่อผิดไปจากความคาดหวัง

"อาทิตย์หน้ากลับไหม?”

"ทำไม?” ชาญวิทย์มองด้วยสีหน้าหาเรื่อง

"ก็...” หมอแพทลูบท้ายทอยตัวเอง "ช่วงนั้นเวรเราจะแน่นมากเลยน่ะ ไม่แน่อาจจะต้องไปประชุมต่างจังหวัดด้วย ถ้าติ๊กมา เราอาจจะไม่ได้เจอกันเลย...ติ๊กไม่ต้องมาก็ได้นะ”

"อ๋อ...ได้!” หนุ่มร่างสูงตะเบ็งเสียงกร้าว  "เราไม่กลับก็ได้!” ก่อนจะปิดประตูดังอย่างแรง และเร่งสาวเท้าเดินออกจากจุดนั้นให้เร็วที่สุด จนมาหยุดที่หน้าลิฟต์

โดยไม่มีเสียงฝีเท้าของคนที่อยากให้ตามมาเลยแม้แต่น้อย

ชาญวิทย์จำต้องเดินเข้าลิฟต์ไป เมื่อทิฐิกำลังข่มอยู่ ไม่อาจย้อนกลับไปจุดเดิมได้ ในใจได้ยินเสียงแว่วของแก้วที่เริ่มแตกร้าว






หนุ่มหน้าตี๋ ยามนี้กำลังนั่งตัวลีบ ตาตี่ ๆ นั้นจ้องมองรุ่นพี่ที่เคารพของเขา ซึ่งเอาแต่นั่งนิ่ง ก้มหน้ามองโทรศัพท์ในมือตัวเองอย่างเหม่อลอย

อากาศยามบ่ายอุ่นสบาย ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่ได้ทำให้บรรยากาศหน้าร้านกาแฟคร่อมพรมแดนเบลเยี่ยมและเนเธอแลนด์นี้ดูสบายตามได้เลย เพราะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดและอมทุกข์จากตัวกัปตันหนุ่มที่แผ่รังสีออกมาเป็นวงกว้าง จากที่ดูเงียบสงบเพราะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว ก็กลายเป็นเงียบเหงาพ่วงน่าเบื่อหน่ายไปแทน

"พี่ติ๊ก ทะเลาะกับแฟนมาป้ะเนี่ย?” ในที่สุดก็นักบินผู้ช่วยก็เสี่ยงถามออกไป

"เปล่า”

"เปล่าอะไร? ทำหน้าอย่างกับโลกจะแตกพรุ่งนี้ให้ได้อย่างนั้นอะ”

ชาญวิทย์ตวัดสายตามองหนุ่มผู้ช่วย ก่อนจะหันไปมองทางอื่น พ่นลมหายใจออกสั้น ๆ

"ไม่มีอะไร”

"ไม่มีได้ไง? ทะเลาะกันก็บอกมาเหอะน่า”

"ถามเซ้าซี้จริงโว้ยไอ้ลิงนี่! บอกว่าไม่มีก็ไม่มีดิวะ!” กัปตันหันขวับมาขึ้นเสียงใส่ ทำให้นักบินชื่อลิงสะดุ้งเล็กน้อย จากที่นั่งเท้าคางอยู่ก็รีบกระเด้งไปด้านหลังอย่างอัตโนมัติ

ชาญวิทย์ไม่สนใจ และทอดสายตามองออกไปเลื่อนลอย ขณะที่สีหน้ายังคงขมวดตึง

"ความรักมันก็เงี้ยแหละพี่ แรก ๆ อะมันก็หวาน แต่นาน ๆ ไปก็เบื่อ” หนุ่มผู้ช่วยเอ่ยประโยคอย่างเนิบนาบ ก่อนจะค่อย ๆ กระเถิบไปนั่งเก้าอี้อีกตัว ที่อยู่ติดกับชาญวิทย์

"ยิ่งนักบินอย่างเรานะ ห่างกับเขาคนละฟากทะเล เอาแต่จูนคลื่นหากันตลอด มันเป็นไปไม่ด๊าย~”

"...”

เมื่อไม่เห็นรุ่นพี่ผลักไส ลิงจึงทำหน้าทะเล้น

"เพราะงั้น คืนนี้เราไป...โอ๊ย!!” ยังไม่ทันพูดจบประโยคดี ก็ถูกกัปตันหันมาตบกลางกระหม่อมจัง ๆ หนุ่มผู้ช่วยร้องโอดโอยพลางลูบหัวตัวเองป้อย ๆ อย่างกับมันจะปูดโนขึ้นมา

"กล้าชวนนะ มีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?”

ผู้ช่วยลิงทำหน้าเหรอหรา "แฟนอะไร? ไม่มี๊~ ผมโสดนะพี่~”

"แล้วคนสวย ๆ ที่บินตามมาแทบทุกไฟลท์ ไม่ใช่แฟนแล้วเป็นแม่รึไงวะ?” ชาญวิทย์ถามเสียงเรียบ ก่อนจะเพยิดหน้าให้นักบินรุ่นน้องหันไปมอง "โน่น มาโน่นแล้วไง”

ภาพที่เห็นคือหญิงสาวรูปร่างดี หน้าตาสะสวยรับกับผมยาวม้วนเป็นลอนสีน้ำตาลเข้ม จะดีกว่านี้หากเจ้าหล่อนไม่เอาแต่นั่งแอบอยู่ที่โต๊ะหลังเสาร้าน หรี่ตามองเขาทั้งสองอยู่อย่างนั้น

"ชิท! อีกแล้วเหรอวะ?” นักบินรุ่นน้องลอบสบถเสียงค่อยเพื่อไม่ให้ฝ่ายสาวเจ้าได้ยิน จากนั้นจึงผุดลุกขึ้น

"ตกลงว่าคืนนี้น้องลิงจะไปอยู่ไหมครับ?”

ผู้ช่วยลิงหันมามองชาญวิทย์ หัวเราะแหะ ๆ "โทษทีพี่ ถือซะว่าไม่ได้พูดอะไรนะ”

ชาญวิทย์มองตามแผ่นหลังของรุ่นน้องที่ออกตัววิ่งไปหาคนรักของตน คู่ตาเฉียบคมเฝ้ามองตั้งแต่ช่วงต้นที่ทั้งสองดูจะมีปัญหาแง่งอนกัน แต่ท้ายสุดก็จบด้วยรอยยิ้ม อ้อมกอด และจับจูงมือเดินออกไปพร้อมกัน

กัปตันหนุ่มเจือยิ้มเพียงจาง ๆ พลางคิดว่า...ดีแค่ไหน ที่คนรักได้มีเวลาร่วมกันแบบนั้น

ในเมื่อคู่ของเขา ไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย

ชาญวิทย์ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดรหัสโทรทางไกลตามด้วยเลขหมายปลายทาง และเป็นไปตามคาด ที่เขาจะได้ยินเพียงเสียงสัญญาณรอสายเพราะไม่มีคนรับ

เขากดวางสายไป ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเข้าไปดูเฟสบุ๊คของเจ้าตัวแทน

หางตาขวากระตุกเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหมอแพทถูกแท็กรูปจากเฟสบุ๊คของหมอกานต์ โดยเป็นรูปถ่ายคู่ของทั้งสอง ซึ่งชื่อสถานที่ไม่อยู่ในกรุงเทพฯ

'มาประชุมต่างจังหวัด เหมือนได้พักผ่อนไปในตัว' คำอธิบายสั้นๆ ทำให้ชาญวิทย์ข่มใจเอาไว้

มันเป็นงาน...เขาไปทำงาน

แต่รอยยิ้มสดใสขนาดนั้น...คงสบายใจมากเลยสินะ

กัปตันหนุ่มพยายามละสายตาจากรูปดังกล่าว และสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสกัดกลั้นอารมณ์หึงหวง และความหวาดระแวงของตนเอาไว้

แต่สุดท้าย...ก็พ่ายแพ้ให้แก่ความอยากรู้อยากเห็น ชาญวิทย์ตัดสินใจกดดูความคิดเห็นใต้ภาพที่เรียงยาวนับสิบ เกือบทั้งหมดเป็นการสนทนาโต้ตอบสรรเพเหระ

แล้วสิ่งที่เขาได้อ่านในช่องความเห็นล่าสุด ก็ทำให้รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว

'อะไรกัน คู่รักจะรีเทิร์นเหรอ? ถ่านไฟเก่ามันคุแล้วสินะ ยิ้มหวานกันเชียว ฮิ ๆ'

ราวกับทั้งร่างถูกแช่แข็ง ทั้งเยียบเย็น และแข็งกระด้าง ไม่อาจกระดิกไปไหนได้ จนกระทั่งแสงจากหน้าจอดับไป ทันทีที่ตั้งสติได้ ชาญวิทย์รีบเปิดจอ และรีเฟรชเพื่อดูการตอบกลับใหม่ ๆ แต่พบว่าคอมเมนต์ที่เขาเห็นเมื่อครู่นี้ได้หายไปแล้ว กลายเป็นคอมเมนต์พุดคุยทั่วไปแทน

ชาญวิทย์วางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ นั่งนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยกสองมือขึ้นกุมขมับตนเอง

และจมอยู่กับความเงียบอย่างนั้น...แต่เพียงลำพัง





วายศรี

  • บุคคลทั่วไป


สิ่งที่ติดกับคอนโดนั้นมีทั้งร้านกาแฟ และร้านขนม ชายหนุ่มร่างสูงเลือกนั่งในร้านกาแฟที่ผนังเป็นกระจก สามารถมองออกไปข้างนอกได้ และเขาเลือกนั่งในมุมที่ลับที่สุด แต่สามารถมองเห็นทางเข้าอาคารสูงนั้นชัดที่สุดเช่นกัน

ชาญวิทย์ที่ปกปิดแววตาของตนด้วยแว่นเลนส์สีน้ำตาล เขานั่งมองไปยังหน้าคอนโดมาได้พักใหญ่ ปล่อยให้กาแฟที่มาเสิร์ฟเย็นชืดไปโดยไม่ได้แตะต้องเลย

นาน ๆ ครั้งก็จะสลับมามองดูปฏิทินในมือถือ ดูเพียงครู่ก็ปิดแล้วกลับไปมองที่เดิมต่อ แม้ภายนอกท่าทีของเขาจะสงบนิ่งเพียงใด แต่ไม่มีใครรู้ได้เลย ว่าในใจของกัปตันหนุ่ม ตอนนี้ทั้งร้อนรุ่ม พะว้าพะวง และหวาดวิตกมากเพียงใด

เขารู้...ว่าสิ่งที่กำลังคิดคิด กำลังหวาดระแวงอยู่นี้มันไม่ดี

แต่ขอร้อง...อย่าอย่าให้มันเป็นจริงเลย

และในเวลาต่อมา ภาพรถยนต์ส่วนตัวคันหนึ่งแล่นเข้ามาในลานจอดรถก็ทำให้กัปตันหนุ่มเริ่มนั่งไม่ติดที่

"ไอ้กานต์...”

รถของหมอกานต์จอดในจุดที่ใกล้กับทางเข้าอาคาร ไม่นานนักหมอกานต์ลงมาจากฝั่งคนขับและรีบเร่งเดินไปเปิดประตูอีกฝั่งอย่างร้อนรน

และชาญวิทย์เผลอกำหมัดแน่น เมื่อเห็นว่าคนที่ลงจากรถคันเดียวกันนั้น คือหมอแพท คนรักของตัวเอง

ด้วยระยะห่างขนาดนี้จึงมองเห็นสีหน้าไม่ชัด แต่สิ่งที่เห็นชัดคือทั้งสองเดินประคับประคองกัน และหายเข้าไปในตึกสูง นั่นทำให้ชาญวิทย์ผุดลุกขึ้นในทันที สองมือข้างลำตัวนั้นกำหมัดเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน






หลังจากสิ้นเสียงปิดและล็อคกลอนประตูหน้าห้อง หมอกานต์เดินกลับเข้ามาพบหมอแพทนั่งกุมขมับอยู่ที่โต๊ะอาหาร สีหน้าอิดโรยและอ่อนเพลีย  หมอกานต์เดินไปที่ตู้เก็บยา ค้นเอายาที่ต้องการออกมา จากนั้นจึงเดินไปหยิบขวดน้ำที่เก็บไว้ในเคาน์เตอร์ข้างตู้เย็น ก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างคุณหมอตัวเล็ก ทั้งหมดนี้เขาทำอย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว ราวกับรู้ดีว่าอะไรเก็บไว้ตรงไหน

"หมอแพท เป็นไงมั่ง” เอ่ยถามเสียงอ่อนพร้อมกับส่งยาและแก้วน้ำให้ ก่อนจะใช้หลังมือแตะหน้าผากมนที่อุณหภูมิสูงกว่าปกติ

"ไม่ไหวก็แอดมิดเถอะ”

คุณหมอตัวเล็กส่ายหน้าเนือย ๆ "ผมไม่เป็นไร เมื่อกี๊ก็ฉีดยาไปเข็มนึงแล้ว นอนพักสักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”

"งั้นคืนนี้ก็นอนพักนะ เรื่องเวรเดี๋ยวผมไปหาคนสลับให้”

"ไม่” หมอแพทส่ายหน้า "ผมยังไหว แต่หมอกานต์ช่วยโทรมาปลุกเหมือนทุกทีได้ไหม?”

หมอกานต์ถอนหายใจแผ่ว "อย่าหักโหมนักเลย ทุกคนเป็นห่วงหมอมากนะ” ก่อนจะยกมือขึ้นลูบเรือนผมนิ่มของหมอแพทเบา ๆ "ผมเองก็เป็นห่วงเหมือนกัน”

หมอแพทยิ้มและเงียบไป ต่างคนต่างเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนหมอกานต์จะเป็นคนเปิดประเด็นใหม่อีกครั้ง

"แล้วเรื่องที่พูดกันวันนั้น หมอบอกไอ้ติ๊กมันรึยัง”

"ยังเลย” หมอแพทส่ายหน้าช้า ๆ ทำให้หมอกานต์ถอนหายใจอีกครั้ง

"บอกมันไปเหอะ ก่อนที่อะไร ๆ จะยุ่ง หมอก็รู้มันเป็นพวกคิดเยอะ แถมหึงโหดอีกต่างหาก”

หมอแพทเงียบไป สักพักหมอกานต์จึงลุกจากเก้าอี้

แต่แล้วก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น นั่นทำให้ต้องหันกลับมามองหมอแพทอีกครั้ง

"แม่บ้านมั้ง” คำตอบสั้น ๆ จากคนป่วย หมอกานต์พนักหน้าก่อนจะอาสาไปเปิดประตูแทน

หลังจากหมอกานต์เดินออกจาก หมอแพทย์จึงเริ่มคลายเนคไท และปลดกระดุมคอเสื้อเพื่อให้หายอัดอัด ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาเครื่องดื่มเย็น ๆ มาดับอุณภูมิร่างกายที่ผิดปกติ

แต่ต่อมาไม่นานนัก กลับได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายแว่วเข้ามา คุณหมอตัวเล็กแปลกใจ จึงเดินตามไปดู และต้องตกใจเมื่อเห็นหมอกานต์ลงไปกองกับพื้น มีรอยถูกชกและเลือกซิบที่มุมปาก ขณะที่อีกคนยืนขวางประตูอยู่นั้น คือชาญวิทย์ คนรักของตนเอง

"ติ๊ก...มาวันนี้ทำไมไม่บอก”

"ถ้าบอกแล้วจะได้เห็นอะไรแบบนี้ไหม?” กัปตันแผดเสียงดัง แววตาจ้องมองมานั้นทั้งแข็งกร้าว และเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง ทำเอาหมอแพทใจหาย

"ไอ้ติ๊ก มันไม่ใช่อย่างที่แกคิดนะ” หมอกานต์พยุงตัวเองลุกขึ้นมาเพื่อจะอธิบาย แต่กลับถูกชาญวิทย์กระชากคอเสื้อหมายจะเอาเรื่องอีกรอบ หมอแพทจึงต้องรีบเข้าไปแทรกตรงกลาง และพยายามแยกทั้งสองออกจากกันจนสำเร็จ

"ติ๊ก ใจเย็นก่อนได้ไหม”

"ทำไม?” หันมามองคนรักอย่างเอาเรื่อง "ปกป้องแฟนเก่าเหรอ?!”

คำถามที่ตีสวนทางกลับมาทำเอาหมอแพทเบิกตากว้าง พอ ๆ กันหมอกานต์ที่อ้าปากค้าง

"ไอ้ติ๊ก...”

"หมอกานต์ออกไปก่อน” หมอแพทพูดแทรก ก่อนจะผลักดันให้ถอยออกจากห้องไป หมอกานต์แม้จะพยายามฝืนตัวเองไว้ แต่เพราะหมอแพทเอ่ยขอย้ำอีกครั้ง จึงยอมออกจากห้องไปแต่โดยดี

มือเล็กค่อย ๆ ปิดประตู และลงกลอนจากด้านใน แต่เมื่อหันกลับมา ก็พบว่าตัวเองถูกกักไว้ในวงแขนของคนรัก ชาญวิทย์ยังคงมองด้วยสายตาเจ็บช้ำเช่นเดิม

"ไปรู้มาจากไหน”หมอแพทถามด้วยเสียงราบเรียบ

"แล้วมันจริงไหม?!” ชาญวิทย์ถามกลับด้วยเสียงกร้าว "ที่แพทเคยบอกว่าคบแฟนคนแรกตอนเรียนหมอ คือมันใช่ไหม?”

ทั้งสองมองหน้ากันอยู่นาน ก่อนหมอแพทจะเป็นฝ่ายละสายตาไป

"ใช่ หมอกานต์เป็นแฟนคนแรกของเรา”

"แล้วทำไมแพทไม่บอกเรา!” ชาญวิทย์ตลาดลั่น จนหมอแพทสะดุ้งตกใจ

"เรา...”

"แล้วแพทมาจีบเราทำไม? มาคบกับเราทำไม?!”

"มันคนละประเด็น อย่าเอามาปนกันสิ” หมอแพทเงยหน้าขึ้นถกเถียง

"ไม่ให้ปนได้ไง! มาคบกับเราที่เป็นเพื่อนของแฟนเก่า แล้วตัวเองก็ทำงานอยู่กับแฟนเก่าทุกวัน จะให้คิดไง?!”

"ติ๊ก คิดเลอะเทอะไปใหญ่แล้วนะ ถึงเรากับหมอกานต์จะเคยคบกัน แต่ตอนนี้ก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้นแหละ”

ชาญวิทย์กำหมัดทุบประตูดังปัง!

"แล้วที่หิ้วมาส่งห้องงี้หมายความว่าไง?! เสื้อผ้าหลุดลุ่ยงี้หมายความว่าไง?! มีเราคนเดียวไม่พอรึไง?!” แววตาวาวโรจน์จ้องมองเขม็ง ขณะที่มือใหญ่เคลื่อนไปหมายจะกระชากสาบเสื้อ หมอแพทรีบปัดออกทันที และมองกัปตันด้วยความโกรธเคือง

ชาญวิทย์กัดฟันกรอด ก่อนจะกดหัวไหล่เล็กยึดติดประตู แล้วโน้มหน้าลงไปใกล้ ๆ หมอแพทหันหน้าหนีทันที และหลับตาแน่น เกร็งสุดตัว

ปรากฎว่าชาญวิทย์เลือกที่จะโขกหัวกับประตูแทน ตำแหน่งที่กระทบอยู่ไม่ห่างจากหน้าของคนรัก หมอแพทจะตกใจรีบหันไปมอง

"ใช่สิ เราต่างคนต่างไม่มีเวลา แต่แพทก็ไม่เคยยี่หระ เพราะว่ามีตัวคั่นเวลาใช่ไหม?”

"ติ๊ก...พูดอะไรออกมา”  หมอแพทมองอย่างตกตะลึง ชาญวิทย์เงยหน้าขึ้นมอง

"หรือว่าที่จริงแล้วเป็นเรากันแน่ ที่แค่มาคั่นเวลาสนุกของแพทกับไอ้กานต์!”

"ติ๊ก! มันจะมากไปแล้วนะ!!” หมอแพทตวาดลั่น และยังผลักคนรักสุดแรง ชาญวิทย์ผละออกไปได้เพียงเล็กน้อย

"ติ๊กกำลังดูถูกเรา ดูถูกเพื่อนตัวเอง มันใช่ไม่ได้เลยนะ!”

"ใช่! เรามันใช่ไม่ได้ซักอย่าง!!” กัปตันตะคอกกลับ พร้อมจับกระชับหัวไหล่เล็กให้แน่นยิ่งขึ้น

"เรามันใช่ไม่ได้ เรามันไม่เอาไหน! ถึงไม่เข้าใจอยู่ทุกวันนี้ไง ว่ามาคบกันทำไม แล้วยังรักกันอยู่รึเปล่า หรือจริง ๆ แล้วไม่เคยรักกันเลย!”

"ติ๊ก..” หมอแพทเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นแววตาตัดพ้อของคนรัก

"ไม่เคยบอกว่าคิดถึง ไม่เคยดีใจตอนที่เรามาหา ไม่เคยเหงาตอนไม่มีเราอยู่ข้าง ๆ ไม่เหมือนที่เราเป็นอยู่เลยใช่ไหม?!”

"ติ๊ก ฟังนะ เรา..”

ชาญวิทย์ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ เขาประกบจูบริมฝีปากอีกคู่นั้นอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง จนคุณหมอไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาได้นอกเสียจากเสียงอื้ออึงในลำคอ

หมอแพทใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อขัดขืน แต่ไม่อาจหยุดมือที่กำลังลวนลามตามเนื้อตัวได้เลย จนเมื่อแฟนหนุ่มยอมผละริมฝีปากออก ย้ายไปฝังที่ซอกคอ จึงไม่รอช้าที่จะเตือนสติคนรัก

"ติ๊กอย่าทำแบบนี้...พูดกันให้รู้เรื่องก่อน”

ทว่าอีกฝ่ายกลับทำเป็นไม่ได้ยินไปเสีย ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ สูดดมกลิ่นกายบริเวณลำคอ ขณะที่มือค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ จนไปหยุดที่ขอบกางเกง หมอแพทถลึงตาโต

"ติ๊ก! หยุดนะ!” คุณหมอพยายามผลักดันร่างหนาของคนรัก แต่ไม่สำเร็จด้วยว่าใช้แขนได้เพียงข้างเดียว เพราะอีกข้างต้องใช้กันข้อขืนมือใหญ่ที่พยายามจะลวนลามร่างกายภายใต้ร่มผ้า

"เรามันไม่เอาไหน...” ชาญวิทย์กระซิบข้างหู "ที่พอใช้ได้ คงมีแต่เรื่องนี้ล่ะมั้ง”

"ติ๊ก!!” หมอแพทร้องลั่นด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้ก็ยังพยายามออกแรงผลัก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เป็นผลสำเร็จ และต้องจมหายไปภายในอ้อมอกกว้างในท้ายที่สุด






ประตูห้องนอนถูกเปิดอีกครั้ง ชาญวิทย์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จได้กลับเข้ามา ภายในห้องมืดนั้นเงียบสงัด ได้ยินแต่เพียงเสียงแผ่วจากเครื่องปรับอากาศเท่านั้น

หลังจากไปยืนให้น้ำเย็นรดตัวจนอารมณ์ร้อน ๆ สงบลงแล้ว ความรู้สึกผิดก็ตีตื้นขึ้นมาแทนที่ เขาทอดสายตามองร่างของอีกคนที่กำลังนอนหลับสนิท ไม่นานนักจึงเดินไปนั่งลงกับพื้นข้างเตียง เฝ้ามองดวงหน้าหวานที่ซีดเซียว ขอบตาบวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มา มือใหญ่ค่อย ๆ แตะสัมผัสผะแผ่วไล่ไปตามโครงหน้าอย่างทะนุถนอม แต่นั่นก็เพียงพอให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวได้

หมอแพทค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา เมื่อสิ่งแรกที่มองเห็นคือชาญวิทย์ มองอยู่ไม่นานก็หลุบสายตาลง

"แพท เราขอโทษ...” ก้มลงไปกระซิบใกล้ ๆ ก่อนจะกดจมูกลงข้างผิวแก้มที่อุณหภูมิยังร้อนรุ่มอยู่

 ไม่มีเสียงตอบรับจากคุณหมอตัวเล็ก ชาญวิทย์จึงค่อย ๆ ผละออกมามองแล้วถอนใจ ขณะที่หมอแพทยังคงหลบสายตาอยู่อย่างนั้น ต่างคนต่างเงียบไม่พูดจา

และสิ่งที่ทำลายความเงียบระหว่างพวกเขาคือเสียงริงโทนจากโทรศัพท์หมอแพทเอง คุณหมอค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมา แต่ก่อนหน้านั้นชาญวิทย์ก็ทันสังเกตเห็นว่าชื่อคนโทรเข้าคือหมอกานต์ กัปตันหนุ่มตวัดสายตามองคนรักอย่างไม่พอใจ

"ครับ...อื้ม ผมไหว เดี๋ยวไปครับ” รับคำเพียงสั้น ๆ และวางสายทันที หมอแพทเคลื่อนสายตามามองชาญวิทย์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเบนทิศทาง และลุกออกจากเตียงไปโดยอาศัยผ้าห่มคลุมตัวเองเอาไว้

"จะไปไหน” ชาญวิทย์รีบตามไปรั้งตัวเอาไว้

หมอแพทตอบโดยไม่หันมามอง "เราจะไปทำงาน”

"อีกแล้วเหรอ?” กัปตันหนุ่มลงเสียงหนัก "ทั้งที่เพิ่งกลับมาตอนเย็นเนี่ยนะ?”

หมอแพทไม่ตอบ หากแต่เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบชุดที่เตรียมไว้แล้วออกมา

"ไปขึ้นเวร หรือไปหาใครกันแน่”

หมอแพทหันมามองอย่างไม่พอใจนัก และยังคงไม่โต้ตอบกลับ แต่หันไปสวมใส่เสื้อผ้าอย่างใจเย็น

ชาญวิทย์เมื่อรู้สึกตัวว่าเผลอหาเรื่องทะเลาะอีกแล้ว จึงรีบสาวเท้าเข้าไปหาร่างเล็ก สวมกอดจากทางด้านหลัง หน้าหล่อซบลงที่หัวไหล่ลาด

"เราขอโทษ...ที่เราพูดไม่ดีกับแพท ที่เราทำอะไรไม่ดีลงไป เราขอโทษ"

"...”

"ก็เรากลัว เราสองคนไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเหมือนคนอื่น ๆ ยิ่งห่างกันเท่าไหร่ เราก็ยิ่งหวั่นใจ”

"...”

"เราจะทำยังไง เราอยากมีเวลาอยู่กับแพท อยากให้แพทมีเวลาอยู่กับเรา อยากให้แพทรักเราคนเดียว ไม่ให้แพทไปมองใครที่ไหนอีก”

หมอแพทถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะหันกลับมากอดร่างสูงใหญ่ ชาญวิทยกระชับอ้อมกอดแนบแน่น

แต่เพียงไม่นาน คุณหมอตัวเล็กก็ค่อย ๆ ผละตัวออกไป และช้อนสายตามองเขาอย่างเศร้าสร้อย

"ความรักของติ๊กคืออะไรเหรอ? คำว่าคนรักของติ๊ก หมายถึงคนที่ต้องอยู่ข้างกายติ๊กเท่านั้นรึเปล่า?”

กัปตันหนุ่มจ้องมองกลับด้วยความไม่เข้าใจ นั่นทำให้หมอแพทถอนใจอีกครั้ง

"แต่สำหรับเราตอนนี้...มันไม่ใช่”

"แพท..” ชาญวิทย์เรียกรั้ง และคว้าข้อมือเล็กไว้เมื่อคุณหมอถอยห่างจากเขาไปอีกก้าว หมอแพทเหลือบมอบเวลาที่นาฬิกาข้างฝาแล้วจึงกลับหลังหัน

"ขอโทษนะ เราต้องไปทำงานแล้วล่ะ” ว่าจบก็เดินออกจากห้องไปเสียทันที

วินาทีหลังจากข้อมือเล็กหลุดมือเขาไป ชาญวิทย์ยืนนิ่งด้วยสมองที่ว่างเปล่า กว่าจะได้สติอีกกลับมาก็เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูข้างนอก กัปตันหนุ่มรีบวิ่งออกไปนอกห้อง แต่หมอแพทก็เดินนำไปไกลแล้ว

"แพทก็เป็นแบบนี้ตลอด! เดินหนีเราตลอด!” เขาตะเบ็งเสียงสะโกนไล่หลังคุณหมอ ซึ่งหยุดรอหน้าลิฟต์ไม่นาน ประตูเหล็กก็เปิด

"ทำไมมีแต่เราที่คอยวิ่งตาม! เราเหนื่อย...ได้ยินไหม เราเหนื่อย!”

แต่เสียงของเขา ไม่อาจส่งไปถึงอีกฝ่ายได้อีก เมื่อคุณหมอหายเข้าไปในลิฟต์แล้ว

ชาญวิทย์ยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าผากของตัวเองขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นพลางสูดหายใจที่มันติดขัด

"เราไม่อยากวิ่งตามใครอีกแล้ว”





To be continue.



-วายศรี-
ก็ต้องเหนื่อยซิกัปตัน เออะก็จับกด จับกด ชริ~
พาร์ทนี้ค่อนข้างจะดราม่า แต่ตอนหน้าก็จะจบแล้วค่า เย้ๆ
ไว้มาลุ้นกันน้า ว่าจะจบยังไง  :mew1:

ปล.วายศรีรบกวน ผู้เชี่ยวชาญช่วยสแกนคำผิดเหมือนเคยนะค้าา แอร๊ยย  :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2014 22:45:21 โดย วายศรี »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
และยังดูขมักเขเม้นกับมัน >>>>>>>>>>>>>>ขะมักเขม้น
พะว้าพะวง และหวาดวิตกมากเพียงใด >>>>>>>>>>>>>> พะว้าพะวัง/พะวักพะวน
มีรอยถูกชกและเลือกซิบที่มุมปาก >>>>>>>>>>>>>>> เลือด
"ใช่! เรามันใช่ไม่ได้ซักอย่าง!!” >>>>>>>>>>>> ใช้
"เรามันใช่ไม่ได้ เรามันไม่เอาไหน! >>>>>>>>>>>>>> ใช้

ไปกันใหญ่แล้วกัปตันติ๊ก หึงหน้ามืดตามัว เผลอทำร้ายกายและใจคนรักไปแล้ว
นอกจากจะมีเวลาให้กันน้อยแล้วยังขาดความเข้าใจกันด้วย


ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
คนนึงเอาแต่น้อยใจ อีกคนไม่สนใจ เหนื่อยนะ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เพียงตอนสอง มาม่าก็มาตรึม
สงสัยจะรีบให้ดราม่าจบๆ ไป จะได้หวานนานๆ

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
พูดไม่ออก  :sad2: :sad2: :เฮ้อ:
จะจบท่าไหนล่ะนี่  คบคนของประชาชนก็เหนื่อยหน่อยนะกัปตัน 
ไหนจะระแวงหมอกานต์อีก  แล้วจะคบกันรอดจริง ๆ ร๊อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2014 11:27:45 โดย ReiSei »

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เห้ยยย เป็นเราก็ระแวง เป็นเราก็ไม่ทน คนนะไม่ใช่ร่างทรงจะได้มาเข้าใจกันทุกเรื่อง บอกเลยถ้าเป็นแบบแพทต่อให้คบกันมาสิบยี่สิบปีก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าไม่พูด

มีอะไรเดินหนี ไม่พูดถามอะไรไม่ตอบเลี่ยง ไม่มีคำหวานโปรยกันบ้างสำหรับเรา เราว่ากัปตันถึงมันจะง้องแง้งไปบ้างแต่เราว่าเอาเข้าจริงมันเข้าใจหมอแน่ ถ้าพูดคุยหรือบอกกัน แต่นี่เราอ่านแล้วแบบ เอออ ต้องรู้จากคนอื่นตลอด ต้องรู้จากแฟนเก่า ถ้าจะให้คนเข้าใจโดยไม่คิดจะแบ่งปันอะไรแล้วเอาแต่เซ็กซ์แค่นั้น(ไม่ได้บอกว่าคบกันเพราะร่างกายนะ แต่หมอมาบอกว่าเพราะให้ไปเมื่อคืนแล้วก็น่าจะพอแล้วเป็นเราก็ฉุนหว่ะ) ก็อย่าคบกัน

ถ้าบอกไม่ให้วิ่งตาม แล้วนั่งรอนั่งเข้าใจที่ไม่รู้เมื่อไหร่ ก็อย่าคบถ้าหมอไม่พร้อมก็อย่าคบเลยเราว่ามันเกินไปเราก็ไม่เข้าใจหมอหรอก ถึงในใจหมอหรือว่าหมอมีเหตุอะไร เราก็ไม่เข้าใจเพราะมีแต่หมอที่รู้และเข้าใจ นะ


ออฟไลน์ Chrith

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เข้าใจติ๊กเลยอ้ะ T-T
ทำไมหมอมีอะไรไม่พูด? ทำไมต้องรอ? รอแล้วได้อะไร?
คนเราพอคิดแล้ว ถ้าไม่ได้รับความกระจ่าง ยังไงมันก็คิดวนเวียนอยู่นั่นแหละ
เก่งตั้งหลายอย่าง เอาใจใส่แฟนอีกสักนิดเซ่ แง่งงงงงงงง

 :m31:

ออฟไลน์ RenaBee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เราสงสารคุณกัปตันนะ หมอแพทไม่พูดไม่แสดงออก ไม่อะไรเลย ให้คนใจแข็งหรือเชื่อใจกันแค่ไหนก็ต้องมีรู้สึกบ้างอ่ะ  :mew6:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ห๊ะ ตอนหน้าจะจบ แต่ตอนนี้ทะเลาะกันรุนแรงมากเลยน้าาาา :hao5:
ถ้าเป็นเราก็โกรธนะ ที่เพื่อนเป็นแฟนเก่าของแฟนเรา มันก็อดคิดไม่ได้อ่ะ ถึงว่าบางเรื่องไม่รู้จะดีกว่า เราก็ไม่ได้ใจกว้างขนาดแม่น้ำซักหน่อย :mew4:

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เป็นเราก็คิดมากน่ะมีอะไรไม่พูดไม่บอกอ่ะ

คนรักกันก็ต้องมีเวลาให้กันบ้างดิ ไม่ใช่อะไรก็งาน

เป็นเราก็คงเหนื่อยเหมือนกันอ่ะ สงสารกัปตัน

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew2: :mew2: :mew2:พระเอกตูดูเด็กน้อยไปเลย :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด