
หนึ่งสัปดาห์เต็ม ที่กระผมห่างหายไปจากเรือนแพ
เพลานี้ จักกลับมารับใช้นายท่านแล้วนะขอรับ

**********************************************
ทาสรัก....สมัครใจ....24
“ลอย”
เสียงเปล่งผะแผ่วจากริมฝีปากนายเงิน แล้วมิได้กล่าวอะไรอีก
มือบางที่เอื้อมมา แตะผิวกายไอ้ลูกทาสบนที่นอนหยุดนิ่ง
“ขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลูกทาสค่อยๆเผยอเปลือกตาขึ้น
นัยน์ตาคมทั้งคู่ฉ่ำด้วยน้ำตา
รอยฝืนยิ้มบางๆฉาบที่ริมฝีปากหนาของมัน
“ลอย เจ้าอย่าร้องไห้เลย”
ไอ้ลูกทาสพยักหน้าเนิบๆ
หากน้ำตาของมันยังไหลรินไม่ขาดสาย
คราเมื่อไอ้ลอยหวนคำนึงถึง เรื่องราวบนเรือนใหญ่เมื่อครู่
**********************************************
“พวกเอ็งลงจากเรือนไปให้หมด อย่าได้บังอาจมาวุ่นวายบนเรือน”
ขุนจำเริญสั่งคำเด็ดขาดแก่เหล่าบ่าวไพร่ ที่มาคอยรับใช้บนชานยกพื้น
“นังตาดเอ็งด้วย”
ไอ้ลอยมิเคยได้ยินชื่อนางทาสสาวผู้นี้ อีกทั้งมิเคยเห็นหน้า
ด้วยนังตาดเป็นทาสคนสนิท รับใช้คุณแป้งร่ำ
ที่เธอมักให้มันติดตามรับใช้ไปทุกแห่งทุกหน
หากครั้นไอ้ลอยก้มหน้า คลานตามหลังเหล่าทาส
“ไอ้ลอย เอ็งมิต้องไป อยู่รับใช้ข้าบนเรือนนี่หล่ะ”
เสียงขุนจำเริญห้ามมันเอาไว้
ไอ้ลอยจึงคลานกลับไปนั่งหมอบอยู่ข้างเสา
ครั้นเหล่าไอ้อีทาสทั้งหลายลงจากเรือนไปจนหมด
คุณแป้งร่ำเธอจึงกล่าวว่า
“เหตุใดคุณพี่จำเริญไล่พวกบ่าวไพร่ไปจนหมดเล่าเจ้าคะ”
“พี่ต้องการอยู่กับน้องตามลำพังนี่จ๊ะ”
เสียงขุนจำเริญหวานนักยามเจรจากับคู่หมาย
หัวใจของไอ้ลูกทาสทำงานหนักอีกครา
ด้วยมันเต้นแรงระรัวอยู่ในอก
“ส่วนไอ้ลอยก็ให้มันอยู่รับใช้น้องแป้งร่ำของพี่
เจ้าต้องการสิ่งใดจงบอกกล่าวเอากับมันเถิด”
เสียงขุนจำเริญช่างเจรจาพะเน้าพะนอยิ่ง
ไอ้ลอยนั่งหมอบนิ่งอยู่ ก้มหน้าเศร้าหมองลงเสีย
“ความรักของขุนจำเริญท่านเป็นเยี่ยงไร ไอ้ลอยมันมิรู้
แต่รักของไอ้ลูกทาสคนนี้ มันมิใช่การครอบครองดอกขอรับ
หากมันเป็นความปรารถนาให้คนที่มันรักเป็นสุข
แม้นมันเจ็บเจียนตาย ก็จักมิปริปากบอก”
ไอ้ลอยพร่ำเพ้ออยู่ในใจ
รวบรวมกำลังใจให้ประคองตัวอยู่ได้ มิหุนหันพลันแล่น
เพลาผ่านไปเชื่องช้าเสียเหลือเกิน
แม้นก้มหน้าเสียมิต้องมองเห็น
หากหูนั้นมิอาจดับได้ จำต้องรับฟังนายท่านหยอกเย้ากัน
“ก้างปลามากมาย ให้น้องแกะเนื้อให้นะเจ้าคะ”
คุณแป้งร่ำเธออาสาโดยมิต้องร้องขอ
“เนื้อปลาที่เจ้าแกะมาให้พี่ ช่างหวานหอมเหลือเกิน
เจ้าจักทำให้พี่เคยตัวเสียแล้วนะแม่แป้งร่ำ
คราใดเจ้ามิได้ร่วมสำรับกับพี่
ใครเล่าจะแกะก้างออกจากเนื้อปลาให้พี่”
ขุนจำเริญพูดเยี่ยงนี้ ราวกับมิเคยให้ไอ้ลอยรับใช้
“เอ็งกลับไปรอข้าที่เรือนแพ”
คราขุนจำเริญแสร้งไอ้ลอยจนสาแก่ใจแล้ว
พลันบังเกิดความสำนึกว่า ทำการเกินกว่าเหตุ
พอถึงเพลาคุณแป้งร่ำเธอ จักกลับเรือนพระยาแม้นมนตรี
ขุนจำเริญจึงสั่งไอ้ลอยไปคอยท่าที่เรือนแพ
********************************************
“ข้ามิมีเจตนาจักกลั่นแกล้งให้ลอยของข้า ต้องเจ็บช้ำใจ
แต่เจ้ามันช่างยุแหย่อารมณ์ข้า ให้ขุ่นใจสม่ำเสมอ
มีอันใดข้าเคยบอกย้ำให้เจ้าซักถาม จักได้มิแคลงใจ
แล้วเยี่ยงไรเจ้าทำมึนตึง เพิกเฉยต่อข้า ฮึ”
ขุนจำเริญทำเสียงตัดพ้อไอ้ลูกทาส ที่นอนนิ่งน้ำตาไหลริน
“นับเนื่องจากนี้เจ้าจักเชื่อมั่นในตัวแลใจข้าได้ฤาไม่
ข้าแสนกลัดกลุ้มใจ เจ้ายังมิวายทำข้าท้อใจนัก ลอยเอ๋ย”
ขุนจำเริญผินกายตะแคงตัว หันหลังให้ไอ้ทาสลอย
ไอ้ลอยปล่อยความคิดล่องลอย ไปตามเสียงพูดของขุนจำเริญ
แล้วมันจึงได้รับรู้ว่า
“ขุนจำเริญท่านแสร้งไอ้ลอยอีกคราแล้ว เป็นแน่”
ไอ้ลูกทาสมันทั้งรักแลทั้งน้อยใจในน้ำคำของท่าน
หากแต่มัวแง่งอนกันไป เมื่อใดจึงจักเข้าใจกัน
“ขุนจำเริญขอรับ ไอ้ลอยมันปัญญาเบาเขลานัก
นายท่านโปรดอภัยให้ไอ้ลอยด้วยเถิดขอรับ”
ไอ้ลอยพลิกตัวหันไปตระกองกอด ซ้อนหลังขุนจำเริญ
ขุนจำเริญคนเจ้าเล่ห์แสนงอนยิ้มกริ่ม
กระบวนเอาแต่ใจตัวของท่านนี้ มิเคยแสร้งทำเอากับผู้ใด
หากเป็นเพียงไอ้ลูกทาส...มันแต่เพียงผู้เดียว
เอวคอดถูกรั้งแนบชิด
สัมผัสกับส่วนแข็งแกร่งของไอ้ลอย
ที่กำลังเร่าร้อนเพราะแรงอารมณ์
อารมณ์น้อยใจในคราแรกนั้น แปรเปลี่ยนไป
ด้วยสัมผัสคุ้นเคยที่ห่างหายไปหลายเพลา
ริมฝีปากหนาของไอ้ลอย ระดมจูบไปทั่วซอกคอขาวเนียน
ความหอมหวานที่มิเคยหน่ายแหนง ยิ่งทำให้ไอ้ลอยใคร่จูบซับตราตรึงอยู่เยี่ยงนั้น
ปากหนาเม้มแน่นที่ติ่งหูบาง เรียกเสียงครางจากปากนายเงิน
“อื้อออ...ลอย ลอยจ๋า”
ปากบางพร่ำเพรียกเรียกชื่อยอดรักของตน
คราผ้าผ่อนพันกายหลุดออกทั้งนายบ่าว
กายเพรียวบางที่กำลังสั่นเทา
ไม่ต่างจากผีเสื้อตัวน้อย ที่กำลังหวาดกลัวกับลมพายุกำลังพัดพาโหมกระหน่ำ
กลีบกุหลาบสีสวยโรยพรมไปทั่ว ร่างเล็กขาวนวลเนียน
ยอดอกสีหวาน ถูกไอ้ทาสลอยครอบครองทั้งขบเม้มดูดดุนจนหนำใจ
“อ๊ะ...เบาแรงเถิดลอยเอ๋ย ถนอมนวลข้าบ้าง...อาาา”
ฝ่ามือไอ้ลอย เลื่อนลงมาสัมผัสลูบไล้สะโพกกลมมนของขุนจำเริญ
“อาาา...ยอดรักของไอ้ลอย
นานเพียงใดแล้วขอรับ ขุนจำเริญ
ทรมานใจไอ้ลอยแทบแดดิ้นสิ้นใจ”
ถ้อยคำของไอ้ลูกทาสทั้งอ่อนหวาน แลตัดพ้อ
หากมือไม้ ปากจมูกมินิ่งเฉย
ร่างกายแข็งแกร่งสอดแทรกลง ระหว่างเรียวขาทั้งสอง
เหมือนดั่งคลื่นทะเลที่กำลังบ้าคลั่ง โหมกระหน่ำลงบนหาดทราย
ต่อให้มีสิ่งใดขวางกั้น ก็จักถูกซัดจวบจนพังทลายลงต่อหน้า
จำปีดอกใหญ่ถูกครอบครองด้วยช่องทางคับแน่น ที่กำลังตอดรัด
ความเสียวซ่านที่บังเกิดแก่ทั้งนายแลบ่าว ครั้งแล้วครั้งเล่า
ถาโถมสาดซัดอย่างมิยับยั้งเบาแรง
หลายเพลาที่ขาดหาย จักเติมให้เต็มเปี่ยม
หากมากล้นกระฉอกออกมาก็มิครนา
“ซี๊ดดดด...ชอบ...ชอบฤาไม่ขอรับ”
เสียงแหบพร่า สายตาคมมองสบหน้าหวานที่แดงก่ำ
โลหิตสูบฉีดหน้าแลกายของขุนจำเริญจนแดงซ่าน
“อื้อออออออ ละ...ลอย...ลอยจ๋า”
เสียงหวานหอบกระเส่าของนายเงิน
ยิ่งเร้าอารมณ์ไอ้ลอยให้ทบเท่าทวีคูณ
คราเมื่อความอดทนสิ้นสุดลง
ปลายทางที่แสนหอมหวานรออยู่ตรงหน้า
ความสุขมากมายพุ่งทะลักจนเต็มช่องทางสีสวย
น้ำสีขุ่นเปรอะฟูกนอนเป็นบริเวณกว้าง
พร้อมกันนั้นอีกฝ่ายก็ปลดปล่อยออกมาในที่สุด
สองร่างเปลือยเปล่าก่ายเกย สั่นสะท้านหอบหายใจเสียงดังแข่งขันกัน
ค่ำคืนที่แสนยาวนานค่อยๆ คืบคลานไปอย่างช้าๆ
สองกายที่กำลังกอดก่ายแนบชิดกัน
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่กำลังสาดส่องอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี
ไอความหนาวถูกทดแทนด้วยความอบอุ่นจากร่างกายนายบ่าว
อ้อมแขนแข็งแกร่งของไอ้ทาสลอย
โอบกอดรัดขุนจำเริญเอาไว้อย่างหวงแหน
ขุนจำเริญหลับลงไปแล้วเพราะความอ่อนเพลีย
ลมหายใจผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
จูบแสนหวานนุ่มนวลดั่งขนนก
จากริมฝีปากหนาประทับไปทั่วทั้งหน้าขาวนวล
ทุกส่วนสัดในกายของนายท่านเป็นของไอ้ลูกทาส
ไม่ว่าจะเป็นนัยน์ตาคู่สวยที่กำลังหลับพริ้มอยู่ขณะนี้
ไล้นิ้วไปตามเรียวแก้ม ผิวขาวใสรั้งอยากให้สัมผัสเหลือเกิน
ทั้งเรียวปากบางอมชมพู
ไอ้ทาสลอยมันรู้ดีว่า ช่างหอมหวานชวนหลงใหลเพียงใด
อยากกกกอดเอาไว้เยี่ยงนี้ มิอยากให้จากไปไหน
***************************************************
กาลต่อมาภายหลังปรับความเข้าใจตรงกันแล้ว
แต่ละวันผันผ่านไป
กลางวันไอ้ลอยยอมสิ้น ติดตามขุนจำเริญไปทุกแห่งหน
กระทรวงเอย เรือนพระยาแม้นมนตรีเอย
แม้นแต่ที่เรือนใหญ่คราวันหยุด
คราใดคุณแป้งร่ำพบปะขุนจำเริญ ครานั้นเธอจักเจอะเจอไอ้ลอยร่ำไป
เฉกเช่นเดียวกับนางทาสตาดคนสนิทของคุณแป้งร่ำ ที่เป็นเสมือนเงาตามตัวนายเงิน
กลางคืนเป็นเพลาแห่งความสุขโดยแท้
เรือนแพเสมือนวิมานชั้นฟ้าของไอ้ลูกทาส
จะพร่ำพลอดกอดรัดกันเยี่ยงไร ก็มิมีผู้ใดล่วงรู้
ขุนจำเริญให้สงสารไอ้ลอยนัก
ยามมันต้องทนฝืนเห็นท่านพูดจาสนิทสนมกับคุณแป้งร่ำ
คราถึงเรือนแพ ขุนจำเริญจึงมิขัดใจมัน
หากแต่ไอ้ลอยมันแสนขยันทั้งการบ้านแลการมุ้ง
นับวันไอ้ลอยมันเชี่ยวชาญชำนาญการรักเป็นที่น่าประหลาดใจ
“ลอย ข้าหิวแล้ว”
ตะวันยังมิโผล่พ้นขอบฟ้านัก
หากขุนจำเริญท่านเพลียหนัก ออกแรงจนดึกดื่นครึ่งคืน
ท้องไส้พาลประท้วงว่าหิวโหย
“ขอรับขุนจำเริญ ไอ้ลอยจักเร่งไปโรงครัวขอรับ”
ไอ้ลอยมิรับคำแต่เพียงอย่างเดียว
มันกลับยื่นหน้ามาฉกฉวยสูดดมแก้มนวล
“บ้าจริงเชียว ไอ้คนฉวยโอกาส”
หากหน้าตาของผู้พูดยิ้มแย้ม หาได้ขึ้งโกรธแต่อย่างใด
เพลานั้นที่...รอคอยสำรับ
ขุนจำเริญท่านสำรวจดูโน่นนี่ไปทั่วเรือน
แล้วให้เอะใจกับกองหนังสือที่วางไว้ไม่เรียบร้อย
“เหลวไหล บกพร่องงานบ้านงานเรือน
เอาใหญ่แล้วมัวแต่ทำอันใดอยู่นะลอยเอ๋ย”
หากภาพที่บังเกิดขึ้นในมโนคือบทรักที่หลากหลาย
หน้าขาวนวลขึ้นสีเมื่อมองเห็นปกหนังสือในมือ
“กามสูตร”
หนังสือที่ขุนจำเริญหอบข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมา
“ข้าจัดเก็บเอาไว้มิดชิดแล้ว เหตุใดจึงมาวางอยู่ที่นี่ได้”
มือเรียวบางเปิดหนังสือเล่มนั้นออกดู
ภาพในหนังสือล้วนคุ้นเคย
หากมีแผ่นกระดาษเล็กๆกั้นไว้กลางเล่ม
ราวกับเจตนากั้นหน้าไว้ มิให้ต้องเสียเวลาเสาะหา
เพียงนี้ขุนจำเริญก็นึกรู้ได้ว่า
เจ้าลอยคนซื่อของท่าน มันเพียรพยายามศึกษาตำราจวนครึ่งเล่ม
อีกเนื้อหาหลังจากหน้าที่คั่น
ล้วนเป็นลีลาท่าทางที่มันยังมิเคยนำมาปฏิบัติ
“อา...ที่เจ้าเชี่ยวชาญชำนาญ ที่แท้ที่มาเป็นดังนี้เอง”
แทนที่จักจัดเก็บให้พ้นมือไอ้ลูกทาส
ขุนจำเริญท่านกลับสอดวางหนังสือเล่มนั้นกลับคืนที่
แล้วแสร้งไม่รู้ไม่ชี้เสียอีก
*************************************************************
คุณหญิงแม้นมนตรีกล่าวกับพระยาสามีว่า
“คุณพี่เจ้าคะ จักทำฉันใดดี
น้องเพียรเวียนไปทุกวัดวาอาราม ทั้งฝั่งธนฯแลฝั่งพระนคร
ฤกษ์ยามตบแต่งของแม่แป้งร่ำแลขุนจำเริญกลับมิมี
อีกทั้งพระคุณเจ้าท่าน พูดเป็นไปในทางเดียวกันว่า
ทั้งสองคนมิใช่คู่แท้ มิมีวาสนาตบแต่งกัน”
พระยาแม้นมนตรีได้ฟังแล้ว บังเกิดความเสียดายว่าที่เขยขวัญ
“ในเมื่อพระท่านมิมีฤกษ์ยามให้ ข้าก็จักกำหนดมันเสียเอง”
สีหน้าพระยาแม้นมนตรีแสยะยิ้ม อย่างมิหวั่นเกรงต่อคำทำนายใดๆ

**************************************************************
จากภาพขอรับ....
1.ห้องหับบนเรือนแพ....สถานที่ฝึกปรือตามตำรากามสูตรของไอ้ลอยแลขุนจำเริญขอรับ
2.- 3.กระดานตรวจดูดวงชะตา....ของพระคุณเจ้าท่านขอรับ

[attachment deleted by admin]