
ทาสรัก....สมัครใจ....39
เพลากลางวัน...
เรือนคุณนายแฉล้มช่างเงียบเหงานัก
แม้นแต่ที่ตึกฝรั่งอีกฟากฝั่ง ก็ร้างซึ่งนายเงิน
มีเพียงข้าทาสบริวาร พวกมันต่างดูแล
ทำงานบ้านงานครัวตามแต่หน้าที่ของตน
เจ้าพระยานิติธรรมแลหลวงอรรถผู้บุตรชาย
ต่างเข้ากระทรวงทำงานราชการตามกิจวัตร
พระยาศรีพิพัฒน์ก็เฉกเช่นเดียวกัน
หากทว่าคุณหญิงของท่านแลคุณหนูแดง
จักกลับไปดูแลความเรียบร้อยแลการซ่อมแซมเรือนของตน
คุณหนูสร้อยทองนั้นเล่า
เธอเข้าร่ำเรียนเขียนอ่านเบื้องต้นที่โรงเรียนสตรี
สำหรับบุตรหลานข้าราชบริพารแลข้าราชการขุนนางใหญ่น้อย
บนเรือนคุณนายแฉล้มเพลานี้...
จึงเหลือเพียงเจ้าเรือนแลสองนายบ่าวในห้องหับ
ขุนจำเริญผู้เป็นนาย
มิยอมย่างกรายออกพ้นนอกประตูห้องหับ
เว้นเสียแต่จักปวดหนักปวดเบา แลชำระล้างร่างกาย
ท่านทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอยู่เคียงข้างฟูกนอนของไอ้ลอยคนซื่อ
มิหนีห่างหายไปหนใด
บ่าวไพร่ข้าทาสประดามี
ถูกคุณนายแฉล้มเจ้าเรือนกำชับสั่งห้าม
มิให้รบกวนคนเจ็บทั้งสอง
คนหนึ่งนั้นเจ็บกาย บาดแผลใหญ่น้อยทั่วกาย
อีกคนกลับปวดหน่วงที่ใจ แม้นมิมีบาดแผลอันใด
แต่ที่หัวใจดวงน้อยนั้นเล่า
ราวกลับถูกบีบรัดบอบช้ำ
จวนเจียนแหลกแตกสลาย
ผู้ใดจักทุกข์ทรมานยิ่งกว่ากันหนอ
ไอ้ลอยคนซื่อแม้นจักนอนมิได้สติ
หากเพลาขุนจำเริญห่างกายแม้นเพียงน้อย
ไอ้ลอยจักกระสับกระส่าย บางคราถึงกับดิ้นทุรนทุราย
ครั้นขุนจำเริญท่านเข้าใกล้ชิด
พูดจาปลอบโยนอ่อนหวาน
ลูบไล้หน้าตาเนื้อตัวแผ่วเบา
ไอ้ลอยมันจึงนอนเงียบสงบนิ่ง
มิไหวติงดังเดิม
“ลอยเอ๋ย...
ข้ามิรู้ดอกว่า เมื่อใดลอยจักฟื้นตื่นขึ้นมาเสียที
ข้ามิรู้ดอกว่า ที่ข้าพูดจาพร่ำเพ้อกับลอยเพียงข้างเดียวนั้น
ลอยจักรับรู้ฤาได้ยินเสียงของข้าฤาไม่”
“แม้นเพลาใดที่ลอยฟื้นตื่นขึ้นมา
หากลอยแจงว่ามิรู้เรื่องอันใดที่ข้าพูดพร่ำในครานี้
ข้าจักมิเกี่ยงงอนอันใด
ข้าจักพูดซ้ำๆย้ำเตือน
ให้ลอยของข้าฟังอีกทุกคราเพลาที่ลอยต้องการ
สิ่งใดๆในโลกทั้งหมดทั้งมวลนี้
ข้ามิปรารถนาทั้งสิ้น
ขอเพียงลอยคนซื่อของข้าลืมตามาแค่นั้น
ข้าก็ปิติยิ่งแล้ว”
“ลอยเอ๋ย...
จักมีคุณค่าอันใด หากข้ามีทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่มิมีเจ้าอยู่เคียงข้างกัน..ลอย..ยอดรักของข้า”
น้ำตาหยดแรกของวัน
ตกต้องลงบนหลังมือไอ้ลอยคนซื่อ
มือของมันที่ถูกเกาะกุมหลวมๆ
อยู่ภายใต้มือน้อยบอบบาง
แล้วหยดต่อมาก็หลั่งไหลริน
ตามติดออกมาต่อเนื่องมิขาดสาย
คุณนายแฉล้มยืนนิ่งจังงังอยู่ข้างบานประตู
สองมือเหี่ยวย่นสั่นเทาของนางยกขึ้น
ปิดริมฝีปากที่เพลานี้สั่นระริกด้วยเวทนา
อีกหวังมิให้เสียงสะอื้นไห้ของตนเล็ดรอดออกมา
จักเป็นการรบกวนคนในห้องหับ
“ลอยจ๋า....
ลอยยังจดจำคราแรกที่ข้าสั่งพวกไอ้ลูกทาส
ให้พวกมันแลลอยของข้าเล่นเทวดานั่งเมืองได้ฤาไม่
นั่นเป็นคราแรก...
ที่ข้าได้สัมผัสกับแผ่นหลังของลอย
น่าประหลาดใจนัก
ที่ข้ามิได้รังเกียจเนื้อตัวของลอยแม้นแต่น้อย”
คุณนายแฉล้มถอนหายใจยาว
อกใจให้รู้สึกวูบโหวง
คราเห็นร่างบางหลังงองุ้มสั่นระริก
“เพลานั้นข้าแลลอยยังเด็กเล็กนัก
มิรู้ประสีประสาอันใด
ข้ารู้เพียงว่า...
ข้ามิอยากก้าวลงจากหลังลอยแม้นแต่น้อย
ข้าอยากจะขี่หลัง
ให้ลอยนำพาข้าไปทุกหนทุกแห่ง”
"ราวข้าล่องลอยอยู่บนปุยนุ่น
คราขี่หลังเจ้าลงเล่นน้ำที่ชายท่า
แล้วไหน...คราที่ลอยช่วยข้าขัดถูเนื้อตัวอีกเล่า
ฝ่ามือหยาบกร้านของลอย
ทำให้ใจข้าเตลิดไปเสียไกล”
คุณนายแฉล้มลดมือข้างหนึ่งลงลูบอก
หวังบรรเทาแลระงับหัวใจของนาง
ที่เต้นรัวระทึกอยู่ในอก
“วันนั้น.....
วันที่ข้าจักจากสยามประเทศ
ข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่ำเรียนไกลถึงเมืองฝรั่งด้ามขอ
ลอยผลุบโผล่อยู่ตรงพุ่มไม้ หน้าตาอมทุกข์เหลือเกิน
คราเห็นหน้าข้า..ลอยอึ้งตกตะลึง
อีกร่ำไห้ออกมา...ลอยมิมีความละอายต่อข้าบ้างเลย”
ขุนจำเริญละมือข้างหนึ่งจากการเกาะกุมมือไอ้ลอย
มือน้อยผอมบางสั่นระริก
ยามยกปลายนิ้วน้อยขึ้นเกลี่ยเช็ดซับหยาดน้ำตา
บนใบหน้าหมองเศร้าของตน
“เพลานั้นข้าได้ซับหยาดน้ำตาให้เจ้า...ฮือๆ
แล้วใยเพลานี้....
เพลาที่น้ำตาของข้ามันไหลออกมานองเนืองเต็มหน้า
เจ้าใยเกียจคร้านมิลุกตื่นขึ้นมาช่วยเช็ดซับน้ำตาให้ข้าบ้าง
ใจร้ายเหลือเกินนะลอยเอ๋ย...ฮืออออ”
คุณนายแฉล้มตีบตันในลำคอ
หยาดน้ำตาของนางไหลออกมานองใบหน้าเหี่ยวย่น
“อึกก..ลอยยังจดจำได้ฤาไม่
ครานั้นลอยกุมมือข้าวางไว้บนหัวของลอย
วางเยี่ยงนี้ไงเล่า...ลอยจำได้ฤาไม่..ฮือๆ”
ขุนจำเริญวางฝ่ามือน้อยข้างหนึ่ง
ลงบนผมดกหนาของไอ้ลอย
เสียงหวานเครือแผ่ว
กล่าวไปสะอื้นไห้ไป
“ข้าขอให้ลอยยิ้มให้ข้า..ฮือออ
น่าขันเหลือเกินที่ลอยยิ้มให้ข้าทั้งน้ำตา
เหมือน...เหมือนข้า..ฮือๆ..เหมือนข้าเพลานี้
ลอยลืมตาดูทีเถิด ข้ายิ้มแล้วไง...ฮืออออ
หน้าตาของข้า..ยังดูดีอยู่ฤาไม่
ฤาแลดูน่าขบขัน..ฮือๆ
ลอยจักหัวร่อข้าก็ได้ ข้ามิเคืองมิโกรธลอยดอก
หัวร่อข้าสิ ฮือออ...
ทำไมลอยมิยิ้มหัวแลหัวร่อข้าเล่า
หน้าตาของข้ามันน่าขันออกเยี่ยงนี้..ฮือๆ”
ขุนจำเริญทั้งร่ำไห้แลฝืนยกยิ้มในคราเดียวกัน
หน้าตาท่านเหยเก คล้ายเจ็บปวดทุกข์ทนเหลือคณานับ
ขุนจำเริญร่ำไห้จนสาแก่ใจแลมิมีน้ำตาหลงเหลือ
ร่างน้อยบอบบางสะท้านไหวด้วยแรงสะอื้น
นั่งนิ่งเงียบระงับใจอยู่เป็นนาน
แล้วขุนจำเริญจึงกล่าวต่อว่า
“สายเชือกผ้าร่มสีดำแลพระในกรอบพลาสติก
ที่ลอยซื้อหาด้วยเบี้ยอัฐอันเก็บงำมานานนับปี
ข้าวของด้อยค่าราคาถูกที่ลอยมอบให้ข้า
ลอยรู้ฤาไม่ว่า นั่นแหละคือสิ่งของมีค่ามากมายสำหรับข้า
แก้วแหวนเงินทองอันใดก็มิอาจแลกเปลี่ยนกันได้”
ขุนจำเริญเอื้อมมือน้อยยื่นไปแตะสัมผัส
สายสร้อยเชือกแลองค์พระในกรอบพลาสติก
ที่เพลานี้ห้อยคล้องสวมอยู่บนลำคอหนาของไอ้ลอย
ที่นอนนิ่งอยู่บนฟูกหนา
มิมีผู้ใดได้ทันสังเกตเห็น....
หยดน้ำหยดเล็กๆที่ซึมอยู่ตรงหางตาทั้งสองข้าง
ของคนที่นอนทอดกายเหยียดยาวอยู่ตรงหน้า
********************************************************
“ข้าคิดถึงสยามประเทศ แผ่นดินไท
พ่อข้า แม่ข้า แลน้องแดง
หากสำหรับลอยนั้น
ข้ามิพียงคิดถึงหากข้าคะนึงหา
นับคืนวันจักกลับมาหาเจ้า”
“เพลาแรกที่ข้าชำเลืองมองดูลอย
ข้ามิกล้าจ้องมองหน้าลอยให้เต็มสองตาของข้า
ให้สาสมกับความคิดถึงที่มากจนล้นอกข้า
ด้วยเพลานั้นอกใจของข้ามันประหม่าแลสั่นไหว
อีกมันมิไว้หน้าข้าสักนิด
ข้าเกรงผู้อื่นจักได้สดับยินเสียงดวงใจของข้า
ที่มันเต้นระรัวราวเสียงกลองเพลที่รัวอยู่ในอก”
มือน้อยเลื่อนขึ้นมาตามแผ่นอกหนาแลลำคอ
แล้วจึงมาหยุดนิ่งที่แก้มซูบตอบทั้งสองข้างของไอ้ลอย
“ข้าเคืองนักที่ลอยหลบลี้หนีหน้าข้า
ด้วยข้ายังมิทันได้เอื้อนเอ่ยอันใด ลอยก็หายไป”
ขุนจำเริญทอดถอนหายใจ
ปลายนิ้วเกลี่ยสองข้างแก้มแลสันกราม
“ลอยของข้า...เจ้าช่างรูปงามนัก
กายของลอยสูงใหญ่กำยำเหลือเกิน
หน้าตาคิ้วคางของลอย...เข้มคมสมชาย
มันดึงดูดข้าทั้งกายแลใจให้ถวิลหา
ชานหมากที่ข้าให้ทานลอยนั้น
ข้าหวังใจว่าลอยจักรู้ความนัยของมัน”
นิ้วน้อยแตะไล้บางเบาที่ริมฝีปากหยักหนาของไอ้ลอย
“เรือนแพ..
เรือนแพของข้ารอคอยลอยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เพลาใดที่ลอยลืมตาตื่นขึ้นมา
ลอยกับข้า...
เราจักกลับคืนสู่เรือนแพของเราเสียทีนะลอยจ๋า
เรือนแพที่ข้ามิยอมให้ผู้ใดเข้ามาเหยียบย่าง
เว้นเสียแต่เพียงลอยกับข้าแล้ว
ไอ้อีคนใดก็มิอาจเข้ามาใกล้”
ร่างบางโน้มกายลง
จรดปลายจมูกแหลมแตะลงตรงแก้มตอบ
“หมั่นไส้อีพวกลูกทาสนัก
มันหาญกล้ายั่วยวนลอยของข้า ชิส์
ลอย..เจ้ามันซื่อนัก มิทันมารยาหญิง
แล้วจึงต้องถึงมือข้า ออกโรงป้องปกลอย”
ขุนจำเริญยกยืดกายขึ้น มือน้อยกำหลวมๆ
ค้อนควักลมแล้งรอบตัวดูน่าขัน
คุณนายแฉล้มอ้าปากค้าง
คราแลเห็นกริยาที่แปรเปลี่ยนไปมาของขุนนางหนุ่มน้อย
“หนังสือตำราข้าจากแดนไกล
ไฉนลอยหยิบฉวยเปิดอ่านแล้ว..
แล้วบังอาจนำมาใช้กับข้า
บ้าจริงๆลอยจ๋า....”
หมัดน้อยๆทุบลงตรงต้นแขนของไอ้ลอย
ที่มันมิได้รับรู้เรื่องอันใดด้วย
แรงทุบแผ่วเบาราวลมพัดผ่าน
“ลอยจ๋า...เอ้อ...ลอยรู้ฤาไม่หนอ
อันที่จริงแล้วนั้นยัง....ยังมิครบถ้วนกระบวนความ
ตามตำราเลยนะลอย..คริคริ
รีบฟื้นเร่งตื่นขึ้นมาศึกษาต่อเสียทีเถิด
ข้า....ข้ารอเจ้าอยู่นะจ๊ะลอยจ๋า”
ขุนจำเริญมัวแต่ก้มหน้างุดเอียงอาย
จึงมิได้มองเห็นมุมปากหนาแห้งผากของไอ้ลอย
มันกระตุกขึ้นมาราวกับจักยกยิ้ม
“เพลาค่ำคืนของข้ากับลอยบนเรือนแพนั้น
ช่างหอมหวานนักหนา
อ้อมกอดของลอยอบอุ่นคุ้มภัยให้ข้า
อกแกร่งกำยำของลอยมีไว้ให้ข้าพักพิง ยามเหนื่อยล้า
สองแขนแข็งแรงของลอย ยามโอบกอดกลับนิ่มนวล
ริมฝีปากของลอยนุ่มแลหวานล้ำ
จมูกโด่งคมของลอยซุกไซร้ จนข้าสั่นสะท้าน
ดวงตาของลอยคมกริบ
หากสายตาที่ทอดมองข้านั้น กลับหวานเชื่อมระยิบระยับ
รสรักที่ลอยปรนเปรอให้ข้านั้นเล่า
แม้นมากมายหลากหลาย
หากทว่าข้ายังมิอิ่มดอกนะลอยจ๋า”
ขุนจำเริญพูดเพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อยมิหยุดพัก
หากจักนิ่งจักอึ้งก็ด้วยตกอยู่ในภวังค์ความนึกคิด
ถึงเรื่องราวเก่าก่อนที่ยังติดตรึงอยู่ภายในใจ
“คราลอยได้ไถ่ถอนเป็นไท ข้าดีใจกับลอยนัก
หากทว่าดวงใจข้ากลับวูบโหวง...
ราวกับว่าใจมันหายไปจากอกข้า
กายข้ายังอยู่ก็จริง...
หากแต่ดวงใจของข้ามันหลุดลอยตามติดเจ้าไป
ใยในครานั้นข้ามิห้ามปรามแลขัดขวางลอยหนอ
ใจข้ามันจักขาด ราวของรักข้าสาบสูญหายไป”
หน้าหวานหม่นเศร้า
คราหวนรำลึกถึงกาลก่อน
“ลอยเข้าใจข้าไปผิดทาง
คราแม่แป้งร่ำปรักปรำข้า
ข้ายังมิทันแจกแจง
ลอยก็มีอันจำต้องกลับไปเรือนท่าน
ลอยมาหาข้าที่กระทรวง หากลอยมิได้ใยดีข้า
ทำยืนนิ่งราวขึ้งโกรธข้า
ความน้อยใจเสียใจของข้าทำ..ทำให้ลอยต้องเจ็บตัว
หากลอยกลับมิเจียมกาย แผลยังสดใหม่นัก
ยังจัก.....ออดอ้อนให้ข้าเมตตา แล้วรังแกข้ากลับ
เจ้าเล่ห์เหลือเกิน ยอดรักของข้า”
หน้าเศร้าแล้วแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มบางๆอย่างขวยเขิน
“คุณย่าแฉล้มผู้นี้ท่านเป็นผู้มีพระคุณกับข้าแลลอยยิ่งนัก
คราข้าบอกกล่าวเล่าเรื่องของข้ากับลอย
คุณย่าท่านมิได้ตำหนิแม้นแต่น้อย
กลับคิดหาทางช่วยเยียวยาแก้ไขปัญหาให้ข้าแลลอย
บุญคุณของคุณย่าแฉล้มท่านนี้
จักเป็นที่จดจำของข้าจนวันตาย”
คุณนายแฉล้มทอดสายตามองแผ่นหลังที่บอบบาง
แล้วมองผ่านไปยังคนบนฟูกหนา
ในสายตาของนางเพลานี้...
เป็ดน้อยตัวโตกว่านอนนิ่งสลบสไล
เป็ดน้อยตัวจ้อยร้องเรียกเพรียกหาว่า..ก๊าบๆ...ตื่นเสียที...
***********************************************************
“ข้าหลงอกพองใจโต...ดีใจนักหนา
หากมิทันข้ามวัน ....ฮือ....”
เสียงหวานเจื้อยแจ้วกลับมาแผ่วเครือ
แล้วหยาดน้ำใสๆก็ไหลรินออกมาจากดวงตากลมโต
ที่เพลานี้แดงช้ำแลแห้งผาก
“เพลานั้น....ข้านั่งรถม้าลากกลับเรือนพ่อข้า
ข้ากับคุณย่าแฉล้ม...
ยังหยอกเย้ากระเซ้าแหย่กันบันเทิงใจ
หากใจของข้าหล่นลงตรงแทบเท้า
คราเห็นเพลิงไฟลุกลามโชติช่วงที่เรือนใหญ่”
ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างรองรับใบหน้าของเจ้าตัวที่ซบลงมา
หลังไหล่ของขุนจำเริญสั่นไหวด้วยแรงสะอื้น
ทิ้งช่วงเวลาเพียงอึดใจ...
“มิทันไรลอยกลับวิ่งตรงดิ่งเข้ากองเพลิง..ฮือออ
ลอยเอ๋ย ลอยอยากให้ข้าอกแตกตายหรือไรกัน
วิ่งเข้าหาความตายเยี่ยงนี้..ฮือๆ”
“ข้าเจ็บใจไอ้ลูกทาสที่มันบังอาจฉุดรั้งตัวข้าไว้
มิให้ตามลอยของข้าเข้าไป..ฮือออ
ข้าพร้อมจักบุกน้ำลุยไฟไปด้วยกันกับลอยเสมอ
แม้นว่าจักเป็นที่ใด...ฮือๆ..เพลาใดข้าก็มิเกี่ยงงอน
โธ่เอ๋ย น้ำใจลอยของข้าช่างประเสริฐแลรู้คุณนัก...ฮือๆ
ลอยเสี่ยงเดิมพันด้วยชีวิต...ชีวิตของลอย..เพื่อช่วยพ่อของข้า”
แววตาผู้พูดเลื่อนลอยออกไปนอกหน้าต่างห้อง
"อนิจจาข้าเสียอีก
เสียแรงที่ข้าเกิดเป็นลูกชายท่าน
ข้ามิได้ช่วยเหลืออันใดเลยแม้นแต่น้อย”
กล่าวแล้วกายบางนั้นก็ซวนซบลงข้างกายไอ้ลอย
อย่างไร้เรี่ยวแรง
มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ที่หลงเหลือในความเงียบ
“ข้าทนมิไหวแล้ว”
คุณนายแฉล้มตบอกผาง
“น้อม...นังน้อม..มาหาข้าให้ไว อย่าอ้อยอิ่งร่ำไร”
คุณนายแฉล้มเรียกนางน้อมให้เข้ามาหาตน
“เจ้าค่ะคุณนายแฉล้ม บ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ”
นางน้อมวิ่งมาหน้าตาตื่น
“นังน้อม เอ็งอยู่ดูแลไอ้ลอยลูกเอ็งเสียให้ดี
ข้าจักพาหลานข้าออกไปนอกเรือนเสียหน่อย”

*****************************************************************

กระผมพิมพ์ไปน้ำตาซึมไป
นายท่านทอดสายตาดูแล้วเป็นเยี่ยงไรบ้างขอรับ
ไอ้หน่อยมันชื่นชอบต้มยำน้ำข้นมิสร่างซา
ด้วยเขียนไป สูดปากไป...ซี๊ดดด...อ่าาา (คริคริ กามฟุดๆ)

จากภาพขอรับ
1. "ไอ้ลอยมันยังมิได้ด่วนลาจากโลกนี้ไปดอกนะขอรับ"
2. "ไอ้ลอยมันเพียงงีบหลับพักเอาแรงขอรับ"
3. "ชาร์จแบตอีกสักนิดขอรับ"
4. "ขุนจำเริญขอรับ ไอ้ลอยพร้อมแล้วขอรับ
มาจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันเถิดนะขอรับ"
5. "มิได้ดอกลอยจ๋า คนอ่านกลุ้มรุมมุงดูเยี่ยงนี้ ข้าอายเหลือเกิน"
6. "แต่หากลอยมิอายแลยินยอมพร้อมใจมิขัดข้อง งั้นข้าขอรุกบ้างน้าาา"
(ขุนจำเริญท่าน...หาเจียมบอดี้ไม่...คริคริ)
[attachment deleted by admin]