- รักชาชา - A kiss from milk tea : ตอนพิเศษ - Lost Star #2 : page 46 : 30/08/15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - รักชาชา - A kiss from milk tea : ตอนพิเศษ - Lost Star #2 : page 46 : 30/08/15  (อ่าน 629281 ครั้ง)

ออฟไลน์ newyniniw

  • kiki >_<
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โห ได้ใจไปเลยเรื่องนี้ เห็นตั้งแต่เปิดเรื่องใหม่ๆละ ชอบชื่อเรื่อง ชอบมิลค์ที 555 แต่ช่วงนั้นติดนิยายสายแบดเลยจิ้มเก็บไว้ในบุ๊ค ฤกษ์ดีตอนแทบลืมไปแล้วก็กดเข้ามาอ่าน ฟีลได้มาก เหมือนบทละครเลย เขียนดีมาก ผู้ชายอย่างโฟล์คใครได้คบด้วยจะเป็นเพื่อน แฟน หรือแค่รู้จักก็ดีทั้งนั้น จริงใจ อบอุ่น น่ารัก >_<

แบบกฤษต์ก็ดีนะ ถ้าเผยมุมมองของกฤษต์เราเป็นน้ำชาก็เลือกยากอ่ะ น้ำชาต้องถามใจตัวเองดีๆแล้วล่ะ ว่าเวลานี้มีความสุขเวลาอยู่กับใคร แล้ววันข้างหน้าอยากเดินเคียงข้างกับคนไหน แบบไหนที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขและยิ้มได้แค่มองหน้ากัน ^^

ชอบคู่ภัทรนิน น่าร้ากกกกกกกก นินจ๋าอินดี้ถูกใจมาก กรี๊ดๆๆ

เรื่องน่ารักน่าติดตามมาก รอต่อๆ ขอบคุณมากค่ะ
 o13 :-[

ออฟไลน์ mollolie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
โอยยยยยยยยยยยยย อิตาอาจารย์นี่!!!!  :z6: :z6: :z6:
น้ำชาอย่าไปหวั่นไหวอีกรอบนะ ห้ามทำโฟล์คเสียใจนะน้ำชา
ชวนไปกินข้าวนี่มีแผนอะไรไว้มั้ยยยยยย น้ำชาบอกโฟล์คเถอะเรื่องนี้  :katai1:
มาม่าไม่ดีต่อร่างกายนะคะไคลี่ /ปิดเตาแก๊ส ไม่ต้มน้ำนะ  :hao5:
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
น้ามชาาาาาาาาาาาาา

อย่าหลงกลนะๆๆๆ

เค้าไม่ยอมมม

เอาโฟล์คกับมาด่วนๆๆ

 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ runma

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ทำใมรู้สึกว่า มือค่ำมื้อเดียวที่กฤษณ์ขอเนี่ย มันต้องเป็นต้นเหตุของความยุ่งยาก
อีกมากมายที่เข้ามาในชีวิตของน้ำชา

ลุ้นเหนื่อยๆ แบบไม่สบายใจเลย โฟล์คครับรีบกลับมาทีเถอะ   :hao4:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โอ๊ยกลัวมากบอกเลยยย

กลัวจะแผนการอะไร

กลัวโฟครู้

อาจารย์ทำมากขนาดนี้ ไม่น่ายอมแค่ครั้งเดียวหรอกก

บอกโฟคก่อนไหม หรือยังไงพาเพื่อไปด้วยก็ดีนะ

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อ่านถึงตอนปัจจุบันแล้ว  ฮือ  กัลัวตอนต่อไปมาก แต่ก็อยากอ่านตอนต่อไป

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อีกแค่สามวันนะน้ำชาอย่าใจอ่อน

ออฟไลน์ Nemasis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สวัสดีครับ คืออ่านถึงตอนสามแล้วแต่ไม่ไหว

คิดในใจว่าถ้าคำว่า "แม่ง" ติดกันสามครั้งจะไม่อ่านแล้ว

เลยมาแสดงความเห็นก่อน คือไม่ใช่ไงมันขัด ๆ ยังไงไม่รู้อะ เดียวก็ แม่ง เดียวก็ แม่ง

แม่งได้แต่ขออย่าให้ติด ๆ กันได้ไหมครับคนแต่ง รู้ครับอยากสื่ออารมรณ์แบบเพื่อนกันไรงี้

ไม่ว่านะครับ เห็นที่อ่าน ๆ มาหลายเรื่องแล้วไอ้คำว่า แม่ง นะ แล้วก็เลยไม่อ่านไปเลย

แต่เรื่องนี้เนื้อเรื่องค่อนข้างน่าติดตามครับเลยพยายามมองข้ามไป

สุดท้ายขอบคุณคนแต่งที่นำเสนอเรื่องสนุก ๆ มาให้อ่านนะครับ จะรอติดตามตอนต่อ ๆ ไปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2014 04:06:35 โดย KoTo_Nat »

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ่าอ่านจบแล้ววววววววววววว

อยากบอกว่าน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก

ขอบคุณนะครับ แล้วรีบ ๆ มาต่อตอนต่อไปนะครับผม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
กินข้าวมื้อเดียวบ้าอะไร มันคงคิดไม่ซื่อ มันต้องมีแผนร้ายแน่ๆ อีอาจารย์พร่อง(มันเนย)
ค่อยนัดเจอกันตอนโฟล์คกลับมาแล้วได้ไหม #ตอบ ไม่ได้ชัวร์ตามท้องเรื่อง น่ากลัวววววว
ชอบทั้งคู่ เป็นพระเอกนายเอกที่ทำให้คนอ่านรักอีกแล้ว เรื่องนู้นก็เช่นกัน คุณไคลี่เก่งมากๆ
//ตอนแรกๆมีแอบระแวงแยมกับไอ แต่โล่งอกแล้ว สวยเด่นๆใสขี้อ้อนทำร้าวฉานมาแล้วนักต่อนัก คริคริ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4

คิดถึงเหมือนกันค่า เร็วๆนี้น่าจะได้มาต่อแล้ว รอหน่อยนะคะ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
เข้ามารอไคลี่ มารอชาชา คิดถึงชาชา คิดถึงโฟล์ค  :mew1:

คิดถึงไคลี่ :)

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
มานั่งรอออออ คิดถึงมากมาย
 นัดฉันไว้ทำไมไม่มา~~

ออฟไลน์ pemiko2012

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คิดถึงน้ำชาาาาาา
มารอตั้งแต่เช้า ก็ยังไม่มา :mew2:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
เรารอน้ำชามาตั้งแต่เมื่อคืนก่อนแล้วนะ
ยังไม่มาอีกเหยอออออ
  :o11:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
นานไปแล้วววววววววว

อย่างค้าง

 :ling1: :ling1:

 :katai4: :katai4:

 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
รอ รอ รอ แล้วก็รออย่างมีความหวังต่อไป

ออฟไลน์ Pnomsod

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ใจแข็งไว้นะน้ำชา นึกถึงโฟล์คเข้าไว้

หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนร้าาาา

 :mew2: :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lazyvespa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากกกกกกกกกกกกก   อ่านจบรวดเดียวเลยย  :katai2-1:

เฮ้อออออ  ไม่อยากกิน มาม่าน้าาา
รักพี่โฟล์คจุงง :-[  :-[ เอาอีกฤษฎ์ออกปายยยยย :katai1: ถีบมันออกไป!!!! :z6:
อย่ามายุ่งกับน้องชาของพี่โฟล์คน้ะ น้องชาต้องเข้มแข็งน้ะลูกกกก

รีบมาต่อน้าาา   :hao5:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ Nemasis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ minjeez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านรวดเดียวสิบสองตอนเลย สมุกมากเลยค่ะ
หลงรักน้ำชาและโฟล์คเข้าเต็มเปาเลย น่ารัก มีเสน่ห์จริงๆ

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4




ตอนที่ 13 - ขอ







ผมตื่นขึ้นมาในเวลาเช้า ซึ่งเราไม่เคยเป็นมิตรต่อกันเท่าไหร่นักหรอก และผมก็อารมณ์เสียไม่น้อยด้วย แต่ก็นั่นแหละ คนที่โทรมาทำให้ผมอารมณ์เสียมากกว่าเดิมเข้าไปอีก ทั้งๆที่เมื่อคืนผมเลี่ยงจะรับโทรศัพท์เขาไปแล้วนะ นี่มันอะไรกันวะ


(ยังไม่ตื่นเหรอ สายจะแย่แล้ว) เขาเอ่ยมาตามสาย ผมถอนหายใจเบาๆก่อนทึ้งหัวอย่างหงุดหงิด
“เก้าโมงบ้านผมเรียกว่าเช้า แค่นี้นะ จะนอน"

ผมได้ยินกฤตฎ์หัวเราะในลำคอเบาๆ ผมตั้งท่าจะกดตัดสาย แต่ก็เหมือนยังจะรีรออะไรอยู่

(ไม่เคยเปลี่ยน) เขายิ้มๆ
“ไปนอนไป ยังไม่ได้นอนไม่ใช่หรือไง" ผมหลุดปาก แล้วก็แทบตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทัน บ้าเอ๊ย
(นี่น่ะหรือ คำพูดของคนที่บอกว่าลืมได้) เขาเหยียดยิ้มอยู่แน่ๆ ผมอยากจะทึ้งหัวตัวเองทิ้งอย่างบ้าคลั่ง แม่ง โลกถล่มชัดๆ เหี้ยเอ๊ย ผมรู้ดีกว่ากฤตฎ์ไม่ใช่มนุษย์ตื่นเช้าในวันที่ไม่มีคลาส ผมจำได้ว่าเขาเป็นคนทำงานแบบไม่มีลิมิต เขาจะทำจนกว่ามันเสร็จ เขาถึงจะเข้านอน
“แค่จำได้ มันไม่ใช่เรื่องที่เปลืองเนื้อที่สมองขนาดนั้น" ผมย้อน แล้วฟุบหัวกับหมอนอีกที
(จะนอนแล้ว แต่เย็นนี้ไปรับนะ)
“จะทำไรก็ทำ แค่นี้นะ"

ผมรีบตัดสายก่อนที่จะรู้ตัวว่าทนไปมากกว่านี้ไม่ได้ ผมถอนหายใจออกมาอย่างอึดอัด หัวจุ่มหมอน ปวดหัวอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกบางอย่างเหมือนตีตื้นขึ้นมาแบบคนโง่ ประโยคสนทนา...เหมือนว่าในครั้งหนึ่งเราเคยมีชีวิตที่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอย่างไม่มีที่ติ

อยากร้องไห้ ผมนอนต่อไม่ได้แล้ว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ผมรีบคว้ามันมากดรับ ว่าจะด่าระบายอารมณ์ฉิบหายนี่สักหน่อย


“เลิกโทรมาได้แล้ว คนจะหลับจะนอน"



(......ทักทายแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะที่รัก)



“โฟล์ค...” ผมสปริงตัวยกหัวจากหมอนแทบจะทันที ไอ้บ้าเอ๊ย นี่มันวันใกล้สิ้นปีแห่งความวินาศสันตะโรแท้
(คิดว่าใครกัน) มันถาม น้ำเสียงฉุนขึ้นจมูกนิดหน่อย ผมหน้าเจื่อน ความคิดยังรกรุงรังสมอง
“เอ้อ เมื่อกี้ไอ้เป๊กโทรมากวนประสาท" ผมปด
(แล้วเป๊กอยู่ไหนล่ะนั่น)
“อยู่บ้านมั้ง ไม่ได้ถามอ่ะ" ผมไขว้นิ้วไปมาแล้วนั่งพับขาหลังตรงอยู่บนเตียงราวกับนักโทษแดนประหาร
(แล้ววันนี้ไปไหนเปล่า) ปลายสายถาม ผมเงียบ แล้วเม้มปากแน่น 

ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาจนแทบจะสำลัก (น้ำชา...ฟังกูอยู่ป่ะเนี่ย--- แปปนึงนิน เดี๋ยวกูไปแล้ว)

“มะ...ไม่ อยู่บ้านแหละ เพื่อนไม่อยู่สักคน" ผมตอบไปในที่สุด "แล้วนี่มึงจะไปไหน นินเรียกแล้วนี่ ใช่เปล่า"
(เดี๋ยวไปเซิร์ฟที่ป่าตองอ่ะ ไอ้พี่ฟลุคแม่งปลุกแต่เช้า โคตรบ้า) มันบ่นกระปอดกระแปด
“เอาน่ามึง" ผมระบายยิ้มออกมา
(คิดถึงมึงว่ะ)
“มึงเป็นโรคหรอ เมื่อวานเพิ่งแยก"
(เออช่างกูเหอะ คิดถึงก็คือคิดถึง กูไม่โกหกตัวเองอยู่แล้ว) มันบ่นยาว แต่นั่นทำให้ผมยิ้มออกมาได้จริงๆ (เดี๋ยวกลับไปหานะ)
“เออ โอเค ไว้เจอกัน"
(บายมึง)


แล้วมันก็วางสายไป

ผมโยนมือถือลงบนที่นอนอย่างอัดอั้น แล้วเอนตัวกระแทกเตียงอย่างหงุดหงิด ทำไมตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเลยวะ เหมือนเด็กกำลังจะโดนจับได้ว่าทำความผิด ทั้งๆที่เมื่อวานนี้ผมแน่วแน่มั่นใจมากแท้ๆว่าผมจะตัดกฤษฎ์ออกจากชีวิตได้อย่างแน่นอน แต่ทำไมพอได้ยินเสียงเขาในเช้าวันนี้แล้วมัน...

ผมทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย



มีเรื่องราวมากมายที่ผมเปิดใจคุยกับโฟล์คทั้งๆที่ไม่เคยพูดให้ใครฟังมาก่อน ครอบครัว เพื่อน ความรักครั้งเก่าก่อน เรื่องสุดท้ายโฟล์คมันก็ไม่ได้อยากฟังมากนักหรอก แต่มันก็ยืนยันว่าอยากให้ผมเล่าให้ฟังจริงๆ

แต่ทำไมกับเรื่องวันนี้ผมไม่กล้าจะบอกหรือตัดสินใจไปตรงๆกันนะ ผมแม่งโคตรโง่บรมเลย ตกหลุมพรางใครต่อใครครั้งแล้วครั้งเล่า ทำตัวมึนๆแล้วก็โดนลากไปไหนต่อไหน

เออ...แม่ง เหตุการณ์โดนลากนี่..วันแรกที่ได้เจอโฟล์คชัดๆ


นี่ผม...กำลังทำอะไรอยู่?






ทำอะไรไม่ได้ ผมคิดจะโทรหาเป๊กอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่ได้ทำ สุดท้ายก็นอนกลิ้งอยู่บนเตียงจนเกือบเที่ยง จึงค่อยลุกออกไปนอกห้อง แม่กำลังตั้งโต๊ะมื้อกลางวันอยู่ จอห์นกำลังคนสตูว์ไก่อยู่หน้าเตา บ้านผมนี่เป็นครอบครัวตัวอย่างของความเท่าเทียมทางเพศเลยครับ แม้จอห์นจะงานเยอะแค่ไหน แต่เขาไม่เคยละเลยงานบ้าน หรือโยนให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายหญิงเลย อาจจะเพราะเราเติบโตกันในต่างประเทศ ค่านิยมบางอย่างจึงแตกต่างออกไป แต่ผมชอบนะ ที่จอห์นรักและเอาใจใส่แม่ผมจริงๆ


“น้ำชา วันนี้เล่นเกมส์กันไหม" แน่นอน บางทีน้ำมนต์ก็ไม่เรียกผมว่าพี่ และมันก็ไม่มีปัญหาอะไร เราไม่ได้ยึดติดอะไรพวกนั้นอยู่แล้ว บางทีน้ำมนต์ยังพ่นภาษาอังกฤษออกมาด้วยซ้ำ

ผมยิ้มให้กับน้องชายบางๆก่อนถอนหายใจ "วันนี้ขอผ่านนะน้ำมนต์ พี่เหนื่อยอ่ะ"
“โธ่"
“น้ำมนต์ อย่ากวนพี่เขา มาช่วยพ่อมา" จอห์นเรียกเด็กชาย แล้วหันมายิ้มให้ผม ผมยิ้มกลับ
“หิวยังเนี่ยชา" แม่ถาม ผมพยักหน้าหงึก
“ครับ"
“กินเลยแล้วกัน วันนี้มีสตูว์ไก่"
“ดีเลยครับ" ผมตอบ รับจานข้าวร้อนๆจากจอห์นวางลงบนโต๊ะอาหาร แม่เดินวุ่นวายเปิดปิดตู้เย็น ก่อนดึงขวดน้ำผลไม้ออกมาวางให้ผม
“ทานเยอะๆนะลูก ไหนๆวันนี้ก็ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว"
“ครับ" ผมยิ้มให้แม่ ก่อนนั่งประจำที่ของตัวเอง น้ำมนต์เองก็ปีนขึ้นที่นั่งของตัวเองเช่นกัน
“ปีใหม่นี้เพื่อนนัดกันหรือเปล่าชา เป๊กอยู่ไหนล่ะลูก ไม่ได้เจอเสียนาน" แม่เอ่ยถาม
“อ้อ เป๊กกลับบ้านที่เชียงใหม่น่ะครับ" ผมตอบ "เอ้อ...แม่ครับ วันที่สามสิบเอ็ดผมไปกับเพื่อนๆนะครับ"
“กับโฟล์คหรือลูก" แม่ถาม ผมพยักหน้า
“ครับ"

ผมกลืนข้าวอย่างยากเย็นนัก ทั้งๆที่หิวจนไส้กิ่ว แต่มันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะกินเลยสักนิด


“แม่ครับ...”
“ว่าไงลูก"
“เย็นนี้ผมมีนัดทานข้าวเย็นกับ...” ผมถอนหายใจเบาๆ "กับคนรู้จัก"
“เหรอ ใครน่ะลูก" แม่ถาม ผมรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะซักไซ้หรอก เพียงแต่เราอาจจะสนิทน้อยลงกว่าตอนที่ผมยังเด็ก เป็นประจำที่แม่พยายามที่จะถามไถ่เรื่อยๆถึงเรื่องราวรอบๆตัวผม
“ก็ไม่เชิงคนรู้จัก คือ...อาจารย์ที่คณะน่ะครับ เรา...สนิทกัน" ผมบอกไปในที่สุด "เขาจะเลี้ยงข้าว อาจจะกลับดึกหน่อย"
“แต่คืนนี้ค้างที่บ้านใช่ไหมลูก" แม่ถาม ผมสบตากับแม่ เธอยิ้มอย่างใจดี ไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไรใดๆ


“ครับ...”








ไม่มีข้อความบนแอพลิเคชั่นอะไรใดๆจากโฟล์คเมื่อผมเช็คโทรศัพท์อีกทีตอนบ่ายแก่ๆ หลังจากนอนดูการ์ตูนแอนิเมชั่นเป็นเพื่อนน้ำมนต์ตลอดบ่าย นอกจากรูปที่ส่งมาตอนเกือบเที่ยง เป็นภาพเซลฟี่ที่ถ่ายกันครบแก๊งค์ที่ชายหาด มีพี่ฟลุคยืนหล่อ อกล่ำ ผิวแทน เป็นแบล็กกราวน์ด้วย ผมไม่ได้ตอบ กดปิดไปเงียบๆ

สักพักข้อความจากกฤตฎ์ก็เด้งขึ้น ผมไม่มีอารมณ์จะตอบเท่าไหร่นัก เขาบอกว่าจะมาถึงตอนหกโมงเย็น ผมโยนโทรศัพท์ลงบนเตียง เอาผ้าห่มสุมทับไว้อย่างหนีปัญหา จริงๆปฏิเสธไปตอนนี้ก็คงทัน ทำไมผมไม่ทำกันนะ บ้าบอสิ้นดี

ผมอาบน้ำ แต่งตัวด้วยเสื้อโปโลกับกางเกงผ้าขายาวสีขาว ต้องไปขุดรองเท้าหนังออกมาจากกล่องเพราะกฤตฎ์คงพาไปโรงแรมมีระดับตามเคย ปกติผมใส่แต่ผ้าใบ เหยียบส้นกันเละเทะ แลกกันใช้กับโฟล์คก็บ่อย เราใส่ไซส์เดียวกัน มันชอบคอนเวิร์ด ผมก็ชอบ โฟล์คใส่ไม่กี่คู่ นอกนั้นมันก็ตามล่ามาสะสมไว้ รุ่นแรกๆเลยก็ไปสอยมาในราคาสองหมื่นกว่า เมด อิน ยูเอสเอ เป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยพลังกับเรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆเลย ให้ตาย

แต่ถึงกระนั้น มันก็เข้ามาทำให้ชีวิตผมมีความหมายมากขึ้น สองอาทิตย์ของพวกเรามันสั้นนัก แต่เราเหมือนรู้จักกันมาทั้งชีวิต ผมชอบมันจริงๆ ผมบอกมันไปแล้ว มันอาจจะไม่เชื่อ คิดว่าผมพูดเล่น แต่โฟล์คคือคนที่สำคัญมากๆสำหรับผม

ผมเดินออกมาจากห้องนอนเงียบๆหลังจากคิดไม่ตกมานาน แม่ยืนทำครัวสำหรับมื้อเย็น อีกสักพักคงได้เวลาสำหรับผมที่จะต้องเผชิญหน้าความจริงที่ตัวเองก่อร่างเอาไว้และวิ่งหนีมาตลอด


“ไปแล้วเหรอลูก" แม่เอ่ยทัก ผมพยักหน้าเบาๆ นอกหน้าต่าง กระจกบานใหญ่ สะท้อนแสงอาทิตย์ยามลับลาขอบฟ้า เป็นสีส้มอมทองสาดเทกระจัดกระจายบนท้องฟ้ากว้าง ผู้หญิงตัวเล็กหยุดมือ ปิดเตา แล้วเช็ดมือกับผ้าแถวนั้น
“ครับ เดี๋ยวกลับมาค่ำหน่อยนะครับ" ผมตอบแม่ไป แล้วพยายามฝืนยิ้มแกร่ว
“ได้จ้ะ" แม่พยักหน้าเบาๆ แล้วเดินมาจับใบหน้าผมเบาๆ "แม่ดีใจนะที่ชากลับมาอยู่บ้าน" หล่อนระบายยิ้ม นั่นทำเอาผมนิ่งอึ้งไป
“...ครับ"
“เป็นอะไรไปลูก หน้าตาไม่สู้ดีเลย" ต่อให้เราไม่สนิทสนมกันเท่าที่ควร แต่แม่ก็คือแม่ คนที่คอยสนับสนุนอยู่ห่างๆ และจับตามองดูเราเติบโตอย่างเป็นห่วงและภาคภูมิใจในเวลาเดียวกัน
“เปล่าครับ" ผมถอนหายใจเบาๆ "จริงๆชามีเรื่องหนักใจนิดหน่อย"
“มีอะไรหรือเปล่าลูก?” แม่เลิกคิ้ว
“ชาจัดการได้ครับ" ผมตอบไปในที่สุด แม่กุมมือผมเอาไว้ แล้วระบายยิ้มบาง
“แม่เชื่อน้ำชานะ" แม่ตอบ "แต่ถ้าพบว่าสักวันหนึ่งชาเหนื่อย ต้องการความช่วยเหลือ หรือเจอทางตัน อย่าลืมนะว่ายังมีแม่...กับจอห์น พร้อมจะให้ปัญหาของหนูเป็นภาระของพวกเราเสมอ"

“ต่อให้จอห์นไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่ชาก็รู้ดีใช่ไหม ว่าเขารักชามากแค่ไหน"
“ครับ" ผมเม้มปากเบาๆแล้วพยักหน้าตอบ "ขอบคุณครับแม่"
“ไปเถอะจ้ะ เดี๋ยวสายนะ"
“ครับ จะรีบกลับมา"


ผมรับคำ ก่อนเดินกลับหลังหันออกมาเงียบๆ เรื่องในอกตีรวนสุมกันอย่างไม่มีทางออก ผมกำหมัดแน่น ไม่มั่นใจเลยว่าจะจัดการมันด้วยตัวเองได้ หรือแม้กระทั่งว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ผมรับปากกฤษฎ์ โกหกโฟล์ค ปิดบังครอบครัวในเรื่องบางเรื่อง ทำอะไรไม่ปรึกษาใคร

ผมก็เป็นผมแบบนี้มาตั้งแต่ต้น...

แต่...

ทำไมอ่อนแอเหลือเกิน ทั้งๆที่ตลอดชีวิตคิดว่าตัวเองโคตรเก่ง ดูแลตัวเองได้ แต่สุดท้ายพอได้พบกับใครคนหนึ่งที่เหมือนกับเศษเสี้ยวที่หายไปในชีวิต ผมก็พร้อมที่จะทุ่มเทลงไปอย่างบ้าคลั่ง

กฤษฎ์อาจจะคือความรัก ในปริมาณที่มีความหลงมากกว่า ทำให้ทุกๆอย่างมันไม่เคยเข้ารูปเข้ารอย มีแต่ความสุขเปลือกๆ จับต้องไม่ได้ แม้กระทั่งปลายนิ้วใกล้จะสัมผัส ผมกลัว...เสมอ...ตลอดมา

แต่กับโฟล์ค ผมไม่แน่ใจ แม้กระทั่งวันนี้ แต่มันคือความรู้สึกดีที่อวลอยู่ในใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ไม่มีความกลัว ไม่มีความหวาดระแวง ทั้งๆที่ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องทุ่มเทให้คนๆนี้มากเท่าไหร่ และไม่เคยคิดว่าจะต้องได้รับจากโฟล์คมากแค่ไหน แต่โฟล์คก็ยังคงให้ ให้อย่างไม่ยอมแพ้ มันเป็นอะไรบางอย่างที่จับต้องได้ และผมมีความสุข...


แต่ผมกลัว...

อีกแล้ว...



ถ้าวันนี้ ผมรู้ตัวจริงๆว่าผมยัง 'รัก' กฤษฎ์ ไม่ว่าจะรูปแบบไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกถึงเขา หากผมยังโหยหา มองหน้าเขาแล้วหัวใจยังหวีดหวิวพร้อมจะโบยบิน

ผมจะบอกโฟล์คว่าอย่างไร...

ผมจะกลับไป...



หาโฟล์ค...




ได้ไหม?






เห็นแก่ตัวชะมัด


ผมยืนรอลิฟท์ ในมือกำโทรศัพท์ไว้แน่น อีกห้านาทีจะหกโมงเย็น ในใจคิดว่าจะโทรไปหากายหรือปอมให้มันออกมารับดีไหม มันคงมาแน่ๆไม่ต้องห่วงว่าจะปฏิเสธ แต่กับวันหยุดมันยังต้องมาเดือดร้อนเรื่องของผมอีกงั้นหรือ

รู้สึกสมเพชตัวเอง ทั้งๆที่พวกมันเคยเตือน เคยพูด ทั้งเรื่องกฤษฎ์ เรื่องโฟล์ค แม้ว่าหลังๆมันจะเพลาๆไปบ้างเพราะเรื่องราวระหว่างผมกับโฟล์คดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น และไม่ได้มีผลประโยชน์เลวร้ายอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง แถมพวกมันยังรู้จักโฟล์คดีว่าเป็นคนอย่างไร แต่ในใจลึกๆ ทั้งเป๊ก กาย ปอม ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี เพราะการจบกับกฤษฎ์เพียงแค่ระยะสั้นๆ ก็เหมือนถ่านไฟเก่าที่รอวันลุกโชนอีกครั้ง

แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังไล่นิ้วไปมาระหว่างชื่อปอมกับกาย...และ...คิดว่าอาจจะโทรหากายคนแรก



RRR...RRR...




แต่โทรศัพท์กลับดังขัดขึ้นมาก่อน ผมเลื่อนสายตามองชื่อคนที่โทรเข้ามา และเกิดความรู้สึกอึดอัดในหัวใจ แต่ในเวลานี้มันจะทำอะไรไปได้มากกว่าเดินหน้าต่อไป ในเมื่อคนโทรคงมาถึงใต้คอนโดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


“ฮัลโหล" ผมกรอกเสียงลงไปเรียบๆ
(ถึงแล้ว รออยู่ด้านล่างนะ รถคันเดิม) เสียงกฤษฎ์ดังมาตามสายด้วยสำนวนติดจะกวนประสาทเป็นนิสัย (อย่าปอดแหกเสียก่อนนะน้ำชา)
“อืม กำลังลงไป" ผมถอนหายใจเบาๆ เหมือนเขาจะจับน้ำเสียงได้
(น้ำชา...)
“อะไร บอกว่ากำลังจะลงไป" ผมตอบปัด ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจเบาๆเช่นกัน
(เสียงไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่า)
“ยุ่งอะไรด้วย"
(อย่ารวน ไม่สบายหรือเปล่า) เขาถาม น้ำเสียงจริงจังมากขึ้น
ผมเม้มปากแน่น น้ำตาเอ่อ "ไม่รู้...”
(กลับไปพักไหม ไม่ต้องไปวันนี้ก็ได้) เขาเอ่ยออกมาในที่สุด นั่นทำให้ผมน้ำตาตก เพราะสุดท้ายแล้ว ต่อให้เขาจะร้าย หรือจะรวนมากแค่ไหน แต่เขาก็คือคนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นห่วงผมจริงๆ

ผมกำหมัดแน่น ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำอย่างไรในเวลานี้ดี พอดีกับเสียงของลิฟท์ดังขึ้น


“ลิฟท์มาแล้ว เดี๋ยวลงไป แต่ไม่กลับดึกนะ"





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2014 00:15:44 โดย kyliewonderland »

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4


นิสสันฟิกิสีฟ้าควันบุหรี่จอดอยู่หน้าคอนโดเช่นเคย ผมเอื้อมมือเปิดประตูรถคันคุ้นเคยออกก่อนสอดตัวเข้าไป กฤษฎ์ถอดแว่นกันแดดออกแล้วมองผม ผมมองเขานิ่งๆ ก่อนเอนตัวพิงเบาะเงียบๆ

ฝ่ามืออุ่นของเขาที่แตะลงบนหน้าผากทำเอาผมสะดุ้งถดตัวหนี เขาดึงไหล่ผมเอาไว้ แล้วบังคับให้ผมมองตรง ผมยอมนิ่งในที่สุดแล้วนั่งเฉยให้เขาทำตามใจชอบ สักพักกฤษฎ์ก็ปล่อยมือ ผมสะบัดตัวทันที


“ตัวรุมๆ"
“ช่างมันเถอะ" ผมบอกปัด เบียดตัวเองกับประตู กฤษฎ์เอื้อมมือมาปัดหน้ากากแอร์ให้พ้นตัว
“อย่าตีรวนน่าชา เป็นห่วงจริงๆไม่ได้แกล้งทำ เลิกคิดไปเองว่าฉันจะมาร้ายได้ไหม" เขาพรูลมหายใจออกอย่างหน่ายๆ
“......”
“ฉันยังเหมือนเดิมน้ำชา ไม่ได้จะมาแย่งคืน แค่จะมาขอโอกาส ฉันไม่ใช่ผู้ร้ายในละครนะที่จะมีตัวตนแค่มิติเดียวน่ะ"
“......”
“เป็นคนธรรมดา"
“......”

“แล้วก็เหมือนเดิม"


“พูดจริงๆ"



เขาเอื้อมมือเปิดเพลง เพลงบัลลาดฟังสบายๆดังขึ้นคลอกับเสียงแอร์และแสงไฟที่สาดมาจากด้านนอก ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ผมนั่งนิ่ง ทบทวนตัวเองอยู่ในใจ...


“แล้วคุณมากวนประสาทผมทำไมเมื่อวาน" ผมถามออกไป น้ำตาเหมือนจะรื้นขึ้น แต่ทำอะไรไม่ได้
“......” กฤษฎ์เงียบไปสักพัก ก่อนที่เขาจะถอนหายใจเบาๆ "ก็อยากคุยด้วย ฉันกลัวแล้วก็หนีมาตลอด คิดไม่ออกเลยว่าจะทำยังไงนายถึงจะยอมมาด้วยกัน"
“หึ" ผมแค่นยิ้ม
“แต่ไม่มอมเหล้าจับปล้ำหรอกน้ำชา นี่ไม่ใช่ละครหลังข่าว" เขาหัวเราะเบาๆ "แค่อยากเจอ อยากคุยนั่นแหละ"
“โง่ชะมัด"
“คงงั้น" เขาไม่ปฏิเสธ ผมถอนหายใจเบาๆอีกรอบ ค่อยๆคลายตัวที่เกร็งขึงลง แล้วนั่งมองนอกหน้าต่างรถไปเรื่อย
“อยากกินอะไร"
“ถามทำไม ไม่ได้คิดไว้แต่แรกแล้วเหรอ?” ผมขมวดคิ้ว เขาจึงหลุดหัวเราะออกมาเป็นธรรมชาติอีกครั้ง
“ตอนแรกก็คิด แต่เดี๋ยวพาไปโรงแรมก็คิดไปเองอีกว่าจะเปิดห้องจับปล้ำ"
“เออ!” ผมกระแทกเสียง
“งั้นไปกินตามสั่งเจ้าเดิมไหม"
“หน้าสตูฯน่ะเหรอ" หมายถึงร้านตามสั่งเจ้าประจำหน้าสตูดิโอที่เราไปกินด้วยกันบ่อยๆ สตูดิโอนี้เป็นที่ทำงานประจำของกฤษฎ์ เขาเป็นหุ้นส่วน แน่นอนว่าอาจารย์เป็นอาชีพเสริม
“อืม" เขาตอบ แล้วลงมือปลดไทด์แล้วคลายกระดุมเสื้อทันที
“ก็แล้วแต่"
“ไปที่นั่นแหละ" กฤษฎ์สรุป "ไอ้ที่พนันไร้สาระเมื่อวานน่ะ ลืมไปเถอะ ปัญญาอ่อนสิ้นดี ไปนั่งคุยกันเฉยๆแล้วกัน"
“......”
“เผื่อนายจะยอมเปิดใจอีกครั้ง"





ผมไม่ปฏิเสธ แต่ก็รู้ดีว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด ช่วงเทศกาลรถราไม่ค่อยเยอะ ถนนโล่งจนน่าดีใจ เราใช้เวลาติดแค่แยกไฟแดง ก่อนจะมาถึงย่านกลางเมืองภายในครึ่งชั่วโมง กฤษฎ์เอารถเข้าไปจอดในที่จอดรายเดือนของเอกชนแถวๆนั้น จากนั้นก็เดินลัดเข้าไปในซอยเพื่อไปยังร้านตามสั่งที่ว่า ออฟฟิศกฤษฎ์ปิดไฟมืดอยู่เยื้องๆกัน


“ปิดถึงเมื่อไหร่น่ะ" ผมถาม บรรยากาศเก่าๆวนกลับเข้ามาจนนึกกลัว
“วันที่หก พี่ปิงแกไปอเมริกาใต้สองอาทิตย์ เลยปิดยาว" กฤษฎ์เอ่ยถึงหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท ก่อนเอื้อมมือมากันตัวผมเอาไว้ "ระวังรถ"
“อ๊ะ...'โทดที" ผมพึมพำเบาๆ ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือมารั้งข้อมือผมเอาไว้เพื่อข้ามถนน แต่เมื่อผมขืนมือ เขาก็คลายออกแล้วเดินนำออกไปแทน


ลุงเจ้าของร้านยิ้มทักทายกฤษฎ์ก่อนยิ้มกว้างเมื่อเห็นผม ผมยิ้มทักแกไปบางๆ ก่อนที่จะเลือกเข้าไปนั่งโต๊ะใต้พัดลม กฤษฎ์เดินไปตักน้ำเปล่าสองแก้ว แล้วยื่นกระดาษให้ผมจด


“เอาเหมือนเดิม" เขาว่า เดินไปหยิบเบียร์จากลังมาหนึ่งขวด
“อะไร? พะแนงหมูไข่ดาวน่ะนะ?” ผมถาม ก่อนแทบอยากกัดลิ้นตัวเอง กฤษฎ์หัวเราะกับท่าทางนั้น แล้วทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าผมยิ้มๆ
“จำได้ด้วย"
“ไม่ใช่ปลาทอง" ผมเถียง
“เอาเบียร์ไหม?” เขาถาม ผมส่ายหัวเบาๆ "แล้วสั่งอะไรไป"
“ก็...”
“หมูกรอบผัดกระเทียมไข่เจียว"
“......” ผมนิ่งค้างอยู่หน้าเขา เม้มปากแน่น หัวใจเต้นผิดจังหวะเละเทะ ไม่...อย่าทำแบบนี้
“จำได้เหมือนกัน"


ผมก้มหน้านิ่ง มือคนน้ำแข็งในถ้วยไปมาเบาๆ นั่งมองกฤษฎ์รินเบียร์ให้ตัวเองเงียบๆ เสียงพัดลมดังหวึ่งๆอยู่บนหัว แต่งตัวกันมาเต็มยศทำไมไม่รู้ บ้าชะมัด


“โมเดลชิ้นล่าสุดน่ะ เจ๋งดีนะ" เขาเปรยขึ้น "แต่เล่นเปลี่ยนไม่ปรึกษา ยังไงก็คงต้องหักคะแนนนิดหน่อย" เขาบอก จ้องหน้าผมเงียบๆ
“ผมรู้"
แล้วเขาก็เงียบไป เสียงผัดฉู่ฉ่าบนกระทะทำให้บทสนทนาของเราไม่เงียบจนเกินไป ผมพยายามกลั้นใจ พยายามมองหน้ากฤษฎ์ตรงๆ แต่ผมกลัว...

ไม่รู้ ว่าความรู้สึกตอนนี้มันเรียกว่าอะไร มันไม่ได้โหยหาอะไรอีกแล้ว มันเหมือนปลดพันธะกันไปแล้ว แต่...มันเหมือนการที่คืนวันเก่าๆกำลังกลับคืนและย้อนมาให้เราสุขใจ มันคือความผูกพัน...



“มีคนเคยบอกว่า...ความรักแม่งเหมือนอาหารตามสั่ง"


ในที่สุด กฤษฎ์ก็ทำลายความเงียบขึ้นมา ผมชะงักมือที่คนหลอดไปมาในแก้วอย่างไร้จุดหมาย แล้วมองหน้าเขาเต็มๆตา



“...ทำไม"

“เวลาจะสั่งอาหารน่ะ อยากจะคิดหาเมนูใหม่มากเท่าไหร่ สุดท้ายเราก็จะกลับไปกินเมนูเดิมที่ร้านเดิม"

“เราจะมีที่หนึ่งในใจเสมอ"



กฤษฎ์มองหน้าผมนิ่งๆแล้วระบายยิ้มออกมาในที่สุด ผมนิ่ง ไม่ได้โต้ตอบหรือพูดอะไรไป...แต่...จริงๆก็เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดีต่างหาก


“แล้วยังไง...”

“ก็ไม่มีอะไร" เขายกเบียร์ขึ้นดื่ม "แค่คิดถึง อยากพามานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้อีก"


ผมอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พออ้าปาก ก็ต้องหุบฉับลง เพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี ซึ่งก็โชคดีนักเพราะอีกไม่กี่วินาทีถัดมา ลุงแกก็ยกจานข้าวของผมมาเสิร์ฟ กฤษฎ์มองก่อนพยักเพยิดให้ผมลงมือก่อน แต่จริงๆผมก็ไม่หิวเท่าไหร่ จึงใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้างในการรอจานของเขา

เราจัดการอาหารตรงหน้ากันไปเงียบๆ ผมกินไปได้แค่ไม่ถึงครึ่งจานในขณะที่กฤษฎ์จัดการของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังรินเบียร์แก้วสุดท้ายอยู่ ผมรวบช้อน แล้วช้อนตาจ้องเขาโดยไร้คำพูด เขายังเหมือนเดิมจริงๆนั่นแหละ มัน...ยังไงกันนะ


ผมพูดไม่ออก เหมือนมีอะไรบางอย่างมันจุกขึ้นแน่นอยู่ในอก


เขาไม่ได้มีอะไรเสียหาย เลวร้าย หรือไม่ดีเลย คนเรามันผิดพลาดกันได้ ผมสามารถให้อภัยกับคำพูดเลวร้ายในเช้าวันนั้นของเขาได้

ถ้าในใจผมตอนนี้ไม่มีโฟล์คเหมือนวันนี้...



“อิ่มเหรอ?” เขาถาม ผมพยักหน้า
“พอแล้ว วันนี้อยู่บ้าน กินๆนอนๆ"
“อยากไปไหนอีกไหม?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว
“ไม่ล่ะ" ผมปฏิเสธ


กฤษฎ์จ้องหน้าผมเงียบๆ เขาเลื่อนมือมาแตะมือผม ผมสะดุ้งเล็กน้อย ทำท่าจะชักมือกลับ แต่เขากลับส่งสายตาอ้อนวอนระคนตัดพ้อมาให้...



“ชา...”


ผมเม้มปากแน่น แย่แน่ๆ ทำไมต้องมาอ่อนแอในเวลานี้ด้วยนะ



“อย่าพูดอะไรได้ไหม อย่าพูด"


น้ำตาผมรินอาบแก้ม รสเค็มปร่าแตะลงปลายลิ้น ผมเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขา ไม่อยากรับรู้สัมผัสอะไรทั้งนั้น ผมมันแย่ชะมัด แย่มากๆ มันแย่มากใช่ไหมกับการที่เราตัดใจจากใครสักคนไม่ได้อย่างเด็ดขาด ผมมันเลวมากใช่ไหมที่พาเรื่องราวมันมาถึงจุดนี้


แล้วทำไมกัน...ทำไมถึงจะต้องมีคนเสียใจมากมายขนาดนี้


ผมก็เสียใจไปไม่น้อยกว่าใครเลย ผมรักษาใครไว้ไม่ได้เลย...







“น้ำชา...เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”







เขาเอ่ย กฤษฎ์โยนทิฐิทิ้ง ละทิ้งทุกความเชื่อมัน และขอร้องอย่างอ่อนแอ นั่นทำให้ผมน้ำตาไหลพราก หัวใจมันเหมือนมีช่องโหว่ใหญ่ยักษ์เกิดขึ้น ผมทำบ้าอะไรอยู่ ผมกำลังทำอะไรกันแน่ ผมต้องทำอย่างไรให้เรื่องนี้มันจบ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าโลกใบนี้ไม่มีคำว่า แฮปปี้ เอนดิ้ง ผมกำลังทำร้ายใครอยู่ แล้วจริงๆแล้ว




...ผมกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่...





มันแค่เป็นความผูกพัน เป็นความอ้างว้างของหัวใจ หรือมันเหมือนกับของที่หายไปกำลังจะได้คืน หรือผมยังรู้สึกเหมือนเดิมกันแน่...




“กฤษฎ์ ผมกลัว...”






ผมเอ่ยเสียงพร่า พร้อมๆกับเหมือนมีฝนสาดกลางใจ ผมไม่ได้อยากครอบครองเขาอีกต่อไป แต่ทำไมกัน...มันถึงได้ทรมานขนาดนี้...






RRR...RRR






เสียงโทรศัพท์มือถือของผมที่วางไว้บนโต๊ะดังขึ้น เรียกให้ผมต้องหันไปมอง ชื่อของใครบางคนปรากฏอยู่บนหน้าจอพร้อมกับใบหน้าของเจ้าของชื่อ โฟล์ค น้ำตาผมไหลทะลักออกมามากกว่าเก่า รอยยิ้มของมันตรงหน้า ฉุดเอาทุกความรู้สึกพรั่งพรูขึ้นมาจนตั้งรับไม่ไหว



นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่กันแน่...







2 วันก่อนตกหลุมรัก (โดยสมบูรณ์แบบ)













tbc.



ลงช้ามากกกก และไม่ได้ตรวจคำผิดเลยค่ะ ขอโทษนะคะ
ตอนนี้น้ำชาและไคลี่คงโดนยับ ฮรือๆ
แต่บอกตรงๆว่า เรารู้สึกว่ามันต้องเป็นอะไรแบบนี้แหละค่ะ
น้ำชาเลิกกับกฤษฎ์แค่สองอาทิตย์ และปักใจกับคนๆนี้มาก
อีกอย่างทั้งน้ำชาและกฤษฎ์เป็นตัวละครที่ผู้แต่ง ตั้งใจให้เป็นตัวละครที่ กลม หรือ Dynamic มากนั่นเอง
คือมีความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เลวก็คือเลว หรือมีด้านเดียว
เพราะฉะนั้น รัก โลภ โกรธ หลง โลเล อ่อนไหว เป็นเรื่องปกติ
ไคลี่เลยคิดว่า การที่น้ำชาจะอ่อนไหวไปกับคนๆนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจ
แต่สุดท้าย ทุกตัวละครก็จะ been through ทุกความเจ็บปวดไปในที่สุด
เพราะฉะนั้นมาร่วมติดตามตอนต่อไปกันค่า สัญญาว่าจะมาในเร็ววันพลันด่วนแน่นอน

ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

มีคนถามว่ารักชาชาทำหนังสือไหม คิดว่า ทำค่ะ แต่คงให้สำนักพิมพ์จัดการ และคงเป็นหลังจัดส่งล่ารักฯ นะจ๊ะ

หลังจากจบรักชาชาแล้ว ก็อาจจะมีคู่อื่นอีกค่ะ เดี๋ยวขอคิดก่อนนะคะ ^^



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2014 00:19:02 โดย kyliewonderland »

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
น้ำชาาาาาาาาาา :sad4: สงสารรรรรร :hao5: อึดอัด  :o12: ตอนหน้ามาไวไวนะจ้ะ :katai1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ปวดใจจริงๆ :z3:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ขอคุ่นินๆๆๆๆๆๆๆ

เอิ่มมม เราไม่เคยมีแฟน เลยจะไปว่าชายังไงก็ไม่ได้มาก TvT

อีก 2 วันจะตกหลุมรักโฟล์คแบบถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว แล้วถึงตอนนั้นโฟล์คยังมีชาเป็นที่หนึ่งอยู่หรือเปล่า?

ปอลอ อิกฤษฎ์แม่ม......น่าถีบ มี inside:กฤษฎ์ไหมคะนี่? อยากรู้จริงๆคิดอะไร แบบว่าของๆตัวเองจะตกเป็นของคนอื่นเลยยอมไม่ได้งั้นเหรอ?

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เฮ้อ เวรกรรม หมดคำจะกล่าว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด