N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)  (อ่าน 43193 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า มาอัพบ่อยๆนะ  :mew2:

seira

  • บุคคลทั่วไป
C h a p t e r  17
คนเกลียดกัน มักจะโดนจับคู่กัน



กิ้ง – ก่อง –



   เสียงระฆังโรงเรียนบ่งบอกเวลาหกโมงเย็นดังขึ้นมาพร้อมกับผมที่กำลังยืนมองใบหน้าตื่นตระหนกของชายหนุ่มผิวคล้ำ ริมฝีปากของตนเองยกยิ้มขึ้นพร้อมกับลุกยืนแล้วหันหลังคิดจะก้าวหนี


และทันทีที่หลบจากสายตามันได้..


ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาฉับพลัน..


กูทำเหี้ยอะไรลงไป


ผมกลืนลายเอื๊อก เดินออกมาได้สักพักใหญ่แล้วกลับมานั่งจุมปุ๊กที่หอบนเตียงเห็นไอ้ดำมันยังไม่กลับมาเลยครับ สงสัยคงจะนอนสะพรึงอยู่บนเบาะโรงยิม เวลาผ่านไปนานพอสมควร และหลังจากสติสัมปชัญญะของผมครบถ้วนเพียงเท่านั้นแหละ..



เท่านั้นแหละครับ.. กูอ้วกเลย!



“โอ๊กกก!”


เสียงโอดอรวญดังลั่นออกมาพร้อมกับข้าวปลาที่ออกไปหมดจนเล่นเอาแสบท้อง ผมนิ่วหน้าเพราะความขมร้อนผ่านออกมาจากหลอดลมของตัวเอง.. อ๊อก! อาหารมื้อเช้าของกูออกไปหมดเลยโว๊ย! ฮือออ เพราะมึงคนเดียวไอ้เชี่ยดำ!


..ว่าแต่ ทำอะไรลงไปวะ..


ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยใบหน้าซีดเผือกพร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากตนเองแรงๆ จูบมัน? เผลอจูบไอ้ดำไปใช่ไหม แล้วกูจะจูบหาพ่อเหรอ ทำอะไร เพื่ออะไรวะ!


..ฉิบหาย.. หรือว่าตูเป็นเกย์..?


..



ไม่นะโว๊ย!


“ฉิบหาย— ฉิบหาย— ฉิบหาย”


คำๆนี้ร้องดังออกมาจากผมต่อกันสามสี่รอบ เอื้อมมือไปกดชักโครกให้สิ่งปฏิกูลลับสายตา ร่างทรุดตัวบนพื้นพร้อมกับเอนตัวพิงผนังห้องน้ำด้วยความเหนื่อยล้า .. เชี่ยมากๆ เมื่อกี้ไอ้น้ำกรดคนนี้ทำอะไรลงไปวะ.. ทำอะไรลงไป๊!



แล้วจะไปสู้หน้าเหี้ยดำได้ไง?


คิดแล้วก็อยากจะเอามือจิกหัวตัวเองแรงๆสักที! ไอ้น้ำกรดเอ๊ย มึงทำเหี้ยอะไรของมึงวะสัตว์ เป็นอะไร! กับไอ้คนที่เกลียดนั่น.. จูบ!? จูบไปทำไมวะ จูบเพื่ออะไร ทั้งๆที่แม่งก็บอกจะออกจากชีวิตแล้วนี่หว่า!


อย่ากลับห้องมาตอนนี้นะมึง!


ผมคิดในใจพลางรีบลุกขึ้นมองหาน้ำยาบ้วนปากก่อนจะคว้าหมับเมื่อเห็นขวดสีฟ้าใสแจ๋วอยู่ โอเค ดีเลย เยี่ยม! รีบหยิบสำลีชุบน้ำสีฟ้าก่อนจะมองกระจกตรงหน้า



..และมองปากตัวเอง.. อืม.. จะว่าไปก็รสช็อกโกแลตกลิ่นเปปเปอร์มินต์..


..อืม..

..จะว่าไปไอ้รสน้ำยาบ้วนปากนี่ก็เปเปอร์มินต์..

ผมเงียบ มองสำลีในมือสลับกับน้ำยาบ้วนปาก.. ของ ‘ไอ้ดำ’ สินะ..

..



ไอ้ห่า!



“บัดซบบรรลัย!”

 ตะโกนสุดเสียงพลางวางน้ำยาบ้วนปากออกแล้วโยนสำลีทิ้งต่อเนื่อง ก่อนจะยอมหยิบยาสีฟันของตัวเองออกมา โชคดีจริงๆที่ยังไม่ได้ใช้ ถ้าอย่างนั้นคงได้มีสีดำๆติดปากตัวเองแน่นอน!



ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก มองยังยาสีฟันก่อนจะบิแรงจนล้นทะลักออกมาพร้อมป้ายด้วยสำลี นัยน์ตาสีดำสนิทของตนมองไปยันกระจกตรงหน้าที่สะท้อนภาพร่างตัวเอง..


ก่อนจะ..


..
ละเลงยาสีฟันลงบนปากแบบสุดแรงเกิด!


รู้สึกเหมือนเป็นสิ่งอัปมงคลชีวิตที่สุดในสามโลกเลยด้วยซ้ำครับ! โอ๊ย แม่งเอ๊ย กูจะทำไปทำเหี้ยไรวะ เสียปาก เสียแรงมานั่งขัดปากอีกรอบด้วยต่างหาก! ผมแทบน้ำตาเล็ด เค้นแรงตัวเองให้ถูๆขัดๆ อยู่รอบปากตัวเองจนมันขึ้นสีแดงช่ำ


ฮือ.. เจ็บ แต่ไม่เป็นไร รู้สึกดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเยอะ!


หากแต่ระหว่างที่ผมกำลังก้มหน้าลงไปล้างคราบยาสีฟันออกจากปาก ประตูทางเข้าก็ถูกเปิดขึ้น!


ปัง!


เฮือก!


โอ๊ย.. สะดุ้งโหยงไงครับ เชี่ยดำเรอะ? มันกลับมาแล้วเหรอ มันกลับมาทำไม เมื่อไหร่ มึงไปอยู่ห้องเดียวกับคู่ขามึงไป— ไป๊!



ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก ห้องน้ำที่ตนใช้อยู่ก็แค่เปิดไฟไว้แต่ไม่ได้ปิดประตู ได้ยินเสียงมันโยนกระเป๋าลงเตียงเหมือนที่ผ่านๆมาก่อนจะเดินตรงในห้องน้ำเหมือนกันครับ..


เฮ้ย! ห้องน้ำก็มีอยู่ห้องเดียว งั้นก็มาห้องกูอ่ะดิ!?


เอาแล้วไงล่ะ เอาแล้วไง!


ร่างของเด็กหนุ่มเดินเข้ามาพลางหยุดอยู่หน้าห้องน้ำขณะที่ผมกำลังก้มลงล้างใบหน้าตนเองอยู่ รู้ว่ามันชะงักไปนิดหน่อยเท่านั้นพลางเปลี่ยนเป็นหน้านิ่งเหมือนเดิม นี่มึงยังเก็กเรอะ! ฮือ แต่ก็ดีกว่าทำหน้าแดงใส่กูก็แล้วกัน ไม่งั้นมึงกลายเป็นไอ้ดำคาบคาบพริกเลยนะสัตว์ เอ๊ะ ผมเปรียบเทียบถูกเปล่าหว่า..


ผมหมุนปิดก๊อกน้ำพลางยกผ้าเช็ดหน้าที่ห้อยอยู่บนบ่าตนเองขึ้นเช็ด ก่อนจะแอบชำเลืองไปมองมัน..


..เชี่ย.. เหี้ยนี่ก็มองผม..


“.....”


ไม่มีคำพูดใดๆออกมาเท่านั้น ต่างคนต่างมองหน้ากัน ผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดฉิบหายอีกหนึ่ง เพราะมันยังคงทำหน้าตานิ่งๆกวน

ประสาทจนอยากเข้าไปถีบแรงๆสักรอบเหมือนเคย ไอ้คิ้วนั่นก็น่าไถ ตามันก็น่าควัก จมูกโด่งดีนักเหรอ สักวันกูจะถีบให้ดั้งยุบ!

แถมปากมันก็รสช็อกโกแลตกลิ่นเปปเปอร์มินต์..



..


แล้วทำไมกูต้องคิดว่าปากมันรสช็อกโกแลตกลิ่นเปปเปอร์มินต์ด้วยวะ สลัดผัก!


ผมตัดสินใจเบี่ยงหน้าหลบพร้อมกับพ่นลมออกแรงเป็นเชิงไม่พอใจอยู่ เห็นไอ้ดำก็เดินสวนเข้าไปในห้องน้ำ แอบชำเลืองมองสักหน่อย อีกคนหยิบสำลี.. น้ำยาบ้วนปากกลิ่นเปปเปอร์มินต์ที่ตัวผมเกือบใช้ไป..


..


และเริ่มขัดปากตัวเองหน้านิ่งๆครับ!

กูอยากจะขำให้ตายห่า! โอ๊ย.. ผมถึงกับแอบกระตุกยิ้มออกมา นั่นคงเป็นสีหน้าท่าทาง ‘หงุดหงิด’ เพราะถูกผมจูบไปสินะ เอาเหอะ แอบขยะแขยงที่จูบ แต่ได้เห็นสีหน้าแบบนั้นไปก็ถือว่าคุ้มจริงๆ!


อีกอย่างหนึ่ง



โชคดีจริงๆที่ผมไม่ใช้น้ำยาบ้วนปากนั่น.. ไม่งั้นแขยงตาย!

   




   “มึง! กูกับไอ้ไลอ์ได้สรุปว่ากิจกรรมห้องเราจะเป็นการแสดงนะเว้ย”



   เสียงของไอ้ไทเกอร์ที่พูดอยู่หน้าชั้นดังขึ้นทำให้ผมละสายตาออกจากการ์ตูนไปจ้องแวบหนึ่ง มันกำลังพูดถึง ‘กิจกรรมม.6’ ที่จัดขึ้นทุกปีอยู่ครับ ..แต่ยังไงก็แค่กิจกรรม ไม่เกี่ยวกับผมนี่หว่า


   พูดเข้าจริงไอ้ไทเกอร์เห็นอย่างนี้มันก็เป็นถึงคณะกรรมการนักเรียนที่ค่อนข้างพึ่งพา พอสมควร แน่นอน ถ้าไอ้ไทเกอร์เป็น เชี่ยไลออนก็ต้องเป็นด้วย ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคนอย่างพวกมันจะเข้าไปจุ้นเรื่องการช่วยเหลือโรงเรียนได้ไงน่ะ!


   ผมพ่นลมหายใจเบาๆพลางคิดจะก้มลงไปสนใจการ์ตูนอีกรอบ ยังไงซะงานโรงเรียนกูก็ไม่อยากเสือกอยู่แล้วครับ แถมตอนนี้คาบว่าง ผมกับไอ้นิวเลยได้กลับมานั่งด้วยกันอีกครั้งเป็นการชั่วคราวซะด้วย



..


เออใช่ เรื่องโรงเรียนกูไม่อยากเสือก..
..แต่เรื่องเพื่อนน่ะมันอีกเรื่อง!! โดยเฉพาะเรื่องของไอ้นิวที่มันกระซิบออกมาพร้อมกับทำหน้าโลกดับ!



“..กรด เมื่อวานไอ้เหี้ยหัวทองห้องเจ็ดมาสารภาพรักกับกูวะ”



..สมควรดับจริงๆ!


   บ๊ะ.. บอกกูดิว่ามันล้อเล่น! ผมเบิกตากว้างมองเพื่อนซี้หน้าหวานที่กุมขมับด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ ไอ้เหี้ยหัวทอง? แม่งหมายถึงคนที่ชื่อท็อปใช่ปะ เดี๋ยวๆๆ แล้วสารภาพรักนี่คือการบอกเลิฟยูใช่ปะ!?


เฮ้ยย! มันแปลว่าผู้ชายที่เคยมีเรื่องด้วยกันมาสารภาพรักใช่ปะ!!?


   กูจะทำหน้ายังไงดีครับ สองสามตอนที่แล้วแม่งยังพยายามปล้ำกูอยู่เลย ตอนนี้มึงเปลี่ยนทิศเป็นเพื่อนกูแล้วงั้นเหรอ? แม้ผมจะแอบขำแต่ก็แอ๊บเครียดอยู่นะ

โธ่ๆๆ.. ไอ้นิวที่รัก ทำไมมึงดูชีวิตบัดซบอย่างงี้ หรือเพราะอยู่ใกล้ๆกูเลยได้ความซวยฉิบหายติดเป็นของแถม ก๊ากก


 “..เอาไงดีวะมึง แม่งให้การ์ดมาเลยน่ะ”

นิวพูดเสียงจริงจจังแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อก ผมล่ะสงสารที่มันหน้าหวานจริงๆ มีผู้ชายติดเพียบ ไม่เหมือนผม.. สาวๆทั้งนั้นครับ มากันให้พรึ่บ อันแน่ะอย่าเพิ่งมาทำหน้าไม่เชื่อผม ผมยังพูดไม่จบ.. สาวๆในความฝันของเฮียกรดอย่างไงล่ะ ก๊ากกก


แต่เฮ้ยๆ เข้าเรื่องก่อน


..ไอ้นิวนี่น่าสงสารจริงๆนั่นแหละ..


“มึงจะผันตัวเป็นเกย์เหรอวะไอ้นิว”

ประโยคคำถามนี้ทำให้เพื่อนแม่งถึงกับสะดุ้ง ผมจึงเบ้ปากใส่ไปทันที “เชี่ย! อย่านะเว้ย กูหยะแหยง”


มันดูตกใจนิดหน่อยพลางตบหัวผมดับป้าบ


“บ้าเรอะ ใครเกย์วะ กูกำลังตกใจอยู่นะเชี่ย.. มันบอกชอบคนเตะต่อยเก่งด้วยว่ะ เป็นมาโซเหรอเนี่ย”


 ได้ยินไอ้นิวพูดแล้วก็ขำ โอ๊ย เพื่อนกูน่าสงสารจริงๆ มันทำหน้าโลกจะแตกอีกต่างหาก! ผมจึงจัดการแย่งการ์ดในมือเจ้าเตี้ยแล้วอ่านครับ


“ผมชื่อท็อป อยู่ห้องเจ็ด พวกเราเคยเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่งแม้ว่าการเจอกันนั้นจะไม่ค่อยดูดีสักเท่าไหร่นักแต่ผมก็บอกว่าผมชอบคุณ ชอบสกิลการเตะต่อยของคุณเก่งมากเลย กรุณาคบกับผมด้วยครับ”


ผมอ่านด้วยน้ำเสียงดัดจริตก่อนจะหัวเราะก๊าก โอ๊ยยยย แม่ง แม่งง! เขียนมานิสัยไม่ดูหนังหน้าตัวเองเล๊ย ไอ้วิธีการบอกรักพื้นบ้านแบบนี้มันไปจำมาจากไหนวะ! แต่ยิ่งเห็นหน้าไอ้นิวก็อยากจะหัวเราะจนฟันหลุดเลยครับ พอมันได้ยินที่ผมอ่านก็ถึงกับแสดงสีหน้าเหยเกออกมาเต็มๆ! ก๊ากกก มึงนี่น่าสงสารจริงๆนะ สมกับเป็นเพื่อนกูเลย!



   ว่าแต่ ไอ้ชอบสกิลการเตะต่อยของคุณเก่งมากเลยในการ์ดที่เขียนไว้เนี่ย แม่งเป็นมาโซคิสม์จริงๆด้วยสินะ พวกชอบถูกทรมาน อยากคบกับเจ้านิวเพื่อเป็นกระสอบให้มันเล่นเรอะ! ก๊ากก




   “อ่านอะไรวะ กรด?”


หะ..?


   ผมชะงักกึกพลางเงยหน้าขึ้นผละออกจากการ์ดสีชมพูหวานแหวว เห็นไอ้เชี่ยนิวหน้าเหวอครับ ความจริงผมก็เหวอเหมือนกันนะ.. เพราะไอ้คนที่อยู่ข้างหน้าตอนนี้คือเจ้าจินไงล่ะ!


..ไอ้จิน..


มึงอยู่คนละฝั่งซีกห้องกับกูยังจะเสือกเดินมาคุยได้อีกเหรอวะ!


   ทุกคนคงยังไม่รู้ว่าหลังจากโดนลงโทษกับพวกของไอ้ดำบ่อยๆผมกับจินจึงเริ่มสนิทกันและคุยเป็นครั้งคราวครับ เหี้ยนิวก็เหมือนจะนิสัยเข้ากับเชี่ยดำได้ดีจนน่าสะพรึงอีกต่างหาก แต่เพื่อนซี้ผมบอกว่าไม่อยากคุยกับไอ้ดำบ่อย คุยแล้วเมื่อยคอ ก๊ากกกกกกกก ไอ้เตี้ยยย กูว่าฝั่งนั้นก็คงเมื่อยเหมือนกันนั่นแหละ ก้มมาก ก๊ากก


   ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางรีบหันมองไปรอบๆ.. เออ ปกติมึงตัวติดกับเชี่ยดำ แล้วตอนนี้ตัวแถมของจินมันไปไหนวะ?

   แล้วร่างของตนก็ต้องสะดุ้งเฮือกทันทีเมื่อจับได้ถึงการแผ่รังสีบางอย่างจากทางด้านซ้ายที่มีไอ้จินยืนทะมึนเป็นเดวิลน้อยซะงั้น!


เชี่ย! แผ่รังสีทำอะไรวะ

   “อ่านอะไรวะ กรด” มันถามย้ำอีกที


   “นี่มึงจะฆ่ากูเพราะไม่อ่านให้หรือเปล่าวะ?” ขำสิครับ แม่งจะแผ่รังสีอะไรออกมานักหนา ขนลุกซู่เลยนะเว้ย “เนี่ย! ไอ้หัวทองห้องเจ็ดที่เป็นอริกับเหี้ยดำอ่ะ มันส่งจดหมายบอกรักไอ้นิวโว้ย!”


 เสียงของผมตื่นเต้นพร้อมกับเอื้อมไปคล้องคอเพื่อนนิวที่กำลังเหงื่อตกซะงั้น


เป็นอะไรกันวะ?


   “มึงเอ๊ย! เห็นท่าทีเถื่อนๆอย่างนั้นแม่งมีการมาแอบตกหลุมรักเพื่อนกูด้วย นี่หน้ามึงหวานเกินไปนะเว้ยไอ้นิว” ผมพูดต่ออย่างไม่เกรงกลัวพลางเอื้อมมือดึงแก้มยุ้ยๆของไอ้นิว อ้าว มึง ทำไมหน้ามึงเย็นๆเลยวะ ไม่ดิ ซีดด้วย


   “....” นิวยอมนั่งนิ่งๆให้ผมยืดแก้มซะงั้น เฮ้ย.. ปฏิหาริย์เหรอวะ ปกติมันไม่เคยให้ผมยืดแก้มเลยนะ


   “อ้อ ไอ้ท็อปน่ะเหรอ? มึงนี่เสน่ห์แรงดีจังนะ.. นิว” จินพูดเสียงนิ่งพร้อมหันไปมองเพื่อนผมที่ยิ้มแห้งเล่นทำเอาน้องกรดมึน อะไรวะ ปกติมึงน่าจะตอบกลับไปนะเชี่ยนิว อย่างน้อยก็โวยวายนิดหน่อยดิ


..ผมงงสิ? เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ผมห่างกับมันไปวะ?


   ผมกระพริบตาปริบๆ รู้สึกเหมือนมีกำแพงใสบางๆที่ค่อยๆก่อเกิดขึ้นมากั้นผมระหว่างนิวและจิน .. เดี๋ยว? มันเกิดอะไรขึ้น ไอ้เหี้ย.. กูไม่เข้าใจ


..ทำไมรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกเลยวะ .. ไม่ดิ ไม่ได้ๆ!


   “นิว มึงเป็นไรเปล่าวะ?” ผมหันไปหาเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งหน้า


   “เปล่าน่ะ เหี้ยนี่แม่งคงแค่กลัวไอ้ท็อปเฉยๆ เนอะ” เจ้าจินก็เอ่ยต่อออกมาพร้อมกับย่อตัวลงนั่งยองๆพลางเอามือเกาะที่หน้าโต๊ะของนิว เห็นอีกฝ่ายช้อนตามองด้วยรอยยิ้มกว้าง “ใช่ปะ นิว?”


   “เอ่อ.. นิดหน่อย”


ผมก็งงสิ.. ทำไมเพื่อนตูดูไร้ความมั่นใจอย่างนี้วะ?

   คิ้วของตนขมวดแน่นก่อนจะมองสองคนนี้สลับไปมา ทะเลาะกัน? หรืออะไรกันวะเนี่ย


   “ใช่ไหมล่ะ จะกลายเป็นเมียไอ้เชี่ยท็อปแล้วเหรอมึงเอ๊ย! ถ้ามึงเป็นนะ ไอ้นัยต้องบีบคอมึงแน่ๆ! มันถือคติทำร้ายคนที่อีกฝ่ายรักซะด้วย”


ผมถึงกับหน้าซีด เชี่ยนี่ถือคติอะไรแปลกๆ คิดแล้วก็หงุดหงิด เกือบโดนคนจับทำเมียเพราะคติทำร้ายคนที่อีกฝ่ายรักแท้ๆเลย! ฮือ พวกเหี้ยๆนี่เป็นแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ ไอ้นิวน่าจะกลัวตรงนี้(?)ก็ได้ล่ะมั้ง เออ งั้นพี่กรดจะปลอบ(?)เอง


   “เออ กูเข้าใจเว้ยนิว ไม่ต้องห่วง! เดี๋ยวคราวนี้กูจะปกป้องมึงเอง!” ไอ้นิวชะงัก เงยหน้าขึ้นมองผมด้วยสายตาไม่อยากเชื่อแล้วหัวเราะเจื่อนๆอีก ไหงทำหน้าไม่เชื่อถือพี่กรดอย่างนี้วะนิว “เป็นไรวะสัตว์! เชื่อใจได้เลย กูจะปกป้องไม่ให้มึงโดนจับทำเมี....”


..แต่พูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงขัดขึ้นมาก่อนครับ..

..เหมือนจะผู้พูดจะเป็นคนที่ผมไม่ได้คุยตั้งแต่เมื่อวานต้องเย็นซะด้วย..

   “ก่อนจะช่วยคนอื่น ช่วยตัวเองไม่ให้ตกเป็นเมียกูก่อนเหอะ”


...ไอ้เชี่ยดำ!!


   มันมาเมื่อไหร่แล้วมันมาทำห่าอะไรวะ! ผมเบิกตากว้างพลางหันขวับไปตามเสียง เห็นชายร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่ข้างๆไอ้จินแถมยังโยนหนังสือการ์ตูนไปมาในมือ ได้ยินเสียงจินดังว่า ‘หนังสือการ์ตูนกู’ ประมาณนี้อีก!


...

ไอ้เชี่ยนิวกุมขมับครับ ส่วนเจ้าจินก็ถอนหายใจ


   ใช่ ผมกำลังยืนขึ้นแล้วมองหน้าอีกฝ่าย นี่กูไม่ได้คุยกับมึงนาน มาถึงก็เปิดประเด็นเลยเหรอวะ!


เออได้ ถ้ามึงเปิดประเด็น กูก็จะเปิดตาม


   “งั้นก่อนจะทำให้กูตกเป็นเมียมึง.. หลบหมัดกูให้ได้ก่อนเหอะ!!”


พอจบประโยคเท่านั้น.. หมัดผมที่กำลังจะลอยก็ต้องหยุดชะงัก..
..
เพราะเสียงทุ้มที่ดังลอดออกมาจากปากของไอ้ไลออน







   “เหี้ย!! กูเจอสองคู่กัดที่จะแสดงในละครห้องเดือนหน้าได้แล้วเว้ย!”





ทั้งผมและไอ้ดำหันไปพร้อมมองผู้พูดที่ชี้มาทางเขาพร้อมกับห้ามศึกได้อย่างรวดเร็ว คิ้วของเราสองคนก็ขมวดติดแน่นทันที




   “...หา?”




...





___________________________
StraWBerry_ImIn @Talk
อ๊ากกก
อ๊ากกกกก
ในที่สุดก็มาอัพสักทีค่ะ รู้สึกเขินเบาๆกับการอัพช้า แหะๆๆ แต่จะพยายามมาอัพเรื่อยๆและไม่หายไปเป็นเดือนนะคะ !
ช่วงนี้งานเยอะมากกกกกกกก
อ๊ากกกกกก

เรื่องนี้ยังคงอัพช้าอยู่ แหะๆๆ วันจันทร์มีสอบเจ็ดวิชารวดเดียวเลยค่ะ T3T  คงพูดอะไรไม่ได้มาก ขอตัวก่อนนะคะนักอ่านทุกคนนน <3 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ <3

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ตลกการ์ดที่ท๊อปเขียนมาอ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า หลงรักสกิลต่อยตี ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh:
จินนี่เตรียมกลับไปทำโทษนิวแล้วสิ
ส่วนดำต้องรีบใช้โอกาสนี้ต้อนน้ำกรดให้จนมุมนะ

ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
สนุกมากก ถึงตอนที่5แล้ว

“กูจะฉี่” ชัดเจน กูรู้ครับ กูรู้!
   “มึงก็ใช้มือข้างซ้ายดิวะ!”
   “กูถนัดข้างขวา” ว่าแล้วแม่งก็เอามือปลดซิบกางเกงมันอีก

เหมือนพี่ดำล๊อกมือซ้ายของตัวเองกับกรดน๊า
ทำไมกรดไปแนะนำให้เขาใช้มือซ้ายละลูก :hao6:

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
ติดงอมแงม

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
มาต่อเร็วๆน๊าาาาาาาาาา :ling1:

seira

  • บุคคลทั่วไป
C h a p t e r  18
คนเกลียดกัน มักจะแพ้อะไรเหมือนกัน



   น่าจะเปลี่ยนจากชื่อเรื่องเกลียดฉิบหาย เป็น ซวยฉิบหาย เหอะ .. น้ำกรดขอร้อง


   ผมมองไทเกอร์ที่ยิ้มกว้างแล้วชี้มาทางตัวเองกับเชี่ยดำ หน้าของพวกเราสองคนเหวอไปถนัดตาเลยทีเดียวครับ
 อยู่ๆแม่งก็มามงมาพูดว่าแสดง แสดงห่าเหวอะไรวะ นี่มันสตั้นท์ยิ่งกว่าเจออาจารย์ไม้เลิกทำโทษเด็กอีกนะเหวย!


   “...เฮ้อ.. โชคดีจริงๆ กูขอบคุณมึงมากนะไอ้ไทด์ที่มาห้ามทัพน่ะ” ไอ้นิวแม่งถอนหายใจพร้อมกับยกมือไหว้อีก เหมือนไทด์จะ
ไม่รู้เรื่องอะไร มันเผยสีหน้างุนงงต่อ แต่ก็เปลี่ยนเรื่องครับ


   “เฮ้ย! พวกมึงสองคนอ่ะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำของมันดังขึ้นมาพร้อมกับเดินคั่นกลางระหว่างผมและไอ้ดำ “งานโรงเรียนปีนี้ พวกมึงมาช่วยแสดงหน่อยได้ปะ?”


..แสดง? แสดงห่าไรวะ?


   “เหี้ยไรเนี่ย?” ผมถามแล้วขมวดคิ้วงุนงง คือกูไม่ได้ฟังห่าอะไรเลยแล้วจะให้แสดงเหวอะไร! “ปัญญาอ่อนปะเนี่ยสัตว์?”
 ไอ้ไทด์ยิ้มมาให้แทน


   “นัยกับกรดมาแสดงเป็นคู่กัดทะเลาะกันบนเวที โอเคปะ?”


   “หา?” เสียงนี้ดังมาจากปากเชี่ยดำที่กำลังฟังอยู่  “หมายความว่าไรวะ?”


   “นั่นดิ” เออ โอกาสนี้ผมต้องเสริม! แสดงเชี่ยอะไร ให้กูแต่งหญิงแบบนิยายเลิฟๆเรอะ ขอบอกว่าไอ้ผู้ชายหน้าแมนๆแบบผมแต่งหญิงไม่ขึ้นครับ


หา..อะไรนะ? เคยมีคนบอกผมหน้าสวย?

แม่งโม้ อย่าไปฟัง!


   “คืองี้เว้ย กูรู้ว่าพวกมึงไม่ฟังหรอก งั้นกูอธิบายให้!” คนที่เสนอให้ผมแสดงฉีกยิ้มกว้าง ทำหน้าตาน่าหมั่นไส้อีกนะสัตว์ ชื่อมึงแปลว่าสิงโตไม่ใช่เหรอวะ ช่วยกรุณาทำหน้าให้ดูเกรงขามหน่อยดิ! “ห้องเราจะจัดการแสดงปลายเดือนหน้าเว้ย เนื้อหาก็เกี่ยวกับเด็กที่ทะเลาะกันและกัดกันมากๆ”


ผมกับไอ้ดำนิ่ง
..ทะเลาะและกัดกันมากๆ.. ก็ทั้งผมและเชี่ยนี่อ่ะดิ?



   “แล้ว?” แหม เชี่ยดำ กูขอบใจมึงที่กวนตีนไอ้ไทด์แทนกู เห็นไลออนเดินตามมาติดๆพร้อมกับยิ้มกว้างแล้วพูดต่อ สมกับเป็นแฝดเทียมนรกกันจริงๆ


   “กูว่าพวกมึงเหมาะกับบทนี้ที่สุดแล้วนะ แค่ทะเลาะกันให้ได้มากๆก็พอ น้ำหน้าอย่างมึงอ่ะถึงไม่ได้อยู่บนเวทีก็ทำได้อยู่แล้ว จริงปะ?”


เอ้อ! พูดอีกก็ถูกอีก! ไอ้ไลอ์มันเก่งจริงๆที่รู้ว่าผมกับไอ้ดำต่อให้เจอกันอยู่ในชีวิตจริงก็จะต่อยกันตายอยู่แล้วครับ


..แต่

..แต่คือ..



กูไม่ใช่เด็กกิจกรรมว่ะ



   “ขอปฏิเสธ” ผมพูดพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นไปอีกทาง อะไรล่ะ? ใครจะหาว่าผมไม่มีน้ำใจก็ช่างหัวแม่งสิ “กูไม่ใช่พวกนักแสดงว่ะ”
   ไทเกอร์เลิกคิ้วเล็กน้อย


   “แต่บทนี้เหมาะกับพวกมึงนะเว้ย”


   “กูก็ไม่เอา” เสียงเชี่ยดำตามมาติดๆ “เดี๋ยวก็ได้เห็นคนต่อยกับเหี้ยบนเวทีหรอก”  อืมมม.. ถูกของมัน ..

อ้าว เฮ้ย เดี๋ยวๆ แม่งหลอกด่าผม!


   “นั่นสิ เหี้ยมันก็บอกเดี๋ยวได้เห็นคนต่อยกับเหี้ยเนี่ย” หึ..
มึงหลอกด่า กูด่ากลับก็ได้!


   ไอ้เชี่ยดำตวัดสายตาขวับเมื่อรู้ว่าโดนประโยคคำด่าของตัวเองย้อนเข้าแล้ว ก๊ากกก! สมน้ำหน้า! คิดจะด่าใครไม่ด่า ด่าไอ้น้ำกรดคนนี้เองนะ


   “เหี้ยมักชอบด่าว่าตัวเองเหี้ย”


   “อืม.. ใช่ เหี้ยมักชอบด่าว่าตัวเองเหี้ย เนอะ นิว?” ผมหันไปหาแนวร่วมก่อนครับ แม่งพูดขุดหลุมฝังตัวเอง! แอบเห็นไอ้เชี่ยดำผงะไปแล้วขมวดคิ้วแน่น โอ๊ย .. กูล่ะสมน้ำหน้ามัน!


   “.....” คนถูกดึงมาเป็นแนวร่วมก้มลงกุมขมับซะงั้น อ้าว ไม่คิดจะช่วยเพื่อนพูดหน่อยเหรอวะ!
แต่เหมือนเพราะการที่ผมและเชี่ยดำยืนเถียงกัน.. จึงถูกน้ำเสียงถัดไปที่ดังขึ้นมาทำให้เงิบไปตามๆกัน


   “ดูดิ ขนาดยังไม่เข้าบทบาทนักแสดงยังสมจริงได้ขนาดนี้ คงไม่มีใครเหมาะเท่าพวกมึงแล้วล่ะ”


   “...”


หะ?



   “เออ นั่นดิ ยังไม่ทันที่จะเข้าบทก็แสดงได้แล้ว พรสวรรค์แท้ๆ”


เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆๆ!!


   ผมอ้าปากค้าง มองไปยันกระดานไวท์บอร์ดที่เชี่ยไลออนเดินไปถือปากกามาแล้วเขียนยุกยิกๆตรงชื่อนักแสดง
เฮ้ย— เฮ้ย—เฮ้ย!



   “กูยังไม่ยอมรับเลยนะเชี่ย! เอาชื่อกูไปเขียนหาพ่อมึงเหรอ!” นายน้ำกรดคนนี้ยอมไม่ได้ครับ! ยอมไม่ได้!! นี่มันมัดมือชกเลยนี่หว่า!



   “เอาชื่อเหี้ยนี่ไปได้ แต่ลบชื่อกูออก!” เวร ไอ้ดำแม่งก็ตะโกนติดๆ ว่าแต่ อะไรลบชื่อมันออกแล้วให้คงชื่อผมไว้น่ะเหรอ?
ไม่เอานะเว้ย!


   “เชี่ย! มึงนั่นแหละ ไปแสดงคนเดียว กูไม่อยากเสือก!!”


   “มึงแหลเก่งไม่ใช่เหรอวะ ไปคนเดียวสิ”

   “ไอ้เวร ไม่ต้องเลย มึงนั่น—”
   และสุดท้ายผมก็ต้องหยุดชะงักปากตนเองไปเสียสนิทเลยด้วยซ้ำ เมื่อเห็นเจ้าไลออนฉีกยิ้มหวานหยดเยิ้มแถมเปลี่ยนจากปากกา
เขียนไวท์บอร์ดเป็นปากกาเคมีลบไม่ออกน่ะสิ!


..เฮ้ย..เฮ้ย เดี๋ยว! มันเล่นอะไรแปลกๆวะ!


   “กูไม่อยากทำกิจกรรมโรงเรียน!” ผมรีบตะโกนไปคนแรก ไอ้ไลออนกับไทเกอร์ก็ดันเสือกหันมายักคิ้วพร้อมกันอีก นี่พวกมึงเป็นฝาแฝดกันหรือเปล่าวะ ทำอะไรเหมือนกันดีจริง! “เหี้ย หยุดเลยนะเว้ย”


   “พวกมึงเป็นความหวังห้องเราเลยนะเว้ย! อย่างน้อยก็ชนะห้องเจ็ดให้ได้นะสัตว์!” เจ้าไทเกอร์พูดออกมาแล้วยกนิ้วโป้งเป็นเครื่องหมายยอดเยี่ยมอีก ยอดยงยอดเยี่ยมอะไรวะ กูไม่เอา กูไม่อยากไป กูขี้เกียจด้วย!


   “พวกมึงใช้อะไรคิดวะ!”


   “ไอ้พวกเด็กห้องเจ็ดไง อริห้องเรา แพ้ใครไม่ว่าแต่ห้ามแพ้เด็กห้องเจ็ด .. ใช่ไหมเพื่อน!” ไลออน มึงก็ลูกคู่ได้เก่งจริงๆ หันไปตะโกนเรียกเสียงเพื่อนตัวประกอบที่ตะโกนว่าใช่ๆ อยู่อีก


อ๊ากก อย่ามาหวังอะไรจากกู๊!


   ผมอยากจะตะโกนคำนี้ไปแทบใจขาดรอนครับ เห็นเพื่อนๆมองตาเปล่งประกายแบบนั้น...


..เอื๊อก..ปฏิเสธไม่ลง


   “...ใครเขียนบทวะ” นายน้ำกรดใจอ่อนง่ายๆเมื่อถูกคนมาขอร้อง แล้วนี่แถมเป็นขอร้องทั้งห้องอีก รู้สึกอยากจะเอาหัวตัวเองทุบเต้าหู้ตายจริงๆ!


เอ๊ะๆ แต่บอกไว้ก่อนว่าผมยังไม่ยอมเล่นบท!


   “เออ .. ใครเขียนบท?”เหมือนไอ้ดำน่าจะเป็นประเภทเดียวกับผม ใจอ่อนง่ายเมื่อโดนสายตาแห่งความหวังแอคแทค ฮือ กูหยะแหยง มึงจะมาเป็นประเภทใจอ่อนง่ายแบบกูทำไมวะ.. และทันใดนั้นก็มีคนหน้าอ่อนยกมือขึ้นเล่นเอาพวกผมชะงัก..


   “เราเอง”


   เสียงของเขาหวานจนแทบปาดแก้วหูและไม่อยากเชื่อว่าเป็นผู้ชายเลยด้วย หน้าขาววอกยิ่งกว่าตูดเด็ก ดวงตากลมโตแบบไม่ต้องใส่คอนแทกเลนส์เล่นทำผมอ้าปากค้าง มองผู้ที่พูดอยู่กำลังยิ้มกว้างพลางโบกมือไปมา


..ไอ้หน้าเด็กม.ต้นมันอยู่ในห้องเราด้วยเหรอวะ..


   ผมไม่คิดว่าเจ้านี่จะอาศัยอยู่ในห้องผมนะ ปกติถ้าไม่เจอหน้าหวานๆแบบเชี่ยนิวเข้าไปซึ่งมีน้อยมาก หันซ้ายขวาก็พบแต่เห็นเถื่อนๆ โอเค ยอมรับนิดหน่อยว่าไอ้ไลออนมันค่อนขาวสวยๆแต่นิสัยดันเชี่ยจนน่าปวดหัวน่ะสิ ในห้องกูมีคนที่ดูบริสุทธิ์น่ารักอย่างนี้ด้วยเหรอวะ..


อีกฝ่ายยิ้มกว้าง เล่นเอาดาเมจแม่งกระแทกเลย โอ๊ย! .. น่ารักว่ะ


เดี๋ยวๆ— กูชมผู้ชายน่ารัก ไม่ได้แปลว่าเป็นเกย์ใช่ไหมวะ?


   “ขอบคุณนะที่น้ำกรดกับนัยยอมมาเล่นบทนี้น่ะ” แอบเผลอมองปากอมชมพูนั่น.. เฮือก น่าจูบฉิบหาย.. น่าจูบเชี่ยๆ เด็กที่ไหนวะ เปลี่ยนตัวเด่นจากไอ้นัยเป็นเจ้าเตี้ยนี่ได้ไหม ผมอยากเข้าไปเลียหัวแผล่บๆ ฮือ..


   แอบเหลือบเทียบหน้าตาไอ้ดำกับเพื่อนหน้าม.ต้นครับ .. อื้อหือ เทียบกันไม่ได้เลย ขาวดำ แบ๊วเข้ม มึงแพ้ว่ะไอ้เชี่ยดำ บอกเปลี่ยนตัวเด่นโล้ด!


แต่เดี๋ยว.. ผมเห็นไอ้ดำน้ำลายไหล เดี๋ยวๆ มึงจะแดกเพื่อนคนนี้เขาเหรอวะ!


   “..ฝากตัวด้วยแล้วกันนะ” เสียงทุ้มจากชายผิวเข้มดังออกมา มันก้มมองเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มกว้างให้อยู่ ท่าทางโดนดาเมจแล้วสิมึง.. โดนดาเมจล่ะสิ! “อย่าเขียนให้บทแย่ล่ะ”


เท่านั้นเจ้าหมอนั่นก็มีออร่าความสุขแผ่ออกมาครับ!


เอ่อ.. กูคิดไปเองหรือเปล่าว่าออร่านั่นไม่ใช่ออร่าดอกไม้.. แต่เป็นสัตว์อะไรบางอย่างรอบๆตัว สีเหลืองๆด้วย..
   ท่าทางผมจะเพ้อแล้ว แอบเอามือตบหน้าตัวเองแรงๆ เห็นเชี่ยนิวกับไอ้จินคุยกันอยู่อีกด้วย คนหน้าเด็กหันมามองผมพร้อมกับ
เอียงคอเล็กน้อย


   “แล้วน้ำกรดล่ะ?”


..เฮือก..
   เอาแล้วไงนั่น ผมชะงัก กลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วมองมายันอีกคน จะเรียกกูน้ำกรดทำไม อย่าเลย ขนลุก..แต่ว่า..


..นัยน์ตาเปี่ยมด้วยความหวัง..

..ความหวังจริงๆ.. จะทำลายมันก็ใช่เรื่องอยู่..


   ผมเม้มปากแน่น
..

ไม่อยากเล่นกับไอ้เชี่ยดำ.. แต่ถ้าปล่อยให้แม่งเล่นคนเดียว มีหวังแดกเด็กนี่แน่ๆ ต้องฉุดมากระทำกันในห้องกูชัวร์ป้าบ..


..ดังนั้น..
ดั้งนั้น..เพื่อปกป้องพรมจรรย์ของห้องนอนกู..


   “เรียกฉันว่ากรดเฉยๆก็ได้... อื้ม คิดว่าจะลองดูนะ”


วิ้ง!


   ..ผมเหงื่อตก เห็นออร่าแห่งความสุขเข้ามากระแทกหน้าอีกแล้ว รู้สึกแสบตาแปลกๆ
..แล้วคิดไปเองหรือเปล่าวะที่มันไม่ใช่ออร่าดอกไม้ แต่เป็นออร่าลูกเจี๊ยบเนี่ย..?


   “อ้าว นี่มึงคุยแป๊บเดียว ไอ้พวกนั้นยอมเลยเหรอวะ?”


..เสียงเชี่ยไทเกอร์!

   มันหันมาหาไอ้หนุ่มหน้าม.ต้นครับ เจ้าของออร่าลูกเจี๊ยบชะงักไปพลางหัวเร่าะร่าเสียงั้น


   “อือ เดี๋ยวกูคงจะไปเขียนบทก่อนน่ะ”
เฮ้ยๆ เดี๋ยว เดี๊ยววว!! ไอ้เรา – นาย ที่สร้างความแอ๊บแบ๊วให้หมอนี่มันหายไปไหนน!


   “เออๆ ดีแล้ว เฮ้ย! ไลอ์! สองตัวนี้มันยอมแล้วโว๊ย งั้นอาทิตย์หน้าพวกมึงเริ่มซ้อมเลยแล้วกัน!”
   ผมอ้าปากค้าง ไม่ต่างกับไอ้เชี่ยดำที่เหมือนเบิกตากว้าง ท่าทีผิดหวังสุดๆ


   เจ้าของร่างเล็กฃชะงักไปเมื่อเห็นสีหน้าพวกผม เขาหันมาชูสองนิ้วให้จนดูน่ารักอย่างประหลาดเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างยิงฟันขาว


   “เรื่องบทน่ะ เชื่อมือกูได้เลย”  อีกฝ่ายยักคิ้วเล็กน้อย ผมไม่อยากจะบอกหรอกนะว่าได้ยินเสียงหัวใจไอ้ดำแม่งแตกเพล้งๆ สงสัยคิดว่าเป็นเด็กสุภาพล่ะสิ สมน้ำหน้า! “เรียกกูว่าซานก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักล่ะ— จันทร์หน้าอย่าลืมมาซ้อมนะ บาย”


..เชี่ยยยย!! ไอ้ออร่าโมเอะมันหายไปไหนหมดวะ!!
แต่ว่ากูโดนไอ้หน้าละอ่อนนั่นหลอกใช่หม๊ายยยย ฮือออ เอาน้องโมเอะกูคืนม๊าา!






กิ้ง— ก่อง


   เสียงระฆังบ่งบอกว่าหมดเวลาของคาบประชุมแล้วทำให้พวกเพื่อนๆรีบสลายตัวกลับห้องอย่างรวดเร็ว และผมก็เช่นกัน..ซะที่ไหนล่ะครับ!


เอ่อ ความจริงคือผมแอบยืนมองไอ้หนุ่มซานที่ตอนแรกมาซะน่ารักเรียกเรานายๆ แต่พอตกเหยื่อหน้าตาเหมือนผมกับไอ้ดำได้เท่านั้นแหละ มึงกูขึ้นทันทีเลยนะ..


..กูแหละเครียด..


   ผมเห็นเจ้าตัวเดินออกไปกับเพื่อนกลุ่มคนอื่นๆแล้วก็กลืนน้ำลายเอื๊อก หน้าตาน่ารักฉิบหาย นี่ถ้าเป็นผู้หญิงผมต้องกระชากขึ้นเตียงไปแล้วแน่ๆเลย! ลองคิดดูสิ ดวงตากลมโตสีดำขลับแป๋วๆกับรอยยิ้มอันเจิดจ้านั่นทำใจผมละลายซะไม่มี

   เวลาผ่านไปได้ไม่นานนักเพื่อนก็ออกไปจนเกือบหมดห้องปล่อยให้เหลือแค่ผมที่กำลังยืนหน้าตายมองไปยันชื่อบนกระดานไวท์
บอร์ด


   ..ชื่อแรก.. น้ำกรด แสดงเป็นพี่ของนางเอก..


   ..ชื่อสอง.. ชื่อของไอ้ดำ แสดงเป็นคู่กัดพี่นางเอก..


..โอ้ชีวิตน้ำกรด.. ซวยฉิบหาย..


ไม่น่าเป็นโรคแพ้คนน่ารักจริงๆ..
   ผมตัดสินใจผลุบสายตาลงก่อนจะถอนหายใจดังเฮือก ท่าทางกูคงจะเข้าขั้นซวยสุดๆจริงๆล่ะ เสาร์อาทิตย์ต้องวางแผนทำบุญวัด
เก้าวัดซะบ้างแล้วแหะ


ผมคิดจะหันกลับไปชวนไอ้นิวเดินเล่นก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงดังลั่นจนทำให้ความคิดของผมกระจัดกระจายทันที

ปัง!


เหี้ยย! ใครมาฟาดอะไรแถวนี้วะ!!


   เชี่ยเอ๊ย! กูกำลังเป็นพระเอกเอ็มวี ‘ซวยฉิบหาย’ อยู่นะมึง! ถอนหายใจหมุนตัวแบบหล่อๆด้วยไอ้สัตว์! แถมเพลงนี้ขับร้องโดยนายน้ำกรด ประพันธ์โดนนายน้ำกรดด้วย! เหี้ยยย!


แล้วคำด่าในความคิดของผมเองก็ต้องชะงัก..เมื่อเห็น..


ขวับ!


   วัตถุบางอย่างถูกเหวี่ยงแรงในอากาศจนเกิดเสียงดังลั่น ผมอ้าปากค้าง ไม่ต่างจากเพื่อนในห้องทีเหลือนั่นแหละครับ..


..เพราะไอ้นั่น— คือไม้ที!


   “เชี่ย! ใจเย็นๆสิวะ!”


เฮ้ย! เสียงใคร? คุ้นๆ!
   ใบหน้าของตนเองรีบถอดสีทันที จำได้ว่านั่นเป็นเสียงไอ้เชี่ยวิน! แล้วมันมาทำอะไรหน้าห้องตู!


   “.....เด็กห้องเจ็ด!” ได้ยินคนที่กำลังเก็บกระเป๋าอยู่เค้นเสียงลอดออกมาตามไรฟันทันที ผม รีบหันมองเชี่ยดำที่กำลังจ้องเขม็ง เดี๋ยว แม่งรู้ด้วยว่าเป็นเด็กห้องเจ็ดเฮ้ยย!


   “ปล่อยกูสิวะ! ปล่อย! ปล่อยกู!”


..แอบเห็นหัวทองๆแทงตากูอยู่ลิ่วๆ.. เชี่ยท็อปสินะที่ถือไม้ทีน่ะ!


อุ๊ต๊ะ! ต่อไปนี้กูจะเรียกมึงว่าไม้ทีทองแล้วไอ้หัวราคาแพงง!


   ..อย่าเลย มุขหัวราคาแพงแม่งไม่ผ่าน ผมตัดสินใจหยุดเพ้อในใจแล้วรีบวิ่งเข้าไปดูสถานการณ์ เห็นไอ้ท็อปใช้มือข้างหนึ่งถือไม้ทีแต่ก็โดนเจ้าวินมันล็อคไว้จนขยับตัวไม่ได้ครับ อีกฝ่ายดิ้นแรงจนทำเอาผมเหงื่อตก แถมไม้ทีนั่นเหวี่ยงบนมือไปมาด้วย แปลว่าคนที่แรงเยอะในตอนนั้นคือวินจริงๆสินะ จะว่าไปมันช่วยผมด้วยนี่หว่า อยากจะขอบคุณมันสักหน่อยแหะ..
   
“อ๊าก ไอ้วิน! ปล่อย! ปล่อยกู!”

   “มึงก็วางไม้ทีลงก่อนดิวะ! มาแบบจิ๊กโก๋ฉิบหาย!”


เออ จริงของไอ้วินมัน!


   ผมเห็นเจ้าท็อปหายใจหอบแรงแล้วมองมาทางผมด้วยสายตาอาฆาตครับ เวร กูเกี่ยวอะไรด้วย เฮ้ยๆ กูงงนะสัตว์!
   สุดท้ายมันก็ยอมเปลี่ยนเป็นโยนไม้ทีลงพื้น ไอ้วินจึงยอมปล่อยให้ชายร่างโปร่งเป็นอิสระทันที ผมเห็นเชี่ยดำเดินเข้ามาพร้อมกับ
มองนิ่งๆอีก

   “มีธุระอะไร?” เสียงทุ้มของมันดูสงบนิ่งเล่นเอาผมแอบกลืนน้ำลายเอื๊อก ไอ้ท็อปตวัดสายตามามองพลางชี้หน้า “....”


   “มึง.. มึง!”


แล้วแม่งก็จะก้มไปหยิบไม้ทีอีกรอบ!


   “เฮ้ย!!” โชคดีจริงๆที่เชี่ยวินเตะทิ้งไปทัน โอ๊ย กูนึกว่าต้องแจ้งความคนโดนไม้ทีฟาดหัวซะแล้ว “นี่ขนาดโยนทิ้งแล้วมึงยังคิดจะหยิบอีกรอบเรอะ!” อืม.. จริงของไอ้วิน ว่าแต่ทำไมวันนี้กูไม่มีบทพูดเลยวะ บรรยายอย่างเดียว เบื่อนะเว้ย

   ดังนั้นขอพูดสักนิดครับ


   และเมื่อผมกำลังจะอ้าปากและเปล่งเสียง..


   “มึงมาทำอะ—”
   

“กูอยากต่อยหน้าไอ้ดำจังไรนี่ทีนึง!!”


โอ๊ย!! บทพูดผมโดนเชี่ยท็อปตะคอกกลบหมด! ไอ้เวร!! ตอนนี้กูยังไม่ค่อยมีบทพูดเลยนะโว๊ย!

..แต่ ดำจังไร? เอ่อ... ยอมยกโทษให้มึงเพราะคำนี้นะ สะใจสัตว์ๆ ก๊ากกก

   แอบเห็นไอ้ ‘ดำจังไร’ คิ้วกระตุกเล็กน้อยครับ หน้ามันสื่อคล้ายกับว่า ‘กูดำอีกแล้วเรอะ’ นั่นแหละ โอ๊ย ตูล่ะฮา!


   “เหี้ย .. กูขอโทษนะไอ้นัย แต่วันนี้เชี่ยท็อปมันไม่ได้มาเพื่อจะหาเรื่องมึง” เป็นวินที่หันไปพูดพร้อมกับยิ้มแห้ง เชี่ยดำก็สูดลมหายใจเข้าออกแรงจนได้ยินเสียงเพื่อเป็นการบ่งบอกว่ากำลังสงบสติอารมณ์อยู่พร้อมกับส่ายหัวไปมาเชิงไม่เป็นไร “เออ ไอ้ท็อป มึงจะทำอะไรก็ทำสิวะ”


   “เออ”

..แล้วมันก็เดินไปหยิบไม้ที..


   “เฮ้ยยย! อย่าเอาไปตีหัวไอ้นัย! เดี๋ยวค่อยตีตอนอื่นก็ได้!” เดี๋ยว นี่พวกมึงคิดจะตีตอนอื่นอีกเหรอวะ

ไอ้ท็อปหันขวับ!


   “ใครว่าจะตีหัววะ! ไม่มีไอ้นี่แล้วกูรู้สึกอ่อนแอ!” เหยชโดว์ คนสูงเกือบร้อยแปดสิบอย่างมึงมีมารู้สึกอ่อนแอด้วย ไอ้ท็อปยกไม้ทีพาดไหล่ตัวเองพลางหายไปฮึดฮัดแล้วมองมาทางผมพักหนึ่งครับ

..หา? ทางกู?

   มันพ่นลมหายใจแรงๆก่อนจะเอ่ยประโยคถัดไป

   “..เรื่องวันนั้นกูขอโทษด้วย พอกูทำเสร็จก็ไม่มีแรงไปกระทืบมึงต่อเลย ยืนอ้วกกับไอ้วินตั้งนาน”

   “......”


ขอบคุณชีวิต!


   ไอ้ ‘เรื่องวันนั้น’ ทำให้ผมรู้สึกคิ้วกระตุก กูขอยืมไม้ทีมึงมาฟาดหัวมึงได้ไหมวะไอ้ท็อป!

   เชี่ยดำเองก็ไม่พูดอะไร หลังเอนตัวพิงประตูพร้อมกับกอดอกมองนิ่งๆ คิดว่ามาดแมนมากนักไง! ผมเห็นไอ้ท็อปปรายตามองแว่บหนึ่งแล้วกำไม้ทีแน่น..


..แน่นเลยครับ.. แต่ไม่ทำอะไร..


   ร่างโปร่งของมันเดินผ่านประตูห้องผมและไอ้ดำเข้าไปในห้องที่มีเพื่อนอยู่สองคน ไอ้วินก็เดินตามต้อยๆพร้อมกับยักคิ้วให้หนึ่งที

..แล้วพูดเสริมอีกว่า..
..ว่า..


   “วันนั้นมันอ้วกจริงๆนะ กูเลยเข้าไปช่วยมึงตอนคนหลังไม่ได้เพราะแม่งอ้วกเละเสื้อกูเลย”


จี๊ด.. จะบอกว่าร่างกายกูน่าขยะแขยงก็บอกมาตรงๆเหอะ!


   “โทษที พอดีกูมีเสน่ห์แต่กับสาวๆ” ผมแอบกัดฟันกรอดครับ แม่งเอ๊ย ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าวันนั้นโดนมันไปทำเมียจริงๆจะเกิดเหี้ยอะไรขึ้น แล้วที่แม่งอ้วกเนี่ย ยังไม่ถึงไหนเลยนะ แค่ถอดเสื้อกูเอง..

เออ.. อย่างน้อยก็บอกได้ว่ามันไม่คิดจะลองกับผมเป็นครั้งที่สองพันเปอร์เซ็น!

   ระหว่างที่ผมกำลังบ่นกับตัวเองอยู่นั้นก็แอบเห็นไอ้ดำชำเลืองมามองนิดหน่อย


   “...มันพูดถูก กูก็อ้วกไปรอบหนึ่ง”


   “...” ผมเงียบ มองหน้าคนที่ยืนพิงประตูอยู่พร้อมกับคิ้วกระตุก คือกูก็อ้วกเหมือนกันครับ ทำเองอ้วกเอง ยังไม่อวดมึงเลยนะไอ้ดำจุงเบย..


..แต่แม่งก็เหลือบมามองด้วยหางตา.. พร้อมกับพูดประโยคถัดไป..
..ที่ทำให้ผมยกหมัดขึ้น..


   “..กูไม่ชอบรสนมสตอเบอรี่ว่ะ รีบหาอะไรแดกใหม่นะ มันจะได้เปลี่ยนรสสักที”


..ไอ้เหี้ยดำ—! มึง!! มึง!!


   “มึงตายย!!” ผมแหกปากลั่นก่อนจะเข้าไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายหวังจะคว้ามาแล้วซัดสักหมัด
หากแต่แม่งมีอะไรที่ทำให้ผมอดต่อยหน้ามันอีกแล้ว!


ปัง!


   หยุดชะงักครับ.. คราวนี้ไม่ใช่เสียงไอ้ไทเกอร์ที่เข้ามาพูดเรื่องอื่น


ไม่ใช่เสียงอาจารย์ที่เข้ามาห้าม..


แต่เป็นเสียงไม้ทีกระทบกระดานไวท์บอร์ดต่างหาก..
   

ทั้งผมและไอ้ดำนิ่งพร้อมกัน จากหน้าตากวนตีนๆของมันที่เตรียมไว้รองรับหมัดนายน้ำกรดคนนี้ก็เปลี่ยนเป็นตกใจ ผมเองก็เช่นกัน

พวกเราหันไปในห้องเรียนทันที

..และภาพที่เห็น ก็เล่นทำให้ผมนิ่งค้าง..
   

ไอ้ท็อปยืนตรงพร้อมกับใช้ไม้ทีชี้หน้าไอ้เชี่ยนิวที่นั่งอ้าปากค้าง ผมเห็นไอ้จินทำท่าเหวอหวา ส่วนเจ้าวินก็ยกมือขึ้นขยี้หัวแบบไม่แคร์อีกต่างหาก


แต่.. เฮ้ยๆ! เพื่อนกูจะโดนประทุษร้ายเหรอวะ! ไม้ทีมันอันตรายนะเว้ย!
   

ผมรีบปล่อยมือจากไอ้เชี่ยดำ แล้วเปลี่ยนทิศวิ่งเข้าไปหาเพื่อที่จะช่วยไอ้นิวไม่ให้โดนไม้ทีฟาดกบาลไว้ทันที
ทุกอย่าง.. มันเกิดขึ้นเร็วมาก
   

“มึง!!”


   เสียงไอ้ท็อปดังก้องกังวาน เอาไม้ทีชี้หน้าเพื่อนตัวเล็กของผมที่นั่งอึ้ง พร้อมกับจ้องเชี่ยนิวเขม็ง..


เขม็งจริงๆ เขม็งจนเส้นเลือดปูด!


   “มึงห้ามทำร้ายเพื่อนกูนะสั—”


แต่ไม่ทันที่ผมจะพูดจบหรือวิ่งเข้าไปห้ามทัพ กลับได้ยินประโยคถัดไปที่ทำให้สะดุดลมล้ม หน้าตัวเองกระแทกไปขลุกกับฝุ่นบริเวณนั้นทันที..




   “กูชอบมึง!! มาคบกับกูเดี๋ยวนี้เลย— ไอ้เตี้ย!!”





..ถึงไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวผม.. แต่ก็ต้องผงะครับ..
..
ว่าไงนะ..?
   
 
_______________________________________
@StraWBery_ImIn @Talk
กร๊๊ดดดดดดด :hao7: ท็อปสุดน่ารักของเค้าเองแหละทุกๆคน ย๊ากกกก
ในที่สุดก็ถึงวันหยุดและเวลาว่างค่ะ
แฮ่

คืนนี้จะมาอัพตอนถัดไปนะคะ
เวลาประมาณห้าทุ่มอาจจะมาอัพนะคะ เตรียมตัวรับชมได้เลยค่ะ อิอิ  :hao6:


ตอบคอมเม้นท์น้าาาา

@IsDeer อี๊สสส เตง เตง เตงอ่านตลอดด เตงอ่านทุกครั้ง เตง เตงงงง //กระโดดกอดรัดฟัดเหวี่ยงง/ ขอบคุณมากๆๆๆน้าาา TvT ฮือออ เป็นปลื้มม แงงง

@อ๊ายอาย หน้าตาเธอคุ้นๆเหมือนว่าเราเคยพบกันมาก่อนนนนนน ก๊ากกกกกก กรี๊ดดด อ๊ากกกก YvY มาอ่านด้วยเหรอคะ แงงง โฮกก อ๊ากกก/พ่นไฟแป๊บ// รู้สึกเหมือนแดดิ้นสิบรอบ 5555555555555 คือสะพรึง ช็อก อ่ะเฮือกมาเลยยยยยย //เขินแป๊บบบ//

@๛゙★βra_11!☆゙ T///////T ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับคำชม โฮกกก :o8: เขินนน แงง เขินน บิดไปบิดมาแป๊บบ :-[ 55555
จะตั้งใจแต่งต่อไปค่ะ!! ย๊าก

@ณ ที่เดิม™  :-[ ติดงอมแงมจริงอ้ะเปล่าา แอ๊ยย เขินนะ อ๊ากกก

@Buppha ย๊ากกกกกกกกกก คืนนี้ได้พบกับอีกตอนค่!!!  :impress2:



ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์มากเลยนะคะ >//////////////< พบกันคืนนี้ค่าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-08-2014 23:11:00 โดย seira »

seira

  • บุคคลทั่วไป
C h a p t e r  19


คนเกลียดกัน มักจะเข้าใจกันทางการกระทำ


ผัวะ!


เดี๋ยว .. อย่าเพิ่งตกใจ ไม่ใช่หมัดของผมตรงเข้าสู่หน้าไอ้ดำครับ!
แต่เป็นกำปั้นล้วนๆของไอ้เชี่ยนิวที่อยู่ๆปีนขึ้นโต๊ะแล้วกระโดดลงไปต่อยหน้าไอ้หัวทองต่างหากล่ะ!!


โอ๊ยย มึงแมนฉิบหายเลยไอ้นิวว!


“เหี้ยไรวะ!” เสียงหวานของมันตะโกนลั่นพร้อมกับชี้หน้าไอ้ท็อปที่ทรุดฮวบ ผมกับเชี่ยดำนี่ดิ ยืนเงิบกันเป็นแถบ ถึงกับหยุดกัดกันเลยนะเว้ย ..


คือ..คงช็อกน่ะครับ เข้าใจครับ


ภาพลักษณ์ภายนอกของไอ้นิวนั้นมันไม่เหมือนกับผม และสามารถพูดได้ว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้ ร่างกายของผมค่อนข้างสูงและมีกล้ามนิดๆพอเป็นหนุ่มเซ็กซี่ ผิดจากไอ้นิวที่ตัวเล็กๆบางๆ หน้าหวานอีกต่างหาก


แต่ถ้าพละกำลังล่ะก็... ว่ากันอีกเรื่องครับ!


มันเคยเรียนศิลปะป้องกันตัวมาเป็นเวลามากกว่าสิบปี เพราะฉะนั้น...

หมัดไอ้นี่น่ะ.. หนักแน่นอน!!

คนหัวทองฟันไม่หลุดก็ดีแค่ไหนแล้ว!


“อ..อุก..” ไอ้ท็อปถึงกับไม้ทีกระเด็นแล้วเอามือกุมแก้มซ้ายตัวเองไว้

เอ่อ .. กึ่งสมน้ำหน้าและสงสารอ่ะ..  คือมึงทำกับกูเอาไว้เยอะ ความสงสารกูเลยจางหายไปกับอากาศแล้ว..


ถึงตอนด่าดำจังไรจะยกย่องมันก็เหอะ!

“เฮ้ย—ไอ้นิว ใจเย็นๆดิวะ” เอาเหอะ ในฐานะเพื่อนที่ดีต้องรีบเข้าไปห้ามครับ! นายน้ำกรดคนนี้จึงรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปแล้ว
ลูบหลังไอ้เชี่ยนิวที่หอบหายใจแรงเหมือนโมโหอยู่

อ่ะฮึก ฮือ.. เห็นแล้วกูก็เริ่มคิดนะ ทำไมวะ มึงตัวออกจะเล็กๆเตี้ยๆ แต่เสือกแมนฉิบหาย ดูกูนี่ดินิว ทำไมเวลากูลุกขึ้นไปต่อยแบบนั้นแล้วมันดูไม่เท่อ่ะ มันดูเป็นกวนตีนซะได้ โฮฮฮฮ  ผมมีหมัดไว้ชก มีตีนไว้ถีบ มีปากไว้ด่า.. ขนาดทำทุกอย่างพร้อมกันยังน่า
ขลัวไม่เท่าไอ้นิวส่งกระแสจิตเลย!


“...นี่มึงหาเรื่องกูใช่ปะ! หา?  กูปฏิเสธไปตั้งแต่ครั้งแรก แล้วนี่ยังจะมาอีกเรอะ!” ผมเห็นท็อปถึงกับหน้าเสีย มันเลิกลั่กไปเล็กน้อยก่อนจะเม้มปากแน่น “อะไรมึงอีก!”


“กูก็บอกแล้วว่าชอบมึง! กูเลยขอคบด้วย!” น้ำเสียงจริงจังจากไอ้เด็กห้องเจ็ดเล่นเอาผมทำสีหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว แต่ไอ้นิวยังแข็งกระด้างอยู่เช่นเดิม มันขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมชี้ไปทางไม้ทีที่ตายซากอยู่บนพื้น

“แล้วเอาไม้ทีมาหาพ่อมึงเหรอ?”

“เปล่า.. เอามาสู่ขอมึง”

..โอ๊ะช๊ะเด๊ะ!!

เท่านั้นแหละครับ ไอ้เพื่อนที่ใจร้อนอยู่ถึงกับสะอึก มันอ้าปากค้างพะงาบๆแล้วชี้หน้าท็อปที่เกาแก้มหันหน้าหนีเขินๆซะงั้น

ว่าแต่.. ถ้าไอ้ท็อปชอบเชี่ยนิว ก็แปลว่ามันเป็นเกย์อ่ะดิ?

เพียงเท่านั้นผมก็ถึงกับขนลุกซู่ทันที กลืนน้ำลายก้อนเหนียวหนืดของตนเองลงคอครับ.. ถ้ามันชอบไอ้นิว แล้วนิวชอบกลับก็
เท่ากับเกย์..

..เกย์.. ไม่เอา กูมีความหลังกับคำนี้ เกลียดฉิบหายเลยพวกเกย์!
..คิดแล้วก็เหลือบมองไปทางไอ้ดำ.. เหมือนมันจะชะงักแล้วมองตอบพอดี

พร้อมกับประโยคถัดไป..


“...เพื่อนมึงนี่ดูแมนกว่ามึงอีกนะ”


กึก..

ไอ้..เวร!


“นี่มึงหมายความว่าไงวะเหี้ยดำ!” นายน้ำกรดสุดหล่อแหกปากลั่นเพื่อเรียกร้องความสนใจและทวงบังลังค์บทพระเอกคืนทันที ไอ้ดำเลิกคิ้วก่อนจะยักไหล่

“คิดว่าอย่างไหนก็อย่างนั้น”

“นี่พวกมึงหาเรื่องกูใช่ปะ!”

ในตอนนั้นเองเหมือนไอ้เชี่ยนิวกับไอ้เวรท็อปจะหยุดกึกทั้งคู่..

เพราะแม่งหันมาดูผมเถียงกับเชี่ยดำ! เจ๋งปะล่ะ! วิธีแย่งบทมาอย่างแนบเนียน!!

“กูว่ากูยังไม่ทันจะได้หาเรื่องเลยนะ” มันทำลอยหน้าลอยตา กอดอกแล้วเอนพิงกระดานไวท์บอร์ดอีก ขณะที่ผมปวดหัวตุ้บๆ ดูมัน
สิวะ ดูมัน

บอกกี่ทีแล้วไงว่าเห็นทำหน้าระรื่นแล้วรู้สึกอยากเข้าไปกระโดดเตะ! แม่งหน้านิ่งๆมึงก็กวนตีนแล้วนะ แต่พอกูเจอหน้าอารมณ์ดีมึงเท่านั้นแหละ.. กูขึ้นเลย!

..ยืนขึ้นไปจะต่อยหน้ามึงเลย!

“คำพูดมึงนั่นแหละหาเรื่องกู!” ผมตะโกนใส่ หันจ้องอีกฝ่ายที่กำลังทำนิ่งอยู่ โอ๊ย มึงจะนิ่งไปไหนวะ ชาติหน้าอยากเกิดเป็นรูปปั้น
ไง!? เห็นแล้วมันขัดหูขัดตาเป็นบ้า

“เฮ้ย—พวกมึง..” ได้ยินเสียงเจ้านิวเรียกอยู่แว่วๆครับ ผมอ่านอารมณ์เสียงมันออกนะ คงกำลังคิดว่า ‘จากเรื่องกูเปลี่ยนเป็นเรื่องมึงได้อย่างไงวะ’ น่ะสิ! โธ่ เพื่อนมาเป็นปี ผมปล่อยให้มันแย่งบทไปสองตอนเลยนะเว้ย สองตอน!! สองตอนอันมีค่าของผม

คือตอนนี้น้ำกรดกับไอ้ดำกลับมาแล้ว!

..มาด่ากันเหมือนเดิมแล้ว!!

“หือ..” เชี่ยดำเสือกลากเสียงยาวพร้อมหรี่ตาลงเล็กน้อย “..ถ้ามึงแมนจริง ก็ต้องไม่กลัวที่กูพูดสิ จริงปะ?”

จี๊ดเลยกู..

ปี๊ดด้วย..

ไอ้เหี้ยนี่มัน!!

ผมกัดฟันกรอดพร้อมจ้องหน้าอีกฝ่ายกลับ..

“เอาหมัดกูไปแดก....”

ไม่ทันที่จะพูดจบมันก็เอ่ยแทรกทันที

“ดีแต่ใช้กำลัง” ไอ้ดำลากเสียงยาว เหลือบมองมาทางผม.. ก่อนจะพูดประโยคต่อไปด้วยความยียวน “งี้แหละนะ ...เหี้ยไร้สมอง”

แถม.. แม่งด่ากู!

“นี่มึงจะหาเรื่องกับกูให้ได้ไหมไอ้สัตว์!”

เออดี อย่างไงคราวนี้ก็ไม่มีใครห้ามผมแล้ว!

ทั้งร่างของตนเองกระโจนหาอีกฝ่ายพร้อมกับใช้มือกระชากคอเสื้อชายตรงหน้าทันที ผมกัดฟันกรอด จ้องตาไอ้เชี่ยดำตรงหน้าที่กำลังก้มมองอย่างเหยียดหยามอยู่..

“เฮ้ย! ไอ้กรด! หยุด!!” เสียงเชี่ยนิวห้ามปรามลอยมาแว่วๆ..

 แต่ใครจะไปสน..
พวกเราจ้องตากันเขม็ง ไม่มีใครยอมแพ้กันทั้งนั้น..

จนกระทั่งที่บางอย่างรั้งหมัดของผมเอาไว้

..ดีแต่ใช้กำลัง..
คำพูดประโยคเมื่อกี้ของมันลอยเข้ามาในหัว..


..ซึ่งทำให้ผมนิ่งได้..

เหมือนว่าเชี่ยดำก็เผยสีหน้าประหลาดใจแว่บหนึ่งที่ผมยังไม่ต่อยมัน.. หึ.. ใช่


เพราะถ้าผมต่อยมัน ก็จะไปตรงกับคำพูดถูกของมันน่ะสิ จริงไหม?


ดังนั้น..

ผมตัดสินใจปล่อยคอเสื้อของชายตรงหน้าออก ไอ้ดำเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยพร้อมก้มมองด้วยท่าทีแปลกใจ รวมทั้งเชี่ยนิว ไอ้จิน
ท็อป และวินเหมือนจะผงะไป
ทุกคนกำลังตกใจและงุนงงกับท่าทีของผม

“...” ชายตรงหน้าที่เพิ่งหาเรื่องมองด้วยความไม่เชื่อสายตา ขณะที่ผมยังคงยืนใกล้มันอยู่ เพียงแต่เอามือกอดอกตนเองเอาไว้

แทนเพื่อที่จะไม่ให้เผลอเข้าไปต่อยมันอีก..
แล้วขยับรอยยิ้มมุมปาก ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน

“..จำใส่กะโหลกมึงไว้ด้วย .. ไอ้เชี่ยดำ” น้ำเสียงทุ้มของผมดังขึ้นมาก่อนที่จะใช้สายตาของตนเองเลื่อนมองใบหน้าคมของชาย
ตรงหน้า..

สองสายตาจ้องกันโดยไม่มีใครคิดจะผละออก

มันเหมือนนิ่ง ชะงักอยู่ ในขณะที่ผมทำเพียงกระตุกยิ้ม..

“กูจะไม่มีวันยอมให้คนที่กูเกลียด.. ดูถูกกูเด็ดขาด”
และนั่นคือสาเหตุ.. ที่ผมตัดสินใจ ‘ไม่ใช้กำลัง’ ลงไป..

   ไอ้ดำเหมือนจะยืนค้างไปชั่วขณะโดยไม่ละสายตาออกจากใบหน้าของผม แต่ทันใดนั้นเองก็เป็นผมที่ต้องเบิกตากว้างขึ้นเมื่อคน

ตรงหน้าค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาทั้งๆที่สายตามันยังคงมองมาที่ผมอยู่ราวกับกำลังพึงพอใจบางอย่างและชื่นชมในตัวผม

..มันยิ้ม..ให้ผม?


   “...”

ปัง!

   และทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องหยุดลงเมื่อผมได้ยินเสียงไม้บางอย่างฟาดเข้าแรงที่ประตูหน้าห้อง ทั้งตัวสะดุ้งโหยง รีบหันไปตามเสียง
ก่อนจะพบร่างเพรียวของอาจารย์คนหนึ่งทีกำลังหอบหายใจแรง

..

   “พวกคุณสี่คน.. นายน้ำกรด! นายดนัย นายธนพล และนายภวิน.. มาพบผมที่ห้องปกครองด่วน!”



..เหี้ย!! ชื่อคนอื่นๆยังพอเข้าใจ..

..แล้วไหงมีชื่อกูได้ไงวะ!! ไอ้อาจารย์เผด็จการเอ๊ย!





      เหมือนว่าคราวนี้จะโดนเข้าใจผิดกันเต็มๆเป้าเลยนะสิ!

   ผมกำลังยืนประสานมือเอาไว้แล้วก้มหัวด้วยสีหน้าบูดบึ้งอย่างร้ายแรง แน่นอนว่ามีขบวนเข้าห้องปกครองอย่างไอ้เชี่ยดำ ไอ้สัตว์
ท็อป แล้วตามด้วยเจ้าวินอีกด้วย!
กูผิดอะไรครับ กูผิดตรงไหน!

   เป็นความคิดของผมเอง อย่าบอกนะว่านี่คือกรรมตามสนองมาจากเรื่องทำให้เชี่ยนิวโดนลูกหลงไปน่ะ หา?


   “พวกคุณทำอะไรกัน ไหนบอกผมมาซิ” น้ำเสียงทุ้มดังลอดออกมาจากริมฝีปากของชายร่างเล็ก อาจารย์ไม้กอดอกกระดิกไม้เรียว
ที่ทำเอาคนมองอย่างผมขนลุกซู่ จะอะไรกับกูวะ เชี่ย กูว่ากูแค่เป็นผู้เฝ้ามองดีๆยังเสือกโดนเรียกได้เลย!

เปลี่ยนชื่อเรื่องจากเกลียดฉิบหาย เป็นซวยฉิบหายเหอะ ผมขอร้องจริงๆอีกรอบ!

   “ไปเยี่ยมเพื่อนครับ”

ไอ้วินเสนอหน้าตอบก่อนพร้อมมองอาจารย์ตัวเล็กด้วยสายตาหนักแน่น ส่วนผมก็ได้แต่แอบชำเลืองไปหน่อยๆ แหม.. มึงนะมึง หน้าตาเด็กเรียนอ่ะดิ กล้ามากเลยที่ตอบคนแรก

แต่ไอ้จารย์ตรงหน้าเสือกหรี่ตากลับ ตามด้วยย้อนใส่

   “ไปเยี่ยมเพื่อน แล้วจะถือไม้ทีทำไม?”

..เหยช! ถูกใจกู!
   โอ๊ยย! เอาเลยจารย์! ใส่มันไปเลย! ใส่ไปเลย! ทำให้มันเงียบแล้วหุบปากแม่ง!

หากแต่คนที่ต้องเงียบกริบก็ต้องเป็นผมแทนครับ เพราะอีกฝ่ายเขาตวัดสายตาดุใส่


   “ไม่ต้องยิ้ม พวกคุณก็มีเรื่องต้องคุยกับผมหลังสองคนนี้เหมือนกัน”

..จ๋อยเบยกู..

   “คุณทำอย่างนั้นไปทำไม” เสียงอาจารย์ไม้ยังคงนิ่งสงบ แต่ดันเย็นเฉียบจนทำให้คนฟังตัวสั่นได้เลยด้วยซ้ำ ไอ้ท็อปยิ้มแล้วยกมือเกาหัวแกรกๆ

   “เอาไปสารภาพรัก”

   “......”
แม่ง พูดตรงจริงๆว่ะ

   ..มึงช่วยพูดอ้อมค้อมหน่อยก็ดีนะ..



   ผมตัดสินใจเบนไปอีกทางหนึ่งเพราะไม่อยากเห็นหน้าแดงๆของเชี่ยท็อป ท่าทางมันจะเขินนะ แต่คือแบบว่าไงดีล่ะ? ..กูว่ามึงดู
เหี้ยมากกว่าน่ารักนะ..
และพอหันกลับไปก็เจอไอ้เชี่ยดำ..

..ผมยืนข้างมันเมื่อไหร่วะ?

   คำถามนี้ผุดขึ้นมาในสมองทันทีทันใดก่อนที่ความรู้สึกขนลุกเกลียวไปทั่วร่าง มองหน้าไอ้เชี่ยดำที่นิ่งๆแล้วรู้สึกอยากเข้าไปต่อย
จริงๆ ที่ขนลุกเมื่อกี้เพราะแอบเหลือบมองปากน่ะนะ..

..ปาก..

..ปากผมกับมัน..

   เหมือนชายร่างสูงกว่าจะรู้ตัวซะด้วย

มันยักคิ้วเข้มๆให้ผมหนึ่งที

   “มองเพราะกูหล่อสินะ?”


เปิดประโยคใส่ตูก่อนซะด้วย อย่างนี้มันต้องมีฟาดฟัน(?)กันแล้ว!

“เปล่า กำลังคิดอยู่ว่าทำไมเหี้ยมันด๊ำดำ” หึ เป็นไงล่ะ โดนสวนกลับเลย! ผมเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตาอย่างได้รับชัยชนะ
ขณะที่เขาก็เลิกคิ้วเล็กน้อยอีกรอบ

   “ดำพ่อง”

   “พ่อกูไม่ดำครับ”

   “กูหมายถึงมึง” ยังจะเถียงกูอีกนะสัตว์!

   “กูขาวจั๊วะ” ผมเป็นฝ่ายพูดต่อทันทีพร้อมกับหัวเราะในลำคอ ไอ้เชี่ยดำแม่งเริ่มหงุดหงิดอีกแล้ว หึ สู้ความกวนตีนของกูไม่ได้ล่ะสิ!

แต่อยู่ๆเหี้ยนี่มันก็เปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มซะงั้น เล่นเอาผมผงะ พร้อมตอบพูดประโยคถัดไปที่ทำให้อารมณ์ขำของตนดับวูบ!

   “เออ .. ขาวเหมือนเนื้อในมึง”


..จี๊ด..
คลื่นสมองของตัวเองกำลังพุ่งสูงจนกลั่นออกมาเป็นเสียงดังลั่น..

..ไอ้— ไอ้เหี้ย!! ไอ้เหี้ยนี่มัน..!!

   “มึงหาเรื่องกูอีกแล้วใช่ปะ!!?” ผมว่ามันต้องใช่แน่ๆเลย! แม่งยังจำตอนที่ตูเสื้อหลุดลุ่ยได้แหงๆ ไม่งั้นมันไม่พูดอย่างนี้หรอก! ไอ้
เชี่ยดำนี่..


อย่างงี้ก็มีหาเรื่องอ่ะเดะ!!
   ..แต่เหมือนคราวนี้ผมจะเป็นฝ่ายฉิบหายจริงๆนั่นแหละ.. เพราะลืมไปว่าอยู่ในห้องอาจารย์ไม้!

   “พวกคุณสองคน นี่ขนาดอยู่ในห้องผม ยังจะคิดต่อยกันอีกเหรอครับ!!?”

เชี่ยย!!

   กูลืมไปได้ยังไงวะว่ามีจารย์ที่หันขวับมามองเขม็งอยู๊! ผมขนลุกซู่ ความซวยที่มาเยือนทำให้รู้สึกอยากจะกระโดดหนีออกจากห้อง

ไปจริงๆ อะไรวะ ผมผิดที่ไหน ไอ้ดำมันมาพูดอะไรแบบนี้ก่อนนะเว้ย!
และพอเมื่อผมมองเจ้าตัวต้นเหตุ..

..มันเสือกยิ้มมุมปากกลับ! หาเรื่องกันอย่างเสร็จสมบูรณ์ใช่ไหมวะ!?

   “ผมไม่รู้จะทำอย่างไงกับพวกคุณดีจริงๆ..” อาจารย์ไม้ส่ายหน้า ในขณะที่ผมมุ่ยปาก ก่อนจะชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดัง
แว่วๆมา

   “เชี่ยวิน! ทรงตัวดีๆหน่อยดิวะ— ไม้จะร่วงแล้วนะเว้ย!”

   “บัดซบจริง..” เสียงวินเหมือนปลงโลก..

   “มึงอย่ามาทำเสียงนิ่งๆดิวะ! ไอ้สัตว์— ไอ้สัตว์! ฉิบห๊ายย! เอียงซ้ายดิวะ เอียงซ้ายๆ กูไม่อยากตูดลายนะเหี้ยย!”

เป็นเสียงเชี่ยท็อปและเจ้าวิน!

   ผมหันขวับไปอีกทางก่อนจะเจอเรื่องเซอร์ไพร์ซ เพราะเจ้าสองตัวนั้นมันเอาไม้ทีใหญ่ว่างไว้บนหัวแล้วพยายามเดินออกจากห้อง
อาจารย์ไม้อยู่!


   พอหันมาก็เห็นอาจารย์ยังเก็กครับ เก็กแบบสุดขั้วด้วยการก้มหน้าแล้วเอามือดันแว่นอีกรอบ
   “เอ้าๆ ผมไม่ตีพวกคุณ แต่พวกคุณห้ามทำไม้ทีหล่นนะครับ นั่นแหละ.. ห้ามใช้มือด้วยครับ” ได้ยินเสียงของคนร่างเพรียวดังออก
มาเป็นระลอกๆอีก

..อย่าบอกนะว่า.. บทลงโทษจาที่มักตีเอาๆ เสือกกลายร่างเป็นแบบนี้แทนน่ะ!?

   สุดท้ายอาจารย์ตัวเล็กก็หันกลับมาทอดสายตามองพวกผมต่อ นัยน์ตาสีดำขลับจับจ้องใบหน้าสลับกันไปมาด้วยความนิ่งเฉย

หนำซ้ำยังกอดอกเพิ่มอาการให้ผมรู้สึก ‘หนาว’ ขึ้นมาอีกต่างหาก..

..จะทำอะไรกู..

กูไม่ผิดนะ..

   เมื่อแอบชำเลืองไปทางร่างสูงใหญ่ของชายผิวคล้ำข้างกาย เขาไม่ท่าทีไม่ต่างจากผม..

..คือก้มหน้ามองพื้นเตรียมตัวรับโทษแน่ครับ.. ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นโทษแบบไหนก็เหอะ..

   จะว่าไปกับมันก็มีท่าทีทะเลาะกันบ่อย ไม่แปลกที่จะเข้าใจผิดกัน..

..แต่— แต่กูก็ไม่อยากก้นลายแล้วทายาบ่อยหรอกนะเชี่ย..

   “สุดท้าย.. กับพวกคุณสองคน”

ลมหายใจเผลอสะดุดไปนิดหน่อย..

   ผมหลับตาปี๋ ไม่ได้ป๊อดนะครับแค่เตรียมตูดไว้ เพราะอาจารย์ไม้มือหนัก ขนาดโดนตีบ่อยๆแล้วรู้สึกขยาดนี่หว่า!!

หากแต่สิ่งที่ได้รับกลับไม่ใช่ เพราะมันคือฝ่ามืออุ่นที่ทาบลงมาบนหัวของผมเสียนี่..

..ทั้งร่างเหมือนหยุดชะงักไป..


   “..ดีมาก ที่ไม่ได้ชกต่อยกัน”

..ห..หา?

   ทั้งผมและไอ้ดำต่างก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องด้วยสายตาตกตะลึง ภาพตรงหน้าคือรอยยิ้มบางบนใบหน้าของอาจารย์ไม้ที่กำลังจับจ้องมองพวกผมด้วยสายตาอบอุ่น เขาลูบหัวทั้งคู่ด้วยมือสองข้าง

และความรู้สึกผิดของตัวผม.. ก็ถูกก่อตัวขึ้นช้าๆภายใน

..เอะอะจับทำโทษ สักพักก็ถือไม้เรียวจะฟาด!..

   ประโยคนั้นลอยเข้ามาในหัวของผม..

ประโยคคำพูดของผม..
   ดวงตาของตนขยับเล็กน้อยพลางจับจ้องร่างเล็กกว่าที่ยืนยิ้มให้อยู่ ก่อนที่เขาจะปล่อยมือออก พูดเพียงคำว่า ‘กลับห้องได้แล้ว’

เท่านั้น
ซึ่งก็ทำให้ผมนิ่งไปได้สักพักใหญ่เชียว


   สองขาก้าวออกมาจากห้องอาจารย์ไม้แล้ว ไอ้ดำที่อยู่ข้างๆเหมือนจะจับผิดสังเกตกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมอยู่ได้ มันนิ่งแล้วมองมาด้วยสายตาสงสัย ขณะที่ร่างของผมยังคงยืนนิ่ง ทั้งหัวเริ่มลองคิดบางสิ่งออกมา มีนึกถึงการกระทำที่อีกฝ่ายลงโทษไอ้ท็อปกับไอ้
วิน.. จนกระทั่งมาถึงผมด้วย..


..หรือว่าอาจารย์ไม้— กำลังพยายามปรับตัวเองอยู่นะ?

มันหมายความว่ายังไงกัน?

“อึ้งล่ะสิ” เป็นประโยคที่ดังออกมาจากปากของชายหนุ่มข้างกาย ผมหันไปมองหน้ามันที่กำลังยักคิ้วเล็กน้อย


   “เชี่ย.. จารย์แกกินยาผิดเปล่าวะ” ถามกลับพร้อมกับขนลุกซู่ ลองคิดดูดีๆ อาจารย์แกก็แปลกไปได้เหมือนกัน ปกติต้องตีเอาๆดิ “กู
ว่าเมนส์มา!!”


   “จารย์เขาเป็นผู้ชาย”

   “เหี้ย! แต่ทำตัวแบบนี้แม่งเมนส์มาแน่ๆว่ะ” ผมหนาวเลยนะครับ หนาวเลย! แม่งอยู่ๆเสือกทำอะไรแปลกๆได้ไงวะ

ไอ้ดำหันมามองผมแวบหนึ่ง

   “..กูว่ามึงนั่นแหละที่เมนส์มา”

ผมชะงักกึกกับประโยคของมัน คิ้วเรียวของตนเองขมวดมุ่นผูกกันเป็นโบว์พร้อมเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
ผมที่เมนส์มาเรอะ?

   “กูเป็นผู้ชาย!” ประโยคแรกที่ออกมาพร้อมกับกระชากเสียงใส่ นี่ถ้ามีไอ้กุญแจมืออยู่ป่านนี้ผมคงกระชากแรงๆให้อีกฝ่ายเซถลา
แล้ว!

เอาเหี้ยอะไรมาพูดวะ!

   “..มึงยังบอกว่าจารย์แกเมนส์มาได้เลย มึงก็น่าจะเมนส์มาได้นี่หว่า”

   ผมเบ้ปาก

   “อะไรวะเหี้ย! นี่กูยังไม่ทันหาเรื่องมึงเลยนะไอ้สัตว์!” ฮึ่ม ผมพูดความจริงนะ หงุดหงิดสิครับ ก็ดูไอ้ดำสิ มันเล่นหันมามองหน้าตาย
ใส่

และประโยคถัดไปก็ทำให้ผมถึงกับปี๊ดขึ้นมาทันที!


   “แค่มึงเกิดมาก็ถือว่าหาเรื่องกูแล้วว่ะ”

   “เชี่ย! มึงมันรกโลก!”

   “อย่างน้อยกูก็ฉลาดกว่ามึง” จี๊ด.. เจ็บ!

   “ด่ากูโง่เหรอวะ!”

   “อ้าว.. ฉลาดที่รู้ว่ากูด่าด้วยนี่”

   โฮ๊ก!! นี่ตกลงอยู่ๆมันอัพเกรดความกวนตีนสินะ! ตอนอยู่ในห้องจารย์ไม้นี่คงเป็นเพราะโดนรังสีอำมหิตกดทับความเหี้ยอยู่ใช่ไหม
ใช่ไหมไอ้ห่ารากก!!

   ผมหายใจฮึดฮัด เดินลงบันไดด้วยความฉุนเฉียว เชี่ยดำแม่งก็น่ากระทืบสับตื้บหนึ่งเหลือเกิน ..ถ้าไม่ใช่เพราะกูเพิ่งโดนอาจารย์ชมนะมึง.. มึ๊งง!

หน้าแหกไปแล้วแน่นอน!

   “มึง.. เมนส์มาจริงๆด้วย”


กึก
   ผมชะงักครับ..

   อยู่ๆทำไมมันพูดอีกแล้ววะ?

   “นี่สงสัยว่ากูเป็นผู้หญิง?” หันไปถามกลับพร้อมขมวดคิ้วแน่น มองใบหน้าคมของอีกฝ่ายที่กำลังจับจ้องผมอยู่..

เฮ้ย เดี๋ยว มันไม่ได้จ้องตาผมว่ะ..

..แต่มันจ้อง.. ปาก..

   ผมถึงกับขนทั้งร่างถึงกับลุกซู่ขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่ ไอ้เชี่ยดำมันจ้องปากผม.. จ้องปากผมจริงๆ คงไม่ได้มองไปที่จมูกหรือคาง
หรอก .. มันจ้องปากครับ.. ปาก!

..ปาก..

   “ปกติมึงปากหมากว่านี้”



..และประโยคถัดไปของเหี้ยนี่ ก็ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองกำลังปัญญาอ่อนที่คิดว่ามันเกิดพิสวาทปากผมน่ะสิ!!

   “ถะ.. ถ้ามึงจะมาด่าว่าปากหมาก็อย่าจ้องปากกูสิวะ!! จ้องหน้ากูนี่!” เผลอตะโกนเสียงดังลั่นออกไปพร้อมกับจ้องใบหน้าเด็กหนุ่ม
ผิวแทนที่ยักไหล่ไม่สนใจอีก โอ๊ย.. ไอ้ ไอ้เชี่ยเอ๊ย “เหี้ย!”

   “ด่าปาก จะให้จ้องตา?”

   “จ้องตูดกูก็ได้.. ถุย!”

   “งั้นหันตูดมาสิ”

   “.....”

กูผิดเองที่ต่อมันไปอย่างนั้น!!

   จ้องตูดเหรอวะ ไอ้เชี่ย.. ไอ้เชี่ยเอ๊ยย! คงต้องพยายามคิดไตร่ตรองดีๆแล้วว่ามันเล็งสอยตูดผมอยู่ นายน้ำกรดกำลังจะบ้าตาย โฮฮ
บอกแล้วไงว่าไม่เอาเกย์ กูไม่อ๊าวว!

จะว่าไป.. ถ้ามันเล็งสอยตูดผม..

แปลว่าทุกๆวันที่ผ่านมา ผมก็เข้าข่าย ‘สถานการณ์เสี่ยง’ ต่อการเสียตูดอ่ะเดะ..

   คิดได้เท่านั้นก็ถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งร่างรอบที่ล้านแล้ว .. ใช่ จริงๆด้วย พอลองดูดีๆ ที่ผ่านมาก็มีผมกับไอ้ดำอยู่ในห้องกันสองคน..
สองต่อสอง ถ้าอยู่ๆมันคิดจะทำอะไรผมหรือปล้ำผมขึ้นมา คงวิ่งไปประตูไม่ทันเพราะเชี่ยดำอยู่ใกล้ประตู กระโดดตึกบินออกทาง
ระเบียงไม่ได้น้ำกรดไม่มีปีก ..

..ฉิบ..หาย.. ชัดๆ.. เลย.. นี่..หว่า..


   เพิ่งมาบรรลุครับ ..

   “...วันนี้กูจะไปนอนห้องไอ้นิว!” ในที่สุดก็เป็นเสียงของผมที่ประกาศออกมาเมื่อถึงหน้าหอพักชาย หันขวับมองเชี่ยดำที่ยักไหล่เชิงไม่แคร์ “เดี๋ยวกูจะให้คู่ขามึงไปนอนกับมึง .. อย่าเอากันเสียงดังล่ะเดี๋ยวกูตะโกนด่าแล้วจารย์ไม้รู้เรื่องอีก!”

   เหมือนไอ้เชี่ยนั่นจะผงะไป

   “คู่ขา? เหี้ยจินน่ะเหรอ?” มันถามกลับในขณะที่ผมขมวดคิ้ว อะไรวะ ก็ใช่อ่ะดิ มีแค่เหี้ยจินคนเดียวไม่ใช่เรอะที่มึงเอาอยู่วันนั้นน่ะ!

..เอ๊ะ .. แต่เดี๋ยวก่อน..

   “อย่าบอกนะว่ามึงเคยนอนกับคนอื่นๆด้วย?” ผมผงะครับ ในขณะที่ไอ้ดำก็เสือกทำหน้านิ่งใส่ซะงั้น


..มันฟันน้องกูแล้วทิ้ง!..
   เสียงของเชี่ยท็อปในวันนั้นแล่นเข้ามาในหัว ทำให้ผมมองชายตรงหน้า มันบิดไหล่ตัวเองเบาๆพร้อมกับเหล่กลับเล็กน้อย

และพูดประโยคถัดไป

   “เออ”

..เพียงแค่คำๆเดียวผมถึงกับชะงัก..

   อีกฝ่ายก้มหน้าลงมองผมด้วยแววตาที่ไม่สามารถสื่ออะไรได้ ในขณะที่ผมเองก็เงยหน้ามองชายตรงหน้าเช่นกัน..

นอนกับคนอื่น..

   “เอาแล้วทิ้ง ไอ้สัตว์! สันดาน!”

   ตะโกนด่ากลับไปครับ! ไอ้เชี่ยเอ๊ย!

   ผมสะบัดหน้าหนีออกก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปโดยไม่รีรอชายรูมเมทที่ตนเองเกลียดแม้แต่น้อย แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้มีอาการจะ

พูดว่า ‘เฮ้ย เดี๋ยวดิ’ อย่างนี้ด้วย! ดันทำหน้าเหมือนกูอยากไปก็ไป ไม่แคร์สื่อ!
   สองเท้าของผมเริ่มเดินมาจนถึงชั้น 7 จะว่าเหนื่อยก็เหนื่อย หอบก็หอบ เมื่อยฉิบหาย ไม่อยากคิดเลยว่าไอ้เชี่ยนิวจะลำบากขนาด

ไหนที่ต้องกลับมานอนห้องวะเนี่ย?

แต่จะว่าไป.. พอคิดเรื่องไอ้ดำ..

มันเอาแล้วทิ้งจริงๆด้วยใช่ปะ? แต่เดี๋ยว.. เชี่ยจินมันก็เอา(หรือถูกเอาวะ)เหมือนกันนี่หว่า แต่ไหนทำไมไม่ทิ้งไอ้จินวะ..
หรือจะเป็นเพราะไอ้เชี่ยจินเป็นคนพิเศษกัน?

   ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะเดินมาหยุดที่ห้อง 707 แปลว่าไอ้จินก็คงเป็นคนสำคัญมากๆของเชี่ยดำพอสมควรเลยล่ะ ไม่อย่างนั้นมันก็น่า
จะทิ้งเหมือนคนอื่นๆ..

..คนสำคัญ..

   หากแต่ระหว่างที่ผมกำลังจะยกมือเคาะประตู กลับมีเสียงลอดออกมาเสียก่อน ตามด้วยบางสิ่งบางอย่างกระแทกลงกับพื้นดังลั่น
ผมเบิกตากว้าง มือรีบคว้าไปทางลูกบิดก่อนจะพบว่าห้องไม่ได้ล็อค..

และเมื่อเปิดประตูออก .. ภาพที่เห็นก็ต้องทำให้ทั้งร่างถึงกับเย็นเฉียบ!

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก..

   ร่างเล็กของเพื่อนสนิทผมกำลังถูกเด็กหนุ่มตัวใหญ่ขึ้นคร่อมเอาไว้อยู่ ดวงตาของผมเบิกกว้างเมื่อเห็นคนทั้งคู่โน้มริมฝีปากลงทาบ
ทับกันจนสนิท

..ทั้งตัวมันชาไปหมด..ขยับไม่ได้..

   เห็นมือของจินไล่ไปตามลำตัวเล็กของเพื่อนสนิทผม.. ก็ยิ่งทำให้รู้สึกใจหาย..

..ไอ้นิว..

   เหมือนว่าเสียงเรียกในใจของผมมันจะสื่อออกไปได้ .. เพื่อนสนิทของตนเองเหลือบสายตามามองแวบหนึ่ง อีกฝ่ายเผยสีหน้า
ตกใจก่อนจะรีบผลักร่างคนที่กำลังทาบทามอยู่ทันที

   “เชี่ยกรด!”

อา.. ใช่ เสียงไอ้นิวกำลังเรียกชื่อของผม..

..ผม..ที่ยืนมองด้วยความตกใจ..

   ..มึง..เป็นเกย์เหรอวะ.. ไอ้นิว?

   คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวสมองว่างเปล่า สองขาเริ่มขยับได้อีกครั้งหนึ่งก่อนที่ทั้งร่างจะหันหลังและออกตัววิ่งให้เร็วที่สุดทันที!


   “มึง— กรด!!”

ผมได้ยินเสียงไอ้เชี่ยนิวเรียกตนเองอยู่ซ้ำไปซ้ำมาราวกับต้องการให้หยุด.. แต่มันกลับไม่ง่ายเลย..

   ความรู้สึกของผมคือสิ่งที่เรียกว่าไม่สามารถอธิบายได้ ทั้งช็อก ตกใจ ตะลึง ผิดหวัง .. และไม่เข้าใจ

ผมวิ่งออกมา.. แล้วผมจะไปที่ไหนต่อล่ะ?


   สองขาเผลอหยุดลงประตูห้องที่มีตัวเลข 607 ติดเอาไว้อยู่ ก่อนที่จะใช้มือเคาะประตูรัวแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีน้ำเสียงดัง
ออกมาจากปากผม

มีแค่ความผิดหวัง..  ไอ้นิว— มึงเป็นเกย์จริงๆเหรอวะ..

..จริงๆเหรอวะ..?

   ภาพที่ทั้งสองจูบกันลงไป เพื่อนสนิทของตนไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด .. คือสิ่งที่บอกชัด

แกร๊ก

   เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าหงุดหงิดของชายร่างสูงใหญ่ มันขมวดคิ้วแน่น มองมาเหมือนหาเรื่องเช่นเดิม

แล้วผมจะมาหามันทำไม? ไอ้ไลออนกับไทเกอร์ก็มี ทำไมไม่เดินไป?

..ทำไมผมขาของตนเองต้องหยุดลงตรงหน้าห้องไอ้เชี่ยนี่— คนที่ตัวเองเกลียดที่สุดด้วยกัน

   “จะเคาะหาพระแสงอะไร กุญแจก็มี...”

หมับ!

   ผมดึงมันเข้ามากอด อีกฝ่ายดูตกใจไม่น้อยพร้อมกับจะขยับออกแต่พอทราบว่าร่างของผมกำลังสั่นอยู่นั้นก็ถึงกับนิ่งไป ..

คุณอ่านไม่ผิด.. ผมดึงมันเข้ามากอด.. ไม่ได้ไปกอดมัน..

   ไอ้เชี่ยดำยังคงย่อตัวนิ่งๆ ไม่ปริปากบ่นว่าเมื่อยขาแต่อย่างไร ยอมให้ผมเป็นฝ่ายกอดมันอยู่อย่างนั้น เพียงไม่นานนักก็สัมผัสถึงท่อนแขนอุ่นที่โอบรอบเข้ามา มันไม่ได้กอดตอบอย่างแน่นหนา แต่อย่างน้อยก็ยังสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากสองท่อนแขนนั่น..


แล้วถ้าจะถามว่า ทำไมผมถึงดึงมันเข้ามากอด— ผมก็ไม่รู้หรอก


..

และถ้าอยากจะถามอีกต่อว่า ทำไมพวกเราถึงกอดกันโดยไม่มีปากเสียง

..


ผมก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน


...

   


_____________________________
เฮือกกก
อัพวันแม่
ฉลอง(?) ค่ะ...
ก๊าซซซ
มาอัพแล้วนะคะ >/////////<
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านมากเลยค่าา

____


@อ๊ายอาย อี๊สส พรมลิขิตบันดาลชักพาาาาาา กร๊๊ดเขินแป๊บ 55555 เค้าก็อยากไปอ่านพี่นะ แต่ว่าช่วงนี้ยุ่งเหลือล้นมาก 555555
 :sad4: ขอรอว่างๆก่อนนะคะ ก๊าซซซซซซซซ งานเยอะะะ 55555 (ไม่ได้อ่านอะไรเบยย T3T) ถ้าพี่รวมเล่มเมื่อไหร่ขออย่างละเรือ่งนะคะ-- ก๊าซซซซ


ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านค่าา >//<

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2014 17:14:58 โดย seira »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :m20: ตอนที่ 18 ทำเอาขำทั้งตอนเลยล่ะ

ยิ่งประโยค
อ้างถึง
“ดูดิ ขนาดยังไม่เข้าบทบาทนักแสดงยังสมจริงได้ขนาดนี้ คงไม่มีใครเหมาะเท่าพวกมึงแล้วล่ะ”

   “เออ นั่นดิ ยังไม่ทันที่จะเข้าบทก็แสดงได้แล้ว พรสวรรค์แท้ๆ”

กับที่ท๊อปสารภาพรัก ทำเอาขำกลิ้งจนหมดความเป็นผู้ดี ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh5: :laugh5: :laugh5:

ส่วนตอนที่ 19 นี่ช่วงแรกๆฮามาก แต่อยู่ๆก็ตัดเข้าฉากลากสู่ความดาร์ก ปมของน้ำกรดที่ไม่ชอบเกย์

ว่าแต่ จินนิว เค้าไปกินกันตอนไหน  :jul1:
ยังงี้ท๊อปก็ไม่สมหวังสิ วินเพื่อนรักปลอบใจท๊อปหน่อยสิ จับมันกดเบาๆ อิอิ  :laugh:

ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
กอดกัน น่ารัก :กอด1:
ดำดูแปลกๆ แหน่ แอบคิดอะไรรึเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6
ThankS

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
แป๊ะไว้ก่อน

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
 :hao6: น้องนิว ที่ไม่รับรักเพราะชอบคนอื่นอยู่แล้วสินะ

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
กำลังลุ้นเลย

seira

  • บุคคลทั่วไป
C h a p t e r  20
คนเกลียดกัน มักจะมีความลับกัน



   ไอ้ดำลากผมเข้ามาในห้องนานแล้ว

   อ่านไม่ผิดหรอกครับ มันฉุดกระชากจิกหัวผมที่เกือบจะงอกรากฝังอยู่หน้าห้องให้เข้ามายืนตัวสั่นหงกๆเป็นที่เรียบร้อย แถมไม่พอ

ฉุดกูเสร็จแล้วผลักกูให้ถอยห่างอีก นี่มึงจะยังไงวะ   

   “เป็นเหี้ยอะไรของมึง?” น้ำเสียงที่ไม่พึงพอใจดังขึ้นสร้างความแปลกประหลาดใจให้ผมทันที เฮ้ย เดี๋ยวๆแม่งไม่ได้ด่าแต่เสือก
ถามด้วยสีหน้าเรียบๆว่าเป็นอะไร เดี๋ยว มันแอบอามือถูแขนตัวเองอีกด้วย! นี่ขยะแขยงกูมากขนาดนั้นเลยเหรอวะ


   “กู.. กูไม่ได้เป็นเหี้ย กูเป็นสุดหล่อ” ไม่ไหวครับ ดราม่าแค่ไหนไอ้กรดคนนี้ก็ขอกวนตีนหน่อยเหอะ ผมเห็นชายตรงหน้าผงะไปแถมคิ้วกระตุกยิกๆก่อนจะเดินหันหลังกลับไปนั่งบนเตียงมันต่อ


   “เหี้ยขี้เหร่” อ้าว อยู่ๆด่ากูเฉยเลย! งี้ก็สวยเด้

   ผมตวัดสายตาจ้องกลับพร้อมชี้หน้าขู่


   “มึงก็เหี้ยเหมือนกันแหละวะ!”


   “มีวันไหนมึงไม่เคยด่ากูเหี้ยบ้าง?”


   “แล้วมีวันไหนมึงไม่เคยทำตัวเหี้ยบ้าง?” ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆจากมันหนึ่งที


   “มีวันไหนมึงจะทำตัวปากหวานๆบ้าง”


   ดูคำถามมึงสิ โธ่.. ถามได้แบบปัญญาอ่อนมาก ต่อให้โลกแตกน้องกรดก็ไม่น่าจะทำตัวดีๆกับมึงหรอกนะครับ น่าสงสารจริง อยากให้กูปากหวานกับมึงเรอะ.. ตายแล้วเกิดใหม่สิบชาติยังไม่คิดจะทำเล๊ย!


แต่เอ๊ะๆ เดี๋ยวขอด่าต่อก่อน


   “แล้วมีวันไหนที่มึง..” ผมไม่ทันที่จะพูดจบ ไอ้ดำกลับยกหนังสือการ์ตูนขึ้นมาเปิดดูพร้อมกับเอ่ยขัดผมทันที


   “หือ.. จะว่าไปก็หวานนี่หว่า เคยแดกแล้วครั้งนึง”
..








เงิบดิกู
ไอ้..ไอ้เหี้ย..







   “พ่องมึงตาย!!!” อ๊ากกกกกกกก! อย่างนี้แม่งหาเรื่อง!



   ผมแหกปากลั่นแล้วกระโจนเข้าไปหมายจะง้างหมัดใส่หน้าดำๆของมัน ยอมเปื้อนสีหน่อยก็ได้กูเดี๋ยวค่อยขัดออก.. แต่เอ๊ะ ถ้าผมต่อยแม่งต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่อีกแน่ๆ!


กูบีบคอแทนก็ได้วะ!


   แต่ไอ้ดำรู้ตัวทันครับ แม่งเบี่ยงหลบเลย


   “โอ๋ๆ พ่อกูยังไม่ตาย พ่อกูยังอยู่ดีเสวยสุข”


   “นี่มึงยังจะกวนตีนกูอีกเรอะ! ถ้ามึงพูดเรื่องนี้อีกทีละก็ กูจะตัดลิ้นมึง!” ไม่ไหวแล้ว ไอ้เหี้ยยย! ไอ้เหี้ยเอ๊ย กูเกลียดมึง พูดอะไรเยอะแยะนักหนาวะ


   ไอ้เชี่ยดำเลิกคิ้วเข้มของมันเล็กน้อยพร้อมกับหรี่สายตาลงเหมือนจับผิดขณะที่ผมฮึดฮัดสามสี่ที ยังไงมึงก็กวนประสาทกูเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ


   สุดท้ายมันดันพ่นลมหายใจออกแรง..
   และพอประโยคต่อไปก็ทำให้ผมนิ่งค้าง




   “แล้ววันนั้น.. มึงจะจูบกูทำไม? ไม่ใช่คิสธรรมดาด้วย ดีฟคิสอีกต่างหาก”
...


เอาตีนยัดปากมันตอนนี้ได้ไหมวะ..


   “ถ้ามึงพูดเรื่องนี้อีกที กูจะกระซวกไส้มึง!” เหี้ยย! คือกูจูบเองแล้วกูขนลุกเอง เข้าใจกูไหม เข้าใจหม๊ายย!


   “อ้อ.. รสนมสตอเบอรี่”

แล้วจะพูดต่อหาไก่แดกเหรอสัตว์!


   “เชี่ย! กูบอกแล้วว่าอย่าพูด หุบปากไปซะถ้าไม่อยากโดนกูตัดลิ้น!” แล้วตูจะทำตัวรนๆเพื่ออะไรวะ เชี่ยเอ๊ย! ผมยืนขึ้นแล้วมองไปบริเวณหัวเตียงแล้วรีบตรงควานหาของทันที “กรรไกรอยู่ไหนวะ อยู่ไหน กูจะเอามาตัด...”


ระหว่างที่กำลังหันซ้ายขวาพูดไม่ทันจบอีกรอบ ก็ถูกมันตัดหน้าไปซะก่อน






   “ตัวหายสั่นสักทีนะ”




..ซึ่งก็ทำให้ผมชะงักความคิดหากรรไกร..


   เมื่อผมก้มลงมองฝ่ามือของตนเองที่เคยสั่นระริกเพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก่อนหน้านี้กลับต้องเบิกตากว้าง.. ไม่สั่นแล้ว..



มันไม่สั่นแล้ว.. แปลกเป็นบ้า..


   ผมเปลี่ยนทิศสายตาไปมองไอ้ดำแล้วก็ต้องผงะทันที
เพราะมันกำลังจ้องมาทางนี้.. อย่างไม่วางสายตา



   “มานั่งนี่” ว่าแล้วอีกฝ่ายก็ตบลงพื้นดังแปะสองรอบเป็นเชิงให้ผมเดินไปหามัน



   “ทำไมกูต้องทำตามคำสั่งมึงวะ” เออ จริงไหมล่ะ ไอ้ดำเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนที่มันเกลียด..


..แล้วก็เดินมาหาผมเอง หนำซ้ำไม่พอ นั่งตุบบนเตียงผมด้วย!



   “ไอ้เชี่ย! เสนียดติดเตียงกู กูขี้เกียจซักผ้าปูที่นอนนะเว้ย!” ไม่ได้กวนตีนครับนี่เรื่องจริง ถ้าอยู่ๆสีผิวมันตกลงใส่ผ้าปูที่นอนผมจะ
ทำไงล่ะเฮ้ย ผ้าปูเตียงกูยิ่งขาวๆอยู่ “ไอ้สัตว์! ลุกออกไปเลยนะมึง!”


   “เจออะไรมา”


..นี่ไม่คิดจะเถียงกูกลับหน่อยเรอะ!
   ผมอ้าปากค้าง น้ำเสียงของอีกคนยังเรียบๆเหมือนเดิม แต่สายตานี่สิ.. เล่นทำให้ความคิดแถกลับของผมดับวูบเลย



   “เหี้ยเอ๊ย.. มองกูอย่างนี้หาพ่อมึง..” ว่าแล้วก็เสหน้าหลบอีกทางขณะที่ได้ยินเสียงถอนหายใจ



   “มึงเป็นเหี้ย ไม่ใช่พ่อ” ไอ้ดำยังคงคงโทนเสียงได้อย่างดิบดีจนผมอยากจะเข้าไปตบหลอดลมมันซะเหลือเกิน “แล้วตกลงไปเจออะไรมา”


..ยังไม่เลิกถามกูอีก!


   โอเค.. ผมตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติแล้วผลุบสายตาลงก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น ขณะที่หัวค่อยๆกรอย้อนไปถึงความทรงจำก่อนหน้านี้..


..ภาพ..ไอ้จินและไอ้นิวจูบกัน..



   “เชี่ยดำ..” น้ำเสียงของตนเองอ่อนแรงลงไปจนแทบจับความไม่ได้ ชายตรงหน้าผงะ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “..มึง.. กู— กู..”
..ผมควรจะทำอย่างไงดี..พูดอะไรไม่ถูกแล้วนะ




   “....” ไอ้ดำยังคงมองผมตาไม่กระพริบ บ้าฉิบหาย.. ไม่อยากให้มันเห็นเลยว่ะว่าน้ำตาของตัวเองแม่งคลอเบ้าอีกแล้ว ..เวรเอ๊ย




   โอเค ผมยอมรับอย่างหนึ่งครับว่าตั้งแต่เด็กยันโต แม่บรรเจิดคิดชื่อว่าน้ำกรดแต่เสือกร้องไห้ง่ายจนขัดกับนิสัยตัวเองเหมือนอีตุ๊ดแถวบ้าน..



ร้องไห้ง่าย โดยเฉพาะ..เรื่องเพื่อน



   “..กู..มึง.. มึง” รู้สึกว่าลำคอเริ่มแห้งผากไปกับสิ่งที่กำลังจะพูด ผมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายก่อนจะจิกเล็บลงบนตักของตนเองแน่น “..ฮึก.. มึง..”



   “เชี่ย.. เป็นเหี้ยไรมึงวะ..”



   เออ ชักเริ่มเดาได้ล่ะว่าแม่งไม่รู้วิธีรับมือกับคนร้องไห้ เจ๋งมาก ต่อไปนี้เกิดอะไรขึ้นกูจะร้องๆๆๆ ร้องแม่งจนมันสะพรึงเลย
แล้วผมร้องทำไมน่ะเหรอ?



..ก็เพราะว่า..




..เพราะ..









   “ฮึก.. กูขอโทษแทนไอ้นิวด้วยนะสัตว์ที่แย่งคู่ขามึงไปอ่ะ! ฮึกก ไอ้นิวกับไอ้จินแม่งแอบคบกันเว้ย กูขอโทษแทนเพื่อนกูจริงๆ ไอ้เหี้ย.. ไอ้..โฮฮฮฮ!!”








ผมปล่อยโฮแม่งง! น้ำตาหยดแหมะๆเลยกู ฮือออ


   ไอ้เชี่ยดำเหมือนนิ่งช็อกไปของจริง ผมจึงถือโอกาสนี้ระบายสิ่งที่ติดค้างไปให้หมด



   “กูขอโทษแทนเพื่อนกูนะที่แย่งคนสำคัญของมึงอ่ะ..ฮึกกก! กูขอโทษนะมึง กูขอโทษที่มันเอาไอ้จินไปทำผัว ทิ้งให้มึงกลายเป็นเมียม่าย....”




ผัวะ!!!





และกำปั้นมันก็ตบลงกบาลผมอย่างรวดเร็ว!





   “เหี้ย!”


นั่นแน่ะ ด่ากูอีกหนึ่งที!


   ผมสะอึกสะอื้นอย่างเจ็บหัว เงยหน้ามองไอ้ดำด้วยสภาพคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนใบหน้าของตนเองจนหมดหล่อ สะอึกฮึกๆเป็นการเสริมให้มันดูน่าสงสาร.. ถึงจะท่าทางน่าตบก็เหอะ


..แต่ยังพูดไม่จบ .. ขอต่อก่อน..



   “กูขอโทษที่เพื่อนกูทำให้มึงกลายเป็นเมียม่าย..”



   “..เมียม่ายคืออะไรวะ?”



   “..พ่อม่าย แม่ม่าย มึงคงเป็นเมียไอ้จินสินะ กูบรรลุแล้ว มึงก็น่าจะเป็นเมียม่าย...”



ผัวะ!


รอบสองแล้วนะสัตว์!



   “พ่อมึงตาย!” อะ อ้าว! ไอ้เชี่ยนี่มาด่าผมทำไม ไอ้เราอุตส่าห์ดราม่านึกสงสารมึงนะ มันทำหน้าบึ้งใส่ ขมวดคิ้วแล้วจ้องผมเขม็ง “ใครบอกว่ากูเป็นเมียไอ้จิน?”



   “หรือมึงเป็นผัว?”



ผัวะ!



รอบสาม! ทำไมวันนี้กูโดนมันตบหัวเยอะจัง อย่าให้กูหยุดร้องนะมึง จะเอาตีนตบคืน!!


   “กูกับไอ้เชี่ยจินไม่ได้เป็นเหี้ยอะไรกันทั้งนั้น นี่มึงใช้ส้นตีนหรือขี้เลื้อยในหัวคิดวะ!” น้ำเสียงด่าจริงจังดังลั่นเข้ามาจนทำหูของผม
แทบหนวกไปข้างหนึ่ง หากแต่เนื้อความในประโยคนี่สิ ทำให้ตนเองถึงกับนิ่งค้าง



..ว่าไงนะ..



   “แต่ไอ้จินมันเป็นคนที่มึง..ไม่เคยทิ้ง กูก็นึกว่ามันเป็นคนสำคัญ..” ผมพูดเสียงจ๋อย “ว่าแต่.. มึงกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกเหรอ?” แอบชำเลืองมองหน้าอีกฝ่ายนิดหน่อย เล่นทำตาดุใส่ซะงั้น



   “เออ!”


   “..งั้นกูก็หน้าแตกอ่ะดิ?”




   “เออ!!”




   “....” ผมมองหน้ามันนิ่งๆ



   “ชัดยัง!!?”




 เออ .. กูรู้ล่ะ แม่งชัดแล้ว ชัดแจ่มแจ้งเลยล่ะ



   คิดแล้วผมก็ลุกพรวด เห็นไอ้เหี้ยตัวเดิมหันมองหน้าตามติดๆแล้วถามอีก “ไปไหน?”
แหม.. ยังจะมีหน้ามาถามอีกนะครับ




   “ไปหยิบไม้มาฟาดเหี้ยที่แม่งไม่เคยบอกกูสักแอะ!” กระชากเสียงพร้อมกับตวัดสายตาหา แม่งอึ้งสักพักก่อนจะขำเบาๆ “เชี่ยไรมึงอีกวะ”



   “มึงนี่มันพวกคิดไปเองสินะ” แม่งพูดแล้วก็ยักไหล่ ส่วนผมก็ฉุนอย่างเดียวสิ เถียงอะไรไม่ออกเหมือนกัน ฮืออออ อยู่ๆกูเล่นน้ำตาหยดแหมะๆเพราะสงสารมันอ่ะ เวรแล้วไง บัดซบเอ๊ยยย! นี่ตกลงคือมันไม่เป็นอะไรกันเหรอวะ!



..ว่าแต่ .. ทำไมวันนี้ถึงคุยกันดีๆได้นะ..



   “ไอ้เชี่ยจินกับไอ้นิวเพื่อนมึงแอบสปาร์คกันลับๆตั้งนานแล้ว เพิ่งรู้หรือไง?” ไอ้ดำยังคงพูดกลับพร้อมกับยักไหล่น้อยๆเชิงเหมือน
ผมโง่มาก เออ ใช่ ตอนนี้ก็โง่จริงๆนั่นแหละ



โง่ที่ไม่รู้เหี้ยอะไรเลย..


   “หะ..สปาร์ค?” ผมทวนคำเดิมด้วยน้ำเสียงตกใจ ขณะที่เด็กหนุ่มยังคงพยักหน้าและก้มลงเปิดหนังสือการ์ตูนอ่าน.. บนเตียงกูอีกด้วย เชี่ย! “เดี๋ยวสีตก ไสหัวออกไปจากเตียงกูเลย ชิ้วๆ”



โดนสายตาคมๆเหลือบมามองแวบหนึ่ง แล้วมันก็วกเข้าเรื่องต่อ



   “แล้วมึงจะเอาไงล่ะ” ไอ้ดำยิงประโยคคำถามใส่ผมที่เล่นเอาชะงักไปทันที “หรือมึงจะหนีไอ้นิวเพราะมันเป็นเกย์ ผันตัวกลายเป็นคนเกลียดกันไปเลย”


..จะตรงไปไหนวะ..

   ทั้งร่างของผมนิ่งค้างไปชั่วครู่ ภาพที่นิวและจินจูบกันยังคงติดค้างอยู่ในหัวอย่างไม่หยุดหย่อน วนเวียนไปมาอยู่อย่างนี้ราวกับเทปหมุนกรอซ้ำ




   มันเป็นเกย์.. แต่ไม่เคยบอกผม..



..มึงจะผันตัวเป็นเกย์เหรอวะไอ้นิว..
..บ้าเรอะ ใครเกย์วะ กูกำลังตกใจอยู่นะเชี่ย..




   ภาพความทรงจำก่อนหน้านี้ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับเสียงคำตอบของไอ้นิว .. แม้จะดูเป็นประโยคคำถามที่ไร้สาระ แต่กลับสามารถทำให้ผมเริ่มเก็บไปคิดได้พอควรเลยด้วยซ้ำ


..คำตอบของไอ้นิว..



   “..เหี้ย?” ..สาบานนะว่ามึงกำลังเรียกชื่อกูอยู่น่ะไอ้ดำ..



..ผมเป็นคนแคร์สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เพื่อน’ ครับ.. แม้บางทีอาจจะดูกวนประสาทหรือน่าตบกะโหลกไปหน่อยก็ตาม ถ้าเป็นคนที่
ผมแคร์แล้ว ผมแคร์ที่สุด.. รวมถึงไอ้นิวด้วย


มันเป็นเพื่อนสนิทที่ผมแคร์ ..และบอกความลับกับมันทุกเรื่องอย่างไม่มีข้อปิดบัง..

แต่มันกลับ.. โกหกผม แถมท่าทางจะนานแล้วอีกต่างหาก


   “..กู..” ทราบทันทีว่าน้ำเสียงของตนเองสั่นเครือจนน่าตกใจ ผมเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้น ขณะที่รับรู้ได้ว่าไอ้เชี่ยดำกำลังจ้องมาทางตนเองอยู่ “..กูเสียใจ..”


   “ที่มันเป็นเกย์?” อีกฝ่ายพูดราวกับเจือปนความสงสัยที่ฟังได้ชัดเจน ผมส่ายหัวรัว “แล้ว.. เสียใจอะไร?”
   ผมเงยหน้ามองมัน แอบเห็นภาพเลือนลางนิดหน่อย.. น้ำตากูคลอสินะ



..พอเป็นเรื่องเพื่อนแล้วก็อ่อนแอทุกที..









   “..กูเสียใจ.. ที่มันปิดบังกูว่ะ..”





   เหมือนโลกหยุดนิ่งไป ทุกอย่างค่อยๆเงียบลงชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนที่ผมจะเห็นมือใหญ่หยิบไอโฟนขึ้นมาจิ้มอะไรบางอย่างบนหน้าจอ เดี๋ยว โรงเรียนมีกฎห้ามเล่นโทรศัพท์แล้วมึงมีไอโฟนได้ไง.. ไม่ดิๆ




นี่กูดราม่า มึงยังจะเล่นไอโฟนอีกเหรอวะ!




   “เหี้ย! ตกลงมึงจะ...”




   “พูดใหม่” ผมชะงักปากที่กำลังจะหาเรื่องมันแล้วขมวดคิ้ว



พูดใหม่งั้นเหรอ?


   “อะไรวะ?”

   “กูบอกให้พูดใหม่.. ที่มึงเสียใจน่ะ เป็นเพราะเหี้ยนิวเป็นเกย์งั้นเหรอ?” นั่นไงครับ คำถามมาเหมือนเดิมอีกแล้ว ผมขมวดคิ้วแน่นพร้องใช้จังหวะฮึดฮัดสะบัดน้ำตาที่กำลังคลออยู่อย่างเทพๆสไตล์นายน้ำกรด



   “นี่มึงหูหนวกเหรอวะ จะให้ตะโกนเลยไหมสัตว์?”



   “ตะโกนได้ก็ดี”  อะ อ้าว! มาท้ากูอีกนะ ผมจ้องมันเขม็ง คิดว่ากูไม่กล้าเหรอวะ หา!


   “กูบอกว่าที่กูเสียใจเพราะไอ้เหี้ยนิวเพื่อนกูมีความลับกับกู ไม่ใช่ที่มันเป็นเกย์!! ไอ้สัตว์! ชัดไหมมึง! ชัดไหม!”



   แม่งหาเรื่องทางอ้อมกันชัดๆ! เชี่ยดำเสือกยกนิ้วก้อยขึ้นมาแคะหูอีก โอ๊ย! สนใจโดนลูกถีบนายน้ำกรดไหม หา สนไหมวะ!
หากแต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงต่อเนื่องมา








ตึก


 ตึก


 ตึก


ตึก



   ..เหมือนว่าจะเป็นฝีเท้าของใครบางคนกำลังวิ่งอยู่บน... เพดานห้องผม




ซึ่ง.. เพดานห้องผมนั้นก็เป็น.. อดีตห้องเชี่ยดำ..ที่ตอนนี้มีนิวกับจินอยู่



   สมองขี้เถ้าของผม ถึงมันจะโง่ดักดานแต่ก็ยังพอเข้าใจเหตุการณ์อยู่ ก่อนหน้านี้ไอ้เชี่ยดำยกโทรศัพท์ขึ้นมาจิ้มๆอะไรสักอย่าง


แล้วพอผมตะโกน ถัดไปก็ได้ยินเสียงคนวิ่งบนเพดานห้องตัวเอง



ไม่ใช่ผีหรอกครับ... ผมมั่นใจ..



   “ไอ้เชี่ยดำ.. อย่าบอกนะว่ามึง..” นัยน์ตาของตนตวัดมองหน้ามันที่ยังคงนิ่ง อีกฝ่ายไหวไหล่เล็กน้อยพลางเมินหน้าหนีไปอีกทาง

..อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้มันโทรหาไอ้เชี่ยนิว.. ไม่ก็ไอ้จินน่ะ..




   และไม่ทันต้องเดา เสียงเปิดประตูก็ดังลั่น





โครม!!





   ผมอ้าปากค้างเห็นร่างเล็กของเพื่อนสนิทยืนหอบแรงอยู่ที่หน้าประตู นิวจ้องผมเขม็งด้วยสายตาจริงจังกว่าครั้งไหนที่เคยเห็นมา สองขาเรียวสาวเท้าเข้ามาใกล้ในขณะที่เหลือบเห็นเจ้าจินตามเข้ามาติดๆ



..เรื่องอะไรวะเนี่ย..



   “ที่กู..แฮ่ก ..ที่กูไม่บอกมึงน่ะ..แฮ่ก..” น้ำเสียงหวานหอบเบาราวกับเหนื่อยล้าจากการวิ่ง ผมกระพริบตาแรง มองใบหน้าเพื่อนซี้ที่เข้ามาใกล้ พวงแก้มของอีกคนขึ้นสีแดงระเรื่อจนดูน่ารักด้วยซ้ำ


..เวร นี่กูไปชมมันทำไมวะ นี่กำลังดราม่าอยู่นะ ไอ้กรด เรียกสติๆ!



   “เชี่ยนิว..” ผมครางชื่อเพื่อนสนิทออกมาแผ่วเบาพร้อมกับมองใบหน้าของมันกลับ อีกฝ่ายกัดฟันกรอดไปชั่วครู่แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก



..ก่อนจะตะโกนลั่นออกมา



   “ที่กูไม่บอกว่ากูเป็นเกย์น่ะ เพราะมึงเอาแต่พูดว่าเกลียดเกย์ๆ! ขยะแขยงเกย์! เพราะถ้ากูบอกไปมึงก็คงตัดเพื่อนกับกูแน่ๆน่ะเซ่!!”




..เงียบดิ.. ใช่ ..จริงของมัน..



   ผมเอาแต่บอกว่าเกลียดเกย์ ขยะแขยงเกย์ ถ้าไอ้เชี่ยนิวบอกเพศของมันมา มองในแง่อีกฝ่ายก็คงคิดว่าผมจะตีตัวออกห่างแน่ๆ..



   “กูน่ะนะ.. กูอยากเป็นเพื่อนกับมึงอยู่ว่ะ น้ำกรด กูอยากเป็นเพื่อนสนิทมึงเข้าใจไหมวะ..” เสียงอีกฝ่ายดูอ่อนล้าลงทำให้ร่างกายของผมนิ่ง



..เข้าใจสิวะ.. เข้าใจ..



   ไอ้นิวหอบหายใจแรง ใบหน้าของมันเหมือนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว..



   “..มึง.. กูขอร้อง.. กูเป็นเกย์ ใช่ กูเป็นเกย์..” น้ำเสียงสั่นริกนั่นทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา ท่าทางไอ้นิวก็กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากไม่ต่างกับผม



..ไม่ต่างกันเลย.. เพราะพวกเราคือเพื่อนกัน..
และอยากเป็นเพื่อนกันเรื่อยๆต่อไป




   “..แต่กู— ยังอยากเป็นเพื่อนกับมึงอยู่ .. อย่าเอาเรื่องเพศเป็นปัญหากับคำว่า ‘เพื่อน’ ได้ไหมวะ กรด..”
ผมมองหน้านิว



ปัญหาอะไร? ปัญหาที่ว่าผมจะเลิกคบกับมันเพราะมันเป็นเกย์อย่างนั้นเหรอ?

คิดแล้วก็อยากขำเบาๆว่ะ..



   ผมส่ายไปมาเล็กน้อยเหมือนปลอบใจอีกฝ่าย แต่ไอ้นิวยังคงก้มหน้าอยู่เช่นเดิมจึงตัดสินใจเอื้อมมือเข้าคว้าไหล่บางเอาไว้เบาๆ



   “..กูไม่ขยะแขยงมึงหรอก รวมถึงเกย์ด้วย— แค่พูดไปงั้นแหละสัตว์ แล้วก็ขยะแขยงแค่เฉพาะบางคน” ไอ้ประโยคหลังแอบเหลือบมองหน้าเชี่ยดำนิดหน่อย แต่เหมือนไม่สะทกสะท้าน ดำดีสีไม่ตก ด้านตายห่าชัวร์ป้าบ “กูกับมึงเป็นเพื่อนกันมาจะครบ 3  ปีแล้ว ทิ้งเพราะเหตุผลแค่นี้แม่งก็ปัญญาอ่อนไปหน่อยมั้ง ใช่ปะ?”




   เห็นสีหน้าซาบซึ้งใจของเชี่ยนิวทันที แน่ะ วันนี้กูหล่ออ่ะดิ แห๊ม



   “..เออ . .ว่ะ จริงด้วย กูลืมคิดไปเลย”



   ผมหัวเราะแล้วเข้าไปขยี้หัวนุ่มๆของนิวจนฟูฟ่อง แต่ก็ต้องหันไปด่าอีกรอบเพราะไอ้.. จะเรียกว่าไอ้เหี้ยไรดีวะ คู่ขาไอ้นิว เชี่ยจิน? เอ่อ มันก็แขยงปากแปลกๆที่เรียกว่าคู่ขา เอาเป็นเรียกว่าไอ้เชี่ยจินแล้วกัน


เชี่ยจินแม่งมีแขวะกันอีกต่างหาก



   “เฮ้ย นี่พูดอะไรดีๆเป็นด้วยเหรอวะเนี่ย”



เชี่ยยย!


   แอบด่าในใจครับแต่ไม่ขอพูดอะไร ผมชำเลืองมองใบหน้าไอ้เชี่ยดำเล็กน้อย.. มันเป็นตัวคลี่คลายเรื่องที่อุตส่าห์กดโทรศัพท์ไปให้เลยนี่หว่า แม่งเอ๊ย อยากจะขอบคุณแต่พอเห็นหน้ามันแล้วรู้สึกว่าต่อยสักหมัดเป็นการตอบแทนได้ไหมวะ


แต่เอาเหอะ



   “เฮ้อ.. ไอ้เชี่ยนิว มึงนะมึง คิดไปได้ไงว่ากูจะรังเกียจ” ผมสูดลมหายใจเข้าลึก เปลี่ยนเป็นตวัดสายตามองใบหน้าเพื่อนซี้ที่ยิ้มแก้มปริราวกับโลกนี้ไม่มีเรื่องทุกข์แล้ว ต่างจากเมื่อครู่นี้ลิบลับยิ่งกว่าหน้ามือและหลังตีนซะอีก




   “เอ้า ก็มึงพูดบ่อยๆนี่หว่า ถึงจะพูดเล่นก็เหอะ” 



เอ่อ ก็จริงของมันอีก





   ผมนิ่งไปครู่หนึ่ง ครุ่นคิดบางอย่างด้วยความลังเลในใจก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดมุ่นเล็กน้อยพร้อมหันไปมองหน้าไอ้นิว



..บอกดีไหมวะ .. ปิดมาจะครบสามปีแล้ว..



แต่ถ้าไม่บอกก็รู้สึกผิดแปลกๆ.. และบางทีอาจจะไม่ต้องมีอะไรปิดบังแล้วก็ได้
   ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ในขณะที่เห็นเจ้านิวยังยิ้มระรื่นเหมือนเดิม ผมสูดลมหายใจเข้าลึกออกลึกราวกับเรียกแรงในร่างตนเอง ก่อน



จะพูดประโยคถัดไป






ที่ทำให้ทุกสายตาหันขวับมามองผมราวกับกลายเป็นจุดสนใจ










   “กูจะไปรังเกียจเกย์ได้ไงล่ะ .. ในเมื่อกูเองก็เคยเป็นเกย์มาก่อนเหมือนกัน”
..



_______________________________________________________________

U////U จะรีบมาลงต่อนะคะ จุ๊บบบบบ
 รักทุกคนค่าาาาา แอ๊ยย  :mew1:

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
 :hao7: น้องขาว พี่ดำ ลูกเทาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อร๊ายยยยยย เล่าด่วนเลยลูก มันค้าง  :z3:

seira

  • บุคคลทั่วไป
C h a p t e r  21
คนเกลียดกัน มักจะเจอโชคชะตาเล่นตลกด้วยกัน


   หลังจากวันที่ผมบอกความลับไปก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ..


..ตอนนี้ผมกำลังเล่นซ่อนแอบอยู่ครับ..

ไม่ใช่! จะว่าเล่นซ่อนแอบก็ไม่ได้สิ ต้องพูดว่ากำลังหนีไอ้ไลออนที่ลากตัวไปซ้อมละครกับไอ้เชี่ยนิวที่ห้องเก็บของโรงยิมอยู่ต่างหากล่ะครับ!


“ไอ้เหี้ย.. โดดงี้.. คิดดีแล้วเหรอวะ” เสียงเชี่ยนิวร้องออกมาแว่วๆ ถึงจะพูดอย่างนั้น มึงก็เขยิบหลบหลังกูอยู่เหอะ


“เออ หรือมึงจะไป?”


“ไม่”


พวกคุณรู้หรือยัง.. ว่าไอ้เชี่ยนิวก็มีบทน่ะ!


   แถมบทที่มันได้ยังแทบทำให้ไอ้นิวอยากจับผมปั่นเหลวแล้วเอาราดหน้าตัวเองเลย! ..เอ่อ เมื่อกี้เป็นมุขครับ มันอยากเอาน้ำกรด
ราดหน้าตัวเองให้เสียโฉมแบบทันทีทันใด


เพราะบทที่มันได้.. คือ นางเอก!
นางเอกตัวเล็กตัวน้อย ร่างบางน่ารัก!



   คือไม่อยากจะยอมรับหรอกนะ แต่มึงน่ารักจริงๆนี่หว่า สงสารมันข้อนี้เหมือนกันแต่ก็ช่วยไม่ได้ เรื่องพรรค์นี้มันขึ้นอยู่กับหน้าตาของแต่ละคน ผมยักไหล่เล็กน้อยพลางเอนตัวพิงกับเบาะเขียวในห้องเก็บของโรงยิม


..จะว่าไปที่โรงยิม..


   เหมือนสมองของตนจะเริ่มทำงานปั่นขี้ฝุ่นน้อยๆออกแล้วเกิดเป็นความทรงจำประหลาดที่สมควรจะลบออกผุดพรวดพราดขึ้นมาเล่นเอาทั้งร่างสะดุ้งเฮือก


..รส—ช็อกโกแลตเปเปอร์มินต์..
เชี่ย! ผมคิดอะไรอยู่วะ!!


   “มึงเป็นเหวไรวะกรด?” น้ำเสียงหวานที่เรียกสติของตนเองให้กลับมา ผมหันขวับพลางส่ายหัวรัว ไอ้นิวขมวดคิ้วเชิงจับผิดก่อนจะพูดต่อ “เอ้อ.. มึง กูสงสัยอย่างนึงน่ะ”


   “เหี้ยไรอ่ะ?”


   “มึง.. เคยเป็นเกย์จริงๆเหรอวะ”


พรวด!

   ตูแทบสำลักน้ำลาย! จริงสิ หลังจากบอกอดีตตนเองตอนม.ต้นไปแล้วทุกๆคนรวมถึงไอ้เชี่ยดำก็ดูเหมือนจะอึ้ง ทึ่ง ช็อกไปตามๆกันเลยทีเดียวด้วยซ้ำ ซักถามเท่าไหร่ผมก็ตัดสินใจปิดปากเงียบ ใครจะไปอยากบอกหรือนึกถึงเรื่องที่ตัวเองเลิกไปแล้ววะ!


   “เออดิ กูโกหกมึงทำไมวะ หรือเห็นกูเป็นพวกตอแหล?” ผมย้อนกลับพร้อมพ่นลมหายใจแรง ตวัดดวงตามองหน้าเพื่อนซี้ที่ดูอยากรู้อยากเห็นจนน่าตบหัวสักป้าบ


   “ใช่”



ป้าบ!
   ขอหน่อยเหอะ ซัดฝ่ามือลงไปบนหัวเล็กๆของไอ้นิวรอบหนึ่ง!



   “เชี่ย! ทำร้ายกู! รับผิดชอบมาด้วยเล่าเรื่องม.ต้นซะ” แหม มึงนี่ คิดว่ากูจะใจอ่อนกับคนหน้าหวานเหรอวะ เออ ใช่ กูใจอ่อนกับ
คนที่หน้าหวานเหมือนผู้หญิงหรือพวกเพศแม่ครับ


..แต่ไม่ใช่กับมึง ไอ้เชี่ยนิว!


   “ไม่เสือกสักวันจะตายเปล่าวะ?” ผมย้อน เลิกคิ้วเล็กน้อยพลางมองหน้าอีกฝ่าย เชี่ยนิวเสือกพยักหน้าอีกต่างหาก แม่งจะตรงไปไหนวะ “งั้นก็ตายไปเหอะมึง”    


   “เหี้ย! นี่กูโกรธที่มึงไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้กูฟังนะเว้ย พอมารู้ก็ตอนม.6 มึงจะปิดบังกูต่อทำไมวะ”


เอ่อ .. จริงของมัน ผมจะปิดทำไมในเมื่อบอกขนาดนี้?



   นัยน์ตาของตนเองเหลือบไปทางไอ้เพื่อนซี้ที่กำลังส่งสายตาหวานแหววประกายระยิบระยับอยู่ก่อนที่จะถอนหายใจดังเฮือกชัก
ใจอ่อนแล้วซะอย่างนั้น..



..แล้วเริ่มพูด ซึ่งทำให้เชี่ยนิวตาประกายแวววับทันที..



   “เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนม.ต้น “ ผมเกริ่นด้วยท่าทีมาดแมนก่อนจะยกเท้าวางขึ้นโต๊ะ เห็นไอ้นิวกลายเป็นหมาอยากรู้อยากเห็นหูกระดิกๆอีก เสือกชาวบ้านนี่มาก่อนจริงๆสินะเพื่อนกู




   “แล้วไงวะๆ” ยังมีขอต่อ ผมกรอกตาไปมาก่อนจะลองนึกถึงเรื่องในอดีต..





..ในอดีต..






อดีตที่ไม่น่าจดจำของผม
...







   “กูเคยมีคนรักเป็นผู้ชาย”





   “...”





   “จบว่ะ”




   “..................”




   แหม .. หน้าตาไอ้นิวตอนนี้น่าสงสารจริงๆ เหมือนจะสื่อว่า ‘มึงเป็นเกย์ จะให้มีคนรักเป็นทอมเหรอวะ’ ประมาณนี้อีก โธ่ๆ คิดแล้วก็ขำ



   “ไอ้เชี่ยกรด! นี่ตกลงมึงจะมีความลับกับกูเหรอ!!” ก๊ากกกกก! โอ๊ย ไม่ไหว! ไอ้นิว มึงนี่น่าสงสารจริงๆนะสัตว์ ผมพยักหน้าแล้ว
ยักคิ้วหล่อใส่มัน


   “ถูกต้องนะคร้าบ!”


ดูแม่งดิ โกรธตัวสั่นเลย ไอ้.. ไอ้... ด่าเหี้ยไรวะ ตั้งแต่รู้ว่ามันเป็นเกย์ นับวันผมยิ่งมองไอ้เหี้ยนี่จากหน้าหวานเปลี่ยนเป็นน่ารักไป

ซะแล้ว ยิ่งตอนโกรธนะ หน้ามันขึ้นสีแดงๆจางๆอีกต่างหาก แม่งเอ๊ยยยย โอ๊ย.. ไอ้กรด ใจเย็น ใจเย็นดิวะ แล้วทำไมหลังจาก

ป่าวประกาศว่าเคยเป็นเกย์แล้วความคิดจริงๆในหัวผมเริ่มเตลิดมองผู้ชายน่ารักวะเนี่ย


หรือกูหลงรักไอ้นิว?



ฉิบหาย!! เชี่ยจินจะด่ากูไหมวะเนี่ย กูจะโดนฆ่าไหมฟะ!



   หากแต่ไม่ที่ไอ้นิวจะตะโกนด่าผม กลับเป็นเสียงประตูห้องเก็บของโรงยิมที่ถูกเปิดดังลั่นเสียก่อน และนั่นก็คือสัญญาณของคำว่า ‘นรกมาเยือน’ อย่างไงล่ะครับ



ปัง!



   “ไอ้เชี่ยกรด ไอ้เหี้ยนิว! ไป – ซ้อม – ละ – คร!”



เชี่ยย!! ไอ้ห่าไลออนมันมาได้ไงวะ!




   ทั้งผมและไอ้นิวสะดุ้งเฮือกพร้อมกัน กระโดดเกาะแทบไม่ทันเมื่อแสงจากโรงยิมสาดส่องเข้ามาทางประตู.. พร้อมกับเงาไอ้เหี้ย
เสือที่เดินเข้ามา..




   “ไอ้เชี่ย! นี่มึงมาได้ไงวะ!” นิวพูดพร้อมกับเอานิ้วชี้หน้าขณะที่มันยังเกาะผมแน่นครับ โธ่.. นี่น้องน้ำกรดกลายเป็นหนุ่มแมนขนาดนี้แล้วเหรอวะ มีคนหน้าหวาน(อย่างเชี่ยนิว)มาเกาะหลบหลังกูเนี่ย..



ถึงจะเป็นหลบหลังเพื่อพยายามหนีจากการแสดงละครก็เหอะ


   ไอ้ไลออนเบ้ปาก เมินคำถามไอ้นิวแล้วนอกเรื่องอีกต่างหาก



   “นี่มึงนอกใจไอ้นัยเหรอวะกรด เชี่ยมาก” ไลออนว่าแล้วชี้หน้าผมอีก หะ หา? อะไรวะ นอกใจห่าไร!  กูงงนะสัตว์ “เชี่ยนิว มึงจะเป็นชู้กับไอ้กรดเหรอวะ?”



   “ไม่ใช่โว๊ย!”



   “กูก็ไม่ได้เป็นเชี่ยไรกับไอ้ดำ!” ผมพูดต่อจากไอ้นิวแล้วจ้องหน้าเชี่ยไลออนเขม็งครับ แม่งมีการมาหรี่ตาเล็กน้อย ยักคิ้วซ้าย ยักคิ้วขวาอีกต่างหาก “อยากโดนตีนกูไหม!?”



   “ว๊าย! น้องสิงโตกลัวจังเลยค่ะพี่เสือ!” นั่นไง แอบเห็นไทเกอร์เดินมาติดๆ เชี่ยไลออนเนียนจัดกระโดดเกาะอก ไอ้ห่าร๊ากกกก
กก!


ไทเกอร์ก็ดีเหลือเกิน เพิ่งเดินมาก็รับมุขไอ้ไลออนทันทีอีก



   “กลัวอะไรเหรอจ๊ะน้องสิงโตของพี่! ใครทำอะไรน้องสิงโต!” แม่งมีการประคองตัว โอบเอว จ้องตากันแบบมาดแมนอีก ผมควรจะ
ใช้เวลาที่มันเล่นตลกวิ่งหนีไปดีไหมวะ?



   “คะ คือ คือพี่เสือคะ น้องสิงโตแค่พูดว่าอิกรดนอกใจพี่นัยไปคบชู้กับนิวเองน่ะค่ะพี่ขา น้องสิงโตกลั๊วกลัว”
ไอ้เหี้ยยย เสียงมึงจะดัดจริต ตอแหลไปไหนวะ!



   แล้วไหงเป็น ‘อิกรด’ ‘พี่นัย’ และ ‘น้องนิว’ วะ โหย ไม่แฟร์ชัดๆ



   “อิกรดบ้านพ่องมึงไอ้เชี่ยเสือเน่า!!” ผมแหกปากแล้วกระโจนออกมาจากห้องเก็บของโรงยิมเพื่อขอถีบตูดมันแรงๆสักรอบหนึ่งครับ!


แต่นั่นแหละ.. เลยทำให้พลาด!



   “จับตัวไอ้กรดกับไอ้นิวแล้วแบกมันกลับห้องไปซ้อม!”



..ห๊ะ!!?



   ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ จากเห็นภาพตรงหน้าเป็นเชี่ยไลออนกำลังซบอกไอ้ไทเกอร์ ก็มีเสียงแว่วๆ คาดเดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนหน้าเด็กไอ้ซานตะโกนลั่น..

เฮ้ย.. เดี๋ยว!?



   แล้วทุกอย่างก็มืดลงไปหมด!



   “ไอ้เชี่ยยย!! นี่มันอะไรวะ!!” ผมโวยวายลั่นครับ .. แม่ง! แม่งมีใครไม่รู้เอากระสอบคลุมหัวผม.. ไม่ดิ ทั้งตัวเลย! “อ๊ากกกก! อย่า อย่ายกกูสิวะมึง อย่า! เหี้ย ใครยกกูห้องหอบึ้มม!!”



แหกปากดิ.. เพราะตัวผมลอยแล้ว!




   ตกลงมันคือแผนยั่วโมโหเพื่อที่จะลากผมกับไอ้นิวไปซ้อมละครใช่ไหมวะ! สุดท้ายเจ้านั่นก็เลิกยกผมแล้วเปลี่ยนเป็นลากผมในกระสอบใหญ่แทน โอ๊ย .. ตูดกเสียดสีกับพื้น จะระบมอยู่แล้วเนี่ย ห่า!



   “เพราะมึงไม่ยอมมาเองนะเว้ย กูเลยต้องใช้แผนนี้” ได้ยินเสียงเชี่ยไลออนดังแว่วๆ ผมหน้าบูด แต่คงไม่มีใครเห็นหรอก.. เพราะกูอยู่ในกระสอบทรายนี่ไง! ดิ้นไปก็เปล่าประโยชน์แท้ๆ จะลากก็ลากเดะ แม่งเอ๊ย ตูดกู๊! “มึงยกไอ้กรดแบบที่จินยกไอ้นิวไม่ได้เห
รอวะ?”




   เหมือนไลออนจะถามคนที่ลากผมอยู่ เออ นั่นดิ ใครวะ


   “ไม่”


แม่ง ดีแล้วล่ะ อย่ายกกูเลย ขอร้อง! เดาๆเอาไอ้คู่รักโลกแตกนั่นน่าจะอุ้มแน่ๆครับ เวรเอ๊ยย

   “ใครลากกูวะไอ้เสือ” ผมถามเพื่อนไลออนแล้วก้มหัวลงนั่งมองกระสอบ แหม กูไม่เห็นเหี้ยอะไรเลยนะ แต่ท่าทางมันจะไม่ได้ยิน
ครับ เสือกเงียบอีก


เออ ก็ได้


   “เฮ้ย! ไอ้คนที่ลากกูอยู่ มึงเป็นใครวะ” ลองถามหน่อยเดะ ผมไม่รู้ว่าจะอะไรหรอก แต่สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายชะงักไปนิดหน่อย



   “คน”



..แม่ง เออ! กูรู้ว่าเป็นคน แล้วใครวะ!


   “เหี้ย! รู้แล้วเว้ย ชื่อเหี้ยไรวะ?” ถามต่อครับ แม่งเหมือนลากผมไปเรื่อยๆอีก


   “ไม่มีใครชื่อเหี้ย”


อ้าว.. กวนตีนกูอีกนะมึง!


   ไม่ทันจะได้ถามอะไรต่อ มันก็โยนปล่อยกระสอบออก ถึงจะทำให้หลังกระแทกแต่ผมยิ้มกว้างทันที เอ้อ! ดีมากมึงที่ปล่อยกูก่อน!

..และพอไต่ๆออกมา เสือกไม่เห็นหน้าคนที่ลากผมมาซะแล้ว..



   “กูยืมสนามบาสในการแสดง เข้าใจไหมวะ” พอออกมาสู่โลกภายนอก ได้ยินเสียงเชี่ยไลออนมาคนแรกเลยครับ โอ๊ย พอเวลา
งานแล้วมันเข้าเรื่องจริงๆไอ้เหี้ยเอ๊ย “ไอ้กรด! มึงมายืนใกล้ๆกับกูเลย เดี๋ยวหนีอีก”


   “คร้าบ!”



   ผมพยักหน้าหงึกๆแล้วปัดตูดนิดหน่อย คือมันปวดตูดอ่ะ เสียดสีกับพื้นนานไปหน่อย แต่สุดท้ายกูก็ต้องมาแสดงสินะ



   “เหี้ย.. พวกมันโหดร้ายอ่ะกรด..”



แน่ะ.. ไอ้นิว ไม่ต้องมางอแง แต่แม่งน่าสงสารจริงๆว่ะ..


   ผมรู้สึกทั้งสงสารทั้งขำเชี่ยนิวที่ได้บทนางเอกไปนะครับ ต้องแสดงเป็นผู้หญิง! ผู้หญิงเชียวนะคุณ โอ๊ยย!


   “อ้าว ไอ้นัยไปไหนล่ะ?” เป็นเสียงของนิวเช่นเดิมที่หันไปถามจิน แม่ง พวกมึง จะตัวติดกันไปไหน แพ็คคู่เลยใช่ไหมสัตว์ อะไรวะเนี่ย!

   “มันบอกลากเหี้ยนานไปหน่อยเลยปวดแขน โอ้ นั่นไง มาแล้วๆ .. ไอ้เหี้ยนัย!” ลากเหี้ยนานไปหน่อยเหรอ? ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคนี้ อะไรของมันวะ


   พอหันไปตามที่ไอ้จินเรียกก็ปรากฏร่างสูงใหญ่ของชายผิวแทนที่เดินเข้ามา มันหันมองผมแวบหนึ่ง



..แวบเดียวจริงๆนะ.. แล้วเสือกพูดประโยคต่อไปคือ..



   “หัดลดน้ำหนักซะบ้างนะ”




..มึงคือคนลากกูเองสินะไอ้สัตว์!!




   “อ้อ ไม่ใช่แค่ลดน้ำหนัก อย่าโดดซ้อมด้วยก็ดี”


ผมกัดฟันกรอด.. ไอ้เชี่ยเอ๊ย ไอ้เหี้ย! จะอะไรกับกูนักหนาวะ ฮึ่ม..

ได้แค่ฮึดฮัดครับ ยังไม่อยากตอบกลับ ..


..


ซะที่ไหน ไม่ด่าแม่งก็ไม่ใช่น้องน้ำกรดดิ





   “เฮ้อ รู้สึกไหมวะนิวว่าคนดำๆแม่งน่ารำคาญ”


   “เหี้ยมักปากหมา น่าตบกะโหลก ใช่ไหมวะจิน”


   “เออ นิว ช่วงนี้หมาสีดำๆเห่าได้เนอะ เห่าเก่งด้วย”



   “จิน ช่ว..”


   “พวกมึงช่วยหยุดกัดกันแล้วฟังที่กูก่อนได้ไหมวะ ..?”

เฮือก!


   ต้องหุบปากฉับพลันเมื่อไอ้ไทเกอร์เดินเข้ามาแล้วเอ่ยประโยคนี้ คือตอนนี้หน้ามันไม่ได้เล่นๆแบบแต่ก่อน จริงจังขึ้นมานิดนึง ผม

กับไอ้ดำเลยเงียบไปเลยปริยาย ท่าทางไทเกอร์จะอารมณ์เสียนิดหน่อยด้วยละมั้งเนี่ย?


   สุดท้ายก็เข้าใจครับ เพราะตอนนี้ทุกคนเงียบหมดเลย ส่วนซานก็เดินยืนข้างหน้าและอ่านบทละครเรื่องราวคร่าวๆ ได้ก็คือ


นางเอก(เหี้ยนิว)จะได้แสดงบทนิสัยดี รักสันติ น่ารัก และเป็นพวกที่คุณแม่สอนมาดี แต่พี่ของตัวเองกับคนข้างบ้านกลับชอบ

ทะเลาะกันตลอด จนมีอยู่วันหนึ่งมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ ตบตี ชกต่อยกัน ทำให้ทุกคนต้องรีบมาห้าม สุดท้ายนางเอกก็พูดให้

เข้าใจและเรื่องก็จบที่คู่กัดทำตาม รักกันในที่สุด..


บทอะไรง่ายๆตอนจบปัญญาอ่อนๆ.. แต่...


..หะ..เดี๋ยว? คู่กัดรักกันในที่สุดเรอะ..


   จำได้แว่วๆว่าผมกับไอ้ดำแสดงคู่กัด..


   “เชี่ย!! กูไม่อนุมัติบทนี้!” ยกมือเสนอกับไอ้คุณซานที่กำลังชี้แจงครับ มันผงะไปนิดหน่อยพลางหันมามองผมแล้วตีหน้าเศร้าซะงั้น อ้าว นี่คิดว่าเศร้าแล้วตูจะยอมเหรอ!


   “แต่.. เราแต่งมาแล้วอ่ะ..”


ทีอย่างนี้แทนตัวเองว่าเราเชียวนะมึง! ไอ้ตอแหลลล!


   “เราก็ไม่อยากได้บทนี้เหมือนกันนะ เปลี่ยนเป็นคู่กัดเราตายดีกว่าไหม?” เสียงใครวะ.. ไอ้เชี่ยดำนี่เอง แม่งมาเงียบๆแต่เสือกได้เหมือนเดิมครับ เสือกกวนตีนกู!



แต่ผลก็คือ ไอ้ซานโดนไทเกอร์ลากตัวไปแล้วกรอกหูว่าไม่ต้องฟังพวกมันน่ะเซ่!!


   “เปลี่ยนจากนางเอก เป็นพระเอกไม่ได้เหรอวะ?” นี่ไง เชี่ยนิวมาต่อด้วยสีหน้าคร่ำเครียด ท่าทางจะจริงจังครับ แต่คนตอบเสือกไม่ซานซะนี่..


เป็นไอ้เชี่ยเสือเหมือนเดิม!


   “ไม่ได้หรอก ต้องนางเอกนี่แหละ ดีแล้ว!”


   “ทำไมวะ?”


   คราวนี้เจ้าไลออนเสนอหน้า เขยิบเข้าประชิดไอ้ซานที่ยืนบื้อด้านซ้าย ตามด้วยไทเกอร์ก็เขยิบมาประชิดอีกด้านขวา
แล้วพูดพร้อมๆกันอีก


   “เพราะมันเป็นเทรนด์ยังไงล่ะ”


..ถุย!


   เฮ้ยๆ! ผมเปล่าถุยนะ! นั่นมันสีหน้าไอ้เชี่ยนิวต่างหากล่ะ!!


   “เอ้อ เดี๋ยวกูแจกบทก็แล้วกัน นักแสดงอีกสี่คนเขาได้บทแล้วก็กลับไปนานแล้วน่ะ” ผมเลิกคิ้วมองไลออนเล็กน้อยแต่ก็ไม่สนอะไรมากนัก


เฮ้อ.. กิจกรรมโรงเรียนสินะ กูทำก็ได้วะ!



   คิดเพียงเท่านี้แล้วรับกระดาษจากมือไอ้ไลออนครับ ผมไล่สายตามองไปตามตัวหนังสืออย่างไม่เร่งรีบ



   หืม.. ตัวละคร.. นางเอกชื่อ..


   “นางเอกชื่อแคลอรี่ นั่นมันหน่วยอาหารไม่ใช่เหรอวะ!” ..เอ่อ นั่นแหละ ชื่อแคลอรี่ เสียงร่ำไห้จากไอ้นิวดังแว่วๆ มึงมันน่าสงสาร

ที่สุดในเรื่องจริงๆด้วย เชี่ยนิวเอ๊ย!


   เอาเหอะ มาหาบทของตัวเองก่อนดีกว่า


   ผมพยายามไล่สายตาไปยันบทละครของตนเอง ไม่รู้ว่าเป็นตัวเหี้ยอะไรในเรื่องเลยด้วยซ้ำ ทว่าคิ้วเรียวก็ต้องขมวดมุ่นทันทีทันใด
เมื่อสะดุดกับชื่อของตัวเองที่อยู่ใกล้ๆไอ้ดำ..




..เพียงเท่านั้นแหละ.. ผมถึงกับช็อกค้างเลย..



เพราะบทของผมมัน...




   “เฮ้ย!! กูไม่อยากได้บทนี้!”


   เป็นไอ้เชี่ยดำที่ตะโกนมาพร้อมกับอ้าปากค้างครับ นั่นไง หลุดมาดเงียบๆกวนตีนๆของมึงแล้วนะสัตว์!


เออ สมควร กูยังช็อกค้างเลย


   “แต่มันเป็นบทนี่น่า คิดอะไรมาก” ไอ้ดำสั่นหัวแรงยืนยันว่าไม่อยากได้ มันชี้กระดาษที่บทตัวเอง ก่อนที่คนอื่นๆจะพากันขำลั่นซะงั้น รวมไปถึงไอ้นิวกับไอ้จินด้วย!


   “เหี้ยเอ๊ย .. กูเห็นบทมึงกับไอ้นัยแล้วดีใจที่ตัวเองเป็นนางเอกว่ะ”


..นั่นไง..


   ไอ้นิวเดินเข้ามาตบบ่าผมแปะๆขณะที่ยิ้มจนตาปิด นี่มึงไม่เครียดเรื่องบทของมึงแล้วใช่ไหมวะ..


   “จะให้ไอ้เหี้ยนั่นแสดงบทนี้ไปคนเดียวก็ได้ แต่ก็ไม่อยากแสดงบทนี้แล้ว!” แม่ง .. คู่กัดผมยังโวยวายเหมือนเดิม มึงนี่ไม่ไหวเลยนะ จะเงียบๆแบบกูก็ได้..


..เฮ้ย ว่าแต่ มันพูดอะไรนะ?



   “ไอ้เชี่ยย! กูก็ไม่อยากได้บทนี้เหมือนกันน!” ผมร้องลั่นเดะ เอออ! ใช่ นายน้ำกรดคนนี้นี่แหละร้องลั่นเลยครับ ขณะที่ไอ้ไทเกอร์ไลออน รวมไปถึงซานกลั้นหัวเราะอยู่ “ไอ้บทนี้ไปกับไอ้ดำซะ! กูไม่ไหวกับบทนี้ว่ะ!”


   ว่าจบก็เอามือชี้ไปที่กระดาษอย่างร้อนรน แต่เหมือนทุกคนยังหัวเราะอยู่เหมือนเดิม .. หัวเราะ— หัวเราะหาพ่องมึงเหรอ!!



   “ห่า! กูก็ไม่อยากได้บทนี้ มึงเอาไป!”


   “เชี่ย!! กูไม่เอา มึงอ่ะ เอาไป เข้าคอนเซปกว่าเยอะ!”


   “เอาล่ะๆ ไม่ต้องแย่งกัน .. พวกมึงสองตัวได้เหมือนกันนั่นแหละน่า คิดไรมากวะ” ประโยคดังออกมาจากปากไทเกอร์ทำเอาผมและเชี่ยดำหันขวับ


..ยังจะกล้าถามกูอีกเหรอว่าคิดอะไรมาก หา ยังจะกล้าถามอีกเหรอ!


   ผมมุ่งมั่น ชี้ไปยันกระดาษ สภาพไม่ต่างจากเหี้ยดำมากนัก




ก่อนที่จะตะโกนดังลั่น..แถมยังพร้อมกันอีกต่างหาก







   “แล้วทำไมกูต้องแสดงเป็นกะเทยด้วยวะ!!”
..




___________________________

 :mew1: :mew1: แอ๊ย ในที่สุดก็ว่างเข้ามาค่ะ T3T จะพยายามอัพเรื่อยๆน้าาา >< ขอบคุณที่ติดตามค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.21 UP (5/10)
«ตอบ #110 เมื่อ05-10-2014 20:31:44 »

กระเทยยย  :laugh:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.21 UP (5/10)
«ตอบ #111 เมื่อ05-10-2014 22:38:03 »

เป็นกะเทยแล้วตอนจบมารักกัน แล้วใครจะรุกล่ะเธอ
ถ้านัยใส่ชุดผู้หญิงนี่ฮาแน่ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh5:

seira

  • บุคคลทั่วไป
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
«ตอบ #112 เมื่อ06-10-2014 22:59:29 »

C h a p t e r  22
คนเกลียดกัน มักจะไม่ชอบให้มาดูถูกกัน


   “ต๊าย! อีคนที่วันๆแต่ปลูกผักไปมันจะมีอะไรดีกั๊น!”
   น้ำเสียงวิปริตดังออกมาจากปากของผมด้วยสีเหยียดหยามพร้อมกับตวัดสายตามองไอ้เหี้ยดำที่กำลังยืนนิ่ง ท่าทางหมดอาลัยอาวรณ์ซึ่งพอเห็นแล้วกูอยากจะขำใส่ดังๆจริงๆ



   “พี่คะ! อย่าไปว่าเขาอย่างนั้นสิคะ!” ไอ้นิววิ่งเข้ามาก่อนจะเอาตัวบังระหว่างผมกับชายผิวแทน โธ่.. มึงนี่นะ แต๋วแตกแล้วนะสัตว์
เอ๊ย



   “อะไรกันล่ะยะยัยเด็กนี่! ก็มันเรื่องจริงนี่ ดูซิ ปลูกผักจนตัวดำเลยเนี่ย อ๊ายย! น่าสงสาร!” ว่าแล้วเอาเข้าไป เอ้า! ผมใช้มือชี้ผิวสีแทนของคนที่กำลังยืนหน้าตายอยู่ด้วยอีกนะ  “ว๊ายๆๆ น่าสงสารๆๆ!”


   “นี่หล่อนจะ...”


   “คัท!! ไอ้นัย! นี่มึงหัดพูดให้กระแดะๆไม่เป็นเหรอวะ แรดๆอ่ะมึง แรดๆ!”



   น้ำเสียงดังลั่นออกมาจากปากของไทเกอร์ที่กำลังยืนจ้องอยู่พร้อมกับชี้หน้าเชี่ยดำ มันทำหน้าตายใส่พร้อมกับหันหนีไปอีกทาง



   “กูไม่เอาบทกะเทย!”



   “หัดดูตัวอย่างไอ้น้ำกรดบ้างดิเหลือแค่ตูดบิดอีกนิดหน่อยก็เป็นได้อยู่แล้วเนี่ย” อืม ใช่ๆ  มึงควรจะเอากูเป็นตัวอย่างในการแสดงบทกะเทยที่ดีนะ...


..ถุย!



   “ คิดว่ากูอยากได้บทนี้มากนักเหรอไอ้กะหล่ำ!!” ผมตะโกนลั่นพร้อมหันขวับมองหน้าเชี่ยไทเกอร์ ไหงมึงเอากูมาเป็นตัวอย่างล่ะ เหี้ยเอ๊ย! “กูก็แค่แสดงไปตามบทบาท!”



   พอจบประโยค ชายผิวแทนก็หันมามองผมแวบหนึ่งแล้วพูดเสียงเรียบทันที



   “บางทีมันอาจจะเป็นจริงก็ได้.. ใครจะรู้”

ปรี๊ด.. อะไรวะ นี่กูแสดงนะสัตว์ แสดง! หัดฟังภาษาคนให้ออกซะบ้างดิวะ!

   “นี่มึงหาเรื่องกูเหรอไอ้เหี้ย! บอกว่าแสดงก็แสดงไง!!” ผมกระชากเสียงตนเองดังลั่นพร้อมกับเดินเข้าไปหาไอ้เชี่ยดำพลางชี้หน้าอีกฝ่ายที่กำลังทำท่าทีไม่สนใจแล้วก้มลงอ่านบทเงียบๆแทน “ได้บทกะเทยก็ดีกว่าไอ้นิวที่มันต้องเป็นสาวเต็มตัวแล้วกัน!”

   แอบเห็นคนถูกพาดพิงสะดุ้งโหยง หันขวับแล้วทำหน้าสื่อทางจิตกับผมว่า ‘แม่งเกี่ยวอะไรกับกูอีกวะ’ ด้วยแหะ


   “หึ”

สาดดด! เสียงนี้อีกแล้ว กูเกลียดแม่งง!




   โอเค ผมจะเริ่มมาอธิบายคร่าวๆว่าที่เกริ่นขึ้นบทนี้มันไม่ได้มีอะไรมากเลยนอกจากซ้อมละครของห้องตัวเองครับ แค่ลองอ่านบทและแสดงท่าทีคร่าวๆเพียงเท่านั้น และดูเหมือนเชี่ยนิวจะราบรื่นกับตัวละครสาว ผมพอถูๆไถๆกับบทกะเทย..
เหลือแต่ไอ้ดำที่แม่งไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย!




   คิดดูซิ นี่ก็ซ้อมมาหลายเทคแล้วนะ กูอยากกลับบ้านครับ มึงช่วยทำหน้ากระแดะไม่ก็แรดๆ เสียงดัดจริตหน่อยได้ไหมวะไอ้เชี่ย!




   “ทุกคนคงเหนื่อยกันมาก มาพักก่อนดีกว่านะ กูทำไข่ต้มมาให้แดกกันด้วยล่ะ” น้ำเสียงหวานใสที่ไม่เข้ากับรูปประโยคดังออกมาจากปากของผู้คิดบทอย่างซานที่เดินเตาะแตะเข้ามาพร้อมถาดและชามกระดาษที่มีไข่ต้มเต็มไปหมด “ทะด้า!”



   “ช่วงนี้ว่าไข่แพงไม่ใช่เหรอซาน? ไหนมึงซื้อมาได้วะ” ไลออนเอ่ยถามเป็นคนแรกก่อนจะกระโดดเข้าไปย่อมๆมองๆไข่ต้ม


   “นั่นสิ ไข่แพงนะ ฟองละตั้งหลายบาท” ไทเกอร์ก็ยังจะพูดสริมอีก แถมระหว่างที่คนถูกถามอ้าปากจะตอบ แม่งก็เสือกคว้าไป
คนละใบสองใบด้วย ไอ้สัตว์ มือเร็วกันจริงๆ!



   ผมมองไข่ต้มพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้าไปหยิบกิน เหมือนเจ้าซานนี่จะปลอกเปลือกไข่จนหมดแถมยังสวยงามอีกต่างหาก ระหว่างที่กำลังจะอ้าปากงับก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูดแว่วๆมาเล่น


   “อ๋อ .. ที่บ้านเลี้ยงไก่น่ะ”



พรวด! .. ไข่ต้มกูหล่นเลยครับ!



   “อ๋ออ.. อย่างนี้นี่เอง” ไลออนกับไทเกอร์เสือกไม่ตกใจกันสักนิดเดียว! แม่งลากเสียงพร้อมกับเดินละลิ่วเคี้ยวไข่ต้มเหยาะซอสแม็กกี้หนึ่งทีไปด้วยอีกต่างหาก ผมมองตาค้างในขณะที่เจ้าหนุ่มหน้าเด็กหันมาฉีกยิ้มกว้าง



   “เอ๋? หิวเหรอ เดี๋ยวมึงเอาเพิ่มไปก็ได้นะ” ได้แต่พยักหน้ารับแกนๆไปครับก่อนจะรับไข่ใบใหม่พร้อมน้ำจิ้มซองแถมมาด้วยอีก ท่าทางบ้านแม่งจะเปิดฟาร์มไก่จริงๆด้วยแหง “ว่าแต่ .. มึง แสดงบทนี้ไหวเปล่า อยากให้กูช่วยเปลี่ยนบทไหม?”


ได้ยินน้ำเสียงอ้อมๆแอ้มๆดังเข้ามา แต่ผมเบ้ปากใส่


   “เปลี่ยนตอนนี้มันจะทันเรอะ” ยักไหล่น้อยๆเป็นสัญญาณเชิงไม่แคร์ หากแต่เมื่อดวงตาของผมมองไปยันใบหน้าหวานหยดของอีกฝ่ายที่ควรจะเรียบเนียนและดูผุดผ่องเหมือนวันก่อนที่เจอก็ต้องชะงักกับรอยดำใต้ขอบตาและสภาพใบหน้าที่ดูโทรมไปมากเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว



ทำไมหน้าโทรมขนาดนั้นวะ?



   ผมมองไปยันไข่ต้มขาวๆก่อนจะสรุปทันที



   “ต้มกับลอกเปลือกไข่ออกนี่มันยากขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”  เปรยขึ้นเบาๆขณะที่เห็นซานเริ่มวิ่งไปให้บริการไข่ต้มกับคนอื่นครับ เดาๆเอามันน่าจะนั่นแกะไข่หลังต้มเสร็จให้เพื่อนๆซะด้วย ขยันขันแข็งซะจริงนะ กะอีแค่งานโรงเรียนเอง ไหงพยายามขนาดนี้วะ

จะว่าไป ไอ้เชี่ยดำแม่งอยู่ไหนวะ?



   พอกำลังจะหันไปหามันก็ต้องสะดุดสิ่งที่ตนเองคิดเมื่อครู่ .. เชี่ยล่ะ จะมองหามันทำไม? เฮ้ย! หรือว่าช่วงนี้สายตากูต้องการอะไรที่มันมืดๆวะ ฉิบหาย..



โอเค ผมขอสรุปว่าที่มองหาเชี่ยดำ เพราะอยากเห็นมันฝึกซ้อมท่ากะเทยตูดบิดอยู่!



   “เฮ้อ.. นี่กูทำดีหรือยังวะ?” แล้วทั้งร่างของตนก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆเชี่ยนิวเดินมาแล้วกระซิบข้างหูซะอย่างนั้น ผมหันขวับด้วยความตกใจ ไอ้เหี้ยเอ๊ย มาอะไรวะ ไม่ให้เสียงกันเล๊ย! “มึงคิดว่าไง?”


   โอ้ มันหันมาถามผมแหะ ได้ งั้นตอบไปแล้วกัน


   “ตุ๊ดดีนะมึง”



ผัวะ!



..ตบหัวกูอีก ไอ้เชี่ยย! หัวคนนะครับ ไม่ใช่กลอง ตบอยู่ได้!


   “อะไรมึงล่ะ ไอ้เชี่ย!”


   “อ้าว ก็มึงแสดงเก่งอ่ะ เหมือนสาวเด๊ะๆเลยไอ้นิวเอ๊ย!” คิดไปก็ขำ เห็นท่าทีมันดูสาวๆนั่นอีก ผมมองเพื่อนสนิทที่กำลังทำหน้า
เซ็งก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย จะว่าไปตอนแรกไอ้นิวมันมีท่าทีต่อต้านการแสดงเป็นสาวนี่หว่า แล้วไหงอยู่ๆยอมจัดเต็มบทบาทวะ
   คิดได้ปุ๊บ ก็เลยถามไปปั๊บ


   “ตอนแรกมึงไม่อยากแสดงนี่หว่า ไหงตอนนี้ตั้งใจทำอย่างกับสาวจริงๆวะไอ้นิว” เจ้าของชื่อผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหันมามองผม

“หะ ..  อย่าบอกนะว่ามึงอยากกลายเป็นสาวจริงๆแทนเกย์แล้วอ่ะ! เฮ้ย! มึงง! อย่ายกมือตบหัวกู!”

   รีบห้ามเลยครับ เชี่ย กูล้อเล่นนิดเดียว เสือกจะยกมือคิดจะตะเพิดหัวผม!

   สุดท้ายแม่งก็ถอนหายใจแรงๆแล้วเอนหัวซบกับหลังของผมครับ อ้าว อะไรมึงเนี่ย


   “ความจริงกูก็ไม่ได้อยากทำหรอกนะ .. เหนื่อยจะตายห่า” ว่าแล้วมันก็เอาหัวมาถูๆไถๆกับหลังผม เอ่อ คือ กูอยากบอกว่าถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนกูนึกว่าแฟน สัตว์ แล้วเสือกมาเป็นเกย์อีก คิดอะไรกับกูเปล่าวะไอ้เชี่ยนิว!

เอ๊ะ แต่ผมก็เคยเป็นเกย์เหมือนกันนี่หว่า? เฮ้ยๆ นั่นมันแค่เคย ไม่นับ!


   “แล้วจะตั้งใจทำไมวะมึง” สงสัยสิครับงานนี้ เห็นบอกไม่อยากทำแต่เสือกตั้งใจจนถ้าสวมวิกคงกลายเป็นสาวได้เลย หากแต่ก็ต้องผงะไปเมื่อผมเห็นนิ้วเรียวของอีกฝ่ายชี้ตรงไปยันคนที่เพิ่งบริการไข่ต้มให้นักแสดงทุกคนเสร็จแล้วกำลังนั่งพักอยู่ “หา?”

   “..เพื่อเจ้านั่น”

คิ้วของตนถึงกับขมวดแน่นด้วยความไม่เข้าใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อ

   “มึงหลงรักซานหรอ แล้วไอ้จินล่ะ”

   “หัวมึงคิดได้แค่นี้จริงๆเหรอวะเชี่ยกรด” ได้ยินเสียงบ่นจากมันก็ยิ่งทำให้ผมขมวดคิ้วผูกกันเป็นปมกว่าเดิม “มึงลองมองไอ้ซานดูสิ”

มองมัน? มองทำไมวะ..

   ว่าแล้วผมก็หันไปตามที่มันบอกก่อนที่จะชะงัก คนตัวเล็กบางกำลังก้มหน้าใช้หัวฟุบลงบนโต๊ะอยู่ด้วยท่าทีอ่อนล้า ..


..นอนพัก?


   “กูได้ยินมาจากไอ้คู่แฝดกำมะลอว่าเจ้านั่นทุ่มเทกับงานนี้มาก” น้ำเสียงของเพื่อนสนิทตนเองเกริ่นขึ้นมาข้างๆในขณะที่ผมกำลังมองซานอยู่ “รู้สึกว่าแก้บทบ่อยมากๆ แถมยังไม่ได้หลับไม่ได้นอนอีกด้วย”


..และก็เริ่มเข้าใจที่เชี่ยนิวตั้งใจแสดงแล้ว..


   “ทำไข่ต้มแถมปลอกเปลือกมาเรียบร้อยให้พวกเรากินด้วย จริงไหมล่ะมึง” นิวยังคงพูดต่อ ขณะที่มันผละหัวออกจากหลังของผม “แถมยังเป็นห่วงทุกๆคนด้วยอีกต่างหาก ก่อนหน้านี้ก็ลองถามกูว่าไหวไหมอีกด้วย”


   ผมนิ่ง ความทรงจำเมื่อครู่ไหลเข้าในหัว


..มึง แสดงบทนี้ไหวเปล่า อยากให้กูช่วยเปลี่ยนบทไหม?..
   ..ภาพรอยคล้ำและใบหน้าทรุดโทรมของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นมาจนทำให้ต้องหยุดคิดลง
   ผมหันไปมองคนที่กำลังนอนฟุบหน้าอยู่กลางแดดด้วยท่าทีเหน็บเหนื่อย..


   “มันโคตรทุ่ม .. ถ้างานล่มล่ะก็แม่งคงเสียใจแน่ๆ ดูสภาพตอนนี้ก็น่าจะรู้นะสัตว์”


..ทุ่มเทกับงาน ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อเพื่อนๆและเพื่อห้อง..


ผมเริ่มหันกลับมาย้อนดูตัวเองที่แทบไม่ได้ช่วยทำอะไรเลยหนำซ้ำยังขี้เกียจไปวันๆอีกต่างหาก



ปกติก็เอาแต่โดดไปนู่นไปนี่โดยไม่คำนึงถึงเพื่อนที่อยู่เบื้องหลังและคอยทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง หากแต่พอจะรับรางวัลห้องก็เฮ มีความสุขกันทั้งห้อง และเมื่อห้องแพ้ตนเองก็ดันเข้าไปต่อว่า ด่าเพื่อนที่มันทำงานว่าห่วยแตก โดยไม่สนใจความรู้สึกของพวกมันที่ตั้งใจ...



..ทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์ด่าแท้ๆ..


   ผมมองไปยันซานที่กำลังนอนฟุบหัวอยู่บนโต๊ะสักพักใหญ่ ..เอาเถอะ


.. ไหนๆม.6 ก็ปีสุดท้ายที่จะได้ทำเรื่องพวกนี้แล้วนี่หว่า..
..เป็นประโยชน์สักปีเพื่อคนที่พยายาม.. คงไม่เป็นไร!

...







   “พวกมึงง! มาซ้อมกันอีกรอบเร็ว พักกันจนเย็นแล้วนะโว๊ย!”


   น้ำเสียงตะโกนลั่นของไทเกอร์พร้อมกับการโบกมือไล่ต้อนพวกเพื่อนๆที่กำลังพักผ่อนแล้วทำท่าทีอิดโรย ผมพ่นลมหายใจแรง วางบทที่นั่งอ่านเมื่อครู่นี้ลงก่อนจะตั้งสติ เอาล่ะ ไอ้น้ำกรด บทกะเทยก็ต้องแสดงเป็นกะเทยให้สมจริงแม้ใจจะเป็นชายชาตรี(?)ก็ตาม!


   คิดเสร็จแล้วก็เดินตามเสียงเรียกของไอ้ไทเกอร์ไป

หากแต่ระหว่างที่กำลังจะเดินไป กลับสวนกับใครบางคน..

..ใครบางคน.. ที่ก่อนหน้านี้กำลังตามหาอยู่..

   ก่อนจะได้ยินประโยคพึมพำที่ทำให้ผมขมวดคิ้วแน่น


   “แม่ง..จะอะไรนักหนาวะ น่ารำคาญ”
..




“ต๊าย! อีคนที่วันๆแต่ปลูกผักไปมันจะมีอะไรดีกั๊น!”


   ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ตนเองคิดว่าดัดจริตอย่างสุดชีวิตก่อนจะเชิดหน้าตามด้วยสะบัดก้นไปอีกทางแบบคนที่เห็นต้องอ้าปากค้างไปเลยทีเดียว หึ กูใส่เต็มที่กับชีวิตแล้วนะครับ! ก้นโด่งตูดบิด นายน้ำกรดคนนี้ทำได้!


   ไอ้นิวน่ะสิ เสือกมองตาค้างอย่างตกใจก่อนจะเรียกสติตนเองเมื่อได้ยินจินเดาะลิ้นเบาๆอีก คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาทางผมพลางใช้ร่างนั่นบดบังให้ไอ้ดำกับน้องน้ำกรดคนนี้ห่างกันทันที


   “พี่คะ! อย่าไปว่าเขาอย่างนั้นสิคะ!” คราวนี้ผมรู้สึกได้ว่าเสียงของมันดูใส่อารมณ์และท่าทีร้อนรนตามบทมากกว่าเดิมครับ คราวที่แล้วว่าแต๋ว คราวนี้กูเรียกมึงไอ้ตุ๊ดนิวเลยดีกว่า สัตว์! โอ๊ยยย พูดเรื่องดราม่ากับความพยายามของไอ้ซานแป๊บเดียว มึงแปลง
เพศได้เลยเหรอวะ


   “อะไรกันยะยัยเด็กนี่! ก็มันเรื่องจริง! ดูซิ ปลูกผักจนตัวด๊ำ ตัวดำแล้วเนี่ย อ๊ายย! น่าสงสารๆ!” แอบเติมบทให้มันปากไปนิดหน่อยด้วยแหะ ผมทำท่าทีหยิ่งยโส พลางใช้นิ้วกรีดกรายราวกับกะเทยผู้มีประสบการณ์ใส่เชี่ยดำ “ว๊ายๆๆ! น่าสงสารจุงเบย อ๊ายย!”


   “นี่หล่อนจะ...”


   “คัท! นี่มึงหัดใส่อารมณ์มากกว่านี้ไม่เป็นเหรอวะไอ้เชี่ยนัย!”


   ทุกอย่างเหมือนจบลงก่อนที่ผมจะถอนหายใจออกมาแรงๆเมื่อได้ยินเสียงสั่งหยุดพร้อมกับคำด่าดังจากปากของไอ้ไทเกอร์เป็นชุดๆ มันขมวดคิ้วแน่นพลางจ้องหน้าชายร่างสูงเขม็ง


   ไอ้ดำยกมือขึ้นยีหัวแรงๆครับ คิดว่าตัวเองหล่อมากเหรอวะ เหอะ แสดงเป็นกะเทยไม่ได้ ถือว่ายังไม่ถือว่าหล่อเว้ย   


“..กูไม่อยากได้บทนี้” มันยังคงยืนยัน ในขณะที่ผมหันมองผู้พูดแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย


   “แต่มึงอ่ะยังไงก็ต้องบทนี้” ไลออนย้ำ จ้องผู้ที่พูดอยู่ด้วยเขม็ง “มึงดูเชี่ยกรดสิวะ แม่งทำออกมาได้ดีกว่ามึงอีกนะ”


   “...”


   ผมนิ่ง เอ่อ ควรจะดีใจไหมวะที่กูแสดงเป็นกะเทยเก่งว่าไอ้ดำเนี่ย?

   สุดท้ายก็สั่งให้คนอื่นๆได้กลับบ้านไปก่อนเหลือแค่ไอ้ดำกับคนหลักๆอย่างไลออน ไทเกอร์ และซาน รู้สึกว่านิวจะเดินปลิวว่อนหายไปไหนพร้อมกับเหี้ยจินแล้วก็ไม่รู้ครับ ตัวพวกมันเริ่มติดกันอย่างกับแมลงวันและก้อนขี้ตั้งแต่วันที่ความสัมพันธ์ถูกเปิดเผย แต่ก็ดีเหมือนกัน ดูเหมือนว่าเชี่ยนิวก็ไม่ค่อยเกร็งเวลาอยู่กับผมและจินสามคนอีกด้วย


   และเมื่อผมหันกลับไปอีกทางก็ต้องผงะกับเชี่ยดำที่กำลังยืนขมวดคิ้วแน่นด้วยท่าทีจริงจังพร้อมคุยอะไรบางอย่างอยู่กับไทเกอร์ ไลออน และซานอยู่


   “มึงหัดจริงจังหน่อยดิวะสัตว์ เพื่อห้องอ่ะ เพื่อห้อง” ไทเกอร์พูดก่อคนแรก จ้องไอ้ดำไม่วางตา


   “เออ นั่นดิ จริงจังหน่อยเป็นไหมวะมึง” ไลออนเสริมต่ออีก ผมยืนเกาหัวแกรกๆ เห็นอย่างนั้นแล้วจึงเปลี่ยนทิศจะตามหาเหี้ยนิ
วกับไอ้จินแทนดีกว่าแหะ

   หากแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยตะโกนลั่น   


   “กูบอกกี่ครั้งแล้ววะว่าไม่อยากแสดงบทเหี้ยๆนี่!!”


ทั้งห้องเหมือนตกอยู่ในความเงียบสงัด ทั้งไลออนและไทเกอร์ก็พาลชะงัก ยืนอึ้งไปด้วย..
รวมถึงเจ้าหนุ่มหน้าเด็กก็เช่นกัน


   นัยน์ตาของผมตวัดกลับไปมองใบหน้าคมเข้มที่กำลังขบกรามจนขึ้นเป็นสันนูนพร้อมกับมือที่กำแน่นราวกับสกัดกั้นอารมณ์ความรู้สึกมานาน


   “มาบังคับคนอื่นอยู่ได้ กู – ไม่ – ชอบ! ไอ้เชี่ยเอ๊ย ไร้สาระฉิบหาย จะอะไรนักหนากับชีวิตกูวะเนี่ย คิดบทอะไรเหี้ยๆมาวะ น่ารำคาญเป็นบ้า!” ชายตรงหน้ายังคงตะโกนลั่นพลางตวัดสายตามองเพื่อนสามคนอย่างคาดโทษ “แม่งเอ๊ย กูบอกให้เปลี่ยนตัวก็
เปลี่ยนไงวะ สัตว์! กะเทยบ้างพ่อมึงดิ!”


 สายตาที่ผมหันไปมองคนแรกไม่ใช่ใครอื่น..


แต่เป็นซาน.. ที่ยืนก้มหน้าอยู่


   “ไอ้บทไร้สาระแบบนี้กูไม่เล่น! กูไม่แสดงด้วย เหี้ย!!”


เป็นคำสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากของไอ้เชี่ยดำก่อนที่จะผุนผันออกไปทันที
   ผมมองร่างที่เดินออกไปทางโรงยิมก่อนจะตวัดสายตาหันมองอีกรอบ ในเวลาแบบนี้เหลือแค่ไลออน ไทเกอร์ ผม และซานก็เท่า
นัน..

..และทั้งร่างก็ต้องนิ่งค้างอีกรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เมื่อได้เห็นคนหน้าหวานที่สุดกำลังตัวสั่นเทาอยู่..


   “..ขอโทษที่แต่งอะไรไร้สาระว่ะ” น้ำเสียงอ่อนแรงดังแว่วออกมาจากเรียวปากบางอมชมพู ผมลังเลสักระยะหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปหาผู้ที่กำลังยืนอยู่ “...ขอโทษที่กูยุ่งกับชีวิตเพื่อนๆมาเกินไป..”


..กำลังกลั้นน้ำตาอย่างนั้นเหรอ?


   คำๆนี้ผุดขึ้นมา ผมเห็นทั้งไทเกอร์และไลออนตรงเข้าไปหาซานแล้วกอดไว้แน่น รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เด็กแค่หน้าตา และท่าทางจิตใจก็บริสุทธ์ผุดผ่องไปด้วยนั่นเอง เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ไม่น่าจะร้องไห้อะไรง่ายดายขนาดนี้เลยนี้


   “..ไม่หรอกน่า มึงทำดีที่สุดแล้วไอ้ซาน”

   “เชี่ย อย่าร้องดิวะ”

   ได้ยินเสียงปลอบประโลมดังมาเป็นระยะไม่หยุดหย่อน ผมยังคงยืนนิ่ง มองซานที่กำลังเม้มปากแน่นอยู่ อีกฝ่ายค่อยๆเงยหน้า
แล้วหันมามองผม


   “..กรด ถ้ามึงคิดว่าไร้สาระก็ไม่เป็นไรนะเว้ย .. กูไม่บังคับว่ะ” น้ำเสียงหวานดังแผ่วเบาราวกับจะหายไปในอากาศ “ให้คนอื่นเล่นก็ได้ เนี่ย เดี๋ยวกูเล่นเองก็ได้ เดี๋ยวหาคนอื่นมาแทนก็ได้ มึงพักห้องเดียวกับนัยเขาใช่ไหม? ฝากบอกมันด้วยนะว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะหาคนเล่นแทนให้.. ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องเล่นแล้ว .. มึงก็ด้วยนะกรด”

   ประโยคคำพูดของอีกคนเหมือนกำลังกระทบเข้าจิตใจผมอย่างแรง อีกฝ่ายเหมือนอ่อนล้าและดูจะแตกสลายไปได้ง่ายๆ

 ผมจับจ้องไปยันใบหน้าของร่างเล็กกว่าที่ดูหมดเรี่ยวหมดแรง ขอบตาที่คล้ำดำนั่นเป็นตัวบ่งบอกอย่างดี

..ได้ยินมาจากไอ้คู่แฝดกำมะลอว่าเจ้านั่นทุ่มเทกับงานนี้มาก รู้สึกว่าแก้บทบ่อยมากๆ แถมยังไม่ได้หลับไม่ได้นอนอีกด้วย.. เป็นห่วงทุกๆคนด้วยอีกต่างหาก ก่อนหน้านี้ก็ลองถามกูว่าไหวไหมอีกด้วย

เสียงของไอ้นิวลอยเข้ามาอยู่ในโสตประสาทผม


..มันโคตรทุ่ม .. ถ้างานล่มล่ะก็แม่งคงเสียใจแน่ๆ ดูสภาพตอนนี้ก็น่าจะรู้นะสัตว์..

   ยิ่งมองไปยันรอยยิ้มเจื่อนๆนั่นก็ทำให้ผมค่อยๆเข้าใจขึ้นมาทีละนิด .. เพื่อนคนนี้ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพื่อนงานห้อง .. พยายามจนถึงที่สุดให้ออกมาดี..


..มึง แสดงบทนี้ไหวเปล่า อยากให้กูช่วยเปลี่ยนบทไหม?..
   ซ้ำ.. ยังเป็นห่วงทุกๆคน..

   คิ้วของตนเองขมวดแน่น ภาพความทรงจำที่ไอ้เชี่ยดำมันตะโกนด่าด้วยความหงุดหงิดลอยเข้ามาในหัวอีกครั้งก่อนที่ผมจะกำมือตนเองจนสั่นไปทั้งแขน..

..ไอ้เหี้ยนี่มันไม่รู้จักถึงความเหน็บเหนื่อยของซาน..
เอาอะไรมาพูดวะ .. มันจะมากไปแล้วนะมึง..

   เพื่อนของผม ถึงแม้จะไม่สนิทมากแต่มันก็คือเพื่อน ซ้ำยังทำดีแต่ต้องมาถูกด่าเรื่องบทปัญญาอ่อนอีกตั้งหาก ผมกัดฟันกรอด ..

แม่ง มึงเป็นใครดำมาจากไหนกูไม่รู้ แต่อยู่ๆดีๆมาด่าเพื่อนคนนี้ของกู กูไม่ยอม
   แล้วสายตาตนเองก็ตวัดมองร่างตรงหน้า

   “ซาน ไม่ต้องเปลี่ยนบท.. และจะไม่มีใครที่ไหนเปลี่ยนบทกันทั้งนั้น” ผมยืนกรานด้วยน้ำเสียงมั่นคงจนทำให้ชายตรงหน้าต้องผงะไปทันที

   “แต่ว่า.. น้ำกรดกับนัยไม่อยากได้บทนี้..”

   ยังจะเป็นห่วงอยู่สินะ ภาพของไอ้เชี่ยดำแวบเข้ามาในหัวผมอีกครั้งก่อนที่จะค่อยๆระบายยิ้มที่คิดว่าดูเป็นธรรมชาติที่สุด และเอ่ย
ประโยคถัดไป.. ราวกับเป็นคำมั่นสัญญา

.



.


.



   “ไม่ต้องห่วง ซาน .. กูจะลากตัวไอ้เชี่ยดำมารับบทกะเทยคู่กับกูเอง”

.

.

.
พูดออกไปแล้ว
..

อืม


.. ถ้าตัดคำว่าบทกะเทยไปนี่ กูหล่อเลย..
...




___
ต่อข้างล่างน้า

seira

  • บุคคลทั่วไป
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
«ตอบ #113 เมื่อ06-10-2014 23:02:02 »




ถ้าหากถามว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ คงจ้องพูดตรงๆว่ายืนอยู่หน้าโรงยิม .. เอ่อ โรงยิมเดิมที่ผมเคยจูบมันนั่นแหละ
คิดแล้วก็แขยงปากว่ะ.. กูทำไปได้ไงวะเนี่ย!?


   ทำไมผมต้องกลับมาสถานที่ซ้ำๆซากๆแบบนี้ด้วยน่ะเหรอ? เพราะว่าเชี่ยดำกำลังยืนชู้ตบาสอยู่ข้างในอย่างไงล่ะครับ!

ฟวบ!


   ร่างของผมสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงลูกบาสลอดลงห่วง โธ่ ไอ้เชี่ยเอ๊ย เล่นเอากูเสียขวัญเลย ผมพ่นลมหายใจตนเองแรงๆในขณะที่เหลือบมองร่างสูงของอีกฝ่าย ไอ้ดำตอนนี้เหมือนว่ามันจะดูหงุดหงิดชอบกลจนสัมผัสได้จากบรรยากาศรอบๆตัวมันเลย
ด้วยซ้ำ


เฮือก.. แอบขนลุกว่ะ


ห๊ะ? อะไรนะ ผมไม่ได้กลัว!


   เอ่อ ก็ตามนั้นแหละ ผมสูดลมหายใจตนเองเข้าลึกๆก่อนจะเดินตรงไปหาอีกฝ่าย เห็นคนที่กำลังยืนเล็งลูกบาสอยู่ไม่ไกลจึงแทรกร่างของตนเองผ่านช่องว่างประตูโรงยิมที่แง้มอยู่น้อยๆก่อนจะตัดสินใจใช้เท้าถีบให้มันปิดลง


แกร็ก


   ไอ้ดำผงะครับ เหมือนมันจะรู้ว่ามีคนเข้ามา สายตานั่นตวัดมองผมด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ทันที


   “....” เอ้า! ไอ้เชี่ยนี่ จ้องกูเขม็งแต่เสือกไม่พูดซะงั้น เออ ได้ งั้นผมเริ่มทักก่อนก็ได้!


   “ไง.. เหี้ย”


..ผมว่า ผมไม่เคยทักมันได้ดีๆจริงๆอ่ะแหละ..

   ไอ้เชี่ยดำเลิกคิ้วเล็กน้อย

   “มึงเองก็เหี้ยเหมือนกันนั่นแหละ” แม่ง.. ตอบกูมาอย่างนี้ใช่ไหม ได้ งั้นกูตอกกลับ!


   “แต่ก็น้อยกว่ามึงแล้วกัน”

   “เอาเชี่ยไรมาวัด?” แน่ะ นี่มึงย้อนกูอีกเหรอ ย้อนกูอีก! ผมสูดลมหายใจเข้าลึกราวกับตั้งสติ เห็นมันเดินไปหยิบลูกบาสขึ้นมาแล้วชู้ตต่ออย่างไม่สนใจอีกครับนั่น

และพอมันกำลังจะออกแรงที่ข้อมือ ผมก็ตัดสินใจพูดขัดทันที

   “เหี้ยเห็นแก่ตัวไง”


ปึก!


   เสียงลูกบาสที่ถูกส่งออกไปกระแทกแรงที่แป้นทำให้รับรู้ได้ทันทีว่าอีกคนค่อนข้างจะผงะไปและลังเลบางอย่างก่อนชู้ต ใช่ เหี้ยดำหันมามองผมด้วยสายตาขุ่นมัว


   “พูดจาเหี้ยอะไรของมึง”  อ้าว นี่ไม่รู้อีกเหรอวะ ได้ งั้นไอ้น้ำกรดนี่บอกเอง!


   “ไม่ตั้งใจร่วมกิจกรรมเพื่อห้อง เห็นแก่ตัว! เหอะ” ผมพูดออกไปพร้อมกอดอก ก้าวเท้าเข้าหาอีกคนที่กำลังเหลือบมองนิ่ง “ถ้าไม่
เรียกเห็นแก่ตัวแล้วจะให้กูเรียกว่าอะไรอีกดีล่ะ? เห เรียกว่าไร้ความรับผิดชอบดีไหม ได้บทไปแล้วก็เสือกไม่ยอมตั้งใจเนี่ย!”

สงสัยปากกูจะจัดขึ้นตั้งแต่ได้บทกะเทยว่ะ


   “ถ้าจะมากวนตีนก็ไสหัวไปไกลๆกู” ไอ้เชี่ยดำพูดเสียงเรียบ มองผมด้วยแววตาเย็นเฉียบ .. แต่โทษทีว่ะ พอดีกูเป็น ‘น้ำกรด’ น่ะมึง .. แค่นี้ไม่สะทกสะท้าน!

เพราะผมนี่แหละจะเอาคำพูดตัวเองผสมกับน้ำกรด .. แล้วสาดมันให้เละ!

   “ใครกวนตีนกัน ไม่มี๊” ผมพูดเสียงสูงพร้อมกับยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าหงุดหงิดปรากฎขึ้นมา หึ ไงล่ะมึง เป็นไง กูไม่เคยกวนตีนนะครับ เพราะกูไม่มีไม้พาย ก๊ากก

   ไอ้เชี่ยดำคิ้วกระตุกหงิกๆ มองผมด้วยแววตาเฉียบคมใส่ต่อ

   “กูไม่มีอารมณ์มาคุยกับมึงตอนนี้”

แน่ะ .. คิดเหรอว่าจะยอมให้ง่ายๆ

   “โธ่ .. เป็นแค่เหี้ยเห็นแก่ตัวไม่ยอมช่วยคนอื่นแท้ๆ เฮ้ออ.. ไม่ไหวๆ” ตัดสินใจทำเสียงดัดจริตอีกรอบแล้วพ่นลมหายใจแรง

   “มึงมาที่นี่ต้องการอะไรกับกูกันแน่วะ” นั่น! มันหันกลับมากระชากเสียงใส่ผมด้วยท่าทีเหมือนว่าเส้นสติใกล้ขาดผึง โธ่ๆ! นี่กูยั่วโมโหได้ผลสินะ เออ สมน้ำหน้า ขาดไปเลยนะมึงอ่ะ!

   “ก็ไม่ได้ต้องการอะไรหรอก กูแค่อยากมาดูหน้าคนเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมช่วยงานห้องก็เท่านั้น...”

   “กูไม่ใช่มึงที่อยากจะได้บทกะเทยมาแสดง!!”


 ไอ้ห่า ไร้มารยาทกับกูจริงๆ ไอ้ดำตะโกนขัดผมด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมยกลูกบาสในมือขึ้นแล้วปาเข้ากับผนังอย่างแรงราวกับระบายอารมณ์

ตึง!

   ได้ยินเสียงลูกบาสที่ร่วงลงพื้นและกระทบเป็นจังหวะก่อนที่ตนเองยังคงตีหน้านิ่งอยู่


   “แม่งเอ๊ย! บทเหี้ยอะไรไม่รู้ กะเทยบ้านพ่อมึงสิ! เอาหัวคิดได้ไงวะว่าให้กูเป็นกะเทย! แม่งใช้ขี้เลื่อยในสมองมันคิดรึไง!?”
มันยังคงพูดรัวออกมาด้วยท่าทีหงุดหงิด หันมาตะคอกใส่ผมราวกับแค้นกันมาเป็นสิบชาติครับ เอ๊ะ เออว่ะ ปกติกูกับมันก็แค้นกัน
อยู่แล้วนี่หว่า


   “แต่เพื่องานห้อง คิดว่ากูอยากทำมากเหรอ? แล้วมึงไม่เข้าใจหรือไงวะว่างานห้องอ่ะ!” เริ่มรู้สึกโทษปากตัวเองจริงๆแล้วว่าไม่น่าบอกซานจะช่วยเลย โอ๊ย นี่กูหาเรื่องใส่ตัวมาทะเลาะกับมันแหงๆ

   “ให้กูทำงานอย่างอื่นก็ได้! ไอ้เชี่ย! มาอะไรกับกูวะบทกะเทย หาคนอื่นแสดงไม่เป็นรึไง แล้วมึงจะยุ่งอะไรกับกูนักหนาวะ!!”

เสียงกระชากของอีกฝ่ายทำให้ผมชะงักแล้วหยุดคิดอีกรอบ

ถามว่าจะยุ่งอะไรกับมึงนักหนาเรอะ?

เออ ถามตรง กูตอบตรง!

   “เพราะกูสัญญากับซานว่าจะทำให้มึงกลับมาแสดงบทนี้ให้ได้ไง” ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายพร้อมนัยน์ตาตนเองที่จ้อง
หน้าอีกฝ่ายเขม็ง “ไม่ว่ายังไง.. คนแสดงบทคู่กัดกับกู ต้องเป็นมึง คนเดียวเท่านั้น! จะเป็นคนอื่นไม่ได้!”

   เออ!! ผมย้ำประโยคสุดท้ายเสียงดังลั่นพร้อมกับตัดสินใจใช้เท้าเตะลูกบาสที่กำลังเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นสุดแรงจนมันกระเด้งไปชนฝาผนัง ไอ้เชี่ยดำก็ยังคงหงุดหงิดครับ แม่งหันมามองผมตาเขม็ง

   “กูไม่แสดงแล้วมันจะทำไมวะ!!” มันตวาด พร้อมกับจ้องหน้าไม่วางตา “กูไม่อยากจะได้บทเหี้ยๆ ปัญญาอ่อนมาแสดง!!”


   “....!!” ผมเบิกตากว้างกับคำพูดของมัน สองมือกำหมัดตนเองแน่นเมื่อได้ยินประโยคนั้น..


..บทเหี้ยๆ ปัญญาอ่อน..
..นี่มึง..


   “ถ้ามึงคิดว่ามันดีนักดีหนาก็ไปแสดงคนเดียว!! ไม่ต้องเอากูไปเอี่ยวด้วย! กูไม่อยากจะยุ่งกับอะไรไร้สาระนี่!!” อีกฝ่ายยังคงตะโกนลั่น ขณะที่ผมนิ่งค้างเหมือนช็อกไปเลยทีเดียวด้วยซ้ำไอ้เชี่ยดำฮึดฮัดพลางหันหลังให้กับผมพร้อมก้าวเท้าไปอีกทางราวกับจะออกจากโรงยิม


   ในขณะที่สองเท้าของผมกลับวิ่งตรงไปหามันอย่างรวดเร็ว


ตึก ตึก ตึก


   ได้ยินเสียงฝีเท้าตนเองกระทบกับพื้นจนดังก้องทั่วโรงยิม ไอ้เชี่ยดำเหมือนจะรู้ว่าผมเดินตามอยู่ มันหันขวับมาขมวดคิ้วด้วย


ใบหน้าที่เหมือนกับจะฆ่าคนให้ตายได้ง่ายๆเลยด้วยซ้ำ


   “มีเหี้ยอะไร...”


..และเมื่ออีกฝ่ายหันกลับมา.. หมัดขวาของผมก็ตรงเข้าไปที่ซีกซ้ายของใบหน้ามันทันที!!





ผัวะ!




   ทั้งร่างของมันถึงกับเซถลาด้วยความไม่ตั้งตัวและหมัดของผมที่ปล่อยไปสุดแรง ไอ้ดำยกมือขึ้นกุมจมูกเอาไว้แล้วหันขวับ เดาได้ว่ามันคงจะลิ้มรสเลือดตนเองที่ซึมออกมาทางมุมปากได้อย่างแน่นอน เมื่อกี้คงถือว่าต่อยหนักพอสมควรสินะ..


แต่แล้วยังไง? ผมไม่สนหรอกครับ..


   “ทำเหี้ยอะไรของมึง!” มันตะโกนลั่นพลางพยุงร่างของตนเองให้อยู่กับที่ หันมามองผมด้วยสายตาเคียดแค้น “อยากลองดีหรือ
ไงวะ!”


   แล้วหมัดก็กำลังพุ่งตรงมาหาผม


อืม..
..ทำใจก่อนโดนต่อยไปแล้วล่ะว่าต้องโดนแม่งต่อยกลับแน่นอน
แต่อย่างไงก็ขอพูดประโยคนี้หน่อยเหอะ



   “กูแค่ผิดหวังในตัวมึง”


กึก
..


.. หมัดของมันกลับชะงักค้างในอากาศ



 ถุยย กูอุตส่าห์เตรียมหน้าไว้แล้วนะมึง!



   เอาเหอะ ได้ งั้นผมพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดต่อ


   “คนที่เคยเตือนกูว่าไม่ควรด่าอาจารย์กลับมาพูดแบบนี้” ผมเอ่ยเสียงเรียบ จับจ้องใบหน้าอีกฝ่ายที่มีรอยเลือดซิบอยู่บริเวณมุมปากเล็กๆ “.. มาดูถูกสิ่งที่เพื่อนตั้งใจ”


   “....” มันยังเงียบ  ค่อยๆลดมือลงพร้อมกับเม้มปากจนเป็นเส้นตรง


   “..บอกว่าปัญญาอ่อนและไร้สาระ .. มึงรู้บ้างไหมว่าเบื้องหลัง ไอ้เพื่อนที่ตั้งใจทำน่ะ มันไม่ได้หลับไม่ได้นอนกับบทการแสดงพวกนี้” น้ำเสียงของผมยังคงดำเนินต่อไป นัยน์ตาของตนเองจับจ้องไปยันร่างสูงกว่า “พยายามให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เป็นเพื่อห้องของ ‘เรา’ ต่างหาก”


   “.....”


   ผมเงยหน้าขึ้นจ้องตามัน
ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดไปด้วยเสียงนิ่งๆที่ไม่เข้ากับนิสัยของตัวเองสักเท่าไหร่นัก



   “..แต่การที่มึงมาทำแบบนี้ ..มันไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอวะ?”
...


ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆโปรยปรายอยู่ในความเงียบในที่สุด


   ไอ้เชี่ยดำหันหน้าไปอีกทาง ผมได้เห็นมือของมันกำแน่นราวกับประโยคคำพูดของผมกำลังเสียดแทงจิตใจของอีกฝ่ายอยู่
ก็ใช่ไง.. แทงใจมึงไหมล่ะ..


   ร่างสูงใหญ่เปลี่ยนเป็นหมุนตัวหันหลังให้กับผมทันที


   “..หึ”

เชี่ย .. เวลาแบบนี้ยังเสือกจะทำเสียงที่กูเกลียดอีกนะ!


   คิ้วของตนเองกระตุกหงิกๆทันทีทันใด มองคนที่เดินออกไปครับ ผมมองมันจนถึงสุดขอบประตูโรงยิมก่อนจะยักไหล่เบาๆ

เออ .. เหี้ยมันคิดไม่เป็นสินะ

สั่งสอนกูได้ แต่สั่งสอนตัวเองไม่ได้เหรอวะเนี่ย บ้าปะ?

   หากแต่ระหว่างที่กำลังคิดอยู่กลับต้องผงะเมื่อได้ยินเสียงกุกกักดังต่อเนื่อง
กุกๆกักๆ


   ..ผมหันไปมองแล้วก็เงียบ..


   ไอ้เหี้ยดำกำลังยืนหน้าประตูโรงยิมแล้วพยายามเขย่าประตูแรงเพื่อที่จะเปิด..
หากแต่..



   “....” มันยังคงยืนอยู่ตรงนั้น


..ทำไมผมเริ่มเห็นลางร้ายเกาะเป็นกลุ่มเมฆซะแล้ว..
   แล้วสุดท้ายมันก็หยุดเขย่า แล้วหันมาหาผม

..

ตามด้วยประโยคที่ทำให้กูแทบกระโดดพังหน้าต่าง


   “...ประตูโรงยิมล็อคตอนหนึ่งทุ่มตรง และตอนนี้มันก็สองทุ่มแล้วว่ะ”
   “.....”


   “กูกับมึงถูกขังแล้ว”
..


   “เชี่ยยยยยยยยยยย!!” ผมแหกปากลั่น ไอ้สาด ภารโรงเวร! หัดชำเลืองดูหน่อยเหอะว่าแสงไฟโรงยิมมันยังเปิดใช้อยู่ นี่มึงไม่เช็คอะไรเลยใช่ไหมวะ!


   ผมพุ่งถลาไปยันประตูครับ ก่อนจะเขย่าแรงและพยายามบิดออกหากแต่พอผลักก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยด้วยซ้ำ อ๊ากก! ไอ้ห่า! ไอ้เหี้ยย!


   “เปิดซิวะ! เปิดดิ.. ไอ้เชี่ยเอ๊ย เปิดดิวะ ไอ้ประตูเวร ไอ้ประตูเหี้ย!” โอ๊ยย! กูขอตะโกนด่าเข้าไปเออ ตะโกนด่าประตูแม่ง สาดดด! มึง มึ๊งงงงง!


กูไม่อยากอยู่กับมันสองต่อสอง.. แถมยังเป็นอยู่ในสถานที่ที่ไม่น่าจดจำอีกด้วย อ๊ากกก!

   “..หุบปากแล้วนั่งเงียบๆไป ภารโรงจะกลับมาเปิดประตูอีกทีตอนหกโมงเช้า”” ได้ยินเชี่ยดำพูดเสียงเรียบแล้วก็เหมือนสายฟ้าผ่า
เข้าหัวตัวเองดังเปรี๊ยงครับ อะไรวะ นี่กูต้องอยู่กับมันอีกแล้วเหรอ!

เออ

ไอ้ห่า!!


   “ชีวิตกูแม่งฉิบหายตั้งแต่มาเจอกับมึง!!” ผมร้องลั่น ชี้หน้ามันแม่ง ไอ้เชี่ย กูโทษไว้ก่อน โทษมึงไว้ก่อนคนแรกเลยย! “สาดด! เพราะมึงอ่ะ เพราะมึงง!”


รู้สึกวิญญาณน้ำกรดแม่งจะกลับมาเข้าสิงล่ะ ไอ้คนมีสาระเมื่อกี้คือน้ำกรดตัวปลอมแหงๆ!
   เชี่ยดำเผยสีหน้าตกใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยาผมครับ ก่อนที่มันจะ..


..จะ...


   “หึ”


..เสียงนี้อีกแล้ว!! เสียงนี้หาพ่องมึงเหรอออ!!


   “กูบอกว่ากูเกลียดเสียงนี้ มึงจะทำอีกเพื่อไรวะ! พูดภาษาคนไม่เป็นไง!”


   “เปล่า เพราะมึงพูดภาษาเหี้ย กูเลยไม่เข้าใจ”


อ๊ากกกกก!! นี่มึง!! มึง... มึ๊งงงง!!

   ผมกัดฟันกรอดก่อนจะพยายามตั้งสติแล้วตัดสินใจเลิกเขย่าประตูแบบเอาเป็นเอาตาย แม่ง.. เปลืองแรง ไร้ประโยชน์ฉิบเป๋ง

   “.....”

   ..อย่าหาว่าอะไรเลยนะ แต่ไอ้เชี่ยดำแม่งกำลังมองผมอยู่ครับ

   “ไม่เคยเห็นคนหล่อไงวะ” ตอกกลับไปทันทีทันใด แล้วก็ต้องเงียบกริบเพราะอีกฝ่ายไม่ตอบอะไร .. เพียงแค่จ้อง..

..จ้อง.. ปากกู..
..จ้องทำเหี้ยอะร๊ายยยย!


   “..เชี่ยเอ๊ย!!”

   เหี้ยย แม่งมันจะมีจริงๆไหมวะ ไอ้เสียตูดในโรงยิมน่ะ กูล่ะรู้สึกขนลุก กลัวตูดจะไปจริงๆ!!


   เมื่อผมบรรลุความคิดตัวเองได้ดังนั้นก็ตัดสินใจรีบสาวเท้าก้าวออกห่างเชี่ยดำให้ได้มากที่สุดครับ ยังพอระลึกได้ว่ามันสาบานกับคนทั้งโรงอาหารว่าจะสอยตูดผมได้อยู่ มันไม่ปลอดภัยชัดๆ อย่างน้อยถ้าตัวผมอยู่คนละฝั่งฝากกับมัน เวลาแม่งวิ่งเข้าหื่น พอมันประชิดตัวผมแล้วอาจจะเหนื่อย แถมด้วยล้มเลิกความคิดกดผมก็ได้


..เอ่อ


แล้วกู..  คิดอะไรนักหนาวะเนี่ย?

   ไอ้เชี่ยดำมองตามผมด้วยแววตานิ่งๆ เห็นสองขาของกูออกห่างแล้วสงสัยล่ะสิ


   “..มึง .. ว่างเปล่าวะ?”


คำถามมัน.. ทำสตั้นท์เลยครับ..

   ผมผงะการเดินถอยออกห่างไอ้เชี่ยดำทันทีทันใด หันไปมองใบหน้าอีกฝ่าย ..
..คิดไปเองหรือเปล่าวะที่สายตามันดูหมดความหงุดหงิดไปแล้ว แต่เอาเหอะ กูน้ำกรด กวนไว้ดีกว่าเงียบ


   “ไม่ว่าง กูหายใจอยู่” เอ้า นี่ผมแค่พูดความจริงนะ!


   หากแต่ก็ต้องเบิกตากว้างทันทีเมื่อใบหน้าอีกคนเสไปอีกทางราวกับไม่ต้องการเห็นบางอย่างหรือจ้องตาผม มันมือที่ยกขึ้นยีหัวเล็กน้อย ..


..ก่อนจะพูดประโยคถัดไป .. ที่ทำให้อารมณ์ซวยฉิบหายของผมถูกสลัดทิ้ง..
..และเผลอหลุดยิ้มออกมาทันที..


   “..บทละครกูยังอยู่— มาฝึกให้กูหน่อย..ดิ..”
...

.
.
.




Special’s part



   ตั้งแต่พูดประโยคน่าอายแบบนั้นออกไป ผมก็ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว


   ..ทั้งผมและไอ้หมาปากร้ายนั่นนั่งท่องบทกันปาวๆ


นับวันความสัมพันธ์ของทั้งผมและมันก็เริ่มประหลาดขึ้นทุกที

   นัยน์ตาของตนเองเหลือบมองไปยันร่างเล็กกว่าที่พิงผนังข้างๆแล้วนอนหัวโคลงเคลงไปมา มันนั่งยืดขาด้วยท่าทีสบายๆ บนตัก
มือแผ่นกระดาษบทเป็นปึกอยู่

หากถามว่าทำไมผมค้างหมัดของตัวเองไว้เพราะคำพูดประโยคที่ว่ามันผิดหวังในตัวผม— คำตอบคือ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน..
หากแต่ต่อจากนั้น.. มันยังจำสิ่งที่ผมเคยทำกับมันได้ คือตักเตือนเรื่องของอาจารย์ไม้

และหลังจากที่เคยเตือนมัน ผมพอจำได้คร่าวๆว่าไอ้เหี้ยนี่ไม่เคยด่าอาจารย์ไม้อีกเลย..

หึ

ต่างคนต่างสอนสินะ?

   มันบอกให้ผมอย่าดูถูกความตั้งใจของเพื่อน.. ในขณะที่ผมบอกให้มันเรื่องด่าครูผู้สั่งสอน

อืม .. แปลกดี

   แปลกตรงที่ .. ต่างคนต่างทำตามที่อีกฝ่ายบอก อยู่ๆผมก็อยากหยิบบทขึ้นมาแล้วซ้อม ใส่มันให้เต็มที่เหมือนกับที่ไอ้เหี้ยข้างๆทำ.. เพื่อเพื่อน เพื่อคนคิดบท เพื่อห้อง..

และเพื่อที่จะไม่ให้มันได้ดูถูกเรื่อง ‘เห็นแก่ตัว’ อีก..

   บางทีการที่เจ้านี่เลิกด่าอาจารย์ไม้ก็อาจจะเป็นเพราะไม่อยากให้ผมดูถูกเหมือนกัน
ความสัมพันธ์ของพวกเราอาจจะเหมือนการแข่งขันก็ได้.. การแข่งขันที่ว่า ใครทำให้อีกฝ่ายยอมรับได้ก่อนกัน.. คนนั้นถึงจะเป็นฝ่ายชนะ


   ตั้งแต่ผ่านมายาวนาน ผมเองก็เห็นการพัฒนาของมันเช่นกัน
   ..

   ไอ้ปากหมาข้างๆช่วยผมฝึกซ้อมบทจนหลับคร่อกไปแล้ว ในขณะที่ผมยังคงพยายามจดจำประโยคคำพูด โอเค— ถึงจะดูประหลาดไปหน่อย แต่ผมก็อยากจะบอกคำหนึ่ง

ผมจะแสดงให้ดีกว่ามันให้ได้

..เพื่อที่จะไม่โดนเจ้านี่มันดูถูก.. เห็นสายตาสั่งสอนแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า
   หากแต่ความคิดของตนเองก็ต้องชะงักลงเมื่อหัวของคนที่นอนอยู่ค่อยๆโคลงเคลงอีกรอบ

..แต่คราวนี้มันหยุด.. และซบลงที่ไหล่ของผม..

   ผมนิ่งไปสักพักใหญ่พลางหันมองชายที่ชอบหักมุมในหลายๆเรื่องแม้กระทั่งเรื่องที่มันเคยเป็นเกย์..

 อ้อ แต่ผมไม่คิดจะถามหรอกนะ อดีตคืออดีต จะเอาอะไรมาเกี่ยวข้องกันให้มากล่ะ


เอาเถอะ


ตอนนี้ก็ดึกแล้วเหมือนกัน.. เริ่มง่วงแล้วสิ



   ทั้งๆที่ถ้าเป็นผมเมื่อก่อน ก็น่าจะสะบัดไหล่แล้วแกล้งให้มันตื่นก่อนจะกวนต่อไปแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าผีกะเทยที่ไหนเข้าสิง
ผมปล่อยให้มันหลับไปอย่างนั้น เหลือบมองใบหน้าของคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงนิทรา


ก่อนจะไล่สายตาสำรวจเค้าโครงรูปหน้าอีกฝ่าย..


หากแต่ต้องหยุดลง..

..ที่ริมฝีปากเรียวเล็ก..

   ..และมองอีก.. จนเหมือนกับคนโรคจิต..


   วันนั้นยังจำได้ดี..


..รสนมสตอเบอรี่นั่นยังคงอยู่ในความทรงจำผม ชักแอบสงสัยนิดหน่อย.. แม่งไปแดกนมสตอมาตอนไหนแล้วทำให้ผมรู้สึกถึงรสนั้นได้วะ..


   สุดท้ายผมก็ตัดสินใจสะบัดหัวตนเองเพื่อขับไล่ความคิดบ้าๆบอๆที่เผลอเกิดขึ้นได้ .. ทั้งๆที่มันควรจะลืมไปแล้วแท้ๆ


   “..บ้าบอว่ะ..” คิดไปนั่นก็ไม่เข้าใจว่าตนเองจะปล่อยให้มันนอนที่ไหล่ทำไม ผมพ่นลมหายใจออกทางริมฝีปากแผ่วเบาพลางหลับตาลงบ้าง


บางสิ่งบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงัน .. ภายใต้ความสัมพันธ์ที่ต่างคนต่างบอกว่าเกลียด..



   “..ราตรีสวัสดิ์ .. ไอ้หมา”



   เป็นคำสุดท้ายที่ผมบอกกับคนที่หลับไปแล้ว พลางค่อยๆจมลงห้วงนิทราตามไป
..




พร้อมกับบางสิ่งเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นในใจตนเอง




..อ้อ.. จริงสิ แน่นอนว่าผมไม่ได้โง่




เพราะผมรู้
..


ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไร
..





เพียงแค่พยายามยอมรับมันอยู่ก็เท่านั้น





เฮ้อ
ผีกระเทยแม่งคงเข้าสิงกูจริงๆนั่นแหละว่ะ




______________________________

 :mew1: //หายวับไปกับกลีบเมฆ

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
«ตอบ #114 เมื่อ06-10-2014 23:18:49 »

ชอบๆ รักคนเขียนน้า (⌒_⌒)

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
«ตอบ #115 เมื่อ06-10-2014 23:35:02 »

นี่พวกแกรักกันเพราะบทกะเทย  :laugh:

ซานนี่ทุ่มเทสุดยอดไปเลย  o13

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
«ตอบ #116 เมื่อ05-12-2014 12:19:29 »

เมื่อไหร่จะรักกัน ?

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
«ตอบ #117 เมื่อ05-12-2014 12:31:45 »

 :กอด1: miss u so muchhhhhh :ling1:hh

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
«ตอบ #118 เมื่อ05-12-2014 17:25:24 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: N o n Romance เกลียด ฉิบ หาย!! Ch.22 UP (6/10)
«ตอบ #119 เมื่อ07-12-2014 21:52:05 »

อยากให้มาต่อจังเลย  :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด