ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง
บทที่ ๑๖.๓ ดีอย่างไร ใครเลยจะล่วงรู้
“…….”
“มานั่งสิเรียง” คุณพ่อเรียกลูกชายคนโตของบ้านให้มานั่งโต๊ะ แต่เสียงของคุณพ่อส่งไปไม่ถึงยังลูกชาย ที่ตอนนี้เหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งหลุมดำ
“เรียง …นั่งสิลูก” คุณแม่เรียกซ้ำ ทำให้คนหลุดวงโคจร คืนกลับมาได้
“มาทำไม” ไม่ได้เดินไปนั่ง แต่กลับเดินไปทางที่ใครบางคนนั่งอยู่และเอ่ยถาม
“ทำไมพูดกับเพื่อนอย่างนั้นล่ะเรียง” คุณพ่อเอ่ยเสียงแข็ง
“พ่อ มันใช่เพื่อนเรียงที่ไหน เรียงไม่รู้จักมัน” ก็มันบอกเอง ว่าให้ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันอ่ะ T^T
“เรียง แม่รู้ว่าลูกสองคนมีเรื่องไม่เข้าใจกันอยู่ แต่เมื่อกี้คุณต้นตองเล่าเรื่องของลูกให้พ่อกับแม่ฟังซะเพลินเชียว : ) คุยใหญ่เลยว่าลูกหน่ะขี้โวยวาย”
“ฮึ คุณต้นตอง ล้างสมองอะไรพ่อกับแม่กูอีกล่ะ”
“เรียง แม่ไม่เคยสอนให้ลูกพูดจาหยาบคายนะ”
“ไปนั่งให้เรียบร้อย แล้วช่วยให้เกียรติเจ้านายพ่อด้วย” พ่อเริ่มดุ พ่อขึ้นเสียงทีไรเงียบกริบกันทั้งโต๊ะทุกที
“ไม่เป็นไรครับคุณอา เรียงคงไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ” เอาเข้าไป พ่อกับแม่เข้าข้างมันไปกันหมด ชีวิตที่สุขสงบของรงคเพท กำลังจะหมดลงเพราะไอ้คนๆนี้สินะ รงคเพททำได้เพียงเดินไปนั่งที่ประจำด้วยสีหน้าบึ้งตึง
‘ถ้าพ่อรู้ว่ามันเป็นคนทำให้ลูกพ่อร้องไห้ พ่อจะยังให้เกียรติมันอยู่รึเปล่า อยากรู้นัก ฮึ’ รงคเพทนั่งกินข้าวอย่างไม่ปริปรากออกมาแม้แต่คำเดียว นั่งฟังบนสนทนาก็ถึงได้รู้ว่า บริษัทที่คุณพ่อทำงานอยู่ตอนนี้ คือบริษัทลูกในเครือตระกูลประพาพงษ์สกุล
“เคล้ง !! อิ่มแล้ว ไปละ” รงคเพทวางช้อนส้อมกระแทกจาน ลากเก้าอี้ลุกขี้ โดยไม่ฟังใครพูดอีก แต่แล้วขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดต้องชะงัก
“คุณอาครับ คืนนี้ผมขออนุญาตค้างที่นี่ได้ไหมครับ พรุ่งนี้สายๆผมมีธุระแถวนี้พอดีเลยครับ”
“เอาสิ บ้านนี้ต้อนรับคุณต้นตองเสมอ บ้านอาไม่ได้ใหญ่มาก คุณต้นตองไม่ว่ากันนะ”
“บ้านคุณอาน่าอยู่มากครับ ขอบคุณนะครับคุณอา” ไม่พูดเฉยๆ ยกมือไหว้ขอบคุณอย่างสุภาพ ดีเนาะ มาอ้อนพ่อแม่อีกรายละ
“แม่ไอ้เรียง จัดห้องให้คุณต้นตองทีนะจ๊ะ….” ขี้เกียจจะฟัง รงคเพทเดินขึ้นบ้านเสียงปึงปัง ปิดประตูดังเซอร์ราวรอบทิศ
ใจลูกคนโตของบ้านอยากลงไปช่วยคุณแม่เก็บโต๊ะล้างจาน แต่ไม่อยากออกไปเจอหน้าไอ้บ้าบางคน ที่อยู่ดีๆมาอยู่ในบ้านเข้าได้ไงก็ไม่รู้ พูดแล้วอยากบีบคอมันให้ตาย
นั่งนิ่งอยู่สักพักก็ติดสินใจ เปิดประตู แง้มออกทีละนิด ทีละนิด คาดว่าตารกาคงอยู่ห้องรับแขกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องเขา เหยียบลงพื้นไม้ปาเก้อย่างเบาที่สุดแล้วก็แอบคิดคนเดียวในใจ นี่บ้านกูป่ะเนี่ย
ย่องๆ ลงมาด้านล่างก็เห็นคุณแม่กำลังยืนล้างจานอยู่ จึงแถๆเข้าไปยืนข้างๆและช่วยล้าง คุณแม่ยอมให้ช่วยอย่าไม่ได้ว่าอะไร
“ลูกรู้รึเปล่า คุณต้นตองช่วยเหลือพวกเราไว้เยอะเลยนะ โดยเฉพาะพ่อ รู้ไหม พ่อถูกลูกน้องเก่าแบนงานไว้แทบทุกบริษัท ถ้าบริษัทไหนรับพ่อก็เท่ากับเป็นอริกับเขา แต่ก็ได้คุณพ่อของคุณต้นตองรับเข้าทำงานจนได้ โดยไม่กลัวว่าจะต้องกลายเป็นศรัตรูกับใคร” คุณแม่พูดออกมาลอยๆคล้ายกับพูดอยูคนเดียว
“……”
“ไม่ว่าลูกสองคนจะมีเรื่องอะไรไม่เข้าใจกันอยู่ ลองคุยกันดีๆนะลูก แม่เชื่อว่าคุณต้นตองมีเหตุผลพอ”
“ทำไมแม่ถึงเข้าข้างมันนัก” หน้ามุ่ย ไป พูดลอยๆออกไปเช่นกัน
“ก็ลูกรักเขาไม่ใช่เหรอ”
“แม่ !!” เผลอพูดออกมาซะเสียงดัง ได้รับเพียงรอยยิ้มอ่อนๆมาจากคุณแม่
“ไม่ใช่นะแม่”
“คิดจะหลอกแม่เหรอเรียง” แม่หันมามองหน้าลูกชายอย่างรู้ทัน
“แม่อ่ะ มันไม่ใช่รักเรียง” หลอกใครก็หลอกได้ จะหลอกแม่ทำไมถึงยากนักก็ไม่รู้
“ฮิฮิ ลูกหนอลูก : )” สองแม่ลูกช่วยกันล้างจานด้วยรอยยิ้ม เมื่อเสร็จเรียบร้อย เจ้าของบ้านก็ย่องขึ้นบ้านเพื่อเข้าห้องตัวเองอีกครั้ง ลำบากแท้รงคเพท
ก๊อก ก๊อก …
“คร้าบบ มาแล้วคร้าบบบ” คนที่เผลอหลับไปหัวค่ำ สะดุ้งตื่นอีกที 4 ทุ่มแล้ว มีคนมาเคาะประตู
“……!!!” ลืมไปสนิทว่าคืนนี้ไอ้บ้านี่มานอนบ้าน
ปึก !!!
“เดี๋ยว” เห็นหน้าคนที่มาเคาะ ประตูก็คล้ายจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ
“ปล่อย…อย่า เข้า มา” ชี้หน้าด่าไป แต่เท้าก็ถอยตามคนที่ก้าวเข้ามาเรื่อยๆ จดจ้องมาที่หน้ารงคเพทแทบไม่กระพริบ เห็นหน้ามันแล้วกลัว สีหน้า ท่าทาง อย่างกับเสือจะขย้ำเหยื่อ
ปึง แกร๊ก …
ในที่สุดเจ้าของห้องก็ถูกขโมยห้องจนได้ แถมโจรหน้าหล่อยังล็อคประตูเป็นที่เรียบร้อย
“เข้ามาไม ….เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ยยยย” เมื่อล็อคประตูเสร็จก็ย่างสามขุมเข้ามาหาเจ้าของห้อง รงคเพทใช่ว่าจะกลัว แต่เท้าถอยกลับแทบวิ่งถอยหลัง ช้ากว่า คนที่ก้าวมาแล้วคว้าตัวไปกอด แน่นตึก คนถึกถึงกับหายใจไม่ออกทีเดียว
“เฮยยย ทามรายวะ เรียกแม่นะเว๊ยยย” โดนรัดแน่น อย่างงูรัดคอเหยื่อ หายใจไม่ทั่วท้องแล้ว
“เรียกสิ อยากให้แม่เข้ามาเห็นเรายืนกอดกันก็..เอาเลย” น้ำเสียงชวนขนลุก ที่กระซิบชิดริมหู ทำเอาใจเต้นตุบๆๆ อย่างห้ามไม่ได้
“ไอ้ ไอ้ อุบ” จะด่าๆ แต่มานึกขึ้นได้ รีบเอาหน้าซุกไหล่ต้นตองทันทีเพื่อไม่ให้ด่าออกมา ขืนแม่มาเห็นเข้าเรื่องใหญ่แน่
“ยั่วเหรอ” ตารกายังคงกระซิบให้รงคเพทมองตาเขียวปั๊ด
“……” ไม่พูดอะไรออกมา รำคาญมัน
“เรียงคิดถึงผมบ้างไหม จุ๊บ” ถามออกไปเบาๆพร้อมจูบขมับคนในอ้อมกอดไปหนึ่งที
“……”
“คิดถึงนะ ฟอดดดด” ก้มลงบอกกล่าวความในใจ แล้วหอมแก้มไปฟอดใหญ่
“ปล่อยกู” ยังคงพยายามดันมันออก ไม่ฟัง ไม่อยากฟัง นอนร้องไห้มาตั้งหลายคืน แล้วมาบอกคิดถึง คิดถึงบ้านมึงดิ
“สอบเป็นไงบ้าง ทำได้ป่าว”
“…….”
“นอนหลับสบายดีไหม”
“……..”
“ผมว่า..”
“โว๊ยยยย !!!!! อะไรนักหนาวะ รำคาญ …..ไอ้เชี่ย ” คราวนี้ผลักหลุดจนได้ ตารกอึ้งที่รงคเพทปรี๊ดแตก
“มึงไปเลย ออกไปจากห้องกู ก่อนกูจะฆ่ามึง …มึงมาทำไม หะ!! บอกกูเองไม่ใช่รึไง ให้กูลืมๆ เห็นกูเป็นแค่เพื่อน ให้กูไม่รู้จักมึง แล้วนี่มึงทำอะไร ต้องการอะไรจากกูอีก …อึก”
“เรียง…”
“แค่นี้กูยังเสียใจไม่พอใช่ไหม ยังทำกูเจ็บไม่พอดิ มึงรู้ไหม กูคิดไปไกลขนาดไหน กูคิดว่ามึงจะรักกูบ้าง กูไปไหนทำอะไร กูคิดถึงมึงก่อนคนแรก นึก นึก นึก จนวันๆกูไม่เป็นอันทำอะไร ฮึก..แต่เปล่าเลย กูผิดหมด กูคิดไปคนเดียว ใครรู้คงด่าว่ากูหลงตัวเอง กูหลอกตัวเอง กูเป็นโรคจิต แล้วพอกูเริ่มทำใจ มึงมาทำไม หะ !!!! ฮึกๆ …ฮ่า” น้ำตา อารมณ์มาเต็ม น้ำเสียงที่เค้นออกมาแข่งกับน้ำตา สุดแสนจะเจ็บปวด เขาต้องเสียใจกับคนๆนี้ไปอีกแค่ไหน ไปทำเวรทำกรรมอะไรกับมันไว้
“…….” ตารกาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ดึงคนที่ร้องไห้โวยวายหนักเข้ามาบังคับกอด
“ปล่อยเลย ไอ้เหี้ย ปล่อย !!! ฮืออ ไม่ต้องมาจับกู จับกูไม ไม่รักกูนี่ ….อึก มึงไม่รู้หรอก กูเสียใจ กูนอนไม่หลับ กูไม่เคยเป็น เกลียดตัวเอง ด่าตัวเองวันละร้อยรอบ มึงเข้าใจกูบ้างไหม แล้วมึงก็หายไป อึก อึก”
“เรียง..ผมขอโทษ ฟืดดด”
“ไม่ต้อง กูไม่เอา อึก”
“ขอโทษนะ ผมขอโทษ ฟืดดด” รงคเพทหูฝาดรึเปล่า เสียงเหมือนมันสูดน้ำมูก เฮอะ กูไม่อยากหลงตัวเองว่ามันร้องไห้ให้กูหรอกนะ
“ผมก็เสียใจ นอนไม่หลับไม่ต่างจากเรียงเลย” เมื่อผละออกจากอ้อมกอด ก็เห็นคนหน้าหล่อน้ำตาคลอจริงๆ มันคล้ายพยายามข่มไว้ไม่ให้ไหลออกมา ได้มองดูหน้าใกล้ๆแบบนี้ หน้าตาหล่อเหลา ผิวใสปริ๊งปรั๊ง บัดนี้กลับซูบซีดไปอย่างเห็นได้ชัด ใต้ตาที่คล้ำไม่ต่างจากเขา คนที่เคยดูแลตัวเองดีมาตลอด ทำไมตอนนี้ถึงได้โทรมไปมากขนาดนี้หล่ะ ยิ่งเห็นน้ำตาใกล้เอ่อล้นออกมาแบบนั้นอีก รงคเพทยิ่งเจ็บลึกเข้าไปอีกเท่าตัว จากที่ร้องไห้กลายเป็นร้องไห้หนักกว่าเดิม เขาไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองอีก แต่ตอนนี้คนตอนหน้ามันน่าสงสาร รงคเพทจึงเดินเข้าสู่อ้อมกอดมัน โดยลืมเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตนไปชั่วขณะ
“จูบได้ไหม” โจรในอ้อมกอดส่ายหน้าเบาๆ แอบร้องไห้บนไหล่ตั้งตรง น้ำตาเปื้อนเป็นวงกว้าง
ตารกาไม่สนใจกับการส่ายหัว เขาดันคนขี้แยออกจากอ้อมแขนแล้วเชยปลายคางขึ้น จูบลงไปยังปากหนาๆนั้น ค่อยๆไล่เลียตามริมฝีปากช้าๆ ก่อนประกบริมฝีปากของตนลงไปหนึ่งที แล้วผละออก
“……” สองสายตาที่จ้องประสานกัน คล้ายอยากถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ถึงซึ่งกันและกัน ตารกาประกบปากลงไปอีกครั้ง แต่ครานี้เขาค่อยๆดูดวนรอบๆปากหนาอย่างนุ่มนวล ก่อนใช้ลิ้นดุนให้ปากนั้นอ้าออก และก็ได้รับความร่วมมือกลับมา ลิ้นสีชมพูของคนซูบผอมสอดเข้าลึกล้ำ แตะสัมผัสตั้งแต่โพรงปากด้านนอกเข้าไปจนสัมผัสถึงลิ้นของอีกฝ่าย เมื่อปลายลิ้นเริ่มแตะถึงกัน จูบดูดดื่มก็เกิดขึ้น แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงจูบอ่อนโยนจากตารกา แต่ไม่นานนัก จูบนั้นก็กลายเป็นจูบที่ร้อนแรง อารมณ์ของตารกากำลังลุกโชนอย่างห้ามไม่ได้
รงคเพทที่ยังไม่ทันได้นึกอะไร เมื่อถูกจูบยั่วยวน ทุกสิ่งก็พลันหายไป เหลือเพียงความรู้สึกที่เฝ้านึกถึงอยู่ทุกค่ำคืน โจรห้าร้อยปล่อยตัวปล่อยใจไปกับรสจูบ จากคนที่เขารัก รักมากเหลือเกิน ขออีกนิดเถอะนะ หากว่ามันเป็นสิ่งลวง ก็ไม่เป็นไร เขาจะทำใจให้ได้
รู้สึกตัวอีกที หลังก็ติดที่นอนไปแล้วเรียบร้อย รงคเพทสติกลับมาอีกครั้ง แต่ดูคนที่เอาแต่จูบเขาเกือบสิบนาทียังไม่รู้สึกตัว ดูมันกระหายแปลกๆ นี่มันได้ระบายบ้างรึเปล่านี่
“อืมม อือออ อื้ออออ ฮ่า ฮ่า” คนด้านล่างผลักสุดหล่อแต่แรงเยอะ ออกได้ในที่สุด หอบหายใจสักพักมันก็โน้มลงมาจะประกบปากอีกครั้ง
“พอ ต้นตองง นี่บ้านกูนะ” ไม่สำเร็จ ตารกาขาดสติไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เจ้าของห้องนอนถูกจูบจนอีกคนพอใจ เริ่มเปลี่ยนไปจูบๆ ดูดๆที่ลำคอแทน
“ต้นตอง พอเถอะ เห้ยยย” พูดแผ่วเบาไม่ได้ยิน เลยต้องพูดดังๆ นี่พูดดังแล้วนะ ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองกระซิบยังไงก็ไม่รู้
ฟุบ !!
ต้นตองที่ง่วนกับการจูบเมื่อครู่ ซบหน้าลงกับเตียง บนไหล่รงคเพท
“ขอโทษเรียง แต่ผมทนไม่ไหว คิดถึงใจจะขาดแล้ว” กัดฟันพูดอย่างอยากลำบาก มืออีกสองข้างก็ขยำผ้าปูที่นอนอย่างอดกลั้น จากนั้นก็ลุกมามองหน้ารงคเพทตรงๆ
นี่ นี่มันหื่นกามขั้นสุดยอดแล้วสินะ หน้าแดง หูแดง แววตาฉ่ำเยิ้ม กัดฟันกรอดๆ ….นี่ นี่ต้นตองมันถูกปีศาจกามเข้าสิงอีกแล้วเหรอ คราวนี้แสดงออกชัดเจน จนคนเห็นหัวใจเต้นกระหน่ำ หน้าแดงตามอย่างขวยเขิน
“ต้นตอง ใจเย็น” เอ่ยออกไปอย่างนั้น แต่มือกลับโอบรอบคอคนด้านบนให้โน้มลงมาจูบกันต่อ อาการคนโน้มลงมาจูบ แย่ลงทุกที รสจูบทั้งเผ็ดทั้งมัน ขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานปากสีแดงๆก็เริ่มไล่ลงมาตามรำคอ ดูดกลืนลำคออย่างหิวโซ
“ไปอดอยากมาจากไหนต้นตอง”
“…..” ไม่มีคำตอบ ไม่นานร่างกายหนาๆของรงคเพทก็ถูกหมาป่าหิวโซไล่เลียไปแทบทุกส่วน แต่ละส่วนร้อนผ่าวตามลิ้นที่ดูดเลีย จนปากสวยๆนั้นลงไปถึงน้องชายอีกนายของรงคเพท ครอบปากลงไปอย่างไม่ทันห้าม
“อูยยยย ซีดดดด ต้นตองงง อาาาาาห์” ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดรัดพันในโพรงปากรงคเพทเมื่อครู่ บัดนี้แลบเลียตั้งแต่โคลนจรดปลายอย่างกระหาย เรียกเสียงสุขสมจากเจ้าของได้เป็นอย่างดี
“ตอง พอแล้ว อาาา” บอกพอ แต่มือกดหัวตารกาเอาไว้ให้ส่งน้องชายเข้าไปยังโพรงปากหวานๆนั้นลึกอีก
ตารกาขยับช่องปากอย่างชำนาญอีกสักพักก็เลียกลับจากล่างขึ้นมาด้านบนและประกบจูบปากที่มัวพูดพร่ำอยู่
“ชู่ววว ฮ่า เงียบหน่อย แม่อยู่ห้องข้างๆไม่ใช่หรือ” พูดไปด้วยหอบไปด้วย แรงอารมณ์ที่รงคเพทไม่เคยเห็น และเหมือนจะนึกขึ้นได้รอบสอง รีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันควัน กลับโดนคนเตือนดึงออกและประกบปากตัวเองลงไปแทน
“จ๊วบบบ อืมมม ฮ่า อืออ จุ๊บ จ๊วบบ….” จูบดูดดื่มดังจ๊วบจ๊าบ ไม่ดังเท่าเสียงพูด ตารกาใช้วิธีนี้ช่วยรงคเพทปิดปาก….ด้วยปาก
“อือออ…” รงคเพทจูบตอบอย่างสุขี ตารกาจูบไปเรื่อยๆ พร้อมกับมือที่ปลดกางเกงของตัวเองลง พาน้องชายของตนออกมาทำความรู้จักกับน้องชายของรงคเพท นำน้องๆมาวัดขนาดกัน ถูๆไถๆกันกันสักพัก น้องๆเริ่มอารมณ์ดี แข่งกันตื่นตัว อย่างไม่มีใครยอมใคร
ไม่รอช้ามืออีกข้างคว้าของบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกง ค่อยๆเลื่อนลงไปยังช่องทางลับ ปากยังคงจูบ มืออีกข้างยังคงช่วยเหลือน้อง และอีกข้างนวดๆวนๆโดยใช้บางสิ่งที่ควักออกมาเมื่อครู่เป็นใบเบิกทาง รงคเพทยังคงไม่รู้สึกตัว ยังคงดื่มด่ำกับรสจูบแสนหวานและหรรษากับน้องชาย มือก็ขยำขยี่หัวคนด้านบนอย่างระบายอารมณ์ใคร่ ตารกาจับมือที่ขยี้หัวตัวเองอยู่ ดึงมือนั้นมาช่วยเหลือน้องชายตนและน้องชายเขา รงคเพทไม่มีเกี่ยงงอน ปฏิบัติตามด้วยความรักเต็มที่ แต่แล้วสักพักความเสียวซ่านและความหอมหวานของรสจูบก็เริ่มหายไป
กลับกลายเป็นความเจ็บจี๊ดจากช่องทางลับด้านหลังมาแทน
“ตอง เจ็บ… ” กระซิบบอกคนด้านบนที่พยายามทำบางสิ่งอยู่
“ทรมานเหมือนกันเรียง ทนหน่อยนะ” เสียงหอบหายใจแรงมาก รงคเพทอยากจะละลายตายไปด้วยแรงอารมณ์ของผู้ชายคนนี้จริงๆ
เอ๊ะ !! แต่เดียวก่อน ….นี่เขามาอยู่ข้างล่างมันอีกแล้วได้ไงเนี่ยย !!!! เขาต้องเป็นฝ่ายกดมันสิ นี่มันอะไร
“โอ๊ยยย เดี๋ยวๆ เจ็บอ่ะ” พูดเสียงงุ้งงิ้ง งอแง เหมือนเด็กขี้อ้อน แต่ไม่ทันแล้ว คนด้านบนเริ่มส่งน้องชายตัวใหญ่เข้าไปยังช่องทางแห่งความสุขนั้นแล้ว
ห่างหายมานาน ช่องทางนั้น คับแน่นซะจนคล้ายไม่เคยผ่านศึกใดมา เรียกร้อยยิ้มบนใบหน้าตารกาได้เป็นอย่างดี
“ยิ้มไมง่ะ”
“ชอบ” ตุบ ตับ ตุบ ตับ เสียงหัวใจเต้นดัง แข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อจากด้านล่าง รงคเพทยังคงเจ็บไม่หาย หน้านิ่ว คิ้วขมวด ร้องเจ็บๆ แต่ไม่ทันแล้ว ตารกาใส่มาไม่มียั้งสักนิด
“ซีดดดด” ตารกาเห็นใจคนทำหน้าเจ็บปวด ช่วยรูดขึ้นรูดลงน้องชายรงคเพทอย่างเร็วแรง จนรงคเพทเริ่มมีอารมณ์ร่วมอีกครั้ง
ผ่านไปไม่นาน รงคเพทกลับมีอารมณ์จากทุกช่องทางจนคล้ายล่องลอย คนด้านบนหลังจากได้ปลดปล่อยไปบ้าง ก็เริ่มกำกับจังหวะ เพื่อไม่ให้คนด้านล่างอึดอัดมากนัก
“อืมมม อ๊า อ๊า อ๊าาาาาห์”
จุ๊บ
“ดังไปแล้วเรียง” ปากกลับมาประกบปิดเสียงกันอีกครั้ง
ความสุขที่ทั้งคู่ต่างมอบให้กัน ไม่นานก็พากันไปถึงฝั่งฝัน ด้วยพอใจกันทั้งสองฝ่าย
“ฮ่า…. ฮ่า…. ฮ่า….” ทุกอย่างจบลง ตารกาฟุบหน้าลงบนอกที่กระเพื้อมขึ้นลงอย่างเหน็ดเหนื่อย
“เรียง”
“หืม” สูดลมหายใจลึก เพื่อให้ปอดรับออกซิเจน และกลับสู่สภาวะปกติ
“ผมรักเรียง” ตึก ตึก ตึก หัวใจเต้นแรงอีกแล้ว ความดีใจโลดแล่นจนน้ำตาแทบเอ่อนอง แต่แล้วก็มีความรู้สึกบางอย่างประท้วงเอาไว้ ความเจ็บปวดที่ร้องเตือนไม่ให้เชื่อคำพูดของผู้ชายคนนี้
“ฮึฮึ หลอกอะไรกูอีก” หัวเราะออกมาด้วยความสมเพทตัวเอง น้ำตาก็ไหลมาอีกแล้ว จึงรีบยกมือทั้งสองข้างปิดหน้าเอาไว้ ตารกาที่เห็นเช่นนั้นดึงมือทั้งคู่ออก และจ้องลึกไปในดวงตาที่ถูกขั้นด้วยม่านน้ำตา
“ผมไม่ได้โกหก ผมรักคุณ” ยกมือนั้นขึ้นจูบที่ปลายนิ้วอย่างแผ่วเบา
“เจ็บนะเรียง เจ็บมาก จนเกือบทนไม่ไหว” นำมือที่จูบไปเมื่อครู่ทาบลงที่อกด้านซ้ายของตน รงคเพทรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กันของเขา
“เจ็บแล้วทนทำไม”
“จุ๊บ..รักไง จุ๊บ..รักมาก” จูบลงที่ปากหนึ่งครั้ง เอ่ยคำรัก และจูบลงอีกครั้ง
“ผมจะเล่าทุกอย่างให้เรียงฟัง ผมสัญญา เชื่อผมเถอะนะ”
“เล่ามาดิ”
“เอาเรื่องไหนหล่ะ ผมยังไม่อยากเล่าตอนนี้ ตอนนี้ผมอยาก….อย่างอื่นมากกว่า”
“เล่ามา ไม่งั้นไม่ต้อง” ตารกาหนาแหยๆไป รงคเพทเห็นแล้วก็กลั้นหัวเราะทั้งน้ำตาไว้
“ผมกับสองเคยเป็นเพื่อนรักกัน ตอนม.ปลายหน่ะ” ตารกานอนเล่าทั้งๆที่นอนทับรงคเพทอยู่ และน้องชายก็เริ่มกลับมาตื่นเต้นอีกแล้ว
“เมื่อก่อนสองเป็นคนดีมาก ผมกับสองสนิทกัน รู้ใจกันทุกเรื่อง” ตารกาคว้ามือที่ตนจูบไปเมื่อครู่ทาบลงไปยังน้องชายที่กำลังตื่นเต้น ได้รับเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ จากรงคเพท แต่ก็ยังขยับตามมือด้านบนที่บงการ
“แต่มีเรื่องนึงที่ผมไม่เคยรู้” ตารกาขยับมือเร็วขึ้น หน้าเริ่มกลับมาแดง และหอบหายใจแรงอีกครั้ง
“ไอ้บ้า แล้วไงต่อเล่า จะจบไหมเนี่ยวันเนี้ย” เห็นแล้วก็เขินแทน นั่นมันมือเขานะ
“มันจะกดผม” โน้มลงไปเล่ากระซิบชิดริมหู
“หะ !! แล้วเป็นไง” ตื่นเต้นจัด ออกอาการไปหน่อย นี่สุดหล่อของเขาเคยถูกกดมาแล้วจริงหรือ
“ฮึฮึ ผมตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรหรอก โอมมันเป็นคนไปช่วย”
“เพราะมึงรึเปล่า สองเลยกลายเป็นแบบนี้”
“เรื่องนั้นผมว่าก็คงมีส่วน จากนั้นมาสองก็ออกจากกลุ่มผม แล้วไปคบกับพวกเด็กเกเร จนสุดท้ายก็กลายเป็นหัวหน้าแก๊งค์ซะเอง อย่างที่นายเห็น”
“มึงไม่รักสองบ้างเหรอ” ถามไปงั้น มือที่ถูกชักนำเริ่มอ่อนแรงแล้ว กลัวว่าต้นตองจะยังเคยรักเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนี้
“ผมรักสองแบบเพื่อนมาตลอด มันกลับเห็นความรักของผมเป็นอย่างอื่น” จึกก โดนตรงใจรงคเพทอีกแล้ว
“เฮ้อ” เสียงถอนหายใจของรงคเพท ตารการู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร
“แต่สำหรับเรียง ผมรักจริงๆนะ ”
“รักแค่ไหน แค่เพื่อนรึไง”
“แค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่ได้เห็นหน้า แล้วกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่อยากทำอะไรเลย เกรดเทอมนี้ผมต้องแย่แน่ๆ ดูดิ หมดหล่อแล้วไม่เห็นหรือ”
“ฮึฮึ ทำตัวเองนี่หว่า” มือรงคเพทอีกข้างที่ว่างค่อยๆลูบไปตามใบหน้าที่สังเกตได้ชัดว่าซีด และใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า
“คราวก่อนผมบ้าไป เพราะคิดว่าสองมันจะเล่นงานทุกคนที่ผมรักแน่ ผมจึงส่งเรียงกลับบ้าน แต่ก็เป็นผมเองที่ทนไม่ได้ เรียงทำได้ไงหน่ะ ไม่โทรหาผมเลย ฟอดดดด” พูดไปก็หอมไป ไอ้นี่มันบ้ารึไง
“จะตายเอาหน่ะสิ ดีหน่อยที่แม่คอยปลอบ”
“ผมคิดถูกแล้วที่พาเรียงกลับบ้าน”
“แล้วมาหาแบบนี้ไม่กลัวสองจะตามมาเล่นงานกูอีกรึไง”
“ไม่แล้วหล่ะ ดูเหมือนสองกำลังได้รับบทเรียนอะไรบางอย่างแล้ว ปล่อยมันไปเถอะนะ มาต่อเรื่องของเราดีกว่า” ไม่ปล่อยให้คนรักได้ตอบอะไร พาน้องชายลอดถ้ำพิศวงทันที
“อ่ะ อ๊าาาาาห์” สองหัวใจ พร่ำคำรักต่อกัน อีกครั้ง และอีกครั้ง ค่ำคืนนี้แสนหอมหวาน และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกันง่ายๆ รงคเพคอยากเห็นไหม ฟ้าสีเหลืองเป็นยังไง
“อืออ” จูบรับอรุณจากตารกา มอบให้อย่างอบอุ่น
“ตื่นได้แล้ว จะเก้าโมงแล้วนะ” ตารกาเอานิ้วจิ้มๆคนที่หลับตาปี๋อย่างไม่ยอมตื่น
“โห เก้าโมง ปิดเทอมแล้ว สักเที่ยงละกันๆ”
“เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่รอกินข้าวนะเรียง ลุกได้แล้ว”
“ม่ายยยยย” ลืมตามองข้างนึง แล้วนึกในใจ ทำไมเขาถึงอ่อนเพลีย ส่วนไอ้คนยิ้มแฉ่งนี่หน้าตามันกลับสดชื่น อย่างกับโลกเป็นสีชมพู ทั้งๆที่ ก็ออกรบมาพร้อมกันแท้ๆ
“จุ๊บ เดี๋ยวผมเอาขึ้นมาให้แล้วกันนะ : )”
“อืออ” พร้อมหลับอีกรอบ
“ผมรักคุณ” อ่าวหลับไปแล้ว หอมไปอีกทีก่อนลงไปด้านล่าง
โอยยยยย แล้วจะนอนต่อยังไงล่ะวะเนี่ย ไอ้ใจบ้านี่ก็สั่นอยู่นั่นแหล่ะ แค่เขาบอกรัก แค่เนี้ย แล้วนั่นๆ จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำไม หะ เมื่อคืนนี่ก็เสียเปรียบมันไปเต็มแท้ๆ
“ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้าเอ้ยยยย” ด่าเขาไป แต่เอาหมอนเขามานอนกอด และหลับไปอย่างเป็นสุข
ตารกาเดินลงบันไดมาอย่างสดชื่น ไม่แน่ใจว่าเรื่องเมื่อคืน ท่านทั้งสองจะได้ยินบ้างหรือไม่ เมื่อลงมาก็พบกับคุณแม่ของเรียง กำลังเตรียมอาหารเช้าให้อยู่
“อ่าวคุณต้นตอง ตื่นแล้วหรือ มาทานข้าวด้วยกันก่อนค่ะ…แล้วเจ้าเรียงไปไหนซะล่ะ ได้ตามมาทานข้าวด้วยรึเปล่า” คุณแม่เหมือนไม่รู้ ว่าเมื่อคืนเกิดหนังชุดใหญ่ขึ้นในบ้าน ตารกาถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ราม ยกไปเผื่อคุณต้นตองด้วย….นี่รามค่ะ น้องเรียงเขา” คุณแม่เรียกลูกชายคนที่สองของบ้านมาช่วยยกอาหารไปตั้งโต๊ะ โดยที่คุณแม่ไม่ทันได้สังเกตุเลย
ว่าในขณะนี้ลูกชายคนที่สองของบ้านและตารกา ลูกเขยที่พึ่งได้รับมาหมาดๆเมื่อคืน (แม้คุณแม่จะยังไม่รู้) ทั้งคู่กำลังมองตากันอย่างตกตะลึงอะไรบางอย่าง หนึ่งสายตาที่จ้องมาอย่างไม่ละ แฝงความรู้สึกบางอย่างที่รวมกันมาทั้งดีใจและเสียใจที่ได้เจอในแวบเดียวกัน และอีกหนึ่งสายตาที่ลุกโชนคล้ายเจอของที่ทำหายไปเมื่อนานมาแล้ว
... . . . . . . .... . ... . .. .. . . ...................... ........................................................................................