ลำนำรักในม่านหมอก ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง พิเศษ1(02/05/14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลำนำรักในม่านหมอก ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง พิเศษ1(02/05/14)  (อ่าน 28673 ครั้ง)

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
หึๆๆ เรียงคิดอะไรจะกดต้นต้องหรอ

ออฟไลน์ smile_aex

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๔  เธอคิดอย่างไร  ใครเลยจะล่วงรู้





        ออดดดดดดด !!!!!!!





        เสียงกริ่งคอนโดตารกาสุดหล่อดังขึ้น ณ เวลา ตี4 คนกำลังหลับสบาย สะดุ้งตื่นอย่างหงุดหงิด เมื่อดูเวลาดีกรีความหงุดหงิดยิ่งเพิ่มเข้าไปอีก




        เมื่อเดินออกมาจากห้องนอน เปิดจอดูก็พบกับใครบางคนที่แต่งกายคล้ายบาร์เทนเดอร์ ตารกาไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ตอนนี้ แต่ใจก็ไม่ได้นึกกลัวอะไร จึงเปิดประตูออกไปดู




        “ดีพี่”  เด็กคนนั้นยกมือไหว้ ตารกาไม่เคยพบกับเด็กคนนี้




        “มีอะไรหรือเปล่าครับ” 




        “เพื่อนพี่บอกให้ผมมาส่งเขาที่นี่”  ตารกามองไปรอบๆ แต่ไม่พบใคร นอกจากเด็กน้อยบาร์เทนเดอร์




        “ไหนหล่ะ”




        “อยู่ในรถโน่น ผมแบกขึ้นมาไม่ไหว ตัวหนักอย่างกะควาย” 




        “แล้วพี่จะแน่ใจได้ยังไงว่าน้องพูดความจริง”  เด็กน้อยล้วงเอาบางอย่างในกระเป๋ากางเกงออกมา มันคือโทรศัพท์มือถือ คลิปเสียงถูกเปิดขึ้นให้ตารกาฟัง มันคือเสียงที่ถูกอัดโดยคนที่เขารู้ดีกว่ามันเป็นใคร แม้ว่าเสียงจะเมาจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง





        “เห้ยยยย !!! ไอ้หน้าตุ๊ด ปิดเครื่องทำเตี่ยไรวะ โทรหาจนกูจะผลิตเครือข่ายมือถือใช้เองได้ละ ไอหอก มึงมาเลยนะ มารับผิดชอบกู เดี๋ยวนี้ !!! ไอ้เชี่ย ไอ้#&^&%$%$$#!$3@%^**.......”  ต่อท้ายด้วยคำชื่นชม ที่ตารกาไม่อยากได้รับเท่าไหร่อีกยืดยาว คนฟังขี้เกียจฟังจึงกดปิดไป





        “เขาบอกให้ผมเอาให้พี่ฟัง แล้วพี่จะเชื่อ”  เด็กน้อยบาร์เทนเดอร์ได้เห็นสีหน้าเอือมระอาที่สุดพร้อมเสียงถอนหายใจของเจ้าของห้องสุดหล่อก็ตอนนี้




        “รถจอดไหนล่ะ”




        ตารกาเดินตามเด็กคนนั้นลงไปยังลานจอดรถ รงคเพทที่เมาเรียกได้ว่าอย่างหมา ถูกบรรทุกใส่กระบะหลังรถประจำผับมาส่งให้ถึงที่ สภาพไม่น่าพาขึ้นห้องสักเท่าไหร่ กลิ่นตัวอุดมไปด้วยกลิ่นอ๊วก เหม็นเน่าจนตารกาไม่กล้าเข้าใกล้





        “มาช่วยหน่อยดิพี่ เพื่อนพี่ไม่ใช่เหรอ”





        “เฮ้อออ ค่อยๆพยุงให้ลุกก่อนแล้วกัน”  หลังจากทำใจสักพัก ตารกากับเด็กบาร์ก็ช่วยกันหิ้วปีกพาโจรสุดเหม็นขึ้นไปยังวิมานของตารกา






        ระหว่างทางขึ้น คนที่มีสติครึ่งไม่มีครึ่ง พร่ำด่าไอ้คนที่ช่วยหิ้วปีก ฟังแทบไม่รู้เรื่อง ฟังออกแค่ว่า ปิดเครื่องทำไม โง่รึเปล่า ด่าซ้ำไปซ้ำมา ตารกาก็อยากจะบอกเหลือเกิน ว่าตี 4 แล้ว จะปิดโทรศัพท์ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก





        เมื่อถึงห้อง ตารกาและเด็กบาร์โยนไอ้คนตัวเหม็น ลงกับโซฟาใกล้ประตูที่สุด ได้ยินเสียงมันท้วงมาว่าโอยๆ เหอะๆ สมน้ำหน้า เรียกรอยยิ้มให้แก่เจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี





        “น้องไปเถอะ ขอบใจมาก”




        “เดี๋ยวพี่ เดี่ยวๆ เพื่อนพี่ยังไม่ได้จ่ายตังค่าเหล้าเลย เขาไปบอกเฮียเจ้าของผับไว้ ว่าถ้ามาส่งเพื่อนจะจ่ายตังให้”




        “เฮ้ออ…เท่าไหร่ล่ะ”




        “พันเจ็ดพี่ อันนี้ลดแล้ว เพื่อนพี่สั่งแต่เหล้าแพงๆ มาร้านตั้งแต่ทุ่ม ร้านยังไม่เปิดเลย มาก็มานั่ง……..”  คำสาธยายจากเด็กบาร์ผู้น่ารัก ยาวเหยียด รอตารกาเดินไปหยิบเงินมาจ่าย




        “ขอบใจมากน้อง ไม่ต้องทอน”




        “ขอบคุณมากครับ”  ต้นตองหยิบแบงค์พันสองใบให้แก่เด็กบาร์ เมื่อได้เงินก็ไหว้สองสามทีแล้วเดินกลับออกไป 





        ปิดประตูห้องเรียบร้อย ตารกาก็เดินมายืนมองสภาพคนเมาไม่รู้เรื่องที่นอนอยู่บนโซฟา ด้วยความสังเวช




        “ถ้าโซฟาผมเปื้อน ก็ซื้อแทนด้วยแล้วกันนะเรียง”  พูดทิ้งไว้แค่นั้น แล้วเดินกลับห้องนอน ล็อคประตูแล้วนอนหลับอย่างเป็นสุขต่อ





        เช้านี้…สีเทา โจรห้าร้อยที่ถูกช่วยชีวิตไว้โดยเทพบุตร เมื่อได้สติก็เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัวจัด พุ่งไปยังห้องน้ำโดยทันที วิ่งเข้าวิ่งออกอยู่สองสามรอบก็เริ่มไม่ไหว รอบที่สี่เปลี่ยนจากวิ่งเป็นคลานแทน ฮ่าฮ่า นอนกองอยู่กับพื้นหน้าห้องน้ำสักพัก อาการหน้ามืดก็เริ่มดีขึ้นเปลี่ยนเป็นปวดหัวจี๊ด ตึบๆ ปนกันไป แล้วก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าสุดๆ โชยมาจากเสื้อผ้าตัวเอง





        “โอยยยยย ….โอย ”  พูดอะไรนอกจากคำว่าโอยไม่ออก ทั้งมึนทั้งปวด มันทรมาน เออ เอ้อ เอยยย สภาพดังกล่าว อาจเข้าข่ายกับสำนวนที่ว่า ‘เมาค้าง’ หรือ ‘เมาขำ’  นั่นเอง





        ลุกก็ลุกไม่ขึ้น นอนต่อก็ทนไม่ไหว ปวดหัวไปหมด แล้วมาอยู่คอนโดต้นตองได้ยังไงก็ไม่รู้ นี่ไม่คิดจะช่วยกันเลยใช่ไหม หายหัวไปไหนของมันวะ เหลือบมองนาฬิกาก็พึ่งเก้าโมงเช้า วันนี้ก็เป็นวันหยุด นี่มันหายไปไหนของมานนนนน




        “โอยยยยยยย กูปวดหัววววว….”  ทำอะไรไม่ได้ โวยวายมันเลย




        “ไอ้คนแล้งน้ำใจ ไปตายไหนวะ”  ตะโกนหาเจ้าของห้องอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร





        เรียกหาต้นตอง ต้นตองก็โผล่มาพอดี ยืนมองสภาพคนกำลังนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นหน้าห้องน้ำ





        “เสียงดังโวยวายอะไรแต่เช้า”  ตารกาในชุดคลุมอาบน้ำ เผยแผ่นอกเนียนใสออกมาเล็กน้อย ไอ้โจรที่นอนอยู่บนพื้นมองช้อนขึ้นมา โอโห เลือดกำเดาแทบพุ่ง





        มองมากไม่ได้ เดี๋ยวน้องชายคึกคัก จากนอนหงาย รงคเพทพลิกไปตะแคงข้าง หันหลังให้เจ้าของห้องหน้าใส




        “กูเวียนหัว ปวดหัว แม่งงงง หัวจะระเบิดแล้ว โอยยยย”




        “แล้วมาบอกผมทำไม พิการเหรอ”  ตารกาเอ่ยเสียบเรียบ คำพูดมันจี๊ดยิ่งกว่าอาการปวดหัวจี๊ดๆตอนนี้ซะอีก ด้วยแรงกระตุ้นจากตารกา คนลุกไม่ขึ้นเมื่อครู่ลุกขึ้นยืนทันทีแบบไม่เจียมสังขาร จึงเกิดโรควูบกะทันหัน จะล้มลงพื้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ตารกาคว้าไว้ทัน ช่วยพยุงคนเมาไปนั่งยังโซฟาตัวเก่ง ที่โจรห้าร้อยใช้ลี้ภัยเมื่อคืน





        คนที่กำลังมึนๆเมาๆ เอาแต่ลอบมองหน้าอกกับเม็ดสีหวานๆที่โผล่พ้นออกมาอย่างไม่ตั้งใจ หลุบสายตาลงมาอีกนิดก็พบกับเนินขาขาวจั๊วะที่ถูกแหวกจากรอยผ่าของชุดคลุม เห็นแบบนี้แล้ว ก็อยากทำดังเช่นในจินตนาการซะเหลือเกิน แต่สารรูปตัวเองตอนนี้ ลืมตาได้ก็บุญแล้ว




        “จะมองอีกนานไหม”




        “ขอจับหน่อยดิ”  นั่นไง สติไม่ครบ ไม่มีอะไรที่ครบ พลั้งปากไปแล้ว พึ่งมารู้สึกตัว โอ้โห เดี๋ยวนี้รงคเพทเทพขึ้นทุกวัน ขอผู้ชายด้วยกันจับซึ่งๆหน้า นึกขึ้นได้ก็อายสุดขีด เลื้อยตัวลงไปนอนที่พื้นเช่นเดิม คว้าหมอนอิงมาปิดหน้าไว้ด้วยหนึ่งใบ ตารกาที่ไม่นึกว่ารงคเพทจะพูดออกมาแบบนี้ แรกๆก็ตกใจแต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะคิกคักแทน




        “ไปอาบน้ำซะ จะได้หายมึน….. แล้วก็ ลูกชายนายจะได้สบายด้วย ฮึฮึ”  บอกประโยคสุดท้ายพร้อมเก็บทุกสิ่งให้พ้นจากสายตาหื่นกามของโจรห้าร้อย แล้วเดินกลับเข้าห้องนอนไป





        รงคเพทที่มึนอยู่มาก ไม่ทันได้คิดถึงประโยคที่ตารกาทิ้งท้ายไว้ แต่เมื่อก้มลองมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแล้วจึงได้เข้าใจ ทำไมมันต้องแสดงออกมาขนาดนี้ด้วยวะ นี่กูเป็นอะไรไป





        เมื่อสุดหล่อไม่ยอมช่วย รงคเพทจึงปลุกใจตัวเอง ฝืนใจเดินไปห้องน้ำ เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ตารกาเตรียมไว้ให้ ถูกแขวนอย่างเรียบร้อยไว้ในห้องน้ำแล้ว อาบน้ำเสร็จก็สบายตัวบ้าง ออกมาพบกับโจ๊กร้อนๆและยาแก้ปวด แต่ไม่เจอเจ้าของห้อง พบเพียงโพสอิดเล็กๆติดกับแก้วน้ำข้างถ้วยโจ๊กไว้สั้นๆว่า ทานข้าวทานยาแล้วนอนพักซะ ประโยคที่ไม่ได้พิเศษ ไม่ได้หวานหยด แต่มันกลับสร้างรอยยิ้มและเสียงเต้นของหัวใจให้กับคนกำลังปวดหัวได้อย่างมาก





        คนเมาทำตามทุกขั้นตอน เมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์ก็เผลอหลับไปในที่สุด รงคเพทเลือกนอนบนโซฟาตัวโปรดของเขา มันเป็นโซฟาที่สุดหล่อของเขา ทิ้งความทรงจำอันโหดร้ายไว้ให้ แต่กลับทำให้เขารู้สึกดี





        หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีก็บ่ายแก่ๆ ยาที่ตารกาให้กินได้ผลดีจริงๆ รู้สึกกระปรี่กระเปร่าขึ้นมากเมื่อตื่นมา ตารกาที่หายไปตั้งแต่เช้ายังไม่กลับมา แต่ท้องไส้ของคนพึ่งตื่นเริ่มประท้วง เปิดตู้เย็นมาก็เจอกับผลไม้ที่เขาเคยซื้อมาทิ้งไว้ให้เจ้าของห้อง เลยเอามากินเองซะเลย นั่งเล่น นั่งดูทีวีไปจนเย็น ตารกาก็ไม่กลับมาสักที หรือจะโทรไปถามดี ว่าจะกลับมากี่โมง





        รงคเพทตัดสินใจไม่โทร แต่เดินลงไปหาซื้ออะไรแถวๆใต้คอนโดขึ้นมากินและซื้อมาฝากตารกาด้วย ซื้อมาอย่างหลากหลาย จัดใส่จานสวยงาม รอจนพระอาทิตย์ตกดิน ตารกาก็ยังไม่มา จนเริ่มทนไม่ไหว โทรหาในที่สุด โทรไปรอบที่สาม สายจึงถูกรับในที่สุด




        “ฮัลโหล..”  ไม่ใช่เสียงไอ้ตุ๊ดหน้าขาวนี่หว่า





        “……”   รงคเพทไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร แต่มันเป็นเสียงผู้หญิง เล็กๆ แหลมๆ





        “ฮัลโหลค่ะ สายหลุดรึเปล่าคะ?”  ปลายสายยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่รงคเพทตอนนี้กำลังหน่วงที่หัวใจ คล้ายว่ากำลังจะหายใจไม่ออก ตารกามีสาวรุมล้อมมากแค่ไหน รงคเพทรู้ดี ไม่ต้องใช้ตามองก็ได้เหยื่อมาครองแบบสบายๆอยู่แล้ว แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ได้รับสิทธิพิเศษที่จะรับโทรศัพท์แทน ถ้าไม่ได้…. เฮ้ออ สารพัดความคิดทำร้ายจิตใจตัวเอง เริ่มประดังเข้ามาในสมอง ไม่รู้ตัวสักนิด ว่าคิดยังไงกับเจ้าของเบอร์นี้ แต่ไม่อยากให้เป็นใครทั้งนั้นที่ได้รับสิทธิพิเศษนั้น เกลียด ทำอย่างไรดี ….





        “ได้ยินรึเปล่าคะ ฮัลโหล ฮัลโหล ต้นตองประชุมอยู่นะคะ ถ้าประชุมเสร็จดิฉันจะบอกให้ติดต่อกลับนะคะ”




        อ่าว มันประชุมอยู่นี่เอง เผลอคิดอะไรไปไกล เหอะๆ นึกแล้วก็ตลกตัวเองชะมัด เผลอหัวเราะออกมากับตัวเองเบาๆ 





        “ครับ ขอบคุณมากครับ”  ตัดบทก่อนถูกจับได้จะดีที่สุด





        สักพักไม่ถึงสิบนาที ตารกาก็โทรกลับมา บอกว่าเขากำลังจะกลับคอนโด เมื่อได้ยินเช่นนี้ รงคเพทก็ยิ้มแก้มแทบปริ ไม่นานเสียงเฟอร์รารี่สุดหรู คุ้นตาก็เข้าจอดเทียบลานจอดประจำตำแหน่งสุดวีไอพี





        เสียงไขประตูดังขึ้น รงคเพทก็ทำทีไปนั่งดูทีวีอยู่ที่เดิม อย่างไม่สนใจอะไรคนเข้ามาใหม่นัก  ตารกาเดินเข้ามาก็ได้กลิ่นอาหารโชยมาเตะจมูก เขาเดินไปยังโต๊ะที่อาหารวางอยู่หลากหลาย เปิดฝาครอบดู แต่ละอย่างก็เป็นของโปรดทั้งนั้น รอยยิ้มถูกเผยบนใบหน้าหล่อเหลา




        “ซื้อมาทำไมเยอะแยะ”  ตารกาเอ่ยขึ้นขณะเดินไปจัดการเก็บของที่เขาหิ้วออกไปประชุมในวันนี้เข้าที่




        “อยากซื้อ”  ตายังคงมองไปที่ทีวี




        “แค่อยากซื้อเนี่ยนะ เหอะๆ”  ตารกาเดินมานั่งข้างๆโจรหน้าโหด วันนี้ตารกาใส่สูทสีดำสนิท ขับผิวขาวอมชมพูให้เปร่งปรั่งดีแท้ แถมยังดูมีมาด มีภูมิฐานกว่าชุดนักศึกษาไปมากโข คงไปประชุมกับบริษัท




        “เป็นค่าตอบแทนที่เมื่อคืนมึงช่วยกู …ว่าแต่ มึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่นั่นอ่ะ”  ถามเมนอินแบล็คข้างๆอย่างสงสัย ได้รับคำตอบเป็นเพียงรอยยิ้ม




        “ยิ้มอะไรนักหนา ถามอยู่เนี่ย”  อารมณ์เริ่มหงุดหงิด ตารการีบหยิบโทรศัทพ์ เปิดคลิปเสียงที่ถูกอัดให้เขาเมื่อคืนให้ไอ้คนขี้หงุดหงิดฟัง





        ‘ เห้ยยยย !!! ไอ้หน้าตุ๊ด ปิดเครื่องทำเตี่ยไรวะ โทรหาจนกูจะผลิตเครือข่ายมือถือใช้เองได้ละ ไอหอก มึงมาเลยนะ มารับผิดชอบกู เดี๋ยวนี้ !!! ไอ้เชี่ย ไอ้#&^&%$%$$#!$3@%^**...... ‘ 




        “นายติดค่าเหล้าเขาด้วย ผมจ่ายให้แล้ว”




        “เท่าไหร่”




        “ไม่เป็นไร ผมออกให้”




        “กูถามว่าเท่าไหร่”




        “พันเจ็ด”  หน้าตาตารกาตอนนี้คล้ายคนที่รู้สึกเหนือกว่าอย่างมาก




        “โห กูแดกไปไม่เท่าไหร่เอง โกงชัดๆ แล้วมึงก็ให้มันไปเนี่ยนะ”




        “มีใบเสร็จมาส่งให้ด้วย อยากดูไหมล่ะ”  ไม่ใช่ไม่อยากดู แต่ตั้งพันเจ็ด กินข้าวได้ตั้งหลายมื้อ




        “เออ ไม่ต้องอ่ะ มึงเลี้ยงกูนิ ขอบใจละกัน….นะ”  ก่อนวิถีของฟรีจะหายไป รีบคว้าไว้ก่อนจะดีกว่า 




        “ก็แค่นั้น…งั้นของพวกนี้นายก็เลี้ยงผมสินะ”  ตารกาลุกไปเปิดฝาอาหารบนโต๊ะออก และนั่งลงบนเก้าอี้เรียบร้อย





        เมื่อกินข้าวเสร็จ รงคเพทก็ขอตัวกลับคอนโดตัวเอง แต่เนื่องจากว่าไม่ได้เอารถคู่ใจมา ตารกาจึงอาสาไปส่งให้ ด้านรงคเพทก็อยากปฏิเสธหรอกนะ แต่ยังไม่เคยได้นั่งรถแล้วตารกาเป็นคนขับให้เลยสักครั้ง ได้ไอ้ผู้ชายเพอร์เฟคคนนี้เป็นคนขับรถให้ คงจะฟินน่าดู





        และก็เป็นอย่างที่รงคเพทคิดไว้ นานๆได้นั่งรถยนต์ที แถมคราวนี้ยังได้นั่งเฟอร์รารี่ ที่หนุ่มฮอตของมหาลัยเป็นคนขับ อยากให้ระยะทางยาวจากแม่สายไปสุไหงโกลก เลยทีเดียว





        ระหว่างทางกลับคอนโด ความคิดอันแสนอุบาทของโจรห้าร้อยก็อุบัติขึ้น คืนนี้ต้องหาวิธีเผด็จศึกไอ้ตุ๊ดสุดหล่อข้างๆเขาคนนี้ให้สำเร็จจงได้





        เมื่อมาถึงคอนโด รงคเพทชวนตารกาขึ้นไปดื่มเป็นการตอบแทนเล็กๆน้อยๆ อ้างว่าเป็นการถอนของเก่าของตน และอยากมีเพื่อนร่วมสร้างสีสัน ตารกาที่ประชุมเหนื่อยมาทั้งวัน เมื่อถูกชวนก็อยากผ่อนคลายบ้าง โดยไม่ทันได้คิดว่าไอ้โจรข้างๆมันจะมีความคิดแสนอุบาทบางอย่างอยู่ในหัว





        ตารกาก้าวเข้าสู่ห้องหลากสีสันของรงคเพทก็ต้องชะงักไปเหมือนคนอื่นๆที่เข้ามาตอนแรกเสมอเช่นกัน เจ้าของห้องหลากสีเดินไปเปิดตู้เย็น อันเป็นที่รู้กันดีกว่า เหล้าเบียร์เพียบขนาดไหน





        ดื่มไปสักพัก รงคเพทที่กะว่าจะมอมตารกากลับไม่เป็นไปดังแผน เพราะตารกาไม่ยอมเมาสักที ยังคงนิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหวเช่นเคย ส่วนคนกะมอม รู้สึกดีขึ้นมากจากอาการเมาหัวเล็กๆในช่วงพลบค่ำ ยิ่งดื่มยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ





        งานนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้ตารกาเมาให้ได้ และความพยายามก็เป็นผลในที่สุด รงคเพทจัดออนเดอะร็อคให้แก่สุดหล่อ เพียงไม่กี่แก้วเท่านั้น คนที่นั่งนิ่งๆ หน้าแดงปรั่งอย่างมะเขือเทศชึ้นมาทันที พร้อมกับอมยิ้มตลอดเวลา ได้ทีไม่รอช้า จัดต่อให้อีกสองสามแก้ว จากนั้นก็พยุงคนที่เริ่มหมดสติแล้วไปที่เตียง





        ค่อยๆวางคนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หน้าแดงระเรื่อลงบนเตียงนุ่ม(ที่นุ่มน้อยกว่าโซฟาที่คอนโดตารกา) คล้ายภาพเจ้าบ่าววางเจ้าสาวลงบนเตียงอย่างอ่อนโยนในวันแต่งงาน





        ตารกาสุดหล่อ หน้าแดง ปากแดง เหงื่อซึมจากความร้อนจากฤทธิ์เหล้านิดๆ นอนยิ้มให้กับคนหน้าโจรที่ตอนนี้เข้าขั้นลุ่มหลงอย่างถอนตัวไม่ขึ้น รงคเพทจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่วางตา อยากจับฟัดไม่ให้เหลืออะไรให้ใครได้เห็นอีกเลย นิ้วมือสีน้ำผึ้งของคนหน้าโจร ไล้ไปตั้งแต่หน้าผากเนียนละเอียด เลื่อนลงมายังคิ้วที่มีขนดกหนาเรียงตัวสวย ยิ่งได้มองใกล้ๆยิ่งสวย ค่อยๆเลื่อนลงมาไล้ไปตามสันจมูกที่โด่งตรงอย่างกับคนผ่านการศัลยกรรมกก็ไม่ปาน ปัดผ่านไปยังพวกแก้มขาวที่แดงระเรื่อด้วยฤทธิ์เหล้า ก่อนจะห้ามใจไม่ไหว กดจมูกของตัวเองลงบนแก้มนั้นดัง ฟอดดด แต่แล้วมากกว่าส่วนกลางลำตัว กลับเป็นหัวใจที่เต้นกระหน่ำจนแทบทะลุออกจากทรวงอก บางสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่ว่ากับใคร เหมือนในหัวใจมีน้ำมาหล่อเลี้ยง เหมือนบางอย่างกำลังถูกเติมเต็ม จนแทบล้น กับเพียงการหอมเท่านั้น





        รงคเพทกดจมูกลงไปอีกเป็นครั้งที่สอง และค้างไว้เนิ่นนานเพื่อสูดกลิ่นหอมหวานจากแก้มใสนั้นแล้วจึงเปลี่ยนเป็นหอมหนักๆที่อีกข้าง สลับหอมไปมา จากนั้นจึงเริ่มจูบไปบนหน้าผาก คิ้วสวย ดวงตาที่หลับลงให้รงคเพทจูบอย่างพอใจ สันจมูกและท้ายที่สุด ปากแดงๆ แต่ยังไม่ทันได้จูบลงไป กลับมีมือของคนที่นอนยิ้มยกขึ้นปิดปากของคนที่กำลังจะจูบตน




        “พอ”  มีเพียงคำ คำเดียว แต่คนที่กำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ไม่ยอมหยุด เขาดึงมืออ่อนแรงของสุดหล่อออกจากปากเขา และจูบลงไปยังปากนั้นในที่สุด แต่เหมือนคนข้างใต้เขาจะไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ ปากที่เม้มปิดสนิททำให้รงคเพทไม่สามารถทำอะไรได้





        รงคเพทเปลี่ยนเป้าหมายเป็นซอกคอที่จินตนาการถึงอยู่บ่อยๆในช่วงหลังๆมานี้ สูดดมคล้ายคนบ้าคลั่ง สิ่งที่ได้รับเป็นดั่งเช่นที่เขาหวังไว้จริงๆ เขาไม่ยอมที่จะหยุดลงเพียงเท่านั้น เรื่องราวยังคงดำเนินต่อไป เขาหวังไว้มากกว่านี้ แต่แล้วก็กลับขึ้นมามองใบหน้านั้น บัดนี้ คนที่นอนยิ้มๆให้เขา หลับปุ๋ยไปเป็นที่เรียบร้อย ความรู้สึกที่มากมายสุดแสนจะทรมานด้วยอยากปลดปล่อย เพียงแค่ไม่รู้ว่าทำไม ได้เห็นคนๆนี้นอนหลับปุ๋ยอยู่ในวงแขนของเขา ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกว่าเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่อยากทำให้คนๆนี้ต้องเจ็บปวดสักครั้งเดียว 





        เมื่อนึกอย่างนี้ มือหน้าก็ค่อยๆลูบปัดไรผมไม่ให้ปรกคลุมใบหน้าหล่อเหลา หอมลงบนหน้าผากมนนั้นอีกครั้ง และกกกอด คนที่รงคเพทคิดว่าคงตกหลุมรักไปแล้วหมดทั้งหัวใจ ไปทั้งคืนอย่างไม่สนใจถึงเหตุผลประกอบอื่นๆอีก





        ค่ำคืนนี้ เขาช่างอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน คนในอ้อมกอดของเขา กำลังทำลายความเดียวดายตลอดมาที่เขาได้สัมผัส ลบสิ่งนั้นทิ้งไปจนแทบสิ้นและนี่ไม่ใช่ความฝันอย่างแน่นอน





        สะดุ้งตื่นมาทีก็หอมแก้มคนข้างๆที เป็นอย่างนี้ทั้งคืน …….แต่ในบางครั้งความฝันของรงคเพทอาจสวยงามเกินไป จนมองข้ามไปถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
       









        เช้านี้….สีชมพู รงคเพทตื่นมาพร้อมพบกับคนที่เขาจงใจมอมเหล้าไปเมื่อคืน ยังไม่ตื่น และหลับอยู่ในอ้อมแขนเขาอย่างเป็นสุข  นี่ถ้ามันตื่นมา จะจำเรื่องที่นอนยิ้มให้เขาจูบเอาๆได้บ้างรึเปล่านะ นึกแล้วก็เขินยังไงไม่รู้





        รงคเพทค่อยๆวางศรีษะของตารกาลงกับหมอนอย่างแผ่วเบา จะพูดได้ว่าหมาป่าสิ้นท่าก็วันนี้ จะได้รึเปล่านะ แต่อย่างไรก็ตาม หมาป่าก็ยังคงเป็นหมาป่า เพราะเมื่อคืนรงคเพทใจอ่อน ไม่ลงมือในที่สุด





        ด้วยความอยากเอาใจ เช้านี้รงคเพทรีบเข้าห้องน้ำ และออกไปตลาดเพื่อซื้อของสดมาทำอาหารเอง กลับเข้าห้องมาก็ไปชะโงกดูคนที่นอนหลับปุ๋ยอย่างเป็นสุขอยู่บนเตียง อ๊อยยย….รู้สึกถึงพลังแห่งความสุขโชยมา





        รงคเพททำอาหารไม่เก่ง เพราะแทบไม่ได้ทำเลย เขาจึงเน้นของง่ายๆ เช่น ไข่เจียวหมูสับ ต้มจืดหัวไช้เท้า นี่ขนาดของง่ายรงคเพทยังทำแล้วทิ้ง ทำแล้วทิ้ง เป็นว่าเล่น จนในที่สุดก็สำเร็จ





        ตารกาตื่นแล้ว เมื่อคืนถูกรงคเพทมอมไปหนัก แต่กลับไม่มีอาการเมาค้าง มันเป็นข้อแตกต่างที่รงคเพทชักอิจฉาขึ้นมาอีกแล้ว




        “ทำอะไรหน่ะ”  คนพึ่งตื่นเดินเข้ามาขณะที่รงคเพทกำลังตวงน้ำหุงข้าว




        “ไข่เจียวกับต้มจืด หิวยัง”  แปลกๆไหมรงคเพท ตอบดีๆก็เป็น นั่น พร้อมรอยยิ้มอีกต่างหาก




        “กินยาผิดซองเหรอเรียง”  จะมีสักคำไหม ที่ไม่ถูกด่าไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมหน่ะ




        “กวนตีนละ”  นั่นไง ไปไม่ได้นานหรอก เผยตัวตนออกมาอีกแล้ว นี่ขนาดว่ารักเขาไปแล้วนะ




        “ฮ่าฮ่า”  เห็นหน้าตาตอนพึ่งตื่นของตารกาแล้วอยากจุ๊บสวัสดี ไม่รอช้า เดินเข้าไปจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากนั้นทันที




        “O.O”  มันทำให้ตารกาอึ้ง ค้างอยู่กับที่พักหนึ่ง แล้วจึงหันมองตัวตนเหตุที่ทำท่าทางแปลกๆไป




        “รุณหวัด”




        “นายทำไรอ่ะ”





        “……”  ไม่ตอบแต่อย่างใด รงคเพททำหน้าที่เมื่อครู่ต่อไป ปล่อยให้ตารกาเริ่มหน้าแดงขึ้นๆอยู่อย่างนั้นเรื่อยๆ




        “ฟอดดดดด”




        “O.O”  คราวนี้เป็นรงคเพทที่ถูกหอมคืนบ้าง และก็เป็นรงคเพทที่ช็อคค้างอย่างไม่เชื่อตัวเอง




        “สวัสดีตอนเช้าเรียง ^^”  หอมเสร็จก็ยิ้มให้และเดินไปนั่งดูทีวีที่โซฟาอย่างสบายใจ





        รงคเพทที่ถูกหอมเมื่อครู่ ขนลุกซู่อย่างไม่มีเหตุผล หัวใจเจ้ากรรมเต้นกระหน่ำแข่งกับลูกดิสโก้ไปแล้ว มือที่กำลังจะกดหุงข้าวก็สั่นไปด้วย โครมครามๆ อยู่ในครัว ดังออกมาด้านนอก ตารกานั่งอมยิ้มไปดูทีวีไปอย่างมีความสุข





        เมื่อยกอาหารทั้งหมด ตักข้าวเป็นที่เรียบร้อย ก็เริ่มกินกัน โดยคราวนี้รงคเพทกินอย่างช้าๆ เพราะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจมากเป็นพิเศษ กับข้าวมื้อนี้ ใส่น้ำตาลไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ทำไมตักคำไหนก็หวานคำนั้น ดีหน่อยที่มดไม่ขึ้น





        เมื่อกินเสร็จรงคเพทก็เดินลงไปส่งตารกาที่รถ ตารกาแปลกใจที่รงคเพททำดีด้วยเป็นพิเศษ แอบคิดในใจว่ามีแผนการอะไรรึเปล่า แต่ก็ไม่เป็นไร จะแผนอะไรก็ช่าง แบบนี้ก็ดีแล้ว มีความสุขดี






        ซึ่งจริงๆแล้ว ตั้งแต่ที่มีรงคเพทเข้ามาในชีวิต ก็ได้เพิ่มสีสัน และความสุขมากมายให้แก่คนหน้าหล่อเป็นอย่างมาก รอยยิ้มที่เกือบลืมไปแล้ว และเรื่องเมื่อคืน…..ฮึฮึ









        หมาป่า ก็ยังคงเป็นหมาป่าวันยังค่ำนั่นแหล่ะ จริงไหม………ต้นตอง


…………………………………………………………………………………………………………………

ู^____^ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

ขอบคุณ คุณGhost-666 นะคะ ที่ช่วยดูคำผิดให้ 555 มีตรงไหนอีก บอกเราด้วยนะ :))
ขอบคุณ คุณMaNaSsAwEe นะคะ เราว่า เรียงคงทำได้แค่คิดแหล่ะค่ะ 5555555
ขอบคุณ คุณsmile_aex ด้วยค่า ฝากติดตามต่อไปนะคะ  :o8:

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และชี้แนะนะคะ ขอบคุณมากค่าาาาาา

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๕  กับดักความเสียใจ  ใครเลยจะล่วงรู้



       
        “ล๊า ลั๊ล ลา… ”  เสียงฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีดังมาจากชายหน้าโจรที่กำลังเดินขึ้นห้อง หลังจากที่ลงไปส่งสุดหล่อของเขากลับคอนโด





        ถึงห้องก็ยังคงฮัมเพลงต่อ วันนี้หยุดอีกวันนึง พรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนอีกแล้ว ขี้เกียจชะมัดเลยยเว้ยยยย ทำได้แค่บ่นไปงั้นแหล่ะ วันนี้วันอาทิตย์ ต้องทำความสะอาดห้อง ซักเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ขณะกำลังกวาดๆถูๆห้องก็พบเข้ากับกระเป๋าตัง และโทรศัทพ์มือถือของคนที่มาค้างแรมที่ห้องเขาเมื่อคืน





        วันนี้ตกลงกับมันไปแล้ว ว่าไม่ว่างต้องทำความสะอาดให้หาอะไรกินเอง …งั้นก็ ค่อยเอาไปคืนพรุ่งนี้เย็นหลังเลิกเรียนก็แล้วกัน แต่แจ้งไปที่คอนโดมันหน่อยดีกว่า เดี๋ยวมันจะคิดว่าทำหาย





        เมื่อเริ่มต้นวันใหม่ของสัปดาห์ รงคเพทเข้าเรียนตามปกติ ทุกคนยังคงปกติ รวมถึงพบรักที่มาเรียนและนั่งข้างไอ้ยีนก็เป็นปกติ เพียงแค่ไม่มองหน้าเขาเลยสักนิด คงจะโกรธ ไม่แน่อาจเกลียดเขาไปแล้วก็ได้





        “เป๋าตังใหม่เหรอไอ้เรียง”  ไอ้กาวที่นั่งข้างๆ เปิดเอาของในกระเป๋าเพื่อนโจร ก็พบเข้ากับกระเป๋าเงินหนังแบรนด์เนมที่รงคเพทไม่เคยคิดจะซื้อมาใช้ หยิบออกมาเอานิ้วถูๆ เป่าๆ ถูๆ อย่างคนจะขูดหวย






        “ของก๊อบป่ะวะ”





        “…..”  รงคเพทไม่กล้าพูดว่าเป็นของใคร พบรักนั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง ไม่อยากให้พบรักได้ยินเลย จึงแอบกระซิบกับไอ้กาวให้ได้ยินกันสองคน





        “ของไอ้ตอง”





        “หะ ของไอ้ต….อุบ”  กำลังจะอุทานออกมา มือหยาบก็กระแทกปากไอ้กาวทันที ดีที่ยังไม่หลุดออกมา พบรักหันมามองแวบเดียวก็หันกลับไปอย่างเดิม สองโจรหันมองหน้ากัน คุยกันด้วยสายตาต่อ






        “อยู่ที่มึงได้ไง”






        “เรื่องมันยาวไอสัด อย่าถามมาก เอาคืนมาได้ละ”  รงคเพทเอื้อมมือหวังคว้าเอากระเป๋าเงินคืน แต่ไอ้กาวไม่ยอมคืนง่ายๆหรอก






        “ขอกูดูหน่อย เป๋าคนรวย จะมีสักกี่ล้าน’’  พูดพร้อมเปิดดูด้านในอย่างถือวิสาสะ ก็พบกับแบงค์พัน สองสามใบเท่านั้น และบัตรต่างๆอีกมากมายเหมือนกระเป๋าคนปกติทั่วไป







        แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนค้นถึงกับตะลึง สะกิดเพื่อนหน้าโจรที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆให้หันมาดู สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาของรงคเพทตอนนี้ กลืนลมหายใจเขาไปหมด เนื้อตัวเริ่มร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก หน้าหนาๆคล้ายถูกของแข็งฟาดเข้าเต็มแรง







        รงคเพทตกตลึงกับสิ่งที่ถูกกาวค้นพบในกระเป๋าเงินของตารกา นั่นคือ รูปถ่ายใบเล็กๆ ที่ถูกซุกซ้อนไว้ในซอกลับของกระเป๋า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตารกาจะพกรูปถ่าย หากว่าคนในรูปถ่ายนั้น จะไม่ใช่ ศรราม น้องชายสุดรักสุดหวงของเขา รูปใบนี้เป็นรูปที่น้องเขาใส่ชุดนักเรียน นั่งอยู่บนม้าหินอ่อน ใบหน้าอมยิ้มอ่อนหวาน ฟิล์มที่ใช้ถ่ายคล้ายออกจากกล้องโพลารอยด์ถูกตัดเก็บเอามาเพียงบางส่วน







        ทุกสิ่งหยุดนิ่งไปชั่วขณะ หัวใจเต้นกระหน่ำแทบทะลุทรวงอกออกมา สมองวิเคราะห์อะไรไม่ทันสักอย่าง ตกลงแล้ว ตารการู้จักกันน้องชายเขาจริงๆสิ แล้วทำไมถึงบอกว่าไม่รู้จัก นี่เขากำลังถูกหลอกหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้น คนที่เขาตกหลุมรัก คือคนที่ข่มขืนน้องเขาจริงๆหรือ แล้ว แล้ว….คำถามอีกมากมายเกิดขึ้นทันที รงคเพทสร้างกำแพงอีกครั้ง กำแพงที่คราวนี้ใครก็พาออกมาไม่ทัน กำลังคิด คิดกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น






        หลังเลิกเรียน รงคเพทขี่รถไปคอนโดตารกาด้วยสภาพไร้วิญญาณ สติจมจ่ออยู่กับความคิดของตัวเอง มาถึงคอนโดตารกาตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลย กับข้าวที่ซื้อมา ซื้ออะไรมายังลืม






        เดินเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบความว่างเปล่า ตารกายังไม่กลับมา อาจยังไม่เลิกเรียน วันนี้ตารกามีเรียนเสริมตอนเย็น เป็นประจำจนรงคเพทจำได้ โจรหมาหงอยนั่งรอเจ้าของกลับมาอย่างไร้ชีวิต จนในที่สุดตารกาก็กลับมา กลับมาเมื่อไหร่ รงคเพทไม่ทันได้สังเกต เห็นอีกทีก็ตอนมานั่งกินข้าวข้างๆแล้ว





        “กินไรยัง”  เห็นรงคเพทเหม่อๆ ตารกาจึงเป็นฝ่ายทักก่อน ทักไปก็กินข้าวไป





        “กินแล้ว”  ตอบไปงั้นทั้งๆที่ยังไม่ได้กิน มานั่งเหม่ออยู่คอนโดตารกาตั้งแต่หกโมงเย็น ตอนนี้สองทุ่มแล้ว ไม่อยากกินอะไร แถมยังอยากอ๊วกออกมาอีกต่างหาก






        “มานานแล้วเหรอ” 





        “สักพัก”  วันนี้มาแปลก ถามคำตอบคำ เห็นท่าไม่ดี ตารกาเลยหอมเข้าให้ไปทีนึง






        ฟอดดดด …..






        O.O






        “เป็นไร หืม”  คำพูดอ่อนหวาน ที่ไม่น่าจะออกมาจากปากตารกา กับการกระทำเมื่อครู่ หยุดทุกความคิดของรงคเพทให้หยุดนิ่ง ใจเปลี่ยนมาเต้นแรงอีกครั้ง






        “ป่าว”  ตารกาจ้องลึกลงไปในแววตาหม่นหมองกว่าทุกวันคู่นั้น อย่างรู้ทัน รงคเพทรู้สึกเหมือนถูกดูดพลังชีวิตไปจนหมดสิ้น





        “แน่ใจ”






        “มึง ..หลอกอะไรกูอยู่ป่าว”  ถามไปแล้ว ไม่อยากได้ยินคำตอบ กลัวว่าคำตอบที่ได้รับจะเป็นคำตอบที่หลอกลวงอีก






        “ทุกคำพูดของผม ผมจริงใจ”  สองสายตาสบประสานกันด้วยอารมณ์ที่ต่างกันไป คนหนึ่งจ้องลึกด้วยแววตาตั้งมั่น แน่วแน่ กับอีกสายตา สั่นไหวระริก คล้ายคาดคั้นจะเอาความจริง





        “เชื่อผมเถอะ”    จุ๊บไปที่แก้มคนคิดมากอีกครั้งหนึ่ง





        เริ่มรู้ตัว คนคิดมากก็เริ่มอาย หน้าคล้ำเแดงออกมานิดๆ มองไม่เห็นหรอก แต่สัมผัสได้





        “บ้าป่าววะ หอมผู้ชาย”  พูดไป เอามือลูบแก้มไป





        “ไม่ชอบรึไง”  ไม่มีคำตอบ มีเพียงรอยยิ้มและก้มหน้าต่ำ





        มื้อเย็นสีหม่น กลายเป็นสีชมพูอีกครั้ง ความมุ้งมิ้ง งุ้งงิ้ง เกิดขึ้น ท่ามกลางคนสองคน 





        ‘ต้นตอง คราวนี้กูเชื่อมึง อย่าทำให้กูต้องผิดหวังล่ะ’  นี่กูใจอ่อนไปป่าววะ








        มื้อกลางวันที่มหาลัยวันนี้ รงคเพทดูอารมณ์ดีกว่าเมื่อวานมาก เพื่อนๆต่างพากันแซวว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงคุยเฮฮาดังลั่นโรงอาหาร สักพักเสียงคุยจอแจของโรงอาหารก็หายไป เงียบกริบไปพร้อมกัน เหลือเพียงโต๊ะสามโจรที่ยังหัวเราะเฮฮากันต่อ แต่เมื่อทั้งโรงอาหารเงียบ สามโจรก็เริ่มมองซ้ายมองขวา






        กลุ่มนักเลงไฮโซของมหาลัยที่ดังที่สุดคงไม่พ้นกลุ่มไอ้สอง หรือ รณภูมิ ทายาทธุรกิจส่งออกติดชาร์จอันดับต้นๆของเมืองไทย หน้าตาดี หล่อขั้นสูสีกับตารกาของเขาได้เลย แต่หล่อคนละแนว สุดหล่อของเขาออกแนวผู้ดีมีมาด มีความรู้ แต่ไอ้สองผู้นี้ มาด โหด ดิบ เถื่อน หน้ามันไม่เคยยิ้ม อุดมไปด้วยมัดกล้ามอย่างนักกีฬา ส่วนสูงก็มากกว่าตารกา เป็นความสูงของคนมีเชื้อต่างชาติ(หล่อแบบหนุ่มชาวอิตาลีนั่นเอง) ไม่เข้าใจสาวๆเหมือนกัน หลงใหลความเย็นชาแสนป่าเถื่อนของมันซะได้ กับลูกสมุนของมันตามติดอย่างเห็บหมัดอีก สามสี่ตัว ดีกรีความรวยและเลวไม่ต่างกันสักเท่าไหร่






        น้อยครั้งที่จะได้เห็นมันโผล่หัวมาในมหาลัย ยิ่งที่รโหฐานอย่างโรงอาหาร คนสีเทากลุ่มนี้ไม่นิยมชมชอบนัก แต่วันนี้ปรากฏตัวมาได้ คงต้องมีใครแถวนี้โดนดีเข้าให้แล้ว






        ขอพระเจ้าจงเมตตา ใครแถวนี้ที่ว่าคนไม่ใช่แก๊งค์เดอะโจรของเขาหรอกนะ และก็เป็นอย่างที่เขาคิด เห็บไรไอ้สองมันเดินมาล้อมวงโต๊ะเขา ส่วนไอ้สองไปนั่งโต๊ะข้างๆแล้วเอาเท้าพาดขึ้นวางบนโต๊ะ ทำหน้านิ่งคล้ายกำลังอยากฆ่าคน





        “มึงใช่ไหมไอ้เรียง”  ไอ้สองเอ่ยเสียงทุ้มใหญ่อย่างทรงอำนาจคุยกับแก๊งค์เดอะโจรที่ถูกเห็บล้อม




        “กูเอง มึงมีไรป่าว”  ตอบไปเฉยๆ อย่างไม่คิดจะกลัว จะกลัวมันทำไมเขาไม่ได้ทำไรผิดสักหน่อย




        “กูไม่ได้อยากเสียเวลา เย็นนี้เคลียร์กันหน่อย ใต้สะพาน………”





        “ทำไมเพื่อนกูต้องไป”  ไอ้กาวเริ่มของขึ้น เดินมาไม่พูดพร่ำทำเพลง นัดไปเคลียร์ เคลียร์อะไร พวกเขาไม่รู้จักพวกมันเป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำ






        “กูไม่ได้บังคับ แต่ถ้าไม่มา น้องมึงคงไม่รอด”  ราม…เป็นไปได้ไหม ว่าจะเป็นฝีมือไอ้สอง ที่ทำร้ายน้องเขา ความอยากรู้บังคับให้รงคเพทตอบตกลงไป เมื่อได้รับคำตอบที่น่าฟัง แก๊งค์คนโฉดก็ถอยร่นหายลับไปจากตรงนั้น






        “มึงจะบ้าเหรอไอ้เรียง ไอ้พวกนี้มันฆ่าคนมาแล้วนะเว้ย” 






        “กูอยากรู้ มันทำน้องกูรึเปล่า ถ้าใช่ กูก็สู้ไม่ถอยเหมือนกัน”  หน้าตาจริงจัง แน่วแน่อย่างหาได้ยากจากรงคเพท ทำให้เพื่อนๆเริ่มเครียดตามไปด้วย





        “ได้ งั้นพวกกูไปด้วย”  ไอ้ยีน มองหน้าไอ้กาว พยักหน้าอย่างรู้กัน และเอ่ยกับเพื่อนหน้าโจร รงคเพทไม่อยากให้เพื่อนไม่เสี่ยง แต่ปฎิเสธคำว่าเพื่อนจากไอ้สองโจรไม่ได้






        พบรักที่เข้ามาได้ยินพอดี ขอไปด้วยโดยคุยผ่านมาทางยีน รงคเพทที่ยังไม่กล้าสู้หน้า ไม่อยากให้พบรักต้องเดือดร้อน แต่ยิ่งบอกปัด พบรักยิ่งน่ากลัว สุดท้ายก็ต้องยอมให้ไปด้วยจนได้







       
        พื้นที่ร้างใต้สะพาน ไม่มีคนสัญจรผ่านไปมามากนัก เพราะเป็นแหล่งซ่องสุมอันดับต้นๆของละแวกนี้ คนส่วนใหญ่มักถูกดัก จี้ ปล้นที่นี่ จนคนขยาดไม่กล้าผ่าน







        รงคเพทมาพร้อมพวก รวมตัวเองแล้วได้ สี่คน เมื่อมาถึงก็เห็นไอ้สองนั่งอยู่บนโขดแถวริมน้ำ และพวกเหลือบไรยืนอยู่ใกล้ๆกันอีก สาม สี่ คน คำนวณจากสายตา จำนวนสูสี หากเกิดเรื่องคงพอช่วยเหลือตัวเองได้ แก๊งค์เดอะโจรเดินไปหาไอ้ตัวหัวหน้า มันลุกขึ้นและเดินเข้ามาหาแก๊งค์เดอะโจรเช่นกัน





        “พวกมึงมีไรกับเพื่อนกู ก็รีบว่ามา”  ไอ้กาว คนไม่กลัวใคร เอ่ยขึ้นเสียงดัง เปิดฉากอย่างรวดเร็ว





        “กูแค่อยากเตือน!เพื่อน!มึง! ว่าอย่ามายุ่งกับ’คนของกู’ ”





        “คนของมึง ? ใคร?”  เป็นไอ้ยีนที่ถาม ส่วนรงคเพทที่ช่วงนี้ก็ไม่ได้ยุ่งกับใครเลย..นอกจาก 





        “มึงหมายถึง….”  รงคเพทถามแผ่วเบา





        “เออ ลูกพี่กูหมายถึงไอยริณนั่นแหล่ะ”  พวกเหลือบไรเป็นตัวตอบ







        “ไอยริณ?   หะ ไอยริณไหนวะ”  หน้าตา งง ขั้นสุด รงคเพทจำไม่ได้ว่าในชีวิตนี้เคยมีไปยุ่งกับคนชื่อไอริณตั้งแต่เมื่อไหร่





        “อย่ามาทำหน้าโง่ ไม่งั้นก็แหกตาดูซะ”  รูปถ่ายขนาดปกติถูกร่อนมาทางที่พวกเรียงยืนอยู่ พบรักหยิบรูปถ่ายนั้นขึ้น ก็เป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ผมยาวสลวยสีดำขลับกำลังอมยิ้มอยู่ข้างๆกับรงคเพทที่นอนหลับถอดเสื้ออยู่บนเตียง






        ชัดเจน !! ไม่ใช่รูปตัดต่ออย่างแน่นอน รงคเพทรู้ดี เขาเคยรู้จักผู้หญิงคนนี้







        “เหี้ย !! นี่มันมึงนี่หว่าเชี่ยเรียง”  ไอ้ยีนที่เห็นอุทานขึ้นเสียงดัง






        “มีอะไรจะพูดไหม”  ไอ้สองเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หน้าหันมองไปทางแม่น้ำ







        “กู..กู…..”






        “ว่าไงเล่าไอ้เรียง บอกมันไปดิว่าไม่รู้จัก”  ไอ้กาวที่สะกิดรงคเพท หวังช่วยเพื่อนเต็มที่






        “เออ กูเคยรู้จัก”








        “ฮึ”  ไอ้สองหัวเราะขึ้นจมูกอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า





        “กูเจอเขาในผับ…ที่ไหนสักแห่ง ความสัมพันธ์คืนเดียว one nice stand อ่ะ แค่นั้นเอง”  รงคเพทพูดไปคิดไป แต่คำพูดนั้นกลับเรียกสีหน้าขุ่นมัวจากไอ้สองได้เป็นอย่างดี






        “คนของกู …..ไร้ค่าจังนะ !!!!! ”  พูดด้วยอารมณ์รุนแรง พร้อมเตะหินที่เคยใช้เป็นที่นั่งเมื่อครู่จนล้มทะลาย





        “มึงอย่าคิดว่าริณจะทำตัวต่ำๆเหมือนมึง”  ย่างสามขุมเข้ามาแล้ว เดอะโจรก้าวมาขวางหน้าไว้ทันที





        “กูว่ากูเลวแล้ว ยังไม่ได้ครึ่งนึงของมึงเลย คนใจสัด !!!”  ไม่ด่าเปล่า แหวกเข้ามาผ่านพวกเพื่อนหน้าโจร ยกคอเสื้อรงคเพทขึ้น ไอ้กาว ไอ้ยีน และพบรักที่กำลังถ่อเข้าไปหวังช่วยรงคเพท ถูกเหลือบไรที่เหลือล่อเข้าใส่   






        การตะลุมบอนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รงคเพทที่ไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่ กลายเป็นกระสอบทรายขนาดย่อมของรณภูมิ แต่รงคเพทก็ยังคงไม่ยอมแพ้ สู้ต่อไป ไอ้กาวที่เดินหน้าเข้าชาร์จพวกเหลือบไรอย่างเดือดดาลทำให้กาวเป็นฝ่ายได้เปรียบ ด้านไอ้ยีนที่เงียบๆ เมื่อลงสมรภูมิรบแล้วกลับเลือดขึ้นหน้าสู้สุดใจอย่างไม่ยอมแพ้ แม้โดนรุมสองทาง ส่วนทางด้านพบรักที่มีฝีมือการต่อสู้เหนือกว่าล้มคู่ต่อสู้คนแรกลงได้ภายในเวลาไม่กี่นาที และหวังเข้าช่วยเหลือรงคเพท แต่โดนพวกที่เหลือ ที่กำลังสู้กับกาวและยีนวิ่งมาดักหน้าแทน







        สู้กันไปได้สักพัก โดยที่รงคเพทไม่มีทีว่าจะสู้ไหว ด้านกาวที่ใจร้อนเปิดจุดอ่อนให้คู่ต่อสู้เห็นง่ายๆถูกล้มลง นอนกองไปกับพื้นในที่สุด ไอ้ยีนแม้เลือดขึ้นหน้าแต่ด้วยฝีมือที่คนละชั้นสุดท้ายก็ลงไปนอนวัดพื้นกับไอ้กาวเช่นเดียวกัน เหลือเพียงพบรักที่ถูกรุมเดี่ยวแต่ยังยืนไหวอยู่เพียงคนเดียว







        รงคเพทถูกซ้อมหนักเกือบหมดสติ อยู่ๆฝีเท้าที่กระหน่ำกระทืบก็หยุดไป รงคเพทเงยหน้าขึ้น ก็ได้พบกับคนบางคนที่เข้ามาหยุดการกระทำทุกอย่าง คนที่อยู่ในใจเขาตลอดเวลา ….หมาป่าเดียวดายของเขา





        “ฮึฮึ ไม่ได้เจอกันนานนะ ต้นตอง”  หยุดการกระทำทั้งหมด เดินไปคุยกับต้นตองที่พึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับโอม   







        ตารกาเห็นสภาพของแก๊งค์เดอะโจรแต่ละคนในตอนนี้ ก็เผยความน่ากลัวคล้ายกับตอนที่รงคเพทเห็นในวันที่เขาเสียตัวออกมาจากแววตาและสีหน้า มันน่ากลัว ไม่แพ้กับรณภูมิที่ซ้อมเขาอย่างเดือดดาลเมื่อครู่







        “อยากเจอกูไม่ใช่เหรอ แล้วนัดพวกสวะนี่มาทำไม”  คำพูดดุดันที่รงคเพทไม่เคยได้ยินจากสุดหล่อของเขามาก่อน






        “ไม่มาช้าไปหน่อยเหรอ ต้นตอง…มึงน่าจะมาช้ากว่านี้อีกนิด สุดที่รักของมึงกำลังจะตายคาตีนกูอยู่พอดี”






        “ผิดแล้วสอง กูไม่ได้เป็นอะไรกับพวกมัน”





        “มึงจะเป็นหรือไม่เป็น มันไม่ใช่ธุระอะไรของกู แต่พวกมันเสือกมายุ่งกับคนของกูก่อน”





        “ป่าวนะ ป่าว”  รงคเพทที่กำลังนอนสะบักสบอมอยู่บนพื้น เค้นเสียงออกมาอย่างอยากลำบาก





        “มึงไม่ฉลาดขึ้นเลยสอง แผนการยังใช้ไม่ได้เหมือนเดิม” สีหน้าท่าทางรู้ทันของตารกา ทำเอาความมั่นใจในแผนการของรณภูมิหมดลงทันที





        “ฮึ แย่จังว่ะ กว่าจะหารูปนี้มาได้แท้ๆ”  พูดไปก็ค่อยๆเดินไป แล้วเหยียบลงบนไหล่ของรงคเพทที่นอนฟุบอย่างอนาทอยู่ 





        “!!!”  ตารกากระตุกอย่างแรง ในตอนแรก แล้วสักพักก็กลับมายิ่งนิ่งดังเดิม





        “นี่ขนาดว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกันนะเนี่ยยย”






        “หยุดตีนมึงไว้แค่นั้น ถ้าไม่อยากให้เรื่องบางเรื่องที่มึงปิดไว้ถูกเผยออกมาให้ทุกคนในที่นี้รู้”






        “ฮึฮึ ไม่มีอะไรที่รอดพ้นสายตามึงได้เลยสินะ ต้นตอง”  รณภูมิมองไปรอบๆพื้นที่และแสยะยิ้มออกมาให้ตารกา  ไม่นานไอ้สองและพวกก็เดินจากไปจากระแวกนั้น หายวับไปคล้ายหายตัวได้







        ตารกายังคงหน้านิ่ง หางตาไม่ได้เหลือบมายังคนนอนจมกองเลือดสักนิด ไม่นานเมื่อโอมพยักหน้า กลุ่มนักศึกษาจากคณะตารกา ก็ออกมาช่วยกันพยุงแก๊งค์เดอะโจร ที่ถูกทำร้ายจนขยับไปไหนไม่ได้






        “ไอ้ตอง…”  รงคเพทเรียกเสียงแผ่วเบา เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ว สติที่ใกล้ดับ ก็ดับลงไปในที่สุด แม้ก่อนสติจะดับ ตารกาก็ไม่มองมาที่เขาแม้สักนิด

       





        รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่โรงพยาบาลแล้ว รงคเพทกำลังจะขยับตัว แต่ยากสักหน่อย พบรักที่บาดเจ็บน้อยที่สุดเดินเข้ามา ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างปกติ แม้ในใจทั้งสองฝ่ายจะรู้ดีว่ามันเจือปนไปด้วยความอึดอัดแค่ไหน พบรักบอกว่ารงคเพทช้ำในเล็กน้อย ช้ำภายนอกค่อนข้างหนัก แต่ไม่มีอวัยวะสำคัญใดได้รับบาดเจ็บ หมอให้พักรักษาตัวที่โรงบาลไปก่อนสองสามวัน






        รงคเพทนอนอยู่บนเตียง รอคอยหวังได้พบหน้าใครบางคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ แต่นี่ก็วันที่สองแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้ ยังไม่เห็นหน้าคนๆนั้นเลย ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นอนเฉยๆอยู่อย่างนั้น ไอ้ยีนและพบรัก ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไรและสองคนนั้นก็ไม่ได้นอนโรงพยาบาล ส่วนไอ้กาวที่สู้สุดใจอย่างบ้างคลั่ง หัวเข่าขวาเคลื่อน แขนขวาถูกมีดกรีดถึงกระดูก เจ็บหนักกว่าหมู่ แต่โชคดีของมันหน่อย เมียมันสุดแสนจะน่ารัก เช้าถึงเย็นถึงยิ่งกว่าพยาบาลส่วนตัว ได้ยินแว่วมาจากไอ้ยีน ว่าไอ้กาวมันไม่อยากออกจากโรงพยาบาล ฮ่าฮ่า







        เช้าวันออกจากโรงพยาบาล รงคเพทก็ได้พบกับคนที่นอนคิดถึงมานาน ไม่มีใครบอกกล่าวอะไร ของใช้ส่วนตัวของเขาถูกส่งกลับบ้านโดยคนของตารกา และรงคเพทก็ถูกบุรุษพยาบาลเข็นขึ้นเฟอร์รารี่สุดหรูของตารกา ด้วยความ งงงวย แต่ไม่กล้าถามอะไรออกไป






        นั่งอยู่ในรถโดยมีเจ้าหัวใจอาสาไปส่งที่บ้าน





        “ขอบใจ ที่ช่วย นะ”  กล่าวออกไปพร้อมรอยยิ้มให้แก่คนนั่งหน้านิ่งขับรถมองทางอย่างเดียวไม่วอกแวก





        “ผมไม่ได้ช่วยนาย แต่สองคงอยากเจอผม”





        “มึง รู้จักมันด้วยเหรอ”





        “เพื่อนเก่าหน่ะ เพื่อนรักเลย”





        “ดูแล้ว นายสองคนไม่น่าเป็นเพื่อนกันได้”





        “อดีตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันหรอกเรียง”





        “อื้อ”  รถค่อยๆขับไปอย่างช้าๆ วันนี้รงคเพทรู้สึกว่าตารกาขับรถช้ามาก ช้ากว่าปกติอย่างสัมผัสได้





        “เรียง”  ก่อนถึงหน้าบ้าน ตารกาจอดรถหน้ารั้ว ยังไม่เลี้ยวเข้าไปด้านใน





        “หืม ว่าไง”






        “สัญญาของเราจบลงแล้วนะ ผมขอบใจที่นายทำตามสัญญามาตลอด”  รงคเพทได้ยินเช่นนั้น เริ่มใจไม่ดี 







        “อะไร ยังไม่สอบไฟนอลเลย”  น้ำเสียงเริ่มสั่นคลอ คล้ายคนกำลังประหม่า





        “อีกไม่กี่วันก็ถึงแล้วนี่ ผมว่ามันควรยุติได้แล้ว นายจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น”





        “…..”






        “ผมขอคีย์การ์ดคืนด้วย” …..นี่รงคเพท กำลังดำน้ำอยู่หรือเปล่านะ หายใจไม่ออก






        “อื้อ ได้ๆ รอแปป”  ตอบไปอย่างพยายามไม่ให้เสียงสั่น แม้ว่าตอนนี้มือที่กำลังควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าจะสั่นเทาจนแทบไม่น่าหาอะไรเจอ






        “ขอให้ผมกับนาย กลับไปเหมือนตอนเราไม่รู้จักกันนะ” 






        “หะ” ประโยคสุดช็อค ความเจ็บนี้มันคืออะไร มันปวดๆ หน่วงๆ เหมือนจะเริ่มหายใจไม่ออกขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำอะไรไม่ถูก น้ำใสๆเริ่มคลอยังเบ้าตา






        “มันน่าจะดีที่สุด”  น้ำเสียงเอ่ยบอกยังคงนิ่งสงบ แล้วที่ผ่านมา ไม่เคยรู้สึกอะไรด้วยเลยเหรอ ทั้งๆที่ ….ทั้งๆที่เขาเผลอรักไปแล้วแท้ๆ แล้วก็นึกว่าเราจะใจตรงกัน






        “เอางั้น..ก็ อึก ได้ ได้ๆ”  ไม่ไหว พูดอะไรไม่ออก น้ำตาใกล้เอ่อล้นเต็มที แต่ด้วยศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่อันน้อยนิด โจรใจเด็ดกลับกลั้นเอาไว้ไม่ยอมให้มันไหลลงมา ทำได้ไง ทั้งๆที่คิดถึงทุกคืนไปขนาดนี้ แล้วอยู่ๆ มันก็ TT





        “ผม…ไม่ได้คิดอะไรกับเรียงมากกว่าเพื่อนเลย ตลอดมา”  น้ำตาหยดลงไปแล้วหนึ่งหยด แต่ถูกเจ้าของปาดทิ้งทันที คำนี้คุ้นๆนะ นี่กรรมตามสนองโจรใจดำคนนี้อยู่รึเปล่า ทำไม ต้นตองถึงพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย ไม่มีสีหน้าว่าเสียใจที่ต้องพูดแบบนี้สักนิด ทำไมมีแต่เขาคนเดียวที่เสียใจ แล้วทำไมที่ผ่านมา






        รงคเพทนึกย้อนไปน้ำตาก็ไหลไป ตลอดเวลา เขารู้สึกเพียงฝ่ายเดียวหรือ เขาคิดไปเองคนเดียวทั้งหมด คนๆนี้ไม่เคยรักเขาเลย เจ็บเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยมีใคร ทำให้สุขสุดหัวใจ และทุกข์สุดหัวใจได้เท่าคนๆนี้มาก่อน เขาพึ่งดีใจไปเองที่ตารกาให้ความสำคัญกับความรู้สึกเขา แต่ทั้งหมดมันเป็นแค่สิ่งจอมปลอม ทุกสิ่งรงคเพทวาดฝันขึ้นเองทั้งนั้น จะโทษใครได้เล่า






        “แต่ ระ  เรา …..เราไม่”






        “พอเถอะเรียง ลงไปได้แล้วล่ะ ผมมีคนที่รักมากอยู่แล้ว คงไม่เปลี่ยนใจอีก”  มือชา ตัวเกร็ง อยากออกไปพ้นๆจากตรงนี้เหลือเกิน คำตอกย้ำว่า ’ไม่รัก’ ที่แสนเจ็บปวด บีบหัวใจจนไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีก









        “ได้ ! ลาก่อนต้นตอง….. แต่กูรักมึงนะ อึก”  ปัง !!! ฝืนพูดด้วยแรงใจเฮือกสุดท้าย ปิดประตูรถกระแทกเสียงดัง เมื่อหันหลังให้ ท่อน้ำที่พร้อมทะลายแต่แรก ก็เอ่อล้นออกมา ท้วมท้นจนไม่สามารถกักเก็บอะไรไว้ได้อีก ร้องไห้ออกมาอย่างฟูมฟาย คล้ายคนเสียสติ






        ร่างกายที่พึ้งฟื้นสภาพจากการบาดเจ็บแต่บัดนี้หัวใจกลับเจ็บยิ่งกว่าร่างกายหลายเท่า ย่าวก้าวเข้าบ้าน ทุกก้าวล้วนมุ่งมั่น ตั้งมั่นว่าจะไม่ล้ม จะไม่มีวันล้มลงต่อหน้าไอ้คนใจดำ ต้องให้มันรู้ ว่าไม่มีมัน คนอย่างรงคเพทก็อยู่ได้ แม้อาจเจ็บเจียนตายก็ไม่เป็นไร







        “ฮืออออ อึก อึก ไอ้คนเลว มึงรู้ไหม ฮือออ กูยังไม่เคยร้องไห้ให้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยนะ ไอ้คนเฮงซวย ฮือๆๆๆ”  เดินร้องไห้เข้าบ้าน อย่างคนหมดสภาพ กับแผลภายนอกบางส่วนที่ยังถูกแปะผ้าพันแผลสีขาว







        เดินปาดน้ำตาเข้าบ้าน และไม่คิดจะหันหลังกลับไปมอง…คนในรถที่ตอนนี้หัวใจคงสลายไปแล้วไม่แพ้กัน



        TTTTTTTTT^TTTTTTTTTTTT
…………………………………………………………… …………………………………………

 :katai4: :katai4: :katai4: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Moonwish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ไอ้บ้าตอง ทำไมถึงทำแบบนี้กับเรียงห้ะ สงสารเรียงไปซบอกพบรักไปลูก
แต่ตองก็ดูน่าจะมีเหตุผลแหละที่ทำแบบนี้ เกี่ยวกับเรื่องสองใช่ป่าวหว่า

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
โอ้ยยยยยยย สงสารเรียง
ตองเป็นอะไร?จะกันไม่ให้โดนลูกหลง?
แล้วใครเป็นคน xyz ราม?

ปล.สารภาพว่าเดาสถานะรุก-รับไม่ออกจน.... :hao7:

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๖.๑  ดีอย่างไร ใครเลยจะล่วงรู้ 





 ( กาว – โอม )  #1




        หลังเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของแก๊งเดอะโจรและแก๊งไฮโซเทวดา คนที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุดคือ ไอ้กาว หรือนายกวิน ผู้ใจร้อน ดุเดือนเลือดพล่าน ซึ่งตอนนี้นอนหลับสบายอยู่ในห้องไอซียู โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญล้อมรอบเตียงอยู่





        ซึ่งหน้าห้องผู้ป่วยมี พบรัก และ ยีน ที่ทำแผลเรียบร้อยมานั่งเฝ้ารอดูอาการคนเจ็บหนัก ด้านรงคเพทที่ยังไม่ฟื้นมีคนในความฝันเฝ้าข้างเตียงไม่ยอมห่างไปไหน และอีกหนึ่งคนที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคนในห้อง ICU ที่นั่งหน้านิ่ง แต่ฉายแววกังวลออกมาชัดเจนจนทุกคนมองออก




        “หัวหน้า เราว่านายกลับไปนอนก่อนดีกว่านะ ไอ้กาวมันหัวแข็ง ไม่ตายง่ายๆหรอก มันดึกมากละด้วย เดี๋ยวหัวหน้าไม่สบายพวกเราจะโดนมันฆ่าเอา”  ไอ้ยีนผู้มีผ้าพันแผลพันเพียงบางส่วน กับปากที่ทำแผลเรียบร้อย บอกกับโอม ที่กำลังนั่งนิ่งอย่างไม่กระดุกกระดิก จนเขาและพบรักนึกว่าไม่หายใจซะแล้ว แก๊งค์เขาเรียกโอมว่าหัวหน้าตามไอ้เรียงมันเรียก ไม่รู้จะเรียกทำไม แต่เห็นไอ้เรียงเรียก เลยติดไปด้วย




        เรื่องระหว่างกาวและโอมทุกคนในกลุ่มรู้ดี แม้ต้นตองก็รู้เช่นกัน เดาออกมานานแล้ว ที่ระยะหลังๆไอ้กาวชอบหายไปบ่อยๆ ที่แท้มันไปหาทางจับกดชายผู้สูงศักดิ์คนนี้อยู่นี่เอง





        “ผมขออยู่กับพวกนายที่นี่เถอะนะ”  แม้โอมจะนั่งนิ่งอย่างกับหิน แต่เมื่อได้พูด น้ำเสียงนั้นกลับสั่นเครือ คล้ายจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ คาดว่าคงกำลังสะกดอารมณ์อยู่





        “อยากกินไร อยากได้ไรก็บอกเรา  เดี๋ยวเราจัดมาให้”  ยีนปฏิเสธคำขอจากคนตรงหน้านี้ไม่ลงหรอก เชื่อว่าถ้าใครมาเห็นโอม ขณะนี้ ก็คงไม่มีใครปฏิเสธลง แต่ที่ยีนกลัวหน่ะ ตีนเพื่อนมันที่นอนตายอยู่ในห้องผ่าตัดมากกว่า ทั้งรัก ทั้งหวงคนๆนี้อย่างกับอะไรดี ขืนเป็นอะไรขึ้นมา คาดว่างานนี้อาจตายหมู่ทั้งกลุ่ม





        “เหอะๆ นายก็เจ็บอยู่ไม่ใช่รึไง ”  เสียงหัวเราะแหบแห้งส่งมาให้ยีน ผู้ไม่ดูสภาพตัวเองสักนิด





        “บอกผมก็ได้ ผมไม่เป็นไรมาก”  เป็นพบรักที่เอ่ยออกมาหลังมองสภาพยีนแล้ว ทุกคนที่นี่เกรงใจโอมที่สุด เพราะโอมมีการวางตัวดีอยู่เสมอ สงบ เรียบร้อย ฐานะก็สูงกว่ามาก และที่สำคัญยังเป็นคนที่เพื่อนพวกเขารักหมดหัวใจ





        “…..”  โอมเพียงแค่มองไปทางพบรักด้วยสายตาแปลกๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา





        “อย่ามองแบบนั้น ผมแค่อยากช่วยกาว”  ฐานะทางสังคม ระหว่างพบรักและโอม ไม่ได้แตกต่างกันนัก คล้ายกับว่าที่บ้านของพบรัก ต้นตอง และโอมจะไปมาหาสู่กันอย่างมิตร แต่มารุ่นลูก กลับไม่เป็นเช่นรุ่นพ่อ





        “เผื่อนายจะยังไม่รู้นะโอม กาวรักนายมาก …เราอยากให้นายจะลองพิจรณาเพื่อนเราดูบ้าง”





        “ขอบใจนะพบ”  คำพูดและแววตาจากโอม เด่นชัดในคำพูดอย่างมาก พบรักที่มีอคติมาตั้งแต่เด็กเริ่มไปต่อไม่ถูก จึงพยักหน้าและเดินกลับมานั่งข้างๆยีน






        บรรยากาศหน้าห้อง ICU ยังคงอยู่ในสถานการณ์กดดัน ไม่มีบทสนทนาต่อจากนั้น และเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบชั่วโมงแล้ว ทำไมถึงได้นานนักนะ






        สักพัก หมอในชุดห้องฆ่าเชื้อก็เดินออกมาบอกข่าวดีแก่ทุกคน กาวปลอดภัยแล้ว แต่สาหัสไม่น้อย ด้วย หัวเข่าขวาเคลื่อนตัวอย่างรุนแรง และแขนขวาถูกของมีคมกรีดลึกเกือบถึงกระดูก โดนเส้นประสาทแขนเข้าเล็กน้อย แต่หมอบอกยังรักษาได้แต่อาจต้องใช้เวลา ไม่นานเตียงผู้ป่วยก็ถูกเข็นออกมา และพาไปยังห้องพักรักษาตัว ทุกคนตามไปยังห้องผู้ป่วยพิเศษที่ถูกจัดไว้ อภินันทนาการจากครอบครัวพบรัก
       






        “มันปลอดภัยแล้วหัวหน้า กลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวคืนนี้เรานอนเฝ้ามันเอง”  ไอ้ยีนยังคงห่วงสวัสดิภาพตนเองอยู่เป็นระยะ






        “ขอผมนั่งตรงนี้อีกแปปนึงนะ ….แค่แปปเดียว”






        “อ่า.. โอเค งั้นเราไปหาไรกินก่อนดีกว่า ป่ะพบ พาไปหน่อย ไม่ชินโรงบาล”






        เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยีนและพบรักตกลงกับต้นตองแล้วว่าขอปิดเป็นความลับ ไอ้สองเป็นคนมีอิทธิพล และพวกเยอะ หากว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป คาดว่าจะเดือดร้อนกันไปมากกว่านี้






        พบรักพายีนลงไปหาอะไรกินหลังจากเฝ้าไอ้กาวมานานหลายชั่วโมง ในห้องคนไข้ตอนนี้จึงมีเพียงคนไข้ที่นอนหลับสนิทและ โอม ผู้ที่ไอ้กาวรักสุดหัวใจ เรื่องราวยุ่งยากนี้มันเริ่มต้นได้ยังไงนะ นั่งมองคนที่มีผ้าพันแผลพันไปครึ่งตัว  เรื่องราวก็เริ่มไหลวนเข้ามาในความคิดจนได้







+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





        “วิน”




        “ว่าไงครับบอส”





        “ลูกค้าคนนั้น มาบ่อยรึเปล่า”  โอมที่เข้ามาดูแลผับ อาทิตย์ละสามถึงสี่วัน แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาเขามีโอกาสได้เข้ามาเพียงครั้งเดียว เพราะงานที่คณะยุ่งมาก และวันนี้เขาได้พบกับแขกหน้าใหม่ที่ไม่คิดว่าจะมาเยือนผับเขา





        “มาทุกวันครับ เกือบอาทิตย์นึงได้”  คำบอกเล่าของลูกน้องทำเอาคนหน้าสวย กลายเป็นหน้าเควสชันมาร์ค





        “อืม ขอบใจมาก ไปทำงานต่อเถอะ”  โค้งให้เจ้านายอย่างสุภาพแล้วไปทำงานต่อ โอมจะไม่แปลกใจเลย หากว่าคนๆนั้น จะไม่ใช่ กาว เพื่อนกลุ่มเดียวกับเรียง คนที่เกลียดเพื่อนเขาเข้าไส้ สังเกตได้ชัดจากสายตา ยามที่ต้องพบกัน แต่เมื่อได้มารู้จักกัน เพื่อนในกลุ่มเรียงและตัวเรียงก็มีท่าทีว่าเคารพนับถือ และชื่นชมเขาในแววตาอย่างเห็นได้ชัด มีเพียงคนบ้าพลังคนนี้คนเดียว ที่มองเขาคล้ายอยากฆ่าให้ตาย 





        มาทุกวัน? เป็นไปไม่ได้ที่กาวจะไม่รู้ว่านี่เป็นผับของเขา แต่ก็ยังเข้ามา หรือว่าเลิกมีอคติต่อเขาแล้ว ด้วยอยากคุมสถานการณ์ โอมจึงให้พนักงานไปเชิญกาวขึ้นมาดื่มมาคุยยังที่วีไอพี เผื่อว่าอาจได้เครือข่ายเพิ่มขึ้น เขาไม่นิยมสร้างศรัตรูนักหรอก มันไม่มีประโยชน์





        “ยินดีต้อนรับนะครับ ดีใจที่นายชอบที่นี่ ”  เมื่อกาวเดินขึ้นแท่นโพเดียม โอมก็กล่าวต้อนรับอย่างให้เกียรติ





        “……”  ไม่มีการตอบรับจากกาว มีเพียงสายตาอาฆาตส่งมาให้ เพ่งมองมาอย่างไม่วางตา มันทำให้โอมหน้าเสียเล็กน้อย แต่การจะคุมคนนั้น ต้องมีความเยือกเย็น





        “เอาเป็นว่า ถ้านายชอบที่นี่ ผมจัดที่ตรงนี้สำหรับนายเลยแล้วกัน มาได้บ่อยตามต้องการนะครับ ผมจะสั่งเด็กเอาไว้ ”  โอมยังคงพูดและยิ้มอย่างใจเย็น บางครั้งการซิ้อใจคนต้องมีการลงทุนกันบ้าง





        “…….”  ยังคงเงียบต่อ แต่คนอย่างโอม มีหรือจะยอมแพ้ รอยยิ้มยังคงอยู่ งานบริการต้องยิ้มเสมอ แม้ภายในจะลุกเป็นไฟแค่ไหนก็ตาม





        “ตามสบายนะ ผมขอไปดูแลแขกก่อน”  โอมขอตัวออกจากตรงนี้ก่อนแล้วกัน จะโดนฆาตรกรรมรึเปล่าก็ไม่รู้ ดูมันอยากถลกหนังหัวเขา โอมรู้สึกได้






        จากวันนั้นมา โอมก็เข้าไปดูแลผับบ้างเป็นครั้งคราว และไปทุกครั้งก็จะเจอกับไอ้คนบ้าพลังทุกครั้ง ถามจากพนักงาน ก็บอกมันมาทุกวัน โอมพาสาวไปนั่งยังที่วีไอพีเป็นบางครั้งที่ถูกใจจริงๆ และหาบางคนมาเผื่อไอ้คนนั่งเงียบด้วย






        นานวันเข้า ยิ่งสร้างความแปลกใจให้แก่โอม นี่เกือบเดือนแล้ว มันมาทุกวัน นั่งที่เดิม แต่พนักงานเล่าว่าบางวันมันสั่งแค่น้ำเปล่ากับของกิน แล้วมันจะมาทำไม เจอกันที่มหาลัยก็ทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน ทั้งๆที่โอมพยายามจะทำความรู้จักมันแล้วแท้ๆ แต่ไม่เป็นไรมีลูกค้าเข้าใจยากแบบนี้ ท้าทายวิธีซื้อใจดีเหมือนกัน





        “หวัดดีกาว ผมดีใจที่กาวมาทุกวันนะ วันนี้ผมขอเลี้ยงนายแล้วกัน ถือเป็นโปรโมชันจากทางร้านนะครับ”





        “……”





        “ไม่ต้องห่วง งานนี้ผมมีสาวๆคอยบริการนายด้วย ถูกใจแน่นอน ”







        “ดื่มด้วยกันดิ”  O.O เป็นครั้งแรกที่ลูกค้าเอาใจยาก เอ่ยปากพูด มันพูดกับเขาครั้งแรก นี่แผนโปรโมชันมันกำลังจะได้ผลสินะ





        “แน่นอน ผมจะดื่มเป็นเพื่อนนาย สั่งอะไรดี”  หลังจากนั้นก็มีสาวสวยที่โอมคัดมาแล้วว่าต้องถูกสเปคกาวแน่นอนมาคอยบริการ ส่วนคนถูกบริการก็ดื่มไป ฟังเพลงไปอย่างอารมณ์ดี แต่มันกลับรินเหล้าให้โอมอย่างไม่ยอมหยุด นี่กะมอมเจ้าของผับแล้วชักดาบรึไง อยากบอกว่า ให้กินฟรีอยู่แล้ว ยังจะคิดงี้อีกรึ








        “พออ..เลี้ยววว เอริ๊กก คร้าบบ ผมไม่ไหวละ”  เจ้าของผับ เมาที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา จากการรินเอาๆของลูกค้าบ้าพลัง นี่มันก็กำลังจะรินเติมให้เขา ดีที่รีบคว้ามือมันไว้ทัน





        อยู่ๆมันก็นิ่งไป ตาโต สักพักก็ดึงมือโอมออกและรินของมึนเมาใส่ลงไปในแก้วจนได้ สติแทบไม่หลงเหลืออะไรแล้ว





        “…..อืมม ไม่ต้องห่วง พี่สนิทกับบอสน้องดี ……….โอเคๆ ”  ดื่มไปสักพักไม่รู้ตัวว่าหยุดไปตอนไหน แต่ได้ยินเสียงคนคุยกัน ไม่แน่ใจว่าใช่ วิน พนักงานของเขากับเสียงใครก็ไม่รู้ ไม่เคยได้ยิน แต่ก็คุ้นๆ





        โดยที่ไม่รู้ตัว ว่าใครพากลับมา รู้สึกตัวอีกที โอมก็นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงเป็นที่เรียบร้อย หลังจากได้นอนสบาย สติก็ดับวูบไปในที่สุด








        “อืออ…อืมมมม”  เปลือกตาหนักเกินกว่าจะยกขึ้นไหว ทำได้เพียงปรือตาขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็มืด ไม่รู้สึกตัวอะไรเลย






        “ซู๊ดดด จ๊วบบบ จ๊วบ ๆๆๆๆ ฮ่า..” ใครทำอะไร เสียงเหมือนกำลังดูด อะไรบางอย่าง อย่างเมามัน ปนกับเสียงหายใจแรงๆ คล้ายคนกำลังหอบหนัก….ไม่ไหวๆ เผลอตื่นมาได้ยินเสียงน่าอายนี้เข้าได้ยังไง ใครมาทำอะไรกันในห้องสุดหรูของเขาเนี่ย หลับต่อดีกว่า คร่อกกกก Zzzz








        ตื่นเช้ามาอย่างงังเงีย กำลังจะลุกบิดขี้เกียจ แต่แล้วกลับ… วูบบบ จี๊ดดด โอยยย !! หล่นตุบลงบนเตียง อาการแรกหน้ามืด ต่อมาเจ็บอย่างแรงยังส่วนลับด้านหลัง และสุดท้ายย พึ่งมารู้สึกตัวว่าขยับตัวไม่ไหว นี่มันเกิดอะไรขึ้น มองซ้ายมองขวาไม่พบใคร นี่ห้องใคร ห้องครายยยยย !!!! แล้วสายตาก็ก้มลงเห็นสภาพตัวเอง ที่ตอนนี้โป๊อยู่ร้อยเปอร์เซ็น และที่น่ากลัวคือ ตัวขาวๆตอนนี้มีแต่รอยแดงเป็นจ้ำๆ บิดแขนซ้ายดู แขนขวาดู ลำตัว ขา มือ เท้า ทุกส่วนมีรอยอย่างนั้นอยู่ บางที่มีรอยฟัน โดนขบกัดจนช้ำ น่ากลัวชะมัด ใครทำวะ ใครกล้าท้านรก







        ไม่ไหวๆ ใครจะทำก็ช่างมันก่อน ตอนนี้มึนหัวมาก ขอนอนพักเอาแรงอีกสักแปป นอนไปยังไม่ทันหลับ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามา พยายามลืมตาไปมองว่าเป็นใคร แล้วก็พบตัวการ ….ไอ้คนมอมเหล้าเขาเมื่อคืน





        “ตื่นแล้วเหรอ”  เสียงทักทายพร้อมรอยยิ้ม ที่ส่งมาให้โอม แต่โอมตอนนี้ช็อคไปแล้ว นี่เขาโดนไอ้ลูกค้าบ้าพลัง กดไปแล้วหรือเนี่ย





        “…….”  ไม่มีคำด่า โอมไม่ชอบด่าใคร ไม่ใช่วิสัย ถึงอยากด่าก็ด่าไม่ออก ลืมตายังลำบาก แต่ไม่วายส่งสายตาอาฆาตออกไป





        “นอนต่ออีกหน่อยเถอะ เดี๋ยวกาวเช็ดตัวให้นะ”  คนบ้าจูบลงที่แก้มครั้งหนึ่ง แล้วเช็ดตัวให้อย่างเบามือ คนที่นอนซมเมื่อโดนผ้าชุบน้ำเย็นๆกระทบผิวหนัง ก็เริ่มรู้สึกสบายและเผลอหลับไป 





        “อืมมมม”  สบายเกิน เลยเผลอครางออกมาเบาๆพร้อมรอยยิ้มว่าพอใจ พอหลับไป เลยถูกคนที่เช็ดตัวให้ จูบดูดดื่มไป โดยที่คนถูกจูบไม่รู้ตัว





        รู้สึกตัวอีกทีก็ดีขึ้นมาก ร่างกายเริ่มขยับได้ ต้องค่อยๆลุกขึ้น เพราะยังเวียนหัวอยู่บ้าง คาดว่าคงนอนหลับนานไปหน่อย





        “โอมเป็นไงบ้าง”  ไอ้คนต้นเหตุเดินเข้ามาถาม ได้รับเพียงความนิ่งเฉยตอบกลับมา โอมไม่พูดอะไรเลย เอาแต่นั่งนิ่งคล้ายจะร้องไห้





        “กาวขอโทษ อภัยให้กาวเถอะนะ นะโอมนะ กาวหลงรักโอมมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันเลย เนี่ย เห็นไหมๆ โอมดีขึ้นแล้ว กาวเช็ดตัวให้ ป้อนยาให้โอมด้วย หายโกรธกาวเหอะนะ”  พร่ามยาวเหยียด ขอให้อภัย แต่โอมนึกไม่ถึง ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่าไอ้บ้านี่มันแอบรัก งงกับสิ่งที่เกิด แต่พอได้ยินประโยคสุดท้ายก็อดถามไปไม่ได้





        “หะ ป้อนยา ป้อนไง”  คำสุภาพไม่ต้องมี คนอุตส่าหาวิธีซื้อใจ เป็นนายคน ใจต้องนิ่ง ข้ามไปก่อนแล้วกัน






        “นี่ไง ”  แล้วก็ชี้ไปที่ปากตัวเอง ยิ้มออกมาเห็นฟันครบสามสิบสองซี่เด่นชัด





        “เพี๊ยะ !!!!”  มือไป โดยไม่ทันควบคุม คนที่ควบคุมตัวเองเก่ง งง กับตัวเองเช่นกัน ว่าทำไมครั้งนี้มือไปไวนัก






        “โอม” เอ่ยอย่างแผ่วเบา คงเจ็บไม่น้อยที่โดนตบไปเต็มแรง






        “กาวขอโทษ กาวรักโอม แต่กาวไม่กล้าจีบ เห็นหน้าโอมที่ไรใบ้แดกทุกที”





        “ทำบ้าอะไร คิดถึงใจคนอื่นบ้างไหม ไม่รู้เหรอ อึก….ว่า.. คน อื่น ก็มี หัวใจนะ อึก แล้ว ก็ แล้วก็มาพูด … ฮึก”  พูดต่อไม่ไหว น้ำตามาแล้ว เสียใจเหลือเกิน เสียศักดิ์ศรี ใครกันที่ว่าเก่ง ที่สามารถควบคุมคนได้ คำว่าลูกผุ้ชาย หายไปในพริบตา ไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าทำขนาดนี้ 






        เมื่อคนที่ไอ้กาวรักก้มหน้าร้องไห้ออกมา ไอ้กาวจะทำไงได้ น้ำตาไหลตามสิ ก็คนมันรักหนิ เก็บความรู้สึกไว้มาตั้งนานละ กาวโอบกอดโอมไว้ แม้ว่าโอมจะขัดขืน แต่โอมก็ต้านแรงไอ้โจรกาวไม่ได้อยู่ดี จึงปล่อยให้มันกอดอยู่อย่างนั้น โอมผู้คุมอารมณ์เก่ง ปล่อยโฮต่อหน้าคนแปลกหน้าเป็นครั้งแรกในชีวิต แถมยังถูกไอ้คนแปลกหน้าเป็นคนปลอบอีกต่างหาก










+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


        แอ็ดดดด…



        เสียงประตูดังขึ้น ยีนและพบรักที่เดินเข้าห้องผู้ป่วยพิเศษหลังจากกินอะไรเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เห็นใครบางกำลังนั่งยิ้มทั้งน้ำตาอยู่ข้างเตียงเพื่อนพวกเขา โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่ากำลังมีคนเดินเข้ามา





        ภาพที่ยีนและพบรักเห็นมันช่างสวยงาม น้ำตาและรอยยิ้มนั้นคงเป็นเสมือนความทรงจำอันงดงามระหว่างคนสองคน ที่สร้างขึ้นมาร่วมกัน






        ไม่อยากเอ่ยขัด แต่นี่มันดึกมากแล้ว





        “หัวหน้า..”  ไอ้ยีนเดินไปใกล้ และวางมือลงบนไหล่บางๆ เมื่อเจ้าตัวรู้สึกตัวก็รีบปาดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว





        “เชื่อเถอะ ไอ้กาวมันตายยาก”





        “อืมม”  โอมเอ่ยรับแผ่วเบา แล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน ล่ำลายีนและพบรัก เดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่ละสายตาจากคนไข้บนเตียงสักวินาทีเดียว










        “เฮ้อออ น่าอิจฉาไอ้กาวมันนะพบ  พบว่าหัวหน้ามันรักไอ้กาวป่าววะ”





        “ถ้าไม่รัก คงไม่เจ็บอย่างนี้หรอกยีน” 


...

สวัสดีค่ะ วันนี้เราลงตอนของ กาวกับโอม ไม่แน่ใจว่ามีคนชอบคู่นี้บ้างรึเปล่า
เราจะขอแทรกคู่นี้ในบางตอนนะคะ คือเราชอบคู่นี้มากเลย ฮ๋าฮ่า

ฝากลุ้นฝากเชียร์คู่นี้บ้างนะคะ ^^

ขอบคุณ คุณMoonwish นะคะ ต้นตองมีเหตุผลแน่นอนค่ะ เราว่าเค้าคงเจ็บไม่น้อยเลยที่ต้องทำแบบนี้น้า  :mew2: :mew2:
ขอบคุณ คุณbulldog17 นะคะ เราแต่งไปก็ร้องไห้ไปนะคะ สงสารมากเหมือนกัน แต่บอกได้เลยยังมีที่เรียงต้องเสียใจกว่านี้อีกค่ะ   :sad4: :sad4: :o12: :o12:

ฝากทุกท่านติดตามกันต่อด้วยนะคะ ตอนหน้าต้นตองมาแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่า  :call: :call: :call:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2014 21:24:43 โดย wispapoo55 »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
แหม่....พ่อหนุ่มซึนเจอหน้าโอมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

มอมเหล้าแล้วจับปล้ำเลย.....โถพ่อคุณ :laugh:

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๖.๒  ดีอย่างไร  ใครเลยจะล่วงรู้





(ต้นตอง – เรียง)




        “เรียง เป็นอะไรไปลูก”  รงคเพทร้องไห้ฟูมฟายเดินเข้าบ้าน พบกับคุณแม่คนสวยที่มือหนึ่งกำลังถือกรรไกรตัดกิ่ง และอีกมือหนึ่งก็ถือกุหลาบสีสันสดใส เมื่อเห็นลูกชายหน้าโจรสุดที่รัก เดินร้องไห้เข้าบ้านมาพร้อมผ้าแปะแผลตามร่างกาย ก็รีบวางทุกอย่างในมือลง แต่วิ่งเข้ามาหาทันที




        “ฮือออ ฮึก อึก …ฮ่า”  เด็กขี้แยเอาแต่ร้องไห้ ยิ่งแม่ถามยิ่งร้องหนักเข้าไปใหญ่ คุณแม่จึงกอดลูกชายคนโตของบ้านไว้อย่างให้กำลังใจ




        ปล่อยเด็กขี้แยร้องไห้ไปสักพัก เจ้าตัวก็ผละออกจากอกแม่ ปาดน้ำตาและยกมือไหว้แม่ไปหนึ่งที ก่อนหอมแก้มคุณแม่ไปอีกหนึ่งที เมื่อเริ่มใจเย็นลง คุณแม่พาโจรใจเด็กไปนั่งที่ม้านั่งหน้าบ้าน




        “เรียง มีอะไรอยากบอกแม่ไหม หืมม นี่เราไปโดนอะไรมา”  แม่ยกแขนที่มีผ้าพันแผลของรงคเพทขึ้นดู ลูบเบาๆอย่างกลัวลูกจะเจ็บ




        “แม่….”  เสียงเอ่ยคำแสนแผ่วเบา น้ำตาที่เช็ดทิ้งจนสิ้นเมื่อครู่ เอ่อคลอเบ้าตาอีกครั้ง




        “เรียงไม่เป็นไร เนี่ย แผลลูกผู้ชาย แม่ไม่ต้องห่วง”  รู้ดีว่าลูกชายชอบสร้างศรัตรู ได้แผลแบบนี้กลับบ้านมาแต่ไหนแต่ไร แต่สิ่งหนึ่งที่คุณแม่ไม่เข้าใจ คือลูกชายแม้จะเจ็บแค่ไหน ก็ไม่เคยร้องไห้ฟูมฟายขนาดนี้




        “แล้วนี้ล่ะ ใครทำ หืมม”  คุณแม่ค่อยๆใช้นิ้วปาดน้ำตาที่เริ่มหยดลงมาอีกแล้วบนหน้าลูกชาย ถามด้วยความเอ็นดูสุดหัวใจ




        “ฮือออ อันนี้เจ็บกว่าอันนี้อีกแหล่ะ”  ชี้ไปที่อกด้านซ้ายและย้ายไปที่แผลที่ถูกพันผ้า





        “ใครน้า ทำพ่อคาสโนว่าของแม่ร้องไห้ได้ เก่งจัง”  คุณแม่อมยิ้มน้อยๆ กับครั้งแรกของลูกชายที่ร้องไห้เพราะความรัก




        “มันเลวมาก เรียงเกลียดมัน เรียงไม่อยากร้องไห้ให้มันอ่าแม่ เรียงรำคาญตัวเองอ่ะ”  พยายามหยุดร้องและปาดน้ำตา





        “ให้เกียรติผู้หญิงหน่อยเรียง …นี่ลูก แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างลูกสองคนนะ แต่ถ้าลูกถึงขั้นมานั่งร้องห่มร้องไห้ให้เขาขนาดนี้ อย่าพูดว่าเกลียดเลยลูก ลูกรักเขามากต่างหากจริงไหม”  รอยยิ้มอ่อนโยนของคนเป็นแม่ยังคงส่งมาอย่างต่อเนื่องให้ลูกชายที่บัดนี้หัวใจกำลังได้รับบาดเจ็บ




        “แต่มันไม่รักเรียงอ่ะ TT มันบอก มันบอกว่ามันไม่เคยรักเลย มันเห็นเรียงเป็นแค่เพื่อนมัน”





        “จุจุ เรียงใจเย็นก่อน ฟังแม่นะ จำได้ไหม มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะที่เข้ามาหาลูก แต่ลูกก็ปฏิเสธพวกเธอไป ลูกรู้ว่าเธอรักลูก แต่ลูกไม่ได้รักเธอ แม่เห็นนะกับบางคนลูกตัดขาดอย่างไร้เยื่อใยเลยก็มี”




        “ใช่แม่ กรรมตามสนองเรียงแล้ว เรียงมันเลว มันไม่รักก็สมควร ไม่เห็นมีไรดีสู้มันได้สักอย่าง”





        “เรียง สิ่งที่แม่พูด แม่อยากให้เรียงเข้าใจ ว่าเราไม่สามารถไปบังคับใจใคร ให้เขามารักเราได้ เรียงรักเขามันไม่ใช่เรื่องผิด แต่เรียงก็ไม่มีสิทธิไปบังคับว่าเขาต้องมารักเรียงตอบไม่ใช่หรือ”




        “…….”  กับคำสอนของแม่ รงคเพทก้มหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ





        “ใจของใครก็ใจของมันนะลูก ความรักที่เกิดขึ้นกับลูกไม่ใช่เรื่องแย่ มองมันให้สวยงามสิจ๊ะ รักข้างเดียวจะเป็นไรไป อย่างน้อยมันก็บ่งบอกว่าลูกของแม่ก็ยังรักเป็นอยู่นะ ^__^ เรื่องแค่นี้แม่ว่าเรียงทำได้อยู่แล้วม้างง เห็นเรื่องอื่นล่ะเก่งนักนี่ ฮะฮะ ใช่ไหม”  เอ่ยสอนและโยกหัวลูกชายไปมาอย่างเอ็นดู




        “ฮะฮะ”  โจรหม่นหมองเริ่มมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าบ้างแล้ว กลับมาบ้านและได้พบคุณแม่ที่แสนใจดี แสนเข้าอกเข้าใจ  นี่จะคือเหตุผลที่ตารกามาส่งเขาที่นี่รึเปล่า หากว่าพาไปส่งที่คอนโด รงคเพทคงไม่มีทางยิ้มออกอย่างนี้หรอก …เฮ้ออ นี่เขาคิดเข้าข้างตัวเองอีกแล้วใช่ไหม เขาก็บอกอยู่เต็มปากเต็มคำอยู่แล้ว ว่าไม่รัก ไม่เป็นไร ช่างมันๆ ตอนนี้มีคนที่เข้าใจอยู่ข้างๆแล้ว หาอะไรสร้างสรรค์กว่านี้ทำดีกว่า





        “เรียงรักแม่ครับ : )”




        “จ้า แม่ก็รักลูกจ่ะ ”  >.,<  สองแม่ลูกกอดกันกลมให้หายคิดถึง หลังจากนั้น คุณแม่ก็พาเรียงเดินดูแปลงกุหลาบที่เริ่มออกดอกมาให้ตัดบ้างแล้ว






        สัปดาห์หน้าสอบไฟนอล สัปดาห์นี้จึงมีเวลาหยุดอ่านหนังสือ รงคเพทตั้งใจในการสอบอย่างมาก เขาไม่คิดกลับไปคอนโดในช่วงนี้ ไม่อยากกลับไปเจอภาพเรื่องราวที่เขาคิดไปเองคนเดียว อยู่นี่สบายจะตาย ตื่นมาก็ลงมากินข้าวได้เลย ไม่ต้องทำเองล้างเอง ไม่ต้องคอยหาซื้อให้ใครกิน ไม่ต้องคอยถูกโทรตามให้ไปทำอะไรที่ไม่อยากทำ ที่นี่มีคนที่เข้าอกเข้าใจ มีคนที่รักเขาอย่างสุดหัวใจจริงๆ …แต่ที่นี่ ไม่มีคนที่เขาคอยคิดถึง คอยฝันหา ไม่ใช่เพียงที่นี่ ต่อจากนี้ ก็จะไม่มีอีกแล้ว





        รงคเพทนัดเพื่อนมาติวกันที่บ้านเขา แม้จะไกลจากคอนโดพวกมันหน่อย แต่ที่นี่สงบ ร่มรื่น และมีพื้นที่ให้ทุกคนได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ ยีน และพบรักจึงมาด้วยกัน สลับกับไปเยี่ยมกาวที่โรงพยาบาลบ้าง แต่ไม่อยากไปบ่อย เหมือนเพื่อนเขาหน้าบึ้งทุกทีที่พวกเขาไป เห็นสองคนนั้นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ ไอ้กาวมันทำไงวะ โอมถึงได้รักได้ห่วงขนาดนั้น นี่เขาต้องทำยังไงถึงจะทำให้ต้นตองรักได้บ้างเนี่ย





        รงคเพทไม่ได้เล่าถึงสถานการณ์ตอนนี้ระหว่างเขากับตารกาให้ยีนและพบรักฟัง เขาทำตัวปกติเมื่อเพื่อนมา แต่เมื่อตกกลางคืน ความหนาวเหน็บและความอ้างว้างก็แทรกซึมเข้าสู่พื้นที่ของหัวใจจนได้  หนึ่งสัปดาห์ที่ติวกัน คือหนึ่งสัปดาห์ที่รงคเพทไม่เคยนอนหลับสนิท เพราะหัวใจมันร้องไห้ ร้องหาแต่คนที่จากเขาไป





        “เรียง ใครมาแหน่ะ”  แม่ตะโกนบอก คนที่กำลังวุ่นอยู่กับการรดน้ำต้นไม้อยู่หลังบ้าน กับต้นมะขามที่แทบสำลักน้ำเพราะคนรดเอาแต่เหม่อลอยถึงใครบางคน





        “ราม”  เมื่อวิ่งออกมาดูก็พบว่าเป็นน้องชายสุดที่รักของเขา รอยยิ้มประดับบนใบหน้าของคู่พี่น้องทันที เรียงเดินเข้าไปหาน้องอย่างเร่งรีบ




        “มาไง สอบเสร็จแล้วเหรอ”  ทักน้องพร้อมขยี้หัวแรงๆไปทีนึง





        “เสร็จแล้ว แต่มีงานที่คณะต่อแหล่ะ ขอกลับบ้านก่อนแล้วกัน คิดถึงแม่”




        “แล้วไม่คิดถึงพี่บ้างรึไง หะ ไอ้น้องตัวแสบ”  เขกหัวไปอย่างหมั่นเขี้ยวอีกที





        “โอ้ยย จะคิดถึงทำไม เรียงแวะไปหารามทุกอาทิตย์อยู่แล้ว”




        “ฮ่าฮ่าฮ่า”  สองพี่น้องเดินดูต้นไม้ดอกไม้รอบๆบ้าน มีบางต้นที่คุณแม่เอามาปลูกใหม่ และสองพี่น้องก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน จึงตื่นตาตื่นในกันใหญ่





        “เด็กๆ มากินข้าวได้แล้วจ่ะ พ่อกลับมาแล้ว”  ครอบครัวที่แสนอบอุ่น ตั้งแต่ที่ฐานะทางบ้านเริ่มเปลี่ยนไป ทั้งพ่อและแม่ก็ช่วยกันทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย พ่อเริ่มหางานตามบริษัททำ ส่วนแม่ยอมลงทุนปลูกต้นไม้ดอกไม้ไว้ขาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ท่านทั้งสองอยู่ในห้องแอร์ นั่งโต๊ะผู้บริหารมาตลอด ครอบครัววงศ์วิญญูวาสโชคดี ที่มีคุณแม่คอยให้กำลังใจ ให้ทุกคนก้าวต่อไป จนในที่สุดทุกอย่างกลับมาลงตัวอีกครั้ง คุณพ่อและคุณแม่พอใจกับสิ่งที่ท่านทำ และมีความสุขกับมัน







        “อร่อยมากอ่ะแม่ ง่ำๆๆ”  ศรรามเคี้ยวข้าวตุ่ยๆเต็มสองแก้ม ปากก็เอ่ยชมทุกคำที่เข้าปาก




        “อ้อนแม่มาก เดี๋ยวพี่กลายเป็นหมาหัวเน่าทำไง”  รงคเพทที่นั่งอมยิ้ม แขวะน้องชายที่คอยเอาใจคุณแม่ตลอดตั้งแต่กลับมาถึง





        รงคเพทนั่งมองน้องชายเขาและอมยิ้มอย่างไม่หุบ หากถามว่าบ้านนี้ใครได้แม่ไปมากสุดคงไม่พ้นไอ้คนขี้อ้อนคนนี้ ทั้งรูปร่างหน้าตา ปากนิด จมูกหน่อย ตาโต ผิวที่ขาวใส ผอมบางน่าทะนุถนอม ไม่ถึกบึกบึน หน้าละม้ายคล้ายโจรห้าร้อยเช่นเขา ที่ได้ทางพ่อมาเต็มๆ นึกแล้วก็น้อยใจ ถ้าเขาน่ารักอย่างราม ตารกาจะสนใจเขาบ้างไหมหนอ ศรรามไม่ได้ ได้แม่มาเพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นจิตใจที่มองโลกในแง่ดีด้วย สังเกตได้ชัด ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์ร้ายแรงแค่ไหน เด็กคนนี้ก็ยังคงยิ้มให้ตัวเองได้เสมอ




        “มองรายย อยากกินอ่าดิ ไม่ให้กินหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า”  โหยยยย ไอ้น้องตัวแสบ หมั่นไส้จัด เขกหัวน้องไปหนึ่งที และก็โดนพ่อแม่ด่าเรียบร้อย





        เสียงหัวเราะสนุกสนานดังกึกก้องบริเวณ










        ลมยามดึกพัดโชย สองหัวใจล่องลอย เคว้งคว้าง อ้างว่างเกินหยั่งถึง

        “เฮ้อออ…/เฮ้อออ……   ขวับ !!”  เสียงถอนหายสองเสียงประสานกัน คนสองคนที่ยืนระเบียงห้องของตัวเองหันไปยังอีกฝั่ง




        “ถอนหายใจเป็นด้วย”  มองไปด้านนอกระเบียงคุยกับน้องชายที่มีผนังกั้นห้องอยู่





        “คนนะเรียง ไม่ใช่ซอมบี้”




        “พี่นึกว่าซอมบี้”





        “ไอ้เรียงง !!”  เสียงเริ่มโมโหขึ้นจมูก จากอารมณ์เหงาๆเศร้าๆเมื่อครู่ของรงคเพทกลายเป็นเสียงหัวเราะน้องชายอย่างสนุกสนาน




        “ฮึฮึ เป็นไงบ้างล่ะเรา รับงานเยอะมากเลยนี่”





        “เหนื่อย….ยังไงไม่รู้”  น้องชายเขา ทำไมเสียงดูเศร้านักล่ะ เมื่อกี้ยังหัวเราะกันบ้านแทบแตก




        “รามยังนึกถึง….เรื่องนั้น อยู่บ้างรึเปล่า”  ไม่อยากให้เสียบรรยากาศแต่กลัวน้องยังเก็บไว้ในใจแล้วไม่ยอมบอกใคร



        “…….”




        “ราม….”





        “เรียงว่ารามน่ารักป่ะ”




        “ฮึฮึ น่ารักดิ น่ารักกว่าพี่เยอะเลย”





        “ไม่จริงหรอก เรียงน่าอิจฉากว่าตั้งเยอะ”




        “ยังไง”





        “ไม่ต้องผูกมัดกับใคร …ให้เจ็บเปล่าๆ”  ไม่ต้องเดาให้ยาก น้องเขากำลังร้องไห้




        “แหน่ะๆ ทำเป็นขรึม อกหักอาเด๊”  ไม่อยากให้น้องเศร้า เดี๋ยวคนเป็นพี่จะร้องไห้ตาม





        “ฮึก โอ้ยย ไอ้เรียงบ้า!! ฮืออ”  นั่นไง ร้องไห้ก็จะร้อง จะด่าพี่ก็จะด่า ฮาไหมละนั่น




        “ใครหว่า ผู้โชคดี ได้หัวใจน้องของพี่ไป”  ชะโงกหน้าออกไปพูดกับน้อง ที่ตอนนี้ร้องไห้ตาแดงก่ำไปแล้ว





        “อึก อึก” เห็นพี่ชะโงกหน้ามา ก็ดันหัวพี่ชายกลับไป 




        “อยู่นั่นนะ จะบินไปหาเดี๋ยวนี้เลย”  ห้องสองพี่น้องถูกสร้างให้มีประตูเชื่อมถึงกันได้ โดยไม่มีกลอนล็อคทั้งสองด้าน พ่อกับแม่ ทำไว้ให้ลูกทั้งสองที่เขาสอนให้รักและดูแลกันมาแต่เด็ก





        รงคเพทและศรรามวิ่งแข่งกันไปที่ประตู ด้านพี่ชายที่จะเปิดไปหาน้องชาย และน้องชายที่ดึงประตูไว้ไม่ยอมให้พี่ชายเข้ามา สงครามขนาดย่อมจึงเกิดขึ้น และฝ่ายที่กุมชัย ย่อมเป็นพี่ชายตัวใหญ่หน้าโจรอยู่แล้ว



        “แหง่ะ รามจะนอนแล้ว”




        “จะนอนแล้ว แต่ร้องไห้”





        “รามคิดถึงแม่”




        “จะไม่บอกพี่จริงดิ รามเห็นพี่เป็นคนอื่นแล้วรึไง”  ด้านพี่ชายที่เริ่มน้อยใจ หน้าตาเริ่มเครียด ฝั่งน้องชายกลัวที่สุดพี่ชายจะงอน เลยเดินเข้าไป จูงมือพี่ชายพามานั่งบนเตียงและนั่งลงข้างๆ



        “……”





        “รามอึดอัด”




        “เขาเป็นคนทำให้รามร้องไห้สินะ ใครราม ใครมันกล้าทำน้องพี่ร้องไห้”





        “เรียงไม่รู้จักหรอก”




        “ก็ไม่บอกแล้วจะรู้จักได้ไง”





        “ก็รามไม่อยากให้เรียงรู้จักอ่ะ!! ”  อารมณ์มาเต็ม โถ รักเขามากสินะน้องนะ ขึ้นเสียงกับพี่เชียว




        “อ่อ ไม่รู้จักก็ได้ แล้วมันทำไรราม”




        “……”




        “จะบอกไม่บอก”




        “ทำไม่ดี…เขาเป็นคนไม่ดี รามเกลียดเขา แต่..”



        “แต่?”




        “….แต่รามก็ไม่เกลียดเขา รามไม่อยากให้เขาทิ้งราม”



        “เขาที่ว่านี่ ผู้หญิงผู้ชาย”  ไม่รู้ไปกระตุกส่วนไหนของน้องชายไม่ทราบ สายตาลุกโชนเชียว ถามแปลกเหรอ รามเคยถูกผู้ชายเอิ่มมม นี่นะ




        “ไมถามงี้อ่ะ”



        “พี่ก็ถามไปงั้น”




        “เจอกับตัวอ่าดิ”  นั่นน โดนเข้าเองจนได้



        “เห้ยย อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง นี่พี่ถามรามอยู่นะ”




        “รามบอกไปหมดแล้ว”




        “ทำไมเขาต้องทิ้งรามด้วย เขา…ไม่ได้รักน้องพี่เหรอ”  พูดอีกก็เข้าตัวอีก



        “ไม่รู้ดิ รักมั้ง”




        “ถ้ารัก เขาก็ไม่ทิ้งรามหรอก”




        “รามไม่รู้ เขาทำร้ายรามแต่รามก็เกลียดเขาไม่ลง”




        “รามก็รักเขาใช่ไหมล่ะ”  เห็นชัดๆ แต่น้องชายก็ยังส่ายหน้าเบาๆ




        “งั้นก็ไม่รัก”  ก็ยังคงส่ายหน้าอีก





        “ตกลงว่ารักหรือไม่รักแน่”   




        “รามไม่รู้”  เอาแล้ว น้ำตามาอีกแล้ว





        “เฮ้อออ เอาเป็นว่ารักแล้วกันเนอะ ….ดูอย่างพี่นี่ รักเขาพี่ยังบอกว่ารักเลย จะโกหกใจตัวเองไปทำไม”  เห็นน้องร้องก็อยากร้องตาม ดึงน้องมากอดแล้วร้องไห้ซะเลย




        “หะ”  ศรรามพยายามพลักพี่ชายออก แต่ก็ไม่ออก นี่พี่เขาก็ร้องไห้เหรอ





        “เรียงรักเป็นแล้วเหรอ”





        “อืมม”





        “เขาไม่รักเรียงเหรอ”






        “อืมม…เจ็บเนอะ”





        สองพี่น้องที่กำลังเศร้าใจให้กับความรัก ต่างปลอบใจซึ่งกันและกัน ร้องไห้ฟูมฟายไปด้วยกัน สักพักก็เผลอหลับไปพร้อมกัน คุณแม่ที่เห็นว่าเสียงเงียบไป จึงเดินเข้ามาดู และปิดไฟให้…ขอให้ลูกของแม่ จงมีความสุขเร็ววันด้วยเถอะ










        เมื่อสัปดาห์แห่งการสอบมาเยือน รงคเพทและผองเพื่อน ตั้งใจสอบกันอย่างเต็มที่ หวังดึงคะแนนภาคมิดเทอมให้ดีขึ้นบ้าง รงคเพทที่ดูปกติดีแล้ว แต่ใครไหนเลยจะรู้ รักไม่ได้ใช้วันเดียว ลืมหรือจะทำได้ในวันเดียว





        “สู้ๆละกันไอ้น้องชาย พี่จะอยู่บ้านเป็นกำลังใจให้”  รงคเพทสอบเสร็จแล้ว แต่เมื่อสอบเสร็จ เช้าต่อมาศรรามก็ต้องกลับไปทำงานคณะที่มหาลัย วันนี้ทั้งวัน กะว่าสอบเสร็จจะพาน้องไปเที่ยว ให้หัวใจชุ่มฉ่ำสักหน่อย




        “อือออ เป็นกำลังใจที่ดีมากอ่ะ”  น้ำเสียงและแววตาค้อนส่งมาให้พี่ชายเต็มๆ




        “กลับเมื่อไหร่ล่ะ”




        “พรุ่งนี้เช้าอ่ะ งานเสร็จคงดึก นอนหอคืนนึง”




        “ให้พี่ไปรับป่าว”




        “เรียงง !!!”  ถามไปงั้น เดี๋ยวนี้น้องชายเลื่อนชั้นกลายเป็นรุ่นพี่ซะแล้ว ปีกกล้าขาแข็ง ไปไหนมาไหนเองได้สะดวกกว่าเมื่อก่อนเยอะ





        “ครับๆ ขี่รถดีๆหล่ะ รีบกลับ เดี๋ยวพี่จะอ้อนแม่รอ ฮ่าฮ่าฮ่า”




        “อย่าได้หวัง พรุ่งนี้รามจะกลับก่อนเรียงตื่นอีก คอนดูเหอะ”





        ศรรามออกไปแล้ว รงคเพทมาช่วยคุณแม่ทำอาหารเช้าในครัว วันนี้ว่างทั้งวัน กลับเหงานิดๆ สอบเสร็จเพื่อนก็แยกย้ายกันไปหมด น้องชายแทนที่จะว่าง กลับทำงานเพื่อส่วนรวมตัวเป็นเกลียว แต่ดีที่ได้ช่วยคุณแม่ดูแลต้นไม้ ก็สนุกไปอีกแบบ วันนี้หมดวันไปกับต้นไม้ดอกไม้ สดชื่นหัวใจดีเหมือนกัน






        “เรียง”  คุณแม่ตะโกนเรียก คนที่รดน้ำต้นไม้อยู่หลังบ้าน ที่กำลังเหม่อจนต้นกระจงแทบจมน้ำตาย



        “ครับแม่”  แม่เรียกดัง สะดุ้งนิดหน่อย ตั้งสติก่อนแล้วค่อยขานรับ




        “กินข้าวได้แล้วลูก พ่อกลับมาแล้ว”  แม่เรียกไปกินแล้ว รงคเพทกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าบ้าน วันนี้ทำงานมาทั้งวัน หิวไส้กิ่วไปหมด






        เดินเข้าบ้าน ก็ต้องแปลกใจ รามกลับมาแล้ว น้องซื้อรองเท้าใหม่หรือ แล้วทำไมไซด์ใหญ่จัง รงคเพทเดินไปยังโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนกำลังนั่งที่โต๊ะข้างพ่อกับแม่ โลกทั้งใบ ก็เหมือนหยุดหมุนไปชั่วขณะ   







        ความคิดบวกลบ ตีรวนกันไปหมด ติดอยู่กับที่ ก้าวไปข้างหน้าหรือก้าวถอยหลังไม่ไหว คนที่เขาพยายามดันให้ออกจากความคิด แต่แล้วก็ดึงกลับเข้ามาด้วยตัวเอง คนที่เขาพยายามเกลียด แต่สุดท้ายก็ยังรัก คนที่ทำให้รงคเพทนอนหลับไม่สนิทมาหลายอาทิตย์ คนที่เฝ้าคิดถึงใบหน้า ดวงตา ริมฝีปาก คนๆเดียวที่ทำให้เขาร้องไห้แทบขาดใจ คนๆนั้นมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว…ในตอนนี้



...
ตอนต่อไป 16.3 นะคะ ได้รู้กันแล้ว ต้นตองมาได้ไง หายไปไหน แล้วจะคืนดีกันหรือไม่ ^^

ขอบคุณ คุณbulldog17 นะคะ ขอบคุณมากค่ะที่คอยติดตาม^^ หวังว่าคงชอบตอนนี้นะคะ ^_____________^

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยค่า..... :z1: :z1: :z1:

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๖.๓   ดีอย่างไร   ใครเลยจะล่วงรู้








        “…….”



        “มานั่งสิเรียง”  คุณพ่อเรียกลูกชายคนโตของบ้านให้มานั่งโต๊ะ  แต่เสียงของคุณพ่อส่งไปไม่ถึงยังลูกชาย ที่ตอนนี้เหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งหลุมดำ



        “เรียง …นั่งสิลูก”  คุณแม่เรียกซ้ำ ทำให้คนหลุดวงโคจร คืนกลับมาได้



        “มาทำไม”  ไม่ได้เดินไปนั่ง แต่กลับเดินไปทางที่ใครบางคนนั่งอยู่และเอ่ยถาม 



        “ทำไมพูดกับเพื่อนอย่างนั้นล่ะเรียง”  คุณพ่อเอ่ยเสียงแข็ง



        “พ่อ มันใช่เพื่อนเรียงที่ไหน เรียงไม่รู้จักมัน” ก็มันบอกเอง ว่าให้ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันอ่ะ T^T



        “เรียง แม่รู้ว่าลูกสองคนมีเรื่องไม่เข้าใจกันอยู่ แต่เมื่อกี้คุณต้นตองเล่าเรื่องของลูกให้พ่อกับแม่ฟังซะเพลินเชียว : ) คุยใหญ่เลยว่าลูกหน่ะขี้โวยวาย”



        “ฮึ คุณต้นตอง ล้างสมองอะไรพ่อกับแม่กูอีกล่ะ”



        “เรียง แม่ไม่เคยสอนให้ลูกพูดจาหยาบคายนะ”



        “ไปนั่งให้เรียบร้อย แล้วช่วยให้เกียรติเจ้านายพ่อด้วย”  พ่อเริ่มดุ พ่อขึ้นเสียงทีไรเงียบกริบกันทั้งโต๊ะทุกที



        “ไม่เป็นไรครับคุณอา เรียงคงไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ”  เอาเข้าไป พ่อกับแม่เข้าข้างมันไปกันหมด ชีวิตที่สุขสงบของรงคเพท กำลังจะหมดลงเพราะไอ้คนๆนี้สินะ รงคเพททำได้เพียงเดินไปนั่งที่ประจำด้วยสีหน้าบึ้งตึง



        ‘ถ้าพ่อรู้ว่ามันเป็นคนทำให้ลูกพ่อร้องไห้ พ่อจะยังให้เกียรติมันอยู่รึเปล่า อยากรู้นัก ฮึ’  รงคเพทนั่งกินข้าวอย่างไม่ปริปรากออกมาแม้แต่คำเดียว นั่งฟังบนสนทนาก็ถึงได้รู้ว่า บริษัทที่คุณพ่อทำงานอยู่ตอนนี้ คือบริษัทลูกในเครือตระกูลประพาพงษ์สกุล





        “เคล้ง !!  อิ่มแล้ว ไปละ”  รงคเพทวางช้อนส้อมกระแทกจาน ลากเก้าอี้ลุกขี้ โดยไม่ฟังใครพูดอีก แต่แล้วขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดต้องชะงัก



        “คุณอาครับ คืนนี้ผมขออนุญาตค้างที่นี่ได้ไหมครับ พรุ่งนี้สายๆผมมีธุระแถวนี้พอดีเลยครับ”



        “เอาสิ บ้านนี้ต้อนรับคุณต้นตองเสมอ บ้านอาไม่ได้ใหญ่มาก คุณต้นตองไม่ว่ากันนะ”



        “บ้านคุณอาน่าอยู่มากครับ ขอบคุณนะครับคุณอา”  ไม่พูดเฉยๆ ยกมือไหว้ขอบคุณอย่างสุภาพ ดีเนาะ มาอ้อนพ่อแม่อีกรายละ



        “แม่ไอ้เรียง จัดห้องให้คุณต้นตองทีนะจ๊ะ….”  ขี้เกียจจะฟัง รงคเพทเดินขึ้นบ้านเสียงปึงปัง ปิดประตูดังเซอร์ราวรอบทิศ





        ใจลูกคนโตของบ้านอยากลงไปช่วยคุณแม่เก็บโต๊ะล้างจาน แต่ไม่อยากออกไปเจอหน้าไอ้บ้าบางคน ที่อยู่ดีๆมาอยู่ในบ้านเข้าได้ไงก็ไม่รู้ พูดแล้วอยากบีบคอมันให้ตาย





        นั่งนิ่งอยู่สักพักก็ติดสินใจ เปิดประตู แง้มออกทีละนิด ทีละนิด คาดว่าตารกาคงอยู่ห้องรับแขกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องเขา เหยียบลงพื้นไม้ปาเก้อย่างเบาที่สุดแล้วก็แอบคิดคนเดียวในใจ นี่บ้านกูป่ะเนี่ย




        ย่องๆ ลงมาด้านล่างก็เห็นคุณแม่กำลังยืนล้างจานอยู่ จึงแถๆเข้าไปยืนข้างๆและช่วยล้าง คุณแม่ยอมให้ช่วยอย่าไม่ได้ว่าอะไร




        “ลูกรู้รึเปล่า คุณต้นตองช่วยเหลือพวกเราไว้เยอะเลยนะ โดยเฉพาะพ่อ รู้ไหม พ่อถูกลูกน้องเก่าแบนงานไว้แทบทุกบริษัท ถ้าบริษัทไหนรับพ่อก็เท่ากับเป็นอริกับเขา แต่ก็ได้คุณพ่อของคุณต้นตองรับเข้าทำงานจนได้ โดยไม่กลัวว่าจะต้องกลายเป็นศรัตรูกับใคร”  คุณแม่พูดออกมาลอยๆคล้ายกับพูดอยูคนเดียว



        “……”



        “ไม่ว่าลูกสองคนจะมีเรื่องอะไรไม่เข้าใจกันอยู่ ลองคุยกันดีๆนะลูก แม่เชื่อว่าคุณต้นตองมีเหตุผลพอ”



        “ทำไมแม่ถึงเข้าข้างมันนัก”  หน้ามุ่ย ไป พูดลอยๆออกไปเช่นกัน



        “ก็ลูกรักเขาไม่ใช่เหรอ”



        “แม่ !!”  เผลอพูดออกมาซะเสียงดัง ได้รับเพียงรอยยิ้มอ่อนๆมาจากคุณแม่



        “ไม่ใช่นะแม่”



        “คิดจะหลอกแม่เหรอเรียง”  แม่หันมามองหน้าลูกชายอย่างรู้ทัน



        “แม่อ่ะ มันไม่ใช่รักเรียง”  หลอกใครก็หลอกได้ จะหลอกแม่ทำไมถึงยากนักก็ไม่รู้



        “ฮิฮิ ลูกหนอลูก : )”  สองแม่ลูกช่วยกันล้างจานด้วยรอยยิ้ม เมื่อเสร็จเรียบร้อย เจ้าของบ้านก็ย่องขึ้นบ้านเพื่อเข้าห้องตัวเองอีกครั้ง ลำบากแท้รงคเพท










        ก๊อก ก๊อก …





        “คร้าบบ มาแล้วคร้าบบบ”  คนที่เผลอหลับไปหัวค่ำ สะดุ้งตื่นอีกที 4 ทุ่มแล้ว มีคนมาเคาะประตู   



        “……!!!”  ลืมไปสนิทว่าคืนนี้ไอ้บ้านี่มานอนบ้าน




        ปึก !!!



        “เดี๋ยว”  เห็นหน้าคนที่มาเคาะ ประตูก็คล้ายจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ



        “ปล่อย…อย่า เข้า มา”  ชี้หน้าด่าไป แต่เท้าก็ถอยตามคนที่ก้าวเข้ามาเรื่อยๆ  จดจ้องมาที่หน้ารงคเพทแทบไม่กระพริบ เห็นหน้ามันแล้วกลัว สีหน้า ท่าทาง อย่างกับเสือจะขย้ำเหยื่อ





        ปึง แกร๊ก …



        ในที่สุดเจ้าของห้องก็ถูกขโมยห้องจนได้ แถมโจรหน้าหล่อยังล็อคประตูเป็นที่เรียบร้อย




        “เข้ามาไม ….เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ยยยย”  เมื่อล็อคประตูเสร็จก็ย่างสามขุมเข้ามาหาเจ้าของห้อง รงคเพทใช่ว่าจะกลัว แต่เท้าถอยกลับแทบวิ่งถอยหลัง ช้ากว่า คนที่ก้าวมาแล้วคว้าตัวไปกอด แน่นตึก คนถึกถึงกับหายใจไม่ออกทีเดียว




        “เฮยยย ทามรายวะ เรียกแม่นะเว๊ยยย”  โดนรัดแน่น อย่างงูรัดคอเหยื่อ หายใจไม่ทั่วท้องแล้ว



        “เรียกสิ อยากให้แม่เข้ามาเห็นเรายืนกอดกันก็..เอาเลย”  น้ำเสียงชวนขนลุก ที่กระซิบชิดริมหู ทำเอาใจเต้นตุบๆๆ อย่างห้ามไม่ได้



        “ไอ้ ไอ้ อุบ”  จะด่าๆ แต่มานึกขึ้นได้ รีบเอาหน้าซุกไหล่ต้นตองทันทีเพื่อไม่ให้ด่าออกมา ขืนแม่มาเห็นเข้าเรื่องใหญ่แน่



        “ยั่วเหรอ”  ตารกายังคงกระซิบให้รงคเพทมองตาเขียวปั๊ด



        “……”  ไม่พูดอะไรออกมา รำคาญมัน



        “เรียงคิดถึงผมบ้างไหม จุ๊บ”  ถามออกไปเบาๆพร้อมจูบขมับคนในอ้อมกอดไปหนึ่งที 



        “……”



        “คิดถึงนะ ฟอดดดด”  ก้มลงบอกกล่าวความในใจ แล้วหอมแก้มไปฟอดใหญ่



        “ปล่อยกู”  ยังคงพยายามดันมันออก ไม่ฟัง ไม่อยากฟัง นอนร้องไห้มาตั้งหลายคืน แล้วมาบอกคิดถึง คิดถึงบ้านมึงดิ



        “สอบเป็นไงบ้าง ทำได้ป่าว”



        “…….”



        “นอนหลับสบายดีไหม”



        “……..”



        “ผมว่า..”





        “โว๊ยยยย !!!!! อะไรนักหนาวะ รำคาญ …..ไอ้เชี่ย ”  คราวนี้ผลักหลุดจนได้  ตารกอึ้งที่รงคเพทปรี๊ดแตก





        “มึงไปเลย ออกไปจากห้องกู ก่อนกูจะฆ่ามึง …มึงมาทำไม หะ!! บอกกูเองไม่ใช่รึไง ให้กูลืมๆ เห็นกูเป็นแค่เพื่อน ให้กูไม่รู้จักมึง แล้วนี่มึงทำอะไร ต้องการอะไรจากกูอีก  …อึก”





        “เรียง…”





        “แค่นี้กูยังเสียใจไม่พอใช่ไหม ยังทำกูเจ็บไม่พอดิ มึงรู้ไหม กูคิดไปไกลขนาดไหน กูคิดว่ามึงจะรักกูบ้าง กูไปไหนทำอะไร กูคิดถึงมึงก่อนคนแรก นึก นึก นึก จนวันๆกูไม่เป็นอันทำอะไร ฮึก..แต่เปล่าเลย กูผิดหมด กูคิดไปคนเดียว ใครรู้คงด่าว่ากูหลงตัวเอง กูหลอกตัวเอง กูเป็นโรคจิต แล้วพอกูเริ่มทำใจ มึงมาทำไม หะ !!!! ฮึกๆ …ฮ่า”  น้ำตา อารมณ์มาเต็ม น้ำเสียงที่เค้นออกมาแข่งกับน้ำตา สุดแสนจะเจ็บปวด เขาต้องเสียใจกับคนๆนี้ไปอีกแค่ไหน ไปทำเวรทำกรรมอะไรกับมันไว้





        “…….”  ตารกาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ดึงคนที่ร้องไห้โวยวายหนักเข้ามาบังคับกอด





        “ปล่อยเลย ไอ้เหี้ย ปล่อย !!! ฮืออ ไม่ต้องมาจับกู จับกูไม ไม่รักกูนี่ ….อึก มึงไม่รู้หรอก กูเสียใจ กูนอนไม่หลับ กูไม่เคยเป็น เกลียดตัวเอง ด่าตัวเองวันละร้อยรอบ มึงเข้าใจกูบ้างไหม แล้วมึงก็หายไป อึก อึก”






        “เรียง..ผมขอโทษ ฟืดดด” 



        “ไม่ต้อง กูไม่เอา อึก”




        “ขอโทษนะ ผมขอโทษ ฟืดดด”  รงคเพทหูฝาดรึเปล่า เสียงเหมือนมันสูดน้ำมูก เฮอะ กูไม่อยากหลงตัวเองว่ามันร้องไห้ให้กูหรอกนะ




        “ผมก็เสียใจ นอนไม่หลับไม่ต่างจากเรียงเลย” เมื่อผละออกจากอ้อมกอด ก็เห็นคนหน้าหล่อน้ำตาคลอจริงๆ มันคล้ายพยายามข่มไว้ไม่ให้ไหลออกมา ได้มองดูหน้าใกล้ๆแบบนี้ หน้าตาหล่อเหลา ผิวใสปริ๊งปรั๊ง บัดนี้กลับซูบซีดไปอย่างเห็นได้ชัด ใต้ตาที่คล้ำไม่ต่างจากเขา คนที่เคยดูแลตัวเองดีมาตลอด ทำไมตอนนี้ถึงได้โทรมไปมากขนาดนี้หล่ะ ยิ่งเห็นน้ำตาใกล้เอ่อล้นออกมาแบบนั้นอีก รงคเพทยิ่งเจ็บลึกเข้าไปอีกเท่าตัว จากที่ร้องไห้กลายเป็นร้องไห้หนักกว่าเดิม เขาไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองอีก แต่ตอนนี้คนตอนหน้ามันน่าสงสาร รงคเพทจึงเดินเข้าสู่อ้อมกอดมัน โดยลืมเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตนไปชั่วขณะ






        “จูบได้ไหม”  โจรในอ้อมกอดส่ายหน้าเบาๆ แอบร้องไห้บนไหล่ตั้งตรง น้ำตาเปื้อนเป็นวงกว้าง




        ตารกาไม่สนใจกับการส่ายหัว เขาดันคนขี้แยออกจากอ้อมแขนแล้วเชยปลายคางขึ้น จูบลงไปยังปากหนาๆนั้น ค่อยๆไล่เลียตามริมฝีปากช้าๆ ก่อนประกบริมฝีปากของตนลงไปหนึ่งที แล้วผละออก




        “……”  สองสายตาที่จ้องประสานกัน คล้ายอยากถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ถึงซึ่งกันและกัน ตารกาประกบปากลงไปอีกครั้ง แต่ครานี้เขาค่อยๆดูดวนรอบๆปากหนาอย่างนุ่มนวล ก่อนใช้ลิ้นดุนให้ปากนั้นอ้าออก และก็ได้รับความร่วมมือกลับมา ลิ้นสีชมพูของคนซูบผอมสอดเข้าลึกล้ำ แตะสัมผัสตั้งแต่โพรงปากด้านนอกเข้าไปจนสัมผัสถึงลิ้นของอีกฝ่าย เมื่อปลายลิ้นเริ่มแตะถึงกัน จูบดูดดื่มก็เกิดขึ้น แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงจูบอ่อนโยนจากตารกา แต่ไม่นานนัก จูบนั้นก็กลายเป็นจูบที่ร้อนแรง อารมณ์ของตารกากำลังลุกโชนอย่างห้ามไม่ได้




        รงคเพทที่ยังไม่ทันได้นึกอะไร เมื่อถูกจูบยั่วยวน ทุกสิ่งก็พลันหายไป เหลือเพียงความรู้สึกที่เฝ้านึกถึงอยู่ทุกค่ำคืน โจรห้าร้อยปล่อยตัวปล่อยใจไปกับรสจูบ จากคนที่เขารัก รักมากเหลือเกิน ขออีกนิดเถอะนะ หากว่ามันเป็นสิ่งลวง ก็ไม่เป็นไร เขาจะทำใจให้ได้





        รู้สึกตัวอีกที หลังก็ติดที่นอนไปแล้วเรียบร้อย รงคเพทสติกลับมาอีกครั้ง แต่ดูคนที่เอาแต่จูบเขาเกือบสิบนาทียังไม่รู้สึกตัว ดูมันกระหายแปลกๆ นี่มันได้ระบายบ้างรึเปล่านี่





        “อืมม อือออ อื้ออออ ฮ่า ฮ่า”  คนด้านล่างผลักสุดหล่อแต่แรงเยอะ ออกได้ในที่สุด หอบหายใจสักพักมันก็โน้มลงมาจะประกบปากอีกครั้ง





        “พอ ต้นตองง นี่บ้านกูนะ”  ไม่สำเร็จ ตารกาขาดสติไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เจ้าของห้องนอนถูกจูบจนอีกคนพอใจ เริ่มเปลี่ยนไปจูบๆ ดูดๆที่ลำคอแทน





        “ต้นตอง พอเถอะ เห้ยยย”  พูดแผ่วเบาไม่ได้ยิน เลยต้องพูดดังๆ นี่พูดดังแล้วนะ ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองกระซิบยังไงก็ไม่รู้





        ฟุบ !!





        ต้นตองที่ง่วนกับการจูบเมื่อครู่ ซบหน้าลงกับเตียง บนไหล่รงคเพท





        “ขอโทษเรียง แต่ผมทนไม่ไหว คิดถึงใจจะขาดแล้ว”  กัดฟันพูดอย่างอยากลำบาก มืออีกสองข้างก็ขยำผ้าปูที่นอนอย่างอดกลั้น จากนั้นก็ลุกมามองหน้ารงคเพทตรงๆ





        นี่ นี่มันหื่นกามขั้นสุดยอดแล้วสินะ หน้าแดง หูแดง แววตาฉ่ำเยิ้ม กัดฟันกรอดๆ  ….นี่ นี่ต้นตองมันถูกปีศาจกามเข้าสิงอีกแล้วเหรอ คราวนี้แสดงออกชัดเจน จนคนเห็นหัวใจเต้นกระหน่ำ หน้าแดงตามอย่างขวยเขิน 






        “ต้นตอง ใจเย็น”  เอ่ยออกไปอย่างนั้น แต่มือกลับโอบรอบคอคนด้านบนให้โน้มลงมาจูบกันต่อ อาการคนโน้มลงมาจูบ แย่ลงทุกที รสจูบทั้งเผ็ดทั้งมัน ขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานปากสีแดงๆก็เริ่มไล่ลงมาตามรำคอ ดูดกลืนลำคออย่างหิวโซ





        “ไปอดอยากมาจากไหนต้นตอง” 





        “…..”  ไม่มีคำตอบ ไม่นานร่างกายหนาๆของรงคเพทก็ถูกหมาป่าหิวโซไล่เลียไปแทบทุกส่วน แต่ละส่วนร้อนผ่าวตามลิ้นที่ดูดเลีย จนปากสวยๆนั้นลงไปถึงน้องชายอีกนายของรงคเพท ครอบปากลงไปอย่างไม่ทันห้าม





        “อูยยยย ซีดดดด ต้นตองงง อาาาาาห์”  ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดรัดพันในโพรงปากรงคเพทเมื่อครู่ บัดนี้แลบเลียตั้งแต่โคลนจรดปลายอย่างกระหาย เรียกเสียงสุขสมจากเจ้าของได้เป็นอย่างดี





        “ตอง พอแล้ว อาาา”  บอกพอ แต่มือกดหัวตารกาเอาไว้ให้ส่งน้องชายเข้าไปยังโพรงปากหวานๆนั้นลึกอีก




        ตารกาขยับช่องปากอย่างชำนาญอีกสักพักก็เลียกลับจากล่างขึ้นมาด้านบนและประกบจูบปากที่มัวพูดพร่ำอยู่





        “ชู่ววว ฮ่า เงียบหน่อย แม่อยู่ห้องข้างๆไม่ใช่หรือ”  พูดไปด้วยหอบไปด้วย แรงอารมณ์ที่รงคเพทไม่เคยเห็น และเหมือนจะนึกขึ้นได้รอบสอง รีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันควัน กลับโดนคนเตือนดึงออกและประกบปากตัวเองลงไปแทน





        “จ๊วบบบ อืมมม ฮ่า อืออ จุ๊บ จ๊วบบ….”  จูบดูดดื่มดังจ๊วบจ๊าบ ไม่ดังเท่าเสียงพูด ตารกาใช้วิธีนี้ช่วยรงคเพทปิดปาก….ด้วยปาก






        “อือออ…”  รงคเพทจูบตอบอย่างสุขี ตารกาจูบไปเรื่อยๆ พร้อมกับมือที่ปลดกางเกงของตัวเองลง พาน้องชายของตนออกมาทำความรู้จักกับน้องชายของรงคเพท นำน้องๆมาวัดขนาดกัน ถูๆไถๆกันกันสักพัก น้องๆเริ่มอารมณ์ดี แข่งกันตื่นตัว อย่างไม่มีใครยอมใคร






        ไม่รอช้ามืออีกข้างคว้าของบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกง ค่อยๆเลื่อนลงไปยังช่องทางลับ ปากยังคงจูบ มืออีกข้างยังคงช่วยเหลือน้อง และอีกข้างนวดๆวนๆโดยใช้บางสิ่งที่ควักออกมาเมื่อครู่เป็นใบเบิกทาง รงคเพทยังคงไม่รู้สึกตัว ยังคงดื่มด่ำกับรสจูบแสนหวานและหรรษากับน้องชาย มือก็ขยำขยี่หัวคนด้านบนอย่างระบายอารมณ์ใคร่ ตารกาจับมือที่ขยี้หัวตัวเองอยู่ ดึงมือนั้นมาช่วยเหลือน้องชายตนและน้องชายเขา รงคเพทไม่มีเกี่ยงงอน ปฏิบัติตามด้วยความรักเต็มที่ แต่แล้วสักพักความเสียวซ่านและความหอมหวานของรสจูบก็เริ่มหายไป





        กลับกลายเป็นความเจ็บจี๊ดจากช่องทางลับด้านหลังมาแทน





        “ตอง เจ็บ… ”  กระซิบบอกคนด้านบนที่พยายามทำบางสิ่งอยู่





        “ทรมานเหมือนกันเรียง ทนหน่อยนะ”  เสียงหอบหายใจแรงมาก รงคเพทอยากจะละลายตายไปด้วยแรงอารมณ์ของผู้ชายคนนี้จริงๆ





        เอ๊ะ !! แต่เดียวก่อน ….นี่เขามาอยู่ข้างล่างมันอีกแล้วได้ไงเนี่ยย !!!! เขาต้องเป็นฝ่ายกดมันสิ นี่มันอะไร






        “โอ๊ยยย เดี๋ยวๆ เจ็บอ่ะ”  พูดเสียงงุ้งงิ้ง งอแง เหมือนเด็กขี้อ้อน แต่ไม่ทันแล้ว คนด้านบนเริ่มส่งน้องชายตัวใหญ่เข้าไปยังช่องทางแห่งความสุขนั้นแล้ว





        ห่างหายมานาน ช่องทางนั้น คับแน่นซะจนคล้ายไม่เคยผ่านศึกใดมา เรียกร้อยยิ้มบนใบหน้าตารกาได้เป็นอย่างดี





        “ยิ้มไมง่ะ” 





        “ชอบ”  ตุบ ตับ ตุบ ตับ เสียงหัวใจเต้นดัง แข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อจากด้านล่าง รงคเพทยังคงเจ็บไม่หาย หน้านิ่ว คิ้วขมวด ร้องเจ็บๆ แต่ไม่ทันแล้ว ตารกาใส่มาไม่มียั้งสักนิด





        “ซีดดดด” ตารกาเห็นใจคนทำหน้าเจ็บปวด ช่วยรูดขึ้นรูดลงน้องชายรงคเพทอย่างเร็วแรง จนรงคเพทเริ่มมีอารมณ์ร่วมอีกครั้ง





        ผ่านไปไม่นาน รงคเพทกลับมีอารมณ์จากทุกช่องทางจนคล้ายล่องลอย คนด้านบนหลังจากได้ปลดปล่อยไปบ้าง ก็เริ่มกำกับจังหวะ เพื่อไม่ให้คนด้านล่างอึดอัดมากนัก





        “อืมมม อ๊า อ๊า อ๊าาาาาห์”





        จุ๊บ





        “ดังไปแล้วเรียง”  ปากกลับมาประกบปิดเสียงกันอีกครั้ง





        ความสุขที่ทั้งคู่ต่างมอบให้กัน ไม่นานก็พากันไปถึงฝั่งฝัน ด้วยพอใจกันทั้งสองฝ่าย





        “ฮ่า…. ฮ่า…. ฮ่า….”  ทุกอย่างจบลง ตารกาฟุบหน้าลงบนอกที่กระเพื้อมขึ้นลงอย่างเหน็ดเหนื่อย








        “เรียง”





        “หืม”  สูดลมหายใจลึก เพื่อให้ปอดรับออกซิเจน และกลับสู่สภาวะปกติ








        “ผมรักเรียง”  ตึก ตึก ตึก หัวใจเต้นแรงอีกแล้ว ความดีใจโลดแล่นจนน้ำตาแทบเอ่อนอง แต่แล้วก็มีความรู้สึกบางอย่างประท้วงเอาไว้ ความเจ็บปวดที่ร้องเตือนไม่ให้เชื่อคำพูดของผู้ชายคนนี้





        “ฮึฮึ หลอกอะไรกูอีก”  หัวเราะออกมาด้วยความสมเพทตัวเอง น้ำตาก็ไหลมาอีกแล้ว จึงรีบยกมือทั้งสองข้างปิดหน้าเอาไว้  ตารกาที่เห็นเช่นนั้นดึงมือทั้งคู่ออก และจ้องลึกไปในดวงตาที่ถูกขั้นด้วยม่านน้ำตา





        “ผมไม่ได้โกหก ผมรักคุณ”  ยกมือนั้นขึ้นจูบที่ปลายนิ้วอย่างแผ่วเบา





        “เจ็บนะเรียง เจ็บมาก จนเกือบทนไม่ไหว”  นำมือที่จูบไปเมื่อครู่ทาบลงที่อกด้านซ้ายของตน รงคเพทรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กันของเขา





        “เจ็บแล้วทนทำไม”





        “จุ๊บ..รักไง จุ๊บ..รักมาก”  จูบลงที่ปากหนึ่งครั้ง เอ่ยคำรัก และจูบลงอีกครั้ง





        “ผมจะเล่าทุกอย่างให้เรียงฟัง ผมสัญญา เชื่อผมเถอะนะ” 






        “เล่ามาดิ”





        “เอาเรื่องไหนหล่ะ ผมยังไม่อยากเล่าตอนนี้ ตอนนี้ผมอยาก….อย่างอื่นมากกว่า”





        “เล่ามา ไม่งั้นไม่ต้อง”  ตารกาหนาแหยๆไป รงคเพทเห็นแล้วก็กลั้นหัวเราะทั้งน้ำตาไว้






        “ผมกับสองเคยเป็นเพื่อนรักกัน ตอนม.ปลายหน่ะ”  ตารกานอนเล่าทั้งๆที่นอนทับรงคเพทอยู่ และน้องชายก็เริ่มกลับมาตื่นเต้นอีกแล้ว





        “เมื่อก่อนสองเป็นคนดีมาก ผมกับสองสนิทกัน รู้ใจกันทุกเรื่อง”  ตารกาคว้ามือที่ตนจูบไปเมื่อครู่ทาบลงไปยังน้องชายที่กำลังตื่นเต้น ได้รับเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ จากรงคเพท แต่ก็ยังขยับตามมือด้านบนที่บงการ





        “แต่มีเรื่องนึงที่ผมไม่เคยรู้”  ตารกาขยับมือเร็วขึ้น หน้าเริ่มกลับมาแดง และหอบหายใจแรงอีกครั้ง





        “ไอ้บ้า แล้วไงต่อเล่า จะจบไหมเนี่ยวันเนี้ย”  เห็นแล้วก็เขินแทน นั่นมันมือเขานะ





        “มันจะกดผม”  โน้มลงไปเล่ากระซิบชิดริมหู





        “หะ !! แล้วเป็นไง”  ตื่นเต้นจัด ออกอาการไปหน่อย นี่สุดหล่อของเขาเคยถูกกดมาแล้วจริงหรือ





        “ฮึฮึ ผมตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรหรอก โอมมันเป็นคนไปช่วย”





        “เพราะมึงรึเปล่า สองเลยกลายเป็นแบบนี้”





        “เรื่องนั้นผมว่าก็คงมีส่วน จากนั้นมาสองก็ออกจากกลุ่มผม แล้วไปคบกับพวกเด็กเกเร จนสุดท้ายก็กลายเป็นหัวหน้าแก๊งค์ซะเอง อย่างที่นายเห็น”





        “มึงไม่รักสองบ้างเหรอ”  ถามไปงั้น มือที่ถูกชักนำเริ่มอ่อนแรงแล้ว กลัวว่าต้นตองจะยังเคยรักเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนี้





        “ผมรักสองแบบเพื่อนมาตลอด มันกลับเห็นความรักของผมเป็นอย่างอื่น”  จึกก โดนตรงใจรงคเพทอีกแล้ว





        “เฮ้อ”  เสียงถอนหายใจของรงคเพท ตารการู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร





        “แต่สำหรับเรียง ผมรักจริงๆนะ ”





        “รักแค่ไหน แค่เพื่อนรึไง”





        “แค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่ได้เห็นหน้า แล้วกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่อยากทำอะไรเลย เกรดเทอมนี้ผมต้องแย่แน่ๆ ดูดิ หมดหล่อแล้วไม่เห็นหรือ”





        “ฮึฮึ ทำตัวเองนี่หว่า”  มือรงคเพทอีกข้างที่ว่างค่อยๆลูบไปตามใบหน้าที่สังเกตได้ชัดว่าซีด และใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า





        “คราวก่อนผมบ้าไป เพราะคิดว่าสองมันจะเล่นงานทุกคนที่ผมรักแน่ ผมจึงส่งเรียงกลับบ้าน แต่ก็เป็นผมเองที่ทนไม่ได้ เรียงทำได้ไงหน่ะ ไม่โทรหาผมเลย ฟอดดดด”  พูดไปก็หอมไป ไอ้นี่มันบ้ารึไง





        “จะตายเอาหน่ะสิ ดีหน่อยที่แม่คอยปลอบ”





        “ผมคิดถูกแล้วที่พาเรียงกลับบ้าน”





        “แล้วมาหาแบบนี้ไม่กลัวสองจะตามมาเล่นงานกูอีกรึไง”





        “ไม่แล้วหล่ะ ดูเหมือนสองกำลังได้รับบทเรียนอะไรบางอย่างแล้ว ปล่อยมันไปเถอะนะ มาต่อเรื่องของเราดีกว่า”  ไม่ปล่อยให้คนรักได้ตอบอะไร พาน้องชายลอดถ้ำพิศวงทันที








        “อ่ะ อ๊าาาาาห์”  สองหัวใจ พร่ำคำรักต่อกัน อีกครั้ง และอีกครั้ง ค่ำคืนนี้แสนหอมหวาน และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกันง่ายๆ รงคเพคอยากเห็นไหม ฟ้าสีเหลืองเป็นยังไง
       













        “อืออ”  จูบรับอรุณจากตารกา มอบให้อย่างอบอุ่น




        “ตื่นได้แล้ว จะเก้าโมงแล้วนะ”  ตารกาเอานิ้วจิ้มๆคนที่หลับตาปี๋อย่างไม่ยอมตื่น




        “โห เก้าโมง ปิดเทอมแล้ว สักเที่ยงละกันๆ”





        “เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่รอกินข้าวนะเรียง ลุกได้แล้ว”





        “ม่ายยยยย”  ลืมตามองข้างนึง แล้วนึกในใจ ทำไมเขาถึงอ่อนเพลีย ส่วนไอ้คนยิ้มแฉ่งนี่หน้าตามันกลับสดชื่น อย่างกับโลกเป็นสีชมพู ทั้งๆที่ ก็ออกรบมาพร้อมกันแท้ๆ




        “จุ๊บ เดี๋ยวผมเอาขึ้นมาให้แล้วกันนะ : )”





        “อืออ”  พร้อมหลับอีกรอบ








        “ผมรักคุณ”  อ่าวหลับไปแล้ว หอมไปอีกทีก่อนลงไปด้านล่าง





        โอยยยยย แล้วจะนอนต่อยังไงล่ะวะเนี่ย ไอ้ใจบ้านี่ก็สั่นอยู่นั่นแหล่ะ แค่เขาบอกรัก แค่เนี้ย แล้วนั่นๆ จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำไม หะ เมื่อคืนนี่ก็เสียเปรียบมันไปเต็มแท้ๆ




        “ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้าเอ้ยยยย”  ด่าเขาไป แต่เอาหมอนเขามานอนกอด และหลับไปอย่างเป็นสุข






        ตารกาเดินลงบันไดมาอย่างสดชื่น ไม่แน่ใจว่าเรื่องเมื่อคืน ท่านทั้งสองจะได้ยินบ้างหรือไม่ เมื่อลงมาก็พบกับคุณแม่ของเรียง กำลังเตรียมอาหารเช้าให้อยู่





        “อ่าวคุณต้นตอง ตื่นแล้วหรือ มาทานข้าวด้วยกันก่อนค่ะ…แล้วเจ้าเรียงไปไหนซะล่ะ ได้ตามมาทานข้าวด้วยรึเปล่า”  คุณแม่เหมือนไม่รู้ ว่าเมื่อคืนเกิดหนังชุดใหญ่ขึ้นในบ้าน ตารกาถอนหายใจอย่างโล่งอก





        “ราม ยกไปเผื่อคุณต้นตองด้วย….นี่รามค่ะ น้องเรียงเขา”  คุณแม่เรียกลูกชายคนที่สองของบ้านมาช่วยยกอาหารไปตั้งโต๊ะ โดยที่คุณแม่ไม่ทันได้สังเกตุเลย






       ว่าในขณะนี้ลูกชายคนที่สองของบ้านและตารกา ลูกเขยที่พึ่งได้รับมาหมาดๆเมื่อคืน (แม้คุณแม่จะยังไม่รู้) ทั้งคู่กำลังมองตากันอย่างตกตะลึงอะไรบางอย่าง หนึ่งสายตาที่จ้องมาอย่างไม่ละ แฝงความรู้สึกบางอย่างที่รวมกันมาทั้งดีใจและเสียใจที่ได้เจอในแวบเดียวกัน และอีกหนึ่งสายตาที่ลุกโชนคล้ายเจอของที่ทำหายไปเมื่อนานมาแล้ว

... . . . . . . .... . ... . .. .. . . ...................... ........................................................................................
  :katai5: :katai5: :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2014 21:34:30 โดย wispapoo55 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องราวกำลังเข้มข้นนนน มาต่อเร็วๆเห๊ออออออ :z3:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ลุ้นระทึก  :katai1:

อีกเดี๋ยวหนูเรียงต้องน้ำตาตกอีกอ่ะ เดือด

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๗  รักเอยเป็นเช่นใด  ใครเลยจะล่วงรู้






        บรรยากาศอาหารเช้า ณ บ้านรงคเพทเต็มไปด้วยความเงียบงัน แม้คุณพ่อคุณแม่จะชวนลูกชายคนเล็กของบ้านและลูกเขยคุยอย่างไรก็ตาม ท่านทั้งสองก็ได้รับเพียงคำตอบสั้นๆจากทั้งคู่ ศรรามกินไปนิดเดียวก็ขอตัวกลับห้องไป สายตามองมายังตารกาเพียงครู่เดียวแล้วหันหนีไป ต่างจากตารกาที่จ้องตาแทบไม่กระพริบตลอดเวลาอาหาร




        มื้ออาหารสิ้นสุดลงอย่างอึดอัด คุณแม่ขอตัวยกอาหารไปให้ลูกชายคนโต แต่ตารกาอาสายกไปให้แทน คุณพ่อจึงออกไปทำงานและคุณแม่ก็ไปล้างจานในครัว สองเท้าถือถาดอาหารขึ้นไปด้านบนของบ้านหยุดลงที่หน้าห้องและเคาะประตู ไม่นานประตูก็เปิดออก



        “…..”  เจ้าของห้องแปลกใจหนักที่ตารกามาเคาะประตู



        “……” 




        “พี่ตอง”  เอ่ยทักคนเคาะห้องอย่างแผ่วเบา




        “พี่เห็นรามกินไปนิดเดียว แบบนี้เมื่อไหร่จะอ้วน” แววตาสุดหล่อฉายชัดว่าห่วงใย แววตาที่รงคเพทไม่ได้เห็นบ่อยๆ




        “พี่ตองมีอะไรครับ” 




        “พี่ขอคุยด้วยหน่อย”




        “แต่ราม..”




        “แค่แปปเดียว”




        “…..ครับ”  นิ่งนึกอยู่สักพักประตูห้องที่ผนังติดกับรงคเพทก็แง้มกว้างออกให้คนหน้าห้องก้าวเข้ามาได้










        “ฮ๊าววววววว !!!! เฮยยยยยยยยย เฮ้ยยยยยยยย”  เสียงคนพึ่งตื่น อ้าปากหาวอย่างไม่อายฟ้าดิน ตามด้วยบิดขี้เกียจไปอีกสองสามที ได้นอนพักจนพอใจ ท้องไส้ก็ปั่นป่วน ติดก็ตรงที่ตัวมีแต่รอยแดงๆ กับขาที่ทรงตัวลำบาก หิวก็หิว เมื่อไหร่ไอ้คนที่บอกจะเอาอาหารเช้ามาให้จะมาสักทีวะ




        รออีกสักพักเริ่มทนไม่ไหว นานไปป่าว ลุกเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบาก แต่ไม่เป็นไร ลูกผู้ชาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรก สบายมาก จัดการอาบน้ำเรียบร้อยก็ใส่เสื้อผ้ารัดกุมเดินลงบันไดมาด้วยความทุลักทุเล ก้าวข้ามขั้นบันไดทีละสองขั้นไปเลยจะได้ถึงเร็วๆ




        “แม่จ๋า !!! มีไรกินม๊างงงง”  ตะโกนเสียงดัง ชนิดได้ยินไปอีกแปดบ้านสิบบ้าน คุณแม่ที่เมื่อล้างจานเสร็จก็มานั่งพักดูโทรทัศน์ถึงกับสะดุ้งตกใจ




        “เรียง โวยวายอะไรเสียงดัง แม่ตกใจหมด ตื่นได้แล้วสิเรา”




        “คร๊าบบบ หิวมากด้วย”  เดินตรงไปยังโต๊ะอาหารแต่ก็ว่างเปล่า




        “แม่ฝากคุณต้นตองเอาขึ้นไปให้เราแล้วนะ”  ความงง สถิตยังคุณแม่และคุณลูก




        “ยางง ไม่มีเสียงเรียกสักก๊อกสักแก๊กเลยอ่าแม่จ๋า”  เดินไปนั่งลงข้างๆแม่ อ้อนสักหน่อย




        “เอ้าๆ ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวแม่ไปอุ่นให้ใหม่ นั่งรอก่อนลูก”




        “เย้ ๆ ๆ หิวหิว จะได้กินละ ^_____^”  อารมณ์ดีเหลือเกิน อ้อนแม่ใหญ่เชียว จะไม่ให้อารมณ์ดีได้ไง เมื่อคืนนี้คนที่เขารักพึ่งบอกรักเขาเอง เช้านี้สดใสเกินไปแล้ว นึกถึงไอ้หน้าหล่อ รอยยิ้มแห่งความสุขก็ปรากฏบนใบหน้า แล้วนี่มันหายไปไหนของมัน หรือว่ามันเอาวางไว้บนโต๊ะในห้องแล้ว แต่มองไม่เห็นเอง ช่างมัน ให้แม่ทำให้ดีกว่า หุหุ




        “มา นั่งที่ได้ เสร็จแล้วจ้า”  สักพักคุณแม่ก็เรียกลูกชายที่นั่งหน้าทีวีมานั่งโต๊ะทานอาหาร อาหารเช้าที่ไม่ได้พิเศษถูกวางลงบนโต๊ะ รงคเพทกินมื้อเช้าอย่างมีความสุข กินไปยิ้มไปอย่างคนบ้า คุณแม่ที่เห็นลูกชายมีความสุขก็พลันยิ้มตามไปด้วย




        “เรียง วันนี้ไปไหนไหมลูก”  คุณแม่มานั่งเป็นเพื่อนที่โต๊ะทานข้าวข้างๆ




        “ว่างทั้งวันเลยแม่”




        “วันนี้แม่ต้องเอาต้นไม้ไปส่ง เรียงขับรถไปให้แม่หน่อยสิ”




        “ส่งไหนอ่าแม่ ไปดิ เรียงว๊างว่าง ^__^”




        เมื่อทานข้าวเสร็จ รงคเพทขับรถส่งคุณแม่ไปส่งต้นไม้ ที่บ้านสวนแห่งหนึ่งทางเบี่ยงออกนอกเมือง ระยะทางไม่ไกลนัก แต่ด้วยสภาพถนน ทำให้ขับรถได้ช้ากว่าปกติ





        เมื่อมาถึงบ้านสวน ที่นี่มีต้นไม้หลากหลายชนิด รวมถึงดอกไม้สวยๆมากมาย ระหว่างที่แม่พูดคุยอยู่กับเจ้าของสวน รงคเพทเดินชมดอกไม้เหล่านั้นอย่างคนมีความรัก สะดุดตาเข้ากับดอกไม้ดอกหนึ่ง มีสีน้ำเงินอมม่วง ทั้งเป็นพวงสวยงาม และถูกดัดตามขดลวดเป็นรูปหัวใจ มองข้างกระถางก็มีชื่อติดอยู่ ‘Forget me not’ 




        “Forget me not …อย่าลืมฉัน?”  ชื่อคุ้นๆ พึ่งเคยเห็นของจริง สวยดีนะ สวยมาก รู้สึกถึงความโรแมนติก 




        “มันจะชอบไหมเนี่ย”  รำพึงรำพันกับตัวเอง แล้วเอามือค่อยๆลูบเบาๆไปที่ตัวดอก




        “ฮิฮิ ซื้อไปฝากมันดีกว่า แต่จะดีเหรอวะ ซื้อดอกไม้ให้ผู้ชายด้วยกัน เห้ย ไม่เป็นไรหรอกน่า มันต้องชอบดิ”  ยืนเถียงกับตัวเองสักพัก ก็เดินกลับไปหาคุณแม่ ขอซื้อต้นฟอร์เกตมีนอตกระถางที่เขาเจอเมื่อครู่





        คุณลุงเจ้าของสวนใจดีและสนิทกับคุณแม่ จึงให้ดอกไม้กระถางนั้นมาโดยไม่คิดเงิน รงคเพทดีใจมาก เขารีบยกกระถางใส่หลังรถกระบะ จดจ้องไม่ให้คลาดสายตา




        “ไอ้หนุ่ม ดอกมันชอบความหนาวนา หมั่นรดน้ำใส่ปุ๋ยหล่ะ ถ้าดูแลดีๆล่ะก็ เอาไปเพาะขายได้เลย”




        “ขอบคุณครับลุง”





        อำลากันเรียบร้อย รงคเพทพาคุณแม่แวะหาอะไรกินข้างทาง เสร็จแล้วก็ไปส่งคุณแม่กลับบ้าน โดยไม่ลืมซื้อกับข้าวไปฝากใครบางคนที่หายหน้าไปเมื่อเช้า ตอนนี้ยังไม่ยอมโทรมาเลย










        ออดดด….




        แบกกระถางดอกไม้ขึ้นมาชั้นสามของคอนโดหรู คนพึ่งไปบ้านสวนมาแต่งตัวเข้ากับสถานที่ ยิ่งหน้าโจรๆกับชุดเข้าสวน รปภ เดินตามยันหน้าลอบบี้กันเลยทีเดียว คนก็มองกันตรึม แต่คนอย่างรงคเพทไม่สนใจหรอก อยากเอาไอ้กระถางนี้ไปให้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่มากกว่า มาถึงหน้าห้องมันแล้ว กดออดก็แล้ว มันก็ยังไม่เปิด 




        “ต้นตอง ก๊อก ก๊อก ก๊อก”  กดออดไม่เปิด เคาะมันเลย ยืนอยู่สักพักเจ้าของห้องก็ยังไม่เปิด โทรหาก็ปิดเครื่อง โจรในคราบคนสวนจึงแบกกระถางขึ้นรถกลับบ้าน ด้วยสีหน้าไม่จืด




        “ไปไหนของมัน เอ้อออ ไม่เป็นไร สงสัยติดประชุมมั้ง กลับไปอยู่กับพ่อก่อนก็ละกันน่อ”  เมื่อลงมาด้านล่าง ก็มองไปยังห้องของคนที่เขาจะมอบต้นไม้ในมือให้ และก็ก้มลงคุยกับต้นไม้คล้ายมันจะตอบโต้มาได้





        รงคเพทขับรถออกจากคอนโด พอดีกับที่รถตารกาสวนเข้ามา ตารกาไม่รู้ว่านี่คือรถของบ้านรงคเพท เพราะปกติรงคเพทขี่มอเตอร์ไซด์ตลอด รงคเพทกำลังจะลดกระจกลงเพื่อโบกมือทักทายกับรถที่สวนเข้าไป แต่กลับเห็นเบาะข้างๆมีคนนั่งมาด้วย จึงขับผ่านออกไปในที่สุด





        อาจเป็นเพื่อนที่ทำงานมั้ง เอ แต่ตั้งแต่มาคอนโดตารกา ก็ไม่เคยเห็นตารกาพาใครมาที่นี่เลย ….เฮ้ออ เพื่อนล่ะมั้ง คิดมากไปได้ กลับก่อนแล้วกัน





        กลับบ้านมาก็วางกระถางไว้ในสวนใกล้ๆกับแปลงดอกกุหลาบของคุณแม่ วนเวียนออกมายืนดูทุกครึ่งชั่วโมง ถูกทั้งคุณพ่อคุณแม่แซว จนกระทั่งก่อนเข้านอนก็ยังลงมานั่งยองๆมองไม่วางตา ยามลมเย็นๆพัดผ่าน กลิ่นหอมอ่อนๆก็โชยมาแตะจมูก ทำไมกลิ่นนั้นถึงแสนหวานและแสนเศร้าอยู่ในอารมณ์เดียวกันได้ขนาดนี้ ยามนี้สายลมพาลพัดให้นึกถึงใครบางคน ที่ทำให้สุขและเศร้าได้ในเวลาเดียวกัน ทำไมตั้งแต่เช้ายังไม่ได้เจอเลย นี่เขาโดนหลอกอีกแล้วหรือเปล่า







        ครืดดดดดดดดด…….. ครืดดดดดดดดดด………. ปี๊บบ ปี๊บบ ปี๊บบบ…. ครืดดดดด……




        กำลังนึกถึงใครบางคน ใครบางคนก็โทรเข้ามาพอดี รอยยิ้มแต้มลงบนใบหน้าคนคอยทันที




        ติ๊ดดดดด




        “…….”  อยากพูด แต่ทำไมรู้สึกน้อยใจเล็กๆไม่รู้




        “เรียง…”  ปลายสายเอ่ยเรียกเจ้าของหมายเลขที่ไม่ขานรับ




        “…….”




        “ได้ยินผมไหม”




        “อือ”




        “เมื่อเช้าผมขอโทษนะ ผมมีธุระพอดี”




        “อือ”




        “เรียงมาหาผมที่คอนโดเหรอ”




        “…..” 




        “ลุงยามบอกผมว่าเรียงมา แต่งตัวเหมือนจะมาปล้น ฮึฮึ”




        “……”  จะมาปล้น?  ฟังแล้วน่าน้อยใจนะ คนรีบมาหาเพราะอยากเอาต้นไม้มาอวดแท้ๆ




        “มีไรอีกไหม กูง่วง จะนอน”  น้ำตาตกลงมาเรียบร้อย ไม่เคยน้อยใจใครมากขนาดนี้เลย ไม่อยากให้มันรู้ว่าตัวเองเป็นคนอ่อนแอมากขนาดนี้




        “เรียง เป็นอะไรรึเปล่า”




        “แค่นี้นะ…”




        “เรียง ผมรักเรียงนะ ”




        ปิ๊บ





        กดปิดไปพร้อมน้ำตาไหลออกมาอย่างพรั่งพรู ไม่รู้เป็นอะไร นั่งร้องไห้ ให้ต้นไม้ปลอบใจ พูดได้ไม่อายปาก บอกว่ารัก แต่ปล่อยให้ยืนรอหน้าห้อง เป็นตัวตลกของคนที่ผ่านไปผ่านมา แถมยังพาใครไม่รู้มาห้องอีก นึกแล้วมันน้อยใจเหลือเกิน เมื่อเช้ายังยิ้มได้อยู่เลย แท้ๆ




        “ฟืดดๆ อึก ไอ้ดอกไม้ เอ็งอยากไปอยู่กับคนที่มันทำให้พ่อเอ็งร้องไห้ไหม ไปอยู่กับมันเอ็งคงมีความสุข เอ็งชอบความหนาวเย็นนี่นะ …..ฮ่า พอๆ พ่อไปนอนดีกว่า ฝันดีนะไอ้หนู”  รงคเพทคงใกล้บ้าเต็มที คุยกับต้นไม้ ร้องไห้กับต้นไม้ได้เป็นวรรคเป็นเวร





        ปาดน้ำตาแล้วเดินขึ้นห้อง ปิดไฟ ขอให้นอนหลับฝันดีด้วยเถอะนะ




        ‘ต้นตอง มึงจะตามไปสร้างความทรงจำให้ทุกที่ ที่กูอยู่เลยรึไง’  แล้วนำหมอนที่ตารกาใช้หนุนเมื่อคืนมาหอมและนอนกอดอย่างนึกถึง กลิ่นหอมอ่อนๆจากคนที่เอาแต่กอด พร่ำเพ้อบอกรักเขาหวานหูไม่ขาดปากเมื่อคืน แต่คืนนี้กลับปล่อยให้เขาต้องนอนอ้างว้างเพียงลำพังซะแล้ว











        ครืดดดดดดดดด…….. ครืดดดดดดดดดด………. ปี๊บบ ปี๊บบ ปี๊บบบ…. ครืดดดดด……




        คนที่กำลังเคลิ้มจะหลับไป สะดุ้งตกใจ เมื่อโทรศัทพ์เข้าอีกครั้ง คว้ามารับอย่างงังเงีย วันนี้เพลียใจจะขาด




        “ฮัลโหล”  เสียงบ่งบอกชัดเจนว่าหงุดหงิดสุดๆ




        “เรียง”  เพียงชื่อตนที่ถูกเรียกขึ้น คนงัวเงียก็ตื่นเต็มตา




        “ไร”  เอ่ยตอบไปเบาๆ มันโทรมาทำไมตอนนี้




        “นอนไม่หลับ”




        “แล้วมาบอกไม”




        “ใจร้ายจัง ทำคนอื่นนอนไม่หลับ แล้วยังหลับหนีเฉยเลย”




        “แล้วจะให้ทำไง”  ตุบ ตับ ตุบ ตับ




        “พรุ่งนี้ไปเที่ยวกัน”




        “หะ เที่ยวไหน” 




        “ผมอยากได้เข็มขัดสักเส้น ช่วยเลือกหน่อยสิ แล้วเราก็ไปหาอะไรกินกัน เย็นๆผมจะพาไปส่ง”




        “ทำไมกูต้องไปด้วย”




        “โธ่เรียง อย่าใจร้ายนักสิ ไม่รู้ล่ะ ยังไงพรุ่งนี้สิบโมงผมไปรอหน้าบ้านนะครับ ฝันดีนะ….ผมรักคุณ”




        “ไอ้…..   ตู๊ดด ตู๊ดดดด ตู๊ดดดดดด”  ตารกาวางสายไปแล้ว ไม่ทันได้ฟังคำด่าของรงคเพท หากตารกาได้เห็นหน้ารงคเพทยามนี้ คาดว่าคงต้องมีหนังชุดเกิดขึ้นอีกเป็นแน่





        “บ้า…….>///<”  เสียงกร่นด่าแผ่วเบา พร้อมหมอนที่ถูกรัดจนนุ่นด้านในแทบปริแตกออกมา  นอนหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มอีกครั้ง











        “โอยยย กี่โมงละวะ”  นอนไม่หลับ หลับๆตื่นๆ ดูนาฬิกาอีกที หกโมงเช้า รงคเพทตัดสินใจลุกขึ้น อาบน้ำแต่งตัว ใช้เวลาเลือกเสื้อผ้าอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วเดินลงมาข้างล่าง เห็นคุณพ่อคุณแม่กำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้ากันอยู่




        “จะไปไหนแต่เช้าเรียง แต่งตัวซะหล่อเชียว”  เสียงคุณแม่เอ่ยแซว รงคเพทเดินมานั่งลงข้างๆคุณพ่อและคุณแม่




        “ไปห้างอ่ะฮะ ไปสิบโมง”




        “อะแคก แคก แคก”  คุณพ่อสำลักกาแฟ




        “ไปสิบโมง? นี่พึ่งเจ็ดโมงนะเห้ย”  คุณพ่อแปลกใจ ลูกชายผู้ไม่เคยตรงเวลา วันนี้มาแปลก




        “โถ่ พ่ออ เรียงก็อยากตื่นเช้าบ้าง จะได้เจอพ่อก่อนไปทำงานไงคร๊าบบ”  อ้อนพ่อไปหนึ่งยก เช้านี้อากาศแจ่มใส แต่หน้าตาลูกชายเหมือนคนอดหลับอดนอน





        ดื่มกาแฟกับคุณพ่อจนคุณพ่อไปทำงาน จากนั้นก็มานั่งดูทีวีเป็นเพื่อนคุณแม่ที่กำลังนั่งรีดผ้า ดูไปดูมาเผลอหลับไป สะดุ้งตื่นอีกทีเก้าโมงครึ่ง ดูทีวีต่อจนกระทั่งสิบโมง รอคนโทรนัดอย่างใจจดใจจ่อ ตื่นเต้นจัง เป็นครั้งแรกเลยที่เขาจะได้ไปเที่ยวกับตารกา …สิบโมงห้านาที   …..สิบโมงสิบห้า …..สิบโมงครึ่ง




        “เรียง สิบโมงกว่าแล้วยังไม่ไปอีกเหรอลูก”  คุณแม่ที่เดินแวะเข้ามาเอาปู๋ยในบ้าน ถามรงคเพทที่นั่งตัวตรงอยู่หน้าทีวีแต่สายตาจ้องนาฬิกา




        “ยังแม่ อีกแปป..มั้ง”  ครึ่งชั่วโมงแล้ว เริ่มใจคอไม่ดี ตารกาเป็นคนตรงเวลา ถึงขั้นมาก นี่มันจะเกิดอุบัติเหตุอะไรรึเปล่า





        จนกระทั่งสิบเอ็ดโมงกว่า ก็ยังไม่มีวี่แววเฟอร์รารี่คันงามมาเกยหน้าบ้านสักที รงคเพทจึงตัดสินใจโทรไปหาไอ้คนนัดเมื่อคืนเองเลย




        รอสักครู่ปลายสายก็กดรับ




        “เรียง มีอะไรรึเปล่า”  มีอะไรรึเปล่า?




        “สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว”  ยังไม่พูดอะไร อยากรู้ว่ามันลืมรึเปล่า




        “ครับ เรียงกินข้าวรึยัง”  สีหน้าคนฟังเริ่มบึ่งตึง ใจเต้นกระตุก คล้ายคนกำลังอารมณ์ขึ้น กัดฟันไว้ไม่ให้ด่าออกไป




        “ยัง” กัดฟันพูดอย่างยากลำบาก ใกล้จุดเดือดเข้าเรื่อยๆแล้ว




        “ทำไมยังไม่กินอีก เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะนะ”  ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่คนฟังเหลืออีกขีดเดียวปรอทจะแตกแล้ว




        “เสือก ! เรื่องของกู เมื่อวานหมาตัวไหนมันบอกจะพาไปกินไม่รู้ กูหากินเองก็ได้”




        “เรียง เรียง! ผมขอโ…”  ตู๊ดดด ตู๊ดดดด ตู๊ดดดด  รงคเพทรู้ว่าต้องได้ยินคำนี้ คำว่าขอโทษ ไม่อยากจะฟังอีกแล้ว พูดมากี่ครั้งแล้วคำว่าขอโทษหน่ะ






        ครืดดดดดดดด ปิ๊ป ปิ๊ป ครืดดดดดดดดดดดด…




        ไม่รับ รงคเพทขี้เกียจรับ ไอ้คนไม่รักษาคำพูด ไร้สัจจะ นั่งฟังจนเสียงเรียกเข้าดับไป และได้ยินเสียงเมสเสจเข้ามาแทน




        ‘ผมขอโทษเรียง ผมเคลียร์งานตั้งแต่เมื่อคืนจนดึก เช้านี้ประชุมตั้งแต่เจ็ดโมง นึกว่าจะเสร็จทัน ผมพึ่งได้ออกมาเมื่อกี้เอง รอก่อนนะ เดี๋ยวอีกชั่วโมงผมไปรับ’




        “รอให้รากงอกรึไง กูไปคนเดียวก็ได้”  เหตุผลอีกแล้ว ทุกครั้งที่เขาต้องเสียใจ ตารกาจะมีเหตุผลมาให้เสมอ อยากถามตารกาเหลือเกิน เหตุผลของมัน ทำหัวใจเขาทรมารมากี่ครั้งแล้วรู้ไหม…นี่เขากับมันต่างกันไปรึเปล่า มันเป็นคนมีเหตุผลอยู่เสมอ ส่วนเขาใช้อารมณ์ตัดสินก่อนเสมอเช่นกัน





        รงคเพทไม่รอให้ตารกามา โทรเรียกแท็กซี่มารับและออกจากบ้านไปทันที นานแล้วที่เขาไม่ได้เดินห้างเลย ขอแวะเข้าไปเดินตากแอร์เล่นสักหน่อยดีกว่า





        มาถึงห้างใหญ่ ก็ขอหาอะไรใส่ท้องก่อนจะดีกว่า เริ่มแสบไส้ขึ้นมาจริงๆซะแล้ว แต่หิวจัดๆแบบนี้คงมีที่เดียวที่รงคเพทเข้าแล้วคุ้มที่สุด ‘ชาบูชาบู’ ใช่ บุฟเฟ่นี่แหล่ะคุ้มที่สุดสำหรับโจรห้าร้อย กินที ร้านเขาแทบเจ๊ง





        ตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมงที่รงคเพทนั่งยัดอะไรต่อมิอะไรที่สามารถนำเข้าปากได้อย่างเอร็จอร่อย ไม่ได้กินนานมาก ล่าสุดที่เข้าจำแทบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ กินเสร็จก็ไม่ยอมออกจากร้าน จนพนักงานเดินมาถามต่อเวลา แต่จากการคำนวณแล้ว ไม่คุ้มอย่างยิ่ง ต้องเพิ่มเงินอีกตั้งเยอะ ขอเดินออกมานั่งพักพุงหน้าร้านสักแปปแล้วกัน





        กินอิ่ม ตาก็จะปิด นั่งง่วงอยู่หน้าร้าน มองสาวๆสวยๆอย่างเคลิบเคลิ้ม นั่งไปใกล้หลับเต็มที่ ก็มีลูกค้าที่รอคิวเข้าร้านมานั่งข้างๆ พร้อมกับลูกๆอีกสองสามคน ร้องไห้ งอแง มองอีกด้าน คู่สามีภรรยาพาอาม่ามากินสุกี้ หน้าร้านที่สงบเมื่อครู่ กลายเป็นพื้นที่วุ่นวายไปในทันที





        รงคเพทที่เริ่มหายง่วงตัดสินใจเดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย ตามประสาคนไร้จุดหมาย เดินเข้าๆออกๆตามร้านต่างๆ หยิบอะไรมา พอพลิกดูราคาก็ต้องวางทุกที เมื่อเริ่มเหนื่อยก็ซื้อไอติมมานั่งกิน





        ก้มมองเวลา กลับบ้านดีกว่า ของติดมือที่ซื้อมามีเพียงถุงสองถุง เป็นอุปกรณ์คอมพิวตอร์ที่เขาอยากได้พอดี เดินหิ้วถุงลงบันไดเลื่อน กวาดสายตามองร้านต่างๆอีกรอบ แล้วก็แวบเข้ากับใครบางคน หน้าตาคุ้นๆ รงคเพทเดินผ่านมาแล้วแต่เดินถอยหลังกลับไปดู ก็พบกับ คนที่มันนัดเขาวันนี้





        ตารกากำลังเงยหน้ามองเสื้อที่ถูกแขวนไว้ด้านบน ส่วนรงคเพทกำลังโกรธ แต่โบกมือทักทายมันสักหน่อยเป็นไร โจรห้าร้อยพร้อมถุงอุปกรณ์คอม โบกมือหยอยๆ อยู่หน้าร้านเสื้อผ้าหรู ที่รงคเพทไม่กล้าเข้า คนที่มัวแต่ดูของ ยังไม่เห็นตัวอะไรบางอย่างที่กระโดดโลดเต้นอยู่หน้าร้าน พนักงานในร้าน เริ่มมองกันอย่างสงสัย ว่าคนบ้าที่ไหนมายืนทำท่าแปลกๆ





        รงคเพทเห็นพนักงานมองด้วยสายตาแปลกๆจึงเดินเลี่ยงออกมา แต่ก่อนที่ขาจะก้าวออกไป กลับเห็นใครบางคน คนที่เขารักมากที่สุด เดินเข้าไปหาตารกาพร้อมกับเสื้อสีสดอีกสองตัวในมือ ทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อ ยิ้มให้กัน ดั่งดอกไม้แรกแย้มบาน สวยงามและสดใส เหมือนคนรักกันไม่ผิดเพี้ยน คนบ้าเมื่อครู่นิ่งลงไปทันที สมองหยุดทำงาน ของในมือแทบร่วงลงพื้น ดีหน่อยอยู่ในที่สาธารณะรงคเพทยังฝืนควบคุมตัวเองได้





        ไม่นานคนที่เขารักสุดหัวใจสองคนก็เดินเข้าห้องลองเสื้อไปด้วยกัน หน้าโจรๆบัดนี้ ชาวาบ เมื่อทั่งคู่ลับตาไป เท้าอันหนักอึ้งของรงคเพทจึงสามารถก้าวออกจากที่ตรงนั้นได้

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

บทที่ ๑๗ มาแล้วนะคะ ช้าไปป่าวน่อ  :mew2: :mew2:

ขอบคุณ คุณlucifermafis นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ มาต่อแล้วนะคะ ฮิฮิ  :3123: :3123:

ขอบคุณ คุณkunt นะคะ หนูเรียงต้องน้ำตาตกไปอีกหลายตอนเลยค่า  :sad4: :o12:

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณทุกท่านค่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
รามกับต้นตองดูมีลับลมคมในแปลกๆ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรียงอย่าเพิ่งฟูมฟายใจเย็นๆนะลูก
รอมานั่งคุยกันก่อน....แต่สงสารเรียงอ่ะ

คำว่ารักของต้นตองเนี่ยเชื่อได้ไหมนะ :'(

Acetamide

  • บุคคลทั่วไป
เปลี่ยนให้เรียงไปคู่กับพบรักเถอะคับ นะ นะ นะ นะ...สงสารจริงๆ

 :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ Ghost-666

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เม้นรวดเดียวเลยนะ เรารู้สึกเราเห็นคำผิดอยู่นะ และรู้สึกว่าจะพิมพ์ชื่อผิด ตรง 16.1 ตรงที่คุณหมอออกมาพอดีแล้วบอกว่ากาวปลอดภัยแล้วแต่พิมพ์ไปว่าโอมปลอดภัย แล้วตรงฉากที่ต้นตองหรือเรียงนี้แหละที่บอกว่าทรมาน ที่ไม่ได้เห็นหน้าเรารู้สึกว่าเห็นคำว่าทรมานจะพิมพ์ผิดนะคะ
ปล. ทำไม่ต้นตองต้องเป็นแบบนี้อ่ะน่าจะจำหน่อยนะเมื่อนัดกะเรียงไว้แล้วอ่ะ

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ว่าละ หนูเรียงน้ำตาตกอีกจนได้  :mew6:

ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :เฮ้อ: คุณพระ ชักเดาเรื่องราวไม่ถูก หน่วงจริงอะไรจริง

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๘  สิ่งใดคือความรู้สึก  ใครเลยจะล่วงรู้




        โจรห้าร้อยเดินกลับเข้าบ้านด้วยแววตาเหม่อลอย ในสมองกำลังระดมความคิดขั้นสุดยอด และตลอดระยะทางที่นั่งแท็กซี่มา ก็ได้คำตอบให้ตัวเองแล้วว่าที่แน่ๆ น้องชายเขากับตารกาต้องรู้จักกันแน่ ถามเจ้าตัวน่าจะดีกว่า ถ้าคนๆนั้นซื่อสัตย์พอ คงไม่ปิดบังอะไร




        นั่งนึกไปเรื่อย ยามเย็นก็มาเยือน คุณพ่อคุณแม่พร้อมกันที่โต๊ะอาหาร ไม่นานน้องชายก็เดินเข้าบ้านมา พร้อมถุงพะรุงพะรังเต็มมือ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส



        “รามมาพอดี นั่งเร็วลูก กินข้าวกัน”



        “คร๊าบบ หิวมากกก : )”  น้องชายวางของบนโซฟาแล้วเริ่มลงมือจัดการจานข้าวตรงหน้า



        “เรียงเป็นไร ทำหน้าอย่างปลาตาย”  รงคเพทที่นั่งนิ่ง กินข้าวเงียบๆคล้ายหุ่นยนต์หันมายิ้มให้น้องชาย



        “เปล่านี่ เอ ก็ยังไม่แก่นี่หว่า ทำไมตาไม่ดี ฮ่าฮ่าฮ่า ; p”  ยิ้มทะเล้นให้น้องชายไปหนึ่งที คุณพ่อหัวเราะใหญ่ แต่คุณแม่นิ่งเงียบ มองแววตาลูกชายแล้วมันตรงข้ามกับสิ่งที่แสดงออกนี่นา




        ข้าวพร่องไปครึ่งจาน รงคเพทก็ขอตัวขึ้นห้อง อาบน้ำให้ความคิดฟุ้งซ่านเบาบางลง จากนั้นจึงลงมารดน้ำ ใส่ปุ๋ยรอบดึกให้ไอ้ต้นไม้ลูกชายเขา โดยไม่ลืมหยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วย




        น้ำที่คงเหลือไว้ล่อเลี้ยงใจ คือคำบอกรักที่ตารกาคอยพูดให้ฟังอยู่ทุกวัน และความรักที่รงคเพทมีต่อคนๆนั้นเช่นกัน ต่อให้โกรธหรือโมโหแค่ไหน สุดท้ายคำว่ารักก็เอาชนะสิ่งเหล่านั้นได้จนสิ้น ไม่นานก็มีสายเข้าจากใครคนนั้น




        ตี๊ด !




        “ฮัลโหล”




        “เรียง…โกรธผมอยู่รึเปล่า”




        “…..ป่าว”




        “ผมขอโทษ ผมไปรับเรียงแต่คุณแม่บอกเรียงออกไปแล้ว”




        “อือ ขี้เกียจรออ่ะ”




        “ผมถามคุณแม่ว่าเรียงไปไหน”




        “แล้วแม่บอกไหม”




        “บอกสิ ผมเลยตามไป เดินหายังไงก็ไม่เจอ”




        ‘ฮึ จะเจอได้ไง กูทำสถิติ แดกยังไงให้ร้านเจ๊ง อยู่หน่ะสิ’ รงคเพทคิดกับตัวเองอย่างขำขัน แต่กลายเป็นความเงียบสำหรับปลายสาย




        “เรียง”




        “มึงไปกับน้องกูนี่นะ”  พูดออกไปแล้ว สิ่งที่ค้างคาใจมาเนิ่นนาน




        “คราวก่อนกูเจอรูปรามในกระเป๋าตังมึง กูไม่ได้คิดไร แต่คราวนี้กูเห็นรามมีความสุขเวลาอยู่กับมึง ….มึงก็รู้ต้นตอง กูรักน้องแค่ไหน แค่มึงบอกความจริงมา กูจะไม่มีวันทำร้ายน้องกูเลย”  ยามนี้รงคเพทมีสติ เขาไม่อยากเป็นคนบ้า มานั่งคิดให้จิตตก มันเหนื่อยเกินทนแล้ว




        “ถ้าเรื่องของผมกับรามเป็นจริง เรียงจะทำยังไง”  ไม่รู้ทำไม รงคเพทรู้สึกเหมือนน้ำเสียงจากปลายสาย นิ่งเรียบเกินความเป็นจริง




        “กูยินดี และสนับสนุนเต็มที่เลย”  TT  ตอบไปก็รู้สึกถึงความคับแน่นในอกไป




        “เรียงไม่คิดจะรั้งผมไว้บ้างเลยเหรอ…”  เจ็บ คิดว่าคนพูดก็คงเจ็บไปแพ้กัน รงคเพทสัมผัสได้




        “ถ้ากับคนอื่นกูไม่ยอมหรอก แต่กูบอกแล้วต้นตอง กูรักน้อง ไม่มีวันทำร้ายน้องได้”  น้ำเสียงอ่อนแรงลงเรื่อยๆ น้ำในดวงตาก็เอ่อคลอพร้อมตกลงสู่ชั้นบรรยากาศได้ทุกเมื่อ




        “แล้วผมหล่ะ เรียงไม่รักบ้างเหรอ”  ฝ่ายโน่นก็ไม่ต่างกัน คนปวดใจคุยกันเป็นยังไง คงต้องลองดู




        “ฮึๆ ถามอะไรโง่ๆ ทำให้ขนาดนี้ ยังมีหน้ามาถามอีก …ต่อให้กูถอย กูก็มั่นใจ ว่าไม่มีใครรักมึงได้เท่ากูรักอีกแล้ว”  มาแล้วน้ำตา เพียงเอ่ยความในใจออกไปเท่านั้น หยดน้ำแห่งความรู้สึกก็ค่อยๆหลั่งรินลงมาเบาๆ หากนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขามีโอกาสได้บอก




        “รักผมขนาดนั้น ก็อย่าทิ้งกันง่ายๆสิเรียง…ผมยังไม่ปล่อยเรียงไปง่ายๆเลย”




        “ผมกับน้องของเรียงเรา…เคยคบกัน” …OoO ช็อค มือหนาๆที่กำลังลูบไปตามลำต้นของไอ้ต้นไม้ ชะงัก   เคยคบกัน เคยคบกัน เคยคบกัน …..ประโยคสั้นๆ ที่วิ่งวนอยู่ในหัว ฉายซ้ำๆอย่างห้ามสมองไม่ได้




        “แล้ว ทำไม”




        “ตั้งแต่ผมอยู่ม.ปลาย รามเป็นแฟนคนแรกของผม”  อ่ะเหื้อ นี่ต้นตองมันค้นพบตัวเองมานานมากแล้วสินะ




        “เรียง เรียงโกรธรึเปล่า”  รงคเพทเงียบไป คนเล่าเรื่องเริ่มใจคอไม่ดี




        “หะ ป่าวๆ กูงงมากกว่า แฟนคนแรกมึงล่อผู้ชายเลยเหรอ”  ถามออกไปตรงๆ ก็คนมันอยากรู้




        “ผมไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นหรอก แต่ตอนนั้นผมมีโอกาสได้รู้จักราม ได้ใกล้ชิด พออยู่ใกล้กันมากๆก็เลยเถิดไปเมื่อไหร่ไม่รู้”




        “เลยเถิด? !!! นี่มึง เอาน้องกูเหรอ หะ !!!”  เริ่มขึ้นเสียงอย่างไม่รู้ตัวอีกแล้ว




        “เรียง ใจเย็นๆ ..นี่หึงผมหรือหวงน้องเนี่ย”




        “หวงน้องสิวะ อย่าให้เจอนะไอ้ตุ๊ด ปากแตกแน่มึง”  หวงน้องอย่างพ่อเสือหวงลูกก็ไม่ปาน ลืมไปสนิทว่าคุยกับคนที่ตัวเองรักอยู่




        “…แล้วมึงทิ้งน้องกูทำไม”  กลับเข้าเรื่อง น้ำเสียงดราม่าก็กลับมาอีกครั้ง




        “ผมไม่ได้ทิ้งราม รามต่างหากที่ทิ้งผม”




        “หะ ? มึงใส่ร้ายน้องกูเปล่า”




        “เปล่า ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม อยู่ดีๆรามก็หายไป ลาออกจากโรงเรียน จากนั้นผมก็ไม่เจอรามอีกเลย”  มิน่า ตอน ม.4 ทำไมรามถึงย้ายโรงเรียน เพราะไอ้คนๆนี้นี่เอง




        “มึงเลยแก้แค้นที่กู ใช่หมายยยย” 




        “โธ่เรียง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรียงกับรามเป็นพี่น้องกัน ถ้ารู้ผมคงไม่…”




        “ไม่ไร ไม่ไร พูดออกมาไอ้ต้นตอง ไม่ราย ห๊าาาาา” 




        “ป่าวคร๊าบบ ยอมแล้วๆ”








        “เรียง เข้าบ้านได้แล้วลูก เดี๋ยวไม่สบาย”  เสียงคุณแม่ตะโกนเรียก คนที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในสวนข้างบ้าน


        “ครับแม่ แปปเดียว เดี๋ยวไปแล้ว”






        “แค่นี้นะ กูจะเข้าบ้านแล้ว”




        “อ่าว ผมนึกว่าเรียงอยู่ในห้อง มานั่งทำอะไรข้างล่างล่ะ”




        “นั่งคุยกับไอ้ต้นไม้”




        “…..”




        “โหลๆ วางหนีกูเหรอ”  ปลายสายเงียบไป รงคเพทเลยขอด่ากลับหน่อย




        “ต้นไม้ ใคร?”  อุ่ยยย เสียงโหดจังนะ  กูบอกว่าต้นไม้ มันยังคิดได้เนาะว่าเป็นชื่อคน




        “ไอ้ต้นไม้ ที่รักกู คุยกันทุกวันเลย คอยอยู่เป็นเพื่อน ปลอบใจกูตลอด กูรักมาก…” 




        “เรียง !!”  เอ่ยชื่อด้วยเสียงทุ้ม ต่ำ คาดว่าคงกำลังเก็บอารมณ์โกรธอยู่ สมน้ำหน้า




        “เออ อยากเจอก็มาบ้านกูดิ เนี่ย ตั้งอยู่ที่เดิมทุกวัน กูนอนละ แม่รอ บายย..”  พูดจบก็วางไปทันที คุยกันครั้งนี้ดีหน่อยที่เขาไม่ใช้อารมณ์ รู้สึกภูมิใจตัวเองนิดๆแหะ





        คนอารมณ์ดีเดินยิ้มเข้าบ้านไปพร้อมคุณแม่ แม้จะอารมณ์ดี แต่ก็แอบตงิดใจเล็กๆไม่ได้ ว่าน้องของเขา หรือตารกา ยังมีฝ่ายไหนมีใจให้กันอยู่บ้างรึเปล่า อย่าพึ่งนึกเลย นอนก่อนแล้วกัน






        เช้าวันต่อมา รงคเพทไปส่งแม่ส่งต้นไม้อีกครั้ง



        “ขอบคุณค่ะ”  คุณแม่ยกมือขอบคุณเมื่อได้รับเงินค่าต้นไม้




        ครืดดดดดดดด   ครืดดดดดดด  ปิ๊ป ปิ๊บๆ….




        “รามว่าไง”




        “เรียง  เรียง ”  น้ำเสียงน้องรอดโทรศัพท์มา อย่างสั่นเครือ คนรักน้องของขึ้นทันที




        “ราม เกิดไรขึ้น บอกพี่ดิ ”




        “รามรถล้ม แห่ๆ”  ยังหัวเราะแห้งส่งให้พี่ชายได้อยู่




        “ไม่ต้องมาหัวเราะ ล้มที่ไหน เป็นอะไรรึเปล่า”




        “ไม่เป็นไรมาก แต่รถสตาร์ทไม่ติดอ่า…รามยืมรถเรียงมา รามขอโทษ”




        “ช่างมันก่อน เจ็บตรงไหนรึเปล่า”




        “เจ็บเข่า กับศอก”




        “จึ! เอาไงดีวะ พี่อยู่ไกลด้วยเนี่ย เดี๋ยวพี่ให้คนไปรับ อย่าไปไหนนะ เข้าใจไหม”




        “ครับๆ”





        รงคเพทกระวนกระวายไม่รู้จำทำยังไง หากมีเรื่องอะไร น้องจะโทรหาเขาเป็นคนแรก แม้เรื่องที่ลับที่สุด แต่ตอนนี้เกิดเรื่องจะให้ใครช่วยได้หล่ะ ให้รอเขากลับไป ไม่พ้นเกือบชั่วโมง กดเบอร์โทรศัทพ์ก็เจอเข้ากับ เบอร์ที่โทรเข้าล่าสุดก่อนเบอร์น้อง…เสนียดห้ามรับ




        ตืดดดด ตืดดดดดด ตืดดดดดดดดดด…..




        “เรียง ว่าไงครับ”




        “ไอ้ตองทำไรอยู่”




        “ผมอยู่ห้อง ว่าเย็นๆจะแวะไปกินข้าวด้วย”




        “ออกมาเลยได้ป่ะ ตอนนี้”




        “เรียงคิดถึงผมเหรอ”




        “โอยย ไอ้บ้า รามรถล้ม กูมาส่งต้นไม้กับแม่ ไปช่วยน้องกูทีดิ”




        “หะ รามเป็นอะไรมากรึเปล่า”




        “กูไม่รู้ ด่วนเลยนะ”




        “ครับ…ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”  ยังไม่ทันที่รงคเพทจะพูดอะไรต่อ สายก็ตัดไปเรียบร้อย






        รงคเพทกระซิบบอกแม่ ทั้งคู่ขับรถกลับบ้านอย่างเร่งด่วน เมื่อมาถึงบ้าน ก็พบน้องชายพันขาและแขนด้วยผ้าพันแผล และมีตารกานั่งยองๆอยู่ข้างๆ




        “ราม”  สายตามองไปยังคนนั่งข้างล่าง ..ตารกาผู้ยิ่งใหญ่ ยอมนั่งต่ำกว่าน้องเขา





        “เป็นไงบ้าง”  นึกได้รีบวิ่งไปหาน้อง นั่งลงข้างๆ จับหน้าบิดซ้ายบิดขวา จับที่แผล โดนศรรามชักสีหน้าใส่ด้วยความเจ็บ เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งแม่และตารกา




        “โอ๊ยย! เรียง! เจ็บ!”  มือที่คว้าขาน้องอยู่ปล่อยลงทันที ทำหน้าแหยๆ ก็คนมันห่วงนี่หว่า จะร้องทำไม




        “หมอว่าไงบ้างลูก”




        “แผลมันฉีกอ่ะแม่ แต่เย็บไม่ได้ เพราะเชื้อโรคมันยังอยู่ข้างใน เลยต้องไปล้างแผลทุกวันจนกว่าจะแห้งไปเอง ฮืออ แม่จ๋า รามเจ็บ”  นั่นไง ไม่พูดเปล่า กางแขนให้แม่กอดปลอบใจอีก นี่ขนาดว่าเจ็บ ยังอ้อนแม่ไม่เลิก เห็นแล้วก็เอ็นดู รงคเพทเผลอยิ้มให้กับการกระทำของน้องชาย




        “มองไร”  เผลอยิ้มอย่างลืมตัว เหลือบตาไปมอง เห็นคนนั่งพื้นที่มองมาที่ตน




        ได้รับกลับมาเพียงส่ายหน้าและยิ้มเบาๆ





        มื้อเย็นแสนสุขของครอบครัว คล้ายกับว่าบ้านนี้ได้ลูกชายเพิ่มมาอีกคนนึงแล้ว สำหรับรงคเพทมันให้ความรู้สึกที่แปลก เหมือนบทสนทนาบนโต๊ะ จะไม่มีช่วงไหนที่เขาแทรกขึ้นได้เลย จึงทำได้เพียงนั่งฟัง การเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ผ่านน้องชายและตารกา ทั้งคู่ดูรู้ใจกันไปซะหมด คุยกันอย่างถูกคอ เห็นน้องมีความสุขก็ควรดีใจ แต่ทำไมลึก กลับรู้สึกเหมือนว่าตอนนี้ตัวเองคล้ายส่วนเกินยังไงไม่รู้





        เมื่อมื้ออาหารจบลง ทุกคนช่วยกันเก็บโต๊ะ โดยคุณพ่อ ตารกาและคนเจ็บนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องโถง ด้วยความอยากเอาใจน้อง




        “ราม เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้ อาบน้ำไม่ได้ละสิเรา” ช่วยแม่เก็บจานเสร็จก็เดินออกมาบอกน้อง




        “ไม่เอาอ่ะ ให้แม่เช็ดให้ดีกว่า เรียงมือหนัก จับแขนรามทีแขนรามจะหลุด แม่เช็ดตัวให้รามหน่อยน้า”  เอ่อออ.. พูดซะระลึกตัวเองได้เลย ว่าเป็นผู้ชายถึก




        “โห่ พี่จะทำเบาๆ ให้พี่เช็ดให้นะ นะนะ”  ยังไม่ยอมแพ้ ก็อยากทำให้น้องอ่ะ




        “เรียงไปส่งคุณต้นตองเถอะลูก เดี่ยวแม่เช็ดตัวให้น้องเอง ป่ะเร็ว ไอ้ตัวแสบ”  คุณแม่และคุณพ่อพยุงรามขึ้นด้านบนอย่างลำบาก รงคเพทมองตามคอยให้กำลังใจ จนทั้งคู่ลับตาไป




        “เรียงอาบให้ผมบ้างสิ”  ตารกากระซิบ ได้รับสายตาอาฆาตส่งให้หนึ่งที แล้วเดินเลี่ยงไปในสวน




        ตารกาเดินตามมาติดๆ เมื่อถึงจุดยุทธศาสตร์ ก็คว้าหมับเข้าให้ กอดคนเดินหนีไม่ยอมปล่อย




        “เห้ยยย ไอ้ตองงง หน้าบ้านกู !!!”  ที่โล่ง แจ้ง ทุกคนอยู่กันครบ




        ฟอดดดดด





        ไม่ปล่อยไม่พอ หอมไปอีกที ภาวนาขอให้ใครอย่ามาเห็นฉากอุบาท ผู้ชายตัวใหญ่สองคนยืนหยอกล้อกันในสวนตอนนี้เลย กลัวว่าจะนอนไม่หลับเอาได้




        “ไอ้บ้า ทำไร แปะ!”  ตบไปแรงๆยังแขนที่รัดตัวเอาไว้  ..แขนที่ถูกฟาดผละออกทันที คนที่โอบกอดเมื่อครู่หยุดนิ่งไม่แสดงสีหน้าอะไรอีก




        “ไม่กอดก็ได้”  เอาแล้ว อะไรวะ ตัวอย่างกะควาย นี่งอนเป็นด้วย?




        “ดี”  ยังยืนที่เดิม แต่สายตาคนหน้าหล่อที่โดนฟาดแขนเมื่อครู่เสมองไปทางอื่น รงคเพทมองซ้ายขวาหน้าหลัง มองขึ้นบนลงล่าง เมื่อครบสามร้อยหกสิบองศา จึงเดินเข้าไปจูงมือตารกาไปยังมุมสวนแล้วจัดการบดปากเข้าหาทันที





        “อือออ”  ตารกาอมยิ้มขณะถูกจูบอย่างถูกใจ แกล้งล้วงมือเข้าไปในเสื้อของรงคเพทขณะจูบกันอยู่อย่างดูดดื่ม




        “อื้อออออ”  รงคเพทจะผละออก แต่กลับถูกมือแกร่งยึดหัวไว้ ไม่ให้ถอนจูบออก มืออีกข้างก็ยังคงล้วงไปในเสื้อแล้วลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง ไม่นานรงคเพทก็เคลิ้มไปกับจูบเกรดเอบวกบวกบวกของนายชำนาญ





        แลกลิ้นกันอยู่สักพัก มือที่ล้วงไปในเสื้อเริ่มเลื้อยลงมาด้านล่าง และ…หมับ !!




        กึก ….




        แอคชันคือสองมือของสุดหล่อจับเข้ากับก้อนกลมๆสองอันด้านหลังแสนนุ่มมือของโจรห้าร้อย บีบ ขยำไปสุดแรง และได้รับ รีแอคชัน คือลิ้นที่แลกกันอยู่เมื่อครู่ ถูกเจ้าของก้นกัดเข้าซะจมเขี้ยว




        “อูยยยยย เอียง เอ็บบ”  คนถูกกัดผละออกจากที่ตรงนั้นทันที ร้องโอดโอย อย่างน่าขัน




        “ฮึฮึ สมน้ำหน้า มือไวนักนะมึง นี่ยังน้อยไป”




        “ใจร้าย จูบผมก่อนแท้ๆ”  คำพูด ตอกเข้าหน้าคนเริ่มต้นอย่างจัง แอบหน้าแดงอยู่ลำพังเบาๆ




        “พูดมาก กลับไปได้แล้ว”




        “แล้วไอ้ต้นไม้อ่ะ”  นี่มันยังไม่ลืมอีกหรือ รงคเพทหัวเราะถูกใจ




        “ตามมาดิ ฮ่าฮ่า”  เดินนำไปยังที่วางไอ้ต้นไม้ลูกรักของเขา 




        “Forget me not  โรแมนติกจังนะ ไอ้ต้นไม้ของเรียงหน่ะ”  พูดและยิ้มด้วยเสียงอย่างหล่อ มาดผู้บริหารกลับมาอีกครั้ง




        “กู…เอาไปให้มึง วันที่ลุงยามบอกกูแต่งตัวเหมือนคนสวนนั่นแหล่ะ”  หันหน้ามาพร้อมยิ้มเศร้าๆให้ตารกา




        “กูรออยู่หน้าห้องตั้งหลายชั่วโมง โทรหามึงก็ปิดเครื่อง เลยเอากลับมาก่อน”  พูดไปหลบตาไป ไม่อยากมองหน้ามัน เดี๋ยวร้องไห้อีก




        “ผมไม่รู้มาก่อนเลย ผมดีใจมาก ขอบคุณนะเรียง” อารมณ์สีชมพูเกิดขึ้นระหว่างคนสองคน ตารกาเอื้อมมือไป หวังจะกอดคนตรงหน้าอีกครั้ง แต่แล้ว….เสียงคุณพ่อก็ดังขึ้น





        “อ่าว คุณต้นตอง ยังไม่กลับอีกหรือครับ”




        “พ่อ ! มานานยัง เช็ดตัวรามเสร็จแล้วดิ”  พิรุธชัดเจน อย่างไม่ต้องเดา




        “เรียบร้อยแล้ว ตกใจอะไรนักหนา ”




        “ป่าว อ่อ คุณต้นตองจะกลับพอดีเลย”




        “คุณต้นตอง?”




        “เออ ไอ้ตองนั่นแหล่ะ จะกลับพอดี ใช่มะๆ”  เริ่มหาแนวร่วม สะกิดคนยืนยิ้ม ตาหวานข้างๆ




        “ครับ ขอบคุณคุณอามาครับสำหรับมื้อเย็น ถ้ายังไงพรุ่งนี้ผมขออนุญาตมาอีกนะครับ”  คุยกับคุณพ่อ แต่สายตาอยู่กับคุณลูก จ้องซะตาไม่กระพริบ  คนถูกจ้องก็ยิ้มๆมองไปทางอื่น




        “ยินดีครับคุณต้นตอง มาเถอะครับ ครอบครัวผมพร้อมต้อนรับเสมอ”




        อำลากันเรียบร้อย คุณพ่อและรงคเพทเดินไปส่งตารกาที่รถและโบกมืออำลา ลูกชายคนโตเดินกลับเข้าบ้านพร้อมคุณพ่อ ก่อนแยกเข้าห้อง คุณพ่อได้ทิ้งประโยคเด็ดไว้พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์





        “บ้านเราจะมีลูกเขยสักคนก็ไม่เห็นเป็นไรนี่เนาะ ฮึฮึฮึ”






         o22







        “พ่อ !! พ่อเห็นอารายยยยยยยยยยย…….”  :hao7:


. . . . . .. . . . . . . . .. . . . . . . . . .. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .. . . .

สวัสดีค่ะ บทที่ สิบแปดมาแล้ว ตอนนี้ไม่เครียดมากนะคะ ได้พักหายใจกันบ้างน่อ ^^


ขอบคุณ คุณomyim_jjj นะคะ ตอนหน้ามาสงสารเรียงกันต่อค่ะ  :m15:

ขอบคุณ คุณ bulldog17 นะคะ เฉลยมาแล้วนะคะ ตอนนี้เรียงมีสติหน่อย ถึงพอคุยกันรู้เรื่อง ฮิฮิ ขอบคุณนะคะ เม้นท์ให้เกือบทุกตอนเลย   :mew1:

ขอบคุณ คุณAcetamide นะคะ เรียงรักต้นตองมากนะคะ ให้ไปคู่กับพบรัก เรียงต้องเสียใจมากแน่เลยน่อ  :mew2:
ติดตามเรื่องราวของพบรักได้ในตอนถัดไปของลำนำรักในม่านหมอกนะคะ อิอิ ฝากติดตามด้วยเน้อ

ขอบคุณ คุณGhost-666 นะคะ แก้ไขเรียบร้อยแล้วค่า มีตรงไหนมองเห็นอีกช่วยบอกด้วยนะคะ ขอคารวะงามๆเลยค่ะ  :pig4:

ขอบคุณ คุณkunt นะคะ ตอนนี้น้ำตกยังตกไม่มากค่ะ ตอนหน้ามาน้ำตาตกกันต่อนะคะ ฮิฮิ  :hao6:

ขอบคุณ คุณlucifermafisนะคะ  :mew3: ตอนนี้ไม่หน่วงเท่าไหร่ อิอิ ติดตามต่อไปนะคะ อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่า


ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ทุกคอมเม้นท์นะคะ พวกคุณสำคัญกับเรามากนะ เราเห็นพวกคุณชอบเราก็มีกำลังใจ
 :hao5: :hao5: :hao5:  ไม่รู้จะพูดคำไหนนอกจาก ขอบคุณ  :3123: :3123:
ฝากติดตามกันต่อด้วยนะคะ มาลุ้นกันต่อเน้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เฮ้ยยยย ไม่ได้นะ ต้นตองงงง มาทำให้มันชัดเจนเดี๋ยวนี้!!!!!! บังอาจทำให้หนูเรียงเสียใจ  :m31:

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๙.๑  หากว่าห่างไกล  ใครเลยจะล่วงรู้







        ครืดดดด ครืดดดดดด….ครืดดดดดดดดดด ……ติ๊ด !



        “ไง หายไปเลยนะมึง”



        “เออ งานกูเยอะ ไม่สบายเหมือนมึงหรอก”  ไอ้ยีนเพื่อนรัก หลังจากปิดเทอมไปมันก็หายหัวไปเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ฟ้าฝนคงเป็นใจ โทรมาหารงคเพทได้



        “สบายไร ช่วยแม่ทำงานดิ”  และตอนนี้รงคเพทก็กำลังดึงวัชพืชในแปลงดอกไม้ไปพร้อมถือหูด้วย



        “โธ่ กูนึกว่าว่าง มึงช่วยเจียดเวลาให้กูสักสิบวันได้ป่าว”



        “งานไรวะ ไม่มีเรื่องไม่เห็นหัวอ่ะ”



        “เอออ กูมีโปรเจคทำค่าย อยากให้มึงช่วยหน่อย”



        “ค่ายไรวะ ฮ่าฮ่า”   วันนี้อาจโชคดีฟ้าร้องครึงๆ อาจไม่ต้องรดน้ำ หัวเราะแม่งเลย



        “กูทำค่ายมันน่าขำขนาดนั้นเลยเหรอวะ”



        “ป่าวๆ กูหัวเราะต้นไม้ ตกลงค่ายไร”  เข้าใจกันดี หัวเราะกับต้นไม้ เป็นเรื่องปกติ…สินะ



        “สร้างห้องเรียนบนดอยว่ะ ร่างโครงการหมดแล้ว ไปมะรืน”



        “หะ ไปมะรืน แล้วมึงมาชวนกูวันนี้เนี่ยนะ ไอ้ฟาย”



        “ตอนแรกกูก็ไม่ได้จะชวนมึง รู้ว่ามึงคงไม่ไป พอดีไอ้ตี๋มันติดงาน เลยต้องหาคนไปแทน”



        “ฮึ ใครๆก็เห็นกูเป็นตัวสำรองตลอด”



        “อะไรของมึง อย่าๆ”



        “เออ ไปดิ วันหลังมีไรชวนกูด้วย กูอยู่บ้านเบื่อๆ”



        “เตรียมตัวไว้เลยมึง ไฟเข้าไม่ถึงนะเว้ย สิบวัน เดี๋ยวกูส่งไฟล์ของที่ต้องใช้ไปให้ เย็นๆ”



        “ไอ้ยีน ถามจริง มึงเป็นไรมากป่ะ ทำไม่ชอบทำค่ายวะ”



        “กูจิตอาสาไง ไม่เหมือนมึงหรอกไอสัด แค่นี่นะ”



        นี่ขนาดโทรมาขอความช่วยเหลือนะ ก่อนวางยังมีคำสรรเสริญแจกฟรีให้อีก น่ารักจริงๆ ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ดี อยู่บ้านวันๆคุยแต่กับต้นไม้ 





        “แม่ วันมะรืนเรียงไปค่ายกับไอ้ยีนนะ”   บอกแม่ขณะกำลังตักข้าวเย็นใส่จานให้แก่ทุกคน



        “ไปกี่วัน แล้วทำไมมันปุบปับนักล่ะ”  แม่ถามอย่างเป็นห่วง ท่านไม่มีวันเห็นลูกๆโตขึ้นหรอก ยังไงซะลูกก็ยังเป็นไอ้ตัวน้อย ที่คอยวิ่งเล่นในสายตาท่านเสมอ



        “ยีนมันขาดคน แล้วอีกอย่าง เรียงอยากออกไปเจอเพื่อนๆบ้างอ่ะแม่”



        “แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”  แม่ไม่ได้ว่าอะไร แต่ดูท่าแม่ไม่อยากให้ไปเลย



        “ต้องเอาอะไรไปบ้างล่ะ เดี๋ยวแม่ช่วยเตรียม”



        “เรียงขอของกิน ตุนไปเยอะๆ นะคร๊าบบ”






        เจ็ดโมงเช้า วันจัทร์แรกของเดือน รถทัวร์คันใหญ่ก็มาจอดหน้าบ้านรงคเพท อภินันทนาการจากหัวหน้าทำค่าย มารับเพื่อนถึงหน้าบ้าน จริงๆไม่ใช่อะไร บ้านอยู่ทางผ่านไปค่ายพอดี



        ไอ้ยีน และพบรัก ลงรถมาสวัสดีคุณพ่อและคุณแม่ที่ออกมาส่งรงคเพทหน้าบ้าน



        “เอาของไปแค่นี้พอเหรอเรียง”



        “พอแม่พอ เรียงไปแบบแอดเวนเจอร์ ฮ่าฮ่าฮ่า”  ยิ้มให้ท่านทั้งสอง ก่อนกล่าวอำลา



        บนรถเต็มไปด้วยสีสัน เสียงเพลง รุ่นพี่ รุ่นน้องนั่งเต็มคันรถ รงคเพทได้นั่งข้างพบรัก แถวหน้าสุด นานแล้วที่ไม่ได้เจอ ไม่รู้ว่าพบรักเป็นอย่างไรบ้าง รู้แต่ว่า ส่วนมากก็อยู่กับไอ้ยีน ไอ้ยีนมันเก่ง แถมยังอบอุ่นใจดี ใครอยู่ด้วยก็สบายใจ เห็นพบรักยิ้มได้แบบนี้รู้สึกดีขึ้นมาก



        ไปค่ายครั้งนี้รงคเพทไม่ได้บอกตารกา เพราะจากวันนั้นในสวน ตารกาก็ติดงานอยู่เสมอ จนแทบไม่ได้คุยกัน เมื่อคืนนี้เขาฝากข้อความไปให้ ฝากพาน้องไปล้างแผลที่โรงพยาบาล แผลค่อยๆดีขึ้น เพราะมีพี่ชายคอยดูแลประคบประหงมเป็นอย่างดี



        “ไงพบ สบายดีป่ะ”



        “ผมสบายดีครับ คิดถึงเรียงมากเลย” อุก!   



        “เอ่ออ เราก็สบายดีนะ พบเอาไรมาบ้าง นี่ แม่เราเตรียมข้าวกล่องมาให้ด้วย แต่ซื้อที่ตลาด ฮ่าฮ่า เจ้านี้อร่อยสุดยอดเลย พบต้องชอบ ลองดูๆ”  มือแกะกล่องข้าวลายหมีจ้าละหวั่น พบรักหัวเราะอย่างขบขันกับท่าทางบ้าบอ



        “ผมยังไม่หิวเลยเรียง เหอะๆ”  ขำไม่หาย รงคเพทเก็บข้าวกล่องแล้วตะโกนขอเพลงจากหลังรถ เสียงร้องเพลง เคาะจังหวะสนุกสนานไปสุดทาง



        ไม่กี่ชั่วโมงรถก็ขึ้นมาถึงหมู่บ้านบนดอย รงคเพทเช็คสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งหายไปแล้วเรียบร้อย คณะทัวร์พากันยกสำภาระเดินตามผู้นำไปยังที่พัก ที่นี่อากาศดีมาก หายใจโล่งสบาย ต้นไม้เยอะ มีบ้านเล็กๆที่ถูกปั้นจากดินเรียงกันเกือบสิบหลัง ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไอ้ยีนมาทีนี่ เพียงแค่คราวนี้มันเป็นหัวหน้านำทัพเท่านั้น และเพื่อเข้าถึงธรรมชาติ บ้านดินจึงถูกสร้างเพื่อเอาใจจิตอาสาทั้งหลาย




        “ท้าดา ! ยินดีต้อนรับ สู่บ้านน้อยแสนรัก พวกมึงตามสบายกันเลย กูมาทีไร ก็พักหลังนี้ตลอด อ๊อฟชันเพียบกว่าหลังอื่นเยอะ จัดๆกันไป กูไปดูความเรียบร้อยก่อนนะ”  รงคเพทได้อยู่บ้านหลังเดียวกับพบรักและไอ้ยีน นอนสามคนเรียงกันเป็นตับ เป็นคล้ายๆโพรงเล็กๆ มีเพียงเสื่อ หมอนใบเล็กและผ้าห่มบางๆกันคนละผืน ด้านในเย็นมาก แม้ว่าด้านนอกจะมีแดดแรง



        เมื่อจัดของกันเสร็จ ทุกคนมารวมตัวกันยังที่โล่ง มีการเปิดงานเล็กๆน่ารัก เด็กๆที่นี่มีทั้งชนเผ่าและคนไทย  พากันแต่งกายสวยงามเพื่อเป็นการต้อนรับ





        +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





        “สวัสดีครับคุณน้า”  ตารกายกมือสวัสดีคุณแม่ของรงคเพท



        “สวัสดีค่ะ คุณต้นตอง….ราม เสร็จรึยังลูก”



        “มาแล้วคร๊าบบบ”  เดินลงมาพร้อมรอยยิ้ม และก็ได้รับรอยยิ้มจากคนด้านล่างยิ้มตอบเช่นกัน



        “น้าขอบคุณ คุณต้นตองมากนะคะ ฝากรามด้วยค่ะ”



        “ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณน้า ”



        “แม่จ๋า เดี๋ยวรามมานะ”  ยกมือสวัสดีคุณแม่ และเดินไปขึ้นรถโดยมีตารกาคอยพยุง




        ระหว่างทางไปโรงพยาบาลแสนสั้นนักสำหรับตารกา คนที่นั่งมาข้างๆทำให้เขายิ้มมาได้ตลอดทาง ทั้งเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม เป็นสิ่งที่ทำให้เขาหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่แปลกใจตัวเองสักนิด ที่ตกหลุมรักเด็กคนนี้ได้ง่ายดายนัก




        ศรรามแสนขี้อ้อน นอกจากพี่ชายจะคอยเอาใจแล้ว น้องชายก็อ้อนพี่ไม่แพ้กัน เวลามาทำแผลต้องมีพี่ชายคอยจับมือให้กำลังใจกันทุกวัน แต่วันนี้พี่ชายไม่ได้มาด้วย คนที่คอยจับมือตลอดระยะเวลาการทำแผลจึงเป็นตารกาแทน



        “มิน่าหล่ะ ทำไมพี่เรียงถึงหลงน้องนัก”  ตารกาเอ่ยแซว ด้วยหน้ากวนๆ



        “ฮ่าฮ่า ก็เรียงรักรามมากเลยไงพี่ตอง ฮิฮิ”



        “พูดอย่างกับรามไม่รักเรียงมากอย่างนั้นแหล่ะ”



        “ไม่รักหรอก ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน”



        “งั้นถ้าเรียงอกหัก รามจะทำไง”



        “ตาย !!”



        “หะ”



        “ตายไง ใครทำเรียงเสียใจอ่ะ ตาย”  เฮือกกก



        “น่ากลัวจริงๆ พี่น้องคู่นี้”  นี่ขนาดไม่รักพี่ชายเท่าไหร่เลยนะ



        เมื่อล้างแผลเสร็จ ตารกาก็ส่งศรรามกลับบ้าน โดนคุณแม่ชวนกินข้าวเย็นเป็นการตอบแทน



        ‘ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากหมายเลขที่ท่านเรียก …..’  ตารกาลองโทรเข้ายังเบอร์ที่เขาบันทึกไว้ ‘Querido’ โทรไปแม้รู้ดีว่าบนดอยไม่มีสัญญาณ






        ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






        เรื่องเล่ารอบกองไฟ พื้นฐานของการทำค่าย ความสนุกสนานปกคลุมทุกพื้นที่ เช่นเดียวกัน พื้นที่อันเงียบเหงาของรงคเพท บัดนี้กำลังรื่นเริงสุดๆ จนวนมาถึงคราวที่รงคเพทต้องเล่าความลับที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครได้รู้ เรื่องน่าอายวนมาแล้ว แต่จะเป็นเรื่องไหนดีหล่ะ เรื่องลับๆที่เคยทำวนเวียนมาเต็มหัว แอบทำอะไรน่าอายคนเดียวบ่อยๆซะด้วย 



        “ผม….”  อะไรดีวะ อะไรดี จะฉี่รดที่นอนก็ซ้ำ เด็กไป คนอื่นก็เล่าแต่เรื่องทุเรศสุดยอดทั้งนั้น เอาวะ



        “ผมอาบน้ำให้น้องชาย ฮ่าฮ่าฮ่า”  กริบ ฮากริบ ไม่มีเสียงใดแทรกมา



        “เรียง อาบน้ำให้น้องมันลับตรงไหนครับ”  พบรักถามหน้าเครียด เสียงฮือฮาเกิดขึ้น ว่าให้เปลี่ยนเรื่องๆ



        “ไม่ลับได้ไง เราอาบน้ำให้น้องประจำ ทุกวันนี้ว่างๆก็ยังอาบให้อยู่เลยนะ”



        “น้องยังเด็กรึเปล่าครับ พี่เรียง”  รุ่นน้องคนหนึ่งตะโกนแทรกมา



        “อืมมม เด็กไหมน้า ก็ยังเด็กอยู่แหล่ะ เด็กกว่าผมไปปีนึงอ่ะนะ”  คว้างงงงง… ตั้งแต่ฟังมา เรื่องนี้ทำเอาโลกตะลึงได้มากที่สุด สักพักเสียงหัวเราะเอ่ยแซวก็ดังขึ้นตามๆกันมาอย่างช่วยไม่ได้






        +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






        ผ่านไปสามวันแล้วที่รงคเพทไปทำค่าย พรุ่งนี้วันสุดท้ายที่หมอนัดศรรามให้ไปล้างแผล วันนี้ตารกาจึงมารับรามที่บ้านเวลาเดิม



        “พี่ตองเป็นไรป่าวครับ พารามไปหาหมอลำบากพี่รึเปล่า”  ศรรามที่วันนี้นั่งรถมาเห็นคนขับนั่งนิ่งไม่พูดจาเหมือนทุกวัน เริ่มใจไม่ดี



        “ป่าวหรอกราม พี่เต็มใจ”



        “พี่ตองมีไร บอกรามได้นะ” มือน้อยๆเอื้อมไปแตะหัวไหล่คนที่กำลังนั่งขับรถอย่างตั้งใจ



        “พี่แค่..เหงาๆหน่ะ”  เอื้อมมือไปดึงมือบนไหล่มาวางไว้บนตัก แล้วแทรกนิ้วไปยังช่องว่างระหว่างนิ้วของมือนั้น  และก็ได้รับการจับตอบมาแน่นๆอย่างให้กำลังใจ



        “เฮ้อออ เหมือนกันเลยนะพี่ตอง”  หัวคนตัวเล็กซบลงไหล่คนข้างๆ



        “แปลกนะ รามพึ่งรู้ว่าพี่ตองเหงาเป็น”



        “เราล่ะ แฟนไม่ดูแลรึไง”



        “โธ่ เป็นได้ก็ดีหน่ะสิ ฮึ!”  สงสัยจะเล่นแรงไปหน่อย คนตัวเล็กนอยด์หนัก ดึงมือหนีมองไปอีกทางเลย



        “โอเคๆ พี่ขอโทษแล้วกัน ไม่งอนนะ”  ยีหัวเด็กขี้งอนไปแรงๆ แต่เด็กขี้งอนก็ยังไม่หาย เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง



        จนขับรถมาถึงโรงพยาบาล คนที่เอาแต่หันหน้าไปอีกด้านไม่ยอมขยับไปไหน



        “ราม ถึงแล้ว หลับรึเปล่า”  ฟึบบ หันหน้ามาแบบ ชัดๆ เต็มๆ น้ำตาเอ่อนองเต็มใบหน้า ในที่สุดก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา



        “ชู่วว เป็นไรไปครับ โกรธพี่เหรอ”  เห็นท่าไม่ดี ตารกาคว้าคนร้องไห้ฟูมฟายมาไว้แนบอก และได้รับการส่ายหน้าน้อยๆเป็นคำตอบ



        “ฮืออออ ฮืออออ รามเจ็บ อึก ”



        “ไม่เคยเลย รู้ว่ารามไม่สบาย แต่ไม่เห็นหน้าเขาเลย เขาไม่รักรามสักนิดเลยเหรอพี่ตอง ทำไมเพื่อนพี่ตองถึงได้ใจร้ายขนาดนี้”  พูดไป โวยวายร้องไห้ไปอย่างเจ็บปวด หยิกลงเนื้อตารกาเต็มๆอย่างทรมาน



        “ชู่ว ชู่วว ไม่ร้องนะราม พี่จะหาทางคุยกับมันให้ ตกลงไหม เงียบก่อนนะครับ”  เมื่อได้ยินตารกาพูดอย่างนี้ คนร้องไห้เริ่มคลายอารมณ์ลงได้บ้าง



        “ไม่เอาอ่ะ อึก รามไม่อยากให้เขารู้”  นั่นไง คิดถึงแต่ยังมีฟอร์ม



        “ค่อยว่ากันนะ ตอนนี้รามไปทำแผลก่อนดีกว่า เสร็จแล้วพี่จะพาไปกินไอติม”



        “*O* ปายย!!”  ได้ของมาล่อเพียงเท่านั้น คนป่วยรีบเปิดประตูออกไปทำแผลทันที




        เมื่อออกจากโรงพยาบาล ตารกาพาเด็กน้อยไม่ยอมโตไปกินไอศกรีมอย่างที่สัญญาไว้ มีของแถมเป็นการดูหนังรอบดึกต่ออีกเรื่อง แล้วจึงส่งกลับบ้านอย่างปลอดภัย






        ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






        “เรียง นอนไม่หลับหรือ”  พบรักที่เห็นรงคเพทนอนพลิกไปพลิกมา เอ่ยถามขึ้นในที่สุด ส่วนไอ้ยีน นอนกรนบ่งบอกว่าหลับสนิทไปแล้วเรียบร้อย



        “อือ คิดอะไรนิดหน่อย พบยังไม่หลับเหรอ”



        “คิดถึงต้นตองอยู่เหรอ”



        “…พบว่า…ถ้าเราปล่อยให้คนที่เรารัก มีความสุขโดยที่คนข้างๆเขาไม่ใช่เรา มันเจ็บแค่ไหนกัน”



        “เกือบตายเลยหล่ะ”  คำตอบที่ทำเอารงคเพทต้องหันหน้ามามอง แววตานั้นแสนเจ็บปวด รงคเพทเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ทำไมเรื่องถึงกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้ หากวันนั้นเขาไม่เจอต้นตอง เขาคงได้มีความสุขกับคนตรงหน้าไปนานแล้ว คงไม่ต้องมานอนน้ำตาตรมอยู่ทุกค่ำคืนแบบนี้



        “เราขอโทษ พบ”  ขอโทษจากหัวใจ นอกจากจะสังเวชตัวเองแล้ว ยังสงสารคนๆนี้เหลือเกิน รงคเพทไม่ได้ทำร้ายตัวเองเพียงคนเดียว แต่กลับต้องมีคนนอนเสียใจไม่ต่างจากเขา





        รักหนอรัก จะมีใครบ้างหนอ รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดจะมาเมื่อใด จะสร้างทุกข์หรือรอยยิ้มได้มากกว่ากัน ยากเย็นนัก ที่จะหยั่งถึง ที่มา และที่ไป



        “อย่าร้องไห้ไปเลยเรียง ผมขอร้อง ให้ผมได้อยู่กับเรียงคนเดิม คนที่มีแต่ความสุขได้ไหม”  อึก พบรักพูดขนาดนี้ รงคเพทจะไม่ร้องได้อย่างไรนะ



        “พบรัก เราคนเดิมที่เคยมีแต่ความสุขหน่ะ มันไม่มีอีกแล้ว”  ไม่น่าเชื่อ คนๆเดียว กับช่วงเวลาเพียงไม่นาน สามารถเปลี่ยนแปลงตัวตนของใครคนนึงได้ รงคเพทพูดออกมาด้วยใจจริง แม้ประโยคจะแสนเศร้า แม้น้ำตาใกล้ไหลลงมาเต็มที แต่กลับมีรอยยิ้มแต้มลงบนหน้าคล้ำๆในที่มืดบางๆ






        ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






        วันเวลาล่วงเลยไป มีหลายดวงใจที่กำลังสับสน ตารกาหลังจากหมดนัดที่ต้องพาศรรามไปทำแผลแล้วก็ยังคงวนเวียนมาหาเด็กชายตัวเล็กอยู่เสมอ หวังให้คนที่จากไปไกลกลับมาเร็ววัน เด็กชายตัวเล็กแม้แผลภายนอกจะหายไป แต่ภายในกลับกลัดหนอง สองหัวใจคอยเติมรอยยิ้มให้แก่กันและกัน ความรู้สึกบางอย่างที่หายไปหลายปี คล้ายว่าจะคืนกลับมาอีกครั้ง




        กับอีกสองดวงใจ ที่อยู่เคียงข้างกันแทบยี่สิบสี่ชั่วโมง เข้าใจถึงความรู้สึกของกันและกัน ว่าการปล่อยให้คนที่รักไปยืนเคียงข้างคนอื่นนั้นเจ็บปวดเพียงใด ช่องว่างทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกตรงกัน ตรงกันที่ความเจ็บปวด และหาทางเยียวยา ความเห็นอกเห็นใจเข้าอาละวาด ความใกล้ชิดจึงเริ่มก่อเกิดสัมพันธ์อีกครั้ง




        ความรักที่มั่นคง มีอยู่จริงหรือ หลายหัวใจกำลังต้องการคำตอบ







. . . . . . . . . . . . . . . . .  . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..  . . . . . . . . . . . . . .. .  . . ..

สวัสดีค่ะ บทที่ 19.1 มาแล้วนะคะ และ 19.2 จะตามมาวันพรุ่งนี้ค่า  o18 o18 o18

ขอบคุณ คุณlucifermafis นะคะ ช่วยเชียร์พระเอกของเราด้วยนะคะ จริงๆแล้วต้นตองน่ารักนา  :-[ :-[
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2014 19:33:19 โดย wispapoo55 »

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เดี๋ยวนะ. ขอเรียบเรียงอิมเมจเเรียงในใจสักครู่ แรกก็หล่อเข้มมาดโจร อ่านไปอ่านไปก็ออร่าเคะแมนๆ โศกบ้างพอเป็นพิธี แต่ตอนนี้หนูเรียงออกแนวแคะฮาต๋องๆไปแล้วอ่ะ อีกเดี๋ยวน้ำตาตกอีกเรอะ โฮ แต่เป็นตัวละครที่น่ารักดีนะ ชอบ  :mew3:
แต่เหมือนว่ายังไม่เคลียร์รออ่านตอนต่อไป



แอบกระซิบ  สำภาระ >>>สัมภาระ  เขียนแบบนี้นะมันถึงจะยกตามได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2014 19:29:31 โดย kunt »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เนื้อหาสมกันชื่อนิยายเลย

อึมครึมเหมือนหมอกไม่มีผิด

เปลี่ยนคู่ไปเลยเรียง-พบกะต้น-ราม เย้ๆๆๆ

//โหมดสติแตก

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นิยายเรื่องนี้ทำเราชักดิ้นชักงอทุกตอน ลุ้นมาก :ling1: :katai1: :z3: :z13:



 :call:โอม จงหายอึมครึมเถิด

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๑๙.๒  หากว่าห่างไกล  ใครเลยจะล่วงรู้





        รงคเพทกลับมาแล้ว กลับมาพบกับคนสองคน ที่เข้าอกเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น สิบวันที่เขาไม่อยู่ อาจไม่ใช่แค่เขาที่หัวใจเหมือนกำลังสับสน



        “เรียง !! กลับมาแล้วหรือลูก”  คุณแม่ออกมาต้อนรับอย่างดีใจ



        “ครับแม่”  กอดคุณแม่อย่างคิดถึง ไม่นานไอ้ตัวดีก็วิ่งออกมา



        “เรียง !!!” น้องชายสุดที่รักวิ่งออกมาหน้าตายิ้มแย้ม พุ่งเข้ากอดพี่ชายหน้าโจรดัง ปึก!



        “เป็นไงล่ะ คิดถึงพี่อ่าดิ ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีใครพาไปกินติมใช่ป่ะเล่า”  เห็นน้องคิดถึงก็ดีใจ คิดถึงน้องเหมือนกัน อยากกลับมาเอาใจ ใจจะขาด



        “ใครว่า พี่ตองพาไปกินทุกวันแหล่ะ ไม่เห็นต้องง้อเรียงเลย”  …สะอึกกับคำบอกเล่าน้องชายเล็กน้อย ก่อนกลับมายิ้มทะเล้นเช่นเดิม 



        “เดี๋ยวนี้รักมันมากกว่าพี่แล้วรึไง เฮ้ออออ…” ยิ้มเสร็จแสร้งตีหน้าเศร้าเดินหนีไปอีกทาง ไอ้น้องชายตัวดีวิ่งตามมาติดๆ เกาะเอวอย่างหมีโคอาล่าเกาะกิ่งไม้



        “ไม่ เรียงอย่าทิ้งรามไปนะ ฟืดดด”  โอยๆ น้องน่ารักขนาดนี้ใครจะไปทิ้งละ แค่เห็นหน้าโลกสีหม่นๆก็สว่างขึ้นมาแล้วครับ แต่ขอแกล้งอีกหน่อยละกัน หมั่นไส้ ชอบเห็นคนอื่นดีกว่าพี่



        “….”  เงียบ และพยายามแกะแขนน้องออก คล้ายอยากสลัดให้หลุดๆ



        “ไม่เอา ฮือออ เรียง ไม่เอาอ่ะ อย่าทิ้งรามไปอีกคนนะ ฮืออออ”  เหยย ร้องไห้เลยรึ นี่แกล้งนิดเดียวเองนะเฮ้ย



        “เห้ยๆ รามๆ ร้องไห้เลยรึ”  พยายามแกะมือน้องออกอย่างจริงจัง จะแกะแล้วหันหน้าไปคุย แต่น้องดันนึกว่าจะสลัดทิ้งร้องไห้โวยวายกันไปใหญ่



        “เรียง !! แกล้งอะไรน้องหน่ะ”  นั่นไงมาแล้ว คุณแม่ที่เคารพ งานงอกรงคเพทตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบ้างเลยดิ



        “รามๆ มาหาแม่มา รามปล่อยพี่เรียงก่อน”  คุณแม่ก็พยายามแกะแขนหมีโคอาล่าออก แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน



        “ไม่เอา เรียงจะทิ้งรามไปอีกแล้ว”



        “เห้ย เรียงป่าวนะแม่ …มานี่เลยไอ้ตัวดี ไม่ยอมปล่อยใช่ไหม”  จับคนยืนเกาะเอวยกตัวขึ้นให้อยู่ในท่าขี่หลัง แล้วแบกน้องเข้าบ้านพร้อมอีกสองมือหิ้วสัมภาระเข้าไปด้วย



        “เรียง ทามรายยยย”  หมีบนหลังเริ่มส่งเสียงท้วง



        “อยากเกาะพี่ดีนัก ต้องทำโทษ”  จากนั้นพี่ชายก็พาน้องชายไปลงโทษกันต่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปลงโทษกันท่าไหน ลงมาอีกทีก็เย็น อาหารถูกจัดขึ้นโต๊ะเรียบร้อย และหนึ่งในสมาชิกกิตติมศักดิ์ตลอดช่วยที่รงคเพทไม่อยู่ ก็ได้นั่งอยู่ด้วย





        สายตาสองคู่จ้องกันเป็นพักๆ วันนี้ดูลูกชายคนเล็กของบ้านจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี



        เมื่อทานข้าวเสร็จรงคเพทขอตัวขึ้นห้องทันที โดยให้เหตุผลว่าพึ่งมาถึงขอตัวไปพักผ่อนก่อน





        ก๊อก ก๊อก ก๊อก!



        “ใคร”  ไม่อยากเดาให้เศร้าใจเล่น ปกติรามไม่เคยเคาะประตู เพราะห้องมันเชื่อมกันอยู่แล้ว ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่จะขานเรียกเอามากกว่าเคาะ



        “……”  ไม่มีเสียงตอบกลับมา





        ก๊อก ก๊อก ก๊อก!



        “ใคร”



        “……”  ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับ



        “ไม่บอกว่าใครก็ยืนอยู่นั่นแหล่ะ”



        “….ผมเอง”  ผู้มาเยือนเอ่ยขึ้นจนได้รงคเพทเดินไปยืนอยู่หน้าประตูนานแล้ว เขาแนบมือลงบนบานประตู อยากออกไปหาคนหน้าห้อง ตั้งสิบกว่าวันที่ไม่ได้เจอไม่ได้ยินเสียงเลย คิดถึงจนใจแทบขาดอยู่แล้ว



        “มีไร”  ไม่ได้ ไม่สามารถเปิดออกไปได้ กลัวว่าตัวเองจะอดทนไม่ไหว



        “กลับมาไม่บอกผมสักคำ”



        “แม่ไม่ได้บอกเหรอ ว่ากูจะกลับวันไหน”



        “บอก แต่ผมอยากให้เรียงบอกเอง”  ยืนคุยกันโดยมีบานประตูขั้นกลางไว้



        “กูกลับมาแล้ว พอใจยัง”



        “…..”  เงียบ เงียบไปแล้ว สงสัยจะลงไปแล้วล่ะมั้ง



        “ต้นตอง ..ขอบใจที่ดูแลราม”



        “…..”  ลงไปแล้วสินะ






        “เห้ยย !!!”  เสียงโจรอุทานขึ้นเมื่อเห็นคนที่มันอยู่หน้าประตูเมื่อกี้ โผล่เข้ามาทางประตูเชื่อมไปห้องน้องชาย



        “ฮึ คิดถึงผมจนร้องไห้เลยรึไง”  มือหนาๆปาดไปข้างแก้ม เออว่ะ น้ำตาไหลมาเมื่อไหร่ไม่รู้ตัวเลย



        “กูเปล่า ฟืดด มึงเข้ามาได้ไงเนี่ย ออกไปเลยนะ”



        “โอเค ผมไปก็ได้”  น้ำเสียงนิ่งจนน่าใจหายอีกแล้ว ไม่ปล่อยให้ต้องก้าวไปไหน พี่กับน้องไม่ได้ต่างกันเลย วิ่งไปกอดเอวคนเย็นชาเอาไว้ซะแน่น



        “ฮึ!”  เสียงค้อนถูกส่งผ่านลำคอ ตารกาพลิกตัวกลับมาและกอดรงคเพทตอบ แน่นไม่แพ้กัน



        “คิดถึงเรียงเหมือนกัน”





        ฟอดดดด





        เปล่า ไม่ใช่ตารกาเป็นฝ่ายหอม ไอ้โจรปากแข็งต่างหาก กอดไม่พอขอหอมอีกหน่อย คิดถึงจะบ้าตายอยู่แล้ว หอมจนแก้มใสปิ้งกลายเป็นจ่ำแดงๆ จนเจ้าของแก้มต้องรีบยกมือปิดแก้ม ไอ้โจรยังไม่ยอมแพ้ใช้มือสองข้างล็อคหัวเอาไว้แล้วจูบลงยังปากที่แสนคิดถึง



        “เรียง ใจเย็นก่อน ผมต้องกลับบ้านนะ” 



        “ต้นตอง รักกูป่าว”  แววตาฉายชัดถึงคำถาม ตารกาพยักหน้าแล้วเข้าจูบต่ออีกรอบ จูบดูดดื่มผ่านไปไม่นาน ศึกบนเตียงเริ่มเกิดขึ้น รงคเพทผลักตารกานอนลง และคล่อมอยู่ด้านบน



        “เรียง จะทำอะไร”  น้ำเสียงเริ่มเย็นชาขึ้น แม้จะหายใจแรงก็ตาม



        “มึงรักกู ก็ให้กูบ้างดิ กูก็อยากได้มึงเหมือนกัน!”  หน้าตาคนพูดจริงจัง ปากจมูกซุกลงที่ซอกคอขาววิงค์ทันที แต่ไม่นานกลับถูกผลักออกเต็มแรง



        “…..”  ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากตารกา แต่สีหน้ากลับเย็นชาขีดสุด เดินออกจากห้องโดยไม่หันหลังกลับมามองคนกำลังมีอารมณ์อยู่บนพื้นสักนิด





        มองผ่านหน้าต่างไม่นานก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถขับออกไปด้วยความเร็วสูง รงคเพทกำลังอึ้ง คนที่บอกว่ารัก บอกว่าคิดถึง ผลักเขาออกเต็มแรง เพียงเพราะเขาอยากเป็นฝ่ายกอดบ้าง เท่านั้นหน่ะหรือ นี่มันโกรธเขามากเลยสินะ ที่เขาอยากเป็นฝ่ายแสดงความรักบ้างหน่ะ





        ความไม่เข้าใจของรงคเพทเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ผ่านมาจากวันที่เขากลับจากค่ายเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ตารกาไม่โทรหาเขาเลย เขาโทรไปก็ไม่รับ ไม่มาหาที่บ้าน แต่เขาก็ไม่ได้ไปหาที่คอนโด ยิ่งเนิ่นนานความกดดันยิ่งเพิ่มมากขึ้น







        วันรุ่งขึ้นรงคเพทนัดมีตติ้งกลุ่มเด็กค่ายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านนี้สีสันน่ารัก รวมถึงมีขนมหวานให้เลือกมากมาย ทำให้เขาเกิดนึกถึงน้องชายขึ้นมา





        ตู๊ดดดดดดดดด ตู๊ดดดดดด…



        “เรียง ว่าไง”



        “ราม พี่อยู่ร้านขนมแหล่ะ น่ากินมากเลย รามอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม มีไอติมด้วยนะ หร่อยมาก” 



        “*O* อยากกินง่ะ แต่รามกลับไปไม่ทันแน่เลย”



        “ไมไม่ทัน พี่จะแช่ฟรีซไว้ให้ไง แล้วไปไหนเนี่ยเรา”



        “รามมาซื้อของกับพี่ตอง กลับคงค่ำๆอ่ะเรียง ต้องไปอีกหลายที่เลย”





        อึก …กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หายไปไม่ยอมติดต่อ ที่แท้ คงรับไม่ได้กับสิ่งที่ขอไปสินะ ฮึ…นี่หรือที่บอกว่ารัก เจอเรื่องเพียงแค่นี้ ก็หนีจากกันไปเสียไกลแล้ว แบบนี่เองหรือ ความรักของตารกา



        “อะ เอาเป็นว่าพี่แช่ฟรีซไว้ให้แล้วกัน รีบกลับล่ะ”



        “ครับ”  น้องชายวางไปแล้ว อยากกลับบ้านมันตอนนี้เลย ไม่ดิ ไม่อยากกลับ อยากไปหาที่ระบายมากกว่า หนึ่งสัปดาห์ที่ไม่ได้ออกไปไหน ด้วยหวังว่าตารกาอาจหายโกรธแล้วพูดคุยกันดีๆ แต่เปล่า ไหนๆมันก็ไม่สนใจแล้ว คงต้องใช้อย่างอื่นย้อมใจ…ต่อสายหาไอ้กาวทันที ตั้งแต่ออกโรงพยาบาลมาก็หายหัวไปเลย เกาะติดเมียมันหนึบ ได้ข่าวจากไอ้ยีนว่าไปช่วยโอมคุมผับด้วยอีกต่างหาก



        “เชี่ยเรียง ว่าไงวะ หายไปนานเลยนะมึง”  โห ดูมัน ช่างกล้า



        “นี่มึงกล้าพูดเนอะ มึงนั่นแหล่ะหาย ไง ได้ข่าว ติดเมียอย่างเห็บ”



        “ไอ้ควาย พูดดีๆหน่อย อย่าพาดพิง”



        “บูชาไว้บนหิ้งเหอะ เมียมึงหน่ะ”



        “กูบูชาทุกวันอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดมาก มึงมีไร ไม่เศร้าไม่เหงาไม่เซ็ง ไม่โทรหากูหรอก”



        “เออ เศร้าเหงาเซ็ง”



        “ดี!! มาเลยมึง เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง”  นี่เพื่อนมีปัญหามันบอกว่าดี



        “มึงหรือเมียมึง หะ ที่จะเลี้ยงกู”



        “กูสิวะ กูไม่ให้ลำบากถึงโอมหรอก”



        “เออ เอาไงก็เรื่องมึง ยังไงคืนนี้ก็กูจะไปแดกฟรี เจอกันสามทุ่ม”  วางหูเสร็จก็กลับบ้านแต่งตัวหล่ออีกครั้ง ครั้งล่าสุดนี่เมื่อไหร่กันนะ ที่เขาได้เข้าผับ





        รงคเพทกำลังจะเดินออกไปเรียกแท็กซี่ก็ได้ยินเสียงรถยนต์แสนคุ้นหูจอดหน้าบ้าน ไม่นานน้องชายก็เดินหิ้วของเข้าบ้านมา



        “เรียง ไปไหนอ่ะ”



        “เอ่ออ …ไปหาไอ้กาวมันหน่อย”



        “ไปหาพี่กาว ทำไมต้องแต่งตัวอย่างกับจะไปเที่ยวด้วย”



        “ก็ไอ้กาวมันดูแลผับให้แฟนมัน ก็ต้องไปหามันที่ผับไง”



        “แม่จ๋า !!! เรียงจะไปเที่ยวกลางคืน”  ไอ้หมีโคอาล่าตัวน้องตะโกนฟ้องแม่ เจอมือหนาปิดปากอย่างแรง



        อุบ.



        “เอียงงง อ่อยยย”  เมื่อตกลงให้เงียบได้ จึงยอมปล่อยมือจากปากไอ้ตัวเล็ก



        “ไปไมอ่ะ นึกว่าเรียงเลิกเที่ยวกลางคืนไปแล้ว”



        “นานๆทีน้องเอ๋ย พี่ก็อยากไปเที่ยวตามประสาผู้ชายบ้าง”



        “อ่ะ..”  โคอาล่าตัวน้องเดินไปค้นถุงๆนึง หยิบออกมายื่นให้โคอาล่าตัวพี่



        “โห เดี๋ยวนี้หัดโรแมนติกรึไง”  ยิ้มให้น้อง ดีใจ น้องซื้อกุหลาบมาให้



        “ป่าว พี่ตองฝากมาให้” - -



        “อือ ขอบใจ”



        “ขอบใจรามไม ไปขอบใจพี่ตองโน่น”



        “ขอบใจรามนั่นแหล่ะ ฝากเอาไปไว้ในห้องให้พี่หน่อยละกัน พี่ไปละ”





        นั่งแท็กซี่ไปจนถึงผับของโอม เดินเข้าไปพนักงานก็พาแขกวีไอพีคนใหม่ขึ้นไปนั่งที่วีไอพี ที่ตอนนี้มีไอ้กาวเพื่อนรัก และโอมเจ้าของสถานที่กำลังนั่งจับไม้จับมือ มองตากันกระหนุงกระหนิง เห็นแล้วไฟอิจฉามันแตกซ่าน



        “อะแฮ่ม”  เสียงเรียกคนสองคนให้มองมา มือที่จับกันอยู่ ถูกโอมสะบัดโดยอัตโนมัติ แต่ไม่วาย ไอ้กาวคว้ามากุมไว้ใหม่



        “หวัดดีเรียง ตามสบายเลยครับ ผมกำลังจะลงไปดูความเรียบร้อยพอดีเลย” ลุกขึ้นดึงมือตัวเองออกอีกครั้ง ทักทายรงคเพทเสร็จก็เดินลงไปจากแท่นบูชาทันที ปล่อยให้สมาชิกชมรมคนรักเมีย มองตามตาละห้อย



        “ไอเชี่ย เลี่ยนสัดๆ” 



        “เลี่ยนเหี้ยไร คนกำลังสวีท มาไม่ดูเวลาวะ”



        “มึงดิไม่ดูเวลา กูนัดสามทุ่ม นี่สามทุ่มแล้ว”  ไอ้กาวก้มมองนาฬิกาข้อมือ



        “เออ จริงด้วย สามทุ่มเป๊ะ สงสัยอยู่กับไอ้ตองเยอะสิมึง กลายเป็นคนตรงเวลาได้”



        “น้อง ! ” กวักมือเรียกพนักงานอย่างไม่สนใจคำพูดเพื่อน



        “อะไร ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอวะ”



        “เอออ อย่าพูดถึงมันเลย กูมาแดกฟรี”  หลังจากนั้นจึงสั่งเครื่องดื่ม จัดหนักพิเศษ กะเอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขงกันเลยทีเดียว





        นั่งคุยนั่งดื่มกับเพื่อนไปสักพัก โอมก็กลับมา เจอคนจัดหนักไม่ถึงชั่วโมง สติก็หายไปเรียบร้อย



        “กาว เตือนเรียงหน่อยสิ ซดเหล้าอย่างกับน้ำ เดี๋ยวได้ตายกันพอดี”



        “เห้ยๆ เชี่ยเรียง ใจเย็นหน่อยมึง ค่อยๆแดก อย่ามาตายคาร้านโอมกูนะ ไอ้เหี้ย”  โด่วว กูนึกว่ามึงห่วงเพื่อนไอ้กาว



        “เรียง ผมว่าเบาๆหน่อยไหม”  ไม่พูดเปล่า เห็นแฟนตัวเองไม่ทำอะไร จึงเอื้อมไปคว้าแก้วน้ำอำพันที่กำลังจะถูกกระดกเข้าปาก



        “โอม! มานี่ อย่าไปแตะมัน ใครอนุญาต”



        “โอยยย มึงจะมาหงุงหงิงอะไรกันตรงนี้วะ หนวกหู”  ไอ้กาวคนหวงเมีย ออกอาการอีกแล้ว ไอ้เรียงขี้เมาเลยด่าแม่ง



        “ไอ้เรียง กูรู้ มึงเครียด แต่มึงช่วยเพลาๆหน่อยได้ไหมวะ รอไอ้ยีนกับไอ้คุณหนูมันหน่อย เดี๋ยวมันก็มากันละ”



        “ไอ้กาว นี่มึงนัดพวกนั้นมาด้วยเหรอวะ ไม่บอกกู หะ!!”  เมาแล้วพาลซะงั้น



        “เออดิ กูเห็นนานๆมึงออกที เลยนัดมาให้ครบเซท”



        “เรียง แล้วไอ้ตองหายไปไหนครับ”  โอมถามขณะที่โดนไอ้กาวคว้าไปนั่งตัก แล้วเอาหน้าถูๆไถๆที่ลาดไหล่



        “หายหัว…หายไปเป็นอาทิตย์ สงสัยตายไปละ”



        “ผมว่าไอ้ตองมันน่าจะมีเหตุผลนะเรียง ทะเลาะอะไรกันหรือ”



        “มันแหล่ะ เลว จะง้อทั้งที ส่งมาแค่กุหลาบสีน้ำเงินห้าดอก กูคงหายง่ายๆหรอกนะ”  น้ำเสียง สำเนียงไปหมดแล้ว ลืมไปแล้วว่าคุยกับใครอยู่





        ไม่นาน ไอ้ยีนและพบรักก็มาถึง แต่รงคเพทยามนี้ ฟุบคาโต๊ะไปเรียบร้อย



        “อะไรวะ พวกกูพึ่งมา ไอ้เรียงไปซะละ”



        “กูบอกมันแล้ว แดกเหล้าแทนน้ำ มันอ่ะ”



        “เอาไงดีวะ”  ไอ้สองโจรมองหน้ากันอย่างไม่สบอารมณ์ ปกติก็คอทองแดงอยู่หรอก แต่สงสัยมันไม่ได้ดื่มนานเกิน





        “ผมพาเรียงกลับเอง”



        “อ่าว มึงพึ่งมาเองนะไอ้คุณหนู”  ไอ้กาวแย้ง



        “ไม่เป็นไรกาว เดี๋ยวผมมาใหม่ครับ”



        “เออ ดีๆ ฝากมันหน่อยละกันนะพบ”



        “ยีนไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมมา”  พบรักเรียกคนเมาฟุบโต๊ะให้รู้สึกตัว แล้วจึงพยุงออกจากผับไปอย่างลำบาก เมื่อขึ้นมานั่งบนรถสปอร์ตสุดหรูของพบรักแล้ว ก็พร่ำคำด่าใครบางคนยาวเหยียดเป็นหางว่าว





        ความสับสนก่อเกิดในหัวใจดวงน้อยของพบรักด้วยอีกดวง ดีหรือเลว หากว่ารักเข้าแทรกแล้ว ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อครอบครอง  หากว่าช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน รงคเพทมีแต่รอยยิ้ม แต่ทำไมพอกลับมาแล้วกลับต้องมีแต่น้ำตาด้วย ทำไมกัน ทั้งๆที่พบรักคือคนที่คอยเคียงข้าง ทำไมกันทั้งๆที่มาก่อน ทำไมคนที่เข้าไปนั่งในใจของเรียงถึงเป็นคนที่คอยทำร้ายเรียงอยู่เสมอ





        ขับรถออกไปด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง เหตุผลต่อสู้กับความรู้สึก ความดีความชั่วเจอกันตรงทางแยก ในที่สุด ขึ้นชื่อว่าความรักชนะทุกสิ่ง เช่นเดียวกัน ความรักของพบรักชนะทุกเหตุผล รถคันหรูวิ่งผ่านบ้านรงคเพทไป ขับต่อไปไม่นานก็เลี้ยวเข้าที่จอด ใช่ ตั้งแต่รู้จักกับแก๊งค์เดอะโจรมา สัญชาตญาณลูกผู้ชายก็ถูกปลุกขึ้นอย่างมาก อะไรหลายๆอย่างกำลังหล่อหลอมให้พบรักเปลี่ยนไป คอนโดนี้ก็เช่นกัน พบรักย้ายมาอยู่คอนโดตั้งแต่ช่วงแรกๆที่รู้ว่ารงคเพทเริ่มหลงรักตารกาเข้าให้ หากว่ารงคเพทรักคนเย็นชาเช่นนั้น เขาก็อยากเป็นบ้าง





        คนแข็งแรงพยุงดวงใจของเขาเข้าไปในลิฟต์ รงคเพทที่แทบไม่ได้สติ เอาแต่พร่ำคำด่าไม่ขาดตั้งแต่อยู่ในรถ เมื่อมาถึงในห้อง พบรักก็พารงคเพทนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้สดชื่นขึ้น ค่อยๆเช็ดไปตามแขน ใบหน้า ลำคอ ทำให้ด้วยความรักอย่างอ่อนโยน เมื่อเช็ดตัวเสร็จ จึงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นชุดนอนแสนน่ารักของเจ้าของห้อง





        จำได้ว่าคนๆนี้เคยแอบขโมยจูบเขาครั้งนึง ตอนนั้นแม้ว่าจะงัวเงีย แต่ก็รู้ตัวบ้าง ทำไมกันนะ ทำไมรงคเพทต้องทำอย่างนั้น กับอีกหลายๆการกระทำ ที่ทำให้คนไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ต้องจิตใจสั่นไหว ความไร้เดียงสา ถูกคนที่นอนหลับสบายอยู่ตอนนี้ขโมยไปแล้วจนสิ้น





        นอกจากคอนโดนี้แล้ว พบรักยังเปลี่ยนไปอีกมาก ด้วยเรื่องที่ไม่มีใครรู้ ว่าคอนโดนี้ไม่เคยว่าง มีสาวน้อยสาวใหญ่มากมายคอยมาดูแล อยู่เป็นเพื่อนพบรักไม่มีขาด ความไม่รู้อะไร หมดไปแล้วจากคุณหนูคนนี้ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงก้มลง ประกบจูบบนปากที่เคยจูบเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ผ่านมาแสนนาน จนแทบจำไม่ได้ รสจูบช่างหอมหวานกว่าใครๆ หัวใจที่เต้นแรงอย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน มันทำให้คนเคยใจอ่อนเริ่มสติจางหาย และสันชาตญาณเข้าครอบงำแทนที่





        “อือออ อืมมมมม….”  คนนอนหลับ เริ่มมีสติอีกครั้งเมื่อเจอรสจูบอันช่ำชอง และจูบตอบด้วยไม่รู้ตัว
       









        กริ๊งงงงง กริ๊งงงงงงงง



        “โอม มีไร”



        “ไอ้ตอง มึงทะเลาะอะไรกับเรียงวะ” 



        “กูมีปัญหานิดหน่อย แล้วมึงรู้ได้ไง”



        “วันนี้เรียงมาดื่มที่ผับกู ซดเหล้าอย่างกับน้ำ”



        “มึงดูไว้นะ เดี่ยวกูไป” 



        “มึงไม่ต้องมาแล้วเพื่อนตอง ไอ้พบพาไปส่งบ้านแล้ว”



        “มึงว่าไงนะ ขอบใจมากเพื่อน ไว้กูจะติดต่อไป”  ตารกาที่กำลังซุ่มทำอะไรบางอย่างเริ่มใจคอไม่ดี รีบโทรเข้าบ้านรงคเพททันที







++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
        “สวัสดีค่ะ”



        “สวัสดีครับคุณน้า”



        “อ้าวคุณต้นตอง มีอะไรหรือคะ”



        “เรียงถึงบ้านรึยังครับ”



        “ยังเลยค่ะ เห็นรามบอกเรียงเขาออกไปเที่ยวกับเพื่อน คุณต้นตองมีอะไรหรือเปล่าคะ”



        “เปล่าครับ ถ้าเรียงกลับบ้านคุณน้าช่วยบอกเรียงโทรกลับหาผมด้วยนะครับ”



        “ได้ค่ะ เดี๋ยวน้าบอกให้นะคะ”



        “ขอบคุณมากครับ”





        เวลาช่างเดินช้าเหลือเกินในความรู้สึก ตารกาใจคอไม่ดี รู้อยู่ถึงพฤติกรรมลูกชายเพื่อนแม่ที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เจ้าตัวปิดไว้ทำทุกอย่างคล้ายคนเดิม แต่จะมีอะไรเล็ดรอดสายตาคนอย่างตารกาได้





        รอมาจนเกือบเที่ยงคืน ยังไม่มีโทรศัทพ์จากบ้านรงคเพทติดต่อกลับมา ตารกาจึงเป็นฝ่ายโทรกลับไปอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นลูกชายคนเล็กของบ้านที่รับ ตารกาเล่าเรื่องให้ศรรามฟังโดยยังไม่ให้บอกคุณแม่ว่ารงคเพทหายตัวไป ตารกาออกไปตามหาที่คอนโดของรงคเพทแต่ก็ไม่พบ …..และคงจะเหลืออีกเพียงที่เดียวที่เขาต้องไป







. . . . . . . . . . . . . . . . .  . . . . . . .  . . . . . . . . . . . . . . . . .  . . . . . . . .  . . . . . .  . . . . . . . . . . . . . . . . .

มาแล้วค่ะ จุดสองมาแล้ว มาแบบ  :a5: :a5: :a5: ฮ่าฮ่าฮ่า

ขอบคุณ คุณkuntค่ะ สรุปได้เลยนะคะ เรียงเป็นพวกผีเข้าผีออกค่ะ แต่คนประเภทนี้ส่วนมากจิตใจดีนะคะ ^______^

ขอบคุณ คุณbulldog17ค่ะ อุ่ยย อิอิ อย่าพึ่งสติแตกค่า อารมณ์แบบนี้ต้องฟังเพลงนี้เลยค่ะ>> หมอกหรือควัน - ป๋าเบิร์ด  :impress2:

ขอบคุณ คุณ omyim_jjjค่ะ  :hao5://ยื่นทิชชู่

ขอบคุณ คุณlucifermafisค่ะ ฮิฮิ ใจเย็นๆก่อนนะคะ // ส่งฮอนคูลไป 55555555

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
แปลงร่างเป็นจิ้งจกแอบติดตามตารกาไป ลุ้นๆ
ยิ่งอ่านยิ่งน่าติดตาม ^_^

ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอเค.....(อมฮอลคูลที่ส่งมาให้)  :hao5: สงบๆ โอม ขอให้หนูต้นตองทันทีเถอะ ขอให้เรื่องมันสดใสขึ้นเถิด :call: :call: :call:

wispapoo55

  • บุคคลทั่วไป
ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง 
บทที่ ๒๐  ผนึกกลางใจ  ใครเลยจะล่วงรู้





        เฟอร์รารี่คันคุ้นตาเปิดไฟเลี้ยวผ่านไปจอดด้านในคอนโดสุดหรู ที่ๆตารกาใช้เวลาเพียงไม่นานในการค้นหา แต่จะใช่ที่นี่แน่หรือ ไม่รอช้า หนุ่มหล่อหน้าใสปิ๊งที่ดูปิ๊งกว่าเดิมไปอีก กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหน้าล็อบบี้



        “ขอโทษครับ..”



        “คุณตารการึเปล่าคะ”  พนักงานที่หันหลังเมื่อหันหน้ากลับมาก็ทักตารกาขึ้นทันที



        “ใช่ครับ ไม่ทราบว่า”



        “นี่ค่ะ คุณพบรักฝากให้คุณ”  พนักงานสาวยื่นกุญแจและคีย์การ์ดให้คนหล่อ ด้วยมือที่สั่นน้อยๆ เห็นจะไม่มีใครกล้าปฏิเสธความหล่อของตารกาได้เลยสินะ



        “ขอบคุณครับ”  ตารการับมาและขอบคุณอย่างรวดเร็ว คีย์การ์ดบอกเลขห้องอยู่แล้ว ตารกาไม่รอช้า เข้าไปด้านในทันที คอนโดนี้หรูหราเรียกได้ว่ามากกว่าของเขาด้วยซ้ำ มีชั้นสำหรับวีไอพีโดยเฉพาะคือชั้น 28 และ 29 ที่มีห้องสูทใหญ่ทั้งชั้นเพียง 4 ห้อง ห้องตามบัตรคือ291 ชั้นยี่สิบเก้าห้องหมายเลขหนึ่ง





        ตารกามายืนอยู่หน้าห้องสุดอลังการ อะไรกัน คนทำอะไรไม่เป็นอย่างพบรัก ไม่น่าจะชอบของใหญ่โตขนาดนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกหรอก คนเรามันเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว





        ไม่เสียเวลาเคาะ มีกุญแจและคีย์การ์ดอยู่ในมืออยู่แล้ว ไขเข้าไปทันที ด้านในมีห้องย่อยให้เลือกเปิดเข้าชมอีกหลายห้อง หากแต่ว่าคนอย่างตารกาไม่ต้องใช้เซนส์มากก็รู้แล้วว่าห้องไหนควรเป็นห้องที่พบรักเลือกใช้เป็นห้องนอน





        มือเรียวค่อยๆเปิดประตูห้องออก อย่างที่คาดไว้ ห้องนอนจริงๆ หากแต่มืดไปหน่อยมองอะไรไม่ชัด ตารกาเปิดแสงจากโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่เพื่อหาที่เปิดไฟแต่หาเตียงที่มีคนนอนอยู่ และในที่สุดเขาก็ได้พบ





        แสงสีขาวลางๆจากโทรศัพท์สาดให้เห็นใครบางคนที่แสนคุ้นเคย นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงกว้าง สองเท้าย่างก้าวเข้าไปช้าๆ ส่องไฟไปตามใบหน้า ลำคอ และ..ร่างกายเปล่าเปลือย ที่บัดนี้ถูกแต้มด้วยสีแดงสลัว






        โทรศัทพ์ในมือร่วงหล่นลงทันตา หัวใจหมาป่าเดียวดายสั่นระรัว จังหวะพร้อมกับสองมือ ไม่สามารถอีกแล้ว ไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีก กระทั่งหัวใจ และ..หยาดน้ำบริสุทธิ์ ไม่เคยหลั่งรินให้ผู้ใด ความเจ็บปวด เสียใจแล่นริ้วผ่านทรวงอก หลั่งรินออกทางดวงตาเป็นสาย ไม่มีอะไรกั้นได้อีก ไม่ไหวแล้ว เก็บอะไรไม่ไหวอีกต่อไป หัวใจที่ไม่ได้ตั้งใจทำให้เจ็บ บัดนี้ถูกขโมยไปแล้วจนสิ้น อะไรหนอ ดั่งเตารีดร้อนจัดทับลงก้อนเนื้อที่เต้นเป็นจังหวะแรงและช้าสลับกันในขณะเดียว มอดไหม้ ปวดร้อน





        ความร้อนแผดเผาลุกลามมากระทั่งสายน้ำตา หลังมือลูบไปตามโหนกแก้มจรดปลายคาง ลมหายใจคลับคล้ายคลับคลาว่าจะหมดลงเสียตรงนี้  อีกเพียงนิดเดียว หัวใจพยัคฆ์จะแตกสลายโดยสมบูรณ์แบบ หากแต่แสงสลัวจากดวงจันทร์บัดนี้ส่องมาให้เห็นว่าดวงใจกำลังปรือตาขึ้น จ้องมองมาด้วยแววตาเลื่อนลอย





        ดวงตาสองคู่ที่แตกต่าง ปรับสายตาให้สามารถมองเห็นในความมืดได้สำเร็จ คนมีสติครึ่งๆกลางๆมองหน้าคนที่เขาแสนรักอย่างไม่เข้าใจ เพียงเห็นว่ากำลังร้องไห้ หัวใจดวงน้อยก็แทบแหลกสลายไม่แพ้กัน สองมือเอื้อมขึ้นเช็ดน้ำตาให้ พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย ปากก็พร่ำบอกว่าอย่าร้อง แต่ตัวเองกลับร้องเองเสียอย่างนั้น



        “เป็นไร ฮือออ ฮือออ ร้องไห้ไม”  ถามไป ปลอบไป ร้องไป ไม่เคยเห็นคนๆนี้ร้องไห้ เสียใจอะไรขนาดนั้นนะ สติไม่ครบ เหตุผลที่คอยขั้นกลางจึงหายไปหมดสิ้น



        “…..”  ความเงียบยังคงปกคลุม ให้คนไม่เข้าใจสถานการณ์เริ่มเกิดความเครียด แหกปากร้องไห้ลั่น …เท่านั้นแหล่ะ คนที่เอาแต่ร้องไห้เงียบๆให้อีกคนคอยเช็ดน้ำตาให้ หยุดชะงักลง



        “ขอโทษนะเรียง ผมขอโทษ TT^TT”  เอ่ยขอโทษและพรมจูบทั่วใบหน้า รวมถึงคราบน้ำตาของคนเมาที่เอาแต่อาละวาดไม่หยุดสักที



        “ไม่เอา ไม่เอา ต้นตองขอโทษไมหน่ะ อย่าร้องๆ เห็นไหมป๋มยังไม่ร้องเลย”  พูดไปก็กลั้นน้ำตาไป ตาใสแจ๋วจ้องมา เม้มปากแน่นไม่ยอมร้องไห้อีก เหอะๆ ท่าทางประหลาด เรียกรอยยิ้มบางๆทั้งน้ำตาให้แก่ตารกาได้เป็นอย่างดี



        “กลับบ้านกันนะ”  ขนาดตัวไม่ใช่ปัญหา แม้ความสูงจะเท่ากัน แต่น้ำหนักตารกาคงสู้โจรห้าร้อยคนนี้ไม่ไหว จะให้อุ้มไปแบบในหนังเห็นทีสังขารคงไม่ให้ พยุงไปก็แล้วกัน






        ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






        ตัวสำรอง โหมด





       Jaguar XK V8 Coupe สีดำเคลือบเงามันแปร๊บ แล่นไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ขับผ่านบ้านเรือนไปเรื่อย อย่างไรจุดหมาย ขณะที่คนขับกำลังปล่อยให้ลมเย็นๆยามราตรี พัดผ่านใบหน้าให้หายหมองเศร้า มือขวาจับพวกมาลัย ส่วนมือซ้ายกำลังปลดปล่อยความรู้สึก ที่ก่อเกิดขึ้นเมื่อครู่






        ไม่ว่าสิ่งที่พบรักตัดสินใจจะถูกหรือไม่ เขาก็เลือกแล้ว รงคเพทคือคนที่เขารัก รักด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ โดยไม่หวังอะไรไปมากกว่านั้น หากว่าความสวยงามของจิตใจพบรักยังหลงเหลืออยู่ นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่พบรักจะแสดงออกมา ต่อจากนี้ไป คงไม่มีใครได้รับอีก ไม่ว่าจะเป็นความน่ารัก แสนดี ความหวังดี หรือหัวใจแสนบริสุทธิ์ ที่แหลกละเอียดครั้งแล้วครั้งเล่า





        “ฮื่อ ฮื่อ ฮื่อออออออ ….พอกันที !!!!!”  เสียงตะโกนสนั่นทุ่งหญ้าที่ขับผ่าน พร้อมกับปล่อยความอัดอั้นที่ถูกกักเก็บมานานหลายนาที พร้อมกำแพงน้ำแข็งแสนแกร่งกล้าที่ก่อตัวขึ้นในขณะเดียวกัน





        “วู๊ววววว ….!!!!!!”  เปร่งออกมาอย่างสุดเสียง พร้อมกับเร่งความเร็วเต็มที่ เปิดเครื่องเสียงระดับสูงสุด จุดสิ้นสุดมาเยือนแล้ว พบรัก โฉมใหม่ กำลังเดินทางมา …และคนเก่า ที่ถูกกักขังไว้ ในซอกหลืบที่ลึกที่สุด






        +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






        ตุบ !!



        “ขอบใจมาก พวกนายไปเถอะ”



        “ครับ คุณชาย”



        “เรียง ถึงแล้ว”  วางคนตัวหนักลงบนเตียงดังตุบ



        เสียงใครคุยกันหน่ะ รงคเพทปรือตาขึ้นเล็กน้อย เมื่อครู่พอตูดติดเบาะรถตาก็ปิดลงทันที มารู้สึกตัวอีกที ก็นุ่มที่หลังซะแล้ว



        “อืออ ที่ไหนวะ”  แอลกอฮอล์หล่อเลี้ยงเส้นเลือดมาหลายชั่วโมง สติมึนเมาเริ่มจางหายไปบ้าง



        “บ้านผมเอง…เรียงนอนเถอะ เดี๋ยวผมปิดไฟให้”  แสงไฟสว่างทำให้คนที่ตื่นเต็มตา เผลอมองร่างกายตัวเอง และก็พบว่าเกิดรอยบางอย่าง และที่แน่ใจที่สุด ไม่ใช่ฝีมือเจ้าของบ้านหลังนี้



        “เดี๋ยว!!”  มือหนาคว้าแขนเสื้อคนกำลังจะลุกไปปิดไฟ  เรื่องราวเมื่อครู่เริ่มไหลวนเข้าสู่สมอง พยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยิ่งนึกยิ่งปวดหัว



        “นอนเถอะเรียง”  มือสวยจับทาบลงไปยังมือที่กำลังสั่นตรงแขนเสื้อ บอกด้วยเสียงอันอบอุ่นอย่างที่รงคเพทไม่เคยเจอ และเมื่อเจอ ก็ทำให้โจรห้าร้อย เกิดใจสั่นไหว เกิดความคับแน่นในอกกะทันหัน



        “จะทิ้งเราไปอีกแล้วเหรอ”  พูดไปแล้วใจมันก็แน่นๆ อยากร้องไห้ออกมาซะจริง นี่กูอ้อนมันอยู่รึเปล่าวะ



        “…”  ตารกาเพียงยิ้มให้ เอื้อมมือไปปิดไฟ แล้วกลับมานอนกอดคนบนเตียง และหลับตาลง



        “ต้นตอง”



        “หืม”



        “ไม่ทำเหรอ”  จุ๊บ ! ถามพร้อมจุ๊บข้างแก้มไปหนึ่งทีเบาๆ



        “เรียงเหนื่อยมากแล้ว พักเถอะนะ”  ประโยคเหตุผลจากตารกาด้วยความจริงใจ แต่คนคิดมากคิดไปไกลถึงรอยแดงๆบนตัวเสียนี่



        “รังเกียจเหรอ …อึก TT”  ไปแล้ว อาการน้อยใจ รักเขามากนี่นะรงคเพท



        “เรียง …”  ปึก !!! ตบลงที่ต้นแขนอีกฝ่ายอย่างแรง จนตารกาสะดุ้งดึงแขนหนี ส่วนไอ้คนจิตยุ่งเหยิงทรงตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็มีแขนที่ถูกตีเมื่อครู่คว้าไว้ไม่ให้ไปไหน



        “ปล่อยเลย …มึงเกลียดกูแล้วนี่ เนี่ย! เนี่ย! เนี่ย! ใครทำก็ไม่รู้ กูไม่ได้เต็มใจสักนิด”  เอะ อะ โวยวาย ชี้นู่นนี่นั่นตามร่างกาย



        “เรียง คิดมากไปแล้ว ผมไม่ได้รังเกียจเลยนะ แค่อยากให้เรียงพักผ่อน”



        “ไม่เอา กูไม่พัก จะทิ้งกูอีกกี่ครั้ง หะ!!”  ดิ้นไม่หยุด เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากตารกา และเมื่อไอ้ตัวดีได้ยิน ฝ่ามืออรหันก็ตบเข้าเต็มแขนอีกรอบ



        “อูยยยย ผมไม่ได้ทิ้งนะเรียง ผมมีเหตุผล”



        “กูไม่เอาเหตุผล อะไรก็เหตุผลๆ กูไม่ต้องการรรรร”  งอแง ง้องแง้งไป ใช่ว่าตารกาจะยอมปล่อยแขนออกง่ายๆ



        “เรียง..ใจเย็นก่อน ฟังผมก่อนสิ”  ไม่ยอดปล่อยให้คนดิ้นหลุดออกจากอ้อมกอด ส่วนคนดื้อหันกลับมาแล้วเริ่มทำบางอย่างที่เจ้าตัว คนที่มีสติร้อยเปอร์เซ็นไม่มีวันกล้าทำ





        มือหน้าลูบไปตามลำแขนที่โอบรอบตัวเขาอยู่ ลูบไล้อย่างเบามือจนในที่สุดอ้อมกอดก็คลายลง เมื่อเกิดช่องว่าง รงคเพทไม่รอช้าจับแขนบิดและผลักอีกคนล้มกับเตียงทันที



        “โอ๊ย …เรียง !!”  เล่นจริงเจ็บจริง ไม่ใช้สลิงไม่ใช้สตั้น ตารการ้องโอดโอยเพราะแขนถูกบิดจนเจ็บของจริง



        “ตองไม่ทำใช่ไหม เรียงทำเอง” อูยยยย พูดเพราะแปลกๆด้วย ไม่ธรรมดา อะเหย ไม่ธรรมดา…



        คนคึกคะนองเพราะฤทธิ์เหล้าและฤทธิ์รัก จับข้อมือคนในความฝัน ติดกันและผูกด้วยเข็มขัดติดหัวนอนไว้



        “เรียง อย่าทำอะไรบ้าๆนะ!!” ตารกาที่กำลังดราม่า ตามอารมณ์คนที่จับเขามัดไม่ทันจริงๆ สงครามขนาดย่อมๆจึงเกิดขึ้น



        “ทำไมอ่ะ คราวแล้วก็หนีไปเพราะงี้ไม่ใช่เหรอ แค่นี้รับไม่ได้ ตองรักเราจริงป่าว …เรารักตองจริงๆนะ”  ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ รงคเพทแสร้งทำหน้าใสซื่อสุดๆ และเริ่มลง(ปาก)จัดการกับร่างตรงหน้า (นี่เข้าข่ายทำอนาจารสุดหล่อในที่ส่วนบุคคลไหมนะ)



        “เรียง!!”  ปากหนาประกบปากสวยอย่างกระหายอยาก ใครว่าตารกาเป็นแบบนี้ได้คนเดียว รู้จักรงคเพทน้อยไป จินตนาการไปเองคนเดียวถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ดูดกลืนริมฝีปากครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนส่งลิ้นที่ยังมีกลิ่นแอลกอฮอล์นิดๆติดอยู่เข้าไป ให้คนถูกจูบเคลิบเคลิ้มไปด้วยได้ไม่ยาก





        ไม่ปล่อยให้มือต้องว่างนาน มือด้านหนึ่งบีบเค้นไปตาม แขน เนินอก ลำตัว จับคนแต่งตัวเต็มยศ ถอดออกอย่างรวดเร็วแทบฉีกทิ้ง จากนั้นจึงใช้ทั้งสองมือเฟ้นอย่างเมามันไปตามร่างกาย โดยคนถูกกระทำไม่ได้ร้องขัดขืนมากมาย เพียงนอนนิ่งๆหอบหายใจแรงตามไปด้วยเท่านั้น





        ลิ้นผละออกจากโพรงปาก แลบเลียไปตามใบหน้าขาวที่บัดนี้คงแดงระเรื่อเช่นทุกครั้งที่เขาได้เห็น ดูดกลืนตามผิวแก้ม หน้าผาก คิ้วหนา จรดปลายคาง จากนั้นจึงเลื่อนลงมาตามซอกคอ ซูดดมสลับกับปากซุกไซ้ไม่ยอมหยุดแม้แต่วินาทีเดียว





        ไม่นานปลายลิ้นและจมูกที่สูดดม ก็จัดการกับทุกส่วนของร่างกายคนถูกมัด สูดเข้าเต็มปอดแม้กระทั่งยอดอกสีหวาน ที่ไอ้โจรใจทรามทั้งดมทั้งดูดอยู่เป็นเวลานาน ไม่เพียงเท่านั้นมือทั้งสองยังคงสะกิด บีบตรงปลายแล้วงับเข้าปากอีกครั้ง ทำจนหนำใจ เจ้าตัวจึงเลื่อนลงมาไล่เลียไปทั่วอย่างไม่ยอมหยุด ตั้งแต่ท้องน้อย หลุมสะดือและขาหนีบ ชิมจนคนถูกกระทำถึงกับสั่นน้อยๆ เลียวนรอบบริเวณน้องชายสุดที่รักของตารกาอยู่สักพัก ก็เอื้อมมือมารูดขึ้นลง เต็มความยาวของวัตถุต้องสงสัย ใช้นิ้วจับตรงเกือบปลาย แล้วส่งปลายลิ้นเลียไปยังส่วนปลายของคนนอนสั่น ดูดเลียอย่างคนกินไอศกรีมที่เริ่มจากปลาย และก็ได้พบน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาให้ได้ลิ้มชิมรสในที่สุด





        ส่วนอ่อนไหวของคนถูกกระทำแข็งแรงเต็มกำลัง เส้นเลือดปูนโปนจนเห็นได้ในความมืด เรียกรอยยิ้มของคนมือไวใจเร็วได้เป็นอย่างดี ตารกาหลับตาพริ้ม หากว่าคืนนี้ต้องสูญเสียสิ่งที่รักษามานานให้แก่คนๆนี้ ก็ไม่เป็นไรหรอก หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ทำใจไว้แล้วว่าสักวันวันนี้ก็ต้องมาถึง แต่ก็ยังกลัวไม่หาย เพราะรักมากเช่นกัน จึงฝืนใจเอาเรื่องที่เกิดขึ้นปรึกษากับศรรามอยู่ตลอดสัปดาห์






        แต่แล้วความคิดของตารกาก็ต้องถึงกับชะงัก เมื่อคนด้านบนเขาตอนนี้หย่นก้นงามๆลงมาสวมน้องชายที่กำลังแข็งแรงเต็มกำลังเรียบร้อย



        “ซูดดดดดดด”  เสียงสูดปากอย่างเสียวซ่านเกิดขึ้นทันที แต่สีหน้าคนด้านบนตอนนี้คงเจ็บไม่น้อย



        เจ็บ !!???



        “เรียง…”  เรียกทั้งๆที่อารมณ์กำลังพุ่งทะยานเมื่อคนด้านบนเริ่มขย่มทีมิดด้าม



        “อือออ”  ไม่นานคนด้านบนก็เริ่มเกิดอารมณ์ขึ้นมา อาจเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ช่วยปลุกอารมณ์ให้ด้วย



        “เมื่อกี้….อาาาา…เรียงเจ็บรึเปล่า”  ถามทั้งๆที่ปากไม่อยากขยับพูดออกมาสักนิด



        “เจ็บสิวะ ถามได้ !!”  ตะคอกกลับมาซะงั้น ไหงเมื่อกี้ยังตองๆเรียงๆอยู่เลย



        “ฮึ ฮึๆๆๆ”  ตารกาหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาซะงั้น ดีใจชะมัด



        “อือออ เห็นกูเจ็บยังมีหน้ามาหัวเราะอีกเร๊อะ!!”  นั่นไง จะไม่ให้หัวเราะได้ไง ก็คนมันดีใจ



        “เรียง…อืออ สุดยอดเลย”  คำเอ่ยชมคนทำถูกใจ เร่งจังหวะคนด้านบนให้เร็วขึ้นไปอีก




        “อา อาาาาา อืออออ….ซืดดด”  เสียงครางดังมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ปัญหา สุดที่รักอยากร้องอยากคราง ก็จัดมาเลย ห้องนอนห้องนี้เป็นห้องเก็บเสียงอยู่แล้ว




        “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า !!!”  คอนเสิร์ตดังอยู่ไม่ถึงยี่สิบนาที ก็เงียบไป ด้วยปลดปล่อยออกมาแล้วกันทั้งคู่




        คนขย่มด้านบนเมื่อครู่ฟุบหน้าลงบนอกขาวที่บัดนี้เต็มไปด้วยเหงื่อกลิ่นหอมกระตุ้นแรงเสน่ห์หาจากรงคเพทได้อย่างดี ยันอกเพื่อดันตัวเองขึ้นเริ่มยกสองกันต่อ แต่กลับถูกตารกาท้วงไว้




        “เรียง …แกะมือให้หน่อย”  คนหอบเหนื่อยปรือตามองคนหน้าใส ยิ่งเหงื่ออาบหน้ายิ่งอยากได้เข้าไปใหญ่ เอื้อมมือขึ้นไปแกะเข็ดขัดออกจากข้อมือให้ เมื่อมือทั้งสองเป็นอิสระ สุดหล่อก็จับเอวคนด้านบนไว้ไม่ให้ลุกไปไหนได้



        “ตองปล่อยเลย อีกรอบนะ จุ๊บ” 



        “เรียง…ทำไมถึงไม่กอดผมล่ะ เมื่อกี้ก็ทำได้นี่”  ตารกาถามสิ่งที่ค้างคาใจ เขาอุตส่าเตรียมใจมาแล้วแท้ๆ



        “เรียงรักไง ไม่อยากให้ตองต้องเจ็บเหมือนเรา”  คำพูดที่พูดออกมาจากหัวใจ ไม่มีอะไรปิดกั้น แสนจะตรงไปตรงมา เรียกอารมณ์คนกอดอยู่ด้านล่างให้พลุ่งพล่านขึ้นยิ่งกว่าคนพูดเมื่อครู่เสียอีก



        แม้อารมณ์จะพลุ่งพล่านแต่ก็อยากทำให้คนที่ตนรักมีความสุข



        “ท่าเมื่อกี้ชอบไหม”




        “อืมม สุดยอดมากเลย ชอบ”  เมื่อได้ยินดังนั้น มือทั้งสองข้างคนที่หลังติดฟูกก็จับเข้ากับก้อนกลมๆสองอันสุดนุ่มมือ คนด้านบนคงรู้สึกได้ ว่าอะไรบางอย่างด้านในเริ่มขยายตัวอีกครั้ง จึงยันมือกับท้องขาวแล้วขยับสะโพกตัวเองตามสภาพอารมณ์




        จำไม่ได้ว่าคนของขึ้นหยุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่คนถูกรีดพิษเผลอหลับไปตั้งแต่ยกที่ห้า ที่พิษถูกรีดออกไปแล้ว ไม่รู้ไปดื่มอะไรมา ยาดองก็ไม่น่าจะใช่ ตื่นมาอีกที ก็เจอชายสุดร้อนแรงเมื่อคืนนอนหลับอยู่บนอก มิน่า เมื่อคืนนึกว่าผีอำ หายใจไม่ค่อยออก





        สองมือค่อยๆเสยผมแสนยุ่งของคนบนอก ขยับให้คนบนอกค่อยๆลงไปนอนข้างๆแทน หากนานกว่านี้เกรงว่าตารกาอาจกลายเป็นกล้วยทับก่อนสมหวังได้


        นอนนึกอะไรเรื่อยเปื่อยสักพัก คนแรงม้ากระทืบโรงเมื่อคืนก็ตื่นมาได้สติ



        “อืออออ ฮ้าววววว!!”  หาวได้ไม่อายฟ้าดินอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ได้ดูเลยว่ามีใครนอนอยู่ข้างๆ เมื่อตาเปิดจึงสะดุ้งที่เห็นคนนอนข้างๆ



        “ตื่นแล้วเหรอ” 



        “อือ”  ตอบไปงั้น แล้วเรื่องราวเมื่อคืนก็ไหลวนเข้ามาจนได้ ความอับอายแล่นลิ้วขึ้นหน้า ทำให้ใบหน้าโจรห้าร้อยแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้ 



        “หิวรึยัง เข้าห้องน้ำก่อนไหม”  ไม่พูดเปล่า คนตื่นก่อนลูบมือหนาอย่างเบาๆ มองมาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม




        โอยยยยยยยยยยย !!! นี่มัน ….เขินวุ้ยยยย มันจะหวานเกินไปแล้ว ไอ้ต้นตองงงงง





        ทำอะไรไม่ถูก หายใจยังลำบากเลย อยากเอาหน้ามุดดินหนีมันจริงๆ ยิ่งเห็นแววตาแพรวพราวยิ่งอายตัวเอง ทำไปได้ไงวะ แม่งอย่างกับเด็กสาวใจแตก



        “…..”




        “งั้นไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมพาไป”




        “……”  พูดไม่ออก ความอายตัวเองมันจุกคออยู่ จึงค่อยๆลุกขึ้นตามคนคอยพยุง แล้วก็ต้อง





        วืดดดด….   ตุบ !!!




        เข่าอ่อนกลางอากาศ เนื่องจากอาการปวดตุบๆอย่างรุนแรงบริเวณช่องทางลับ เมื่อเริ่มรู้สึกตัว อาการโวยวายก็เกิดขึ้นจนได้





        “ไอ้ต้นตองงงง !!!”  ฮ่าฮ่าฮ่า จากนั้นคงไม่ต้องเดา สารพัดคำบอกรักจากรงคเพทกระแทกเข้าหูตารกาเป็นชุดๆ แต่ละคำไม่พ้นใต้สะดือทั้งนั้น



        แม้จะด่า จะเจ็บเพียงใด ก็ไม่วายมีต่ออีกชุดในห้องน้ำ สนุกสนานกันไปตลอดวัน   :hao6: :hao6: :hao6:











. . . . . . . . . . . . . .. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .. .  .

สวัสดีค่ะ บทที่่ 20 มาแล้วนะคะ เหลืออีก 4 ตอนจบแล้ว : )

ตอนนี้ อยากเขียนบนโศกเยอะๆ ไปๆมาๆกลายเป็นบนเสียบเยอะแทนซะงั้น 55555555


ขอบคุณ คุณkuntค่ะ ฮ่าฮ่า เรามาช้าไปไหมเนี่ย ถ้าเป็นจิ้งจิกนี่ต้องเป็นจิ้งจกเรืองแสงนะคะ ตอนนี้มืดกันเกือบทุกฉากเลย ^___^
ขอบคุณ คุณlucifermafisค่ะ ตอนนี้สดใสแล้วนะคะ สดใสแบบ อาเหื้อมากเลยด้วย(สดใสแบบอาเหื้อมันเป็นไงนะ) อิอิอิ หวังว่าคงถูกใจนะคะ  o13


ขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด