ตอน ยากรักสุดหยั่งถึง
บทที่ ๒๒ ใช่ฉันหรือไม่ ใครเลยจะล่วงรู้
ใครว่าความรักชนะทุกสิ่ง สำหรับรงคเพท ความคิดต่างหากที่ชนะทุกสิ่ง ความสวยงามของชีวิต มีเข้ามาแล้วย่อมมีออกไป เป็นเรื่องปกติของธรรมชาติ เมื่อวานยังคงยิ้มได้ก็จริง แค่เพียงข้ามคืนทุกอย่างคล้ายมลายหายไปจนหมดสิ้น
เมื่อเช้าสุดที่รักของเขาพึ่งโทรมาบอกว่าติดธุระ ไม่รู้ว่าเป็นธุระประเภทไหนตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้วยังไม่โทรมาเลย
“เป็นอะไรรึเปล่าเรียง”
“เปล่าแม่ กินข้าวเถอะฮะ” เช่นกันกับหลายวันต่อมา คนที่ไม่เคยต้องห่างกันนานๆกลับหายหน้า โทรมาเขาก็รับบ้างไม่รับบ้าง แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะใยดีอะไรเมื่อเขาไม่รับ
ทุกอย่างเดินมาถึงจุดแตกหัก วันเกิดไอ้เพื่อนยีน ไอ้ยีนไม่อยากให้ทุกอย่างโอเวอร์ จึงฉลองวันเกิดโดยเลี้ยงเพื่อนที่ร้านอาหารเล็กๆแต่บรรยากาศหรูหราไม่ใช่ย่อย แสงไฟสลัวกับดนตรีโฟล์คซองเย็นๆ ยิ่งได้เจอเพื่อนสภาพอารมณ์รงคเพทดีขึ้นมาก ยิ่งคอได้แตะกับแอลกอฮอล์อ่อนๆแล้วด้วย ความฟุ้งซ่านจึงถูกกดเก็บไว้ในส่วนลึกที่สุด วันนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ไอ้กาวมีเมียแล้วแยกกันได้
นั่งได้ไม่นานสายตาทุกคนบนโต๊ะก็เหลียวไปมองชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินเข้าร้านมาใหม่ ไม่ใช่เพียงโต๊ะเขาที่ต้องมอง โต๊ะอื่นๆในร้านก็ไม่มีใครไม่แลได้ ทั้งคู่โดดเด่น ทั้งการแต่งกายแม้จะดูธรรมดาเมื่อเทียบกับวัยรุ่นคนอื่นแต่บุคลิกและรูปร่างหน้าตานั้นกินขาด เหมาะกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก สีผิวที่ละม้ายคล้ายกัน รวมถึงความใสกิ๊ง ยิ่งเมื่อฝ่ายหญิงเผยรอยยิ้ม ชายในร้านทุกคนคล้ายต้องมนต์ให้ติดอยู่ในภวังค์
หนุ่มเล็กหนุ่มน้อยต่างพากันอิจฉาบุรุษผู้ที่นั่งลงยังฝั่งตรงข้ามกับสตรีคนงาม มีเพียงโต๊ะของเจ้าภาพงานวันเกิดเท่านั้น ที่หันกลับมายังโต๊ะตัวเอง สรรพเสียงรอบโต๊ะเงียบลงทันตา และเสียงเต้นของหัวใจใครบางคนที่กำลังจะหยุดลง
“ไอ้เรียง”
“…..”
“ไอ้ตองมากับใครวะ” ไอ้กาวผู้ไม่รู้อะไรบ้างเลย ถามขึ้น ไม่ได้สังเกตุหน้าเพื่อนสักนิดเลยสินะ
“ไม่รู้ว่ะ” ตอบเพื่อนพร้อมกระดกเหล้าในมือเข้าปาก
“ไม่รู้ได้ไง มึงเป็นแฟนมัน”
“กูป่าวไอ้กาว…กูไม่ได้เป็นไรกับมัน” เพลงเย็นๆเริ่มถูกบรรเลง อารมณ์ลุกโชนเพราะแอลกอฮอล์เริ่มซึมเข้าเส้นเลือด น้ำตาลูกผู้ชายคลอเบ้าอีกครั้ง
‘ผ่านคืนวันที่เหมือนดั่งความฝัน เพราะฉันมีเธอ คำบอกรักที่ฟังอยู่ทุกวัน ฉันเลยไม่เผื่อใจ ขนาดก้อนหินยังแหลกเป็นเม็ดทราย นับประสาอะไรกับหัวใจ….’
“น้อง ! ” ไอ้ยีนกวักมือเรียกเด็กเสริฟ
“รับอะไรเพิ่มดีครับ”
“ป่าว เช็คบิลเลย ด่วนๆ”
“ครับพี่ รอสักค….”
“น้องไม่ต้อง ยังไม่เช็ค ขอเหล้าเพิ่มอีกขวด”
“เชี่ยเรียง”
“วันเกิดมึง กูไม่ให้เสียฤกษ์หรอกไอ้สัด ฟืดด ช่างหัวมัน กูไม่เป็นไร” น้ำตาที่เกือบไหลถูกสูบกลับเข้าที่เดิม รงคเพทยิ้มให้เพื่อนเพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศ
“กูย้ายร้านได้นะเพื่อน ไม่เสียฤกษ์หรอก” ไอ้ยีนที่เห็นรอยยิ้ม สมเพทเพื่อนตัวเองสิ้นดี
“กูโอเคว่ะ แม่งเพลงเพราะด้วย บรรยากาศโอ จะรีบไปไหน” รงคเพทรู้สึกอย่างที่พูด นั่งคุยกันไปสบายๆ เหมือนอีกฝั่งของร้านไม่มีใครบางคนนั่งอยู่ นี่มันเก่งจริงๆทำได้ไง รงคเพทกำลังอยู่ในการสอดส่องดูแลของเพื่อนโจรทั้งสอง ไม่นานไอ้คนซดเหล้าจัดก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะไปเรียบร้อย
“มันทำเพื่อนกูเจ็บ กูจะไปเคลียร์ให้มึงเอง ไอ้เรียง” ไอ้กาวเริ่มเมาได้ที่ ตบไหล่รงคเพทที่ฟุบโต๊ะไปแล้วแรงๆ และกำลังลากเก้าอี้ออก แต่กลับถูกเจ้าของวันเกิดห้ามไว้
“ไอ้เชี่ยกาว มึงนั่งลงเลย มึงนึกหน่อย ถ้าคนที่มาไม่ใช่ไอ้ตองแต่เป็นโอม แล้วกูเข้าไปต่อยหน้าเมียมึง มึงจะทำไง”
“ต่อยมึงกลับไง”
“เออ!!! ไอ้ควาย งั้นมึงก็นั่งลง เรื่องของเขา อย่าเข้าไปเสือก”
“เออจริงว่ะ” จากนั้นสองโจรก็ซดเหล้ากันต่อ ขากลับไม่ลืมลากไอ้คนคอแข็งจัดหนักหลับคาโต๊ะกลับไปนอนคอนโดไอ้ยีนด้วย
“แดกเหล้าทำร้ายตัวเองเพราะคนอื่นบ่อยแค่ไหนแล้ววะเพื่อน ปล่อยวางบ้างเหอะ”
000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000
เหตุการณ์จากวันนั้นไม่ได้ดีขึ้น รงคเพทตัดสินใจโทรหาตารกาเพื่อถามความจริงอย่างมีสติ แต่คนรับกลับไม่ใช่เจ้าของเบอร์ โทรศัพท์ถูกส่งต่อไปยังเจ้าของ กว่าจะได้คุยกัน
“เรียง หายไปเลย ตองโทรหาก็ไม่รับ”
“เมื่อกี้…” พูดอะไรไม่ค่อยออก
“เมื่อกี้ขวัญหน่ะ เพื่อนตองเอง”
“….”
“ตองไม่ได้ไปหาเลย ช่วงนี้ยุ่งมาก พรุ่งนี้ตองไปกินข้าวที่บ้านด้วยนะ”
“ไม่ต้องมา!!... ตองดูแลเพื่อนตองเหอะ” เผลอตะคอกออกไป ดีที่ยังปรับอารมณ์ทัน
“เรียง โกรธรึเปล่า”
“เรียงแค่คิด ว่าเรื่องของเรามันอาจเป็นไปไม่ได้ อย่างที่น้องของตองพูด”
“แล้ว..”
“เราอยากหยุด”
“เดี๋ยวผมไปหา ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด….” ตารกาวางสายไปโดยไม่รอฟังคำตอบ ยิ่งทำให้รงคเพทร้อนรน โทรกลับอีกกี่ครั้งปลายสายก็ไม่รับ ไม่นานเสียงรถยนต์ก็ดังอยู่นอกรั้ว
สุดหล่อในชุดอยู่บ้านธรรมดา แต่ทุกอย่างหลอมรวมให้คนๆนี้ดูดียิ่งกว่าใส่สูท เจ้าของบ้านเดินมายืนหน้ารั้วทักคนนอกรั้ว
“บ้านปิดแล้ว”
“เปิดให้ตองหน่อย”
“……” ไม่มีปฎิกริยาตอบรับจากคนในรั้ว เพียงยืนมองหน้าคนด้านนอกเงียบๆ
“เรียงจะไม่เปิดให้ตองจริงเหรอ” ยืนวัดใจกันอยู่สักพัก ตารกาจึงเอ่ยขึ้น
“…ไม่ ! บ้านนี้จะไม่เปิดให้มึงอีก กลับบ้านไปเหอะ ” หน้าตาและน้ำเสียงรงคเพทบัดนี้จริงจังกว่าครั้งไหนๆ
“……” ตารกาไม่ตอบ ยิ่งสร้างความอึดอัดใจให้แก่คนพูด
“มึงดูสารรูปกูบ้างดิ กูเป็นผู้ชาย แมนกว่ามึงอีก มึงจะบอกพ่อกับแม่ว่าไงตอง จะพูดยังไง จะบอกว่ามีเมียเป็นผู้ชาย? ”
“ทำไมเรียงพูดไม่เพราะ…” คนยืนฟังเหมือนไม่ได้สนใจกับคำบอกเล่าของอีกฝ่ายยิ่งสร้างความโมโหให้คนเลือดร้อน
“กูก็เป็นของกูเงี้ย อยากให้พูดเพราะก็ไปหาคนอื่นดิวะ!”
“เรียง!” เสียงเรียกเริ่มดังขึ้นตามอารมณ์ของอีกฝ่ายที่กำลังอดทนกับสิ่งที่ฟังอยู่
“กูเหนื่อย…”
“…..”
“กูร้องไห้เพราะมึงทุกคืน ตั้งแต่เจอมึงกูก็มีแต่ปัญหา…ปล่อยกูไปเหอะ” ยิ่งพูดน้ำเสียงยิ่งแผ่ว ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายแล้วด้วย รู้สึกผิดเต็มหัวใจ แต่หัวใจก็เหนื่อยเกินไปแล้ว
“เรียง…เรียงนึกว่าเรียงเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียวเหรอ ตลอดมาผมเองก็เหนื่อย ผมต้องคอยจัดสรรเวลา ทั้งเรียน ทำงาน มีเวลาให้เรียง ผมก็ทุกข์ที่ไม่ได้เห็นหน้าไม่ได้กอด แล้วก็ต้องมานั่งนึกว่าเรียงจะน้อยใจผมไหม เรียงทำเหมือนว่าเข้าใจ ซึ่งจริงๆแล้วเรียงไม่ได้เข้าใจ เรียงบอกว่าเจอปัญหาแต่เรียงไม่เคยคิดแก้ปัญหา ไม่ใช่ผมเหรอที่คอยตามแก้ปัญหาให้…เรียงเห็นคำว่ารักของผมเป็นอะไร มันไร้ค่าขนาดนั้นเลยเหรอ ผมไม่เคยคิดอยากปล่อยมือจากเรียง แต่ตอนนี้ผมเองก็เหนื่อยเหมือนกันที่ต้องคอยวิ่งตาม หากว่าผมหายไปแล้วทำให้เรียงมีความสุขขึ้น ผมก็ยินดี แต่เรียงรู้ไว้เถอะ ไม่ได้มีแค่เรียงที่เจ็บหรอกนะ”
“…..” จุก จุกจนพูดไม่ออก ตารกาพูดถูกทุกอย่าง ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ
“เรียงอยากให้ตองไปจริงเหรอ…” คำถามแสนแผ่วเบา สีหน้าคนถามบ่งชัดเจนว่าแสนจะเจ็บปวด แต่คนผิดไม่ได้มอง หากว่าหันมาสบตาสักนิด รงคเพทคงได้เห็นความหม่นหมองอย่างที่ไม่เคยเห็นในคนเย็นชา
“…..” ยังคงไม่มีคำตอบหลุดออกจากปากโจรใจร้าย เพียงเท่านี้ก็เป็นคำตอบให้แก่เจ้าชายผู้หัวใจแหลกสลายได้เป็นอย่างดี
“…โชคดีนะเรียง ผมรักคุณ”
ฉับ ฉับ ฉับ..ปัง!
จากไปแล้ว เจ้าหัวใจจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีก ครั้งนี้เป็นเขาเองที่เลือกเช่นนี้ แต่ทำไม คราวนี้น้ำตาไม่ไหลกันนะ จะเรียกว่ายังไงดี สิ่งรอบข้างคล้ายว่าหายไปหมด เมื่อกี้เขาแค่ฝันไปหรือเปล่า ทำไมไม่ห้าม ทำไมไม่บอกออกไปว่ารักเหลือเกิน รักมากไม่ต่างกัน ทำไมถึงไม่ขอโทษ ทำไมถึง….
“เรียง ใครมาอ่ะ”
“….”
“เรียง !....”
“….”
“แม่จ๋า เรียงเป็นไรไม่รู้!!”
“เรียง เรียงลูก ..เรียงเป็นอะไร”
“แม่?....ราม? มีไรกัน” คนที่เหมือนพึ่งรู้ตัวจ้องหน้าแม่และน้องอย่างงุนงง แล้ว…นี่เขามานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“เรียงนั่นแหล่ะ เป็นอะไรลูก น้องไปตามหน้าบ้านเรียงก็เอาแต่เหม่อ จนแม่กับน้องพาเข้าบ้านมาเรียกอยู่ตั้งนาน”
“แม่…เมื่อกี้เรียงอยู่หน้าบ้านเหรอ” เมื่อกี้ เรื่องจริงหรือ
“เรียง มีเรื่องอะไรเล่าให้แม่ฟังได้นะลูก”
“เรียงง่วงอ่ะแม่ ไปนอนก่อนนะครับ”
“จ้า รามพาพี่ไปนอนหน่อยไป” คุณแม่เห็นท่าทางไม่ดี ปล่อยให้พี่น้องคุยกันน่าจะรู้เรื่องกว่า
“ป่ะเรียง” พี่ชายผู้หลุดออกจากโลกไปแล้วถูกน้องชายพยุงพาขึ้นไปนอน
“ทะเลาะกับพี่ตองเหรอเรียง….เรียง” คุยกับพี่แต่เหมือนพี่ไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไป
“เรียงนอนนะ อึก รามจะอยู่เป็นเพื่อน” น้องร้องไห้ปาดน้ำตาไปแล้ว ให้พี่ชายร้องไห้ออกมาดังๆยังจะดีกว่า
แสงไฟมืดสนิท หลงเหลือไว้เพียงแสงสลัวจากไฟถนนลอดผ่านเข้ามา ใครบางคนนอนลืมตาในความมืด โดยมีน้องชายสุดที่รักนอนร้องไห้อยู่ข้างๆจนหลับไป
สิ่งที่คนลืมตามองเห็นคือสีขาว ทุกอย่างกำลังหยุดนิ่ง ไม่มีอะไรอยู่ในสมอง ความรู้สึก สติสัมปชัญญะ ทุกอย่างหายไปหมด แอร์เย็นๆพัดพาน้ำให้ค่อยๆไหลรินออกจากหางตา ออกมาเป็นทาง ไม่ได้เพราะรู้สึกเจ็บ แต่เพราะไม่รู้สึกตัวเลยต่างหาก
ความเหนื่อยล้ากดเปลือกตาอันหนักอึ้งให้ปิดลง กระทั่งในความฝัน ก็ยังเป็นสีขาว แต่กลับเป็นสีขาวที่คล้ายถูกกรีดด้วยปลายมีดอันแหลมคม จนสีแดงสดของเลือดค่อยๆรินรดลงมาตามรอยกรีด ไม่ช้ามีดอีกนับหมื่นเล่มก็ถูกกระหน่ำแทงลงบนสีขาวอย่างทารุณ
“ฮือ..ฮืออออ อึก ฮื้ออออออ !!!”
“เรียง เรียงตื่นเรียง เรียงอย่าร้อง อึก เรียง…” มืออบอุ่นปลุกคนฝันร้ายให้ตื่นขึ้น เมื่อตื่นขึ้นก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเจ็บปวดออกมาจนคนปลอบต้องกอดและร้องตามไป
“ร้อง ร้องออกมาเยอะๆ จะได้ไม่เจ็บนะ TT”
“ฮืออออ เจ็บ พี่เจ็บ” พี่ชายร้องไห้ออกมาแล้ว ความกดดันในใจของพี่อาจเบาบางลงบ้าง
00000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000
เวลาเยียวยาทุกสิ่ง อาจเป็นไปดังที่เขาว่า หนึ่งเดือนกว่ากับความฝันสีขาวและสีแดง เวียนวนซ้ำๆ ทุกคืนต้องสะดุ้งตื่นพร้อมน้ำตา ถึงจะสามารถนอนหลับต่อได้ หากแต่ช่วงหลังๆดีหน่อย เมื่อสะดุ้งตื่นมาแล้วสามารถนอนหลับอย่างสนิทต่อได้ ความรู้สึกนึกคิดกลับมาเป็นปกติ
ช่วงแรกมีเพียงพ่อแม่และน้องที่คอยดูแลหัวใจ ระยะหลังๆมีเพื่อนๆที่คอยแวะเวียนมาให้กำลังใจ อาการใจสลายจึงดีขึ้นมาก ยิ่งเพื่อนๆพาไปเลี้ยงของฟรีบ่อยๆ รอยยิ้มยิ่งคล้ายว่าจะกลับมาเร็วยิ่งขึ้น แม้จะมีรอยยิ้มแต่มันก็เป็นยิ้มที่แสนเศร้า
“ไอ้เรียง ถ้ามึงเห็นกูเป็นเพื่อน ช่วยตอบคำถามกูหน่อย”
“อือ ถามมาดิ มึงมันเพื่อนตายอยู่ละ” มือขวาถือตะเกียบคืบเส้นเล็กน้ำตกเข้าปากอย่างเอร็จอร่อย
“มึงรักไอ้ตองไหม” คำถามแรกกระแทกใจ คนคืบเส้นเล็กชะงักมือ รอยยิ้มจางจากใบหน้าทันที
“เหอะๆ มึงถามไมวะ” หัวเราะแห้งๆ แล้วคืบเส้นเล็กเข้าปากด้วยมือสั่นๆ
“มึงตอบกูมาก่อนดิ”
“ฮึ ไอ้ยีน! ในเมื่อมึงกล้าถามนะ เหอะ กูก็กล้าตอบสิวะ ฮ่าฮ่าฮ่า” นั่นหัวเราะกลบเกลื่อน หัวเราะแต่ปากหากแต่ดวงตากลับนิ่งงันคล้ายคนไร้อารมณ์
“…ยิ่งกว่าชีวิต” ตอบไปอย่างมือสั่นใจสั่น จะเอ่ยถึงมันให้เจ็บหัวใจทำไม
“รักเขาขนาดนั้น แล้วทำร้ายเขาทำไมวะ”
“เคยฟังไหมเพื่อน ‘รักคงยังไม่พอ’ อ่ะ”
“งั้นกูถามใหม่ รักเขาขนาดนั้น แล้วมึงทำร้ายตัวเองทำไม”
“ไม่มีกู มันคงไม่ต้องปวดหัว อนาคตคงสดใสกว่านี้” วาดตะเกียบลงกับถ้วยเรียบร้อย พอนึกถึงใบหน้าใครคนนั้น ท้องไส้ก็คล้ายจะบีบตัว อิ่มขึ้นมาซะงั้น
“มันบอกว่ารักมึงรึเปล่า”
“บอก บอกทุกครั้ง แม้ครั้งสุดท้าย…ฟืดดด” ไม่ไหว น้ำตาจะตกรีบเงยหน้าขึ้น สูดน้ำมูก
“มันรักมึงขนาดนี้ แล้วอนาคตที่ไม่มีมึงอยู่ข้างๆ มันจะสดใสได้ไงวะ”
“……”
“นึกให้ดีนะไอ้เรียง มึงคิดว่าชีวิตคนเราจะได้เจอคนที่เข้ามาทำให้เรารักสุดหัวใจอย่างนี้ได้กี่คนกันวะ….เจอเรื่องไม่เท่าไหร่มึงก็ปล่อยมือเขาไปแล้ว นี่เหรอวะที่มึงบอกว่ารักเขายิ่งชีวิตมึง”
“ไอ้ยีน..กูควรทำไง”
“กูไม่รู้ ถามใจมึงดูสิเพื่อน….อ่ะ!”
“อะไรวะ” ยีนยื่นกระดาษแผ่นเล็กคล้ายนามบัตรมาให้
“หัวหน้าบอกว่าเมื่อวานไอ้ตองมันไปพักผ่อนที่รีสอทนี้ มึงจะทำไรก็คิดเอา แล้วก็มาบอกกูด้วยว่าจะทำไง”
“อืออ ขอบใจว่ะเพื่อน” รงคเพทถือนามบัตรไว้ในมือแน่น
“อ่อ..ไอ้เรียง กูอยากให้มึงรู้ ตอนมึงนอนโรงบาลแล้วไม่ได้สติหน่ะ ไอ้ตองมันไม่ยอมไปไหนเลย จนหน้าตาแทบดูไม่ได้ มันพึ่งกลับตอนมึงเริ่มรู้สึกตัวนั่นแหล่ะ”
กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จรงคเพทก็ขี่รถกลับบ้าน แต่อยู่ดีๆไอ้แก่ของเขากลับติดๆดับๆซะได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมต้องมาเสียหน้าร้านแป๊ะข้าวหน้าเป็ดอีกแล้ว ดีหน่อยจำได้ว่าร้านเฮียอู๊ดอยู่แถวนี้
“อ่าว ไอ้หนุ่ม หายหน้าหายตาไปไหนมาตั้งนาน” เห็นหน้าโจรสุดหล่อเจ้าของไอ้เหลืองสนิมเขลอะละจำหน้าได้ รีบทักขึ้นทันที
“หายไปนานดิพี่ ของร้านพี่แม่งดีจริงๆ เนี่ย พังอีกละ”
“วันนี้ลากมาเองเลยเร๊อะ ไอ้นายแบบไม่มาด้วยรึไง” นี่เฮียอู๊ดแกคิดอะไรกับพบรักป่าววะ
“ไม่ได้มาอ่ะพี่ คิดไรกับเพื่อนผมป่าวเนี่ย”
“เออ เพื่อนน้องโคตรหล่อเลย เฮ้ยยย ไม่ใช่โว๊ย แค่ปกติแถวนี้ไม่ค่อยมีคนหน้าตาดีผ่านมาเฉยๆ”
“ฮะฮะ ” เฮียอู๊ดบอกรอบนี้ไอ้แก่ไม่เจ็บหนัก นั่งรอได้แปปเดียวก็เสร็จ
“อ่ะพี่”
“ไรวะ” เฮียอู๊ดงงอยู่ดีๆไอ้โจรก็ยื่นโทรศัพท์มาให้
“ผมให้เฟสเพื่อนผม เผื่อพี่ชอบ เอาไว้ติดต่อ ฮ่าฮ่าฮ่า” เฮียอู๊ดรับมาดูแล้วทำหน้างงๆ
“ใครวะ”
“อ่าว เพื่อนผมไง ไอ้คนที่พี่อู๊ดชอบอ่ะ”
“ไม่ใช่อ่ะ” เฮียอู๊ดส่งมือถือคืนรงคเพท คนหน้าโจรคิดมาตลอดว่าพบรักเป็นคนตื่นเช้าลากรถเข้าอู่ให้ แล้วใครวะ เป็นคนลากไอ้แก่มาซ่อม
“ใครวะพี่ เพื่อนผมหล่อๆก็มีแต่คนเนี้ย”
“จำไม่ค่อยได้ว่ะไอน้อง จำได้แค่หล่อโคตรๆ จูงรถน้องเข้ามาเด่นกว่ารถน้องอีก แบบสว่างจ้าเลย”
“ใช่คนนี้ป่าว” ส่งรูปใครบางคนให้เฮียอู๊ดดู มือก็สั่นไป ใจก็สั่นไม่แพ้มือ และหัวใจก็หล่นวูบเมื่อเฮียอู๊ดพยักหน้าเป็นคำตอบ ความเงียบปกคลุมอู่เฮียอู๊ดไปชั่วขณะ
“ไอ้หนุ่ม เห่ย หนุ่มๆ เป็นไรวะ…สองร้อยเห้ย”
“อ่า ป่าวๆ อ่ะพี่สองร้อยไม่ต้องทอน ขอบคุณมากครับ” ควักแบงค์ร้อยสองใบสุดท้ายในกระเป๋าให้เฮียอู๊ดด้วยแววตาเหม่อลอย
“เออ งั้นพี่ขอรูปเพื่..”
“ไปละพี่ โอกาสหน้าจะมาใช้บริการใหม่นะฮะ” สตาร์ทรถออกไปอย่างไม่ได้ยินเสียงว่าเฮียอู๊ดจะขออะไร
ไอ้แก่สนิมเขลอะบรรทุกร่างของคนไร้จิตใจไปตามเส้นทางกลับบ้าน ร้องไห้ไป ปาดน้ำตาไป ผ่านสี่แยกที คนติดไฟแดงก็พากันมองที โถ นี่มันไม่สนใจคนรอบข้างจริงๆสินะ
“แม่…เรียงร้องไห้กลับมาอีกแล้ว ฮือออ รามสงสาร TT” เห็นพี่ขี่รถร้องไห้เข้าบ้านมา เด็กน้อยจึงวิ่งไปหาแม่ในครัว กอดแม่แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น
มื้อเย็นในบ้านวันนี้กลับเงียบเหงาลงกว่าวันอื่นๆ จนไอ้คนอายุน้อยสุดในบ้านทนไม่ไหว วิ่งขึ้นห้องทั้งๆที่ข้าวยังแทบไม่ตกถึงท้องสักเม็ด
“ราม ราม ..แม่ รามเป็นไร” ลูกชายคนโตของบ้านตะโกนเรียกน้องที่อยู่ดีๆก็วิ่งขึ้นห้องไป
“น้องเห็นเรียงร้องไห้ คงอึดอัดที่ลูกเอาแต่เงียบ”
“เรียงโอเคแล้วแม่ แค่คิดอะไรนิดหน่อย แล้วเมื่อกี้ที่ร้องไห้เข้าบ้านมา ก็ไม่ได้เพราะเสียใจนะฮะ”
“แม่ก็ไม่รู้ ไปคุยกันเองแล้วกันนะ”
“เรียงเอาขึ้นไปกินกับรามบนห้องนะ” บอกพ่อกับแม่แล้วจัดจานข้าวใส่ถาดไปสองจาน เอากับข้าวราดไปเลย
“เรียง กินเสร็จแล้วยกลงมาด้วยนะลูก”
“คร๊าบบบ…”
เดินเข้าห้องมาพร้อมกับถาดอาหารในมือ ผ่านทางประตูเชื่อมใจไร้กลอน เห็นเด็กน้อยที่รงคเพทแสนรักนอนคว่ำหน้าร้องไห้กับหมอนเป็นวรรคเป็นเวร มือหนาวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ แล้วเดินไปหย่นก้นลงบนเตียงข้างๆน้องชาย
“ตัวแสบร้องไห้ไม” มือหนาลูบหัวทุยๆโยกไปมา ไอ้เด็กมีปัญหาไม่ตอบเพียงส่ายหัวแรงๆส่งมาให้
“จะไม่คุยกับพี่จริงดิ พี่เอาข้าวมาให้ด้วยนะ กินข้าวกัน..เร็ว” น้องไม่ยอมลุก พี่ชายจึงตัดสินใจอุ้มให้ลุกนั่งตัก แล้วคุยกัน
“ไร” มือน้อยๆปาดน้ำตาป้อยๆ ภาพตรงหน้ารงคเพทเรียกรอยยิ้มแบบสามสิบสองซี่ไว้บนหน้า ช่วยน้องชายปาดน้ำตาแล้วถามไปอีกรอบ
“ร้องไห้เพราะพี่ป่าว”
“ป่าว” ป่าวแต่กอดคอพี่ชายซะแน่น
“ไม่อยากเห็นเรียงเสียใจแล้ว TT” โอยยยย ทำไมน้องชายเขาถึงน่ารักขนาดนี้น้า ^____________^
“พี่จะไม่เสียใจแล้ว” รงคเพทชูนามบัตรให้น้องชายดู
“อึก อึก เรียงจะไปสีชังเหรอ”
“ใช่..รามไปกับพี่นะ”
“ไป!! เรียงจะไปทำไมอ่ะ” เด็กน้อยที่เอาแต่ร้องไห้งอแง เมื่อพี่ชายชวนไปเที่ยวเกาะกลับมีสีหน้าดีใจขึ้นมา
“พี่จะไปตามหาหัวใจหน่ะ ^^”
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .. . . . . . . . . . . . .. .. .. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .. . . . . . .
สวัสดีค่ะ บทที่ 22 มาแล้ว อิอิ มาแบบ
ขอบคุณ คุณlucifermafisค่ะ ตอนจบจะแฮปปี้ไหมน่ออ ติดตามต่อนะคะ ใกล้แล้ว : ))
ขอบคุณ คุณSorsoค่ะ คิดมากแบบสุดยอดเลยค่ะ บางทีเราก็คิดว่าเรียงคิดมากไปรึเปล่าเหมือนกัน
ขอบคุณ คุณkuntค่ะ อิอิ มาช่วยเราลุ้นตอนจบด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ แต่บอกก่อนเลยว่าตอนหน้ามันแบบ
อีกสองตอนจบแล้วเน้อออ ฝากติดตามด้วยนะคะ ^__________________^