จิระxจิระ
ตอน 10 เมสซี่
สนามกีฬาขนาดมหึมาย่านรามคำแหง...
“เมสสสสสสเซ่!” โจ๊กตะโกนลั่น
“เมสซี่ๆๆๆ” พี่สมบัติตีกระบองลมของแจกอย่างเมามัน
“หึหึ”
“หึหึ” สองคนหึหะนั่งลูบคางกอดอกเก๊กหล่อเท่ท่ามากอยู่เก้าอี้ติดกัน
“วู้เฮีย มาเชียร์เทพตัวเป็นๆ ทั้งทีต้องงี้ เมสซี่ลูกพ่อ! ทางเน้!” ดึงมือผู้ปกครองลุกขึ้นยืน
แต่มิสามารถ จิระกับท่านจอมเทียบมวยคนละรุ่น
“ไอ้นี่ นั่งลงดีๆ เขาแค่วอร์ม”
“วอร์มนั่นแหละ ลงเล่นก็ไม่เห็นเราแล้ว เร็วเฮียลุก”
“เอาน่า”
“แก่แล้วบอกยากบอกเย็น ถ่ายรูปๆ หน่อยป๋า เจฟกดให้ไว” ใครอยู่ใกล้ตูใช้หมด
ลุกถ่ายรูปสองคนพ่อลูกโดยมีเทพเจ้าลูกหนังคนโปรดวิ่งเป็นแบ็คกราวด์ เท่ซะไม่มี
“พี่สมบัติกดให้หน่อยครับ” เป๋ห่าวยันตัวลุกบ้าง ยื่นมือถือให้พี่เลี้ยงที่มาด้วยกัน
เจฟ น้าจอม ผมและพี่สมบัตินั่งเรียงกัน 4 คน (เฮียกั๊กไม่ให้ข้าน้อยนั่งติดไอ้ตุ๊กแกมือกาวครับ)
“เอาเชียวมึง กอดคอกูแน่นไปล่ะ” โจ๊กโวย
“ค่าตั๋ว”
“เคๆ หล่อๆ นะพี่” ผมชูสองนิ้วโพสท่าใส่มือถือสีดำหรู
“ไม่ต้องหล่อหรอก...จุ๊บ”/ (แชะ) โดนอีกแหละ พูดไม่ทันขาดคำ
“ไม่งามว่ะเจ้าโจ๊ก โดนบังมิดเลย”
“เชี่ยเจฟกินเหม่งกูตลอดแหละ ถ่ายใหม่ซิพี่สมบัติ เมื่อกี้ไม่นับ ขี้เหร่มาผมไม่ยอมนะเออ ได้ยังๆ อีกรูปๆ”
“555” ร่างสูงเจ้าของมือถือฉวยไปถ่ายรูปผมกับบรรยากาศสนามเสียเอง
เมสซี่แอนด์เดอะแก๊งวิ่งเหยาะๆ โชว์ตัวพอหอมปากหอมคอ
ปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมเหยียดแข้งเหยียดขาอบอุ่นร่างกายอย่างจริงๆ จังๆ
“เข้าไปแล้ว ไม่วอร์มเยอะๆ วะ” โจ๊ก
“เมืองไทยเมืองร้อน วิ่งมากก็ตายก่อนได้เล่นน่ะซิ” เฮีย
“เหรอ...จ้องตาไม่กะพริบเลยนะป๋า ได้ข่าวว่าไม่ค่อยอยากมา ลูกค้าจะมาเอารถ ไม่อยากทิ้งอู่ไว้คนเดียวประเดี๋ยวจะเปล่าเปลี่ยวเอกา” โจ๊กแซว
“ปิดสักวันมันไม่เจ๊งหรอกน่า” น้าจอมหันมาขยี้หัวเสียทรงหมด
“หยุดครึ่งวันไปดูเมสซี่...อืม” ฝรั่งพูดกระทบลอยๆ ผ่านอากาศ เข้าหูใครทะลุโสตไหนไม่รู้
“555” พี่สมบัติปล่อยก๊าก
เขียนแปะไว้หน้าอู่ครับ ‘หยุดครึ่งวันไปดูเมสซี่’
วินมอเตอร์ไซค์กับคนรู้จักแถวนั้นแซวให้คึกตั้งแต่เช้า
(‘ปรี๊ดดดดดดด’)
“เมสซี่ๆๆ”
“ยิงเลย”
ผมกับพี่สมบัติตะโกนเชียร์อย่างบ้าคลั่งไม่กลัวเสียงแหบเสียงแห้ง
เตรียมพร้อมมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ
เสียงเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันระหว่างทีมออลสตาร์ รวมดารานักเตะทีมชาติไทย
กับเมสซี่ ฮ่าๆ ทีมสโมสรบาร์เซโลน่าครับ เราโฟกัสเทพฝีเท้าทองคำแค่คนเดียวพอ
โจ๊กไม่ค่อยนะเออแต่น้าจอมนั่นล่ะตัวดี
น้าหลานหัวใจลูกหนังยอมเชียร์ทีมเดียวกันในวันนี้ ฮิ้ว!
(สวบ) ลูกฟุตบอลตุงตาข่ายสวยงาม
“เย้!”
“เฮ้!”
”เข้าแล้วโว้ย”
“โกลลลลลลลลล”
0:1 ไทย:เมสซี่
ได้ข่าวว่ายิงทีมชาติเราเอง
คนไทยเวลานี้พร้อมใจใส่เสื้อสโมสรทีมเยือนมากกว่า 90%
ทั้งสนามลุกเฮพรึ่บ ยกเว้นตัวโตล่ำๆ หัวโขกกันอยู่สองคน
ไม่สนโจ๊กกับลุงเต้นหยองแหยงอยู่ข้างๆ
...
“เล่นแค่หน้าโกล วิ่งเหยาะๆ อยู่แค่นั้นแหละเห็นไหม” น้าจอม
“อืม ไม่ถึงเส้นกลางสนามเลยด้วยซ้ำ ตัวจริงเตี้ยกว่าเพื่อนร่วมทีมอีกนะผมว่า” ฝรั่ง
“เขาเรียกอ่านทางบอลขาด ไม่ต้องใช้แรงเยอะก็หาจังหวะยิงได้”
“ลูกนั้นวิ่งตามทันได้ไง”
“เออใช่ จากปีกซ้ายไล่จนเกือบเสามุมธงขวานี่เลย เห็นไหม 555 สุดยอดจริงๆ” เฮียตื่นตาตื่นใจตื่นเต้นเป็นเด็กๆ
ทั้งคู่นั่งวิจารณ์ผู้เล่นอยู่ จ้องเขม็งไม่ละสายตาจากเทพเบอร์ 10
เรียกว่าไม่ได้มองตามเกมในสนามเลยดีกว่า
“ได้ข่าวว่าตั๋ว 2000 บาท ไม่ดูเกมหรือดูนักเตะท่านอื่นบ้างล่ะครับท่าน” ผมนั่งลงบ้าง อิ๊อ๊ะมุ้งมิ้งกันสองคนมิได้ คติพจน์ของโจ๊กคือ ‘เสือกไว้ก่อนเจ๊สอนไว้’
“ไม่ล่ะ”
“มาดูเมสซี่”
“อ้อ ครับ เข้าใจแล้วครับ เทพเมสท่านเดียวครับ”
กลายเป็นโจ๊กยืนเชียร์ท่าเดิมนั่นแหละ
แต่ตูมองพี่เมสคนเดียวบ้างแล้ว
โอ้ ฟินาเร่ 35 นาทีนี้เพื่อเธอ
....
...
“เต็มอิ่ม! สุดโค่ย!” โจ๊กชูสองแขน ณ เวลา 2 ทุ่มหลังนกหวีดเป่าปิดเกมการแข่งขัน
“โชคดีที่เราอยู่ฝั่งคบเพลิงพอดี เมสซี่เขี่ยบอลต่อหน้าต่อตา เห็นกระทั่งขนจมูก ขอบคุณนะครับคุณเจฟฟรี่” พี่สมบัติรุ่นลุงชาบูเป๋ห่าว
“ครับ” ฝรั่งยิ้มคอยืดบนท้องฟ้า
“กลับเลยไหม” เฮียชวน
“หิวๆๆ” ผมร้องพร้อมเต้นโชว์ท่าลิงกัง
“กวนว่ะ the naughty monkey!”
“อ๊า! ป๋าช่วยด้วย” โดนลิงหัวแดงกอดจนแบน
“สมน้ำหน้า เสียงแหบหรือยัง ไปหาอะไรกิน เลี้ยงเอง” น้าจอมยิ้มกว้าง
“จะกินเมี่ยงหลังรามปลาเผา ซาบะแป๊ะซะ หอยแครงลวก หอยแมงภู่อบหม้อดิน เอาบะหมี่ต้มยำ ต้มแซ่บ ไส้อั่ว น้ำพริกอ่อง กุ๋ยช่ายด้วยนะป๋านะ”
“กี่อย่างล่ะนั่น หึหึ” คนกอดคอผม ยอมเพราะต้องประคองขาเป๋ไว้
“กินหมดหรือเปล่าหรอกเจ้าโจ๊ก” พี่สมบัติ
“ปะ ชายสี่หน้าบ้านเรา” ท่านผู้บัญชาการสูงสุด (ถ้าไม่มีเจ๊อยู่)
“วู้ มะอาว โจ๊กไม่ยอม ไม่อยากกินบะหมี่ กินปลาเถอะนะป๋านะ อุตส่าห์มาทั้งที ซื้อฝากเจ๊ด้วย เดี๋ยวไปไถตาเองนะๆ”
“เอาเชียว”
“มีร้านในซอยตรงทางออกที่จะกลับบ้านเรา สาขาสองไกลหน่อยแต่น่าจะว่างอยู่ ผมเคยมากับเพื่อน เมี่ยงปลาเผาน้ำจิ้มอร่อย”
“ถูกต้องแล้วเจฟ ไปเร็วหิว” ผมพยุงเอวคนพิการจะพาเหาะไปร้านที่ว่าให้ไว พลังงานหดหายต้องนำกลับมาคืน นอนไม่หลับท้องร้องโครกครากประเดี๋ยวฝันร้าย ไม่ดีๆ
“งั้นนำไปเลย” ผู้ใหญ่ไฟเขียว
“เย้!”
...
...
แว้นมอเตอร์ไซค์กันมาสองคัน คนป่วยนั่งซ้อนพี่สมบัติ
โจ๊กเกาะน้าจอมซึ่งบิดได้ลุงมากๆ
เจอตองกับปิงหน้าร้านกำลังซื้อกลับไปฝากที่บ้านพอดี
บอกอากงกับอาม่าที่บ้านชอบ
ปิงพูดคลองเดียวกันเด๊ะว่าน้ำจิ้มอร่อยบวกเนื้อปลาสดหวานได้ใจ
เล่นเอาโจ๊กน้ำลายสอจนซัดไปหนึ่งจานเต็มๆ
ฝรั่งพกบัตรเครดิตเต็มกระเป๋าสตางค์ ไม่รวมธนบัตรเป็นฟ่อน
ทว่าเจี๋ยมเจี้ยมยกให้น้าจอมจ่ายเงินตามประสาลูกกระจ๊อกที่ดี
รู้เพราะมือใหญ่ยัดใส่มือผมครับ
เหมือนกระผมคอยควบคุมมันนี่ของมายฮัสบันด์ยังไงพิกล
“เอาอีกตัวไหม?” หัวแดงถาม
“ตักบาตรอย่าถามพระ” ผมมูมมาม
“กินดีๆ หอยแครงจานนั้นเอาให้หมด” เฮีย
“ใครแกะก็กินเองดิ”
“มือเปื้อน” ยักษ์กระแทกไหล่ผม
“มาพี่เอง เจ้าโจ๊กกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนหรอกครับคุณเจฟฟรี่ ขุนไปก็เท่านั้น เปลือง”
“โห พี่สมบัติ” ไม่กินข้าวหม้อเดียวกันจะคว่ำโต๊ะให้
“หึหึ” เป๋ยกน้ำดำจิบ เหล่มองผมด้วยหางตาชิลๆ
“หึหึ” เฮียยกเบียร์ซด ลืมที่แช่ไว้ในช่องลับเลยแฮะ กลับไปต้องสำเร็จโทษเสียหน่อยแล้ว
น้าจอมกับรูมเมทผมท่าทางพื้นนิสัยพิมพ์เดียวกันเด๊ะ
แตกต่างแค่หน้าตาบ่งบอกเชื้อชาติฝรั่งกับเอเชียเท่านั้น แปลกดี
“แก้ม ป้อนหน่อย” กระแซะไหล่ครั้งที่เท่าไหร่ไม่ทราบ
กำลังมองเศษซากในจาน เหลือหัวปลาเท่านั้นคงสภาพเดิม
นอกนั้นดับอนาถด้วยฝีปากจิระ
“แก้มอะไรเล่า กินเองดิ” ผม
“ดูมือ” แบมือเปื้อนแกะหอยกับกุ้งเละเทะ ยกชิ้นเนื้อส่งให้ท้องโจ๊กหมด
“ฮื่ย ลำบากคนอื่นตลอด เอาไปเลย เห็นแก่ตั๋วฟรีหรอก ไม่งั้นจัดมือเดี้ยงแถมแน่ๆ”
จัดการงัดแงะแกะถวายถึงปาก
น้าจอมบีบก้านแก้วเบียร์จนข้อนิ้วปูดแต่ตีหน้านิ่งไม่พูดอะไร
“อร่อย...” สมใจมัน ได้ฤกษ์รวบช้อนปิดการแสดงพอดี
...
“ไม่ติดว่าเห็นเจ้าโจ๊กมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยผมจะคิดว่าคู่นี้เป็นแฟนกันแน่ครับนี่ หยอกถึงเนื้อถึงตัวกันจนผมอาย” พี่สมบัติคงอยากทิ้งชีวิตที่ร้านเมี่ยงปลาเผาโดยแท้ วาจาสามหาวไม่คิด
“พรวววดดดดดดด!” ท่านจอมพ่นไฟ
“อูย คุณคร้าบ เละหมดผม ดีที่อิ่มแล้ว...เฮ้อ” พี่สมบัติวุ่นวายทำความสะอาด ในใจผมอยากให้โดนหนักกว่านี้ด้วยซ้ำ
“พี่สมบัติก็พูดไป นิสัยหมาๆ มือไวตามประสาของมันต่างหากเล่า” ผมแก้เก้อ
“อะแฮ่ม...ให้ระวังไว้บ้าง” เฮียหวงก้าง
“ผมก็ว่าอยู่ หน้าตาอย่างคุณเจฟจะมาติดเจ้าโจ๊ก นี่แสดงว่าแกล้งอำกันเล่นใช่ไหม”
“ไม่กล้าเล่นหรอกครับ...เอาจริง”
“555" พี่สมบัติหัวร่อขำ
พี่สมบัติโม้ว่าสมัยติดทหารเกณฑ์เคยได้เมียเป็นกะเทยขายข้างแกงที่นั่นด้วย
ในค่ายหาผู้หญิงยากยิ่งกว่างมเข็มจึงจัดสาวประเภทสองแก้ขัด
เวลานี้แยกทางกันไปแต่ยังคอยถามสารทุกข์สุกข์ดิบบ้างตามประสา
“เป็นคนดีครับ ถ้าไม่ติดผมมีลูกแล้วคงได้เลี้ยงดูอุ้มชูออกหน้าออกตา ผมไม่ถือหรอกจะเพศไหนๆ เขาทำมาหากินเก่ง ขยัน แต่ตอนนี้ได้ผัวฝรั่งรวยไม่รู้เรื่อง 555”
“โชคดีที่เลิกกับพี่ได้นะว่าไหม โอ๊ย!” โจ๊กสรุปก่อนร้องถูกเบิ๊ดจนร้องลั่น
“กวน” น้าว่า
“เออ ลืมถาม ตกลงได้บัตรมาจากไหนวะ เพื่อนกูยังหาไม่ได้เลย มันชวนๆ อยู่แต่ตอนนั้นไม่ทันคิดไง รู้ตัวอีกทีคือในเว็บประกาศขายหมดแล้ว” ผมเล่าเชิงถามเปลี่ยนเรื่องเรื่อยๆ
นักบาสเกตบอลไม่น่าจะสนใจกีฬาลูกหนัง
อาร์มชวนผมไว้เหมือนกันแต่เห็นราคาตั๋วแล้วลังเล
สักพักตองเดินมาบอกว่าบัตรขายหมดเกลี้ยงแล้ว
อาร์มจะหาตั๋วผีให้แต่ผมปฏิเสธไป เจอเซอร์ไพรสส้มหล่นเห็นๆ
“เพื่อน ฟรี ค่าทำคอมหาข้อมูลให้มัน”
“อ้อ”
“นี่กำลังคิดจะเอาเงินให้คุณเจฟฟรี่อยู่ แถวเราก็วีไอพีด้วยนะเฮีย โชคดีจริงๆ” พี่สมบัติถูกใจ
“อ้าว ตกลงที่มานี่คือไม่รู้เหรอว่าฟรี โด่ รู้งี้ไถต่อซะก็ดี ไม่น่าอยากรู้ก่อนเลยตู ทำไมไม่เตี๊ยมกันก่อนวะเป๋” โจ๊กบ่นอุบ ปลาไม่อร่อยทันที
“555” ป๋าเจฟ
“ดูทำหน้าเข้า เจ้าโจ๊กเอ๊ย 555” พี่สมบัติ
“จำไว้เลย” รุมขำเข้าไป เอาคืนได้แล้วจะหนาว
“555 ปะ กลับบ้านเรา” น้าจอมยิ้มลุกเช็กบิล
อวสานวันของเมสซี่อย่างอิ่มเอมและอิ่มท้อง (>D<) เย้ว!
*************ซี ยู ออน มันเดย์
edit : ตอนสายๆ
= ลูบคาง
= หอยกับกุ้ง (ใช่ๆ)

แทงกิ้ว tuckky ตาไว