อรุณสวัสดิ์ tuckky!!!

******************************
จิระxจิระ
ตอน 11 ผมรักคุณ
ผมถูกจุ๊บเหม่งตอนเช้าต่อหน้าสักขีพยานเต็มบ้าน
เจ๊ เฮีย พี่สมบัติ อ้อ เพิ่มตาอีกคน เล่นเอา สว. สูงวัยสำลักโอวัลตินไอโขลกๆ
“ทำเครื่องหมายของมันทุกวันแหละพ่อ ผูกขาดจนหนูปลงแล้ว” เจ๊กลอกตา
ได้ข่าวว่าเคยห้ามแต่ฝรั่งบ้องตื้นหูตึงหาฟังไม่
สัญญาณลับของเราระบุว่าวันนี้จะเจอโชคดี พ่อมดเจฟฟรี่จงเจริญ
ผมชักติดใจแฮะ รอทุกเช้า ชอบลักกี้แบบเซอร์ไพรส์ วะฮะฮ่า
...
พักเที่ยงก็เจอเปรี้ยง...
“โจ๊ก ได้ข่าวว่าเจฟฟรี่มาเช่าบ้านโจ๊กอยู่เหรอ เขาขาเจ็บใช่ไหม ไปเรียนยังไง ไม่สบายมากหรือเปล่า พวกเราเป็นห่วงมากเลยนะ” เพื่อนเด็กเก่งสายวิทย์คณิตห้องเดียวกับทอฟฟี่ ท่าทางอ้อนแอ้นหน้าตาดีและแน่นอนว่าเพศชาย
“เอ่อ...” ผมอึ้งๆ โอโม่เกย์เรดาร์กระแทกตา ตุ๊ดเค้าหน้าประมาณนี้ มักจะทาแป้งขาววอกนับแต้มเก็บสกอร์ในใจ
“เรานุ้กไง ห้องเดียวกับทอฟฟี่ ฝากขนมให้เจฟฟรี่หน่อยซิ แล้วโจ๊กจะว่าอะไรไหมถ้าเราแวะไปคุยที่บ้านด้วย” กูว่าแล้ว คนนี้เองชื่อนุ้ก
“อ้อ งั้นเหรอ” ยิ้มแห้งๆ เส้นใหญ่ราดหน้ารสจืดทันใดอยากได้เครื่องปรุงติดหมัด
เห็นสองศรีตองปิงลั้ลลาอยู่ร้านขนมหวานสบายใจ เวลาต้องการตัวช่วยกลับหายหัว
“โจ๊ก”
“อ้าว อาร์ม” เสร็จจากแก๊งหัวโปกก็เจอก๊วนโฉด
“ไหนบอกไม่ได้ไปดูเมสซี่ไง ทำไมเห็นที่สนาม ไปกินข้าวร้านนั้นด้วย โกหกกูเพื่ออะไรวะ” อาร์มเหวี่ยง
“มาเป็นชุดเว้ยเฮ้ย กูไปกับที่บ้านเองแหละ มีคนให้บัตรฟรีมา ตอนแรกที่ไม่ไปกับมึงเพราะมันแพงกูไม่มีตังค์บอกแล้วไง แล้วมึงตามสตอล์กเกอร์กูเหรอวะอาร์ม”
“มึงไปกับใครโจ๊ก”
“เอ๊าไอ้นี่ เพิ่งบอกแหม่บๆ ว่าไปกับเฮียน้าจอมผู้ปกครองกูเอง พ่อกูน่ะมึงรู้จักไหม พี่สมบัติด้วย”
ชักไม่ชอบใจ ถามดีๆ ก็ได้ไม่ต้องกรรโชกโฮกฮาก
ยังกับเมียน้อยตามจับเท็จสามี
“แล้วไอ้นานาชาติหัวแดงนั่นล่ะ มันเสนอหน้าไปด้วยทำไม”
“เชรี่ย! ไม่อร่อยเลยโว้ย” ผมหงุดหงิดทิ้งพวงเครื่องปรุงโครม
อุตส่าห์หนีนุ้กมาเจออาร์ม
วันนี้เกิดอาเพศอะไรวะตู
...
...
เย็นนั้นผมไม่มีกระจิตกระใจอ่านหนังสือสอบ
สวมสตั๊ดลงสนามทั้งชุดนักเรียน (อีกแล้ว)
เล่นจนหยดสุดท้ายไม่เหลือใครถึงป้อแป้กลับบ้าน
(“โฮ่งๆๆ”)
(“หงิงๆๆ” )
พวกสี่ขาแกว่งหางร้องงี้ดง้าดต้อนรับอย่างดีเหมือนเคย
อยากโยนขนมใส่หน้าพวกมันจัง แต่ตราข้างถุงบอกยี่ห้อความแพงระดับดาวจึงยั้งไว้
“มาล่ะ กับข้าวเย็นหมดแล้ว กินเลยไหมอุ่นให้ ทำอะไรอยู่ค่ำเชียว” คุณผู้หญิงรออยู่เสมอ
“หิว...” ผมก้มหน้างุดไม่ถอดเครื่องทรง ล้างมือนั่งโต๊ะจ้วงกับข้าวไม่รอเวฟ
“เป็นอะไรไปอีก เมื่อกี้พี่สมบัติเข้าไปดูเห็นเตะลูกโทษอยู่คนเดียว ประกาศทุนว่าได้แล้วไม่ใช่เหรอ กว่าจะทดสอบสมรรถภาพเสาร์หน้าก็เพลาๆ ก่อนก็ได้ เดี๋ยวเจ็บมาไม่ดี”
“ครับ...” ผมรับคำนิ่งๆ ยังเหนื่อยอยู่
“ถุงขนมใคร ปิงให้มาหรือทอฟฟี่ล่ะ น่ากินเชียว”
“ของไอ้เจฟ คนแอบชอบมันฝากมา”
“อ้อ แฟนคลับ กินแล้วเก็บล้างเลยนะ เจฟฟรี่กินกับเพื่อนแล้ว บอกจะกลับค่ำซ้อมอะไรไม่รู้ ไปล่ะละครมา” เจ๊ออกประตูหลังทะลุไปบ้านเล็ก เห่อดาราเจมส์จิจนลืมลูกหลานในไส้
ผมเดินออกไปหน้าบ้านเทข้าวให้หมา
พยายามแย่งชิงตำแหน่งเซเลปของฝูงสุนัขกลับคืนจากซากุระหงิร่างยักษ์
ร่ายเวทใส่คนไม่พอ หมาน่อยธรรมดาก็ไม่ละเว้น กลับมาจะเตะตูดให้
งงตัวเอง...
บ่จอยเรื่องอันใดวะ
มันก็อยู่ส่วนมัน
หมาก็ส่วนหมา บ้าชะมัด
...
...
สี่ทุ่มกว่า นอนไม่หลับ...
“ทำบ้าบออะไรยังไม่กลับมา โทรมาบอกหรือก็ไม่มี จะรู้ไหมว่ากูรอปิดบ้าน สัดเอ๊ย” ผมเหวี่ยง
คว้ากุญแจวิ่งลงมาข้างล่าง จับมอเตอร์ไซค์ชาลีคันเก่งจะออกไปตาม
จังหวะแท๊กซี่เขียวเหลืองจอดเทียบฟุตบาทพอดี
“จะไปไหน?” เสียงแหวกนรกดังขึ้น
“อ้าวมาพอดี มึงนั่นแหละหายหัวไปไหนมา ดึกดื่นเที่ยงคืนกูรอปิดบ้าน กุญแจไม่รู้จักเอาไป เดือดร้อนมากรู้ไหม”
“อยู่นี่ เข้ามารอบเมื่อบ่าย โทรศัพท์แบตหมดชาร์ตอยู่ข้างบน เขียนโน้ตไว้ไม่ได้เข้าไปดูเหรอ ฝากน้าจุ๋มบอกแล้วนะ”
“กูจะรู้ไหมล่ะ!” ลืมเข้าไปดูห้องไข่ไก่ จั๊ดหว่าวจริงๆ โจ๊กเอ๊ย
กระแทกเท้าโครมๆ กลับเข้าบ้าน กระชากถุงของฝากย้อนมาโยนใส่
“อะไร?”
“คนรักชอบสุดพิสวาสใจขาดดิ้นของมึงไง มีจดหมายฝากรักมาด้วย แหกตาดูซะ”
“อ้อ” หยิบซองชมพูหวานแหววจากในถุง “จะกินไหม?” ก่อนถามผม
“ไม่!” จะกระทืบให้เละสิไม่ว่า
“งั้นก็...น้ำแดง เจ้าแต้ม เจมส์บอนด์!” เรียกสมุนก่อนวางถุงหน้าบ้าน
ฝูงสุนัขดมๆ เลียๆ นิดหน่อยไม่ได้งับชิ้นใดออกไป
“เอ่อ...” เล่นงี้กันเลย ตูล่ะอึ้ง
“หมาไม่แดก ทิ้ง” เดินเขยกๆ เอาไปทิ้งถังขยะข้างถนน
จุดไฟเผาซองจดหมายฝากรักพร้อมยืนคุมเพลิงอย่างดี เอิ่ม...โจ๊กใบ้แดก
“นั่นแฟนคลับตัวยงมึงเลยนะ” อดสงสารแทน พรุ่งนี้นักเรียนเดินผ่านเจอซากถุงเต็มๆ ตา
“ทีหลังถ้าไม่เอาเองก็อย่ารับมา ห้าม!”
เราเข้าในตัวบ้านแล้ว เท้าแขนยันผนังกักร่างผมไว้ตรงนั้นเอง
ไม่ทันสังเกตว่าเดินแค่เขยกไม่ใช้ไม่ค้ำแต่อย่างใด
“ก็ใครใช้ล่ะ!”
“พูดไม่เข้าใจ”
“อุ๊บ...” มันจูบปากโจ๊กอะ หัวโขกผนังเจ็บโคตร
(“ผลัวะ!”) หนึ่งหมัด
“ไอ้ชั่ว!” แถมด่า
เหตุเกิดเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น
มันเชิดหน้านิ่ง ผมเม้มปากแน่น
จ้องตาฟาดฟันชั่วครู่แต่ราวชั่วกัปชั่วกัลป์ก่อนพระเอกวิ่งหนีขึ้นห้องไป
...
......
(ปึงๆๆๆ)
“โจ๊ก! เปิดประตู!”
“ไม่! ไปตายที่ไหนก็ไป!”
“โจ๊ก เปิดประตูออกมาพูดกันก่อน!”
“ไสหัวไปไอ้ชาติชั่ว กูไม่รู้จักมึง!”
“โจ๊กครับ!”
“ออกไปจากบ้านกู เด๋ว-เน้!” ดังลั่นสามบ้านแปดบ้าน
“...” เสียงทุบประตูเงียบลงก่อนจะ...
(ตึง)
“โอ๊ยยยยยย...!”
“...” ฉิบหายแล้ว ผมแนบหูติดประตูเป็นเนื้อเดียวกัน
“โอย...อา...”
นานมากกว่าจะได้ยินเสียงกัดฟันสะกดกลั้นอาการ
(แอ๊ด...)
ค่อยๆ แง้มเปิดออก ซากุระหงินอนหงายสองมือปิดหน้ากลั้นอาการเจ็บปวด
ขาข้างเจ็บหล่นอยู่ขั้นบันไดท่าทางสาหัส
“เจฟ...เป็นอะไรมากไหม” นาทีนั้นผมใจสั่นกลัวจริงๆ นะเออ
“F*uk #@ *$@ #*%# **^#&$”
ท่าจะเจ็บจริงไม่ใช้สลิง ศัพท์ไตเติ้ลฟักแฟงแตงโมไม่สามารถบรรยายไทย
พ่นออกมาเป็นพรวน รอจิระสอบวิชาภาษาอังกฤษได้เกรดสูงๆ ก่อนนะครับ
...
......
ยื่นยาแก้ปวดพร้อมน้ำให้คนป่วยบนเตียง
เพิ่งเห็นเฝือกขาวหนาเตอะถูกเปลี่ยนเป็นเฝือกอ่อนสีดำสนิทแล้วเรียบร้อย
มิน่าถึงเดินได้ไม่ใช้ไม้ค้ำ
“เจ็บแล้วยังซ่า เป๋ห่าวของจริงแน่งานนี้ กินยาซะ”
“โจ๊ก...เดี๋ยว...” เกร็งอาการแถมดึงมือผมไว้
“เอออยู่นี่ ไม่ไปไหนหรอก มีอะไร” โกรธแต่มีเหตุผลเว้ย คนอย่างจิระลูกผู้ชายพอ
“เจ็บหัวไหม โดนตรงไหน ขอโทษด้วยรุนแรงไปหน่อย”
“อ้าว มึงไม่ได้จะขอโทษที่ เอ่อ...” เผลอปลายนิ้วแตะริมฝีปาก ความรู้สึกยังร้อนผ่าว
“จูบคุณอันนั้นผมตั้งใจ ที่เสียใจคือทำคุณเจ็บต่างหากเล่า”
“อะไรวะ!?” ผมไหม้คึ่กสุกทั้งตัว
ตั้งใจเชี่ย เกร็งพลังลมปราณมาเพื่อจูบปากกูนี่นะ
บระเจ้าช่วยกล้วยทอด กรุณาฟาดฟาดโจ๊กด้วยไอศกรีมช็อกชิพที
“มานี่...เพี้ยงหาย โอ๋ๆ”
“เด็กสามขวบล่ะ”
“ชู่ๆๆ คนเก่งหายเจ็บนะครับ” เป่าลมแผ่วเบาบวกจูบแช่ที่ขมับ
คือ...อยากบอกว่าตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยจนคำพูดเช่นนี้มาก่อน
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจริงๆ สาบาน ไม่นับสตั๊นตอนจุ๊บเหม่ง
ตาเหลือกตอนหอมแก้ม (ใครเมมไว้กรุณาดีลิททิ้งซะดีๆ ; โจ๊กครับ)
“หัวโนเลยสัด” ไปไม่เป็นไง
“ไหนดู โอ้โห! ปูดแดงเป็นลูกแตงโม เลือดออกด้วย สมองไหลความจำเสื่อมตายแน่ๆ”
“ไอ้บ้านี่!” รีบคลำหลังหัวตัวเอง ถูกหลอกเต็มเปา
“หึหึ น่ารักกว่านี้มีไหม” กอดรัดโอ้โลมเห็นโจ๊กเป็นเด็กตัวเล็กๆ
“งั้นก็รักซะซิ อย่าเรื่องมาก” เล่นมุกแก้เขิน
ผมว่าถ้าเป็นหมาคงแกว่งดิกๆ
ฝรั่งเป่าปากก่อนบอกประโยคฟ้าผ่า
“ฟู่...ผมรักคุณ”
“หอกล่ะ พูดแมวๆ”
“ผมรักคุณ...จิระ”
รอยยิ้มฉาบทาในแววตาหวานเชื่อม
แรงดึงดูดจากนัยน์ตาสีเทาช่างแรงกล้าจนฉุดหัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำ
...โลกทั้งใบหยุดหมุน
...เลือดสูบฉีดไม่พอ
...ออกซิเจนขาดตลาด
...เซลล์สมองไม่ทำงาน
“ล้อเล่นหรือเปล่า พูดพล่อยๆ ท่าทางอยากกินอีกหมัด ได้จัดให้”
“ฟ้าเป็นพยาน ผมตกหลุมรักคุณเข้าแล้วครับโจ๊ก” ในหัวมีระฆังใบเล็กจิ๋วสั่นกระดิ่งกิ๊งกั๊งไม่หยุด “จูบสาบานนะ”
โน้มลงมาหาไม่รออนุญาต จมูกสูดกลิ่นแก้ม
เลื่อนริมฝีปากแตะมุมปากผมเบาๆ ก่อนเคลื่อนทับกลีบปากนุ่มนวล
ละเลียดชิมไม่ได้ล้วงลิ้นมากมายแค่แตะไรฟันเล็กน้อยเท่านั้น
คล้องแขนกอดคออีกฝ่าย เต็มใจโอนเอนเข้าหา
สมยอมจูบตอบดูดดุนบางเบา ตกอยู่ในเวทมนต์พ่อมดสะกดพลัน
“มะ...มีผีเสื้อบินในท้องกูด้วย เป็นร้อยๆ ตัวเลยเชรี่ย” ผมพึมพำบอกอาการ
เพิ่งรู้ตัวว่าอ้าปากหอบอากาศอย่างเอาเป็นเอาตาย ตัวอ่อนไหลเอนไปกับอกแกร่ง
“หึหึ”
“ตาฝาดเห็นสีขาวเต็มไปหมด จะตายไหมวะ”
“555” วงแขนรัดร่างผม โยนตัวเล่นไปมาด้วยกันเป็นเด็กๆ
“ตายแน่ๆ เลยเจฟ อือ...” ผมกอดตอบ มุดซุกหลบหน้าไหม้ให้สูดกลิ่นน้ำหอมเจือจางจากอีกฝ่าย
เขาจูบหน้าผากอ่อนโยน
ปล่อยกายลงกับที่นอนพร้อมเอ่ยกระซิบผ่านม่านรัตติกาล
“ผมรักคุณ ราตรีสวัสดิ์ครับ...จิระของผม”
*************