จิระxจิระ
ตอน 13 My love
ผมอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติท้ายซอย ฝรั่งมีนัดเช้ากว่านั้นแต่ตื่นสายทั้งคู่
จอดชาลีคันเก๋าก่อนจะรับฟังบรรยายสรุปในเวลาเกือบเก้าโมงเช้า
“กล้องเอาไป วิดีโอไม่ต้องจะใช้น้อง อ้อ บัตรคล้องคอ” มือใหญ่ไล่เรียงอุปกรณ์ในถุง
“บัตรอะไร สตาฟช่างภาพ วู้ไม่เอา จะเดินดูแป๊บๆ ก็กลับล่ะ” โจ๊กกะมากินฟรี เหล่สาวๆ ลูกครึ่งเป็นอาหารตาก่อนชิ่ง
“อยู่จนถึงขึ้นเวทีสิบโมงพอ ค่าจ้าง อืม...เท่าไหร่ดี” หรี่ตาหลอกเด็กสามขวบ
“ห้าพันขาดตัว” ป๋านักเดี๋ยวเจอ แอบตงิดว่ามีการแสดงอะไรแต่หยิ่งไม่ถาม
“ห้าร้อยพอไหว” ต่อซะศูนย์หาย
“โด่งก พันนึงให้ไวไม่งั้นกลับ หาวินมอเตอร์ไซค์แถวนี้เอาเองละกัน”
“พันนึงต้องอยู่ใกล้ๆ ห้ามหายหัว”
“ไรว้า”
“แค่เสร็จสิบโมงครึ่ง จากนั้นฟรีตามสบาย” น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมดวงตาทอดแววอ่อนโยนเกินร้อย
“ค่อยใจหน่อย” ผมพยักหน้าตกลง
จะฉวยเป้อุปกรณ์มาถือกลับถูกเป๋ห่าวที่เดินเขย่งคว้าคอไม่ให้หยิบเสียก่อน
พยุงพาไปไหนไม่รู้ห้ามเอาไปขายเป็นพอ
....
.....
ห้องเรียน อาคารไหนสักหลังในอาณาบริเวณโรงเรียนหรู
“Jeffry is coming! #$@#%#^$&%”
ร้องทักทายว่าเจฟฟรี่มาแล้ว กำลังจะออกไปตามอยู่พอดี
ภาษาปะกิตมาเองครับ เจอใครไม่รู้ล้งเล้งท่าทางดีใจ
โจ๊กโดดหลบหลังยักษ์อย่างเดียว นึกได้ว่าพวกนี้อริเก่ายกโขยง
“Not yet 9 o’clock.”
“I’m not really excited, you know!”
“Ya, I know...” หัวเราะหึหะทำแป๊ะ เพื่อนหัวแดง (ผมสั้น) ทำหน้าปวดขึ้ขนาดนั้น
“Hey, That is...” อย่ามาทางนี้ “ใช่ไอ้เกรียนเด็กวัดคู่กัดมึงนี่หว่าเจฟฟรี่” เปลี่ยนพูดไทยใส่ไม่ว่าแต่อย่าบังอาจกับจิระ
“ทำไม มีปัญหา” เดี๊ยะเจอโจ๊กจัดให้
“NO! NEVER MIKKY!”
ถูกกอดรวบจากข้างหลัง ผมเซแทดๆ ปะทะแผ่นอกเสาไฟฟ้าเต็มรัก
“He is mine!” ประโยคนี้รู้แฮะไม่ต้องแปล
“...” เกิดความเงียบชั่วขณะ โลหิตตู้ข้าวิ่งขึ้นหน้าหมดเกลี้ยง
“ฮิ้ว!”
“ปิดปิ๊ว!”
“555” ทั้งห้องหัวเราะทำด๋อย
“It’s mine 555” พ่นอะไรไม่รู้เรื่อง
“อ้าวโจ๊ก มาเที่ยวด้วยเหรอวะ อย่าลืมรอดูเราขึ้นเวทีนะ เพลงสุดท้าย...ท่านกำลังเข้าสู่...”
“เฮ้ยเอเจ เอาวิดีโอไปให้พวกนั้นที” เจฟยื่นอุปกรณ์เบรกเอเจผิวหมึก
“เฮ้ยเตี้ย มีกล้องแล้วถือทำแมว ถ่ายรูปหน่อยซิวะ” ใครบางคนสวมสีขาวทั้งชุดประมาณเดวิด เบคแฮมมาเอง
“คอกู เชี่ยเหยี่ยว!” ไอ้หัวแดงตาขวางใส่ผมเมื่อกี้ถูกเพื่อนคนที่ว่ากระชากคอไปตีเข่าครับ
จำได้ล่ะ ไอ้หล่อบรรลัย หล่อบัดซบ หล่อนรกสร้างไม่บันยะบันยัง
ฉายาเซเลปของหัวโปกแก๊งหนูนุ้กนั่นเอง
ได้ข่าวว่า TCK ทอฟฟี่ แคทแอนด์ไก๋ก็แฟนคลับหมอนี่ด้วยเช่นกัน
“เหยี่ยว เขามากับกู”
“อ้อ ถ้ามากะกูแบบนี้แสดงว่าต้องดูแลเป็นพิเศษ หึหึ” ไอ้นกกระจิบชื่อเหยี่ยวลูบปากกะลิ้มกะเหลี่ย
“โอ้ว้าว คุ้นๆ ว่านี่คือใครเอ่ย” ผมดำสวมหมวกขาว จำได้ว่าน่าจะชื่อต้นเพราะสมัยก่อนเลือดร้อนว้อนท์บาทาโจ๊กมาก
“อ้าว ใช่ที่อยู่โรงเรียนข้างหน้าหรือเปล่า เรากาย นี่ต้น เหยี่ยว หัวแดงผมสั้นนั่นมิกกี้ แล้วนายรู้จักเอเจด้วยเหรอ”
“You have talked with?”
ต้นเหล่เชิงปรามกายประมาณพูดดีกับผมทำแป๊ะ
ไม่ต้องฟังออกก็อ่านภาษากายได้เว้ย
“Jeffry is...เอ้ยโทษที มากับเจฟฟรี่ก็เพื่อนซิวะ ดีกันแล้วน่าต้น ไม่มีอะไรหรอก ตามสบายนะ” กายพยักพเยิดกับผมทำนองขอโทษเรื่องภาษาก่อนคุยกับต้นซึ่งมองผมยิ้มๆ กวนบาทา
“...” ใจผมกระตุกแปลบๆ คนนี้ที่ชื่อ...กาย
...
โคตรจะไม่ใช่ที่ของผมเลย
หันหลังกลับก้าวพรวดๆ จะปิ๊กบ้านท่าเดียว
“เฮ้ๆๆ หยุดก่อน”
“หยุดพ่อง!”
“ผมขอโทษ แต่ฟังนิดได้ไหม”
“ไม่!”
“อีกไม่ถึง 30 วันผมก็ไม่ใช่นักเรียนโรงเรียนนี้แล้ว กับเพื่อนก็ยากจะเจอกันแบบนี้อีก นี่เป็นกิจกรรมสุดท้ายของพวกเราก็ว่าได้”
“All of us...yesterday once more~” ไอ้เหยี่ยวตามมาลอยหน้าลอยตาร้องเป็นเพลงกับบานประตูทว่ากระแทกรูหูเต็มๆ
“ก็ได้ ค่าจ้างแพงนะเว้ย ข้าวฟรีขนมฟรีไม่อั้นด้วย” ผมเปลี่ยนใจ
“โอเค หึหึ”
“ถึงไม่กินวันนี้ กลับจากสระบุรีก็ต้องมีทุกวัน ห้ามเบี้ยว”
“โอเคๆ 555”
แค่มันหัวร่อขำๆ แค่นั้น พวกในห้องหันมามองเราเป็นตาเดียว
ไม่เคยเห็นคนบ้าหรือไร
“ขุนให้อ้วนแล้วก็...จุดๆๆ” อันนี้ตัวเสือกชื่อเหยี่ยวตามองเพดานอีกแหละ
“เสือกอะไรวะ!” โจ๊ก
“Shut up, Yeaw!” เจฟ
“ถ่ายรูปไง รออยู่ เร็วสตาฟ!” เหยี่ยวร้อง
ตัวสูงหุ่นนายแบบกอดคอกันเองวอแวให้ผมกดชัตเตอร์
แล้วเหยี่ยวนั่นแหละเที่ยวอ้อล้อคนโน้นคนนี้เรียกผมทำหน้าที่ช่างกล้องจำเป็นต้อยๆ
ไล่เจฟไปแต่งตัว แค่แป๊บเดียวก็ได้เวลา...
“Show time!” ใครบางคนหักมือกรอบแกรบ
“เลดี้แอนด์เจนเทิลเมน ณ บัดเน้ ได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์ที่เราจะได้จัดส่งตัวนางสาวแกงไก่กับนายพิซซ่าหน้ากุ้งจะได้ทำพิธีมงคลสมรสกัน เชิญแขกท่านผู้มีเกียรติรับชมและรับฟังได้ ปรบมือ เฮ้!” ผมอยู่ข้างๆ ฉากทางออกเวที กำลังพากษ์ล้อเลียนพิธีกรสปีคภาษาอังกฤษด้านหน้า
“พูดอะไรคนเดียว ถ่ายรูปกูเยอะๆ ล่ะถ้าไม่อยากโดน”
“งั้นเมมโมรี่กูหมดล่ะ”
“โธ่ๆๆ น่านะเกรียนนะ แม่กูอุตส่าห์มาจากซิดนีย์เชียว คนชุดเขียวๆ ตรงนั้นน่ะ” หัวแดงผมสั้นเปลี่ยนสี น่าจะสนิทคนง่ายขึ้นพ่อขุนมาแต่ไกล
“ค่าตอบแทน?”
“สั่งเจฟฟรี่เปย์มึงตลอดชีวิตเลย มันมีคนอื่นเมื่อไหร่เดี๋ยวจับเชือดให้เอง รักเดียวใจเดียวจะตายเชื่อกู”
“เหว่ย...กูควรจะดีใจไหมเนี่ย” พูดจาอันใดโจ๊กบ่ฮู้เรื่อง สงสัยหมอนี่คงตื่นเต้นจนเพี้ยน
“Mikky, out...” นิ่มๆ แต่ทรงอำนาจ เป็นใครไม่ต้องเดา
ผมยาวแดงมัดครึ่งหัวเปิดใบหน้าหล่อเท่เกินใคร
ขอโทษเถอะน้อยกว่าผม วะฮะฮ่า
ชุดขาวกางเกงแสลคขาบานเล็กๆ คลุมเฝือกสีดำจนมิด
เสื้อกล้ามกับเสื้อสูทพับแขนไม่ติดกระดุมโล่งแจ้ง
โชว์เท่แบบเจมส์ ดีนผสมเอลวิส เพลสลี่ย์ภาคมาร
...
“คิดว่าเท่ตายล่ะ”
“หึหึ โฟโต้” ปั้นหน้าเก๊กหล่อรูปเดียว ที่เหลือ...
“555” ผมขำก๊ากกดไม่นับ ถ้าเจ๊เห็นนายแบบเก๊กหลุดอย่างนี้คงช็อกน่าดู
ฉับพลัน...
ดึงผ้าม่านห่อร่างพลางดันผมติดผนังหลบสายตาคน
ซึ่งตั้งแถวเป็นหาบจำนวนคนประมาณทีมบาสเกตบอล ม.ต้น ม.ปลายรวมกันได้
(โจ๊กมองไม่เห็นเอง ไม่ใช่พวกนักแสดงตาบอดหรอก)
“Give me luck...” จุ๊บเหม่งอีกล่ะ ถามว่าอายไหม มันหน้าตายเฉยๆ ไร้อาการส่วนผมอยากมุดดินหนีที่สุด
“โทษที ขอมือที่สามแป๊บ” มิกกี้โฉบมาพูดไทย ยักคิ้วยิกๆ กวนส้น
“อะไรวะมิกกี้ เดี๋ยวนะ...เห็นบันไดนั่นไหม ลงไปหน้าเวทีได้เลย อย่าไปไหนไกล อยู่ไหนต้องให้เห็นเข้าใจไหม”
“เออน่า” จะอะไรนักหนา ผมผละจากบอยแบนด์ไปที่ตั้งตามคำสั่ง
“We have change something, this is your lyrics.” เหยี่ยวพูด
“เฮ้ย!” ฝรั่งร้องตามหลังให้ได้ยิน
[I Want It That Way : Backstreet Boys]
http://www.youtube.com/v/4fndeDfaWCg(เสียงเครื่องบินวู้ดซ่ามาพร้อมกับ 5 คนชุดขาวกับสทูลสูงสีขาวเรียงหน้ากระดานเต็มเวที)
(กาย)
“~You are, my fire...The one desire
Believe when you say...I want it that way”(เหยี่ยวนิค วาดท่าทางอย่างหล่อ คนชูไม้ชูมือร้องกรี๊ดถล่มทลายมากกว่ากายหลายเท่า)
“~When we are two world
Apart can’t reach to your heart
When you say...I want it that way”(ท่อนฮุก 4 คนเต้นท่าคัฟเวอร์พร้อมกัน ยกเว้นเจฟฟรี่จับไมค์นั่งร้องอยู่กับเก้าอี้ทรงสูงอยู่คนเดียว ตรงกลางอีกต่างหาก)
“~Tell me why ฮ่าๆๆ” (เจฟฟรี่หลุดหัวเราะขำเพื่อน หลบไมค์แต่ยังดังก้อง ทั้งฮอลล์ร้องชื่อ ‘เจฟฟรี่’ กรี๊ดกร๊าดปางตาย คนดูช่วยกันเปล่งเสียงกระหึ่มให้โชว์สเต็ป)
(ผู้ชม)
((“~Ain’t nothing but a heartache, Tell me why
Ain’t nothing but a mistake, Tell me why
I never wanna hear you say, I want it that way”)) (ต้น)
“~Am I, your fire...Your one, desire
Cuz I know, It’s too late...But I want it that way”(บอยแก๊งเต้นท่อนฮุกเรียกเสียงกรี๊ดอีกแล้ว)
“~Tell me why...”(เจฟฟรี่ร้องแบบดูโน้ตเล็กๆ ในมือก่อนขยำทิ้ง)
“~Now I can see that we’re falling apart
From the way that we use to be, yeah
No matter the distance, I want you to know
That deep down inside of me” (ชี้มือมาที่ผมตรงเผง ลืมถ่ายรูปเลยตู)
(มิกกี้)
“~You are, my fire...The one desire...You are...” (เหยี่ยว)
“~Don’t wanna hear you say, yeah eh” (เต้นท่าท่อนฮุกอีกรอบ ปล่อยเจฟฟรี่ร้องใส่ไมค์น้ำเสียงโดดเด่นที่สุดก่อน 4 คนชี้มือส่งให้ร้องประโยคจบของเพลง)
(เจฟฟรี่)
“~Cuz I want it that way... “ ดวงตาสีเทาจับที่ผมไม่วาง
น่าจะตลอดเวลาที่อยู่บนเวทีนะผมว่า
...
...
ต่อจากนั้นคือเพลง [Wolf: EXO]
น้องเด็กละอ่อน ม.ต้น ยกทีม เสื้อเบสบอลสีแดงโร่กับเต้นคัฟเวอร์ท่าต้นไม้
แต่ตั้งแถวก็มีเด็กเอนตัวล้มลงตะครุบกบคนหนึ่ง เสียงตุ๊บดังมากเล่นเอาคนดูฮาลั่นฮอลล์ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเพลงดี
เพลงที่สาม [Baby : Justin Bieber ft. Ludacris]
น่าจะเป็นรุ่นน้อง ม.ปลายทีมตัวจริง เพราะท่าเต้นแข็งขันตั้งใจมาก
คนกรี๊ดไม่หยุด ชูมือถือถ่ายคลิปสนั่น
ผมต้องปีนกลับขึ้นไปหลังเวทีหนีความคลั่งไคล้ของฝูงชะนี
เพลงสุดท้าย [ขอใจเธอแลกเบอร์โทร : ศิลปิน หญิงลี ศรีจุมพล]
http://www.youtube.com/v/CKDwsFbq1_cนักแสดงทั้งหมดเมื่อครู่รำเซิ้งขึ้นมาเลย กระจายตัวอยู่กับกลุ่มคนดูเต้นท่าหญิงลีสนั่นลั่นจอ ยิ่งช่วงท่อนแซบ...
(“~ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝาก หัวใจ
ลงทะเบียนฝากไว้ตัวเอากลับไป ใจให้เก็บรักษา
ยอมจำนนเธอแล้ววันนี้แค่แรก เห็นหน้า
ฝากไว้กับฉันนะหัวใจของเธอ แลกเบอร์โทร โอ๊ะ โอ โอย~”) คนดูโดยเฉพาะน้องๆ เกย์ตุ๊ดแดนซ์แข่งกับนักแสดงด้วย เก่งกว่าอีก
คนดูแห่แหนเข้ามาชมแทบเหยียบกันตาย
เรียกว่าแย่งซีนวงดนตรีที่เล่นเพลงร็อกก่อนหน้าผลสกอร์ชนะขาดท่วมท้นอย่างเป็นเอกฉันท์
...แต่ผมไม่เห็นยักษ์หัวแดงในเพลงนี้
...
...
ร้านส้มตำไก่ย่างชื่อดังสาขา 2 หรือ 3 ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติ
ขะน่อยกำลังปั้นข้าวเหนียวจิ้มแจ่ว บ่ใช่ล่ะ
โจ๊กอยากกินมีทโลฟ มักกะโรนี เปปเปอร์โรนีพิซซ่าอะครับ
กลับถึงถูกลากคอมานั่งแหมะอยู่ตรงกลาง
ขนาบข้างด้วยหัวแดงผมสั้นคน ผมยาวคนตรงนี้ด้วย แง!
“ไงมึง ทำหน้าโจ๊กๆ หน่อยซิวะ ร้านดังนะเว้ย เพิ่งมาเปิดไม่ถึงอาทิตย์ กูก็เพิ่งจะเข้ามากินนี่ล่ะ” กูรู้ ย่านนี้แถวบ้านกูเองไม่ต้องบอก
“กูเลี้ยงพันนึงที่เหลือพวกมึงหาร ในฐานะผู้กอบกู้ชาติจริงไหมเจฟฟรี่ 555” ไอ้ขี้เหร่บัดซบชื่อเหยี่ยวนั่งหัวโต๊ะประกาศ
ได้ข่าวว่าไอ้นกกระจิบนี่เองตัวตั้งตัวตีลากเพื่อนก๊วนออกมา
เหตุผลง่ายๆ ว่ากูอยากกินไก่ย่าง
“เออ บังอาจเปลี่ยนเพลง หึหึ” ร่างสูงนั่งขวามือของเหยี่ยว อีกมืออ้อมหลังดึงเอวผมไปแนบชิด
ย้ำว่าจิระแทบนั่งเกยกัน ที่ตั้งกว้างนะพ่อ
“เลี้ยงเลยเหยี่ยว เพิ่งเห็นเจฟฟรี่หน้าเหวอ ร้องเฮ้ยอย่างดังฮามาก 555”
“YES!” เหยี่ยวเทคมือกับต้นที่นั่งข้างๆ
เพลงถูกเปลี่ยนในวินาทีสุดท้าย เพื่อนทุกคนรู้หมดยกเว้นเสาไฟฟ้า
ที่ยื่นให้คือเนื้อเพลงของวงแบ๊คสตรีทบอยส์
แทนที่จะเป็นเพลง ‘My Love’ ของวงเวสต์ไลฟ์เนื่องจากพวกนี้ซ้อมใหญ่มาก่อน
การแสดงถูกปล่อยเป็นคลิปมา 2-3 วันให้ผู้ชมอื่นได้ดูกันหมด
มีคนกดไลค์หลายหมื่น เหยี่ยวตัวเอ้เห็นว่าวันจริงการแสดงจะจืด
บวกทุกคนอยากแกล้งเป๋ห่าวช่างบังคับด้วยจึงเปลี่ยนเป็นเพลงนี้แทน
“แล้วรู้ไหมทำไมกูถึงใช้เพลงมายเลิฟ” เจฟ
“ว่า?”
“เออ ทำไมวะ”
“เพลงนี้สนุกกว่าตั้งเยอะ”
“เพราะมันจืดไง เมโลดี้ง่ายๆ ไม่เต้น นั่งร้องบนสทูลอย่างเดียว กะส่งให้พวกน้องๆ โชว์ EXO เต็มที่ พวกมึงโดยเฉพาะเหยี่ยวเสือกทำพัง”
“555 ไม่รู้นี่หว่า ช่างเถอะสนุกว่ะ มันส์ๆ ส่งท้ายจบ” เหยี่ยวชิล
“แอบซ้อมท่ากันตอนไหนวะ พร้อมชิบ” ถามเพื่อนแต่มือใหญ่ลูบหลังเอวผม
“ซ้อมหลังมึงกลับ 2 คืนติด คิดดู ไอ้ต้นจะเอาเทปมาปิดกูด้วย กลัวปูดกะมึง สัดต้น” มิกกี้ด่า
“555” ทุกคนหัวร่อ
“ดูไหม ฮาดี” กายนั่งตรงข้ามผมเปิดแทปเล็ตยื่นให้ดูวิดีโอเพลง My Love ที่ว่า
ห้าคนกับเก้าอี้ทรงสูงเหมือนการแสดงวันนี้เป๊ะ
แต่ทุกคนจับไมค์นั่งร้องเพลงเรียบร้อย ไม่มีกระโดดโลดเต้นใดๆ
[My love: Westlife]
An empty street...An empty house
A hole inside my heart
I’m all alone and the rooms are getting smaller
So I say a little prayer
And hope my dreams will take me there
Where the skies are blue
To see you once again, my love(จริงครับ คลิปเพลง My Love ติดชาร์ทเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์
คนทั่วไปจำได้มากกว่าเพลงที่แสดงวันงานเสียอีก
ผมก็จำเพลงของเวสต์ไลฟ์มากกว่าด้วย ; โจ๊ก)
...
เกือบทุกคนพาดสูทขาวกับพนักเก้าอี้ เหลือเสื้อยืด เชิ้ต หรือเสื้อกล้ามขาวยกโต๊ะ 5 คน
พนักงานบวกคนในร้านมองโจ๊กติ่งแดงอยู่คนเดียว
โอ้ว้าวรู้สึกเป็นที่สนใจ (=”=)
“กล้องอยู่ไหน เอามาเดี๋ยวโหลดเอง” มิกกี้นั่งเก้าอี้ฝั่งซ้ายมือผมขอกล้องไปจัดการเองเสร็จสรรพ ท่าทางเซียนแก็ดเกตพอตัว
“กินอะไรสั่งเลยนะไม่ต้องเกรงใจ” กายใจดีกับผมเกินจำเป็น
“หะ...หา...” ใจกระตุกเงยมองเห็นกายยิ้มให้อยู่
“บอกว่าอยากกินอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ออกให้เอง ค่าช่วยถ่ายรูปให้” กาย
“อ๋อ เอ่อ...” ผมมือเย็น จะออกปากสักคำช่างยากเย็น
“กูเองกาย” ยักษ์หัวแดงเอ่ยเรียบๆ แต่เสียงเย็นยะเยือกจนรู้สึกได้
ผมก้มหน้างุดไม่อยากจ้องใครโดยเฉพาะคนนั่งตรงข้าม
เคยเจอกายในแก๊งพวกนี้ช่วงท้าตีท้าต่อยกัน
ถ้ากายอยู่ด้วยจะเป็นคนห้ามเพื่อนๆ ไม่ให้วู่วาม จำกายได้จากตรงนั้น
จังหวะใจเต้นไม่เป็นส่ำจนหงุดหงิดตัวเอง
“เซ็งว่ะ พอจะจบร้านนี้ถึงเพิ่งมาเปิด ทุกทีเราต้องถ่อไปกินถึงเมืองนนท์ ให้มันได้อย่างนี้” เหยี่ยวตบโต๊ะ
“บ้านมึงอยู่แถวนี้ก็มาบ่อยๆ ซิวะเหยี่ยว ปิดเทอมเดี๋ยวกูบินจากเมกาเพื่อมากินร้านนี้กับมึงก็ได้เหยี่ยว” ต้นท่าทางรักเพื่อนไม่สมกับหน้าตาเหี้ยม
“ฝากซื้อส่งไปซิดนีย์ด้วย ขี้เกียจแต่อยากกิน ตำลาวนะ” มิกกี้
“กว่าจะถึงคงเซ็งได้ที่เลยมิกกี้ เหม็นปลาร้าทั้งเครื่องบิน”
“555 เขามีแบบผงส้มตำด้วยนะเว้ย เรื่องจริงไม่ได้โม้”
แต่ละคนคุยถึงจานอาหารกันโฉงเฉง ท่าทางชอบเมนูอีสานมากเป็นพิเศษ
ยังมีช่อดอกไม้ กรอบรูปปลาคาร์พ ต้นไผ่เงินไผ่ทองของขวัญ
แสดงความยินดีเริ่มเปิดร้านใหม่มีวางอยู่ ผมเจ้าถิ่นก็เพิ่งเห็นร้านนี้เหมือนกัน
“เฮ้ยเตี้ย ไส้ตันทอดอร่อย ขึ้นชื่อต้องซุปหน่อไม้ ลองแล้วจะติดใจ” เหยี่ยวหันมาเล่า
“แต่ลวกจิ้มโคตรแซบ ลืมไม่ลงแน่นอนรับประกัน” ต้นเปลี่ยนเป็นญาติดีกับผมแล้ว
“อืม...” ผมพยักหน้าส่งๆ พยายามบังคับลูกกะตาไม่ให้มองกายที่ระบายยิ้มอยู่
“โจ๊กกินเผ็ดไม่ได้ก็บอกนะ ร้านนี้รสจัด” เป็นครั้งแรกที่กายเรียกชื่อถูกต้อง ผมเผลอเงยมอง
v
v
v
(ปึง!)
v
v
v
"กูไปล่ะ ลืมเอาใบนัดหมอ ลุก” กำปั้นทุบโต๊ะเสียงดัง
“เอ่อ...” เหวอยกก๊วน มีมิกกี้ขำๆ อยู่คนเดียว
“เฮ้ยเจฟฟรี่อยู่กินก่อน กูพามึงไปหาหมอเองไง ไอ้ต้นจะเอาใบรับรองแพทย์ด้วย ออกไปพร้อมกันทีเดียว นั่งก่อนเตี้ย” เหยี่ยวรั้งไว้
“...” เงียบเว้ย
“อยากกินไก่ย่าง ทับทิมกรอบด้วย” ผมดึงมือใหญ่
ยอมนั่งลงง่ายดายแต่หุบปากเงียบมาก
รอยยิ้มอ่อนโยนเมื่อครู่เหมือนจะจางไป...รู้สึกอย่างนั้น
..
“ถ่ายรูปดีนี่หว่า ชอบรูปนี้กูหล่อดี แม่ก็สวยเชียว” มิกกี้ยื่นแท็ปเลตให้ดู
“กูชอบรูปนี้ว่ะ หน้าด้านข้างเห็นคนดูเป็นแบ๊คกราวด์ ขึ้นไปบนเวทีเพลงสุดท้ายใช่ไหม” ต้นชวนคุย
“เออว่ะ ใช่ นี่ไงท่าหญิงลี ไหล่กูกว้างกว่ามึงอีกเว้ยต้น”
“รูปนี้กูเท่ว่ะ เอาไปอัดดีกว่า” สองคนกำลังอวดม้าใครใหญ่กว่ากัน
“จ่ายมา” ผมเริ่มสนุก เออว่ะ ฝีมือใช้ได้เหมือนกันนะเรา
“ให้ไก่กลับบ้านตัวนึง พันธมิตรใหม่” ต้นเปย์ผมอย่างเต็มใจเต็มที่ น่าคบดีเหมือนกันพวกนี้
“สองเลยอย่างก ไส้ตัน คอหมูย่างกับลาบปลาดุกด้วย อ้อ ทับทิมกรอบ 4 นะ ตากูชอบ”
“โห พูดได้แล้วเอาใหญ่ ไม่น่าญาติดีด้วยเลยให้ตาย”
“555” ทั้งโต๊ะ
คิดในใจ ‘กินฟรี เสร็จโก๋’ อุอุ
....
.....
ในห้องขณะเกือบบ่ายโมง เราทั้งคู่แปรงฟันเสร็จพอดี
“มานี่...” ดึงผมเข้าไปกอด
“...” ผมหลับตาโอนเอนเข้าหา ซึมซับความร้อนระอุจากร่างกายอีกฝ่าย แนบฟังเสียงหัวใจเต้นแรงอีกดวง
“อย่า...” แล้วก็เงียบ
“อย่าอะไร?”
“จูบได้ไหม”
“เชี่ย เหม็นปลาร้าว่ะ ฮ้า...ได้กลิ่นไหม” พ่นลมหายใจรสมินต์ใส่หน้าไอ้ตัวชอบกอดชอบจูบเต็มๆ
“แหวะ 555” หัวเราะกว้าง ค่อยเป็นหมายักษ์ชื่อเจฟที่ผมรู้จักหน่อย
“เมื่อกี้เป็นอะไรนั่งเงียบ” ไม่ได้คิดจะง้อนะเออ แค่อยากรู้
“กลับมาให้จูบปากได้ไหม” ยังตามถามย้ำซ้ำๆ เป็นเด็กเอาแต่ใจ
“คิดอะไรกับกูหรือเปล่าเนี่ย เอะอะตบจูบ”
“ต้องให้บอก?” มีย้อน
“โห เป็นผู้หญิงได้ละลายกองอยู่กับพื้นเรียบร้อย” ผมไม่ได้หน้าแดงเลยจริงๆ สาบาน
“หึหึ อยากให้ละลาย ช่างเถอะแค่ผม...”
“ผมอะไร?” อยากรู้
“ให้ผมอยู่ใกล้ๆ ก็พอ...ได้ไหม” โอบเอวหลวมๆ ไม่บังคับ ไม่ดึงรั้ง แค่คล้องไว้เฉยๆ
“ทุกวันนี้ยังไม่ใช่อีกเหรอ รึต้องเห็นดาวก่อนถึงจะรู้สึก”
“โอย 555” ขำขันหลบหมัดจ่อใต้คาง
“ลงไปได้ยัง ไอ้ตองโทรตามแล้ว ไม่ค่อยเห่อเลยมันนัดบ่ายสามมาซะเที่ยง กินไก่อีกรอบดีกว่า เมื่อกี้ไม่อิ่ม ยังไม่ได้กินทับทิมกรอบด้วย เฮียกับเจ๊ไม่อยู่ด้วยหวานเราล่ะ ไปเถอะเร็วๆ” ผมลั้ลลาเต็มที่ จังหวะหัวใจเต้นแรงจริงทว่าอบอุ่น เลือดสูบฉีดดีกว่าเห็นๆ
...
ลงมาพบคู่ตองปิงรออยู่ก่อนแล้ว ตั้งวงกินข้าวเหนียวไก่ย่างกันอีกรอบ
เจ๊กับเฮียไม่อยู่ไปธุระสบายแฮ
...
....
ที่ลานหน้าโรงเรียนของเรา...
ปิง หัวแดงกับแก๊งหมาหน้าบ้านตามาส่งผมกับตองเพื่อออกเดินทางตามล่าหาความฝัน
“ไปถึงโทรมาด้วย น้าจุ๋ยเป็นห่วง ข้อความก็ได้แต่ต้องบอกว่าถึงแล้ว อยู่ไหน ทำอะไร พักเบรกหรือว่างก็โทรกลับมาทันทีห้ามอู้ อ้อ เติมเงินให้แล้ว ต้องใช้”
“โฮะ ครับคุณพ่อครับ”
“คุณจะไม่เป็นไร...โชคดี”
“แหงแซะ ไปได้ยัง” ผมตื่นเต้นปิดไม่มิด
“อย่าซน อย่าดื้อ อย่ามองใคร รีบกลับมาหาผมเข้าใจไหม”
“เยอะนะนี่” เกรงใจประชาชนหน่อยเถอะป๋า
“โชคดี...จุ๊บ!” ประโยคสุดท้ายที่ได้ยินของวันนี้
สองมือประคองก่อนจูบหน้าผากต่อหน้าต่อตาผองเพื่อนและอาจารย์ที่จะไปด้วยกัน
อันนี้โจ๊กไม่ชินสักทีครับ
ผมโบกมือบ๊ายบายผ่านกระจกรถตู้
พ่อมดชุดขาวอมยิ้มน้อยๆ ยกมือตอบอย่างเท่...จำภาพนั้นได้ติดตาไม่ลืม
...คนที่ทำให้มือเย็นเฉียบของผมกลับอุ่นเป็นปกติ
...คนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงเกรี้ยวกราดของผมค่อยๆ สงบลง
...คนที่ทำให้ผมเห็นทุกอย่างเป็นหน้าเขามากขึ้น...และมากขึ้นทุกวัน
*************
edit : เกือบสิบโมงเช้า
---tuckky เห็นล่ะ ท้ายซ้อย
แต่เช้าเชียว
---อรุณสวัสดิ์ rujaya
edit : สามทุ่มอีกที
---ใช่ choijiin นิค
เค้าฟีเวอร์แอรอนจนปล่อยไก้ตัวเบ้อเริ่ม 555
ท่องอยู่ว่าคาร์เตอร์คนพี่
เห็นเม้นต์แล้วขำตัวเองไม่หาย
แก้แล้ว ขอบคุณ
อ้อ เค้าจำฝรั่งเศสจนขึ้นใจจาก choijiin เตือนล่ะ
เขียนติดจากลมเหนือ ตอนลงอัพเขียนผิด แต่ในหนังสือมีคนอื่นช่วยแก้เลยไม่จำ
ผ่านไปตั้ง...เท่าไหร่ ถึงเรื่องรักนิดๆ ล่าสุดมั้งที่ choijiin ช่วยบอกเลยจำได้
มีอีกบอกนะ ขอบคุณมากๆ
