จิระxจิระ
ตอน 14 ...เจฟ...
ผมอยู่กับแก๊ง ณ sky nest รังนกในท้องฟ้าของเหยี่ยว
บ้านโมเดลหรูส่องสว่างกับกระจกรอบด้านกลางดงต้นไม้
ไม่ไกลจากบัานใหญ่ของ ‘นายใหญ่อินทรี’ ผู้เป็นพ่อ
เหยี่ยวพาเข้ามาอวดโมเดลกันดั้มตัวใหม่ในห้องหลังติดกัน
พื้นที่นอนและทำงานส่วนตัว น้อยคนที่จะได้เหยียบเข้ามาบริเวณนี้
หวงของระดับเทพยกเว้นกับผม
“เจฟฟรี่มากะกูหน่อย บังอาจทำให้กูเมาไม่ได้ กลัวปูดเรื่องมึงไม่ได้อยู่บ้านนี้เหรอ แล้วไปซุกหัวนอนที่ไหนมาวะ”
“My cave, not your business.” บอกเรียบๆ อย่ายุ่งถ้ำส่วนตัวของผม
ถ้าอยู่ตามลำพังเราทั้งคู่ใช้ภาษาอังกฤษตามลิ้นถนัดครับ
เหยี่ยวลูกเสี้ยวไทย เมกันผสมกรีกหรืออิตาลีไม่แน่ใจ ส่วนผมลูกครึ่งอังกฤษไทย
“ติสต์เข้าไป ขี้เกียจยุ่งกะมึงแล้ว ตามสบายเถอะ”
“555 My paw.” ผมตบบ่าขำๆ เหยี่ยวใช้ได้ตรงนี้เอง
“คืนนี้นอนที่นี่ล่ะ ไอ้กายก็โทรบอกที่บ้านแล้ว แปลกดีทุกทีไม่ค่อย”
“จะจบแล้ว อยากอยู่กับเพื่อนฝูงบ้างซิวะ”
“เออว่ะ ไอ้รักษ์กับเอเจจะตามมาตอนค่ำ เอเจรอเก็บร้านก่อน เก้ ซ้งกับพวกห้องสองจะมาด้วยนะเว้ย ท่าจะสนุกใหญ่” เหยี่ยวบอกปาร์ตี้
“อ้อ” ผมรับฟัง
แมวไม่อยู่หนูร่าเริง...
นักฟุตบอลไปทดสอบสมรรถภาพไกลถึงสระบุรี
ไม่อยากนอนคนเดียวจึงหนีมาเฮฮากับเพื่อน
ฉลองถอดเฝือก สอบเสร็จด้วยหลายอย่าง
หลักๆ คือเกรงใจน้าจุ๋ยทำกับข้าวให้ทุกมื้อ
ตื่นสายยังยัดเยียดใส่กล่องให้อีก
กลับดึกแค่ไหนก็เก็บไว้คอยท่า
นิสัยแม่ศรีเรือนจัดหรือเจ้าเด็กบ้าบอลชอบบ่นว่า ‘หิวๆ’ จนติดปากไม่ทราบ
ป่านนี้จะวิ่งบ้าพลังที่แคมป์จนหมดแรงข้าวต้มแล้วหรือเปล่า
แค่คิดถึงหน้าตาเหงื่อซกแต่สนุกมากมายก็ยิ้มออก
...
“ก๊อกๆ ท่านเจ้าของบ้าน ไอ้มิกกี้จะลงน้ำครับผม เมาแล้วเรื้อนกูขี้เกียจห้ามมันล่ะ” ต้นมาเคาะประตูกระจกแต่ไม่ก้าวเข้ามา
“บอกไอ้กายซิวะ ไนซ์กายไม่เคยเมา ตามเก็บศพเพื่อนอย่างเดียว” เหยี่ยวแนะนำต้น
“วันนี้ผิดคาดว่ะ กีรติฟุบเรียบร้อย”
“อ้าวเชรี่ย คงอยากเมาหนีภาระอย่างพวกมึงล่ะมั้ง ไปโยนห่วงยางกับเบาะข้างสระให้มันพอ พ่อบ้านกูดูอยู่”
“เคๆ” ต้นผละไป
“ครั้งก่อนเยี่ยวใส่ต้นเตย โดนหนามครูดเคยังไม่เข็ดนะไอ้นี่ กูโทรบอกพ่อบ้านเดี๋ยวเจฟฟรี่”
“อืม...” ผมเดินออกมารับลมชานพักข้างนอก มองเวลา 15.35 น.
นักกีฬาน่าจะพักเบรกบ้าง คิดถึงจึงโทรหา...
“อยู่ไหน”
(“เอ๊า อยู่เมกามั้งสัด อ๋อยเหนื่อยชิบ เมื่อกี้ตะคริวแดกด้วยเชี่ย หิวน้ำ! หิวข้าวววววว!”)
“หึหึ” ว่าแล้ว
(“ได้ข่าวว่าไม่ได้กลับไปนอนบ้าน กูไม่อยู่แล้วแรดเหรอป๋า”) แรงนะคนนี้
“คืนนี้ด้วย แมวไม่อยู่หนูร่าเริง” ผมยิ้มกว้างไม่รู้ตัว
(“ให้มันได้งี้”)
“แมวดื้อรีบกลับมาเร็วๆ”
(“แมวไหน แถวนี้ไม่เห็นสักตัว มีแต่หมาโฮ่งๆ โอยเหนื่อยไม่มีแรง หิวๆๆๆ ไปหาอะไรกินดีกว่าเฮ้ยมึงตอง ไปหาอะไรกินกัน หิว”)
((“ไปซิวะ รออยู่เมื่อไหร่จะคุยเสร็จ เฮ้ย โจ๊กเดี๋ยว!”)) เสียงตองลอดเข้ามาพร้อมๆ กับ
(“เฮ้ยตอง! ระวัง!”)
v
v
v
เอี๊ยดดดดดดดดด !!!
โครมมมมมมมมมมมม !!!
v
v
แค่ชั่วเสี้ยววินาที... (ติ๊ด!) มือถือถูกตัดสัญญาณ
“โจ๊กกกกกก!”
ผมตะโกนลั่น เรียกชื่อเดียวซ้ำๆ จนอยากขว้างโทรศัพท์ทิ้ง
เป็นเหี้ยอะไร !
เกิดอะไรขึ้นที่นั่น !
“ตองๆ ไอ้ตอง อยู่ไหนวะ” กดไล่รายชื่อ ตองไม่รับสายทำผมเป็นบ้า
“มีอะไรเจฟฟรี่?” เหยี่ยวเห็นผมมะงุมมะงาหรากับมือถือตัวเองอยู่
“เหยี่ยว มีรถให้กูไปสระบุรีได้เดี๋ยวนี้ไหมวะ” เราอยู่แค่รังสิตเฉียดๆ ลำลูกกาครับ สระบุรีเลี้ยวขวาแค่นี้จิ๊บๆ
“พี่จ๊อดไปธุระให้แด๊ดยังไม่กลับ ถ้าจะขับเองก็มีกระบะคนสวน เก๋งพ่อบ้าน อะไรอีกวะ”
“เอาแรงๆ หน่อยซิวะห่า!” ผมสบถ พยายามต่อสายถึงสองน้าที่บ้าน
ลืมถามเบอร์โทรของอาจารย์ที่คุมเด็กไปฉิบ
“ทำไม มีอะไร จะรีบใช้ก็ไปดูโรงรถ”
“เออ!” ผมกระชากเพื่อนออกวิ่ง
...
...
น้าจุ๋ยรับสาย ผมถามว่าทางค่ายที่สระบุรีโทรเข้ามาหรือเปล่า
น้าบอกไม่มีข่าวใดๆ โจ๊กโทรมาบอกล่าสุดคือเมื่อค่ำวานนี้
รายงานว่าไปถึงที่นั่นเรียบร้อยแล้ว
หยุดสูดลมหายใจตั้งสติที่หน้าโรงจอดรถ
ภาวนาว่าขออย่าให้มีเหตุร้ายใดๆ
แค่อึดใจเดียวตองก็โทรเข้ามา
จิระของผมดึงตองหลบรถบรรทุกที่วิ่งเร็วเข้ามา
พลาดเหยียบฝาท่อแผ่นคอนกรีตพังๆ หล่นลงไปจนข้อเท้าเจ็บ
ที่แย่กว่าคือลำตัวล้มลงกระแทกขอบกระบะต้นไม้ใกล้กัน
แขนน่าจะอาการหนักกว่าเท้า อาจารย์กับสตาฟกำลังนำส่งโรงพยาบาลวุ่นอยู่
“แล้วเขาเป็นอะไรมากมั้ย!” ผมเสียงดัง บ้าที่สุด เกิดกับใครไม่เกิด
(“ไม่รู้ แขนน่าจะหนักสุดล่ะกูว่า ข้อเท้าคงแค่พลิกหรือแพลงยังพอเดินไหว แต่มันกุมแขนร้องลั่นเลย”) ตองเสียงสั่น
“ไม่ถูกชนแน่ะนะ”
(“ไม่ เนื้อตัวไม่มีเลือด บาดแผลมีแค่ถลอกครูดกับคอนกรีตแถวนั้น มีสติดีไม่ได้เป็นลมอะไร ท่อแม่ง...ซวยชิบหาย รถบรรทุกน้ำก็เสือกวิ่งไม่ดูพวกกูเลยสัด เบรกแตกหรือเปล่าไม่รู้”) ตองด่ากราด
พูดว่ากำลังนั่งรถกับอาจารย์ตามไปอีกคัน
ผมสั่งให้ถามเบอร์โทรอาจารย์คนขับกับโรงพยาบาลที่กำลังจะไปด้วย
“เหยี่ยว กูจะไปสระบุรีแบบเร็วๆ ที่สุด มีคนเจ็บด่วน”
“อุบัติเหตุเหรอ จากัวร์คันนั้นเลยพี่ ทูฟาสต์ทูฟีเรียสถ้ามึงกล้า” เหยี่ยวจัดให้
ไม่ถามรายละเอียดสักคำแต่เปิดประตูเข้าไปนั่งด้วยกัน
“เฮ้ย! กูไปดูคน” ผม
“เรื่อง รถบิดากู มึงไม่กูก็ไม่” จะไม่ให้กุญแจ
“บ้าเอ๊ย!” ผมสบถฟักแฟงแตงโมรีบก้าวขึ้นนั่ง
พยายามสูดออกซิเจนเข้าปอดระงับอาการวู่วามขณะออกรถ
เห็นพ่อบ้านหน้าตื่นวิ่งตามหลังพร้อมตะโกนโหวกเหวก
แต่ผมไม่ได้ยิน ส่วนเหยี่ยวหัวเราะขำสะใจ
ชักปวดหัวกับสงครามเย็นพ่อลูกคู่นี้จริงๆ
“555 แด๊ดกูดิ้นแน่” ไอ้นี่
“กูคล้ายๆ จะเป็นหนังหน้าไฟให้มึงเล่นสนุกอยู่ใช่ไหมเหยี่ยว” ผมขำตาม สติถูกดึงไม่หมกมุ่นคิดร้ายจนเกินเหตุ
“Yes! รู้ก็ดีแล้ว ฮัลโหลคุณอาครับ ผมมีเรื่องจะไปสระบุรีด่วน ใช้คัน X6 นะบอกนายใหญ่คุณอาด้วย/...../ อ๋อ มากับเจฟฟรี่ เพื่อนเจ็บเข้าโรงพยาบาลเมื่อกี้จะไปดู/...../ ไม่ได้ขับเองครับ ได้ครับ” เหยี่ยวโทรหาเลขาของพ่อ รู้จักขายผ้าเอาหน้ารอดฉลาดแกมโกงพอตัว เรื่องกะล่อนไม่ต้องสอนครับ ฝังอยู่ในกมลสันดาน
“ว่า?” ผม
“จะให้เปลี่ยนรถที่ปั๊มแถววังน้อย พี่จ๊อดจะไปดักเจอแถวนั้น กูบอกถ้าเห็นก็เปลี่ยน ไม่เห็นก็ไม่"
"ได้"
"มึงเหยียบเลยเจฟฟรี่”
“มึงนี่มัน...หึหึ” พูดไม่ออก เกรียนกระทั่งกับพ่อตัวเอง
แล้วไอ้เวรดันร้องเป็นควายถูกเชือด
“สัดเจฟฟรี่ มึงจะด่วนนรกไปไหน กูไม่อยากต๊าย!...แฮะๆ เค้าล้อเล่น”
“เวรเอ๊ย 555” ผมอารมณ์เปลี่ยน ดีที่มีเพื่อนร่วมทาง
ตีนผีครับ เหยี่ยวไฮเลเวลมากกว่าผมเสียอีก
เวลาว่างของพวกเรานอกจากจะปั้นภาพเป็นเด็กดีต่อหน้าผู้ปกครองแลัว
ภาคดาร์กคือลอบไปเผาผลาญฮอร์โมนเลือดเดือด
สวมวิญญาณตีนผีที่ลานรถแข่งกลางดึก
เหยี่ยวซิ่งจ๋ามากกว่าผมหลายเท่า ยอมโยนกุญแจให้ขับเพราะเหตุนี้
....
....
ถึงโรงพยาบาลรัฐแห่งเดียวในอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี
“พี่จ๊อดตามมารอจนได้ว่ะ มึงไปก่อนกูคุยแป๊บ ท่าทางแด๊ดจะให้ไปงานทำบุญครบรอบอะไรนั่นให้ได้จริงๆ จิกชิบ”
“ก็ไปซิวะ รับปากไว้เองไม่ใช่เหรอ สัญญาลูกผู้ชายบางทีต้องกลืนเลือดบ้างถึงจะไม่ชอบก็เถอะ มึงบอกกูเองนะเหยี่ยวอย่าลืม”
“กูแค่เล่นตัวนิดหน่อยเอง”
ชอบเป็นเด็กมีปัญหาทั้งที่พ่อเปย์และตามใจจะตายชัก
เหตุผลคือพ่อหนีมามีภรรยาใหม่ในไทยก่อนที่จะหย่ากับแม่
เหยี่ยวจึงประชดเป็นเด็กเกเรไปอย่างนั้นเอง
จริงๆ เนื้อแท้เพื่อนผมคนนี้เก่งและรู้ภาษามากกว่าสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดเยอะ
เปรียบเทียบสายพันธุ์ในใจครับ ห้ามให้เหยี่ยวได้ยินล่ะ
“เพื่อนกูไม่กิ๊กก๊อกกับเรื่องแค่นี้หรอกเว้ยจริงไหม เขาคงอยากพาไปเปิดหูเปิดตานั่นแหละ ไม่มีพ่อคนไหนไม่หวังดีกับลูกตัวเองหรอก เจออะไรมาก็กลับมาเล่า...รอฟังอยู่” ผมตบบ่าเพื่อนพลางบอก I am here
“งั้นกูคงต้องกลับไปกับพี่แกว่ะเจฟฟรี่ มึงเอาอีกคันไว้ละกันนะ”
“เออ ขอบใจมาก” ผมแทคมือเข้าใจกัน
...
พี่จ๊อดคนขับรถเข้ามาโค้งคำนับแจ้งข่าวว่านายใหญ่
พ่อของเหยี่ยวต้องการให้ลูกชายกลับบ้านตั้งแต่ตอนนี้ นาทีนี้
เพื่อเตรียมตัวไปงานทำบุญตักบาตรในวันพรุ่งนี้เช้าตรู่
ครบรอบกิจการอะไรไม่ทราบผมไม่ใส่ใจรับรู้ด้วย
เหยี่ยวจะให้ใช้รถเล็กซัสสีดำคันที่พี่จ๊อดขับมา
ผมกล่าวขอบคุณพร้อมฉวยพวงกุญแจ
ทิ้งเหยี่ยวไว้กับคนรับใช้ก่อนเข้าไปถามประชาสัมพันธ์
ไม่อยากเลย คิดจะหันหลังกลับหลายรอบ
บังเอิญพบตองนั่งรออยู่ที่ระเบียงทางเดินนอกห้องเสียก่อน
....
....
ผมมอง...
จิระของผมนอนหลับอยู่เตียงแรกห้องผู้ป่วยรวม
แค่เห็นสภาพผมก็ไม่ไหว ไร้แรงเหลือทรุดลงนั่งข้างๆ ตองขอพักหายใจแป๊บ
ตองรายงานว่าคนไข้แขนซ้ายหัก
ข้อเท้าซ้ายพลิก ฟกช้ำบ้างเล็กน้อย คืนนี้หมอให้นอนดูอาการที่นี่ก่อน
โทรศัพท์บอกทางบ้านแล้วน้าจอมจะมาที่นี่ให้ได้แต่น้าจุ๋ยกับอาจารย์ห้ามไว้
ด้วยอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะพากันกลับพอดี
อาการโดยรวมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ถ้าไม่ไข้ขึ้นจนถึงขั้นวิกฤตจะส่งตัวกลับกรุงเทพมหานครพรุ่งนี้พร้อมกัน
ผมโทรบอกเหยี่ยวไม่ต้องตามเข้ามาดูในตึก ให้กลับกับพี่คนขับได้เลย
สั่งว่าพรุ่งนี้จะนำส่งคนป่วยเข้าโรงพยาบาลของญาติเพื่อนแทน
เหยี่ยวจึงกลับไปกับพี่จ๊อดอย่างเสียมิได้
“มันช่วยกูไว้ ตอนรถวิ่งผ่านกูเสียวแปล๊บคิดว่าตายแน่ๆ รู้สึกอีกทีคือโจ๊กจับแขนกูแน่น เสียงมันร้องโอ๊ยดังลั่นน่ากลัวโคตร พูดแล้วยังเสียวไม่หาย” ตองเล่า
“ฟู่...” ผมเป่าปาก
กดโทรศัพท์รายงานสองน้าว่ามาถึงที่หมายแล้ว
นักฟุตบอลหลับอยู่ไม่อยากเข้าไปกวน
ก่อนส่งมือถือให้ตองคุยรายละเอียดไป
...ทำไมต้องเป็นจิระของผม
...ทำไมต้องเป็นคนนี้
...ทำไมต้องเป็นคนที่ผมคิดถึงนักหนา
...ทำไม
คำถามที่ผมก่นด่ากับตัวเองตลอดทางที่ขับรถมา
...
...
“เฮ้...ว่าไงฮีโร่” ผมยิ้ม ราวน้ำพุอมฤตผุดขึ้นกลางใจ
คนป่วยลืมตามองเห็นผมเป็นอย่างแรก
ดวงตาสีนิลจับจ้องเนิ่นนานราวกับเราเพิ่งพบเจอกัน
“...เจฟ...”
“ครับ...” ผมลูบมือเบาๆ
แขนข้างขวาติดสายน้ำเกลือ ข้างซ้ายใส่เฝือกรุงรัง
อยากกอดหอมปลอบประโลมให้สมรักแต่กลัวเจ็บเหลือเกิน
“กี่โมงแล้ว พวกไอ้ตองล่ะ?”
“จะสี่ทุ่ม ตองกับอาจารย์เพิ่งกลับไปแคมป์เมื่อกี้ หิวไหม หรืออยากเข้าห้องน้ำ”
ตองจะหารถกลับมาใหม่เพื่ออยู่ช่วยเฝ้าไข้แต่ผมห้ามไว้
ยังไม่ทราบว่าจะกลับมาจริงหรือไม่จึงเงียบไม่บอก
“ปวดเยี่ยว” คนเจ็บขยับตัวลำบากทำท่าอยากทำธุระส่วนตัว
ผมปรับเตียงเอนขึ้นเล็กน้อยก่อนช่วยอุ้มพาเข้าห้องน้ำ
“นั่งลงก่อน ถอดให้เอง” รั้งให้นั่งโถ จะช่วยดึงกางเกงออก
“ไม่เอา ทำเอง ออกไปก่อน”
“อย่าดื้อซิ”
“ออกไปก่อนเถอะ...นะเจฟ” หน้านิ่วคิ้วขมวดบวกตัวรุมๆ จึงยอมรามือ
รออีกนิดค่อยเชือดก็ได้เจฟเฟอร์สัน บอกกับตัวเอง
...
ชั่วครู่ถึงออกมาผมป้อนน้ำ อาหารอ่อนตบท้ายด้วยยาตามสูตร
คนป่วยบ่นงึมงำว่าหิวถึงเงียบลง
“เช็ดตัวหน่อยดีกว่า ไข้ขึ้นสูงไม่ดี” ผมเตรียมอุปกรณ์รอ
“ไม่เอาอ่ะ”
“หรือจะให้เรียกพยาบาล ยังไงเขาก็ต้องทำอยู่แล้ว”
“ก็ได้” ตาคมมองคุณป้าพยาบาลก่อนชั่งใจ เห็นกำลังปลุกปล้ำกับคุณตาเตียงใกล้ๆ มองแล้วไม่ดีกว่า
เวลาป่วยอย่างนี้ว่าง่ายดี เสียแต่ท่าทีไม่สบายหนักจนผมอยากเจ็บแทนเสียเอง
“โทรบอกที่บ้านแล้ว น้าจะไปรอโรงพยาบาลที่โน่นเลย อาการดีขึ้นเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับบ้านเรา” แจกแจงข่าวจะย้ายเข้าโรงพยาบาลเอกชนของคุณลุงหมอ ญาติเหยี่ยวพรุ่งนี้
“แล้วมาไง?” ถามผม
“เหาะมาด้วยไม้กวาดนิมบัส 2000 ฟิ้ว...!”
“พูดเป็นเล่น ใช่แฮรี่ พอตเตอร์ซะที่ไหนกันเล่า” ยิ้มแล้ว
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง นอนต่อซะ”
ผมเช็ดตัวเสร็จพอดี ไม่อยากให้ใครเห็นเลย
ผู้ป่วยอื่นกับคนมาเฝ้าอัดอยู่เต็มห้อง โรงพยาบาลรัฐครับต้องทำใจ
“เจฟ...”
“หือ...”
“เขาจะตัดสิทธิ์กูไหมวะ”
“ไม่หรอก” ผมไม่ทราบจริงๆ ลืมนึกถึงข้อนี้ด้วยซ้ำ
“แต่ว่า...ขาเจ็บ...” หน้าจ๋อยจนผมต้องกอดเขาไว้แนบอก
“ยังไม่ต้องคิดเรื่องนั้นหรอก มีข่าวเดี๋ยวเขาก็แจ้งเองนั่นล่ะ อีกตั้งนานกว่าจะเรียนจบ กว่าจะเปิดรับนักศึกษาก็อีกครึ่งปีโน่น เขาไม่ริบทุนคืนตอนนี้หรอก”
“อืม แค่...” แววตาหมองจนผมสลดตาม
“รักษาตัวให้ดีเป็นพอ...นะครับนะ” กุมมือจิระคนเก่งไว้ ปลอบโยนเขานุ่มนวล
“เหรอ”
“อืม...เดี๋ยวก็หาย แค่ข้อเท้าพลิกนิดเดียว อาทิตย์สองอาทิตย์ก็วิ่งปร๋อแล้ว มีน้ำมูกไหม กินยาอีกดีกว่าจะได้พักผ่อน”
ผมสวมกอด จูบขมับร้อนจากพิษไข้นั้น
“เจฟ...”
“ผมอยู่นี่ ไม่เป็นไรคนเก่ง ชู่...ไม่เป็นไรแล้ว...”
*************
(ที่ผมไม่เคยรู้เลย...
เด็กคนที่กายเจอในงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดพ่อ
สตั๊นจนเก็บมาเพ้อถามผม แล้ววันนี้เพื่อนตรองไม่ตกจนเมาเสียผู้เสียคน
เราพบกับเด็กคนนี้ในอีก 2-3 ปีให้หลัง เด็กผู้ชายสีขาวสูงสง่าและงดงามผู้นั้น...ลมเหนือ)
อ่านอนาคต ปี 3 ของกายได้ที่ Guy's waveตอน 41 guy's wave#1 first p.48ตอน 42 guy's wave#2.1 tide p.49ตอน 43 guy's wave#2.2 still p.50ตอน 44 guy's wave#3 the last one p.51