┤Sincere├ ตอนพิเศษ : Déjà Vu [หน้า 16]**คำเตือน - Twincest (แฝด x แฝด)*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┤Sincere├ ตอนพิเศษ : Déjà Vu [หน้า 16]**คำเตือน - Twincest (แฝด x แฝด)*  (อ่าน 213717 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
โอ้ยยย หน่วงงงง
กรี๊ดดดดดดดดดด กรีดร้องงงงง  :hao5:

ชอบค่ะ ชอบฟีลลิ่งแบบนี้จังเลย ชอบศีลธรรมอันเจ็บปวด โฮ
สงสารพี่วี อย่าร้องนะคนดี คนที่วินชอบน่ะก็หมายถึงพี่วีนั่นแหละ

 :o12:

อ่านแล้วปวดใจ แต่ชอบ ฮือออออออ  :heaven

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ยังรอ...    คิดถึงวีวิน

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
┤S i n c e r e├




อยากกอด...อยากถูกกอด

อยากรัก...อยากถูกรัก

บาปร้ายล่อหลอกคนเขลาด้วยกลิ่นหอมหวน

เฉกเช่นแมลงลุ่มหลงกลิ่นเกสรดอกไม้พิษ

ความปรารถนาดำมืดอันดึงฉันสู่หุบเหวลึก

กลิ่นหอมและรสหวานล้ำบนริมฝีปาก กลับถูกกลืนให้ขื่นขมด้วยหยาดน้ำตา

เส้นบาง ๆ ที่เราก้าวข้าม

 จะยังมีหนทางให้กลับตัวบ้างหรือไม่?





02 : Conflict





ริมฝีปากของวีอ่อนนุ่ม กลิ่นกายเขาหอมหวาน และร่างเขาที่สั่นระริกอยู่ในอ้อมแขนผมก็ช่างดูเปราะบางจนเย้ายวน

เสียงครางต่ำที่ไม่รู้ว่าเป็นของใครลอยอ้อยอิ่งแทรกเสียงฝน ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นของผมหรือเขา เสียงเราเหมือนกันมาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้ก็ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างของเราจะหลอมรวมกลับเป็นเนื้อเดียวกัน นั่นยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่เรากำลังทำ...สิ่งที่ผมกำลังทำกับวีเป็นเรื่องผิด...

ผมหลับตา แต่ยังรู้สึกได้ถึงหยดน้ำอุ่น ๆ ที่กลิ้งลงจากแก้มเขา หยดลงถึงริมฝีปากของเราที่เชื่อมสนิทกันอยู่

จะดีแค่ไหนหากผมทำให้เขาหยุดร้องไห้ได้

แล้วจะดีแค่ไหนหากเวลาหยุดเดินเพียงเท่านี้

"...อืออ...วะ....วิน...."

วีเรียกชื่อผมเสียงสั่นเมื่อใบหน้าเราแยกจากกันเพียงเล็กน้อย มือกำเนื้อผ้าบนไหล่สองข้างผมไว้แน่น ก่อนจะพยายามดันตัวเองออกห่าง เอนกายถอยหลังหนีผมไปจนมุมกับผนัง กลายเป็นว่าทำให้ตัวเองถูกต้อนอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ระหว่างตัวผมกับผนังเย็นเฉียบโดยไร้ทางหนี

ผมจ้องมองริมฝีปากเขาที่เจ่อช้ำขึ้นมา ค้างอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน จึงเพิ่งนึกได้ว่าลืมระวังสายตาตัวเอง 

ความรัก ความปรารถนา อยากครอบครองเขา ทุกความรู้สึกที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน นัยน์ตาผมตอนนี้จะสะท้อนความน่ารังเกียจเหล่านั้นออกมาขนาดไหนกันนะ..

"..วี.."

ผมกระซิบเสียงแหบแห้ง ไล้ปลายนิ้วมือไปบนพวงแก้มชื้นน้ำตาของเขา แต่วีกลับสะดุ้ง ทำท่าจะขยับออกไปอีกแม้ไม่มีที่ให้หนีแล้ว คำถามต่อมาจากปากเขาทำผมปวดแปลบขึ้นมาในอก

"...ทำไมนาย.....ถึงได้..."

เสียงเขาสั่น เนื้อตัวราวกับจะหดลงจนเหลือเล็กนิดเดียว ตาเขาแดงจนน่าสงสาร หัวคิ้วขมวดแน่น เม้มปากจนมันกลายเป็นเส้นตรง ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเครื่องหน้าที่เหมือนกับผมจะแสดงความเจ็บปวดออกมาได้ถึงเพียงนี้

มือผมพยายามตามไปแตะบนแก้มเขาอีกครั้ง คราวนี้ไม่เหลือที่ให้ถอยอีก

วีนั่งตัวเกร็งไปหมด เห็นได้ชัดว่าพยายามเลี่ยงสัมผัสจากผมราวกับกำลังหวาดกลัว นั่นทำผมอยากจะร้องไห้ไปด้วยอีกคน ในเมื่อปกติแล้วเขาไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ทั้งที่แต่เล็กจนโต เราก็สัมผัสโอบกอดกันอย่างเป็นธรรมชาติมาตลอดไม่ใช่หรือ ทว่าหลังจูบนั้น ผมรู้สึกราวกับถูกผลักมายืนอยู่ตรงริมผา ไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้ แต่จะยกขาก้าวต่อไป ตรงหน้าก็มีเพียงหุบเหวเวิ้งว้างและดำมืด

"นายอยากรู้จริง ๆ หรือว่าทำไม"

วีไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ห่อไหล่ เหลือบมองอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

“...วี...ฉัน...”

หากเอ่ยเรื่องนั้นออกไป แล้วเขาจะให้อภัยผมได้หรือไม่

"ฉันรักนาย.."

ผมเป็นน้องชายที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย

เขาเงยหน้าขึ้นสบตาผม นัยน์ตาแดงก่ำเบิกกว้าง ในนั้นเต็มไปด้วยความสับสน  ริมฝีปากสั่นระริก หยดน้ำกลิ้งลงจากขอบตาอีกแล้ว พี่ชายคนดีของผมจะรู้หรือเปล่า สีหน้าเขาตอนนี้เหวี่ยงทั้งหัวใจผมร่วงลงไปในความดำมืดของเหวลึกไม่เห็นก้นบึ้ง ลึกจนแม้กระทั่งเสียงสะท้อนก็ส่งมาไม่ถึง

“นายเข้าใจที่ฉันพูดไหม?”

วีก้มหน้า แต่ครู่หนึ่งก็เงยขึ้นใหม่ ตอบกลับผมมาแผ่วเบา ที่น่าเจ็บปวดคือเขายังพยายามรักษาระยะห่างของเราเอาไว้ถึงที่สุด

"...ฉันก็รักนาย.."

แม้จะเสียงสั่น แต่วีก็พูดมันออกมาง่ายดาย

รักคำเดียวกัน แต่ผมรู้ว่านั่นเป็นคนละอย่าง

"ไม่..วี...ไม่ใช่รักแบบนั้น.."

ความรู้สึกของผมจากห้วงเหวลึกส่งไปไม่ถึงเขา สายตาหมองเศร้าของเขาตอกย้ำว่าความรักของเราไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
 
"...วี...ฉันรักนาย...แบบที่...."

ผมชะงักคำพูด กระดากใจเกินกว่าจะเอ่ย แต่ความปรารถนายังแผดเผาจนนึกขยะแขยงตัวเอง เลือกจะบอกให้เขารู้ด้วยวิธีอื่นซึ่งไม่ใช่ถ้อยคำ โน้มตัวไปจูบเขาอีกครั้ง...หนักหน่วงกว่าคราวแรก เบียดตัวเองเข้าไปคุกเข่าตรงกลางหว่างขาอีกฝ่าย สองมือประคองใบหน้าเขาไว้ไม่ให้ขยับหนี ขบกลีบปากล่างเขาเบา ๆ ให้มันเผยอออก

“...อือ..อ..อ...”

วีส่งเสียงครางแผ่วเบา จากที่พยายามออกห่างเมื่อครู่กลับกลายเป็นกำอกเสื้อผมไว้แน่น ใบหน้าเชิดขึ้นเพราะถูกมือผมซึ่งประคองอยู่บังคับให้เงยรับ

ริมฝีปากเขาหอมหวาน แต่กลับนำมาซึ่งความปวดร้าวในใจทุกครั้งที่สัมผัส

ผมอยากอ่อนโยนกับวี อยากทะนุถนอม ทว่าสิ่งที่ทำกลับเป็นฉกจูบเอาเป็นเอาตาย โหยหากลิ่นอายของเขา จาบจ้วงรุกล้ำด้วยปลายลิ้น และผลักเขาลงไปนอนหงายบนพื้นแข็งกระด้าง ระหว่างนั้นใบหน้าเราไม่ได้แยกจากกันเลย

เขาสำลัก ยกมือปัดป่ายในอากาศ ดูน่าสงสาร แต่ก็ทำให้ผมดีใจ เพราะนั่นบอกให้รู้ว่าเขาไม่เคยทำอย่างนี้กับใครมาก่อน ผมเองเคยจูบกับผู้หญิง แต่ไม่ลึกล้ำไปกว่าแค่เอาริมฝีปากไปแตะแล้วถอนออกมา ไม่เคยมีใครเหมือนวี และไม่คิดว่าจะมีใครทำผมคลั่งไคล้ได้เท่านี้อีกแล้ว

นอกจากที่ดิ้นรนหาอากาศ วีก็ไม่ได้ขัดขืนผมนัก หากไม่ได้เป็นการคิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผมรู้สึกว่าหลังจากนั้นวีพยายามจูบผมตอบอย่างเงอะงะด้วยซ้ำ เสียงของเหลวแฉะ ๆ เมื่อริมฝีปากเราบดเบียดเข้าหากัน และเสียงหอบหายใจกระชั้นของเขาฉีกความยับยั้งชั่งใจของผมไม่เหลือชิ้นดี

ผมปลดกระดุมเสื้อนอนของวีออกด้วยมือข้างเดียว ลากฝ่ามือผ่านผิวเนื้ออุ่นและเนียนเรียบ วีสะดุ้ง กลั้นหายใจ ชะงักการเคลื่อนไหวในจูบ เมื่อผมกดปลายนิ้วมือลงบนยอดอกเขาเบา ๆ

“...อ๊ะ! วะ...วิน....อืออ....อ...”

นิ้วมือเขาจิกลงบนไหล่ผม ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงซ่าน เกร็งตัวทุกครั้งที่ผมคลึงลงไปบนส่วนอ่อนไหวนั้น เข่าผมที่คร่อมอยู่ดันเข้าไปชนกับหว่างขาเขา แรงเสียดสีผ่านเนื้อผ้าและการกระตุ้นจากด้านบนคงมากพอจะทำให้ความปรารถนาตรงนั้นขยายตัวขึ้นจนรู้สึกได้ พอกับตัวผมเองที่รู้สึกปวดหน่วงขึ้นมาตรงท้องน้อย

ผมลากมือลงมาถึงขอบกางเกงอีกฝ่าย สอดเข้าไปกุมส่วนร้อนผ่าวใต้เนื้อผ้าไว้ในมือ ที่ตรงนั้นเริ่มแข็งตัวและเปียกน้อย ๆ ราวกับกำลังเรียกร้องสัมผัส

“..ฮะ..!"

วีหายใจเฮือกเมื่อผมเริ่มขยับมือช้า ๆ  ถดกายหนีแต่ไม่มีที่ให้ขยับ สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ นอนเกร็งอยู่ใต้ร่างผม ตัวแดงไปหมดตั้งแต่ใบหน้าจนถึงแผ่นอกที่กระเพื่อมตามการหายใจถี่ เขายกมือขึ้นปิดปากตัวเอง แต่ผมดึงมันออกอย่างเอาแต่ใจ

“...วี...” ผมก้มลงไปกระซิบข้างหู “ฉันอยากฟังเสียงนาย...”

“...อะ...อื้อ...อ....."

เขาส่ายหน้า แต่กระนั้นก็ยังมีเสียงครางแผ่วเบาเล็ดรอดออกมาถึงหู ผมนึกอยากให้เขาพูดว่ารักให้ฟังอีกสักครั้ง แม้เป็นความรักคนละแบบ แต่ผมยินดีจะหลอกตัวเองว่ามันคือความรู้สึกเดียวกับที่ผมรู้สึก

ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากขอ เขากลับพูดแทรกขึ้นเสียก่อน

“..วิน...หยุดก่อน...” เขาหอบหายใจแรง กระตุกแขนเสื้อผมที่ขยับมือเร็วขึ้น เหงื่อเกาะพราวเต็มต้นคอและใบหน้าแดงระเรื่อของเขา “..ฉะ..ฉันจะ...อืออ..”

ผมกลืนข้อเรียกร้องลม ๆ แล้ง ๆ ของตัวเองลงคอไป ฝังหน้าลงบนซอกคอชื้อเหงื่อ ตรงที่ไฝเม็ดเล็ก ๆ นั้นวางอยู่บนผิวของเขา กดจูบหนัก ๆ ลงไปจนมันเป็นรอยช้ำแดง พรมจูบลงมาจนถึงผิวเกลี้ยงบนอก ขณะที่มือก็เลื่อนจากจุดเดิมไปยังช่องทางเบื้องหลัง

“..ไม่!”

วีเบิกตากว้าง ร่างกระตุกเบา ๆ เหมือนรู้โดยสัญชาตญาณว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น คราวนี้ดันอกผมออกห่างอย่างจงใจ จนผมเพิ่งตระหนักขึ้นมาได้ว่าเขาก็เป็นผู้ชายแข็งแรงคนหนึ่งเหมือนผม

“...มะ...ไม่ได้...”

ผมก้มลง มองขอบกางเกงวีที่เลื่อนต่ำลงไปเกือบถึงต้นขา หยาดหยดใส ๆ ซึมออกจากส่วนปลายที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยของเขา เหมือนเจ้าตัวเห็นสายตาผมจึงได้งอขาขึ้นชันเข่า พยายามยันกายขึ้นนั่ง แผ่นอกซึ่งเริ่มขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหอบ ปกคอเสื้อนอนไหลมากองอยู่ตรงข้อศอก

ผมรู้ความหมายของเขาดี ท่าทางต่อต้านและคำห้ามปรามล้วนชัดเจนพออยู่แล้ว แต่ยังคงดื้อรั้นจะเบียดตัวเองเข้าหา กอดเอวเขาไว้หลวม ๆ  วีนั่งตัวเกร็งไปทั้งร่าง กระทั่งผ่านไปครู่หนึ่งจนแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น จึงยอมโอนอ่อนตามแรงจากมือผมที่ดึงเขาเข้าหาตัว

“...วิน....” เขาเอ่ยเสียงอ่อนระโหย ซบหน้าผากลงกับไหล่ผม หายใจติดขัดขณะพยายามพูดออกมาให้เป็นประโยค “....ยะ..อย่าทำแบบนี้.....”

ผมอยากถามว่าทำไม...ทั้งที่ก็รู้ดีอยู่เต็มอก

“...ฉัน...เป็นพี่ชายของนาย....”

“....”

“....เราเป็นพี่น้องกัน...”

เรากำลังทำอะไรกันอยู่

ผมกำลังทำอะไรกับวี...กับพี่ชายแท้ ๆ ของตัวเอง

ความจริงซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตั้งอยู่ตรงหน้า ถึงจะแกล้งทำเป็นลืมหรือมองไม่เห็นอย่างไร แต่มันก็ยังตระหง่านอยู่เช่นนั้น

ผมชะงัก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก่อตัวเป็นรูปร่าง พร้อมกับความรู้สึกของผมที่ราวกับจะพังทลายลงตรงนั้น เหมือนลูกโป่งพองลมที่ถูกเข็มทิ่ม เหมือนปราสาททรายที่ถูกคลื่นซัด เหมือนแก้วโง่ ๆ ที่ถูกปล่อยให้ร่วงลงกระแทกพื้นจนแหลกละเอียด

เราเป็นชีวิตเดียวกันมาแต่แรก...ทำไมผมจึงมีความรู้สึกเช่นนี้กับพี่ชายร่วมสายเลือดได้นะ

แล้วอย่างนี้ เมื่อไรน้ำตาของเขาจะแห้งสักที...

ผมพยายามจ้องมองวีเต็มตา แต่กลับรู้สึกละอายแก่ใจเกินกว่าจะทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว

เสียงคร่ำครวญในใจของผมดังก้อง ...จะอย่างไรก็ได้ แบบไหนก็ได้ ต่อให้ต้องโกหกแล้วตายไปพร้อมกับความลับนี้ก็ยอม...


แต่ได้โปรดอย่าให้วีเกลียดผมเลย...






----------| S i n c e r e |----------



มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2014 15:00:32 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
----------| S i n c e r e |(ต่อ)----------



“...ฉัน...เป็นพี่ชายของนาย....”

“....”

“....เราเป็นพี่น้องกัน...”

ผมกลั้นใจบอกไปแบบนั้น แต่กลับยังนั่งนิ่งอยู่ในอ้อมกอดวิน เอนศีรษะซบลงบนไหล่เขา ก่อนวินจะผลักผมออก ท่าทางตื่นตะลึง ราวกับกลัวที่จะมีผมอยู่ใกล้ ๆ

“อา..ใช่...” เขาผงกศีรษะเลื่อนลอย แล้วเพียงชั่วอึดใจบรรยากาศรอบตัวเขาก็กลับมาเป็นปกติ ทั้งเสียงพูด แววตา สีหน้า ทุกอย่างนิ่งงันเหมือนว่าที่เราทำไปเมื่อครู่เป็นเพียงความฝัน “ที่บอกว่าฉันรักนายก่อนหน้านี้...ก็หมายถึงแบบพี่น้องนั่นละ”

"...."

ถูกแล้ว...ทั้งที่มันควรจะเป็นแบบนั้น แต่ผมกลับเจ็บเหลือเกินกับสิ่งที่ได้ยิน

“..ฉันแค่คิดว่า...” วินพูดต่อเสียงเรียบ เสมองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากเห็นหน้าผม “...ถ้าเกิดทำแบบนี้กับคนที่ตัวเองชอบ จะเป็นยังไงนะ”

หากถูกเข็มสักพันเล่มทิ่มลงที่หัวใจพร้อมกัน...มันจะเจ็บแบบนี้ไหมนะ

“...นายก็เลยลองดูอย่างนั้นหรือ”

“ใช่”

 “ที่บอกว่ารักฉัน...ก็เป็นแบบพี่ชายน้องชายใช่ไหม?”

เขาก้มหน้า กระซิบตอบมาเบา ๆ  แต่นั่นก็มากพอแล้วจะพังความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของผมลงต่อหน้าต่อตา

“...ใช่”

“...วิน...”

ผมเรียกชื่อเขาแล้วค้างไว้แค่นั้น พูดอะไรไม่ออกอีก เขาเพิ่งบอกเองแท้ ๆ ว่าไปแอบชอบคนอื่นอยู่ แล้วนี่ผมมัวหวังอะไรอีกหรือ ดีแล้วที่เขาไม่ได้มาหลงอยู่ในวังวนเช่นเดียวกันนี้ บนเส้นใยซับซ้อนที่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแน่น ยิ่งหนีกลับถูกดึงให้ถลำลึกจนเกินถอนตัว จะมีสักกี่คนที่รู้ทั้งรู้ว่าข้างหน้าเป็นผา แต่ก็ยังบ้ากระโดดลงไป

“ขอโทษ”

สั้น ๆ เพียงคำเดียวจากปากเขา ก่อนวินจะผละออก ลุกขึ้นวิ่งหายไปจากห้อง ทิ้งท้ายเพียงแค่ว่าเขาจะออกไปหาซื้ออะไรกิน อาจแวะไปหาเพื่อนด้วย ไม่ทันอยู่ฟังผมที่กระซิบกับเสียงฝนหลังจากนั้น


“...แต่ฉันรักนายจริง ๆ”


“.....รัก.....”



ผมนั่งห่อไหล่ วินออกจากห้องไปแล้ว สิ้นเสียงปิดประตูตามหลังทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ความสงบ เหลือแค่ตัวผม เสียงฝน กลิ่นคาวเจือจางในอากาศ และความต้องการที่ยังไม่เลือนหายไปจากเบื้องล่างที่ค้างอยู่เมื่อครู่

มือผมเลื่อนไปสัมผัสส่วนอ่อนไหวของตัวเอง หลับตาแล้วค่อยขยับมือช้า ๆ หลังเปลือกตาที่มีเพียงความดำมืดก็ยังเห็นแต่ใบหน้าเขา เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเรายังอยู่ใกล้แค่ลมหายใจสัมผัสกันอยู่เลย

“...วิน....อะ....อือ......”

นี่มันน่าอาย..ถ้าวินรู้เข้าจะรังเกียจผมไหม?

อ้อมกอด ริมฝีปาก ความร้อนจากมือเขา กลิ่นกายจาง ๆ ที่ปลายจมูก ทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็ว แล้วก็เลือนหายไป จะมีก็เพียงความรู้สึกชิงชังตัวเองที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยเมื่อถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง หลอกหลอนผมทุกครั้งที่ส่งเสียงครางแผ่ว หากวินมาเห็นตอนผมเรียกชื่อเขาขณะช่วยตัวเองจนสุดทางอย่างนี้คงนึกขยะแขยง อาจดีแล้วที่เขาไม่อยู่ทำจนเสร็จ

ผมบังคับลมหายใจเข้าออกช้า ๆ  เอนหลังพิงผนังใกล้ ๆ มองของเหลวสีขาวขุ่นในมือแล้วก็ทั้งอยากหัวเราะและร้องไห้ให้กับเรื่องราวที่เกิด

ผมไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย

สัมผัสทางกายทั้งหลายตลอดเวลาที่ผ่านเป็นเรื่องปกติ เราสองคนใกล้ชิดกันเช่นนี้เสมอ วินอาจไม่คิดอะไร แต่เขาจะรู้หรือเปล่าว่าผมคิด

ตั้งแต่วินาทีแรก ที่สัมผัสอ่อนโยนทาบลงบนเปลือกตาผม ก่อนริมฝีปากเราจะแนบสนิทกัน ผมก็เผลอนึกไปไกลแล้วว่าเขาอาจรักผมในความหมายเช่นเดียวกับที่ผมรู้สึกบ้าง

พละกำลังเราพอกัน ขนาดร่างกายเราก็พอกัน ผมมีสติครบถ้วนสมบูรณ์ หากตั้งใจจะปฏิเสธย่อมทำได้ไม่ยาก แต่ผมกลับไม่ทำ ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ กลิ่นหอมหวานยั่วเย้าจนไม่อาจขัดขืนหรือละสายตาจากเขา

‘ฉันรักนาย..’

ถ้อยคำเหล่านั้นของเขาหมายความว่าอย่างไร? คำถามที่ว่าล่องลอยในหัวผมนับตั้งแต่มันออกจากปากเขา แม้เลือนราง แต่ไม่ได้หายไป ยังคงวนเวียนอยู่อย่างนั้นขณะริมฝีปากเราเชื่อมกันไม่รู้หน่าย กลางเสียงฝนพรำในคืนที่ฟ้าครางต่ำ

...ผมบอกไปแล้วว่าผมก็รักเขา...แต่วินกลับบอกว่ามันไม่ใช่ความรักแบบเดียวกัน...


เราแลกจูบกันดูดดื่ม มือเขาสัมผัสร่างกายผม ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยแรงปรารถนา แต่สุดท้ายคำถามของผมก็ได้รับคำตอบ เมื่อวินย้ำว่าเขาหมายถึงความรักแบบพี่น้อง ทั้งหมดที่ทำ แค่เพราะอยากรู้ว่าถ้าไปทำอย่างนั้นกับคนที่เขาชอบแล้วจะเป็นอย่างไร

ทั้งที่วินเพิ่งบอกว่าแอบชอบคนอื่น ใครสักคนซึ่งผมไม่รู้จัก

ก็น่าจะรู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้วแท้ ๆ กลับยังปล่อยตัวให้เลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ทำไมจึงไม่รีบห้ามเขา ผมนึกกลัวตัวเองที่เกือบจะดึงวินให้ร่วงดิ่งลงมาในความมืดมนนี้ด้วยกัน ก็ไหนที่เคยตั้งใจจะเก็บเอาไว้เป็นความลับคนเดียว ไหนทำพูดจาเลิศหรูว่าแค่ได้อยู่กับเขาก็พอแล้ว แต่พอถูกกอดเข้าหน่อยความตั้งใจก็สั่นคลอน

ผมนึกเกลียดความโง่เง่าของตัวเองเหลือเกิน






คืนนั้นทั้งคืน วินไม่ได้กลับมาที่ห้องอีกเลย

วินทิ้งมือถือเอาไว้ แม้แต่กระเป๋าสตางค์เขาก็ไม่ได้หยิบไป ที่บอกอาจแวะไปหาเพื่อนเหมือนช่วยให้ตามตัวได้ง่าย ทว่าผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเขาหมายถึงเพื่อนคนไหน

ผมรอเขาจนตีห้ากว่า ผุดลุกผุดนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถง อยากตัดใจแล้วกลับไปนอน แต่ไม่สามารถข่มตาหลับได้ ลุกขึ้นทำความสะอาดห้องที่ใช้ทำงานจนเกลี้ยง มองงานที่เขาบ่นว่ายังไม่เสร็จ มันค้างอยู่เท่าเดิม ทั้งที่บอกว่าต้องรีบทำส่งอาจารย์ แต่กลับไม่เห็นวี่แววว่าเจ้าของงานจะกลับมาทำต่อ

แสงแรกของเช้าวันอาทิตย์สาดเข้ามาจากระเบียงหลังห้อง ผมหยีตา มองไม่ค่อยชัด ไม่อยากคิดถึงสภาพตัวเองในกระจกว่าจะตาบวมขนาดไหน มือผมแหวกผ้าม่าน มองออกไปในละอองน้ำที่ยังหลงเหลือจากฝนเมื่อคืน หยดน้ำเล็ก ๆ เหล่านั้นสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย แต่อากาศเย็นชื้นยิ่งชวนให้หดหู่จนแค่ยืนหายใจเฉย ๆ ก็ยังเหนื่อย

วินจะกลับมาไหมนะ?

แล้วถ้าเขากลับมา ผมควรจะเข้าหน้ากับเขาอย่างไรดี

ผมถอนหายใจ สองมือยกขึ้นตบแก้มตัวเองเบา ๆ  หลังจากปล่อยตัวปล่อยใจจนเกือบเลยเถิด ผมนั่งทบทวนกับตัวเองและได้ข้อสรุปว่าควรทำให้มันถูก วินกลับมาเมื่อไรผมจะถามเขาเรื่องผู้หญิงคนนั้น ทำความรู้จักกับเธอในฐานะพี่ชาย ถ้าเขารักใครผมก็จะรักด้วย แล้วลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ไปเสีย คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ วัยอย่างพวกเราก็เป็นช่วงก้ำกึ่งระหว่างวัยรุ่นตอนปลายกับผู้ใหญ่ตอนต้น จะอยากลองสิ่งที่ไม่เคยรู้อาจไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ต้องทำคือกลับไปดำเนินความสัมพันธ์แบบพี่น้องเหมือนปกติให้เร็วที่สุดต่างหาก

ใช่แล้ว...มันควรเป็นแบบนั้น

ผมเม้มปาก มองดวงอาทิตย์เร้นกายหลังเมฆสีเทาอยู่ครึ่งดวง แต่แสงจากอีกครึ่งก็ยังเจิดจ้าจนแสบตา

ครึ่งเดียวก็พอแล้ว...

ชั่วขณะนั้นผมนึกถึงวิน น้องชายที่เป็นเหมือนครึ่งหนึ่งของชีวิตผม

...แค่ครึ่งเดียวก็สว่างได้...

ผมยิ้ม แม้ส่วนลึกในใจยังหดหู่บอกไม่ถูก ทรุดตัวลงนั่งบนพื้นหน้าประตูระเบียง เอนศีรษะพิงกรอบประตูแล้วหลับตา

ไม่รู้ว่านั่งอยู่ตรงนั้นนานเท่าไร เผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหน พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแดดอ่อนที่มองอยู่ก็เปลี่ยนเป็นแสงอาทิตย์ร้อนผ่าวส่องหน้าเสียแล้ว ผมลุกขึ้น ยกมือขยี้ตา เดินกลับเข้าห้องโถง มองหาเจ้าของห้องร่วมอีกคนว่ากลับมาหรือยังระหว่างที่ผมหลับ ทว่าทั้งห้องก็มีแต่ความเงียบงัน เงียบจนในอกผมโหวงเหวงไปหมด

ผมมองกระเป๋าสตางค์เขาที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะ ออกไปตัวเปล่าอย่างนั้น เขาไปที่ไหน แล้วจะได้กินอะไรหรือยัง บ่นหิวตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนี่

ใจหนึ่งผมอยากออกจากห้องไปตามหา แต่กลัวออกไปแล้วหากเขากลับมาพอดีก็อาจคลาดกันอีก จะรื้อดูโทรศัพท์ของเขาว่ามีประวัติการโทรเข้าออกหาใครบ้าง เผื่อหนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนเขาที่เจ้าตัวบอกจะแวะไป ก็เอาแต่จด ๆ จ้อง ๆ ไล่รายชื่อที่มีทั้งหญิงและชายแต่ไม่กล้ากดโทรออก

กระทั่งเวลาบ่ายคล้อย ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องผม แต่เอาเข้าจริงถึงตอนนี้ก็รู้สึกกินอะไรไม่ลง ต่อให้ท้องจะส่งเสียงประท้วง  ทว่าแค่มองของในตู้เย็นแล้วนึกถึงว่าจะดีแค่ไหนนะถ้าวินกลับมากินด้วยกัน ความคิดนั้นก็ทำเอาผมไม่สามารถกลืนอะไรลงคอได้...

...นี่มันบ้า... ผมก่นด่าตัวเอง

วินโตแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อยที่ร้องไห้หน้าเหยเกเข้ามากอดผมตอนฟ้าร้องอีกต่อไป แค่เรื่องปากท้องเขาดูแลตัวเองได้ ต่อให้ไม่มีผมวินก็มีเพื่อนเยอะแยะ ถ้าไปหาเพื่อนย่อมต้องมีอะไรตกถึงท้องบ้างแหงอยู่แล้วสิ

ผมยกขาขึ้นชันเข่าบนโซฟา เอาเข้าจริงแล้ว ความสัมพันธ์ของเราก็ถูกเชื่อมโยงเอาไว้ด้วยคำว่าพี่น้องเท่านั้นเอง หากเราไม่ได้มีความผูกพันทางสายเลือด ผมกับเขาจะไม่ได้เป็นอะไรกันเลย คิดอย่างนี้แล้วควรดีใจไม่ใช่หรือที่อย่างน้อยเราก็เป็นฝาแฝดกัน ด้วยฐานะแบบนี้ ผมจะเป็นคนที่ได้ใกล้ชิดเขากว่าใคร จนกว่าวินจะมีคนอื่นที่อยากอยู่ด้วยมากกว่า

สี่โมงครึ่ง ฝนเริ่มตั้งเค้าอีกครั้ง จากที่ยังสว่างโร่อยู่เมื่อบ่าย ลมหอบเอากลิ่นฝนและเศษใบไม้จากที่ไหนสักแห่งปลิวเข้ามาในห้อง ผมเดินไปชะเง้อด้านนอก หวังว่าอาจเห็นร่างคุ้นตาเดินกลับมา แต่แล้วก็มีเพียงกลุ่มหญิงสาวสองสามคนวิ่งฝ่าลมแรงข้ามถนนหน้าอพาร์ตเมนต์ไปยังอีกฝั่ง

“....วิน....” ผมพึมพำ ถอนหายใจเฮือก ปิดหน้าต่างแล้วเดินกลับเข้ามาทรุดตัวลงนั่งที่เดิม เพ้อเจ้อกับเศษใบไม้ที่เพิ่งปลิวเข้ามาในห้อง “..นายอยู่ไหนน่ะ...กลับมาซะทีสิ”

ฝนเริ่มลงเม็ด จากนั้นโปรยปรายลงหนักขึ้น พอหกโมงเย็นฟ้าก็เริ่มร้องครืนคราง บรรยากาศราวกับเวลาสักหนึ่งหรือสองทุ่มได้ และวินยังไม่กลับ ไม่แม้แต่จะติดต่อมาหา ผมเริ่มเป็นห่วงเขามากจริง ๆ แล้ว

มือถือทั้งของผมและเขายังแบตเตอร์รี่เต็มอยู่ ผมเพิ่งเอาไปชาร์จไว้ ด้วยกลัวว่าหากเขาโทรกลับเข้ามาเมื่อไรแล้วเกิดแบตฯ หมดไปก่อนคงไม่ดี แต่จนแล้วจนรอด โทรศัพท์ก็ไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ

สุดท้ายแล้ว เมื่อเวลาล่วงเลยไปถึงสามทุ่ม ผมก็ตัดสินใจถือวิสาสะ หยิบโทรศัพท์เขามากดโทรออกตามประวัติการใช้งานทีละเบอร์

หลายคนที่ร้ับสายเข้าใจว่าผมคือวิน เพราะว่าเสียงเราเหมือนกัน แล้วยังใช้เบอร์เขาโทรไปอีก นั่นยิ่งทำให้อธิบายเรื่องราวลำบาก เพราะบางคนพอได้ยินเสียงก็คุยเฮฮาใส่เลยโดยไม่ทันได้ฟังก่อนว่าคู่สนทนาคือพี่ชายเขา กว่าจะรู้เรื่องก็กินเวลาเอาการ และทั้งหมดนั้นจบลงที่ข้อสรุปว่าวินไม่ได้ไปหาพวกเขา

หลังผ่านการพูดคุยกับคนไม่รู้จักไปราวเจ็ดหรือแปดคน ส่วนใหญ่คงเป็นเพื่อนจากทีมฟุตบอลที่เขาเพิ่งไปลงเตะให้เมื่อวานนี้ ความผิดหวังก็จู่โจมผมเมื่อพบว่าไม่มีอะไรคืบหน้าสักนิด วินไม่ได้ไปหาพวกเขา และไม่มีใครรู้ว่าวินอยู่ที่ไหน

ผมมองนาฬิกาบนจอมือถือ จนกระทั่งมันดับแสงลงกับมือแล้วก็ให้ใจแป้ว เป็นไปได้ไหมว่าวินอาจอยู่ที่นั่นกับใครสักคนที่ผมโทรไป แต่ไม่ยอมบอกว่าอยู่กับพวกเขา

...วินจะเกลียดผมแล้วหรือเปล่า...

ความคิดนั้นทำผมกระวนกระวายใจ พร่ำภาวนาว่าจะอย่างไรก็ได้ เราจะอยู่ด้วยกันแบบไหนก็ได้ ขอแค่วินอย่างเกลียดผมก็พอ แค่เขากลับมาอยู่ข้าง ๆ ผม แล้วผมจะไม่พูดหรือทำอะไรที่ทำให้เขาไม่สบายใจอีก ไม่บอกรักเขาโดยไม่คิด ไม่ร้องไห้อย่างไร้สาระตอนเขาพูดถึงคนที่เขารัก

“...นายกลับมาเถอะนะ...”

ผมมองดูรายชื่อในประวัติการใช้โทรศัพท์ซึ่งย้อนหลังไปไกลขึ้นเรื่อย ตัดสินใจว่าอย่างไรจะลองพยายามต่อ แต่ยังไม่ทันได้กดต่อสาย เครื่องมือสื่อสารของวินก็แผดเสียงร้องเตือนสายเรียกเข้าขึ้นมาก่อน

ใจผมเต้นโครมคราม มองชื่อที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอว่า ‘บาส’  นั่นคงเป็นเพื่อนเขาสักคน

ผมสูดลมหายใจเข้าลึก แม้ยังกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ก็รีบกดรับก่อนอีกฝ่ายจะวาง

“สวัสดีครับ?”

“วีหรือ?”

ผมชะงัก ทั้งที่เบอร์นี้เป็นของวิน แต่อีกฝ่ายกลับรู้ว่าเป็นผม

“...ใช่ครับ”

“พี่มันใช่ไหม? มาเอามันกลับไปที”

“เอ๋?”

“ไอ้วินน่ะ!...เฮ่ย...ไอ้เชี่ย!” ผมสะดุ้งกับเสียงสบถนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงโอ้กอ้ากดังห่าง ๆ  “อย่าอ้วกใส่กูนะมึง!”

“นายอยู่กับวินหรือ”

“เออ”

ผมกลั้นหายใจ

“ที่ไหน”

“ร้านเหล้าใกล้ ๆ อพาร์ตเม้นต์มันเนี่ย” เสียงอีกฝ่ายฟังดูหงุดหงิดเหลือจะกล่าว แต่ผมกลับโล่งจนแทบถอนหายใจให้อากาศหมดปอด “นั่งแช่อยู่แต่บ่ายละ ไล่กลับก็ไม่ไป มอมตัวเองแล้วนั่งฟุบตั้งแต่ยังไม่สี่ทุ่ม เห็นแล้วทุเรศลูกตา”

“ไปแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปรับ ช่วยรออยู่กับเขาก่อน”

“เร็วเข้าล่ะ” อีกฝ่ายกำชับห้วน ๆ แล้วตัดสาย

ผมรีบลุกขึ้นจากโซฟา อาจรีบไปหน่อยและยังไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยโงนเงนไปวูบใหญ่ แต่หลังกะพริบตาถี่ ๆ ครู่หนึ่งก็เป็นปกติ มองออกไปข้างนอกให้รู้สึกว่าช่างโชคดีที่ฝนหยุดตกแล้ว รีบคว้ากระเป๋าสตางค์ มือถือทั้งของตัวเองและของวินแล้วถลาออกจากห้อง

ร้านนั่งดื่มแถวนี้มีที่เป็นที่รู้จักอยู่ร้านเดียว ผมค่อนข้างมั่นใจว่าต้องเป็นร้านนั้นต่อให้เพื่อนเขาที่ชื่อบาสไม่ได้ให้รายละเอียดไว้มากมาย หากเดินเรื่อยเปื่อยอาจกินเวลาสักสิบห้าถึงยี่สิบนาที แต่วิ่งไปอย่างที่ผมกำลังทำอยู่นี้ ไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง


หญิงชายวัยรุ่นและวัยทำงานนั่งกระจุกอยู่ตรงนั้นตรงนี้ บางคนเหลือบมองมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็ผินหน้าไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ

ผมระบายลมหายใจผ่านริมฝีปาก สอดส่ายสายตาหาคนที่ใบหน้าเหมือนกับผม กระทั่งไปหยุดอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งด้านหน้าของร้าน คนที่ฟุบอยู่ตรงนั้น มีผู้ชายร่างใหญ่อีกคนลูบหลังแรง ๆ เหมือนจะตบให้กระอัก แม้เห็นแค่ด้านหลังของศีรษะที่ฟุบอยู่ แต่ผมไม่มีทางดูผิดแน่นอน

“...วิน!”

ผมร้องเรียก เดินตรงเข้าไปหา เจ้าของชื่อสะอึกขึ้นเบา ๆ แล้วก็แน่นิ่งอยู่ที่เดิม เดือดร้อนผู้ชายอีกคนซึ่งผมเดาว่าคงเป็นบาส ต้องยื่นมือไปตบหลังเขาเสียงดังจนผมสะดุ้งแทน

“วิน! พี่มึงมารับแล้วแน่ะ”

ผมย่อตัวลง ประคองใบหน้าแดงก่ำของเขาขึ้นมา “...วิน? เมาหรือ?”

“ไม่ต้องถามแล้วมั้ง” อีกฝ่ายร้องแทรก “เละเทะเป็นหมาขนาดนี้”

“..อา...” ผมตอบรับ พยุงเขาให้ลุกขึ้นยืน พากันเซจนเหมือนจะล้มหน้าทิ่มทั้งคู่

“เฮ่ย ระวังหน่อยสิ” บาสร้องอีกครั้ง ดึงแขนทั้งผมทั้งวินให้ยืนทรงตัวใหม่  “เดี๋ยวก็หน้าแหกกันหมดหรอก”

“ขอบคุณ”

“เนี่ยหรือพี่ชายที่มันติดนักหนาเป็นลูกแหง่”

“หือ?”

“ทะเลาะมากันเรอะ”

ผมขมวดคิ้ว ก้มลงมองวิน จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองบาสอีกครั้ง ก่อนจะสังเกตว่าสายตาอีกฝ่ายจ้องเขม็งมาที่ต้นคอผมจนนึกสงสัยว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น

“...เปล่า...”

“หรือถ้างั้น...” เขาว่า พยักพเยิดด้วยท่าทางประหลาด สายตายังจับจ้องอยู่ที่เดิม ชัดเจนแล้วว่าต้องมีอะไรสักอย่างบนลำคอผมแน่ ๆ  “...เพิ่งมีอะไรกัน?”

ผมสะดุ้ง แทบพาวินล้มไปด้วยกันอีกรอบ

“เปล่า!”

“ช่างเหอะ พอเข้าใจไอ้วินแล้ว” อีกฝ่ายยักไหล่ ยื่นมือมาดึงคอเสื้อผมที่มือยังไม่ว่าง ติดกระดุมให้จนถึงเม็ดบนสุด “เปิดไว้งั้นเดี๋ยวก็กลับไม่ถึงห้องกันพอดี”

ผมพยักหน้าอย่างขอไปที แม้ยังงุนงงกับสิ่งที่เขาพูด แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาสงสัยเรื่องอื่น

“แล้วค่าเหล้าล่ะ?”

“ช่างเหอะ” บาสเอ่ยซ้ำคำเดิม

“ที่เรียกมา...ไม่ได้ให้มาจ่ายหรือ?”

อีกฝ่ายหรี่ตา จ้องมองผมที มองวินที่ยืนโซเซที จากนั้นก็โบกมืออย่างไม่ใส่ใจนัก “ตอนแรกก็กะว่างั้น แต่คิดอีกทีรีบเอามันกลับไปเหอะ เปลี่ยนใจอยากนั่งต่ออีกหน่อย เดี๋ยวเคลียร์ที่เหลือเอง”

ผมพยักหน้า พยายามทำเป็นเข้าใจ แม้ความจริงไม่เห็นเข้าใจอะไรสักนิด

“ขอบคุณนะ”

บาสโบกมืออีกครั้ง คราวนี้เป็นเชิงไล่





กว่าจะพากันกลับมาถึงห้องได้ก็ใช้เวลาพอดู ระยะทางซึ่งผมสามารถวิ่งถึงได้ในเวลาไม่ถึงสิบนาที กลายเป็นเรื่องยากกว่าคาดเมื่อต้องพยุงร่างอีกคนที่ยังโซซัดโซเซมาด้วย นึกอยากให้วินกลับไปเป็นน้องชายตัวน้อยก็วันนี้เอง

ผมเอาเท้าเตะประตูให้เปิดออก กึ่งพยุงกึ่งลากวินเข้ามาในห้อง หิ้วปีกเขามาเอนกายไว้บนโซฟา ก่อนจะย้อนกลับไปปิดประตูให้เข้าที่ จากนั้นจึงมาทิ้งตัวลงนั่งหมดแรงข้าง ๆ เขา จมูกเริ่มชินกับกลิ่นเหล้าที่ลอยฟุ้ง นั่งหมดแรงอยู่เกือบนาที ใจสั่นและตาลายไปหมด นึกได้ว่านอกจากพวกเครื่องดื่มในตู้เย็นแล้วก็ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืน

“วิน..” ผมก้มลงไปเรียกเขาแต่เจ้าตัวเมาไม่รู้เรื่อง อยู่กับบาสในสภาพเละเทะขนาดนี้ ถ้าได้เจอบาสอีกครั้งคงต้องขอบคุณให้จริงจังกว่าเดิมสักหน่อย

“อือ...”

“นี่...วิน นายไหวหรือเปล่า”

วินไถลลงไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟา พอได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองก็ลืมตาขึ้นช้า ๆ นัยน์ตาสีดำขลับฉ่ำเยิ้มแล้วยังแดงก่ำ หากไม่เมาผมคงคิดว่าเขาเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

“เป็นไงบ้าง ทำไมดื่มจนเมาอย่างนี้ล่ะ”

“...วี?”

“ฉันเอง...นายอาบน้ำไหวไหม ถ้าไม่ไหวจะเช็ดตัวให้”

ผมถามเรียบ ๆ เดาคำตอบจากสภาพเขาตอนนี้ว่าคงต้องเป็นอย่างหลัง เอื้อมมือไปดึงชายเสื้อเขาขึ้นจากเอวช้า ๆ ตั้งใจจะถอดมันออกทางศีรษะให้ แต่จู่ ๆ ความคิดเรื่องเมื่อคืนก็แวบขึ้นมาในสมองจนหน้าร้อนผ่าว

ผมโคลงศีรษะแรง ๆ  ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องสกปรกพรรค์นั้นสักหน่อย

“...วี....” เขาร้องเรียก เสียงแหบแห้งไปหมด

“หือ?”

“...กอดฉันหน่อย”

“....”

“...นะ?”

“ฟ้าไม่ได้ร้องอยู่นี่นา”

“...ไม่ได้หรือ?”

“แต่ว่า..”

“วี...” เขากระซิบ “...พี่วี...”

ผมหลับตา แค่นหัวเราะเยาะตัวเองในใจ ชัดเจนออกไม่ใช่หรือว่าเขาเห็นผมเป็นพี่ชายแม้กระทั่งตอนเมาออกอย่างนี้ แล้วจะคิดไม่ซื่ออะไรกับแค่น้องขอให้กอด

“ไหนกางแขน”

ผมยิ้มบาง มองวินที่กางแขนออกทั้งสองข้างอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอนเข้าไปกอดเขาไว้เต็มตัว วินนั่งนิ่งไปครู่ใหญ่ จากนั้นก็ส่งเสียงถามทั้งที่ใบหน้ายังซุกกับต้นคอผม

“ฉันจูบนายได้ไหม?”

“....”

“...วี...?”

ผมเม้มปาก ก้มลงมองใบหน้าแดงระเรื่อของเขา นี่ก็เป็นเรื่องซ้อมไว้ใช้กับคนรักอะไรเทือกนั้นอีกแล้วใช่หรือเปล่า

“วี...” เขาพึมพำ น้ำเสียงอ่อนระโหยเหมือนจะขาดใจ “...ฉันรักนาย..”

ผมยิ้ม และทำผิดกับที่สัญญาตัวเองไว้อีกสองอย่าง

ข้อแรก ผมน้ำตาคลอกับคำพูดนั้น หลายความรู้สึกพุ่งเข้ากระหน่ำโดยไม่ทันเตรียมใจ เขาบอกว่ารักผมอีกแล้ว แต่ความรักของเขาบริสุทธิ์เกินกว่าผมจะกล้าทำลาย

และข้อสอง...ผมพูด...สิ่งที่เพิ่งบอกตัวเองว่าจะไม่พูดมันอีก ได้แต่หวังว่าพอเขาสร่างเมาแล้วจะลืมมันไปเสีย


“..ฉันก็รักนาย”


วินยิ้มละมุน ยกมือเกลี่ยปอยผมที่แปะข้างแก้มผมไปเหน็บไว้ข้างใบหู ดึงผมไปนั่งคร่อมต้นขาเขาไว้ ใบหน้าเราเคลื่อนเข้าหากันเชื่องช้า ปราศจากคำอนุญาต แต่ก็ไร้ซึ่งถ้อยคำปฏิเสธ

ผมกำลังจะทำผิดอย่างที่สาม ผิดซ้ำซากจนน่าละอาย มีแต่ความขัดแย้งเต็มหัว แต่สุดท้ายแล้วริมฝีปากเราก็ถูกดึงดูดเข้าหากันเหมือนอย่างคืนก่อน กระดุมเสื้อผมที่บาสเพิ่งติดให้ถูกเขาปลดออกง่ายดาย เชิ้ตแขนสั้นร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ท่อนบนเราเปลือยเปล่า บดเบียดแนบชิด แลกเปลี่ยนอุณหภูมิร้อนรุ่มบนผิวเนื้อ

สมองผมขาวโพลน เหตุผลและความเหมาะสมถูกโยนทิ้งไปพร้อมกับกางเกงขายาวที่เลื่อนหลุดจากท่อนขา แม้รู้ดีว่าหลังจากนี้ต้องเสียใจแน่ ๆ  แต่ความเป็นจริงตรงหน้าของผมตอนนี้มีแค่วินคนเดียว

ผมอยากให้เขาได้ยินชัด ๆ แต่ก็อยากให้เขาลืมมันไปในวันพรุ่งนี้ เป็นความขัดแย้งที่น่าหัวเราะ แต่ผมหัวเราะไม่ออกสักนิด

“....ได้ยินไหมวิน....ฉันก็รักนาย....”






อยากกอด...อยากถูกกอด

อยากรัก...อยากถูกรัก

บาปร้ายล่อหลอกคนเขลาด้วยกลิ่นหอมหวน

เฉกเช่นแมลงลุ่มหลงกลิ่นเกสรดอกไม้พิษ

ปีกล้า ราแรง ร่วงหล่น...ทุรนทุรายในรสพิษหวานล้ำ

คงเพราะอย่างนี้กระมัง...

สัมผัสอ่อนหวานของนายบนร่างกายฉัน

...จึงได้นำความปวดปร่ามาสู่หัวใจราวกับถูกไฟเผา



----------| S i n c e r e |----------







ฮึยยยย *กัดเล็บ*


เข้าใจผิดกันซะให้พอ เจ้าเด็กพวกนี้ TTwTT

ขอบคุณงาม ๆ ที่มาร่วมผิดศีลธรรมด้วยกันนะคะ (ฮา)

เพิ่มเติมให้นิดนึง อันที่จริงแล้ว ทางศาสนาพุทธ ความรักระหว่างเครือญาติไม่ถือว่าเป็นบาปแหละค่ะ แต่ที่บาปก็รู้สึกว่าจะเป็นศาสนาคริสต์ อิสลาม (ส่วนศาสนาอื่นไม่แน่ใจ)

ส่วนเรื่องกฎหมายไทย ไม่อนุญาตให้มีการแต่งงานระหว่างพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือ ร่วมบิดา หรือ ร่วมมารดา (ลูกพี่ลูกน้องนี่ได้) แต่วีวินเค้าก็ไม่แต่งกันอยู่แล้วนี่เนอะ 55

และอีกเหตุผลหนึ่งที่เราไม่ควร incest ระหว่างชายหญิง เพราะจะเพิ่มโอกาสในการมีลูกที่มีปัญหาโรคพันธุกรรมด้วยละค่ะ การแต่งงานในหมู่เครือญาติแล้วมีลูกด้วยกัน จะทำให้ยีนด้อยในเครือญาติเดียวกันมีโอกาสมาเจอกันมาขึ้น ถ้ายีนด้อยกับด้อยมาเจอกันก็จะแสดงลักษณะด้อยออกมา เพราะไม่มีอะไรไปกด คร่าว ๆ ประมาณนี้ค่ะ





แถมรูปจากเมื่อตอนที่แล้วนะคะ นิดนึง ////

(รูปใหญ่จิ้มที่นี่ค่ะ http://fc07.deviantart.net/fs70/f/2014/049/0/2/twin07_resize_by_maew3ta-d76zumb.jpg )



ส่วนอันนี้วาดเล่นในมือถือ แอบเบี้ยว(ไม่)หน่อย ค่ะ งื้ออออ



พบกันตอนหน้าค่า ^o^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2016 11:42:05 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
รัก คำเดียวกัน ความหมายเดียวกัน
แต่เข้าใจผิดกันไปคนละทาง
 โอ้ยยยยยย จะบ้าาา  :katai1:

ออฟไลน์ Serioz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
งือออตอนนี้เศร้าเวอร์ :hao5:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
 :เฮ้อ: เมื่อไรจะเข้าใจตรงกันซะที

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
บาส นายรู้ลึกทุกเรื่องใช่ไหม

ออฟไลน์ Linea-Lucifer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มันเป้นดราม่าที่กรี๊ดมาก มันใช่มาก เรื่องมันโฮกมาก TT^TT

ออฟไลน์ YuuYuu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่า... ไหนๆ จะบาปแล้ว  ก็ก้าวสองขาให้มันครบ  จะได้บาปเต็มตัว  จะได้บาปพร้อมคุณพี่ T[]T
ถ้าเกิดยมบาลถามว่าเจ้ารู้ไหมว่ามันบาปที่อ่านเรื่องอะไรผิดศีลธรรมแบบนี้  คงตอบท่านไปว่ารู้แต่ก็อ่านอยู่ดี  เผื่อจะได้ลดโทษ(?)


น้องคะ...ถ้าน้องจะเข้าใจผิดกันไปมาแบบนี้ 
พี่แนะนำให้น้องถามกันตรงๆ ไปเลยค่ะ  จะได้ไม่ต้องมาหน่วงอะไรแบบนี้
จะได้คิดหาวิธีต่อไปว่าเราจะจัดการความสัมพันธ์แบบนี้ยังไง
จะเดินหน้าต่อไปยังไง  จัดวางอนาคตยังไง
รู้ไหมคะว่าตอนนี้น้องๆ มัวเสียเวลากับการเข้าใจผิดกันอยู่
มันไม่ได้อะไรเลยนะคะน้องๆ  มันทำให้พี่เจ็บปวด  ทำให้พี่หน่วงกับการกระทำ คำพูด และความคิดของน้องๆ นะคะ

การรักกัน  มันอาจจะผิดที่รักเกินพี่เกินน้อง 
มันอาจจะผิดศีลธรรม  ผิดทำนองคลองธรรม
แต่ความรักมันก็คือความรักนี่คะ

ความรักมันก็แค่การที่ใจสองคนสองคนตรงกัน
มันก็แค่ความรู้สึกของคนสองคนที่มีให้กันนี่คะ

มันอาจจะง่ายขึ้นถ้าทั้งสองคนไม่ใช่พี่น้อง
แต่นี่มันก็เป็นเสน่ห์ของ Incest นี่คะ


จุดจบเรื่องนี้เดาไม่ออก  อาจจะแฮปปี้  หรืออาจจะแบ๊ดเอนด์... (น้องจะไม่ทำอะไรคุณพี่ค่ะ ไม่ว่าคุณพี่จะจบแบบไหนก็ตาม น้องยอมรับในการตัดสินใจค่ะ)

วันนี้เมนท์แค่นี้ก่อน...น้องง่วงล้าว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Silver-Ray

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
โอ้ยย อยากจะร้องไห้อ่ะ
ใจตรงกัน รักกัน แต่ไม่เข้าใจกัน T^T

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
 :serius2: โอ้ยหน่วงแบบฟินๆ ฮา

เข้าใจผิดกันเข้าปายยย ชอบคู่นี้นะ แต่แอบคิดถึงหนูคิมกับพี่ภพบ้างเป็นบางเวลา

รอครอบครัวแม่ไก่มาอาศัยอยู่ที่บ้านอยู่ค่า รอตอนต่อไปด้วย+1 :mew1:

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
เปนแฝดใช่มะ ก็เลยคิดเหมือนกันเป๊ะๆ
รักกัน แต่ก็กลัวการสูญเสีย ไม่กล้าบอกความจริง แต่ก็ปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้
อ๊ากกกกกก มันหน่วงนะ


 :ling1:


อยากวาดการ์ตูนสวยๆบ้าง

 :hao7:

ออฟไลน์ Saantos

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ปวดหัวจี๊ดเลยค่ะพี่ๆ

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
เข้ามากรี๊ดดดแฝดดดด อ่านแล้วกัดผ้าเช็ดหน้า :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อ่านเรื่องนี้มันสุขแบบหน่วงๆ

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
คือเปิดเรื่องมาหัวใจเรา doki doki <3 เลยค่ะ
แต่สักพักก็ร้าวรานใจ ฮือ ฮือ  :katai1: คำว่ารัก !!
มันก็รักเดียวกัน แต่พออธิบายแล้วมันช่างเฉือดเฉือนจิตใจ
กันและกันจริง ๆ เลย ตอนแรกจะแบบอยากตบตีน้องวินมาก
ทำไมทำร้ายจิตใจน้องวีขนาดเน้ !! คุณพี่มีแต่เสียกับเสีย
ยอมกับยอม... คุณพี่ที่มโนไปไกล แต่ความหวังพังทลาย
ลงมาเพราะว่า 'รัก' ที่เป็นอีก 'รัก' ฮือ ฮือ  :z3:
โอ้ยยยยยยย... มันร้าวใจมากกกกกก


พอเจอน้องวินเมาแอ๋ แล้วเจอเพื่อนบาสถามว่าเพิ่งมี
อะไรกันมาเหรอ สะอึกเล็ก ๆ ... เพื่อนคงรู้แหงม ๆ เลย =w='
เจ้าช่างตาทิพย์จริง ๆ !!


แต่จบพาร์ทนี้แล้วมันช่างบีบหัวใจค่ะ กางเกงเลื่อนหลุดไปแล้ว
เช้ามาจะดราม่าหรือเปล่า แอร๊ยยยยยยยยย...
รัก #วีวิน ไม่ใช่ตอนตื่นมาน้องวินจำอะไรไม่ได้ แล้วน้องวีบอก
ช่างมันเถอะยังไงนายก็เป็นน้องชายของชั้น อันนี้จะช้ำแรง ๆ TvT
ฮือ ฮือ อยากให้จำได้ทั้งสองฝ่าย อย่ามาเป็นน้องวีที่จำได้
แล้ววินคิดว่าฝันไป แอร๊ยยยยยย จะอ่านต่อ......

ทวงรัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
  :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
โอ้ยยยย อยากร้องไห้ อ่านไปปวดใจไปแต่ก็ชอบ
ฮืออออออออออออออ (เป็นมาโซสินะสินะ  :sad4: )

จริงๆ แล้วถ้าพูดกันตรงๆ หันหน้าเข้าหากัน คุยกันดีๆ ก็คือรักกันอยู่ทั้งคู่
แต่เพราะศีลธรรมและความเป็นพี่น้องทำให้พูดออกไปไม่ได้ ได้แต่เก็บไว้แล้วก็เข้าใจผิดกันไป
ปวดหัวใจกันไปอยู่อย่างนี้ คนอ่านเองก็น้ำตาซึม สงสารทั้งคู่ ฮืออออออออ  :hao5:

ถลำลึกลงไปแล้ว น้องวินยังเมาอยู่ ไม่แน่ใจว่าจะตื่นขึ้นมาแล้วจำได้หรือเปล่า
แต่พี่วีของเรานี่สิ.. สติครบถ้วนดีทุกอย่าง แล้วแบบนี้จะกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมอย่างที่บอกได้ยังไง?
โฮฮฮฮฮฮฮฮ ปวดใจ ตอนหน้าพี่วีเศร้าหนักกว่าเดิมแน่ๆ  :hao5:

ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
 :o12:
ตื่นมาแล้วจะเป็นไงต่อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ neno.jann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อรั้งงงงง อยากอ่านต่อ อยากอ่านต้ออออออออ  :hao6:

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
แซ่บมากไม่ไหว อยากอ่านต่อใจจะขาดแล้ว
ทั้งๆทีรักกันมากขนาดนี้ แต่ก็นะ...เพราะคำว่าพี่น้องเลยอะ
มาเถอะ...วีวิน มาก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไปด้วยกัน กิี๊ดดดดด
หรือว่าก้าวมานานแล้วนะ...ก๊ากๆๆๆ
โอร๊ยยยยย อดใจรอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ววว

ออฟไลน์ happy-jigsaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
อยากจิไปกระชากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งวีวินแล้วบอกว่า มรุงไปอ่านในเล้าดูซ้าาา ว่าอีกคนเขาคิดยังไง

ฮ่วยยยยยยยยยยยยยยยยย ปวดตับ!!!

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ลุ้นตอนหน้าว่าวีกับวินจะเป็นไง :mew2:

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
คำเดียวกัน ความหมายเดียวกัน แต่ต่างคนต่างไม่เข้าใจกัน   :katai1:   

มันหน่วงในใจ เหมือนจะหวานปนขมยังไงก็ไม่รู้ แต่รสขมชัดเจนกว่า


เดี๋ยวๆ ตอนท้ายๆนั่นแค่จูบใช่ไหม?  :hao6:

ออฟไลน์ Calo love

  • "Look Frist At Me"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-5
    • "พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ
ตามมาอีกแล้ว :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ลุ้นสุดใจ หน่วงได้อีก ตอนหน้าเถอะค่ะ ลุ้นโคตรๆ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ต่างคนต่างกลัวจะทำให้อีกคนเดือดร้อน
ต่างคิดว่าความรักที่มีให้กันมันผิด เลยได้แต่โทษตัวเองว่าไม่ควรมีความรู้สึกรักเกินพี่น้อง
เลยทำให้เจ็บกันแบบนี้
อยากให้คุยกัน แต่ก็เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของวีวินนะ

เพราะไม่คิดว่าต่างก็รักกันเกินพี่น้อง
คิดแค่ว่ามันผิดและไม่อยากดึงอีกคนมาผิดด้วย
แต่เค้าอยากให้มองให้ลึกซึ้ง และพูดออกมา สิ่งที่ซ่อนอยู่บางทีมันก็มีสิ่งดีๆมากกว่าที่กำลังกลัว

บอกกันเร็วๆนะ เค้าอยากได้แบบหวีทๆบ้าง
น้ำตาไหลมาสองตอนแล้วววว :sad4:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
นุ้งวินหนีไปกินเหล้า ง่าาา
กลับมาถึงห้องอีกที พี่วีเลยตามใจ~
>///////<

วินคงเพ้อเรื่องวีให้บาสฟังเยอะแน่ ๆ เลย

ขอบคุณมากค่ะ +1^^
รอตอนต่อไปแทบไม่ไหว!!

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
โฮ่ววววววววววววววววว
ความรักที่ต่างฝ่ายต่างรัก แต่ต้องเก็บไว้ บอกกันไม่ได้นี่มันอึดอัด และเจ็บปวดเป็นบ้าเลยยยยย
 :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด