เด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ โดย ภัคD
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ โดย ภัคD  (อ่าน 217354 ครั้ง)

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อ่านจบแล้วอมยิ้ม
คุณภัคD ทำให้ผมตาค้างหน้าจอมา 2 เรื่องละน๊า = =

ขอบคุณมากๆเลยนะครับ
^_________^

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
 :laugh: :laugh: :laugh:
โอยๆๆ อ่านแค่ตอนแรกที่เหมือนเป็นบทนำ ผมก็หัวเราะซะจนปวดท้องไปหมดแล้ว เดี๋ยวว่างๆจะมาอ่านต่อนะครับ  :oni1:

Bogiecoco

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบแล้ว
เศร้า
แต่ไม่มีน้ำตาซักหยด

หรือเพราะมันเศร้าจนน้ำตามันไม่ใหล

โอยย อธิบายไม่ถูก

เศร้าเกิน ปกติจะไม่ชอบอ่านอะไรที่เศร้าๆ

ไม่รู้ทำไมถึงอ่านเรื่องนี้จนจบ

ว่าจะเลิกอ่านตั้งแต่ตอนต้นๆแล้ว

แต่ก็ตัดใจไม่ได้ ต้องอ่านจนจบ

ของเค้าดีจริงๆ (ถึงแม้มันจะเศร้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2008 01:59:59 โดย Bogiecoco »

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ตื่นขึ้นมาสักพัก ก็เปิดอ่านต่อจากเมื่อคืนจนจบ :sad2:
ฉาย คงมีความสุข เพราะพี่ตะวันมีความสุข
ความสุขของเรา คือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข  :-[

ultramanzaku

  • บุคคลทั่วไป
มีความสุขด้วอีกคน


ฮ่า ๆ ๆ

 :laugh: :laugh:

hustsu

  • บุคคลทั่วไป
มาร้องเอาตอนพาสเสจสุดท้ายตอนจบ.....เฮ่อ :a6:

ออฟไลน์ archi_10_001

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

เรื่องนี้ช้อนเคยอ่านมาแล้วเจ้าค่ะ ((ด้วยความคิดที่ว่า คนแต่งคงไม่แต่ง แต่เรื่องเศร้าๆหรอก....ว่าเปล่า)) สุดท้ายก็มานั่งน้ำตาไหลปอยๆ...เก็บเอาไปฝันอีกต่างหาก เหอๆ สุดยอด

หลงรับนายตะวันฉายเจ้าค่ะ ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องเลยเจ้าค่ะ

เท่าที่อ่าน บอกได้คำเดียวว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนดีมาก....ดีเหลือเกินเจ้าค่ะ

เพราะเชื่อจริงๆเลยว่า หากว่าฉายจะเห็นแก่ตัวเสียหน่อย รั้งพี่ตะวันของตัวเองเอาไว้สักนิด พี่ขุนก็พี่ขุนเถอะ....นายฉายชนะขาด เห็นๆ

ส่วนคุณตะวัน เป็นคนน่ารัก ใสซื่อในหลายๆเรื่อง....แต่บางเรื่องคุณเธอก็ไม่ใสนะ 555++

ตะวันเองก็คงรักฉายไม่ต่างเจ้าค่ะ เพียงแค่ฉายไม่ได้หายไปไหน ไม่ได้หนีไปไกล เพราะรู้ว่าตะวันขาดตัวเองไม่ได้...เท่านั้นเอง

ขอบคุณเรื่องดีๆ....ความรู้สึกมากมายถ่ายทอดออกมาจากเรื่องนี้

ซึ่งเจ้าค่ะ

ร้องไห้เป็นเผาเต่าอีกตามเคย....อ่านกี่ครั้งก็ยังร้องมันทุกครั้ง

ขอบคุณมากๆ

ขอบคุณจริงๆเจ้าค่ะ

dekchin

  • บุคคลทั่วไป
เขียนได้สวยมากๆเลยนะ

แต่ทำไมเศร้าจังเลย

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
 o7 o7 o7รักนั้นคือการที่เรารักแล้วไม่ต้องการสิ่งตอบแทนขอแค่ได้รักและดูแลคนที่เรารักให้มีความสุขก็เพี่ยงพอแล้ว o7 o7 o7

sun-eating_monkey

  • บุคคลทั่วไป
:m24: ว้าวๆ ชอบเรื่องนี้มากๆ เลยครับ   จะรอผลงานเรื่องต่อๆ ไปนะคร้าบ  :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เรื่องของเด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับ พี่ชายปากบอนบ้านข้างๆ # พิเศษ

ใครจะรู้ว่าหอย...ก็มีชื่อเล่นว่าความรัก...

“เหนื่อยไหม พี่ขุน?”พี่ตะวันร้องถาม พร้อมรอยยิ้มหน้าบาน เมื่อยืนเกาะอยู่ที่หน้าต่างรถด้านคนขับซึ่งพี่ขุนนั่งอยู่ ทั้งที่รถยังจอดไม่ทันสนิทเสียด้วยซ้ำ

ผมไม่รู้ว่าพี่ขุนจะเหนื่อยอะไรได้ กับการขับรถแค่ไม่กี่กิโล ไปเก็บผมมาจากสถานีขนส่ง ...หลังจากผมเดินทางข้ามเขามากว่าร้อยกิโล เป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง และอีกนับครึ่งชั่วโมงที่นั่งจมเหงื่อท่ามกลางผู้คนที่แออัดเพื่อรอพี่ขุนที่นั่งขับรถตากแอร์เย็นๆให้มารับ...แล้วก็เก็บตกพี่กบที่กำลังลงจากรถสองแถวที่หน้าปากซอยได้เป็นของแถมเพิ่มอีกหนึ่ง...

แม้ว่าการเดินทางข้ามห้วยและข้ามเขาของพี่กบจากขอนแก่น จะกลายเป็นอดีตไปแล้วไม่สดๆร้อนๆอย่างผม แต่มันก็เพิ่งผ่านไปแค่ไม่ถึงวัน ดังนั้น ผมกับพี่กบจึงเหล่มองหน้าคนถูกร้องถามอย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนเหล่ตามองกันเองอย่างเข้าใจในหัวอกคนไม่ถูกถามเหมือนๆกัน...

“ไม่เหนื่อย...”พี่ขุนตอบยิ้มๆ ตาก็ทำเหล่ๆมาชำเลืองมองผมกับพี่กบ...คงคิดว่าผมกับพี่กบจะอิจฉาละมั้ง!...พี่กบน่ะผมไม่รู้...ส่วนผม...ยอมรับล่ะ ว่าอิจฉานิดๆ...

“ดีจัง!”พี่ตะวันว่า...เท่านั้นผมก็หัวเราะออกมา...ก็...ดีจัง!...ของพี่ตะวันน่ะ จะดีจริงก็แต่กับตัวพี่ตะวันคนเดียวเท่านั้นแหละ...

และในเมื่อผมรู้ ทำไมพี่ขุนที่รู้จักพี่ตะวันมากว่าสิบปีจะไม่รู้...รอยยิ้มพี่ขุนเลยจะชักเจื่อนๆ

“ตะวัน!”เสียงแม่เรียกพี่ตะวัน ก่อนรีบวิ่งตามออกมาจากในบ้าน และเสียงแม่ก็ฟังดูตื่นๆชอบกล...

“เมื่อกี้มีรถมาขายหอย...ขายถู้ก ~ถูก โลละ20... แต่ตะวันวิ่งออกมาซื้อไม่ทัน ลุงแดงบอกว่าเขาขับไปจอดที่ตลาด พี่ขุนไปซื้อให้ตะวันหน่อยซิ”พี่ตะวันแจ้งจุดประสงค์ โดยไม่สนใจพี่ขุนที่ยิ้มค้าง...ไม่สนใจพี่กบที่ซ่อนหน้ากลั้นยิ้ม แต่แกล้งหัวเราะในคอให้ได้ยินดัง ฮึ...ฮึ...ส่วนแม่ทำหน้าเหมือนอยากป่าวประกาศให้คนทั้งโลกได้ยินว่า...ไอ้นี่มันเป็นแค่หลาน เรื่องอ่อนอบรมน่ะต้องโทษพ่อแม่มัน ไม่ใช่ชั้น!...

ผมเลยหิ้วกระเป๋าลงจากรถ พร้อมพี่กบที่หิ้วถุงของฝากใบโตตามลงมา ส่วนพี่ขุนก็ขับรถกลับออกไปเพื่อซื้อหอยให้พี่ตะวัน...เพราะพี่ขุนไม่เหนื่อย แต่ผมกับพี่กบน่ะ...เหนื่อย!

“โอ๊ย!”เสียงพี่ตะวันร้องลั่น ไม่ต้องหันไปมองให้เสียเวลาก็รู้ว่าเล็บของแม่คงหยิกหมับลงที่ต้นแขนของพี่ตะวัน

“สอนไม่รู้จักจำ!”แม่เปิดฉากการอบรมทันที

“น้าโอ๋สอนอะไรแล้วตะวันไม่ฟัง?!”ถึงมันจะฟังเป็นคำถาม แต่จริงๆแล้วมันเป็นคำเถียง...และถึงแม่จะรู้หากแต่แม่ก็เต็มใจตอบทุกครั้งที่พี่ตะวันร้องเถียง เวลาแม่เริ่มประโยค...สอนไม่รู้จักจำ!...

แม่จะร่ายยาว ทุกสิ่งและทุกอย่าง ที่แม่เคยสอนและพี่ตะวันไม่จำ...ซึ่งถ้าแม่เริ่มอีกครั้งวันนี้ล่ะก็ จนพี่ขุนกลับมาแล้ว ผมว่า แม่ก็ยังร่ายไม่จบ ผมเลยต้องขัด...

“ทุกอย่างแหละ!...แต่แม่เอาแค่เรื่องวันนี้ก็พอ”ผมพูด...แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เพราะแค่เรื่องวันนี้ก็น่าจะเยอะเอาการอยู่นะ ผมว่า

“เอาเรื่องตอนนี้ก็พอ!” ผมบอกใหม่

“น้าบอกแล้วไง ว่าเวลาฟังอะไร ฟังให้มันจบ!”แม่บอก...และมันผิดจากผมคิดไปหน่อย

ตั้งแต่เด็ก จนโต จนจะแก่ พี่ตะวันไม่เคยเปลี่ยน...ถ้าลองใครก้าวผ่านประตูบ้านหรือแม้แต่ประตูรั้วบ้านเข้ามาแล้วมีพี่ตะวันวิ่งหน้าบานออกมารับ เดาประโยคต่อไปได้ไม่ยาก...

...แม่ทำนั่นให้ตะวันหน่อย!...พ่อทำนี่ให้ตะวันหน่อย!...น้าเจดทำโน่นให้ตะวันหน่อย!...น้าโอ๋ทำนู่นให้ตะวันหน่อย!...

ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีใครปฏิเสธ เพราะพี่ตะวันมักร้องขอด้วยรอยยิ้มหน้าบานๆ...ซึ่งผมก็พิสูจน์มาแล้ว!

...ฉายทำนี่ให้พี่หน่อย!...พี่ตะวันร้องขอ และผมก็ทำให้ทุกทีแหละ ถึงจะแกล้งทำหน้าเซ็งๆก่อนก็เหอะ...

“คนกลับมาถึงเหนื่อยๆ คิดจะถามกันสักนิดไหมว่า เหนื่อยไหม ?”และแม่ก็สอนพี่ตะวันในครั้งหนึ่ง...

“เหนื่อยไหม?”พี่ตะวันเลยถามอย่างที่แม่สอน แต่ก็นั่นแหละ จะตอบว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อย...พี่ตะวันไม่สนหรอก ตอบไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆ ...จะขึ้นต้นด้วยประโยคไหน ก็จบลงด้วยประโยคเดิมๆ... และใช่ว่าพี่ขุนจะไม่รู้ แต่เดาว่าคงลืมตัว เพราะมีผมกับพี่กบนั่งมาด้วย...ซึ่งก็พูดได้คำเดียวว่า...สมน้ำหน้า!

แต่ประเด็นที่แม่สอนวันนี้ ผมว่ามันยังไงๆอยู่...

“น้าโอ๋พูดอะไร ยังไม่จบ?”คราวนี้พี่ตะวันไม่ได้เถียง แต่ถามจริงๆ ด้วยหน้าตางงๆ แถมยังมีประโยคต่อท้ายเป็นหลักฐานยืนยัน

“น้าโอ๋หยุดพูดไปแล้ว...”

“น้าแค่หยุดหายใจ!”แต่เป็นแม่เถียง...แต่แม่จะหยุดพูดอย่างพี่ตะวันว่า หรือจะหยุดเพื่อหายใจอย่างที่แม่ว่าก็ยังไม่ใช่ประเด็นที่น่าสังสัย ไอ้ที่น่าสงสัยน่ะ...แม่พูดอะไรไม่จบต่างหาก...

“แล้วตะวันไม่ฟังแม่พูดอะไรจนจบล่ะ?”ผมถามเพราะอยากรู้ ไม่ใช่เพราะเข้าข้างพี่ตะวัน แต่พี่ตะวันคงจะเข้าใจผิด เลยพยักหน้าหงึกๆ เดินเข้ามายืนข้างๆผม

“ฉายอยากรู้ ไม่ได้เข้าข้างตะวันซะหน่อย!”ผมหันไปบอกพี่ตะวัน ก่อนผลักไหล่พี่ตะวันให้ถอยไปสองสามก้าว เป็นการยืนยันคำพูด เพราะไม่งั๊นแม่ก็ต้องดึงเอาพี่กบที่ยังว่างพวกอยู่ มาเป็นพวก และเรื่องเถียงกันไร้สาระแบบนี้ มันก็คงทำให้มีสาระขึ้นมาไม่ได้หรอก...

“ก็แม่บอกมันว่า เดี๋ยวนายขุนกลับมา ให้มันบอกนายขุนให้ออกไปซื้อหอยที่ตลาด...”แม่บอก...

“อ่อ!...”ผมร้องได้แค่นั้น...เพราะเพิ่งนึกได้ว่า...ถ้าเมื่อไหร่แม่กับพี่ตะวันไม่แตกคอ อยู่คนละฝั่งทัพกัน...แม่กับพี่ตะวันน่ะ เหมือนกันไม่มีผิด!

“ก็บอกให้แล้วไง!”พี่ตะวันว่างั๊น ซึ่งผมก็ได้ยิน

“ก็น้ายังพูดไม่จบ!”ส่วนแม่ก็ว่างั๊น

“จบแล้ว!”พี่ตะวันก็เลยเถียง

“ยังไม่จบ!”แล้วมีเหรอที่น้าโอ๋ของพี่ตะวันจะยอม

“จบแล้ว!”พี่ตะวันก็ยังยืนยันคำเดิม

“ก็บอกว่ายังไม่จบ!”ส่วนแม่ก็ยังไม่เปลี่ยนคำ

“จ...”พี่ตะวันจะเถียงต่อ แต่พูดได้เท่านั้น เพราะผมเอื้อมเอามือไปปิดปากไว้ทัน

“น้าจะบอกให้ซื้อแบบโลละสามสิบ ไอ้ที่เขาล้างแล้ว...โลละยี่สิบน่ะ มันต้องมานั่งล้างเอง!”แม่เลยได้โอกาส แจกแจงสิ่งที่พี่ตะวันฟังไม่จบเพราะแม่มัวแต่หยุดพูดเพื่อพักหายใจ

“เย็นนี้มีเมนูอะไรครับ?”พี่กบแทรกแซงด้วยคำถาม เดาว่าน่าจะหวังเปลี่ยนเรื่อง...หรืออาจจะอยากเปลี่ยนเรื่องเบาสาระระดับหนักๆ ให้กลายเป็นเรื่องหนักสาระระดับเบาๆ...

“ก๊งเหล้า!”แม่เลยตอบสั้นแต่ก็เข้าประเด็นดี...ส่วนพี่กบทำหน้าใช้ความคิดอยู่นิดหนึ่งก่อนหยอดคำถามใหม่

“หอยแมลงภู่หรือหอยแครงเหรอครับ?”

“ตะวันได้บอกพี่ขุนหรือเปล่าว่าเอาหอยแมลงภู่?!”แม่หันไปถามพี่ตะวันอย่างเพิ่งนึกได้ แต่ผมตอบแทนได้เลยว่า...ไม่ได้บอก!

“หอยแมลงภู่ หรือ หอยแครงก็แกล้มเหล้าอร่อยทั้งนั้นแหละ!”แม่พูด เดาว่าแม่ปลอบใจตัวเอง เพราะในครัว แม่ทำเตรียมไว้ก็แต่น้ำจิ้มหอยแมลงภู่

“...แต่ตะวันชอบกินหอยลาย...”พี่กบพูดเบาคล้ายจะเกรงใจ หรืออาจไม่อยากทำลายความหวังของแม่...

ก็ใครๆก็รู้ว่า หอยลายสารพัดเมนูน่ะ มันอาหารจานโปรดของพี่ตะวัน...ยิ่งกว่านั้น จะทั้งหอยแมลงภู่หรือหอยแครง พี่ตะวันก็ไม่กินทั้งนั้น...ยกเว้นว่ามันจะสุกเสียจนเปื่อยจนปราศจากข้อสงสัยว่ามันสุกหรือเปล่านั่นแหละ พี่ตะวันถึงจะยอมกิน

ดังนั้นเมนูหอยลวก หอยอบ...หรือสารพัดอาหาร ที่มีคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างความสุกมากหรือสุกน้อยนั้น พี่ตะวันไม่ยอมแตะสักอย่าง

‘ฉายลองกินให้หน่อยสิ ว่าอันนี้มันสุกหรือยัง?’คำพูดประจำตัวของพี่ตะวันบนโต๊ะอาหารมื้อนอกบ้าน เมื่ออาหารในจานตรงหน้ามันไม่สุกจนแห้งและไม่แห้งจนสนิท

‘เรื่องไรล่ะ!... เกิดมันไม่สุกล่ะ?’ผมโวย

‘พี่จะได้ไม่กินไง!’และพี่ตะวันตอบ ซึ่งถ้าไม่ตอบเลย น่าจะฟังดูชื่นใจกว่า...

“โอ๊ย...มันรู้แหละ ก็เมื่อกลางวันน้าให้มันไปซื้อเหล้าซื้อน้ำแข็งไว้แล้ว... วันศุกร์ตอนเย็นๆ อยู่กันพร้อมหน้า แถมน้าเจดไปต่างจังหวัด...ถ้ามันไม่รู้ น้าจะตบหัวมันแล้วถามว่า นี่โง่หรือบ้ายะ!”แม่ว่างั๊นหลังประโยคเกรงใจของพี่กบ แต่ผมเห็นแม่มองน้ำจิ้มหอยแมลงภู่ของตัวเองด้วยสีหน้าเป็นกังวลชอบกล...

ไม่นานพี่ขุนก็กลับมา...แล้วเราก็ตั้งวงเหล้าวงเล็กๆ... เพราะมันเป็นเย็นวันศุกร์...อยู่กันพร้อมหน้า แถมมีพี่กบเกินมาอีกหนึ่ง...และที่สำคัญ พ่อไม่อยู่...หากแต่วงเหล้า มันก็ต้องตั้งหลังข้าวมื้อเย็นแบบเบาๆ...

เย็นนั้นเรากินข้าวกับหอยลายผัดพริกเผาเพราะหอยสดดี...เพราะเพิ่งซื้อมา...เช้าพรุ่งนี้หรือมื้อกลางวันก็น่าจะต่อด้วยหอยลายได้อีกมื้อหรือสองมื้อ เพราะพี่ขุนซื้อมาเยอะ...ส่วนกับแกล้มของวงเหล้าวงเล็กๆน่ะเหรอ?...ก็โชคดีที่มีถั่วคั่วเหลือ แถมถั่วตัดที่พี่กบหิ้วเอามาฝากอีกถุงเบ้อเร่อ...

ผมเห็นพี่กบเหล่ตามองแม่แล้วก็ยิ้ม...ส่วนแม่ก็กระดกแก้วเหล้าพร้อมดีดถั่วคั่วเข้าปากด้วยหน้าตาแบบเซ็งๆ...

“น่าจะซื้อหอยแมงภู่มาด้วย...สดซะด้วย เสียดายจัง!”แล้วอยู่ๆพี่ขุนก็พูดขึ้นอย่างนึกเสียดาย...แม่เลยยิ่งเซ็ง...

แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าว่าพี่ขุนว่า โง่หรือบ้า...เพราะถึงจะบ้า ก็คงจะเป็นบ้ารัก...ไม่ใช่สำนวนผมนะ...จำพี่กบมาพูดอีกที เพราะมันลิเกไปหน่อย!

ยิ่งกว่านั้น ผมก็เพิ่งรู้แหละว่า...หอยลายนี่มันก็เป็นสื่อแทนความรักกับเขาได้เหมือนกัน!...ไม่เชื่อก็มาดูหน้าพี่ตะวันได้...ยิ้มหน้าบานกว่าจานถั่วคั่วกลางวงเหล้าซะอีก!


จบ

ออฟไลน์ ~prince™~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +161/-2

อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกกดดัน อย่างแรงงงงง

แต่ก็อ่านจนจบจนได้ ขอบคุณมากๆค๊าฟ

ขอบคุณที่เอานิยายเรื่องนี้มาลงให้อ่าน




ju_on

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้ว สงสารตะวัน  :o12:

ขอบคุณนะค่ะ ที่เอาตอนพิเศษมาลง

ตะวัน ก็ยังคงเปนตะวัน ที่ทุกคนรักเหมือนเดิม  :กอด1:

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
จิ้มสาวน้อยข้างบน อิอิ มีตอนพิเศษด้วยไม่ยักเห้นที่อินุ

พี่ขุนตายแล้ว ยังมีเรื่องมาให้หวานกันได้อีก สงสารฉาย  :o12: ยังไงก็ไม่มีทางได้เลื่อนขั้นมาอยู่แทนที่ใคร :sad2:

phak

  • บุคคลทั่วไป

echisen

  • บุคคลทั่วไป
 :sad2: :sad2:อ่านจบแล้วฮับ เศร้าจังเลยอ่ะ อ่านตอนแรกๆๆก้อตลกดีอ่ะ ฮาดี แต่พออ่านๆๆไปแล้วเศร้ามากๆๆๆๆ  :sad2: :sad2: สุดท้ายก้อเป็นน้องชาย ฮืออออออออออ  บอกได้คำเดียวเศร้าอ่ะ

sayings

  • บุคคลทั่วไป
ภาษาสวย น่าอ่าน  ... อ่านไปเศร้าไป   :o12: 

 



NiGhTtakuya

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: กว่าจะอ่านจบ



ใจจริง อยากให้พี่ขุน คู่กะฉาย  เขี่ยตะวันไปให้พ้นๆ    :m23:



เสียดายพี่ขุนมากมาย   ไม่น่าตายเลยอะ  :serius2:




ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
ขอบคุณ คุณภัคD มากๆอีกเรื่องนะครับ
ขอบคุณ คนนำมาโพสต์ด้วยครับ

ความรู้สึกของผมคงไม่แตกต่างจากหลายๆคนที่ได้เข้ามาอ่านนะครับ

ความรักมันช่างส่งผลกับคนคนนึงมากมายเลยเนอะ

ออฟไลน์ ไอศกรีมละลาย

  • sp*20
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :man1:

นึกว่าตอนแรกจะไม่สมหวังแล้วอีก
เกลียดตะัวันไปหลายตอน

เรื่องนี้คนที่เข้าใจถึงความรักได้ดีที่สุดคือฉายอ่ะนะ
มีความสุขที่ฉายมีความสุข



และตะวันมีความสุข


ก็นึกอยู่ว่าชื่อตรงกลางใคร ที่แท้ๆๆ

๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

นายตะวันฉายนี่เอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






GajonG

  • บุคคลทั่วไป
เขียนได้ลื่นอ่านได้ไม่สะดุดเลยค่ะ  o13
ชอบสำนวน

แต่เนื้อเรื่องนี่สิ จะว่าเศร้าก็ไม่เศร้า มันเหมือนจะเจ็บแต่ก็ยังไม่เจ็บ
แต่มันทรมานเล็กๆ อึดอัดนิดๆ
ขอให้ฉายกับพี่ตะวันมีความสุขค่ะ

 :pig4: คนแต่ง+คนโพสค่ะ


ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4


 
 . . . .เพิ่งมีโอกาสได้อ่านวันนี้เองค่ะ   . .. . . ไม่น่าเล๊ยย ย ย ย คือคำแรกที่อ่านจบ  . .. . . ไม่น่าหลงเข้า


 มาอ่านเลยค่ะ  . .. . . กดดันสุดสุดอ่ะค่ะ  . .. . . . แต่ชอบจังอ่ะงานเขียนของคุณภัคD

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7

ออฟไลน์ i-tatae

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2

ออฟไลน์ meadthat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
อ่านจบแล้วสงสารตะวันฉายจิงๆๆๆ :เฮ้อ:

blackie

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
ไม่ค่อยได้เห็นคนที่มีสไตล์การเล่าเรื่องอย่างงี้มานอนมากแล้ว
ชอบๆ  :o8:

BABOO

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณภัค D กับ พี่ทิพคับ

เป็นเรื่องที่ใกล้ๆตัว มีแบบทั้งแอบรักพี่หรือน้อง
 
ญาติสนิท เพื่อนบ้าน มีทั้งสมหวังไม่สมหวัง

แต่เรื่องนี้กดดันตะวันฉายมาก ตั้งแต่เด็กๆแล้วน่าจะเข้าใจว่าตัวเองมีสิทธิเป็นได้แค่น้องรัก

ไม่ใช่ที่รัก ก็ดันทุรังมาจนโต  :m15: :m15: :m15:




ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
ชอบการบรรยายเรื่อยๆเรียบๆ
แต่น่าติดตาม
ความรู้สึกของฉาย ทั้งน่าสงสารและน่าหมั่นไส้
คนอะไร จะรักเดียวใจเดียวมาได้ป็นสิบๆปี
แต่ก็น่าจะมีอยู่จริง

ขอบคุณนะคะ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณ ภัคD กับคุณ THIP มากนะคะ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วประทับใจมากๆ ทั้งในส่วนของลีลาและสำนวนการแต่ง เนื้อหา และแม้แต่ตอนจบ
เป็นเรื่องที่บีบหัวใจคนอ่านได้เป็นระยะๆ และยิ่งบีบคั้นความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ฉายเรียนจบ
ฉายมั่นคงกับความรักและความรู้สึกของตัวเองมากทีเดียว
ส่วนตะวันเหมือนจะรับรู้แต่แกล้งไม่รู้ความรู้สึกของฉาย อาจเพราะมีคนที่รัก คนที่ใช่ คนที่สามารถอยู่ใกล้ๆ ได้ตลอดเวลา
ตะวันเหมือนคนขี้เหงาที่ขาดคนเคียงข้างไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะพ่อแม่ที่จากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้
ส่วนวิธีที่คนแต่งเลือกการตายให้กับพ่อแม่ของฉาย และพี่ขุน ก็ช่างโหดร้ายจริงๆ เลย มันสะเทือนใจมากๆ
สำหรบตอนทีอ่านแล้วชอบที่สุดคือ ตอนที่ตะวันมาอยู่กับฉายที่ไชยปราการและการทำกิจกรรมต่างๆ ที่รพ. น่าประทับใจดีค่ะ
สรุปว่าชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆเลยนะคะ
ขอบคุณน้องนิวที่แนะนำให้มาอ่านเรื่องดีๆเรื่องนี้ด้วยนะจ๊ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด