♛ PLAYBOY LOVER ♛ E-BOOK
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ E-BOOK  (อ่าน 425465 ครั้ง)

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 14 [23/06/2014]
«ตอบ #150 เมื่อ26-06-2014 19:10:56 »

โห แทมก็กวนน้องตลอดอ่ะ  :hao4:

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 14 [23/06/2014]
«ตอบ #151 เมื่อ27-06-2014 12:22:20 »

แทมเมื่อไหร่จะชนะใจเตยมัวแต่แหย่เล่นอยู่นั้นแหละ
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 14 [23/06/2014]
«ตอบ #152 เมื่อ30-06-2014 22:46:34 »

ชอบอิมเมจพี่แทม >< ดูเคะได้อยู่นะ *ชูป้ายพี่แทมเคะต่อปายยยยยยยยยย*  :z2:
ขอบเหมือนกันต้า อิอิ

พี่แทมหื่นขึ้นทุกวัน สงสารเตยต้องมานั่งทำงานงกๆ เหมือนจะปลอบใจแต่ไปกวนประสาทเตยแทน แล้วเมื่อไรเตยจะยอมล่ะนี่ อุ๊บ oxo  :katai1:
พี่แทมเขาหยอกไปเรื่อย ก็ต้องรอว่าเตยจะยอมเมื่อไหร่ อิอิ

Toey is really cute≧◇≦
Love and cheer this pairing; P'Tam x Toey 555
น้อเงตยจะค่อยๆ น่ารักขึ้น (มั้ง) เรื่อยๆ ค่ะ
ดีใจจังที่ชอบ

โห แทมก็กวนน้องตลอดอ่ะ  :hao4:
อนถญาตให้ตยได้เลยค่ะ ถ้าหมั่นไส้ 555

แทมเมื่อไหร่จะชนะใจเตยมัวแต่แหย่เล่นอยู่นั้นแหละ
 :เฮ้อ:
ที่จริงพี่แทมเขาก็ไม่ได้หวังมากหรอกค่ะ ได้ก็ดี ทำนองนั้น 555
++++++++++
ขอบคุณมากเลยค่ะ ^^

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 14 [23/06/2014]
«ตอบ #153 เมื่อ04-07-2014 10:41:22 »

PLAYBOY # 15 - TOEY




ไอ้เพื่อนไม่รักดี!

ผมได้แต่นั่งคิดอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะมองไอ้ลมที่ตอนนี้ทำหน้าอ่อนต่อโลกมาให้อย่างนึกแค้นเคืองอยู่ในใจ

หลังจากที่ผมเจอกับไอ้แทมเมื่อคืนนี้ ผมก็รู้ทันทีว่าไอ้บ้านั่นจะต้องรู้เรื่องของผมมาจากไอ้เพื่อนปากสว่างคนนี้ แน่ เพราะมีแต่เพื่อนสนิทในกลุ่มเท่านั้นที่รู้ และคนที่มันจะเข้าไปคุยด้วยง่ายที่สุดก็น่าจะเป็นไอ้ลมที่อยู่คณะเดียวกัน

“เลิกโกรธมันได้แล้วน่า” ไอ้วิลพูดขึ้น เมื่อเห็นผมยังเอาแต่มองไอ้ลมอย่างเอาเรื่อง

“นั่นสิ จะแค้นอะไรนักหนาวะ” ไอ้เพชรพูดขึ้นบ้าง ก่อนจะหยิบขนมขบเคี้ยวขึ้นมากิน

ผม.มองใบหน้าสำนึกผิดของไอ้ลม แล้วถอนหายใจออกมา พออาเข้าจริงผมก็ไม่ได้เป็นคนใจแข็งกับใครได้นานนักหรอก แต่ด้วยความหงุดหงิดที่ยังตกตะกอนอยู่ในใจ ทำให้ผมคว้าหมอนของไอ้เพชรปาใส่ไอ้ลมอย่างนึกระบายอารมณ์

“เออ!” ผมตอบรับเสียงขุ่น ก่อนจะหันไปสนใจรายการโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งเอาไว้

ตอนนี้ผมกับเพื่อนๆ กำลังอยู่ในห้องของไอ้เพชรครับ หลังจากที่ผมทะเลาะกับผู้ชายคนนั้นเมื่อหลายวันก่อน ผมก็ตัดสินใจที่จะออกมาจากคอนโดมิเนียนที่เขาซื้อให้ แล้วย้ายสำมะโนครัวมาขอพักกับไอ้เพชร เพราะผมไม่อยากรบกวนไอ้วิลกับไอ้ลมที่ยังพักอยู่กับครอบครัวที่บ้านครับ

ในวันรุ่งขึ้นผมก็ถูกตัดขาดทางด้านการเงินอย่างที่เขาประกาศกร้าวเอาไว้ ตอนนี้ผมเองก็ไม่ต่างจากคนที่มีแต่ตัว ถึงจะมีท่าทีไม่สนใจไยดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในใจของผมก็รู้ดีว่าต่อจากนี้ไปคงต้องลำบากแน่ ในเมื่อชีวิตประจำวันของมนุษย์ยังต้องดำเนินไปด้วยปัจจัยที่เรียกว่า ‘เงิน’

ดังนั้นเมื่อผมเก็บข้าวของที่ห้องของไอ้เพชรเรียบร้อน สิ่งที่ผมทำต่อมาก็คือการหมุนทรัพย์สินของตัวเองแลกเป็นเงินที่มีสภาพคล่อง มากที่สุดด้วยการขายโทรศัพท์มือถือราคาแพงที่มีอยู่ แล้วหันมาใช้รุ่นธรรมดาทั่วไปแทน นอกจากนั้นผมยังเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเอง เพื่อต้องการจะตอกย้ำกับตัวเองว่า นับตั้งแต่วินาทีนี้ ผมจะเริ่มต้นเป็นคนใหม่

ไม่ใช่ลูกชายของนักธุรกิจที่มีเงินให้ใช้จนล้นเหลือ

ไม่ใช่ผู้ชายที่กินเที่ยวไปวันๆ อย่างไร้ความหมาย

แต่ผมจะเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาคนหนึ่งที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง และจะทำให้เขารู้ว่า ผมสามารถอยู่ได้ โดยไม่ต้องพึ่งเงินของเขามาหล่อเลี้ยงชีวิต

ถึงแม้ว่าผมจะตั้งเป้าหมายของตัวเองอย่างชัดเจน แต่ทว่าชีวิตจริงไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังเอาไว้ ความคิดที่เป็นเพียงมโนภาพเลือนหาย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่เป็นอยู่ 

การหาเงินมาด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งนิสัยที่ผมเป็นและคุณวุฒิที่มี ทำให้งานที่ผมต้องการถูกจำกัดและผูกมัดด้วยคำว่า ‘พาร์ทไทม์’

งานล่วงเวลาที่นักศึกษาอย่างผมพอจะทำได้ และช่วงจังหวะของชีวิตที่กำลังร้อนเงินอยู่ตอนนี้ ทำให้ผมไม่มีเวลาพอจะไปเริ่มเก็บเล็กผสมน้อย งานที่มองหาเลยจำเป็นต้องวัดจากค่าจ้างที่ได้มาเป็นหลัก และงานที่ได้เงินเยอะแบบนั้น อีกทั้งคุณสมบัติที่ผมมีพร้อม ก็คงต้องพาตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิงเท่านั้นแหละครับ แต่ถึงจะมีทางเลือกที่น่าสนใจแบบนั้น แต่ผมก็ไม่ทำหนอกครับ

ผมไม่อยากให้คนอื่นมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของผมมากไปกว่านี้แล้ว

ผมนั่งปรึกษากับพวกมัน เพื่อหาช่องทางของงานที่ทำให้ผมมีรายได้ ก่อนที่ผลสรุปจะมาบรรจบตรงการเป็นพนักงานเสิร์ฟในผับของญาติไอ้ลมครับ

ถึงจะไม่มีใจรักในด้านบริการ แต่เมื่อคำนวณรายได้เปรียบเทียบกับความอดทนที่ผมต้องใช้ในการทำงานแล้ว ก็พอจะทำให้ผมพอใจได้ แค่ทำงานในสถานที่เที่ยวยามค่ำคืนที่คุ้นเคย คงไม่ยากเกินความพยายามของผมหรอก

แต่ความจริงก็ย่อมเป็นความจริง เมื่อผมทำงานได้วันแรกก็ต้องยอมรับว่าเกือบจะเส้นอารมณ์ขาดอยู่หลายรอบ คนที่ไม่เคยสนใจใครอย่างผมกลับต้องมาทนบริการให้ไอ้พวกขี้เมา แถมยังโดนลูกค้าบางคนลวนลาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผมจะต้องแบกรับกับสภาวะทางอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิด ได้เกือบตลอดเวลา แต่โชคดีที่เมื่อทำงานเสร็จในแต่ละวัน ผมจะได้รับค่าจ้างไม่ต่างจากสายน้ำเย็นที่ช่วยบรรเทาไฟที่กรุ่นด้วยความโมโห ของผมมอดดับลงได้

งานที่ทำไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากจะใช้ความอดทนกับลูกค้าเป็นหลัก และผมเองก็คิดว่างานนี้กำลังไปได้ดี จนกระทั่งวันที่ผมได้เจอใครบางคนโดยบังเอิญ

ไอ้แทม!

สิ่งมีชีวิตเพศผู้ที่ขอบกวนประสาทและเขย่าความอดทนของผมได้ มันเป็นคนแรกที่ทำให้ผมได้รู้ว่า ตัวเองไม่ได้เยือกเย็นอย่างที่เข้าใจมาโดยตลอด

ทันทีที่ผมสบกับนัยน์ตาสีดำที่แสดงถึงความตกใจ วินาทีนั้นผมก็รับรู้ได้ว่า ชีวิตพาร์ทไทม์ของผมคงจะไม่เรียบง่ายอย่างที่หวังเอาไว้ และเมื่อผมเพิ่งประสบกับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้มา มันก็ช่วยเน้นย้ำถึงความคิดของผมมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจข้อตกลงไร้สาระที่จะเล่นเกมบ้าๆ ของมันแล้วครับ ในเวลานี้ผมมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่าการทะเลาะกับไอ้บ้าคนหนึ่ง

“มึงยกโทษให้ไอ้ลมก็ดีแล้ว คราวนี้มาพูดเรื่องของมึงกันต่อ” ไอ้เพชรพูดขึ้น แล้วหันมามองผม “ตกลงแล้ว เรื่องของมึงกับพี่แทม มันยังไงกันแน่”

“มันไม่มีอะไรหรอก” ผมตอบ ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

“จะไม่มีได้ยังไง พี่เขาบอกว่าชอบมึง แล้วก็มีอะไรกันมากกว่าที่พวกกูรู้” ไอ้ลมพูดขัด ก่อนจะบิ้มแห้งออกมา “ก็พี่เขาอ้างกับกูว่าอย่างนั้น”

“ไอ้เตย! ถ้ามึงยังเห็นพวกกูเป็นเพื่อนอยู่ล่ะก็ มึงต้องเล่าความจริง” ไอ้วิลพูดเสริม แล้วมองผมไม่วางตา

“ความจริงคือกูไม่ชอบมัน” ผมตอบเสียงแข็ง แล้วขมวดคิ้วขึ้น “ทั้งหมดก็แค่นี้”

“ความจริงคือมึงปิดบังพยกกูอยู่ต่างหาก” ไอ้เพชรว่า แล้วทำหน้าบึ้งใส่ “เมื่อไรมึงจะเลิกทำตัวเหมือนไม่มีใครคบสักทีวะ”

“มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่พวกมึงต้องสนใจหรอก ก็แค่คนๆ นึงเท่านั้นแหละ” ผมตอบเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นสายตาที่กำลังมองอย่างไม่ลดละ

“มึงคงคิดว่าพวกกูพึ่งพาและไม่น่าไว้ใจพอที่มึงจะเล่าเรื่องให้ฟังใช่ไหมวะ” ไอ้วิลพูดขึ้น แล้วมองผมนิ่ง “มึงไม่คิดหรือว่า พวกกูจะรุ้สึกยังไง ตอนที่รู้เรื่องขอมึงจากปากคนอื่นเป็นกลุ่มสุดท้าย”

“มึงอย่าจริงจังได้ไหมวะ มันไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น” ผมบ่นใส่ เมื่อบรรยากาศเริ่มกดดันขึ้นมา "จะเสือกเริ่องไร้สาระไปทำไมวะ"

"มึงคิดว่า 'เพื่อน' คืออะไรวะไอ้เตย" ไอ้เพชรพูดเสียงเรียบ

เมื่อสิ้นสุดประโยคนั้น ความเงียบก็โรยตัวขึ้นโดยรอบ ความอีดอัดกำจายจนไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว ผมมองสายตาสามคู่ที่มองมาอย่างนึกอ่อนใจ

“พวกมึงนี่น่ารำคาญจริงๆ” ผมบ่น แล้วถอนหายใจออกมา

ผมนั่งคิดกับตัวเองเล็กน้อยว่าควรจะเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ตอนไหน เพราะจุดเริ่มต้นพวกมันก็อยู่ด้วย เพียงแต่ตอนนั้นมันมีอย่างอื่นที่ผมเจอมากกว่าสิ่งที่พวกมันเจอ

จูบของไอ้แทม!

ตั้งแต่ที่ผมพลาดท่าไป ไอ้บ้านั่นก็ตามหลอกหลอนผมจนถึงตอนนี้ แถมยังบอกให้ผมไปเป็นมียของมันอีก ต่อให้ตายยังไงผมก็ไม่มีวันยอมมันหรอก

“ว่าไงไอ้เตย” ไอ้เพขรถามเร่ง เมื่อเห็นว่าผมเอาแต่เงียบ

“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจ แล้วมองใบหน้าของพวกมันอย่างหน่ายๆ

ผมตัดสินใจเล่าเรื่องของไอ้แทมที่ตามตื้อผมอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วก็บอกว่าไอ้เวรนั่นมันตั้งใจจะเอาผมไปเป็นเด็กของมัน และมันก็คงไม่ออกจากชีวิตของผม ถ้ามันไม่สมหวัง เพียงแต่ว่าผมจะอัดมันจนเลือดสาดนั่นแหละ

ผมมองไอ้เพื่อนสนิทที่นั่งฟังผมเล่าเรื่องเงียบๆ ไม่ต่างจากเด็กน้อยที่นั่งฟังนิทานอย่างตั้งใจ ผมถอนหยใจอีกรอบ เมื่อพบว่าท่าทีสงบเสงี่ยมแบบนั้นเคลือบแฝงไปด้วยความใครรู้จนแววตาเป็น ประกาย

“แล้วมึงว่าไงวะ” ไอ้วิลพูดขึ้น ก่อนจะมองผมอย่างอยากรู้ “มึงจะยอมพี่เขาหรือเปล่า”

“พูดเหี้ยๆ แล้วมึง” ผมว่ากลับ

“พี่แทมแม่งรวยฉิบหาย” ไอ้ลมพูดขึ้นบ้าง “เท่าที่กูสังเกต พี่เขาคงชอบมึงจริงๆ เพราะเจอกูทีไร ก็ถามเรื่องของมึงตลอด ถ้าคบกัน มึงไม่ต้องทำงานเลยก็ได้”

“ไอ้ห่าลม! ” ผมว่า ก่อนจะยกขาถีบมัน “จะให้กูไปเป็นเด็กของมันหรือไง เดี๋ยวกูกระทืบซะหรอก”

“อย่าเพิ่งโมโหสิวะ” ไอ้เพชรปรามผม ก่อนจะยิ้มออกมา “กูก็เห็นด้วยกับไอ้ลมนะ มันเข้าล็อกพอดี”

“ไอ้เหี้ยเพชร...”

“มึงนี่ฉุนเฉียวง่ายจริง” ไอ้เพรพูดขัดขึ้น แล้วมองมาอย่างตำหนิ

“อะไรของมึง” ผมถามกลับอย่างไม่สบอารมณ์นัก

“พี่แทมก็หล่อดีนะเว้ย แถมรวยอีก ที่จริงรับรักพี่เขามา แล้วก็คบกันเล่นๆ พอตั้งตัวได้เมื่อไร มึงค่อยเลิกก็ได้ แต่กูว่า...คบไปเลยก็ดี รับรองสบายโคตรๆ” ไอ้เพชรอธิบาย พร้อมกับผมที่ยกเท้าถีบมันทันทีอย่างอดใจไว้ไม่อยู่

“มึงจะให้กูไปเกาะมันกิน? มึงจะบ้าหรือไง!” ผมว่าเสียงดัง แล้วมองไอ้พวกบ้าอย่างหงุดหงิด   ก่อนจะนีกย้อนไปถึงข้อเสนอของไอ้แทมเมื่อคืนนี้ "ที่สำคัญ...กูไม่มีวันไปเป็นเมียมันหรอกเว้ย!"

ให้ตายเถอะ! ผมยังนึกภาพของตัวเองที่คบกับมันเป็นแฟนไม่ออกจริงๆ เพราะตอนนี้อยู่ด้วยกันไม่ถึงห้านาที ผมก็ทะเลาะกับมันตลอด

ถ้าจะมีใครที่ทำให้ผมไปรักมันได้ ก็คงไม่ใช่กามเทพ แต่เป็นปิศาจที่อยากเห็นความรักนองเลือดมากกว่า

“ไอ้เตย มึงแม่งคิดตื้นๆ ว่ะ” ไอ้วิลว่า แล้วยิ้มออกมา “คบกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปป็นเมียพี่เขานี่หว่า”

ผมมองไอ้วิลอย่างเคลือบแคลง ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น เมื่อทบทวนคำพูดของมันอีกครั้ง

“นี่มึง...” ผมเปรยขึ้นอย่างตกใจ เมื่อรับรู้คำตอบในความคิด

“อย่างที่มึงคิด จะรอให้พี่เขาจับมึงกดหรือไง มึงก็ชิงกดพี่เขาก่อนสิวะ” ไอ้วิลบอกต่อ แล้วยกยิ้มที่มุมปาก “ลงมือก่อนย่อมได้เปรี่ยบนะเว้ย”

ผมมองไอ้วิลที่พูดขี้นอย่างวางท่า พร้อมกับรู้สึกถึงเส้นประสาทที่เต้นอยู่ตรงขมับ ก่อนสมองจะสั่งการให้ผมยกเท้าถีบเจ้าของความคิดวิปลาสแบบนั้นอย่างไม่ต้อง ประมวลผลให้เสียเวลา

ไอ้พวกเวร!

ผมกวาดตามองไอ้เพื่อนบ้าที่มองผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ถึงแม้จะโดนผมถีบไปคนละทีอย่างเพลียหัวใจ ก่อนจะส่งสายตาดุอย่างคาดโทษไปให้

จะเป็นผัวหรือเมียขแงมัน กูก็ไม่เอาทั้งนั้นนั่นแหละเว้ย!

 

++++++++++

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #154 เมื่อ04-07-2014 10:47:17 »


"จะรีบไปไหนล่ะ"

ผมหยุดชะงัก เมื่อเห็นใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของพี่เนสท์ ก่อนจะลอบถอนหายใจ เมื่อนึกถึงสาเหตุของการปรากฏตัวของพี่รหัส

"วันนี้ผมไม่ว่าง" ผมชอกเสียงเรียบ

"พี่ว่า...นายคงไม่ว่างตลอดนั่นแหละ"  พี่เนสท์ว่า ก่อนจะเข้ามาล็อกตัวของผมเอาไว้ "บอกตรงๆ ไม่ได้อยากมายุ่งด้วยหรอกนะ โดนบังคับมาอีกทีเหมือนกัน เราสองคนก็หัวอกเดียวกันนั่นแหละ"

"อยากโง่เอง บอกให้เลือกคนอื่นก็ไม่ทำ" ผมบ่น แล้วปัดแขนของคนที่จับตัวของผมเอาไว้ออก "แล้วที่ผมไม่ว่าง ไม่ใช่ข้ออ้าง แต่มีธุระจริงๆ"

"จะยุ่งขนาดไหนก็เข้าไปคุยกับพวกนั้นหน่อยเถอะน่า ครั้งก่อนก็หนีมาทีนึงแล้ว ไม่เห็นใจคนที่ต้องโดนด่า เพราะความใจแคบของนายบ้างหรือไงวะ!" พี่เนสท์บ่นต่อ พร้อมกับชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ

ผมมองพี่รหัสที่เอาแต่ยืนทำหน้าเซ็งอย่างนึกไม่สบอารมณ์นัก ก่อนจะถอนหายใจออกมา ที่จริงแล้วผมก็พอมีเวลาสักสองหรือสามชั่วโมง ก่อนจะเตรียมตัวไปทำงานพิเศษต่อ แต่ที่ผมต้องคอยหลบหลีกอยู่แบบนี้ เพราะผมไม่อยากไป

“น่ารำคาญ” ผมบ่นอีกรอบ พร้อมกับกลอกตาอย่างนึกเซ็งอารมณ์

ในที่สุดผมก็ตัดสินใจยอมทำตามคำขอร้องของพี่รหัส แล้วมานั่งทำหน้าเบื่อรอรุ่นพี่ที่นัดผมมาคุยด้วย ส่วนคนที่มีหน้าที่นำทาง ก็เอาแต่ยิ้มร่าหนีไปไหนต่อไหนอย่างลอยนวลแล้ว

คนที่ใจแคบมันมึงต่างหาก ไอ้พี่เนสท์!

"เตยเอาน้ำไหม"

คำถามที่ดังขึ้น ทำให้ผมต้องหันไปมอง ก่อนจะเห็นใบหน้าของรัน เพื่อนร่วมคณะที่ได้รับมอบหมายให้มาประกวดดาวมหาวิทยาลัยคู่กับผม

"ไม่เอา ขอบใจ" ผมตอบเสียงเรียบ ก่อนจะนั่งเซ็งกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตัวเอง

หนีดีกว่า...

ในขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้น รันที่ไปหยิบน้ำเปล่าแช่เย็นก็นั่งลงข้างผม ก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้ แล้วถามผมอีกครั้ง

“คิดว่าเตยจะไม่มาแล้วซะอีก”

ผมเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าหวานน่ารักที่กำลังมองมาด้วยนัยน์ตากลมโตสดใส แล้วลอบถอนหายใจออกมา

ก็กำลังจะหนีอยู่นี่ไง...

ผมไม่ได้ตอบรับอะไร แล้วมองไปทางอื่นแทน แต่ดูเหมือนว่าท่าทีของผมจะไม่ได้ทำให้ผู้หญิงที่พยายามชวนผมคุยลดความพยายามของตัวเองไปได้

“แต่คราวก่อนที่เตยหนีไป รันแย่เลยอ่ะ” รันพูดขึ้น ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “ต้องมานั่งฟังคำบ่นของรุ่นพี่จนมึนหัวไปหมด”

 ผมได้แต่มองรอยยิ้มนั้นอย่างไร้คำสนทนา พร้อมกับนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ผมหนีพวกรุ่นพี่ที่พยายามบังคับให้ผมเต้นท่าประหลาด ผมเลยหนีออกมา โดยอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะไปเจอไอ้แทมมากวนประสาทระหว่างทางพอดี

“เอาล่ะเด็กๆ ขอโทษนะจ้ะที่ให้รอกัน” พี่ซันพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะส่งสายตาวิบวับน่าขนลุกมาให้ผม “วันนี้พี่ขอร้องเลยนะคะน้องเตย ว่าห้าเกเรแบบครั้งก่อนอีก”

ผมพยักหน้ารับอย่างขอไปที ก่อนจะเมินสายตาไปทางอื่นอย่างเบื่อหน่าย อย่างที่พอจะเดากันได้ รุ่นพี่คนนี้เป็นเพศที่สามครับ แถมยังทำตัวน่ากลัวด้วยการพยายามใกล้ชิดผม

ถึงผมจะคบกับเพศเดียวกัน แต่ก็ขอย้ำอีกทีว่าผมเลือกครับ

“เพราะน้องเตยหนีไปคราวที่แล้ว พี่ซันนี่ก็กลับมาคิดทบทวนอีกทีว่า คนสวยอย่างพี่ทำผิดอะไร” พี่ซันบอก ก่อนจะทำท่าประกอยคำพูดของตัวเอง

ผิดเพราะมึงนั่นแหละ!

ผมตอบอยู่ในใจ แต่สิ่งที่แสดงออกไปก็แค่ความนิ่งเฉย แต่ถ้ารุ่นพี่คนนี้ยังยืนยันว่าจะให้ผมไปเต้นบ้าๆ บอๆ แบบนั้นอีก ผมคงต้องสร้างเงื่อนไขยื่นคำขาด

“แล้วพี่ซันนี่คิดว่ายังไงบ้างคะ” รันถามขึ้น ก่อนจะมองรุ่นพี่สาว? อย่างตั้งอกตั้งใจ

“น้องรันนี่ขา บางทีพี่อาจจะจิ้นผิดไป” พี่ซันตอบ ก่อนจะส่งสายตาที่เปรียบเสมือนโลกกำลังจะสลายออกมา “เจ้าชายผู้เย็นชาคงไม่มีทางจะไปเต้นเคป็อปได้”

มันก็ต้องเป็นแบบบนั้นอยู่แล้ว! จะให้ผมไปเต้นทำตัวเหมือนไส้เดือนดิ้นได้ยังไง?!

ผมบ่นอยู่ในใจ แล้วขมวดคิ้วออกมา เมื่อนึกไปถึงท่าเต้นประหลาดกับเพลงต่างชาติที่ฟังอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง

“พี่ซันนี่เลยจะมาถามน้องเตยสุดหล่ออีกครั้งว่า พอจะมีความสามารถพิเศษอะไรอีกไหมค่ะ” พี่ซันหันมาถามผมตาหวาน ผมก็ได้ปต่ขมวดคิ้วตอบ

“ไม่มี”

คำตอบชัดเจนที่ดังขึ้น ทำให้สายตาหวานสั่นสะเทือน พี่ซันยกมือขึ้นปิดใบหน้าของตัวเองแล้วส่ายไปมาราวกับทนฟังคำตอบของผมไม่ได้ แต่ผมไม่ได้สนใจเท่าไรหรอกครับ เพราะครั้งแรกที่ถาม ผมก็ตอบออกไปแบบนี้ ก่อนจะโดนยัดเยียดให้มาเต้นด้วยความไม่เต็มใจ

“น้องเตยคะ! การแสดงมันก็มีแค่ร้องเล่นเต้นรำ ถ้าน้องไม่เอาสักอย่าง แล้วจะทำอะไรล่ะคะ” พี่ไหมที่เดินเข้ามาร่วมกลุ่มถามขึ้นอย่างใจเย็น

“ผมก็ไม่ประกวดไง” ผมตอบเสียงเรียบ แล้วเลิกคิ้วมองรุ่นพี่สาวที่มองผมไม่ละสายตา “พี่ไปหาคนใหม่เถอะ”

“อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัวแบบนี้สิคะ!” พี่ซันว่า ก่อนทำท่าจะตีแขนของผม ซึ่งผมก็ส่งสายตาดุ แล้วนำร่างกายของตัวเองให้พ้นจากรัศมีอันตราย

“มันต้องมีสักอย่างที่เตยทำได้สิ” รันพูดขึ้น ก่อนจะส่งยิ้มมาให้

“การแสดงที่ใช้ประกวดเป็นการแสดงคู่ เพราะฉะนั้นถึงรันจะพยายามแค่ไหน แต่ถ้าเตยไม่ร่วมมือแบบนี้ พวกเราก็แย่กันหมด” พี่ไหมว่า ก่อนจะส่งสายตาจริงจังมาให้ “เตยตั้งใจจะถ่วงรันที่พยายามเพื่อคณะของเราหรือไง”

ผมสบกับนัยน์ตาของรุ่นพี่นิ่ง ความเงียบเกิดขึ้นเหมือนกับต้องการให้ผมคิดทบทวนความคิดของตัวเองอีกครั้ง ผมเลื่อนสายตาไปมองรันที่กำลังมองกลับมา นัยน์ตาสดใสของเธออ่อนแสงลงมาเล็กน้อย

หึ! ถ่วงคนอื่นอย่างนั้นหรือ...

ผมถอนหายใจกับวาจาร้ายกาจที่ดังขึ้น ถึงจะไม่อยากสนใจอะไรนัก แต่ผมก็ไม่ชอบให้ใครมาดูถูกกันแบบนี้

“แล้วจะให้ทำอะไร” ผมพูดขึ้นอย่างเซ็งอารมณ์ ท่าทีที่อ่อนลงของผม ทำให้คนที่นั่งอยู่ด้วยกันตาเป็นแระกาย “เรื่องเต้นกับร้องเพลงไม่เอานะครับ”

"แสดงละครสั้นดีไหมคะ!" รันเสนอขึ้นอย่างกระตือรือร้น

"โทษที แต่ไม่ล่ะ"  ผมตอบ แล้วกลอกตาไปมา จะให้ผมไปแสดงละครเนี่ยนะ? บ้าไปแล้ว ชีวิตจริงยังสับสนกับตัวเองอยู่เลยด้วยซ้ำ

“งั้นก็เหลือแค่เล่นกนตรีเท่านั้น” พี่ไหมบอก แล้วแสดงสีหน้าครุ่นคิด

“แต่ผมเล่นดนตรีไม่เป็น” ผมบอก แล้วมองใบหน้าของรุ่นพี่ที่กำลังมองมา

“ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่ซันนี่คิดแผนสำรองไว้ให้แล้ว” พี่ซันบอก แล้วคลี่ยิ้มออกมา “ก็อย่างที่บอกไปครั้งที่แล้วนะคะ จะให้มานั่งร้องเพลงคู่เล่นกีตาร์ก็ดูธรรมดาเกินไปแล้วล่ะค่ะ เบสิกและจืดชืดที่สุด!”

ผมมองใบหน้าที่แสดงอารมณ์ไปมาของพี่ซันอย่างนึกรำคญ แต่ก็ไม่พูดอะไร เมื่อเห็นว่าพี่ไหมกับรันกำลังรอฟังคำพูดของรุ่นพี่เพศที่สามอย่างตั้งใจ

“ดนตรีไทยค่ะ!” พี่ซันตอบด้วยรอยยิ้ม “การแสงดของเราจะเป็นการเเล่นนตรีไทยที่ไพเราะคู่กัน รับรองได้เลยว่ากรรมการจะตะลึงในความมีตลาส แถมยังไฉไลสุดๆ”

“ดนตรีไทยงั้นหรือ? เข้าท่าเหมือนกันนะ” พี่ไหมเอ่ยขึ้นอย่างสนับสนุน แล้วหันไปมองรัน “รันเล่นขิมได้ใช่ไหม”

“ค่ะพี่ไหม” รับตอบรับด้วยรอยยิ้ม แล้วหันไปมองพี่ซันต่อ “แต่พี่ซันนี่คะ เตยเขาเล่นดนตรีไม่เป็นนี่คะ”

"เรื่องนั่นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะรันนี่ขา" พี่ซันบอก ก่อนจะส่งสายตาแพรวพราว “พี่ซันนี่ได้ไปค้นคว้า คิดแล้วคิดอีกจนได้ข้อสรุปที่จะทำให้รันนี่ที่น่ารักเฉิดฉายคู่กับน้องเตยสุดหล่อได้”

“อะไรหรือคะ” รันถามขึ้นอย่างสงสัย ผมเองก็สงสัยเช่นเดียวกัน

คนอย่างผมเนี่ยนะ?! จะไปเล่นดนตรีไทย!

“สำหรับรันนี่ขๅก็เล่นขิมไปนะคะ” พี่ซันบอก ก่อนจะหันมามองผม “ส่วนน้องเตยของพี่จะเป่าขลุ่ยค่ะ เพราะมันเล่นง่ายมากๆ แถมยังเท่โคตรจนคนสวยอย่างพี่ซันนี่ยังต้องระทวย เหมาะกับผู้ชายมาดขรึมและดูไร้หัวใจอย่างสุดหล่อที่สุด!”

ผมกะพริบตามองพี่ซันอย่างมึนงง แล้วนึกปลงท่าทางจนเกินพอดีของรุ่นพี่ตรงหน้า ก่อนที่จะนั่งคิดกับตัวเอง โดยไม่ได้สนใจบทสนทนาที่ต่อยอดจากถ้อยคำก่อนหน้านี้

ขลุ่ยอย่างนั้นหรือ…?

 

TBC ++++++++++

 :hao3: Marionetta ::: วันนี้เอาคอนใหม่มาลงแล้วค่ะ เย้ๆ
ตอนแรกตั้งใจจะเอามาลงสักพักแล้ว แต่ช่วงนี้ยุ่งๆ ก็เลยช้าไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยนะคะ

สำหรับตอนนี้ก็เป็นตอนที่ย้อนเล่าเรื่องของน้องเตยเพื่อลำดับเรื่องราวเล็กน้อย ก่อนจะจบด้วยการแระกวดเดือนอีกนิด ก็ออกแนวชีวิตประจำวันเรื่อยๆ ของเตยเขาล่ะค่ะ และตอนนี้ก็เฉดหัวพี่แทมออกไปด้วย ฮ่าๆ (หมั่นไส้มัน)

ขอบคุณที่ติดตามกันจนถึงตอนนี้ ดีใจมากเลยค่ะ คิดว่าจะไม่รอดแล้ว
สามารถแนะนำมาได้เต็ใที่นะคะ ยังไงก็ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยจ้า

ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2014 10:59:02 โดย marionatte »

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #155 เมื่อ04-07-2014 12:58:15 »

ตอนนี้ไม่มีพี่แทมก็คิดถึง5555555
เตยต้องหัดพึ่งของอื่นบ้างนะคะะะะะ
ชีวิตนี้ไม่ได้เกิดคนเดียวตายคนเดียวนะรู้เปล่า
ไม่ว่าพี่แทมจะเป็นผัวเป็นเมียแต่พี่แทมคงเป็นคนเดียวที่ดัดนิสัยเตยได้อ่ะ
นี่ถ้าแบบเจอรุ่นพี่เฮี้ยวๆ เตยโดนไปละ
แต่จริงๆพวกนี้ก็วุ่นวายเนอะ มายุ่งกะเตยไมไม่รู้กรั่กๆ
เอาหน่าๆ เป่าขลุ่ยมัดใจพี่แทมเนอะ5555555555

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #156 เมื่อ04-07-2014 13:36:09 »

เตยยยยยยย จะกดพี่แทมทำไมเหนื่อยเปล่าๆลูกกกกกก
ให้พี่แทมกดลูกเนี่ยแหล่ะเริ่ดที่สุดแล้ว!!!!!!!!

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #157 เมื่อ04-07-2014 16:44:17 »

ตามอ่านจนทัน!
 หึหึ
จะรอดไหมเป่าขลุ่ย

ลุ้นคู่นี้จนตัวโก่งตัวงอหมดแล้ว หุหุ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #158 เมื่อ04-07-2014 19:30:28 »

ได้ครึ่งทาง ตอนที่ 8 แล้ว ..

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #159 เมื่อ04-07-2014 21:19:13 »

 :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
« ตอบ #159 เมื่อ: 04-07-2014 21:19:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Satanza321

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #160 เมื่อ04-07-2014 23:33:40 »

ดีมากเพื่อนๆเชียร์เตยแบบนี้แหละ พี่แทมจะได้สมหวัง :haun5:
ว่าแต่ตอนนี้มาแต่ชื่ออะ คิดถึงพี่แทมนะ ไม่มีใครมากวนประสาทเตยเลย :m18:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #161 เมื่อ05-07-2014 19:36:34 »

หน้า 5 ตอนที่ 11  ..

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #162 เมื่อ09-07-2014 21:03:22 »

ตอนนี้ไม่มีพี่แทมก็คิดถึง5555555
เตยต้องหัดพึ่งของอื่นบ้างนะคะะะะะ
ชีวิตนี้ไม่ได้เกิดคนเดียวตายคนเดียวนะรู้เปล่า
ไม่ว่าพี่แทมจะเป็นผัวเป็นเมียแต่พี่แทมคงเป็นคนเดียวที่ดัดนิสัยเตยได้อ่ะ
นี่ถ้าแบบเจอรุ่นพี่เฮี้ยวๆ เตยโดนไปละ
แต่จริงๆพวกนี้ก็วุ่นวายเนอะ มายุ่งกะเตยไมไม่รู้กรั่กๆ
เอาหน่าๆ เป่าขลุ่ยมัดใจพี่แทมเนอะ5555555555
พี่แทมหายไป ตอนนี้เลยค่อนข้างสงบสุขเลย 555
ก็หวังว่าขลุ่ยของน้องเตยจะเปลีย่นใจพี่แทมได้ 555

เตยยยยยยย จะกดพี่แทมทำไมเหนื่อยเปล่าๆลูกกกกกก
ให้พี่แทมกดลูกเนี่ยแหล่ะเริ่ดที่สุดแล้ว!!!!!!!!
แบบนี้ต้องรอดูแล้วล่ะค่ะว่าพี่แทมจะจัดการน้องเตยได้หรือเปล่า อิอิ

ตามอ่านจนทัน!
 หึหึ
จะรอดไหมเป่าขลุ่ย

ลุ้นคู่นี้จนตัวโก่งตัวงอหมดแล้ว หุหุ
ระดับน้องเตยแล้ว คงไปรอดล่ะค่ะ 555
ช่วยลุ้นกันต่อไปด้วยนะคะ

ได้ครึ่งทาง ตอนที่ 8 แล้ว ..
หน้า 5 ตอนที่ 11  ..
สู้ๆ ค่ะ ^^

:katai5:
  :-[


ดีมากเพื่อนๆเชียร์เตยแบบนี้แหละ พี่แทมจะได้สมหวัง :haun5:
ว่าแต่ตอนนี้มาแต่ชื่ออะ คิดถึงพี่แทมนะ ไม่มีใครมากวนประสาทเตยเลย :m18:
เพื่อนๆ เขาก็เชียร์เต็มที่ อิอิ ตอนนี้ก็ปล่อยพี่แทมไปพักก่อน เจอกันตอนหน้าแน่นอนจ้า

+++++++++++++++++++++
ขอบคุณมากเลยค่ะที่ยังติดตามกันอยู่ จะมาลงตอนในเร็ววันนี้ค่ะ ^0^

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #163 เมื่อ10-07-2014 09:45:02 »

PLAYBOY # 16 - TOEY

 
 
 
วันนี้ ผมมีนัดเจอพี่ไหมกับพี่ซันที่ใต้ตึกคณะบริหาร ก่อนพวกรุ่นพี่จะพาผมไปยังโรงเรียนสอนดนตรีไทย พี่ซันบอกว่าจะพาผมไปเรียนเป่าขลุ่ยอย่างถูกต้อง จะได้เล่นเป็นเร็วขึ้น ผมเองก็ไม่ได้ท้วงติงอะไร ถึงจะคิดว่ามันดูมากเกินไปก็ตาม ในเวลานี้ไม่อยากจะคิดอะไรให้เหนื่อยสมองเล่นแล้วล่ะครับ
 
เมื่อ พวกเราไปถึง พวกรุ่นพี่ก็พาผมเข้าไปในห้องที่มีเครื่องดนตรีไทยวางอยู่ ก่อนสายตาของผมจะฉายภาพของหญิงสาวที่ร่วมประกวดด้วยกันกำลังยืนคุยโทรศัพท์ อยู่
 
“เตยรอในห้องนี้ก่อนแล้วกัน ” พี่ไหมหันมาบอก ก่อนจะเดินออกไปกับพี่ซัน
 
ใน ห้องกว้างนี้ปูด้วยกระเบื้องสีขาวราวกับลานน้ำแข็งและไม่ค่อยมีเฟอร์นิเจอร์ อะไรนัก นอกจากเครื่องดนตรีไทย และตู้สำหรับใส่ของที่วางไว้ชิดผนัง ผมเดินไปที่มุมหนึ่งของห้อง ก่อนจะยืนพิงผนังเพื่อรอเวลา
 
“เตยเป็นยังไงบ้าง ลองเล่นดูหรือยัง”
 
ผมหันไปมองเจ้าของเสียงทัก รันในขุดลำลองเดินมายืนอยู่ข้างผมด้วยแววตาที่มีประกายสดใส
 
“อืม...ก็ดี” ผม ตอบรับเสียงเรียบ เมื่อวันก่อนผมเพิ่งจะได้รับขลุ่ยเพียงออมา พร้อมกับหนังสือสอนเป่าขลุ่ยที่รุ่นพี่ไปยืมมาให้จากห้องสมุดครับ แต่ก็แค่ลองหยิบมาหมุนเล่น ไม่ได้ลองอะไรจริงจัง
 
“พอดีรันเคยเรียนตีขิมที่นี่ แล้วก็สนิทกับอาจารย์ที่สอน” รันพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มหวาน “พอเล่าเรืองการประกวดให้ฟัง ท่านก็เลยอาสาจะช่วยน่ะ"
 
ผม ก็ได้แต่ยืนฟังเงียบๆ ก่อนจะมองไปที่ประตูห้องที่เปิดกว้าง พี่ไหมกับพี่ซันกำลังเดินเข้ามา พร้อมกับผู้ชายร่างสูงหน้าตาดีคนหนึ่ง เขาส่งยิ้มทักทายมาให้อย่างเป็นมิตร ท่าทางอบอุ่นและใจดีของเขาแผ่ออกมาจนผมรู้สึกได้
 
“น้องคนนี้หรือ” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น เมื่อมองมาทางผม
 
“ใช่เลยค่ะ!” พี่ซันบอก ก่อนจะเข้าไปกอดแขนของผู้ชายที่เดินเข้ามาด้วยกัน “ว่าที่เดือนมหา'ลัยปีนี้ ขอหลักสูตรเร่งรัดทันใจนะคะอาจารย์”
 
ผม นึกปลงกับท่าทางของพี่ซัน ก่อนจะมองไปทางคนที่คงจะเป็นอาจารย์ที่รันพูดถึงก่อนหน้านี้ แต่ผมนึกไม่ถึงเลยว่า เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็หันมาตีขิมกันแล้ว เพราะผมว่าผู้ชายน่าจะตีระนาดมากกว่า
 
"โอ เคครับน้องซัน" เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ถือสากับการแตะเนื้อต้องตัวจนเกินไปของพี่ซันสักเท่าไร นอกจากจะดูใจดีแล้ว ยังอารมณ์ดีพอสมควร
 
“เรียกซันนี่สิคะ!” พี่ซันต่อว่า ก่อนจะใช้สายตาตัดพ้อออกมา
 
“ไอ้ซันนี่ให้มันน้อยๆ หน่อย เกรงใจอาจารย์เขาบ้างสิยะ!” พี่ไหมว่า ก่อนจะแนะนำผมให้รู้จัก
 
ผู้ชาย ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของผมชื่ออ้นครับ เขาเป็นอาจารย์ที่จะมาสอนผมเป่าขลุ่ย และไม่ใช่อาจารย์ที่สอนรันตีขิิมอย่างที่ผมเข้าใจในตอนแรก แต่เป็นคนที่อาจารย์ของรันแนะนำมาอีกที นอกจากนั้นเขายังจะสอนให้ฟรีด้วย เพราะดีใจที่เห็นว่าวัยรุ่นสมัยใหม่หันมาสนใจเครื่องดนตรีไทย
 
“แต่ไม่ต้องเรียกอาจารย์อะไรหรอกนะ เรียกพี่อ้นก็ได้” พี่อ้นบอกด้วยรอยยิ้มที่เป็นกันเอง
 
“ครับ” ผมตอบรับเสียงเรียบ
 
“งั้นพวกหนูขอฝากน้องๆ ไว้กับพี่อ้นด้วยนะคะ” พี่ไหมบอก ก่อนจะดึงพี่ซันที่กำลังเกาะพี่อ้นออก
 
“ไม่ต้องห่วงครับ” พี่อ้นตอบรับ ก่อนพวกรุ่นพี่จะบอกลา แล้วทิ้งผมกับรันไปหน้าตาเฉย โดยบอกทิ้งท้ายว่า มีอย่างอื่นต้องทำอีก
 
เมื่อภายในห้องเหลือเพียงชายสองหญิงหนึ่ง ความเงียบก็กลับมาเยือน ผมเลื่อนสายตาไปมองรันที่ยืนอยู่ไม่ห่างกันนัก
 
“เอาล่ะ! พี่ก็พอจะรู้คร่าวๆ  ว่าต้องการการแสดงแบบไหน แล้วก็เตรียมการไว้ให้แล้วด้วย” พี่อ้นบอก ก่อนจะยื่นกระดาษที่มีโน้ตเพลงมาให้ผมกับรัน “สำหรับน้องรันคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเล่นเป็นอยู่แล้ว แค่ไปฝึกการเว้นจังหวะก็พอ”
 
“ขอบคุณค่ะพี่อ้น” รันตอบรับด้วยรอยยิ้ม พลางก้มมองดูกระดาษที่เพิ่งได้รับมา
 
“ส่วนของเตย” พี่อ้นพูดขึ้น แล้วหันมามองผม “เราจะมาลองฝึกพื้นฐานกันก่อน แล้วค่อยต่อเรื่องเพลงก็แล้วกัน”
 
ผมก็ได้แต่พยักหน้ารับ แล้วก้มลงดูแผ่นกระดาษที่มีตัวโน้ตและเนื้อเพลงที่เขียนอยู่อย่างพิจารณา
 
ก็แค่เป่าตามโน้ต มันคงไม่มีอะไรยากหรอกมั้ง...
 
 
++++++++++
 
 
“วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน” พี่อ้นพูดขึ้น แล้วส่งยิ้มเป็นกำลังใจมาให้ “พี่ว่าเตยต้องบังคับลมหายใจอีกนิดก็โอเคแล้ว”
 
“ครับ” ผมตอบ แล้วลอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
 
“พรุ่งนี้พี่เชื่อว่าเตยต้องทำได้ดีกว่านี้แน่” พี่อ้นบอก แล้วเดินมาตบบ่าของผม “พยายามเข้าล่ะ”
 
ผม พยักหน้ารับ แล้วเดินออกจากห้องที่อยู่มาราวสองชั่วโมงเต็ม ตอนนี้นอกจากผมจะต้องทำงานพิเศษตอนสองทุ่มแล้ว ผมยังมีคอร์สเรียนดนตรีไทยเพิ่มด้วยครับ เหลือเวลาอีกสองอาทิตย์ก็จะถึงการประกวดแล้ว ความคืบหน้าตอนนี้ก็เป็นไปด้วยดี มันไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย เพราะมันต้องใช้ความตั้งใจและเทคนิคอยู่พอสมควร
 
เมื่อ ผมเดินกลับมาถึงหอก็เกือบจะหนึ่งทุ่มตรง ไอ้เพชรยังไม่กลับครับ ผมอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินทางไปที่ผับต่อ ถึงแม้มันจะดูเหนื่อยอยู่บ้าง แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าเสียงขลุ่ยที่นุ่มนวลนั้น ทำให้ผมผ่อนคลายจากความเครียดที่มีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมรู้สึกมีสมาธิและมีความอดทนมากขึ้น
 
“เตยมาแล้วหรือครับ!”
 
ผม หันไปมองเจ้าของเสียงเรียกนั้น แล้วขมวดคิ้วขึ้น เมื่อเห็นใบหน้คุ่นเคยของลูกค้าขาประจำที่กำลังส่งยิ้มมาให้ ก่อนที่ผมจะเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ แต่แว่วเสียงของผู้ชายคนนั้นก็ยังเข้ามาให้ได้ยินอยู่ดี
 
“คืนนี้อยู่เป็นหนุ่มนั่งดริงค์กับพี่ด้วยนะครับ!”
 
ไอ้สัด!
 
ผมสบถในใจ แล้วเดินเข้าไปหลังร้านอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเห็นไอ้ลมที่กำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจ
 
“เป็นอะไรวะ” ไอ้ลมถามขึ้น เมื่อผมนั่งลงข้างมัน “เจอพี่แทมแหย่มาอีกแล้วหรือ”
 
“แม่งกวนประสาท” ผมบ่นเสียงขุ่น แล้วถอนหายใจออกมา
 
สมาธิ? ความอดทน?...  ผมคงจะรู้สึกไปเอง
 
หลัง จากพักเอาแรง ผมก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเริ่มต้นทำงานในคืนนี้ครับ ตอนนี้ไอ้ลมออกไปอยู่ที่เคาท์เตอร์บาร์แล้ว ผมพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเพียงเล็กน้อย แล้วเดินไปทำงานของตัวเองต่อ
 
เสียง เพลงในผับยังดังเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา ผู้คนที่ชอบความสนุกของแหล่งบันเทิงในยามราตรียังคงหนาตาเหมือนทุกครั้งที่ ได้พบเจอ ผมเดินผ่านกลุ่มคนเพื่อไปบริการลูกค้าด้วยความรู้สึกเซ็งอารมณ์อย่างเฉยชา
 
“ขอโทษครับ” ผมพูดขึ้น เมื่อต้องเดินแทรกลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่กำลังยืนอยู่เต็มทางเดิน
 
“ว๊าย! หล่อจัง ชื่ออะไรหรือคะ” ผู้หญิงในชุดสีแสบตาหันมาถาม ก่อนที่เธอจะยิ้มหวานอย่างโปรยเสน่ห์
 
ผมกลอกตาไปมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้หรอกครับ
 
“ชื่อตูนครับ” ผมบอก แล้วหยิบชื่อของนักร้องที่เป็นเจ้าของเพลงที่กำลังดังอยู่ในผับตอนนี้
 
“ชื่อน่ารักจัง นั่งคุยกันก่อนสิคะ” ผู้หญิงในกลุ่มนั้นเอ่ยขึ้นต่อ แล้วเดินเข้ามาประชิดตัวของผมเอาไว้
 
“ขอโทษครับ ผมต้องไปทำงาน” ผมตอบกลับเสียงเรียบอย่างอดทน
 
“แต่นั่งคุยกับพวกเราก็เป็นการทำงานนะคะ” ผู้หญิงในกลุ่มนั้นพูดขึ้นอีกครั้ง “บริการลูกค้าอย่างพวกเราไงล่ะคะ”
 
เสียง พัวเราะรับอย่างชอบใจของเหล่าสาวนุ่งสั้นโชว์อื๋ม ทำให้ผมนึกเหนื่อยใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็พอจะเล่นด้วยหรอก แต่ตอนนี้งานที่จะทำให้ได้เงินสำคัญมากที่สุด
 
“ช่วยหลีกทางหน่อยนะครับ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งอย่างใจเย็น แล้วนึกถึงตำพูดที่เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ได้บอกเอาไว้
 
โอเค... ลูกค้าคือความถูกต้อง ลูกค้าคือพระเจ้า
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2014 14:59:09 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 15 [04/07/2014]
«ตอบ #164 เมื่อ10-07-2014 09:52:52 »


 
“จะรีบไปไหนล่ะคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาเกาะแขนของผมเอาไว้ เมื่อผมตัดสินใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง
 
“ปล่อย...ครับ”
 
“ดื่มกับพวกเราก่อน...กรี๊ด!”
 
เพล้ง!
 
ผม ขมวดคิ้วแน่น แล้วมองขวดเหล้าที่ร่วงลงพื้นเป็นวงกว้าง ก่อนที่มันจะกระเด็นไปโดนบรรดาสาวเจ้าทั้งหลายที่กำลังยึดตัวของผมเอาไว้ ผมจะไม่โมโหขนาดนี้ ถ้าผมไม่ได้ต้องจ่ายค่าเหล้าราคาแพงที่เพิ่งแตกไป เพราะความงีเง่าของผู้หญิงน่ารำคาญพวกนี้
 
“กูบอกให้ปล่อบไง!” ผมตวาดเสียงห้วน แล้วผลักผู้หญิงที่วุ่นวายกับผมให้ออกห่างอย่างไม่สนใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีเพื่อนร่วมงานวิ่งเข้ามาดู รวมไปถึงลูกค้าคนอื่นก็หันมาสนใจ
 
“เกิดอะไรขึ้น!” พี่ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นบริกรเข้ามาถามผม
 
“อุบัติเหตุครับ” ผมบอกด้วยความหงุดหงิด แล้วปรายตามองผู้หญิงที่ร้องโวยวายไม่หยุดอย่างอารมณ์เสีย “เดี๋ยวผมไปแจ้งเรื่องก่อน”
 
ผม ตั้งใจจะเดินกลับไปหลังร้านเพื่อบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้จัดการกับปัญหา ผมก็ปะทะเข้ากับร่างของใครคนหนึ่งโดยบังเอิญ ก่อนจะมีแรงกระชากเสื้อของผมจากด้านหลัง
 
อะไรอีกวะเนี่ย!
 
ผมหันหลังกลับไปมอง ก่อนจะพบผู้ชายคนหนึ่งกำลังมองผมอย่างเอาเรื่อง ดูจากอาการแล้วก็คงมัวเมาไปกับเครื่องดื่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
“มึงกล้าชนเมียกูหรือวะ!”
 
“ขอโทษ” ผม ตอบกลับอย่างปัดรำคาญ แล้วเลื่อนสายตาไปมองผู้หญิงที่ผมเดินชนเมื่อครู่นี้ ก่อนที่ผมจะขมวดคิ้วขึ้น เมื่อเห็นสายตาเชื่อมหวานที่ทอดมองมา
 
“ไอ้เหี้ย! นี่มึงกำลังอ่อยเมียกูหรือวะ!” ผู้ชายตรงหน้าร้องขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะกระชากคอเสื้อของผมเข้ามาใกล้อย่างฉุนเฉียว
 
ซวยฉิบ!
 
ผม บ่นอยู่ในใจ พร้อมกับดึงมือที่กระชากคอเสื้อของผมออกอย่างเบื่อหน่าย เมื่อกี้ก็เรื่องผู้หญิงน่ารำคาญ คราวนี้ยังต้องมีเรื่องกับไอ้พวกขี้เมาอีกหรือไง
 
“มึงมองแบบนี้ อยากโดนกระทืบแล้วใช่ไหมไอ้สัด!”  คนตรงหน้าตวาดใส่จนผมต้องกำมือแน่นอย่างเก็บอารมณ์
 
“เปล่า...”
 
ทว่า ยังไม่ทันได้พูดจบด้วยซ้ำ ไอ้คนตรงหน้าก็ชกมาเหมือนหมดความอดทน ก้อนอารมณ์ที่เก็บเอาไว้ของผมก็ระเบิดออกมาเช่นเดียวกัน ผมไม่สนใจแล้วว่า อีกฝ่ายจะเป็นลูกค้า แล้วต่อยกลับไอ้ขี้เมาหวงเมียอย่างโมโห
 
“ไอ้สัด! กลับบ้านไปนอนดูดนมเมียมึงไป! ” ผมตวาดกลับ แล้วซัดใส่ใบหน้าของผู้ชายที่กล้ามาหาเรื่องกับผม โดยไม่สนใจสิ่งรอบตัวที่เกิดขึ้นตอนนี้
 
“ไอ้เตยหยุดก่อน!”
 
เสียง ร้องของไอ้ลมดังแว่วเข้ามาในหู พร้อมกับแรงดึงให้ผมออกห่างจากไอ้ลูกค้าคู่กรณี ผมถอนหายใจอย่างระบายอารมณ์ แล้วมองคนที่ถูกเจ้าหน้าที่ของผับพยุงให้ลุกขึ้นตาขวาง
 
ผม เสยผมของตัวเองอย่างหงุดหงิด ทั้งที่ไม่อยากมีเรื่องแท้ๆ แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่ได้เข้าข้างผมสักเท่าไร ในขณะที่ผมจะเดินหันหลังกลับไปทางหลังร้านต่อ เสียงร้องของผู้หญิงก็ดังขึ้นจนผมต้องตวัดสายตาไปมอง พร้อมกับรับรู้ได้ถึงร่างของใครบางคนที่ยืนขนาบข้างกับผม
 
โครม! เพล้ง!
 
“หึ...อ่อนว่ะ”
 
น้ำ เสียงทุ้มดังขึ้น พร้อมกับผมที่หันไปมอง ก่อนที่หางตาจะเห็นเท้าของคนที่ยืนอยู่ข้างกันถีบเข้าที่ใบหน้าของคนที่ผม เพิ่งมีเรื่องไปจนมันสลบล้มไปนอนกับพื้น
 
ไอ้แทม...
 
ความ เงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ ผมมองไอ้ขี้เมาหมดสภาพ แล้วหันไปมองไอ้แทมที่ยืนยิ้มอยู่ และเมื่อมันรับรู้ได้ถึงสายตาของผม มันก็หันกลับมายักคิ้วส่งให้อย่างสบายอารมณ์
 
“พี่แทม โตตรเท่เลยว่ะ!”  ไอ้ลมร้องบอก แล้วเดินตรงเข้ามาหาไอ้แทมที่กำลังหัวเราะรับเบาๆ ก่อนที่มันจะหันมาทางผม “ไอ้เตยมึงเกือบโดนไอ้เหี้ยนั่นเอาเหล้าฟาดแล้วมึง”
 
แค่อัดไอ้ขี้เมา ไม่เห็นจะเก่งตรงไหน...
 
ผม คิดอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร อาการฟกช้ำจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ทำให้ผมรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก ก่อนจะรับรู้ได้ถึงฝ่ามือที่จับแขนของผมเอาไว้
 
“เรื่องค่าเสียหายที่เตยต้องรับผิดชอบ กูจะจัดการเอง” ไอ้แทมหันไปบอกกับไอ้ลมที่ได้แต่พยักหน้ารับและไม่ทันที่ผมจะได้ห้ามหรือพูดอะไรออกไป มันก็หันมายิ้มให้ “วันนี้หมดเวลางานของสุดหล่อแล้วครับ เราไปกันเถอะ”
 
ฮะ?!
 
 
+++++++++++
 
 
อะไรของกูวะ?
 
ผมได้แต่บ่นกับตัวเองอยู่ในใจ เมื่อพบว่าตอนนี้กำลังนั่งอยู่ในรถสปอร์ตคันหรูของไอ้แทมด้วยความไม่เข้าใจตัวเองเท่าไรนัก
 
“ก็บอกแล้วว่าเตยไม่เหมาะกับงานแบนี้หรอก ให้มาทำงานกับพี่ก็ไม่เอา” ไอ้แทมบ่นออกมา
 
ผม ขมวดคิ้วมองใบหน้าที่ยังมองถนนเบื้องหน้า อาจเป็นเพราะช่วงเวลานี้ดึกมากแล้ว ถนนเลยค่อนข้างว่างพอจะทำให้รถราคาแพงอวดโฉมสมรรถภาพของเครื่องยนต์ได้บ้าง
 
“ทำไมชอบเสือกเรื่องของกูจริงๆ” ผมบ่นขึ้นต่อราวกับพึมพำกับตัวเอง แต่ก็หวังให้คนที่นั่งอยู่ด้วยกันได้ยินด้วย
 
“มีคนสนใจไม่ดีหรือไง” ไอ้แทมโต้กลับ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
 
ผมส่งสายตาไม่ค่อยพอใจไปให้ แล้วมองไปทางหน้าต่างด้านข้างแทน ภาพที่ผ่านสายตาอย่างรวดเร็ว ทำให้ผมมองเพลินจนเกือบลืมสิ่งสำคัญไป
 
“มึงจะไปไหน” ผมหันไปถามคนขับที่นั่งเงียบไม่ได้บอกจุดหมายปลายทาง
 
“จะไปหาที่คลายเครียด” ไอ้แทมตอบ ผมขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
 
 “คลายเครียด? ที่ไหน ” ผมถามต่ออย่างสงสัย
 
“ก็ที่คอนโดของพี่ไง” ไอ้แทมตอบหน้าตาย แล้วหันมายักคิ้วให้อย่างกวนอารมณ์
 
“รับรองคราวนี้ กูจะเอาให้มึงร้องไห้” ผมบอกเสียงเข้ม แล้วหันไปมองทางอื่น พร้อมกับเสียงหัวเราะของไอ้แทมที่ดังขึ้น
 
“โอเค ไม่พาไปแล้ว” ไอ้แทมพูดขึ้นเสียงอ่อน พลางหัวเราะออกมา “งั้นพาไปชมวิวกลางคืนแทนแล้วกัน”
 
“กูอยากกลับห้อง” ผมบอก แล้วมองใบหน้าของไอ้แทมนิ่งอย่างกดดัน
 
“สรุปว่าจะไปคลายเครียดกันที่ห้องเตยใช่ไหม พี่โอเคนะ” ไอ้แทมตอบรับ แล้วยิ้มออกมา
 
“ไอ้สัด” ผมสบถออกมาเบาๆ เมื่อมันยังไม่หยุดพูดถึงเรื่องบนเตียงเสียที “มึงช่วยคุยกับกูแบบไม่กวนตีนสักครั้ง มันจะตายเลยหรือไงวะ”
 
“พี่คุยปกติทุกครั้งนะ” ไอ้แทมบอก แล้วยิ้มออกมา “ไม่กวนแล้วก็ได้ แต่ไม่พากลับห้องนะ”
 
 ผม ไม่ได้ตอบรับอะไร อยากจะพาไปไหนก็เรื่องของมัน และเมื่อเวลาผ่านไปได้เพียงไม่นาน ผมก็ได้รับคำตอบที่ต้องการ เมื่อเห็นทางเลียบริมแม่น้ำหลักที่เปรียบเสมือนหัวใจของประเทศ
 
ไอ้แทมดับเครื่อง ก่อนจะลงจากรถ แล้วเดินนำผมขึ้นสะพานไปยืนเท้าแขนกับแผงกั้นที่มองเห็นธารน้ำสีดำสายใหญ่ที่ไหลเอื่อยอยู่ตรงหน้า
 
ผม เดินตามมายืนอยู่ข้างไอ้แทม ก่อนจะปล่อยให้ความเงียบเคลื่อนผ่าน อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เช้าวันใหม่ก็จะเริ่มต้นอีกครั้ง แต่ผมที่ยืนอยู่ตรงนี้ยังหาจุดเริ่มต้นของตัวเองไม่ได้
 
ไอ้ แทมไม่ได้พูดอะไร นอกจากยืนชมวิวแม่น้ำ แล้วทิ้งเวลาให้หมุนผ่านไปราวกับยืนอยู่ที่นี่คนเดียว ผมมองมันเพียงเล็กน้อย ก่อนจะยืนเท้าแขนกับแผงกั้นพลางมองตรงไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย
 
"กู เหนื่อย" ผมพูดขึ้น หลังจากที่จมอยู่ในภวังค์ของตัวเองมาพักหนึ่ง ก่อนจะนึกแปลกใจกับตัวเองเล็กน้อยที่เอ่ยออกมากับคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้า เท่าไร
 
บาง ทีอาจเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา รวมไปถึงความเครียดที่เก็บเอาไว้ ทำให้ผมอยากระบายให้ใครสักคนได้ฟัง และตอนนี้ไอ้แทมก็มาอยู่ด้วยกันในช่วงจังหวะที่ผมเผชิญกับขีดจำกัดของตัวเอง พอดี
 
"เหนื่อยก็พัก ไม่เห็นจะยาก" ไอ้แทมตอบ แล้วระบายยิ้มออกมา
 
"คนอย่างมึงคงเป็นพวกที่ไม่เคยคิดอะไรจริงจังเลยล่ะสิ" ผมว่ากลับ ไอ้แทมเลิกคิ้วมองมา
 
“ก็ คงจะอย่างนั้น” ไอ้แทมตอบ แล้วหันไปมองแม่น้ำกว้างที่ไม่ต่างจากผืนผ้าสีเข้มขนาดใหญ่ “ชีวิตไม่ได้อยู่ยากขนาดนั้น ปัญหาและอุปสรรคที่เจอ ก็แค่บททดสอบที่ทำให้เราแกร่งขึ้นไม่ใช่หรือไง”
 
 “เพิ่งจะรู้ว่ามึงก็พูดอะไรมีสาระเป็น” ผมบอก ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของไอ้แทมที่กำลังมองมาเช่นเดียวกัน
 
“พี่ยังมีอีกหลายอย่างที่เตยยังไม่รู้” ไอ้แทมบอก แล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย “อยากจะรู้จักอย่างลึกซึ้งไหมล่ะ”
 
ผม แค่นสีเยงในลำคอรับ แล้วหันกลับไปมองแม่น้ำที่ทอดยาวตรงหน้าอีกครั้ง สายลมพัดผ่านหอบไอแม่น้ำเข้ามาปะทะร่างกาย สิ่งที่สัมผัสตอนนี้ ทำให้ผมรู้สึกสงบใจอย่างบอกไม่ถูก
 
 “พา มาให้พัก อย่าคิดอะไรมากเลย” ไอ้แทมพูดขึ้น "ทิ้งความเครียดลงแม่นํ้าไป แล้วมองให้ไกลจนสุดสายตา ที่ตรงนั้นยังมีสิ่งที่ดีรอเราอยู่"
 
สิ่งที่ดีหรือ...
 
"ไม่เชื่อหรือไง" ไอ้แทมถามขึ้นต่อด้วยน้ำเสียงจับผิด
 
ผมที่ติดอยู่กับคามคิดของตัวเองหันกลับไปมอง ก่อนจะพบรอยยิ้มบางที่แต้มอยู่บนใบหน้าได้รูปของคนที่ยืนอยู่ข้างกัน
 
"เชื่อเถอะน่า" ไอ้แทมบอกด้วยรอยยิ้ม "เพราะสุดสายตาของเตยจะมีพี่อยู่ยังไงล่ะ"
 
“หึ...เพ้อเจ้อว่ะ”ผมว่าอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะดังแผ่วผ่านสายลม
 
"ทำไม? เขินหรือไง " ไอ้แทมถามต่อ แล้วยักคิีวมาให้
 
"มึงนั่นแลหะที่เขิน" ผมว่ากลับ แล้วมองรอยยิ้มบางของมันด้วยสายตาดุ
 
"เตยก็น่าจะรู้ว่า พี่ไม่ได้หน้าบางแบบนั้น" ไอ้แทมตอบกลับ พลางยักคิ้วมาให้ผมอย่างกวนประสาท
 
ผม ระบายยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าไอ้แทมหันกลับไปมงอแม่น้ำที่อยู่เบื้องงหน้าเหมือนเดิม ใบหน้าที่ยังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มของมันตอนนี้ ทำให้ผมนึกถึงรอยยิ้มของใครอีกคนที่ผมคิดถึงเสมอ
 
รอยยิ้มที่อ่อนโยนราวกับบอกกับผมว่า...ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี
 
ภาพ ใบหน้าด้านข้างที่เห็นชัดตา ทำให้ผมเพิ่งจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายกำลังยืนชิดกับผมตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ไอ้แทมเลื่อนสายตามามองผมเล็กน้อย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น เมื่อสบกับสายตาของผมที่มองมันอยู่
 
“ว่าไง...”
 
ผม ไม่ได้ตอบรับอะไร แต่เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนที่ผมจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสอ่อนนุ่มตรงริมฝีปากของตัวเอง ผมชะงักไปเล็กน้อยแล้วถอยห่างออกมา เมื่อได้สติอีกครั้ง
 
สงสัยผมจะเจอผีแม่น้ำเข้าสิงแน่ๆ!
 
ไอ้แทมมองผมอย่างแปลกใจ ก่อนนัยน์ตาสีดำขลับจะทอแววเหมือนกำลังล้อเลียนบางอย่าง ผมไม่ได้สนใจ แต่เลือกที่จะหันไปทางอื่น
 
“กูจะกลับแล้ว” ผมบอก พร้อมกับเดินนำอีกฝ่ายลงจากสะพานที่ยืนมาได้พักใหญ่ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองไปมา
 
“รอด้วยสิ!” ไอ้แทมบอก ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
 
ผมไม่ได้หันหลังกลับไปมอง แล้วลอบถอนหายใจออกมา เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะกระทำไปเมื่อครู่นี้
 
ก็แค่...บรรยากาศพาไปเท่านั้นแหละ
 
 
TBC ++++++++++
 
Marionetta ::: ดีจ้า! ในที่สุดก็ฝาตอตอนใหม่แล้วค่ะ เย้ๆ
ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรใาก นอกตากความอ่อนไหวของย้องเตยค่ะ 555
ยังไงก็ช่วยตืดตามกันต่อไปด้วยนะคะ

ปล. ตอนนี้สมาชิกแฟนเพจมาได้ตรึ่งทางแล้ว ฮ่าๆ ก็คงจะเริ่มมโนตอนพิเศษได้จางๆ แล้วล่ะค่ะ 

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #165 เมื่อ10-07-2014 10:36:36 »

หุ! มีสัญญาณบางอย่างแว้ววว

ออฟไลน์ Ra poo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #166 เมื่อ10-07-2014 11:45:27 »

จุ้บๆ...แอร๊ยยยยย มีความคืบหน้าล้าวววว :katai5:

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #167 เมื่อ10-07-2014 13:42:32 »

เตย-ซึน!!!!

โคตรน่ารักเลยอ่าาาาาาาา

เริ่มมีสัญญาณเข้าคู่แล้ววววว555

ยังคงโบกป้ายไฟ แทมxเตย ต่อไปอิอิ

ออฟไลน์ Satanza321

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #168 เมื่อ10-07-2014 14:00:46 »

มันไม่ใช่แค่บรรยากาศแล้วละเตยแบบนี้ :m3:
เริ่มใจอ่อนให้พี่แทมแล้วอะดี้ :m12:

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #169 เมื่อ10-07-2014 15:22:23 »

โฮะๆๆ พยายามเข้าาาาาาา แทมแทม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
« ตอบ #169 เมื่อ: 10-07-2014 15:22:23 »





Rainchan

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #170 เมื่อ12-07-2014 01:09:43 »

อั๊ยย๊ะๆๆๆๆ แหมๆๆๆน้องเตยนี่ก็ซึนจุงเบย  :hao7:
ใจอ่อนให้พี่แทมแล้วล่ะสิ คึคึ  :hao3:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #171 เมื่อ12-07-2014 14:42:27 »

จูบกลางแม่น้ำ ท่ามกลางบรรยากาศที่พาไป ..

ออฟไลน์ Shadownights

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #172 เมื่อ16-07-2014 00:14:07 »

บรรยากาศเป็นใจเหลือเกิน เริ่มมีลุ้นล่ะพี่แทม จัดการน้องเตยเลยดีไหม 

ออฟไลน์ Autonomyz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #173 เมื่อ18-07-2014 23:12:42 »

 :hao6: :hao6:
โอยยยยชอบแทมมากค่ะ 555555555 :laugh:
ขอร้องล่ะแทม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอร้อง อย่า หยุด บ้า!
กร๊ากกกกกกกกกกกกก
บอกเลยเอาความบ้าพุ่งชนแหละเดี๋ยวเตยก็เออออๆตามแกไปแบบงงๆเองแหละ
5555555555555555555555555555555555
แทมคือดีอ่ะมาดราชินีมาก55555
ระวังนะแทม ตลกมักได้ คนบ้ามันเอาจริงนะ :laugh:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #174 เมื่อ21-07-2014 19:04:25 »

ในที่สุดก็ตามทันล้าววววว
แต่ว่าค้างอย่างแรงงง
มาต่อเร็วๆน้าาาาาา
เค้าอยากรู้แล้วว่าเตยจะทำไงต่อ
 :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #175 เมื่อ30-07-2014 15:15:22 »

หุ! มีสัญญาณบางอย่างแว้ววว
โอ้ ใช่เลยจ้า อิอิ

จุ้บๆ...แอร๊ยยยยย มีความคืบหน้าล้าวววว :katai5:
ไปช้างหน้าแบบกระดึ๊บๆ

เตย-ซึน!!!!

โคตรน่ารักเลยอ่าาาาาาาา

เริ่มมีสัญญาณเข้าคู่แล้ววววว555

ยังคงโบกป้ายไฟ แทมxเตย ต่อไปอิอิ
กว่าจะให้จับสัญญาณกันได้ ก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ
แต่คงต้องค่อบเป็นค่อยไปนะคะ
เอาใจช่วยกันต่อไปด้วยจ้า

มันไม่ใช่แค่บรรยากาศแล้วละเตยแบบนี้ :m3:
เริ่มใจอ่อนให้พี่แทมแล้วอะดี้ :m12:
เชื่อน้องเตยเขาหน่อยเถอะค่ะ เขาแค่เผลอไปเอ๊งงง ฮ่าๆ

โฮะๆๆ พยายามเข้าาาาาาา แทมแทม
ขอบคุณค่ะ สู้ๆ

อั๊ยย๊ะๆๆๆๆ แหมๆๆๆน้องเตยนี่ก็ซึนจุงเบย  :hao7:
ใจอ่อนให้พี่แทมแล้วล่ะสิ คึคึ  :hao3:
อิมเมจของน้องเตยคือหนุ่มขรึมค่ะ ไม่ว่าจะเผลอทำอะไรไปก็ต้องนิ่งตีมึนไปก่อน 5555

จูบกลางแม่น้ำ ท่ามกลางบรรยากาศที่พาไป ..
ไม่ได้ตั้งใจ แต่บรรยากาศพาไปจริงๆ (เตยเขาว่างั้นนะ อิอิ)

บรรยากาศเป็นใจเหลือเกิน เริ่มมีลุ้นล่ะพี่แทม จัดการน้องเตยเลยดีไหม 
ไฟเริ่มติดกันแล้วค่ะ อิอิ ต้องคอยลุ้นกันต่อไปนะคะ

:hao6: :hao6:
โอยยยยชอบแทมมากค่ะ 555555555 :laugh:
ขอร้องล่ะแทม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอร้อง อย่า หยุด บ้า!
กร๊ากกกกกกกกกกกกก
บอกเลยเอาความบ้าพุ่งชนแหละเดี๋ยวเตยก็เออออๆตามแกไปแบบงงๆเองแหละ
5555555555555555555555555555555555
แทมคือดีอ่ะมาดราชินีมาก55555
ระวังนะแทม ตลกมักได้ คนบ้ามันเอาจริงนะ :laugh:
พี่แทมก็เดาอารมณ์ไม่ค่อยได้นั่นแหละค่ะ
ยังไงก็เอาใจช่วยให้มันเพี้ยนต่อไป ฮ่าๆ
สโลแกนพี่เขาก็ด้านๆ อย่างที่เป็นตั้งแต่แรกนั่นแหละค่ะ อิอิ
(นานๆ ทีจะมีคนเข้าใจความบ้าของพี่แทม TvT)

ในที่สุดก็ตามทันล้าววววว
แต่ว่าค้างอย่างแรงงง
มาต่อเร็วๆน้าาาาาา
เค้าอยากรู้แล้วว่าเตยจะทำไงต่อ
 :impress2: :impress2: :impress2:
ดีใตด้วยค่ะ เย้ๆ
ยังไงก็ติดตามต่อไปจนจบด้วยนะคะ

++++++++++++++++++++

เจอกันตอนหน้าคืนนี้จ้า 555

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #176 เมื่อ30-07-2014 19:23:01 »

มารอนะค๊าาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #177 เมื่อ30-07-2014 21:39:09 »

PLAYBOY # 17 – TAM

 

 

 

หลังจากที่ผมเดินออกจากห้องของอาจารย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโปรเจกต์ประจำเทอมเรียบร้อยแล้ว ไอ้เก้าที่เดินตามหลังมาก็ข้ามากอดไหล่ของผมเอาไว้

 “ช่วงนี้มึงไปสตาร์ไลท์บ่อยหรือวะ” ไอ้เก้าถามขึ้น ก่อนที่ผมจะหันไปมองอย่างแปลกใจ

“มึงรู้ได้ยังไง” ผมถามกลับ เพราะผมไม่ได้บอกใครเรื่องไปที่ผับนั้น

“กูก็มีเส้นสายบ้างเถอะ ว่าแต่มึงไปติดใจอะไรวะ” ไอ้เก้าถามต่ออย่างสงสัย ผมก็ได้แต่หัวเราะรับ

“ก็มีคนที่กูสนใจอยู่ไง” ผมบอก ก่อนที่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของผมจะดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

ไอ้เก้าไม่ได้เซ้าซี้ต่อ แล้วหันไปคุยกับไอ้บอสที่เดินตามหลังมาอีกทีแทน ผมหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วกดรับสาย

“ว่าไงจ้ะ ดาร์ลิง” ผมทักปลายสาย แล้วอมยิ้มออกมา ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ พ่อหมีขาวแสนซื่อของผมเอง

[ปากดีไปเถอะไอ้แทม พ่อมึงกำลังจะมาแล้ว!]

ผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วทบทวนคำพูดที่เพิ่งได้ยินจากมิเชลอีกครั้ง

“พ่อกู...เฮ้ย!”

[เออ! นี่บ่นว่าติดต่อมึงไม่ได้ ไอ้แทม มึงบล็อกเบอร์พี่ตินหรือวะ!]

“เอ่อ...กูลืมไปแล้วว่าบล็อกเอาไว้” ผมบ่นออกมา แล้วถอนหายใจ

[มึงก็เตรียมตัวไว้แล้วกัน พี่เขาบอกกูว่าจะมาหามะรีนนี้ ให้มึงไปรับด้วย]

“เออๆ เดี๋ยวกูโทรหามันเอง” ผมบอกอย่างเซ็งอารมณ์ขึ้นมา

[หึ! ไว้ค่อยเจอกันนะมึง]

มิเชลตัดสายไปแล้วครับ ตอนนี้มันกำลังเรียนหนักเลยหาเวลาพบปะสังสรรค์กันยากไปหน่อย แต่ก็พอจะได้คุยโทรศัพท์หรือติดต่อกันผ่านสื่อออนไลน์บ้าง

ชีวิตของมันตอนนี้ นอกจากจะจมอยู่กับตำราและห้องแล็บแล้ว พ่อหมีขาวของผมก็ยังได้แต่ชะเง้อมองแมวน้ำคนสวยของมันต่อไปครับ ข่าวล่าสุดที่ได้ยินมา น้องแอร์ที่มันแอบมีใจให้ เขามีแฟนแล้ว แถมยังเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักอีกด้วย มันที่เป็นแค่คนรู้จักก็ทำได้แต่รอให้เขาเลิกกัน คนดีอย่างมิเชลไม่กล้าเข้าไปตบตีแย่งผู้ชายกับใครเขาหรอกครับ ฮ่าๆ แต่อย่างน้อยแมวน้ำกับหมีขาวก็อยู่ใกล้และสนิทกันในระดับหนึ่งนั่นแหละครับ

แต่ช่างเรื่องชีวิตรักน่ารันทดของมันเถอะ ตอนนี้ผมกำลังเจอกับตัวปัญหาที่กำลังมาป่วนชีวิตของผมไม่ต่างจากพายุที่พัดผ่านมหาสมุทรทุกปีนั่นแหละครับ นอกจากจะมาวุ่นวายให้รำคาญแล้ว ยังสร้างความปวดหัวให้ผมอารมณ์เสียได้เสมอ

ติน... พี่ชายแท้ๆ ของผมเองครับ

ที่จริงผมไม่อยากจะพูดถึงพี่ชายคนเดียวคนนี้ของผมสักเท่าไร เพราะว่ามันเพี้ยนและบ้าบอจนผมไม่อยากจะนับญาติกับมัน เราสนิทกันพอจะพูดคุยกันเหมือนเพื่อนมากว่าพี่น้องครับ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ผมก็รักพี่ชายของผมนะ

ตินอายุห่างจากผมห้าปีครับ เรียนจบปริญญาโทด้านไฟน์อาร์ตจากอเมริกา ตอนนี้ก็เป็นจิตรกรอิสระตระเวนแสดงผลงานตามพิพิธภัณฑ์และงานแสดงภาพต่างๆ รวมไปถึงการเที่ยวละเลงสีตามผนังหรือกำแพงของชาวบ้านรอบโลกคล้ายๆ กับการปักธงบนยอดเขาประกาศตัวตนของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าเขาอนุญาตหรือไม่ ผมก็กลัวว่ามันจะถูกจับหรืออุ้มฆ่าหายไปอย่างไร้ร่องรอยเข้าสักวัน

นอกจากอุดมการณ์ด้านศิลปะที่ลึกล้ำจนยากจะหยั่งถึงแล้ว ตินยังมีหน้าที่ต้องกลับมาดูว่าผมยังมีชีวิตอยู่ดีหรือไม่ตามคำสั่งของพ่อกับแม่ครับ

นี่อาจจะเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่บุพการีทั้งสองตั้งเอาไว้ เพื่อป้องกันลูกชายคนโตหายสาบสูญ เพราะฉะนั้นถึงมันจะไปวิ่งหนีสิงโตที่อัฟริกา หรือล่องแม่น้ำชมจระเข้แถบอเมริกาใต้เพื่อหาแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะไปไกลแค่ไหน สุดท้ายมันก็ต้องกลับมาหาผมอยู่ดี แต่คงไม่ใช่บทบาทของพี่ชายหรอกนะครับ แต่เป็นหน้าที่ของพี่ชายต่างหาก

พ่อกับแม่ของผมอยู่ที่ต่างประเทศครับ พวกท่านทำธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีและอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศสเป็นหลัก จนเมื่อตินเข้ามหาวิทยาลัย ผู้ให้กำเนิดทั้งสองก็ปล่อยให้พี่ชายดูแลผมตามลำพังอย่างอิสรเสรี ก่อนที่มันจะหนีผมไปอเมริกาและทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวจนถึงทุกวันนี้

ถึงจะเป็นแบบนั้นผมก็ไม่ได้คิดน้อยใจจนเก็บเป็นปมของชีวิตหรอกนะครับ อยู่คนเดียวแบบนี้ก็สบายดี อาจมีบางครั้งที่เหงาไปบ้าง แต่ผมก็หาวิธีแก้เหงาในแบบของตัวเองได้ ที่สำคัญอยู่กับตินมีแต่จะทำให้ผมใช้ชีวิตรักสบายยุ่งยากขึ้น

มันไม่ใช่แค่อาร์ตตัวพ่อธรรมดา แต่มันอาร์ตถึงแก่นวิญญาณเลยล่ะครับ แค่คิดว่าจะต้องมาถกเรื่องปัญหาชีวิตที่เป็นแอ็บสแตรคกับมัน ผมก็เวียนหัวแล้ว!

“มีเรื่องอะไรวะ” ไอ้ก้าถามขึ้น สีหน้าปลงตกกับชีวิตของผมคงจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน

“ตินกำลังมา” ผมบอกเสียงเรียบ แล้วนึกเซ็งอย่างไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

“พี่ตินหรือวะ” ไอ้ก้าพูดขึ้น แล้วหัวเราะออกมา

ไอ้เก้ากับไอ้บอสเคยเจอตินครั้งแรกตอนที่ผมอยู่ปีสองครับ ตอนแรกที่พบกัน พวกมันยังบอกว่าผมกับตินไม่น่าจะเป็นพี่น้องกันเลย เพราะรสนิยมและแนวคิดต่างกันคนละขั้ว แต่พอได้พูดคุยสังเกตนิสัยใจคอแล้วล่ะก็ พวกมันก็พอจะเชื่อมโยงดีเอ็นเอของผมกับตินได้

"ครั้งนี้กูไม่เจอนะ" ไอ้บอสบอกอย่างเฉยชา ผมหรี่ตามองคนพูดเล็กน้อย

"มันต้องถามหามึงอยู่แล้ว พ่อน้องชายคนโปรด" ผมว่า แล้วหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าปั้นยากของไอ้บอส

"กูว่าพี่ตินเจ๋งดีออก" ไอ้เก้าพูดขึ้น แล้วระบายยิ้มออกมา "แนวคิดแม่งสุดโต่ง"

ผมลอบถอนหายใจกับท่าทางของเพื่อนทั้งสองคน ตินไม่ชอบคนพูดมากแบบไอ้เก้าครับ แต่ชอบคนพูดน้อยแบบไอ้บอส เพราะตินมันพูดมาก ถ้าเอาแต่แข่งกันพูด แล้วใครจะฟังล่ะครับ และเหยื่อของมันก็คือไอ้บอสนี่แหละ

"เตรียมใจไว้เถอะมึง" ผมบอกไอ้บอส แล้วตบบ่าของมันเบาๆ

ท่าทางของไอ้บอสที่ถอนกายใจออกมาเหมือนจำใจรับสภาพของตัวเอง ทำให้ผมอดที่จะขำขึ้นมาไม่ได้ ตินจะกลับมาเยื่ยมผมปีละสองถึงสามครั้ง แล้วแต่อารมณ์ของมัน และนี่ก็เป็นการมาครั้งแรกตั้งแต่ผมขึ้นปีสี่ครับ

"พี่ชายมาหาทั้งที่ ทำหน้าให้มันดีใจหน่อย" ไอ้เก้าแกล้งว่า

"กูดีใจจนน้ำตาตกในแล้วมึง" ผมบอก ก่อนจะเดินไปที่โรงอาหารของคณะด้วยความเบื่อหน่าย

 

++++++++++

 

ผมขับรถมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตอนห้าทุ่มสี่สิบห้าโดยประมาณ ก่อนจะไปรอตินที่ร้านกาแฟตามที่นัดกันไว้ เพราะมันบอกว่าจะมาถึงตอนห้าทุ่มตรง ทว่าเมื่อผมนั่งรอได้ราวชั่วโมงก็ยังไร้วี่แววของพี่ชายคนเดียวของผม

หลังจากนั่งรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง ผมก็ไปเช็กเที่ยวบินของตินว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ก่อนจะพบว่าไฟลท์จากเมดริกจะมาถึงตอนตีสี่

ไอ้พี่ชายสารเลว!

ผมได้แต่สบถกับตัวเอง แล้วกลับไปนั่งรอที่ร้านกาแฟเหมือนเดิมอย่างหงุดหงิด สาเหตุที่มันหลอกผม ก็คงต้องการแก้เผ็ดเรื่องที่ผมบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของมันนั่นแหละครับ

ส่วนเรื่องจะมาแปะหรือส่งข้อความตามสังคมออนไลน์ตัดไปได้เลย เพราะมันเกลียดชุมชนอินเทอร์เน็ตแบบสุดๆ แถมยังห้ามผมเล่นด้วยเหตุผลที่ว่า นอกจากจะไม่จริงใจแล้ว ยังทำให้คนเล่นสมองขี้เลื่อย เพราะวันๆ มัวแต่จมอยู่กับโลกสองมิติจนกลายเป็นพวกเก็บกดผิดปกติได้

มีงนั่นแหละที่ผิดปกติ!

ผมไม่ได้สนใจคำห้ามปัญญาอ่อนของมันหรอกครับ ผมมีวุฒิภาวะพอจะแยกแยะขข้อมูลที่ได้รับมา เพราะฉะนั้นหนทางเดียวที่มันจะติดต่อกับผมได้ก็คือการโทรศัพท์ ถึงแม้ว่ามันจะเคยบ่นว่าคลื่นจากโทรศัพท์มือถือทำลายสมองของมันก็ตาม

ที่จริงแล้วตินมันชอบส่งจดหมายกับโปสการ์ดครับ ผมเองที่ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ก็เลยมีโปสการ์ดกับแสตมป์ให้สะสมโดยปริยาย

ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาถึงตีสามแล้วครับ ความง่วงที่สะสมเอาไว้ก็ถูกคาเฟอีนจากเอสเพรสโซเข้มขันบั่นทอนไปได้พอสมควร ก่อนที่ผมจะลิ้มรสขมอมหวานของช็แกโกแลตฆ่าเวลา

ผมนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือจนเบื่อ ก่อนจะมองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมาจากกระจกใสบานใหญ่ของร้าน บรรยากาศโดยรอบไม่หยุดนิ่งและขับเคลื่อนไปด้วยจังหวะของชีวิตตลอดเวลา ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นไปราวกับไม่มีวันที่หลับใหล

ผมถอนหานใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนที่เสียงเตือนเวลาจะดังขึ้น ผมลุกจากเก้าอี้ที่นั่งจนเมื่อย แล้วไปยืนรอรับที่ช่องทางออกของผู้โดยสารขาเข้า เพื่อประหยัดเวลาในการต้องรอไอ้พี่ชายตัวดีเดินทางมาหา

ผมมองผู้คนที่ทยอยเดินออกมาจากจุดที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเรียบร้อย ก่อนจะเห็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งกับเรือนผมสีแดงเพลิงเด่นมาแต่ไกล ใบหน้าได้รูปที่ไม่อยากจะชมว่าดูดี พร้อมกับเสื้อยืดพิมพ์ลายและกางเกงยืนส์สีซีดที่ดูเข้ากันอย่างประหลาดกับรองเท้าผ้าใบเปื่อยๆ กำลังฉายชัดในสายตาของผม

ไอ้พี่ตัวแสบ...

ผมยกมือขึ้นทัก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหันมาทางนี้พอดี ทว่ายังไม่ทันที่ตินจะเดินเข้ามาถึงตัวของผม ก็มีผู้ชายคนหนึ่งคว้าเอาพี่ชายสุดโต่งของผมไปกอดต่อหน้าต่อตา

เฮ้ย!

ผมได้แต่ร้องอยู่ในใจ ทว่าสิ่งที่ผมแสดงออกมากลับมีเพียงดวงตาที่เบิกกว้าง พร้อมกับปากที่กำลังจะขยับ แต่ไร้ซึ่งเสียงใดเล็ดลอดออกมา

ดูเหมือนว่าความตกใจจะไม่หยุดเล่นงานผมเพียงเท่านี้ เมื่อสายตาของผมกำลังแสดงภาพของเค้าร่างที่คุ้นตาของชายแปลกหน้าที่กล้าเข้าไปกอดตินอย่างไม่เกรงใจใคร แม้กระทั่งน้องชายแท้ๆ อย่างผมที่ยืนมองอยู่ ก่อนที่ผมจะนิ่งค้างเหมือนโดนน็อกเอาท์กลางอากาศ เมื่อได้สบกับสายตาที่กำลังมองกลับมา

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม...

"ไหนนัดกันที่ร้านกาแฟ แล้วมายืนบื้ออะไรแถวนี้"

คำทักของติน ทำให้ผมต้องหันไปมอง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นพี่ชายตัวดียืนกอดไหล่ของคนที่ผมคุ้นเคยอยู่อย่างสนิทสนม

“นี่คือคำทักทายของคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาครึ่งปีหรือไง ว่าแต่มึงเถอะ...” ผมถามกลับ แล้วมองผู้ชายที่ยังมองผมไม่วางตา “แอบคบเด็กอยู่หรือ”

ตินทำหน้าสงสัยเพียงครู่เดียว ก่อนจะมองตามสายตาของผม แล้วอมยิ้มออกมา วงแขนที่กอดไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้กระชับมากยิ่งขึ้น

“อ้อ! นี่เตย เพื่อนรุ่นน้อง” ตินบอก ก่อนจะหันไปมองคนที่กอดไหล่อยู่ “ส่วนนี่ไอ้แทม น้องชายพี่เอง”

ผมมองเตยที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเลยสักนิดอย่างแปลกใจ ผมไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวหรือเพื่อนฝูงของตินนัก เพราะเราต่างเคารพในโลกส่วนตัวของใครของมัน และแน่นอนว่าผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า ตินจะรู้จักกับเตยมาก่อน

นี่มันยิ่งก่าโลกกลมแล้ว!

อาจเป็นเพราะเตยไม่ได้แสดงท่าทีว่ารู้จักผมมาก่อน ผมก็เลยทำเหมือนไม่เคยรู้จักน้องเขามาก่อนเหมือนกัน ผมทำแค่เพียงหยิบหน้ากากยิ้มออกมาใส่ตามมารยาท ทั้งที่ในใจกำลังสงสัย งุนงง พร้อมกับมีคำถามก่อดัวขึ้นมาไม่หยุด และหนึ่งในคำถามที่ผมสงสัยก็คงเป็นการกอดต้อนรับอย่างแนบแน่นของผู้ชายเย็นชาที่ผมไล่ตามอยู่

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #178 เมื่อ30-07-2014 21:49:47 »

เตยยยยยยยยย
สนิทกับตินตินไหนจ้าาาาาาา????

ปั๊ดจิ้น ตินxเตย เสียเลย 555
แทมจ๋าาาาา
เมื่อไหร่จะเผด็จศึกเตยเสียที!!!!
รออยู่น้าาาาา

โบกธง แทมxเตย ต่อไป^^

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ PLAYBOY LOVER ♥ PLAYBOY NO. 16 [10/07/2014]
«ตอบ #179 เมื่อ30-07-2014 21:51:43 »

ชอบติน...อย่างนั้นหรือ?

ถึงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่สงสัย แต่ภาพที่เห็น รวมถึงสายตาที่มองพี่ชายของผมด้วยความรู้สึกโหยหาแบบนั้น มันก็ไม่อาจหาคำตอบไหนมาแก้ขัดได้

“ท่าทางสนิทกันดีนี่” ผมพูดขึ้น แล้วหรี่ตามอง “กอดไหล่กันแน่นเชียว”

“คิดอะไรของมึงอยู่เนี่ย” ตินว่า พร้อมกับคลายวงแขนของตัวเองออก แล้วโยนถุงกระดาษมาให้ผมแทน “ของฝาก”

ผมไม่ได้สนใจจะเปิดดูสิ่งที่ได้รับมา แต่หันไปมองเตยที่ยังทำหน้านิ่งอยู่ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองผมเพียงครู่เดียว ก่อนจะหันไปมองตินต่อ

“ไม่รู้ว่ามาก่อนว่ามีน้องด้วย” เตยพูดขึ้นอย่างไม่สนใจว่าผมจะมีท่าทีอย่างไร

“พอดีมีน้องชายที่ไม่ค่อยน่าอวดเลยไม่เคยพูดถึงน่ะ” ตินตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ แล้วยิ้มมองผม “แล้วมารอตั้งแต่กี่โมงล่ะ”

“ยังมีหน้ามาถามอีก” ผมว่ากลับ แล้วเมองพี่ชายอย่างไม่พอใจนัก

“สมน้ำหน้า” ตินว่ากลั้วหัวเราะ ก่อนจะเข้ามาตบหัวของผม “มันยังน้อยกว่าเวลาที่กูติดต่อมึงไม่ได้ก็แล้วกัน”

ผมเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปทางเตย เมื่อยังเห็นท่าทางที่เหมือนเป็นอากาศของอีกฝ่าย ผมถอนหายใจเล็กน้อย แล้วหันมามองพี่ชายของตัวเอง

“กลับได้หรือยัง กูง่วงแล้วเนี่ย” ผมบ่นออกมา แล้วลอบมองเตยอีกครั้ง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่น้องเขาหันมามองผมพอดี แววตาอ่อนโยนเมื่อมองพี่ชายของผมก่อนหน้านี้ กลับนิ่งเรียบเหมือนน้ำในทะเลสาบ

“เออๆ แต่มึงไม่ต้องขับนะ กูยังไม่อยากตาย” ตินพูดขึ้น แล้วหันไปทางเตยต่อ “เตยก็กลับด้วยกันนะ”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับแท็กซี่” เตยบอก สายตาเฉยชาเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนใสอย่างชัดเจน พร้อมกับรอยยิ้มที่แต้มอยู่บนริมฝีปากเรียวได้รูป

ยิ้ม...

นี่ผมตาฝาด เพราะไม่ได้นอนหรือเปล่าครับ ที่เห็นเสือยิ้มยาก ยิ้มออกมาง่ายๆ แบบนี้!

 “เกรงใจอะไร เดี๋ยวไปพักที่ห้องของไอ้แทมก่อน” ตินบอกด้วยรอยยิ้ม “พี่จะทำอะไรให้กิน แล้วค่อยกลับ”

คำชักชวนนั้นถูกตอบรับด้วยการยอมให้ตินจับแขนพาเดินออกไป ใบหน้าที่มักจะเรียบนิ่งอยู่เสมอ ในเวลานี้กลับดูนุ่มนวลชวนมองด้วยรอยยิ้มที่ประดับจนไม่อาจละสายตาได้

ยิ้มอีกแล้ว...

ผมได้แต่มองอย่างไม่เชื่อสายตา แล้วเก็บงำความคิดของตัวเองเอาไว้ ผมตั้งใจแล้วว่าจะไปถามรายละเอียดเรื่องของเตยกับตินทีหลัง

อยากจะรู้ว่า...มันใช้วิธีไหน สร้างรอยยิ้มแบบนั้นขึ้นมา

รอยยิ้มที่ผมไม่เคยได้รับ...

พวกเราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงรถยนต์ที่ผมจอดเอาไว้ หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อย ตินก็ขอกุญแจรถจากผม และในขณะที่พี่ชายคนดีกำลังเปิดประตูฝั่งคนขับออก เสียงทุ้มของเตยก็ดังขึ้น

“เดี๋ยวผมขับให้ดีกว่า ตินเพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ”

“ไม่เป็นไรๆ”

“เอาไว้ค่อยทำข้าวเช้าเลี้ยงทีเดียว"

บทสนทนาจบลง เมื่อคนดื้อด้านฉวยกุญแจรถไปอย่างที่ตั้งใจไว้ แล้วทิ้งให้ตินยืนทำสีหน้าอ่อนใจออกมา ผมที่เหมือนถูกลืม ก็เลยต้องสละที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับให้พี่ชาย แล้วย้ายมานั่งด้านหลังแทนด้วยความหงุดหงิดที่ยังหาสาเหตุไม่ได้

 

++++++++++

 

"ตอนนั้นคิดว่าหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว แต่พอเอามือไปทาบดู ก็รู้ว่ามันเต้นเร็วสุดๆ เลยต่างหาก"

ประโยคที่เจือด้วยเสียงหัวเราะดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบในรถยนต์ที่เปิดแอร์จนเย็นฉ่ำ ผมกำลังนั่งฟังพี่ชายพล่ามเรื่องราวที่เพิ่งวิ่งหนีตำรวจท้องถิ่นได้อย่างหวุดหวิด เพราะมันดันไปพ่นสีบนกำแพงบ้านของคนรวยในละแวกนั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเหนื่อยใจ

"มันไม่ตลกเลยนะ" ผมว่าเสียงเรียบ แล้วมองคนเล่าอย่างตำหนิ

"ก็สนุกดีนี่หว่า มันยิ่งกว่าได้โดดบันจี้จัมป์อีก" ตินหันมาบอก แล้วมองมาอย่างวางท่า "ที่สำคัญก็ไม่ได้ทำร้ายใคร เหมือนที่มึงชอบหาเรื่องหรอก"

"กูทำเพราะป้องกันตัว ส่วนมึงหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ" ผมว่าต่อ แล้วถอนหายใจออกมา

"ศิลปะกับชีวิตมันแยกกันไม่ออกอยู่แล้ว พวกไร้จินตนาการอย่างมึงไม่เข้าใจหรอก" ตินพูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้

"ถ้าถูกจับได้ จินตนาการมึงจบเห่แน่ติน" ผมว่าต่ออย่างเหลืออด

"กูเอาตัวรอดได้หรอกน่า" ตินบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก "เคยพลาดที่ไหนกัน"

ผมถอนหายใจรับคำตอบนั้น ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา รับรองได้เลยว่าพ่อกับแม่ได้มีคำสั่งกักบริเวณมันแน่นอน  ซึ่งนั่นก็เหมือนฆ่าตินที่รักอิสระให้ตายทั้งเป็นนั่นแหละ

"เอาไว้มึงปิดเทอม กูจะพาไปดูอนาคอนด้า มึงอาจจะเข้าใจชีวิต ศิลปะการเอาตัวรอดและธรรมชาติมากขึ้น" ตินบอกกลั้วหัวเราะ “วิ่งหนีงูยักษ์เหมือนในหนัง คงมันดี”

"ไอ้ประสาท" ผมว่าพี่ชายอย่างอ่อนใจ

ผมมองตินที่หัวเราะรับคำพูดของผมอย่างไม่ถือเป็นเรื่องจริงจัง ก่อนจะมองไปทางเตยที่ยังขับรถเงียบไม่พูดอะไรออกมา เพียงไม่นานรถยนต์ก็เลี้ยวเข้ามาในลานจอดรถของคอนโดมิเนียมของผม

เมื่อรถยนต์จอดสนิท ผมก็ต้องกุมขมับของตัวเองอย่างปลงตก เมื่อเห็นตินออกจากรถไปยกกระเป๋าดินทางของตัวเองหน้าตาเฉย

ผมชักไม่แน่ใจว่า มันจะรอดในการตะลอนโลกกว้างได้นานเท่าไรกัน เพราะแค่ระยะทางจากสนามบินกลับมาห้องของผม มันยังไม่เอะใจอะไรที่ผิดปกติสุดๆ

ผมออกจากรถมามองเตยที่กำลังช่วยตินยกกระเป๋า ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองผม ก่อนจะโยนกุญแจรถคืน ซึ่งผมก็รับเอาไว้ได้ ก่อนที่ผมจะเดินผ่านสุดหล่อ แล้วพูดให้ได้ยินกันสองคน

“ไม่รุ้จักกันมาก่อน แต่ก็มาห้องพี่ถูกนะ”

 

++++++++++

 

ผมเดินเข้ามาในห้อง โดยลอบสังเกตท่าทางของตินกับเตยเป็นระยะ แต่ดูเหมือนพี่ชายของผมจะไม่ได้สงสัยอะไรกับการรู้เส้นทางของเตยเลยสักนิด

ตินเป็นคนไม่คิดอะไรมากและยังเชื่อใจคนที่รู้จักอย่างน่ากลัวอีกด้วย มันคงวางใจจนไม่ทันได้สนใจ เพราะเตยก็ไม่ได้ถามทางด้วยล่ะมั้ง ในทางกลับกัน ถ้าหากมันคิดมากหรือสงสัยอะไร พี่ชายคนนี้จะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจนั่นแหละครับ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าตินที่คิดน้อยกับตินที่คิดมาก แบบไหนดีกว่ากัน

ผมลอบถอนหายใจและตั้งใจเก็บสิ่งที่คาใจเอาไว้ทีหลัง เพระเมื่อพบกับบรรยากาศที่คุ้นเคย ความง่วงที่หยุดทำงานก็เร่งเร้าให้ผมมุ่งตรงไปที่เตียงหลังใหญ่ในห้องนอนราวกับมีแรงดึงดูด แต่ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวไปถึงหน้าประตูห้องนอน เสียงของตินก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน

“นี่มึงจะไม่สนใจดูแลพี่ชายที่มาเยี่ยมหน่อยหรือไง”

“โตเป็นควายแล้ว ดูแลตัวเอง”

ผมหันไปว่าพลางถอนหายใจออกมา เมื่อเห็นใบหน้าของตินแต้มไปด้วยความยียวนอย่างไม่ปิดบัง ห้องพักของผมก็เหมือนห้องของมัน เพราะตั้งแต่ผมได้ห้องนี้มา ตินก็เป็นคนดูแลทั้งหมดครับ โชคดีที่มันออกแบบห้องนี้ด้วยสไตล์เรียบง่ายตามใจผม ไม่ได้ทำตามใจลูกบ้าที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณอย่างที่มันชอบอ้าง แวลาตั้งใจจะยัดเยียดผลงานให้ผมได้ชื่นชม

"ไอ้แทม แล้วมึงมีอะไรในตู้เย็นบ้าง" ตินพูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปมองดูรอบๆ อย่างสำรวจ

"ไปดูเอาเองแล้วกัน" ผมตอบเสียงเรียบ แล้วหมุนตัวพุ่งตรงไปยังเป้าหมายเดิมที่เป็นประตูห้องนอนอีกครั้ง

ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจแล้วว่าพี่ชายและเพื่อนรุ่นน้องของมันจะทำอะไรกันต่อ สิ่งเดียวที่ผมรับรู้ คือ การได้นอนบนเตียงนุ่มในห้องอย่างสงบสุขเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าความปรารถนาอย่างลึกล้ำคงจะไม่สำเร็จโดยง่าย เมื่อผมรับรู้ได้ถึงการเหนี่ยวรั้งด้วยเสียงจากแขกกิตติมศักดิ์

"วีนัสหมายเลขสามของกูอยู่ไหน"

ผมชะงักความหงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้น เมื่อระลึกถึงคำตอบที่พี่ชายคนดีได้ถามออกมา ความง่วงที่มีก่อนหน้านี้ถูกปัดออกจากสมอง เมื่อข้อเท็จจริงบางอย่างกำลังทำงานอยู่ในความคิด

 

TBC ++++++++++

Marionetta ::: ดีค่ะ ^^ มนที่สุดก็มีโอกาสได้มาลงต่อสักที หวังว่าจะไม่นานเกินรอนะคะ

สำหรัยตอนนี้ก็มีตัวละครเพิ่มมาอีกแล้ว ฮ่าๆ
ซึ่งเป็นคนที่น้องเตยเขาเคนเพ้อๆ มาตั้งแต่แรก นั่นก็คือ พี่ตินคนนี่้นี่เอง!!!
เป็นอีกตัวละครที่อุ้มท้องมานานแล้ว  แต่เพิ่งจะได้คลอด แฮะๆ พี่ตินเขาน่ารักนะ อิอิ
บรรยากาศตอนนี้จะดูอึนๆ ไปบ้าง เพราะอยุู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนะคะ

ขอบคุณที่ยังติดตามกันมาจนถึงตอนนี้
สามารถแนะนำและติชม เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงและพัฒนาต่อไปค่ะ
ยังไงก็ช่วยติดตามพี่แทมกับน้องเตยไปด้วยกันนะคะ

ขอบคุณค่ะ  :mew1:



 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด