♛ PLAYBOY LOVER ♛ E-BOOK
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ E-BOOK  (อ่าน 425462 ครั้ง)

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 19 ❤ [14/08/2014]
«ตอบ #210 เมื่อ25-08-2014 21:32:09 »

PLAYBOY # 20 - TOEY

 

 ไอ้บ้าแทม!

ผมบ่นกับตัวเอง หลังจากที่ปิดประตูห้องนอน แล้วเผชิญกับความมืดเพียงลำพัง ถึงจะบ่นกับตัวเองไปแบบนั้น แต่ผมก็รู้ดีว่าคนที่บ้าน่ะ มันเป็นตัวเองต่างหาก

ไอ้บ้าเตย! นี่มึงเป็นอะไรเนี่ย?!

ผมยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเอง แล้วใช้สายตาที่เริ่มชินกับความมืดในตอนนี้เดินตรงไปยังส่วนของห้องรับแขก ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาราวกับคนที่หมดแรง

ก็เพราะคำขู่ของมันนั่นแหละ...

ผมบอกกับตัวเองอยู่ในใจ สิ่งที่ทำลงไป ก็เพราะคำขู่ที่จะบอกความจริงกับติน ที่จริงแล้วผมไม่ได้กลัวเรื่องที่ตินจะรู้ว่าผมคิดอย่างไร แต่ผมกลัวว่าตินจะรู้เรื่องที่ผมทำลายผลงานของเขาต่างหาก ถึงแม้ว่ามันจะเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจ แต่ผมก็ไม่กล้าเสี่ยงกับอารมณ์ร้ายของตินที่บ้าผลงานของตัวเองสักเท่าไร

ผมถอนหายใจกับตัวเองอย่างระบายความรู้สึก ทั้งที่พยายามไม่คิดอะไร แต่สัมผัสที่ยังอุ่นตรงริมฝีปาก อีกทั้งความรู้สึกที่ยังอบอวลอยู่ตอนนี้ ไม่อาจทำให้ผมรู้สึกกลับเป็นปกติได้ ผมเอนหลังพิงกับโซฟาแล้วหลับตาลง เพื่อปิดกั้นทุกอย่าง แต่มันก็ยิ่งทำให้ผมรับรู้ได้มากยิ่งขึ้น

ลมหายใจอุ่น…

รสจูบที่นุ่มร้อน…

บ้าฉิบ!

ผมตบแก้มของตัวเอง เพื่อเรียกตัวตนให้กลับมา ผมคงบ้าไปแล้วจริงๆ ทั้งที่ชอบตินมากแท้ๆ แต่ผมกลับทำได้แค่มอง โดยไม่กล้าแตะต้อง ไม่กล้าแม้กระทั่งจะสัมผัสใบหน้ายามหลับของเขาด้วยซ้ำ แต่พอมาเจอไอ้แทม ผมกลับกล้าจูบมันไปแบบนั้นได้อย่างไรก็ไม่รู้

ให้ตายสิ! ผมไม่ยอมรับตัวเองในตอนนั้นแน่!

ผม ถอนหายใจอีกครั้ง เพื่อระบายความอึดอัดและไม่เข้าใจของตัวเอง ถึงมันจะเป็นเรื่องผิดพลาดที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า จูบที่ผมเพิ่งสัมผัสจากคนที่ไม่ชอบหน้ากัน ทำให้ผมเผลอไผลไป อาจเป็นเพราะความเชี่ยวชาญของไอ้แทมด้วยล่ะมั้ง ที่ทำให้ผมเผลอตัวไปแบบนั้น มันก็แค่ความรู้สักชั่ววูบที่สับสนไปขณะหนึ่ง เพราะไม่ว่าอย่างไรในใจของผมก็ยังมีตินคนเดียวเสมอ

ติน... คนที่พารอยยิ้มมาให้ผมอีกครั้ง

พอนึกถึงตินที่แสนดี ผมก็นึกไม่ถึงเลยว่า เขาจะมีน้องชายกวนประสาทที่กำลังมีเรื่องกับผมอยู่ และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้น เขายังจะให้ผมไปเป็นพ่อบ้านดูแลมันอีก ซึ่งมันเป็นเรื่องบ้าบอชะมัด ผมทำใจลำบากจริงๆ อยู่กับมันไม่กี่นาที ก็มีเรื่องตลอด แล้วถ้าต้องอยู่กับมันบ่อยๆ มีหวังได้เกิดเรื่องร้ายกับใครสักคนแน่

โชคชะตาคงอยากจะทดสอบผมเล่น ถึงได้นำพาให้ผมต้องมาเจอคนที่ไม่อยากเจออยู่เรื่อย ไม่แน่ว่าชีวิตของผมคงถูกกำหนดให้โคจรใกล้ไอ้แหม ตั้งแต่วันที่ผมโชคร้ายเจอกับมันครั้งแรกแล้วก็ได้

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรที่จะเชื่อมโยงไปถึงมันเด็ดขาด!

แต่ถึงจะคิดกับตัวเองแบบนั้น ผมก็ไม่เคยนึกเสียใจที่ได้เจอกับติน ถึงแม้สุดท้ายผมจะต้องมารู้จักกับไอ้แทมในฐานะน้องชายของเขาก็ตาม

ตอนนี้ชีวิตของผมคงอยู่ในช่วงพลิกผันครั้งใหญ่ ผมถึงได้เจอแต่เรื่องที่ทำให้ต้องคิดหนักแบบนี้ ถ้าผมยอมตกลงทำงานให้ติน ชีวิตของผมจะเดินหน้าไปอย่างไรต่อ ผมก็เดาไม่ถูกจริงๆ

ผมนั่งคิดเรื่องของตัวเองซ้ำไปซ้ำมาภายในห้องที่เงียบสงบ ตอนนี้พระอาทิตย์คงใกล้จะทอแสงยามเช้าแล้ว แต่ผมยังคงจมอยู่ในความคิดที่มืดมนของตัวเอง

จะลองเปิดใจกับงานที่ตินเสนอให้ หรือปฏิเสธเพื่อกลับไปดำเนินชีวิตอย่างที่เป็นมา…

ในเมื่อตัดสินใจเปลี่ยนชะตาด้วยตัวเองมาถึงขนาดนี้แล้ว จะยอมเสี่ยงก้าวไปตามเส้นทางสายใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะเจออะไรอีกสักครั้งไหม?

“ตื่นเช้าเหมือนกันนะ”

เสียงทักที่ดังขึ้น ทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นตินกำลังเดินเข้ามาในห้องรับแขก ใบหน้าอ่อนกว่าวัยแต้มรอยิ้มบาง

“พอดียังไม่ชินน่ะ” ผมตอบ แล้วระบายยิ้มไปให้ ผมไม่อยากให้ตินเป็นห่วง แต่ดูเหมือนว่าจะทำอย่างที่หวังเอาไว้ไม่ได้

“อืม แล้วคิดเรื่องงานที่พี่บอกไปถึงไหนแล้ว” ตินถามต่อ แล้วนั่งลงข้างผม

“ที่จริงผมไม่อยากทำเท่าไร” ผมตอบไปคามตรง "ตินก็รู้ว่า ผมทำงานบ้าน ดูแลใครแบบนั้นได้ที่ไหน"

ตินหัวเราะเบาๆ รับคำพูดของผม ก่อนจะมองด้วยแววตาที่อ่อนโยน ผมชอบตินที่เป็นเหมือนพระอาทิตย์ยามเยเย็นแบบนี้ที่สุด

"อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น พี่รู้ว่าเตยไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดแบบนั้นหรอก" ดินพูดขึ้น แล้วมองผมด้วยรอยยิ้มบาง "ถ้ามีปัญหาอะไร เราก็แก้ไขไปด้วยกัน พี่ว่างานนี้มันง่ายกว่างานในผับตั้งเยอะ"

ก็เหมือนจะง่ายอยู่หรอก ถ้าคนที่ผมต้องทำงานด้วยไม่ใช่ไอ้แทมที่ขยันตัดเส้นอารมณ์ของผมล่ะนะ...

"ข้อเสนอที่พี่ให้ก็ดีกว่างานเก่า ส่วนไอ้แทม... ถึงมันจะปากเสีย ดูกวนๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรหรอก" ตินบอก "ที่พี่อยากให้เตยมาทำงานนี้ ก็เพราะเป็นห่วงเตยเองนั่นแหละ"

ผมไม่ได้ตอบรับอะไร แล้วปล่อยให้ความเงียบเดินทางผ่าน ตอนนี้แสงยามเช้าทอดคัวเข้ามาจนทำให้บริเวณที่เคยมืด ค่อยๆ สว่างขึ้นทีละน้อย

"พี่เคยบอกเตยไปแล้วใช่ไหมว่า เตยน่ะเป็นสีเทา" ตินพูดขึ้นต่อ ก่อนที่ผมจะหันไปมองอีกฝ่ายอีกครั้ง "สีเทาที่ทาไปครงไหนก็ดูหมอง ผสมกับสีอะไรก็ไม่สดใส"

ผมนึกย้อนไปถึงคำพูดของตินมื่อนานมาแล้ว ตอนที่เราสองคนเพิ่งรู้จักกัน ในเวลานั้นผมยอมรับว่า ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เขาพูดนัก แต่ก็รู้สึกสนใจความคิดที่ไร้กรอบแบบนั้น อยากจะมีความคิดที่ไม่ยึดติดกับสิ่งใด นอกจากความเชื่อมั่นของตัวเองบ้าง

"แต่ก็มีความหนักแน่น มั่นคง..."

"มันก็ใช่... แต่กลัวนานไป สีเทาจะเข้มข้นขึ้นจนกลายเป็นสีดำไปน่ะสิ"

ผมมองตินที่ยังประดับด้วยรอยยิ้มและนัยน์ตาที่สดใสอย่างทบทวนถึงความนัยที่เขาตั้งใจบอก

"แล้วเตยไม่คิดจะเปลี่ยนสีของตัวเองบ้างหรือไง" ตินถาม ก่อนจะยกแขนกอดไหล่ของผมเอาไว้ "เห็นไอ้แทมเป็นแบบนั้น แต่มันก็เป็นสีขาวนะ "

"สีขาวงั้นหรือ..." ผมพูดขึ้นเหมือนเปรยกับตัวเอง แล้วนึกสงสัยว่า ไอ้แทมมันเป็นสีขาวตรงไหน

"ดูไม่ออกเลยใช่ไหม" ตินพูดขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าของผม "ไอ้ แทมไม่ใช่สีขาวที่บริสุทธิ์หรอกนะ แต่เป็นสีขาวที่เปื้อนสีอื่นไปแล้ว แตถึงอย่างนั้นคุณสมบัติของสีขาวก็ยังพร้อมจะรับสีอื่นเสมอ  รวมถึงสีเทาอย่างเตยด้วย"

ผมนั่งคิดตามคำพูดของติน แน่ล่ะ...ผมรู้ว่าสีขาวทำอะไรได้บ้าง แต่ผมไม่คิดว่าสีขาวแบบไอ้แทมจะช่วยอะไรผมที่เป็นสีเทาได้

"ไม่ว่ายังไงเราก็ไม่สามารถลบสีที่เป็นตัวตนของตัวเองไปได้ แต่เตยจะไม่ลองลดเฉดสีเทาของตัวเองด้วยสีขาวของไอ้แทมดูหน่อยหรือ" ตินถามผมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

ผมรู้ว่าตินอยากให้ผมเป็นคนที่แจ่มใสมากกว่านี้ แต่ทำไมต้องเป็นไอ้แทมด้วย...

ผมคิดกับคัวเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่ว่าอย่างไรตินก็คงไม่หยุดโน้มน้าวจนกว่าผมจะตกลงนั่นแหละ จะเป็นสีอะไรก็ช่างมันเถอะ! ขอแค่ทำให้ผู้ชายตรงหน้ามีความสุขก็พอแล้ว ถึงแม้ว่าความสุขนั้นต้องแลกกับความลำบากใจของตัวเองก็ตาม

"เฮ้อ...ถึงผมจะปฏิเสธยังไง ตินก็คงไม่ยอมหรอกใช่ไหม" ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

"อย่าพูดเหมือนโดนบังคับสิ พี่แค่อยากให้เตยได้รับสิ่งที่ดีกว่า" ตินบอก แล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย "สรุปว่าตกลงแล้วใช่ไหม"

ผมมองคนที่นั่งข้างกัน แล้วอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะพยักหน้ารับ พร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ได้รับกลับมา ผมลอบถอนหายใจ เมื่อตินกอดคอของผมเอาไว้แน่นขึ้น

สิ่งที่ทำให้ผมยอมตกลงไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำพูดที่บอกว่าผมจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี ขึ้นหรอก แต่เพราะคนที่ชวนผมเป็นเขาต่างหาก และตอนนี้ผมก็ตัดสินใจจะก้าวไปข้างหน้าที่ไม่รู้ว่าหนทางจะเป็นอย่างไร แต่ผมก็อุ่นใจ เพราะตลอดทางที่เดินไป จะมีตินเป็นกำลังใจให้เสมอ

แค่มีผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็พอแล้ว...

ผมยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะหันไปกอดตินเอาไว้ ทว่าหางตาก็เห็นใครอึกคนกำลังยืนมองอยู่ ผู้ชายที่อีกไม่นานผมจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันมากขึ้น

"เฮ้ยๆ จะสวึตกัน ก็เกรงใจเจ้าของห้องบ้างเถอะ" ไอ้แทมพูดขึ้น ก่อนจะมองมาด้วยสายตาเรียบเฉย

ตินคลายอ้อมแขนที่กอดผมเอาไว้ออก แล้วหันไปมองไอ้แทมด้วยรอยยิ้ม

"กูแค่ดีใจหรอกน่า!"  ตินบอก แล้วฉายยิ้มเหมือนเด็ก "เตยตกลงจะมาเป็นพ่อบ้านให้มึงแล้วนะ"

"อืม" ไอ้แทมตอบรับ ก่อนจะเดินมานั่งบนโซฟาข้างติน "ไปทำข้าวเช้าได้แล้ว กูหิว"

"มึงนี่น้า..." ตินหันไปโยกหัวของไอ้แทมเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปทางห้องครัวต่อ

ผมมองตามหลังของติน ก่อนจะเลื่อนสายตามองไอ้แทมที่นั่งอยู่ด้วยกันต่อ และท่าทีนิ่งเฉยเหมือนไม่สนใจ ก็ทำให้ผมนึกแปลกใจขึ้นมา ในเมื่อปกติแล้ว ถ้ามันรู้ว่าผมจะได้มาอยู่ใกล้ชิด ก็มักจะแสดงท่าทีบางอย่างที่ชวนให้ผมรู้สึกหมั่นไส้เสมอ

ที่จริงแล้วนับตั้งแต่ผมได้เจอมัน ไอ้แทมก็แสดงท่าทีห่างเหินออกมา จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ที่เราสองคนดันทำอะไรแบบนั้น ก็แค่ตอนนั้นที่ผมเหมือนได้เจอไอ้แทมที่ผมรู้จัก ไม่ใช่ไอ้แทมที่นั่งนิ่งเปิดโทรทัศน์ดูข่าวไม่สนใจใครอย่างตอนนี้

ผมลอบมองท่าทีของมันอีกครั้ง ช่องว่างที่คั่นกลางจากระยะห่างที่เรานั่งด้วยกัน คงไม่ต่างจากท่าทีของมันที่เหมือนเว้นระยะความสัมพันธ์ไว้ ถ้าหากไม่มีตินร่วมอยู่ด้วย ไอ้แทมก็จะไม่ยุ่งหรือพูดคุยกับผมเกินความจำเป็น ทั้งที่ไม่ควรจะนึกสนใจว่ามันจะแสดงท่าทีอย่างไร แต่ผมกลับรู้สึกวางตัวไม่ถูก เมื่อต้องเจอกับไอ้แทมในมาดนี้

แต่มันไม่สนใจผมก็ดีแล้ว ไม่เห็นจะต้องไปคืดอะไรใหเสียเวลาเลย...

"นอนหลับหรือเปล่า"

อยู่ดีๆ ไอ้แทมก็พูดขึ้น ผมปรายตามองมันเล็กน้อย แล้วเห็นว่ามันยังคงมองโทรทัศน์เบื้องหน้าอยู่ ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน ก่อนเสียงของคนที่นั่งอยู่อีกฟากของโซฟาจะดังขึ้นอีกครั้ง

"เมื่อคืนพี่ฝันแปลกๆ แต่ก็พอจะเป็นฝันดีได้ล่ะนะ"

"แต่กูฝันร้าย" ผมบอก แล้วลุกขึ้นจากโซฟา "และต่อจากนี้ก็คงฝันร้ายไปเรื่อย"

ไอ้แทมหันมามองผม ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่จุดตรงมุมปาก

"งั้นก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน ความฝันควบคุมกันไม่ได้ซะด้วย"

ผมขมวดคิ้ว เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ฉายชัด ผมนึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เมื่อได้ยินถ้อยคำที่เหมือนล้อเลียนแบบนั้น ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าแปรงฟัน

ไอ้แทมเนี่ยนะสีขาว? มันคงเป็นสีดำที่ทาด้วยสีขาวหลอกตาตินมากกว่า
             

 

++++++++++++


ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 19 ❤ [14/08/2014]
«ตอบ #211 เมื่อ25-08-2014 21:39:48 »




ตอนนี้พวกเรากำลังทานอาหารเช้ากันครับ มันเป็นอาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบที่เหลือจากสุกี้เมื่อคืนนี้ผัดกับข้าวสวยเป็นข้าวผัดรวมมิตร ถึงหน้าตาจะแปลกไปหน่อย แต่ก็อร่อยดีครับ

"เดี๋ยววันนี้พี่จะทำสัญญาจ้าง เตยก็กลับไปขนของย้ายมาอยู่นี่ได้เลย" ตินพูดขึ้น และทำให้ผมต้องหยุดกินอาการในทันที

"ทำไมต้องขนของมาด้วย" ผมถามกลับ แล้วมองตินนิ่ง เรื่องสัญญาอะไรนั่น ผมไม่สนใจหรอก แต่เรื่องที่ต้องขนของย้ายมานี่มันอย่างไรกัน

"ย้ายมาอยู่นี่เลย ก็สบายดีออก ทำไมต้องเดินทางไปๆ มาๆ ให้เสียเงินเล่น ที่สำคัญเตยจะได้ไม่ต้องไปกวนเพื่อนด้วย พี่ว่าสะดวกจะตายไป" ตินอธิบายอย่างเรียบง่าย แต่ผมนึกอยากจะกุมขมับของตัวเองขึ้นมา

"ทำไมตัดสินใจอะไร ไม่เคยถามกูเลยวะ" ไอ้แทมพูดขึ้น แล้วมองตินด้วยสายตาหน่ายๆ

"โอเค งั้นกูให้เตยมาทำงาน แล้วก็ค้างอยู่ที่นี่ มึงว่ายังไง" ตินหันไปถามไอ้แทมที่เงยหน้าจากจานข้าวของตัวเอง

"ยังไงก็ได้ " ไอเแทมตอบ พร้อมกับกินข้าวของตัวเองต่อ

"ทำตัวไม่น่ารักอีกแล้ว" ตินบ่น ก่อนที่ไอ้แทมจะหัวเราะเบาๆ ตินคงชินกับนิสัยของไอ้แทมแล้ว ถ้าเป็นผม คงใส่อารมณ์สวนกลับความกวนตีนของมันแน่

"ผมไม่เดือดร้อนหรอก" ผมบอก แล้วมองตินอย่างจริงจัง แม้ว่าลึกๆ แล้วจะหวั่นใจเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องอาศัยอยู่ที่นี่ก็ตาม ผมรู้สึกว่า ตัวเองกำลังจะซวยอย่างบอกไม่ถูก

"มาอยู่ที่นี่แหละดีแล้ว พี่อยากให้ช่วยดูเรื่องกินอยู่ของไอ้แทมด้วย" ตินพูดขึ้น แล้วถอนหายใจออกมา "ถ้าไม่มีคนดูแล มันก็ไม่ค่อยสนใจตัวเองนักหรอก"

"กูก็กินอิ่มนอนหลับ แล้วก็แข็งแรงดี ออกกำลังกายเป็นประจำด้วย" ไอ้แทมบอก

"กูดูจากความว่างเปล่าในตู้เย็นของมึง กูก็รู้แล้วว่า ชีวิตของมึงอยู่ด้วยอะไรบ้าง" ตินว่าต่อ แล้วมองไอ้แทมด้วยสายตาตำหนิ "ในฐานะพี่ชาย กูทนนิ่งดูดายไม่ได้หรอก"

ไอ้แทมมองตินอีกครั้ง แล้วไม่ได้ตอบโต้อะไร ตินถอนหายใจออกมา แล้วหันมาทางผมอีกครั้ง ผมเองก็รู้สึกหนักใจเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของไอ้แทมหรอกนะครับ แต่เป็นเรืองที่ผมต้องมาดูแลปากท้องของไอ้กวนประสาทนี่ต่างหาก

อย่าว่าแต่ไอ้แทมเลยครับ ผมเองก็ใช้ชีวิตไม่ต่างจากมันเท่าไร แล้วแบบนี้มันไม่พากันตายคู่หรอกหรือครับ

"ติน... ผมเองก็ทำกับข้าวไม่เป็นหรอกนะ" ผมบอก แล้วมองตินที่กำลังยิ้มบางออกมา

"เรื่องนั้นเดี๋ยวพี่จะสอนเอง แค่ได้พื้นฐาน จะทำอย่างอื่นก็ไม่ยากหรอก" ตินบอก แล้วหันไปมองไอ้แทม "วันนี้มึงก็จัดห้องให้เตยด้วยล่ะ มีอะไรขาด จะได้หามาเตรียมไว้ มะรืนนี้กูจะไปแล้ว"

"ทำไมคราวนี้อยู่ไม่กี่วันเอง" ไอ้แทมถามกลับด้วยสีหน้าสงสัย "แล้ววันนี้กูไม่ว่าง มีนัดกัยเพื่อนที่มหา'ลัย"

"กูมีงานต่อ" ตินตอบ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย "แล้วกูก็ขอเวลามึงแล้วไงว่า ตลอดเวลาที่กูอยู่ มึงห้ามหนีไปเที่ยวกับคนอื่นน่ะ"

"มีประชุมภาคเว้ย ไม่ได้ไปเที่ยว"  ไอ้แทมตอบ แล้วดื่มน้ำในแก้วที่วางอยู่ "มึงอยากทำอะไรก็ตามใจแล้วกัน"

"เออๆ ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว" ตินบอก แล้วหันมามองผม "ก็ตามนี้แหละ เตยก็ไปจัดของมาได้เลย"

ผมก็ได้แต่นึกเหนื่อยใจขึ้นมา ในเมื่อทุกอย่างดูจะรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน ทั้งที่เวลาเดินผ่านไปไม่ถึงวันด้วยซ้ำ แต่ผมก็พบเรื่องที่น่าปวดหัวมากมาย หรือเพราะผมยังไม่ได้นอนเลยรู้สึกเพลียขึ้นมา

"พรุ่งนี้ผมค่อยย้ายมาดีกว่า ตินจะได้ไม่ต้องรีบ ผมเองก็มีงานอื่นที่ต้องจัดการเหมือนกัน" ผมบอก เรื่องเป็นพ่อบ้านดูแลความเป็นอยู่ของไอ้แทม ผมจะพยายามทำใจให้ได้ แต่ขอเวลาผมปรับสภาพจิตใจของตัวเองสักคืน

"มึงก็ไม่ต้องรีบไปหรอก ก็แค่มีคนมาอยู่เพิ่มเท่านั้นเอง" ไอ้แทมหันไปบอกติน แล้วลุกจากเก้าอี้ "งั้นกูไปก่อนนะ"

"ไหนๆ มึงจะไปมหา'ลัยอยู่แล้ว ก็แวะไปส่งเตยด้วยสิ" ตินพูดขึ้น แล้วหันมาทางผม "หอที่พักก็อยู่แถวนั้นนี่ ให้ไอ้แทมไปส่งสิ"

"ไม่เป็นไรหรอก" ผมปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด แต่มันก็คงไม่มีผลต่อการตัดสินใจของติน

"เอาน่าๆ จะได้สนิทกันเร็วๆ" ตินบอกอย่างกระตือรือร้น ก่อนที่ผมจะเห็นไอ้แทมยกยิ้มขึ้น

"ดีเหมือนกัน จะได้สนิทกันมากขึ้น" ไอ้แทมตอบรับ แล้วมองมาทางผมเล็กน้อย

สนิทอะไรของมึง! รู้จักแค่นี้ก็เกินพอแล้ว!

ผมมองไอ้แทม ก่อนจะจำใจลุกจากเก้าอี้ เมื่อรับรู้ว่ามีสายตาขงตินกำลังมองอยู่ ทั้งที่อยากอยู่สองต่อสองกับเขาให้มากกว่านี้แท้ๆ แต่ก็ช่างเถอะ… กลับไปพักที่ห้องก่อนก็ดีเหมือนกัน เผื่อสมองจะได้ติดอะไรได้ดีกว่านี้

 

++++++++++

 

อาจเพราะมีตินอยู่ด้วย ไอ้แทมเลยทำตัวแปลกไป ผมคงจะไม่รู้สึกอะไรนัก ถ้าหากมันจะแสดงท่าทีอะไรบ้าง เมื่อรู้ว่าผมยอมตกลงเป็นพ่อบ้านให้ แต่ไอ้คนที่ชอบกวนประสาทก็ทำเพียงแค่รับรู้ด้วยท่าทีนิ่งเฉยราวกับไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร รวมไปถึงตอนนี้ที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพังแล้ว แต่มันก็ยังทำเป็นไม่สนใจจนผมรู้สึกไม่ชินเอาเสียเลย

ผมนั่งมองวิวผ่านกระจกที่ผ่านไปตามความเร็วของเครื่องยนต์ ก่อนความคิดจะวิ่งย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้อีกครั้ง แล้วอดที่จะลอบถอนหายใจออกมาไม่ได้ ดูเหมือนไอ้แทมก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก ก็แค่จูบกัน... สำหรับมันคงไม่ได้ถือเป็นเรื่องผิดแปลกอะไร และผมเองก็ไม่ใช่พวกอ่อนต่อโลกไม่เคยเรื่องพวกนี้เสียเมื่อไรกัน ทั้งที่ไม่ควรคิดอะไรด้วยซ้ำ แต่ทำไมมันถึงได้วิ่งเข้ามาในสมองของผมอยู่เรื่อย

ก็อย่างที่ไอ้แทมบอกนั่นแหละ มันก็แค่ความฝัน แล้วก็เป็นฝันร้ายคืนหนึ่งเท่านั้น...

พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันสักคำ จนกระทั่งรถมาจอดอยู่หน้าหอพักของไอ้เพชรที่ผมอาศันอยู่ด้วย ทว่าเมื่อผมกำลังจะเปิดประตู เสียงของคนขับก็ทำให้ผมต้องหันไปมอง ไอ้แทมกำลังเอาหน้าซบกับพวงมาลัยรถ พร้อมกับเลิกคิ้วมอง ท่าทีแบบนั้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้เจอไอ้แทมที่เคยรู้จักอีกครั้ง

“แล้วค่อยเจอกันนะครับ คุณพ่อบ้าน”

ผมมองรอยยิ้มมุมปากของมัน โดยไม่ได้พูดอะไร นอกจากปิดประตู แล้วเดินเข้าไปในหอพัก และเมื่อรับรู้ว่า รถยนต์ได้เคลื่อนตัวห่างออกไป ผมก็หันกลับไปมองถนนที่ว่างเปล่าอีกครั้ง

ผมถอนหายใจกับตัวเอง แล้วเดินขึ้นลิฟต์ และเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ บรรยากาศเลยเงียบสงบกว่าวันธรรมดาทั่วไปจนรู้สึกเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก ผมเดินมาหยุดที่หน้าห้องของไอ้เพชร ก่อนจะใช้กุญแจสำรองที่มันเคยให้เอาไว้ไขประตูออก

ผมมองเจ้าของห้องที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียงเล็กน้อย แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของตัวเอง ก่อนจะเดินตรงไปอาบน้ำให้สดชื่นขึ้น และเมื่อผมจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ผมก็เห็นไอ้เพชรที่นั่งมองผมอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่แสดงถึงความงัวเงียอยู่

“มึงหายไปไหนมา” ไอ้เพชรถามขึ้น

“กูไปค้างห้องไอ้แทมมา” ผมบอกไปตามตรง และเมื่อเห็นสายตาที่เหมือนตกใจของอีกฝ่าย ผมก็ต้องรีบขยายความเพิ่ม “กูเพิ่งรู้ว่าไอ้แทมเป็นน้องชายติน แล้วตินก็บังคับให้กูค้างด้วย”

“เฮ้ย! จริงหรือวะ” ไอ้เพชรถามกลับอย่างแปลกใจ เพื่อนของผมรู้จักตินทุกคนครับ แล้วก็รู้ว่าผมชอบตินมากด้วย

“อืม กูก็เพิ่งรู้ ตกใจเหมือนกัน” ผมพูดขึ้น แล้วนั่งลงบนเตียงที่ไอ้เพชรยังนั่งอยู่ ก่อนจะเอนตัวลงนอน พอรู้สึกสบายตัวขึ้น ความง่วงที่ถูกสะกดเอาไว้ก็เหมือนจะเริ่มทำงานอีกครั้ง

“มาเล่าให้รู้เรื่องก่อน อย่าเพิ่งนอนสิวะ” ไอ้เพชรว่า แล้วพยายามจะดึงผมให้ลุกขึ้นนั่ง แต่เวลานี้ผมไม่สนใจแล้วครับ ก็เมื่อคืนยังไม่ได้นอนเลยสักงีบ

“ตอนนี้กูง่วงมาก เมื่อคืนไม่ได้นอน” ผมบอก แล้วพยายามฝืนเปลือกตาที่กำลังจะปิดอย่างเต็มที่ “มีอะไร ค่อยคุยหลังจากที่กูตื่นแล้วกัน”

“ฮะ?! ไม่ได้นอน?” ไอ้เพชรร้องถาม แล้วเขย่าตัวของผมที่หลับตาอยู่ไปมา “นี่มึงเล่นสวิงกิ้งกันทั้งคืนเลยหรือวะ”

“ไอ้สัด!” ผมด่ากลับ แล้วลืมตามองไอ้คนพูดอย่างไม่พอใจ ไอ้เพชรหัวเราะขึ้นมาเบาๆ

“ตลกดีว่ะ ตั้งแต่ที่มึงเจอกับพี่แทม ดูเหมือนชีวิตของมึงก็ผูกติดกับพี่เขาแล้วว่ะ” ไอ้เพชรพูดขึ้น แล้วยิ้มออกมาน้อยๆ

“เหลวไหล” ผมบ่นใส่ แล้วหลับตาลงอย่างไม่สนใจคนที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยกันอีก แต่ในใจก็อดคิดแบบนั้นขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรได้ นอกจากเผชิญหน้ากับสิ่งที่เป็นอยู่เท่านั้น

 

TBC +++++++++++


 :m25: Mationetta ::: สวัสดีค่ะ เอาตอนใหม่มาลงแล้วค่ะ
ตอนนี้ก็เป็นช่วงที่น้องเตยต้องคิดทยทวนตัวเองอีกครั้ง
แต่สุดท้ายก็นอมตกลงเป็นพ่อบ้านให้พี่แทม ทั้งที่นังงงกับตัวเองอยุ๋เล็กน้อย 555
สองคนนี้จะเแ็นยังไงต่อ ก็ช่วนติดตามกันด้วยนะคะ

สามารถแนะนำและติชมมาได้ เพื่อจะได้พัฒนาตัวเองมากขึ้นค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้ค่ะ

 :กอด1:


ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 20 ❤ [25/08/2014]
«ตอบ #212 เมื่อ25-08-2014 22:03:52 »

 :pig4:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 20 ❤ [25/08/2014]
«ตอบ #213 เมื่อ25-08-2014 22:07:05 »

วรั้ยน้องเตย ยอมรับความจริงเถอะ

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 20 ❤ [25/08/2014]
«ตอบ #214 เมื่อ25-08-2014 22:44:39 »

เตยน่าร้ากกกกกกกกกก
แทมเก็บอาการมิดเลยนะ
เดี๋ยวจะรอดูตอนเตยย้ายเข้ามาอยู่ กับตอนที่ตินกลับไปแล้ว
ว่าจะยังนิ่งแบบนี้ได้อยู่รึเปล่า555
อย่าลืมนะแทม รุกเตยมากๆ เอาให้ดีกดเลย ก่อนที่เตยจะเปลี่ยนใจมากดแทมเสียเอง อิอิ

ออฟไลน์ shabushabu4

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 20 ❤ [25/08/2014]
«ตอบ #215 เมื่อ25-08-2014 22:45:05 »

เอาล่ะสิ 3 ติน เตย แทม :ruready

เตยถ้ามันจะชอบตินแล้วมาหวั่นไหวแทมละก็ ควบสองเลยเถอะ

ยังนึกภาพไม่ออกว่าเตยมันจะตัดใจจากพี่ตินแ้ลวไปชอบแทมจริงๆจังตอนไหน :z10:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2014 23:52:11 โดย shabushabu4 »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 20 ❤ [25/08/2014]
«ตอบ #216 เมื่อ01-09-2014 14:18:27 »

:pig4:
:กอด1:

วรั้ยน้องเตย ยอมรับความจริงเถอะ
ขอเวลาน้องเขาเล่นตัวหน่อยเุอะค่ะ 555

เตยน่าร้ากกกกกกกกกก
แทมเก็บอาการมิดเลยนะ
เดี๋ยวจะรอดูตอนเตยย้ายเข้ามาอยู่ กับตอนที่ตินกลับไปแล้ว
ว่าจะยังนิ่งแบบนี้ได้อยู่รึเปล่า555
อย่าลืมนะแทม รุกเตยมากๆ เอาให้ดีกดเลย ก่อนที่เตยจะเปลี่ยนใจมากดแทมเสียเอง อิอิ
:z1: ช่วงนี้เป็นแทมโหมดขรึมค่ะ 555 ก็คงต้องรอให้ตินไปก่อน ถึงจะเริ่มออกลายเหมือนเดิม

เอาล่ะสิ 3 ติน เตย แทม :ruready

เตยถ้ามันจะชอบตินแล้วมาหวั่นไหวแทมละก็ ควบสองเลยเถอะ

ยังนึกภาพไม่ออกว่าเตยมันจะตัดใจจากพี่ตินแ้ลวไปชอบแทมจริงๆจังตอนไหน :z10:
อิอิ มันต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้เตยเปลี่ยนใจค่ะ 555 (อยากบอกแต่บอกไม่ได้  :hao6

+++++++++++++++++
ขอบคุณมากเลยค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 20 ❤ [25/08/2014]
«ตอบ #217 เมื่อ04-09-2014 10:31:52 »

PLAYBOY # 21 - TOEY


 

 

 เสียงบางอย่างที่ดังขึ้น ทำให้ผมที่กำลังเข้าโหมดพักผ่อนต้องลืมตาขึ้นมามอง ก่อนจะเห็นเพื่อนสนิทนั่งหน้าสลอนกันครบ แถมยังเปิดโทรทัศน์เสียงดังไม่เกรงใจกันเลยสักนิด

"ลดเสียงหน่อยสิวะ" ผมบ่นอกมา แล้วลุกขึ้นนั่ง

"โทษทีว่ะ เมื่อคืนไม่ได้นอน? ทำอะไรกับพี่แทมวะ" ไอ้ลมทักขึ้น ก่อนไอ้เพื่อนเวรจะหัวเราะรับกัน

"กวนตีน" ผมว่ากลับ ก่อนจะหันไปมองไอ้เพชร "มึงเรียกพวกมันมาทำไมวะ"

"ก็มึงบอกว่าจะแถลงการณ์ กูเลยตามพวกมันมาฟังพร้อมกัน จะได้ไม่ต้องเล่าหลายรอบ" ไอ้เพชรตอบ แล้วระบายยิ้มออกมา "กูทำเพื่อมีงเลยนะเว้ย"

ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกไปล้างหน้า แล้วเดินกลับมาจุดเดิมอีกครั้ง ตอนนี้โทรทัศน์ถูกปิดไปแล้ว รวมไปถึงเพื่อนสนิทที่กำลังมองมาที่ผมอย่างสนใจเต็มที่

"เชิญนั่งตามสบายเลยครับ จะจิบน้ำเปล่าก่อนไหม จะได้เล่าเรื่องได้คล่องคอ" ไอ้ลมพูดขึ้น ผมก็ส่งสายตาไม่พอใจไปให้ แต่มันก็ไม่มีผลอะไรหรอกครับ

"พวกกูพร้อมจะรับรู้เรื่องของมึงแล้ว เล่ามาเลย" ไอ้วิลบอก แล้วยิ้มออกมา "เอาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนที่มึงเดินสะโหลสะเหลกลับมาเลยนะเว้ย"

"เยอะไปแล้วพวกมึง กูก็แค่ไปนอนค้าง ไม่มีอะไรทั้งนั้น" ผมบอกแกมบ่น

"อย่ามาปิดบังกันน่า! มึงไปค้างห้องพี่แทมเลยนะเว้ย ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า พี่เขาสนใจจะล่อมึงอยู่" ไอ้เพชรพูดขึ้น พร้อมกับมองผมอย่างพิจารณา

"พี่เขาไม่น่าปล่อยมึงมาง่ายๆ หรือว่ามึงโดนแล้วไม่กล้าบอก?" ไอ้ลมพูดขึ้นบ้าง ก่อนจะส่งสายตาเห็นใจมาให้ "ไม่เป็นไรนะเว้ยมึง"

"เหลวไหล" ผมว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด นึกอยากจะอัดพวกมันทิ่มีความคิดบ้าๆ แบบนั้น แต่มันก็คงเปลี่ยนนิสัยปากเสียไม่ได้ "ที่กูไปค้าง เพราะโดนตินบังคับต่างหาก"

"เห็นไอ้เพชรบอกว่า พี่ตินเป็นพี่ของพี่แทมหรือวะ" ไอ้วิลถามขึ้น

"เออ กูก็ตกใจเหมือนกัน" ผมตอบรับ แล้วปรับท่าทีให้จริงจังขึ้น "ที่จริง...กูมีเรื่องสำคัญจะบอก"

ผมมองเพื่อนที่มองมาด้วยความตั้งใจ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก เพื่อรับมือกับคำพูดที่จะตอบรับกลับมา เมื่อผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดจบ

"กูจะลาออกจากงานที่ผับ"

"ทำไมวะ" ไอ้ลมร้องถาม พร้อมกับแสดงสีหน้าสงสัยอย่างชัดเจน "ถ้ามึงกังวลเรื่องที่มีเรื่องกัน ก็ลืมไปได้เลย เพราะพี่กูไม่ได้ว่าอะไรมึงเลย"

"เปล่าหรอก พอดีกูได้งานใหม่แล้ว" ผมบอก

"งานอะไรวะ" ไอ้วิลถามต่อ ผมกลั้นลมหายใจของตัวเองเลิกน้อย

"...พ่อบ้าน" ผมตอบไม่เติมเสียงนัก

หลังจากนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของคนฟังทั้งสามคนแสดงอาการตกใจ มึนงง และสงสัยอย่างชัดเจน ก่อนที่ผมจะขมวดคิ้ว เมื่อเสียงหัวเราะของพวกมันดังขึ้น

"ล้อกูเล่นหรือเปล่า" ไอ้เพชรพูดขึ้น พร้อมกับแสดงสีหน้าไม่เชื่อสุดฤทธิ์ ก่อนจะยิ้มออกมา "ใครจะบ้าจ้างคนอย่างมึงไปเป็นพ่อบ้านกัน"

"ใช่ๆ มึงแน่ใจแล้วหรือวะ ถึงจะบอกว่าเป็นพ่อบ้าน แต่มันก็งานคนใช้นะเว้ย" ไอ้ลมพูดต่อ แล้วยกมือขึ้นกอดอก "มันไม่ใช่งานที่คนอย่างมึงจะยอมทำเลยว่ะ"

"นั่นสิวะ  กูนึกภาพคุณชายอย่างมึงไปจับไม้กวาดไม่ถูกเลยว่ะ" ไอ้วิลพูดขึ้นบ้าง "กูว่าทำงานที่ผับอย่างเดิมก็ดีอยู่แล้ว"

ผมนั่งฟังความคิดเห็นที่มีต่องานใหม่อย่างนึกอ่อนใจ อย่าว่าแต่พวกมันจะไม่เชื่อเลย ผมเองก็ยังไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผมก็รับปากตกลงทำงานไปแล้ว ก็คงต้องเดินหน้าต่อเท่านั้น และที่สำคัญไปกว่านั้นผมไม่อยากทำให้ตินต้องผิดหวัง

"ถึงจะดูไม่เข้ากับกูเลยก็เถอะ แต่ภูกิรับปากตกลงไปแล้ว" ผมพูดขึ้น แล้วกวาดตามองเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ตรงหน้า "งานนี้ตินเป็นคนหาให้ แล้วกูก็เชื่อในความคิดของเขาด้วย"

คนตรงหน้าต่างก็แสดงท่าทีเข้าใจกับการตัดสินใจของผม ถึงผมจะไม่เคยบอกความรู้สึกออกไปตามตรง แต่พวกมันก็รู้ว่า ผมคิดกับตินมากกว่ารุ่นพี่คนสนิท

ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่า เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ผมสนใจผู้ชายในแง่นั้นขึ้นมา และเมื่อผมคิดถึงเขา ก็มักจะมองหาคนที่มีนิสัยคล้ายตินมานอนด้วย ทั้งที่รู้ดีว่า ไม่สามารถเติมเต็มความรู้สึกของตัวเองได้

"ถ้ามึงคิดว่าอย่างนั้น กูก็คงไม่มีอะไรจะไปขัด" ไอ้ลมพูดขึ้น แล้วระบายยิ้มออกมา "แล้วมึงต้องไปเป็นพ่อบ้านให้ใครวะ "

ในที่สุดคำถามที่ผมไม่อยากเจอก็มาถึง ให้ตายเถอะ! ผมไม่อยากบอกเลยจริงๆ

"เงียบทำไมวะ ไอ้เตย" ไอ้วิลถามขึ้นต่ออย่างแปลกใจ

"กู...ไปเป็นพ่อบ้านให้ไอ้แทม" ผมตอบเสียงเรียบราวกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่ความรู้สักข้างในอยากจะกุมขมับตัวเอง

"อะไรกันวะมึง ไหนบอกไม่ชอบไง แต่ทำไมไปตกลงทำงานกับพี่เขาล่ะวะ" ไอ้ลมถามกลั้วหัวเราะ แล้วยิ้มมองผมอย่างล้อเลียน "มึงก็หวั่นไหวแล้วใช่ป่ะ"

"พูดอะไรของมึงวะ ไร้สาระว่ะ" ผม ว่ากลับ พร้อมกับส่งสีหน้าไม่พอใจไปให้ แต่อยู่ดีๆ ผมก็ดันไปนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น ก่อนภาพรอยยิ้มมุมปากของมันในตอนเช้าจะทำให้ผมต้องขมวดคิ้วออกมา

หวั่นไหวงั้นหรือ... ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว

"ฮ่าๆ แบบนี้กูก็พอเข้าใจแล้ว" ไอ้เพชรพูดขึ้น แล้วส่งยิ้มมาให้ผม "เผลอๆ มึงอาจจะไม่ต้องทำงานบ้านเลยก็ได้ แค่คอยเป็นพ่อบ้านดูแลร่างกายและหัวใจให้พี่เบาก็พอแล้วมั้ง"

"ไอ้สัด!' ผมด่ากลับ พลางลุกขึ้นจะถีบไอ้เพื่อนปากเสีย แต่มันก็ขยับหนีไปก่อน พร้อมกับเสียงหัวเราะของพวกมันที่ดังขึ้น

"แบบนี้กูค่อยวางใจหน่อย" ไอ้วิลพูดขึ้นบ้าง

"ฮ่าๆ เรื่องลาออก เดี๋ยวกูจัดการให้ มึงเตรียมตัวไปทำงานใหม่เถอะ" ไอ้ลมบอกด้วยรอยยิ้ม ผมได้แต่ข่มอารมณ์อยากอัดคนเอาไว้ในใจ

"เอาเป็นว่าพวกภูอนุมัติให้มึงทำงานใหม่นี้ได้" ไอ้เพชรบอก ก่อนจะเดินมาตบไหล่ของผม "พวกกูจะคอยเป็นกำลังใจให้มึงเต็มที่ อย่าทำให้พวกถูต้องผิดหวังล่ะ"

พวกมึงหวังอะไรกันอยู่วะ!

ผมได้แต่บ่นอยู่ในใจ แน่นอนว่ามันคงไม่ใช่หวังดีแน่ พร้อมกับมองใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มแฝงนัยของพวกมันอย่างนึกปลงตก

นี่ผมหลงไปคบเป็นเพื่อนสนิทของพวกมันได้ยังไงกันเนี่ย?

 

 

+++++++++

 

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 20 ❤ [25/08/2014]
«ตอบ #218 เมื่อ04-09-2014 10:43:17 »



ถึงไอ้ลมบอกว่า จะจัดการเรื่องลาออกจากงานให้ แต่ผมก็เกรงใจพี่ชายของมันที่เป็นเจ้าของผับ พี่เขาอุตส่าห์รับผมเข้าทำงานแบบไร้เงื่อนไข แถมเวลาผมมีปัญหา เขาก็ไม่เคยเอาเรื่องอะไรนัก ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมาก ถ้าผมจะไม่ไปลาพี่เขาด้วยตัวเอง

ผมนั่งเก็บของใส่กระเป๋าเสร็จตอนเกือบจะหกโมงเย็น แน่นอนว่ามันล้อผมเรื่องที่ต้องย้ายไปอยู่กับไอ้แทมอย่างสนุกปาก จนผมเกือบจะเอาเท้ากระแทกปากของพวกมันอยู่หลายรอบ ก่อนจะไปหาอะไรกินกับไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดีทั้งหลายต่อ แล้วเดินทางไปที่ผับสตาร์ไลท์ตอนสองทุ่มตรง

ผมเดินไปบอกลาเพื่อนพนักงาน แล้วเดินไปพบกับพี่ของไอ้ลมเพื่อแจ้งเรื่องลาออก พร้อมกับขอบคุณที่เขาช่วยเหลือผมมาโดยตลอด หลังจากนั้นไอ้ลมก็ไปทำงานของมันต่อ ผมเองก็นั่งเล่นอยู่ที่บาร์จนถึงสี่ทุ่ม ไอ้เพชรกับไอ้วิลก็ขอตัวกลับไปก่อน เหลือแต่ผมที่ยังนั่งทิ้งเวลาให้ผ่านไปคนเดียว

“มึงไม่กลับไปพักก่อนหรือ” ไอ้ลมถามขึ้น

“กูอยากหาอะไรย้อมใจหน่อย” ผมตอบ แล้วถอนหายใจออกมา เมื่อนึกถึงอนาคตข้างหน้า

“ฮ่าๆ เอาน่า...ตกลงแล้ว ก็ต้องทำให้เต็มที่นั่นแหละวะ” ไอ้ลมบอก ก่อนจะส่งเครื่องดื่มมาให้ “นี่ Long Ice Land ของมึง”

“ขอบใจ” ผมตอบ ก่อนจะยกแก้วลิ้มลองรสชาติของมัน

“ขอ Cuba Libre”

เสียงผู้มาใหม่ที่นั่งข้างกันดังขึ้น และเพราะเป็นเสียงที่คุ้นเคยดีเลยทำให้ผมต้องหันไปมอง

“อ้าว! พักนี้ไม่เห็นหน้าเลยนะครับ” ไอ้ลมทัก ก่อนจะผสมเครื่องดื่มที่ได้รับการสั่ง แล้วส่งให้เจ้าของ “วันนี้คิดว่าจะเอาอะไรแรงๆ แบบทุกที”

“วันนี้มาแบบสบายๆ น่ะ” ไอ้แทมตอบ แล้วระบายยิ้มออกมา “เรียบง่าย แต่ดูดีน่ะ เข้าใจไหม”

ไอ้ลมหัวเราะรับเบาๆ ก่อนจะมองผมที่ยังนั่งนิ่งไม่พูดอะไร ก่อนที่มันจะหันไปบริการลูกค้ารายอื่นต่อ แล้วปล่อยให้ผมยู่กับไอ้แทมตามลำพัง ที่จริงก็ไม่ตามลำพังหรอกครับ เพียงแต่บรรยากาศมันทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น

ผมนั่งซดเครื่องดื่มสีอ่อนในมือ แล้วปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปอย่างไร้ค่า พรุ่งนี้ผมยังมีธุระที่ต้องจัดการ รวมไปถึงการเตรียมใจกับงานใหม่ที่จะเริ่มต่อจากนี้ด้วย

ผมลอบมองคนที่นั่งข้างกันเล็กน้อย ไอ้แทมกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ มันคงกำลังพิมพ์คุยกับใครสักคน เพราะผมเห็นมันกดไม่หยุด ผมหันกลับมามองเบื้องหน้าอีกครั้งด้วยความเบื่อหน่ายอย่างบอกไม่ถูก

ผมทิ้งให้ความคิดและความรู้สึกผสานกับเสียงเพลงที่ดังผ่านหู ก่อนที่ผมจะหันไปมองคนที่นั่งข้างกันอีกครั้ง เมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังลุกจากเก้าอี้

ไอ้แทมเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋า พลางมองมาทางผมเล็กน้อย แล้วเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไร แต่ผมกลับไม่ชอบใจนัก เมื่อเห็นท่าทางไม่สนใจทองมันแบบนั้น

ผมถอนหายใจแรง ก่อนจะยกแก้วครั้งสุดท้าย พร้อมกับของเหลวมึนเมาที่ไหลลงคอจนหมด ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินออกมาโดยไม่ได้บอกลาได้ลมที่ยืนอยู่อีกด้านของเคาน์เตอร์บาร์

ผมเดินตรงมาเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว ก่อนสายตาจะไปหยุดที่ร่างของใครคนหนึ่งที่เพิ่งเจอกัน ผมมองคนที่อยู่ในสายตาอย่างไม่เข้าใจนัก และดูเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ มันถึงได้หันมาเลิกคิ้วมอง พลางคาบบุหรี่ไว้ในปาก

ทั้งที่จะเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจก็ได้ แต่ผมกลับก้าวเท้าเข้าไปหา ไอ้แทมยังคงมองผมด้วยสายตาสงสัย และเมื่อผมมายืนอยู่ตรงหน้าของมัน ผมกิดึงบุหรี่ในปากของมันออก ก่อนจะใช้บุหรี่มวนเดียวกันอัดเข้าปอดของตัวเองบ้าง

ที่จริงเมื่อก่อนผมเคยติดบุหรี่ตอนช่วงมัธยมปลาย ก่อนจะโดนตินสั่งให้เลิก หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เกิดอาการอยากจะแตะต้องมันขึ้นมาอีก จนมองบุหรี่แล้วรู้สึกเฉยๆ แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ผมกลับอยากสูบมันขึ้นมาอีกครั้ง

ผมยืนพิงผนังของผับ พลางปล่อยควันลอยไปในอากาศ แล้วเลื่อนสายตาไปมองไอ้แทมที่กำลังมองผมอยู่

"อะไร" ผมถามขึ้น เมื่อเห็นสายตาที่มองมาไม่ละสายตา

"คำนั้นพี่ควรจะพูดมากกว่านะ" ไอ้แทมตอบ แล้วหรี่ตาลง "แถมยังมาแย่งของกันจากปากแบบนี้ หมายความว่ายังไง"

"หวงหรือไง" ผมถามกลับ ก่อนจะทิ้งบุหรี่ลงในถังที่วางอยู่ข้างตัว "ตินไม่น่าปล่อยให้มึงสูบบุหรี่"

"หึ...มันเองก็สูบเหมือนกันนั่นแหละ" ไอ้แทมบอก แล้วถอนหายใจออกมา "แล้วนี่เป็นอะไร อยู่ดีๆ ถึงได้เดินตามพี่มาน่ะ"

"ใครเดินตามมึง" ผมว่า แล้วขมวดคิ้วขึ้น "กูแค่มาเข้าห้องน้ำ"

"แล้วหลังจากนั้นล่ะ? เตยก็เดินมาหาพี่ แล้วก็ดึงบุหรื่ไปสูบต่อ" ไอ้แทมพูดต่อ แล้วเมองผมด้วยรอยยิ้ม "ฮั่นแน่! จะจูบกับพี่ทางอ้อมหรือไงครับ"

"เพ้อเจ้อ"  ผมว่ากลับ แล้วลอบถอนหายใจออกมา

ทั้งที่รู้ว่า มันกำลังจะกวนประสาท แต่ผมกลับรู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะผมไม่ชอบให้ใครมามองเมินเหมือนไม่สนใจล่ะมั้ง

"ไม่ยอมรับก็ช่าง ว่าแต่จะกลับหรือยังล่ะ ให้พื่ขับรถไปส่งไหมครับ" ไอ้แทมพูดขึ้น ก่อนจะยิ้มมองผม

"กูมีปัญญากลับเองได้" ผมตอบ ก่อนจะเดินห่างออกมา แต่ก็โดนอีกฝ่ายจัับแขนเอาไว้ และทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง

"เอาน่า... ถือว่าเป็นน้ำใจของว่าที่เจ้านายก็แล้วกัน" ไอ้แทมบอก แล้วส่งยิ้มมาให้

ผมมองคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจนัก แต่ก็ขี้เกียจเถียงกับมัน ในเมื่ออีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ผมจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันมากขึ้น แค่ให้มันขับรถไปส่ง ก็แทบเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเทียบกับเวลาต่อจากนี้ที่ผมจะต้องเจอกับมัน

ไอ้แทมเดินนำผมมาที่รถยนต์คันเดิมที่ผมเพิ่งโดยสารมาเมื่อเช้า ทันทีที่พวกเราเข้าไปนั่งเรียบร้อย เสียงเครื่องยนต์ก็ทำงาน พร้อมกับอากาศที่ค่อยๆ เย็นขึ้น

ไอ้แทมไม่ได้เอ่ยทักอะไร นอกจากขับรถไปเงียบๆ ก่อนจะมาถึงหอพักของไอ้เพชรราวสี่สิบห้านาทีต่อมา ในขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตู เสียงของคนขับก็ดังขึ้น

"ทำไมถึงยอมตกลงมาทำงานกับพี่ล่ะ"

ผมหันไปมองไอ้แทมที่กำลังมองมา ก่อนที่มันจะมองผมเหมือนครุ่นคิดบางอย่าง

"ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พื่ก็เคยชวน กลับไม่ยอม แต่พอเป็นตินก็ยอมตกลงง่ายๆ" ไอ้แทมพูดขึ้นต่อ "ชอบมันมากหรือไง"

"เรื่องของกู" ผมตอบเสียงเรียบ แน่นอนว่าเป็นอย่างที่มันพูด และยิ่งไปกว่านั้นคำชวนของตินก็ต่างจากของมัน  ตินชวนผมมาทำงาน แต่มันชวนผมมา เป็นเด็กในสังกัดของมัน แค่นี้ก็คนละเรื่องกันแล้ว ถึงแม้สุดท้าย ผมจะต้องมาอยู่กับมันเหมือนกันก็ตาม แต่ความรู้สักกับศักดิ์ศรีมันคนละแบบกันเลย

"ไม่อยากพูดให้เสียความรู้สึกหรอกนะ ถ้าไม่ใช่วีนัสหรือโมนาลิซ่า ก็อย่าหวังว่าจะให้ตินมาหลงรักเลย" ไอ้แทมพูดขึ้น แล้วยกยิ้ม "หรือไม่ก็เดวิด ถึงพอจะให้มันหลงใหลได้บ้าง คิดจะชอบมัน ก็คงเตรียมใจอกหักแล้วสินะ"

"ทำไม? ต้องมาชอบมึงหรือไง กูถึงจะไม่อกหักน่ะ" ผมตอบเสียงแข็ง พร้อมกับมองอย่างไม่พอใจ

"เรื่องนั้น...ก็คงต้องลองดูล่ะนะ" ไอ้แทมบอก แล้วหัวเราะออกมา

 

++++++++++

 

ผมตื่นแต่เช้า แล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อย วันนี้ผมคงต้องไปอยู่ที่ใหม่แล้ว และผมก็มีนัดกับตินเรื่องงานที่ต้องทำด้วย

ไอ้เพชรตื่นขึ้นมาบอกลาผม ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ ผมไม่ได้คืนกุญแจสำรองกับมัน เพราะเผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไร ผมจะได้เข้ามาในห้องได้สะดวก

ผมเรียกรถแท็กซี่ แล้วใช้เวลาเดินทางไม่นาน ผมก็มาหยุดยืนที่หน้าห้องของไอ้แทมในเวลาสิบโมงตรง และเมื่อผมกดออดหน้าห้อง ตินก็เปิดประตูรับด้วยรอยยิ้ม

"เชิญเลยๆ" ตินพูดขึ้น ก่อนจะเดินนำผมเข้ามาในห้อง "ไอ้แทมมันยังนอนอยู่ เดี๋ยวพี่ไปเรียกมันก่อน"

"ไม่ต้องหรอก" ผมรีบบอก ก่อนจะส่งยิ้มให้ "ตินจะให้ผมพักที่ไหนหรือ"

หลังจากนั้นผมกิเดินตามตินมายังห้องนอนของตัวเอง มันไม่ได้ใหญ่โตอะไร ผมมองเตียงเดี่ยวที่วางชิดผนัง ก่อนจะไล่มองตู้เสื้อผ้าจนถึงโต้ะเขียนหนังสือที่ถูกจัดไว้เข้ามุมห้อง

"โอเคหรือเปล่า มีอะไรอยากให้เปลี่ยนไหม" ตินถามขึ้น

ทุกอย่างโอเคหมด ยกเว้นเจ้าของห้องที่อยากให้เปลี่ยนด่วน!

ผมตอบตินอยู่ในใจ แต่สิ่งที่แสคงออกมาก็คือการส่ายหน้า ตินยิ้มรับ ก่อนจะเดินไปหยิบกระดาษบางอย่างที่วางไว้ไม่ห่างกันนัก

"นี่เป็นสัญญาจ้าง ลองอ่านดูแล้วกัน" ตินบอก พร้อมกับยื่นกระดาษที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับงานให้ผมดู "ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ทำให้มัันเป็นทางการเท่านั้นแหละ"

ผมพยักหน้ารับ แล้วอ่านเงื่อนไขการว่าจ้างอย่างตั้งใจ ทั้งที่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่พออ่านข้อแรก ผมก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองตินทันที

"ห้ามลาออกจนกว่าไอ้...เอ่อ แทมจะเรียนจบ นี่มันยังไง" ผมถามขึ้นอย่างข้องใจ แค่อาทิตย์เดียวจะรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ให้ทำนานขนาดนั้น ผมคงหนไม่ไหวแน่

"อืม...ก็ตามนั้นเลย ก็แค่หนึ่งเทอมกับไม่กี่เดือนเองนะ ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ" ตินบอก แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย

"แล้วถ้าผมทนทำต่อไม่ถึงตอนนั้นจะทำยังไง" ผมถามต่อ และผมก็ไม่คิดว่าจะทนอยู่กับมันได้นานขนาดนั้นด้วย

"พี่จะกลับมาจัดการไอ้แทมทันทีเลย" ตินบอก ผมก็พยักหน้ารับ แล้วก้มลงอ่านเนื้อหาในกระดาษที่ถืออยู่ต่อ

เงื่อนไขอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากทำความสะอาดทั่วไป ห้ามทำผลงานทางศิลปะของตินเสียหาย อย่าปล่อยให้ไอ้แทมหิ้วคนแปลกหนำมานอน แล้วก็ทำอาหารเช้าให้ทุกวัน เพราะไอ้แทมไม่ค่อยกินมื้อเช้า แต่จะยอมอดไปกินมื้อเที่ยงทีเดียว ส่วนเรื่องเสื้อผ้าก็ส่งร้านชักรีด จะว่าไปงานก็แทบไม่มีอะไรหนักหนานัก

"เตย...ที่จริงพี่ก็มีเรืองสำคัญอย่างหนึ่งของไอ้แทมที่อยากจะบอก" ตินพูดขึ้นอีกครั้ง "พี่หวังว่า เตยจะไม่รังเกียจที่จะอยู่กับมันหรอกนะ"

ไอัแทมมันมีอะไรผิดปกติหรือไง..

ผมคิดกับตัวเองอยู่ในใจ เมื่อเหินท่าทางลำบากใจของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตินถอนหายใจออกมา ก่อนจะมองผมด้วยสายตาจริงจัง

"ไอ้แทมมันเป็นเกย์น่ะ" ตินบอก พลางทำสีหน้าไม่สู้ดีนัก "แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พี่สั่งห้ามไม่ให้มายุ่งกับเตยแบบนั้นเด็ดขาดไปแล้ว เตยคงไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ใช่ไหม"

"อืม" ผมตอบรับ พร้อมกับตินที่ยิ้มกว้างออกมา

ผมลอบถอนหายใจเลิกน้อย ก่อนจะเซ็นยอมรับเงื่อนไขในการทำงานโดยไม่ได้โต้แย้งอะไรอีก พลางนึกถึงเรื่องสำคัญของไอ้แทมที่ตินเพิ่งบอกมาด้วยความกังวลและเกรงใจผมด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก

จะว่าอย่างไรดีล่ะ... ผมเองก็ดันชอบผู้ชายเหมือนกัน

 

TBC ++++++++++

 :z10:Narionetta ::: ดีค่ะ ! ตอนนี้ก็เอาตอนใหม่มาลงแล้วค่ะ ^^

สำหรับตอนนี้น้องเตนก็เข้ามาอยู่มรฐานะพ่อบ้านอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ จะเป็นยังไงต่อ ก็คงต้องรอตอนต่อไป อิอิ

จอยคุณที่ยังติดตามกันอยู่นะคะ สามารถแนะนำและติชมมาได้เช่นเคย

ปล. ตอนพิเศษเสร็ตแล้วค่ะ เย้ๆ คงจะได้อ่านกันเร็วๆ นี้


ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 21 ❤ [04/09/2014]
«ตอบ #219 เมื่อ04-09-2014 17:23:08 »

อั๊ยย่ะ!!!! ชอบเตยอ่ะ><
หวังให้แทมรุกเตยไวๆ 555
รออ่านนะคะ ชอบมากกกกเรื่องนี้บอกเลยค่ะ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 21 ❤ [04/09/2014]
« ตอบ #219 เมื่อ: 04-09-2014 17:23:08 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 21 ❤ [04/09/2014]
«ตอบ #220 เมื่อ04-09-2014 18:55:07 »

ประโยคสุดท้ายทำหัวใจกริบกร้าวมาก
555555555555555555
รุกเลยแทมมมมมมม

ออฟไลน์ shabushabu4

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 21 ❤ [04/09/2014]
«ตอบ #221 เมื่อ04-09-2014 21:55:16 »

พี่ตินคะ แอบดันน้องอยู่ลับๆปะเนี่ย  :hao3:


ออฟไลน์ sugarcandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 21 ❤ [04/09/2014]
«ตอบ #222 เมื่อ05-09-2014 10:43:15 »

ยังกะพี่ตินห้ามเพื่อยุให้แทมกับเตยจับคู่กัน

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 21 ❤ [04/09/2014]
«ตอบ #223 เมื่อ05-09-2014 14:27:38 »

เตยเริ่มหวั่นไหวไปกะแทมแล้วนะเนี่ย
แต่แค่ยังไม่รู้ตัวและคิดว่าตัวเองชอบติน
แค่แทมทำท่าเมินเฉยก็เรียกร้องความสนใจ
แระเหมือนกลัวเค้าจะไม่สนใจตัวเองอีก
รอๆตอนพิเศษว่าจะเป็นพาร์ทของคู่อื่นไหม
ปอลอ อิคนอ่านชอบแบบมีหลายๆคู่เฉยๆ o18 o18

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 21 ❤ [04/09/2014]
«ตอบ #224 เมื่อ14-09-2014 20:37:56 »

อั๊ยย่ะ!!!! ชอบเตยอ่ะ><
หวังให้แทมรุกเตยไวๆ 555
รออ่านนะคะ ชอบมากกกกเรื่องนี้บอกเลยค่ะ อิอิ
ขอบคุณมากเลยค่ะ เชียร์กันต่อไปเน้อ

ประโยคสุดท้ายทำหัวใจกริบกร้าวมาก
555555555555555555
รุกเลยแทมมมมมมม
พี่แทมเขารุกนิ่มจ้า อิอิ

พี่ตินคะ แอบดันน้องอยู่ลับๆปะเนี่ย  :hao3:


พี่ตินเขาเป็นพ่อสื่อเฉพาะกิจจ้า ดันไม่รู้ตัว ฮ่าๆ

ยังกะพี่ตินห้ามเพื่อยุให้แทมกับเตยจับคู่กัน
พี่ตินก็รักน้องชายของเขาทั้งคู่ล่ะคะ อยากให้ดูแลกันและกัน กร๊ากกก (แบบพี่ชายกับน้องชายนะคะ) อิอิ

เตยเริ่มหวั่นไหวไปกะแทมแล้วนะเนี่ย
แต่แค่ยังไม่รู้ตัวและคิดว่าตัวเองชอบติน
แค่แทมทำท่าเมินเฉยก็เรียกร้องความสนใจ
แระเหมือนกลัวเค้าจะไม่สนใจตัวเองอีก
รอๆตอนพิเศษว่าจะเป็นพาร์ทของคู่อื่นไหม
ปอลอ อิคนอ่านชอบแบบมีหลายๆคู่เฉยๆ o18 o18
โอ้วววว วิเคราะห์ได้เฉียดแล้วค่ะ 555 ทำนองนั้นแหละจ้า อิอิ
ตอนนี้ตอนพิเศษเสร็จแล้วค่ะ ติดตามได้ที่แฟนเพขนะคะ

+++++++++++++++++++++
ขอบคุณมากเลยค่ะ ^^

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY NO. 21 ❤ [04/09/2014]
«ตอบ #225 เมื่อ14-09-2014 20:58:18 »

PLAYBOY # 22 - TOEY

 
หลังจากที่ผมเก็บของเรียบร้อย ตินก็พาผมเดินดูรอบๆ ในละแวกนั้น ก่อนจะขับรกไปดูของกันต่อที่ซุปเบอร์มาร์เก็ต

"ตินรู้เรื่องแบบนี้ดีจังเลยนะ" ผมพูดขึ้น เมื่อฟังตินอธิบายการเลือกของสดต่างๆ

"พี่ก็ใช้ประสบการณ์นั่นแหละ" ตินบอก ก่อนจะเดินไปยังส่วนของใช้ในบ้านต่อ

"ธรรมดาแม่บ้านคนเก่าต้องมาซื้อของแบบนี้ด้วยหรือไง" ผมถามต่อด้วยความสงสัย

"ไม่หรอก คนเก่าแค่มาทำความสะอาดอาทิตย์ละสองครั้ง แล้วก็เอาผ้าไปส่งร้านซักรึดเท่านั้นเอง" ตินอธิบาย แล้วส่งยิ้มให้ " แต่ที่พี่ให้เตยมาดูด้วย เพราะต้องอยู่ด้วยกันน่ะ"

ผมพยักหน้ารับ แล้วมองตินที่หยิบของใช้บางอย่างมาใส่รถเข็น พร้อมกับให้ความรู้ประกอบ หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปคิดเงิน ก่อนจะถือถุงพลาสติกใบโตกลับมาที่รถ

"จริงๆ พี่ก็อยากให้มีเงินเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น และที่สำคัญจะได้มีเวลาให้กับการเรียนด้วย" ตินพูดขึ้น พร้อมกับขับรถออกจากลานจอดรถ ก่อนจะเลื่อนสายตามามองผม "ทำงานมันก็ดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้อยู่ในวัยเรียน ก็ต้องตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เข้าใจไหม"

"แต่ดูเหมือนน้องชายของตินจะไม่ใช่คนแบบนั้นนะ" ผมพูดขึ้นบ้าง ผมไม่ค่อยชอบให้เขาสั่งสอนเหมือนผมเป็นลูกชายของเขาเท่าไรหรอก

"ฮ่าๆ ไอ้แทมเวลาเรียนก็ตั้งใจนะ พวกไม่ค่อยคิดอะไรแบบมัน แต่เวลาจริงจังก็มักจะเครียดมากกว่าคนอื่นน่ะ" ตินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ "ว่าแต่ติดต่อที่บ้านบ้างหรือเปล่า"

"เปล่า" ผมตอบ แล้วหันไปมองวิวข้างหน้าต่าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมก็ตัดขาดจากคนที่บ้านอย่างสิ้นเชิง คนที่ผมวางใจจะคุยได้ ตอนนี้ผมก็ไม่มั่นใจว่าเป็นแบบนั้นแล้ว

"ไม่เป็นไรหรอก ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดีแน่" ตินบอก พร้อมกับส่งยิ้มให้กำลังใจผมอย่างที่ผ่านมา


++++++++++

 
เมื่อผมกับตินเดินเข้ามาในห้อง ไอ้แทมที่อยู่ในชุดลำลองกำลังนอนดูโทรทัศน์ก็หันมามองเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยทัก ทั้งที่สายตายังจ้องมองไปยังหน้าจอสี่เหลี่ยมอยู่

“จะไปไหนก็หัดทำอะไรทิ้งไว้ให้กินหน่อยสิ ไม่รู้หรือไงว่า คนเพิ่งตื่นน่ะ หิวง่าย”

“ก็ไปหาของมาให้มึงรับประทานอยู่นี่ไง” ตินบอก แล้วเดินเข้าไปตบหัวของไอ้แทมอย่างนึกหมั่นไส้

“อะไรๆ นี่มันกี่โมงแล้ว มัวแต่ไปออกเดตจนลืมน้องชายไปเลยสินะ” ไอ้แทมบ่นขึ้นอีกครั้ง พลางลูบหัวของตัวเอง

“กูพาเตยไปสอนงานต่างหาก” ตินหันไปบอก พร้อมกับยกของสดที่ซื้อมาไปไว้ในห้องครัว “เพราะอีกไม่นานเตยก็ต้องมาดูแลความเป็นอยู่ของมึงแล้ว”

“เอาเถอะๆ รีบไปทำอะไรมาให้กินได้แล้ว” ไอ้แทมพูดขึ้นอย่างตัดบท แล้วหันไปสนใจรายการที่กำลังฉายอยู่ต่อ

ผมหันไปมองมันเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามตินเข้าไปในห้องครัว แล้วช่วยเตรียมของง่ายๆ อย่างเช่นการล้างผัก เพราะผมไม่เคยเข้าครัวทำอาหารมาก่อน และมื้อนี้ตินก็บอกว่า จะทำอาหารพื้นฐานสามอย่าง ได้แก่ ไข่เจียว แกงจืด แล้วก็ผัดผักครับ ถึงแม้มันจะเป็นเมนูธรรมดา แต่ก็ท้าทายความสามารถของคนที่ไม่เคยจับตะหลิวกับกระทะอย่างผมมากพอตัว

“เราก็ใส่รากผักชีกับก้อนซุปสำเร็จรูปในหม้อน้ำเดือด พอได้ที่แล้ว เราก็ใส่กระดูกหมูกับผักต่างๆ ลงไป” ตินอธิบาย พร้อมกับสาธิตให้ผมดู “ง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะ”

“อืมๆ” ผมตอบรับในลำคอ พร้อมกับพยักหน้ารับ มันก็ดูง่ายจริงๆ นั่นแหละ ก็แค่ใส่ๆ ให้มันสุกก็พอแล้ว

“พอทุกอย่างได้ที่แล้ว เราก็ปรุงรสตามใจชอบ แค่นี้ก็เสร็จแล้ว” ตินหันมาบอกด้วยรอยยิ้ม “ต่อไปเราก็มาทอดไข่เจียวกันต่อ”

ผมมองแกงจืดที่กำลังส่งกลิ่นหอมอย่างพิจารณา มันดูง่ายกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก ตอนนี้อาหารอย่างแรกก็เสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นผมก็หันมามองตินที่กำลังหั่นมะเขือเทศกับแครอทเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนึกทึ่งความสามารถของอีกฝ่ายที่ผมคงไม่สามารถทำแบบนี้ได้แน่

“เตยไปเอาไข่มาตอกใส่ชามสามฟองนะ” ตินหันมาบอกผม ก่อนจะสนใจหั่นผักที่ผมล้างเอาไว้ต่อ

ผมเดินไปหยิบไข่ไก่ที่อยู่ในตู้เย็นมาสามฟอง ก่อนจะเดินไปหยิบชามใบใหญ่มาหนึ่งใบ แล้วมองของที่หยิบมาทั้งหมดอย่างใช้ความคิด

เอาล่ะ! แค่ทำให้เปลือกไข่แตก แล้วก็เอาไข่แดงกับไข่ขาวข้างในใส่ชาม

ผมคิดกับตัวเองเสร็จสรรพ ก่อนจะหยิบไช่ไก่ขึ้นมาหนึ่งฟอง แล้วมองมันอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพบปัญหาใหม่ที่ต้องวิเคราะห์ต่อ

จะทำให้มันแตกด้วยวิธีไหนดีล่ะ?

ผมคิดกับตัวเองอีกครั้ง แล้วเลื่อนสายตากลับไปมองอีกคนที่อยู่ในครัวด้วยกันเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาสนใจไข่ไก่ในมือต่อ พร้อมกับคำตอบที่เกิดขึ้นในใจ

กระแทกกับชามนี่ก็แล้วกัน...

เมื่อสรุปผลลัพธ์ของปัญหาได้ ผมก็จัดการเอาไข่ไก่ที่อยู่ในมือกระแทกข้างชามกระเบื้องเบาๆ และเมื่อเห็นรอยร้าวเกิดขึ้น ผมก็แกะเปลือกไข่ตามรอยแตกต่อ ซึ่งมันก็ทำให้ไข่แดงกับไข่ขาวลงไปอยู่ในชามเรียบร้อย พร้อมกับของแถมเป็นเปลือกไข่ที่ร่วงลงไปด้วย

“ตอกไข่เสร็จหรือยัง” ตินหันมาถาม และทำให้ผมที่กำลังงงกับปัญหาชีวิตของตัวเองต้องหันไปมอง

“โทษที พอดีผมไม่เคยทำมาก่อน” ผมบอก แล้วทำสีหน้าปั้นยากออกมา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของติน

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ทำให้ดู แล้วก็จำเอาไว้ด้วยล่ะ” ตินบอก แล้วตอกไข่เป็นตัวอย่างให้ผมดู ซึ่งมันก็ออกมาดูดี ไม่ได้แตกจนดูไม่ได้แบบของผม “อีกฟอง เตยก็ลองดูอีกทีกีแล้วกัน”

ผมพยักหน้ารับ แล้วลองทำตามที่ตินเคยสาธิตให้ดู ถึงมันจะไม่ได้สวยงามนัก แต่ก็ไม่มีเปลือกไข่ร่วงลงไปในชามอย่างตอนแรกอีก หลังจากนั้นตินก็เอาผักที่หั่นเป็นชิ้นเล็ดๆ ใส่ลงไป แล้วตีไข่ในชามให้ผมดูเป็นวิทยาทานอีกครั้ง ตอนนี้ผมเหมือนเด็กน้อยที่อ่อนต่อโลกไปเลย

“จากนั้นก็มาเตรียมกระทะกันต่อ” ตินพูดขึ้น แล้วเทน้ำมันลงในกระทะที่ตั้งไฟอยู่ “พอน้ำมันร้อนแล้ว ก็ค่อยเทไข่ลงไปแบบนี้”

ผมมองไข่สีเหลืองที่พองขึ้น เมื่อโดนน้ำมันร้อนในกระทะ ก่อนที่มันจะส่งกลิ่นหอม พร้อมกับสีที่เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น หลังจากนั้นตินก็พลิกไปมาให้ผมดูสักพัก และเมื่อมันสุกดีแล้วก็ยกใส่จาน

“เท่านี้ก็เสร็จไปอีกอย่างแล้ว” ตินพูกขึ้น แล้วยิ้มให้ผม “พอจะทำได้ไหม”

“อืม ก็น่าจะทำได้” ผมตอบ ถึงแม้ว่ามันจะดูง่าย แต่ผมก็ไม่คิดว่า ตัวเองจะทำได้อย่างที่ตินหวังเอาไว้หรอก

หลังจากนั้นผมก็มองตินเนรมิตผัดผัก ซึ่งเป็นอาหารจานสุดท้ายอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานอาหารทั้งสามอย่างก็อวดโฉมแข่งกันส่งกลิ่นหอมโดยพร้อมเพรียงกัน ก่อนที่ผมจะทยอยยกออกไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวต่อ

“ทำอะไรเยอะแยะ” ไอ้แทมพูดขึ้น ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้

“ก็ลองทำให้เตยดู เผื่อจะทำให้มึงกินได้บ้าง” ตินบอก พร้อมกับตักข้าวสวยใส่จาน

“ไม่ไหวหรอกมั้ง” ไอ้แทมพูดขึ้น พลางหันมามองผมเหมือนไม่เชื่ออย่างชัดเจน

“ก็คงงั้น” ผมตอบเสียงเรียบ ฝันไปเถอะว่า ผมจะมานั่งทำอะไรแบบนี้ให้มัน ตอนนี้ผมแค่ไม่อยากขัดใจตินเท่านั้นเอง

“เห็นไหมล่ะ มึงเนี่ย...ชอบทำอะไรให้ยุ่งยากอยู่เรื่อย” ไอ้แทมหันไปพูดกับตินต่อ

“มึงนั่งกินเงียบๆ ไปเลย” ตินว่า แล้วหันมองมองผมเหมือนไม่ค่อยพอใจนัก “เตยต้องทำให้ได้นะ อย่าให้ไอ้แทมมันดูถูกได้ล่ะ”

ผมไม่ตอบอะไร นอกจากพยักหน้ารับย่างขอไปที ผมคิดเอาไว้แล้วว่า ถ้าตินกลับเมื่อไร ผมคงจะเลี้ยงไอ้แทมด้วยอาหารตามสั่งกับอาหารสำเร็จรูปอุ่นไมโครเวฟเท่านั้นแหละ ผมไม่คิดจะมาอดทนทำอะไรเพื่อคนที่ไม่ชอบหน้ากันหรอก


++++++++++

 
หลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาที่เหลือไปกับการเรียนงานที่ตินสอนต่อ ตั้งแต่การทำความสะอาดต่างๆ ตลอดจนการติดต่อส่งเสื้อผ้าให้กับร้านซักรีด ที่จริงมันก็ไม่ได้ยากอะไร งานที่หนักหน่อย ก็คงเป็นเรื่องของการล้างห้องน้ำที่ผมต้องทำอาทิตย์ละครั้ง

เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นอีกครั้ง ตินก็ชวนผมเข้าไปเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นต่อ โดยให้ผมมีส่วนร่วมในการทำมากกว่าเดิม

หลังจาดมื้อเย็นที่เรียบง่ายผ่านไป ตินก็แยกตัวไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวเดินทางในวันพรุ่งนี้ ไอ้แทมก็กลับเข้าห้องนอนของตัวเองต่อ ส่วนผมก็เดินกลับห้องนอนของตัวเองเหมือนกัน วันนี้เป็นวันหยุดที่แสนเหน็ดเหนื่อยกว่าที่คิดเอาไว้

พรุ่งนี้ตินจะต้องไปทำงานที่ออสเตรเลียต่อ ผมเองก็อยากไปส่งที่สนามบิน แต่เที่ยวบินดันตรงกับเวลาเรียนของผมพอดี ตินเลยสั่งห้ามผม แล้วบังคับให้ไอ้แทมไปส่งแค่คนเดียว

ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่วางไว้ตรงราวตากผ้า แล้วเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านนอก

หลังจากที่ได้ล้างตัวให้สะอาดขึ้น ผมที่กำลังจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเองก็ต้องชะงัก เมื่อเจอกับไอ้แทมที่กำลังจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเองเหมือนกันพอดี ในมือของมันมีแก้วกาแฟที่กำลังส่งกลิ่นหอมแตะจมูก

“แหม...อาบน้ำตัวหอมเลยนะ” ไอ้แทมทักขึ้น แล้วมองผมด้วยรอยยิ้มอย่างทุกที

“กวนตีน” ผมตอบ พลางขมวดคิ้ว ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของมัน

ผมไม่ได้สนใจ แล้วเดินเข้าห้องนอนของตัวเอราวกับอีกฝ่ายไม่อยู่ในสายตา

ให้ตายสิ! ผมจะอยู่กับมันได้นานเท่าไรกัน


++++++++++

 
เมื่อคืนนี้ผมนอนหลับไม่สนิทนัก อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นกับห้องนอนใหม่ หลังจากกินอาหารเช้าแบบตะวันตกด้วยฝีมือของตินจนหมด ผมก็เดินไปเก็บจาน แล้วเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัยต่อ

“ไว้เจอกัน” ตินพูดขึ้น เมื่อผมกำลังใส่รองเท้าอยู่ที่หน้าประตู

“เอาไว้ผมจะโทรไปหานะ” ผมบอก แต่ตินกลับส่ายหน้ารับ

“มีอะไร ก็ส่งเมลมาดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียค่าโทร”

ผมก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินเข้าไปกอดตินเอาไว้อีกครั้ง ถ่ายทอดความรู้สึกที่เก็บเอาไว้ข้างในก้นบึ้งของหัวใจ

“กลับมาอีกเร็วๆ นะ” ผมบอก แล้วซึมซับกลิ่นอายของผู้ชายในอ้อมแขนเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน ถึงจะได้เจอหน้ากันอีกครั้ง ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นปีหน้าเลยก็ได้

“ก็คงได้เจอกันอีกไม่นานนี้หรอก” ตินบอก แล้วยกมือโอบหลังของผมตอบ “ฝากดูไอ้แทมด้วยล่ะ”

ผมไม่ได้ตอบรับอะไร นอกจากคลายอ้อมกอดของตัวเองลง แล้วส่งยิ้มให้ ก่อนจะตัดใจเดินออกจากห้อง และเมื่อประตูด้านหลังปิดลง ผมก็ต้องถอนหายใจออกมา

ไปอีกแล้ว...

ผมได้แต่คิดในใจ พลางเดินไปทางลิฟต์ที่อยู่ห่างออกไป ทุกครั้งที่ต้องจากกัน ผมจะรู้สึกใจหายเสมอ พร้อมกับความอึดอัดบางอย่างที่ก่อตัวขึ้น มันรู้สึกเหมือนผมจะต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง ทั้งที่ความจริงแล้ว ผมก็ยังมีเพื่อนที่คอยดูแลและห่วงใยอยู่ข้างกาย

ผมมาถึงมหาวิทยาลัยตอนประมาณแปดโมงครึ่ง วันนี้นอกจากผมจะมีเรียนทั้งวันแล้ว ตอนเย็นผมก็ยังมีนัดไปซ้อมเป่าขลุ่ยเหมือนเดิม และในวันศุกร์นี้ก็จะมีการประกวดดาวเดือนประจำปีกันแล้ว ความสามารถในการแสดงของผม ก็คงพอฟังกันได้นั่นแหละครับ

ผมเรียนช่วงเช้าด้วยคาบเบื่อหน่าย ตอนนี้ผ่านมาครึ่งเทอมแล้ว แต่ผมก็ยังหาเพื่อนสนิทในคณะเดียวกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีใครคบสักทีเดียวหรอกนะครับ อย่างน้อยก็มีรันที่ยังเข้ามาคุยกับผม

“เตยวันนี้ต้องไปซ้อมด้วยนะ” รันพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“อืม” ผมตอบรับ แล้วลุกจากเก้าอี้ของตัวเอง กลางวันนี้พวกเพื่อนชอบเสือกของผมนัดให้ไปกินข้าวกลางวันด้วยกันครับ

“อ้อ... เดี๋ยวเย็นนี้ไปด้วยกันเลยนะ” รันบอกอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะพยักหน้ารับ แล้วเดินแยกออกมา

ผมเดินไปที่หน้ามหาวิทยาลัย เพราะพวกมันนัดกันมากินร้านอาหารข้างนอก และเมื่อผมไปถึง พวกมันก็นั่งรอกันครบแล้ว

“ไอ้เตยมาแล้ว สั่งเลยๆ” ไอ้ลมพูดขึ้น ก่อนจะหันไปส่งกระดาษที่เขียนรายการอาหารเอาไว้ ร้านนี้เป็นร้านขายข้าวหมูแดงหมูกรอบครับ

“แล้วทำไมพวกมึงมากินที่นี่วะ” ผมถาม พลางนั่งลงด้านนอกสุดของโต๊ะ

“ก็ร้านนี้เขาว่าอร่อย มีคนแนะนำมา” ไอ้เพชรบอก ก่อนจะดูดน้ำชาที่วางอยู่ข้างตัว “แล้วกูก็เริ่มเบื่อบรรยากาศในโรงอาหารแล้วด้วยว่ะ”

“แล้วมึงเป็นไงบ้างวะ” ไอ้ลมหันมาถามผม แล้วมองเหมือนกำลังจับผิดอะไรบางอย่าง

“ไม่มีอะไร เมื่อวานนี้ตินก็สอนงานกูนิดหน่อย” ผมบอก แล้วถอนหายใจออกมา “ตอนนี้บินหนีไปออสเตรเลียต่อแล้ว”

“ดูพี่เขางานยุ่งเหมือนกันนะ” ไอ้วิลพูดขึ้นบ้าง ก่อนจะส่งยิ้มมาให้ผม “แต่เมื่อคืนมึงคงนอนหลับดีใช่ไหมวะ”

“เออ! กูนอนหลับสนิท แล้วก็ไม่มีอะไรที่พวกมึงคิดทั้งนั้น” ผมบอกเสียงเรียบ ก่อนจะมองพวกมันอย่างคาดโทษ

“แบบนี้พี่ตินก็ไม่อยู่แล้ว มึงก็อยู่กับพี่แทมสองต่อสองสิวะเนี่ย” ไอ้เพชรพูดขึ้นต่อ แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “คืนนี้มึงก็ระวังให้ดีล่ะ นอนล็อกห้องด้วยนะมึง”

“ไอ้สัตว์!” ผมด่ามันอย่างหงุดหงิด พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังตอบรับกลับมา

ถึงแม้จะรู้ดีว่าพวกมันต้องการจะแหย่เล่น แต่ผมก็ชอบไหลตามเกมของพวกมันทุกที ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนได้ง่ายนัก จนเพื่อนมองว่าเป็นพวกเย็นชาด้วยซ้ำ ทว่าทุกครั้งที่ผมโดนล้อเรื่องไอ้แทมทีไร ผมกลับต้องอารมณ์เสียได้ทุกที


+++++++++

 
หลังจากเลิกเรียนในตอนเย็น ผมก็เดินทางไปฝึกซ้อมการแสดงกับรันที่โรงเรียนสอนดนตรีไทย โดยมีพี่อ้นเป็นผู้ดูแลและคอยให้คำแนะนำ ผมใช้เวลาในการฝึกซ้อมตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงสามทุ่ม ก่อนจะเดินทางกลับมายังที่พักแห่งใหม่ของตัวเอง

เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง โดยใช้คีย์การ์ดสำรองที่ตินให้เอาไว้ ผมก็เห็นไอ้แทมกำลังนั่งเล่นโน้ตบุ๊กอยู่ที่โต๊ะรับแขก พร้อมกับเปิดโทรทัศน์ทิ้งเอาไว้ด้วย

“ทำไมกลับดึกจัง คิดว่าหนีไปแล้ว” ไอ้แทมพูดขึ้น ก่อนจะหันมามองผม “กินอะไรมาหรือยังล่ะ”

“กินแล้ว” ผมตอบ แล้วเดินผ่านห้องรับแขกตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง อยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกแปลกขึ้นมา เมื่อต้องมาอยู่ตามลำพังแบบนี้

“ไม่ไหวเลยนะ แค่ตินไม่อยู่ ก็เหลวซะแล้ว” ไอ้แทมพูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะหยุดฝีเท้าของตัวเอง แล้วหันไปมองรอยยิ้มของมัน “ถ้าไม่อยากทำงานอยู่ด้วยกัน จะกลับไปอยู่กับเพื่อนเหมือนเดิมก็ได้ พี่ไม่ว่าหรอก รับรองไม่บอกตินแน่ แถมยังจ่ายเงินให้ครบ ไม่ต้องห่วง”

“กูไม่ใช่คนเหลาะแหละแบบนั้น” ผมบอกเสียงเข้ม เมื่อเห็นท่าทางเหมือนดูถูกของมัน ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อเสนอที่ดีมากก็ตาม สงสัยตอนนี้มันคงไม่มีอะไรทำ เลยหันมาทดสอบความอดทนของผมเล่น

“อืม... งั้นก็ดี พี่ไม่รู้หรอกนะว่า เตยไปตกลงอะไรกับตินเอาไว้บ้าง” ไอ้แทมพูดขึ้นอีกครั้ง พลางมองผมอย่างจริงจัง “กฎของการอยู่ด้วยกันอย่างแรก... จะไปไหนแล้วกลับช้า ก็ต้องโทรมาบอกกันก่อน”

“กูไม่มีเบอร์มึง” ผมตอบอย่างเฉยชา

“ไม่จริงน่า!” ไอ้แทมพูดขึ้น พร้อมกับมองผมอย่างไม่เชื่อ

“กูเปลี่ยนเบอร์ แล้วก็เครื่องด้วย และมึงคงไม่คิดว่ากูจะเก็บเบอร์ของมึงเอาไว้หรอกนะ” ผมบอกเสียงเรียบ พร้อมกับมองคนตรงหน้าอย่างใจเย็น

ไอ้แทมทำหน้าประหลาดใจ ก่อนจะพยักหน้า พลางลุกขึ้นยืนหันหน้ามาทางผม แล้วยกมือยื่นมาครงหน้าของผมต่อ ผมสบตากับเจ้าของมือข้างนั้นเป็นเชิงถาม

“ส่งมือถือมาให้พี่ครับ คุณพ่อบ้าน”

“มึงจะทำอะไร”

“ก็เก็บเบอร์สำคัญของเตยเอาไว้ไงครับ"

ผมมองรอยยิ้มของมับด้วยความรู้สึกเอือมระอาอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ยอมส่งโทรศัพท์มือถือราคาย่อมเยาของตัวเองไปให้ 

ไอ้แทมรับมาดูเล็กน้อย ก่อนจะกดอะไรบางอย่างลงบนหน้าจอของอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ในมือ แล้วส่งคืนมาให้ผมตามเดิม ผมไม่ได้สนใจ พร้อมกับเก็บใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเอง

"คราวนี้เราก็มาตกลงกฎของการอยู่ร่วมกันต่อ" ไอ้แทมพูดขึ้น ก่อนจะชูสามนิ้วขึ้นมา “พี่ก็มีกฎอยู่สามข้อ ข้อแรกก็ที่บอกไปแล้ว ข้อที่สอง ในเมื่อพี่เป็นเจ้านาย เวลาเรียกก็ต้องให้เกียรติกันบ้าง จะเรียกพี่แทมหรือแทมก็ได้ โอเคหรือเปล่า”

“อืม” ผมตอบรับอย่างไม่เรื่องมาก พร้อมกับไอ้แทมที่พยักหน้ารับ

“ส่วนข้อสุดท้าย อืม...” ไอ้แทมพูดขึ้นต่อ พลางมองใบหน้าของผมอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเผยรอยยิ้มบางออกมา "ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อย่าทำให้พี่ไม่พอใจก็พอ แค่นี้แหละ"

"บ้าบอสิ้นดี" ผมพูดเหมืนบ่นกับตัวเอง แต่มั่นใจได้เลยว่า อีกฝ่ายได้ยินแน่นอน แถมมันยังหัวเราะรับอีกต่างหาก

"อ้อ...ส่วนเรื่องเกมที่เคยตกลงกันไว้ ก็ห้ามเล่นระหว่างอยู่ในห้องนี้นะ" ไอ้แทมบอก แล้วเบ้หน้าขึ้นมาเล็กน้อย "พี่ไม่อยากระวังตัวเวลาอยู่ในห้องของตัวเองน่ะ"

"เกมอะไร" ผมถามกลับอย่างไม่เข้าใจ และทำให้ไอ้แทมหน้าบูดมากกว่าเดิม

"เสียใจว่ะ ทั้งที่พี่ไม่เคยลืมสัญญาของเราเลยแท้ๆ"  ไอ้แทมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงน้อยใจอย่างชัดเจน ก่อนจะถอนกายใจออกมา "ก็เกมที่แลกอิสรภาพของเตยกับเลือดของพี่ไงล่ะครับ หรือเตยจะยกเลิก พี่จะได้ปรับแพ้"

เกมนี้นเอง...

ผมนึกกับตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะมองสีหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และนัยน์ตาที่หรี่ลงเหมือนกำลังประเมินบางอย่างอยู่

ทว่าผ่านไปเพียงไม่นาน มันก็เดินมาประชิดด้านหน้าของผมจนรับรู้ได้ถึงสัมผัสของลมหายใจ ก่อนจะใช้หลังมือไล้แก้มของผมโดยไม่ได้ขออนุญาต

"และโทษของคนที่แพ้ ก็ต้องยอมทำตามคำสั่งของคนชนะนะครับ" ไอ้แทมพูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับสายตาพราวอย่างถูกใจ

ผมคว้ามือของไอ้แทมออก ก่อนจะผลักตัวของมันให้ออกห่างด้วยความไม่พอใจ ไอ้แทมไม่ได้ต่อว่าอะไรกับท่าทีของผม นอกจากหัวเราะเบาๆ แล้วระบายยิ้มออกมา

"ว่าไงครับคุณพ่อบ้าน" ไอ้แทมถามขึ้น พลางกอดอกมองผมด้วยท่าทีสบายๆ "ยืนนิ่งแบบนี้ แสดงว่ายอมแพ้ใช่ไหม"

"เกมบ้าๆ ตอนนี้มันไม่สำคัญอะไรแล้ว ในเมื่อไม่ว่ายังไง กูก็ต้องอยู่กับมึงอยู่ดี" ผมบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด จะแพ้หรือชนะ ตอนนี้ชีวิตของผมก็ต้องเกี่ยวข้องกับไอ้แทมอยู่ดี

"อืม... ถ้างั้นเอาแบบนี้แล้วกัน" ไอ้แทมบอก พร้อมกับยิ้มมองผม "ถ้าเตยคิดว่าทำสำเร็จ แล้วไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก ก็เชิญลงมือตามสบาย ยกเว้นตอนอยู่ในห้องนี้ก็แล้วกัน โอเคหรือเปล่า"

ผมยอมรับเลยว่า ไม่เข้าใจความคิดของไอ้แทมเลย เพราะเมื่อผมมาคิดทบทวนอีกครั้ง ก็ไม่เห็นว่ามันจะได้อะไรขึ้นมาเลย

"มึงจะทำแบบนี้ไปทำไมวะ" ผมถามขึ้นด้วยความข้องใจ  ไอ้แทมก็แค่เลิกคิ้วมอง

"ก็พอใจไง มันต้องมีเหตุผลอะไรด้วยหรือ"  ไอ้แทมตอบ แล้วเเดินกลับไปนั่งเล่นโน้ตบุ๊กของตัวเองต่อเหมือนหมดเรี่องที่จะคุยกับผมแล้ว

ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง แล้วตั้งใจจะกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ตอนแรก ทว่าเสียงของคนที่นั่งหันหลังเล่นโน้ตบุ๊กก็ดังขึ้นอีกครั้ง แม้จะไม่ได้ดังนัก แต่ผมก็ได้ยินชัดเจน

"ที่จริง...พี่ก็แค่อยากอยู่ใกล้เตยเท่านั้นเอง"

TBC ++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2017 15:58:41 โดย marionatte »

ออฟไลน์ sugarcandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY SP @ Fan page❤ [14/09/2014]
«ตอบ #226 เมื่อ26-09-2014 00:40:22 »

คิดถึงพี่แทมกับหนูเตยแล้ว

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY SP @ Fan page❤ [14/09/2014]
«ตอบ #227 เมื่อ08-10-2014 15:07:16 »

PLAYBOY # 23 - TAM

 

 

เสียงเตือนของฟังก์ชั่นนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์มือถือที่ตั้งเอาไว้เรียกให้ผมลืมตาขึ้น ก่อนจะหยิบอุปกรณ์ที่กำลังส่งเสียงน่ารำคาญมาปิดการทำงานของมัน แล้ววางไว้ที่เดิม

ผมหาวออกมา เมื่อคืนนี้ผมทำรายงานจนถึงตีหนึ่ง ก่อนจะเล่นเกมคลายเครียดจนถึงตีสาม และกว่าจะได้เข้านอนจริงๆ ก็เกือบตีห้า นับเวลาจากตอนนั้นมาถึงวินาทีนี้ก็ได้นอนประมาณสี่ชั่วโมงเท่านั้น

ผมเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำภารกิจในตอนเช้า ก่อนจะเดินออกมาแต่งตัว วันนี้ผมมีเรียนช่วงบ่ายครับ แล้วก็มีนัดเที่ยวกับไอ้เก้าฉลองอิสรภาพจากพี่ชายคนดีที่เพิ่งจะเดินทางไปอีกทวีปหนึ่งเมื่อวานนี้

เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็เดินออกจากห้องนอนด้วยความมั่นใจ ก่อนจะหยุดมองกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่แปะไว้ที่หน้าประตูด้วยความประหลาดใจ

'ข้าวเช้าอยู่ในครัว'

ผมอ่านข้อความสั้นๆ วนไปมาอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง แล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น ที่จริงตินก็บอกเรื่องเงื่อนไขในสัญญาจ้างให้ผมฟังแล้ว แถมยังย้ำด้วยน้ำเสียงบังคับแกมข่มขู่อีกว่า ห้ามทำอะไรเตยเด็ดขาด ผมล่ะอยากจะบอกมันเหมือนกัน น้องชายนอกสายเลือดที่มันเป็นห่วงก็ใช่ย่อยเมื่อไรกัน แค่เชื่อง เวลาอยู่กับมึงเท่านั้นนั่นแหละ

ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง แล้วเก็บกระดาษโน้ตใส่ในลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะเดินไปในครัว เพื่อดูอาหารเช้ามื้อแรกขอพ่อบ้านป้ายแดง

ผมมองไปรอบห้องครัวที่สะอาดเอี่ยมอย่างแปลกใจ ก่อนที่สายตาจะหยุดตรงชามใบหนึ่งที่มีฝาหม้อปิดเอาไว้ ผมไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปดูทันที และเมื่ออาหารเช้าปรากฏในสายตา ผมก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

มาม่าขึ้นอืด...

ถ้าจะทำอาหารสิ้นคิดแบบนี้ ไม่ต้องเสียเวลาทำก็ได้

ผมถอนหายใจ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก ก่อนจะอัปโหลดลงเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับข้อความบรรยายภาพอีกเล็กน้อย

'อาหารเช้าฝีมือพ่อบ้านสุดหล่อ'

ผมยิ้มกับตัวเอง แล้วยกชามอาหารเช้าสำเร็จรูปมากินที่โต๊ะอาหารด้านนอก ตินเคยบอกผมแล้วว่า ให้เตยทำอาหารเช้าให้ผมด้วย เพราะผมชอบอดอาหารเช้าไปกินอาหารเที่ยงทีเดียว ผมเองก็ฟังผ่านอย่างไม่ค่อยสนใจ เพราะรู้ดีว่า น้องเขาคงไม่ทำอะไรแบนนั้น แต่สิ่งที่เกิดขั้นตอนนี้ ทำให้ผมรู้สึกคาดไม่ถึงจริงๆ

หลังจากกินอาหารเช้าหมด ผมก็ยกไปล้างเก็บให้เรียบร้อย แล้วอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่า กินอาหารแบบนี้ก็แย่ไม่ค่างจากการไม่กินอะไรเท่าไรหรอก ก่อนที่ผมจะระบายยิ้มออกมา พลางเดินออกจากห้อง

เอาเถอะ...เตยก็อุตส่าห์มีน้ำใจทำให้ แล้วรสชาติก็ไม่ได้แย่ ก็แค่อืดมากไปหน่อยเท่านั้นเอง

 

+++++++++++

 

"เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้นวะ"

คำทักของไอ้เก้าดังขึ้นทันทีที่เจ้าของเสียงมาถึงห้องสำหรับคุยงาน ผมเลิกคิ้วมอง ก่อนจะระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย

"ก็อย่างที่มึงเห็น" ผมบอก ก่อนจะนั่งดูแบบร่างของโครงงานที่ต้องทำ

"มึงมีพ่อบ้านตั้งแต่เมื่อไรวะ" ไอ้เก้าถามต่อ พร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ข้างผม

"คนที่พี่ตินหามาแทนแม่บ้านคนเก่าหรือไง" ไอ้บอสถามขึ้น

"ใช่ พ่อบ้านกิตติมศักดิ์เลยนะ" ผมบอกด้วยน้ำเสียกลั้วหัวเราะ แล้วระบายยิ้มออกมา "ลองทายดูไหมล่ะว่าเป็นใคร"

"กูจะไปรู้ได้ยังไงว่า คนอย่างพี่ตินจะหาใครมาทำงานให้มึง" ไอ้เก้าตอบ แล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย "ขอบเขตกว้างเกินไป แถมคนแบบนั้น...ถ้าอยากให้จัสติน บีเบอร์มาถูห้องให้ ก็คงหาวิธีจนได้นั่นแหละ"

"มึงก็พูดเกินไป พี่ตินก็ไม่ได้เป็นขนาดนั้น" ไอ้บอสบอก แต่ไอ้เก้ากลับส่ายหน้าเหมือนไม่ยอมรับ

"มึงกล้าพนันกับกูไหมล่ะ" ไอ้เก้าถามต่อ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ "กูยอมยกดูคาติเลยเอ้า!"
                                                   
"เว่อร์แล้วมึง คิดว่ารวยแล้วแน่นักหรือไงวะ" ไอ้บอสว่ากลับ พร้อมกับจ้องคู่กรณีด้วยสายตากดดัน

"ยังจะมาถามอีก ถ้าไม่รวยจริง กูจะกล้าหรือวะ" ไอ้เก้าตอบ พลางหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วหันมาทางผมต่อ "ว่าไง? ใครวะ"

"บอกตรงๆ ก็ไม่สนุกสิ" ผมบอก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา "ถ้างั้นจะใบ้หน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวเย็นนี้กูจะพาไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกที"

"มีพาไปเปิดตัวด้วย?" ไอ้เก้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงใคร่รู้ "เห็นจากฝีมือการทำอาหารเช้าให้มึง กูก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา"

ผมก็ได้แต่หัวเราะรับ พลางไล่นิ้วไปตามรายชื่อของเจ้าของหมายเลขสิบหลักที่เพิ่งจะได้มาเมื่อวานด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะกดปุ่มโทรออก แล้วมองสายตาอีกสองคู่ที่กำลังมองมาอย่างสนใจ

ผมรอฟังเสียงสัญญาณอยู่เพียงไม่นาน ปลายสายก็ยอมรับการติดต่อ ก่อนที่ผมจะเปิดลำโพง เพื่อให้เพื่อนทั้งสองที่นั่งอยู่ด้วยกันได้ยินด้วย

“ฮัลโหล ทำอะไรอยู่ครับคุณพ่อบ้าน” ผมเอ่ยทักปลายสาย แล้วเลิกคิ้วมองเพื่อนสนิทที่กำลังรอฟังเสียงของคู่สนทนาของผม

[มีอะไร]

“ถามทำไมไม่ตอบล่ะครับ” ผมพูดขึ้น แล้วมองสีหน้าที่ต่างออกไปของเพื่อนทั้งสองคน ตอนนี้ไอ้เก้ากำลังกลั้นขำเอาไว้ ในขณะที่ไอ้บอสก็เอาแต่นั่งตีหน้านิ่งเฉย

อีกฝ่ายเงียบไปเหมือนไม่อยากจะคุยกับผมอีก แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสายไป ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยอะไรหรือไม่ได้เห็นหน้า แต่ผมก็เดาอารมณ์ตอนนี้ของคู่สายออกล่ะครับ

“ช่างเถอะ...จะโทรมาบอกว่า เย็นนี้จะพาไปกินข้าวด้วยกัน” ผมบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

[กูไม่ว่าง]

"ไม่ว่าง? ไปไหนล่ะ" ผมถามกลับด้วยความสงสัย

[เสือก]

ผมกะพริบตาฟังข้อความที่เพิ่งได้รับมา  ก่อนสัญญาณจะถูกตัดไป พร้อมกับไอ้เก้าที่หัวเราะออกมาอย่างไม่สามารถอดกลั้นอาการของตัวเองได้อีก ส่วนไอ้บอสก็เอาต่มองโทรศัพท์มือถือของผมเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

"เป็นไงล่ะพวกมึง" ผมพูดขึ้น พร้อมกับเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋กางเกงเหมือนเดิม แม้จะนึกเสียดายที่ไม่ได้พาไปเปิดตัวอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่น้องขายอมคุยกับผมผ่านคลื่นโทรศัพท์

“มีไม่กี่คนหรอกที่มึงยอมให้พูดแบบนี้ นอกจากจะไม่โกรธแล้ว ยังทำหน้าระรื่นได้อีก” ไอ้เก้าพูดขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่เหมือนรู้ทันบางอย่าง “ถ้ากูทายถูกจะได้อะไรวะ”

“ก็ได้คำยืนยันจากกูไง” ผมตอบ แล้วระบายยิ้มออกมา “กูไม่ได้หน้าใหญ่ใจถึงแบบมึงนี่”

“กล้าพูดนะมึง” ไอ้เก้าโต้กลับ “คิดว่ากูไม่รู้เรื่องนาฬิกาเรือนหรูของนัทหรือไง”

ผมก็ได้แต่อมยิ้มตอบ ที่จริงผมก็แค่ซื้อของขวัญวันเกิดให้เท่านั้นเองครับ

“แล้วมึงคิดว่าเป็นใคร” ผมหันไปถามไอ้บอสต่อ

“ถ้ามึงอยากให้พวกกูทาย แสดงว่าพวกกูต้องรู้จัก” ไอ้บอสพูดขึ้นเสียงเรียบ ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย “แล้วคนที่พวกกูกับตินรู้จัก แถมยังคุยกับมึงแบบนี้ ตอนนี้...กูคิดว่ามีแค่คนเดียว”

“วิเคราะห์ได้เฉียบขาดสมกับเป็นลูกชายกำนัน” ไอ้เก้าชม แล้วหัวเราะขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าคนโดนชมที่แผ่รังสีความน่ากลัวออกมา ก่อนจะหันมาทางผม “กูขอทายว่า เป็นน้องคนนั้นที่มึงยังแอ้มไม่ได้”

“นอกจากจะแอ้มไม่ได้ กูยังโดนห้ามเข้าไปยุ่งด้วย” ผมบอก แล้วถอนหายใจออกมา “พวกมึงนี่แสนรู้สมกับเป็นเพื่อนรักกูจริงๆ”

“แล้วทำไมไอ้เด็กนั่นถึงยอมมาเป็นพ่อบ้านให้มึง” ไอ้บอสถามต่อ ตอนนี้เพื่อนของผมลดระดับความเกลียดชังที่มีต่อเตยลงเหลือแค่ไม่ชอบหน้ากันเท่านั้นครับ

“เรื่องนี้มึงต้องไปถามเอง” ผมตอบ ที่จริงผมก็พอจะรู้เหตุผลอยู่หรอกครับ แต่ไม่อยากบอกพวกมันมากกว่า

“แบบนี้ก็เข้าทางมึงเลยสิวะ” ไอ้เก้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะยิ้มมองผม “จัดการเลยมึง!”

“มึงก็รุ้ว่ากูเป็นคนดีเชื่อฟังพี่ชายตลอด” ผมบอกด้วยรอยยิ้ม

“มึงจะตัดใจ?” ไอ้เก้าถามขึ้นทีเล่นทีจริง

“กูไม่เคยผิดคำพูดกับติน” ผมตอบ ก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย “แต่กูก็ไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ เหมือนกัน”

“นี่มึงยังไม่หยุดคิดเรื่องนั้นอีกหรือไงวะ” ไอ้บอสพูดขึ้น แล้วมองผมเหมือนไม่ค่อยพอใจนัก

“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับมึงแล้วไอ้บอส ต่อจากนี้ไปป็นเรื่องของไอ้แทมล้วนๆ” ไอ้เก้าหันไปบอก ก่อนจะหันกลับมามองผม “ใช่ไหมวะ”

“ประมาณนั้น เพื่อศักดิ์ศรีและชัยชนะของกู” ผมตอบรับ “แล้วตอนนี้กูก็มีแผนบางอย่างไว้ในใจแล้ว”

“แผนอะไรของมึงวะ” ไอ้เก้าถามต่ออย่างสนใจเต็มที่ “มึงจะเข้าไปปล้ำน้องเขาแล้วใช่ไหม”

“ถ้ากูคิดจะทำจริง ก็ทำไปนานแล้ว มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบฝืนใจใคร” ผมบอก พลางยักไหล่อย่างวางท่า

“เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครปฏิเสธมึงต่างหาก” ไอ้เก้าโต้กลับ ก่อนนัยน์ตาจะเป็นประกาย “มึงจะทำให้น้องเขาสมยอมหรือไง”

 “มึงก็คอยดูแล้วกัน” ผมตอบด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

“กูก็รอจนเบื่อแล้วเนี่ย” ไอ้เก้าตอบรับ ก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย

 “พวกมึงนี่มัน...ช่างเถอะ กูขี้เกียจด่าพวกมึงแล้ว” ไอ้บอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเหนื่อยใจอย่างชัดเจน แต่ผมกับไอ้เก้าก็แค่หัวเราะรับเท่านั้น

ที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าหรอกนะครับ ผมก็แค่ลองโยนหินถามทางดูตามประสาคนที่ไม่เคยไล่ตามใครมาก่อน และเมื่อไม่นานมานี้ ผมก็เริ่มคิดแผนการได้บางอย่าง ซึ่งมันอาจจะใช้เวลา แต่ผมคิดว่า มันก็คุ้มที่จะลองเสี่ยงดู

ในเมื่อผมเข้าไปยุ่งกับเตยในลักษณะนั้นไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอวางกับดักรอให้น้องเขามายุ่งกับผมเองก็แล้วกัน

หึ...คราวนี้จะเลี้ยงเสือให้เชื่องเป็นแมวไปเลย

 

+++++++++++

 

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY SP @ Fan page❤ [14/09/2014]
«ตอบ #228 เมื่อ08-10-2014 15:14:23 »

 

“พี่แทมจะไปดูงานประกวดคืนนี้ไหมฮะ”

คำถามของโอที่ดังขึ้น ทำให้ผมที่กำลังเพลิดเพลินไปกับไอศกรีมรสเลิศต้องเงยหน้าขึ้นมามอง ที่จริงผมก็ไม่ค่อยชอบของหวานนักหรอก แต่ถ้าอร่อย ผมก็ไม่ปฏิเสธนะ

“ประกวดอะไรหรือ” ผมถามกลับอย่างไม่ค่อยสนใจนัก วันนี้ผมไม่มีเรียนหรอกครับ แต่มีนัดกับโอที่โทรศัพท์มาอ้อนแต่เช้า

“งานประกวดดาวเดือนปีนี้ไง” โอบอก พลางตักไอศกรีมเข้าปาก “ถ้าพี่แทมไปดู โอจะไปดูด้วย”

“ก็คงไม่หรอก ไม่ได้สนใจใครในนั้น” ผมบอกไปตามตรง ที่จริงแล้วตั้งแต่เปิดเทอมมา ผมก็ไม่ค่อยได้ตามติดหนุ่มหน้าใสน้องใหม่เท่าไร

 แต่เดี๋ยวนะ...งานประกวดดาวเดือนอย่างนั้นหรือ?

ผมตักไอศกรีมอีกครั้ง ก่อนจะคาบช้อนไว้ในปากอย่างครุ่นคิด จริงอยู่ว่าตอนนี้ผมไม่ได้สนใจเด็กปีหนึ่งในปีนี้เท่าไร แต่ก็มีหนึ่งคนที่ผมตามอยู่ และพอมาพิจารณาดูแล้ว ก็มีแนวโน้มสูงว่าจะเข้าร่วมประกวดนี้ด้วย ถึงแม้นิสัยจะไม่สอดคล้องกับกิจกรรมแบบนี้เลยก็ตาม

“พี่แทมคิดอะไรอยู่หรือ” โอถามขึ้นด้วยความสงสัย คงเพราะเห็นผมเอาแต่คาบช้อนอยู่ในปากล่ะมั้ง

“ไม่มีอะไรหรอก แล้วโอจะไปหรือ” ผมถามต่อ พร้อมกับตักไอศกรีมกินต่อ

“ก็อาจจะไปมั้ง เพื่อนของโอชวนอ่ะ” โอบอก แล้วทำสีหน้าอ้อนออกมา “แต่อยากอยู่กับพี่แทมมากกว่า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลย”

“ก่อนหน้านี้พี่ยุ่งๆ น่ะ” ผมบอก แล้วหัวเราะเบาๆ แต่คนฟังกลับทำหน้าบูดมากกว่าเดิม

“คงไม่ได้แอบไปเอาใจคนอื่นอยู่นะฮะ” โอพูดขึ้น แล้วทำหน้างอนใส่ผมอย่างน่ารัก

แหม...ตนน่ารัก ทำอะไรก็น่าเอ็นดูจริงๆ

“ยังไงคืนนี้พี่แทมอยู่กับโอนะ” โอพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แล้วส่งยิ้มหวานมาให้ “เราไม่ได้กอดกันตั้งนานแล้วนะฮะ”

ผมมองใบหน้าน่ารักของโออย่างชั่งใจ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ผมคงไม่ปฏิเสธหรอก แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว ตอนนี้ผมยังมีสมาชิกอีกคนที่อยู่ด้วยกัน ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องสนใจก็ได้ แต่ผมกลับรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน” ผมบอก ก่อนจะส่งยิ้มให้โอที่หน้าหงอยลง “พี่ก็ยังไม่ได้หายไปไหนนี่”

โอไม่ได้ตอบอะไร นอกจากพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะเอาไว้

“วันนี้โออยากได้อะไร พี่ตามใจหมดเลยดีไหม” ผมพูดขึ้น แล้วส่งยิ้มให้

“ก็ได้ฮะ” โอตอบรับ ก่อนจะอมยิ้มออกมาในที่สุด

ผมมองท่าทางร่าเริงของโอที่กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง เพื่อไปจ่ายค่าไอศกรีมสำหรับมื้อของหวานในครั้งนี้

หึ... เพราะแบบนี้ไง ผมถึงรักใครไม่ได้สักที

 

++++++++++

 

หลังจากไปส่งโอที่ห้อง ผมก็ใช้เวลาชดเชยความคิดถึงตามที่ลูกกวางน้อยของผมต้องการครู่หนึ่ง ก่อนจะขอตัวกลับ แล้วขับรถไปมหาวิทยาลันต่อ

ตอนนี้เวลาประมาณห้าโมงเย็นแล้ว เพราะความคิดชั่วแล่น ทำให้ผมเกิดความสงสัยจนก่อตัวเป็นความอยากรู้ขึ้นมา ผมก็แค่อยากจะแน่ใจในสิ่งที่ตัวเองคิด อย่างน้อยก็ได้เปิดหูเปิดตามองเด็กปีหนึ่งหน้าตาดีคนอื่นบ้าง

ทันทีที่ผมไปถึงบริเวณหอประชุมสำหรับการงัดงาน นักศึกษาทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าก็เดินกันพลุกพล่าน ผมที่ยืนอยู่คนเดียวเลยอดไม่ได้ที่จะติดต่อไปหาไอ้เพื่อนสนิทที่น่าจะจีบสาวอยู่แถวนี้ต่อ

“ไอ้เก้ามึงอยู่ที่ไหนวะ” ผมพูดขึ้น เมื่ออีกฝ่ายรับสาย

[กูอยู่อักษร มึงมีอะไรวะ]

“มึงมาหากูที่หอประชุมหน่อยสิวะ” ผมบอก พร้อมกับเดินไปหาที่นั่งรอ

[หืม? ทำไมกูต้องไปด้วย คอนนี้กูมีภารกิจช่วยโลกอยู่]

“ไอ้สัด! จัดการจ้าวโลกของมึงให้เรียบร้อย แล้วมาหากูด้วย กูให้เวลามึงแค่ยี่สิบนาที” ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

[เออๆ มึงนี่มันมารความสุขกูจริงๆ ไอ้เหี้ยแทม]

ผมกดตัดสายไปอย่างไม่สนใจ พร้อมกับนั่งมองท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีเข้ม และผมก็นั่งรออยู่คนเดียวได้เพียงไม่นาน ไอ้เก้าที่กำลังทำหน้าไม่สบอารมณ์ก็เดินตรงเข้ามา แล้วมองผมเหมือนแค้นมาสักสิบชาติ ส่วนที่ผมไม่ได้ตามไอ้บอส เพราะรู้ว่า วันนี้มันมีสอนพิเศษครับ

“ขัดจังหวะกำลังได้ที่เลยมึง” ไอ้เก้าบ่น ผมก็หัวเราะรับเบาๆ

“เอาน่า... กูพามึงมาดูของดีไง” ผมบอก แล้วลุกขึ้นยืน

“อะไรวะ” ไอ้เก้าถามกลับ แล้วมองไปทางหอประชุม ใบหน้าพราวเสน่ห์แสดงความแปลกใจเล็กน้อย “กูลืมไปเล้วว่า วันนี้มีงานประกวด แต่กูไม่นึกว่ามึงจะสนใจ”

“กูแค่สงสัย เลยจะมาดูสักหน่อย” ผมตอบ แล้วเดินนำไอ้เก้าเข้าหอประชุม

ภายในหอประชุมเต็มไปด้วยนักศึกษาที่นั่งกันจนเต็มพื้นที่ บริเวณเวทีตรงกลางถูกตกแต่งด้วยผ้าและดอกไม้อย่างสวยงาม ผมกวาดตามองโดนรอบอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ชั้นบนสุด

“มึงมาส่องใครวะ” ไอ้เก้าถามขึ้น ก่อนจะกอดไหล่ของผมเอาไว้ “เฮ้ยๆ หรือว่า....”

ผมแค่ยิ้มรับ โดยไม่ได้ตอบอะไร นอกจากนั่งฟังเสียงหัวเราะของคนที่นั่งข้างกัน พร้อมกับมองพิธีกรที่ขึ้นมาเปิดงานบนเวที

ผมไม่ได้สนใจคำกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองของพิธีกรหนุ่มสาวที่มีหน้าที่บรรยายงานในวันนี้ นอกจากนั่งรอการเปิดตัวผู้เข้าประกวดอย่างอดทน ก่อนที่ผมจะยิ้มขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นตาของผู้ชายคนหนึ่งที่ผมคาดเดาเอาไว้ในใจ

มีพ่อบ้านเป็นเดือนมหา’ลัยก็เข้าท่าดีเหมือนกัน...


TBC ++++++++++

 

 :katai5: Marionetta ::: สวัสดีค่ะ ^^ มาต่อแล้วค่ะ

ตอนนี้ก็เหมือนเริ่มต้นของช่วงที่พี่แทมกับน้องเตยมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็ยังไม่ค่อนคืบหน้าไปไหนอยุ่ดี แฮะๆ
ก็ได้แต่หวังว่าพี่แทมจะทำแต้มได้ กร๊ากๆ ก่อนจะขอจบด้วยการประกวดที่เกริ่นไปเมื่อนานมาแล้วจ้า

ขอบคุณที่ยังติดตามกันจนมาถึงตอนนี้ ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้กันต่อไปด้วยนะคะ

ขอบคุณมากจริงๆ ่ะ  :mew1:



ออฟไลน์ sugarcandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #229 เมื่อ08-10-2014 20:09:11 »

ขอบคุณคนเขียนที่ยังคงพาพี่แทมกับน้องเตยมาพบมิตรรักนักอ่านเช่นกันจ้า  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
« ตอบ #229 เมื่อ: 08-10-2014 20:09:11 »





ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #230 เมื่อ10-10-2014 16:25:36 »

 ขอบคุณคนเขียนเหมือนกันคร้าาา
ที่เขียนนิยายสนุกๆให้กับเราคนอ่านทั้งหลาย

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #231 เมื่อ10-10-2014 19:54:42 »

ตามเก็บหลายตอนเลย
ที่บอกว่าจะเปลี่ยนเสือให้เป็นแมวเชื่องๆขี้คร้านพี่แทมจะโดนน้องเตยปราบให้หงอ
ถ้าพ่อบ้านได้ตำแหน่งงานนี้พี่แทมจะตบรางวัลอะไรให้ดีน้า

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #232 เมื่อ19-10-2014 10:30:44 »

ขอบคุณคนเขียนที่ยังคงพาพี่แทมกับน้องเตยมาพบมิตรรักนักอ่านเช่นกันจ้า  :mew1:
ขอบคุณที่ยังติดตามเช่นกันจ้า

ขอบคุณคนเขียนเหมือนกันคร้าาา
ที่เขียนนิยายสนุกๆให้กับเราคนอ่านทั้งหลาย
จอบคุณมากเลยค่ะ ดีใจที่ยังมีคนอ่านกันอยู่เน้อ ^^

ตามเก็บหลายตอนเลย
ที่บอกว่าจะเปลี่ยนเสือให้เป็นแมวเชื่องๆขี้คร้านพี่แทมจะโดนน้องเตยปราบให้หงอ
ถ้าพ่อบ้านได้ตำแหน่งงานนี้พี่แทมจะตบรางวัลอะไรให้ดีน้า

ฮ่าๆ งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะได้ปราบใครกันแน่ อก็ต้องึอนติดตามกันต่อไปนะคะ อิอิ

++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่นะคะ คงจะมาต่อที่นี่ช้าหน่อย ถ้าอดใจรอกันไม่ไกว ก็สามารถติดตามได้ที่เว็บเด็กดีนะคะ
 

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #233 เมื่อ24-10-2014 01:00:13 »

อ่านทันแล้ว

สนุกมากครับ

น่าติดตาม,,,

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #234 เมื่อ24-10-2014 01:24:54 »

แทมเตยยยยยย
รอวันที่แทมปราบเตยบนเตียงให้ครางเหมือนลูกแมวอยู่นะเนี่ย 555 :ling1: :z1: :z1: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #235 เมื่อ27-10-2014 10:02:48 »

อ่านทันแล้ว

สนุกมากครับ

น่าติดตาม,,,
ขอบคุณค่ะ ติดตมต่อไปก้วยนะคะ ^^

แทมเตยยยยยย
รอวันที่แทมปราบเตยบนเตียงให้ครางเหมือนลูกแมวอยู่นะเนี่ย 555 :ling1: :z1: :z1: :haun4: :haun4:
โอ้ววว มันต้องมีวันนั้นแน่ 555
ขอบคุณมกเลยค่ะ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #236 เมื่อ27-10-2014 14:41:35 »

PLAYBOY # 24 - TOEY


 

 

“เตยพร้อมแล้วนะ”

เสียงของพี่ไหมเรียกให้ผมที่กำลังยืนทำใจกับตัวเองต้องหันไปมอง แล้วพยักหน้ารับ เมื่อได้รับคำตอบรับจากผม รุ่นพี่ที่ช่วยดูแลก็ยิ้มขึ้น ก่อนจะหันไปสนใจรันที่กำลังแต่งตัวอยู่ต่อ

ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อบรรยากาศหลังเวทีตอนนี้วุ่นวายจนน่ามึนหัว ผมเลยตัดสินใจไปยืนหลบมุมเพื่อตั้งสมาธิของตัวเอง

ภาพผู้ชายรูปร่างคุ้นตาในชุดไทยประยุกต์สีขาวสะอาดสะท้อนผ่านกระจกเงาบานใหญ่ที่วางชิดติดริมผนัง ผมมองใบหน้าของตัวเองที่ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางค์เล็กน้อย แล้วอดที่จะถอนหายใจออกมาอีกครั้งไม่ได้

เฮ้อ...

ตอนนี้ผ่านช่วงของการเปิดตัวผู้เข้าประกวดไปแล้ว ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากไปเดินโชว์ตัวบนเวที แต่หลังจากนี้ต่างหากที่ผมรู้สึกกังวลใจขึ้นมา อีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ผมจะต้องแสดงผลลัพธ์จากการฝึกซ้อมที่ผ่านมาแล้ว แค่ห้านาทีเท่านั้น ทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลง

การแสดงของผู้เข้าประกวด

ถึงจะพอมั่นใจในตัวเองบ้างแล้ว เพราะผมกับรันก็พยายามและตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ แต่เวลานี้หัวใจที่เคยเต้นอย่างเป็นจังหวะมั่นคงกลับเปลี่ยนท่วงทำนองไป จังหวะบีบรัดที่เร็วขึ้นกำลังฟ้องชัดถึงสภาพจิตใจของผมได้เป็นอย่างดี

“น้องเตยขา เตรียมตัวได้แล้วค่ะ” พี่ซันบอกด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับส่งสายตาเป็นประกายชวนให้ผมขนลุกเล่น ผมก็แค่พยักหน้า ก่อนจะเดินไปหารันที่ยืนรอตรงทางขึ้นเวทีแล้ว

“ตื่นเต้นจังเลยนะเตย” รันพูดขึ้น พร้อมกับมือที่กำแน่นอยู่ข้างลำตัว ก่อนจะหันมาส่งยิ้มบางให้

“ก็ทำอย่างที่ซ้อมมานั่นแหละ” ผมบอก แล้วมองตรงไปข้างหน้า ก่อนจะลอบถอนหายใจกับตัวเองอีกครั้ง ตอนนี้ผมต้องตั้งสมาธิคิดทบทวนสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ทว่าในขณะที่ผมกำลังหลับตาสงบจิตใจของตัวเอง เรื่องบางอย่างก็ฉายชัดขึ้นมาในความคิดอย่างไม่ถูกเวลาสักเท่าไร

จริงสิ! ยังไม่ได้โทรไปบอกไอ้แทมเลยว่าจะกลับช้า

ผมขมวดคิ้วขึ้น เมื่อนึกถึงคำพูดของเจ้านายคนปัจจุบันที่เคยบอกเอาไว้ว่า ถ้าจะกลับช้าก็ต้องโทรศัพท์ไปบอกด้วย แต่เวลานี้ก็น่าจะทุ่มครึ่งได้แล้ว กว่างานจะเลิกก็คงเกือบสามทุ่ม แต่ก็ช่างมันเถอะ...คนอย่างนั้น คงไม่สนใจอะไรหรอก มันก็แค่พูดจากวนประสาทผมก็เท่านั้น

ผมสลัดเรื่องไร้สาระออก แล้วกลับมาตั้งสติกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอีกครั้ง ตอนนี้เสียงปรบมือกำลังดังขึ้น เมื่อการแสดงก่อนหน้านี้จบลง และผมกับรันจะต้องขึ้นแสดงเป็นลำดับถัดไป

“เต็มที่นะเด็กๆ” พี่ซันบอก พร้อมกับส่งรอยยิ้มเป็นกำลังใจให้ เมื่อพิธีกรบนเวทีกำลังเปิดตัวแนะนำตัวแทนจากคณะบริหาร

ผมเดินขึ้นเวทีไปพร้อมกับรัน แล้วกวาดสายตาไปทั่วบริเวณที่ต้องใช้แสดง ตอนนี้พื้นที่ตรงกลางเวทีมีแคร่ไม้ขนาดใหญ่วางอยู่เด่น และมีขิมตัวหนึ่งวางอยู่บนนั้น

รันเดินไปนั่งบนแคร่ไม้ด้วยท่าพับเพียบ ก่อนที่ผมจะนั่งในท่าเดียวกันอยู่ข้างกัน แล้วหยิบขลุยที่วางอยู่ข้างลำตัวขึ้นมา แสงไฟภายในหอประชุมสาดส่องมายังตำแหน่งของพวกเราอย่างชัดเจน

ผมสูดลมหายใจของตัวเองอีกครั้ง เมื่อจัดตำแหน่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ความเงียบก็โรยตัวขึ้น ก่อนที่ผมจะกดนิ้วลงบนช่องดนตรี แล้วเป่าลมตามจังหวะที่ฝึกซ้อมมา พร้อมกับเสียงขิมที่ดังผสานอย่างอ่อนหวาน

ผมมองไปยังภาพสลัวของผู้ชมเบื้องหน้ าพลางไล่นิ้วไปตามโน้ตอย่างต่อเนื่อง ในใจก็จินตนาการว่า ตัวเองกำลังฝึกอยู่ในห้องอย่างที่ผ่านมา ความประหม่าที่เคยมีลดน้อยลง เมื่อผมรัยรู้ได้ถึงทำนองไพเราะราวกับตัวเองตกอยู่ในภวังค์

ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่า ไม่เคยสนใจดนตรีมากเท่าไร โดยเฉพาะดนตรีไทยที่ดูไกลตัวจนไม่น่าจะเข้ามาในชีวิตได้ แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกสงบและอบอุ่นอย่างน่าประหลาด จนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดีที่ได้สัมผัสและรู้จักกับเครื่องดนตรีไทย

ตอนนี้ผมแทบจะลืมไปแล้วว่า ตัวเองกำลังแสดงเพื่อเรียกคะแนนและความประทับใจจากคณะกรรมการและผู้ฟัง ในห้วงความคิด ผมก็แค่รู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองทำเท่านั้น

บทเพลงจากดนตรีไทยที่เล่นคู่กันถ่ายทอดท่วงทำนองหวาน เสียงดนตรีดังแจ่มชัดท่ามกลางความเงียบราวกับต้องการขับกล่อมให้ผู้ที่ได้ฟังตกอยู่ในมนต์สะกด และเมื่อผมกับรันบรรเลงโน้ตตัวสุดท้าย ความเงียบชั่วอีดใจก็ทำงานขึ้น ก่อนเสียงปรบมือตอบรับจะดังกึกก้องไปทั่วหอประชุม

ผมลอบถอนหายใจใจอย่างนึกโล่งอกที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ก่อนจะเดินไปยืนคู่กับรันอีกครั้งโดยมีพิธีกรชายหญิงที่บรรยายงานประกวดในครั้งนี้ยืนขนาบข้าง

“ช่างเป็นการแสดงที่น่าประทับใจมากจริงๆ ค่ะ”พิธีกรหญิงพูดขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มมาให้

“ใช่แล้วครับ ผมรู้สึกได้ถึงมนต์ขลังและท่วงทำนองที่ไพเราะมากเลยล่ะครับ” พิธีกรชายพูดเสริมต่อ แล้วหันไปมองรัน “อยากทราบว่าเตรียมตัวสำหรับการแสดงนี้มานานไหม แล้วทำไมถึงเลือกการแสดงดนตรีไทยครับ”

“พวกเราฝึกซ้อมกันประมาณหนึ่งเดือนค่ะ” รันตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉานอ่อนหวาน “และการที่พวกเราเลือกแสดงคนตรีไทยก็เพราะต้องการถ่ายทอดคุณค่าความงามและความไพเราะของความเป็นไทยค่ะ”

“แค่เดือนเดียวก็สามารถแสดงได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้” พิธีกรชายพูดขึ้น แล้วหันไปทางหญิงสาวที่ทำงานร่วมกัน “ปีนี้คณะบริหารมาแบบจัดเต็ม ไม่ธรรมดาจริงๆ นะครับ”

“ใช่แล้วล่ะค่ะ ดิฉันยังรู้สึกเคลิบเคลิ้มกับความไพเราะอยู่เลยค่ะ” พิธีกรสาวตอบ แล้วหันมาทางผมต่อ “ไม่ทราบว่าบทเพลงที่แสดงไปเมื่อครู่นี้มีชื่อว่าอะไรหรือคะ”

“ชื่อเพลงรักครับ” ผมตอบ พลางบ่นขึ้นมาในใจไม่ได้ว่า ทำไมต้องมาตอบอะไรแบบนี้ด้วย

“แล้วทำไมถึงเลือกเล่นเพลงนี้ล่ะคะ” พิธีกรหญิงถามขึ้นอีกครั้ง

ไม่รู้เหมือนกัน ก็เขาให้เล่นเพลงนี้...

ผมได้แต่ตอบกับตัวเองอยู่ในใจ แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มรับเล็กน้อย เพราะผมก็พอจะเตรียมตัวเจอกับคำถามประเภทนี้มาบ้างแล้ว

“เพราะพวกเราต้องการมอบความรักครับ” ผมตอบด้วยรอยยิ้มทางการค้า “ความรักบริสุทธิ์ของการเป็นผู้ให้ความสุขแก่ผู้ฟังทุกคนครับ”

“แหม...อยากให้น้องเตยมาเล่นเพลงรักให้ฟังอีกรอบจังเลยค่ะ” พิธีกรสาวพูดขึ้นต่อ พร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบไปตามมารยาท

“ถ้าจะจีบผู้เข้าประกวดไว้รองานเลิกก่อนนะครับ” พิธีกรชายแซวขึ้น ก่อนคนที่โดนกระเซ้าแหย่จะหัวเราะรับอย่างเป็นกันเอง ผมก็ได้แต่ยืนอดทนกับผู้บรรยายทั้งคู่

ให้ตายเถอะ...

ผมได้แต่ยืนสบถกับตัวเองอยู่ในใจ แล้วยกมือขอบคุณอีกครั้ง เมื่อพิธีกรกล่าวปิดการแสดงของผมกับรันด้วยเสียงปรบมือ ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปทางหลังเวทีพร้อมกับรันต่อ

 

++++++++++

 

ผ่านเข้ารอบ?!

ผมได้แต่ยืนคิดกับตัวเองอยู่ในใจ ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาใส่ชุดนักศึกษาเหมือนตอนแรกและกำลังยืนเรียงหน้ากระดานกับผู้เข้าประกวดรายอื่นที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยกัน ก่อนที่ผมจะเลื่อนสายตาไปมองรันที่ยืนอยู่ข้างกันเล็กน้อย เธอกำลังยืนยิ้มอย่างน่ารักเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

“ตอนนี้เราก็ได้ผู้ที่ผ่านเข้ารอบแล้วนะคะ” พิธีกรหญิงพูดขึ้น แล้วหันไปส่งยิ้มกับพิธีกรชายที่ยืนอยู่ข้างกัน

 “ใช่แล้วครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเข้าช่วงต่อไปกันเลยนะครับ” พิธีกรชายพูดต่อ “รอบต่อไปจะเป็นการตอบคำถามนะครับ”

“ค่ะ เราจะเริ่มจากคณะบัญชีก่อนเลยนะคะ” พิธีกรสาวพูดขึ้น แล้วเดินไปด้านข้าง เพื่อให้ผู้เข้าประกวดได้มายืนตรงกลางแทน

ผมยืนมองผู้เข้าประกวดตอบคำถามที่ตัวเองจับฉลากได้ต่อหน้าคณะกรรมการ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องทั่วไปในมหาวิทยาลัย ค่านิยม ตลอดจนการเมืองและสังคมในปัจจุบัน ถึงแม้จะไม่ได้คาดหวังกับรางวัลอะไร แต่ผมก็พยายามเต็มที่เพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วง รวมไปถึงทำให้ตัวเองต้องเสียหน้า

 “ตอบได้ดีมากจริงๆ ค่ะ แบบนี้ต้องส่งเรื่องถึงอธิการบดีแล้วใช่ไหมคะ” พิธีกรหญิงพูดขึ้น พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังตอบรับ หลังจากรันตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาความสะอาดในมหาวิทยาลัยจบ

“ครับ ต่อไปเชิญน้องเตยจากคณะบริหารครับ” พิธีกรชายพูดขึ้นต่อ

ผมเดินไปยืนหน้าเวที พร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังขึ้น ก่อนจะล้วงมือไปหยิบคำถามในกล่อง แล้วส่งให้พิธีกรชายต่อ

“เป็นคำถามที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ” พิธีกรชายพูดขึ้น แล้วหันมายิ้มให้ผม “น้องเตยมีความคิดเห็นอย่างไรกับการใช้ภาษาวิบัติของวัยรุ่นไทยในปัจจุบันครับ”

ผมมองคนถามเล็กน้อย พร้อมกับครุ่นคิดคำตอบที่มีอยู่ในใจ

ไม่มีความคิดอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ ใครอยากใช้ยังไงก็เรื่องของเขา ผมไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว...

“ผมคิดว่าภาษวิบัติเกิดจากความผิดเพี้ยนในการถ่ายทอดระหว่างการสนทนากันครับ หากเราใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการเขียน ภาษาวิบัติก็จะหายไปเองครับ” ผมตอบ แล้วยิ้มการค้าปิดท้ายพอเป็นพิธี ผมคิดว่าคำตอบของผมดูเป็นกลางแล้วนะครับ

“ตอบได้ดีมากเลยค่ะ” พิธีกรหญิงตอบรับ ก่อนจะหันไปทางผมต่อ “เพื่อไม่ให้เกิดภาษาวิบัติ เราก็ควรใส่ใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันมากขึ้นใช่ไหมคะ”

“ครับ” ผมตอบรับ พร้อมกับระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย

จะถามอะไรอยู่ได้ คำตอบมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว...

ผมคิดกับตัวเองอยู่ในใจ แล้วยืนรอพิธีกรปิดจบการตอบคำถามของผมอย่างใจเย็น และเมื่อผมได้กลับมายืนที่ตำแหน่งเดิมบนเวทีก่อนหน้านี้อีกครั้ง ผมก็อดที่จะรู้สึกเพลียขึ้นมาไม่ได้

เฮ้อ... เมื่อไรมันจะจบงานเสียที

 

++++++++++

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [08/10/2014]
«ตอบ #237 เมื่อ27-10-2014 14:51:55 »

 

ผ่านเข้ารอบสามคนสุดท้าย!!!?

ผมได้แต่ยืนหน้านิ่งอยู่ที่เวทีพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นปีต่างคณะที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยกันอีกสองคน ตอนนี้เข้าสู่รอบสุดท้ายของการประกวดแล้วครับ ผมบอกตามตรงเลยว่า มาถึงรอบนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้

“อีกไม่กีนาทีข้างหน้า เราจะได้ทราบแล้วล่ะค่ะว่า ใครจะเป็นดาวและเดือนมหาวิทยาลัยประจำปีนี้” พิธีกรสาวพูดขึ้น ก่อนจะหันไปทางพิธีกรคู่ของตัวเอง “น่าตื่นเต้นจริงๆ เลยค่ะ”

“ครับ เป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นจริงๆ และผมเชื่อว่าผู้เข้าประกวดเองต้องตื่นเต้นมากกว่าพวกเราแน่นอน” พิธีกรชายพูดต่อด้วยรอยยิ้ม

“”เอาล่ะค่ะ เราจะประกาศรางวัลป็อปปูล่าร์โหวตกันก่อนนะคะ” พิธีกรหญิงบอก แล้วยิ้มหวานออกมา

“ครับ ผมขอเริ่มจากผู้เข้าประกวดฝ่ายหญิงที่ได้รับรางวัลป็อปปูล่าร์โหวตจากการซื้อดอกไม้ของกองประกวดนะครับ ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ได้แก่....”

ผมได้แต่ยืนกลออกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย พลางฟังเสียงดนตรีที่ดีงขึ้นประกอบเพื่อสร้างสีสีนในการประกาศรางวัล และเมื่อพิธีกรเอ่ยชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล เสียงปรบมือก็ดังขึ้น ก่อนที่แสงไฟจะส่องไปที่หญิงสาวจากคณะบัญชีที่กำลังยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

ผมเลื่อนสายตาไปมองรันที่ยืนห่างออกไป เธอไม่ได้มีท่าทีอะไร นอกจากปรบมือให้เกียรติกับผู้ที่ได้รับรางวัล

“ได้รับแรงเชียร์มากมายจริงๆ เลยค่ะ” พิธีกรสาวบอก พร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ไปให้ “แสดงความยินดีด้วยนะคะ”

“ครับ ต่อไปก็มาทางฝ่ายชายกันบ้าง และผู้ที่ได้รับรางวัลป็อปปูล่าร์โหวตในปีนี่ ได้แก่....”

จะเป็นใครก็ช่างหัวมันเถอะ ขอให้จบงานนี้เร็วๆ ก็พอ!

ผมบอกกับตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะกระพริบตา เมื่อรู้สึกถึงแสงไฟที่ส่องมาที่ตัวเอง พร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังลั่นหอประชุม

ฮะ?

ผมร้องอุทานอยู่ในใจ ทั้งที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ก่อนจะได้ยินเสียงพิธีกรหญิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

“น้องเตยเดินมาข้างหน้าเลยค่ะ ดูสิคะ สงสัยจะตกใจมากเลย”

ผมก็ได้แต่ทำหน้างง แล้วเดินออกมายืนรับช่อดอกไม้จากกรรมการทีขึ้นมามอบรางวัลโดยพูดแค่คำว่า ขอบคุณเท่านั้น ก่อนจะเดินมายืนคู่กับผู้หญิงที่ได้รับรางวัลเดียวกันเพื่อถ่ายรูปคู่

ยังไงวะ?

ผมคิดกับตัวเองด้วยความสงสัย ก่อนจะเดินกลับไแยืนที่เดิม เมื่อถ่ายรูปเสร็จ ตอนนี้ผมกำลังยืนถือช่อดอกไม้เต็มมือ แล้วก็มีสายสะพายติดตัวมาหนึ่งเส้นครับ

“ดิฉันต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลป็อปปูล่าร์โหวตทั้งคู่ด้วยนะคะ ลำดับต่อไปจะเป็นการประกาศผู้ที่ได้รับตำแหน่งดาวและเดือนมหาวิทยาลัยประจำปีนี้ค่ะ” พิธีกรสาวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลามากไปกว่านี้ ผมขอเริ่มจากตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยประจำปีนี้ก่อนเลยนะครับ” พิธีกรหนุ่มพูดขึ้น ก่อนจะยิ้มออกมา “ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้ได้แก่....”

ผมหันไปมองทางฝั่งผู้หญิงที่ยืนอยู่อีกด้านของเวที แสงไฟสาดส่องไปมา เหมือนกำลังเสาะหาผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ และเมื่อชื่อขอผู้ที่ได้รับตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยปีนี้ดังขึ้น ผมก็ต้องยิ้มออกมา เล็กน้อย เมื่อเห็นเพื่อนร่วมคณะกำลังยิ้มกว้าง แล้วเดินมาที่หน้าเวที

“ยินดีด้วยนะคะ”พิธีกรสาวบอก

“ดาวในปีนี้ก็เป็นน้องรัน สาวน้อยน่ารักจากคณะบริหารนะครับ วันนี้การแสดงตีขิมของเธอยอดเยี่ยมมากจริงๆ”

ผมปรบมือให้กับรันที่เปื้อนยิ้มอยู่ทั่วใบหน้า ตอนนี้เธอกำลังรับช่อดอกไม้และสายสะพายประจำตำแหน่งครับ ก่อนที่ความเงียบจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อการมอบรางวัลให้กับผู้ที่ได้รับตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยในปีนี้จบลง

“ลำดับต่อไป ก็เป็นการประกาศผู้ที่ได้รับตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยประจำอชปีนี้นะคะ" พิธีกรสาวพูดขึ้น พร้อมกับรอยยิ้ม “ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยในปีนี้ ได้แก่....”

รายชื่อที่ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังสนั่น ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อคนที่ยืนอยู่ข้างผมออกไปยืนหน้าเวที พร้อมกับรับรางวัลต่างๆ สำหรับผู้ที่ได้รับตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยในปีนี้

ผมมองบรรดาช่างภาพที่กำลังกระหน่ำชัตเตอร์ใส่ไม่หยุดด้วยความรู้สึกเซ็ง เมื่อตัวเองต้องมายืนถ่ายรูปรวมอีกครั้ง ก่อนที่พวกเราจะเดินไปที่หลังเวทีเมื่อการประกวดจบลง

เฮ้อ... ในที่สุดก็จบเสียที เหนื่อยชะมัด

 

++++++++++

 

“น่าเสียดายจริงๆ” พี่ไหมพูดขึ้น แล้วหันมาทางผม “เมื่อกี้พี่แอบไปดูคะแนนมา ห่างแค่สองคะแนนเอง”

“ไร้รสนิยมที่สุด!” พี่ซันบ่นขึ้นบ้าง ก่อนจะทำสีหน้าไม่พอใจ “ทำไมไอ้ท่าเต้นสัปรังเคนั่น ถึงได้คะแนนเยอะกว่านะ”

“แต่เขาก็เต้นเก่งจริงๆ นะคะ” รันพูดขึ้นอย่างปลอบใจ

“น้องเตยของซันนี่ขาก็แสดงได้ยอดเยี่ยมเหมือนกัน!” พี่ซันพูดขึ้น แล้วทำท่าจะเข้ามาหาผม “ไม่ต้องเสียใจนะคะ เดี๋ยวคืนนี้ซันนี่ขาจะปลอบใจทั้งคืนเลย”

ไปไกลๆ กูเลย....

ผมบ่นอยู่ในใจ แต่ก็ทำได้แค่ลุกหนี ไปอีกทางแทน ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับการประกวดในครั้งนี้อยู่แล้ว แค่รางวัลป็อปปูล่าร์โหวตที่ได้มาก็เกินความคาดหมายสุดๆ ที่สำคัญผมไม่อยากมีภาระติดตัวด้วย​การมีตำแหน่งให้ยุ่งยากหรอกครับ

ผมหันไปเก็บของใส่กระเป๋า แล้วตั้งใจว่า จะขอตัวกลับไปพักผ่อน ทว่าใครบางคนก็เดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มสดใสเสียก่อน

“เป็นยังไงกันบ้าง” พี่อ้นทักขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“พี่อ้นมาดูด้วยหรือคะ” รันถามขึ้นอย่างแปลกใจ ก่อนจะยิ้มออกมา

“อืม ก็อยากมาดูผลงานของตัวเองน่ะ” พี่อ้นบอก แล้วหันมาส่งยิ้มให้ผม “แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ทำได้ดีมาก”

ผมก็แค่ก้มหน้ารับคำชม แล้วมองพี่ซันที่วิ่งเข้าไปเกาะแขนของพี่อ้นชวนให้น่ารำคาญ ส่วนคนที่โดนกอดแขนก็เอาแต่หัวเราะอย่างอารมณ์ดีเหมือนไม่คิดอะไรมาก

"ต้องขอบคุณพี่อ้นมากเลยค่ะ" พี่ไหมพูดขึ้น ก่อนจะยกมือไหว้ พร้อมกับพี่อ้นที่รีบปัดมือไปมาอย่างเกรงใจ

"เรื่องเล็กน้อยน่า ที่จริงพี่ก็ตั้งใจจะพาไปเลี้ยงฉลองกันด้วย" พี่อ้นพูดขึ้น

"ว๊ายๆ เทพบุตรจองซันนี่! นอกจากจะรูปงามบ้านรวยแล้ว ยังมีจิตใจกว้างขวางสมกับเทพธิดาอย่างซันนี่ที่สุด!"  พี่ซันพูดขึ้นด้วยสายตาวิบวับ พร้อมกับรอยยิ้มที่ผมรู้สึกแขยงขึ้นมานิดๆ

ผมได้แต่ยืนฟังเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่เดินทางไปทั่วบริเวณอย่างไม่ค่อยได้สนใจนัก และเมื่อผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ความคิดก็พลันหวนไปนึกถึงใครคนหนึ่ง ผมมองตัวเลขบอกเวลาที่แสดงบนหน้าจอของอุปกรณ์สื่อสาร ตอนนี้เกือบจะสามทุ่มครึ่งแล้วครับ

ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ถึงอยากจะกลับไปอาบน้ำนอนก็คงทำไม่ได้ ในเมื่อพี่อ้นออกปากชวนไปเลี้ยงฉลอง ผมก็คงต้องตอบรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผมกดหาชื่อของปลายสายที่ต้องการติดต่อ และเมื่อผมเห็นชื่อที่ตัวเองบันทึกเอาไว้ ความทรงจำก็หวนกลับไปคิดถึงความหงุดหงิเในช่วงเวลาที่ผมได้เห็นชื่อที่ถูกบันทึกเอาไว้จากเจ้าของหมายเลจสิบหลักจอมกวนประสาทเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าผมได้เปลี่ยนชื่อจาก 'ที่รักของน้องเตย' เป็น 'ไอ้กวนประสาท' ในทันที

ผมกดปุ่มโทรออก แล้วเดินเลี่ยงมาอีกทางหนึ่งเพื่อลดเสียงรบกวน ขณะที่กำลังรอสัญญาณ สายตาของผมก็ฉายภาพบรรดาเพื่อนสนิทที่กำลังเดินมาหา

"ไอ้เตย! มึงร้ายกาจจริงๆ เก็บเงียบเลยนะมึง" ไอ้เพชรพูดขึ้นทันที

"ใช่ๆ กูไม่นึกเลยว่า มึงจะทำอะไรแบบนี้ แบบว่า...มหัศจรรย์จนกูคิดว่าตาฝาด" ไอ้ลมพูดขึ้นต่อ "งานนี้ต้องมีเลี้ยงฉลอง!"

"พวกกูไปซื้อดอกไม้ให้มึงแทบไม่ทัน รางวัลที่มึงได้มา ก็เพราะพวกกูเลยนะเว้ย" ไอ้วิลพูดต่อด้วยรอยยิ้ม "ต้องตอบแทนพวกกูด้วยนะมึง"

ผมก็พยักหน้ารับอย่างขอไปที พร้อมกับชี้นิ้วไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองที่กำลังแนบหูอยู่เป็นการบอกว่า อย่ามานยุ่งตอนนี้ ซึ่งพวกมันก็เข้าใจ แล้วหันไปคุยกันเองต่อ

ผมเดินออกมายังบริเวณด้านนอกเพื่อหาความเงียบ และในขณะที่ผมเกือบจะตัดสินใจตัดสาย เมื่อไม่ได้รับการตอบรับกลับมา เสียงของปลายสายก็ดังขึ้น

[ครับ...]

“กูจะกลับช้าหน่อย” ผมบอก แล้วฟังเสียงถอนหายใจตอบรับกลับมา

[แล้วจะกลับกี่โมง]

“ยังไม่รู้” ผมบอก อาจเป็นเพราะน้ำเสียงเหมือนเหนื่อยใจที่ถ่ายทอดออกมา ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย  “แต่ไม่เกินเที่ยงคืนหรอก”

[อืม เดี๋ยวพี่ไปรับ]

“ไปรับ?...” ผมพูดขึ้นอย่างสงสัย  ทว่ายังไม่ทันที่จะไขข้อข้องใจ ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์ก็ผ่านเข้ามาในสายตา และเมื่อเราสบตากัน อีดฝ่ายก็ยักคิ้วให้พลางระบายยิ้มอย่างมีเลศนัย

ผมขมวดคิ้ว แล้วกดตัดสายทันที ความรู้สึกไม่ดีก่อนหน้านี้หายไป เมื่อเห็นท่าทางอวดดีของผู้ขายที่ยืนยิ้ม แถมยังโบกมือให้อยู่ตรงหน้า

ไอ้แทม!

 

TBC ++++++++++

 :a5: Marionetta :::  สวัสดีค่ะ มาต่อตอนใหม่แล้วจ้า อิอิ

สำหรับตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากการประกวด แต่ก็พอให้เห็นบางมุมของน้องเตยแล้วกันนะคะ แฮะๆ
ขอบึุณที่ยังติดตามจนถึงตอนนี้ค่ะ คงมาลงที่นี่ช้าหน่อยนะคะ ถ้ายังไงก็สามารถติดามได้ที่หน้าแฟนเพจจ้า

ปล. ลงลำดับตอนที่แล้วผิด แบบไม่รู้ตัวเลย   o22


ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [27/10/2014]
«ตอบ #238 เมื่อ27-10-2014 22:58:43 »

Popular vote ซะด้วย

พี่แทมหมดตัวไปเท่าไหร่ล่ะเนี๊ยะ???

ออฟไลน์ army_van

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ♛ PLAYBOY LOVER ♛ PLAYBOY # 24 ❤ [27/10/2014]
«ตอบ #239 เมื่อ28-10-2014 19:24:19 »

อ่านทันแล้วววววววววว

พี่แทมนี่ สุดๆเลยยยยยยยยยยย 

เมื่อไรเตยจะมองพี่แทมมั้งน้าาาาาา

รอตอนต่อไปค่าาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด