“แทม นอนหรือยัง”
ผมหันไปมองที่หน้าประตูห้องนอน ก่อนจะเห็นเตยที่เดินเข้ามา พร้อมกับกาแฟหอมกรุ่นที่เรียกความสนใจของผมได้เสมอ
“อ่า...ขอบคุณครับ” ผมบอก ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ “แล้วอ่านหนังสือสอบจบแล้วหรือ”
“อืม” เตยตอบรับ พร้อมกับวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะของผมด้วยใบหน้าที่แต้มอมยิ้มเอาไว้
ตอนนี้เข้าสู่เทศกาลสอบไฟนอล ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของเทอมนี้แล้วครับ ผมมีตารางสอบเพียงไม่กี่วิชา แต่ที่น่าหนักใจ ก็คือโปรเจกต์ประจำเทอมที่จะต้องสอบอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว ความรู้สึกไร้สาระที่เกิดขึ้นช่วงนี้เลยต้องถูกปัดออกไปก่อน
"แล้วพรุ่งนี้มีสอบตอนไหน" เตยถาม ก่อนจะเดินเข้ามาจับพนักเก้าอี้ที่ผมนั่ง แล้วโน้มตัวลงมองหนังสือที่ผมกำลังอ่านอยู่ ผมเลิกคิ้วขึ้น พลางเลื่อนสายตาไปมองเสี้ยวใบหน้าทรงเสน่ห์ที่อยู่ในระยะลมหายใจผ่านผิวแก้ม "เหลืออีกเยอะหรือเปล่า"
"สอบเช้า" ผมตอบคำถามแรก ก่อนจะเชื่อมสายตากับคนที่หันมามอง ตอนนี้ผม รู้สึกเหมือนเตยกำลังกอดผมเอาไว้ ทั้งที่ไม่ได้โดนตัวของผมแม้แต่น้อย "เหลือไม่เยอะหรอก ทำไมหรือ"
"เปล่า" เตยตอบเสียงเบา ก่อนจะยีนเต็มความสูง "อย่านอนดึกมากแล้วกัน กู...เป็นห่วง"
ผมยิ้มรับเล็กน้อย และทุกอย่างก็คงจะไปได้สวย ถ้าหากเตยไม่ได้ลูบศีรษะของผม แล้วจูบที่ขมับแผ่วเบา ราวกับผมเป็นเด็กน้อยที่กำลังถูกปกป้องดูแล
ผมขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม หลังจากได้อยู่ตามลำพังเหมือนเดิมอีกครั้ง
เฮ้อ...ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยว่ะ...
++++++++++
วันนี้เป็นวันที่มีแดดเล็กน้อย ท้องฟ้าค่อนข้างมืดครึ้มเหมือนฝนใกล้จะตก แต่สภาพอากาศในตอนนี้ ก็ยังสู้ความขุ่นมัวในใจของผมไม่ได้
"ไอ้เหี้ย!" ผมทักเพื่อนสนิททันทีที่เปิดประตูห้องออก ไอ้เก้าก็แค่ยิ้มรับอย่างไม่สนใจ
“คนอุตส่าห์มาหา อย่าทำหน้าทุเรศต้อนรับสิวะ” ไอ้เก้าว่ากลับ พร้อมกับเดินเข้ามาในห้องพักของผม แล้วส่งรายงานเล่มหนึ่งมาให้ “นี่กูไปนั่งแก้ตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จ แล้วมึงมีอะไรกินมั่งวะ”
“เอาส้นตีนกูไปแทะเล่นก่อนไหม” ผมบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่ก็รับรายงานเล่มหนาเอาไว้ “มึงไม่ต้องมาอ้างเลยว่ะ ไอ้บอสเป็นคนแก้ใหม่ ส่วนมึงก็แค่เอางานมาโยนให้กูที่นี่”
“ก็แค่ไปส่งรูปเล่ม กับเข้าฟังสัมมนานิดหน่อย ทำไมมึงต้องอารมณ์เสียด้วยวะ” ไอ้เก้าบ่นออกมา ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “กูมีธุระไปกับมึงไม่ได้จริงๆ”
“ไอ้บอสติดสอนเด็ก กูเข้าใจ แต่มึงติดนัดฟันสาว กูรับไม่ได้!” ผมว่า แล้วตบกะโหลกคนตรงหน้าไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้ เมื่อมันหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ไอ้คุณเพื่อนแทม มึงเข้าใจไหม นี่มันเป็นโอกาสสุดท้ายของกูกับน้องเยลลี่แล้ว” ไอ้เก้าบอก แล้วมองผมด้วยท่าทีจริงจัง “ถ้าปิดเทอมแล้ว กูยังไม่ได้แอ้ม กูต้องเสียเวลารอจนถึงเปิดเทอมหน้า เพราะน้องเขาต้องกลับบ้านนอกพรุ่งนี้ มันเสียสถิติที่กูสั่งสมมาตลอดยี่สิบเอ็ดปีเลยนะเพื่อนรัก”
“ไอ้สัด!” ผมด่ากลับ ก่อนจะตบกะโหลกของมันอีกรอบ แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความไม่สบอารมฺณ์
ตอนนี้ตารางสอบของผมหมดแล้วครับ เมื่อวานนี้ผมก็เพิ่งสอบโปรเจกต์ผ่านไปเรียบร้อย เพียงแต่มีเนื้อหาในรายงานบางส่วนที่ต้องกลับมาแก้ไข แล้วส่งใหม่ในวันพรุ่งนี้ แถมอาจารย์ยังบังคับให้พวกผมไปนั่งฟังสัมมนาวิชาการเพื่อต่อยอดโปรเจกต์ที่ต้องทำต่อเทอมหน้าด้วย แต่ไอ้เก้าที่ว่างงานดันทิ้งผมให้แบกรับความรับผิดชอบทั้งหมดเอาไว้คนเดียว
“โธ่! ไอ้แทม ธรรมดามึงไม่ใช่คนอารมณ์เสียง่ายนี่หว่า ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเอง” ไอ้เก้าพูดต่อ ก่อนจะส่งยิ้มกวนประสาท “เอาน่าๆ ตอนนี้มึงไปเอาเบียร์มาเสิร์ฟกูได้แล้ว”
“ถ้ามึงไม่อยากโดนกระทืบจนต้องกินเลือดตัวเองแทน ก็เดินไปหยิบเอาเอง” ผมบอกเสียงเย็น แล้วเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง เพื่อเอารายงานสำคัญไปเก็บ
“มึงนี่นิสัยเสียจนถึงแก่นแล้วสินะ” ไอ้เก้าว่า พลางส่ายหน้าเหมือนหนักใจ ก่อนจะเดินไปหยิบกระป๋องเบียร์ที่ผมแช่เอาไว้ในตู้เย็น แล้วเดินเข้ามาในห้องนอนของผมต่อ “กูว่าพักนี้ มึงดูรุนแรงผิดปกติ ไม่ได้กินเด็กนานหรือไง ว่าแต่...เด็กมึงไม่อยู่หรือวะ”
“อ่านหนังสือสอบอยู่ในห้อง” ผมตอบเสียงห้วน ไอ้เก้าก็พยักหน้ารับ แล้วมองผมด้วยสายตาน่าถีบ
“เรื่องของมึงไปถึงไหนแล้ววะ” ไอ้เก้าถามต่อ ผมก็หันมามองด้วยความสงสัย
“เรื่องอะไร” ผมถามกลับ แล้วยกกระป๋องเบียร์ที่ไอ้เก้าหยิบมาเผื่อขึ้นดื่ม
“ก็เรื่องน้องเตยของมึงไง จัดการได้หรือยัง อัปเดตให้ฟังหน่อยสิวะ” ไอ้เก้าบอกด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะลิ้มรสขมที่เย็นฉ่ำด้วยความเบื่อหน่าย
“ยัง” ผมตอบเสียงเรียบ แล้วเดาะลิ้นในปากอย่างนึกเซ็งอารมณ์ขึ้นมา ก่อนจะมองใบหน้าประหลาดใจของเพื่อนสนิท
“เกิดอะไรขึ้นวะ นี่มันนานเกินไปแล้วนะเว้ยไอ้แทม” ไอ้เก้าถามต่อด้วยความสงสัย แล้วขมวดคิ้วมองผมอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น “อย่าบอกนะว่า...มึงโดนเข้าแล้ว!”
“มึงนั่นแหละที่จะโดนกูอัด ไอ้เหี้ย” ผมด่ากลับ พลางขมวดคิ้ว แต่คนตรงหน้าก็แค่หัวเราะออกมาเท่านั้น
“แล้วทำไมมึงถึงปล่อยไว้นานนักวะ แผนที่มึงวางเอาไว้ไม่ได้เรื่องหรือไง” ไอ้เก้าถาม ก่อนจะยกเบีนร์ในมือของตัวเองขึ้นดื่มต่อ
“แผนของกูสำเร็จ แต่ไม่ทั้งหมด” ผมตอบเสียงเอื่อย เมื่อเห็นอีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้น ผมก็ลอบถอนหายใจออกมา “ช่างเถอะ...ตอนนี้กูเบื่อแล้ว”
“ข้ออ้างเพราะจัดการไม่ได้หรือเปล่าวะไอ้แทม” ไอ้เก้าย้อนถามด้วยรอยยิ้มเย้าแหย่
“น้องเขาสารภาพรักกับกูแล้ว แต่ไม่ยอมให้กูเอาว่ะ” ผมบอกออกไปตามตรง แล้วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มึงเข้าใจไหมวะ”
“ไอ้แทม...น้องเขาจะจัดการมึงแทนหรือวะ” ไอ้เก้าย้อนถามอีกครั้ง พร้อมกับมองใบหน้าของผมนิ่ง แต่แววตากลับระยิบระยับจนน่าต่อย “แต่มันก็ท้าทายดีอย่างที่มึงชอบไม่ใช่หรือไง”
“ก็ใช่ แต่แม่งเล่นยากฉิบ” ผมบอกแกมบ่น แล้วชักสีหน้าออกมา "แล้วตอนนี้เตย ก็ทำให้กูระแวง"
“มึงกลัว?” ไอ้เก้าถามกลับด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ พลางหรี่คาลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่รู้ว่ะ” ผมตอบ แล้วหันไปมองท้องฟ้าที่มีเมฆสีเทากำลังลอยตัวอยู่ “เอาเป็นว่า...กูจะเลิกสนใจแล้ว ถึงจะรู้สึกเสียดายเวลาก็เถอะ”
บางที...ผมอาจจะกำลังกลัวใจของตัวเองอยู่ก็ได้
“ไอ้แทม มึงชอบน้องเขาจริงๆ หรือเปล่าวะ” ไอ้เก้าถามขึ้น พร้อมกับมองผมด้วยสีหน้าจริงจัง “กูไม่เคนเห็นมึงมานั่งรอหรือวางแผนเหี้ยอะไร เวลาจะนอนกับใครสักคนแบบนี้เลยว่ะ”
“กูไม่ได้รู้สึกอะไร” ผมบอก แล้วระบายยิ้มออกมา “ก็แค่สนใจเป็นพิเศษ เพราะน้องเขาแตกต่างจากคนอื่น แต่สุดท้ายก็รักกูเหมือนคนอื่นอยู่ดีนั่นแหละ”
“หื! งั้นหรือ” ไอ้เก้าตอบรับด้วยาีหน้ากวนอารมณ์ “แต่มึงถอนตัวแบบนี้ ก็ไม่สนุกเลยว่ะ”
“พูดมาก กลับไปได้แล้วมึง กูจะเล่นเกมต่อ” ผมว่ากลับด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก
“เอาไว้กูว่าง แล้วค่อยไปล่าเหยื่อกันหน่อยดีกว่า” ไอ้เก้าพูดขึ้น พลางกอดไหล่ของผมเอาไว้ “มึงจะได้ร่าเริงขึ้นหน่อย”
ผมก็แค่หัวเราะรับเล็กน้อย ก่อนจะคลายรอยยิ้มลง เมื่อเห็นเตยยืนอยู่ผ่านช่องว่างของประตูที่ถูกแง้มเอาไว้ ไอ้เก้าเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะยิ้มออกมา
“ว่าไงไอ้น้อง! สบายดีหรือเปล่าวะ” ไอ้เก้าทัก แต่คนตรงหน้าก็แค่มองด้วยสายตาเย็นชาเป็นคำตอบ ก่อนนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจะเลื่อนมาสบกับผมแทน
“นัดเมื่อไร มึงก็โทรหากูแล้วกัน” ผมหันไปบอกไอ้เก้าที่ยิ้มรับ และเมื่อมันกลับไปแล้ว ผมก็หันมามองเตยที่ยืนทำหน้าไร้อารมณ์แทน “มีอะไรหรือเปล่า”
“มี” เตยตอบเสียงเรียบ พร้อมกับมองผมไม่ละสายตา “มึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับกูเลย จริงหรือเปล่า”
“แอบฟังคนอื่นคุยกัน นิสัยไม่ดีเลยนะน้องเตย” ผมว่าด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก แต่คนตรงหน้ากลับแสดงท่าทางหงุดหงิดอย่างชัดเจน
“แทม!” เตยว่ากลับเสียงดุ พร้อมกับใข้สายตากดดันคำตอบ แต่ผมก็แค่ระบายยิ้มออกมา
“หึ...ก็อย่างที่ได้ยิน พี่ไม่ได้รู้สึกอะไร” ผมบอกด้วยท่าทีปกติ พร้อมกับมองสีหน้าที่กำลังจะเปลี่ยนไปของเตย “พี่แค่อยากฟันเล่นสนุกๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ...ตอนนี้พี่เบื่อแล้ว”
เกมที่เล่นจบไม่ได้ ก็คงต้องโยนทิ้งไปนั่นแหละ
“ที่ผ่านมา มึงคิดแค่นี้?” เตยถามต่อ ถึงแม้ใบหน้าจะยังนิ่งเฉย แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกลับสั่นไหวอย่างชัดเจน
“อืม แค่นี้แหละ” ผมตอบ แล้วเลิกคิ้วมองคนตรงหน้า “มีอะไรจะถามอีกหรือเปล่าครับ น้องเตย”
“ไม่มีแล้ว” เตยตอบเสียงต่ำ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง
ผมยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดประตูลง แล้วเดินไปหยิบบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเดินออกไปที่ระเบียงห้องนอนต่อ
ท้องฟ้ากลายเป็นสีทะมึน เมฆสีดำเข้าปกคลุมโดยรอบ เพียงไม่นานสายฝนก็หลั่งริน พร้อมกับเสียงฟ้าคำรามที่ดังกึกก้องและควันสีจางที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ ผมยืนมองทิวทัศน์เบื้องหน้า ก่อนจะแต่นยิ้มออกมา
เกลียดฝนชะมัด...
TBC +++++++++
Marionetta ::: 
ดีค่ะ! มาช้าหน่อย แต่ก้มาแล้วค่ะ แฮะๆ
ตอนนี้ก็เป็นช่วงที่พี่แทมกำลังสับสนแลหวั่นไหวค่ะ อิอิ แล้วก็เข้าทำนองที่ว่า ฉันต้องทำ...ทำอะไราสักอย่างแล้ว 555
แต่จะเป็นยังไงต่อ ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปนะคะ เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเรื่องแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณที่ยังติดตาม รวมถึงช่วยดูคำผิดให้ด้วยนะคะ
คิดว่าจะไม่มีใครอ่านซะแล้ว ดีใจมากเลย เย้ๆ

ปล. ที่นี่แฟนคลับพี่แทมเยอะจริงๆ ตอนหน้าเจอกับน้องเตยค่ะ