ลิขิตรักเด็กขายน้ำ... [Ep.36 พี่ปัน] คือรัก.... [14/06/57] p.6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักเด็กขายน้ำ... [Ep.36 พี่ปัน] คือรัก.... [14/06/57] p.6  (อ่าน 40507 ครั้ง)

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


                                                                  ...............................................




                            "สวัสดีครับ....."


                            "..................."


                 เออ....ไม่ต้องมองคนอื่นหรอกครับ แกะคุยกับคุณนั้นแหละก็สวัสดีครับ แนะนำตัวกันหน่อยเนาะ แกะชื่อแกะนะครับอยากจะเรียกอะไรก็ได้ตามสบายเลยครับ


                 นิยายเรื่องนี้ไม่มีNCนะครับ...   

                 ก็หวังว่าพี่ปันกับน้องหมอกจะทำให้คนอ่าน'รู้สึก'ไปได้กับพวกเขานิยายเรื่องนี้จะจัดเป็นประเภทไหนก็ไม่รู้แกะก็แค่อยากเขียนเรื่องราวของคนคู่หนึ่ง...ก็แค่ความสัมพันธ์ปกติทั่วไปที่เราๆเรียกกันว่า'รัก'

                 ขอบคุณทุกคนมากครับ

                 แกะซ่า :กอด1:
 
 
                         -------------------------------------------------------------------
 
 
 
"หื่อ....อื่อ...เจ...เจ็บ พอแล้ว อย่...อย่า อื้ออออ "
 
 
เสียงข้างๆห้องของคนที่กำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ร้อนแรงดังขึ้นปลุกผมจากนิทรา 
 
อีกแล้วเหรอ  ? นี้มันวันจันทร์นะเว้ย !!! 
 
ถึงใจจะคิดแบบนั้นแต่ร่างกายก็ปฏิบัติตามคำสั่งในหัวอยู่ดี ผมลุกขึ้นบิดขี้เกรียจแบบไม่ยินดียินร้ายกับเสียง'คราง'ที่ยังคงดังลั่นต่อเนื่อง...
 
ชิน...
 
ถ้าจะใช้คำนี้ก็คงไม่ผิดนัก...ผม'ชินชา'กับอะไรพวกนี้ซะแล้ว...
 
'แอ๊ดดดดดด....'
 
ผมเปิดประตูแล้วเดินลงไปยังห้องครัวจากชั้น3ของตึก หาอ่างแสตนเลทเล็กๆเทน้ำร้อนใส่ลงไปแล้วผสมให้น้ำมันอุ่นๆพอประมาณ เตรียมผ้าผืนเล็กๆอีกผืนพร้อมยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบพ่วงด้วยพลาสเตอร์ปิดแผล...
 
ไม่อยากคิดสภาพจริงๆรอบนี้พี่เทสจะโดนแบบไหน...
 
พอย้อนกลับขึ้นมาบนห้องผมก็สวนทางกับ'ต้นเหตุ'ที่ทำให้เกิดเสียงครางดังขึ้น
 
"หวัดดี หนูน้อย"
 
'มัน'ทักผมพร้อมทั้งติดกระดุมเสื่อเชิ้ตไปด้วย ผมพยามเดินเลี่ยงด้วยการจะหลบไปอีกทางแต่อีกฝ่ายไม่ยอม
 
"ทำหน้าหงิกหน้าหงอแบบนั้นไม่พอใจอะไรรึไง ? ไม่ดีใจเหรอฉันมาใช้บริการแค่พี่ชายนายคนเดี่ยวนะ หึหึ"
 
".............................."
 
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมโดนมันพูดใส่และไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำหน้านิ่งไม่ยินดียินร้ายใส่มัน 
 
เพราะอาการที่ตอบสนองเป็นแบบนั้นมันถึงได้เขม่นหน้าผมตลอดมา แต่ดูเหมือนครั้งนี้อีกฝ่ายต้องการจะเอาเรื่องผมเต็มที่ถึงขนานยืนมือโสโครกของมันมาจับที่ใบหน้าของผม
 
เสียดายจริงๆที่นี้ผม'ไม่มีสิทธิ์'ตอบโต้ลูกค้า...ไม่งั้นก็ได้มีสักหมัดสองหมัดล่ะนะ !!!
 
"หึ เก่งให้ได้ตลอดนะไอ้หนู...ฉันจะรอ...วันไหนที่แกขึ้นเป็น'สินค้า'ฉันนจะรอ'เปิด'แกคนแรกเลย เตรียมตัวไว้เถอะ"
 
พอมันพูดจบก็ปล่อยมือออกจากหน้าของผมก่อนที่จะเดินลงไปชั้นล่าง
 
นั้นสินะ...
 
ไม่นานผมก็คงไม่ต่างจากรุ่นพี่คนอื่นๆที่อยู่ที่นี้
 
เป็นได้เพียง....'เด็กขายน้ำ'
 
 
 
 
 
                                             .................................
 
 
 
'แอ๊ดดดดด'
 
"พี่เทส เป็นไงบ้าง ?"
 
ผมเปิดประตูห้องเข้าไปหาบุคคลที่เป็นปลายเสียงครางที่ดังปลุกผม ร่างหนาผงกหัวขึ้นมามองก่อนจะทิ้งตัวลงดังเดิมทั้งๆที่ทั้งตัวเหลื่อแค่เพียงผ้าขนหนูผืนเล็กที่ปิดปกคลุมจุดสงวนเอาไว้
 
"มีความสุขมั่งไอ้บ้า ก็เจ็บดิถามได้ ไอ้เหรี้ยนี้ก็จริงๆเลย เล่นยิงยาวจากตี2ยันเกือบสว่าง"
 
คนนอนหมดแรงร้องตอบกลับมาอย่างทรมานสังขาร ถึงจะเคย'ผ่าน'มาขนานไหน แต่ช่องทางที่ไม่ใช่ธรรมชาติย่อมเจ็บปวดเป็นธรรมดา
 
"มา เดี่ยวหมอกเช็ดตัวให้"
 
คนถูกประนิบัติยันตัวขึ้นมาพิงขอบเตียงก่อนที่ผมจะค่อยๆไล่เช็ดน้ำโสโครกทั้งหลายที่หลงเหลือยู่บนร่างกายให้หมดไป พร้อมยื่นยาแก้ปวด แก้อักเสบแถมให้ด้วย
 
และผมคงต้องพูดประโยคเดิมอีกครั้ง มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ผมต้องมาช่วยเหลืออีกฝ่ายแบบนี้
 
"แล้วไปรร.ไหวมั้ย ?"
 
ผมถามพลางมองหน้าเหยเกของพี่เทสหลังจากผ้าของผมไล่โดนจุดที่เป็นรอยแดงจ้ำ'มัน'ก็ช่างเลวได้ใจ ชอบทิ้งรอยไว้ในที่ๆเห็นง่ายดูอย่างครั้งนี้สิครับเล่นตีตราไว้ที่ซอกคอ สารเลวได้ใจจริงๆ
 
ไอ้เลวเอ๊ย 
 
ผมสถบในใจอย่างหัวเสียก่อนจะพยายามเบามือเช็ดอีกฝ่ายต่อไป
 
"ต้องไหวดิ วันนี้กูมีเทสเคมี ขาดแล้วเดี่ยวพวกให้้กูแค่คาบเส้นอีก แถมเมื่อคืนเพราะมันนั้นแหละกูเลยไม่ได้อ่านหนังสื่อสักหน้า"
 
พออาการทางร่างกายเริ่มดีขึ้น พี่เทสหรือชื่อเล่นเต็มๆว่าเทสโต้ก็บ่นยาวาก่้อนควานหาแว่นตาแถวๆโคมไฟบนขอบเตียงพอได้มาเจ้าตัวก็สวมมันลง 
 
เจ้าของแว่นมองหน้าผมตรงๆอีกครั้ง...
 
....แววตาที่ส่งมาให้ผม มันสื่ออารมณ์ที่ทั้งขอบคุณและขอโทษ...
 
"เฮียเก่งอยุ่แล้ว แค่นี้จิ๊บๆ"
 
"ถ้ากูเก่งจริง กูคงพามึงหนีออกไปจากนรกนี้ได้แล้วล่ะ หมอก...กูขอโทษ กูไม่น่าชวนมึงมาอยู่กับกูเลย..."
 
คนพูดสื่ออารมณ์ที่จริงจังอีกครั้งหนึ่ง...
 
ผมทิ้งตัวลงไปนั่งที่ขอบเตียงข้างๆพี่เทสก่อนจะกุมมือข้างซ้ายเบาๆแล้วพูดตอบ
 
"มันไม่มีใครรู้หรอกพี่ว่าชีวิตเราจะเป็นแบบนี้หรือแบบไหน หมอกไม่อยากให้พี่โทษตัวเอง หมอกรู้...ว่าพี่หวังดีและไม่รู้เรื่องของ'ที่นี้' ตอนนั้นถึงได้ชวนหมอกมาอยู่ด้วยกันในบ้าน...ไม่สิ 'ซ่อง'แห่งนี้..."
 
ผมพูดแบบไม่ยินดียินร้ายอะไรนักกับชะตาชีวิตของตัวเอง
 
เด็กกำพร้าอย่างผมได้มาอยู่ที่นี้ก็เพราะการชวนจากพี่เทสที่ตอนนั้นก็อยู่บ้านกำพร้าหลังเดี่ยวกับผมเพียงแต่หลังจากนั้นพี่เขาก็ได้รับการอุปการเลี้ยงดูจาก'แม่เลี้ยงอรอนงค์'
 
เลี้ยง...เพื่อ'ขาย'
 
ด้วยความที่ยังเด็กและไม่ประสีประสา พี่เทสเองนั้นแหละที่เป็นคนเอ่ยปากชวนผมมาอยู่ที่นี้ แรกเริ่มทุกอย่างมันดูดีไปหมด มีบ้านที่มีที่นอนอุ่นๆ มีอาหารดีๆได้กินทุกวัน ได้เรียนโรงเรียนเอกชนหรูๆ 
 
ทั้งหมดที่ผมว่ามานั้นแม่เลี้ยงทำให้ก็แค่ต้องการ'เพิ่มมูลค่า'ของ'สินค้า'
 
เพราะเด็กเอกชนนั้นโก่งค่าตัวได้มากกว่าพวกเด็กโรงเรียนธรรมดาทั่วไป...
 
ที่นี้แค่เปลี่ยนจากเด็กผู้หญิงเป็นเด็กผู้ชาย ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกผมนั้น'ท้อง'ไม่ได้ ไม่ต้องมาดูแลมากมายเหมือนเด็กผู้หญิง
 
....ถ้าจะเปรียบที่นี้เป็นสถานที่เลี้ยงดูสัตว์อะไรสักอย่างยังพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าใช่ ก็แค่เลี้ยงแล้วรอวันที่พร้อมจะขาย...
 
สาเหตุที่ผมรอดมาจนถึงทุกวันนี้เพราะอายุของผมยังไม่ถึง16...
 
หึ...อย่าคิดนะครับที่แม่เลี้ยง'ไม่ขาย'ผมตั้งแต่เด็กนั้นแกกลัวผมรับไม่ได้รึว่าอะไร
 
ก็แค่กลัวสินค้าเสียหาย ก่อนเวลาอันควร...
 
บัดซบจริงๆ....
 
"หมอก...รอพี่นะพี่จะรีบเรียนจบไวๆ พี่จะจบหมอให้ได้และพี่จะพาเราออกไปจากนรกนี้"
 
พี่เทสกุมมือของผมพร้อมบีบเบาๆแทนคำสัญญา ผมพยักหน้ารับก่อนจะพยายามสั่งให้ตัวเองฝืนยิ้มออกมา สักพักพออาการดีขึ้นพี่เทสก็ขอตัวไปอาบน้ำชำระคาบสกปรกต่างๆ...
 
ผมไม่รู้...ไม่รู้เลยจริงๆ
 
ว่าวันที่คำสัญญาของพี่เทสมันจะ...
 
มันจะมาถึงจริงๆรึเปล่า...
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
                                       .........................................
 
 
 
TBC. ****แก้ไขเพิ่มเติม


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2014 18:32:32 โดย ลูกแกะสีขาวขุ่น »

ออฟไลน์ t152_rakjai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
น่าสนุกมากค่ะ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

รอตนต่อไปจ๊า  :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

kanokkan_kathi

  • บุคคลทั่วไป
ชอบนิยายหน่วงจิตและเสพติดดราม่า  :hao3:

ใช่เลย มันใช่เลย เรื่องนี้เลยยยย  :hao7:

รอตอนต่อไปนะคะ  :bye2:

ออฟไลน์ supermyrainbow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เนื้อเรื่องมันน่าติดตามมาก

นายเอกดูน่าสงสารมาก


พระเอกจะใช่คนนั้นหรือเปล่านะ

ติดตามตอนต่อไป ☺

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป


หลังจากพี่เทสเข้าไปอาบน้ำผมก็เดินกลับไปห้องตัวเองซึ่งอยู่ข้างๆแล้วจังแจงอาบน้ำแต่งตัวบ้างจะว่าไปแล้วไม่ใช่แค่พี่เทสหรอกที่วันนี้มีสอบ...

กูก็มีนิหว่า... แต่เมื่อคืนไม่ได้อ่านสักหน้า

ใช้เวลาไม่นานนักพอผมแต่งตัวเสร็จก็เดินออกไปรอพี่เทสที่ห้องครัวด้านล่าง จัดแจงอุ่นกับข้าวซึ่งผมทำไว้เมื่อวานพร้อมทั่งเสียบปลั๊กอุ่นหม้อหุงข้าว ข้าวสวยที่อุ่นยังไม่ทันร้อนพี่เทสก็เดินลงมาที่ห้องครัว

“วันนี้เราเลิกกี่โมง”

พี่เทสถามมาระหว่างนั่งรอข้าวเด้ง

“4โมงกว่า วันนี้หมอกมีงานที่ร้านพี่อินนะ”

ที่ต้องถามกันแบบนี้เพราะผมกับพี่เทสอยู่คนละรร.กันถึงจะเป็นเอกชนเหมือนกันก็เถอะแต่เราทั้งคู่ก็อยู่ในรร.ที่เป็นสาขาวงวานเดี่ยวกันอยู่ดีนะน่ะ

ไม่นานเกินรอข้าวก็เด้งขึ้นมา ผมตักเสิร์ฟข้าวสวยให้พี่เทสพร้อมของตัวเองก่อนจะตักกับข้าวกินตาม นั่งเขี่ยไปมาจนกับข้าวเริ่มหร่อยหรอ

“อ้าว ลูกๆตื่นกันแล้วเหรอ ?”

เสียงสาวๆดังขึ้นมาก่อนที่จะปรากฏร่างของแม่เลี้ยงอรอนงค์

หญิงสาววัยกลางคนเดินเข้ามาหาพวกเราก่อนจะเอือมมือมาลูบหัวของพี่เทสเหมือนแม่คนหนึ่งทีดูอบอุ่นและหยอกล้อเล่นกับลูกชายของตนถ้าเป็นคนอื่นที่มาเห็นภาพนี้คงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างรักลูกของตนเหลือเกินแต่ผมกับพี่เทสเราทั้งคู่กับมีความรู้สึกเดี่ยวที่ตรงกัน

ขยะแขยง...

“เทสโต้ ลูกทำได้ดีเหมือนเดิมนะ ‘ลูกค้า’พอใจมากเลยนะ...หึหึ วันนี้แม่ใจดีจะให้เงินลูกๆกันคนละพัน”

ปีศาจร้ายกล่าวกับพวกผมก่อนจะหันไปหอมแก้มพี่เทสพร้อมทั้งเปลี่ยนมาลูบหัวผมแทน...

ช่วยเอาออกไปที่เถอะ...ขยะแขยง.....

“หมอก...แม่จะรอนะ...”แม่เลี้ยงอรอนงค์พูดขึ้นที่ข้างๆหูผม

“รอวันที่ลูกจะอายุครบ16ปี....อีก2เดือนเท่านั้น....”

ใช่ครับ...อีก2เดือนจะเป็นเดือนเกิดของผมและผมจะอายุครบ16ปี...ไม่อยากให้มาถึงเลยจริงไอ้วันเกิดบ้าๆแบบนี้..
อยากตายจริงๆ

พอวางเงินที่ผมกับพี่เทสรู้กันดีว่าเป็นเงิน‘ส่วนแบ่ง’จากลูกค้าเมื่อคืนก็เท่านั้น นางปีศาจร้ายก็ย่างกายออกไปข้างนอก ดูจากทรงแล้วก็คงไปบ่อนแต่เช้าเหมือนเคย

น่าแปลกที่ยายปีศาจนี้ไม่เคยโดนจับเลยสักครั้ง ไม่ว่าบ่อนจะแตกหรือไม่ก็ตาม...

ผมกับพี่เทสหมดอารมณ์จะกินต่อต่างคนต่างเก็บจานไปล้างก่อนจะเดินออกไปรอรถเมล์ที่หน้าปากซอยของพี่เทสนั่งต่อเดี่ยวก็ถึส่วนผมต้องไปทางBTSจึงจะถึงโรงเรียน

“เจอกันที่บ้านะ”

พี่เทสบอกกับผมก่อนจะก้าวขึ้นรถเมล์ไป

ผมยืนสูดหายใจลึกๆกับตัวเองก่อนจะเดินไปขึ้นวินมอไซร์และนั่งไปยังสถานนีBTSที่อยู่ใกล้ๆ….

เพราะชีวิตต้องเดินต่อไป....
 



                                ------------------------------------------------------
 

“โยธาวิน”

“มาครับ”

ผมขาดรับก่อนจะยกมือให้อาจารย์ที่กำลังเช็คชื่อเห็นตัวตน ตอนนี้กำลังเรียนคาบชีวะที่โคตรจะน่าเบื่อออแต่พอนั่งๆนอนๆผงกหัวถูไถไปกับโต๊ะไม่นานก็จบคาบชีวะลง ต่อไปก็คาบแนะแนว ดีหน่อยที่อาจารย์แนะแนวค่อนข้างใจดี

“นักเรียกทั้งหมดทำความเคารพ”

“สวัสดีครับ”

เสียงเด็กผู้ชายทั้งห้องดังขึ้นหลังอาจารย์สุดารันต์ผู้สอนวิชาแนะแนวเข้ามา

“สวัสดีนะค่ะนร.ทุกคน วันนี้ครูมีกิจกรรมดีๆมาฝาก เอาสมุดขึ้นมาแล้วลอกตามบนไวท์บอร์ดนะค่ะ”

คาบแนะแนวสำหรับม.4จะยังไม่มีอะไรมากครับ มีแค่แบบทดสอบทางจิตวิทยาเล็กๆน้อยๆหรือประชาสัมพันธ์การเรียนพิเศษอะไรราวๆนี้พอหลังจากทำแบบทดสอบเสร็จ อาจารย์สุดารัตน์ก็ได้เชิญพี่ผู้หญิง2คนที่มาจากยูฯชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ

“เอาล่ะ วันนี้จะมีพี่ๆจาก...มาแนะนำข่าวดีให้กับนรนะค่ะ”

อาจารย์สุดารันต์กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะยกหน้าที่ส่งต่อให้พี่ๆทั้ง2คน

“สวัสดีค่าน้องๆ วันนี้นะค่ะพี่2คนเป็นตัวแทนจากคณะที่รวบรวมคนหน้าตาดีไว้ทั้งประเทศนะค่ะ ไหนในห้องนี้มีใครอยากเข้านิเทศฯบ้างค่ะ”

พี่ผู้หญิงตัวเล็กพูดขึ้นก่อนจะเอ่ยถึงคณะยอดฮิตคณะหนึ่งของประเทศเรา

“สำหรับวันนี้นะค่ะ พี่มีกิจกรรมดีๆสำหรับน้องๆที่ยังไม่แน่ใจว่า ตัวเองชอบคณะอะไรหรืออยากเรียนอะไร จำไว้เสมอนะค่ะการเรียนเป็นเรื่องสำคัญที่น้องๆควรจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งแดงแจ๊ ไหนขอตัวแทนห้องนี้หน่อยสิ ขอ1คนค่า...”
พี่ผู้หญิงอีกคนที่ใส่แว่นตาสีดำอันโตพูดขึ้น


“.............................”

พวกที่นั่งเรียนในห้องเริ่มหันกันไปมองหน้าไปมา ผ่านเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นตัวแทนอาสากล้าตายดี

“ไอ้หมอก มึงยกดิ”

ไอ้เต้เพื่อนข้างๆผมไซโค...แต่ขอโทษกูไม่เอาหรอก

“ถ้าไม่มี อย่างงั้นพี่จะขอสุ่มเลขที่นะ ห้องนี้มีเลขที่ถึงเลขที่เท่าไหร่จ๊ะ”

“37ครับ”

ดนัยหัวหน้าห้องเป็นคนตอบ ก่อนที่พี่ทั้งสองคนจะหันกันไปซุบซิบเบาๆ

“วันนี้เลขที่18...งั้นพี่ขอเลือกเลขที่....”

เสียงพี่ผู้หญิงตัวเล็กดังขึ้นก่อนผมจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะตัวเองเลขที่17ครับ 18ก็ไอ้เต้พอดี กร๊ากกกกกกกก

“18 - 1ค่ะ”

“......................”

“เลขที่17นะคะ ใครค่ะออกมาเลย”

สายตาเพื่อนทั้งห้องเบนเข็มมาที่ผม เช๊ดโด่วววววว แล้วพี่จะลบเลขทำม๊ายยยยยยยครับเอา18ไปเลยก็ได้ ดูสายตาไอ้เต้สิ โคตรตอกย้ำผมอ๊ะ

“สวัสดีค่า น้องชื่ออะไรค่ะ ?” พี่ที่ใส่แว่นถามขึ้น

“หมอกครับ....”

“ว๊ายยย ชื่อน่ารักจัง พี่ชื่อนุ่มนิมค่ะ แล้วน้องโสดมั้ยค่ะ ?”

รอบนี้เป็นพี่ตัวเล็กพูดถามผม

“โสดครับ...”

“โอเคค่ะ งั้นเราไปจดทะเบียนสมรสกัน”

จบคำ พี่แกก็ทำท่า...ไม่สิ ควงแขนผมจะเดินออกไปนอกห้องจริงๆ พี่อีกคนต้องห้ามทัพตัดมุกไว้ได้ทัน ส่วนผมนะเหรอติดสตั้นไปแล้วครับ

แหม พี่เล่นง่ายนะ  แค่รู้จักชื่อจะดึงผมไปจดทะเบียบซะแล้ว

“มันยังไม่มีแฟนแต่มันมีผัวแล้วครับพี่”

เสียงทุ้มๆเสียงหนึ่งดังขึ้นทะลุกลางป้อง ทำให้ทั้งห้องหัวเราะกันระนาว ผมเองก็คงหัวเราะแล้วด่ามันกลับไปถ้าไม่ติดว่าเมื่อเช้าโดนคำพูดอะไรตอกหน้ามา

เริ่มรู้สึกว่าหน้าชา ไม่อยากมองหน้าใคร....

.....จนในเสียงในห้องเริ่มเงียบลงเพราะสังเกตเห็นได้

“เออ...หมอก กูขอโทษ กูล้อมึงเล่นเฉยๆ”

ร้อนถึงไอ้คนปากหมาต้องออกมาหน้าห้องเพื่อขอโทษผม

“ป่าว กูไม่ได้เป็นไร แค่อยากแกล้งมึงคืน”

เพื่อหยุดสถานการณ์ต่างๆรอบตัว ผมพยายามยิ้มกลบเกลื่อนก่อนจะหันไปหาพี่ทั้งสองคนเป็นเชิงชวนให้สันทนาการต่อ...

“โอเค เป็นวันว่าเราได้ตัวแทนทั้งสองคนแล้วละค่ะ ดีมากเลยน้องหมอกที่ชวนเพื่อนออกมาด้วย”
คนตกกระไดพลอยโจนที่กำลังทำท่าจะเดินกลับไปเข้าที่นั่งถึงกับสะดุ้ง ไม่ทันแล้วละครับ ไอ้ซั้ซ สมน้ำหน้ามึงงงงง 

“น้องชื่ออาราย น้องชื่ออาราย”

พี่นิ่มเริ่มเล่นอีกครั้งด้วยการร้องคล้ายๆทำนองเพลง

“สายฟ้า...ครับ”

“ฮิ้ววววววววว สายหมอก สายฟ้า แหมม เข้าก๊านเข้ากัน”

รอบนี้สะดุ้งคู่ครับ พี่เล่นจี้จุดที่ไม่อยากฟังมากที่สุดเอาซะได้

“เอาล่ะค่ะ พี่จะร้องเพลงแจว ถ้าน้องๆเต้นกันถูกใจพี่จะให้เข้าไปนั่งที่ตกลงนะครับ”
พี่ขนุน(ที่ผมรู้ชื่อมาจากพี่นิ่ม)พูดอีกครั้ง ก่อนผมและไอ้ฟ้าจะพยักหน้าตอบรับ

“เริ่มเลยค่ะ เพื่อนๆช่วยกันร้องด้วยนะค่ะ เอ๊า แจวมะแจวจำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว อ๊าววววววแจวมะแจวจำจึกนึกถึงคนแจว แจวเรือไปซื่อมะนาว แจวเรือไปซื่อมะนาว ขอให้น้องทั้งสอง เต้นท่าคู่กัน เอ๊า มะแจวจำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว.........”

เสียงจังหวะเพลงดังขึ้นก่อนที่ผมจะถูกดึงมือจากไอ้คู่หูจำเป็นซึ่งต้องคิดท่าเต้นคู่สด สุดท้ายเลยได้เป็นท่าประหลาดๆประกอบจังหวะเพลง อย่าถามนะครับว่าทำท่าอะไร ขอใบ้แค่ว่าชาตินี้จะไม่เต้นอีกแน่ๆ หึหึ

“แจว แจวเรือไปซื่อมะม่วง แจวเรือไปซื่อมะม่วง ขอเชิญน้องทั้งห้องลุกขึ้นมาแจว เอ๊า....”

หลังจากพวกผมเต้นจบ พี่ๆทั้งสองคนก็ยังคงสันทนาการต่อกับพวกเราทั้งห้อง จากที่ไม่สนใจเริ่มกลายเป็นความสนุกสนานมากยิ่งขึ้นเพราะแก๊งนางฟ้าในห้องเริ่มปล่อยลวดลายจนพี่ๆสองคนเริ่มเหวอ(ขอบอกอีกครั้งรร.ผมนะชายล้วนนะเว้ยเห้ย!!!)

หลังจากทำกิจกรรมละลายพฤติกรรมอีกพอสมควร พี่ๆทั้งสองก็หยุดพักก่อนจะพูดต่อแบบเป็นการเป็นงาน

“สำหรับคณะของพี่ ในปีนี้ได้มีการเปิดค่าย แนะนำคณะของเรา พี่ขอบอกก่อนว่า การที่น้องติดค่ายไม่ได้หมายความว่าน้องจะติดคณะนี้ แต่การที่น้องได้ลองเปิดโลกกะทัด ได้ไปเจออะไรใหม่ๆ พี่ว่ามันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า วันนี้พี่ๆก็เอาใบสมัครมาแจก น้องๆคนไหนสนใจอย่าลืมาสมัครกันนะ แล้วพี่ๆจะรอนะค่ะ อ้อ ค่ายของเราจัดขึ้นช่วงปิดเทอมซัมเมอร์นี้นะค่ะ ”

หลังจากพูดจบพี่ๆทั้งคู่ก็ช่วยกันแจกใบสมัครซึ่งมีคำถามทั้งหมด7ข้อให้พวกเราตอบซึ่งบางคนก็สนใจ บางคนก็เฉยๆ ผมนั่งมองใบสมัครตรงหน้าก่อนจะค่อยๆไล่ดูคำถามแต่ละคำถามซึ่งบอกเลย...น่าสนใจมากครับ

บางที่ซัมเมอร์นี้อาจจะไม่น่าหดหู่อย่างที่คิด...



                                                            --------------------------------------------------


แก้ไข 20/03/57

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2014 18:54:33 โดย อโลลาน »

ออฟไลน์ หมูน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ขอให้ออกไปได้นะน้องหมอก  ใครจะเป็นคนนั้นน้าาาา  :mew3:


อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
ลืมบอกไปครับเรื่องนี้จาแบ่งกันเล่านะครับมีแค่อินโทรกับบทแรกที่น้องครับต่อจากนีก็สลับกัน.;)

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :o12: สงสารพี่เทสกับน้องหมอก

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มายาวดีจังกะลังดี มาแบบนี้ทุกวันได้ไหมครับ 4555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
มายาวดีจังกะลังดี มาแบบนี้ทุกวันได้ไหมครับ 4555555


พยายามมาทุกวันครับ  ฮ่าๆ การได้ลงนิยายแล้วมีคนอ่านมีคนติดตามก็เป็นความสุขของผมเช่นเดี่ยวกันครับ  o13

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
หมอกจะรอดมั้ยอ่ะ 2 เดือนเอง

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป



“ไม่กิน!!!”

ผมกล่าวเสียงเรียบกับอาหารจานเดี่ยวที่อยู่ตรงหน้าไอ้ปันนะให้กินอะไรก็กินได้ยกเว้น...ผัก !!!!

“ไอ้ปัน มึงอ๊ะจะ24แล้วนะเว้ยแค่ผักเนี้ยนะกินไม่ได้ !!”

ไอ้ลูกหว้าเพื่อนสนิทผมอีกคนว่า

สวัสดีครับผมชื่อฐารักษ์ เจริญทรัพย์หรือนายแบ่งปันที่เพื่อนๆเรียกกันเต็มยศว่า ‘ไอ้เชรี้ยยยปัน’ ตอนนี้อายุจะย่าง24ในอีก2เดือนข้างหน้าและกำลังจะจบเป็นบัณฑิตของคณะนิเทศฯเต็มตัว แน่นอนถ้าเป็นตอนนี้คนอื่นๆคงกำลังวุ่นวายกับทีสิธส่วนผมนะเหรอ....

‘ผ่าน’แล้วครับ...

 T   T ดีใจมากกว่าตอนได้แฟนคนแรกอีก แม่มโคตรโคตระจะยากแต่ก็ผ่านแล้วล่ะนะ

“แม่ม ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบื่อยังเรือรบ เจือกแดรกผักไม่ได้”

มันบ่นต่อ

ก็แหม...จะกินทำไมครับ ไอ้สิ่งมีชีวิตสีเขียวๆที่เรียกว่าผักเนี่ยรู้มั้ยว่ามันเป็นการตัดไม้ทำลายป่า...หรืออะไรนะ ผักไม่ไช่ต้นไม้  เหรอ ? ยังไงๆมันก็ผลิตO2ได้นี้เพราะฉะนั้นกินผักเท่ากับทำให้โลกร้อน อย่ามาเถียงผมเชี่ยวนะ ผมนะสาวกน้องเนยตัวยงเลยละครับ (พวกเรานะหัวอกเดี่ยวกันไอ้พวกกินผักได้มันไม่เข้าจ๊ายยยยหรอกครับ)

ผมยิ้มแฉ่งให้มันก่อนจะเขี่ยๆผักไว้ข้างจานแล้วกินเนื้อในจานต่อ ต้องนี้สิ พวกเนื้อพวกนี้แหละเกิดมาเพื่อผม

ไอ้หว้ายังคงมองหน้าผมอย่างเอาเรื่องหน้าสวยๆของมันทำหน้ากึ่งบึ่งกึงขัน

“สาธุ ด้วยอำนาจสาววายของฉัน ขอให้แกเจอผู้ชายที่ทำให้แกกินผักได้ และแกจะหลงรักเขาหัวปลักหัวป้ำ”

มันร่ายคำสาปก่อนจะพนมมือสาธุ

จริงๆแล้วผมกับหว้าเป็นดาวและเดือนของคณะนิเทศตั้งแต่ปี1แล้วครับ ในสายตาของคนอื่นๆก็คงจะมองว่าแปลกที่ทำไมเราสองคนถึงไม่คบกันหรืออะไรยังไง มันมีสาเหตุอยู่ครับแต่ถ้าพูดไปมันจะเหมือนการเผาเพื่อนป่าวๆ

คืองี้ครับ ไอ้หว้านะ...มันชอบผู้หญิง!!!

จริงๆนะเห็นสวยๆใสๆหน้าหวานแบบนี้นะมันเป็น ‘รุก’นะครับแฟนมันก็น้องนิวสาวน้อยดาวคณะนิเทศฯปีนี้ล่ะครับแถมมันยังมีรสนิยมชอบเห็นผู้ชายได้กัน

ดั่งนั้นไอ้ที่เห็นผมไปไหนมาไหนกับมันนะมันแค่ต้องการเอาผมเป็นไม้กันหมาเท่านั้นแหละครับ เหอะๆ ส่วนผมนะเหรอก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ม.1จะปัดคำขอของเพื่อนสนิทก็กระไรอีกอย่างผมเองก็เอามันเป็นไม้กันหมาเหมือนกันนั้นแหละ ไม่ใช่ว่าผมชอบผู้ชายหรือว่าอะไรนะครับแค่ผมยังไม่อยากจะรับผิดชอบใครในตอนนี้(แค่ตัวเองจะรอดรึป่าวยังไม่ทราบเลยครับ)

ห๊ะ...อะไรนะ....ผมเผาเพื่อนตัวเองไปแล้วเหรอ ? ช่างมันเถอะอยากเผาครับหมั้นไส้ 555+

“เออๆ ถ้ามีผู้ชายมาทำให้กูรับประทานผักได้จริงๆ กูจะขอเขาแต่งงานและจะให้มึงเป็นเพื่อนเจ้าสาวเลยโอมั้ยมึง ?”

พูดเล่นๆไปงั้นแหละครับ ยังไงๆผมก็ไม่มีทางกินผักแน่นอนและไอ้เรื่องที่จะชอบผู้ชายก็ตัดทิ้งไปได้เลยครับ มันไม่ใช่แนวไอ้ปันสักกะผืกกกกกก -3-

“หึหึ เอาเถอะ ฉันจะรอดูแกวันแต่งงาน จำไว้นะเว้ยคำสาปสาววายมันแรงมาก”

มันย้ำอีกครั้งก่อนต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว ของผมต้องกลับบ้านครับเพราะพระบิดาและมารดาแทบไม่ได้เจอหน้าผมมาประมาณเกือบๆเดือนแล้วมั่งหลังจากที่ผมต้องหมกมุ่นกับไอ้ทีสิธจนอยากจะเอาหัวโมงพื้นโลกเต็มที่

จะว่าไปแล้ววาจาไอ้หว้านี้ผมก็เคยได้ยินตำนานผ่านๆหูมาบ้างเหมือนกันว่ามันปากศักดิ์สิทธิ์แต่ไอ้เรื่องที่มันพูดกับผมเนี้ยโอกาสเป็นไปได้เท่ากับ0.0000001%ครับ(ไม่ต่างจาก0%เท่าไหร่หรอกใส่ไว้ให้มันดูเหมือนมีความหวังของคุณหญิงหว้ามัน)

ผมเดินจนถึงรถเก๋งคันงาม จริงๆฐานะทางบ้านจะขับBMWก็ยังได้ แต่การอวดรวย ไม่ได้ช่วยทำให้คุณดูดีขึ้นมาหรอก คิดเหมือนผมมั้ย?

ผมขับรถไปเรื่อยๆก่อนราชรถคันงามจะพาผมมาหยุดแถวๆถนนใหญ่ก่อนเข้าหมู่บ้านถ้าให้เดาตอนนี้ท่านทั้งสองคนยังไม่กลับมาที่บ้านแม่คงไปชิลที่สปาส่วนพ่อผมก็คงเข้าไปที่ห้างสรรพสินค้าของเรา

บ้านเราทำธุรกิจด้วยการเปิดห้างสรรพสินค้าแถวย่านยอดฮิตครับ แม้จะเป็นการเปิดตัวครั้งแรก สาขาแรก ท่ามกลางห้างสรรพสินค้ายอดฮิตหลายๆที่ก็เถอะ แต่ดูเหมือนคุณพ่อท่านจะค่อนข้างมั่นใจในศักยภาพของห้างของเราซึ่งผมที่เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนย่อมต้องเรียนสายบริหาร(ตอนปริญญาโทนะน่ะ)เพื่อสานต่อกิจการของพ่อตัวเองแน่นอน

ผมมีน้องสาวอีกคนชื่อแทน...ใช่ผมรู้...ชื่อมันเหมือนผู้ชายแต่มันเป็นน้องสาวของผมจริงๆครับชื่อเล่นเต็มๆของมันคือแทนใจครับอันนี้แม่เป็นคนตั้งให้เพราะแม่อยากได้ลูกสาวแต่เพราะผมดันเกิดมาแมนเต็มตัวซะได้ อ้อ..ส่วนชื่อผมมาจากคำว่า ‘แบ่งปัน’ครับอันนี้พ่อตั้งให้

ชื่อพวกเราสองพี่น้องมีแต่คนบอกว่าน่าจะสลับกันมากกว่าซึ่งผมก็คิดแบบนั้นและไอ้แทนมันอายุห่างจากผมเกือบๆเศษ1ส่วน4ของครึ่งอายุผมด้วยซ้ำ

เวลาที่ไอ้คุณหญิงหว้ามาบ้าน สามสาวต่างวัยจะครึกครื้นกันบ้านแตกครับเพราะอะไรนะเหรอ ?

อะไรนะเอ๊..มันคุ้นๆในหัว...ศัพท์ที่ไอ้หว้ามันพูด...

อ้อ สาววาย!!!

ใช่ครับ ไอ้หว้ามันมาแพร่เชื่อใส่น้องผม ส่วนคุณแม่ดูเหมือนจะมีเรื่องในใจอะไรสักอย่างทำให้อยากเห็นผมพาเด็กผู้ชายน่ารักๆอะไรนะ....เคะๆ...หรือศัพท์อะไรสักอย่างเนี้ยแหละสักคนเข้าบ้านหรือไม่ก็แต่งงานไปเลย

เจริญมั้ยครับบ้านผมนะ !!!

ดีแต่ว่าคุณพ่อของผมท่านยังคงเห็นใจลูกชายผู้ที่แทบจะไม่มีอำนาจใดๆในบ้านหลังนี้ ด้วยการส่งผมลี้ภัยไปเรียนที่ม.ไกลๆเพื่อหลีกหนีสามสาวสามมุมสามวายต่างวัย(ได้ข่าวว่ามึงแอดติดที่ไกลๆเองนะเว้ย : พ่อปัน)

เอาเป็นว่า ถ้าไม่นับเรื่องการโดนไซโคให้พาแฟนที่เป็นเด็กผู้ชายเข้าบ้าน ผมเองก็คิดว่าบ้านหลังนี้งบสุขมว๊ากกกกกกกกกกกกก(แน่นอนครับ จะมีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเรา ฮื่อ ฮื้ออออ)

ผมขับรถฮัมเพลงไปสบายใจเฉิบก่อนจะหักพวกมาลัยรถยนต์หลบสุดตัวเมื่อมีร่างๆหนึ่งวิ่งตัดผ่านหน้ารถ!!!!

เชรี้ยยยยยเกือบชนคนแล้วมั้ยล่ะ ?

ผมตั้งสติก่อนจะรีบเปิดประตูรถลงไปดูสถานการณ์ถึงแม้จะหักหลบแล้วแต่ก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าหักพ้นจริงๆหรือว่าผมขับรถชนคนไป

ภาพที่ปรากฏแก่สายตาคือภาพน้องม.ปลายเกงเกงน้ำเงินคนหนึ่งล้มตัวลงตรงริมฟุธบาต ดูจากสภาพคร่าวๆแล้วไม่ได้โดนชนแค่ล้มแล้วสลบลงไปพอดี ผมกำลังจะวิ่งไปถึงร่างๆนั้นแต่กับมีอีกคนที่ไวกว่า

“ไอ้เฟรม!!!”

ผมตกใจตะโกนชื่อของเพื่อนสนิทตัวเองที่วิ่งเข้าไปประครองร่างที่ไม่ได้สติ ดูเหมือนคนถูกเรียกก็ตกใจไม่แพ้ผม

“อย่าเพิ่งถามอะไรกู พากูกับน้องไปที่บ้านมึงก่อน”

มันว่าก่อนจะอุ้มร่างไม่ได้สติแบบยกทั้งตัว ..ขอตกใจนิดๆถึงมันจะตัวใหญ่กว่าน้องเขาแต่ก็ใช่ว่าร่างนั้นจะเบาๆนะครับแต่ดูเหมือนมันไม่ได้หวั่นไปกับน้ำหนักตัวของคนที่ถูกอุ้มเลยแม้แต่น้อยแถมเหมือนผมเห็นแว่นน้องเขาตกลงไปยังไม่ได้เก็บด้วย

ผมเองก็ตอบสนองมันไวเต็มที่ด้วยการวิ่งไปเปิดประตูรถ ก่อนจะปิดประตูแบบไม่กลัวมันหลุดแล้ววิ่งไปนั่งด้านคนขับ

“จับดีๆล่ะมึง กูจะรีบขับไปให้”

ผมพูดกับมันเป็นประโยคสุดท้าย ก่อนเท้าจะเหยียบคันเร่งออกไป...



                                                                     .......................................




ตอนต่อไปก็น้องหมอกเหมือนเดิมนะครับ   :katai5: แล้วเจอกันEP.4จ้า



20/03/57
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2014 18:59:48 โดย อโลลาน »

ออฟไลน์ mamajie

  • ต้องตื่นก่อน , จึงรู้ว่า , ที่ผ่านมาคือความฝัน.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
รอตอนต่อไปจ้าา :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao6: ปันเอ๋ย คำสาปสาววายมันรุนแรงยิ่งนักเหอๆ

รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ เป็นกำลังใจให้คนเขียน  o13

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
:hao6: ปันเอ๋ย คำสาปสาววายมันรุนแรงยิ่งนักเหอๆ

รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ เป็นกำลังใจให้คนเขียน  o13
พน.ลงตอนใหม่งับ

ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
รอตอนต่อไปจ้าา :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รอติดตามต่อครับ ;)

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
มารอชอบสนุกจังเลย :mew1:

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
พน.ลงตอนใหม่งับ


วันนี้เกิดEventขึ้น หากไม่ได้ลงแกะขออัภัยมณี  :z3: :z3: จะลองปั้นดูสักครึ่งชั่วโมงแต่ไม่แน่ใจว่าจะทันมั้ยนะครับ TT

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป


หลังจากจบคาบแนะแนวเพื่อนๆหลายคนเริ่มทยอยกันกลับบ้าน ผมเองก็เช่นเดี่ยวกันแต่จุดหมายในวันนี้ยังมีอีก2ที่ที่อยากจะไปและตัวผมเองก็ไม่อยากจะรีบกลับไป‘นรก’เร็วนักหรอก

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมถ้ามันแย่นักผมถึงไม่แจ้งตำรวจหรือหนีออกไปจากที่นั้น ?

คุณครับ...นี้มันชีวิตจริงๆนะ มันไม่ได้ง่ายเหมือนในหนังหรอกนะที่จะหนีออกไปใช้ชีวิตสบายๆปุบปับแบบพระเอกนางเอกในละครน้ำเน่า(แม้ชีวิตผมจะเน่ายิ่งกว่าในหนังจริงๆก็เถอะ)

จะหนี...?

หนีไปไหนล่ะ  แล้วจะเอาอะไรกิน  จะอยู่ยังไง แล้วเอกสารทางราชการหลายๆฉบับล๊ะ

แจ้งตำรวจ.... ?

ไหนล่ะครับหลักฐาน ?

อีกทั้งคนๆนั้นยังได้ชื่อว่าเป็น‘แม่’ถึงจะเป็นแค่แม่เลี้ยงแต่ถ้าไม่มีคนๆนี้แล้วผมกับพี่เทสจะมีสภาพยังไง จะได้เรียนกันรึป่าว ? หรือยังอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าหลังนั้นต่อไป ถึงผมกับพี่เทสจะไม่ใช่คนดีอะไรมากมายแต่พวกผมเองก็ไม่ได้เลวจนขนานไม่รู้บุญคุณข้าวแดงแกงร้อนนะครับ

ไอ้ที่ทนๆกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะบุญคุณมันค้ำหัวจนไม่รู้จะแก้ให้ตกยังไงถึงจะทำให้พวกเราเป็นอิสระกันแบบไม่ต้องมีอะไรค้างคา...

สิ่งที่พี่เทสคิดไว้คือการที่ผมกับพี่เขาเรียนจบแล้วหาเงินไถ่ถอนตัวเราทั้งคู่ให้เป็นไท...

ฟังดูเหมือนทาสนะ แต่จริงๆผมกับพี่เทสก็ไม่ต่างจากทาสของแม่เลี้ยงเท่าไหร่หรอก คนๆนี้ทำให้ผมทั้งชังทั้งรัก(ในฐานะผู้มีบุญคุณ)ได้อย่างน่ากลัวจริงๆ

เอาเถอะครับ ..

ตอนนี้จะคิดมากก็กระไร อีกทั้งผมยังต้องไปทำงานพิเศษต่อตอนนี้ผมเป็นพนักงานประจำห้างเปิดใหม่ห้างหนึ่งใจกลางย่านธุรกิจครับ อาจจะสงสัยว่าทำไมผมอยู่แค่ม.4ถึงสามารถเป็นพนักงานประจำได้ สาเหตุที่ว่าอย่างแรกคือ‘เส้น’ครับ พี่พนักงานที่เป็นหัวหน้าแผนกรู้จักผมผ่านงานประกวดอาหารระดับภาค

อย่างที่สองคือ‘ความสามารถ’ครับ...

เห็นผมแบบนี้แต่ผมทำอาหารเก่งมากเลยนะ ไม่อยากจะคุย ทั้งของคาวของหวาน ที่ถนัดที่สุดก็คงจะเป็นพะโล้สูตรเด็ดจากอาม๊าที่อาศัยตึกแถวบ้านเป็นร้านขายของซึ่งผมมักจะมีโอกาสได้เข้าไปคลุกคลีกับแกบ่อยๆจนทำให้ผมได้สูตรลับพะโล้ตุ๋นของแก

ถ้าจะว่ากันตามตรงแล้วก็แกนั้นแหละครับที่สอนผมเข้าครัวจนทำให้ติดใจถึงขนานวางตะหลิวไม่ลง แรกๆก็รู้สึกอายเหมือนกันครับที่เป็นเด็กผู้ชายแต่ดันชอบทำครัว พอไปๆมาๆจับพลัดจับพลูได้เข้ามาคลุกคลีด้านนี้บ่อยเข้าทำให้เกิดเป็นความรักชนิดที่ว่าความอายแทรกไม่ลง

พอรู้ตัวอีกที่ผมก็ก้าวเข้ามาด้านในครัวซะแล้ว

“สวัสดีครับคุณเซฟใหญ่ วันนี้มาไวนะค๊า”

นั้นประไรมาถึงก็แซวกันเลยนะครับเจ๊อิน

เจ๊อินคือหนุ่มใจสาวที่รักในด้านการทำอาหารจนทำให้มีฝีมือเลื่องลื่อในการทำอาหาร ครั้งแรกที่ผมได้เจอเจ๊แกก็วันที่แกไปเป็นกรรมการตัดสินประกวดอาหารของผมนั้นแหละครับแรกๆผมก็เหมือนคนทั่วไปนะคือวางตัวไม่ถูกเวลาอยู่กับหนุ่มใจสาวอย่างเจ๊แก แต่ด้วยความเป็นกันเองและความจริงใจทำให้ผมสนิทกับเจ๊แกในที่สุด

หลังจากจบการแข่งขันเจ๊แกก็โดนจ้างวานมาคุมครัวของร้านแห่งหนึ่งในห้างเปิดใหม่เนี้ยแหละครับ วันดีคืนดีผมบังเอิญได้มาเดินเที่ยวที่นี้กับพี่เทสเพื่อหาหนังสือกวดวิชาเตรียมแพทย์ของพี่มันแล้วได้มาเจอกันพอดีและก็ดูเหมือนจะเป็นโชคของผมที่วันนั้นครัวของร้านนี้ดันขาดคน ผลสุดท้ายคือวันนั้นผมต้องสลัดชุดนร.แล้วลงมือทำอาหารช่วยรับแขก พอหลังจบงานนั้นเจ๊แกก็เชื่อเชิญผมมาทำอาหารด้วยกัน เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆเหตุผลพี่เทสจึงดันผมเต็มที่

ด้วยเหตุฉะนี้แล สายหมอกคนนี้จึงได้มาทำงานหน้าครัวอยู่ในร้านอาหารหรูในฐานะ ‘พ่อครัว’มือรอง ...

“ดีครับพี่อิน วันนี้หมอกเลิกไวนะลูกค้าเยอะมั้ยครับ ?”

"พอสมควรจ้า"

ผมยกมือสวัสดีแกก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื่อผ้า เพื่อความคล่องตัวในการทำอาหารผมจึงมีชุดทิ้งไว้ที่ร้านสองสามชุดครับวันนี้เลยเลือกจะใส่กางเกงยีนต์กับเสื่อสีขาวก่อนจะเอายางมัดผมและใส่หมวกคลุมหัวอีกครั้งหนึ่ง

เมนูแรกที่ต้องทำในวันนี้คือไก่อบราดซอสซึ่งความจริงแล้วไม่ได้ยากแต่ก็ไม่ได้ง่ายเท่าไหร่เพราะที่นี้มีของสดที่พร้อมจะทำตลอดเวลาด้วยคุณภาพวัตถุดิบบวกกับฝีมือของเซฟทุกคนผมจึงไม่แปลกใจหากร้านอาหารที่นี้จะมีลูกค้าแน่นทุกวันเพราะราคาและคุณภาพร่วมทั่งรสชาตินั้นสมดุลกันดีแล้ว

พอทำอาหารไปได้สักพักผมก็ดันปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำพอถอดเอียมกับหมวกแล้วจึงขออนุญาตพี่อินออกไปนอกครัวพอเดินออกมาถึงหน้าร้านผมก็พบกับบริการสองคนซึ่งกำลังยืนเถียงกับลุกค้าคนหนึ่ง

“เออ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกันรึป่าวครับ ?”

ผมแทรกถามเมื่อทั้งสามบุคคลเงียบลง

“เออคือว่า...”

บริกรชายสองคนทำหน้าอึกอักก่อนจะบุ้ยปากไปทางลูกค้าคนนั้น

สภาพที่ผมเห็นเต็มๆตาอีกครั้งคือรองเท้าแตะแบบหนีบพร้อมด้วยเสื่อยืดซีดๆเหมือนใกล้จะขาดพ่วงด้วยกางเกงเก่าๆอีกหนึ่งตัว

นั้นเป็นสิ่งที่ไขข้อข้องใจของผมบริกรสองคนนั้นคงกลัวแขกคนนี้จะเข้าไปแล้วไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร ถึงแม้ที่นี้จะไม่แพงนักแต่ก็ถือว่าราคาอยู่ในระดับกลางๆ

“ผมต้องการเข้าไปทานอาหารที่นี้ แต่บริกรสองคนนี้ไม่ยอม”

คุณลูกค้ากล่าวอธิบาย

ผมมองหน้าบริกรทั้งสองคนยิ้มๆก่อนจะบอกให้พี่ๆเขาไปทำงานอื่นได้ซึ่งตอนแรกพี่ทั้งสองคนก็อึกอักไม่กล้าไปแต่เพราะผมยืนยันจะรับผิดชอบให้ ทั้งคู่จึงค่อยเดินออกไปนอกร้าน

“เชิญครับคุณลูกค้า ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทางเราเสียมารยาทไป”

ผมกล่าวกับคุณลุงคนนั้นก่อนจะผายมือเล็กๆไปที่โต๊ะอาหารซึ่งยังว่างอยู่ คุณลุงคนนั้นยิ้มตอบผมก่อนจะเดินเข้าไปในร้านตามคำเชื่อเชิญ

“คุณเป็นเจ้าของร้านเหรอครับ ?”

พอนั่งลงปุบคุณลุงก็ถามผมปับ

ผมหัวเราะนิดๆก่อนจะตอบไป

“ไม่ใช่ครับ ผมเป็นแค่พ่อครัวของที่นี้”

“ดูคุณมีเพาเวอร์ดีนะครับ แค่ออกปากนิดหน่อยผมก็ได้เข้ามาทานอาหารในที่หรูๆแล้ว”

“ต้องขอโทษแทนพนักงานของเราด้วยจริงๆครับที่เสียมารยาท” ผมยืนก้มหัวให้คนตรงหน้าก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำตามความตั้งใจเดิมแต่เสียงของคุณลุงขัดผมไปก่อน

“จะเป็นการรบกวนมากไปมั้ยครับ ถ้าผมจะขอเลี้ยงคุณพ่อครัวน้อยด้วยอาหารจากฝีมือคุณสักมื้อ”

“ผมก็อยากทานนะครับแต่...มันยังเป็นเวลางานของผมนะครับ”

ผมชี้แจ้งเหตุผลพร้อมยิ้มต่อ

“งั้นถ้าหลังเลิกงานคุณคงว่างใช่มั้ยครับ ?”คุณลุงถามต่อ

“ก็...ว่างครับ”

“โอเค ผมจะรอจนกว่าจะหมดเวลางานของคุณ”

คุณลุงว่าก่อนจะเรียกบริกรมารับบิลซึ่งผมที่เดินออกมาห่างๆยังได้ยินเมนูที่ราคาเด็ดๆของร้าน หลายคนคงสงสัยทำไมผมถึงยอมให้คุณลุงมาเข้ามาทานอาหารในร้าน....

เหตุผลที่จะเรียกว่า ‘เซ้น’ ของผมก็ได้ครับ ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงมีอาการลังเลบ้างที่จะเข้าไปทานอาหารในร้านหรูๆ อีกทั้งร้านเราเคยมีประวัติในเรื่องทำนองนี้มาแล้วครับ


วันเกิดเหตุผมดันไม่อยู่พอดีแต่พี่อินเล่าว่ามีคุณป้าแก่ๆท่านหนึ่งที่แต่งตัวปอนด์ๆทำท่าจะเดินเข้ามาในร้านและโดนห้ามเอาไว้ ตอนนั้นพี่อินไปเข้าห้องน้ำพอดีจึงไม่ท่านได้ต้อนรับปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริกร

ด้วยความที่กลัวจะโดนชักดาบ บริกรทั้งสองจึงไม่กล้าให้เข้าไปใช้บริการด้านใน ผลลัพธ์หลังจากนั้นคือคุณป้าคนดั่งกล่าวกลับมาที่ร้านอีกครั้งพร้อมสร้อยเพรชและเครื่องประดับที่บ่งบอกถึงฐานะเต็มตัว

เดือดร้อนไปถึงพี่อินและผมที่โดนกันเต็มๆแม้มันจะเป็นเหตุสุดพิสัยที่เราทั้งคู่ไม่อยู่ตอนเกิดเหตุแต่ด้วยความที่เราทั้งคู่เป็นหัวหน้าพ่อครัวซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจหลักของร้าน ทำให้เราต้องรับผิดชอบอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ต่อจากนั้นพี่อินจึงได้กำชับนักกำชับหนาว่าต้องบริการให้เท่าเทียมกันทุกคน ลูกค้าทุกคนคือคนสำคัญของเรา วันนี้พี่บริกรสองคนนั้นเพิ่งมาใหม่จึงยังไม่ทราบกฎข้อนี้ดีนักทำให้ต้อนรับลูกค้าได้ไม่ค่อยดีนัก

ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่าคุณลุงคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดานักและค่าอาหารแค่หลักไม่กี่พันคงไม่สะทกสะท้านเป็นแน่แท้...

คิ้วข้างซ้ายผมกระตุกอีกหลายครั้งก่อนผมจะเดินไปเข้าห้องน้ำ...



                                                   ..............................................................



เห้ย ทันด้วย เย้ๆ   :hao5:  แต่ตอนนี้อาจจะมีการรีไรท์นะครับ เนื่องจากพิมพ์สดและลงเลย เลยยังไม่ทันได้มีเวลาตรวจทานสักเท่าไหร่


ปล. พาร์ทหน้ายังเป็นของน้องหมอกนะครับ เพราะตอนนี้ยาวมากจึงแบ่งเป็น2พาร์ทครับ   :mc4:

เจอกันEP.5ครับ   :impress2:


20/03/57
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2014 19:03:53 โดย อโลลาน »

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
ชื่อเรื่องน่าสนใจดีนะครับ ว่าแต่ว่า...พระเอกนางเอกห่างกันแปดปีเลยเหรอ? อืมมม์....

ความจริงผมว่าถ้าเป็นพี่ปัน-พี่เทส มันก็ยังพอรับได้หน่อยๆนะ ห่างกันหกปี (ก็ดูเยอะอยู่ดีแฮะ... เอาน่า อย่างน้อยก็ดีกว่าแปด 555)


พี่เทสมีคู่ของเขาแล้วครับ แถมคู่เขาห่วงมากกกกกกซะด้วย   :hao7: :hao7: :hao7:

ส่วนของน้องหมอก มันยังมีอีกหลายด่านครับ  รับประกันว่า เรื่องนี้ไม่ได้จบกันง่ายแน่นอน   :heaven  เพราะคนแต่งอยากดราม่าจัดๆมานาน  อาจจะจบแบบ.....   :z1:


ขอบคุณที่ติดตามครับ


ปล. จะว่าเรื่องนี้โลลิค่อนก็ได้เนาะ  5555+   :hao6:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
หรือคุณลุงจะเป็นพ่อของพระเอก
โลกมันคงไม่กลมขนาดนั้นหรอกมั้ง

สงสารเทสยังไม่หาย :hao5:  คู่น้องเทสมาช่วยน้องเทสเร็วๆ
คนที่มารักเทสนี่ต้องรักเทสจริงจังมากนะเนี่ย
ส่วนใหญ่แค่รู้ความจริงว่าเทสขาย(ถึงจะโดนบังคับ) ก็แทบจะไม่อยากยุ่งแล้ว
เรากลัวมันจะมีดราม่าคู่เทสจัง ประมาณว่าพระเอกรู้ความจริงแล้วเอามาแบล็กเมล์
น้องเทส ฮือออออออออออ :o12:

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :a5: นึกว่าเป็นคนดีที่แท้ก็แม่เล้านี่เอง
โถน่าสงสาร น้องเทส กับน้องหมอก
 :o12:

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เย่ รออ่านต่อ

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
แจ้งข่าวสำหรับผู้อ่านทุกท่านนะครับ แฮ่ๆ ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณทุกคนนะครับที่ติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้และเรื่องของน้องแกะ

จากที่เห็นจะเห็นใช่มั้ยครับว่าผมลงวันละตอน แต่ตอนนี้ผมต้องขอตัวก่อนประมาณเสาร์หน้าถึงจะว่างลง เพราะ จันทร์ พุธ ศุกร์หน้า ผมมีสอบไฟนอลครับ จำเป็นต้องไปเตรียมอ่านหนังสือครับ TT   :z3: (จะดิ่งข้อไหนดีหว่า -3-)


ขอบคุณทุกคนนะครับ เจอกันเสาร์หน้ากับน้องหมอกพาร์ท2 รับประกันว่าแซ่บแน่ๆกับฉากเจอกันตอนแรกของคู่นี้   :mc4:



[สปอย....]




‘เอี๊ยดดด’

ผมที่กำลังรอด้วยความกระวนกระวายถึงกับตกใจกับเสียงเบรกก่อนจะมองเห็นรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ด้านหน้าผมแต่พอมองเห็นด้านในเท่านั้นแหละ ผมใจหายมากขึ้นเมื่อเห็นร่างๆหนึ่งที่ไม่ได้สติอยู่บนรถด้านคนนั่ง พอคนขับลงมาจากรถผมไม่เหลือสติมากพอที่จะไต่ตรองอะไรอีกแล้ว



ต้องเป็น ‘มัน’แน่ๆที่ทำให้พี่ผมเป็นแบบนี้


ร่างกายตอบสนองไวเท่าความคิดก่อนหมัดเล็กๆของผมจะพุ่งตรงไปที่แก้มของคนขับ ถึงหน้าสวนสาธรณะตรงมุมนี้จะมืดมากจนมองไม่เห็นหน้า แต่จากรูปร่างลักษณะภายนอกแล้วก็ไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ทั่งแว่นสีชาที่ชอบใส่ ไหนจะไอ้รถเก๋งรุ่นเดี่ยวกันอีก


“โอ๊ย”


คนที่ถูกผมชกแบบไม่ทันตั้งล้มลงไปกองกับพื่นก่อนแว่นสีชาจะตกลงพื่น


เห้ยยยยยยย !!!


ทั้งเสียงและหน้าที่ปรากฏ...ไม่ใช่นี้หว่า


   “อ้าว...คุณไม่ใช่.....?”


ผมพูดค้างก่อนจะนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูก


“โหน้อง ตัวก็เล็กทำไมหมัดหนักแบบนี้ แล้วคิดว่าพี่เป็นใครครับเนี้ยมาถึง ถึงได้ชกเข้าหน้าแบบนี้”


อีกฝ่ายร้องประท้วงก่อนจะยันตัวยืนขึ้น...



                                                        ......................................................


TBC.  เป็นไงครับ น้องเขาทักทายกันน่ารักดีเนาะ  :z1: แล้วเจอกันครับ  :กอด1:



ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รออ่านตอนต่อไป วันเสาร์หน้า
 :pig4: ขอบคุณที่มาแจ้งข่าว
 ขอให้สอบผ่านไปด้วยดีนะ เป็นกำลังใจให้ :L2:  :3123:

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
รออ่านตอนต่อไป วันเสาร์หน้า
 :pig4: ขอบคุณที่มาแจ้งข่าว
 ขอให้สอบผ่านไปด้วยดีนะ เป็นกำลังใจให้ :L2:  :3123:
ขอบคุณครับผมเองก็ค่อนข้างคาดหวังพอสมควรครับ :a5:  ฝากรีน้องหมอกกันด้วยนะครับ :impress2:  ขอบคุณครับ   

แกะซ่า   :กอด1:

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป



"โอกาสหน้าเชิญใหม่คร๊าบบบ"

ผมกับพี่อินกล่าวเสียงใสก่อนจะช่วยกันส่งลูกค้าคนสุดท้ายที่เข้ามารับประทานอาหาร...

ไม่สิ...

ยังเหลืออีกคนครับ...

"หมอก ดูท่าเขาจะยังไงๆนะนั้นนะนั้น ยังไงๆก็ไปคุยกับเขาหน่อยเถอะอุตส่าห์อุดหนุนร้านเราซะเยอะแยะไหนจะสั่งห่อกลับบ้านอีก"

พี่อินกระซิบเบาๆกับผมหลังจากคุณลุงสั่งอาหารเกือบหมดทุกรายการยอดฮิตพร้อมจ่ายด้วยเงินสด พ่วงด้วยทิปอีกคนละพันให้กับบริกรสองคนที่หน้าหดเหลือสองนิ้วเพราะความตะขิดตะขวางใจ ยังดีที่ว่าคุณลุงดูเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะเข้าใจและไม่ซ้ำเติมพี่บริกรทั้งสองคน
    
"ครับ หมอกก็กำลังจะไปคุยพอดีครับ"

พูดจบผมก็เดินเข้าไปหาคุณลุงที่มองมาพอดี

"ว่างแล้วเหรอครับ คุณพ่อครัวน้อย"

คุณลุงทักขำๆก่อนผมจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม อะไรบางอย่างบอกผมว่าคุณลุงคนนี้ ‘น่าสนใจ’

“มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ ?”

ผมเปิดประเด็น ก่อนคุณลุงจะหันมามองหน้าผมตรงๆอีกครั้ง

“ป่าวหรอก ลุงก็แค่อยากคุยนะ บอกตรงๆว่าตอนแรกคิดว่าคงไม่ได้เข้ามากินภายในร้านหรอก เพราะร้านนี้ก็ค่อนข้างหรู แล้วสภาพของลุงก็... ”

แกพูดก่อนจะก้มมองเสื่อผ้าอาภรณ์ของตัวเอง

“ร้านเราไม่ได้คัดเลือกลูกค้าจากลักษณะภายนอกนะครับ ถ้าเป็นควาต้องการของลุกค้าที่จะเข้ามารับประทานอาหารร้านเรา เราก็ยินดีต้อนรับทุกท่านนั้นแหละครับ”

ผมพยายามตอบกลับอย่างมีมารยาทและสุภาพที่สุด คุณลุงยิ้มพยักหน้าขึ้นลงคล้ายดูพอใจจากคำตอบของผมแล้วถามต่อ

“แล้ว...ถ้าเกิดผมสั่งแล้วไม่มีปัญญาจ่ายขึ้นมาจริงๆล๊ะ ?”

ผมเป็นฝ่ายยิ้มแทน

“อย่างมากผมก็โดนหักเงินเดือนครับ”

ผมตอบจากใจจริง ถ้าหากเกิดปัญหาอย่างว่าจริงๆ มากสุดผมก็โดนหักเงินเดือน หรือไม่ก็พักงาน

แววตาสีดำสนิทของคุณลุงมองผมอย่างพึงพอใจก่อนจะพูดต่อ

“ลุงเพิ่งเคยมาเที่ยวห้างนี้ อยากให้คุณช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ย ? ห้างนี้ดี ไม่ดี ยังไง แล้วคุณคิดยังไงกับมัน อ้อ ลุงไม่ได้ให้เหนื่อยฟรีๆหรอกนะแต่จะมีค่าเหนื่อยให้นิดหน่อย”

ผมนั่งคิดพิจารณากับข้อเสนอก่อนสายตาจะเลือนมองนาฬิกา...จริงๆตอนนี้ก็แค่สามทุ่มเศษ ห้างนี้ก็ปิดตอนสี่ทุ่มกว่าๆ ผมเดินไม่มากก็คงเสร็จ

“ได้ครับ ขอผมไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายสักครู่นะครับ”

ผมตอบรับข้อเสนอก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื่อผ้าเป็นชุดนร.พร้อมด้วยเป้สะพายอีกหนึ่งใบ ทำให้ตอนนี้ผมกับคุณลุงเหมือนพ่อลุกที่มาเดินเที่ยวกันตอนห้างใกล้ๆจะปิด

“จุดแรกที่ผมแนะนำก็คือลานน้ำพุ ข้างหน้าแห่งนี้ครับ”ผมพูดเมื่อเดินพาคุณลุงมาถึงบ่อน้ำพุใหญ่กลางห้างที่มีม้านั่งไว้สำหรับลุกค้าที่ต้องการพักเหนื่อย

“มันดีหรือไม่ดียังไง ?”

คำถามออกมาจากปากคุณลุง ผมฉีกยิ้มก่อนจะอธิบาย

“ถ้าถามว่าดีมั้ย ในความรู้สึกของผมตอนเจอมันครั้งแรก จริงๆมันก็ดูโอเคนะครับ ดูสวยงามน่าพักผ่อนดี แต่พอได้มานั่งจริงๆจะพบว่า ละอองน้ำมันสาดมาโดนได้นะครับ ถึงจะเป็นแค่ละอองแต่ในความรู้สึกก็ทำให้ไม่อยากเดินผ่านมาอีกครั้งอยู่ดี”

คุณลุงพยักหน้าก่อนจะเดินตามผม

“จุดที่สองคือที่นี้ครับ”

ผมพูดพร้อมผายมือไปข้างๆ

“ร้านหนังสือ ?”

“ใช่ครับ ร้านหนังสือ จริงๆแล้วร้านหนังสือแห่งนี้คือกิจการต่อยอดของห้างนี้ใช่มั้ยล่ะครับ พนักงานหรือพี่ๆที่อยู่ในร้านก็ดีครับเพียงแต่ .....”

ผมเว้นวรรคช่วงก่อนจะชี้นิ้วไปที่หนังสือแนะนำหน้าร้าน

“มันห่อปกเหรอ...?”

คุณลุงคาดเดา

“คือ...จริงๆการห่อพลาสติกคุ้มแบบนี้มันก็ดีสำหรับห้างนะครับในการรักษาสินค้า แต่การทำแบบนี้เป็นการทำให้เกิดผลเสียอยู่เหมือนกัน หนึ่งคือจะไม่มีเด็กๆหรือใครเข้ามายืนอ่านเพื่อส่งเสริมการค้า ประมาณ...ร้านนี้คนยืนอยู่เยอะ ทำให้ดูน่าสนใจหรืออะไรยังงี้นะครับ สองคือหนังสือบางประเภทแค่หน้าปกกับเนื้อเรื่องย่อผมว่ายังไม่เพียงพอในการให้ใครสักคนหนึ่งตัดสินใจเลือกซื่อครับ”

“แล้วถ้าลูกค้ายืนอ่านแบบนี้ในเมื่ออ่านแล้วเขาจะซื่อของเราเหรอ ?”

คุณลุงท้วงติงมา

“ครับ นั้นก็อีกแง่มุมหนึ่ง แต่คุณลุงครับงั้นผมถามหน่อย หนังสือพวกนี้ผมขอยกตัวอย่างนะครับ เช่นพวกวรรณกรรมที่ลงเวปออนไลน์ต่างๆ ทำไมคนที่อ่านในเน็ทแล้วทำไมเขาถึงยังรอที่จะซื่อตอนร่วมเล่มล่ะครับ ? ในเมื่อเขาก็อ่านแล้วนิ”

ผมตอบคำถามด้วยคำถาม เป็นอีกครั้งที่คุณลุงพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ

“นั้นสินะ เพราะว่าชอบก็เลยซื่อ...อื่มน่าสนใจดีนะ แล้วจุดไหนอีกล่ะที่อยากพาลุงไปดู”

ผมพยักหน้าก่อนจะพาคุณลุงเดินยาวไปถึงนอกห้าง แล้วหาระยะห่างมากพอที่จะเห็นห้างทั้งห้างโดยภาพรวมได้ ไม่นานก็ถึงทำเลที่ผมมอง

“คุณลุงว่า ถ้ามองห้างแบบนี้รู้สึกยังไงครับ ?”

คุณลุงยืนมองตามที่ผมบอกก่อนจะ

“อื้ม...ก็นะ มันเป็นห้างใหม่นี้ ก็น่าสนใจอยู่ละนะ”

แกตอบแบบไม่ได้คิดอะไร

“ครับ มันก็น่าสนใจเพราะยังเป็น‘ของใหม่’แต่พอเปิดตัวไปสักพักคนจะรู้สึกคุ้นชินและต่อจากนั้นก็อาจจะแป้กถ้าไม่มีอะไรที่ดึงดูดมากเพียงพอ”

รอบนี้คุณลุงขมวดคิ้วก่อนจะถาม

“อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณคะเนถึงขนานไหน”

“ผมแค่พูดตามหลักจิตวิทยากับความรู้สึกของผมนะครับ คนไทยเรามีลักษณะอย่างหนึ่งคือเห่อของใหม่แล้วก็เบื่อง่ายๆ ยกตัวอย่างก็เช่นตุ๊กตาที่เคยระบาดเมื่อช่วงเวลาหนึ่ง แต่พอต่อมาเลิกฮิตก็แทบจะขายไม่ออกเสียเลยด้วยซ้ำ กลายเป็นของตกเทรนอีกทั่งคนไทยไม่คุ้นชินกับของใหม่มากนัก เช่นห้างแบบนี้พวกห้างทั่วๆไปที่เปิดมานานแล้วย่อมได้เปรียบด้านความรู้สึกและด้านเครดิต ดั่งนั้นผมคิดว่าถ้าห้างเปิดใหม่แห่งนี้จะอยู่รอดได้ จำเป็นจะต้องสร้างจุดเด่น ลบจุดด้อยครับ อีกอย่างห้างแห่งนี้ยังมีจุดด้อยเล็กๆที่ข้อที่ผมมองเห็น”

ผมอธิบายยืดยาว คุณลุงรับฟังก่อนจะพยักหน้าเข้าใจแล้วถามต่อ

“อะไรคือจุดอ่อนที่ว่า ?”

“แสงสว่างครับ มันส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื่อเลยนะครับ โดยปกติห้างแห่งนี้จะหรี่ไฟลงที่ในช่วงกลางวัน ทำให้ไฟในห้างมันดูหมองๆ ตามความรู้สึกผมรู้สึกว่า มันไม่น่าเข้าไปซื่อหาหรืออะไรเทือกๆนี้นะครับ เพราะมันเป็นสัญชาติทยานของคนเราที่จะรู้สึกปลอดภัยเวลาที่ได้เห็นอะไรที่มันชัดเจน หลอดไฟพวกนี้ก็เหมือนกัน มันจะช่วยสร้างความรู้สึกด้านบวกจนทำให้เรากลับมาซื่อบ่อยๆครับ นี้เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ผมได้รับรู้มาจากร้านสะดวกซื่อนะครับ”

ผมเคยทำงานของร้านสะดวกซื่อแล้วลองสังเกตดูนะครับ

คุณลุงพยักหน้าขึ้นลงเช่นเดิมก่อนจะหันมามองผม

“คุณพ่อครัวอยากเรียนบริหารเหรอ ?”

“เปล่าครับ จริงๆต้องบอกผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปด้านไหนดี ตอนนี้เลยโดดมาศิลป์ภาษานะครับ”

ผมตอบแบบยิ้มๆ แม้พี่เทสจะเลือกเส้นทางของตัวเองแล้วแต่ผมยังไม่ได้ตัดสินใจครับเพราะยังลังเลกับอนาคตชีวิตของตัวเองอยู่

“คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมนะ นี้สำหรับค่าเหนื่อย”

คุณลุงว่าก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินล้วงแบงค์เทาๆสองใบมายื่นให้ ผมรับมันมาก่อนจะเดินไปหาตู้บริจาคเล็กๆของมูลนิธิเด็กกำพร้าที่มาขออาศัยพื่นที่ของห้างรับบริจาค

ก่อนจะหย่อนลงไป...

“ถือว่าคุณลุงทำบุญกับเด็กกำพร้าแล้วกันนะครับ ผมคิดว่าเดินพาเที่ยวห้างวันนี้เป็นเซอร์วิสจากร้านเราครับ”

ผมหันไปหาคุณลุงที่ทำหน้าอึ้งๆก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา

“น่าสนใจจริงๆนั้นแหละ หวังว่าโอกาสหน้าเราจะได้คุยกันอีกนะครับ”

“เช่นกันครับ ขอบคุณที่ใช้บริการ”

ผมตอบรับก่อนจะยืนมือไปสัมผัสกับฝามือหนาตรงหน้า

ผมว่าผมรู้นะ...ว่าคุณลุงคนนี้เป็นใคร....

แต่ช่างเถอะครับ ในเมื่ออีกฝ่ายมาแบบไม่เป็นทางการ ผมก็ถือว่าอยู่ในฐานะแขก...



                                     .................................................


ทำไมพี่เทสไม่รับสาย ?

ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าๆแล้ว ผมเดินวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่น พี่เทสที่ปกติสมควรจะกลับถึงบ้านก่อนผมวันนี้หายตัวไป พอเช็คกับเพื่อนๆแล้วก็พบว่าไม่ได้ไปนอนค้างบ้านใคร อีกทั้งโทรศัพท์โทรไปก็ไม่รับ

แปลกมาก !!!

หนูติดจั่นอย่างผมเดินไปเดินมาไม่นานโทรศัพท์ในมื่อก็สั่นขึ้น หน้าจอแสดงถึงปลายสายที่กำลังโทรหา.

พี่เทส !!!

ผมรีบรับสายก่อนจะกรอกเสียงลงไป

“อัลโล พี่เทส อยู่ไหนอ๊ะ ทำไมไม่รับสายหมอกอ๊ะ แล้วนี้เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมถึงกลับช้าจัง”

แต่ปลายสายกลับเงียบจนผมกรอกเสียงลงไปสองสามครั้งถึงจะตอบกลับมา

“พี่มึงอยู่กับกู เดี่ยวจะพาไปส่งตรงสวนสาธารณะ...ไปรอที่ด้านหน้านะ สักพักจะขับรถไปส่งให้”

เสียงนี้มัน...

ไอ้เชรี้ยนั้นนี่หว่า !!!

ผมที่ยังไม่ได้สติมากพอที่จะด่ากลับก็พบว่าปลายสายตัดไปแล้ว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือใส่เสื่อกันหนาวอีกตัวแล้ววิ่งลงไปข้างหน้า

“น้า ไปสวนสาธารณะ....ครับ”

ผมบอกชื่อส่วนสาธารณะใกล้ๆบ้านก่อนจะรีบกระโจนขึ้นไปนั่งบนเบาะ

ถ้ามันกล้าแตกต้องพี่ชายผม เดี่ยวได้เห็นดีกันบ้างล่ะมึง !!!

นั่งได้ไม่นานก็มาถึงสวนสาธาณะที่ว่าก่อนผมจะควักแบงค์50ให้คุณน้าแล้วไปรอด้านหน้าของสวน บ้าชิบ มุมนี้มันมืดจะตาย แสงสว่างจากหลอดไฟมันสาดส่องเข้ามาไม่ได้เพราะกิ่งไม้มันบังทางครับ

‘เอี๊ยดดด’

ผมที่กำลังรอด้วยความกระวนกระวายถึงกับตกใจกับเสียงเบรกก่อนจะมองเห็นรถเก๋งคัน หนึ่งจอดอยู่ด้านหน้าผมแต่พอมองเห็นด้านในเท่านั้นแหละ ผมใจหายมากขึ้นเมื่อเห็นร่างๆหนึ่งที่ไม่ได้สติอยู่บนรถด้านคนนั่ง พอคนขับลงมาจากรถผมไม่เหลือสติมากพอที่จะไตร่ตรองอะไรอีกแล้ว

ต้องเป็น ‘มัน’แน่ๆที่ทำให้พี่ผมเป็นแบบนี้

ร่างกายตอบสนองไวเท่าความคิดก่อนหมัดเล็กๆของผมจะพุ่งตรงไปที่แก้มของคนขับ ถึงหน้าสวนสาธรณะตรงมุมนี้จะมืดมากจนมองไม่เห็นหน้า แต่จากรูปร่างลักษณะภายนอกแล้วก็ไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ทั่งแว่นสีชาที่ชอบใส่ ไหนจะไอ้รถเก๋งรุ่นเดี่ยวกันอีก

    “โอ๊ย”

    คนที่ถูกผมชกแบบไม่ทันตั้งล้มลงไปกองกับพื่นก่อนแว่นสีชาจะตกลงพื่น

    เห้ยยยยยยย !!!

    ทั้งเสียงและหน้าที่ปรากฏแม้จะมองไม่ค่อยชัดแต่...ไม่ใช่นี้หว่า

      “อ้าว...คุณไม่ใช่.....?”

    ผมพูดค้างก่อนจะนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูก

    “โหน้อง ตัวก็เล็กทำไมหมัดหนักแบบนี้ แล้วคิดว่าพี่เป็นใครครับเนี้ยมาถึง ถึงได้ชกเข้าหน้าแบบนี้”

    อีกฝ่ายร้องประท้วงก่อนจะยันตัวยืนขึ้น...

    ซวยแล้วกู....



                                                                  .......................................


ด้วยบุญกรรมแต่ปางใดก็ไม่ทราบ ตอนนี้ได้น้องAมาอยู่ในการครอบครองแล้ว 4ตัว  :hao5: [อยากได้แบบนี้ตลอดไปจัง :heaven]


มาก่อนกำหนดคงไม่ว่ากันเนาะ  :hao7:

เจอกันEP.หน้ากับพี่ปันครับ  :bye2:

200703
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2014 19:08:46 โดย อโลลาน »

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
มารอพี่ปันฮ๊าบบบบบบบบบ
 :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด