Re: [เรื่องสั้น] รัก(เล่ห์)ร่อน...ของชายจรจัด [ตอนพิเศษ] UP++13/11/2014 P.61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] รัก(เล่ห์)ร่อน...ของชายจรจัด [ตอนพิเศษ] UP++13/11/2014 P.61  (อ่าน 442687 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
มารออ่านอยู่นะค่ะ อยากเจอคุณนิดกับใหญ่เร็วๆจัง (ดันๆ)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คิดถึงคุณคนเล็กกับใหญ่จัง

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5
เร่ร่อน16



“อื้อ เข้าหมดหรือยะ...ยัง” ผมกลั้นใจถามออกไปพลางกัดริมฝีปากแน่น เพิ่มแรงกดหมอนที่ใช้ปิดบังใบหน้า ท่วงท่าน่าอายเกินกว่าที่จะมอง ความรู้สึกทั้งหมดพุ่งไปยังช่องทางด้านหลัง ฮือ เจ็บจัง เหมือนมันจะฉีกเลย


นี่ยังดีนะที่ผมนึกได้ว่าไอ้ปอนด์มันฝากซื้อถุงยางซึ่งผมซื้อไว้แต่ยังไม่ได้เอาไปให้ เลยให้ใหญ่ไปหยิบมาจากในกระเป๋า ไม่อย่างนั้นผมต้องร้องจนทำต่อไม่ได้แน่


และต้องให้เครดิตกับการเบิกช่องทางอย่างมืออาชีพของอีกฝ่ายที่ทำให้ก่อนหน้านี้


เสียงตอบรับมีเพียงเสียงครางต่ำในลำคอก่อนที่ผมจะได้รับสัมผัสร้อนที่ซุกไซ้ซอกคอ บดจูบดูดดึงเรียกความสนใจผมจากความเจ็บปวดความคับแน่นก่อนละเล็มไปตามแผงอก ความเสียวซ่านสุขสมเรียกให้ผมแอ่นตัวเข้าหาสัมผัสอย่างเรียกร้อง นั่นเอง...จึงเป็นจังหวะให้อีกฝ่ายค่อยๆขยับเอวอย่างเนิบนาบ


“อ๊ะ อ๊า” ผมร้องครางให้กับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้รับ ริมฝีปากร้อนพรมจูบทั่วกายพร้อมกับแรงกระทั้นเข้าออกเป็นจังหวะ มันทำให้ความรู้สึกเจ็บมากก่อนหน้านี้คงเหลือแต่ความเจ็บเสียดซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายปรนเปรอให้


“อ๊ะ ใหญ่ ฉะ ฉัน ฮื่อ อ๊า” ผมเริ่มหายใจหอบหนักตามแรงกระแทกที่เริ่มถี่แรงมากขึ้น เหมือนขาดอากาศจนต้องเอาหมอนที่ปิดใบหน้าออกและเพียงเสี้ยววินาทีที่ใบหน้าผมเป็นอิสระริมฝีปากร้อนก็ประกบลงมาบดจูบอย่างเร่งเร้าเอาใจ


ผมเผยอปากรับลิ้นร้อนให้เข้ามาควงควานไปทั่วโพรงปากสลับเลาะเล็มไปตามซีกฟันที่เรียงตัว ก่อนผมจะสนองตอบด้วยการส่งลิ้นไปพันเกลียวโรมรันส่งผลให้กลืนน้ำลายไม่ทันจนไหลเลอะมุมปากซึ่งนายหมาตูบก็ตวัดลิ้นแลบเลียเก็บกลืนให้ก่อนวกเข้ามาแลกลิ้นกับผมดังเดิมจนเกิดเสียงจูบคลอเคล้าไปกับเสียงผิวเนื้อกระทบกันไปทั่วบริเวณห้องนอน


ผมผวาร่างตามสัมผัสที่ละออกไปอย่างไม่บอกกล่าว ก่อนจะต้องทิ้งตัวลงดังเดิมจิกผ้าปูที่นอนแน่นเมื่ออีกฝ่ายช้อนต้นขาให้อ้ากว้างกว่าเดิม ยกขึ้นสูงและเพิ่มแรงกระแทกกระทั้นจนร่างกายผมโยกคลอนตามจังหวะเข้าออก


ป้าบ ป้าบ ป้าบๆๆๆ



“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อื้ออ อิ๊” เสียงน่าอายไม่เป็นผลกับผมอีกต่อไปเมื่อความรู้สึกบางอย่างพุ่งขึ้นสูงเห่อลามไปทั่วร่างกาย ผมปล่อยเสียง ปล่อยตัว และปลดปล่อยอารมณ์ไปตามสัญชาตญาณ และมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อฝ่ามือใหญ่กำรอบแก่นกายของผมรูดรั้งไปตามจังหวะเดียวกันกับสัมผัสทางช่องทางด้านหลัง


“ใหญ่...เบา...บะเบาหน่อย...” ผมร้องทักเสียงกระเส่าเมื่อนายหมาตูบเพิ่มแรงจนรู้สึกว่าสะโพกผมจะรับไม่ไหว เขาเป็นคนแรงเยอะมากจนน่ากลัว เช่นเดียวกับเซ็กส์ของเขาที่ดูชำนาญจนน่าหมั่นไส้


“ขอโทษ...แบบนี้พอได้ไหม...” เขาเบาแรงลงตามคำขอถึงผมจะรู้สึกว่ามันยังแรงอยู่ดีแต่ก็อยู่ในระดับที่เรามีความสุขกันได้ทั้งคู่จึงพยักหน้าตอบกลับไป แต่วินาทีต่อมาก็ต้องร้องปนครางเสียงหลงเมื่อเขาจับขาผมข้างหนึ่งยกขึ้นสูงก่อนจับพลิก

กลับหลังให้ผมคว่ำหน้าลงทั้งที่ร่างกายเรายังเชื่อมกันอยู่ ท่าทางหมุนควงที่ผมต้องนิ่วหน้าด้วยความเสียวสุดยอด แล้วเขาก็ใช้แขนข้างหนึ่งโอบช้อนสะโพกผมให้ยกสูง ฝ่ามืออีกข้างวางยันบนเตียงขณะที่ร่างกายกำยำชื้นเหงื่อก็ทาบทับแผ่นหลังก่อนเริ่มขยับโยกอีกครั้งอย่างรัวแรง...และถี่ยิบ


“อ่ะ อาห์”


“อ๊ะ อ๊ะ...” ผมบี้หน้าเห่อร้อนลงกับหมอนนุ่มจนใบหน้าจมหาย เสียงครางต่ำข้างหูสลับสัมผัสชื้นที่แลบเลีย ช่องทางด้านหลังที่ถูกเติมเต็มกับแท่งเอ็นด้านหน้าที่ผมเอื้อมมือไปรูดรั้งอย่างไม่สามารถต้านมานความต้องการของตัวเองได้ ทั้งหมดรวมกันเป็นความเสียวซ่านเร่าร้อนที่ทำให้ผมแทบคลั่งจนต้องระบายด้วยการร้องครางออกมาสุดเสียงก่อนจะถูกรั้งใบหน้าไปรับจูบร้อน


ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆ


“อ๊ะ ไม่ไหวแล้ว...อื้ออออออออ” ผมละปากบี้หน้าลงไปกับหมอนอีกครั้งก่อนปลดปล่อยออกมา มันเสียววูบวาบเหมือนการโดดร่มสมัยเรียน นศท. แต่มันก็ชั่งสุขสมเหลือเกินจนต้องร้องครางระงม


หลังจากปลดปล่อยความต้องการออกมาหมดแล้วร่างกายก็เปลี้ย แข้งขาอ่อนแรงไปหมดจนจะฟุบลงกับเตียงเสียให้ได้แต่ติดที่เจ้าของแรงกระแทกด้านหลังไม่ยอมความ รั้งสะโพกไว้แล้วกระแทกกายเข้าออกไม่หยุด เกือบสิบนาทีผ่านไปก็ยังไม่มีทีท่าว่าเขาจะเข้าฝั่งฝันเหมือนผมสักทีซ้ำยังปลุกเร้าให้ผมเริ่มรู้สึกไปกับเขาอีกครั้งด้วย


นายหมาตูบเอ๊ยยยย นายมันพวกสุนัขตำรวจหรือเปล่าถึงได้ถึกอึดทนและแรงดีขนาดนี้


“อ๊า!!!!!”


“อืมมมมม อา!!”


จนสุดท้ายผมก็ต้องเสียน้ำไปสองรอบกว่าที่นายหมาตูบจะเสร็จสิ้นภารกิจสรวงสรรค์ เฮ้อ เล่นเอาผมอ่อนแรงไปหมด


ฟุบ


“ผมพาไปล้างตัวไหม” นายหมาตูบที่ผละไปถอดถุงยางทิ้งถังขยะนั่งลงข้างเตียงพลางเอ่ยถามผมที่นอนคอพับคออ่อนอยู่


“ไม่เอา...เล็กอยากนอน...” ผมตอบเสียงเบาหวิวขณะที่หนังตาเริ่มปรือลง อยากนอนหลับมากมันไม่ใช่แค่ความเพลียเพราะตอนนี้ความปวดตัวปวดสะโพกเจ็บก้นเริ่มเข้าเล่นงานแล้ว


“งั้นกินยาแก้ปวดกับแก้อักเสบก่อนนะ เดี๋ยวค่อยนอน ผมจะเช็ดตัวให้”


“ไม่เอา ไม่ใช่ ‘ผม’ ต้องแทนตัวว่า ‘ใหญ่’สิ”


ใหญ่ไม่ได้ตอบรับหรือทวนประโยคเป็นชื่อตัวเองซ้ำ เพียงแค่ยิ้มมุมปากโน้มใบหน้าลงมาจูบหน้าผากแล้วผละลุกเดินออกไปด้านนอก คงไปเอายามาให้


สักพักก็เดินเข้ามาพร้อมกับยาและแก้วน้ำอย่างที่ผมคาดไว้ ซึ่งผมก็ไม่โอ้เอ้รับมาทานอย่างว่าง่าย ก่อนที่สามีหมาดๆจะวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะข้างเตียงและขึ้นมานอนเคียงข้างพร้อมกับรั้งผมเข้าสู่อ้อมกอดอบอุ่น





เช้ามาผมก็ต้องลุกไปทำงานตามปกติทั้งที่ร่างกายไม่พร้อมเอาเสียเลย ต้องให้ใหญ่อุ้มเข้าไปอาบน้ำซึ่งคราวนี้ไม่มีสำออยไม่มีอ่อย จะนั่งเก้าอี้ก็เจ็บก้นจนใหญ่ต้องนั่งชันขาขึ้นข้างหนึ่งเพื่อเป็นเก้าอี้ให้ผมได้นั่ง จะลางานก็ไม่ได้เพราะมีงานด่วนเข้ามา ถ้าลาต้องผลักภาระไปให้คนอื่นที่แต่ละคนก็มีงานท่วมตัวอยู่แล้ว ยิ่งหัวหน้าลาไม่มีกำหนดแบบนี้ก็ยิ่งวุ่น


เพราะฉะนั้นผมจำต้องแบกร่างกายที่ชำรุดไปทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


เอาเถอะถึงจะปวดตัวเจ็บก้นไปบ้างแต่ก็มีความสุข ก็มีคนดูแลดีขนาดนี้นี่เนอะ ^^


“เดี๋ยวตอนเย็นผมมารับนะ”


“ขายของไปเถอะ เย็นๆลูกค้าเยอะ เดี๋ยวเล็กให้ไอ้ปอนด์มาส่ง”


“ผมมารับได้”


“’งั้นก็ได้ ไปนะ” ผมชะโงกหน้าไปหอมแก้มสากก่อนเปิดประตูลงจากรถ ตลอดทางเดินมีคนทักว่าผมไม่สบายเหรอ ขาไปโดนอะไรมา ซึ่งสภาพร่างกายช่างขัดกับใบหน้าซีดเซียวที่ยิ้มกว้างมาตลอดทาง ส่วนผมก็ตอบไปว่าตกบันไดมาแล้วมีไข้ร่วมด้วย ก็แถๆกันไป แต่ก็ไม่สามารถตบตาสองคู่ที่มองมาอย่างรู้ทันปนหมั่นไส้ได้...


...ไอ้ปอนด์กับพี่มิ่ง...


“ทำไมวันนี้ต้องให้มันมาส่ง ทุกทีก็เห็นขับมาเอง” ไอ้ปอนด์เปิดคนแรก ผมก็ปั้นหน้ามึนเดินไปนั่งบนเก้าอี้ ซี๊ดดด เจ็บ...ดีนะเก้าอี้เป็นเบาะนุ่ม ไม่งั้นผมร้องไห้แน่


“ท่าเดินก็แปลกๆ หน้าก็ซีด” พี่มิ่งเปิดคนที่สองก่อนยื่นหลังมือข้ามโต๊ะมาแตะหน้าผาก “ไหนว่าเป็นไข้ตัวก็ไม่ร้อน อุ่นๆรุมๆยังไม่มี แล้วไอ้ที่ตกบันไดเจ็บขาต้องเดินถ่างขาด้วยเหรอวะ มันต้องขากะเผลกไม่ใช่เหรอ”


ผมก็ทำเนียนหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน ตอบโดยไม่มองหน้า “ก็กินยาไข้ลดแล้วตัวก็ไม่ร้อนสิ” แล้วก็ทำเป็นหยิบดินสอมาขีดเขียนแก้งาน ทำเมินคำถามเรื่องเดินขาถ่าง มันก็ไม่ได้ถ่างจนน่าเกลียดขนาดนั้นซะหน่อย พูดจาน่าเกลียดจัง อีกอย่างไม่รู้จะตอบคำถามคนที่รู้ทันไปทำไม แต่ก็อายเกินกว่าจะตอบตรงๆ


คือผมว่าไม่ได้สงสัยกันหรอก ปากน่ะถามเหมือนอยากรู้ แต่จากสายตาดูก็รู้ว่าต้อนให้จนมุมซะมากกว่า แต่จะให้สารภาพก็ฝันไปเถอะ ผมไม่ใช่พวกกินที่ลับขับที่แจ้ง แล้วผมทำหน้ามึนเก่งนะจะบอกให้ ฮ่าๆ


“ถุงยางที่กูฝากซื้ออ่ะ เอามาดิ” ยัง...ยังไม่จบนะไอ้ปอนด์


“กูลืมซื้อ”


“เมื่อวันก่อนมึงบอกว่าซื้อแล้ว”


“กูจำผิด”


แล้วผมก็เงียบทำเป็นยุ่งกับงาน สองคนยืนจ้องผมสักพักก่อนจะเดินแยกกลับโต๊ะอย่างเซ็งๆ คงเห็นว่าต้อนยังไงผมก็ไม่มีทางหลุดปาก


พอสองคนนั้นคล้อยหลังผมก็วางดินสอลงพลางทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก รอดจากสองคนนี้ไปได้ชีวิตการทำงานในวันนี้ทั้งวันก็ทางสะดวก ว่าแล้วก็ทำงานเถอะยุ่งไปหมด เอ...เอกสารที่ไปพบลูกค้ามาเมื่อวันศุกร์อยู่ไหนนะ


ฟุบ


เอ๊ะ


ผมหยุดมือที่ค้นเอกสารในกระเป๋าเมื่อกระดาษบางอย่างตกลงบนพื้น เลื่อนเก้าอี้ถอยหลังก่อนก้มลงเก็บ


นี่มัน...นามบัตรคุณเฟยเฟิ่งนี่


ผมจ้องนามบัตรสีขาวตัวอักษรสีทองในมือกวาดตาอ่านอักษรที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด


รองประธานกรรมการบริษัทเฟยกรุ๊ป...อื้อหือ ตำแหน่งใหญ่ซะด้วย


เห็นแล้วก็อดนึกถึงที่ถามใหญ่เมื่อเช้าไม่ได้



‘ตกลงใหญ่รู้จักกับคุณเฟยเฟิ่งเหรอ’


‘ก็เขาเป็นลูกค้า’ ใหญ่ตอบด้วยสีหน้านิ่งเรียบไม่มีพิรุจใดๆทั้งสิ้น


‘แต่เขารู้ได้ยังไงว่าใหญ่แพ้เหล้าชนิดนั้น’


‘แพ้ที่ไหน คุณก็เห็นว่าผมดื่มไปตั้งเยอะไม่เห็นจะเป็นอะไร เขาคงแค่แหย่เล่น’


‘ไม่ได้สนิทกันซะหน่อย’


‘เอาน่า อย่าทำหน้าตูมสิ ผมไม่เคยมีอะไรกับเขาและไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แค่ลูกค้าเท่านั้น’


‘แต่ใหญ่ก็จ้องเขาตลอด’


‘...’


‘เงียบทำไม’


‘ขอโทษที่ทำให้คุณไม่สบายใจ ผมจะไม่ทำอีก’



ประโยคนั้นทำให้ผมวางใจและสรุปกับตัวเองว่าที่ใหญ่มองคุณเฟยเฟิ่งก็เพราะความหน้าตาดีมีเสน่ห์เท่านั้น ขนาดผมเจอคนหน้าตาดีๆยังอดมองไม่ได้เลย แค่เขาสองคนไม่ได้มีอะไรพิเศษกันก็พอแล้ว


และผมก็เลิกสนใจนามบัตรในมือ ยัดเก็บลงในกระเป๋าเสื้อและกลับมาตั้งใจทำงาน




ต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2014 20:24:27 โดย mod-cup »

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5
ตอนเย็นใหญ่มารับผมตามที่บอกไว้ บนตัวยังมีผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลที่สวมทับเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงยีนตัดขาอยู่เลย สงสัยคงรีบมากจริงๆ ผมสอดตัวเข้าไปในรถก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปหอมแก้มสากแล้วส่งยิ้มกว้างให้ ซึ่งใหญ่ก็หันมายิ้มบางตอบพร้อมส่งปลายนิ้วมาหยิกแก้มเบาๆ


หลังจากนั้นเราก็ไปร้านเช่าชุดเอาสูทที่ใหญ่เช่ามาเมื่อวานไปคืน ตอนแรกกะจะซื้อแต่นายหมาตูบไม่ยอม เขาให้เหตุผลว่าคงไม่มีโอกาสได้ใส่บ่อยนักไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปเช่าเอาดีกว่า ช่างเป็นคนที่คิดทุกเม็ดทุกหน่วยจริงๆ


“ใหญ่ จอดรถข้างหน้าหน่อยสิ” ผมบอกใหญ่กะทันหันเมื่อเหลือบไปเห็นบางอย่างข้างทาง


ใหญ่จอดรถเทียบฟุตบาทเลยที่เกิดเหตุไปประมาณสองเมตร ผมเปิดประตูลงมาจากรถก่อนหยุดยืนมองหนึ่งชายแก่และหนึ่งเด็กน้อยที่นั่งกอดกันอยู่ตรงมุมตึก


“น่าสงสารจัง” ภาพตรงหน้าทำเอาผมสะเทือนใจไม่น้อย ผมไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรถึงทำให้ชายมีอายุคราวปู่กับเด็กผู้หญิงตัวน้อยไม่น่าจะเกินห้าขวบในชุดมอซอทั้งคู่มาอยู่ตรงนี้ได้ สิ่งที่สะดุดตาผมและไม่สามารถมองผ่านไปได้คือดวงตาเศร้าหม่นแสงของทั้งคู่


ผมหันไปมองคนตัวโตที่ยืนข้างๆ เขาพยักหน้าให้อย่างเข้าใจว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงและอยากจะทำอะไร


ผมเม้มปากก่อนค่อยๆก้าวเดินเข้าไปหาเป้าหมาย ทรุดตัวนั่งยองลงตรงหน้าขณะที่สายตาหม่นสองคู่จะเงยขึ้นมอง


“คุณตาครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม”


จบประโยคคนต่างอายุทั้งคู่ก็มองผมด้วยสายตามึนงงก่อนจะหันกลับไปมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจและเริ่มหวาดระแวง เอาล่ะ ผมควรจะต้องค่อยเป็นค่อยไปให้พวกเขาค่อยๆวางใจ


ผมจึงยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร “กินอะไรกันหรือยังครับ”


เหมือนผมจะมาถูกทางเพราะจากท่าทางกระตือรือร้นไหนจะดวงตาเป็นประกายของเด็กหญิงตัวน้อย


“หิว หนูหิว” ผมยิ้มกว้างส่งมือไปลูบศีรษะเล็กทุย พลางเอ่ยอย่างผู้ใหญ่ใจดี


“หนูหิวหรือคะ งั้นไปหาของกินอร่อยๆกับพี่ไหม”


“ไปๆ หนูหิว” เด็กน้อยร้องพลางขย่มตัวบนตักคุณตาอย่างตื่นเต้นก่อนหันไปพูดกับคนอุ้มเจ้าตัว “ตาจ๋าๆ หนูหิว ไปนะๆ” แววตาประกายมีหวังทำให้คุณตาทำหน้าปั้นยาก เหมือนใจหนึ่งก็อยากไปแต่อีกใจก็ยังหวาดระแวง


“ไปเถอะ คงไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้หรอก” เสียงทุ้มของนายหมาตูบที่ยืนอยู่ด้านหลังเอ่ยเสียงเรียบ เอ๊ะ ทำไมนายพูดจาใจร้ายจัง ไปตอกย้ำเขาทำไมกัน แต่เหมือนประโยคจี้ใจดำข้างต้นจะทำให้คุณตาตัดสินใจได้และยิ่งหันไปมองหน้าหลานสาวก็ยิ่งแน่ใจ และการพยักหน้าน้อยๆก็เรียกให้ผมยิ้มกว้างอย่างดีใจ


แล้วผมก็ไม่ได้พาสองตาหลานไปฝากท้องที่ไหนไกล ร้านกินเส้นที่มีเจ้าของร้านหล่อที่สุดในโลกหล้านั่นเอง เชฟสุดหล่อของผมลงมือทำบะหมี่ชามพิเศษ เพิ่มเส้นเพิ่มหมูเพิ่มลูกชิ้นแถมหัวไชเท้าชิ้นโต เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มให้ถ้าไม่อิ่มเบิ้ลได้ไม่จำกัดอีกด้วย


“ค่อยๆกินลูกเดี๋ยวติดคอ” เสียงอาทรของคุณตาที่มีต่อหลานสาวทำให้ผมอิ่มเอมในหัวใจ ผมส่งมือไปลูบแผ่นหลังเล็กๆที่เจ้าของยังไม่เงยหน้าจากการดูดเส้นเข้าปาก แก้มกลมทั้งสองข้างพองออก ประกายตาความสุขของคุณตาที่มองมากับการพนมมือไหว้ขอบคุณทำให้ผมรีบยกมือไหว้กลับแทบไม่ทัน


“ขอบคุณ...ขอบคุณมากจริงๆ”


“อย่าไหว้ผมอีกนี้สิครับ โ เดี๋ยวผมอายุสั้นหมด”


หลังจากนั้นผมก็ให้เก๋า(เด็กขายน้ำขวดที่ใหญ่จ้างมาเฝ้าร้านให้ชั่วคราว)จูงพาเด็กหญิงตัวน้อยที่ผมมารู้ชื่อทีหลังว่า ‘น้องดาว’ ไปทานน้ำแข็งไสร้านพี่จั่นที่อยู่ถัดจากร้านของใหญ่ไปอีกสามบล็อก


ส่วนคุณตาที่นั่งอยู่กับผมก็เล่าให้ฟังว่า...สองตาหลานความจริงแล้วอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ในกระท่อมหลังเล็กๆ มีอาชีพปลูกผักสวนครัวประทังชีวิตไปวันๆ สิ้นเดือนลูกสาวซึ่งก็คือแม่ของน้องดาวที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯจะส่งเงินมาให้เป็นค่าเลี้ยงดูและค่าใช้จ่ายในการเรียนของหลาน แต่อยู่ๆก็หายไปไม่ติดต่อมาสามเดือนแล้ว ทางโรงเรียนก็ทวงค่าเทอมมาตลอดจนเมื่อสี่วันก่อนได้ยื่นคำขาดมาว่าถ้าไม่จ่ายค่าเทอมก็ต้องให้น้องดาวออกจากโรงเรียน คุณตาจึงตัดสินใจหอบหลานสาวมากรุงเทพฯเพื่อไปหาลูกสาวตามที่ทิ้งที่อยู่ไว้ให้


แต่เกิดเรื่องซะก่อนเมื่อรถกระบะที่อาศัยมาด้วยซึ่งคิดราคาต่ำกว่ารถทัวร์เกือบครึ่งปล่อยสองตาหลานทิ้งไว้ที่นี่เนื่องจากพอมาถึงกลางทางเจ้าของรถเรียกเก็บเงินเพิ่มแต่คุณตาไม่มีจ่าย


“ตาก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เขาบอกตาว่าจะไปส่งของที่กรุงเทพฯพอดีเลยให้ติดรถไปด้วยกัน ขอให้ช่วยค่าน้ำมันรถเขานิดหน่อย ตาเห็นว่ามันถูกเลยมากับเขา ไม่คิดว่าจะโดนทิ้ง เงินก็ไม่มีติดตัวเพราะเขาเอาไปหมด ตาไม่รู้ว่าจะพาหลานกลับบ้านยังไง ถ้าไม่ได้พ่อหนุ่มล่ะแย่เลย ขอบคุณพ่อหนุ่มมากนะ”


ถึงตรงนี้น้ำตาผมก็คลอหน่วงรอบดวงตา สิ่งที่ได้ยินผ่านการเล่าของคุณตาทำให้ผมปวดใจอย่างบอกไม่ถูก คนๆนั้นทำกับตาแก่ๆกับเด็กตัวน้อยน่ารักได้ยังไงนะ ใจร้ายจริงๆ


“แล้วคุณตาไม่อยากไปหาลูกสาวแล้วเหรอครับ”


“ตาคงไม่ไปแล้ว นี่ยังเจอขนาดนี้ถ้าไปถึงนู่นยังไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรอีก คนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ ตาขอกลับบ้านดีกว่า ส่วนหนูดาวคงให้ย้ายมาเรียนโรงเรียนวัดแถวบ้าน”


ผมอยากจะช่วยเหลือคุณตาให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ที่ตัวเองสามารถทำได้ก็คงเป็นแค่ช่วยให้คุณตาได้กลับบ้าน


“คุณตาไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวคืนนี้พักกับผมก่อน พรุ่งนี้ผมจะพาคุณตากับน้องดาวไปส่งขึ้นรถกลับบ้าน”


“แต่ตาไม่มีเงิน...”


“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”


ถึงตรงนี้ดวงตาหม่นเศร้าที่ผมเห็นแปรเปลี่ยนเป็นดวงตารื้นน้ำตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื้นตัน ดีใจ และขอบคุณ



ผมพาคุณตาและน้องดาวมาพักค้างคืนที่คอนโด ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปเจ้าตี๋น้อยก็วิ่งกระโจนมารับ(วันนี้ใหญ่ไม่ได้พาไปร้านด้วย) พอเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาด้วยก็ตั้งท่าแยกเขี้ยวขู่คำรามในลำคอ จนใหญ่ส่งเสียงดุให้นั่งลงมันถึงรู้ว่าสองตาหลานเป็นแขกไม่ใช่โจร


“เดี๋ยวคุณตาพาน้องดาวไปอาบน้ำก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเตรียมที่นอนให้ ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนนะครับ” คุณตารับคำก่อนจูงมือหลานเข้าห้องน้ำไป เสียงน้องดาวเจื้อยแจ้วออกมาเป็นระยะขณะที่ผมกับใหญ่ช่วยกันปูผ้านวมเพื่อใช้เป็นพื้นที่หลับนอนในคืนนี้ จะให้นอนบนโซฟาก็ดูจะคับแคบไปสำหรับสองตาหลาน



ตาจ๋าห้องน้ำกว้างจัง

โหสบู่มีฟองเยอะมาก

 ตาจ๋าๆที่อึอึ๊ไม่เป็นแบบนั่งยองๆเหมือนบ้านเราเลย

น้ำอุ่นๆหนูชอบ




เสียงสดใสมีความสุขที่ยิ่งฟังยิ่งทำให้ผมยิ้มกว้างอย่างมีความสุขไปด้วย


“ไม่เมื่อยแก้มบ้างหรือไง” ผมเงยหน้าขึ้นมองนายหมาตูบที่เอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆตามสไตล์


คำที่ยิ่งทำให้ผมยิ้มยิงฟันกว้างขึ้นก่อนจะเดินไปสวมกอดคนตัวใหญ่


“ก็เล็กดีใจที่ได้ช่วยเขาสองคนนี่”


ใหญ่วาดวงแขนมากอดเอวไว้หลวมๆอีกข้างยกขึ้นลูบศีรษะผมเบาๆ


“อีกหน่อยห้องคุณคงเป็นมูลนิธิแน่ๆ”


ป๊าบ


“ใหญ่ก็” ผมฟาดฝ่ามือไปบนแผงอกเขาอย่างหมั่นไส้คนขี้แหย่ เรายืนกอดยืนหยอกล้อกันสักพักผมก็แยกเข้ามาเตรียมเสื้อผ้าสำหรับอาบน้ำต่อในห้อง ส่วนใหญ่ขอตัวไปทำนมอุ่นๆให้ผมและสองตาหลาน


เมื่อสองตาหลานอาบน้ำเสร็จนมอุ่นๆจากนายหมาตูบก็มาเสิร์ฟพอดี น้องดาวดูชอบใจกับนมอุ่นรสแคนตาลูปของเธอมากและดวงตาก็ประกายวาววับมากขึ้นกับช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์คในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า


ผมเข้ามาอาบน้ำต่อจากคุณตา วางเสื้อผ้าชุดใหม่ไว้ที่แท่นอ่างล้างหน้าก่อนเดินเข้ามาในส่วนกระจกฝ้าถอดเสื้อผ้าแขวนไว้บนราวแล้วเปิดน้ำอุ่นให้ไหลรินรดกาย


ฮ้า สบายจัง วันนี้นั่งทำงานทั้งวันเมื่อยไปหมด แถมสะโพกก็ยังขัดๆไม่หาย


กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็เกือบครึ่งชั่วโมงเมื่อผมมัวแต่เพลินอยู่กับสายน้ำอุ่นๆและฟองสบู่หอมๆ กำลังหันมาคว้าผ้าเช็ดตัวก็ต้องร้องอุทานออกมาเมื่อเสื้อผ้าที่แขวนไว้บนราวร่วงตกลงมาบนพื้นจนเปียกไปหมด


ดีนะที่เป็นเสื้อผ้าเก่าที่ใส่แล้ว บิดน้ำออกและเอาไปตากไว้ที่ระเบียงก่อนแล้วกัน


คิดได้ดังนั้นผมก็หยิบเสื้อและกางเกงขึ้นมาบิดน้ำออก


เอ๊ะ อะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อน่ะ


ผมคลี่เสื้อกางออกมาพลางล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตัวเอง ดึงออกมาถึงรู้ว่าเป็นนามบัตรของคุณเฟยเฟิ่งที่เขาให้ไว้ในงานแต่งงาน ดีนะที่หมึกไม่เลือนจนตัวหนังสือหายไป บัตรก็ยังคงสภาพดูดีเหมือนไม่ได้เปียกน้ำด้วยซ้ำ


หืม?? ไม่เปียกงั้นเหรอ


ผมเบิ่งตาโตขึ้น รีบเดินออกไปวางนามบัตรบนแท่นอ่างอาบน้ำก่อนใช้ผ้าขนหนูเช็ดมือตัวเองให้แห้งสนิทแล้วหยิบนามบัตรขึ้นมาดูใหม่ ไม่รู้สึกถึงความเปียกชื้นเลยสักนิด ลองเปิดน้ำก๊อกเบาๆแล้วยื่นนามบัตรไปรองรับน้ำ...เหมือนน้ำที่ไหลหยดบนใบบัว...


หัวใจผมเต้นแรงระรัวขึ้น เหมือนเดจาวู ผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วเมื่อเกือบห้าเดือนก่อนกับหนังสือหน้าปกสีแดง...คัมภีร์อาหารยอดยุทธ์ของใหญ่...


ผมรีบผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้วซอยเท้าตรงไปที่โต๊ะทำงานที่มีโน๊ตบุ๊ควางตั้งอยู่ จัดการเปิดเครื่องขณะรอ...หัวใจผมเต้นแรงจนเจ็บช่วงอก


เมื่อหน้าเดสท็อปปรากฏขึ้นผมก็รีบคลิกไปที่ตัวอีสีฟ้าเพื่อเข้าสู่โลกออนไลน์ เข้าเว็บกูเกิ้ลที่เสิร์ชหาทุกอย่างได้ทั่วทุกมุมโลกและพิมพ์ชื่อในนามบัตรพร้อมชื่อบริษัทลงไป


ข้อมูลการค้นหาขึ้นมามากมายผมเลือกกดเข้าไปดูรูป มีรูปคุณเฟยเฟิ่งตามงานต่างๆอย่างที่ผมคาดไว้จริงๆด้วย ทุกรูปจะมีคุณจิ่นตั้งในชุดสูทสีดำยืนเยื้องอยู่ด้านหลังเสมอและมีผู้ชายอีกประมาณห้าหกคนยืนคุมเชิงอยู่เหมือนคุ้มครอง ซึ่งก็ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าคนสนิทที่ว่าคงหมายถึงลูกน้องหรือบอดี้การ์ดเป็นแน่


ผมเลื่อนรูปลงดูเรื่อยๆจนถึงหน้าสอง ก็เป็นรูปซ้ำแบบเดิมๆแตกต่างก็คงเป็นโลเคชั่นกับชุดที่สวมใส่เท่านั้น แต่หลักๆแล้วคุณเฟยเฟิ่งนิยมใส่ชุดสูทสีขาวซะส่วนใหญ่ ส่วนคุณจิ่นตั้ง...


เฮือก!


ผมสะดุ้งสุดตัวปล่อยเม้าท์และผละตัวออกราวกับเจอของร้อน จ้องมองรูปด้วยความหวาดหวั่น แววตาสั่นระริก เนื้อในอกเต้นแรงจนได้ยินเสียงตึกตักดังก้องในหู ค่อยๆยื่นมือที่สั่นระริกไปจับเม้าท์อีกครั้งก่อนกดขยายรูปด้วยมืออันสั่นเทา


มะไม่ใช่...คุณจิ่นตั้ง...ตะแต่เป็น...ใหญ่ต่างหาก


...นายหมาตูบของผม...


ใช่แน่ๆ ผมจำแววตาว่างเปล่าไร้ความรู้สึกดังที่เจอกันครั้งแรกได้...แววตาที่ผมคิดว่าเป็นเพราะเขาจำอะไรไม่ได้ แต่ไม่ใช่...นั่นคือแววตาจากตัวตนเขาจริงๆ


ผมใช้มืออีกข้างขยุ้มอกข้างซ้ายเอาไว้กดแรงๆอย่างหวังว่าให้มันสงบลง ก่อนที่มืออีกข้างจะใช้เลื่อนภาพลงดูเรื่อยๆ...ทุกภาพลงมามีแต่ภาพของใหญ่ทั้งนั้น ตำแหน่งยืนเช่นเดียวกับคุณจิ่นตั้งแตกต่างเพียงชุดสูทที่สวมใส่จะเป็นสีเทา...งานแต่งวันนั้นเขาก็เลือกชุดสีเทา...มองดูวันที่ลงรูปเป็นก่อนที่ใหญ่จะหายตัวไปทั้งนั้น


เขาดูหล่อและน่าเกรงขามมาก...ที่สำคัญดูตัวใหญ่มั่นคงพร้อมจะปกป้องคนชุดขาวตลอดเวลา และดูจากตำแหน่งการยืนแล้วคงไม่พ้นหัวหน้าลูกน้องชุดดำด้านหลังเป็นแน่


ผมเลื่อนดูทุกภาพแต่ก็ไม่มีชื่อจริงๆของใหญ่แสดงอยู่เลย จนเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นจึงรีบปิดหน้าต่างนั้นลงเป็นหน้าเดสท็อป วินาทีต่อมาก็รู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่จับลงบนบ่าทั้งสองข้าง


“ทำงานเหรอ”


“อื้ม แต่เสร็จแล้วล่ะ”


ผมปิดเครื่องก่อนลุกขึ้นมากอดเอวหนาแล้วซบหน้าลงกับอกอุ่นอย่างโหยหาสัมผัส...ผมลืมไปได้ยังไงกันว่าตัวตนของใหญ่คือใคร


ไม่ใช่...ผมไม่ได้ลืม...แต่ทำเป็นลืมต่างหาก ความเห็นแก่ตัวที่อยากจะเก็บเขาไว้ข้างกายจนลืมที่จะสืบหาความจริง ละเลยจนมองข้ามความรู้สึกใหญ่ไปว่าการอยู่อย่างไร้ตัวตนในสังคมแม้กระทั่งไร้ความทรงจำมันรู้สึกแย่แค่ไหน...ก็แค่อยากจะให้เขาอยู่กับผมอย่างนี้ตลอดไป


“งานหนักเหรอ...” เขากอดรัดผมแนบอกพลางเอ่ยถามอย่างห่วงใย ผมเงยหน้าชันคางไว้บนอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามพลางช้อนตาขึ้นสบตา...ผมชอบแววตาที่อบอุ่นคู่นี้มากกว่าแววตาว่างเปล่าคู่นั้น...


ผมส่ายหัวแทนคำตอบก่อนเลื่อนสายตาลงมามองริมฝีปากบางเหยียดตรง และใหญ่ก็เข้าใจ...ก้มหน้าประกบจูบลงมามอบสัมผัสอ่อนโยนให้


ปลายลิ้นร้อนผ่าวแตะกันให้ความรู้สึกวาบหวานและหัวใจเต้นคับพองไปด้วยความรู้สึกอุ่นในอก เกลียวลิ้นค่อยๆเกี่ยวพันแลกเปลี่ยนรสชาติของน้ำเหลวใสให้แก่กันและกันลิ้มลอง


ฝ่ามือที่โอบรัดร่างผมอยู่ค่อยๆลูบไล้ ผมยกมือโอบกอดลำคออีกฝ่ายก่อนบดเบียดเนื้อตัวเข้าหาและปรับเอียงใบหน้าให้ได้มุมเพื่อเพิ่มรสจูบให้ร้อนแรงขึ้น


ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามแผ่นหลังก่อนไล้ต่ำลงมาเคล้นคลึงที่สะโพก มืออีกข้างก็สอดเข้ามาลูบแผ่นท้องให้เสียววูบก่อนไต่ระดับขึ้นบดนิ้วโป้งเข้ากับตุ่มไตสีน้ำตาลอ่อนจนผมส่งเสียงครางออกมาเมื่อความเสียวปลาบแล่นจากจุดโดนสัมผัสลามไปทั่วร่างกาย


“ยะ...ใหญ่ อื้อ ไม่ทำได้มั้ย ยังเจ็บอยู่เลย...” หลังจากถอนจูบผมก็ส่งเสียงอ้อน สัมผัสทุกอย่างหยุดชะงัก ใหญ่จ้องมองอย่างชั่งใจก่อนจะถอนหายใจเฮือก ลูบใบหน้าตัวเองอย่างระงับอารมณ์


“ไปนอนกันเถอะ” ใหญ่ใช้มือข้างเดียวกอดเอวไว้ก่อนพาเดินมาล้มลงนอนด้วยกันบนเตียงก่อนที่อีกฝ่ายจะรั้งผมเข้ามากอด “คืนนี้ขอนอนด้วยนะ ข้างนอกมีคนแย่งที่ซะแล้ว”


“อื้ม มานอนด้วยกันทุกคืนเลยนะ” ผมว่าแล้วซุกตัวเข้าหามากยิ่งขึ้น รู้สึกถึงริมฝีปากที่แตะลงบนศีรษะ และก่อนที่เราทั้งคู่จะหลับไปผมก็เอ่ยถามเสียงแผ่ว


“ใหญ่...นายอยากรู้มั้ยว่าตัวเองเป็นใคร” มีแต่ความเงียบแต่ผมรู้ว่าเขาได้ยิน “ไม่อยากรู้เหรอ...”


“อยากสิ”


“เหรอ...”


“ผมมักฝันเห็นอะไรแปลกๆบ่อยๆ น่าจะเป็นผมเมื่อก่อนนั้น” ผมเงยหน้าพรวดมองเขาอย่างตกใจ ใหญ่กดศีรษะผมให้ซบลงดังเดิมก่อนว่าต่อ “ผมมักเห็นตัวเองในชุดสูทสีเทา...ในเหตุการณ์ต่างๆ แต่มันกระท่อนกระแท่นจับเป็นเรื่องราวไม่ได้เลย”


“นะนานแค่ไหนแล้ว...”


“ตั้งแต่ผมแยกจากคุณเมื่อสามเดือนก่อน”


ถ้าอย่างนั้นเขาก็ฝันมาร่วมสามเดือนแล้วสิ มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากรู้และก็เอ่ยถามออกไป


“ในฝันของนายมีคุณเฟยเฟิ่งด้วยมั้ย” เสียงผมสั่นไหวจนรู้สึกได้ ใหญ่เงียบไปอึดใจก่อนตอบ


“ผมไม่แน่ใจว่าใช่เขามั้ย มันเลือนๆผมเห็นหน้าไม่ชัดแต่ผมมักเห็นผู้ชายในสูทสีขาว...” แค่ตรงนี้ผมก็กอดรัดเขามากขึ้นอย่างรู้ดีว่าเขาเห็นอะไร ในใจมันวูบโหวงไปหมด


“ใหญ่...ถ้าใหญ่อยากจะสืบหาตัวตนของตัวเอง...ฉันจะช่วยนะ” เสียงผมสั่นมาก ช่างไม่มีความมั่นคงในน้ำเสียงเอาซะเลย ผมจะเห็นแก่ตัวไม่ได้ ครอบครัวของใหญ่อาจจะรอเขาอยู่...พ่อแม่...พี่น้อง...หน้าที่การงานของเขา...ตะแต่ผม...


เหมือนใหญ่จะจับความรู้สึกได้เขากอดรัดผมไว้และลูบแผ่นหลังเบาๆอย่างปลอบโยน


“นอนเถอะ ไม่ต้องคิดมากนะ ตอนนี้ผมมีความสุขดี”


“อืม เล็กก็มีความสุข”






ติ๊ดๆ


‘คุณเฟยเฟิ่ง ขอโทษที่ผมไม่ได้โทรไปด้วยตัวเอง ผมเห็นว่าในยามวิกาลเช่นนี้ควรจะส่งข้อความมากกว่า...ถ้าไม่รบกวนจนเกินไปพรุ่งนี้ผมขอนัดเจอคุณได้ไหมครับ’



ติ๊ดๆ


‘ด้วยความยินดีครับ พรุ่งนี้ผมว่างตอนสิบโมง ส่วนสถานที่คุณนัดมาได้เลย
............คุณติดต่อมาเร็วกว่าที่ผมคิดไว้นะครับ’
 





 :katai5: :katai5: :katai5:กระดึ๊บๆเข้ามา มาอย่างเชื่องช้าอีกแล้ว  :hao7: สรุปว่ารู้อะไรเกี่ยวกับใหญ่เพิ่มบ้าง 55 (อย่าตบเค้านะ) ตอนนี้ยังไม่ดราม่านะคะค่อยๆต้มน้ำรอกันไปก่อนอย่าใจร้อน (ได้ข่าวว่าเหลืออีกแค่สี่ตอน)
กำลังจะไล่แก้คำและประโยคที่ผู้อ่านช่วยแก้มานะคะ  :katai4: 

สุดท้ายนี้ตกใจมากที่ครบร้อยเม้น คือแบบดีใจมากกกกก และขอบคุณผู้อ่านทุกคนสำหรับทุกเม้น ทุกเป็ดนะคะ เพราะคุณคือกำลังใจของคนเขียนค่าาา  :3123: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2014 18:55:58 โดย mod-cup »

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
แลดูยาว  แต่พออ่านแล้ว  ทำไมตนเขียนใจร้ายใก้จบค้างแบบเน้!!!!!!!!! :z3: :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2014 21:04:09 โดย wikawee »

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
ดึ๋ยยย เขาเล่นจ้ำจี้กันแบ๊ววว :-[

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
ุ6 เดือน 5 ป่ะคนแต่ง จ่าหัวเรื่องผิดนะ 55555555555555
แปะโป้งไว้ไปอ่านก่อนๆ

ออฟไลน์ toey-yyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อร๊ายยยยยคุณเล็กนี่น่ารักเว่อร์ :o8: :-[  :jul1:สวนใหญ่สรุปเป็นใครอะไรยังไงอยากรู้อ่า :hao4:

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
 :z3: :z3: อะไรยังไง

 ค้างซะ :z10:

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
โอ๊ยๆๆๆ จะรู้แล้วววว.

แล้วจะเป็นไงต่อไปเนี่ย อย่าดราม่ามากนะ สงสารตี๋เล็ก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jeyibee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านทีเดียวรวดเลยค่ะ พออ่านตอนล่าสุดจบแล้วดิ้นพล่านเลย ค้างงงงงสุดๆ  :ling1:
สนุกมากค่ะ เรื่องไปเรื่อยๆแต่ดึงอารมณ์คนอ่านได้อินมาก ตอนที่แยกกันอยู่นี่อ่านไปหน่วงไปรู้สึกปวดตับแปล็บๆ :hao5:
พอหลังๆหวานกันก็ยิ้มจนแก้มจะแตก  :o8: นี่อินแบบสุดๆแล้วค่ะ (อาการหนัก555+)
รอตอนต่อไปแบบใจจดใจจ่อเลยนะคะ สู้ๆนะคะ :L2:

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ไม่เอามาม่าได้ป่ะ
ตี๋ใหญ่เป็นแค่บอดี้การ์ดไม่ใช่คนรักหรอกใช่มะ อยากรู้อ่ะ
ปล.เดือนนี้เดือน ๕ นะจ๊ะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โอยยยยยย
อีกไม่กี่ตอนก้อจะมาม่า สิน้าาาาา
>{             }<

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ใกล้จะรู้ความจริงแล้วว่าใหญ่เป็นใคร
ส่วนคำว่า มั๊ย เป็น ไหม เราว่า ถ้าเปลี่ยนก็เปลี่ยนทั้งหมดเลยเถอะค่ะ :")

ออฟไลน์ lolitar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
แอบสงสารคุณเล็กเบาๆ :hao5: :hao5:

หวังว่าใหญ่กับเจ้านายเก่าคงไม่มีอะไรในก่อไผ่กันนะ o22 o22

สงสารคุณเล็ก :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
โอยตาย ตอนสุดท้ายนี่ใครเป็นคนส่งแมสเสจไปเนี่ย
ดูจากภาษาแล้วอย่าบอกนะว่าเป็นใหญ่ น้ำตาจะไหล T _______ T ..

ใหญ่กรุณาไปคุยกับคุณเฟยเพิ่งว่าให้ลาออกเถ้อะะะ
อยู่กับเล็กแบบนี้ดีแล้วนะๆ T^T .. ไม่อยากจะคิดเลย เฮ้อ . ไม่อยากดราม่าอ่า

รออ่านต่อนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอน้า <3

SilverLake

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ย ใจเต้นอ่ะ ใหญ่จะค้นพบตัวเองแล้ว อย่าทิ้งเล็กนะ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
ความจริงใกล้ปรากฎ

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
มาม่าได้แต่อย่าแรงนะ เอากรุบกริบพอ

สงสารคุณคนเล็ก  :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กำลังเป็นปลื้ม ใจละลายไปกับความสุขของทั้งคู่อยู่เลย แต่พออ่านมาเรื่อยๆเริ่มจุกล่ะ หายใจติดขัดล่ะ ไม่อยากจะคิดถึงตอนต่อไปเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shabushabu4

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ทุกอย่างกำลังกระจ่างหวังว่าคงไม่ มาม่า นะ :hao5:

ออฟไลน์ Pamphlet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
สงสารคนเล็กอ่าาาา  :hao5:
จากที่ดูๆคิดว่าใหญ่น่าจะพอรู้บ้างแล้ว(รึเปล่า?)
แล้วประเด็นคือเฟยเฟิ่งนี่แค่เจ้านายกับลูกน้องกับใหญ่ใช่ไหม!?!
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ มาลงต่อเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ฉากเลิฟๆ คุณพี่ฟินมาก :pighaun:

แอบเจ็บจี๊ดๆ ไม่อยากคิดถึงตอนต่อไปเลย :hao5:

เป็นกำลังใจให้ มาต่อไวๆเน้อ :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2014 22:06:13 โดย Phut »

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
อู้ยยยยยย ใกล้แล้วๆๆๆ ใกล้จะถึงจุดสำคัญแล้ว ต้องเลือกรสมาม่ารอคนเขียนแล้ว คึคึ

เรื่อง มั้ย ไหม เราสนับสนุนให้ใช้คำว่าไหมนะคะ มันเป็นคำลงท้ายคำถามน่ะค่ะ ภาษาเขียนที่ถูกที่ควร สมควรนำมาใช้อย่างยิ่ง ส่วนมั้ยมันเขียนล้อตามที่เราออกเสียงพูด เพราะชีวิตจริงเราพูดออกมาเสียงว่ามั้ยมากกว่าไหมอยู่แล้ว บางคนเลยเกิดการสับสนว่าควรใช้คำไหนในงานเขียน

ปล. เดือนนี้เดือน ห้า พฤษภาคมนะจ๊ะ ลืมเดือนกันเลยทีเดียว :)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ใหญ่จะเลือกอะไรนะ
 :bye2:

ออฟไลน์ ployyuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พ่อใหญ่เป็นบอดี้การ์ด? หวังว่าทุกอย่างจะจบด้วยดี ไม่ดราม่าแล้วนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เตรียมรอมาม่า

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
คุณเล็กใจดีไม่เปลี่ยนเลย คนหน้าตาดีหาไม่ยาก

แต่คนดีจริงๆอย่างคุณเล็กนี่สิหายากมากๆๆๆๆๆๆๆ

ใหญ่จะทำอะไร ให้คิดถึงตอนตกอับด้วยนะ ว่าแสงแห่งความหวังมันมีค่ามากแค่ไหน

คุ้มกันมั้ยที่ต้องสูญเสียไป

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ทำไมคุณเล็กไม่ปรึกษาใหญ่ก่อนที่จะทำอะไรลงไป
ใหญ่อาจไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ ก็ได้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด