คุณบุรุษไปรษณีย์ที่รัก (จบแล้ว) ตอนพิเศษ สัญญา 16-02-2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณบุรุษไปรษณีย์ที่รัก (จบแล้ว) ตอนพิเศษ สัญญา 16-02-2561  (อ่าน 255564 ครั้ง)

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
สงสารเต็มจังเลย น้ำตาไหลเลยอ่ะตอนที่เต็มกอดพ่อ
ไม่มีใครที่จะรักเราเท่าครอบครัวเราอีกแล้ว
แหม พี่ศิธา มีแอบเขินน้องเต็มด้วยนะ 55น่ารักดีอ่ะ
แล้วมาต่ออีกนะคะ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
กลับบ้านดีกว่านะเต็ม บ้านเราอบอุ่นจะตาย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ที่จริงต้องขอบคุณแฟนเก่าเต็มนะเนี่ย
เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เต็มตัดสินใจกลับบ้าน
แถมยังทำให้พี่น้องได้กอดกันด้วย

ออฟไลน์ bon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
เริ่มสมหวังกันถ้วนหน้า ดีใจที่พี่เต็มกลับบ้าน
ปลื้มกับความรักต่อน้องที่พี่เต็มแสดงออกมา
พี่ปุ่น รุกคืบได้แล้ว หนทางสดใส
ขอบคุณคนแต่งครับ

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
 :mew1: ดีใจเต็มกลับบ้านแล้ว ได้เจอกับพี่ปุ่นทุกวัน
ตอนที่น้องตามปลอบเต็มน้ำตามาเลยเชียว...ซึ้งอ่ะ
จากนี้ไปก็ขอให้มุ้งมิ้งๆ....อิอิอิ :-[

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
สมน้ำหน้ายุทธภูมิ โดนพ่อเลี้ยงตรัยด่าซะ สะใจ
เต็มอย่าเสียใจเสียน้ำตาอีกเลย มีคนที่รักอีกตั้งมากมาย
ดีใจที่เต็มเป็นห่วงน้อง แสดงออกว่ารักน้องเหมือนที่พี่ปุ่นบอกได้แล้วนะ
การที่เต็มกลับมาแล้วไปหาพี่ปุ่นก่อน แถมจะไปวัดก็แวะมาชวนนี่
สื่ออะไรได้บ้างมั้ยคะ จิ้นได้มั้ย จิ้นได้รึเปล่า ^^

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
กลับบ้านเรารักรออยู่
อ้อมกอดพ่อและน้องอบอุ่นใช่ไหมล่ะเต็ม
และยังมีพี่ปุ่นที่พร้อมจะเข้าใจอีกคนนะ
สงสารเพื่อนเก้ แอบรักเขาข้างเดียว

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
 :L1: ความรักเริ่มผลิดบานแบบไม่รู้ตัว
ครั้งแรกก็หวาดหวั่น ครั้งต่อไป  :haun4:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :mew1:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ดีใจที่น้องเต็มมีพี่ปุ่นอยู่ที่ลำปางด้วย
คอยให้ความคิดดีๆ
และดีใจกับเต็มที่มีเพื่อนดีๆทั้งพี่ตุ่ยทั้งกีรติ
เอาความสุขนี้ส่งต่อให้น้องตามด้วยนะ

ร้องไห้ตามพี่น้องคู่นี้ ชอบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ตอนนี้ทำเราเสียน้ำตา แต่เป็นแรงบันดาลใจให้อาทิตย์นี้เรากลับบ้านไปหาพ่อนะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ถึงทีของลำปางบ้างแล้ว หลังจากอยู่กรุงเทพฯมานาน

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
 :monkeysad: ซึ้งอ่ะ คุณพ่อเท่มากเลย น้องตาม พี่ปุ่น เต็มฟ้าทุกคนรักเรานะ

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
ฟ้าหลังฝนนะเต็มฟ้า
แค่คนๆเดียวที่ไม่รักเรา แต่ตอนนี้เต็มมีคนรอบตัวที่รักเต็มเยอะแยะเลย
บรรยากาศตอนนี้มันหน่วงๆอึนๆ แต่มันซาบซึ้งใจดีจัง
อ่านแล้วอยากไปลำปาง...

ออฟไลน์ กำแพงเมืองจีน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบเต็มตอนนี้มากๆเลยอ่ะ
น่ารักสุดๆ
พี่ปุ่นก็เท่มากกกก
คุณพ่อก็เหมือนกัน เห็นนิ่งๆนี่ก็ห่วงลูกนะ

ตอนนี้อ่านแล้วอบอุ่นมากเลยค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ yamapong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อร๊ายยยยยยย นี่สินะคือที่มาของชื่อตอน 555+ พี่ศิคะ ทำไมพี่น่ารักเยี่ยงนี้เคอะ หลงรักเลยค่า อ๊ากกกกกก ผู้ชายอบอุ่น >////<

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ทำไมเราพลาดตอนที่แล้ว...
แต่อ่านรวดสองตอนเลยดีนะ ไม่อึน กำลังมุ้งมิ้งได้ที่
ครั้งแรกก็ยากแหละเต็ม เจ็บๆหน่อย ทนๆเอาเดี๋ยวอะไรๆก็ดีเอง /นังเวสต์พูดถึงเรื่องอะไร

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ตอนนี้เริ่มใกล้กันแล้ว ชอบที่พี่ปุ่นสอนเต็ม

เป็นการเปรียบเทียบกันให้เห็นจริงๆ


ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
หล่อ เท่ อบอุนขนาดนี้ รีหลงรักพี่ศิธา เร็วๆ นะ น้องเต็มมมมมมมมม 

โอ๊ยยยยยยยย หลงรักผู้ชายคนนี้ (เวลาเค้าเขินแบบไม่รู้ตัวมันน่ารักมากกกกกกอ่ะ) :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
พี่ปุ่นของเรา เอ๊ยย~ ของเต็ม

 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
ตอนที่ 13 : ความรู้สึกแปลก ๆ


"เต็ม ขึ้นมาได้แล้ว"



มือหนาป้องปากตะโกนเรียกเด็กหนุ่มที่ยังคงดำผุดดำว่ายอยู่ในสายน้ำเย็นฉ่ำ ไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไรแล้วที่เขาต้องโก่งคอไปโดยไม่เกิดประโยชน์แบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไรแล้วที่เต็มฟ้ากระโดดจากราวสะพานลงไปนับจากครั้งแรกที่ทั้งสองคนกระโดดลงไปด้วยกันจนตอนนี้ศิธาพัฒน์เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดผิดที่ชวนไอ้ตัวแสบมากระโดดน้ำเอาเมื่อตอนดวงอาทิตย์คล้อยต่ำท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยปรายเช่นนี้ เดี๋ยวคงได้ไม่สบายกันไปข้างหนึ่งแน่ ๆ ดวงตาคมทอดมองตัวซีดที่กำลังว่ายกลับเข้าฝั่งมองหาที่ยึดเกาะเพื่อพาตัวเองขึ้นจากน้ำ ทันทีที่มือบางเกาะเกี่ยวกอหญ้าได้ก็ตะเกียกตะกายขึ้นนั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับขึ้นมาบนสะพานอีกครั้ง


“พอหายกลัวแล้วเอาใหญ่เลยนะ” ศิธาพัฒน์ที่นั่งอยู่บนราวสะพานเอ่ยขึ้นขณะเต็มฟ้ากำลังพาร่างสูงโปร่งสมส่วนที่ชุ่มไปด้วยน้ำตรงเข้ามา เสื้อเชิ้ตสีเข้มเมื่อเปียกน้ำก็แนบติดไปกับลำตัวจนเห็นเอวสอบชัดเจน ช่วงไหล่กว้างอย่างกับนักกีฬาว่ายน้ำชวนให้อดที่จะถามไม่ได้ แต่จะถามอย่างไรให้อีกฝ่ายไม่คิดว่ากำลังถูกลอบสำรวจรูปร่างอยู่นั่นคือปัญหา มองคนหายใจหอบยันตัวขึ้นนั่งบนราวสพานแล้วให้นึกขำ นี่น่ะหรือพี่ชายที่ชอบทำหน้านิ่งเวลาอยู่ต่อหน้าน้อง พอได้ทำอะไรที่หลุดไปจากกรอบที่ตีขึ้นมาบังคับตัวเองกลับแสดงความเป็นเด็กออกมาจนน่าตีนัก


มือบางเสยผมที่ลงมาปกหน้าผากในขณะที่ริมฝีปากซีดเผยอน้อย ๆ ช่วยกอบโกยอากาศร่วมกับจมูกโด่งก่อนจะเหลียวกลับไปมองสายน้ำเบื้องล่าง ลมแรงที่พัดผ่านมาเป็นระยะ ๆ ช่วยให้เสื้อผ้าแห้งไวขึ้นแต่ก็ทำเอาหนาวสั่นอยู่เหมือนกัน 


“จะโดดอีกไหม”


เต็มฟ้าโคลงศีรษะไปมาแทนคำตอบ โดดลงไปไม่กี่ครั้งก็หอบแฮกพูดอะไรไม่ออกแล้ว ตอนแรกที่ขึ้นไปยืนรู้สึกขาแข้งสั่นไปหมด แทบไม่อยากจะมองลงไปข้างล่าง แต่พอกระโดดลงไปแล้วความรู้สึกกลัวนั้นกลับหายเป็นปลิดทิ้ง จริงอย่างศิธาพัฒน์ว่า มันกลายเป็นเรื่องสนุกเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับวันที่อากาศขมุกขมัวแบบนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน


“เห็นไหมว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ยากเลย ก็เหมือนการแสดงความรักให้น้องรู้นั่นแหละ มันไม่ใช่เรื่องยากเลย”


คนฟังก้มต่ำมองปลายเท้าเปลือยเปล่าตัวเองก่อนที่ริมฝีปากบางจะกลับมาทำหน้าที่ของมันเหมือนเดิม


“แค่พูดเฉย ๆ ก็ง่ายน่ะสิ”


ศิธาพัฒน์ถอนใจเบา ๆ มองคนฟอร์มเยอะที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ถ้าการพูดหรือการกระทำมันยากไปก็เริ่มจากการเขียนดีไหม”


“เขียนเหรอ?”


“ใช่ รู้สึกแบบไหนก็เขียนออกไป อย่างน้อยน้องจะได้รู้ว่าพี่ชายที่ชอบทำตัวเย็นชา แข็งกระด้าง วางฟอร์ม ขี้เก๊ก พูดจามะนาวไม่...ม...มี...”


“พอได้แล้วมั้ง ที่พูดมานี่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง” เจ้าของสรรพคุณทั้งหมดหรี่ตามองเมื่อรู้สึกกำลังถูกหลอกด่าอยู่กลาย ๆ ในขณะที่คนพูดเองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้บ้าง


“ก็นั่นแหละ เริ่มต้นจากแบบนี้ก่อน”


“อืม..จะลองทำดูก็แล้วกัน” สิ้นเสียงชายหนุ่มบรรยากาศก็กลับเงียบลงอีกครั้ง นัยน์ตาสีเข้มยังคงก้มต่ำคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนในที่สุดก็เป็นศิธาพัฒน์เองที่ทำลายความเงียบนั้นลง


“ว่ายเก่งเหมือนกันนี่ เคยเป็นนักกีฬาเหรอ”


“เคยเรียนน่ะ สมัยที่อยู่โรงเรียนประจำไม่มีอะไรทำก็ไปว่ายเล่นอยู่บ่อย ๆ แต่หลัง ๆ พอโดนบังคับให้ซ้อมไปแข่งก็เลยเลิก ไปทำอย่างอื่นแทน”


เหตุผลที่ฟังดูเอาแต่ใจเรียกเสียงหัวเราะในลำคอจากคนถามได้ไม่น้อย แต่เมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตาเหมือนจะถามว่ามีอะไรน่าขำ ชายหนุ่มก็จำต้องรีบเบนหน้าหนีดวงตาคู่สวยที่ถูกล้อมกรอบด้วยแพขนตายาวทันที


“ศิลปินจริง ๆ”


“ใคร ๆ ก็พูดอย่างนั้น”


“แล้วเต็มคิดยังไงที่คนเขาพูดแบบนั้น”


“ฟังเฉย ๆ ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป”


“ทำแบบนี้น่ะ ไม่กลัวคนอื่นเขาจะคิดว่าเราเอาแต่ใจตัวเองบ้างหรือไง”


“ก็คงห้ามไม่ได้” ริมฝีปากบางที่ตอนนี้กลับซีดลงเพราะอากาศที่หนาวเย็นเอื้อนเอ่ยวาจาอย่างไม่ยี่หระ “ทำอะไรแล้วไม่มีความสุขก็ไม่ทำ คิดอยู่แค่นี้แหละ ก็คงเหมือนที่พี่ศิธาชวนกระโดดน้ำเมื่อกี้ กระโดดเล่น ๆ มันก็สนุก แต่ถ้าจะให้กระโดดไปเพื่อไปโอลิมปิกเต็มก็ไม่เอาหรอก พอมีเรื่องการแข่งขันขึ้นมาเกี่ยวมันก็ไม่สนุกแล้ว”


ศิธาพัฒน์พยักหน้าเข้าใจ ถึงจะฟังดูยอกย้อนแต่ก็ยังมีเหตุผลให้ยอมรับได้ หากเป็นเมื่อก่อนอดีตนักการตลาดอย่างเขาคงเถียงสุดใจขาดดิ้น


‘ต้องแข่งขันสิ ชีวิตมันถึงจะมีรสชาติ’ 



....



แสงไฟหน้ารถที่สาดผ่านช่องประตูทำให้เจ้าลูกสุนัขที่นอนอยู่บนบันไดต้องผงกหัวขึ้นมองฝ่าความมืดไปยังประตูรั้ว ทันทีที่เห็นเงาตะคุ่มของคนที่เปิดประตูลงมามันก็เห่าเสียงดังจนคนเลี้ยงนึกชมอยู่ในใจว่านังหนูขนฟูช่างทำหน้าที่ของมันได้ดีจริง ๆ เสียงโซ่ถูกดึงครูดกับลูกกรงเหล็กจากนั้นประตูรั้วก็ถูกเปิดกว้างให้รถเก๋งสีดำเคลื่อนผ่านเข้ามา เมื่อเห็นชัด ๆ ว่าใครเป็นใครเจ้าแข็งแรงก็กระดิกหางริก ๆ เดินวนไปมาอยู่บนลูกบันไดหน้าแคบ


“ขึ้นบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม ขับกลับแบบนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ได้เป็นหวัดกันพอดี”


“ไม่เป็นไรหรอก”


ความกังวลของศิธาพัฒน์ดูว่าจะกลายเป็ยความจริงขึ้นมาแล้วทันทีที่ได้ยินเสียงตอบกลับที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย


“ไม่เป็นไรได้ยังไง เสียงเปลี่ยนแล้วเนี่ย”


“Copyman Show ไง มนุษย์ร้อยเสียง”


“ยังจะกวน”


เต็มฟ้าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ถือว่ามันคือคำชม ทิ้งตัวลงนั่งข้างเจ้าหมาน้อยปล่อยเจ้าของบ้านส่ายหน้าเดินขึ้นบันไดไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในบ้าน มือเรียวค่อย ๆ ถอดปลอกคอที่เริ่มตึงออกจากคอเจ้าตัวอ้วน จากนั้นก็ใส่อันใหม่ให้มัน ไม่นานอะไรนิ่ม ๆ ก็ถูกวางแหมะไว้บนหัว ตามด้วยเสียงเตือนให้เช็ดผมให้แห้ง ชายหนุ่มเอื้อมมือข้างหนึ่งจับผู้ขนหนูผืนนุ่มซับน้ำที่เส้นผมเบา ๆ ในขณะที่อีกมือก็ยังคงห่วงเล่นกับเจ้าหมาน้อย เมื่อรู้สึกว่าผมหมาดเขาก็คล้องผู้ขนหนูเอาไว้กับคอก้มมองแก้วน้ำซึ่งถูกยื่นข้ามไหล่มาให้


“กินยาด้วย เดี๋ยวเป็นหวัด”


“ยุ่งจริง” ปากบางขยับบ่นพลางรับแก้วน้ำและเม็ดกลมสีขาวสะอาดสองเม็ดมาถือไว้ในมือ เรื่องกินยาเป็นเรื่องที่ไม่ชอบเอาเสียเลยแล้วคนที่สามารถบังคับเขาได้ก็มีเพียงกีรติคนเดียวเท่านั้น


“กินสิ จ้องอยู่ได้ มันไม่ซึมเข้าผิวหนังหรอกนะ”


หัวคิ้วหน้ากระตุกเล็กน้อยก่อนจะหันไปค้อนคนที่เดินกลับไปนั่งเอกเขนกอยู่ที่ระเบียง ลมหายใจหนัก ๆ ถูกผ่อนผ่านปลายจมูก ดวงตาขุ่น ๆ จ้องเม็ดยาสีขาวอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจโยนเข้าปาก รีบดื่มน้ำตามหวังจะไล่ลงท้องไปเสียให้หมดแต่ความขมของยาก็ยังหลงเหลือติดโคนลิ้นให้ต้องกลืนน้ำลายลงคอ


“ขมเป็นบ้า”


“ยาที่ไหนเขาก็ขมทั้งนั้นแหละ” ศิธาพัฒน์กล่าวพลางมองโทรศัพท์ที่เต็มฟ้าหยิบมันมาจากคอนโซลตอนลงจากรถซึ่งขณะนี้ถูกวางเอาไว้ข้างตัว เพราะไม่ได้เปิดเสียงและไม่ได้ตั้งสั่นจึงทำให้เจ้าของไม่ทันสังเกตว่ามีคนโทร.เข้ามา ภาพลายเส้นดินสอของชายหนุ่มแปลกหน้าที่แสดงอยู่ที่หน้าจอกับชื่อที่พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษบอกให้รู้ว่าเขาโทร.เข้ามาหลายครั้งแล้วตั้งแต่เมื่อตอนที่ติดฝนอยู่ที่โรงนา


“เขาโทร.มาหลายครั้งแล้วนะ ไม่รับหน่อยเหรอ”


เต็มฟ้าหันมองโทรศัพท์ที่หน้าจอสว่างมีข้อความแจ้งเตือนสายไม่ได้รับสิบกว่าสาย ไม่นานภาพวาดของยุทธภูมิที่ตั้งไว้เป็นภาพประจำตัวของเจ้าของเบอร์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง


“ไม่มีอะไรจะคุย”


“แฟนเหรอ”  แม้ใจจะสั่งไม่ให้ถาม แต่ปากก็ไวกว่าใจไปเสียแล้ว


เป็นอีกครั้งที่มนุษย์ผู้เก่งกาจในเรื่องพูดแทงใจดำสามารถทำแต้มได้ เต็มฟ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะตัดสายและปิดเครื่อง


“เคยเป็นน่ะ”


“ทำไมถึงเลิกกันล่ะ” ศิธาพัฒน์นึกอยากจะตบปากตัวเองอยู่เหมือนกันที่อยู่ ๆ ก็ถามออกไปแบบนั้น


“เพราะลำปางมันไกลจากกรุงเทพฯ”


แม้คนพูดจะหันหลังให้ แต่คนฟังก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดจากวนประสาทแน่ ๆ น้ำเสียงนั้นเย็นเยือกพอ ๆ กับอากาศที่โอบล้อมพวกเขาอยู่


“เรื่องแค่นี้เองเหรอ”


“บางครั้งระยะทางก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคนนะ”


“อืม..ก็จริง” ดวงตาคมกริบของศิธาพัฒน์วูบหม่นลง รู้สึกเห็นตามอย่างไร้ข้อโต้เถียง ระยะทางสำหรับบางคนเป็นเรื่องใหญ่ จึงไม่แปลกที่ระยะทางถูกนำมาเป็นเครื่องพิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ความรัก’


“แล้วพี่ล่ะ มาทำงานไกลขนาดนี้แฟนไม่ว่าเหรอ”


'แฟน' อย่างนั้นเหรอ...แทบจะลืมคำนี้ไปแล้ว


“อ้าว เงียบเลย อย่าบอกนะว่าปูนนี้แล้วยังไม่มีแฟน”


รู้สึกหมั่นไส้กับคำว่า ‘ปูนนี้’ และรอยยิ้มที่มุมปากของคนที่เอี้ยวตัวกลับมารอฟังคำตอบเสียเหลือเกิน หัวคิ้วหนาเคลื่อนเข้าหากัน นึกตำหนิว่าไอ้ตัวแสบมันใช้คำว่าปูนนี้กับหนุ่มวัยเบญจเพสอดีตเดือนมหาวิทยาลัยคนนี้ได้อย่างไรกัน


“ยี่สิบห้าเองนะ เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจำเป็น” พูดไปแล้วให้เจ็บจี๊ดในใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น


“นี่ไม่ได้กัดฟันพูดใช่ไหม”


“เปล่า”


“ถามจริง หน้าตาพี่มันไม่น่าเชื่อถือว่ะ”


“ทำไม หน้าตาพี่มันทำไม”


“หน้าแบบนี้ ทำคิ้วขมวดแบบนี้ มันบ่งบอกว่าเป็นคนมีอดีตชัด ๆ โดนพูดแทงใจดำเข้าบ้างเจ็บจี๊ดจากภายในสู่ภายนอก”


“ขนาดนั้น?”


เต็มฟ้าหัวเราะพรืด “เปล่า กะว่าพูดส่ง ๆ ไปอย่างนั้นเองมันต้องโดนบ้างแหละ ทำไมล่ะสรุปว่าตรงกับชีวิตจริงว่างั้น”


ศิธาพัฒน์เพียงแต่กอดอกมองอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้ ไม่นานร่างสูงสมส่วนก็คว้าโทรศัพท์ลุกขึ้นบิดขี้เกียจพร้อมกับดึงผ้าขนหนูที่คอพาดไว้กับราวบันได


“กลับดีกว่า”


“อ้าว ถามแล้วก็จะไป ไม่รอฟังคำตอบก่อนหรือไง”


“ม่ายยยยยยย” ชายหนุ่มลากเสียงแบบไม่ใส่ใจ


“ไม่ต้องตอบก็ได้ ไม่ได้สนิทกันขนาดจะต้องเอาเรื่องส่วนตัวมาเล่าให้กันฟัง เนอะแข็งแรงเนอะ”



ฟังแล้วยิ่งเจ็บจี๊ดหนักเข้าไปกันใหญ่ ตาคมมองคนที่กำลังโน้มตัวลงลูบหัวก่อนจะโบกมือไหว ๆ ให้เจ้าลูกหมาอย่างกับสนิทกันมาสักร้อยชาติ ทำไมไอ้เด็กบ้านี่มันช่างสามารถพูดให้พูดให้คนอื่นนึกน้อยใจได้เก่งขนาดนี้


‘น้อยใจ’

ใช้คำนี้ไม่น่าจะถูก ศิธาพัฒน์คิดในใจ ได้เพียงคิดในใจเพราะหากพูดให้อีกฝ่ายได้ยินเข้าแล้วละก็ คำตอบที่จะได้ก็คงไม่พ้น ‘สนิทอะไรถึงจะต้องมาน้อยใจกัน’


ไม่ผิดแน่ ๆ



เต็มฟ้ากลับไปตั้งนานแล้ว ส่วนเจ้าแข็งแรงก็นอนขดอยู่ในตะกร้าบุนวมอุ่น ๆ ของมันที่ระเบียง สายฝนที่ซาเม็ดไปเมื่อตอนหัวค่ำกลับโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสายอีกครั้ง ศิธาพัฒน์นอนเหยียดยาวฟังเสียงน้ำฝนที่ตกกระทบหลังคาอยู่บนโซฟากลางบ้าน นัยน์ตาทอดมองรูปภาพที่พกติดกระเป๋าสตางค์มาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี เป็นภาพหมู่ของชายหนุ่มหญิงสาในชุดนักศึกษา ปลายนิ้วหัวแม่มือไล้ไปตามโครงหน้ารูปไข่ของใครคนหนึ่งก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ ในที่สุดก็สอดรูปใบนั้นไว้ด้านหลังสารพัดบัตรในหลืบที่ลึกที่สุดของกระเป๋าเหมือนที่เก็บเรื่องราวเกี่ยวกับคนในภาพเอาไว้ลึกสุดก้นบึ้งของหัวใจ


....



“พี่เต็ม”



“พี่เต็ม”



เสียงนั้นเริ่มชัดเจนขึ้นในความมืดพร้อมกับสัมผัสเย็นเฉียบที่หน้าผาก เจ้าของชื่อพยายามจะลืมตาขึ้นแต่เปลือกตาบาง ๆ วันนี้มันช่างหนักเหลือกำลัง ไม่รู้ว่าเหตุที่ทั้งร่างสั่นเทาอยู่ในขณะนี้จะเป็นด้วยอากาศหนาวเย็นเนื่องจากฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งคืนหรือเพราะฤทธิ์ไข้กันกันแน่ รู้เพียงว่าตอนนี้ร่างกายร้อนผ่าวราวกับถูกห่อหุ้มด้วยเกราะสุมไฟ มือบางดึงผ้าห่มผืนหนาเข้ามากอดไว้แน่นขยับตัวนอนขดหลบหนีมือเย็นที่ยังคงคลอเคลียอยู่กับข้างแก้มและต้นคอ

 
“พี่เต็ม ไม่สบายหรือเปล่าฮะ ตัวร้อนจี๋เลย”


เต็มฟ้าปรือตาตื่นขึ้นเมื่อเสียงนั้นยังคงไม่ไปไหน ภาพของน้องชายที่มองมาด้วยแววตาแห่งความห่วงใยค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนขึ้นท่ามกลางแดดยามสายที่ทอแสงจาง ๆ ผ่านม่านหน้าต่างเข้ามา


“ยังไม่ไปโรงเรียนอีกเหรอ” ฟังเสียงที่เปล่งออกไปแล้วแทบจำไม่ได้ว่าเป็นเสียงของตัวเอง ข้างในลำคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายไล่ความสากราวกับโรยด้วยเม็ดทรายรู้สึกเจ็บในช่องคอไปหมด


“วันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียนฮะเพราะพรุ่งนี้จะสอบ ตามเห็นว่าสายแล้วพี่เต็มยังไม่ลงไปทานข้าวเลยขึ้นมาดู”


พี่ชายพยักหน้าพยายามยันตัวขึ้นนั่งแต่เหมือนมีบางอย่างถ่วงไว้ให้รู้สึกหนัก ๆ อยู่ในหัว


“เดี๋ยวตามจะลงไปบอกพี่แจ่มให้ยกข้าวขึ้นมาให้พี่เต็มนะฮะ”


“มะ..ไม่เป็นไร พี่ยังไม่อยากกิน” พูดจบก็ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงโคลงศีรษะไปมาพยายามลืมตาสู้แสงแต่หนังตาก็หนักจนแทบจะยกไม่ขึ้น


“แต่ว่า....” น้องชายคิดอยากจะค้านแต่เพราะกลัวว่าจะโดนดุจึงต้องกลืนทุกคำพูดลงคอ นิ่งเงียบอยู่เพียงไม่นานเสียงของพ่อก็ดังมาจากชั้นล่าง


“ตาม เสร็จหรือยังลูก”


ตามตะวันมองตามเสียงก่อนจะหันมาสบตาพี่ชายด้วยความเป็นห่วง อันที่จริงเขากำลังจะขึ้นมาเก็บของเตรียมไปบ้านน้าเดือน แต่เพราะเห็นว่าพี่ชายตื่นสายผิดปกติจึงได้แวะเข้ามาดู


“นี่ต้องไปบ้านน้าเดือนใช่ไหม”


“ครับ เดี๋ยวพ่อจะไปส่งตามก่อนค่อยไปไร่”


“ถ้าอย่างนั้นลงไปบอกพ่อให้ไปไร่ได้เลย เดี๋ยวพี่ไปส่งตามเอง บ่าย ๆ หน่อยได้ใช่ไหม”


“ครับ ตะ...แต่พี่เต็มมะ...ไม่..ส...”


“ไปเถอะน่า ไปบอกให้พ่อไปทำงานเถอะ”


“ครับ”



ดังนั้นในตอนบ่ายเต็มฟ้าจึงหอบสังขารขับรถไปส่งน้องชายที่เกตส์เฮาส์ ตามตะวันทอดสายตามองออกไปนอกกระจกหน้าต่างรถยนต์ เห็นว่าท้องฟ้ายังคงฉ่ำด้วยน้ำ เหนือขึ้นไปบนเนินเขาเตี้ยปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกสีขาวและก้อนเมฆที่ลอยต่ำราวกับจะเอื้อมมือคว้ามาไว้ได้ เขาชอบฤดูฝนเพราะฝนทำให้รอบ ๆ ตัวมีแต่สีเขียวขจี พืชผลในไร่เมื่อได้น้ำก็กลับงอกงามดีซึ่งพลอยทำให้ได้เห็นรอยยิ้มของพ่อตามมาด้วย เสียงจามของคนข้าง ๆ ทำให้ต้องละสายตาจากภาพตรงหน้าหันกลับมามองคนขับด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ว่าถ้าบอกให้ลองไปหาหมอดูไหมจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้พี่ชายรำคาญหรือไม่ แต่เมื่อเห็นว่ามันเป็นหนทางที่จะทำให้อีกฝ่ายหายจากอาการป่วย หนุ่มน้อยก็ตัดสินใจพูดขึ้น


“พี่เต็มไปหาหมอไหมครับ จะได้หายป่วยไว ๆ”


ไม่มีเสียงตอบกลับใด ๆ พี่ชายยังคงมองไปข้างหน้าโดยไม่มีทีท่าสนใจคำพูดเมื่อสักครู่ มันคงเป็นคำพูดชวนรำคาญจริง ๆ ดังที่คิดเอาไว้ในตอนแรก ดังนั้นตามตะวันจึงเบนสายตามองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ภาพผืนนาสีเขียวข้างทางค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยภาพของตึกรามบ้านช่องและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ เมื่อรถเริ่มเข้าเขตตัวเมือง อีกเพียงไม่กี่อึดใจก็จะถึงเกสต์เฮาส์ อีกเพียงไม่กี่อึดใจเวลาที่จะได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ กันแบบนี้ก็จะหมดลง


“ไปร้านไหนดี”


เป็นประโยคแรกที่ได้ยินตั้งแต่ออกมาจากไร่ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยหันมามองคนพูดด้วยความแปลกใจจนอีกฝ่ายก็คงรู้สึกได้เหมือนกัน


“หมอน่ะ ไปหาร้านไหนดี”


“พี่เต็มจะไปหาหมอเหรอครับ”


พี่ชายเพียงแต่พยักหน้าเป็นคำตอบ ตายังคงมองไปที่สัญญาณไฟที่เพิ่งจะเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียวจึงทำให้ไม่เห็นรอยยิ้มของน้องชาย


“ก็ตามบอกให้พี่ไปหาหมอไม่ใช่เหรอ”


“เอ้อ...คะ..ครับ”


“พี่ก็ถามอยู่นี่ไงว่าไปร้านไหนดี”


“ถ้าอย่างนั้นไปคลินิกคุณอาหมอพ่อของยะหยาไหมฮะ อยู่ตรงสามแยกก่อนที่จะเลี้ยวเข้าซอยเกสต์เฮาส์ เวลาตามไม่สบายพี่ชลก็จะพาไปที่นี่บ่อย ๆ”


“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้แหละ”



(มีต่อค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2014 19:11:20 โดย ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า »

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
(ต่อค่ะ)


รถเก๋งดำชะลอความเร็วลงและมาจอดสนิทที่หน้าคลินิกรักษาโรคทั่วไปขนาดหนึ่งคูหา คนไข้ที่นั่งรออยู่ในมีจำนวนมากพอสมควรซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ๆ นั่นคงเป็นเพราะช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงจึงทำให้ป่วยได้ง่าย สองพี่น้องพากันเดินเข้าไปด้านในตรงไปยังเคาท์เตอร์ซึ่งมีหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังนั่งจัดยาใส่ซองตามใบสั่งของแพทย์โดยมีหนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักถักเปียสองข้างนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้าง ๆ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาพบตามตะวันเธอก็กล่าวทักทายด้วยเสียงเจื้อยแจ้วจนผู้ใหญ่หลายคนพากันมองด้วยความเอ็นดู


“ที่แท้ก็ลูกชายคนโตพ่อเลี้ยงตรัยนี่เอง โตเป็นหนุ่มแล้วแทบจำไม่ได้ ยังไม่เคยมาหรือยังจ๊ะ”


“ยังครับ”


“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเขียนชื่อกับที่อยู่ให้น้าหน่อยนะคะ” ภรรยาคุณหมอละจากการจัดยาก่อนจะคว้ากระดาษแผ่นเล็ก ๆ ยื่นให้ จากนั้นเธอก็ซักอาการเล็กน้อยแล้วจึงให้คนไข้ไปนั่งรอที่เก้าอี้


“นี่ ๆ พี่ชายตามเหรอ” เด็กหญิงผมเปียสะกิดถามเมื่อเดินมานั่งลงข้าง ๆ เด็กชายร่างเล็ก


“อื้อ..ทำไมเหรอ”


“เปล่า ก็ยะหยาไม่เคยเจอเลยถามดูน่ะ” เธอกล่าวพลางลอบมองชายหนุ่มที่กำลังเงยหน้ามองสำรวจไปรอบ ๆ ที่ผนังมีทั้งรูปครอบครัว รูปรับพระราชทานปริญญาบัตรรวมถึงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของนายแพทย์เจ้าของร้านติดเรียงรายนัยยะหนึ่งก็คงเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คนที่มารับการรักษา


“พี่เต็มกลัวหรือเปล่า ให้ตามเข้าเป็นเพื่อนไหมฮะ”


คำถามนั้นทำให้ต้องละสายตาหันกลับมามองเจ้าของคำถามอย่างแปลกใจ นี่เขาอายุปาเข้าปียี่สองแล้วนะ ยังต้องมีคนเข้าไปพบหมอเป็นเพื่อนอีกเหรอ


“ทำไมล่ะ”


“ก็...พี่ชลถามตามแบบนี้เวลาที่มาด้วยกัน ตามก็เลยถามพี่เต็มบ้าง”


“แล้วพอพี่ชลถามแบบนั้นตามตอบว่ายังไง”


“ตามบอกว่าตามเข้าไปคนเดียวได้ แต่พี่ชลก็ตามเข้าไปทุกที”


เต็มฟ้ารู้สึกไม่แปลกใจเลยเมื่อได้ยินแบบนั้น นั่นเป็นเพราะชลธรมักจะเป็นห่วงคนอื่นไปทั่วมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แม้จะถูกแกล้งแรง ๆ ก็ไม่เคยโกรธ นึกถึงตอนที่แอบเอาเต่าญี่ปุ่นของพี่สาวไปปล่อยลงแม่น้ำแล้วยังขำไม่หาย ทั้งที่ตอนแรกมาเห็นว่าบ่อว่างเปล่าก็แทบจะร้องไห้ แต่สุดท้ายก็เป็นชลธรที่เอาขนมมาให้แถมยังมานั่งคุยเป็นเพื่อนหลังจากเขาถูกพ่อกับน้าเดือนทำโทษด้วยการให้นั่งอ่านหนังสือสำนึกผิดอยู่ในห้อง


“ไม่เป็นไรหรอก พี่เข้าไปคนเดียวได้” พี่ชายกล่าวก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อ ตามตะวันพยักหน้ารับมองตามแผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินผลุบเข้าไปในห้องตรวจที่อยู่ด้านในสุด ไม่นานเต็มฟ้าก็กลับออกมาก่อนจะเดินมานั่งลงข้าง ๆ กับน้องชายอีกครั้ง


“คุณอาหมอว่ายังไงบ้างฮะ”


“ก็เป็นหวัดธรรมดา สั่งยาให้กลับไปกิน”


“คิดว่าคุณพ่อจะฉีดยาให้เสียอีกค่ะ คนที่เป็นหวัดมาคุณพ่อฉีดยาให้เข็มเดียวพรุ่งนี้ก็หายแล้ว” เด็กหญิงผมเปียเอ่ยขึ้น


“พี่ว่าพี่กินยาดีกว่า ไม่อยากหายเร็ว” เต็มฟ้ากล่าว ถ้าให้เลือกระหว่างเข็มแหลม ๆ ที่แม้จะจิ้มเข้าไปในเนื้อแล้วเจ็บครั้งเดียวกับกินยาขม ๆ เขาเลือกอย่างหลังดีกว่า


“หรือว่าพี่เต็มกลัวเข็มคะ”


ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรเมื่อรู้สึกว่าจะโดนจับได้เข้าให้แล้ว เขาเพียงแต่ยิ้มให้สาวน้อยช่างพูดก่อนที่แม่ของเธอจะเรียกให้ไปรับยาที่เคาท์เตอร์


รอยยิ้มแบบนั้น...


มันเป็นรอยยิ้มที่คนเป็นน้องชายอย่างตามตะวันไม่เคยเห็นมาก่อน


รู้สึกอิจฉายะหยาเหลือเกินที่เป็นคนที่พี่ชายของเขายิ้มให้


มันเป็นรอยยิ้มที่น่ารักและอ่อนโยนเสียจนอยากจะเห็นซ้ำ ๆ อีกหลาย ๆ ครั้ง


.....



ศิธาพัฒน์พาเจ้าหมาน้อยแข็งแรงมาที่เกตส์เฮาส์ในตอนเย็นเหมือนทุก ๆ วันเพราะรู้ว่าในวันจันทร์ถึงศุกร์หากไม่ใช่ช่วงปิดเทอมตามตะวันจะอยู่ที่นั่น เมื่อเห็นรถเก๋งสีดำจอดอยู่ก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของรถจะต้องอยู่ที่นี่ด้วยแน่ ๆ ชายหนุ่มจอดมอเตอร์ไซค์ที่นอกรั้วก่อนจะอุ้มเจ้าตัวอ้วนเข้าไปด้านใน มองไปรอบ ๆ ก็เห็นเพียงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่กี่คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตามมุมต่าง ๆ ที่โต๊ะริมระเบียงด้านในสุดปรากฏร่างของเด็กชายตัวเล็กกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่าขะมักเขม้น เสียงเจ้าลูกสุนัขครางหงิง ๆ ทำให้ตามตะวันละสายตาจากหนังสือเงยหน้าขึ้นมองคนที่เพิ่งมาถึง พลันรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหนุ่มน้อย


“ตามนึกว่าพี่ปุ่นจะไม่มาแล้วเสียอีก”


“ต้องมาสิ ก็พี่บอกไว้แล้วว่าจะพาเจ้าแข็งแรงมาหาตาม แต่พอดีพี่ช่วยเพื่อน ๆ เขาคัดแยกจดหมายอยู่น่ะก็เลยเพิ่งมา แล้วนี่ตามทำอะไรอยู่ครับ”


“กำลังอ่านหนังสือฮะ พรุ่งนี้ตามจะสอบ”


“อืม..เร็วเหมือนกันเนอะ เผลอแป๊บเดียวจะหมดเทอมอีกแล้ว”


“ฮะพี่ปุ่น” เด็กชายยิ้มกว้างพลางลูบหัวเจ้าตัวกลมที่เริ่มโตขึ้นทุกวัน ๆ เบา ๆ


“ทำไมไม่ให้พี่ชายช่วยติวให้ล่ะ”


“วิชานี้ไม่ยากครับ ตามอ่านเองได้ พี่เต็มกำลังไม่สบายด้วย”


เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ไม่มีผิด ก็เมื่อวานไอ้ตัวแสบกระโดดน้ำไปตั้งหลายรอบแถมยังตากฝนอีก ยาที่ให้กินกันไว้ก็คงช่วยอะไรไม่ได้มาก


“แล้วนี่ไปหาหมอแล้วหรือยัง”


“เมื่อตอนบ่ายแวะไปให้คุณอาหมอพ่อของยะหยาตรวจแล้วครับ คุณอาหมอให้ยากลับมาทาน”


คนพนฟังพยักหน้ารับก่อนจะวางเจ้าตัวอ้วนขนฟูที่ดิ้นขลุกขลักลงกับพื้นปล่อยให้มันเดินสำรวจไปรอบ ๆ แบบที่มันเคยทำ วันนี้เจ้าแข็งแรงดูจะสงบเสงี่ยมเจียมตัวผิดวิสัยลูกสุนัขปากเปราะ มันไม่เห่าแม้แต่อะเดียวตั้งแต่มาถึงจนคนพามานึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน


“พี่ปุ่นช่วยติวเลขให้ตามหน่อยได้ไหมฮะ พี่ชลบอกว่าพี่ปุ่นเก่งเลข”


“ได้สิ แต่พี่ขอดูก่อนนะว่าตามเรียนอะไรบ้าง” พูดจบศิธาพัฒน์ก็หยิบหนังสือแบบเรียนมาเปิดอ่านก่อนจะลงมือติวให้ตามที่หนุ่มน้อยขอร้อง


ท้องฟ้าเริ่มมืดลงทุกขณะเมื่อดวงอาทิตย์คล้อยต่ำและลับหายไปหลังทิวไม้ด้านทิศตะวันตก เวลาเกือบสองชั่วโมงในการติวหนังสือผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังคงไม่เห็นแม้แต่เงาของไอ้เด็กแสบ เสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านทำให้ทั้งศิธาพัฒน์และตามตะวันต้องชะเง้อมองและก็พบว่าเป็นชลธรที่เพิ่งกลับมาจากซื้อของ เธอหิ้วถุงพลาสติกพะรุงพะรังลงจากรถก่อนจะส่งให้คนงานเอาไปเก็บจากนั้นก็เดินมาหาสองหนุ่มที่ระเบียง


“ได้ติวเตอร์คนเก่งมาติวให้แบบนี้สงสัยเทอมนี้ต้องได้เกรดสี่แน่ ๆ เลย”


“เก่งอะไรกันล่ะครับพี่ชล” คนถูกยอรีบปฏิเสธพัลวัน


“แต่พี่ปุ่นก็สอนเข้าใจนะฮะ ตามชอบเวลาที่พี่ปุ่นยกตัวอย่าง มันเห็นภาพดี”


“แบบนี้สงสัยตามต้องเลี้ยงข้าวพี่ปุ่นแล้วละมั้ง อุตส่าห์อยู่ติวให้จนค่ำเลย”


“ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่ปุ่นอยู่ทานข้าวด้วยกันนะครับ”


ศิธาพัฒน์มีท่าทางลังเลกลัวว่าคนชวนจะเสียใจแต่สุดท้ายก็ต้องปฏิเสธเพราะรับปากป้าบัวกับลุงเดชเอาไว้ว่าจะกลับไปทานอาหารเย็นด้วยกันฉลองที่วันนี้ไก่ชนของลุงเดชตีชนะคู่แข่ง


“ไว้วันอื่นก็ได้จ้ะ” ชลธรกล่าวก่อนจะหันไปหาน้องชายคนเล็ก “แล้วนี่พี่เต็มเขาออกมาทานข้าวหรือยังน่ะเต็ม”


“ยังไม่เห็นออกมาเลยฮะ สงสัยจะหลับอยู่”


“ตายจริง นี่ตั้งแต่พี่ไปซื้อของยังไม่ตื่นเลยเหรอ ไม่กินข้าวกินปลาแล้วจะกินยาได้ยังไง แบบนี้ก็ไม่หายกันพอดี หมอให้ฉีดยาก็ไม่ยอมฉีด ยังกับตัวเองกินยาง่ายอย่างนั้นแหละ ไม่รู้แอบเอาทิ้งบ้างหรือเปล่าเดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปดูหน่อยแล้ว” ชลธรบ่นจบชุดใหญ่ก็เดินหายเข้าไปในบ้าน


“พี่ชลชอบบ่นแบบนี้แหละครับ จริง ๆ แล้วใจดีมาก ๆ” หนุ่มน้อยยิ้มน่ารัก ถึงตามตะวันจะไม่พูดเพื่อปกป้องพี่สาวแต่ศิธาพัฒน์เองก็คิดแบบนั้นเพราะชลธรมีส่วนคล้ายกับศิตางค์อยู่มาก การเป็นพี่สาวคนโตที่ต้องคอยดูแลน้องชายจอมซนให้อยู่ในกฎระเบียบของบ้านทำให้ต้องจ้ำจี้จ้ำไชบ่นโน่นบ่นนี่อยู่เรื่อยแต่ทั้งเขาและศิลาต่างก็รู้ว่าที่เธอทำก็ด้วยความหวังดี


“ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่กลับก่อนก็แล้วกันนะหนุ่มน้อย แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เย็น ๆ จะแวะมาถามข่าวว่าทำข้อสอบได้ไหม”


“ครับพี่ปุ่น ขอบคุณนะครับ”


ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปที่สนามหญ้าพร้อมกับร้องเรียกเจ้าหมาน้อยที่นอนหมอบอยู่ มันขยับหางขึ้นลงอย่างเกียจคร้านพลางเหลือกตามองเจ้านายที่ย่อตัวนั่งลงขยี้หัวมันอย่างมันเขี้ยว


“วันนี้แกสงบเสงี่ยมเจียมตัวมากไปนะนังหนู”


เจ้าแข็งแรงได้แต่ครางหงิง ๆ ราวกับจะบอกว่ามันไม่อยากส่งเสียงดังรบกวนคนป่วยที่ต้องการเวลาพักผ่อน มือใหญ่ช้อนตัวเจ้าลูกสุนัขขึ้นมาก่อนจะอุ้มมันไปวางในตะกร้าหน้ารถ แสงสีนวลจากโคมไฟที่หน้าบ้านทำให้เห็นว่าตะกร้าดูจะเล็กเกินไปเสียแล้ว อีกไม่นานมันคงจะนั่งประจำที่ตรงนี้ไม่ได้อีกต่อไป 


“ขี่รถกลับดี ๆ นะฮะพี่ปุ่น” เด็กชายตัวเล็กที่เดินตามมาส่งเอ่ยขึ้น


“อื้อ...แล้วพรุ่งนี้เจอกัน ขอให้ทำข้อสอบได้นะหนุ่มน้อย ข้อไหนทำไม่ได้ก็ขอให้เดาถูก”


“ได้พรจากพี่ปุ่นต้องทำได้แน่นเลยฮะ”


ชายหนุ่มสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ก่อนจะขี่ออกมาด้วยความรู้สึกแปลก ๆ นึกเสียดายอยู่เหมือนกันที่ไม่ได้อยู่ร่วมโต๊ะอาหารตามคำเชิญของเจ้าของบ้านก็เลยไม่ได้รู้อาการคนป่วย แต่ไปหาหมอแล้วอีกไม่นานก็คงหายละมั้ง แม้จะคิดแบบนั้นแต่ก็มีหลายคำถามผุดขึ้นในหัว


จะเป็นอะไรมากไหม?


ป่านนี้พี่ชลจะปลุกให้ลุกขึ้นจากที่นอนได้หรือยัง?


จะยอมกินข้าวไหม?


แล้วจะกินยาที่หมอให้หรือเปล่า?



ศิธาพัฒน์ส่ายศีรษะรัวเพื่อไล่ความคิดต่าง ๆ นั้นออกไป


จะไปอยากรู้เรื่องของเขาทำไมกัน?


ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเก็บเอาเรื่องของไอ้เด็กกวนประสาทนั่นมาคิดให้ปวดหัว ถ้าเป็นเพราะตัวเองมีส่วนทำให้อีกฝ่ายไม่สบายการนึกเป็นห่วงก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกละมั้ง


เหมือนมีศิธาพัฒน์สองคนกำลังเถียงกันอยู่ในหัว แต่แล้วเสียงเห่าของเจ้าตัวอ้วนในตะกร้าหน้ารถก็ทำให้ต้องหยุดความคิดเอาไว้แค่นั้นพร้อมกับลมหายใจร้อนถูกผ่อนผ่านปลายจมูกออกมายืดยาว ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้วนอกจากรู้สึกหมั่นไส้เจ้าปากเปราะที่เห่าไม่รู้จักเวลาตัวนี้


“เฮ้อ!!!! อยู่ในบ้านตั้งนานไม่เห่านะนังหนู เห่าตอนนี้ใครเขาจะได้ยิน” 



....



ความรู้สึกแปลก ๆ คงไม่ได้เกิดแต่กับศิธาพัฒน์เพียงคนเดียว เต็มฟ้าเองก็รู้สึกแปลกใจตัวเองไม่น้อยทั้งที่เมื่อคืนนอนซมด้วยพิษไข้แต่วันนี้กลับตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเข้าครัวทำอาหาร จะหยิบจะจับอะไรก็มือไม้สั่นไปหมดราวกับกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า พยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยจึงกลับไปนอนต่อ สุดท้ายความแปลกใจทั้งหมดก็ไปตกอยู่กับหนุ่มน้อยที่ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมสะพายกระเป๋าไปเรียนเมื่อพบหม้อใส่ข้าวต้มอุ่น ๆ วางอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับกระดาษโน้ตเล็ก ๆ ที่เขียนข้อความสั้น ๆ แต่พออ่านแล้วกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังพองฟูอยู่ใต้อกเสื้อด้านซ้าย



“ตั้งใจทำข้อสอบล่ะ”

 




....


สวัสดีค่ะ ตอนนี้ขอมาแบบสั้น ๆ นะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
ได้อ่านคอมเมนต์ที่บอกว่าตามมาอ่านเรื่องนี้เพราะมีคนแนะนำมา
ก็เลยขอขอบคุณไปถึงคนแนะนำด้วยนะคะ ^^
หวังว่าเราจะมีความสุขแบบเนิบ ๆ กับการอ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันค่ะ แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2014 19:10:01 โดย ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เป็นการเริ่มต้นที่ดีของเต็มกับตาม มีกำลังใจสอบแล้ว
ได้พรจากพี่ปุ่น ได้ข้าวต้มจากพี่เต็ม ดีใจกับน้องตาม

พี่ปุ่นกับเต็มเริ่มแปลกๆในหัวใจแล้ว คงอีกไม่นาน
เด็กแสบเริ่มกวนหัวใจพี่ปุ่น

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
กำลังน่ารัก พี่ศิธาให้คำแนะนำเต็มดีตลอด

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
กำลังสบายๆ  :mew1:

*อยากให้ใส่เลขที่หน้า กับวันที่ ที่หัวเรื่องจังค่ะ*  :mew1: :กอด1:

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เข้าเริ่มมีความรู้สึกถึงกันแล้วๆๆๆๆ


ชอบจังๆๆๆ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
ตั้งใจอ่านอย่างแรง :กอด1:

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
เต็มหายเร็วๆๆๆนะพี่ปุ่นเป็นห่วงงง :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ให้เวลาสองคนพัฒนาความสัมพันธ์อีกสักหน่อย ก็นะกับคนเก่าก็ยังกรุ่น ๆ อยู่
ว่าแต่พี่ปุ่นเถอะแอบมีใครซ่อนไว้ก็ไม่บอก
น้องตามจะเป็นเด็กน้อยที่มีความสุขมากแล้ว พี่ชายแสนดื้อกำลังทำตัวเป็นพี่ชายแสนดี

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแล้วเนอะ น่าจะเป็นเพราะพี่ปุ่นด้วยแหละมั่งที่ช่วยแนะนำให้
แล้วเมื่อไรความสัมพันธ์ระหว่างพี่ปุ่นกะเต็มจะพัฒนาอีก ลุ้นๆค่ะ มาตีออีกนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด