✣✤|แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน|✤✣ ตอนพิเศษวันสงกรานต์ P.29
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✣✤|แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน|✤✣ ตอนพิเศษวันสงกรานต์ P.29  (อ่าน 269963 ครั้ง)

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ขอเม้นท์รวดเดียว ตอน 3 - 5 เลยนะจ้ะ ไม่ว่ากันน้า  :m17:
......................................................................
ตอนที่ 3
แหม คุณแมวขาว ทำเชิด ๆ หยิ่ง ๆ แต่ท่าทาง จะติดน้องวสุของเราโดยไม่รู้ตัวแล้วนะนั่น เดินตามต้อย ๆ เชียว
ดีใจจัง ที่ต่อไปจะได้เลื่อนระดับเป็นแมวบ้าน ไม่ต้องเรร่อนอีกต่อไปแล้ว งานนี้ต้องขอบคุณภัทรเลยนะเนี่ย
ชอบภัทร ลูกพี่ลูกน้องของน้องวสุจัง (อ่านแล้วคิดถึง ตี๋คิม ยังไงไม่รู้ล่ะ) ดูเป็นคนตรง ๆ สบาย ๆ ดี
ที่สำคัญ ฉลาดแล้วก็ช่างสังเกตมาก ๆ ไม่ทันไร ท่าทางจะสงสัยความสัมพันธ์ของพี่เอกกับน้องวสุแล้วนะเนี่ย
น้องวสุ ที่หวั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้พี่เอก เวลาเขินอายพี่เอกเนีี่ย นึกภาพตาม แบบ พวงแก้มใส ๆ สีชมพูระเรื่อ ๆ  :o8:
พี่เอก เริ่มปะติดปะต่อ ความฝันของน้องวสุ กับความจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้แล้ว แม้จะเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ
แต่ในเมื่อหลาย ๆ สิ่งที่ตรงกัน จนเกินกว่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ก็ไม่แปลกที่พี่เอกจะคิดถึงไปถึงเรื่องระลึกชาตินะ
.................................................................................
ตอนที่ 4
ตอนที่รู้ว่า เฮียใหญ่ ได้กลับชาติมาเกิดเป็นน้องวสุ เราก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่รู้ว่า ความรักของพี่เอกกับเฮียใหญ่จะได้สมหวังซักที
ไม่ต้องพรัดพรากจากกันอีก มาตอนนี้ ถึงได้รู้สึกว่า เราเอง ก็เหมือนมองน้องวสุ เป็นเฮียใหญ่มาตลอดเหมือนกันสินะ
รู้สึกเหมือนไม่ได้มองน้องวสุ ที่เป็นตัวน้องจริง ๆ แต่เหมือนเห็นน้อง เป็นตัวแทนของเฮียใหญ่ เราอยากให้พี่เอกได้มีความสุข
ได้สมหวังกับความรักกับเฮียใหญ่ซะที แต่ความจริงก็คือ เฮียใหญ่ จากโลกนี้ไปแล้ว และคนที่อยู่กับพี่เอกตอนนี้ คือ น้องวสุ
นึกถึงความรู้สึกในฐานะของน้องวสุ ถ้าน้องคิดมาก จะมีสับสน ไม่แน่ใจ ว่าคนที่พี่เอกรักและต้องการอยู่ด้วย ในปัจจุบัน
ใช่ตัวน้องวสุคนนี้แน่หรือเปล่า มันก็น่าเจ็บปวดใจนะ
ปล. ตอนนี้มีเฮียเพี้ยนของตี๋คิมมารับเชิญซะด้วย คิดถึงจัง ตี๋คิมยังอยู่ราชบุรี อย่างนี้จะโผล่มาให้หายคิดถึงอีกมั้ยน้อ
...
ตอนที่ 5
น้องวสุ ได้รู้แน่ชัดสักทีแล้วสินะ ว่าคนตัวเองหลงรักในฝัน คือ พี่เอก และตัวเอง ก็คือคน ๆ เดียวกัน กับ เฮียวสันต์
คนรักในอดีตของพี่เอก ถ้าน้องวสุ รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ด้วยความเข้าใจได้ก็ดีสินะ จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดใจอีกต่อไป
ความปรารถนาสุดท้ายของเฮียใหญ่ ที่ต้องการได้มาอยู่ในอ้อมกอดของคนรักอีกครั้ง ในที่สุดก็สมหวังแล้ว ตอนนี้
น้องวสุ ได้มาอยู่ในอ้อมกอดของพี่เอกอีกครั้งแล้ว  :m3: แหม แต่ว่า การแสดงความรักต่อกันของมนุษย์
ผ่านสายตาคุณขาวเนี่ย มันจะสิ้นสุดที่ตรงไหนน้อ สวีทหวานก็ชอบน้า แต่พอคิดถึงความจริง น้องวสุ เพิ่งจะสิบห้าเอง
ถ้ารักกันไปถึงขั้นนั้น พี่เอกคงจะไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ทีหลังหรอกน้า เป็นห่วงจัง  :sad4:
แต่จะยังไงก็แล้วแต่ ขอให้ความเศร้าค่อย ๆ สลายไปจากชีวิตทั้งสองคนซักที อยากเห็นทั้งคู่มีความสุข หวานแหววบ้าง
.................................................................................
เม้นท์ซะยาวเลย แหะ ๆ อาจจะงง ๆ บ้าง อย่าว่ากันนะคะ แต่ชอบเรื่องนี้มากเลยน้า ยังติดตามเสมอจ้ะ
รอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณคนเขียนมากเลยค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Tsubamae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
กลับมาอ่านตอนนี้อีกรอบ ก็ตอนต่อไปยังไม่มาง่า :mew2: :hao5: ฮือๆๆ  แหะๆ จริงๆเก๊าชอบตอนนี้มากๆๆด้วย อิอิ และมาส่องตอนต่อไปด้วย!!(เอ้ะ!? ยังไง?)  :katai1:
ก่อนจะกระดึ้บออกจากทู้ :katai5: อยากฝากพี่เอกว่า    คุก นะคะ คึคึ



 แต่!! ไม่เป็นไรนะคะ พี่เอกกินให้หมดจานเถอะค่ะ เดี๋ยวแม่ยกไปประกันตัวเอง โฮะๆๆๆ :z1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
...........

เอิ่มถึงขั้นกินจุด เม้นไม่ออก 55 เอาะป็นว่ารอตอนต่อไป !!!!

ออฟไลน์ M.J.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกก ติดตามๆ

ชอบวสุ ชอบเจ้าขาว 55555

ออฟไลน์ pure_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
น้ำตาจะไหล ไม่ขอแชร์นะค่ะ  ขอฟินคนเดียวพอ T T
พี่เอก ในที่สุดก้อได้หัวใจดวงเดิมกลับมา 

แต่พี่ขา  น้องยังไม่ 15 เลย เป็นห๊วง เป็นห่วง
ไอ คุกๆๆ เป็นห่วงพี่จริงๆ นะ 5555

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5

ออฟไลน์ Gnannanz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-3
มันคืออามรมณ์แบบ...
เจ็บแต่สุข จุกแต่เสียว
เดี๋ยวว!! มันเรทป้ะวะ 555555555


จะบอกว่าพึ่งจะมาเจอเรื่องนี้หลังจากที่ติดตามผลงานทุกเรื่อง
ยังนั่งคิดอยู่ว่าเมื่อไหร่คนเขียนจะแต่งคู่พี่เอกกูซะทีวะ?
อ้าว พึ่งเจอเลยอ่านรวดห้าตอนเลย 555555

ความจริงแล้วไม่ค่อยอ่านนิยายหน่วงๆดราม่าเท่าไหร่ เพราะอ่านทีไรจะอินจัดร้องไห้ทุกทีค่ะ แล้วก็เป็นไปตามคาดค่ะน้ำตาไหลจริงๆ เวลาอ่านนึกถึงวสันต์จริงๆค่ะ คิดว่าคนๆนี้เคยมีชีวิตอยู่จริงๆ อินมากมายจนเกือบไปหาข่าวโดดตึกฆ่าตัวตายเลยทีเดียวแต่ก็เอะใจขึ้นมาได้ นี่มันนิยายนะแก55555555 แต่ช่วงนี้อ่านแล้วปวดหนึบที่หัวใจกับขมับขึ้นมาเลยแก เอาเป็นว่าขอให้ผ่านพ้นช่วงหน่วงนี้ไปเร็วๆ กลับมาทำให้หัวใจพี่เอกพองโตซะทีนะคะ
 :mew1:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
“แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน”






บทที่ 6 ผลิใบ ใต้สายรุ้ง








ตื่น..หรือฝัน? ...คนเราจะฝันทั้งที่ยังตื่นได้ไหมนะ?



“...พี่...เอก...”

เขาอยากมองหน้าเอกภพให้ชัด อยากแน่ใจว่าไม่ใช่แค่ความฝัน แต่เปลือกตากลับปิดลงสนิทแน่น สองมือปัดป่ายในอากาศ เมื่อคว้าได้แผ่นหลังของอีกฝ่าย ปลายนิ้วก็จิกไว้จนสั่นเกร็ง ร่างกายเด็กหนุ่มบิดเร่า พร่ำเรียกชื่อเดิมซ้ำ ๆ ทุกคราวที่ริมฝีปากเว้นว่างจากจูบ ทว่าเกือบทั้งหมดกลับกลายเป็นเสียงครางแผ่วไม่ได้ศัพท์ เขากลั้นหายใจตอนอีกร่างเบียดกายเข้าแนบสนิท ไอร้อนผะผ่าวกลุ้มรุมจนทรมาน อ้อยอิ่งและทิ้งรอยอาลัยไว้บนผิวเนื้อ แต่กระนั้นก็ฉาบไว้ด้วยความหอมหวานและสุขซ่านไปทั้งร่าง

มันอึดอัด...แต่ก็อยากให้กอดไว้แน่นขึ้น เจ็บจนน้ำตาแทบไหล...แต่กลับอยากให้บดเบียดเข้าหาอีก

“...คิดถึง...พี่คิดถึงนายมาตลอด...”

เสียงนั้นสั่นเครือราวกับเจ้าของเสียงกำลังจะร้องไห้

เด็กหนุ่มเอียงหน้ารับเมื่อฝ่ามืออีกฝ่ายลูบแผ่วเบาผ่านผิวแก้ม มันใหญ่และหยาบกร้าน แต่กลับอ่อนโยนจนเขายอมแลกกับอะไรก็ตามเพื่อจะได้ถูกโอบกอดไว้ด้วยมือคู่นั้นอีกครั้ง..
 
..นี่ไม่ใช่คราวแรก

เขารู้..เหมือนกับที่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ชื่อเอกตั้งแต่ยังไม่เคยพูดคุยกันสักครั้ง รู้จักทุกตำแหน่งที่ร่างกายพวกเขาแนบชิดกัน วสุจำสัมผัสเหล่านั้นได้ทั้งหมด กระทั่งความทรงจำว่าควรแนบริมฝีปากตัวเองลงไปตรงไหน จุดใดที่อีกฝ่ายเคยชอบ ใบหู...ต้นคอ...ลาดไหล่..หรือรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ใต้กระดูกไหปลาร้า ตรงที่เอกภพเคยทะเลาะกับเขา...กับวสันต์...จนเซไปโดนกิ่งไม้เกี่ยวเป็นแผล ผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปีมันก็ยังอยู่ที่เดิมเช่นนั้น

เด็กหนุ่มได้ยินอีกฝ่ายพึมพำเบาหวิว เป็นชื่อใครสักคนที่คล้ายคลึงกัน...วสันต์...หรือวสุ...เขาฟังได้ไม่ชัดเจนนัก หูอื้ออึงไปหมด เนื้อตัวเขาสั่นระริกทุกครั้งที่เอกภพขยับกาย แม้ร่างกรีดร้องว่าเจ็บปวดจนน้ำตาคลอเบ้า แต่กลับยิ่งรั้งตัวเองเข้าหาชายหนุ่ม เรียกร้องสัมผัสที่ลึกล้ำกว่านั้น ประทับทั้งหมดลงไปในร่องรอยเดิมซึ่งเคยเกิดขึ้นมาก่อนในอดีต

ลมร้อนลอยผ่านริมฝีปาก ผิวเนื้อเฉอะแฉะเสียดสีกันไปมาเกิดเป็นเสียงประหลาดหู รั้นเกาะเกี่ยวเนื้อตัวเข้าหากันจนถึงที่สุด

ปลายเท้าเขาเกร็งงุ้ม มือปัดป่ายไปบนแผ่นหลังแกร่ง หัวใจจวนเจียนจะระเบิดอยู่ในอก วสุคล้ายหลุดล่องไปยังอีกโลกที่เสียงเปาะแปะแผ่วเบาจากข้างนอกลอยมาไม่ถึง เกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่..

และหากมี..ลมหายใจนี้เป็นของใคร

ช่วงเวลาเกือบสิบห้าปีที่มีชีวิตมานี้ไม่เพียงพอจะอธิบายตัวตนของเขา ไม่เพียงพอสำหรับบอกเล่าที่มาของความปรารถนาเกินหยั่งทั้งร่างกายและหัวใจอีกฝ่าย แต่บางสิ่งกระซิบอยู่ข้างหู เสียงเพรียกจากความฝันที่ราวกับดังก้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันตราตรึงและย้ำลึกตลอดมา ไม่ใช่แค่สิบห้าปี...แต่ยาวนานกว่านั้น ในห้วงเวลาหนึ่งที่มีชีวิตได้ผลิบานและและโรยราลง ทว่าบางอย่างกลับไม่เคยเปลี่ยน

รักเหลือเกิน...รักจนทรมาน...จนเหมือนทั้งตัวจะแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย...รักจนอยากจะร้องไห้ออกมา...อ้อนวอนซ้ำ ๆ ว่าอย่าปล่อยมือ อย่าจากเขาไป ช่วยกอดไว้แน่น ๆ ช่วยรอเขาแม้จะเนิ่นนานและอ่อนล้า ต่อให้ต้องร่วงหล่นลงสักกี่หน แต่เขาจะหาทางกลับมาอยู่ในอ้อมกอดนี้อีกเสมอ

“...ว..ส—”

ชายหนุ่มกระซิบแผ่ว จากนั้นเงียบเสียงไปกลางคัน ราวกับไม่รู้ว่าควรเรียกชื่อเขาว่าอะไร แตะหน้าผากของตัวเองเองกับหน้าผากเขา หยดน้ำอุ่น ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเหงื่อหรือน้ำตาร่วงลงมาใส่แก้ม

วสุผงกศีรษะขึ้น ให้ปลายจมูกพวกเขาชนกันเบา ๆ ความวิตกแล่นพล่านขึ้นมาหลังจากเริ่มรู้สติ หวั่นว่าอีกฝ่ายจะเห็นเขาเป็นคนอื่น เด็กแปลกหน้าที่อยู่ ๆ ก็โผล่เข้ามาอ้างตัวว่ามีความทรงจำของคนรักเก่า ใช้ประโยชน์จากเรื่องนั้นทำให้ตัวเองไขว้เขว

“...เรียกผมว่าอะไรก็ได้..” เขาพึมพำ ไขว้แขนไว้รอบต้นคอชายหนุ่มแล้วซบหน้าบนไหล่อีกฝ่าย ทั้งหวาดกลัว..และสิ้นหวัง  “...วสุ...วสันต์...ชื่อไหนก็ได้ที่พี่อยากเรียก..”

อีกฝ่ายเงียบไปครู่ใหญ่ ถอนกายตัวเองออกจากร่างเขาช้า ๆ ยกมือขึ้นเสยผมชื้นเหงื่อบนหน้าผากเขาอ่อนโยน สุดท้ายจึงเอ่ยออกมาจนได้ด้วยชื่อของตัวเขาเอง

“...วสุ..”

เรียกอย่างนั้น..หมายความว่าอย่างไร?

..ยอมรับที่คนตรงหน้าตัวเองเป็นเขา หรือปฏิเสธความทรงจำของวสันต์ที่เขามี สายตาซึ่งเต็มไปด้วยความสับสนคู่นั้นทำเด็กหนุ่มใจคอไม่ดีเลย นี่มันเจ็บยิ่งกว่าอะไรที่เพิ่งทำลงไปเสียอีก

“..พี่เอก...ผม...”

วสุกลั้นหายใจ คลายอ้อมแขนที่ดึงรั้งอีกฝ่ายไว้แล้วเลื่อนมือมาวางทาบบนอกตัวเอง นึกสงสัยว่าเหตุใดจึงเจ็บอย่างนี้ ทั้งที่ควรรู้สึกดี แต่เขากลับตัวสั่นไปหมดอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ตะกอนความประหวั่นซึ่งนอนนิ่งอยู่นานราวกับถูกกวนให้ลอยฟุ้ง แค่เพียงเห็นร่องรอยความลังเลบนใบหน้าอีกฝ่าย

“...ผม...กลัว..”

เอกภพไม่ตอบอะไร ดึงเขาไปกอดไว้แนบอกเงียบ ๆ  วงแขนที่รัดอยู่นั้นก็สั่นไม่แพ้กันเลย ชายหนุ่มจะรู้สึกเหมือนเขาบ้างหรือเปล่า จะจัดการกับตัวตนครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของตัวเองอย่างไรไม่ให้ทรมานมากไปกว่านี้

 “...ทั้งที่เพิ่งเจอกันเท่านั้นเอง...แต่ทำไมถึงต้องรักจนเหมือนจะขาดใจก็ไม่รู้..”

เขากระซิบเลื่อนลอย เปลือกตาหนักอึ้ง แต่คำพูดก็ยังพรั่งพรูจากปาก

“...ผมไม่รู้เลยว่าผมรักพี่ด้วยตัวเองหรือเป็นเพราะความฝัน นี่เป็นความรู้สึกจริง ๆ หรือเป็นสิ่งที่ถูกโปรแกรมไว้เหมือนอย่างหุ่นยนต์...แค่กล่องรูปร่างเหมือนคนที่มีความทรงจำของคนอื่นมาใส่ไว้...”

อีกฝ่ายก้มลงแนบริมฝีปากเบา ๆ บนหน้าผากเขา แช่อยู่อย่างนั้นได้เพียงครู่เดียว ขอบตาเด็กหนุ่มก็ร้อนผ่าวไปหมด

“...แต่เวลาเจ็บ...มันก็เจ็บจริง ๆ เจ็บมากจนคิดว่าไม่สำคัญอีกแล้วเรื่องผมรักพี่เพราะอะไร เพราะไม่ว่าแบบไหนมันก็เหมือนกันหมด....”

“...วสุ..”

“...พี่เอกจะรักผมไม่ได้หรือ ผมรู้ว่าพี่คุยหรือทำอะไรกับวสันต์บ้าง ความทรงจำของเขา...ความรัก ความเจ็บปวด ทุกอย่างของเขาอยู่ในตัวผม...อยู่ในหัวใจผม..เขารอมาตลอด ผมก็รอมาตลอดเหมือนกัน......”

“...”

...เสียงหยาดฝนทิ้งตัวเปาะแปะ...แผ่วเบา...และอ้างว้าง...

...รอมานานเหลือเกิน..แต่ที่ตรงนี้ก็ยังดำมืด...

วสุไม่รู้ตัวแล้วว่าเขาพล่ามอะไรออกไปอีกหรือเปล่า เปลือกตาเขาหนักอึ้ง ร่างกายอ่อนล้าจนไม่สามารถคงสติไว้ได้ เอกภพจะฟังรู้เรื่องไหมก็ไม่รู้ กับถ้อยคำของเด็กที่พูดแต่เรื่องเพ้อเจ้อมาทั้งชีวิตจนใคร ๆ ก็เลิกสนใจความฝันบ้าบอของเขาแล้ว

ลมหายใจเด็กหนุ่มผ่อนลง เนื้อตัวชื้นเหงื่อยังอยู่ในอ้อมกอดเดิม อบอุ่นและคุ้นเคยจนเผลอขดตัวเข้าหา ความง่วงงุนดึงเขากลับไป ณ อีกฝั่งฝันซึ่งกาลเวลาหมุนวนเป็นวงแหวน ต่อให้วิ่งหรือดิ้นรนสักเท่าไรมันก็จะกลับไปบรรจบที่จุดเดิม..แล้วต้องทำอย่างไรจึงหลุดจากวงจรนั้นได้เสียที?

แผ่นอกเด็กหนุ่มขยับขึ้นลงเชื่องช้า ความฝันฉายซ้ำอีกครั้งในยามหลับใหล

..แต่มันไม่เคยตอบคำถามเขาเลย







เอกภพยังคงตระกองกอดร่างของเด็กหนุ่มไว้แนบอก ก้มลงมองเปลือกตาหลับพริ้ม พวงแก้มชื้นเหงื่อมีสีชมพูอ่อนแต้มอยู่บางเบา  ผิวพรรณยังทอประกายของวัยเยาว์แม้ผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาเกือบทั้งวัน หรือกระทั่งหลังจากที่เขาล่วงเกินอีกฝ่ายไปถึงขั้นนี้

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เป็นวสุ วสันต์ หรือเป็นคนเดียวกัน...แต่ก็ได้ย่ำยีลงไปแล้ว

เอกภพผ่อนลมหายใจยาว แทนที่จะเป็นกลิ่นสบู่หรือดอกไม้บางเบาซึ่งมักติดตัวเด็กหนุ่ม จมูกเขากลับได้กลิ่นคาวจาง ๆ ลอยในอากาศ เคล้ากลิ่นไอฝนที่เล็ดลอดเข้ามาในบ้าน ครุ่นคิดไปว่าฟ้าหลังฝนนั้นมีอะไรรอเขาอยู่หรือ?

เขาจำได้ เมื่อสมัยก่อนวสันต์เคยบอกเขาด้วยสีหน้าร่าเริง ว่าคนมักเข้าใจเรื่องชื่อตัวเองผิด ในวันหนึ่งที่ฝนตกหนักจนพวกเขาติดแหง็กอยู่ในโรงจอดรถของโรงเรียน

“พอบอกว่าชื่อวสันต์ ใคร ๆ ก็นึกไปว่าหมายถึงฤดูฝน แต่ความจริงแล้วเป็นฤดูใบไม้ผลิต่างหาก”

“จริงหรือ?” เขาถามกลับ เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งในผู้เข้าใจผิดเหล่านั้น

“ผมจะโกหกทำไมเล่า” อีกฝ่ายเถียง ยิ้มร่าไปด้วย “ป๊าเปิดหนังสือตั้งชื่อเลยนะ”

“ฤดูใบไม้ผลิเชียว”

“เจ๋งอะดิ”

“มันไม่มีในประเทศเราเสียหน่อย”

“เพราะงั้นไงเลยเท่”

“หลงตัวเองว่ะ”

เจ้าตัวหัวเราะเสียงใส ยื่นมือออกไปรองน้ำฝนที่ไหลลงจากแนวกระเบื้อง พึมพำโดยสายตายังจับจ้องอยู่กับหยดน้ำซึ่งทิ้งตัวเป็นสายจากฟ้า

“แต่หน้าฝนก็ดีนะ”

“หืม”

“หลังฝนตก ใบไม้ก็ผลิ”

“อือ”

“เพราะงั้นจะฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูฝนก็เป็นของผม”

“โห..” เขาส่งเสียงโห่รับ “ไม่ค่อยเลยว่ะ”

“ชื่อพี่อะ?”

“เอกภพไง” เขายักไหล่ ตั้งใจกวนประสาท

“รู้แล้ว”

“แล้วถามทำไมวะ”

“มีอะไรเท่บ้าง..ชื่อนั้นน่ะ”

เขายืนพิงเสา สูดกลิ่นไอฝนบางเบา พลางนึกว่าติดฝนอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ความทรงจำถักทอสายใยเชื่อมโยงระหว่างกลิ่นฝนกับเด็กหนุ่มข้างกายจนแน่นหนา ทุกครั้งที่ฝนตกเขาจะนึกถึงวสันต์ เด็กหนุ่มที่ชื่อแปลว่าฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งแม้ผู้คนมักเข้าใจว่าหมายถึงฤดูฝน แต่เจ้าตัวก็เหมารวมทั้งสองฤดูเป็นของตัวเองไปแล้วเรียบร้อย

“ก็..เอก...แปลว่าหนึ่ง” เขาพยักหน้ากับตัวเอง พยายามไล่เรียงด้วยความรู้ระดับประถมหก “ส่วนภพ..อืม...ก็...ภพนั่นแหละ แผ่นดิน..โลก..รวมกันก็แผ่นดินเดียว โลกเดียว อะไรอย่างนั้น”

“ไม่เห็นเท่เลย”

“ภพเดียวไม่เท่ตรงไหน”

“มันน้อยไง” วสันต์ยังเถียงต่อข้าง ๆ คู ๆ

เขาหลุดหัวเราะ ยอมหยวน ๆ ให้สักหน่อย “แล้วสักกี่ภพถึงพอกันล่ะ”

“ไม่รู้สิ”

“อ้าว”

“ช่างเถอะ..กี่ภพก็ช่าง”

“..กลับคำง่ายจังวะ”

“ภพไหนก็อย่าลืมปั่นจักรยานมารับผมที่บ้านด้วยแล้วกัน”

วสันต์พูดไปเรื่อยเปื่อย ตอนนั้นเจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาแอบชอบอยู่ แต่เมื่อเขาจะถามอะไรต่อ เม็ดฝนก็ซาลงพอดี

“หยุดแล้ว!” อีกฝ่ายร้องขึ้นแล้ววิ่งตึงตังไปจูงจักรยานของตัวเองมา คาดสายรัดกระเป๋าและกระดานวาดรูปไว้กับที่นั่งด้านหลัง ยิ้มร่าให้เขาจนตาหยี แก้มแดงอย่างกับแป๊ะยิ้ม ผิดกันที่ตัวผอมไปหน่อย ข้างหลังอาคารนั้นดวงอาทิตย์ทอแสงสีส้มจาง มีรุ้งกินน้ำพาดผ่านผืนฟ้า หยดน้ำบนยอดไม้สะท้อนแดดเป็นประกาย อีกไม่นานกิ่งนั้นคงผลิใบอย่างวสันต์ว่าไว้

“รุ้งขึ้นแล้ว” วสันต์พึมพำ

“อย่าชี้ดิ เดี๋ยวนิ้วกุด” เขาหัวเราะ “เอานิ้วจิ้มตูดเลย”

“พี่แม่งไร้สาระ” อีกฝ่ายว่าแล้วจับมือเขาให้ยกขึ้นไปทางรุ้งบ้าง “พี่ก็ชี้แล้ว เอานิ้วจิ้มตูดซะ”

“จิ้มตูดแกดิ!”

“ปัญญาอ่อน!”

อีกฝ่ายร้องโวยวาย จูงจักรยานหนีแล้วหัวเราะลั่น พอถึงริมถนนก็รีบปั่นออกไปก่อน ส่วนเขาคว้าแฮนด์จักรยานตัวเองแล้วปั่นตามไปติด ๆ  ภาพที่เห็นด้วยสายตาสองคู่คือรุ้งกินน้ำทอดตัวเป็นเส้นโค้ง ทิ้งปลายสายอยู่ที่ไหนสักแห่งไกลสุดลูกหูลูกตา

ยังไปได้ไม่เท่าไร วสันต์ก็พึมพำขึ้นพร้อมกับชะลอความเร็วจนจักรยานพวกเขาเคียงกันช้า ๆ

“พี่เห็นรุ้งปะ”

“ไม่ได้ตาบอดนี่”

“พี่แม่ง” คนถามบ่นอุบอิบแล้วพูดต่อ “วันนี้ครูแนนบอกว่าทุกคนในโลก ไม่มีใครเห็นรุ้งกินน้ำตัวเดียวกันหรอก”

เขานึกประหลาดใจนิดหน่อย ก็ไอ้ที่เขากับวสันต์เห็นพาดบนผืนฟ้าตรงหน้านี้ มันไม่ใช่รุ้งเส้นเดียวกันหรอกหรือ

“ยังไง?”

“ก็แบบ มันเกิดจากการหักเหของแสงอาทิตย์ผ่านละอองน้ำใช่มะ” อีกฝ่ายเริ่มเจื้อยแจ้ว “ทีนี้ผมยืนกับพี่คนละมุม แสงที่หักเหก็เป็นคนละมุม ถึงจะเห็นว่าเป็นรุ้งเหมือนกัน แต่มันก็มาจากองศาของแสงที่ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่รุ้งตัวเดียวกันเป๊ะ เป็นแค่รุ้งที่หน้าคล้าย...งงปะ”

“ไม่งง” เขาตอบเกินเลยไปบ้าง ความจริงคือต้องใช้เวลาคิดตามนิดหน่อย “พี่ฉลาด”

“หูย..กล้าพูด” วสันต์หัวเราะอีก “เพราะงั้นนะ ถึงจะใกล้เคียงกันยังไง แต่ถ้าตาพี่ไม่ได้มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับตาผม รุ้งของเราก็เป็นคนละตัว”

เอกภพลอบมองอีกฝ่าย ระวังสายตาตัวเองไปด้วยไม่ให้ดูจ้องเขม็งเกินไปนัก วสันต์ยังเงยหน้ามองฟ้าด้วยรอยยิ้มใสซื่อ ละอองฝนเกาะบนเส้นผม คราวนี้แก้มเป็นสีชมพูอมส้มเมื่อถูกฉาบด้วยแสงแดดอ่อนหลังฝนพรำ

“เพ้อเจ้อเหมือนกันนะเรา”

“เรื่องขุมทรัพย์ปลายสายรุ้งของพี่เพ้อเจ้อกว่าอีก” ว่าพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอีกแล้ว “ไว้เล่านิทานหน่อมแน้มพวกนั้นให้ผมฟังอีกดิ”

“ไม่เคยเล่าเลยเว้ย!”

เขาหัวเราะตาม พลางคิดไปด้วยว่าถึงเห็นรุ้งจากเส้นแสงคนละสาย แต่แค่ได้มองข้าง ๆ กันก็เป็นเรื่องดีแล้ว ใครจะเอาตาตัวเองไปซ้อนกับคนอื่นให้พอดีได้กันเล่า...หากว่าไม่ใช่คนคนเดียวกัน


มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2014 23:30:09 โดย RAINYDAY »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
บทที่ 6 (ต่อ)







...ความรู้สึกต่อกลิ่นฝนเป็นเรื่องแปลก...

บางครั้งก็สดชื่น เพราะรู้ว่าเดี๋ยวต้นไม้จะแตกยอด ดอกไม้จะผลิบาน แต่บางคราวกลับทำให้เหงาจนหดหู่ และทั้งหมดนั้นเชื่อมโยงกับเด็กหนุ่มผู้มีชื่อว่าฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเป็นฤดูฝน แต่จะฤดูไหนก็ยังคงผูกมัดเขาไว้กับคนคนเดิมตลอดมา

ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง ยาวเหยียดกว่าเก่า ค่อยวางร่างของวสุลงเบามือ เจ้าตัวไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยเมื่อถูกจับเอนกายลงบนโซฟา

เขาจัดการเสื้อผ้าตัวเองลวก ๆ ท่อนบนไม่ได้สวมอะไร เอาเสื้อตัวเองเช็ดคราบสกปรกบนร่างกายอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนครั้งหนึ่ง จากนั้นหาผ้ามาคลุมร่างไว้แล้วลุกขึ้น ตั้งใจจะไปหาผ้าผืนใหม่มาเช็ดตัวให้ดีอีกครั้ง

เมื่ออยู่ในท่ายืน จึงได้เห็นสัตว์เลี้ยงของตัวเองหมอบอยู่อีกฝั่งห้อง เหนือขึ้นไปนั้นคือแมวดำที่วสุเรียกว่าขาว กำลังนอนขดอยู่หลังตู้ ห้อยหางลงมาในตำแหน่งล่อหมาพอดิบพอดี หากพิจารณาจุดซึ่งแมวนอนตรงนั้น ก็อดคิดไม่ได้ว่าจากมุมมอง ณ ตำแหน่งปักหลักแมวขาวของวสุ จะสามารถมองเห็นเหตุการณ์บนโซฟาได้ถนัดถนี่ ไม่รู้ว่ามาโผล่อยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร

เขาเดินเลยไปอีกหน่อย ก็เห็นสมุดวาดเขียนของวสุวางอยู่ หน้าปกมีที่ว่างสำหรับเขียนชื่อ และคำนำหน้าชื่อว่า ‘เด็กชาย’ ก็ทำเอาเขาปั่นป่วนขึ้นมาในท้อง เหลียวไปมองเจ้าของชื่อซึ่งยังหลับสนิทบนโซฟา

เขาทำอะไรลงไป...เด็กยังไม่ถึงสิบห้าเลย

แมวดำงัวเงียแล้วยกหัว ผินหน้ามาทางทางเขา จังหวะเดียวกับที่เขาหันกลับไปพอดี เมื่อสบกันเข้า นัยน์ตาสีเหลืองวาววับของมันก็จ้องเขม็งราวกับจะบอกให้รู้ว่าทุกอย่างอยู่ในสายตา

“ขอโทษ..” เขาพึมพำ

บอกแมว..หรือบอกอะไรก็ไม่รู้

เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ กว่าเขาจะเช็ดเนื้อตัวและสวมเสื้อผ้ากลับให้เด็กหนุ่มเรียบร้อย วสุเหมือนจะตื่นในตอนที่เขาพยายามสวมเสื้อให้เจ้าตัว แต่ยังสะลึมสะลือเกินกว่าจะเจื้อยแจ้วอะไรให้เขาฟังได้อย่างที่ผ่าน พอจับแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็คอพับคออ่อนลงไปอีก ข้าวปลายังไม่ได้กิน จะปลุกก็ดูเพลียจนน่าสงสาร เอกภพนึกสงสัยว่าพรุ่งนี้วันจันทร์ แล้วเจ้าตัวจะไปโรงเรียนไหวหรือเปล่า

เขานั่งฟังเสียงติ๊ก...ติ๊ก...ติ๊ก...ของเข็มนาฬิกาลายเถาวัลย์บนผนัง ปล่อยเวลาผ่านไปพร้อมความคิดล่องลอย ฟุ้งซ่านทั้งกับเรื่องคนในอดีต คนในปัจจุบัน แต่ยังนึกอนาคตไม่ออก งี่เง่าประหนึ่งเป็นเด็กวัยรุ่น ทั้งที่อายุอานามนับเป็นวัยกลางคนเข้าไปแล้ว แถมเป็นวัยกลางคนที่เพิ่งพรากผู้เยาว์ด้วยมือตัวเองอีกต่างหาก

วสันต์..วสุ...คนละคน หรือคนเดียวกัน เกิดใหม่ หรือแค่ความทรงจำที่ปรากฏขึ้นอย่างลึกลับ เขาไม่รู้ วสุไม่รู้ หมาแมวก็คงไม่รู้ ไม่มีใครตอบเรื่องนั้นได้สักคน แต่ทั้งหมดซึ่งเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องจริง ทั้งที่ห่างหายจากความรู้สึกนั้นจนเกือบลืมไปแล้ว แต่เด็กหนุ่มผู้หลับใหลอยู่ตรงหน้ากลับทำให้มันพลุ่งพล่านขึ้นอีกครั้งอย่างง่ายดาย แค่เพียงได้ยินเสียงเรียกว่า ‘พี่เอก’ ของเจ้าตัวเท่านั้น

เขาโน้มตัวลง เกลี่ยปลายนิ้วไปตามไรผมวสุ ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความทะนุถนอม แต่ไม่กล้าทำอะไรเกินเลยไปอีก ละอายแก่ใจอยู่ไม่หายกับสิ่งที่เกิด เหงื่อและน้ำตาอีกฝ่ายเพิ่งแห้งเท่านั้นเอง จึงได้ทำเพียงพิศมองใบหน้าและเนื้อตัวที่เช็ดจนสะอาดสะอ้าน อยู่ในชุดเดิมที่เจ้าตัวเดินเข้ามาในบ้านเขาแต่แรก ใครมาเห็นคงคิดว่าแค่เล่นจนเหนื่อยแล้วหลับไปตามประสาเด็ก

เขาเหลือบมองนาฬิกา ก่อนสายตาจะมองผ่านรอยแยกเล็ก ๆ ของผ้าม่าน ข้างนอกฝนซาแล้ว แสงแดดอ่อนตอนเย็นกลายเป็นสีส้มสด เวลาล่วงเลยจนป่านนี้ คนจากบ้านข้างเคียงไม่มีใครมาตามวสุกลับบ้างเลยหรือ?

มีเวลาให้สงสัยเรื่องนั้นได้ไม่ทันเท่าไร เสียงออดก็ดังขึ้นให้สะดุ้งน้อย ๆ

“พี่! พี่เอก?”

เสียงเรียกที่ดูมีความลังเลดังขึ้นแว่ว ๆ ตามหลังเสียงออด บรรดาหมาแมวที่หลับเพลินพากันกระดิกหู ชะเง้อไปยังต้นเสียงหน้าประตูเหมือนเป็นองค์รักษ์ด่านแรก

“วสุ? อยู่เปล่า!?”

เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้งดังกว่าเก่า ตอนที่เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงชานหน้าบ้านพอดี พยายามปรับสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติ

“อ้าว?”

“อ้าวพี่” เด็กหนุ่มหน้ารั้วบ้านตอบกลับมาคำเดียวกัน ทำเหมือนไม่ใช่ตัวเองที่เพิ่งเป็นคนร้องเรียกเขาอยู่ปาว ๆ “วสุล่ะครับ?”

เอกภพสูดลมหายใจเข้าลึก เดินตรงไปยังประตูรั้วซึ่งลูกพี่ลูกน้องของวสุยืนรีรออยู่ จะว่าไปก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้าตรง ๆ เช่นนี้เท่าไร พวกเขาเคยคุยกันแค่ไม่กี่ครั้ง ทั้งที่บ้านก็ตั้งอยู่ข้างกันมาเนิ่นนาน

“หลับแน่ะ”

“หลับ?” อีกฝ่ายทวนคำ ทำสีหน้าอ่อนใจไปด้วย จากนั้นพึมพำเหมือนแค่บ่นกับตัวเอง “ขี้เซาตลอดเลยไอ้นี่ เรียกมันให้หน่อยได้ไหมครับ เย็นแล้วไม่กลับบ้าน”

เขาให้เวลาตัวเองลังเลเพียงครู่เดียว ก่อนจะเอ่ยคำโกหกออกมาเสียงเรียบ

“คืนนี้คิดว่าอาจจะนอนค้างที่นี่ด้วยน่ะ”

“หือ?”

“อา..” เขายังคงวางสีหน้าแบบเดิม “ตามนั้น”

“แต่พรุ่งนี้ไปเรียน”

“ค่อยกลับพรุ่งนี้เช้า”

“...มัน...” เด็กหนุ่มลังเล แต่สุดท้ายก็ถามออกมา “..ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?”

“..?”

“เมื่อเที่ยง ๆ ผมเห็นรถพี่ออกจากบ้าน แล้วตอนบ่ายก็กลับมาจอดที่เดิม ไปไหนกันหรือเปล่าครับ”

เมื่อโกหกครั้งที่หนึ่ง ก็คล้ายเป็นภาคบังคับให้มีครั้งถัด ๆ ไปตามมา

“กินข้าวข้างนอกน่ะ”

สีหน้าอีกฝ่ายดูไม่เชื่อเท่าไรนัก แต่ก็พยักหน้าช้า ๆ “...อ้อ”

แม้ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังปิดบังความผิด แต่เขาคิดว่าวสุคงไม่ได้อยากให้คนอื่นล่วงรู้ หากเจ้าตัวตื่นแล้วและตั้งใจจะเปิดเผยหรือเอาเรื่อง ถึงตอนนั้นเขาจะรับผิดชอบเองทั้งหมดโดยไม่ต้องบังคับเลย

“พี่เคยรู้จักกับมันมาก่อนหรือเปล่า” จู่ ๆ อีกฝ่ายก็ยิงคำถามใหม่ หลังจากเงียบกันไปครู่หนึ่ง “อย่าง..เมื่อตอนที่อยู่กรุงเทพฯ หรืออะไรประมาณนั้น”

เอกภพนิ่งคิดไปนานเกินควร เขาไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดควรเรียกว่าเขากับวสุเคยรู้จักกันมาก่อนได้ไหม มันคงตลกดีหากบอกว่าเคยรู้จักสักเมื่อยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ตั้งแต่อีกฝ่ายยังไม่เกิด ในฐานะวสันต์...อะไรอย่างนั้น

“ไม่นี่”

สุดท้ายก็เพียงแต่ปฏิเสธออกไป

“...เหรอ..”

“ทำไมล่ะ?”

“เปล่าหรอกครับ” ภัทรพักตร์ยักไหล่ ทำเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ยังปรายตามองเขาราวกับกำลังประเมินอะไรบางอย่าง “เห็นดูคุยกันถูกคอ เอ้อ แล้ว—อ้าว!?”

เขาเลิกคิ้ว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอุทานขึ้นมากลางปล้อง พร้อมกับชะเง้อมองไปด้านหลังเขาด้วยสีหน้าสงสัย

“ไหนว่าหลับอยู่”

เอกภพหันขวับไปมองตามสายตาเด็กหนุ่มทันที วสุโผล่มาอยู่ตรงหน้าประตูบ้านกับแมวดำ ก่อนจะค่อย ๆ ใส่รองเท้าแล้วเดินช้า ๆ มาทางนี้ ส่วนไอ้ดุ๊กดิ๊กเดินตามมาสบทบอีกตัวในภายหลัง

“...ภัทร?” วสุเอ่ยเรียกเสียงแหบแห้ง ท่าทางคล้ายพยายามหลบตาเขาขณะที่เดินไปคุยกับลูกพี่ลูกน้อง

“จะค้างนี่ไม่บอกแต่แรกวะ”

“...เอ๋?” วสุอ้าปากหวอ เงยขึ้นมองเขาตาปริบ ๆ จากนั้นทั้งหน้าก็แดงซ่านไปหมด ท่าทางบอกชัดว่าไม่เข้าใจเพราะไม่ได้เตี๊ยมกันมาก่อน ดูเหมือนกรรมจากการโกหกจะตามสนองเอกภพเร็วกว่าที่คิด “..ผม....ค้าง...?”

“ไม่ได้จะค้างนี่หรอกหรือ?”

เขาก้มลงมองตาเด็กหนุ่ม ราวกับเป็นนาทีวัดใจว่าวสุจะเอาอย่างไรต่อ เออออตามกัน หรือเอาเรื่องเขาจากที่ล่วงเกินตัวเองไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ภัทรพักตร์ก็ยืนเงียบเพื่อรอฟังอยู่ด้วยเช่นกัน

“...อะ..อ้อ...” สุดท้ายเจ้าตัวก็ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ พยักหน้าช้า ๆ แล้วหันไปทางลูกพี่ลูกน้องตัวเอง “..คือ...ขอโทษที่ไม่ได้บอก...”

ภัทรพักตร์ถอนหายใจเฮือกออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น ผงกศีรษะอย่างเสียไม่ได้แล้วบ่นงึมงำไปด้วย “เออนะ..เชื่อเลย แล้วตกลงมาสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

“...แบบ...มีอะไรที่อยากให้สอนน่ะ” วสุก้มหน้าก้มตาพูดต่อ “จำได้ไหมที่มีประกวดรูปวาดแปะประกาศหน้าห้องเรียน ก็เลยว่าจะลองดู ทีนี้วาดติดพัน ก็เลย..”

“ก็เลยหลับ” คนฟังต่อให้หน่าย ๆ

“..ก็ง่วงนี่!” วสุแย้ง เลยกลายเป็นพูดเรื่องอื่นกันเสียอย่างนั้น

“ขี้เซาเอ๊ย” ลูกพี่ลูกน้องหนุ่มส่ายหน้า “แล้วกลางคืนก็มาบ่นว่าตาค้าง ฝันร้าย นอนไม่หลับ”

“..อ่า..”

“นอนนี่ก็นอนนี่ แล้วพรุ่งนี้เอาไง เสื้อผ้าอะไรอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ หรือกลับไปกินข้าวอาบน้ำแล้วค่อยมา บ้านก็อยู่ติดกันไม่ใช่รึไง”

“นั่นสินะ..”

วสุพึมพำ ท่าทางเป๋อ ๆ กลับมาอีกแล้ว และเอกภพก็รู้สึกได้ว่าคำเท็จของเขาดูจะมัดมือชกอีกฝ่ายเกินไปหน่อย ตอนแรกนึกเป็นห่วงว่าให้กลับบ้านไปทั้งอย่างนี้จะเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ดูท่าแล้ว หากรั้งไว้ต่อเจ้าตัวอาจยิ่งลำบากใจมากกว่า

“งั้นเรากลับไปนอนบ้านก็ได้นะ” เขาเสนอทางเลือก

“เอ๋?” เด็กหนุ่มยิ่งทำหน้างง คงเพราะพอเออออไปแล้วก็จะโดนส่งกลับบ้านเสียอย่างนั้น “..ก็ไหน...?”

“จะกินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้ หรืออยากค้าง?”

เอกภพถามลองเชิง แต่วสุถึงกับเงียบไปครู่ใหญ่ สุดท้ายก็หันไปอ้อมแอ้มบอกคนจากบ้านตัวเอง “ภัทร..เดี๋ยวค่ำ ๆ กลับได้ไหม ฝากบอกป้าแต๋วด้วย”

เจ้าของชื่อยักไหล่ ทำนองว่าก็กะไว้อยู่แล้ว “สรุปไม่กินข้าวบ้าน”

“อา..” เด็กหนุ่มพึมพำ “เดี๋ยวก็กลับแล้ว ไม่นานหรอก”

ภัทรพักตร์พยักหน้า เหลือบมองทั้งสองอยู่อึดใจ ก่อนจะโบกมือลา ทิ้งท้ายด้วยเสียงดังฟังชัด

“อย่าดึกนะเว้ย ขี้เกียจรอเปิดบ้าน แล้วก็กับข้าวส่วนของแกตกเป็นของฉันละนะ!”

วสุพยักหน้าหงึกหงัก มองจนแผ่นหลังอีกฝ่ายหายเข้าประตูบ้านตัวเอง จากนั้นถอนหายใจออกมาสุดปอด ส่วนทางเอกภพนั้น ผู้มาเยือนลับตาไปได้ไม่เท่าไร ชายหนุ่มก็พึมพำเป็นเชิงถาม

“สนิทกับลูกพี่ลูกน้องเหมือนกันนะ?”

เด็กหนุ่มผงกศีรษะรับ แต่ยังดูเหมือนไม่ค่อยกล้าสบตาสักเท่าไร

“ตอนเด็ก ๆ เคยเล่นกันบ่อย กับพี่แพรวก็อีกคน ความจริงบ้านนี้ผมก็เคยอยู่ช่วงหนึ่งก่อนไปอยู่กับลุง”

“ก่อนพี่มาอยู่น่ะหรือ”

“ครับ นานแล้วละ”

“..ก็เลยไม่ได้เจอกัน”

เอกภพแปลกใจกับคำพูดตัวเองนิดหน่อย พอออกปากอย่างนี้แล้ว อย่างกับว่าเขาเองก็อยากเจอมาตลอดอย่างไรอย่างนั้น

“...แต่ตอนนี้ก็เจอแล้ว..” วสุกระซิบ ก้มหน้าเหมือนพูดกับแมวดำ

“เจอขาว?”

“เจอพี่ต่างหาก”

ถึงเสียงพูดจะงึมงำ ตาก็ไม่ยอมสบ ใบหูกลายเป็นสีแดงเข้ม แต่ก็เรียกว่าเป็นเด็กที่ตรงไปตรงมาใช้ได้..

“..ขอโทษนะ”

เอกภพไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แม้แต่คำขอโทษที่เพิ่งออกปากก็ยังไล่เรียงได้ไม่หมดว่าขอโทษเรื่องอะไรบ้าง ขอโทษที่ล่วงเกิน ขอโทษที่ไม่มีคำตอบชัดเจนสำหรับอีกฝ่าย ที่ยังคลางแคลงสงสัยอยู่เสมอว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร วสุกับวสันต์เกี่ยวข้องกันขนาดไหน แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเป็นคนเดียวกันได้หรือเปล่า

“..ทำไมต้องขอโทษด้วยล่ะครับ”

เขากระอักกระอ่วนใจที่จะกล่าว แต่ก็ไม่มีข้อแก้ตัวใดสำหรับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว “เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ ถ้าหากว่านายจะ—”

“นั่นเพราะผมเต็มใจ” วสุขัดขึ้น ย่อตัวลงด้วยท่าทางเงอะงะ ก่อนจะอุ้มแมวดำขึ้นมาไว้แนบอก “..เพราะว่าผมคิดถึงพี่..”

“...”

“....แล้วพี่เอกคิดถึงผมหรือเปล่า..”

ดุ๊กดิ๊กเดินตามมาอีกตัว แต่แทนที่จะมาคลอเคลียเขาอย่างเคย กลับไปพันแข้งพันขาวสุ แมวดำขู่ฟ่อก็ยังไม่ล้มเลิก สุดท้ายแล้วแมวจึงหยุดขู่ไปเอง ปล่อยหมาขนทองวนเวียนอยู่รอบกาย โบกหางเป็นพวงไปมาอย่างเริงร่า ข้างกันกับต้นไม้ที่เริ่มแตกยอดสีเขียวอ่อน กำลังจะผลิใบใหม่ใต้สายรุ้งซึ่งพาดผ่านผืนฟ้าหลังฝนพรำ





..กลิ่นฝนนั้นแปลกเหลือเกิน..

มันทำให้คนยิ้ม..ทำให้คนเหงา...และทำให้คนเผลอไผล เอ่ยปากบางสิ่งออกไปโดยไร้การไตร่ตรอง

ดุ๊กดิ๊กเอียงคอ ลองคิดดูใหม่ หรือจะว่าไป...ก็อาจเป็นคนนั่นแหละที่แปลก

เพราะอยู่ดี ๆ ก็ยิ้ม แต่ประเดี๋ยวก็เหงา และบางครั้งยังเผลอไผล เอ่ยปากบางสิ่งออกไปโดยไร้การไตร่ตรอง

มันเออออกับตัวเอง ใช่แล้ว..คนต่างหากที่แปลก นายก็เป็นหนึ่งในนั้น ตลอดมานายยิ้มทั้งที่เหงา แต่ตอนนี้นายกลับทำหน้าเหงาทั้งที่ตัวเองกำลังมีความสุข

วุสก็แปลกเช่นกัน เด็กคนนั้นปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแมวดำชื่อขาว เข้ามาอย่างงง ๆ  เจอกันแป๊บเดียวก็ทำให้นายรัก..นายรักเด็กวสุแน่ ๆ ดุ๊กดิ๊กมั่นใจ ทั้งชีวิตมันไม่เคยเห็นนายมองใครด้วยสายตาอ่อนโยนอย่างนี้มาก่อน เพียงแต่นายรู้ตัวหรือยัง...คล้ายว่าจะยัง?

ความสุขของมนุษย์เป็นเรื่องเข้าใจยากกว่าฝนฟ้า ยิ่งกว่าฤดูกาล และยากเกินคาดเดายิ่งกว่าตำแหน่งสุดปลายสายรุ้งซึ่งไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือเปล่า ดุ๊กดิ๊กไม่เคยเห็น แต่ตอนนี้รุ้งก็ทอดตัวอยู่บนฟ้า ปลายจะสิ้นสุดตรงไหนก็ช่างปะไร โผล่มาจากไหนไม่รู้ สำคัญคือมันมีอยู่ต่อหน้าล้วนเรียกว่าเป็นของจริงทั้งนั้น

ดุ๊กดิ๊กเอาหัวชนขาวสุ จากนั้นเอียงไปชนขานาย ร้องหงิงหวังชวนเข้าบ้าน แต่แมวดำขู่ฟ่อใส่แล้วหาว่าเป็นไอ้งั่งอีกแล้ว คนเขาจะพลอดรักกัน ทำไมไม่รู้จักกาลเทศะบ้าง เล่นเอานั่งหงอ ไอ้ขาวเป็นแมวแก่แดดแล้วยังดุนัก!

“ถ้าวสันต์ก็เป็นส่วนหนึ่งของผม หรือผมอาจเป็นส่วนหนึ่งของเขา..”

วสุพึมพำ ถึงตอนนี้จะเสียงแห้งไปหน่อย แต่ดุ๊กดิ๊กชอบเสียงวสุ นายคงชอบมากเช่นกัน เพราะเห็นตั้งใจฟังเชียว

“ถ้าทั้งผมและเขาก็มองเห็นสายรุ้งเส้นเดียวกัน...จากมุมเดียวกัน..”

เด็กหนุ่มพูดอะไรที่ดุ๊กดิ๊กไม่รู้เรื่อง ทุกคนและทุกตัวก็เห็นสายรุ้งเส้นเดียวกันอยู่ไม่ใช่หรือไร ไอ้ที่เรียงกันเจ็ดสีอยู่เหนือหัวตอนนี้ต่างกันตรงไหน เงยขึ้นก็เห็น ถ้ามัวนักแค่เช็ดน้ำตาก่อน แล้วลืมตาให้กว้างหน่อยเท่านั้นเอง ทว่าแปลกอีกแล้ว ทั้งที่มันงงแทบแย่ แต่นายกลับน้ำตาคลอเมื่อได้ยินถ้อยคำนั้น หากไม่ใช่เพราะยืนกันอยู่หน้าบ้าน นายคงดึงวสุไปกอดไว้แน่น ๆ


“...จะคิดถึงผมไหม...แล้วจะรักผมไหม?”


“...คิดถึงสิ..”


นายพูดออกมาแล้ว..แม้ยังเลี่ยงคำว่ารัก มันเห็นแมวดำแอบทำหน้าซึ้งในอ้อมแขนวสุ


“...ถึงตอนนี้จะยังรักไม่ได้...แต่หลังจากนี้ช่วยเริ่มรักผม..สักทีละนิด...ด้วยเถอะครับ....”


ดุ๊กดิ๊กมองนาย จากนั้นมองเด็กหนุ่มหน้าง่วง คนที่เจ้าแมวอ้างว่าเป็นของตัวเอง แม้ไอ้ขาวโอ้อวดว่าเพิ่งได้ทาสมนุษย์คนใหม่ แต่ว่านะ..


ดุ๊กดิ๊กคิดว่าตัวเองก็กำลังจะได้เจ้านายคนใหม่เหมือนกัน




โปรดติดตามตอนต่อไป










ขอเชิญไปเยี่ยมพี่เอกในคุกด้วยกันค่ะ Orz

กินเด็กขั้นสุด! ทำไมเดี๋ยวนี้เขียนแต่อะไรผิดศีลธรรม แฝดงี้ ลุงพรากผู้เยาว์งี้ นรกนี่มันร้อนผ่าว ๆ จริง ๆ ค่ะ ที่ร้อนขนาดนี้คงเพราะก้าวขาลงนรกไปแล้วแน่ ๆ (ฮา)


แปะของแถมนะคะ รีพลายนี้เลย มีไม่เยอะ แหะ ๆ

ดูเดิ้ลของตอนที่แล้วค่ะ




ขอบคุณคนอ่านผู้น่ารัก แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ ^o^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2014 19:43:32 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
 :z13:


หวาาาา   ลุงแกรวบรวดสุดๆ รู้เรื่องกันแล้วได้กินเลย    :haun4: 

วสุน่ารักจริงๆเลยลูกกกก คำพูดคำจา น่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู 

ความรู้สึกพี่เอกคงประมาณนี้   เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอน 14
ตอนที่ฉันมีแฟนคนแรก
ลึกๆ ข้างในมันหวั่นมันไหวแปลกๆ
เธอรู้ไหมฉันเหมือน 14 อีกครั้ง      :laugh: 

อ่านแล้วก๊าวใจดีจัง  +1 ค่ะ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2014 19:06:24 โดย MK »

ออฟไลน์ raizvita

  • Called me ZC. ' v <,,
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
พี่เอกคะ.. คุกๆๆๆๆๆๆๆ  // ไอรัวๆ //  ไม่มีอะไรคะ.... จะพูดอะไรลืมไปแล้ว...

555++  แอบหน่วงนะแบบนี้

 แต่บอกตรงๆชอบคู่แบบนี้มากอ่ะ ประเภทอายุห่างกันเยอะหน่อย แล้วฝ่ายที่อ่อนกว่าเป็นฝ่ายที่ถูกดูแล... - ___ -,, ฟินสุดเลยล่ะ

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4

ออฟไลน์ shabushabu4

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
พี่เอกเป็นอมตะแล้ว :hao7: :hao7:
พี่เอกจ๋าา เค้าก็อยากเป็นอมตะบ้าง //ตอนตบ

ออฟไลน์ Raccoooon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-2
คุก คุก คุก คุก คุก คุก คุก คุก คุก คุก คุก !!
แค่กๆ

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่เอกกินเด็กไปเป็นที่เรียบร้อย 55555555555555
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ pattyyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตาลุงกินเด็กเรียบร้อย
เด็กยังใช้ ด.ช. อยู่เลยนะลุงงงงงงง  :hao7:

ออฟไลน์ LiqueuR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ๊ะ!!   :jul1:

พี่เอกเป็นอมตะไปแว้ววว

ออฟไลน์ princessrain

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตอนอ่านฉากที่บนโซฟา เราก็ไม่เชื่อไงว่าพี่เอกกินน้องจริงๆ
ย้อนอ่านหลายรอบเผื่อมันจะมีคำบางคำที่เราอ่านผ่านๆเเล้วเข้าใจผิด
อ่านไปอ่านมานั่นแหล่ะค่ะ.... โอเค เราเข้าใจถูกแล้ว 555555

พี่เอกอย่าคิดมากนะคะ
ถ้าเจ้าพนักงานมาก็ทำตัวเนียนๆ
แบ่บ ผมไม่ได้กินเด็ก ผมแค่กินยาอายุวัฒนะ...ประมาณนั้น
 o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
พี่เอก น้องยังเด็กชายอยู่เลยนะครับ 555555

ออฟไลน์ kissme

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 457
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
 :L2: ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีมากเลย คำก็สวยงาม...สุดยอดมั่กๆ  o13

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มีความสุขน่ะแต่มันยังไม่สุด อยากอ่านตอนหวานแบบสดใสเบิกบานใจเร็วๆจังเลย

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
พี่เอก.....คุก คุก. คุก คุก 555555

ินิยายเรืีองนี้เป็นเรื่องของหมากับแมว 5555555

อ่านไปน้ำตาไหลไปเหมือนเคย. ฟินแบบหน่วงๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
นึกว่าตาฝาด ขยี้ตาใหญ่เลย ฉากบนโซฟานั่น ของจริงนี่หว่า
ลุงเอกรอมาเกือบสิบห้าปีเลยรีบรวบรัดตัดตอนจับเด็กกินซะเลย เหอ ๆ
ของเยี่ยมจะเอาอะไรจ๊ะ ข้าวผัดกับโอเลี้ยงตามสูตรนะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ยินดีด้วยค่ะพี่เอก พี่ได้เป็นอมตะ !!!!

แต่แลกกับขาพี่เหยียบอยู่ในตาราง 1 ข้างแล้วน้ออออ 55

ออฟไลน์ ployyuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขาก้าวไปในคุกด้วยความเต็มใจสินะคะพี่เอก ฮา   :m20:
หนูวสุพูดจาน่ารักมาก ชวนให้ปล้ำอีกรอบมากเลยค่ะ....  :hao3:
จากหน่วงๆ รู้สึกบรรยากาศเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว มีเซนส์ว่าใกล้จบเต็มที ยังไงก็ขอฉากหวานๆ ให้สมกับที่หม่นมาเกือบทั้งเรื่องด้วยนะคะ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
วสุน่ารัก   :impress2:  พี่เอกคงจะเลิกเหงาได้แล้ว  รอตอนต่อไปค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
คงไม่ต้องพากันไปเยี่ยมพี่เอกที่สถานีตำรวจใช่มั้ย 55555555
ในที่สุดพี่เอกก็เป็นอมตะ!!!!
อีกไม่นานหรอก คำว่ารักที่วสุรอคอย อีกไม่นานคงได้ยิน :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด