✣✤|แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน|✤✣ ตอนพิเศษวันสงกรานต์ P.29
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✣✤|แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน|✤✣ ตอนพิเศษวันสงกรานต์ P.29  (อ่าน 269188 ครั้ง)

benji

  • บุคคลทั่วไป
ตั้งใจเรียนเน้อออออ

จะปักหลักคอย พี่เอก อยู่ตรงนี้แหละจ้าาาาา  :mew1:

MiiCell

  • บุคคลทั่วไป
 :hao7: สมกับที่เลี้ยงแมวจริงๆเรนนี่ซัง แมวที่บ้านก็ให้อารมณ์ประมาณนี้
ชอบเมินเจ้าของ พอเราเมินมั่งนะ ไม่ยอม   :katai1:
บร๊ะ!! นายเอกตัวจริงจะโดนทำหมันละ หึหึ

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
โคตรชอบเรื่องนี้อ่ะ ชอบมากจริงๆ เศร้านะ..แต่ก็อบอุ่น น้ำตาไหล...แต่ก็ยิ้ม บ้าไปแล้วฉัน  :กอด1:

น่าจะย้ายตอนพิเศษมาเลยนะคะ ไม่งั้นก็เพิ่มมาด้วยก็ได้ค่ะ ไม่ก็ในรวมเล่มน่าจะย้ายมาไว้ในเรื่องนี้มากกว่า จริงๆนะ

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
เพิ่งจะรู้ว่ามีเรื่องยาวของพี่เอก 
ดีใจที่พี่เอกกับไอ้ตี๋จะมีความสุขกันสักที ปลื้มปริ่มน้ำตาคลอมากค่ะ
อ่านไป อ่านไป ด้วยความสุข
อ้าว คนแต่งติดภาระกิจสำคัญ
แต่ก็เข้าใจค่ะ ว่างแล้วแวะมาต่อนะคะ
อยากเห็นพี่เอกกับวสุวสันต์ ลงเอยอย่างแฮปปี้จริงๆ
รู้สึกว่าทั้งคู่เป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุด
 :กอด1:

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบเฮียใหญ่กับพี่เอกมาตั้งแต่ภาคแรก ยังคิดเลยว่ารักกันขนาดนี้
อยากให้คนเขียนแต่งให้เฮียใหญ่กลับมาเกิดใหม่ แต่คิดว่าคงไม่มีทางเป็นไปได้
และในที่สุดฝันก็เป็นจริงง่า

รักคู่นี้มากมายยยย ...พี่เอกรีบรับผิดชอบน้องด้วยอ่าาา
รอเรื่องนี้ตลอดเพราะชอบมากมาย มันกินใจอย่างบอกไม่ถูก  :m15:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้าาาา  :กอด1:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ยังรออยู่เสมอ โชคดีในการเรียนค่ะ  :mc4:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
อ่าาาาาา ติดตามค่ะ ดีจังงงพี่เอกจะได้หายเศร้าแล้ววววว

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
มาต่อเร็วๆนะค่ะ ชอบมากกกกกเลยค่ะ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
“แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน”


บทที่ 9 พันเกี่ยว




สัตวแพทย์หญิงวัยกลางคนซึ่งประจำอยู่ที่คลินิกยิ้มเป็นมิตรให้พวกเขา หลังจากตกลงกันเรื่องชะตากรรมของเจ้าแมวดำชื่อขาวเป็นที่เรียบร้อย เมื่อจัดที่ทางให้แมวเสร็จ เธอเหลือบมองเอกภพและเด็กหนุ่มข้างกายอย่างชั่งใจครู่หนึ่ง จากนั้นเริ่มถามถึงดุ๊กดิ๊ก เปรยถึงแมวขาว เลยไปถึงสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ อีกนิดหน่อย ก่อนจะมาจบลงตรงคำถามเกี่ยวกับเจ้าของหมาแมว

“จะว่าไป..ไม่เคยเห็นคุณเอกเลี้ยงแมวเลยค่ะ”

“ปกติก็เลี้ยงแต่โกลเด้นนี่แหละครับ” เอกภพยิ้มน้อย ๆ ลอบมองวสุซึ่งยืนอาลัยอาวรณ์เจ้าขาวอยู่ข้างเขา น่าเอ็นดูจนเผลอวางมือยีเบา ๆ บนเส้นผมนุ่มนิ่มของเด็กหนุ่ม เจ้าตัวหันมามองเขาด้วยหน้าเหวอ ๆ ก่อนพวงแก้มจะกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ขยับตัวหนีหรือแสดงอาการต่อต้าน จึงได้วางมือค้างไว้อย่างนั้นแล้วพูดต่อ “ความจริงแล้วเจ้าขาวเป็นของวสุ”

“โอ้ ของหนูหรอกหรือจ๊ะ” เธอยิ้มกว้าง หันมาทางผู้เยาว์ “มิน่าเล่า หมอก็นึกอยู่ว่าปกติแล้วคุณเอกไม่เห็นเคยพูดถึงแมว”

วสุทำตาปริบ ๆ จากนั้นหันไปถามอีกฝ่าย “พี่เอกไม่ชอบแมวหรือครับ”

“เปล่านี่”

“ผมรบกวนหรือเปล่า”

ชายหนุ่มหัวเราะแผ่ว ยิ่งขยี้ผมอีกฝ่ายจนยุ่งเหยิง “คิดมาก ไม่ชอบจะพามาทำไม”

ปากว่าอย่างนั้น แต่ไม่ได้หมายถึงแมวหรอกที่พูด ความจริงเขาหมายถึงวสุต่างหาก เรื่องที่ว่าหากไม่ชอบแล้วจะพามาด้วยทำไม แต่เจ้าตัวก็ดูเหมือนจะเข้าใจไปอย่างซื่อ ๆ ว่าหมายถึงแมว จึงได้พยักหน้าหงึกหงักพร้อมรอยยิ้มละมุนจนคนมองพลอยอบอุ่นหัวใจไปด้วย อดคิดไม่ได้ว่าเขาแก่เกินไปแล้วหรืออย่างไรกันนะ แค่เห็นยิ้มใสซื่ออย่างนี้เข้าก็รู้สึกอิ่มเอมถึงขั้นที่ทำให้ใจอ่อนยวบยาบ แม้ไม่ได้ออกท่าทางใดให้เป็นที่ผิดสังเกต แต่ความรู้สึกรักใคร่ซึ่งส่งผ่านสายตาก็ยังชัดเจนจนสัตวแพทย์สาวยังสังเกตได้ ดูท่าทางเธอคันปากอยากถามเต็มแก่ ติดที่ระวังตัวอยู่ว่าออกจะเป็นการละลาบละล้วงเกินไปหน่อย จึงได้สงบปากสงบคำ ทำเพียงแต่เฝ้ามองคุณลูกค้าสองคนตรงหน้าอยู่เงียบ ๆ

ทว่าสุดท้าย เธอคงถึงที่สุดแล้วจริง ๆ จึงได้หลุดออกมาหนึ่งคำถามทั้งใบหน้าแต้มยิ้ม

“เจ้าของแมวขาว เป็นน้องชายคุณเอกหรือคะ” เธอเบนสายตามายังวสุ “หมอไม่เคยเห็นเลย น่ารักขนาดนี้ ถ้ามาเป็นลูกค้าละก็ต้องจำได้แน่ ๆ”

วสุชะงักไป ท่าทางเหมือนไม่รู้จะตอบอะไร หันมามองเอกภพอย่างขอความเห็น

ชายหนุ่มชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ครุ่นคิดว่าจะรับมือกับคำถามง่าย ๆ นี้อย่างไรดี ฝ่ายเขาเองนั้นไม่มีปัญหา แต่กับวสุยังอยู่มัธยมเท่านั้นเอง มีเรื่องเสียหายให้เป็นที่นินทาคงไม่ดีนัก แม้เอาเข้าจริงแล้ว สิ่งที่ตอบไปก็ยังติดจะกำกวมไม่น้อยอยู่ดี

“เป็นคนสำคัญครับ”

พูดแค่นี้เอง แต่เจ้าเด็กเป๋อหน้าขึ้นสีแดงแจ๋เลยเชียว

พวกเขาโบกมือส่งขาว ก่อนออกมาจากคลินิกถูกคุณสัตวแพทย์สาวบ่นนิดหน่อยเรื่องอย่าให้แมวกินปลาเส้นมากนัก ส่วนวสุดูเหมือนจะไม่สามารถเปลี่ยนสีผิวกลับมาให้กลายเป็นเหมือนปกติได้ง่ายดายนัก ยังคงแต้มสีชมพูระเรื่ออยู่เช่นนั้นจนกลับมานั่งอยู่ในรถ พึมพำคำถามแผ่วเบา

“บอกไปอย่างนั้นจะดีแล้วหรือครับ?”

“หือ?”

“ผมสำคัญกับพี่เอกหรือครับ?”

ชายหนุ่มหันไปเลิกคิ้วกับคนข้างกาย นึกออกแล้วว่าเจ้าตัวหมายถึงอะไร ดูท่าคงติดใจเรื่องนั้นอยู่จริงด้วย เด็กหนุ่มก้มหน้างุด แต่ยังเหลือบตาใสแจ๋วขึ้นมอง ประกายความหวังเล็ก ๆ ผุดขึ้นในนั้น ทำตัวเหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็นทว่ากลัวคำตอบ ท่าทางซื่อตรงกับความรู้สึก น่ารักจนเขานึกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่านอกจากกับวสันต์แล้ว จะสามารถรู้สึกอย่างนี้กับใครได้อีก

“เอ..ยังไงดีนะ...” เขาเปรย พยายามจะไม่อมยิ้มออกมา เว้นช่วงไม่ตอบทันทีอย่างจงใจ

ทำตาปริบ ๆ อย่างนั้น มันน่าเอ็นดูน้อยเสียเมื่อไรกัน

“..อันที่จริงแล้ว...”

หลังจากค้างอยู่ท่าเดิมอย่างลืมตัวครู่หนึ่ง วสุที่คล้ายจะนึกขึ้นได้ว่าทำหน้าเหวออยู่นานกลับดูจ๋อยลงนิดหน่อย ถอยกลับไปนั่งสงบเสงี่ยมบนเบาะ เอ่ยเสียงอ่อย

“..ถ้าทำให้ลำบากใจไม่ต้องตอบผมก็ได้”

“ไม่นี่” เขาชิงพูดขึ้นก่อน โน้มตัวไปวางคางกดไว้กลางกระหม่อมอีกฝ่ายเบา ๆ แล้วถอยกลับ คราวนี้กลั้นยิ้มไม่อยู่อีกแล้ว “ไม่ลำบากใจ พี่พูดไปแบบไหน ก็หมายความตามนั้นนั่นละ”

ถัดจากทำตาแป๋วคราวนี้เป็นอ้าปากหวอ

“โธ่ ก็เพราะชอบทำหน้าทำตาอย่างนั้นไง เลยอดแกล้งไม่ได้กันพอดี”

“พี่เอก”

“รู้สึกเหมือนเสียท่าให้เด็กน้อยยังไงก็ไม่รู้”

พอพูดถึงตรงนี้ หน้าก็เริ่มร้อนขึ้นมาเองบ้างแล้วเหมือนกัน จึงได้เบือนหน้าออกไปทางกระจกหน้าต่างแวบหนึ่ง แต่ได้แค่แวบเดียวเท่านั้นเอง กลับอดไม่ได้ต้องเหลียวมองเจ้าเด็กข้างกายอีกครั้ง อีกฝ่ายยิ้มแฉ่งแก้มแดง กลับไปนั่งเอามือตบแก้มตัวเองแปะ ๆ หงุงหงิงว่า “ขอบคุณครับ” แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าขอบคุณเรื่องอะไร

สิ่งหนึ่งซึ่งอาจเรียกว่าน่าแปลกใจสำหรับเอกภพ คือระหว่างเส้นทางจากคลินิกสัตว์เลี้ยงไปถึงบ้านพักของสามภพตามที่นัดกันไว้ เขากับวสุแทบไม่ได้พูดกันอีกเลย แต่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกกระอักกระอ่วนแต่อย่างใด ตรงกันข้าม กลับชวนให้อุ่นใจอยู่ลึก ๆ แค่ได้ยินเสียงลมหายใจซึ่งที่บอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายยังมีเลือดเนื้ออยู่กับเขาตรงนี้จริง ๆ








“เฮียเพี้ยน รู้รึเปล่า..” เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นจากกองขยุกขยุยบนเตียงของสามภพ เพ่งมองให้ดีจึงเห็นว่าเป็นคิมหันต์ที่นอนกลิ้งอยู่บนนั้น เอาหมอนผ้าห่มมาม้วนรอบตัวเป็นก้อน “หมาโกลเด้นตัวแรกที่ผมรู้จักชื่ออะไร”

“จะไปรู้ได้ไง”

“เดา”

“ชื่อคิมหันต์”

“โอ๊ย! เกลียดเฮียเพี้ยน”

ตามด้วยหมอนใบหนึ่งลอยมาเข้ากลางท้ายทอยสามภพจากด้านหลังพอดิบพอดี ความแรงไม่มากนักเหมือนอยากแหย่ให้ผละจากโต๊ะอ่านหนังสือไปเล่นด้วยมากกว่า

“ไอ้ตี๋เกรียนนี่” ชายหนุ่มตัดสินใจรับมุกเสียหน่อย หันไปแยกเขี้ยว ลุกจากเก้าอี้ คว้าหมอนที่เพิ่งถูกซัดมาติดมือไปด้วยแล้วเดินดุ่มไปที่เตียง แค่สองสามก้าวตามด้วยกระโจนเบา ๆ ทีเดียวก็ขึ้นไปคร่อมอยู่เหนือร่างอีกฝ่ายง่ายดาย ไอ้ตัวแสบคล้ายนอนรออยู่แล้ว เห็นเข้าอย่างนั้นก็ยิ้มเผล่ มือปลาหมึกคว้าหมับรอบต้นคอทันที ขาข้างหนึ่งยกขึ้นมาเกี่ยวกับแข้งเขาไว้ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรอีกต่างหาก เรื่องลวนลามน่ะเร็วอย่าบอกใครเชียว

“หมาโกลเด้นตัวแรกที่ผมรู้จักชื่อข้าวเหนียว เป็นหมาของเพื่อนสมัยผมอยู่ประถม ตัวนั้นละที่ทำให้อยากเลี้ยงพันธุ์นี้ ถึงกับไปอ้อนเฮียใหญ่ จนเฮียสัญญาว่าเขาเรียนจบแล้วจะซื้อให้”

สามภพโคลงศีรษะน้อย ๆ แกล้งทิ้งน้ำหนักลงไปทับให้อีกฝ่ายบ่นเสียงอู้อี้ “เป็นอะไร จู่ ๆ พูดถึงเรื่องหมา”

“ช่วงหลังนี้ผมนึกอะไรแปลก ๆ ขึ้นมาได้ แล้วมันก็คาใจอยู่ตลอด” คิมหันต์ว่า ขยับตัวจนได้ท่าที่สบาย ขาข้างหนึ่งยังพาดไว้กับขาเขา ก่อนจะพูดต่อโดยลดท่าทางขี้เล่นลงนิดหน่อย “ถึงแปลกจนคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ยิ่งนึกก็ยิ่งสงสัย”

“พี่ว่าเรานี่แหละพูดอะไรแปลก ๆ”

อาตี๋จิ๊ปาก เอาขาฟาด ๆ ใส่แข้งเขา “เฮียเพี้ยนอย่าเพิ่งขัดสิ” ว่าแล้วก็เข้ามากระแซะต่อ เดี๋ยวกวนเดี๋ยวอ้อนจนอดขำกับพฤติกรรมไม่ได้ ก่อนเจ้าตัวจะเจื้อยแจ้วต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ

“ผมว่าไอ้หนูวสุน่ะมีอะไรแปลก ๆ”

“ทำไม? ไอ้หนูนั่นเป็นตุ๊ดหรือ?”

“เฮียแม่ง! ตุ๊ดไม่ตุ๊ดช่างเถอะ แต่เด็กออกจะน่ารัก”

สามภพจ้องหน้าอีกฝ่ายทีเล่นทีจริง “ถ้าไปจีบละก็จะฆ่าเด็กนั่นทิ้งซะ”

“เชี่ย เฮียเพี้ยนนิสัยเสีย”

“เข้าใจไหม?”

คิมหันต์พ่นลมหายใจพร้อมเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก “ไม่จีบหรอก เฮียเพี้ยนไม่รู้อะไร ดูไม่ออกเลยหรือ ผมว่าไอ้หนูนั่นเป็นเด็กพี่เอก”

“ก็พอเดาได้ แต่พี่เอกเป็นแฟนพี่ชายเราไม่ใช่หรือ”

“นั่นแหละเป็นประเด็นอีกหนึ่ง!” คิมหันต์ส่งสายตาคล้ายจะบอกเขาว่าในที่สุดก็เริ่มหายโง่แล้ว ซึ่งไอ้สายตาอย่างนั้นมันน่าเตะเป็นบ้าเลย “พี่เอกไม่เคยจริงจังกับใครอีกเลยนับตั้งแต่เฮียใหญ่ แต่ตอนผมคุยกับเขาแล้วมาที่เรื่องวสุ จะรู้สึกได้ว่าสีหน้าเขาเปลี่ยนไป โดยเฉพาะที่นี่..” เขาว่าพลางวางนิ้วตรงหางตาชี้ ๆ ของตัวเอง “ตรงนี้...ที่แววตา ผมจำได้ มันเหมือนเวลาพี่เขาพูดถึงเฮียใหญ่..”

สามภพเงียบไปครู่หนึ่ง จึงถามขึ้นสั้น ๆ “แล้วไง?”

คิมหันต์ที่เหมือนรอให้เขากระทุ้งคำถามอยู่แล้วจึงรีบเล่าต่อ “แล้วเจ้าหนูนั่น ตอนเจอกันครั้งแรกกับผม เจ้าตัวก็พูดว่าตัวเองมักฝันแปลก ๆ พูดเหมือนเคยรู้จักพี่เอกมาก่อนตั้งแต่ในฝันแล้ว แถมยังรู้ด้วยว่าพี่เอกเคยคบกับผู้ชาย...มันไม่ใช่เรื่องที่คนปกติจะรู้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้รู้จักกันก่อนหรอก..จริงไหมล่ะ”

“ไอ้หนูนั่นอาจจะหลอกเราก็ได้ว่ารู้จากในฝัน” เขาท้วง “แต่ความจริงคือรู้เรื่องนั้นจากพี่เอกมาก่อนแล้ว หรือไม่ก็อาจฟังมาจากคนอื่น”

อีกฝ่ายส่ายหน้าพร้อมทำเสียงจุ๊ ๆ ใส่ “พี่เอกไม่เล่าให้ใครฟังง่าย ๆ หรอก แล้วเฮียเพี้ยนคิดว่าผมจะดูไม่ออกหรือว่าไอ้หนูบื้อ ๆ อย่างนั้นพูดโกหกอยู่หรือเปล่า อีกอย่างผมคุยกับพี่เอกแล้วด้วย เขาก็ยืนยันเองว่าเพิ่งเคยรู้จักกับเจ้าหนูนั่น แถมยังเจอเรื่องที่ทำให้แปลกใจเหมือนกัน อย่างจู่ ๆ วสุก็ไปเรียกไอ้ดุ๊กดิ๊กว่าโรลล์ ชื่อของหมาโกลเด้นตัวเก่าเขา ตัวเดียวกับที่เฮียใหญ่เคยไปเล่นด้วยบ่อย ๆ วันดีคืนดีก็พูดเรื่องอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เฮียใหญ่เคยเจอกับพี่เอก ทั้งที่ตอนนั้นวสุยังไม่เกิดด้วยซ้ำ..”

“..อา..” สามภพพยักหน้าน้อย ๆ เข้าใจดีว่าคิมหันต์ต้องการจะสื่ออะไร “..แต่แค่นั้นยืนยันอะไรไม่ได้หรอก”

“ก็จริงของเฮียเพี้ยน แต่มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก ถึงพี่เอกจะเล่าให้ผมฟังไม่หมด ดูเขาเองก็ระวังตัว แต่หลุดอะไรออกมาเยอะอยู่ตอนที่คุยกัน..”

“เรามันขี้เสือก”

“เฮียแม่ง! ปากจัด” เจ้าตัวโวยขึ้นมาแล้วเอามือข่วนเนื้อผ้าบนท้องเขาดังแคว่ก ๆ

สามภพหัวเราะ จับไอ้ตัวแสบล็อคคอไว้แน่นด้วยความมันเขี้ยวแล้วเอามือยีผมอีกฝ่ายจนยุ่ง “เอาละ...พูดต่อสิเอ้า..”

คิมหันต์กระฟัดกระเฟียดพอเป็นพิธี ก้มลงงับแขนเขาทีหนึ่ง จากนั้นพล่ามต่อรัวเร็วเหมือนเก็บไว้ไม่ไหวอีกต่อไป “แล้วเรื่องฝันของไอ้หนูวสุน่ะ เฮียเพี้ยนรู้ไหม ว่าเด็กนั่นฝันเรื่องอะไรบ่อย ๆ..”

“ฝันเปียกมั้ง”

“เชี่ย! หมกมุ่น!”

“โอเคครับ ไม่กวน” ชายหนุ่งงอตัวเพื่อล็อคแขนขาคิมหันต์ให้แน่นขึ้นอีก เมื่อเจ้าตัวทำท่าจะกัดอีกแล้ว “ว่าต่อ ๆ”

“ฝันถึงเรื่องที่เหมือนกับอดีตของเฮียใหญ่..ไอ้หนูนั่นฝันซ้ำ ๆ มาทั้งชีวิต พี่เอกบอกมาอีกทีตามที่ได้ยินจากไอ้หนู ว่าตอนแรกก็ไม่ค่อยชัด แต่ต่อมามันก็ค่อย ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ทั้งบุคคล เหตุการณ์ สถานที่ ทั้งหมดนั้นวนเวียนไปเรื่อย แต่ก็จะมีจุดจบอย่างเดียวกัน คือฝันว่าตัวเองตกจากดาดฟ้าลงมาตาย...แบบเดียวกับเฮียใหญ่...”

“..อา..”

“..เฮียเพี้ยนขนลุกอยู่นี่หว่า”

“หือ?”

“เนี่ย!” คิมหันต์ร้อง พลางชี้ให้ดูที่แขนของเขา เมื่อก้มลงไปมองจึงได้เห็นว่าขนลุกขึ้นมาวูบหนึ่งจริง ๆ “เฮียเพี้ยนเข้าใจผมไหม มันแปลกมาก บรรยากาศตอนผมคุยกับวสุก็คุ้นแบบ...คุ้นมาก ๆ......ตอนแรกนึกไม่ออก แต่พอลองคิดดูดี ๆ แล้ว ถึงหน้าตาจะไม่เหมือนก็เถอะ...แต่...”

“...นี่กำลังจะบอกว่า..”

“...ผม...” คิมหันต์เม้มปาก เงยขึ้นมองหน้าเขาครู่หนึ่ง จากนั้นเบือนสายตาไปทางอื่น “...ไม่รู้สิ...ถึงจะบอกว่าเหลือเชื่อ แต่ลึก ๆ ในใจ ผมก็แอบหวังไปแล้ว เราเรียนสายวิทย์ เฮียเพี้ยนว่ามันจะเป็นไปได้ไหม อะไรที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้ แต่สักวันมันอาจมีคำอธิบายสำหรับเรื่องแบบนี้ก็ได้นี่...”

คำถามของคิมหันต์ทำให้เขาต้องพลอยฉุกคิดไปด้วย ตัวเองนั้นไม่เคยได้รู้จักตัวจริงของพี่ชายคนโตของคิมหันต์ที่จากไปแล้ว แต่สิ่งที่คิมหันต์จับสังเกตได้ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องปกติ และเขาก็ค่อนข้างมั่นใจในความเห็นของคิมหันต์เสียด้วย เจ้าตัวเป็นพวกหูไวตาไว เชื่อในสัญชาตญาณตัวเองซึ่งก็มักพาไปถูกทางมาแต่ไหนแต่ไร

“แถมพี่เอกไม่เคยเปิดใจกับใครอีก ผมไม่ได้เห็นเขายิ้มจริง ๆ ไม่ใช่แค่เอายิ้มมาฉาบไว้บนหน้ามาตั้งแต่เรื่องเฮียใหญ่จบลง จนกระทั่งเจอเขาช่วงหลังนี้ ที่เขาบอกว่าฝากซื้อขนม แล้วก็พูดถึงวสุ ...ไม่รู้สิ..เฮียเพี้ยนต้องเห็นเอง แล้วจะนึกภาพพี่เอกที่เราเจอกันก่อนหน้านี้ไม่ออกเลย...เขาดูมีความสุข...แบบ ความสุขจริง ๆ อะ ไม่ใช่แค่ปั้นยิ้ม ทั้งที่ผมคิดว่าคนที่จะทำให้พี่เอกยิ้มอย่างนั้นได้มีแค่เฮียใหญ่คนเดียว วันนี้เหมือนจะมีวสุอีกคน แต่ถ้าคิดว่าเรื่องที่ผมสงสัยพอมีมูล ก็อาจยังพูดได้ไหม ว่าคนที่ทำให้พี่เอกยิ้มอย่างนั้นได้ก็ยังเป็นเฮียใหญ่เหมือนเดิม..”

“ในร่างวสุน่ะหรือ?”

“ใช่! โอ้ย..เฮียเพี้ยนจะว่าผมบ้าไหมวะเนี่ย” คิมหันต์ลุกพรวดขึ้นนั่งขยี้ผมตัวเอง “ให้ยิงถามตรง ๆ ไอ้หนูนั่นก็ดูงง ๆ เป๋อ ๆ เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ หรือถ้าตอนนี้รู้แล้วอาจไม่อยากบอกก็ได้อีก ถ้าผมหลอกถามเอาเนียน ๆ จะได้รู้อะไรมากขึ้นไหมนะ พี่เอกบอกว่าเดี๋ยวจะพาแวะมาหานี่นา”

“ก็ลองดูสิ” สามภพยักไหล่ “ไม่เสียหลายสักหน่อย”

คิมหันต์มองหน้าเขา หรี่ตาลงอย่างชั่งใจครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าน้อย ๆ จมอยู่กับความคิดตัวเองจนกระทั่งมีแขกมาเยือน







มีต่อรีพลายถัดไป
v
v
v









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2014 21:11:20 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
บทที่ 9 (ต่อ)





“ก็เลยจับไอ้ขาวไปทำหมันเลยสินะ”

“ครับ”

คิมหันต์หัวเราะเอิ๊กอ๊าก หลังจากนั่งโม้กับอีกฝ่ายอย่างถูกคอได้พักใหญ่ เหลือบมองสามภพที่คุยกับเอกภพอยู่อีกฝั่ง ห่างกันจนไม่ได้ยินว่าพูดอะไรกันบ้าง และทางนั้นก็คงไม่ได้ยินที่เขาคุยกับวสุเช่นกัน ดูเหมือนจะเจตนาพาแยกออกไปให้เขาได้นั่งกับวสุตามลำพัง “แถมยังเอาปลาเส้นหลอกแมวลงตะกร้าอีกด้วย ร้ายใช้ได้ ฮ่า ๆ”

“ขาวเอาแต่ซุกอยู่ใต้ตู้นี่นา เหมือนรู้”

“งี้ก็ต้องฝากไว้ที่คลินิกก่อนอะดิ”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก “คุณหมอแนะนำอย่างนั้นครับ พี่เอกก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน”

“สนิทกับพี่เอกไวเหมือนกันนี่เรา” คิมหันต์ลองพูดสะกิด ลอบสังเกตท่าทางอีกฝ่ายไปด้วย พอเอ่ยถึงเอกภพขึ้นมา แก้มขาว ๆ สองข้างก็แต้มสีชมพูระเรื่อ ดูง่ายอย่างกับอะไรดี ตอนนี้จะเกี่ยวกับเฮียใหญ่ของเขาหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่มั่นใจอย่างหนึ่ง คือเจ้าเด็กเป๋อตรงหน้านี้ ใจไปกับผู้ชายชื่อเอกภพหมดแล้วเป็นแน่

“ผมว่าพี่เอกเขาคงใจดีกับทุกคน”

“เรื่องนั้นมันก็ใช่” คิมหันต์ผงกศีรษะเออออ กระเถิบตัวเองเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มมากขึ้น ถือวิสาสะยกแขนขึ้นโอบรอบไหล่อีกฝ่ายหน้าตาเฉย แล้วยังทำเนียนเอนศีรษะไปซบอย่างกับจะอ้อนอีก ส่วนวสุก็ดูจะไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยเขานั่งแปะอยู่อย่างนั้น “แต่ระดับความใจดีน่ะ ถ้าดูให้ดีมันก็ไม่เหมือนกันหรอกนะ สังเกตไหม?”

“ผมไม่ค่อยเห็นตอนเขาอยู่กับคนอื่นด้วยสิ”

“เพราะเขาไม่อยู่กับคนอื่นไง ช่วงนี้เขาดูอยู่แต่กับนายนะ”

“อย่างนั้นหรือครับ” ใบหน้าจิ้มลิ้มของคนข้าง ๆ ดูจะดีใจปนโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ใช่สิ” คิมหันต์ยืนยัน “แล้วไอ้ดุ๊กดิ๊กล่ะ เป็นไงบ้าง”

“ร่าเริงดีครับ”

“รู้ไหม พี่ก็มีหมาโกลเด้นชื่อดุ๊กดิ๊กเหมือนกัน”

วสุพยักหน้าลอย ๆ ก่อนจะเงียบไปครู่ใหญ่ ไร้บทสนทนาใดเนิ่นนานจนผิดปกติ ตอนนี้เองที่คิมหันต์สังเกตว่าสายตาอีกฝ่ายมองเหม่อไปไกล แต่คล้ายว่าไม่ได้จับจ้องอยู่กับสิ่งใดเป็นพิเศษ อีกหลายนาทีต่อมา วสุจึงพูดต่อเสียงนุ่มนวล ทั้งยังสำเนียงละม้ายกับพี่ชายของเขาไม่มีผิด

“อยากเลี้ยงมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ”

“เอ๋?”

“โกลเด้นรีทรีฟเวอร์..ใช่ไหม”

เขาเบิกตากว้าง ยกมือขึ้นกุมอก ใจเต้นแรงขนาดนี้ ไม่ได้เป็นมานานเท่าไรแล้วนะ

วสุยังคงไม่ได้มองกลับมา ขณะที่เขากระซิบตอบแผ่วเบา พยายามไม่ขัดจังหวะอาการเหม่อลอยของอีกฝ่าย

“ใช่”

“ก่อนหน้านั้นก็เคยชอบหมาโกลเด้นของเพื่อน ตัวที่ชื่อข้าวเหนียวนี่นา”

คิมหันต์จ้องอีกฝ่ายเต็มตา วสุรู้...หรืออย่างน้อยก็พูดเหมือนรู้ แม้คาดไว้แล้วว่าอาจมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแต่ก็ยังตกใจ สังเกตรายละเอียดในอากัปกิริยาทุกอย่างเท่าที่จะมีปรากฏให้เห็น ความสงสัยยิ่งขยายตัวเป็นหลุมดำขนาดใหญ่อยู่ในอก เด็กผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่นะ

“...ใช่..” ชายหนุ่มกระซิบ น้ำเสียงแหบพร่าเหลือเกิน

“ขอโทษนะ..”

“..ขอโทษทำไมหรือ?”

“ที่รักษาสัญญาไม่ได้..”

“....สัญ..ญา...”

“..ทั้งที่บอกเองว่าจะซื้อให้แท้ ๆ”

...ใจเขาเต้นผิดจังหวะ แล้วจากนั้นก็เหมือนจะหยุดลงดื้อ ๆ เลย ขณะที่ขอบตาสองข้างก็ร้อนไปหมด เหมือนมีก้อนอะไรขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ กว่าจะเอ่ยออกมาได้ทีละพยางค์ กับคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวมาหลายวัน


“...เฮีย...ใหญ่....เหรอ....”


พูดได้เท่านั้นเอง แล้วคิมหันต์ก็สะอื้นออกมา ส่งเสียงเป็นภาษาไม่ได้อีกครู่ใหญ่ จากเดิมที่เขาเป็นฝ่ายคล้องแขนรอบไหล่วสุไว้ ตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มหันมากอดเขา มือหนึ่งลูบแผ่วเบาบนแผ่นหลัง วิธีพูดที่ว่าคุ้นแล้ว สัมผัสยิ่งคุ้นเคยกว่า ต่อให้รูปลักษณ์ภายนอกแตกต่าง แต่ใครจะมีกลิ่นอายเหมือนกันได้ถึงเพียงนี้

“..เป็นใครน่ะ...” เขากัดฟันถามต่อ “...ใช่....เฮียใหญ่รึเปล่า..”

วสุโอบคิมหันต์ไว้แน่น เมื่อหลับตาลง ภาพที่เคยเห็นแค่ในฝันก็ย้อนขึ้นมาชัดเจนอยู่หลังเปลือกตา ช่วงหลังมานี้คล้ายว่าไม่ได้ปรากฏขึ้นแค่เฉพาะยามหลับอีกแล้ว แม้ตื่นลืมตาและมั่นใจว่ายังเป็นตัวเอง กลับยังรู้สึกได้อยู่เสมอว่าแบกรับความทรงจำของอีกคนหนึ่งไว้

“...ใช่..หรือเปล่า...ครับ...” คิมหันต์ถามซ้ำ เสียงแผ่วเหมือนจะขาดใจ

เด็กหนุ่มโคลงศีรษะน้อย ๆ “..ผมก็ไม่รู้ แต่คนคนนั้น...คนที่อยู่ในตัวของผม...ในหัวใจ...ในความฝัน...ในความจริง เขาคงอยากบอกพี่คิม...บอกกับตี๋เล็กของเขาว่าอย่างนี้ พี่คิมว่ามันแปลกไหม บางทีผมก็กลัวว่าผมจะเป็นบ้า ผมเหมือนเป็นวสันต์ แต่ผมก็เป็นวสุ...จนถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าตกลงตัวเองเป็นใครกันแน่...ความทรงจำของผมเป็นสิ่งเดียวกับของพี่ชายพี่คิมหรือเปล่า..ที่ผมพูดไป..มันใช่เรื่องเดียวกันไหม”

“...ใช่...ใช่สิ...” คิมหันต์พยักหน้า สะอื้นขึ้นมาอีกครั้ง ใจเขาเชื่อไปหมดแล้ว จึงไม่รู้จะเรียกแทนตัวเองว่าอย่างไรดี “..แล้วเฮียจำผมได้ไหมล่ะ..มีผมอยู่ในฝันด้วยหรือเปล่า..”

“...มีสิ...ผมจำได้...และผมไม่อยากให้ตี๋เล็กร้องไห้เลย...พี่คิมไม่ร้องแล้วได้ไหม พอเห็นอย่างนี้แล้วก็เจ็บมาก ๆ ในอก.."

"ได้..ได้..." คิมหันต์พยักหน้า ยกมือปาดหยดน้ำบนแก้ม แต่นอกจากมันจะไม่หยุดแล้ว ยังดูเหมือนจะยิ่งหนักกว่าเก่าเสียอีก

"นอกจากพี่เอกก็ยังมีคนอื่นอีกที่ผมไม่อยากให้ร้องไห้...สา...สิ...ป๊า ม้า...ผมจะทำอะไรให้พี่ ทำอะไรให้พวกเขาได้บ้างหรือเปล่า”

“....เฮีย.....”

ชายหนุ่มน้ำตาร่วงเผาะ ๆ เหมือนเป็นเด็ก คนตรงหน้านี้เกี่ยวข้องกับพี่ชายของเขาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง วสุอายุใกล้สิบห้าปี พี่ชายของเขาจากไปเมื่อสิบห้าปีก่อน จะพอคิดเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่าว่าอาจเป็นคนคนเดียวกัน กลับมามีชีวิตและลมหายใจอีกครั้งตรงหน้า อยู่เคียงข้างผู้ชายที่ตัวเองเคยรักนักหนาในอดีต

“...อยู่ด้วยกันไง...” เขาร้องครวญออกมาในที่สุด “..อย่าไปไหนอีก อยู่กับทุกคนไง อยู่ด้วยกันตลอดไป”

“ในฐานะใครหรือครับ..”

คิมหันต์เงียบไป ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งจึงเข้าใจความหมายของเด็กหนุ่ม ตรงตามที่เจ้าตัวพูดต่อหลังจากนั้น

“ผมก็ยังเป็นผม...” วสุพึมพำ น้ำเสียงสลดลงจนจับสังเกตได้ง่ายดาย “...ผมชื่อวสุ...ถ้าทุกคนจะเห็นผมในฐานะตัวแทนวสันต์...ก็คง....คงทนไม่ได้...หรือทนได้ก็แค่ไม่นาน..”

“..งั้นก็เป็นวสุ” ชายหนุ่มว่า ยกมือเช็ดน้ำตาป้อย ๆ จนหมดจากใบหน้า นั่งสงบสติอารมณ์จนแน่ใจว่าจะไม่ปล่อยโฮอีกแล้วกระแซะอีกฝ่าย พยักหน้าแรง ๆ เออออกับตัวเองไปด้วย “เป็นวสุนั่นแหละดีแล้ว ชีวิตเป็นของนาย ถ้าถูกมองเป็นคนอื่นมันเป็นเรื่องโหดร้ายจะตายชัก แต่มีความทรงจำของเฮียใหญ่อยู่ในตัวนายใช่ไหม ถ้าขอให้ช่วยแบกรับส่วนนั้นไว้ด้วยนายจะไหวหรือเปล่า...ขอมากเกินไปหรือเปล่า..ถ้าคิดว่าเขาอยู่ในหัวใจนาย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายเป็นวสุอย่างทุกวันนี้ มันก็ไม่ต่างจากความทรงจำเมื่อสองขวบหรือสามขวบหรอก...แค่คิดว่ามันย้อนไปนานกว่านั้นสักหน่อย..”

วสุที่ทำหน้าเศร้าอยู่ตอนแรก ฟังไปฟังมาก็เริ่มอ้าปากหวอ “ผม..ไม่ค่อยเข้าใจ”

“เออ..พี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ”

“ทำไมพี่คิมพูดงี้อะ”

“แล้วจะให้พูดไงเล่าเด็กนี่”

“..ก็พูด..พูด...เอ้อ....” เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง ถอยออกมามองตาแดง ๆ ของอีกฝ่าย คิมหันต์ร้องไห้ตาบวม จากที่ตาตี่อยู่แล้วตอนนี้เลยยิ่งหยีเข้าไปใหญ่ “พูดแบบ..”

“หรือไง?” ชายหนุ่มว่า สูดน้ำมูกครั้งหนึ่งพลางยักไหล่ สบตากับวสุ แล้วเงียบไปอึดใจหนึ่ง

“...ก็...พูดงั้นแหละครับ...ดีแล้วมั้ง...” เขาอ้อมแอ้ม “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“ไอ้เปี๊ยกเอ๊ย..” คิมหันต์ส่ายหน้า “แล้วรักพี่เอกหรือเปล่า”

“..หะ...หา!?”

“รัก..หรือไม่รัก” เขายื่นหน้าเข้าใกล้เด็กหนุ่ม จ้องเข้าไปในตาใส ๆ นั่น “คำถามปลายปิด มีช้อยส์แค่สองข้อ อย่าคิดนาน”

“คือผม..”

“รัก ไม่รัก?”

“...อา..”

“หือ?”

วสุก้มหน้างุด ได้ยินคำตอบหนึ่งพยางค์ถ้วน แม้เสียงเบา แต่เป็นถ้อยคำชัดเจน

“....รัก..”
 
คิมหันต์นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มออกมา

“..รักเขาเยอะ ๆ เลยนะ”

“..อะ..เอ๋?”

เขาโน้มตัวลง กระซิบเบา ๆ กับอีกฝ่าย “..นายเป็นคนสำคัญนะรู้ไหม ช่วยดึงพี่เอกออกจากเรื่องเศร้า ๆ ที่หลอกหลอนเขามาตลอดทีเถอะนะ..”

“..ผมน่ะหรือ”

“แล้วเอาไว้เราไปหาเจ้ใหญ่กับเจ้สิกัน ..หมายถึงสากับสินั่นแหละ ป๊ากับม้าด้วย”

“เห?”

แม้วสุเหมือนจะเริ่มตามไม่ทันแล้ว แต่คิมหันต์ยังคงพูดต่อไปเรื่อย “อ้อ เจ้ใหญ่...หมายถึงสานั่นละ มีลูกแล้วนะ ลูกแฝดด้วย! แล้วเอาไว้เรียนจบพี่ว่าจะเอาไอ้ดุ๊กดิ๊กของตัวเองกลับราชบุรี ไว้ก็มาเล่นสิ ของพี่เป็นไอ้ดุ๊กดิ๊กที่สอง ตะกละกินอย่างกับอะไรดี ไหนจะ—”

“พี่คิม..”

“หือ?”

“..ขอบคุณนะครับ”

วสุพึมพำกับคิมหันต์ คนฟังได้ยินแล้วก็ที่นิ่งไป จากนั้นคลี่ยิ้มน้อย ๆ แล้วเป็นฝ่ายเริ่มหัวเราะก่อน เขาจึงค่อยหัวเราะตามแก้เก้อ มองอีกฝ่ายขยับเข้ามานัวเนียต่ออย่างกับหมาน้อยขี้อ้อนแบบมองข้ามเรื่องใครอายุมากกว่าไปเลย

“ขอบใจเราด้วยเหมือนกัน”

เขาลูบแผ่นหลังคิมหันต์เบา ๆ เทียบกับภาพตี๋เล็กในความฝันของตัวเองไปด้วย ณ ปัจจุบันอีกฝ่ายโตขึ้นตั้งขนาดนี้ ตัวสูงขึ้น แผ่นหลังก็กว้างขึ้น เรียนกำลังจะจบแล้ว พอนึกขึ้นมาก็ตื้นตันจนบอกไม่ถูก หัวใจพองฟูอยู่ในอก จะเป็นเพราะส่วนหนึ่งของวสันต์ที่อยู่ในตัวเขาหรือเปล่านะที่ทำให้รู้สึกอย่างนี้

แม้อะไรจะไม่ได้ชัดเจนขึ้นนัก แต่รู้สึกดีที่ได้คุยกัน อย่างน้อยคิมหันต์ก็บอกว่าให้เป็นตัวเขาเอง ไม่ได้มองว่าเป็นคนอื่นหรือตัวแทนใคร เรื่องที่บอกให้ช่วยแบกรับความทรงจำในส่วนของพี่ชายเจ้าตัวไว้ได้หรือเปล่า ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขาก็คิดว่าตัวเองทำอย่างนั้นมาทั้งชีวิตอยู่แล้ว เขากลัวเพราะความไม่รู้ แต่หากรู้ว่ามันมีที่มาจากไหน เริ่มต้นและจบลงอย่างไรเหมือนอย่างที่มันค่อยชัดเจนมากขึ้นในตอนนี้ ฝันหรือภาพแปลก ๆ ที่ซ้อนขึ้นมาอาจไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างเคยรู้สึกก็เป็นได้





“เฮ้ย เป็นไร”

พี่เขี้ยวหน้าดุนี่แหละ ที่กลับมาเห็นคิมหันต์ตาบวมฉึ่งก็รีบร้องทัก แถมสายตาดุ ๆ ยังหันขวับมาทางวสุแบบไม่ทันได้รอคำตอบจากเจ้าตัว ถึงยังไม่ได้ต่อว่าต่อขานสักคำ แต่สีหน้าดุดันแบบนั้นก็ชวนให้สะดุ้ง

“..เอ้อ..” เขาอ้ำอึ้ง แต่คิมหันต์พูดแทรกขึ้นมาก่อน

“เฮียเพี้ยนจะกินเด็กเรอะ!?”

“ยังมีหน้ามายิ้มแฉ่งอีก” สามภพบ่น สายตาเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนอย่างกับคนละคนตอนมองชายหนุ่มหน้าตี๋ เอาชายเสื้อตัวเองยกขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาอีกฝ่ายที่ยังสูดน้ำมูกฟืดฟาดนาน ๆ ครั้งอย่างไม่กลัวเปื้อน “ขี้แยไปไหมเรา เป็นอะไรเนี่ย”

“พี่น้องคุยกันอ่า...ซึ้งไปหน่อย”

สามภพเลิกคิ้ว เหลือบมองวสุแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้ดูโหดอย่างคราวแรกแล้ว เด็กหนุ่มได้แต่ส่งยิ้มจ๋อย ๆ ไปให้ ถึงรู้สึกว่าน่ากลัว แต่ก็นึกดีใจกับคิมหันต์ที่มีคนห่วงขนาดนี้

“เนอะ” คิมหันต์หันกลับมายิ้มร่าอย่างขอความเห็น ขยิบตาเหมือนรู้กัน ก่อนจะเอ่ยชื่อเขาออกมาเสียงดังฟังชัด คล้ายกับจะยืนยันว่าเขาเป็นตัวเองแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว “วสุ”

“..ครับ”

“ดีจังเลย ที่มีนายอยู่กับพี่เอก” อีกฝ่ายว่าต่อ จากนั้นมองเลยศีรษะเขาไปทางด้านหลัง หันมองตามจึงได้รู้ตัวว่าเอกภพเดินมายืนซ้อนอยู่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร “ใช่ไหมพี่เอก?”

เอกภพยิ้มบางเบา พยักหน้าน้อย ๆ ให้คิมหันต์ วางมือลงบนไหล่เขาอ่อนโยน แล้วยังรู้สึกได้ว่าขยับเข้ามาใกล้จนเกือบชิด ชายหนุ่มพูดคุยกับคนฝั่งตรงข้ามอีกสามสี่ประโยค แต่เขาไม่ทันได้ฟัง ใจคอยไปจดจ่ออยู่กับไออุ่นจาง ๆ จากข้างหลังและตรงฝ่ามือที่วางบนไหล่

อบอุ่น...คุ้นเคย ตัวเขาในปัจจุบันหลงรักสัมผัสเช่นนั้น


และส่วนหนึ่งของตัวตนที่ยังหลงเหลือจากอดีต ก็คล้ายว่ากำลังกระซิบกลับมาไม่ต่างกัน



โปรดติดตามตอนต่อไป






มาต่อแล้วค่ะ *กราบบบบ* แม้จะช้ามาก แต่สัญญาว่าจะต่อให้จบ อร๊ากกกก

ไม่อยากให้ดราม่าอะไรเยอะแยะ อยากให้คลี่คลาย จริง ๆ นะ //// อยากเขียนตอนหวาน ๆ เรื่อย ๆ บ้าง ฮา

ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ ที่ยังรออ่าน และมีสะกิดในทวิตเตอร์และ FB รักกกกกก ฮืออออ พบกันครั้งหน้าเมื่อหาเวลาอู้ได้ใหม่ค่ะ
ปล. ของแถมมีไม่มาก TwT แปะ(รวม ๆ)เลยแล้วกันนะคะ


วสุ ที่ลองพาเลทสีโทนเหลืองชมพู


อันนี้ดูเดิ้ลเมื่อวันกอดค่ะ (มีวันกอดด้วย! ขาวก็ยอม ๆ ดุ๊กดิ๊กหน่อยเถอะ)


แถมอีกสองรูปของเรื่องข้างเคียง

เด็กแฝดลูกเจ้ใหญ่ พี่วีกับน้องวิน ผู้เชียร์บอลคนละทีมตลอด วาดเล่นช่วงบอลโลกค่ะ



แล้วก็อันนี้ เมื่อวันจูบ (มีวันแบบนี้ด้วย..(อีกแล้ว)) อาทิตย์กับปิ่นหยก จากรักติดดิน ยังจำสองคนนี้ได้มั้ยคะ เพื่อนคิมหันต์ 555



แล้วพบกันค่ะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2014 10:00:24 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ hongzaa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
ลืมแล้ว ขอไปอ่านใหม่ก่อนนะ

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนเรารึป่าว ว่าอ่านมาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุด
ไม่มีตอนไหนที่ไม่ขนลุก มันให้ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกอ่ะ มันลุ้นมาก
ถ้าจะบอกว่าดราม่า เรากลับมองว่ามันซึ้ง ปนจุก ไม่ใช่อารมณ์เศร้าหรือหดหู่
แต่มันแฝงไปด้วยความสงสารวสุที่ต้องถูกมองเป็นตัวแทน ลุ้นว่าพอไปเจอครอบครัวคิมแล้ว
คนทางนั้นจะเชื่อรึป่าว รอติดตามตอนต่อไปนะคราฟ ...

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดีใจจัง คิดถึงมากๆๆๆๆเลย

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
มันก็จริงนะคะ ที่วา่ ถึงแม้วสุจะมีความทรงจำของวสันต์
แต่จะให้เป็นตัวแทนของวสันต์ แล้วตัวตนของวสุล่ะ
ไม่มีใครสนใจกับความรู้สึกของวสุเลย พี่เอกตอนแรกก็งี้
อยากแต่จะให้วสุเป็นตัวแทนวสันต์ วสุน่าสงสารนะ
หวังว่าทุกคนจะให้ความสำคัญกับวสุมากกว่านี้
คิมหันต์ยังชอบสกินชิพอยู่เหมือนเดิม
แม้กับเด็กที่เพิ่งรู้จักกันอย่างวสุก็เถอะ
นี่พอรู้ว่ามีความทรงจำของวสันต์อยู่ด้วย ยิ่งอ้อนใหญ่
ซึ้งๆกันไปอีกตอน

เป็นกำลังใจให้นะคะ มาช้า รอได้ แต่ไม่มาต่อจนจบ ร้องนะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
โอยยยยย ร้องไห้ตามอีกแล้ว
แต่รู้สึกดีนะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ปริ่มมาก..
เอ..คิมนี่เนียนลวนลาม(?)ได้ทุกสถานการณ์เลยสินะ..ทั้งโอบทั้งกอด
 o18

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ร้องไห้มันทุกตอน เราอินไปไหมอ่ะะะะะะะ  มันทั้งซึ้งทั้งขนลุก  :hao5:

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
น้ำตาไหลพรากเลยยยยยยยยยย
ตอนคิมคุยกับเฮียใหญ่--วสุ
 :sad11: :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
ซึ้งมากเลย :hao5:
ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีอย่างนี้ตลอดนะ

ออฟไลน์ Gaem

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
มาแล้วววววว ดีใจจจจจ

มันดูละมุนอบอุ่นยังไงไม่รู้ตอนนี้

คืออ่านแล้วมันรู้สึกดี

อยากอ่านตอนที่วสุไปเจอสิสาป๊าม๊าเร็วๆ

รออ่านต่อนะคะ คนอ่านไม่รีบค่ะ ตั้งใจเรียนน๊าา

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อุ่นๆกันก่อนนอน
ฮ่า เป็นเรื่องที่อ่านกี่รอบก็รู้สึกคล้อยตามได้ตลอดๆ
เหมือนวสุเริ่มจะมีความสุขแล้ว
ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส รึเปล่านะ?

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
ตอนแรกนี่นึกว่าตาฝาดกันเลยทีเดียว
อยากทวงในทวิตยังไม่กล้าเลยค่ะ เห็นเรียนหนักกว่าจะแว๊บมาได้ที  :z13:
คิมก็ยอมรับได้ขนาดนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าครอบครัวได้มารับรู้ด้วย จะยอมรับกันได้ไม๊
ว่าแต่...บางทีอ่านๆก็คิดว่าวสุโดนผีสิงมากกว่ากลับชาติมาเกิดนะคะ อารมณ์แบบนิ่งๆอยู่ละก็พูดเรื่องอดีตขึ้นมาแบบเหม่อๆ เอาจริงๆมันน่ากลัวง่ะ  :ling3:

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ขอบคุณที่มาต่อค่ะ >,<

อ่านทีไรน้ำตาซึมทุกทีเลย อยากให้วสุไปหาป๊า ป๊าจะได้ไม่รู้สึกผิดในใจอีก ..โฮฮฮฮฮฮฮ

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 841
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
อา ดีจัง เรื่องไม่ดราม่า สบายใจคนอ่าน รักน้องวสุจัง น้องน่าเอ็นดูจัง พี่เอกถนอมหน่อยนะคะ  :hao3:

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โอยยยยยย คิดถึงเรื่องนี้ คิดถึงวสุ พี่เอกมาก
ตอนนี้อะไรๆก็เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว
ขอให้พี่เอกกับวสุมีโมเม้นหวานๆ อะฮิอะฮิ มาอวดเราบ่อย  :hao6: :hao6:  :hao6:

ออฟไลน์ mbpwn_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กรี้ด มาแล้ว ชอบ  ขอกอดวสุกับคิมแรงๆสักสองสามที 55555555555   :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
โอ๊ยยยย ปลื้มปริ่ม ดีใจที่ตี๋เกรียนได้รู้จักกับน้องอย่างเป็นทางการ
ต่อให้ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเนอะ อยากให้พาวสุไปเจอป๊ากับม๊าจัง
ได้มีน้ำตาไหลอีกรอบแน่นอนอะ  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด