เมื่อสายลมยามดึกพัดโกรก พาเอาลมหายใจที่เจือไปด้วยความผิดหวังพัดหาย ถึงแม้ว่าเธอจะรักเขามากมายแค่ไหนแต่ในเมื่อเขาตั้งใจปฏิเสธกันถึงขนาดนี้เธอเองก็มีคำว่าศักดิ์ศรีหลงเหลืออยู่ในตัว
“ธารยังเป็นน้องรหัสบัวเหมือนเดิม และธารคือ..คนแรก..บัวไม่มีวันลืม”
เธอพูดแล้วส่งยิ้มบางให้เขาก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้านไป เขาใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงหน้าคฤหาสน์หลังงามที่เขาไม่ได้กลับมาเกือบๆสองสัปดาห์ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นร่างคุ้นตาของใครบางคนก้มๆเงยๆอยู่แถวพุ่มไม้ประดับข้างโขดหินริมสระน้ำหน้าบ้าน
“ทำอะไรอยู่น่ะ”
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหลังทำเอาวารินถึงกับสะดุ้งโหยง เพราะมัวแต่สนใจกับสัตว์ตัวเล็กๆที่ติดอยู่ที่กิ่งไม้จนไม่ทันได้ยินว่ามีเสียงรถขับเข้ามาจอดด้านใน
“ธาร...นกมัน...”
สองมือเล็กของวารินโอบอุ้มลูกนกตัวน้อยไว้ในอุ้งมือ เขาชูมันให้เด็กหนุ่มดูแล้วทำสีหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ ธาราธารเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กอย่างเร็ว ใจเขาวูบโหวงไปหมดแค่เห็นวารินทำสีหน้าแบบนั้น เหมือนกับว่าเขาจะลืมเลือนความโกรธแค้นที่มีกับคนตัวเล็กทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่ง
“มันคงตกลงมา แต่ยังไม่ตายหรอก หาที่นอนอุ่น ๆ มาไว้ให้มันกันไม่ให้มดแดงมาไต่เดี๋ยวพรุ่งนี้รับรองมันบินปร๋อแน่”
วารินรีบวางมันลงที่รังเล็กๆของมันทันที ร่างเล็กวิ่งเข้าไปในบ้านดึงสำลีมาจากตู้ยาแล้วหยิบผ้าผืนเล็กๆชุบน้ำมาโอบรอบรังของมันไว้อย่างเบามือ ธาราธารมองคนที่วิ่งไปวิ่งมาตกแต่งรังนอนให้กับนกด้วยสายตาที่เขาเองก็อธิบายไม่ถูก
...ทั้งๆที่รักแต่มันก็แสนจะแค้น..ทั้ง ๆ ที่แค้นแต่มันก็สุดแสนจะรัก...
“ดาว! ทำไมยังไม่นอน? มันดึกแล้วไม่ใช่หรือไง”
เขาเฉไฉหัวใจตัวเองตั้งคำถามกับนับดาวที่เดินออกมาพอดี เด็กสาวถึงกับสะดุ้ง ปกติธาราธารเคยถามเรื่องแบบนี้กับเธอที่ไหน นับดาวจึงมองไปที่วารินเพราะคิดว่าคนที่เจ้านายของเธอต้องการจะถามคงจะเป็นวารินมากกว่า
“เอ่อ..ดาวกับพี่ทรายรอเปิดบ้านให้คุณธารน่ะค่ะ” นับดาวจำเป็นต้องตอบเพราะเห็นวารินยังเงียบ
“จำเป็นอะไร นายเตก็อยู่ แยกย้ายกันไปนอนได้แล้วนี่มันจวนจะห้าทุ่มอยู่แล้วยังมาชมนกชมไม้กันอยู่ได้” เขากระแทกเสียงใส่ ใบหน้าคมเข้มแหงนเงยมองท้องฟ้ามืด คืนนี้น้ำค้างค่อนข้างแรงเขาไม่อยากให้คนแถว ๆ นี้ต้องมาเจ็บป่วยตัวร้อนเพราะตากน้ำค้าง เดี๋ยวจะเป็นภาระให้นับดาวต้องดูแลไปอีกคน
“เดี๋ยวก่อน!”
พอเดินกันเข้ามาที่ด้านใน นับดาวกับวารินกำลังจะเดินไปที่ห้องด้านหลัง ธาราธารจึงเรียกขึ้นเขาฉุดแขนเล็กรั้งไม่ให้เดินต่อ
“เดี๋ยวเอากาแฟขึ้นไปให้ผมที่ห้องหนังสือด้วย แล้วรออยู่ที่นั่น มีธุระจะคุย”
วารินพยักหน้ารับคำหลังชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่สามารถปฏิเสธคน ๆ นี้ได้อยู่แล้วถึงไม่เอาขึ้นไปให้ ธาราธารก็ต้องลงมาหาเรื่องเขาที่ห้องอยู่ดี
ไม่นานนักกาแฟร้อนหอมละมุนก็ถูกเสิร์ฟลงที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยกองเอกสารสำคัญต่าง ๆ เด็กหนุ่มขยับแว่นสายตาเล็กน้อยละสายตาจากเอกสารในมือ ไม่รู้เป็นเพราะเขาอาบน้ำเร็วหรือวารินชงกาแฟช้ากันแน่
“นั่งสิ นั่นปากกา นี่แฟ้มงานของโรงแรมทั้งหมดตั้งแต่วันที่คุณแม่ไม่สบาย อ่านแล้วบรีฟออกมาให้ผมฟัง”
เขาเลื่อนแฟ้มกองใหญ่ส่งไปให้วาริน คนตัวเล็กมองหน้าเขาอย่างแปลกใจไม่เข้าใจทำไมจู่ ๆ วันนี้เรียกมาทำงานช่วย วารินจำใจนั่งลงไปอย่างช่วยไม่ได้
เขาสองคนนั่งทำงานกันไปเงียบ ๆ นานเป็นชั่วโมงโดยไม่มีใครพูดอะไร ดวงตาคมกริบมองคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านแล้วจด อ่านแล้วจด จะว่าไปเรื่องราวที่เขาได้ฟังมาจากทัตพลพ่อของเขาก็มีส่วนทำให้เขาอ่อนลงกับวารินมาพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นวันนี้ที่เรียกให้มาอ่านรายงานกองโตของทางโรงแรมช่วยจริง ๆ ก็เพราะอยากแกล้ง แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่ได้เห็นหน้าวารินมาสองอาทิตย์แล้วแม้แต่เสียงก็ยังไม่ได้ยิน
...จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหัวใจมันไม่เชื่อฟังเขาเลยจริง ๆ ....
มือเล็กยกขึ้นปิดปากเมื่อหาวหวอดๆออกมาถึงสองสามรอบขณะที่อีกคนยังนั่งนิ่งไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด
“เดี๋ยวพี่จะสรุปเรื่องงบการเงินคร่าว ๆ ให้ธารฟังก่อน ส่วนงานในแผนกอื่น ๆพี่เขียนสรุปไว้ให้ในนี้แล้วไว้ธารค่อยๆอ่านไปก็แล้วกันนะ”
แล้ววารินก็ค่อยๆบรีฟเรื่องราวของฝ่ายบัญชีการเงินให้ธาราธารฟัง คำว่าคร่าว ๆ ของเขานั้นละเอียดมากพอตัว
“ธารอย่าดูเพียงแค่การรวบรวมตัวเลขทางการเงินอย่างเดียว แต่ธารต้องทำความเข้าใจและตีความให้ได้ว่าตัวเลขแบบไหนที่เป็นตัวชี้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นตรงไหน เราจะได้สามารถเข้าไปจัดการแก้ไขได้ทัน”
ธาราธารมองนาฬิกาโบราณเรือนเล็กที่ตั้งอยู่ไม่ไกล เขาปิดแฟ้มลงแล้วถอดแว่นสายตาวางไว้
“วันนี้แค่นี้เถอะ เดี๋ยวผมจะอ่านหนังสือเรียนต่อสักหน่อย พี่ทรายลงไปเลยก็ได้พรุ่งนี้ค่อยมาทำในส่วนที่เหลือต่อ”
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องที่ธาราธารเรียกเขาว่า ‘พี่ทราย’ ด้วยน้ำเสียงคงที่ไม่มีประชดประชัน วารินน้ำตารื้นขึ้นมาทันที ไม่ได้หวังจะกลับไปดีกันเหมือนเดิมขอแค่อีกฝ่ายอภัยให้กับเขา เผื่อว่าจะมีโอกาสให้เขาได้เข้าไปดูแลภัครจิราชดเชยความผิดที่ได้ทำบ้างเท่านั้น
“เดี๋ยว!”
ขณะที่วารินกำลังจะเปิดบานประตู ท่อนแขนแข็งแรงเอื้อมมาดึงแขนเล็กของเขาไว้ วารินเซถลาตามแรงดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดใหญ่ เขาสอดมือเข้ามาที่ด้านหลังจุมพิตลงที่ต้นคอขาวนั่นเบา ๆ ปลายจมูกโด่งสูดเอากลิ่นหอมเฉพาะตัวของวารินไว้ในลมหายใจทั้งหมดโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น วารินรีบหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยรอยสั่นไหว
...เขากลัว กลัวความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ธาราธารทำกับเขา....
...ทว่าอีกใจ..กลับโหยหาอ้อมกอดจากซาตานร้ายนั่น...
วารินไม่เข้าใจว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมธาราธารถึงได้แสดงด้านอ่อนโยนกับเขานัก
“รีบลงไปสิ”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น หันหลังแล้วเดินกลับมานั่งลงที่โต๊ะ ดวงตาคมจดจ้องใบหน้าเล็กของวารินไม่ยอมให้หลุดลอดไปไหน
....สายตาทั้งคู่สบกัน...นานเป็นนาที...
ในที่สุดเป็นเขาเองที่ทนไม่ไหวลุกเดินไปกระชากคนตัวเล็กเข้ามากดจูบลงที่ริมฝีปากสวย สองมือของเขาประคองศีรษะวารินไว้แน่นทั้งเดินทั้งจูบดันตัวอีกคนให้ถอยหลังร่นไปที่โต๊ะหนังสือ จุมพิตที่ดูดดื่มหวานล้ำไม่เหมือนทุกครั้งที่เขาเคยทำ วารินถึงกับกำชายเสื้อเขาไว้แน่น เขาดูดดุนปลายลิ้นเล็กๆดูดแล้วดูดอีกราวกับว่ามันเป็นของเล่นชิ้นเลิศที่เนิ่นนานใช่ว่าใครจะได้ลิ้มลอง เขาสัมผัสจนพอใจจู่ ๆ ผลักคนตัวเล็กออกห่าง วารินที่หน้าแดงซ่านเงยมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ชอบไหม? เวลาที่ผมทำดีด้วย”
“..ธาร...” เสียงเล็กพึมพำเรียกอย่างคนไม่เข้าใจในคำถามของเขา
“ผมให้พี่เลือก จะทำให้ผมพอใจ หรือจะให้ผมทำจนพอใจ”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ วารินที่หน้าขึ้นสีอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ไม่รู้อะไรดลใจวันนี้ธาราธารแปลกไปมากจริง ๆ
“ต...แต่เมื่อกี้ธารจูบไปแล้ว”
“ผมจะนับถึงสาม ถ้าพี่ยังไม่ยอมทำอะไรสักอย่างผมจะถือว่าพี่เลือกอย่างหลัง หนึ่ง.... สอง.... สะ”
ยังไม่ทันได้เอ่ยถึงสาม วารินเดินเข้าไปเกาะบ่าเขาเขย่งปลายเท้าแล้วจูบลงที่แก้มเขาเบา ๆ ทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว
“แค่นี้พอใจรึยัง”
พอหอมเสร็จคนตัวเล็กถอยร่นมายืนชิดผนังห้อง มองดูคนตรงหน้าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ มือใหญ่ยื่นออกไปกวักเรียกให้เดินเข้ามาหาเขาใกล้ ๆ แต่วารินยังไม่ยอมขยับ จนเขาต้องเดินออกมาจากโต๊ะที่พิงอยู่ดึงแขนวารินให้เข้ามาใกล้ ตัวเขานั่งลงที่เก้าอี้
“คิดว่าผมจะพอใจไหม ทำแค่นั้น??” เขาเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา
“ต่อไปนี้ ถ้าไม่อยากให้ผมรุนแรงด้วย พี่ต้องเป็นคนทำให้ผมพอใจด้วยตัวของพี่เอง” เขาว่าจบกระชากแขนเล็กให้ล้มลงในอ้อมกอดของเขา ริมฝีปากฉกเข้าจูบที่เรียวปากสวยทันที
“ปีนขึ้นมา”
เขาว่าทั้งที่ยังดูดดุนปลายลิ้นอีกคนอยู่ไม่หยุด วารินขืนตัวไว้แต่ไหนเลยจะสู้แรงเขาได้ เสื้อนอนบาง ๆ ที่สวมอยู่ถูกเขาปลดกระดุมออกไปตอนไหนแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำเขาเลื่อนริมฝีปากลงมาครอบครองเข้าที่ยอดอกสีสวย ลิ้นร้อนๆไล้เลียไปจนถ้วนทั่วเปียกชื้นไปหมดวารินที่ยืนอยู่แทบทรงกายไว้ไม่ได้ทั้งทรมานทั้งวาบหวาม
“อื้ออ...”
มือเล็กโอบกอดศีรษะเขาไว้บิดตัวด้วยความเสียวซ่าน เมื่อรู้สึกตัวอีกทีกางเกงนอนขายาวก็ถูกเขาปลดร่นลงจนถึงปลายเท้า วงแขนแกร่งโอบเอาเอวบอบบางแล้วดึงตัวอีกคนขึ้นมาอยู่บนตักของเขา กางเกงนอนของเขาถูกเลื่อนออกนิดหน่อยพอให้แก่นกายที่ชูชันของได้โผล่พ้นออกมา
“ธาร! อย่า...ไม่เอาพอเถอะ” วารินผลักหน้าอกเขาไว้ ความทรงจำเลวร้ายผุดขึ้นมา วารินทั้งกลัวเขาทั้งอยากให้เขาสัมผัส
“ผมหยุดไม่ได้แล้วล่ะ เสียใจด้วย”
เขาเลื่อนริมฝีปากร้อนขึ้นมาครอบครองที่เรียวปากนุ่มนิ่มอีกครั้งก่อนจะบดเรียวปากหนักหน่วงเร่าร้อนและอ่อนหวาน วารินที่นั่งคร่อมตักเขาอยู่ถูกเขาโอบรัดไว้แนบอกจนแน่น เขาเอื้อมมือเปิดลิ้นชักหยิบเจลเย็นสีใสขึ้นมาป้ายที่ช่องทางด้านหลังของร่างที่เขาโอบอุ้มไว้ เรียวนิ้วร้ายสอดเข้าออกที่ช่องทางรักจนอีกคนต้องบิดแอ่นร่างกายเพราะความรัญจวนเมื่อเขากดเข้าที่ปุ่มกระสันแต่ละทีคนตัวเล็กถึงกับครางฮือลงที่ข้างหู เขาค่อยขยับสอดกายร้อนขึ้นใส่สะโพกกลมกลึงขณะที่คนด้านบนพยายามกดสะโพกตัวเองลงด้วยอีกแรง
“อ๊าา..” ในที่สุดความลึกล้ำที่แนบสนิทยิ่งเติมไฟปรารถนาให้แผดเผารุนแรงขึ้น ธาราธารกระแทกสะโพกสวนขึ้นจากช้าเปลี่ยเป็นรัวเร็วไม่มียั้ง
“ฮื้ออ...” วารินครางดังลั่นสะโพกบางสวนเข้าหาอย่างร้อนแรงเช่นกันนั่นทำเอาอีกฝ่ายถึงกับเผลอยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“เก่งมาก” เสียงทุ้มเอ่ยชม ตวัดวงแขนแกร่งกระชับแนบชิดจนสองร่างไม่เหลือช่องว่างระหว่างกัน วารินครางกระเส่าด้วยความรัญจวน
“เรียกชื่อผม” เสียงทุ้มแหบพร่าร้องสั่ง
“อื้ออ..ไม่ ธาร..พอแล้ว ไม่ไหว” เสียงหวานครางแผ่ว ส่ายหน้าร้องขอทั้งที่ยังโอบรอบคอเขาไว้ ยิ่งเพิ่มความกระสันให้เขาเป็นเท่าตัว
“เรียกใหม่ เรียกชื่อผม” เขาสั่งย้ำ
“..ธาร..” วารินครางกระเส่า
เขายิ้มน้อย ๆ ขณะที่อารมณ์ปรารถนาทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วฉุดคร่าสติสัมปชัญญะและความกระดากอายทั้งหมดให้เลือนหายไป ในยามนี้มีแต่ความปรารถนาแรงกล้าที่สองคนมีต่อกันเท่านั้น
“..พี่..ทราย..”
เสียงทุ้มพร่าต่ำคำรามหนักเมื่อร่างกายช่วงล่างของอีกคนบีบรัดจนทำเอาเขาแทบระเบิด ริมฝีปากร้อนเข้าดูดกลืนยอดอกที่ชูชันไล้เลียส่วนที่แข็งเป็นไตรอรับสัมผัสเสน่หาจากเขา สะโพกทั้งสองสอบเข้าหากันกระชั้นถี่และเร่าร้อน เขาละมือข้างหนึ่งออกมารูดรั้งแก่นกายของอีกคนทั้งรัวและเร็ว กระทั่งช่องทางแสนคับแคบบีบรัดหนักหน่วงรุนแรงเขากระแทกกระทั้นกายตอบรับอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย วารินครางฮือลั่นห้องก่อนสองร่างจะกระตุกปล่อยธารรักสีขาวเร่าร้อนเข้าใส่กันและกันทุกหยาดหยด
“เก่งนี่ ทำให้ผมพอใจอย่างนี้ให้ได้ตลอดล่ะ” เขาพูดทั้งที่ยังหอบหนักขณะที่อีกคนแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงซบอกเขาไว้แน่น
ทว่าพอผ่านไปได้สักครู่เขาจึงเอ่ยถ้อยคำบางอย่างขึ้น “ลืมเสียให้หมด ใครหน้าไหนที่พี่เคยผ่านมา จดจำแค่ผมคนนี้คนเดียว”
สิ้นคำพูดนั้นวารินละใบหน้าออกจากบ่าแกร่งจ้องมองเขาทันที แววตาเขาเฉยชาราวกับคนไร้ความรู้สึก แตกต่างจากธาราธารคนเมื่อกี้ราวฟ้ากับเหว เขาดันคนตัวเล็กออกเพื่อให้ถอนกายออกได้สะดวก วารินขาล้าและสั่นแทบจะยืนไม่อยู่ขณะที่เขาไม่ได้สนใจ ยื่นแค่กระดาษชำระส่งให้
“เช็ดซะ แล้วลงไปอาบน้ำข้างล่าง ดึกมากแล้ว ผมจะพักผ่อน”
ถ้อยคำเย็นชาพร่างพลูอออกมาจากริมฝีปากได้รูปของเขา วารินก้มลงหยิบกางเกงขึ้นมาสวม มือเล็กทยอยติดกระดุม ขณะที่น้ำตารินตกในหัวใจนั้นร้าวรานยิ่งกว่าสิ่งไหนๆ มองแผ่นหลังกว้างที่แสนเย็นชายืนนิ่งอยู่แบบนั้น
จะไปหวังอะไรกับอ้อมกอดปลอบประโลม เขาตีค่าราคาแค่ที่ระบายในยาม ‘อยาก’ ก็แค่นั้น
เขามันโง่เข้าใจผิดคิดไปเองว่าอีกคนดีด้วยเพราะว่ารัก เพราะว่าต้องการกันจริง ๆ นอนทอดกายให้คนตรงหน้าอย่างไร้ยางอายที่สุด และสุดท้ายก็โดนเขาดูถูกกลับมาเหมือนเดิม
....เหมือนทุกๆครั้ง....
ขณะที่ร่างสูงใหญ่หันหลังให้อีกคน มองทอดออกไปที่ระเบียงด้านนอก รอยวูบไหวในดวงตาที่วารินไม่มีวันจะมองเห็น ทั้งที่รู้สึกเวทนาคนตัวเล็กแทบขาดใจ รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันแสนจะโหดร้าย ทั้งคำพูดทั้งการกระทำ แต่จะให้ทำดีด้วยด้วยความรู้สึกแสนบริสุทธิ์แบบเก่ามันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว เมื่อความทรงจำมากมายไหลทะลักกลับมาตอกย้ำให้เขาได้เจ็บปวดยิ่งขึ้นไปอีก
Heart, my one weakness
Pretend to be strong but I actually can’t bear it
I need both love and someone to understand
I have to keep them with myself it’s just only
I don’t want anyone to know that deep down inside how much I love you with all my heart(Cr.ที่ไหนสักแห่ง ลืม)
Tbc.
*เชื่อแล้วว่าธารชอบกินกาแฟ ฮิฮิ ขอหยุดสักสองสามวันนะ จัดหน้าแต่ละครั้งหมดพลังยิ่งกว่าแต่งนิยายอีก แอร๊กกก!!* 