“ธาร..พอแล้ว อย่าทำ...พี่ไม่ไหว”
เสียงหวานครางกระเส่า มีหรือที่คนอย่างเขาจะฟังคำร้องขอ เขากลับเพิ่มความเร็วของนิ้วมือจากสองให้เป็นสาม ขณะที่อีกมือเฝ้ารูดรั้งแก่นกายร้อนของคนตัวเล็กจนวารินแอ่นสะท้านเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายขึ้นทั่วร่างกาย เสียงครางที่กลั้นไม่ได้อีกต่อไปดังระงมไปทั่วทั้งห้อง
“ฮ..อื้ออ..ธาร..” วารินไม่ได้ดั่งใจไม่ทันใจไม่ถึงใจทุกอย่างปนเปกันมั่วไปหมดส่งเสียงรัญจวนน่าอาย
“บอกสิว่าพี่ไม่ต้องการ แล้วผมจะหยุด”
เขาเลื่อนตัวขึ้นมาถามขณะที่ปลายนิ้วเฝ้ากดย้ำๆอยู่ในจุดที่วารินแทบคลั่ง เสียงเล็กครางลั่นศีรษะส่ายรับใจหนึ่งอยากให้เขาหยุดแต่อีกใจอยากได้สิ่งที่มันยิ่งใหญ่กว่านิ้วมากมายเหลือเกิน
“ธาร..อย่าแกล้ง..อื้ออ..”
“ต้องการผมไหม? อยากได้ผมหรือเปล่า??”
ในยามนี้ยังต้องคิดอะไรให้มากมายอีก เมื่อสติสตังถูกความปรารถนาทั้งหมดเข้าครอบงำ ร่างกายมิอาจทานทนต่อการปรนแปรอที่กลับหยุดชะงักลงดื้อๆ
“..ต้องการ..ธารช่วยที..พี่ต้องการธาร..”
วารินครางกระซิบเสียงแผ่วน้ำเสียงขาดห้วงดวงตาพร่าปรือมองคนที่ยืนอยู่ที่หว่างขาตนเองอย่างรวดร้าว ใจที่ทั้งต้องการทั้งอยากผลักไส ร่างสูงใหญ่ค่อยเคลื่อนกายโน้มต่ำลงมากระซิบเสียงเย็นเยียบพร้อมรอยยิ้มร้าย ๆ ที่ริมฝีปากสวย
“พี่เลือกเองนะ พี่ทราย”
บัดนี้ร่างกายบอบบางเหมือนถูกจับแยกออกเป็นสองส่วน วารินกรีดร้องดังลั่นเมื่อเขาค่อยสอดแทรกกายร้อนเข้ามาครอบครองทีละนิด ทีละนิด เขาอ่อนโยนไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยทำ ความรู้สึกเหมือนถูกเติมเต็มก่อนที่สะโพกมนสวยจะถูกรั้งขึ้นไปเพื่อให้ส่วนสอดประสานกระชับแนบชิด
“ธาร..”
วารินครางเรียกเสียงแผ่ว รัญจวนใจสุดๆเมื่อเขาค่อยเริ่มเคลื่อนกายเข้าออก
“ครับพี่ทราย ผมอยู่ที่นี่แล้ว...อืมม..”
เสียงคำรามต่ำในลำคอหนาดังออกมาอย่างสุขสม เมื่อช่องทางคับแน่นบีบรัดเขาจนเคลื่อนกายแสนลำบาก การมีอยู่ของเขาในร่างกายเล็กทำให้วารินเปี่ยมสุข ครั้งนี้เขาไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เขาทำเหมือนกับว่าเขารักทะนุถนอมและต้องการ คำพูดอ่อนโยนที่เขาไม่เคยมอบให้มาก่อน บทเพลงรักอันแสนอ่อนหวานที่เขาเฝ้าปรนเปรอให้ ทำให้วารินสติกระเจิดกระเจิงไปไกลเกินกว่าจะรับรู้สิ่งใด วารินหลงระเริงลืมตัว เมื่อคิดว่าเราเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกัน เขาคงยอมให้อภัยทุกอย่างและเปิดพื้นที่ในหัวใจให้ได้เข้าไปครอบครองอีกครั้ง
“ธาร...พี่รักธาร..”
ปุยเมฆสีขาวโพลนบนท้องฟ้า ตัดกับแสงสีเหลืองทองแห่งดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้างาม วารินสุขสมจนล้นเอ่อ ไขว่คว้าความปรารถนามาครอบครองจนสมใจ เสียงลมหายใจหอบถี่ หยาดเหงื่อผุดพรายไปทั่วทั้งใบหน้าขาว ระเบียงสวยเปิดโล่งลมโกรกพัดเอากลิ่นหอม ๆ ของกุหลาบหลากสีลอยขึ้นมาคละคลุ้งถึงในห้อง ปลายนิ้วหนาปาดเช็ดเม็ดเหงื่อออกให้ทั้งที่ยังเขยื้อนกายเข้าออกอย่างถี่ยิบ ดวงตาสีเข้มที่มองลงมาที่เรือนร่างใต้ร่างกายของเขาทอประกายอัดแน่นไปด้วยความต้องการที่ล้นเอ่อ
“อยากได้อะไร..บอกผมสิ”
“ธาร..ได้โปรด..ธาร..” เสียงเล็กครางเครือ
จุมพิตดูดดื่มลึกซึ้งถูกบรรจงมอบให้กับคนที่เงยหน้าร้องขอ ท่อนแขนเรียวยกขึ้นโอบรัดอย่างต้องการที่พึ่งพิง ร่างร่างบิดแอ่นเสียวซ่านเหมือนร่างกายแทบระเบิดออกมา
“..พี่รักธาร..”
เสียงจากหัวใจถูกเปล่งออกมาอีกครั้งเหมือนดั่งต้องการให้อีกคนพูดตอบกลับมาเช่นกัน
แต่ทว่ากลับไม่มีเสียงใด ๆ หลุดลอดออกมาจากร่างกายหนา
.....ผมก็รักพี่.....
คำพุดที่ไม่มีวันหลุดออกมาจากปากของเขาให้ได้ยิน เขาตอกย้ำถาโถมเข้าใส่ขณะที่วารินแอ่นกายขึ้นรับ ธาราธารกระหน่ำตอกลงมาดั่งพายุที่จู่ ๆ ก็สาดซัดกระแทกกระทั้น วารินร้องเสียงหลง ขาเรียวที่ถูกเขาจับพาดไว้เกี่ยวเกาะสะโพกสอบรัดแน่น เขารุกรานใส่ไม่มียั้งเหมือนคนกำลังไล่ล่า จับคนตัวเล็กลุกขึ้นแล้วอุ้มไว้ขณะส่วนนั้นยังสอดประสานวารินกอดคอเขาไว้แน่น ร่างสูงใหญ่เดินออกมาที่ประตูหน้าระเบียง
“อย่าธาร! ไม่เอาตรงนี้”
วารินส่ายหัวปฏิเสธพัลวัน ซุกศีรษะเล็กเข้าที่ไหล่เขาแน่นเพราะรู้สึกอายและไม่อยากจะให้มีใครเห็น แต่ธาราธารหรือจะยอมหากเขาต้องการ สองมือหนาประคองสะโพกกลมกลึงขึ้นลงจนเสียงดังพับๆๆ วารินร้องลั่นเมื่อเขาโหมร่างกายสวนขึ้นแบบไม่มียั้ง
“อ๊าา...ธาร! ไปข้างในได้โปรด”
“ทำไมล่ะครับหืมม ไอ้เตโชมันจะได้เห็นๆกันไปเลยไม่ดีหรือยังไง...อ่าา..”
เขาวางร่างคนตัวเล็กลงที่พื้นด้วยความรวดเร็วรั้งสะโพกสวยขึ้นชันแล้วคร่อมกายกระแทกกระทั้นลงไปเมื่อรู้สึกว่าตนเองแทบจะทานทนต่อความอัดอั้นอีกไม่ไหว วารินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เขาพูดก่อนหน้านั้นหมายถึงอะไร ความปรารถนาสีดำมืดช่างน่ากลัวนัก เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอดังลั่นไปทั้งห้อง ไม่นานนักธารรักสีขาวขุ่นของคนตัวเล็กก็แตกออก เสียงครางสุขสมของวารินดังสะท้านสะเทือนเมื่อได้รับการปลดปล่อย ขณะที่อีกฝ่ายไม่ยอมโดนทิ้งนานเขากระแทกกายรัวถี่อีกไม่กี่ครั้งความอุ่นร้อนก็ฉีดพล่านเข้าใส่ร่างเล็กจนหมดสิ้น ร่างกายที่เหนื่อยหอบของเขาคร่อมแผ่นหลังเล็กของวารินก่อนถูกเขาดันราบนอนลงไปด้วยกันไม่สนแล้วว่าเป็นพื้นพรมหรืออะไร
“อ่าา...พี่ทราย แบบนี้ถึงใจพี่ไหม ดีกว่าของไอ้เตโชมันรึเปล่า”
เขาคำรามเสียงต่ำชิดที่ใบหูเล็กขณะที่ดวงตายังเต็มไปด้วยความปรารถนา ส่วนกลางลำตัวยังแช่อยู่ในร่างกายอีกคนไม่ยอมถอนออก วารินเบิกตากว้างสติเริ่มกลับมาอีกครั้งฉุกคิดกับสิ่งที่เขาพร่ำถาม
“ธ..ธาร! ทำไมพูดแบบนั้น พี่ไม่..”
“ไม่เคยกับมันแค่รอบเดียวใช่ไหม? ไม่เป็นไรเดี๋ยวคืนนี้ผมจะสนองความร่านให้พี่อีก จะเอาให้ลืมบทรักของใครต่อใครที่พี่เคยผ่านมาให้หมดเลยดีไหม หืมม”
วารินหันหน้าไปดูคนที่นอนซ้อนตัวเองไว้ ธาราธารส่งยิ้มให้ แต่ทว่าแววตากลับนิ่งลึกจนยากที่จะคาดเดาได้ รอยยิ้มร้ายที่เหมือนรอยยิ้มของปีศาจปรากฏขึ้น
“ธารหมายความว่ายังไง??” วารินน้ำตาหล่นร่วงลงทันที ความรู้สึกเหมือนถูกเขาดึงขึ้นถึงสวรรค์แต่พลันถูกถีบตกลงมาด้วยเงื้อมือของมัจจุราช
“ก็หมายความว่าบทรักของผมมันสนองความร่านของพี่ได้พอไหม? ถึงใจไหมไงล่ะ”
เขาว่าแล้วค่อยถอนกายออกอย่างระมัดระวัง น้ำรักสีขาวยังไหลตามออกมาแต่ธาราธารไม่ได้สนใจ วารินน้ำตาไหลพรากกับคำพูดแสนดูถูกดูแคลนของเขาคนนี้
“ไม่ต้องมาจับ!” เสียงเล็กตะโกนลั่น วารินยันตัวลุกขึ้นหลีกหนีมือที่กำลังจะช่วยดึงตัวเขาขึ้นมา ดวงตามีหยาดน้ำเอ่อคลอ
“ถ้าคิดแบบนี้ก็ไม่ต้องมายุ่งกัน!” เขารีบคว้าแขนเรียวไว้แล้วจับไหล่ทั้งสองข้างบีบแน่นด้วยสีหน้าที่ดุดัน
“โกรธทำไม! ที่ผมทำไปเมื่อกี้ก็แค่อยากรู้ว่าระหว่างผมกับไอ้คนสวนนั่นใครมันจะลีลาถึงใจพี่มากกว่ามันก็เท่านั้น และมันก็ช่วยไม่ได้นะถ้าหากพี่จะตีความสารพัดไปเอง พี่คิดว่าคนอย่างผมจะยอมยกโทษกับความร่านของพี่ได้ง่ายขนาดนั้นเลย? เคยบอกแล้วไงคนอย่างพี่มันไม่มีคุณค่าอะไรสักนิดก็แค่ที่ระบายเวลาที่ผมอยากมันก็เท่านั้น! ไม่มีวันสูงค่าขึ้นมาได้อย่างคนอื่นเขาหรอกนะ จำใส่ใจเอาไว้!”
คำพูดยาวเหยียดกระแทกลงกลางหัวใจวารินเข้าเต็ม ๆ หัวใจดวงน้อยร่ำไห้พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นอย่างรวดร้าว เขาเหยียบย่ำลงที่กลางใจแล้วยังขยี้ต่อด้วยปลายเท้าจนใจร้าวรานและชอกช้ำ
“ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้..ฮึกก..ทำไมถึงทำร้ายกันได้มากมายขนาดนี้..ฮึกก..” ไหนเคยบอกว่ารักกัน ไหนเคยบอกว่าจะไม่ทำให้เสียใจ ทำไมถึงใจร้ายทำกันได้ลง
“เลิกทำตัวร่านๆซะสิ แล้วผมอาจจะพิจารณายกโทษให้บ้างก็ได้”
ไหล่เล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระทันทีที่เขาพูดจบ หัวใจที่เต้นพลันอ่อนลง ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอีกต่อไปเมื่อถูกเขาประณามหยามเกียรติจนสิ้นซากไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี
“พี่ไม่ได้มีอะไรกับนายเตเลยทำไมธารไม่เชื่อ! แล้วกับพ่อของธารพี่เองก็ไม่ได้ตั้งใจ เราสองคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ทำไมต้องมาโทษกัน! ไม่คิดบ้างรึไงว่าพี่เองก็เสียใจเป็น ทำไม!! ทำไมไม่ถามพี่บ้างว่าพี่สมัครใจที่จะเป็นแบบนี้บ้างรึเปล่า..ฮือๆ.. ทำไมเอาแต่โทษพี่ ทำไมต้องมาว่ากันร่าน! ทำไมๆๆ!!!!!!!!!” ดวงตาที่แดงก่ำช้ำไปด้วยรอยน้ำตาวารินร้องตะโกนดังลั่นอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป กำปั้นเล็กๆทุบตีที่แผงอกกว้างอย่างต้องการที่ระบาย ขณะที่ธาราธารนิ่งงันเขายืนเงียบเฉยอย่างเย็นชา
“ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้าง..ฮ.อึกก..”
เสียงเล็กสะอื้นไห้อย่างโหยหา ไม่มีเหลืออีกแล้วความแข็งแกร่ง เมื่อวารินยอมทอดกายให้เขาได้ทำตามแต่ใจแต่ทว่ากลับถูกเหยียบย่ำและหยามเหยียดกันเสียขนาดนี้
“ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับพี่ธาร...พี่รักธารนะ รักธาร! ได้ยินไหมว่าพี่รักธาร ฮือๆๆ”
เขาค่อย ๆ ดันไหล่บางออกห่างจากตัวอย่างเชื่องช้า แววตาที่แสนบอบช้ำสบกับแววตาที่มีแต่ความนิ่งงันเย็นเฉียบ ท่าทีเย็นชาของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยแม้ว่าวารินจะแสดงความเจ็บปวดให้เห็นมากมายเพียงไหน
...สายตาที่ทอดมองลงมามีแต่ความเลือดเย็น...
“ผมไม่ได้รักพี่อีกแล้ว...ที่มีก็แค่ความใคร่ อยากจะทำให้เจ็บปวดเพื่อให้หายแค้นก็เท่านั้น คนอย่างพี่อยากจะไปทำอะไรกับใครต่อใครอีกผมก็ไม่ว่าหรอก แต่อย่ามาเอากับคนใกล้ตัวผม อย่าให้ผมเห็นว่าทำตัวสนิทสนมกับคนในบ้านผมเหมือนเมื่อตอนกลางวันอีกก็พอ” ....ดั่งประกาศิตจากฟ้าผ่าลงมาตรงหน้า กรีดซ้ำลงบนหัวใจที่ย่อยยับ บาดแผลที่ถูกแทงจนลึกร้าวกลับโดนบดขยี้จนไม่เหลือแล้วซึ่งความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้แก่กัน ความอ่อนโยนพลันเลือนหายไปเมื่อเขาผลักไสร่างเล็กให้ถอยออกจากทาง คำพูดที่แสนเจ็บปวดยังดังสะท้อนซ้ำไปซ้ำมาไม่เหือดหายไปจากใจ.....
ดวงตาทอดมองแผ่นหลังกว้างด้วยความรวดร้าว ฝ่ามือเล็กกำแน่นจนสั่นสะท้าน
เขาคว้าเอากางเกงที่กองอยู่บนพื้นโยนส่งใส่คนตัวเล็กก่อนที่ตัวเขาจะเดินเข้าห้องนอนที่มีประตูเชื่อมติดกับห้องหนังสือนี้
วารินทิ้งตัวลงที่โซฟาน้ำตาไหลพรากลงมาเป็นสาย เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นถูกปล่อยออกมาด้วยความคับแค้นอัดอั้น มือเล็กหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ ติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยก่อนคว้าเอาโทรศัพท์มือถือที่หล่นกองอยู่บนพื้นขึ้นมาถือไว้กับตัว ถอนหายใจเฮือกใหญ่ปาดรอยน้ำตาทิ้งให้หมดทุกหยดหยาด ตัดสินใจเดินไปยังประตูเชื่อมและเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ธาราธารที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำสวมใส่กางเกงตัวใหม่เรียบร้อยกำลังจะหยิบเสื้อที่แขวนไว้ที่ราวในตู้
“ขายบ้านหลังนั้นให้พี่ได้ไหม? ธารจะขายเท่าไหร่ พี่จะขอซื้อคืน”
วารินพูดนิ่ง ๆ จริงจัง เพราะไม่อยากจะทนอยู่ในสภาพแบบนี้อีกต่อไปแล้ว หากไม่ใช่บ้านที่ภูวดลรัก บ้านที่เขาสองพี่น้องอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านของพ่อกับแม่ วารินไม่มีทางยอมเขามากมายขนาดนี้แน่นอน
คนฟังกระตุกเสื้อเชิ้ตออกจากไม้แขวน สะบัดไปด้านหลังแล้วสวมมันลงอย่างชำนาญเดินหน้าเข้าหาคนตัวเล็กขณะที่มุมปากยกยิ้มร้ายกาจ วารินก้าวถอยหลังไม่รู้ตัว
“เอาสิ อยากซื้อคืนใช่ไหม ผมขายไม่แพงหรอกพื้นที่เล็กๆแบบนั้น สัก...สองร้อยล้านก็คงจะพอ หึหึ จะจ่ายวันไหนล่ะ วันนี้เลยไหมหรือเป็นพรุ่งนี้ดี”
“ธาร!”
วารินเม้มปากแน่น นิ้วเล็กๆบดเบียดด้วยความแค้นแสนแค้น เขาไม่รักแต่ไม่ยอมปล่อยไป อยากทำร้ายกันไม่จบสิ้น เงินสองร้อนล้านวารินไม่มีปัญญาจะหามาให้เขาได้อยู่แล้ว เขาเองก็รู้ทั้งรู้
“ว่าไง? ยังจะอยากซื้อคืนอยู่อีกรึเปล่า ถ้าไม่มีก็ทนอยู่ที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน ทำ ‘หน้าที่’ ของพี่ให้ดี ๆ วันหนึ่งผมอาจเห็นใจยอมขายให้ในราคาร้อยสองร้อยบาทก็ได้”
รอยยิ้มของปีศาจยังประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา น้ำตาคนตัวเล็กไหลพรากลงที่สองแก้มเนียนอย่างรั้งไว้ไม่ไหว
“ทำไม! ทำไมต้องรั้งกันไว้ ในเมื่อไม่ได้รักกันแล้วธารจะมารั้งพี่ไว้ทำไม ทำไมต้องเอาบ้านหลังนั้นเข้ามาต่อรอง!”
“เพราะผมอยากให้พี่เจ็บปวดไง ความผิดของพี่มันไม่ใช่จะยกโทษกันได้ง่ายๆหรอกนะนึกถึงสภาพที่ต้องมาเป็นผมบ้างสิ แม่ต้องกลายมาเป็นแบบนี้ขณะที่คนรักของตัวเองไปนอนกกอยู่กับพ่อ พี่คิดว่าผมต้องเจ็บมากมายแค่ไหนกัน!”
“แล้วพี่ล่ะ! พี่ตั้งใจงั้นเหรอ!! พี่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้หรือไง!! อย่างน้อยถ้าหากมันเกินที่จะยกโทษให้จริง ๆ ก็ต่างคนต่างอยู่เถอะนะอย่าเหนี่ยวรั้งกันไว้อีกเลยแยกกันไปเลยดีกว่า!!” วารินสวนขึ้นทันที
“จะออกไปก็ได้นี่ ผมไม่เคยห้ามนะ” เขาเท้าแขนเข้ากับขอบประตู จ้องมองลึกเข้าไปในตาดวงเล็กเหมือนอยากให้จดจำสิ่งที่เขากำลังจะพูด
“ผมเองก็ไม่ได้อยากให้พี่เข้ามาอยู่ ๆแล้ว ก็แค่ลองพูดดูเล่น ๆ ไม่คิดว่าจะเข้ามาจริง ๆ เห็นวันแรกผมยังตกใจเลยนะไม่คิดว่าพี่จะร่านเข้ามาหาผมได้ขนาด......”
เพี๊ยะ!! เสียงฝ่ามือกระทบผิวหน้าดังกึกก้องไปทั่วห้องเป็นครั้งที่สองของวัน ธาราธารกัดฟันแน่นเขายังไม่หันหน้ากลับมา
“หยุดดูถูกกันเสียที ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องมาพูดจาทิ่มแทงกันแบบนี้ ใจร้ายเกินไปแล้วจริง ๆ คนไม่มีหัวใจ!! ใจร้ายที่สุด!!”
วารินฟิวส์ขาดตะโกนใส่หน้าเขาราวกับเสียสติ ผลักตัวเขาอย่างแรง ความเจ็บปวดที่ถาโถมใส่ทั้งร่างกายและคำพูดจากเขาเกินกว่าที่คนตัวเล็กจะรับได้ ร่างเล็กหันกลับอย่างเร็วแต่ต้องหยุดชะงักลงด้วยคำพูดของอีกคน
“เกลียดผมมากไหม?”
....เกลียดผมให้มากๆ ไม่ต้องมารักผม เกลียดผมยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี เราสองคนไม่อยู่ในฐานะที่จะรักกันได้อีกแล้ว....
ทันที่ที่เขาถามออกมาวารินเหมือนทำนบน้ำตาแตกพราก ยกสองมือเล็กขึ้นปิดใบหน้าสวยสะอึกสะอื้นไห้อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
...เพราะว่ารักมากจึงได้เจ็บปวดหัวใจอยู่แบบนี้ ถ้าหากว่าเกลียดกันจริง ๆ คงไม่มีทางทนอยู่ในดูถูกแบบนี้หรอก...
“เย็นนี้ผมมีนัด จะออกไปข้างนอกไม่ต้องทำอาหารเผื่อ”
....เขาทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปทิ้งให้อีกคนยืนร้องไห้อยู่เพียงลำพัง....
....หากแต่ใครเลยจะรู้ หัวใจของเขารวดร้าวยิ่งกว่าถูกคมมีดกรีดเฉือนยิ่งนัก เกลียดงั้นหรือ? ไม่รักแล้วงั้นหรือ? ทุกอย่างกลับตรงข้ามกันทั้งนั้น.....
Tbc.จากใจนักเขียน: Clear Mode
*พล็อตเรื่องของเราไม่เคยเปลี่ยนเลยนะเพราะเราเขียนนำไปไกลแล้ว หลังจากนี้เรื่องราวคงจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ขอบคุณทุกคนที่ผ่านช่วงดราม่าหนักมาด้วยกัน เราเองก็ดูอยู่นะว่าจะเหลือนักอ่านกี่ท่านที่ทนผ่านช่วงนั้นมาได้ ยอมรับว่ามันหน่วงจริงไรจริง ซึ่งโหมดแบบนั้นจากนี้จะเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ(??)(แต่เจ้าธารยังคงความหื่นไม่เปลี่ยน) เพราะวันนี้เราเขียนให้ความรู้สึกของทรายมันเทออกมาทั้งหมดแล้วจริง ๆ ถึงจุดที่ธารจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้างแล้ว
*และที่สำคัญคาแรคเตอร์ของพี่ทรายกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะมีตัวละครสำคัญกำลังจะมีบทบาทหนักเข้ามา ฮีต้องสู้ค่ะ ถ้าใครคิดว่าสุดท้ายนายเอกหนี พระเอกตามหา>>ไม่ใช่แบบนั้นนะบอกเลย! นายเอกฉันจะทิ้งคุณภัครได้ยังไง?? แล้วที่สำคัญพี่ทรายไม่ได้ใสซื่อดูอ่อนเหมือนที่หลายคนคิดหรอกนะไม่อย่างนั้นจะเป็นเลขาเบอร์สองของคุณภัครได้เหรอ? ที่ทนทุกวันนี้มันมีเหตุผลหรอก( เอิ่มขอโทษค่ะ อินจัด)
***ใครเอียนมาม่าก็ไปอ่านพิเศษหวานนิดๆหน่อย ๆ กันที่บล็อกได้ วันนี้เราลง Unseen-2 (ธารทราย)เอาไว้***
*ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันเสมอทั้งที่นี่และที่บล็อก ยอดดูที่บล็อกจากหลายประเทศสูงมากๆเราปลื้มสุดๆเลย ขอบคุณนะคราบบ ขอบคุณจากใจจริง*
*สำหรับใครที่อยากจะให้ปิดเรื่อง>>ไม่ปิดค่ะเราดื้อด้าน!! พี่ทรายฉันยังไม่ได้ -ร้าย- จะปิดเรื่องได้ไง??
ส่วนคอมเมนต์ห่วยๆ (แต่รกกระทู้อ่ะทำไงจะเอามันออกไปได้) นี่เราใสๆนะ ไม่ได้ร้ายกาจอะไรเล้ยยยย *
*เราเคยบอกแล้วนะเราแค่มือสมัครเล่นเพราะงั้นข้อผิดพลาดแน่นอนว่าต้องมี เพียงหวังว่าทุกท่านจะมองผ่านและอภัยให้กันไม่มีพล็อตใดพล็อตหนึ่งที่จะถูกใจทุกคนพร้อม ๆ กันได้เพราะงั้นถ้าชอบเรื่องของเราอยู่บ้างก็มาอ่านกันนะ ไม่ต้องเมนต์ก็ได้เราไม่เคยร้องขอเมนต์อะไรเลยค่ะ ถ้ากรุณาก็ลงให้แค่นั้นจบ หากไม่อยากลงก็อ่านแล้วกดออกไปแค่นั้น เราเฉย ๆ อยู่แล้ว ขอบคุณสำหรับนักอ่านดี ๆ และกำลังใจกดบวกและเป็ดบวก*Thanks a lot. 