-43-
หลังจากที่เห็นคิดถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา... ผมไม่รอช้าที่จะวิ่งไปที่รถผมแล้วออกเครื่องตรงไปบ้านคิดทันที ระหว่างนั้นผมก็คิดว่ามันคงถึงเวลาเสียที ผมไม่อยากให้เขาทนอยู่ในที่แบบนั้นอีกแล้ว อันที่จริงเรื่องนี้ผมก็คิดไว้นานแล้วล่ะครับ เคยปรึกษาพ่อกับแม่แล้วด้วยและทั้งคู่ก็ยอมรับได้...
ที่จะให้คิดเปลี่ยนมาใช้นามสกุลร่วมกับผม...
เสียแต่ที่ผมพลาดไปก็คือ...ผมไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ พอออกรถได้สักพักผมก็โทรศัพท์หาคุณแม่ เพื่อสอบถามเรื่องเอกสารหรือกฎเกณฑ์ต่างๆที่ต้องใช้ในการเปลี่ยนนามสกุล แม่ผมบอกเอกสารที่ต้องเตรียมเสร็จเรียบร้อยผมก็หมดธุระแล้ว แต่ทว่ายังไม่ได้กดวางสายแม่ผมกลับขอไปหาคิดที่บ้านด้วยเหมือนกัน ท่านบอกให้ผมรออยู่ที่บ้านคิด ดึงคิดออกมาให้ได้ ให้อ้างว่าเดี๋ยวแม่จะมาเซ็นสัญญาเรื่องธุรกิจ พ่อคิดถึงจะยอมง่ายๆ
...และก็ง่ายดายจริงๆ
ทีแรกผมกะจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่พอมีแม่เป็นกำลังเสริมแบบนี้ก็ทำให้ทุกอย่างดูง่ายดายไปหมด แค่เพียงเอ่ยปากว่าเป็นลูกคุณแม่พ่อของคิดก็ปรี่เข้ามาหาแล้ว ผมไม่อยากว่าผู้ใหญ่ยิ่งเฉพาะกับพ่อของคนรักด้วยแล้ว แต่เห็นอย่างนี้ผมก็อดรังเกียจนิดๆไม่ได้... เขาไม่เหมือนกับคิดเลยสักนิด
พอได้เอกสารทุกอย่างครบแล้ว เห็นคิดถูกพาออกมาจากห้องแล้วผมก็เพียงแค่รอคุณแม่มาออกดาบในตอนสุดท้ายแค่นั้น ผมไม่ทราบหรอกว่าคุณแม่จะมาทำอะไร ผมแค่พยายามยื้อเวลาให้คุณพ่อคิดนั่งคุยกับผมตามปกติ พยายามไม่หันไปมองคิดเพราะกลัวว่าจะคุมตัวเองไม่อยู่แล้วกระชากเขาออกมาจากการจับกุมนั่น...
และพอคุณแม่มา...ผมดีใจจริงๆที่ผมมีเธอเป็นแม่
ผมไม่เคยเห็นแม่ทำแบบนี้กับใครเลย นั่นเพราะท่านเป็นคนใจดีมีเหตุผล ท่านใจดีถึงขนาดที่ยอมให้พ่อคิดมาร่วมหุ้นทั้งๆที่การที่พ่อคิดมาร่วมหุ้นนั้นทำให้ธุรกิจของคุณแม่เสียเปรียบกว่ามาก แต่ตอนนี้ก็จบกันแล้วล่ะครับ
ผมไม่เคยรู้ว่าน้องเมท้อง คุณแม่ไม่เคยบอกผมเรื่องนี้รวมไปถึงผมเองก็ไม่ทราบว่าคุณแม่ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร พอทุกอย่างจบลงผมพาคิดออกจากบ้านทันที ไม่รอให้เขาบอกลาครอบครัวเขา...อันที่จริงต้องบอกว่าถึงผมจะพาคิดออกมา แต่คนในบ้านนั้นกลับไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เลย...
พอผมพาเขานั่งรถออกมาแล้วผมก็จับสังเกตได้ว่าคิดเงียบๆ เขาดูเหม่อและใจลอย เห็นได้ชัดเลยว่าเขากำลังกังวลและคิดมากอีกแล้ว ผมจึงตัดสินใจหยุดรถสักพักเพื่อปลอบขวัญเขาเสียหน่อย ที่จริงผมตั้งใจว่าจะค่อยปลอบเขาทีเดียวพอถึงบ้านผม แต่ดูเหมือนว่าเป็นผมเสียเองที่ทนเห็นเขาเป็นอย่างนี้ไม่ไหว...
“คิด...ไม่เป็นไรแล้วนะครับ อยู่กับผมแล้ว...ไม่เป็นไรแล้วนะครับ”เอื้อมมือไปคว้าเขามากอด คิดปลิวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของผมอย่างง่ายดาย
“....ผมรักคิด รัก...นะครับ”พูดย้ำให้เขามั่นใจ อยากให้คนรักของผมเลิกกังวลเสียที
“.....แรม..”“ไม่ต้องเครียดแล้วนะครับ ทุกอย่างมันจบแล้ว...”
“คิด...ก็รักแรม...รัก รักมากที่สุด...ฮึก”ผมกดจูบตรงหน้าผากใส กอดเขานิ่งสักพักก่อนขับเคลื่อนรถออกไป ตรงไปยังบ้านของผม...บ้านของเรา...
...
พอรถจอดลงหน้าบ้าน ผมก็พาเขาตรงไปยังห้องทำงานของแม่อย่างรู้งาน แม่เข้ามาลูบเนื้อลูบตัวคิดเหมือนกลัวว่าจะมีส่วนไหนของเขาสึกหรอลงไป คิดได้แต่ส่งยิ้มหวานอย่างเดียว หน้าเขาไม่เหมือนคนที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาหมาดๆเลยสักนิด เป็นอย่างนี้ก็แย่น่ะสิ...เพราะถ้าเขาร้องไห้ ผมก็จะไม่มีทางได้รู้เลย
จะต้องดูแลเขาให้ดีๆ
“คิด...ไม่เป็นอะไรจริงๆแน่นะลูก”
“ผมไม่เป็นอะไรครับ ไม่ต้องห่วง”
“.....งั้นนั่งลงก่อนนะลูก ต้อย ฉันขอน้ำให้ลูกๆหน่อยนะ”
“ค่ะ”
แม่ผมยังคงมีสีหน้าเป็นห่วงคิดไม่หาย เธอลูบแขนเรียวพลิกไปมา สำรวจให้ทั่วเพื่อให้แน่ใจว่าคิดไม่ได้โดนทำร้ายอะไรมาจริงๆ สุดท้ายพอคุณแม่พอใจแล้วเธอก็นั่งลงตรงข้ามพวกเรา
“แม่นะใจจะวายตอนตาแรมโทรมาบอกว่าคิดโดนยศพากลับบ้าน”
“อ่ะ เอ่อ...” คิดหันมามองผมนิดๆ
“แต่ไม่เป็นไรก็ดีแล้วลูก เท่านี้ก็จบกันสักทีเนอะ เดี๋ยววันสองวันนี้ตาแรมพาคิดไปเปลี่ยนนามสกุลเลยละกันเนอะ เอาที่ลูกๆสะดวกเลย”
“ห้ะ!! ด..เดี๋ยว..คุณ..คุณแม่ เอ่อ...ที่ว่าเปลี่ยนนามสกุลนี่จริงหรอครับ?”
“ก็ใช่น่ะสิจ้ะ ทำไมหรอ? หนูไม่อยากหรอจ้ะ?”
“ป..เปล่าครับ ไม่ใช่...คือ...ผมคิดว่าคุณแม่ล้อเล่น...”
“ฮะๆๆๆ ใครจะไปล้อเล่นเรื่องแบบนี้กันเล่า พ่อกับแม่และก็ตาแรมตกลงเรื่องนี้มานานแล้วล่ะจ้ะ หรือว่าหนูไม่อยากเปลี่ยนรึเปล่า?”
“อ่ะ..เปล่า คือผมหมายถึง...คุณแม่ไม่ต้องทำกับผมขนาดนี้ก็ได้ ค..คือ แค่ทุกคนยอมรับผมได้แค่นี้ก็มากพอแล้ว...” เสียงคิดแผ่วปลาย
“ไม่ได้หรอก รับลูกเขามาแล้วต้องเลี้ยงให้ดีสิ อีกอย่างแม่ก็อยากให้หนูมาเป็นครอบครัวเดียวกันนะจ้ะ ตายศจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายเราอีก”
“ต..แต่ผม....มัน...มากเกินไป...ผมทำไม่ได้หรอกครับ...”
“....งั้น...เรื่องนี้แม่จะให้ตาแรมโน้มน้าวเอาเองละกัน แม่ก็ไม่อยากบังคับ แต่ที่แม่อยากให้หนูคิดรู้ก็คือ พ่อกับแม่ยินดีที่จะให้หนูมาใช้นามสกุลร่วมกับครอบครัวเราโดยไม่มีข้อแม้ใดๆเลย พ่อกับแม่รักเรามากนะจ้ะ...”
“........ข..ขอบคุณครับ...”
คิดนั่งก้มหน้านิ่ง คิ้วทั้งสองข้างเริ่มเข้ามาชนกันมากขึ้นบ่งบอกว่าเขาเริ่มกังวลและคิดมากอีกแล้ว...ผมเลยเปลี่ยนประเด็นคุย ยังไงผมก็จะทำให้เขายอมผมให้ได้
“...แล้วแม่รู้ได้ไงหรอครับว่าน้องเมท้อง?”
ผมยิงคำถามที่สงสัยตั้งแต่ที่บ้านคิดออกไป
“อ๋อออ จริงๆแล้วเป็นเรื่องบังเอิญมากนะ แรมจำป้านุ้ยที่เป็นเพื่อนแม่ได้รึเปล่า? เอาเป็นว่าป้านุ้ยเขาทำงานอยู่โรงพยาบาลน่ะจ้ะ เป็นหมอ แล้วทีนี้น้องเมมาตรวจกับป้านุ้ยพอดี ป้านุ้ยเลยรู้ว่าน้องเมท้องแล้วน้องเมก็เป็นลูกตายศด้วยใช่มั้ยล่ะ ป้านุ้ยก็เป็นเพื่อนยศเหมือนกัน พอแม่ได้ไปทานข้าวกับป้านุ้ยเลยทราบเรื่องนี้มาน่ะจ้ะ”
“...ล...แล้วน้องเมรู้สึกยังไงหรอครับ ตอนที่เขารู้ว่าตัวเองท้อง...” คิดถามแม่ผมอึกๆอักๆ ผมคิดว่าอย่างน้อยเขาก็คงเป็นห่วงน้องตัวเองอยู่ดี
“ตกใจน่ะจ้ะ...เหมือนไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองท้องได้เดือนกว่าแล้ว... แต่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าน้องเมไปท้องกับใครที่ไหน”
“...หรอครับ...”
“แม่ว่าเราเหนื่อยมากแล้วเนอะวันนี้ ตาแรมพาคิดไปพักผ่อนเถอะจ้ะ”
“ครับ”
ผมรับปากแม่ก่อนพาเขาไปยังห้องนอนของผม คิดก้มหน้าก้มตาเดินตามมานิ่งๆ พอเขาเข้ามาในห้องนอนผมแล้ว ผมก็กดจูบลงบนหน้าผากมน คิดสะดุ้งเล็กน้อยก่อนช้อนตากลมขึ้นมามองผม ....น่ารัก...ขนาดทำหน้าเครียดยังน่ารักเลย
“แรม...”
ผมกดจูบลงที่ริมฝีปากบางนั่นเบาๆ แม้ว่าใจจริงอยากจะมอบจูบที่ร้อนแรงให้เป็นการระบายความหมั่นเขี้ยว
“กังวลอะไรหรอครับ? หืมม์”
เขาไม่ตอบแต่ทิ้งตัวเข้าใส่ผม สองแขนบางโอบผมแน่น หัวเขาซุกอยู่ตรงบ่าผม มือเล็กกำเสื้อผมไว้ ผมกอดเขาตอบลูบหลังเขาปลอบใจ กดจูบตรงศีรษะเป็นพักๆ ผมรอให้เขาพร้อมก่อนค่อยพูดก็ได้ ถ้าเป็นเขา ผมรอได้ทั้งชีวิต
ผมรู้ว่าเขาไม่สบายใจเรื่องที่จะเปลี่ยนนามสกุลและเรื่องน้องเม เพียงแต่บางทีเขาอาจจะยังสับสนจนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก และผมก็รอเขาได้เสมอ ผมพาเขามานั่งปลายเตียงแต่ยังกอดเขาไว้แน่น ลูบหลังเขาเบาๆประหนึ่งเขาเป็นแก้วเพชรล้ำค่าที่แตกได้ง่ายๆ แต่เชื่อเถอะว่าสำหรับผมแล้วคิดมีค่ามากกว่าแก้วเพชรเสียอีก เขาสำคัญกับผมมากยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ป้าต้อยมาตามให้ไปทานข้าวเย็น ผมถึงค่อยคลายอ้อมกอดออกจากเขา เดินจูงมือเขาลงไปทานข้าวด้านล่าง แม่ผมออกไปทำงานแล้วตามที่ป้าต้อยบอกเลยเหลือแค่ผมกับคิดในห้องทานข้าว ผมเดาว่าแม่คงสั่งให้ป้าต้อยทำอาหารให้พวกผม
“อร่อย...”
คิดเอ่ยขึ้นมาเบาๆก่อนตักกินอาหารในจานจดหมดเกลี้ยง เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มบางๆให้ผมเมื่อเห็นผมทานเสร็จพร้อมกันพอดี
“วันนี้นอนที่นี่นะครับ”
ผมบอกเขาเมื่อเห็นว่าดึกพอควรแล้ว ผมอยากให้เขาได้พักผ่อนเร็วๆ อีกอย่างที่นี่ก็เป็นบ้านผมด้วย ไม่แปลกที่ผมจะไม่ออกบ้านเพื่อไปนอนคอนโดหรอก คิดไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ตอบรับ เอาเป็นว่าผมจะคิดไปเองละกันว่าเขาตอบตกลง
ผมพาเขามาที่ห้องนอนอีกครั้ง จัดแจงเสื้อผ้าให้พร้อมกับแปรงสีฟันอันใหม่นำไปให้เขาใช้อาบน้ำ คิดมองผมตาปริบๆ เหมือนมีคำถาม
“...ทำไมหรอครับ? อยากอาบด้วยกันหรอครับ?”
“....บ้า!”
เขาก้มหน้าแดงๆนั่นแล้วเดินเข้าไปยังห้องน้ำทันที ผมเองก็ตกใจไม่น้อยนะที่ตัวเองกล้าพูดประโยคนั้นออกไป ไม่รู้สิ ถึงเขาจะทำหน้ากังวลอยู่แต่ผมเห็นว่ามันหน้าแกล้งสิ้นดี แต่ทำไมถึงเลือกพูดประโยคนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ....บางทีอาจจะเป็นจิตใต้สำนึกของผมล่ะมั้ง(?)
ผมเดินดูของรอบๆห้องเพลินๆรอเขาอาบน้ำ ไม่นานนักคิดก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยกลิ่นหอมฟุ้งจนผมอยากเข้าไปฟัด แต่ก็ได้แค่คิด ผมบอกให้เขารอแปปนึงก่อนจะเข้าไปอาบน้ำบ้าง
“ดูอะไรอยู่หรอครับ”
“อ่ะ...เอ่อ.......”
ผมยิ้มให้เขาเมื่อคิดทำหน้าเหวอ เขาเหม่อจนไม่รู้ว่าผมเดินมาใกล้เขาตอนไหนเนี่ยนะ คิดมองรูปผมที่ถ่ายกับครอบครัวบนหัวเตียง ตอนนั้นผมอายุเก้าขวบอยู่เลย ไม่รู้ว่าเขาสนใจอะไรถึงได้จ้องเอาจ้องเอา
“เครียดอะไรหรอครับ บอกผมได้รึยัง”
ผมโน้มตัวไปกอดเขาไว้ก่อนจับโยกไปมา คิดจมอยู่ในอกผมแต่เขาก็ไม่ได้ดิ้นหนีอะไร
“.......แรม”
“ครับ?”
“คือว่า...เรื่องวันนี้ขอบคุณมากนะ ขอบคุณมากๆ มากจริงๆ ไม่รู้จะตอบแทนยังไง แต่ขอบคุณมากนะครับ...คิดดีใจมากๆเลย”
“ครับ” จุ๊บหัวเขาสักรอบแก้หมั่นเขี้ยว มาพูดอะไรน่ารักๆทำไมตอนนี้เนี่ย
“..ต..แต่ว่านะ เรื่องนามสกุล...คิดว่ามัน...มากไป แรมให้คิดมากเกินไป คือไม่ใช่ว่าคิดรังเกียจอะไรนะครับ แต่...แรมให้คิดมาเยอะมากจริงๆ คิดไม่คิดว่าแรมจะ อื้อออ!!”
ผมประกบจูบเขาพอรู้ว่าเขากำลังจะพูดเรื่องอะไร นิสัยขี้เกรงใจของเขายังไงก็แก้ไม่หายเสียที ผมกดริมฝีปากตัวเองให้แน่นขึ้นก่อนสอดลิ้นเข้าไปทักทายโพรงปากเล็ก คิดหอบสั่นแต่ผมไม่หยุด กระหน่ำจูบเขาไม่หวั่นจนเขาต้องทุบหลังผมปั่กๆนั่นแหละผมถึงยอมถอนจูบรสหวานนี้ออก
“...ร..แยม ง่า...อื้อ...” ลิ้นพันกันแล้ว เรียกชื่อผมซะผิดเลย...ผมเลยจัดการหอมแก้มเขาไปฟอดใหญ่ จนเขาหน้าเหวอ แก้มขึ้นสีแดงฉาน
น่ารัก...
คิดน่ารัก จนรักแบบโงหัวไม่ขึ้นแล้วครับ รัก รักมาก ไม่อยากให้เขาต้องกังวลเลย
“แรยมมม พอแล้..ว..ว งือออ” พอเขาเห็นว่าผมหอมเขาไม่หยุด คนตัวเล็กก็เริ่มดิ้นก่อนมุดลงไปตรงหน้าท้องผม โอ้ยย น่ารัก!
“ไม่แกล้งแล้วครับ เงยหน้าเถอะครับคิด”
“ไม่เอา”
“หึหึหึ”
คิดค่อยๆคลานออกจากตัวผมไปซุกหมอนใบโตแทน ผมแอบเห็นนะว่าหูเขาแดงก่ำ ได้แกล้งให้เขาเขินนี่มันก็สนุกดีนะครับ แต่มันติดอยู่ตรงที่ผมต้องข่มใจไม่ให้ลงมือฟัดเขาทั้งๆที่อยากจะตะครุบเขาแทบตาย ฮึ่มมม ใครใช้ให้ตัวเล็กๆขาวๆน่าฟัดขนาดนี้ล่ะ แถมตอนนี้ตัวยังหอมฟุ้งซะขนาดนี้
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมไม่กล้าทำแบบนี้แน่ๆ ทั้งเป็นฝ่ายเริ่มกอดและจูบและ...เอ่อ...ฟัดเขากระหน่ำแบบนี้ แต่ช่วยไม่ได้นี่นา ตบะผมก็แตกเป็นเหมือนกันนะ
“คิดครับ”
“อะไรรรร”
“เงยหน้ามาคุยกันหน่อยสิครับ”
“.....”
คนน่ารักไม่ตอบแต่แอบแง้มหมอนใบโตออกเผยให้เห็นตากลมข้างนึงที่จ้องมองผมอย่างไม่ไว้ใจ เห็นอย่างนั้นผมก็เลยหลุดขำ ทำให้เจ้าตัวมุ่นคิ้วก่อนมุดหัวลงไปอย่างเก่า
อย่าน่ารักให้มันมากนัก!
ผมหมั่นเขี้ยว!!
ไม่รอช้าผมตะครุบเขาไว้ทันที คิดสะดุ้งเฮือกใหญ่ก่อนดิ้นเมื่อผมกอดรัดเขาก่อนอุ้มเขาให้มานั่งบนตัก เขี่ยหมอนใบยักษ์ที่เคยเป็นอุปสรรคทิ้งลงไป คิดหน้าแดงใหญ่เมื่อประสานตากับผม...รู้สึกว่าเมื่อก่อนมันจะสลับกันนะครับ เมื่อก่อนผมสิต้องเป็นฝ่ายเขินเขาตัวแข็งแบบนี้ แต่อย่างนี้ก็ไม่เลวนักหรอก หึหึ
จุ๊บ
“แรมมม ง่า......”
น่ารัก แค่ผมจุ๊บปากเขาเบาๆเขาก็หน้าแดงเหมือนจะระเบิด ไม่รู้ว่าเขินอะไร
“ผมรักคิดมากนะครับ รักมาก...อยากให้อยู่ด้วยกัน”
“ง่า...แต่แรม...คิด...คิดไม่มีอะไรเลย ไม่อยาก...เป็นตัวถ่วงชีวิตแร..อื้อออ”
ต้องจับฟัดสักกี่ทีล่ะครับเนี่ย เขาถึงจะเลิกคิดแบบนี้...
“อยู่ด้วยกันนะครับ”
“แรม...”
“...นะครับ”
“คือ..”
“คิดไม่อยากอยู่กับผมหรอครับ?”
“ไม่ใช่!! อยากสิ อยากอยู่ด้วย แต่ว่า...แต่ว่าคิด...งื้อ!”
“ไม่มีแต่แล้วนะครับ ถ้าอยากอยู่ด้วยกันก็มาอยู่ด้วยกัน ผมก็อยากอยู่กับคิด คิดก็คิดเหมือนกัน เท่านี้ก็พอแล้วไม่ได้หรอครับ?”
“..ไม่ได้หรอก ก็...ก็ อ้ะ! หยุดเลยนะ ให้คิดพูดบ้างดิ! .....ก็เรื่องที่จู่ๆก็ให้คิดมาอยู่ด้วยกับแรมนี่แหละ คนอื่นเขาจะคิดยังไง คิดไม่สนหรอกว่าตัวเองจะโดนว่าอะไร แต่แรม...แรมจะถูกมองไม่ดี คนอื่นๆคงจะคิดว่าแรมไปเอาคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าที่ไหนมาไม่รู้ เขาจะ...อื้ออออ แอมมม!!!”
“จะคิดแทนคนอื่นทำไมหรอครับ ในเมื่อเขาไม่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราสักหน่อย เขาจะคิดอะไรก็ปล่อยเขาคิดไป รู้แต่ว่าผมมีความสุขที่มีคิดอยู่ข้างๆก็พอแล้ว”
“......”
“ผมรักคิด กว่าจะได้รักคิดแบบนี้ กว่าจะได้กอดคิดแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ผมไม่ยอมให้ใครก็ไม่รู้มาพรากมันไปหรอกนะครับ”
“......”
“คิดครับ...”
“.....ครับ”
“ใจอ่อนรึยังครับ”
“..หึ แรมคิดดีแล้วหรอครับ คิดดีจริงๆแล้วหรอที่ยอมให้คนอย่างคิดมาใช้นามสกุลด้วย”
“ยิ่งกว่าคิดดีเสียอีกครับ”
“.............”
“..คิดครับ”
“ฮือออออออ ข...ขอคิดก่อนหนึ่งคืน”
“.......”
“นะ...นะครับ ให้เวลาคิดหน่อยนะ”
“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ...ก็ได้ครับ”
“ขอบคุณครับ จุ๊บ”
“หึ...แต่จะมีเวลาคิดรึเปล่าผมก็ไม่รู้นะครับ หึหึ”
ผมแสยะยิ้มพลางหัวเราะเสียงต่ำ คิดยิ้มค้างเหมือนว่าเขาเริ่มรู้จุดประสงค์ของผมแล้ว ผมคว้าไหล่บางไว้แล้วกดมันลงบนเตียงช้าๆ เคลื่อนตัวไปคร่อมเขาไว้ คิดมองหน้าผมตาตื่น เห็นเขาทำตัวเลิกลั่กแบบนี้แล้วนึกถึงกระต่ายขาวๆปะทะกับสัตว์ร้ายเลย
หมั่นเขี้ยว!
“อ้ะ!!!”
“ที่รักครับ ผมให้เวลาคิดทั้งคืนเลย แต่ว่าสุดท้ายยังไงคำตอบก็คือตกลงอยู่ดีนะครับ”
ขอเห็นแก่ตัวสักครั้งคงไม่ตาย ผมเอ่ยบอกคิดก่อนจะจัดการลอกคราบเขาให้หมด เสื้อผ้าของผมที่เคยอยู่บนร่างเขาลอยปลิวไปอยู่ข้างเตียงอย่าง่ายดายเมื่อผมเลือกจู่โจมเขาตอนที่เขายังเผลอๆ
เนื้อขาวผ่องเริ่มออกสีแดง ไฟนีออนจากห้องผมส่องสว่างทำให้ผมเห็นทุกสัดส่วนของเขาอย่างชัดเจน คิดนอนหงายเพราะผมจับไหล่เขาเอาไว้ไม่ให้ดิ้นพลิก ขาเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นมาขดงอแนบอกบาง ผมรู้ว่าเขาพยายามปกปิดส่วนลับเอาไว้ถึงได้ขดตัวอย่างนั้น แต่รู้ไหมง่ายิ่งเขาทำตัวเขินอายเท่าไหร่ผมกลับรู้สึกอยากฟัดเขามากขึ้นเท่านั้น
“ร..แรรรรม”
ลิ้นรวนใหญ่แล้ว น่ารักจัง คิดหน้าแดงก่ำ ตากลมใสจ้องมองผมเหมือนขอความช่วยเหลือ บอกแล้วว่าผมเองก็คนนะ ตบะแตกเป็นเหมือนกัน ผมแทรกขาเข้าไประหว่างขาเขา คิดพยายามฝืนเกร็งแต่สุดท้ายผมก็ชนะ มืออีกข้างเริ่มลูบร่างกายขาวเนียนอย่างจาบจ้วง ก้มลงไปจูบปากซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนเลื่อนลงมาดูดดึงยอดอกสีชมพูน่ารัก คิดร้องครางอือตัวแข็ง ผมเลื่อนตัวไปขบกกหูของเขาก่อนที่เจ้าตัวจะถดคอหนี
น่ารัก
บีบเค้นสะโพกกลมมนก่อนลูบลงไปทั่ว ผ่านจุดสำคัญจนคิดเกร็งตัวครางท้วงฮือ เล้าโลมคนตัวเล็กจนได้ที่แล้วผมก็เริ่มทำภารกิจต่อไป...
ส่วนกลางผมแข็งได้โดยไม่ต้องช่วยอะไรเลย เพียงแค่เห็นหน้าเจ้าของดวงใจหอบกระเส่าขนาดนี้ผมก็พร้อมที่จะกระโจนเข้าหาเขาทันที คิดหน้าแดงปากแดงเจ่อเพราะจูบ น้ำตาคลอเบ้าตาน้อยๆ หน้าอกบางหอบสั่นด้วยแรงราคะ
ผมกดจูบขมับเขาเป็นเชิงขออนุญาต... ขอเข้าไปแล้วนะครับ....
..
..
..
“...ว่าไงครับคิด ครบหนึ่งคืนแล้วคิดออกรึยังครับ” ผมยกยิ้มให้คนใต้ร่างที่ดูยังไงก็รู้ว่าเจ้าตัวหมดแรงข้าวต้มแล้ว แน่นอนสิผมเล่นเขาทั้งคืนเลยนี่ หึหึหึ
คิดพยายามลืมตาเหลือบมองผมโดยที่ยังหอบสั่นไม่หยุด เจ้าตัวมุ่นคิ้วก่อนเอ่ย
“...ให้คิดได้นอนเถอะ”
“หึหึหึ ขอคำตอบก่อนสิครับ”
“..........”
“..คิดครับ..”
“อ่ะ..อื้อ อื้ออ!! พะ พออ แล้ว วว..ว อือออ”
แกล้งขยับโยกสะโพกทั้งๆที่ส่วนกลางยังคงเชื่อมต่อกัน คิดร้องครางออกมาอย่างน่ารัก
“แรม..พอ ไม่เอาแล้ววว จะนอนนน”
“ตอบผมก่อนสิครับ”
“........”
“คิดครับ...”
“อะ อื้ออ พอแล้วว!!”
“.......”
“...........”
“......”
.
.
.
.
“ยอม...ก็ได้...”
หึ ผมบอกแล้วว่าคำตอบจะมีแค่คำว่าตกลงเท่านั้น
______________________________________________________________________
เข็นตอนใหม่มาอย่างอืดๆ 555555555555

ขอโทษที่เอามาลงช้านะคะ

ส่วนหนูคิดยังคงไม่ชินกับการได้รับน่ะค่ะ ปกติไม่เคยมีใครให้คิดขนาดนี้เลยเกร็งๆ
กลัวจะรำคาญคิดกัน 55555
จะเปิดเทอมแล้วยังแต่งไม่จบสักที เอื้อออออ
ขอบคุณทุกการติดตามค่ะะะะ

______________________________________________
ตอบคอมเม้นค่า
mild-dy มุ้งมิ้งปนๆกับเลือดสาด55555
B52 เรื่องใหญ่ด้วยยย

ormn มาแล้วววค่าาาาาา

oreena แอบกระซิบว่าไม่นานค่ะ อิอิ
ka[ze]na หมาสไตล์ 55555555555555
sanri อุ๊ปส์ นั่นสิเนอะะะะะะะ

บ๊ายบายโพ เปอร์หมดความอดทนกับหมาแล้ววว

omuya สงสารทั้งคู่เลยย
poterdow กระซิบว่าแฮปปี้แน่ อุอุอุ
omyim_jjj อนุญาตให้สงสารทั้งคู่ค่ะ 5555

MK คู่นี้ต้องรักกันด้วยลำแข้งงงงง

GintoniC เปอร์ศีลแตกค่ะ55555 มาต่อแล้วววววววว
Ali$a฿eth เขารักกันด้วยลำแข้งค่ะะะ ขอบคุณสำหรับสารบัญน้าาาาาา
gayraygirl รักกันฉบับหมาๆ

mystery Y เปอร์จะไม่ทน!!555
EoBen เอาแต่ใช้อารมณ์ทั้งคู่เลยเป็นงี้

Sar2288 เปอร์โดนความโกรธครอบงำเลยไม่ได้สนใจอะไรเลยยย

kik ขอบคุณค่าแงงงง เขิลลลลลลล

boong086 สงสัยเปอร์เป็นคนอีสาน(?) กินหมา(?)5555
ka[ze]na เหนื่อยหัวใจ

ขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะะะะ