: destiny of B ชุลมุนวุ่นนัก..รักของนายตัวบี : Final Game Up 12เม.ย58 จบแล้วครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: : destiny of B ชุลมุนวุ่นนัก..รักของนายตัวบี : Final Game Up 12เม.ย58 จบแล้วครับ  (อ่าน 46049 ครั้ง)

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 49th Game  – Cloning

เช้านี้ผมตื่นมาไม่เห็นบอสนอนอยู่ข้างๆแล้ว ผมค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง ก็พบว่ามีความเจ็บแปลบๆ วิ่งแล่นไปทั่วสะโพก ผมหลี่ตาลงข้างนึงด้วยความเจ็บ ผมเองหลังพังกับพนักเตียง ประตูห้องนอนถูกเปิดออก

“ตื่นแล้วเหรอครับ” ไอ้บอสทักทายเมื่อเห็นผมนั่งพิงพนักเตียง
“อืมม” ผมตอบมันกลับไปสั้นๆ
“เป็นไงบ้าง หน้าตายู้ยี่เชียว”
“เจ็บอะดิ” น้ำเสียงผมไม่ค่อยพอใจเท่าไร
“ก็ทิ้งช่วงนานก็อย่างนี้แหละ” ไอ้บอสหันหน้ามายิ้มให้ผม
“อารายยย แค่อาทิตย์กว่าๆเอง” ผมหันไปตอบมัน
“ก็นั่นแหละ” บอสยังคงยียวนผมต่อไป
“ก็ดีนะ อาทิตย์เดียวก็ทำเอาบางคนจะลงแดงแล้วเนอะ” ผมได้ทียั่วมันบ้าง
“เหอะๆ ใครกันแน่” มันหันมายิ้มเยาะผมเบาๆ
“แหม่ๆ เมื่อคืนใครหว่าหื่นใส่เหมือนตายอดตายอยากมานาน” ผมสวนไอ้บอสกลับไป
“นะ แล้วใครขอรอบสอง” หน้าผมร้อนผ่าว เมื่อเจอประโยคนี้เข้าไป แล้วผมก็เจอขโมยหอมไปอีกฝอดใหญ่
“ก็แฟนบอสน่ารักซะขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว” มันกระซิบที่ข้างๆหูผม
“อยู่ด้วยกันอย่างนี้นานๆนะ” ผมกระซิบมันตอบ
ก่อนที่จะเอาริมฝีปากขบไปที่ใบหูของบอสเบาๆ แล้วผมก็เริ่มใช้วิชา”ชิวหาพาเพลิน” กับซอกคอไอ้บอส ไอ้บอสครางเบาๆออกมาจากลำคอ จังหวะที่ไอ้บอสกำลังเคลิ้มและหลับตาอยู่นั้น ผมปล่อยริมฝีปากออก แล้วมุดตัวไถลลงจากเตียง…..

“ไปแปรงฟันดีกว่า”
“ปุ๊ก....”  แล้วก็มีหมอนใบใหญ่ลอยมากระทบหัวผม ไม่ต้องสงสัยฝีมือไอ้บอสครับ
“มาทำให้เค้าอยากแล้วจากไปเหรอ” เสียงไอ้บอสไล่หลังผมมาติดๆ ก่อนที่มือทั้งสองข้างจะมารวบเอวผมเอาไว้แน่น แล้วร่างสูงใหญ่ก็ดันผมเข้าไปในห้องน้ำ แล้วผมก็โดนมันกด...อีกครั้งในห้องน้ำ เออคือว่ามรึงนี่มันกี่รอบแล้ว เง้ออออออออ......

...............

ผมแต่งตัวเสร็จ ไอ้บอสเล่าให้ฟังว่าไอ้บอลเข้ามาคุยกับบอสแต่เช้า เรื่องของของมันกับไอ้คริส มันไม่ค่อยสบายใจกลัวคนอื่นๆจะรู้ โดยเฉพาะกลัวเรื่องจะรู้ไปถึงพ่อกับแม่มัน บอสก็เลยบอกมันไปว่า เราชอบของเราแบบนี้มันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราก็อยู่ของเรา อีกอย่างก็ไม่ได้ประกาศตัวให้โลกรู้อะไรขนาดนั้น ที่รู้ก็มีแต่เพื่อนสนิทๆกันเท่านั้น แล้วก็สบายใจได้ เรื่องนี้ไม่มีทางที่บอสจะไปบอกพ่อกับแม่มันเด็ดขาด

หลังจากทานมื้อเช้าฝีมือป้านิดกับไอ้วินและไอ้บัดเสร็จ

“อยากไปเที่ยวไหนไหม” ไอ้บอสหันไปถามไอ้บัดกับไอ้วิน
“ไปไหนดีอะเฮีย” เสียงไอ้บัดตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยว
“แล้วกลับพัทยากี่โมง” บอสถามเรื่องเวลากลับของไอ้บัด จะวางแผนได้ถูก
“ก็คงเย็นๆอะเฮีย บัดเอารถมาจอดที่คอนโดไอ้คริสที่บางแสน” ไอ้บัดหันมาตอบ
“แปลว่าต้องกลับกับไอ้คริส แล้วค่อยขับกลับไปพัทยาอีกทีใช่ไหม” ไอ้บอสหันมาย้ำถามไอ้บัดอีกรอบ
“ครับเฮีย” เสียงไอ้บัดยังลิงโลดด้วยความตื่นเต้น
“งั้นมีเวลาค่อนวัน ไปใกล้ๆแล้วกันเนอะ แล้วจะได้เลยไปส่งพวกแกที่เอกมัย” ไอ้บอสสรุป
“ครับเฮีย แล้วเฮียจะพาไปที่ไหนอะ” เสียงไอ้บัดตื่นเต้นอีกครั้งเพราะลุ้นว่าจะเฮียมันจะพาไปเที่ยวไหน
“ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งดีไหม”  ไอ้บอสหันมาถามพวกเรา
“ดีๆ ผมไม่เคยไปอ่ะเฮีย” เสียงไอ้บัดตอบแบบเด็กที่ดีใจเมื่อได้ของเล่นใหม่ จนไอ้วินอดยิ้มไม่ได้
“งั้นโทรบัดโทรตามไอ้คริสกับไอ้บอลนะ” ผมบอกให้บัดโทรไปตามทั้งคู่ พวกเราจะได้ออกเดินทางกัน

ทริปสั้นๆวันนี้มีผมไอ้บอส ไอ้บัดกับไอ้วิน แล้วก็ไอ้คริสกับไอ้บอลไอ้บอสขับรถออกจากบ้านเลาะตามแนวรถไฟฟ้า BTS ไม่นานก็เลี้ยวซ้ายตัดออกมาทาง ถ.สุขสวัสดิ์ ผ่านดาวคะนอง บางปะกอก เรื่อยมาจนถึงพระประแดง จริงๆจะเลี้ยวตัดรอดใต้สะพานภูมิพล เข้าถ.พงษ์เพชร ก็จะไปที่ตลาดบางน้ำผึ้งได้เลย แต่ไอ้บอสเลือกที่จะไปขึ้นสะพานวงแหวนรอบนอก ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเลี้ยวซ้ายลงถนนสุขุมวิท แล้วเอารถไปจอดที่วัดบางนานอกแทน เพราะขากลับจะไปส่งไอ้สองคนที่ สถานีขนส่งเอกมัยจะง่ายกว่า

พอจอดรถที่วัดบางนานอกกับเสร็จ พวกเราก็ต้องข้ามฝั่งโดยเรือ ที่วิถีชีวิตคนแถวนี้ จะชอบเอามอเตอร์ไซด์ข้ามฝั่งจากบางกระเจ้ามาฝั่งบางนา และข้ามกลับโดยเรือ เพราะฝั่งบางกระเจ้านั้นแตกต่างจากฝั่งนี้โดยสิ้นเชิง เพราะยังเป็นพื้นที่สีเขียว สวนเก่าแก่ยังมีให้เห็น พอข้ามเรือกันมาถึงอีกฝั่งก็จะเป็นวัดบางน้ำผึ้งนอก จากนั้นพวกเราต่อมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งกัน

มอเตอร์ไซด์รับจ้างพาพวกเราลัดเลาะมาตามทางคอนกรีตไม่ใหญ่มากผ่านสวนผลไม้ ยังคงเห็นท้องร่อง ผ่านบ้านไม้สองชั้นแบบเก่าๆ ที่เราไม่สามารถเห็นได้ในฝั่งพระนคร เป็นวิถีชีวิตดั่งเดิมของคนไทยสมัยก่อน ที่อยู่กับสวน อยู่และใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ นั่งมอเตอร์ไซด์มาไม่นานก็ถึงตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง พวกเราทั้ง 6 คนค่อยๆเดินเข้าไปในตลาด ที่ตอนนี้ก็เกือบๆเที่ยง แถมพ่อค้าแม่ค้าที่นั่งขายของในเรือร้องบอกถึงอาหารที่พวกเขาขายกัน ทำให้กระเพาะของพวกเราเริ่มร้องโอดโอยประท้วง

“อยากกินไรกัน” ผมหันไปถามไอ้บอสกับไอ้วินแล้วก็พวกเด็กๆ
“เอางี้ เรานั่งร้านส้มตำร้านนี้เป็นหลักดีไหม แล้วใครอยากได้อะไรอย่างอื่นก็ไปซื้อมานั่งกินด้วยกัน” ไอ้วินออกไอเดีย
“ดีเหมือนกันนะใครอยากกินอะไรก็ไปซื้อมา” ไอ้บอสเห็นด้วยกับไอเดียไอ้วิน

สุดท้ายพวกเราก็นั่งที่ร้านส้มตำ ส่วนเด็กๆ 3 ตัวก็วิ่งไปซื้อโน่นซื้อนี่มากินกันให้วุ่น ไม่นานทุกอย่างที่สั่งมาก็หมดอย่างรวดเร็ว พอท้องตรึงก็เริ่มเดินดูตลาดกัน ตลาดเต็มไปด้วยข้าวของแล้วขนมไทยโบราณขายกันเต็มไปหมด ทั้งขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือก ของกินเล่นอย่างของทอดต่าง รวมไปถึงหมูสะเต๊ ซึ่งถึงแม้จะอิ่มส้มตำ-ไก่ย่างกันมาแล้ว แต่ก็อดที่จะซื้อติดไม้ติดมือไม่ได้ ก็เลยเดินถือกันไป เดินกินกันไป

“นั่งพักร้านนี้กันก่อนไหม” ผมชี้ไปทางร้านกาแฟกลางตลาด ทั้งร้านทาสีขาวสะอาดสะอ้าน หลังจากเดินกันมาสักพัก
“เอาดิ” ไอ้วินหันมาบอก เพราะเริ่มร้อน สักเกตุได้จากเม็ดเหงือบเม็ดใหญ่ๆบนหน้าของพวกเรา
“พี่ๆเอาอะไรกันบ้างครับ” ไอ้คริสอาสาเดินไปสั่งกาแฟให้
“เอสเปรสโซ่เย็น” ไอ้บอสสั่ง
“พี่เอา มอคค่าเย็น”  ผมบอกไอ้คริส
“ของพี่ คาปูชิโน่เย็น” ไอ้วินหันไปบอกน้อง
“กูขอ ชาเขียวเย็น” ไอ้บัดได้ทีเอี่ยวสั่งกะเค้าด้วย
“เด่วผมไปเป็นเพื่อน” เสียงไอ้บอลบอกไอ้คริสแล้วก็เลื่อนเกาอี้ออก ดันตัวลุกขึ้นเดินไปสั่งกาแฟกับไอ้คริส สุดท้ายไอ้คริสก็ได้ชาเย็นสีส้มน่าตาน่ากินมา แล้วไอ้บอลได้ช็อกโกแลตเย็นมา

พวกเรานั่งพักและเข้าห้องน้ำที่ร้านกาแฟสีขาวจนหายเหนื่อย จึงเริ่มเดินกันต่อ เพราะยังเหลืออีกหลายซอยที่ยังเดินไปไม่ถึง เดินมาไม่นานก็ถึงแลนด์มาร์กอีกที่ของตลาดบางน้ำผึ้ง บ้านอนุรักษ์ ตรงทางเข้าเป็นคลองเล็กที่ต้องเดินข้ามสะพานและมีศาลาริมน้ำเล็กๆน่านั่ง บ้านอนุรักษ์เป็นบ้านทรงไทยยกสูง แสดงถึงวิถีชีวิตดั่งเดิมของคนในที่นี่ พวกเราถ่ายรูปกันตรงซุ้มหน้าบ้านกัน สักพักก็เดินขึ้นบรรใดมาข้างบน ที่จะเป็นลานบ้านแบบสมัยโบราณ แล้วดาราหน้ากล้องกับตากล้องจำเป็นก็โชว์สกิลกันอุตลุด

พอถ่ายรูปกันเสร็จสรรพ พวกเราก็เดินวนกลับมาจนครบรอบตลาด ซื้อของติดไมติดมือกลับมากันพะรุงพะรัง

....

ไอ้บัดดูมีความสุขมากที่ได้มาเที่ยวกับพวกเรา และโดยเฉพาะที่มันได้มากับไอ้วิน นี่ก็เหมือนเดทแรกของพวกมัน ส่วนไอ้คริสกับไอ้บอลก็ดูมีความสุขไม่น้อยที่ได้มาเที่ยวกับพวกเรา ไอ้บอลดูผ่อนคลายจากตอนแรกๆที่เจอมันกับไอ้คริส และดูไม่เกรงเมื่ออยู่ต่อหน้าผมกับไอ้บอสแล้ว...

พวกเรานั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างกลับมาที่ท่าน้ำฝั่งวัดบางน้ำผึ้งนอก แต่เป็นช่วงที่คนกำลังแห่กันกลับ เลยต้องรอนานพอสมควร พอมาถึงท่าน้ำ ก็นั่งรอเรือข้ามฝากกลับ ตอนนี้ก็บ่ายแก่ๆ แล้ว แสงแดดแรงพอสมควร ไอ้บัดคอยเอามือบังแดดให้ไอ้วิน คอยถามโน่นถามนี่ไอ้วินอยู่ตลอด มันก็ดูแลเอาใจใส่ไอ้วินเป็นอย่างดี ผมไม่แปลกใจที่ไอ้วินจะแพ้ใจไอ้เด็กตัวแสบปากดีคนนี้

ข้ามฝั่งกลับมาถึงวัดบางนานอก ไอ้บอสก็ค่อยๆขับรถลัดเลาะออกมาที่ถนนสุขุมวิท เตรียมไปส่ง ไอ้บัด กับไอ้คริสที่สถานีขนส่งเอกมัย บรรยากาศของการจากลาของคู่รักใหม่ดูออกจะเศร้ากันไม่น้อย โดยเฉพาะไอ้บัดที่บ่นกระปอดกระแปด
“ไม่อยากกลับเลยอ่ะ” เสียงไอ้บัดบ่นเป็นรอบที่สิบ
“เดี๋ยวเสาร์หน้าก็เจอกันน่า” ไอ้วินปลอบไอ้บัดให้อุ่นใจ
“จะมาไม่ใช่เหรอ” ไอ้วินเอามือลูบหัวไอ้บัดเบาๆ
“ก็อีกตั้ง 6 วันกว่าจะได้กอด วิน อีกนี่” เด็กน้อยยังคงบ่นต่อ
“แค่หกวันเอง เด่ว skype คุยกันทุกวัน” ไอ้วินยื่นข้อเสนอไอ้บัด
“จริงๆนะ บอกแล้วนะ ห้ามผิดสัญญานะ” เสียงไอ้บัดดีใจแบบเก็บไม่อยู่ แถมบังคับให้ไอ้วินสัญญากับมัน
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้” ไอ้วินรับปากแต่ยังไม่ทันพูดจบไอ้บัดขโมยหอมแก้มไอ้วินฟอดใหญ่ จนไอ้วินหน้าแดง นิสัยไอ้บัดนี่ถอดแบบไอ้บอสมาไม่ผิดผมนึกในใจ
“ไอ้เด็กบ้านี่” วินสบถแก้เขิน
“บ้าแล้วรักป่าว” เจอไอ้บัดยั่วอีกทีทำให้ไอ้วินแถบจะมุดเบาะรถหนีความเขิน ส่วนไอ้บอสขับรถไปอมยิ้มไป ถ่ายทอดวิชากันมาดีนะพี่น้องคู่นี้

ส่วนไอ้คริสก็เอนหัวมาซบไหล่ไอ้บอล ถึงแม้ไอ้เด็กลูกครึ่งหน้าฝรั่งจะไม่พูดอะไรออกมาก แต่ดูแล้วมันก็คงไม่อยากกลับเหมือนกัน คู่นี้มาเงียบๆแต่ความหวานไม่ได้น้อยหน้าไอ้คู่แรกเลย เพราะตั้งแต่เดินตลาดกันเสร็จขึ้นรถมามือของไอ้บอลไม่เคยปล่อยจากมือไอ้คริสเลย.....

แต่ด้วยหน้าที่ที่พวกมันทั้งสองคน ที่ต้องกลับเพื่อเรียนหนังสือกันต่อ ทำให้ต้องแยกจากกันชั่วคราว

ไอ้บอสหาที่จอดรถได้ ไอ้คริสกับไอ้บัดก็เดินลงไปหาตั๋วรถกลับ ผมกับไอ้บอส ปล่อยให้พวกมัน ล่ำลากันโดยยืนดูกันอยู่ห่างๆ บรรยากาศแห่งความอาลัยอาวรณ์ปกคลุมไปทั่วบริเวณ สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่ต้องขึ้นรถ

“ดูแลตัวเองดีๆนะ” ไอ้บัดพูดกับไอ้วิน
“อืม เหมือนกันล่ะ อย่าซ่ามาก” ไอ้วินสั่งไอ้บัดไว้
“ทำไมอ่ะ” ไอ้บัดทำหน้าสงสัย
“ก็ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนี่” ไอ้วินพูดไปเขินไป แล้วไอ้บัดก็คว้าตัวไอ้วินมากอดด้วยความดีใจ
“ขอบคุณมาก” รอยยิ้มกว้างปรากฏอยู่บนหน้าไอ้บัด มันฉายความสุขล้นออกมาจากสายตาคู่นั้น

ส่วนไอ้คริสกับไอ้บอล ดูท่าจะไม่สวีทเท่าคู่ไอ้บัดกับไอ้วินแต่ก็อบอุ่นอยู่ไม่น้อย
“เดินทางปลอดภัย โชคดีนะ” ไอ้บอลบอกไอ้คริส
“อืมม ดูแลตัวเอง แล้วเจอกัน” ไอ้คริสหันมาบอกไอ้บอล
“แล้วเจอกัน” เสียงไอ้บอลบอกไอ้คริส

ก่อนที่ทั้งไอ้บัดกับไอ้คริสจะหันมาหาพวกเรา
“ไปแล้วเฮีย วันหลังจะมากวนใหม่” ไอ้บัดบอกพร้อมกับยกมือไหว้ไอ้บอสกับผม
“ขอบคุณที่พามาเที่ยวนะครับพี่ ผมกลับนะครับ” ไอ้คริสยกมือไว้พวกเราหลังพูดจบ

พอส่งไอ้บัดกับไอ้คริสขึ้นรถกลับ ไอ้วินขอแยกกลับบ้านมัน จึงมีผมกับไอ้บอสแล้วก็ไอ้บอลกลับด้วยกัน

“อาทิตย์หน้าคงยุ่งน่าดู” ไอ้บอสหันมาบ่นกับผม
“หืมม” ผมทำเสียงสงสัยในลำคอ
“ก็เสาร์หน้างานบอลแล้วนะ” ผมทำหน้าเหวอ เพราะลืมไปเสียสนิท

แล้วผมก็เข้าใจว่าทำไมไอ้บัดกับไอ้คริสจะมากรุงเทพฯอีกอาทิตย์หน้า อาจเป็นเพราะผมไม่ได้มีหน้าทีกับกิจกรรมงานบอลเท่าไรก็เลยไม่ได้ใส่ใจจนลืมไปว่างานจะเริ่มในอาทิตย์หน้า ส่วนคนรอบข้างผมหน่ะเหรอ ทั้งไอ้บอส ทั้งคุณพี่ชาย ไอ้บาสหัวหน้าวงดุริยางค์ ไอ้บูมประธานเชียร์ งานพวกมันเต็มมือกันไปหมด ส่วนชมรมเทนนิสดูเหมือนจะเป็นชมรมที่สบายที่สุด.....

แต่ว่า.....มันคงไม่ง่ายอย่างนั้น.........

Game
See You Next Game


คาแรกเตอร์ตัวละคร Update ครับ
>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=QpHL2xba0VA







--------------------------------------------------------------------------
ตอบคอมเมนท์ครับ

ตอบคอมเมนท์คุณ IsDeer
เกมส์ เค๊ะ เคะ ขนาดนั้นเลยเหรอครับ 55555+
ส่วนคู่สุดท้ายนั้น หล่อจริงและแอบดราม่าด้วยนะครับ คิคิ จะออกโรงในอีกไม่กี่ตอนแล้วครับ
ฝากติดตามด้วยนะครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2015 06:03:42 โดย destiny_of_b »

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตัวอย่าง 18 เพลงประกอบนิยาย Destiny of B
18Track Musick inspire by novels Destiny of B Preview

>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=r_EHZdoM9As
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2015 06:01:42 โดย destiny_of_b »

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 50th Game - Meeting

เ   ช้าวันจันทร์ วันนี้ไอ้เบนซ์คุณพี่ชายผมไม่มาโรงเรียนพร้อมพวกเรา เพราะวันนี้มันกับไอ้บาสหัวหน้าชมรมดุริยางค์ ต้องไปประชุมกับไอ้ปั๊ปหัวหน้าวงชมรมดุริยางค์โรงเรียนกางเกงสีน้ำตาลแถวถนนพระราม1 ที่ทั้งสองวงต้องแสดงร่วมกันในงานพิธิเปิดงานบอลประเพณีปีนี้

ผมกับไอ้บอสยังไม่ถึงหน้าโรงเรียนดี ไอ้บาสก็เดินสวนออกมา

“ไปประชุมเหรอวะ” ผมทักมัน
“เออดิ กรูเอาของมาเก็บแปปนึง” มันตอบกลับมา
“ไอ้เบนซ์ล่ะ” มันยังถึงพี่ชายผมที่มีศักดิ์เป็นรองหัวหน้าชมรมดุริยางค์
“ไปรอมรึงแล้ว” ผมตอบมันกลับไป
“ไอ้บาสกรูมีเรื่องจะถาม” สีหน้าผมเริ่มกรุ่มกริ่ม
“มรึงไปนั่งประชุมทำไมให้เสียเวลาส่งวะ” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์หลังจากถามคำถามนี้กับไป

 ไอ้บาสทำหน้าเหวอกับคำถามผม

“ทำไมวะ” มันทำหน้างงๆถามผมกับมา
“ก็มรึงไปนอนประชุมกับไอ้ปั๊ปง่ายกว่าเยอะ” เจอประโยคนี้เข้าไป เอาบาสยิ้มเขินๆทำหน้าไปไม่ถูก
“สาดด” ก่อนจะสบถด่าผมมา
“นี่มันเป็นทางพิธีการ ส่วนในทางปฏิบัติกรูนอนกล่อมไอ้บั๊ปไปหมดแระ ไม่ต้องรอให้มรึงบอกหรอก” ก่อนมันจะยกนิ้วทำท่ากดไลค์ ยิงฟันขาวส่งประกายวิ้งๆให้ผมหนึ่งที
“เออ งั้นกรูไปแล้ว เจอกันหว่ะ” ไอ้บาสเดินยิ้มแก้มแถบปริแยกจากพวกเราไป

ผมเข้ามาในโรงเรียนพร้อมกับไอ้บอส มันหันมาบอกกับผมก่อนที่ะแยกไป

“กลางวันอย่าลืมมาประชุมด้วยล่ะ” บอสหันมาบอกผม
“ประชุมไรวะ” ผมทำหน้าเหวอใส่มัน
“อ้าวไม่ได้อ่านหนังสือเรียกประชุมหัวหน้ากับรองหัวหน้าชมรมหรือ” ไอ้บอสทำหน้างงใส่ผม
“หืมม” ผมเอามือเกาหัวครุ่นคิด
“สงสัยยังไม่ได้เปิดอ่าน” ผมหัวเราะแฮ่ะๆ แก้ตัวกับมัน
“ดีนะที่เตือน กลางวันอย่าลืมล่ะห้องสภานะ” บอสย้ำผมอีกรอบก่อนจะขอแยกไปสภานักเรียน

สงสัยทั้งอาทิตย์มีหวังวุ่นวายกันทั้งโรงเรียนแน่ๆ ผมคิดในใจ เสาร์-อาทิตย์หน้าวันเปิดงานบอลแล้ว มีหวังประชุมสภานักเรียนวันนี้ต้องมีงานมอบหมายเพิ่มให้แน่ๆ

“เฮ้ยย เปงไงวะไอ้โบ้ท” เสียงไอ้แบงค์ทักทายมาแต่ไกล
“ทำหน้าเป็นลิงอีก” มันยังคงแซวผม
“ลิงพ่อง หล่อขนาดนี้” ผมก็เขวี่ยงหมาออกจากปากใส่มันบ้าง
“เออ กลางวันอย่าลืมไปประชุม” ไอ้แบงค์เตือน
“คือมรึงกับกรูต้องไปช่ายไหม” ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะต่อรองให้ไอ้แบงค์มันไป แต่วันนี้โดนไอ้บอส กำชับและดักคอเอาไว้ สงสัยจะเบี้ยวไม่ได้
“เออ ดิ เขาเขียนไว้ชัดเจน หัวหน้าชมรมกับรองหัวหน้าชมรม โว้ย” ไอ้แบงค์ได้ทีเสียงดังเยอะเย้ยผม มันคงสะใจที่คราวนี้ไม่ต้องไปนั่งประชุมคนเดียว

ตลอดคาบเช้ากลุ่มผมจากทั้งหมด 4 คนเหลือผมกับไอ้แบงค์นั่งเรียนแค่สองคน ไอ้บาสประประชุมกับวงดุริยางค์ ส่วนไอ้บูมก็ไปประชุมกับหัวหน้าชมรมเชียร์อีก 3 โรงเรียน ผมกับไอ้แบงค์ก็เลยต้องจดแลคเชอร์กับการบ้าน รายงานเผื่อพวกมัน อาทิตย์สุดท้าย ก่อนงานก็วุ่นวายกันทุกคน ส่วนมาสเซอร์ก็ยังคงสอนแถมให้งานอีกเป็นภูเขา ก็เลยต้องช่วยๆกัน

หลังจากรีบจ้วงข้าวกลางวันกับไอ้แบงค์เสร็จ ผมกับมันก็วิ่งไปที่ห้องสภานักเรียน แต่ผมไม่ลืมที่จะซื้อแฮมเบอเกอร์กับนมไปฝากไอ้บอส หมอนั่นคงทำงานจนลืมกินข้าวแน่ๆ แล้วก็เป็นจริงดังคาด เพราะเมื่อเปิดห้องสภานักเรียนเข้าไป ก็เห็นไอ้บอสกับอาร์ม นั่งเคลียร์งานกันอยู่ 2 คน คนอื่นๆคงประกินข้าวกัน ยังพอเหลือเวลาอีก 15 นาที เพราะนัดประชุมเวลา 12.30 น.

“มาแล้วเหรอครับโบ้ท” ไอ้บอสเงยหน้าทักผมเมื่อเห็นผมผลักประตูห้องเข้ามา
“กินก่อนเดี๋ยวจะไม่มีแรง” ผมยืนแฮมเบอร์เกอร์กับนมให้ไอ้บอส
“ขอบคุณมาก แล้วโบ้ททานยัง” บอสก็ยังคงห่วงใยผมเหมือนเคย
“กินกับไอ้แบงค์แล้ว” เสียงผมตอบไอ้บอสไป

ผมหันไปด้านซ้ายมือก็เห็นไอ้แบงค์หยิบถุงแฮมเบอร์เกอร์กับน้ำอัดลมออกมา
“กินก่อนดิ เดี่ยวเป็นลมเป็นแร้งไปนะ” ไอ้แบงค์ส่งถุงแฮมเบอเกอร์ให้ไอ้อาร์ม
“งืมม เป็นห่วงด้วย” หางเสียงไอ้อาร์มสูงขึน
“เดี๋ยวต้องผายปอดต่อหน้าไอ้บอสกับไอ้โบ้ทมัน” ไอ้แบงค์ไม่วายปล่อยหมาตัวเล็กๆ ในปากใส่ไอ้อาร์ม
“บ้า”ไอ้อาร์มทำปากรูปสระอิใส่ไอ้แบงค์
“ก็เป็นห่วงนี่  มีเมียจ๋ากะเค้าอยู่คนเดียวนี่” ตอนนี้ไอ้แบงค์เปลี่ยนจากหมาเป็นแมวขี้อ้อนไปซะงั้น เจอมุขนี้เข้าไปเป็นใครก็อดใจอ่อนกับไอ้แบงค์ไม่ได้เสียที

แล้วทั้งไอ้บอสและไอ้อาร์มก็วางมือ มาจัดการแฮมเบอร์เกอร์ เพราะเหลือเวลาอีกไม่เยอะก็ต้องประชุมกันแล้ว

พอถึงเวลาประชุมทั้งห้องก็เต็มไปด้วยหัวหน้าและรองหัวหน้าชมรมต่างๆ ของโรงเรียน เพราะผมแอบหนีประชุมบ่อยๆ โดยเฉพาะประชุมใหญ่ ส่งไอ้แบงค์มาประชุมตลอด เลยไม่ค่อยได้เห็นบรรยกาศแบบนี้สักเท่าไร

ไอ้บอสนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม โดยมีไอ้อาร์มนั่งข้างซ้ายตำแหน่งเลขาสภา

“สวัสดีหัวหน้าและรองหัวหน้าชมรมทุกท่าน วันนี้ที่เชิญทุกคนมาประชุมเพราะมีเรื่องที่จะแจ้งให้ทราบ” ไอ้บอสพูดผ่านไมโครโฟนเพื่อเปิดประชุม
“คงเป็นที่ทราบกันดีนะครับว่า งานบอลประเพณีนี้เริ่มวันแรกวันเสาร์ที่จะถึงนี้ จากนั้นพักอีก 2 วันจะเป็นงานวันที่ 2 ตรงกับวันอังคาร และวันศุกร์จะเป็นวันที่ 3และพิธีปิดถูกกำหนดเป็นวันเสาร์ของอาทิตย์ถัดไป”

ไอ้บอสหยุดจังหวะการพูดแปปนึง

“และเนื่องจากงานที่เราแบ่งกันไว้แต่แรก ที่แต่ละชมรมที่มีหน้าที่หลักสำหรับงานบอลประเพณี ยกตัวอย่างเช่น ชมรมฟุตบอล ชมรมเชียร์ ชมรมดุริยางค์ ชมรมถ่ายภาพ ชมรมวรสาร ชมรมคหกรรม ชมรมนิเทศศิลป์ มีงานที่ล้นมือและคาดว่าจะเสร็จไม่ทันวันเสาร์นี้ ซึ่งเป็นวันงานวันแรก”

บอสเงยหน้าขึ้นมองพวกเราโดยรอบ

“จึงต้องขอความร่วมมือจากชมรมต่างๆเข้ามาช่วยงานเพื่อให้งานเสร็จลุร่วงไปด้วยดี วันนี้ผมจึงต้องขอเชิญประชุมจากชมรมต่างๆ เพื่อของความสมัครร่วมมือของชมรมต่างๆที่จะเข้ามาช่วยงานในครั้งนี้ และแสดงความคิดเห็น ชี้แจ้ง ซักถามเกี่ยวกับงานที่ชมรมท่านได้รับมอบหมายไปนะครับ เดียวผมจะให้คุณญาณโชติ เป็นผู้แจกแจงงานต่างต่อไปในครับ ขอบคุณครับ”

ไอ้บอสพูดเปิดประชุมเสร็จ ก็ส่งไมค์ต่อให้ไอ้อาร์ม แจ้งต่อที่ประชุมว่าชมรมอื่นๆนอกจากชมรมหลักในงานบอลประเพณีครั้งนี้จะได้รับมอบหมายให้ช่วยงานด้านไหนต่อ

ซึ่งแน่นอนว่าคงจะหนีไม่ออกกันทุกชมรม เพราะงานบอลประเพณีนี้ก็เป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียน ก็คงต้องช่วยกันให้ถึงที่สุด และเป็นการรวมพลังสามัคคีของนักเรียนทั้งโรงเรียน

ชมรมหลักในงานบอลประเพณีที่มีงานล้นมือก็คือ

ชมรมฟุตบอล นำทีมโดยไอ้ไปป์กับไอ้นิว หัวหน้าและรองหัวหน้าชมรม ชมรมนี้มีหน้าที ที่จะต้องไป fight กับอีก 3 โรงเรียน เพราะกีฬาหลักและกีฬาเดียวของงานในครั้งนี้ พวกมันซ้อมกันมานานแล้วที่สำคัญโรงเรียนเราก็เคยเป็นแชมป์หลายสมัย

ชมรมดุริยางค์ โดยไอ้บาสหัวหน้าชมรมที่ปีนี้มันคงไม่ได้เป็นดัมเมเยอร์ซึ่ง 1 เพราะต้องถอยตัวเองมาดูภาพรวมทั้งหมด และไอ้เบนซ์คุณพี่ชายของผมรองหัวหน้าชมรมที่ต้องต้องมาคุมเรื่องดนตรีทั้งหมดของวง ที่ต้องรับหน้าทีหลักในพิธีเปิดและปิดของงานบอลประเพณีครั้งนี้

ชมรมเชียร์ ไอ้บูมเป็นหัวหน้าชมรม ไอ้เป็กรองหัวหน้าชมรมรับผิดชอบด้านสแตนเชียร์ ไอ้ไอซ์รองหัวหน้าชมรมอีกคนดูแลเรื่องเชียร์ลีดเดอร์ ไอ้มาร์ชรองหัวหน้าชมรมทีต้องดูแลขบวนพาเลซ ชมรมนี้ก็เป็นอีกชมรมที่มีบทบาทสำคัญในเกือบทุกงานกีฬาสำคัญๆของโรงเรียน แล้วยิ่งงานบอลประเพณีด้วยแล้ว ต้องไปประชันกับอีก 3 โรงเรียน ที่ก็ไม่มีโรงเรียนไหนยอมโรงเรียนไหนเหมือนกัน

ชมรมการแสดง นำทีมโดยไอ้โอ๊ตหัวหน้าชมรม และไอ้ปาล์มรองหัวหน้าชม รับผิดชอบเรื่องการแสดงในพิธีเปิดและพิธีปิดของโรงเรียนเรา ซึ่งต้องประสานกับอีกสามโรงเรียนเพื่อให้งานออกไปในทิศทางเดียวกัน

ชมรมคหกรรม นำโดยไอ้เบียร์หัวหน้าชมรมแล้วก็น้องอ๊อฟรองหัวหน้าชมรม ที่ดูและเรื่องอาหาร น้ำดื่มทั้งหมดในวันงาน ซึ่งต้องดูแลคนบนแสตนและทีมงานทั้งหมด ซึ่งถือเป็นงานใหญ่สำหรับชมรมมาก เพราะจำนวนอาหารชุดที่จะต้องทำคูณ 2 มื้อเป็นอย่างน้อย นั่นคงทำเอาสมาชิกทุกๆคนของชมรมนี้ไม่มีเวลาเงยหัวขึ้นมาจากหน้าเตาแก๊สแน่ๆ

ชมรมดนตรี นำทีมโดยไอ้บิวหัวหน้าชมรมกับไอ้เฟียตรองหัวหน้าชมรม ที่ต้องร่วมงานกับอีก 3 โรงเรียนจัดการแสดงดนตรีตอนพักครึ่งที่เป็นการแสดงดนตรีสดระหว่างพักครึ่งคู่บอลคู่เปิดและคู่ปิดสนามรอบชิงชนะเลิศ

ชมรมถ่ายภาพ นำทีมโดยไอ้เบลที่ต้องเกณฑ์คนทั้งชมรม กระจายกับเก็บทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ของทั้งงาน โดยจะต้องทำงานร่วมกับชมรมวารสาร

ชมรมวารสาร ที่ไอ้วินรับผิดชอบอยู่ที่ต้องรวบรวมและสรุปงานทั้งหมด รวบรวมภาพบรรยากาศทุกอย่าง ลงมาอยู่ในวารสารรายปักษ์ โดยได้ชมรมถ่ายภาพเป็นคนเก็บภาพให้

ชมรมนิเทศศิลป์ นำทีมโดยไอ้เพนท์ รับผิดชอบเรื่องการตกแต่งสแตน และช่วยชมรมเชียร์ในเรื่องการแปลอักษรทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับงานของชมรมนี้

ไอ้อาร์มเริ่มแจงงานที่ต้องขอความร่วมมือเพิ่มเติมจากชมรมอื่นๆ

ชมรมเทนนิสขอให้เข้ามาช่วยงานที่กองอำนวยการ (ฝ่ายควบคุม)

ชมรมกีฬาอื่นๆจะถูกให้มาช่วยงานด้านสวัสดิการณ์ของชมรมเชียร์ทั้งหมดได้แก่ชมรมว่ายน้ำ,ชมรมบาสเก็ตบอล,ชมรมกรีฑา,ชมรมวอลเล่ย์บอล,ชมรมเซปักตระกร้อ,ชมรมแบดมินตัน,ชมรมเทควันโด,ชมรมกีฬา X-Game(ชมรมไอ้เบสต์)

ส่วนชมรมศิลปะของไอ้อาร์ทถูกมอบหมายให้ไปช่วยชมรมนิเทศศิลป์(ชมรมไอ้เพนท์)เรื่องการแปลอักษรและตกแต่งสแตนเชียร์ ที่งานส่วนนี้ยังล่าช้าอยู่มาก

ส่วนชมรมด้านภาษาถูกโยกให้ไปช่วยงานเรื่องฝ่ายเทคนิคได้แก่ ชมรมภาษาอังกฤษ,ชมรมภาษาฝรั่งเศส,ชมรมภาษาจีน,ชมรมภาษาญี่ปุ่น,ชมรมภาษาไทย

หลังจากแจกงานเสร็จ จากการประชุมใหญ่ ก็จะกลายเป็นการประชุมย่อยของแต่ละกลุ่มงานที่ได้รับมอบหมายกับตัวชมรมหลัก เพื่อแจกแจงรายละเอียดต่างๆ เพื่อที่จะทำงานให้ออกมาดีที่สุด

ว่าแต่ทำไมชมรมเทนนิสต้องไปช่วยงานกองอำนวยการด้วยวะ ส่วนชมรมกีฬาอื่นๆทำไมไปช่วยงานวัสดิ์การ แล้วผมก็ถึงบางอ้อ เมื่อเข้ามาประชุมกลุ่มกับกองอำนวยการ(ฝ่ายควบคุม) เพราะคนที่ควบคุมและดูแลงานกองอำนวยการทั้งหมดคือไอ้บอสนั่นเอง

Game
See You Next Game

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เด็กๆโรงเรียนชายล้วนเวลาเค้าจัดงานบอลทีนี่ยุ่งยากกันขนาดนี้เลยเรอะ
ทำกันเป็นระบบเชียว

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 51st Game  – Run through

ตลอดอาทิตย์นี้ ทุกคนที่มีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาวิ่งกันให้วุ่น ยังดีที่มาสเซอร์งดการเรียนการสอนช่วงบ่ายทั้งอาทิตย์ เพื่อให้นักเรียนได้ช่วยกันเตรียมงานกัน ไอ้บาสกับเบนซ์ ถ้าไม่ไปประชุมกับโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำตาลแถวถนนพระราม1 ก็แถบจะคลุกอยู่ที่สนามกีฬา เสียงดนตรีจากวงโยฯ ดังตลอดช่วงบ่าย

ส่วนชมรมเชียร์ของไอ้บูมก็มีคนเข้าคนออกตลอดเวลา เพราะชมรมนี้มีหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งสแตน ทั้งเชียร์ลีดเดอร์ ทั้งขบวนพาเลซ ทำให้คึกคักตลอดเวลา รวมทั้งพวกชมรมหลักอื่นๆ ก็ต้องประสานงานกับชมรมเชียร์เป้นหลัก

ผมกับไอ้แบงค์ ไอ้บีม ไอ้ไบร์ท ก็แถบจะย้ายจากห้องชมรมเทนิสมาสิงกันอยู่ที่ห้องสภานักเรียนที่แถบจะเหลือแค่ไอ้บอสกับไอ้อาร์ม เพราะคนอื่นๆในสภาต้องกระจายงานกันไปทำ

“โบ้ท เตรียมนี่ให้บอสหน่อย” ไอ้บอสส่งเอกสารเตรียมการประชุมวันพรุ่งนี้มาให้
“โห่ จะเสร็จไหมวันนี้” ผมบ่นมันกลับไป
“เสร็จดิ ถ้าตั้งใจทำหน่ะ” มันหันมายั่วผมตามสไตล์
“โห่ นี่ไม่ตั้งใจตอนไหนอ่ะ ทำจนตัวจะเป็นเกลียวหัวเป็นจะน็อตอยู่แล้ว” ผมก็บ่นไปอย่างนั้น เพราะยังไงก็ต้องทำหนีไม่รอดอยู่แล้ว

ไอ้บอสยิ้มยิงฟันขาวใส่ผมเพราะตอนนี้ผมก็เป็นเบ้มันสมใจ

ผมเหลือบไปเห็น ไอ้แบงค์กับไอ้อาร์ม หัวเราะกันเบาๆ เมื่อเห็นผมสองคนเถียงกัน ปกติไอ้แบงค์ถึงแม้จะเป็นรองหัวหน้าชมรม แต่ก็เหมือนเป็นเลขาผมกลายๆ ส่วนไอ้อาร์มก็เป็นเลขาโดยตรงอยู่แล้ว ไอ้แบงค์ดูสะใจนิดที่เห็นผมโดนไอ้บอสสั่งงาน เพราะปกติมันเห็นแต่ผมสั่งงานมัน แต่เที่ยวนี้ผมเป็นคนโดนส่งงานแทน

ไอ้บีมกับไอ้ไบร์ทกำลังง่วนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กับการกรอกข้อมูลลง Excel กับบิลค่าใช้จ่ายต่างๆกองโตวางอยู่หน้าพวกมัน แถมบ่ายนี้ผมต้องโดนคุณประธานสภาลากไปประชุมกับอีกสามโรงเรียนอีกด้วย

.............

พวกเราออกจากห้องประชุมรวมทั้ง 4 โรงเรียนก็ปาไปเกือบ สองทุ่มผมนี่ตาเกือบลายเพราะความหิว

“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมครับ” ไอ้บอสถามผมด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“หิวมากกว่า ตอนนี้กินช้างได้ทั้งตัวแล้ว” ผมบ่นกับไอ้บอสด้วยความหิว
“อยากทานอะไรล่ะ เดี๋ยวบอสเลี้ยง” ไอ้บอสใจดีเหมือนเคย
“กินไรดีน้า” ผมทำท่าครุ่นคิด
“ก๋วยเตี๋ยวตีนไก่ข้ามฝากไหม” ผมชวนบอส เพราะอยากกินมานาน
“เอาดิ” ไอ้บอสตอบตกลง ก่อนจะหันไปชวนไอ้อาร์มกับไอ้แบงค์

ก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้านี้เป็นร้านอร่อย อยู่สองฝากถนนคือมีเก้าอี้นั่งทั้งสองฝั่งถนน เวลาสั่งเด็กสั่งจะตะโกนสั่งข้ามถนนกันเลย ร้านอยู่หน้าธนาคารกสิกรไทย สุรวงศ์ ปากทางพัฒน์พงศ์  ที่เด็ดคือตีนไก่เจ้านี้ พอตักเข้าปากก็สามารถเอาลิ้นดุนกระดูกออกมาได้เลย เพราะตุ๋นจนเปื่อยได้ที่ รสชาติเยี่ยม

พวกเราทั้งสี่คน มาถึงร้านก็สั่งก๋วยเตี๋ยวเบิ้ลกันคนละ 2 ชาม ไอ้แบงค์ไม่เคยมากินที่ร้านนี้ เลยสั่งเกาเหลาตีนไก่มาอีกชาม สรุปว่าพุ่งกางกันทั้งสี่คน แถมผมยังซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากป๊ากับม๊าแล้วก็ไอ้เบนซ์อีก เพราะที่บ้านชอบก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้กัน หลังจากที่บอสจ่ายค่าเสียหายค่าก๋วยเตี๋ยวเสร็จ พวกเราก็เดินลัดเลาะผ่านย่านบันเทิงชื่อดังของกรุงเทพตัดข้ามมายังฝั่งสีลม ก่อนจะไปรอขึ้น BTS ที่สถานีศาลาแดง ไม่นานรถไฟฟ้าก็มาถึงสถานีกรุงธนบุรี ไอ้แบงค์กับไอ้อาร์มก็ขอแยกกลับคอนโดฯ มันผมกับไอ้บอสนั่งกันมาอีกสถานีก็ถึงสถานีวงเวียนใหญ่

...........

กลับมาถึงบ้านไอ้บอสตอน 22.00 ผมช่วยบอสเก็บเสื้อผ้า เพราะเดี๋ยวบอสจะไปนอนบ้านผม พอเก็บของเสร็จผมกับบอสเดินลงมาข้างล่าง

“ป้านิดครับเดี๋ยวผมไปนอนบ้านโบ้ทนะครับ” บอสพูดกับป้านิดที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน
“ค่ะ แล้วคุณบอสจะกลับวันไหนคะ” ป้านิดถามไอ้บอส
“ช่วงนี้ยุ่งๆ อ่ะป้านิด งานที่บอลจะเริ่มวันเสาร์นี้แล้ว อาจจะหลายวันหน่อยนะครับ ฝากบอกพ่อกับแม่ด้วยนะครับ” ไอ้บอสพูดจบก็เดินเข้าไปสวมกอดป้านิด แล้วก็อ้อนป้านิดเป็นเด็กๆ
“ได้ค่ะ คุณบอส” ป้านิดยังพูดไม่ทันจบก็โดนเจ้าบอสหอมไปฟอดใหญ่
“อุ้ย คุณบอส ทำคนแก่ตกอกตกใจหมด” ป้านิดอุทาน
“ขอบคุณครับป้า” ไอ้บอสอ้อนป้านิดทีไร ป้านิดเสร็จทุกที

ไม่นานรถ BMW X1 SUV คันหรูของไอ้บอสก็แล่นออกจากบ้านอรรถกร ที่มีต้นเหลืองอินเดียต้นใหญ่อยู่หน้าบ้าน ลัดเลาะออกมาจากซอยเลี้ยวซ้ายที่ถนนกรุงธนบุรีไปไม่นานก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขสวัสดิ์ สุดท้ายก็มาถึงบ้านสุขอนันต์ ที่อยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 23  บ้านนี้จำง่ายเพราะมีต้นชมพูพันธ์ทิพย์ยืนเด่นอยู่ที่หน้าบ้าน พอลงจากรถ ไอ้มะกรูดกับมะนาว ก็วิ่งมาต้อนรับ สั่นหางกันระริก เมื่อเห็นเจ้านายของมันกลับมา

ไอ้เบนซ์กับป๊ากับม๊านั่งดูทีวีอยู่ที่โต๊ะรับแขกกันพร้อมหน้าพร้อมตา
“ป๊าม๊า หวัดดีครับ” ผมกับไอ้บอสยกมือไหว้สวัสดีท่าน
“อ้าวกลับมาแล้วเหรอลูก” ม๊าทักทายพวกเรา
“โบ้ทซื้อนี่มาฝากครับ” ผมโชว์ถุงก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยที่ตั้งใจซื้อมาฝากทุกคน
“หูย น่ากินอ่ะ” ไอ้เบนซ์แค่เห็นถุงก็จำได้ทันทีว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวร้านไหน
“เดี๋ยวผมไปจัดโต๊ะก่อนนะครับ” ไอ้บอสคว้าถึงก๋วยเตี๋ยวเดินเข้าไปในครัว โดยมีผมเดินตามไปช่วย

......

หลังจากจัดการก๋วยเตี๋ยวกันเรียบร้อย ผมกับไอ้บอสขอตัวไปอาบน้ำกันก่อน

“เหนื่อยไหมครับ” ไอ้บอสถามผมตอนกำลังเอามือขยี้ฟองแชมพูให้ผม
“ไม่อ่ะ บอสล่ะเหนื่อยหรือเปล่า” ผมลืมตาข้างหนึ่งถามไอ้บอสกลับไป
“นิดหน่อย แต่มีโบ้ทอยู่ข้างๆ ก็ไม่เหนื่อยแล้ว” แล้วผมก็โดนยิงโดยรอยยิ้มพิฆาตของไอ้บอส แล่นเอาผมไปไม่เป็น ได้แต่อมยิ้มเพราะโดนหยอดอีกแล้ว
“มิน่า เอาชมรมเทนนิสมาอยู่กองอำนวยการก็เพราะอย่างนี้นี่เอง” ผมดักคอไอ้บอสไปอย่างรู้ทัน
“ก็ทำไมอ่ะ ก็อยากอยู่ใกล้ๆโบ้ทนี่” ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรตอบกลับไป เพราะถูกน้ำจากฝักบัวในมือไอ้บอส ล้างแชมพูที่ผมผมเสียก่อน

อาบน้ำกันเสร็จก็เตรียมตัวเข้านอนกัน พรุ่งนี้เป็นวันซ้อมใหญ่ ต้องมีงานล้นมือแน่ๆ นอนเอาแรงไว้ก่อน เพราะคาดว่าคืนพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้นอน อาจจะต้องเตรียมแก้ไขข้อบกพร่องที่ได้จากวันซ้อมใหญ่กันอีก

“ฝันดีนะครับโบ้ท” ไอ้บอสกระซิบข้างๆหู
“ฝันดีเหมือนกันนะครับบอส” ผมบอก Good night บอส

…………

แล้ววันซ้อมใหญ่ก็มาถึง สถานที่จริงที่สนามกีฬาแห่งชาติย่านปทุมวัน ดูยิ่งใหญ่และอลังการมาก ทุกคนทุกฝ่ายที่มีส่วนในพิธีเปิดวิ่งกันชุลมุลไม่เฉพาะแต่โรงเรียนผม โรงเรียนอื่นๆก็วุ่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะชมรมเชียร์ที่ไอ้บูมคุมหัวเรือใหญ่อยู่ ชมรมดุริยางค์ที่ไอ้บาสเตรียมตัวอยู่ด้านข้างสนาม เสียงวิทยุสื่อสารสั่งงานดั่งกันไม่ขาดสาย ห้องควบคุมถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน โดยแต่ละโรงเรียนได้ไปคนละส่วน มีมอนิเตอร์เรียงกันเป็นแถวในแต่ละส่วน

ผมอยู่ในห้องควบคุมฝั่งโรงเรียนของเรากับคุณชายบอสที่สวมเฮดโฟนนั่งดูมอนิเตอร์ อีกมือก็ถือวิทยุสื่อสารในการสั่งงาน สต๊าฟฝ่ายงานควบคุมนั่งจ้องมอนิเตอร์กันตาไม่กระพริบ เพราะอยากให้งานพลาดน้อยที่สุด

“บาส ปล่อยวงดุริยางค์เข้ามาได้แล้ว” เสียงไอ้บอส ว. สั่งการ
“รับทราบ” ไอ้บาสตอบกลับมา

แล้ววงดริยางค์ผสมระหว่างโรงเรียนเรากับโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำตาล ก็เริ่มบรรเลงเพลงมาร์ชประจำงานแข่งขันและเดินแถวเข้ามา

“มาร์ชครับขบวนพาเลซพร้อมหรือยังครับ” ผม ว. ถามไอ้มาร์ชที่รับผิดชอบขบวนพาเลซ
“พร้อมครับ” เสียงไอ้มาร์ช ว.ตอบกลับมา
“ถ้าพร้อมแล้วปล่อยเข้ามาได้เลยครับ” ผมตอบ ว. ไอ้มาร์ชกลับไปขบวนพาเลซของโรงเรียนเราก็เดินเข้าสู่สนาม ปีนี้เน้นสวยงาม ไม่หวือหวามาก แต่ก็ยังคงเสน่ห์ของขบวนพาเลซไว้ครบครัน
“ขบวนนักกีฬาเตรียมตัวปิดท้ายนะครับ” เสียงไอ้บอสสั่งการผ่าน ว. ไปไม่นานขบวนนักีฬาฟุตบอลทีมโรงเรียนเราก็เดินเข้าสู่สนามอย่างเต็มภาคภูมิ

“โอ๊ตครับ เตรียมพร้อมนะครับ” ไอ้บอส ว. สั่งการไอ้โอ๊ตหัวหน้าชมรมการแสดงที่รับผิดชอบการแสดงในพิธีเปิดของโรงเรียนเรา
“ให้คิวได้ตลอดเวลา” ไอ้โอ๊ต ว. กลับมา หลังจากไอ้บอสปล่อยคิว การแสดงของโรงเรียนเราใช้เวลาประมาณ 7 นาทีโดยประมาณก็เสร็จสิ้น

พอซ้อมพิธีการกันเสร็จเรียบร้อย ก็เป็นงานของชมรมเชียร์แต่ละโรงเรียนซ้อมใหญ่ ไอ้บูมหัวหน้าชมรมเชียร์วิ่งหอบแฮ่ก เข้ามาที่ห้องควบคุม ตามาด้วยไอ้เพนท์หัวหน้าชมรมนิเทศศิลป์ที่รับผิดชอบเรื่องการแปลอักษร ไอ้บูมกับไอ้เพนท์ประจำมอนิเตอร์เพราะมันรับผิดชอบภาพรวมทั้งหมด

“สแตนพร้อมนะครับ” ไอ้บูม ว. สั่งงานไอ้เป็กรองหัวหน้าชมรมที่รับผิดชอบสแตนเชียร์
“พร้อมครับ” ไอ้เป็ก ว.กลับมา
“รีดเดอร์พร้อม” ไอ้บูม ว. สั่งงานไอ้ไอซ์รองหัวหน้าชมรมที่รับผิดชอบเรื่องเชียร์รีดเดอร์
“พร้อมครับ” ไอ้ไอซ์ ว.ตอบกลับมา
“เริ่มได้เลยครับ” เสียงไอ้บูมสั่งงานผ่านวิทยุสื่อสารไป

ไอ้บอสนั่งเช็คดูภาพรวมทั้งหมดอีกที การซ้อมเป็นไปอย่างราบรื่น ติดขัดเรื่องการแปลอักษรนิดหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะแก้ไขให้สมบูรณ์ได้ ทุกคนพยายามกันอย่างเต็มที ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง รวมทั้งพี่ๆศิษย์เก่าที่แวะเวียนมาช่วยงานกันอย่างเต็มที่

......

หลังจากปล่อยน้องๆลงจากสแตนกลับบ้านกันเรียบร้อย ก็เป็นการซ้อมแสดงดนตรีของชมรมดนตรีนำทีมโดยไอ้บิวที่รับผิดชอบส่วนของโรงเรียนเรา โดยเวทีอยู่ตรงการสนาม มีสี่เวทีที่หันหน้าออกสี่ทิศ โดยโรงเรียนเราหันหน้าทางทิศใต้ ส่วนทิศเหนือเป็นของโรงเรียนกางกางสีดำแถวๆพาหุรัด นำทีมโดยไอ้ริว ที่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แฟนไอ้บิวนั่นแหละครับ

การซ้อมใหญ่ของทุกอย่างเสร็จก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว

“กลับไปประชุมสรุปงานวันนี้ที่ห้องสภา เวลา 20.30 นะครับ” ไอ้บอส ว.สั่งการทุกคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง

.......

กว่าจะประชุมทุกอย่างเสร็จ กว่าจะได้ข่มตานอนก็เกือบจะ 03.00 ของเช้าวันใหม่กันแล้ว หลับกันได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องมาเก็บงานกันแต่เช้าอีกรอบ ผมเห็นแล้วก็เหนื่อยแทนไอ้บอสจริงๆ เพราะต้องรับผิดชอบภาพรวมทุกอย่าง ต้องประสานงานกับทุกฝ่าย ไม่เพียงแต่โรงเรียนเราแต่รวมถึงอีก 3 โรงเรียนด้วยที่ไอ้บอสต้องพูดคุยด้วย

ผมนอนมองหน้าเด็กหนุ่มที่หลับสนิท ใบหน้าคมสันต์ ดวงตายาวรี ขนตาหนาเป็นแผง ริมฝีปากได้รูปสวยที่นอนอยู่ข้างๆผมอย่างภาคภูมิใจ......

Game
See You Next Game

------------------------------------------------------
ตอบคอมเมนท์ครับ

ตอบคอมเมนท์คุณ titansyui
ขอบคุณสำหรับ ดุ๊กดิ๊ก นะครับ แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านด้วยนะครับ^^

ตอบคอมเมนท์คุณ IsDeer
น่าจะยุ่งแบบนี้แหละครับ ไหนจะแปลอักษร ไหนจะเชียร์ ไหนจะขบวนพาเลซ คงวุ่นวายกันน่าดูครับ^^
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์นะครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2015 09:29:21 โดย destiny_of_b »

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 52nd Game  – Opening ceremony

“โบ้ทครับ ตื่นไหวมั้ยครับ” เสียงไอ้บอสปลุกผม
“อืม..” เสียงงัวเงียในลำคอของผมตอบมันกลับไป
“ไปล้างหน้าแปรงฟันครับ” ไอ้บอสบอกผม
 
ผมหลี่ตาลงเมื่อแสงไฟที่บอสเพิ่งเดินไปเปิดสว่างขึ้น ผมเอามือขึ้นมาขยี้ตาไล่ความง่วง ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นมานั่งบนเตียง บอสเดินเอาผ้าเช็ดตัวมาพาดไว้ที่บ่าผม ผมดันตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ ที่วันนี้ต้องตื่นเช้าเพราะว่าต้องไปเตรียมพร้อมที่สนามกีฬาแห่งชาติ เพราะบ่ายนี้จะมีพิธีเปิดงานบอลประเพณีของทั้ง 4 โรงเรียนชายล้วนเก่าแก่ของกรุงเทพครับ

จริงๆแล้วเมื่อคืนกะว่าจะกลับมาเอาเสื้อผ้าที่บ้านแล้วกลับไปนอนที่ห้องสภา แต่พอมาถึงบ้าน ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ เลยเผลอหลับไป ไอ้บอสเลยเปลี่ยนแผนนอนที่บ้านที่บ้านผมและออกไปที่สนามกีฬากันแต่เช้าแทน

ผมกับไอ้บอสแล้วก็ไอ้เบนซ์เดินทางมาถึงสนามกีฬา ไอ้เบนซ์แยกไปเตรียมตัวกับไอ้บาสและพวกชมรมดุริยางค์ ส่วนผมกับไอ้บอสตรงมาที่ห้องควบคุม ก็เจอไอ้อาร์มอยู่กับไอ้แบงค์แล้ว ไอ้บีมกับไอ้ไบร์ทก็มาพร้อมกันหมดแล้ว วันนี้ห้องควบคุมคึกคักกันแต่เช้า เพราะทุกโรงเรียนมาเตรียมพร้อมกันหมด ทุกคนดูกระตือรือร้นและตื่นเต้นกันมากกับงานในบ่ายวันนี้

......

กองเชียร์แต่ละโรงเรียนเริ่มทยอยกันขึ้นอัฒจรรย์ไม่นานก็เต็มทั้ง 4 อัฒจรรย์ เสียงเพลงเชียร์เริ่มขึ้น เชียร์รีดเดอร์ลงมาทำหน้าที่หน้าสแตนเชียร์ การสั่งการผ่าน ว. มีอยู่ตลอดเวลา บอสยังคงนั่งเฝ้าหน้ามอนิเตอร์ ผมเห็นไอ้บูมยืนสั่งงานอยู่หน้าอัฒจรรย์

“เชียร์เรียกฝ่ายควบคุม” เสียงไอ้บูม ว.เรียกมาที่ฝ่ายควบคุม
“ควบคุมครับ เชียร์” บอสตอบ ว.ไอ้บูมกลับไป
“จะเริ่มแปรอักษร ช่วยเช็คความเรียบร้อยด้วยครับ” ไอ้บูมฝากงานมาทางวิทยุ
“รับทราบครับ”

จากนั้นบนอัฒจรรย์เริ่มส่งสัญญาณการแปรอักษร ทั้งอัฒจรรย์เปลี่ยนเป็นรูปภาพสัญญาลักษณ์งานบอลประเพณี จากนั้นเปลี่ยนเป็นรูปตราโรงเรียน และเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามที่ได้แผนที่วางกันไว้อย่างราบรื่น

.....

พอใกล้ๆเที่ยง ในมอนิเตอร์ผมเห็นไอ้เบียร์หัวหน้าชมรมคหกรรม วุ่นวายอยู่กับขนอาหารกลางวันอยู่กับพวกสวัสดิการ
“อย่าลืมมื้อกลางวันของฝ่ายควบคุมด้วยนะครับ เบียร์” ไอ้บอส ว.ไปแซว
“ไม่ลืมแน่นอนครับ แต่เดี๋ยวขอแว่ปไปส่งของดุริยางค์ก่อนนะ” ไอ้เบียร์ ว. กลับมาตอบ เป็นคำตอบที่ไอ้บอสเองก็อดหัวเราะไม่ได้
“แหม่ๆ ใช่สิ” ไอ้บอสลากเสียงยาวผ่าน ว.ไป
“ฮะแฮ่ม” เสียงกระแอมผ่านว.มาจากฝ่ายดุริยางค์
“ก็ตามความสำคัญนะครับ” เสียงไอ้บาสแซวกลับมาผ่านวิทยุ
“ความสำคัญของงานหรือความสำคัญของใจครับ” ไอ้อาร์ม ว. แหย่ชมรมดุริยงค์ เล่นเอาฮา เสียงแซวผ่านมาทางวิทยุสื่อสารจากฝ่ายต่างๆให้ระงม

.......

เสียงพิธีกรของงานเริ่มประกาศเริ่มงานพิธีเปิดก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยขบวนธงของทั้งสี่โรงเรียน เดินเข้าสู่สนาม ตามมาด้วยวงดุริยางค์ผสมระหว่างโรงเรียนเรากับโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำตาล ก็เริ่มบรรเลงเพลงมาร์ชประจำงานแข่งขันและเดินแถวเข้ามา พอขบวนดุริยางค์ผ่านไป ก็ตามมาด้วยขบวนพาเลซของโรงเรียนเรา แล้วก็ขบวนพาเลซของอีก 3 โรงเรียนที่เหลือ ปิดท้ายด้วยขบวนนักีฬาของทั้ง 4 โรงเรียน

ท่านประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน จากนั้นเป็นการแสดงเปิดงานของทั้ง 4 โรงเรียน โดยเริ่มจากโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนแรก 

“ควบคุมถึงฝ่ายการแสดง พร้อมหรือยังครับ” ผม ว.ถามไอ้โอ๊ตหัวหน้าชมรม
“พร้อมครับ” ไอ้โอ๊ต ว.กลับมา
“พร้อมแล้วเริ่มได้เลยครับ” ผมให้คิวไอ้โอ้ตเริ่มการแสดงของโรเงรียนเรา

บนอัฒจรรย์มีการแปรอักษรของโรงเรียนเราประกอบกับการแสดงของทีมไอ้โอ้ตด้วย

หลังจากเสร็จจากพิธีเปิด ฟุตบอลคู่เปิดสนามก็เริ่มต้นขึ้น คู่เปิดสนามเป็นคู่ของโรงเรียนเรากับโรงเรียนเด็กกางเกงสีน้ำตาลแถวๆถ.พระรามหนึ่ง อีกคู่เป็นโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำเงินแถวๆบางรัก กับโรงเรียนเด็กกางเกงดำแถวๆพาหุรัด การแข่งขันเป้นแบบพบกันหมด แล้วเอาคะแนนสูงสุดสองอันดับแรก เป็นคู่ชิงชนะเลิศในวันปิดการแข่งขัน และคะแนนลำดับสามกับสี่เป็นคู่ชิงที่สาม

.....

เสียงพิธีการเริ่มแนะนำตัวนักกีฬาของทั้งสองโรงเรียนที่จะเตะเปิดสนาม เสียงตบมือดังก้องไปทั้งสนาม ไอ้ไปป์หัวหน้าชมรมฟุตบอลและกัปตันทีม แลกของที่ระลึกกับทีมคู่แข่ง หลังจับไม้จับมือกันเรียบร้อย ก็มายืนถ่ายรูปกับทีมนักฟุตบอลโรงเรียนเรา แล้วการแข่งขันในครึ่งแรกก็เริ่มต้นขึ้น

การแข่งขันผ่านไปได้เพียง 10 นาที เสียงกองเชียร์โรงเรียนเราก็เฮกันลั่น เมื่อไอ้ไปป์ทำประตูแรกให้กับทีมฟุตบอลโรงเรียนเราได้สำเร็จ แล้วทั้งสองทีมก็ผลัดกันรุกผลัดกันรับกันอย่างสนุก แต่ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้จนหมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก

ระหว่างพักครึ่งเป้นการแสดงดนตรีของชมรมดนตรีของทั้ง 4 โรงเรียน โรงเรียนเราชมรมดนตรีรับผิดชอบงานในส่วนนี้ แล้วไอ้บิวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง วงโรงเรียนเราเล่นได้ดีไม่แพ้โรงเรียนอื่นๆ ปิดท้ายการแสดงการร้องเพลงรวมของทั้ง 4 วง โดยที่นักร้องนำของทั้ง 4 โรงเรียนแบ่งท่อนกันร้อง เป็นเพลงที่มีความหมายดีเพลงนี้

รอนแรมมาเนิ่นนานเพียงหนึ่งใจ
กับทางที่โรยเอาไว้ด้วยขวากหนาม
สุดแหลมคม ทิ่มแทง จนมันแทบจะทนไม่ไหว
ชีวิต ถ้าไม่ยากเย็นขนาดนั้น
สองมือจะมีเรี่ยวแรงขนาดไหน
แต่หัวใจของคน ยังยืนยันจะไม่ถอดใจ

ในค่ำคืนที่ฟ้านั้นไม่มีดาว อยู่ตรงนี้
ฉันยังคงก้าวไป ยังคงมีรักแท้
เป็นแสงนำไปในคืนที่หลงทาง

วัน เวลาไม่เคยจะหยุดเดิน
อย่างไรเราคงต้องเดินไปกับมัน
เก็บทุกความผิด พลั้งเป็นคำเตือนให้เราเข้าใจ
ชีวิตเริ่มต้นที่คำว่าฝ่าฟัน ขอเพียงใจเราเท่านั้นไม่หวั่นไหว
บทชีวิตของเรา เราจะทำให้มีความหมาย

ในค่ำ คืนที่ฟ้านั้นไม่มีดาวอยู่ตรงนี้ ฉันยังคงก้าวไป
ยังคงมีรักแท้ เป็นแสงนำไปในคืนที่หลงทาง
กับที่ๆความฝันนั้นพร้อมเป็นเพื่อนตายเส้นทางนี้
ฉันยังมีจุดหมาย ตราบใดที่ปลายท้องฟ้ามีแสงรำไร
จะไปจนถึงแสงสุดท้าย

ความเดียวดาย ในคืนเหน็บหนาว
แหงนมองฟ้ายังนึกถึงวันเก่า
มันคงชินที่ทางยาวไกล กร่อนหัวใจ
ภาวนากับความมืดมิด ขอให้รักยังคุ้มครองเราอยู่
เติมคืนวันให้ใจดวงนี้ ไม่ยอมแพ้

เสียงตบมือและโห่ร้องดังก้องสนามเมื่อเพลงจบลง เป้นความประทับใจที่จับใจทุกคนในสนาม รวมทั้งผมกับบอสด้วย “ยังคงมีรักแท้ เป็นแสงนำไปในคืนที่หลงทาง” ไอ้บอสหันมามองหน้าผมทุกครั้งที่ท่อนนี้วนกลับมา

ฟุตบอลครึ่งหลังก็ยังสนุกไม่แพ้ครึ่งแรก แถมโรงเรียนเรายังทำประตูเพิ่มได้อีก 1 ลูก ผลการแข่งขันทีมโรงเรียนชนะไปด้วยสกอร์ 2 – 0 สร้างความดีใจให้กับของเชียร์ของเราเป็นอย่างมาก ที่อัฒจรรย์มีการบูมขอบคุณนักฟุตบอล นักฟุตบอลมายืนเข้าแถวกอดคอกันหน้าสแตนเชียร์ กองเชียร์และเชียร์ลีดเดอร์ทั้งรุ่นปัจจุบันและรุ่นพี่ บูมเพลงประจำโรงเรียนขอบคุณนักกีฬา ทำเอาพวกเราขนลุกกับความคลั่งและความยิ่งใหญ่ของพลังของโรงเรียน พอบูมกันเสร็จนักกีฬาก็จะแยกย้ายกันไป ประชุมสรุปผลการแข่งขันและไปพักผ่อนหลังจากเสร็จภาระกิจวันนี้

............

แต่งานของส่วนเชียร์ กับส่วนควบคุมยังไม่แล้วเสร็จ จะเสร็จก็ต่อเมื่อส่งน้องๆกองเชียร์เดินทางกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว บนอัฒจรรย์น้องๆกองเชียร์เริ่มทยอยลง เมื่อบอลคู่สุดท้ายระหว่าง โรงเรียนเด็กกางเกงสีดำแถวๆพาหุรัดกับเด็กกางเกงสีน้ำเงินแถวบางรักแข่งเสร็จลง

“ประชุมรวมทุกฝ่ายที่หน้าสแตนเชียร์นะครับ” ไอ้บอส ว. บอกทุกฝ่าย

ตอนนี้หน้าอัฒจรรย์เต็มไปด้วยทุกฝ่ายที่ได้รับมอบหมายงานไปมาสรุปงานในวันนี้ แต่ชมรมฟุตบอลมีไอ้ไปป์มาเป็นตัวแทนชมรมคนเดียว ผมยกมือทักทายไอ้โอมกับไอ้เกมส์และได้แดนที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากที่พวกเราประชุมเท่าไรนัก มันสองคนมารอรับไอ้บีมกับไอ้ไบร์ทส่วนไอ้แดนคงมารอไอ้เบสต์

ผมยกมือรับไหว้แถบไม่ทัน เมื่อหันไปเห็นไอ้บัดกับไอ้คริสแล้วก็ไอ้บอลนั่งอยู่อีกไม่ไกลกันนัก ไอ้บัดมาจากพัทยา ไอ้บอลมันเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนกางเกงสีน้ำตาลแถวๆวัดยานนาวาอยู่แล้ว ไม่แปลกเท่าไรที่มันจะมาดู ส่วนไอ้คริสคงโดนไอ้บัดลากมา เอ๊ะหรือมันยากมาเองก็ไม่รู้ 555+

ไอ้เบลหัวหน้าชมรมถ่ายภาพ วันนี้มันยืนเก็บภาพมาตั้งแต่เริ่มงาน แต่ไอ้เบลมันมีลูกมือหน้าคุ้นๆที่ไม่ใช่คนในชมรมมันมาด้วย ไอ้เคนครับ จำไอ้เคนได้ไหมครับที่เจอกันในงานวันเกิดไอ้อาร์มครับ ไอ้เคนเป็นประธานชมรมถ่ายภาพโรงเรียนเด็กกางเกงสีเทาที่ขอนแก่น สมัยก่อนมันก็เรียนโรงเรียนเรา แต่มันย้ายต่อพ่อกับแม่มันไปที่ขอนแก่นไงครับ

.........

พอประชุมเสร็จก็แยกย้ายกันเก็บของ ไอ้บอสชวนไปกินข้าวกัน วันพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์เป็นวันพัก จะเริ่มเตรียมตัวกันอีกทีวันจันทร์เพราะวันอังคารมีแข่งอีกครั้ง ไอ้บอสชวนไปลอง ยากินิกุ บุบเฟ่ต์ ปิ้งย่างแถวซอยหลังสวน

มื้อนี้มีผมกับไอ้บอส ไอ้แบงค์ไอ้อาร์ม ไอ้วินไอ้บัด ไอ้บอลไอ้คริส ไอ้เกมส์ไอ้ไบร์ท ไอ้โอมไอ้บีม ไอ้เบนซ์ไอ้เบียร์ ไอ้บูมชวนไอ้นัทประธานเชียร์โรงเรียนกางเกงน้ำเงินแถวๆบางรักไปด้วย ไอ้บาสก็ชวนไอ้นัทหัวหน้าชมรมดุริยางค์โรงเรียนเด็กกางเกงน้ำตาลแถวๆถ.พระราม1 มาด้วย ไอ้บิวชวนไอ้ริวหัวหน้าชมรมดนตรีโรงเรียนเด็กกางเกงดำแถวๆพาหุรัดมาอีกคน แน่นอนไอ้เบลก็ต้องชวนไอ้เคนมาด้วย ปิดท้ายด้วยคู่หู Xtream อย่างไอ้เบสต์และไอ้แดน และปิดท้ายฉายเดี่ยวมาคือไอ้ไปป์หัวหน้าชมรมฟุตบอล

เมื่อมาถึงร้านทำเอาร้านเค้าเล็กไปถนัดตา พนักงานต่อโต๊ะยาวให้กลุ่มของเรา แล้วมหกรรมปิ้งย่างหฤหรรษ์ก็เริ่มขึ้น พนักงานเสริฟแถบไม่ทัน นอกจากคนจะเยอะแล้วยังเป็นเด็กวัยกำลังกินกำลังนอนด้วยกันทั้งนั้น เสียงโวยวายแย่งเนื้อที่ปิ้งอยู่บนเตาดังลั่นร้านอีกเหมือนเคย......

Game
See You Next Game


------------------------------------------------------
ตอบคอมเมนท์ครับ

ตอบคอมเมนท์คุณ tarkung
ขอบคุณมากๆที่ติดตามนะครับ ผมเอาตอนใหม่มาลงแล้วนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ด้วยนะครับทำให้คนเขียนมีกำลังใจเขียนมันต่อ ขอบคุณมากๆนะครับ^^

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อันนี้ คือประสอบการณ์ตรงของคนเขียนเลยชิมิ  :laugh5:

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 53rd Game  – Ocean Park

เช้านี้ผมตื่นขึ้นมารู้สึกหนักๆหัว อาจเพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์จากเมื่อคืนนี้
ทู บอน ดาชิน บล ซู ออบดัน มัล ฮาจีมา
แนกา จัลฮัลเก โนจี อานึลเก นี กยอเท อิซนึน นัล
ตอนาจีมา โทราซอจีมา นัน นอล โบแนล ซู ออบซอ
อีรอน นัล ทูโก oh oh คันดาโก oh oh
บอซอนัล ซู ออบซอ Cause you are my destiny

เสียง iphone เครื่องสีขาวของผมดังและสั่นอยู่บนหัวเตียง ผมค่อยๆเอื่มมือไปควานเอาโทรศัทพ์มาดูก็เห็นหน้าไอ้เกมส์อยู่เต็มหน้าจอ

“ฮัลโหล ว่าไงไอ้เกมส์” เสียงผมงัวเงียเพราะยังอยากนอนต่อ
“มึงกับไอ้บอสว่างใช่ไหมวันนี้” มันรีบถาม
“อืม ว่างนะ จะยุ่งอีกทีวันจันทร์เลยมรึง” ผมตอบมันกลับไป
“งั้นดีและ ไปสวนน้ำกัน” มันรีบยื่นขอเสนอที่ยากจะปฏิเสธ
“ที่ไหนวะ” ผมตาโตถามมันกลับไป ความง่วงหายไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
“หัวหินอะมรึง เพิ่งเปิดใหม่ ไปเจิมกัน” มันบอกสถานทีและบอกสรรพคุณเสร็จสรรพ
“แปปนะ” ผมบอกให้มันรอแปป
“บอส ไอ้เกมส์ชวนไปเที่ยวสวนน้ำเปิดใหม่ที่หัวหินอ่ะ” ผมหันไปถามไอ้บอสที่นอนอยู่ข้างๆ
“กลับเย็นนี้หรือเปล่า” ไอ้บอสถามกลับมา
“ไอ้เกมส์กลับเย็นนี้ใช่ไหม” ผมไอ้เกมส์ผ่านทางโทรศัพท์
“เออ ดิ วันจันทร์กรูมีเรียน” มันตอบกลับมา
“แปปนะ”
“กลับเย็นนี้บอส”  ผมหันไปบอกไอ้บอส
“อืม ถ้าโบ้ทอยากไปบอสก็ไป บอสบอกผมกลับมา
เออแต่ว่าไอ้ไปป์ล่ะ” ผมหันไปถามไอ้บอส
“เดี๋ยวลงชวนมันไปดู” ไอ้บอสบอกผมพร้อมกับชันตัวลุกขึ้นนั่ง
“เออ กรูไปกับไอ้บอส แต่มีน้องๆกรูไปด้วยได้ไหมอ่ะ” ผมรีบถามไอ้เกมส์กลับไปเพราะมีอาจจะมีพ่วงไปอีกหลายคนคน
“ไม่มีปัญหา งั้นเดี๋ยวกรูโทรบอกไอ้โอมให้เอารถปอีกคัน” ไอ้เกมส์รีบตอบกลับมา
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกรูเอาไปอีกคัน มรึงกับไอ้โอมไปคันเดียวกนแหละ” ผมบอกไอ้เกมส์เพราะเกรงใจพวกมัน
“งั้นเดี๋ยวอีก 1 ชั่วโมงไปเจอกันที่บ้านกรูแล้วกัน”  ผมกดวางสายจากไอ้เกมส์ แล้วก็กดโทรไปบอกคุณพี่ชายคุณชายเบนซ์ ให้มันเตรียมตัวเดี๋ยวจะไปรับมันที่บ้านแน่อนว่าไอ้เบียร์ก็ต้องไปด้วยแน่ๆ

ไอ้บอสเดินไปปลุกไอ้บัดกับไอ้วินที่ห้องนอนแขกและบอกให้ไอ้บัดโทรชวนไอ้คริสกับไอ้บอล แล้วมันเดินเลยไปชวนไอ้ไปป์ เมื่อคืนมันค่อนข้างเมามาก สภาพมันคงกลับบ้านไม่ไหวแน่ๆ และก็ไม่มีใครรู้จักบ้านไอ้ไปป์มัน ไอ้บอสเลยลากมันมานอนที่บ้าน พวกเราหิ้วปีกไอ้ไปป์มานอนที่ห้องรับรองแขกอีกห้อง สักพักไอ้บอสก็เดินกลับมา

“ไอ้ไปป์มันไปด้วยนะมันกำลังอาบน้ำอยู่”  ไอ้บอสบอกผมก่อนจะเดินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ ผมบีบยาสีฟันไว้รอมันเรียบร้อย

ผมเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ไอ้บอสเสร็จ ก็ไม่ลืมจัดไว้ให้ไอ้ไปป์มันอีกชุด สภาพชุดเตะบอลรองเท้าแตะคงไม่ไหว แล้วผมก็จัดผ้าเช็ดตัวกางเกงขาสั้นสำหรับเล่นน้ำใส่กระเป่าไปอีกชุด

ไอ้บอสเดินออกมาจากห้องน้ำพอมันแต่งตัวเสร็จ
“บอสเอาเสื้อผ้าไปให้ไอ้ไปป์ด้วย” ผมบอกมัน
“อืมม” มันตอบผมสั้นๆก่อนจะเดินเอาเสื้อผ้าไปให้ไอ้ไปป์
 
พอเตรียมตัวกันพร้อมก็ออกจากบ้านไอ้บอสท้งหมดมี บอสกับผม ไอ้บัดไอ้วิน ไอ้บอลไอ้คริส แล้วก็ไอ้ไปป์ที่ฉายเดี่ยว แน่นอนอีกตามเคยคุณชายบอสไม่ยอมให้ผมขับรถอีกเหมือนเคย นี่ตั้งแต่กลับมาคบกับมันอีกรอบนับครั้งได้เลยที่ผมได้จับพวงมาลัย ไม่นานรถ SUV ของผมก็มาจอดที่บ้านสุขอนันนต์

พอมาถึง ไอ้เกมส์ไอ้ไบร์ท ไอ้บีมไอ้โอม ไอ้แบงค์กับไอ้อาร์ม ก็มารอพวกเราอยุ่แล้ว คุณพี่ชายนายเบนซ์กับไอ้เบียร์กำลังช่วยกันยกกล่องแซนวิซใส่ท้ายรถ ไอ้เบียร์ก็ไม่ลืมเตรียมไว้ให้รถผมด้วย

ไอ้บอสขับรถนำพวกเราเลี้ยวตัดออกถนนพระราม 2 มุ่งหน้าหัวหิน ในรถก็กำลังอร่อยกับแซนวิสของไอ้เบียร์กัน เพราะด้วยความที่รีบออกมากันเลยยังไม่ได้กินอะไรกันตั้งแต่เช้า

“พี่ไปป์เมื่อวานประตูนั้นโคตรเทพเลยอ่ะครับ” ไอ้บอลชวนไอ้ไปป์คุย
“ไม่หรอกจังหวะไอ้ไทด์มันผ่านลูกมาพอดีกับที่พี่ยืนอยู่ตำแหน่งตรงนั้นพอดี” ไอ้ไปป์ถอมตัว
“แล้วพี่แข่งอีกทีวันไหนอ่ะ” ไอ้บอลถาม
“วันอังคาร คู่ที่สองครับ” ไอ้ไปป์ตอบคำถามไอ้บอล
“เดี๋ยวผมเรียนเสร็จจะไปเชียร์นะครับ”
“เราเป็นนักบอลเหมือนกันเหรอ” ไอ้ไปป์ถามไอ้บอลกลับ
“ใช่ ไอ้บอลมันเป็นตัวโรงเรียนเด็กกางเกงสีน้ำตาลแถวๆวัดยานนาวาหน่ะ” ไอ้บอสตอบแทนไอ้บอลเสร็จสรรพ
“จริงดิ ไว้วันหลังไปเตะหญ้าเทียมกัน” ไอ้ไปป์ดีใจที่ได้เพื่อนไปเตะบอลสนามหญ้าเทียมเพิ่มอีกคน
“แล้วพี่ไม่พาแฟนมาด้วยอ่ะ” ไอ้บัดโพร่งถามไอ้ไปป์ไป เล่นเอาผมกับไอ้บอสไอ้วินถึงกับอึ้งกับคำถามของมัน
“แฟนพี่เสียไปแล้วครับ” คำตอบน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเศร้าอยู่ในนั้น
“ขอโทษครับพี่...ผมไม่รู้จริงๆ” ไอ้บัดยกมือไหว้ขอโทษไอ้ไปป์ ไอ้บัดหน้าเหลือ 2 นิ้วเมื่อรู้ว่าไม่ควรถามคำถามนี้ไป
“ไม่เป็นไรไอ้น้อง” ไอ้ไปป์เอามือมาตบบ่าไอ้บัดให้กำลังใจ
“นี่ก็ผ่านมาจะปีแล้ว พี่ดีขึ้นมากแล้วล่ะ” ไอ้ไปป์พูดปลอบใจไอ้บัด
“แล้วพี่ทำใจยังไงครับ” ไอ้คริสเอ่ยปากถามไอ้ไปป์
“พี่ก็คิดว่าแฟนพี่ไม่ได้จากไปไหน เค้าอยู่กับพี่อยู่ข้างๆพี่เสมอ”
“เพราะเราอยู่ในใจของกันและกันตลอด” ไอ้ไปป์พูดจบเล่นเอาไอ้คริสกับผมน้ำตาซึม
“แล้วมรึงไม่คิดจะมีใครใหม่เหรอครับ” ไอวินถามไอ้ไปป์
“ไม่อ่ะ ทุกวันนี้กรูก็มีความสุขดี เหงาๆบ้างตามประสา” เสียงไอ้ไปป์ตอบไอวินไป
“วิน มรึงเชื่อไหมกรูยังไม่อยากมีใครใหม่” เสียงไอ้ไปป์ราบเรียบ
“อีกอย่างกรูเคยสัญญาว่ากรูจะมีเบิร์ดคนเดียว กรูก็ไม่รู้หรอกนะว่ากรูจะรักษาสัญญานั้นได้ไหม แต่กรูจะรักษาสัญญานั้นไว้ให้นานที่สุดเท่าที่กรูจะทำได้” ไอ้ไปป์พูดจบเล่นเอาเงียบกันไปทั้งรถ ผมเห็นมันเอามือขึ้นมาลูบแหวนคู่ที่คล้องเกี่ยวกันที่ห้อยอยู่บนสร้อยคอ เห็นมันใส่ประจำคงเป็นของแทนใจของไอ้ไปป์กับไอ้เบิร์ดมัน

“สู้ๆ หวะไอ้ไปป์ รักษาสัญญาให้ดีที่สุด”  ไอ้บอสเหลือบมองกระจกมองหลังไปที่ไอ้ไปป์ก่อนจะพูดให้กำลังใจมันทำลายความเงียบ

ผมนับถือไอ้ไปป์มันผ่านเหตุการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่มาได้ และนับถือความรักที่มันมีให้กับไอ้เบิร์ดมัน ไอ้เบิร์ดมันเคยเป็นหัวหน้าชมรมศิลปะที่โรงเรียนครับ เมื่อปิดเทอมที่ผ่านมา มันไปต่างประเทศกับที่บ้านมัน แล้วเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่นั่น เสียชีวิตกันทั้งบ้าน ตอนไปงานศพทุกอย่างรอบตัวดูเศร้าไปหมด ไอ้ไปป์ก็ทำอะไรไม่ได้เลยเอาแต่นั่งเอามือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น ตอนนั้นไม่อยากจะคิดเลยว่าไอ้ไปป์มันจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก เห็นมันกลับมาเตะบอลได้ กลับมาคุมทีมฟุตบอลได้ มันก็คงค่อยๆดีขึ้น ค่อยๆยอมรับความจริง และค่อยๆทำใจได้ เวลาเยี่ยวยาทุกสิ่งจริงๆ

..........

พอรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่สวนน้ำ วานา นาวา สวนน้ำเปิดใหม่ที่หัวหิน ที่ว่ากันว่ามีสไลเดอร์ที่ยาวที่สุดและสูงที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ พวกเราทั้งหมดมาต่อคิวซื้อตั๋วกัน ราคาคนละ 1,000 บาท ได้สายริชแบนด์พร้อมกับเหรียญรูปร่างคลายนาฬิกาใส่ไว้ที่ข้อมือ เป็นบัตรผ่านและบัตรที่เอาไว้ใช้เล่นได้ ทุกสไลเดอร์ และทุกกิจกรรมที่มี พวกเราข้ามกิจกรรมแอดแวนเจอร์เพราะเคยเล่นที่เกาะช้างกันมาแล้ว พอเก็บของที่ล็อกเกอร์กันเรียบร้อยแล้ว ก็เลยตรงไปที่สวนน้ำกันเลย

พวกเรา 15 คนเป็นเด็กหนุ่มวัย 17 หุ่นนักกีฬา กล้ามเนื้อมีกันสมวัย ซิกแพคได้รูป หน้าตาดี แถมมาเป็นแก๊งค์เด็กผู้ชาย จึงไม่แปลกที่จะมีคนมองและสนใจ โดยเฉพาะสาวน้อย สาวใหญ่ รวมไปถึงพวกผู้ชายบางกลุ่มที่ด้วย ^^

“ไปเล่น อาบิส กันเหอะพวกมรึง” ไอ้บีมชวนพวกเราเล่นสไลเดอร์
“อันไหนวะ” ไอ้แบงค์ถามกลับ เพราะมีสไลเดอร์หลายอันให้พวกเราเล่น
“สีเขียวฟ้าไง” ไอ้บีมตอบกลับมา
“มรึงรู้ป่าว อันนี้อ่ะเค้าว่ากันว่าเป็นสไลเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเลยนะโว้ย” ไอ้บีมได้ทีข่มไอ้แบงค์แบบไม่กลัวหมาในปากไอ้แบงค์เลยสักนิด
“ไม่รู้หว่ะ เพิ่งรู้จากมรึงนี่ แหละสัส” ไอ้แบงค์หันมาตอบไอ้บีม
“บ้านมรึงอยู่หลังเขาป่าววะ” ไอ้บีมยังไม่ยอม
“เชี่ย หลังเขาพ่องมรึงหงะ บ้านกรูหน่ะอยู่หลังเทือกเขาตาหาก” ไอ้แบงค์ตอบอย่างภาคภูมิใจ

พอปีนขึ้นมาถึงข้างบน อาบีสเป็นสไลเดอร์ที่ต้องเล่นกัน 5- 6 คนลงไปนั่งในห่วงยางสีเหลืองขนาดใหญ่ แล้วปล่อยทิ้งลงมาเป็นหมู่คณะ กรุ๊ปแรกมี ไอ้บีมไอ้โอม ไอ้ไบร์ทไอ้เกมส์ แล้วก็ไอ้อาร์ม กรุ๊ปสองมี ผมไอ้บอส ไอ้เบนซ์ไอ้เกมส์ ไอ้แบงค์ กรุ๊ปสามมี ไอ้บอลไอ้คริส ไอ้วินไอ้บัดแล้วก็ไอ้ไปป์

“เฮ้ยยย” เสียงร้องลั่นรอดออกมาจากอุโมงค์ที่กรุ๊ปแรกถูกส่งเข้าไป

สักพักก็คิวเป็นกลุ่มผม รู้สึกตื่นเต้นและเสียววูบที่ท้องน้อย ตอนถูกดันเข้าไป จากนั้น เสียงร้องโวยวายก้ดังขึ้น เพราะถูกเหวี่ยงไปตามแรงโน้นถ่วงของโลก ไม่นานก็มาโผล่ตรงอุโมงค์ยักษ์ที่ห่วงยางเราถูกเหวี่ยงให้เป็นวงกว้าง ก่อนจะค่อยๆไหลเข้าไปอุโมงค์เล็กอีกอัน แล้วก็มาโผล่ที่ปลายทางโดยสวัสดิภาพ พวกเราตะเกียกตะกายขึ้นมายืนรอริมฝั่ง รอดูกรุ๊ปที่สามที่เสียงร้องดังออกมาจากอุโมงค์ก่อนที่ภาพจะค่อยไหลตามมาอีกในหลายวินาที

“สนุกไหม” ไอ้โอมถามไอ้บีมหลังจากที่พวกมันลงมาถึงข้างล่างแล้ว
“อืม สนุกดี” ไอ้บีมตอบไอ้โอมกลับไป
“โอมมีความสุขนะที่บีมสนุก” ไอ้โอมเอามือขึ้นลูบหัวไอ้บีม
“โอมล่ะสนุกหรือเปล่า” ไออ้บีมถามไอ้โอมกลับ
“สนุกครับ แค่มีบีมอยู่ใกล้ๆแค่นี้โอมก็มีความสุขแล้ว” ไอ้เชี่ยโอม มรึงหล่อชิบหาย สัส

แล้วไอ้ไบร์ทก็ลากมาที่บูมเมอแรงโก้ สไลเดอร์สีเหลืองน้ำเงิน อันนี้ก็คล้ายๆสไลเดอร์อันแรก แต่จะเสียวกว่าตรงที่จะมีช่วงทิ้งดิ่งลงไป แล้วมีแผนกระดานรูปตัว U กลับหัวรับไว้อีกด้านก่อนที่จะไหลกลับลงมา ตอนช่วงทิ้งดิ่ง เหมือนตัวจะหลุดลอยออกจากห่วงยาง เสียงทุกคนร้องตะโกนออกมา ผมนี่ถึงกับรนรานจับเชือกริมห่วงยางไว้ซะแน่น

“เชี่ยโบ้ท เมื่อกี้เสียวป่าววะ” ไอ้เกมส์เอ่ยปากถามหรือด่าผมก็ไม่รู้
“เออ เสียวชิบหายกรูนึกว่าจะหลุดออกจากห่วงยางซะแล้ว” ผมตอบมัน
“เสียวกว่ามีอะไรกับไอ้บอสอีกหรา” ไอ้เชี่ยเกมส์เอากรูแระ ผมนึกในใจ ไอ้บอสยืนเหล่ตาฟังคำตอบผมอยู่ใกล้ๆ
“คนละอย่างโว้ย ไอ้นั่นมันเสียวซ่าน แต่สไลเดอร์นี่กรูเสียวตาย” ผมรีบขว้างงูให้พ้นๆคอ แต่ไอ้บอสมันยืนกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ข้างๆ
“แล้วมรึงเวลามีอะไรกับไอ้ไอ้ไบร์ทนี่เสียวแบบไหนวะ” ไอ้บอสหันไปแซวไอ้เกมส์แทนผม
“แหม่ๆ เมะปกป้องเคะเชียวนะ” ไอ้ไบร์ทแซวไอ้บอสกลับทันควัน
“ของกรูหน่ะ เสียวสุโก่ยโว้ยย” ไอ้เชี่ยเกมส์ตอบออกมาอย่างดัง จนไอ้ไบร์ทหน้าแดง

พวกเรามายืนต่อคิวกันที่สไลเดอร์สีเหลืองคราวนี้เล่นเป็นคู่

“โบ้ทนั่งหน้านะ” ไอ้บอสสั่งแกมบังคับให้ผมนั่งหน้า
“ไม่อ่ะ” ผมปฏิเสธมันเสียงหลง
“เอาน่า เดี๋ยวอันหน้าบอสนั่งหน้าเอง” ไอ้บอสยื่นข้อเสนอ ผมยืนคิดคู่หนึ่ง
“ก็ได้ แต่อันหน้าบอสนั่งหน้านะ” ผมย้ำคำมันกลับไป

พอสายพานส่งผมกับไอ้บอสลงมาตามสไลเดอร์ก็จะลดเลี้ยวลงมาตามอุโมงค์แล้วพามาถึงช่วงหนึ่ง หลังคาอุโมงค์จะกลายเป็นพาสติกใสๆแทนมองเห็นโดยรอบ แต่มันดันเป็นช่วงทิ้งดิ่งลงมา สรุปแหกปากร้องลั่นหลับตาปี๋แทนที่จะได้ดูวิวกันทั้งผมกับไอ้บอส

แล้วก็โดนลากกันมาต่อที่สไลเดอร์สีเขียวอ่อนเขียวแก่ ที่ต้องเล่นกันแบบ Theesome อุ๊ปปปป แบบสามคน อันนี้ค่อนข้างเสียวเพราะแรงเหวี่ยงทำให้เรากระเด้งกระดอนกลัวจะหลุดออกจากรางสไลเดอร์เสียให้ได้

จุดไคลแม็กก็มาถึง เมื่อพวกเราปีนกันมาถึง สไลเดอร์ฟรีฟอร์ เป็นสไลเดอร์แบบเดี่ยวสีม่วง ที่ไม่มีอุโมงค์คดเคี้ยว แต่เป็นรางที่ทิ้งดิ่งลงมาแบบเดี่ยวๆเพียวๆตัวคนเดียวเลย หลังจากเกี่ยงกันอยู่นานสุดท้าย ไอ้บัดอาสาคนแรก พวกเรามายืนลุ้นไอ้บัดกันที่ริมรั้วกั้น  ไอ้บัดลงไปนั่งเตรียมตัวแล้วก็ค่อยไหลลงนอนอยู่ในท่าเตรียมพร้อม พนักงานช่วยดันตัวไอ้บัดลงไป พอสุดทางไหลก็ทิ้งดิ่งลงไป เสียงไอ้บัดร้องลั่นเพราะความเสียวบวกความกลัว....

แล้วก็ตามมาด้วยพวกเราทีละคน มาถึงคิวผม บอกไม่ถูกครับทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวเพราะกลัวจะกระเดนออกจากลางสไลเดอร์ แต่พอลงไปจริงๆแล้วก็แค่วูบเท่านั้นครับ มันผ่านไปเร็วมากตอนทิ้งดิ่งลงมา ถ้าเผลอหลับตานี่อดเสียวกันเลยนะครับ

“เป็นไงบ้าง กลัวไหม” เสียงไอ้เบนซ์ถามไอ้เบียร์หลังจากไอ้เบียร์ลงมาถึงพื้น
“ไม่อ่ะ” ไอ้เบียร์ตอบไอ้เบนซ์
“ก็นะ เห็นเบียร์หลับตามาตลอดจะกลัวได้ไงเนอะ”
“เด่วเหอะ เบนซ์ แซวเบียร์นะ”
“โอ๋ๆๆๆ เก๊าแค่แซวเองนะ” คุณพี่ชายเริ่มง้อ
“เก๊าง้อนะ เก๊าจะง้อแล้วนะ จะไม่หายงอนเก๊าๆจริงๆหรา”พี่ชายอ้อนสุดพลัง ไอ้เบียร์กลั้นหัวเราะแถบตาย ก่อนจะหายโกรธเพราะแพ้ทางไอ้เบนซ์

อันสุดท้ายพวกเราปีนขึ้นมาที่เดิมอีกรอบก่อนจะมาเล่น อัพเปอร์ลูป สไลเดอร์สีฟ้า ที่ต้องเข้าไปในตู้สีฟ้าแล้วประตูจะค่อยๆปิดเหมือนเข้าไปในกระสวยจรวด แล้วจะมีเสียงนับ 3......2........1 แล้วพื้นทั้งพื้นจะหายไปแล้วตัวเราจะหล่นวูปลงไปตามรางสไลเดอร์

เล่นสไลเดอร์ครบทุกอันแล้ว พวกเราก็มานั่งหาอะไรจิบแก้กระหายกับแก้คอแห้งกันที่ วอเตอร์บาร์ นั่งจิบน้ำกันในน้ำกันเลยทีเดียว

“วิน เอาอะไร” ไอ้บัดถามไอ้วิน
“กีวี่ปั่น” ไอ้วินหันมาบอกไอ้บัด
“กีวี่ปั่น 1 ครับ แล้วก็ สับปะรดปั่น 1 ครับ” เสียงไอ้บัดสั่งพนักงาน
“มรึงไม่หนาวกันเหรอวะ” ผมถามพวกมันสองคนตัวเริ่มซีดแล้วเสือกจะแดกน้ำปั่น
“ไม่อ่ะพี่โบ้ท ผมได้มีไอ้อุ่นส่วนตัว” ไอ้บัดพูดจบก็เอื้อมมือมากอดเอวไอ้วินจากด้านหลัง
“แหม่พวกมรึง เบาๆกันหน่อย กรูอิจฉา” ผมประชดพวกมันไป
“อาร์มครับ อาร์มให้ไออุ่นแบงค์หน่อยซิ แบงค์หนาว” เสียงไอ้แบงค์ตะโกนแซวไอ้สองคนนั้นดังลั่น พร้อมกับลุยน้ำทำท่าอ้อนเข้าไปกอดไอ้อาร์ม ทำเอาพวกเราฮา

ยังครับ ตัวจะเปื่อยแล้วพวกเราก็ยังคงเล่นน้ำกันต่อ ไอ้เกมส์มาโชว์หล่ออยู่บนกระดานเซิร์ฟบอร์ดบนคลื่นจำลอง อย่างเท่ห์โดยมีไอ้ไบร์ทมานั่งเฝ้า ด้วยหน้าตาของมันกับหุ่นที่ดีสมเป็นนักกีฬาแถมด้วย ซิกแพค ที่ดึงดูดสายตา สาวน้อยสาวใหญ่แถวนั้น

หลังจากเสียพลังงานไปกับการเล่นน้ำ พอเก็บของจากล็อกเกอร์กันเสร็จ ขับรถออกมาจากสวนน้ำไม่นาน ก็แวะเติมพลังกันและซื้อของฝากที่บ้าน ก่อนจะเริ่มออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพราะพรุ่งนี้ต้องมีภารกิจกันต่อ ไอ้คริสกับไอ้บัด ผมกับไอ้บอสให้มันนอนที่กรุงเทพอีกคืนแล้วค่อยตีรถกลับตอนเช้าวันพรุ่งนี้ ไอ้บัดกับไอ้คริสยิ้มหน้าบ้านเพราะจะได้อยู่กับไอ้วินกับบอลกันอีกคืน....

Game
See You Next Game


---------------------------------

ตอบคอมเมนท์ครับ^^

ตอบคอมเมนท์คุณ IsDeer
คนเขียนเรียนโรงเรียนชายล้วนครับ แต่อยู่ ต่างจังหวัดครับ อิอิ
คนเขียนไม่มีประสบการณ์งานบอลประเพณีของโรงเรียนชายล้วนในกทม เลยครับ เอิ๊กกกก
ขอบคุณที่ติดตามอ่านและยังไม่ทิ้งกันไปไหนนะครับ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ปุกาศ ปุกาศ ขออนุญาติเปลี่ยนชื่อนิยายนะครับ
ชื่อเดิม :  Destiny of B หนุ่มหน้าใสกางเกงขาสั้นกับโชคชะตาตัว B
เป็น
ชื่อใหม่ : Destiny of B ชุลมุนวุ่นนัก..รักของนายตัวบี
[/color]

ต้องขออภัยคนอ่านทุกๆท่านที่อาจจะทำให้สับสนนะครับ
ตอนแรกที่เริ่มเขียนนิยายเรื่องนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะเขียนจบไหม
ด้วยความอดทนของไรท์ที่มีต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
ตอนนั้นก็เลยจับเอาทุกอย่างมาใส่ไว้ในชื่อนิยายภาษาไทย
ก็เลยได้ชื่อที่เวิ้นเว้อยาวเป็นกิโล
ตอนนี้อยากปรับให้มันดูกระชับและเข้าใจง่ายมากขึ้น
เพื่อเกิดเฮียนจะทำนิยายทำมือขึ้นมา
ชื่อนิยายจะได้ไม่ล้นปก 555+
ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาอ่านนิยายกันนะครับ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :serius2: อร๊ายยยยยย ทำไมอยู่ๆในเรื่องก็มีตัวบีดับไปหนึ่งโดยที่ยังไม่ได้ฟินอะไรกับเค้าเลย

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 54th Game  – Cruel intentions

งานฟุตบอลวันอังคารกับวันศุกร์ ผ่านไปด้วยความราบรื่น ชมรมเชียร์ทำงานกันหนักมากจริงๆ ไอ้บูมเสียงแหบไปแล้ว แต่ก็ยังทำหน้าที่ประธานชมรมเชียร์ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนทีมฟุตบอลโรงเรียนเราก็ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน เพราะนัดวันอังคารชนะเด็กโรงเรียนกางเกงสีดำแถวๆพาหุรัดได้ 1-0 ส่วนนัดวันศุกร์เสมอกับทีมเด็กกางเกงสีน้ำเงินแถวๆบางรักได้ 2-2 ทีมฟุตบอลโรงเรียนเราเลยได้เข้าชิงกับทีมโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำเงินแถวๆบางรัก และทีมเด็กโรงเรียนกางเกงน้ำตาลแถวๆถ.พระราม1 ชิงที่ 3 กับโรงเรียนเด็กกางเกงดำแถวๆพาหุรัด

ชมรมคหกรรมของไอ้เบียร์ก็ส่งข้าวส่งน้ำทั้งพวกเราฝ่ายควบคุมและกองเชียร์ไม่ได้ขาด แถมได้ไอ้เบนซ์พี่ชายผมที่หมดหน้าชั่วคราวกับชมรมดุริยางค์มาช่วยอีกแรง ส่วนชมรมดุริยางค์ของไอ้บาสมีหน้าที่อีกทีก็พิธีปิดวันเสาร์เลย

ผมกับไอ้บอส ไอ้อาร์ม ไอ้บีม ไอ้ไบร์ท นั่งประจำอยู่ห้องควบคุมหน้ามอนิเตอร์ทุกวัน ไอ้บอสทำหน้าที่ได้ดี เพราะไม่ว่าจะมีปัญหาติดขัดอะไร คุณฃายก็สามารถแก้ปัญหา ประสานงานให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี บางครั้งผมก็อึ้งกับวุฒิภาวะของไอ้บอสที่สามารถควบคุมและแก้ปัญหาได้แบบไม่มีหัวเสีย ทั้งๆที่ปัญหาบางอย่าง่ชวนทำให้เราอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

............

แล้ววันสุดท้ายที่รอคอก็มาถึง วันที่ทั้งโรงเรียนเฝ้ารอและลุ้นไปกัทีมฟุตบอลว่าจะได้แชมป์หรือเปล่า นอกจากสแตนเชียร์ที่ทำหน้าที่แล้ว อัฒจรรย์ก็เต็มไปด้วยนักเรียนโรงเรียนของทั้ง 4 โรงเรียนเราที่เข้ามาเชียร์ฟุตบอลของตัวเองที่มี

งานฟุตบบอลประเพณีก็บรรลุวัตถุประสงค์ของงานอย่างสวยงามในเรื่องสร้างความสัมพันธ์ที่ดี สร้างความสามัคคีของทั้ง 4 โรงเรียน ในพิธีวันปิดการแข่งขันสแตนเชียร์ของทั้ง 4 โรงเรียนแปลอักษรกันสวยงาม สร้างสีสันและความประทับใจให้คนทั้งสนาม

ฟุตบอลคู่ชิงที่ 3 ก็สนุกมากเพราะทั้งสองโรงเรียนมุ่งมั่นในการชิงอันดับนี้กันอย่างจริงจัง แต่ครึ่งแรกก็ยังเสมอกันด้วยสกอร์ 0-0 พักครึ่งเป็นการแสดงดนตรีโดยชมรมดนตรีโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำเงินกับชมรมดนตรีโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำตาล ครึ่งหลังฟุตบอลยังคงสูสีกัน สุดท้ายโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำตาลก็ชนะโรงเรียนเด็กกางเกงดำไปด้วยสกอร์ 1-0 เสียงบูมของกองเชียร์โรงเรียนเด็กกางเกงน้ำตาลดังไปทั่วสนาม ส่วนกองเชียร์โรงเรียนเด็กกางเกงดำก็ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจทีมฟุตบอลตัวเองดังไม่แพ้กัน

.........

แล้วการแข่งคู่ชิงชนะเลิศก็เปิดฉากขึ้น

ครึ่งแรก ยังคงเสมอกัน 0-0 แต่เป็นการเสมอที่สนุกเพราะทั้งสองทีมลงมาแข่งเพื่อชัยชนะ ผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุกเร้าใจ ไม่ได้ลงมาอุดมารับกันอย่างเดียว ทั้งสองทีมสร้างความฮือฮาให้กับกองเชียร์ได้เป็นระยะๆ แต่ยังไม่มีทีมใดบุกทำประตูได้ นักกีฬาทั้งสองทีมเล่นกันอย่างมีน้ำใจกีฬา เพราะไม่มีใบเหลืองจากกรรมการเลยสักใบ

พักครึ่งมีการแสดงของชมรมดนตรีของทั้ง 4 โรงเรียนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีการแสดงแยกแต่ละโรงเรียน แต่เป็นการเล่นร่วมกันทั้ง 4 โรงเรียน มีไอ้บิวหัวหน้าชมรมดนตรีโรงเรียนเราและไอ้ริวหัวหน้าชมรมดนตรีโรงเรียนเด็กกางกางดำแถวๆพาหุรัด เป็นนักร้องนำในเพลงแรก และหัวหน้าชมรมดนตรีอีกสองโรงเรียนเป็นนักร้องนำในเพลงที่สอง

ครึ่งหลังผ่านไปได้ไม่ถึง 5 นาที โรงเรียนเราก็ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อทีมเรทำประตูแรกได้ การแข่งขันทวีความสนุกขึ้นอีกเมื่อทีมโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำเงินแถวๆบางรัก โหมบุกอย่างหนักเพื่อเอาประตูคืน กองเชียร์โรงเรียนเราแถบจะนั่งไม่ติด เพราะลุ้นทุกครั้งที่ทีมโรงเรียนนนั้นมาป่วนเปี้ยนหน้าประตูโรงเรียนเรา

ขณะที่โรงเรียนนั้นแถบจะพับสนามบุกทีมโรงเรียนเรา และบุกจนเพลิน ทีมเราตัดบอลได้ และโต้กลับจนไอ้ไปป์หัวหน้าชมรมฟุตบอลโรงเรียนเราหลุดจากกองหลังตัวสุดท้ายและได้ดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับผู้รักษาประตูโรงเรียนนั้น แล้วก็เป็นไอ้ไปป์ที่สามารถหลบปราการสุดท้าย และส่งลูกฟุตบอลไปตุงตาข่ายทีมโรงเรียนนั้นได้อีก 1 ลูก โรงเรียนเรานำ 2-0 หลังจากนั้นทีมโรงเรียนเราก็เล่นง่ายขึ้นเยอะ และก็ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้อีกจนหมดเวลาการแข่งขัน โรงเรียนเราก็ชนะไปด้วยสกอร์ 2-0

แล้วก็เป็นพิธีปิดการแข่งขัน โดยที่ไอ้ไปป์เป็นตัวแทนขึ้นไปรับถ้วยรางวัลจากประธานในพิธี แล้วนักกีฬาฟุตบอลทุกคนก็ขึ้นไปรับเหรียญรางวัลจากประธานในพิธี โรงเรียนเด็กกางเกงน้ำเงินขึ้นไปรับเหรียญรางวัลรองชนะเลิศ

การแสดงในพิธีปิดจากชมรมการแสดงทั้ง 4 โรงเรียนก็ใช้เวลาไม่นาน ท่านประธารานกล่าวปิดงานฟตบอลประเพณี บนอัฒจรรย์มีการแปลอักษร อำลาของทั้ง 4 โรงเรียน เจอกันใหม่อีก 2 ปี เราจะคิดถึงคุณ......

พอพิธีการอย่างเป็นทาการจบลง ในห้องควบคุม ฝ่ายควบคุมทั้ง 4 โรงเรียนก็จับไม้จับมือแสดงความยินดีและขอบคุณกันที่ทำให้งานในครั้งนี้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น พอเก็บของในห้องกันเสร็จ พวกเราก็ลงไปที่สแตนเชียร์ ที่ตอนนี้นักฟุตบอลกำลังยืนเข้าแถวกันหน้าสแตนชูถ้วยรางวัลกันอยู่ บนสแตนก็บูมแสดงความยินดีให้กับทีมฟุตบอล แล้วก็บูมเพลงโรงเรียนเรากันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งรุ่นพี่ที่จบไปแล้วและนักเรียนรุ่นปัจจุบัน เชียร์รีดเดอร์ปกติมีกันอยู่ 9 คน ตอนนี้อยู่กันหน้าสแตนเกินกว่านั้น เพราะเชียร์รีดเดอร์รุ่นพี่ลงมาแจมกันเต็มลู่วิ่งหน้าอัฒจรรย์

บรรยากาศฉลองชัยชนะเต็มไปด้วยความดีใจ ความสุขใจของทุกฝ่ายที่ร่วมกันทำงาน สร้างความดีใจให้กับเราทุกคนที่ทำให้งานผ่านไปได้ด้วยดีและภูมิใจที่ได้ทำเพื่อโรงเรียนของเรา พอส่งน้องๆลงจากสแตนกันเสร็จเรียบร้อย เหลือแต่ทีมงานและสต๊าฟที่ยังเก็บข้าวของกัน พอเริ่มเคลียร์ทุกอย่างเสร็จทุกคนก็มานั่งพักกันอยู่หน้าสแตน

“ผมในฐานะตัวแทนของทีมงานทุกๆคน ขอบคุณทีมงานทุกๆฝ่ายนะครับ ที่ช่วยกันทำให้งานผ่านไปได้ด้วยดี” ไอ้บอสกล่าวขอบคุณทุกๆคนสำหรับความมีน้ำใจและร่วมมือกัน
“งานนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเลย ถ้าทุกๆคนไม่ทุ่มเททั้ง แรงกายแรงใจ ผมขอบคุณทุกๆคนจริงๆครับ ขอเสียงตบมือให้กับตัวเองด้วยนะครับ” เสียงตบมืดังขึ้น ทุกคนโล่งใจที่งานประสบความสำเร็จและผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อย

……………………

ผมกับบอสเก็บของเสร็จ ไอ้บอสยกกล่องกระดาษที่มีอุปกรณ์ต่างๆเกือบเต็มใบโตไปเก็บที่รถ ผมเก็บของที่เหลือเดินตามหลังไอ้บอสกลับมาที่รถ

“ทำงานได้เรียบร้อยดีนี่ไอ้น้อง” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา
“อ้าว เฮียค็อป หวัดดีครับ” ไอ้บอสยกมือไหว้ทักทายลูกพี่ลูกน้องของมัน เมื่อก่อนเฮียก็เรียนโรงเรียนเรา เป็นรุ่นพี่พวกเรา 2 ปี ตอนนี้เฮียอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแถวๆสามย่าน
“เฮียมาดูด้วยเหรอ” ไอ้บอสถามผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายกลับไป
“มาดิวะ ฐานะอดีตเลขาสภา ไม่มาได้ยังไง” เฮียค็อปตอบไอ้บอสอย่างภูมิใจ
“แต่เฮียคงสู้ประธานสภาคนเก่งไม่ได้หรอก” เฮียค็อปเอามือมาตบบ่าไอ้บอส
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้เฮียหลังวางของที่ยกมาลงข้างๆรถ

เฮียค็อปหุบยิ้มลง สีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะกลบด้วยรอยยิ้มบางๆ พร้อมกับยกมือพนมขึ้นรับไหว้ผม
“หวัดดี โบ้ท” เสียงตอบสั้นๆของเฮีย

“สบายดีเหรอ.....นี่ยังสนิทกับบอสอยู่อีกเหรอ” คำถามแรกของเฮียผมรู้สึกได้ว่าเป็นมารยาท แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตอบ คำถามที่สองที่ปล่อยตามมาที่ทำเอาผมจุกที่ท้องเหมือนโดนต่อยมายังไงยังงั้น

“ครับ สบายดีครับ” ผมตอบเฮียค็อปสั้นๆ ไอ้บอสเองก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจและตกใจอยู่ไม่น้อยกัคำถามของเฮีย

“ไอ้ค็อป ไปกันหรือยัง” เสียงตะโกนจากกลุ่มชายหนุ่มในชุดนิสิตดังมาจากอีกมุมหนึ่ง
“เออๆ ไปแล้ว” เสียงเฮียค็อปตอบชายหนุ่มกลุ่มนั้นกลับไป
“งั้นเฮียไปก่อนนะ” เฮียค็อปหันมาบอกลาพวกเรา ผมกับไอ้บอสกับผมยกมือขึ้นสวัสดีเฮีย

ไอ้บอสเอามือมาบีบที่บ่าของผมเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
“อย่าคิดมาก ปากเฮียเค้าก็ไม่ดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว” ไอ้บอสพยายามพูดให้ผมคลายกังวล แต่สีหน้าของบอสดูจะมีแววกังวลจนเห็นได้ชัด ผมไม่เคยเห็นมันเป็ฯแบบนี้มานานมากแล้ว

สีหน้าของบอสแบบนี้ทำเอาผมไม่สบายใจที่สุด แววตาที่ดูครุ่นคิดอะไรอยู่ข้างใน

“เหนื่อยไหม” ผมถามบอสขณะที่บอสกำลังจะก้าวขึ้นที่นั่งคนขับ
“เหนื่อยนิดหน่อย” มันหันกลับมาบอกผม
“มางั้นเดี๋ยวโบ้ทขับ” ผมไม่รอฟังคำตอบฉวยคว้ากุญแจรถจากมือมัน แล้วแทรกตัวขึ้นไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับแทน

เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นไม่มีทางที่หมอนี่จะยอมให้ผมขับแน่ๆ บอสมองผมตาปริบๆ แต่ด้วยความล้าจากทั้งงานและจากคำพูดเฮียค็อป มันจึงยอมขึ้นมานั่งข้างๆคนขับอย่างว่าง่าย แต่ก็ยังไม่วายเอามือมาช่วยผมดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ผมอยู่ดี แล้วมันถึงคาดของมัน ผมใส่เกียร์ถอยหลัง พอตั้งลำรถได้ก็ใส่เกียร์เดินหน้า ออกสู่ถนนใหญ่เรียบร้อยแล้ว มือผมถูกพันธนาการไว้ด้วยมือใหญ่ๆ ของคนที่นั่งข้างๆ แม้เจ้าของร่างกายสูงใหญ่นั้นจะเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อย แต่ไม่แม้แต่จะปล่อยมือผมตลอดทางมุ่งหน้าสู่บ้านสุขอนันต์ ผมจะไม่มีวันปล่อยคนๆนี้ไปไหนอีกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม.....ผมบอกกับตัวเองในใจ

“บอสๆ ถึงบ้านแล้ว” ผมเอามือเขย่าๆตัวไอ้บอสเบาๆ
“คราบ” บอสค่อยลืมตาขึ้น แล้วกระพริบตาถี่เพื่อไล่ความง่วง

ผมดับเครื่องยนต์ เปิดประตูรถลงมา ไอ้บอสปรับเบาะให้ตั้งตรง เปิดประตูรถแล้วค่อยลุกขึ้นยืน เจ้ามะกรูดกับมะนาววิ่งมาพันแข้งพันขาด้วยความดีใจ

“หิวไหม” ผมถามไอ้บอส
“อืมม หิวอ่ะ ไมไม่แวะหาไรกินก่อนอ่ะ”  ไอ้บอสถามผม
“ก็ไม่อยากปลุกเห็นหลับสบาย” ผมบอกเหตุผลที่ไม่ปลุกมัน
“เดี๋ยวไปดูในตู้เย็นก่อน เดี๋ยวหาไรให้กินนะ” ผมเอาของวางตรงบันใดแล้วเดินเลยเข้าไปในห้องครัว


ผมเปิดตู้เย็นดูว่าพอทำอะไรได้บ้าง ไม่อยากเรียกพี่อุ้มแม่บ้านแล้ว เพราะเริ่มดึก เห็นข้าวเย็นอยู่ในกล่องพลาสติกถนอมอาหารแช่อยู่ในตู้เย็น มีข้าวแล้วไม่ต้องหุงใหม่ ผมเหลือบเห็นกระหล่ำปรีอยู่ในช่องผัก เลยคิดเมนูให้ไอ้บอส

“กะหล่ำปรีทอดน้ำปลาดีกว่า”

ผมจัดแจงตัดหั่นกะหล่ำปรีแล้วค่อยดึงออกมาทีละใบ ลงในอ้างล้างผัก จากนั้นเอาขึ้นตะแกรงสะเด็ดน้ำ ผมเอาถ้วยมาผสมน้ำตาลปี๊ป น้ำตาลทราย น้ำปลาและน้ำเปล่าให้เข้ากันเตรียมไว้

“ให้ช่วยอะไรไหม” เสียงไอ้บอสโผล่หน้าเข้ามาถาม
“ไม่ต้องอ่ะ ไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวเลย” ผมไล่ให้มันไปนั่งรอ
“แน่ใจนะ” มันย้ำอีกที
“อืม ไปนั่งรอเหอะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” บอสเดินออกไปรอที่โต๊ะกินข้าวอย่างว่าง่าย

ผมเอากะหล่ำปรีดิบ ใส่เตาไมโครเวฟ กดปุ่ม 3 นาที ให้ผักสลดก่อนจะได้ไม่ต้องผัดนาน แล้วเดินไปเปิดเตาตั้งกระทะให้ร้อน แล้วใส่ น้ำปลา น้ำตาลปี๊ป น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าที่ผสมเอาไว้ก่อนลงไปในกระทะ ปล่อยให้เดือด จากนั้นก็เดินไปเอากะหล่ำปรีออกมาจากไมโครเวฟ เอาข้าวเย็นใส่ไมโครเวฟอุ่น แล้วเอากะหล่ำปรีใส่ลงไปในกระทะ ผัดไม่นานก็เสร็จ ตักใส่จาน

ผมยกจานกะหล่ำปรีทอดน้ำปลาออกมาที่โต๊ะกินข้าว ไอ้บอสเตรียมจานกับช้อนแล้วก็น้ำรอที่โต๊ะกินข้าวเรียบร้อยแล้ว

“น่ากินจัง” ไอ้บอสหันมาบอกผม
“แต่จะอร่อยหรือเปล่านี่” มันยังหันมาหยอก
“ไม่ต้องห่วงอร่อยแน่” ผมยักคิ้วให้มันก่อนจะเดินกลับเข้าไปเอาข้าวสวยออกมาจากไมโครเวฟ

............

“หืมม อร่อยจริงๆด้วย” มันยิ้มตาตี๋ หลังจากลองชิมดู

จากนั้นก็แย่งผมทานจนกะหล่ำปรีหมด จริงๆแล้วผมไม่ค่อยหิวเท่าไร เลยปล่อยให้คนหิวทานอย่างจุใจ พอทานกันเสร็จ ไอ้บอสยังไม่ยอมหยุดทาน ยังคงซดน้ำที่เหลืออยู่ในจานกะหล่ำปรีต่อ

“ยังจะกินอีกเหรอ” ผมบ่นมันเพราะจะเริ่มเก็บจานไปล้างแล้ว แต่มันยังเหมือนจะกินไม่เสร็จ
“ก็แฟนผมทำให้กินทั้งทีนี่ ผมก็ต้องกินให้หมดสิ” มันหันมาบอกผม พร้อมกับยิงฟันใสให้ผม

ทำเอาผมอดยิ้มไม่ได้ ในใจก็ตื้นตันกับคำพูดของมัน ความรู้สึกดีใจและอิ่มใจแผ่ซ่านไปเต้มหัวใจผม จนเริ่มมีฝ้าขาวๆขึ้นมาเกาะที่นัยต์ตาผม
“ขอบคุณนะ” ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้มัน

ผมเก็บจานมาล้างที่ซิ้งค์ บอสช่วยเก็บโต๊ะเอาจานที่เหลือมาวางไว้ให้ ก่อนจะสวมกอดผมจากทางด้านหลัง

“บอสรักโบ้ทที่สุดในโลก” เป็นเพียงเสียงกระซิบของบอสข้างๆหูผม แต่เสียงนั้นกลับด้งก้องกังวานไปที่หัวใจ....

Game
See You Next Game

-------------------------------------------------------

ตอบคอมเมนท์ครับ

ตอบคอมเมนท์คุร IsDeer
ไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องฟินของคู่ Bird Pipe เพราะมีให้ฟินตอนย้อนอดีตเฉลยเรื่อง Boat กับ ฺBoss ว่าทำไมถึงเลิกกัน มีคู่ Bird กับ Pipe แน่นอนคราบบบ อิอิ

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 55th Game  – Loy Kratong Festival

วันอาทิตย์ทั้งวัน ผมกับบอสก็ยังวิ่งรอกระหว่าง โรงเรียนกับสนามกีฬาฯ เพื่อเก็บงานบนอัฒจรรย์ ทำความสะอาด ขนของกลับเก็บมาไว้ที่โรงเรียน แล้วก็ต้องประชุมสรุปงานกันที่ห้องสภานักเรียน

เธอคือความหมายของทุกลมหายใจในวันนี้
เธอคือความรักและคือไออุ่นหนึ่งเดียวที่ฉันมี
ไม่ว่าจะนานแค่ไหนจะรักเธอ มีแต่เธอคนเดียวเท่านั้น

เสียง xperia ของไอ้บอสดังขึ้นหลังจากที่ประชุมสภานักเรียนเสร็จ

“หวัดดีครับ เฮีย” ไอ้บอสทักทายผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายมันผ่านทางโทรศัพท์
“ครับเฮีย”
“ยังจำได้ครับ” ?
“ครับ ผมทราบครับ” ?? สีหน้าไอ้บอสเริ่มเคร่งเครียด
“ครับ ผมรู้ดีครับ เฮียไม่ต้องห่วงครับ” ???
“ครับ สวัสดีครับ” ไอ้บอสะกดวางสาย แล้วทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ

สีหน้าไอ้บอสดูมีเรื่องกังวลใจและไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัดหลังจากรับโทรศัพท์จากเฮียค็อป ผมคิดว่าคงมีอะไรแน่ๆ แต่สภาพตอนนี้ยังไม่อยากถามให้บอสไม่สบายใจหนักขึ้นไปอีก ถ้าเดี๋ยวมันสบายใจขึ้นก็คงเล่าให้ผมฟังเอง ผมเดินลงไปนั่งข้างๆบอส เอื้อมมือไปกุมมือใหญ่นั้นอย่างนุ่มนวล บอสหันมามองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม แต่ผมเองก็รู้สึกว่าในรอยยิ้มนั้น ยิ้มเพื่อกลบอะไรบางอย่างที่กำลังรุ่มร้อนอยู่ในใจไอ้บอส ไอ้บอสเอื้อมแขนมาวางที่บ่าซ้ายผม ก่อนจะดึงตัวผมมาซบที่บ่ามัน

..........

ตลอดทางกลับบ้าน บอสพูดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว ผมได้แต่มองมันด้วยความเป็นห่วง

“มีอะไรหรือเปล่า” ผมตัดสินใจถามบอสเพราะเริ่มกังวลใจกับท่าทีของมัน
“หืม” น้ำเสียงบอสดูสงสัยกับคำถามของผม
“ก็เห็นเงียบๆไป” ผมตอบมันกลับไป
“ไม่มีอะไรหรอกโบ้ท” บอสหันมายิ้มก่อนจะตอบผม
“ถ้าให้โบ้ทช่วยหรือทำอะไรก็บอกได้นะ” ผมตอบบอสกลับไป
“ได้ดิ แค่ช่วยอยู่ข้างบอส อยู่กับบอสแล้วก็รักบอสตลอดไป ทำได้เปล่า?” บอสพูดจบก็คว้ามือผมไปกุมไว้
“โบ้ทอย่าไปไหนก็พอ ส่วนเรื่องอื่นๆเดี๋ยวบอสจัดการเอง”  น้ำเสียงบอสหนักแน่นและมุ่งมั่น
“โบ้ทไม่ไปไหนหรอก” ผมตอบมันกลับไป
“โบ้ทจะอยู่กับบอสจนถึงวันที่บอสไม่ต้องการ....” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกเอามือปิดปาก
“ไม่เอาไม่พูด” ไอ้บอสดุผมเสียก่อน
“ไม่มีวันนั้น แน่นนอน” ไอ้บอสย้ำหนักแน่น

...........

กลับมาถึงบ้านพวกเราก็ขึ้นมาบนห้อง อาบน้ำด้วยกันเหมือนเคย บอสยืนเช็ดผมให้ผม แล้วมันก็คว้าตัวผมเข้าไปกอด แต่วันนี้ดูมันจะกอดแน่นกว่าปกติ เหมือนคนที่หวงของรักและเคยเสียของรักไปแล้ว เมื่อได้กลับมาอีกครั้งก็จะไม่มีวันปล่อยให้ของรักชิ้นนั้นหลุดมือไปอีกเป็นอันขาด ผมกระชับอ้อมกอดของผมให้แน่นขึ้น เพราะตัวผมเองก็จะไม่มีวันปล่อยของรักของผมหลุดมือไปอีกแน่นอน

แล้วรอยจูบที่อบอุ่นก็ถูกประทับลงมาที่หน้าผากผม และแช่อยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนจะเลื่อนลงมาที่ปลายจมูกและมาประทับที่ริมฝีปากผมอย่างนุ่มนวล ก่อนลิ้นอุ่นๆของบอสจะดันริมฝีปากผมเปิดขึ้นเบาๆ เพื่อขออนุญาตเจ้าของริมฝีปากนั้นรุกล้ำเข้ามา ผมตอบโต้ด้วยการใช้ลิ้นอุ่นๆดันลิ้นที่เล่าร้อนของบอสกลับไป บอสดันตัวผมลงนั่งที่เตียง โดยที่ยังไม่ได้คลายจูบ แล้วก็ใช้ศรีษะกับจูบนั้นดันตัวผมเองให้นอนลงบนเตียง แล้วผมก็ถูกร่างกายของบอสค่อมลงมาอย่างอ่อนโยน..........

พรุ่งนี้ลอยกระทง สรุปแล้วนี่ผมเสียตัวก่อนวันเลยกระทงที่เป็นวันเสียตัวแห่งชาติหรือนี่

...........................

เช้านี้ผมกับบอสกลับมาสู่สภาวะปกติ หลังจากใช้รถยนต์กันมาเป็นอาทิตย์ ถึงเวลาต้องช่วยโลกประหยัดพลังกันอีกครั้ง โดยใช้บริการรถสาธารณะที่แน่นขนัดของ กรุงเทพฯ เหมือนเคย ผมกับบอส แล้วก็ไอ้เบนซ์กับไอ้เบียร์ แทรกตัวขึ้นมาบน ป.อ 75 ที่อัดแน่นเป็นปลากระป๋อง เพราะเป็นช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน

“ลงเดินกันเถอะไม่งั้นจะสายนะ” ไอ้บอสหันมาบอกผมกับไอ้เบนซ์และไอ้เบียร์

เมื่อรถหยุดนิ่งหน้าวัดยานนาวากว่า 15 นาทีโดยไม่มีสาเหตุ พวกเราลงจากรถเมล์แล้วเดินไปตามฟุตบาทเพื่อไปขึ้น BTS ที่สถานีสะพานตากสิน

“หวัดดีพี่บอสพี่โบ้ท พี่เบนซ์พี่เบียร์”  เสียงคุ้นหูทักทายพวกเรา ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้สวัสดี
“อ้าวบอล เพิ่งมาเหรอ” ไอ้บอลที่อยู่ในชุดนักเรียนกางเกงสีน้ำตาล ที่กำลังเดินสวนทางกับพวกเราเพื่อไปโรงเรียนเด็กกางเกงน้ำตาลแถวๆวัดยานนาวา
“ครับพี่ เพิ่งลงจาก BTS มา” ไอ้บอลคงขึ้น BTS มาจากวงเวียนใหญ่แล้วมาลงสถานีสะพานตากสิน
“พวกพี่รีบไปเถอะ BTS โคตรแน่น” ไอ้บอลรีบเตือนพวกเราก่อนที่พวกเราจะสายกัน
“เออ งั้นไปล่ะ เจอกันนะบอล” ไอ้บอสโบกมือลาไอ้บอล

กว่าจะมาถึงโรงเรียน ก็ฉิวเฉียดจะกลายเป็นคนมาสายอยู่ลามร่อ

“พรุ่งนี้คงต้องออกกันเช้ากว่านี้อีกหน่อย” ผมหันไปบอกไอ้บอส
“อืม” บอสส่งเสียงในลำคอตอบผมกลับมา

รถ Volvo XC60 SUV จอดเทียบที่ฟุตบาทหน้าโรงเรียน ไอ้บีมก้าวลงจากรถลงมายกมือทักทายพวกเรา

“เฮ้ย พวกมรึงคืนนี้ไปลอยกระทงที่ไหนกันวะ” เป็นสิ่งแรกที่ไอ้โอมที่อยู่ในรถในตำแหน่งสารถีตะโกนทักทายพวกเรา
“ไปแถวโรงเรียนกรูไหม สะพานพระราม 8 อ่ะ” ไอ้โอมรีบชวนโดยที่มีไอ้บีมพยักหน้าหงึกๆ อยู่ข้างรถ
“เออน่าสน” ผมบอกมันไป
“เอาไงก็โทรบอกนะโว้ย กรูรถจอดไม่ได้”  ไอ้โอมไขกระจกขึ้นแล้วรีบบึ่งรถไปโรงเรียนมันแถวๆ หอสมุดแห่งชาติ ซึ่งดูยังไงก็ไม่ทันแน่ๆ

“อยากไปไหม” ไอ้บอสถามผมหลังจากแยกกับไอ้โอม
“บอสอยากไปหรือเปล่า” ผมหันกลับไปตอบมันด้วยคำถาม
“ก็ดีนะ ลอยกระทงเสร็จแล้วอยากไปภูเขาทองหน่ะ” ไอ้บอสชวนผมไปต่อ
“จะได้ไปไหวพระกัน” ผมหันกลับไปยิ้มให้ไอ้บอส ในใจก็คิดว่าก็ดีเหมือนกันจะได้สบายใจกันขึ้น

...........

พอตกเย็นหลังเลิกเรียนเหลือคนไปกับเรามี ผมกับบอส ไอ้ไบร์ทไอ้เกมส์ แล้วก็ไอ้โอม ไอ้ไบร์ท์ต่อรองอยู่นานกว่าไอ้เกมส์จะยอมไป เพราะมันวางแผนไว้ว่าจะไปกันอีกที่ ส่วนไอ้โอมรอเตรียมพร้อมอยู่แถวๆโรงเรียนของมันแล้ว เที่ยวนี้ไอ้แบงค์ไอ้อาร์มขอแยกกันไปตามที่วางแผนไว้แต่แรก ส่วนคุณพี่ชายผมกับไอ้เบียร์ก็ไปอีกที่ ไม่ต้องพูดถึงไอ้บาสกับไอ้ปั๊ปและได้บูมกับไอ้นัท ไอ้สองคู่มันนัดจะไปลอยกระทงด้วยกัน

พวกเราเรียกแท็กซี่ที่หน้าโรงเรียนของเรามุ่งหน้าสะพานพระราม 8 เพราะนัดไอ้โอมไว้ที่นั่น วันนี้รถคงติดกันแน่ๆ เพราะกรุงเทพจัดงานลอยกระทงแถวนั้นมาหลายปี

โปรดอย่าสงสัย นั่นคือความจริงใจจากผม
จากคนๆเดิม คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
คนที่คอยอยู่ดูแลระยะไกล
จำได้ไหม เขายังเป็นห่วงคุณเหมือนเดิม

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของไอ้ไบร์ทดังขึ้นมาไอ้ไบร์ทกดปุ่มรับสาย

“ครับ โอม” ไอ้ไบร์ทพูดกับคนในโทรศัพท์
“อืมม ใกล้ถึงแล้วล่ะ”
“ครับ ได้ครับ แล้วเจอกัน” ไอ้ไบร์ทกดวางสายก่อนจะหันมาบอกพวกเราว่าไอ้โอมรออยู่ที่นั่นแล้ว

ไม่นานพวกเราก็มาถึงสวนสาธารณะที่อยู่หน้าสะพานพระราม 8 พอลงรถเสร็จก็เจอไอ้โอมยืนยิ้มหน้าแป้นรอพวกเราอยู่แล้ว พวกเราเดินผ่านลานที่มีพ่อค้าแม่ค้านำกระทงมาขายที่ถูกจัดโซนให้มาอยู่กับตรงนี้

“โบ้ทเลือกกระทงสิ” ไอ้บอสบอกผมให้เลือกเอากระทงที่วางให้เลือกละลานตา
“บอสไม่เลือกเองล่ะ” ผมหันไปบอกมันเพราะผมเองก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน
“ไม่เอาอ่ะ บอสจะลอยใบเดียวกับโบ้ท” ผมเพิ่งเข้าใจว่าที่ให้ผมเลือกกระทงเพราะจะลอยใบเดียวกับผม ผมรู้สึกหน้าร้อนวูบขึ้นมาเพราะเขินแม่ค้าเบาๆ แต่ผมก็รู้ความสุขอย่างบอกไม่ถูกที่จะได้ลอยกระทงใบเดียวกับไอ้บอส
“งั้นเอาใบนี้นะ” ผมชี้ไปที่กระทงใบตองที่ประดับด้วยดอกไม้สดสวยงามใบหนึ่งไม่ใหญ่มาก
“เท่าไรครับ” ไอ้บอสหันไปถามแม่ค้า
“150 บาทค่ะ” ไอ้บอสหยิบเงินในกระเป๋าตังค์จ่ายให้แม่ค้าไป โดยที่ไม่ลืมซื้อไฟแช็กมาด้วย

ไอ้บีมกับไอ้โอม และไอ้ไบร์ทกับไอ้เกมส์ก็ได้กระทงมากันเรียบร้อยแล้ว พวกเรากำลังเดินไปที่ท่าน้ำ ก็เห็นไอ้บิวหัวหน้าชมรมดนตรีโรงเรียนเรากับไอ้ริวหัวหน้าชมรมดนตรีโรงเรียนเด็กกางเกงดำแถวๆพาหุรัด แล้วก็ไอ้แบลหัวหน้าชมรมถ่ายภาพโรงเรียนเรามาลอยกระทงด้วยกัน 3 คนพอดี

“อ้าว มาลอยกันถึงนี่เลยเหรอ” ไอ้บิวทักพวกเราก่อนที่จะยกมือทักทายพวกเรา
“แหม่มรึงก็มาไกลเนอะ” ผมแซวไอ้บิวไป มันเอามือขึ้นเกาหัวแก้เขิน เพราะจริงๆแล้วสาเหตุที่มันมาลอยที่นี่ก็คงเพราะโรงเรียนไอ้ริวก็ไม่ไกลจากที่นี่
“ไอ้เบลมาคนเดียวเหรอ” ไอ้บอสทักไอ้เบล
“มาคนเดียวหว่ะ ไอ้บิวลากมากด้วย มันเห็นว่ากรูอยู่คนเดียวไอ้เคนเพิ่งบินกลับไปขอนแก่นเมื่อวานนี้ มันเลยกลัวกรูเหงา” ไอ้เบลหันมาบอกไอ้บอสอย่างอารมณ์ดี

ทักทายกันเสร็จพวกเราก็เดินไปลอยกระทงกัน ไอ้บอสใช้ไฟแช็กจุดธูป จุดเทียน ผมเอาเศษเหรียญใส่ลงไปในกระทง ตามความเชื่อ ผมกับไอ้บอสนั่งยองๆลงข้างๆกัน มือก็จับกระทงคนละข้าง ก่อนที่จะยกขึ้นมาเริ่มอธิฐาน

ผมตั้งจิตอธิฐาน ขออโหสิกรรมต่อพระแม่คงคาที่เคยร่วงเกินไว้ตลอดปีที่ผ่านมาขอให้ผมกับบอสอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และอยู่ด้วยกันนานๆ ด้วยนะครับพระแม่คงคา

ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นไอ้บอสมองหน้าผมแล้วอมยิ้มให้ผมด้วยสายตาที่อบอุ่น แสงเทียนพลิ้วไหวสะท้อนหน้าของเราสองคนด้วยสีส้มนวลๆ แล้วเราสองคนก็ลอยกระทงลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ผมได้แต่ภาวนาให้กระทงของเราลอยไปไกลๆ ให้พระแม่คงคงได้ยินคำขอขมาและคำอธิฐานของพวกเรา

ปีนี้คงเป็นลอยกระทงที่ผมคงลืมไม่ได้ไปตลอดชีวิต

Game
See You Next Game

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
คือคนเขียนจะมีพาร์ทย้อนหลังมาให้เรานั่งเศร้าที่เค้าเลิกกันแล้วก็มีคนตายเหรอ
แสดงว่ามันคงจะมีดราม่าอันยิ่งใหญ่ที่มาจากปมในอดีตสินะ

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 56th Game  – Paradise

ผมกับบอสยืมมองกระทงลอยไปไกลจนสุดสายตา พวกเราก็เดินกลับขึ้นมาจากท่าน้ำ ผมมองเห็นใครคนหนึ่งที่คุ้นตา นั่งอยู่ที่ม้านั่งในสวนสาธารณะที่ไม่ไกลจากท่าน้ำเท่าไร ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งคุ้นตากับเด็กหนุ่มคนนั้น

“เฮ้ยยย ไอ้ไปป์มาลอยกระทงเหรอ”  ไอ้บอสทักทายไอ้ไปป์
ไอ้ไปป์สะดุ้งเล็กน้อยเหมือนมันเพิ่งตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงทักจากพวกเรา
“อ้าว พวกมรึง” ไอ้ไปป์ทักทายตอบกลับ เหมือนเสียงมันเครือๆ
“มาลอยกระทงเหรอวะ” ผมถามมันไปอีกรอบ
“อืมม มาลอยกระทง” มันตอบผมกลับมาสั้นๆ
“มากับใครหรือเปล่าวะ” ไอ้ไบร์ทถามมัน
“มาคนเดียวหว่ะ” เสียงมันตอบกลับมา
“กรูกับเบิร์ดเคยมาลอยกระทงครั้งแรกหลังที่ตกลงคับกันที่นี่” ผมกับไอ้บอสได้แต่หันมาสบตากันเมื่อได้ยินไอ้ไปป์มันพูดถึงเบิร์ด
“แต่กรูก็ไม่เคยพาเบิร์ดมาที่นี่อีกจนเบิร์ดมันเสีย” เสียงไอ้ไปป์ขาดหายไป ไอ้ไปป์สูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง
“ทั้งๆที่เบิร์ดเคยรบเร้าหลายทีว่าอยากกลับมาลอยกระทงที่นี่อีก”  ตาไอ้ไปป์เริ่มแดง น้ำใสๆเอ่อขึ้นมาเต็มนัยต์ตามัน
ไอ้ไปป์เอามือกำสร้อยคอสิ่งแทนตัวและใจของมันกับไอ้เบิร์ดไว้แน่น สักพักน้ำใสๆที่เอ่ออยู่ก็ค่อยๆร่วงหล่นลงมา ภาพนั้นทำเอาพวกเรา ผมกับไอ้บอส ไอ้ไบร์ทไอ้เกมส์ ไอ้บีมไอ้โอม ไอ้บิวไอ้ริว และไอ้เคน ก็รู้สึกหายใจอึดอัด มีก้อนใหญ่มาจุกอยู่ที่คลอ กันหมด

 “ไม่เป็นไรมรึง กรูรู้ว่ามรึงเสียใจ แต่กรูอยากให้มรึงคิดแบบนี้นะ ถ้าไอ้เบิร์ดมันมองลงมาจากฟ้าเห็นมรึงเป็นแบบนี้ มันก็คงรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน มรึงต้องเข้มแข็งนะโว้ย” ผมพยายามอธิบายให้ไอ้ไปป์มันรู้สึกสบายใจขึ้น ไม่อยากให้มันโทษตัวเอง

ไอ้บอสเดินเข้าไปตบบ่ามัน

ปกติมันก็เข้มแข็งไม่ใช่คนอ่อนแอ ที่ผ่านมามันก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่วันนี้เป็นสำคัญวันหนึ่งของมันกับเบิร์ด แล้วการกลับมาสถานที่แห่งนี้ที่เคยมีความทรงจำร่วมกัน มันคงไม่ง่าย ยิ่งความรู้สึกผิดที่ไม่ได้พาไอ้เบิร์ดกลับมาที่นี่อีก ยิ่งทับถมความรู้สึกแย่ๆของตัวมันเองเข้าไปอีก วันนี้ความเข้มแข็งที่ไอ้ไปป์พยายามสะกดตัวเองเอาไว้ได้ตลาดมาพังทะลายลง

การจากลาที่ยังมีลมหายใจอยู่ถึงแม้จะเจ็บปวดแต่เราก็รู้ว่าเขายังมีตัวตน แต่การจากลาแบบไม่เหลือลมหายใจอยู่มันคงจะเจ็บปวดยิ่งกว่า เพราะเราไม่มีโอกาสแม้จะเห็นเค้าได้อีกเลย

......

พอไอ้ไปป์ตั้งสติ และสงบลงได้ มันก็เอาแต่ขอโทษขอโพยพวกเราที่ทำให้งานกร่อยลงไป แต่พวกเราก็เข้าใจ ในวันที่เราอ่อนแอเราก็แค่อยากมีคนระบาย มีคนที่พร้อมจะเข้าใจ เท่านั้นเอง และคำว่าเพื่อนก็มีประโยชน์ที่สุดตอนนี้แหละ

“ไปป์ ไปไหวพระกัน” ไอ้บอสชวนไอ้ไปป์
“เออใช่ เดี๋ยวพวกกรูจะไปไหว้พระกันที่ภูเขาทอง” ไอ้บีมรีบชวน
“ไปเหอะมรึง ไปทำบุญกัน จะได้สบายใจขึ้น ทำบุญให้ไอ้เบิร์ดมันด้วย” ผมตบบ่ามันเบาๆ ไอ้ไปป์มันพยักหน้ารับปาก

.........

พวกเราทั้งอัดกันไปในรถไอ้โอมตอนนี้ถ้าตอนนี้เป็นเสมือนปลากระป๋องมีล้อ ผมก็ช่างเปรียบเทียบ นี่มัน Voval XC60 เชียวนะ

“เฮ้ยพวกมรึง หยุดยาวต้นเดือนธันวา พวกมรึงมีแพลนไปไหนกันหรือเปล่า” ไอ้เบลถามขึ้นกลางรถ
“ช่วงวันพ่อกับวันรัฐธรรมนูญหน่ะเหรอ” ผมถามมันกลับไป
“อืมม นั่นแหระ” ไอ้เบลตอบกลับมา
“พอดีกรูกับไอ้เคนวางแผนจะไปเชียงคานกัน พวกมรึงสนใจไหม” เกือบทุกคนตาลุกวาวเป็นประกาย หน้าหนาวกับเชียงคานนี่มันสุดๆ
“น่าสนหว่ะ” ขนาดไอ้โอมพนักงานขับรถของพวกเรายังบอกสนใจ
“ไอ้โบ้ท มรึงถามสมาชิกด่วนๆเลย” ไอ้ไบร์ทรีบบอกให้ผมทำหน้าที่เป็นเซลล์ที่คอยหาคนมาใส่กรุ๊ปทัวร์ให้เต็ม
“เออ กรูอีกแล้วเหรอ” ผมเริ่มบ่น
“ก็ทริปเกาะช้างที่มันโอเค เพราะมีมรึงเป็นหัวเรือใหญ่นี่หว่า” ไอ้บีมรีบชม
“เอาไงก็บอกนะ ถ้าเยอะเดี๋ยวกรูจะได้บอกพ่อให้จัดรถบัสไว้ให้หนึ่งคัน จะได้ไม่ต้องขับกันไปเอง” บ้านไอ้เบลมันเป็นบริษัทให้เช่ารถครับ เรื่องนี้สบายมาก

.......

รถค่อยเลี้ยวเข้ามาในเขตรั้ววัดสระเกตุ ที่เป็นที่ตั้งของภูเขาทอง ที่พวกเราตั้งใจจะมาไหว้พระกัน ภายในวัดคนแน่นขนัดเพราะที่วัดเองก็จัดงานลอยกระทงเช่นกัน พอหาที่จอดรถกันได้ พวกเราก็ค่อยๆเดินดูภายในงาน ที่มีทั้งซุ้มปาลูกโป่ง ยิ่งปืนตุ๊กตา โยนห่วง สอยดาว ช้อนปลาทอง ตักไข่ บรรยากาศงานวัดที่ไม่ค่อยได้เห็นในกรุงเทพฯ บ่อยนัก

ขนาดไอ้เกมส์กับไอ้โอมยังอดไม่ได้ที่จะแวะปาลูกโป่งไม่ได้ จริงๆแล้วของรางวัลไม่เท่าไร แต่เรื่องไม่ยอมกันไม่ได้เป็นการอยากเอาชนะกัน ไอ้เกมส์กับไอ้โอมจะไม่ลังเลใจเลยที่จะซื้อลูกดอกชุดต่อไป ส่วนไอ้ไปป์กับไอ้บอสก็ไปลองความแม่นของปืนอัดลมที่ซุ้มข้างๆปาลูกโป่ง โดยมีไอ้บิวเป็นกองเชียร์อยู่

แล้วสมาคมเคะแห่งชาติ (ใครคิดวะ ช่างคิดเนอะดูแมนมาก) อย่างไอ้บีมไอ้ไบร์ทแล้วก็ไอ้เบลจะทำอะไรกันละครับ โน่นไปนั่งช้อนปลาทองกันทั้งสามคน ส่วนผมมีอย่างเดียวที่เหมาะกับผมครับ “ตักไข่” (แหม่เหมาะโคตรๆเลยครัช)

หลังจากเสียเงินไปคนละหลายร้อยก็ได้ของมาติดไม้ติดมือกันให้ชุ่มชื่นหัวใจ ส่วนมากจะเป็นพัด แม่เจ้าเสียเงินไปหลายร้อยได้พัดโดเรม่อนมากันพวกสมาคมเมะแห่งชาติ ส่วนสมาคมเคะแห่งชาติ ก็ไม่ได้ปลาทองกันสักตัว เอ่อ คือพวกมรึงมาเสียเงินกันใช่ไหม

ส่วนผมหน่ะเหรอครับ
.
.
หึ
หึ
ได้พัดลมมือถือครับ อันเล็กๆใส่ถ่านไฟฉาย เวรของกรรมจริงๆ

แล้วที่ขาดไม่ได้คือได้ของกินติดไม้ติดมือเป็นเสบียงตอนปีนขึ้นภูเขาทองกันอีกไม่ใช่น้อย หลังจากเสียเวลามัวเล่นเกมส์ หาของกิน แล้วก็ได้เวลาขึ้นภูเขาทองกันเสียที

“มรึงๆ ทางขึ้นสวรรค์” ไอ้บีมชี้ไปที่ป้าย แต่หน้าตาของมันเจ้าเล่ห์มีเลศนัย
“ไอ้เชี่ยนี่ ในวัดในวา” ผมอดไม่ได้ที่จะสบถด่ามัน
“อะไรของมรึงไอ้โบ้ท กรูแค่ชี้ป้าย” ไอ้บีมแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“มรึงไม่ต้องเลย กรูรู้นะมรึงคิดไรอยู่” ผมเอานิ้วชี้มันแล้วยิ้มที่มุมปาก
“กรูชี้ทางขึ้นสวรรค์ให้มรึงไง ไอ้โบ้ท”
“ไม่ต้องกรูขึ้นของกรูอยู่ทุกวัน” ผมเกทับมันไป เล่นเอาแตกฮือกันทั้งวง แล้วผมก็โดนไอ้บอสเขกกระโหลกไปหนึ่งที โทษฐานทะลึงในวัดในวา

ปีนบันใดมาถึงชั้นที่หนึ่ง ก็แวะไหว้พระปิดทองกัน หลังจากไหว้พระกันเสร็จพวกเราก็มาต่อแถวขึ้นไปไหวพระเศรษฐีนวโกฎิ กันชั้นบนสุดซึ่งต้องขึ้นตามบันใดที่สามารถขึ้นได้ทีละคน เป็นบันใดวนเล็กๆ ไม่ชันเท่าพระปรางค์วัดอรุณฯ พอออกมาจากประตูก็จะเห็นยอดภูเขาทอง อากาศข้างบนเย็นสบาย ลมเย็นๆ โชยมาตลอดเวลา เพราะเริ่มต้นหน้าหนาวไปแล้ว ซื้อธูปเทียน กันเสร็จพวกเราก็มานั่งไหว้พระกัน

บรรยากาศข้างบนสวยมาก มองกรุงเทพได้รอบ แสงไฟระยิบระยับสวยงาม

“ที่นี่ก็สูงเหมือนกันเนะ” ไอ้ไปป์บอกพกเราหลังจากที่มันยืนมองบรรยากาศรอบๆ ดูไปป์จะสบายใจขึ้นหลังจากไหว้พระกันเสร็จ
“อืมม สวยมากด้วยบรรยากาศก็ดี” ผมบอกไอ้ไปป์
“ไว้วันหลังมาตอนกลางวันสิ สวยไม่แพ้กันเลยล่ะ ยิ่งวิวตอนเดินขึ้นนะ” ไอ้บอสเสริมขึ้นมา

ผมกับไอ้บอสและไอ้ไปป์ ตกลงกันว่าเราจะมาขึ้นภูเขาทองกันอีกรอบตอนกลางวัน พอหลังจากทุกคนดื่มด่ำกับทัศนียภาพรอบด้านบนภูเขาทองกันแล้ว ก็ค่อยๆเดินลงมาจากภูเขาทองกัน

ปีนี้ได้ทั้งลอยกระทง ได้ทั้งไหว้พระ แถมยังได้ลอยกับเพื่อนๆแล้วก็ไอ้บอสด้วย อิ่มใจจริงๆ ไอ้โอมขับรถมาส่งพวกเราที่สยาม เพราะคุยกันไว้แล้วว่าเราจะแยกกันกลับเอง เพราะบ้านอยู่กันคนละทิศ เกรงใจไอ้โอมมัน แค่มันพาไปลอยกระทงกับไหว้พระนี่ก็ดีเท่าไรแล้ว แถมยังไม่หวงรถให้พวกเราอัดกันในรถมันได้

“กรูไปแล้วนะ ขอบใจมากหวะโอม” ผมขอบคุณมันก่อนจะก้าวลงจากรถ
“ขับรถกลับดีๆนะ” ไอ้บอสสำทับไอ้โอมก่อนจะปิดประตู

ไอ้ไบร์ทกับไอ้เกมส์ขอแยกขึ้น BTS ไปทองหล่อ เพราะบ้านไอ้เกมส์อยู่แถวนั้น
ไอ้บิวกับไอ้ริว ไอ้ไปป์นั่งย้อนกลับไปย้อนกลับไปแถวสนามเป้าและอารีย์ บ้านพวกมันอยู่แถวโน้น

เหลือผมไอ้บอสแล้วก็ไอ้เบล กลับBTS ทางเดียวกัน ไอ้เบลจะไปลงสถานีศาลาแดงแล้วต่อ MRT ไปสถานี พระราม 9 บ้านมันอยู่แถวนั้น ส่วนผมวันนี้สถานีวงเวียนใหญ่ บ้านอรรถากร ครับ

“โบ้ทมรึงอย่าลืมถามจำนวนคนที่จะไปเชียงคานนะ” ไอ้เบลย้ำกับผมกันผมลืม
“อืมมได้ แล้วถ้ามันไปกันเยอะจะให้จองโฮมเสตย์เลยมั้ย” ผมถามไอ้เบลกลับ
“ไม่ต้องนะ พ่อแม่ไอ้เคนมีบ้านพักตากอากาศที่นั่นอยู่ริมแม่น้ำโขงเลย” ไอ้เบลบอกพวกเรา

สรุปว่าทริปนี้ได้ที่พักฟรี แถมรถฟรีอีกตาหาก

ไอ้เบลลงที่สถานีศาลาแดง เหลือผมกับไอ้บอสนั่ง BTS กลับกัน คนบนรถไฟฟ้าไม่ค่อยเยอะเท่าไร เพราะใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ไม่นานก็มาถึงสถานนีวงเวียนใหญ่ เดินลัดเลาะเข้ามาในซอยไม่นานก็ถึงบ้านอรรถากร ในบ้านเงียบสนิท เพราะเที่ยงคืนกว่าแล้ว ผมกับไอ้บอสค่อยๆเดินเข้าห้องนอน ผมก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ยังไม่ทันได้ยืดเส้นยืดสายบิดขี้เกียจ ร่างสูงใหญ่ของไอ้บอสก็ค่อมลงมาที่ตัวผม

“บอสรักโบ้ทนะครับ” บอสกระซิบบอกรักที่ข้างๆหูผม
“ครับ โบ้ทก็รักบอสครับ มากๆด้วย”

บอสเริ่มเอาริมฝีปากมาขบที่หูผมเบาๆ แล้วคืนอาถรรพ์วันเสียตัวแห่งชาติ ก็กำลังจะสำฤทธิ์ผลกับอีกคู่เราอีกคู่หนึ่ง  (โอ้ว น่อว์)


Game
See You Next Game

---------------------------------------------------------------------------------
ปุกาศๆ จากคนเขียนนะครับ^^
คนอ่านถึงตรงนี้คงคิดว่า ไอ้เด็กกลุ่มนี้มันจะไปเที่ยวกันอีกแล้ว 555+
เที่ยวกันบ่อยจริงๆอะไรจริง อิอิ
แต่อีกไม่นานนิยายเรื่องนี้ก็จะจบแล้วนะครับ
นิยายเรื่องนี้ดำเนินเรื่องมาได้กว่า ค่อนเรื่องแล้ว ตอนนี้เป็นตอนที่ 56
คนเขียนตั้งใจจะให้นิยายเรื่องนี้ จบภายใน 76-78 ตอนนะครับ
ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ ไหนๆ ก็อ่านกันมาค่อนเรื่องแล้วเนอะ
คนเขียนขอขอบคุณแฟนๆนิยายทุกๆท่าน(ทั้งท่านที่เป็นนักอ่านเงาหรือเปิดผยตัวตน) ที่ติดตามกันมาตลอดด้วยนะครับ^^

ป.ล แฟนๆนิยายที่เป็นนักอ่านเงา ถ้าท่านอยากมีส่วนร่วมกับนิยายเรื่องนี้ที่ใกล้จะจบแล้ว ก็สามารถทิ้งคอมเมนท์ให้คนเขียนได้ชื่นใจก็เรียนเชิญนะครับ จะติจะชมก็ได้คนเขียนยินดีนะครับ^^

--------------------------------------------------------------------------------

ตอบคอมเมนท์ครับ

ตอบคอมเมนท์คุณ IsDeer ครับ
คนเขียนจะมีพาร์ทย้อนหลังครับ เป้นเรื่องเหตุการณ์ที่ทำให้โบ้สกับบอสเลิกกันครับ ส่วนเรื่องเบิร์ดกับไปป์ จะเล่าถึงความรักของคนทั้งคู่ให้คนอ่าน ฟินกันหน่ะครับ โดยทั้งสองเรื่องจะเป็นเหตุกาณณ์ตอน ม.3 ครับ ส่วนตอนที่เบิร์ดเสีย คงไม่ได้เล่าครับ เพราะเป็นเหตุการณ์ตอน ม.4 ไทม์ไลน์น่าจะเป็นประมาณนั้นครับ
---------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 57th Game  – Plan a trip

ผมแอดไลน์ไอ้บัด ไอ้คริส ไอ้บอล เพิ่มเข้ามาในไลน์กลุ่ม พอไอ้สามคนนั้นกดรับเข้ากลุ่ม ผมก็ทิ้งบอมบ์ไป

                           ที่พักฟรี รถฟรี สนใจใครสนใจ                                               
                                                                      ทักมา ทริปเชียงคาน 02-12 ธันวา 12.30
Bank
อะไรยังไงขอรายละเอียดเพิ่มด้วยครับ 12.31

Beam
11 วัน่เลยเหรอมรึง 12.31

Bright
วันจันทร์ที่ 6หยุดชดเชยวันพ่อไง แล้ววันที่ 10
ก็วันรัฐธรรมนูญตรงกับวันศุกร์  12.32

Ken
เจ้าภาพพร้อมนะครับ มากกันหลายๆคนสนุกดี 12.32

Boss
ไปครับ 12.32

Arm
ไปอีกหนึ่งครับ 12.32

Bank
ที่รักผมไปผมก็ไปครับ^^ 12.33

Bell
ลงชื่อกันไว้นะ จะได้เตรียมรถให้ถูก 12.33

Game
ไปๆๆๆๆๆๆๆ ด้วย 12.34

Ohm
บีมไปป่าว ปีไปโอมก็ไปนะ 12.34

Beam
ไปครับ^^ 12.34

Bright
กด +1 ได้เลยเพื่อน 12.34

Bas
+1 ด้วยครับ 12.35

Pup
สำรองที่นั่ง 1 ที่ครับ 12.35

Boom
ผมไปครับ 12.36

Nut
นับผมไปด้วยนะครับ 12.36

Biew
ไปด้วยครับ แต่ว่าจะไปอยู่เชียงคาน 8 วันเลยเหรอ 12.37

Bell
รถฟรี น้ำมันก็ฟรี ใครอยากไปที่ไหนก็เสนอเพิ่มมาได้นะครับ 12.38
                                     
Ryu
+1 ผมไปด้วยนะครับ 12.38

Best
ไปครับ อยากไปปายครับ^^ 12.39

Benz
เชียงคาน-ปาย อีกเสียงครับ   12.40

Beer
ไปไหนไปกันครับ 12.41

Win
บัดไปด้วยหรือเปล่า 12.41

Dan
ใส่ชื่อผมไปเลยครับ 12.41

Bud
วินไปผมก็ไปครับ 12.42

Bud
ไอ้คริสไปด้วยกันนะมรึง 12.43

Ball
ผมไปด้วยครับ 12.44

Chris
ไปครับ 12.44

Pipe
ยังทันอยู่ไหมครับ 12.48
                 
                                                                                               ทันครับไปป์ 12.49
                           ถ้าจะไปปายด้วย ต้องจ่ายตังค์ค่าที่พักที่นั่นนะครับ 12.50   
                                      ไม่มีปัญหากันเนอะ 12.52                         
                                เงียบแปลว่าโอเคนะเพื่อน  12.55                                                           
                       สรุปไปกันครบนะจาก กรุงเทพ 23คน ไปรับไอ้เคน ที่ขอนแก่น 12.56

Ken
กรูมีเพื่อนพ่วงจากขอนแก่นไปอีก 3 คนเน้อ 12.56
                          พอถึงขอนแก่นจะเป็นคนทั้งหมด 27 คนนะ 12.57
Bell
รับทราบครับ จะได้บอกพ่อว่าให้เอารถ 32 ที่นั่งไป 12.58
                                                                   เดี่ยวรายละเอียดทริปจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับทุกท่าน 12.59                                                 
            แยกย้าย มาสเซอร์เข้าแล้วไว้คุยกัน 12.59

ดีที่มีไลน์กลุ่ม ทุกอย่างจัดการได้ภายในหนึ่งชั่วโมง ไม่งั้นทั้งวันก็ยังติดต่อกันไม่เสร็จ นั่งเรียนคาบมาสเซอร์ปฐมศกเสร็จพร้อมด้วยงานอีกเป็นกระบุง กลับมาจากทริปอาทิตยสุดท้ายก่อนปีใหม่มีสอบมิดเทอมรออยู่

ผมนั่งกดหาข้อมูลทางโทรศัพท์ เพื่อหาที่ที่น่าสนใจเพื่อจัดทริปในสองคาบสุดท้ายที่เป็นคาบกิจกรรม มีไอ้แบงค์ ไอ้บาส ไอ้บูม ไอ้บีม ไอ้ไบร์ท มาช่วยกันสุมหัวช่วยกันคิด เมื่วางแผนกันเสร็จแล้วแบบคร่าวๆแล้ว ผมพิมพ์รายละเอียดทริปลงใน ไลน์กลุ่ม

พฤหัสที่ 2 ธันวาคม
13.00น. ออกเดินทางจากกรุงเทพ
19.00น. ถึงขอนแก่น หาอะไรทาน

ศกุร์ที่ 3 ธันวาคม
07.00น. เริ่มออกเดินทางจากขอนแก่นไปเชียงคาน
09.00น. แวะเที่ยวคุนหมิงเมืองเลย อ.หนองหิน 
12.00น. แวะทานข้าวกลางวัน อ.เมืองเลย
14.00น. ถึงที่พักที่เชียงคาน พักผ่อน

เสาร์ที่ 4 ธันวาคม
06.00น. ใส่บาตรพระตอนเช้า
08.00น. ไปแก่งคุดคู้ เชียงคาน
09.30น. ออกเดินทางจากเชียงคานไปภูเรือ
11.30น. มื้อกลางวันที่ภูเรือ
13.30น. ถึงด่านซ้าย
15.30น. ถึงภูทับเบิก
17.00น. พักที่ตัวอุทยานภูหินร่องกล้า

อาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม
07.00น. เที่ยวภูหินร่องกล้า
12.00น. ถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ
15.30น. ออกเดินทางจากน้ำตกชาติตระการไปเขือนสิริกิติ์ พักผ่อนที่แพ

จันทร์ที่ 6 ธันวาคม
09.00น. ออกเดินทางจากเขือนสิริกิติ์ไปน่าน
10.30น. แวะไหว้พระธาตุช่อแฮ่ที่แพร่
14.00น. วัดพระธาตุเขาน้อย
15.00น. เข้าที่พัก ปั่นจักรยานเที่ยวเมืองน่าน

อังคารที่ 7 ธันวาคม
07.00น. ไหว้พระธาตุแช่แห้ง
08.00น. เดินทางมุ่งหน้าเชียงใหม่
12.30น. ทานข้าวกว๊านพะเยา
16.00น. ขึ้นดอยสุเทพ
18.00น. เข้าที่พัก

พุธที่ 8 ธันวาคม
07.00น. ออกเดินทางไปปาย
10.00น. แวะโป่งเดือดป่าแป๋
16.00น. ถึงปาย พักผ่อน

พฤหัสที่ 9 ธันวาคม
10.00น. ออกเดินทางไปแม่ฮ่องสอน
10.30น. ดอยกิ่วลม
13.00น. ปองอุ่ง
16.30น. วนอุทยานฯถ้ำปลา
18.00น. เข้าที่พักแม่ฮ่องสอน

ศุกร์ที่ 10 ธันวาคม
07.30น. ออกเดินทางจากแม่ฮ่องสอนมุ่งหน้าลำพูน
09.00น. ทุ่งบัวตองดอยแม่อู่ค้อ
11.30น. ออบหลวง
12.30น. ดอยอินทนนท์
17.00น. ไหว้พระธาตุหริบุญชัย ลำพูน
19.00น. พักที่ลำปาง

เสาร์ที่ 11 ธันวาคม
08.00น. ออกเดินทางมุ่งหน้าสุโขทัย
11.00น. อุทยานประวัติศาสตร์ ศรีสัชนาลัย
13.30น. อุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย
18.00น. พักที่พิษณุโลก

อาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม
08.00น. ไหว้หลวงพ่อพุทธชินราช
13.00น. วัดพนัญเชิง อยุธยา
14.00น. ตลาดน้ำอโยธยา
18.00น. ดอนเมือง
20.00น. กลับถึงปลายทางกรุงเทพฯ (บ้านไอ้เบล)


ผมพิมพ์รายละเอียดทริปลงใน ไลน์กลุ่ม
                                                                              คร่าวๆนะพวกมรึง เปลี่ยนแปลงได้ 15.42
                                                                               อยากเพิ่มที่ไหนอีกไหม 15.45
                                  แต่ความคิดกรูนะแค่นี้มันก็แน่นมากแล้วหว่ะ 15.46
                                                                         ปอลิง ให้เวลาถึงเที่ยงคืนนะ15.48
                                                                       กรูจะได้จองที่พัก 15.55

Game
ตามนั้นเลยมรึง กูโอเค 16.00

Ken
ไม่มีปัญหา เดี่ยวกรูขอพนักงานขับรถไป 2 คน
จะได้ผลัดกันขับ น่าจะพอเพราะไม่มีขับกลางคืน 16.10

Ohm
ตามนั้นเพื่อน ชื่อทริป อีสานตอนบนยันเหนือทั้งภาคชิมิ 5555+ 16.15

Ken
จัดไปลูกเพ่ 16.18


..................

หลังจากซ้อมเทนนิสเสร็จที่อกเกอร์รูมชมรมเทนนิส
“เสียดายจังเลยพี่ อยากไปพราอ่ะ แต่วีซ่าจากที่บ้านคงไม่ผ่าน”ไอ้เพียวบ่นอุบ
“ที่บ้านผมมีไปเที่ยวช่วงหยุดยาว คงหนีไม่ออกครับ” ไอ้วายก็ไปไม่ได้อีกคน

“ทำอะไรกันอยู่ครับ” ไอ้บอสทักพวกเราหลังจากเปิดประตูชมรมออกมา

ตามมาด้วย ไอ้คุณพี่ชายผมเดินตามาติดๆ ไอ้เบียร์เดินตามเข้ามาพร้อมกับกล่องขนมแยมโรล กล่องใหญ่ พวกเด็กๆแตกฮือกันไปที่แยมโรล ปิดท้ายที่ไอ้อาร์มคุณเลขาสภาก็เดินยิ้มเข้ามา และตรงดิ่งไปที่กล่องขนมแยมโรลกะเค้าด้วย

“กำลังเอาทริปคร่าวๆให้พวกมันดูกันหน่ะ” ผมบอกไอ้บอส
“อือ ทัวร์ยกภาคหน่ะเหรอ” ไอ้บอสแซว
“แหม่ ไปถามไอ้ 3 คนนั้นเลย มันแย่งบอกที่ๆอยากไปกันใหญ่” ผมชี้ไปทางไอ้แบงค์ ไอ้ไบร์ท ไอ้บีม
“แถมไอ้หัวหน้าชมรมดุริยางค์กับหัวหน้าชมรมเชียร์ด้วย” ผมบ่นพวกมันยาว
“ขี้บ่นจริง ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ไอ้บอสเดินเข้ามาหยิกแก้มผมเบาๆ
“ผัวเมียคู่นี้สวีทกันอีกแล้วเนอะ” ไอ้แบงค์ปล่อยหมามาแล้วครับ เสียงฮือฮาของไอ้พวกลูกคู่ดังไล่หลังมา เล่นเอาครื้นเครงไปทั้งชมรม


Game
See You Next Game

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
คนเขียนถึงขนาดเขียนกำหนดการเที่ยวมาเลยทีเดียว
ประสบการณ์ส่วนตัวใช่มั้ย ฮ่าฮ่าฮ่า
แอบสงสารไปป์เหมือนกันนะ คนอื่นไปเป็นคู่ๆ
แต่ฉันก็ไม่อยากให้ไปป์ไปมีแฟนใหม่ตอนไปเที่ยวอ่ะ //นี่ฉันใจร้ายไปมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 58th Game  – Brush teeth

ทุกคนโอเคกับทริปที่วางแผนกันเอาไว้ ผมกับบอสนั่งใช้อากู๋กับเฮียอาโกด้า หาที่พักเพราะทริปเราตรงกับช่วงหยุดยาว ถ้าไม่รีบจองมีหวังได้นอนวัดกันแน่ๆ

“โบ้ทครับ โบ้ทดูนี่หน่อยว่าถูกไหม” บอสส่งกระดาษที่มันนั่งเรียงลำดับทริปและที่พักให้ผม

คืนวันที่ 2 นอนที่ขอนแก่น
คืนวนที่ 3 นอนเชียงคาน
คืนวันที่ 4 นอนที่อุทยานภูหินร่องกล้า
คืนวันที่ 5 นอนที่แพเขือนสิริกิติ์ อุตรดิตถ์
คืนวันที่ 6 นอนที่น่าน
คืนวันที่ 7 นอนที่เชียงใหม่
คืนวันที่ 8 นอนที่ปาย
คืนวันที่ 9 นอนที่แม่ฮ่องสอน
คืนวันที่ 10 นอนที่ลำปาง
คืนวันที่ 11 นอนที่พิษณุโลก

“อืม ถูกนะบอส” ผมตอบบอสกลับไปเมื่ออ่านรายละเอียดครบแล้ว
“ขอนแก่น กับเชียงคาน นี่ได้บ้านพักของไอ้เคน ไม่ต้องจองใช่ไหม” ไอ้บอสถามผมอีกครั้ง
“ใช่ ที่เหลือต้องจอง” ผมบอกไอ้บอส

ผมนั่งพิมพ์ข้อความตามที่ไอ้บอสเขียนมาลงในไลน์กลุ่ม

                                   วันที่ 3 นอนที่ขอนแก่น, วันที่ 4 นอนที่เชียคาน
  ทั้งสองวันไม่ต้องจองที่พักถูกต้องไหม  22.31
Bell
ถั่วต้มนะครับ นอนบ้านไอ้เคนกันครับ 22.32

                                                            สรุปที่ต้องจองห้องพักนะพวกมรึง  22.32
                      วันที่ 4 บ้านอุทยานภูหินร่องกล้า   22.33
                            วันที่ 5 แพที่เขือนสิริกิติ์   22.33
                               วันที่ 6 โรงแรมที่น่าน   22.34
                          วันที่ 7 โรงแรมที่เชียงใหม่  22.34
                                         วันที่ 8 รีสอร์ทที่ปาย  22.35
                                  วันที่ 9 โรงแรมแม่ฮ่องสอน 22.36
                                   วันที่ 10 โรงแรมที่ลำปาง 22.36
                               วันที่ 11 โรงแรมที่พิษณุโลก 22.37

Ken
เดี๋ยวกรูเช็คแปปนะ อาจจะได้ที่พักฟรีที่
เชียงใหม่ กับ พิษณุโลก 22.39
                                     โอเค งั้นกรูรอ 22.39
Ken
ไม่ต้องจองที่ เชียงใหม่กับพิษณุโลกนะโว้ย 22.45
                                 โอเค แจ่ม 22.47
Ken
ที่เชียงใหม่กับพิษณุโลกเดี๋ยวนอนบ้านเพื่อนกรูได้ 22.48

                                      ทั้งหมด 29 คนนะโว้ย 22.49
Ken
เพื่อนกรูอีก 3 คนมันเอาแฟนไปด้วยนะ
สปอนเซอร์ที่นอนที่เชียงใหม่กับพิษณุโลกหน่ะ
สรุปรวมคนไปทั้งหมด 31 คนนะโบ้ท     22.50

Bell
เพื่อพนักงานขับรถอีก 2 คนด้วยนะมรึง 22.51
     
                                 โอเคทั้งหมด 33 คนนะ 22.53                     

พอได้เวลาและสถานที่ ผมก็เข้าอากู๋เซิร์ทหารูปโรงแรมพร้อมห้องพักแล้ว copy รูปแต่ละทีพักที่เราจะจอง โยนเข้าไปใน ไลน์กลุ่ม

“คนเยอะขนาดนี้พรุ่งนี้โทรไปดิวกับโรงแรมเองดีกว่านะ เพื่อจะได้ส่วนลดเพิ่ม” ไอ้บอสบอกผม
“อืม จริงด้วย” ผมหันไปตอบไอ้บอส ก่อนจะนั่งจดรายชื่อโรงแรมกับเบอร์โทรศัพท์ไว้

.................

 “เปลี่ยนอาชีพจากนักเรียนเป็นทำงานบริษัททัวร์ดีกว่ามั้ง”ผมบ่นกับไอ้บอส แล้วก็ชูแขนขึ้นบิดไล่ความขี้เกียจ หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
 “ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ดีสิ บอสจะได้ไปเที่ยวกับโบ้ทได้บ่อยๆ” บอสหันมายิ้มตาหยี่ใส่ผม ก่อนที่บอสจะสอดวงแขนเข้ารัดที่ตัวผมจากด้านหลัง

“มีอะไรกันไหม” ผมตาโตเพราะไม่คิดว่าอยู่ดีๆบอสจะพูดประโยคนี้ออกมา จากยิ้มตาหยี่ๆ ตอนนี้เป็นยิ้มเจ้าเล่ห์แบบหมาป่ากำลังจะล่าเหยือ ผมเสียวสันหลังวาบทุกทีที่เจอสายตาแบบนี้
“ง่ะ เค้าเหนื่อยอ่ะ” ผมใช้ลูกอ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรมลูกแกะน้อย
“นะนะคราบบบ” บอสลากเสียงยาว มันอ้อนผมอีกรอบ แต่ผมยังนิ่ง
“บอสช่วยโบ้ทจัดทริปจะไม่ให้รางวัลกันหน่อยเหรอ” เจอประโยคนี้เข้าไปสุดท้ายนายรัชชานนท์ก็ใจอ่อนแพ้คุณชายหน้าหล่อจนได้

ไอ้ลูกแกะโบ้ทเอย เสร็จเค้าทุกทีสิแก.......

.................

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้า ด้วยแสงอาทิตย์ที่ทอดแสงผ่านผ้าม่านเข้ามา ข้างๆผมมีเด็กผู้ชายหน้าตาดี ดวงตายาวรี ขนตายาวเป็นแผง ใบหน้าที่หล่อเหลายังคงหลับสนิท ผมค่อยๆเอาริมฝีปากยื่นไปประทับที่แก้มของบอสอย่างละมุน ดวงตายาวรีค่อยๆลืมขึ้นมา

“ตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงบอสอู้อี้อยู่ในลำคอ
“ตื่นแล้ว” ผมค่อยๆซุกหน้าลงไปที่อกกว้างนั้น อ้อมแขนที่อบอุ่นค่อยๆคล้องมาที่ตัวผม
“โบ้ทรักบอสนะครับ” ผมบอกรักมัน
“บอสก็รักโบ้ทครับ”มันตอบผมกลับมา
ผมยกศีรษะขึ้นแล้วเขยิบเอาตัวค่อมตัวไอ้บอส ใบหน้าผมจรดอยู่บนหน้าบอส ก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากของบอสหนึงครั้งแล้วถอนออก

“บอสรักโบ้ทใช่ป่าว” ผมถามมันไปอีกครั้ง แต่มันไม่ทันสังเกตเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของผม
“อืม ไม่รักโบ้ทแล้วจะไปรักใคร” มันตอบผมกลับมาแต่ตายังคงปิดอยู่
“รักโบ้ทแล้วจะยอมโบ้ททุกอย่างเปล่า” ไอ้บอสลืมตาขึ้นมามองหน้าผม
“ก็ยอมมาตลอดนี่” เสียงไอ้บอสตอบผมมาก่อนจะหลับตาอีกครั้ง
“แปลว่ายอม” ผมย้อนถามมันไปอีกรอบ
“อืมม” บอสส่งเสียงในลำคอตอบผม
“งั้นโบ้ทขอนะ” ผมพูดจบไอ้บอสถึงกับเบิกตาขึ้นโต เพราะไม่คิดว่าผมจะขอมัน
“หา” มันอุทานแล้วรีบดันตัวผมออก ไถลลงจากเตียงแล้วรีบเดินหนีเข้าไปในห้องน้ำแบบลืมง่วง

หึ คิดว่าจะรอดเหรอ ผมคำรามในใจ ก่อนจะเปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบอุปกรณ์ แล้วใส่ให้ตัวเองจนเรียบร้อย เอาผ้าเช็ดตัวคุมไว้แล้วเดินตามมันเข้าห้องน้ำไป คราวนี้ถึงคราวที่กวางบอสเสร็จสิงโตโบ้ทแน่ๆ.....

“เอาแปรงฟันซะ จะได้หายหื่น” ไอ้บอสพูดเมื่อเห็นผมก้าวเข้ามาในห้องน้ำ

มันส่งแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันไว้แล้วส่งให้ผม ผมรับแปรงสีฟันมาแปรงอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินไปซ้อนข้างหลังบอส บอสที่เปลือยท่อนบนเผยให้เห็น กล้ามเนื้อสวยงาม ซิกแพกบางๆ น่าลูบไล้ ผมค่อยเอามืออีกข้างกอดเอวบอสเอาไว้ มันมองผมผ่านกระจกอ่างล้างหน้าที่สะท้อนกลับมา ผมยิงฟันที่แถบจะมองไม่เห็นเพราะเต็มไปด้วยฟองของยาสีฟัน ผมค่อยปลดผ้าเช็ดตัวมันออก แล้วเอาจมูกยื่นไปที่ข้างหูมัน แล้วหายใจไล่ลงมาจนถึงลำคอ มือผมก็เริ่มล้วงลงต่ำปฏิบัติการกับบอสน้อย ไอ้บอสสูดหายใจแรงขึ้น เอียงคอมาพิงตัวผม ผมเลยได้โอกาสปลดผ้าเช็ดตัวเอง แล้วก็จัดการสำเร็จโทษไอ้บอสตรงตำแหน่งที่เรายืนแปรงสีฟันอยู่........

............

ผมกับไอ้บอสวิ่งกันหน้าตั้ง ผ่านประตูโรงเรียนเข้ามาอย่างฉิวเฉียด

“เกือบสายเลย” ผมหันไปบอกมันหลังจากยืนหอบแฮ่ก
“ก็เพราะใครล่ะ” ไอ้บอสหันมาบ่น
“ก็แฟนโบ้ทน่ารักขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว” ผมได้ทีกวนมันไป
“ประโยคคุ้นๆนะ นี่คือการเอาคืนใช่ไหม” มันเบิร์ดกระโหลกผมไปหนึ่งที
“เดี๋ยวคืนนี้โดนแน่” มันคาดโทษผมไว้เสร็จสรรพ

..........

พักเที่ยงเสร็จผมปิดจ็อปเรื่องจองโรงแรมเสร็จเหมือนกัน เหลือแค่จัดการโอนเงินภายในวันนี้ โดยที่ผมกับไอ้บอส ไอ้แบงค์กับไอ้อาร์ม ช่วยกันสำรองจ่ายกันไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปเก็บจากพวกมันคืนทีหลัง

ทริปนี้น่าจะเป็นทริปที่สนุกเพราะมีแต่เพื่อนๆไปกัน ได้เที่ยวหลายทีแถมยังอีกหลายวัน ตอนไปขอป๊ากับม๊า ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรท่านยังบอกอีกด้วยว่า ชีวิตมัธยมนี่และเป็นชีวิตที่สนุกที่สุด อยากไปไหนก็ไป อยากเที่ยวไหนก็เที่ยว เต็มที่กัน เพราะปีหน้าก็คงไม่ได้เที่ยวแล้วต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันแล้ว....


Game
See You Next Game

-------------------------------------------------------
ตอบคอมเมนท์ครับ^^

ตอบคอมเมนท์คุณ IsDeer ครับ

ประสบการณ์เรื่องไปเที่ยวคนเขียนก็มีนิดหน่อยครับ แต่ประสบการณ์ตรงนี่ตอนนี้มากกว่าครับ แปรงฟันๆๆๆ 555+
ส่วนเรื่องตาไปป์ อิอิ ไปปืเป็นคนมั่นคงกับความรักครับ ตั้งใจจะเขียนให้ไปป์เป็นแบบนั้นครับ ต่อให้เจอใครใหม่ไปป์ก็ไม่ลืมเบิร์ดคราบบบ

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ด้วยครับ อย่างน้อยก็ยังเหลือคุณ isDeer อ่านก็ยังดี เง้อออออ
ตอนต่อไปลงวันจันทร์นะครับ^^

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 59th Game  – BOSS IV

สวัสดีครับ บอส จารุวัฒน์ครับ ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของผมที่จะมาไขข้อข้องใจบางส่วนกันนะครับ ตลอดระยะเวลาที่ไอ้โบ้ทกลายเป็นซอมบี้เพราะเรื่องเมย์ ผมเองกลายเป็นคนที่ช่วยอะไรโบ้ทไม่ได้เลย ผมหงุดหงิดตัวเองที่ทำได้แค่ให้กำลังใจ ผมอยากจะบอกโบ้ทว่า โบ้ทยังมีผมอยู่นะ ยังมีผมอยู่อีกทั้งคน แต่ก็ทำได้แค่ให้กำลังใจ และคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ เท่านั้นเอง

อย่างวันแรกที่มาโรงเรียนหลังจากโดนไอ้เตอร์อัดหน้าคว่ำมา แถมมีมือดีถ่ายคลิปไว้อีก ตอนมาโรงเรียนมีแต่คนมองแถมยังซุบซิบอย่างกับเป็นเรื่องสนุก ผมก็ทำได้แต่บอกโบ้ทว่าอย่าคิดมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าก็เปลี่ยนเรื่องเมาท์กัน เพราะประเด็นใหม่ๆมีมากันทุกวัน

ยังดีที่เพื่อนๆพยายามช่วยกันทำให้โบ้ทไม่ต้องอยู่คนเดียว แบงค์กับอาร์มก็ชวนกินอะไรกันที่คอนโดฯของพวกมันกัน โบ้ทชวนผมกินเบียร์ ผมก็ตามใจมัน เพราะอยากให้มันสบายใจ พอไอ้แดนชวนไปดูโชว์ของมันกับไอ้เบสต์ที่งาน Xtream ผมก็รีบชวนไอ้โบ้ทไป อยากให้มันไปเจออะไรแปลกๆใหม่ๆบ้าง

ตลอดเวลาผมรู้สึกว่าโบ้ทไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าผม เพราะกลัวผมจะเสียใจที่มันยังตัดใจจากเมย์ไม่ได้ แต่ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น ยิ่งเก็บยิ่งทุกข์ ระบายความรู้สึกแย่ๆออกมาไม่ได้ก็ยิ่งเสียใจ แถมผมเองรู้อยู่เต็มอกว่าคนที่โบ้ทอยากจะระบายความทุกข์ใจมากที่สุดก็คือผม แต่โบ้ทกลับทำไม่ได้เพราะกลัวว่าคนที่รับฟังจะเสียใจ

แล้วแอลกอฮอร์ได้ทำหน้าที่ของมัน ตอนอาบน้ำคืนนั้นโบ้ทที่เก็บทุกอย่าง ที่ฝืนทุกอย่างไว้ ทำนบที่สะกดกลั้นความรู้สกึต่างๆเอาไว้ก็พังทลายลง โบ้ทอยู่ในอ้อมแขนของผม ผมสัญญากับโบ้ทว่า “ไม่ว่าอะไร ไม่ว่าอย่างไงผมก็จะอยู่กับโบ้ทตลอดไป” และผมจะรักษาสัญญานั้นไว้ให้ได้

.....

หลังจากคืนนั้นที่โบ้ทได้ระบายทุกอย่างกับคนที่โบ้ทไว้ใจที่สุด นั่นก็คือผมไปแล้ว อาการซอมบี้โบ้ทก็ดูดีขึ้น เช้าวันนั้นเราไปดูไอ้เบสต์กับไอ้แดนที่งาน X-tream ที่ลานหน้าเซนทรัลเวิร์ด ดูโบ้ทจะตื่นเต้นและประทับใจกับการแสดงโชว์ของทั้งไอ้เบสต์และไอ้แดนมาก

พอดูโชว์กันจบระหว่างรอไอ้เบสต์กับไอ้แดน ผมกับโบ้ทเดินดูของในงาน ผมเห็นโบ้ทสนใจสายคล้องโทรศัพท์เส้นหนึ่งของ billabong มาก ผมจะซื้อให้โบ้ท แต่เที่ยวนี้โบ้ทไม่ยอม เลยกลายเป็นว่าเป็นของแทนใจที่โบ้ทซื้อให้ผมแทน และที่ผมเก็บมันเอาไว้อย่างดี

พอไอ้เบสต์กับไอ้แดนเสร็จงานเรียบร้อยพวกเราเดินมาทานข้าวกันต่อที่ห้างเปิดใหม่แถวนั้น เซนทรัล เอ็มบัสซี่ แล้วสิ่งพิสูจน์ความเข้มแข็งครั้งแรกของโบ้ทก็มาถึง เพราะพวกเราเจอ “เมย์กับไอ้เตอร์” ที่นั่น

ความรู้สึกของผมตอนนั้น บอกตรงๆครับว่าลุ้นแถบตายว่าโบ้ทจะผ่านการทดสอบนี้ไปได้ไหม ผมแอบหวั่นใจว่าทุกอย่างที่ผมพยายามทำให้โบ้ทดีขึ้นจะกลับกลายเป็นศูนย์แล้วต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะโบ้ทดูเหมือนจะเข้มแข็งขึ้น เข้าใจการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น และไม่โทษว่าเป็นความผิด ที่ดูแลเมย์ได้ไม่ดีจนทำให้เมย์ต้องไปมีคนใหม่อีกต่อไปแล้ว

....

โลกมันช่างกลม แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับเราได้เสมอ อย่างเรื่องไอ้บอล น้องข้างบ้างผมกับไอ้คริสเพื่อนสนิทของไอ้บัดลูกพี่ลูกน้องตัวแสบของผม ที่ใครจะไปคิดว่าไอ้เด็กที่เคยวิ่งไล่เตะตูดกันมาตั้งแต่เด็ก ที่เตะฟุตบอลด้วยกันมา แมนๆอย่างไอ้บอลจะมาเป็นแฟนไอ้คริส ตอนที่เจอกันไอ้บอลทำหน้าเหมือนเห็นผี ดูมันตกใจมากที่เจอผม จนผมต้องเดินเข้าไปบอกมันว่าไม่ต้องกังวลอะไร ผมก็เป็นพี่มันเหมือนเดิม แล้วที่สำคัญไม่ต้องกลัวผมจะบอกคนอื่น เพราะผมเองกลัวมันจะไปบอกคนอื่นเรื่องผมกับโบ้ทมากว่า 555+

หลังจากผ่านช่วงเวลาที่โบ้ททุกข์ใจแสนสาหัสมาได้ ก็ได้เวลาที่ผมจะทวงสิทธิของผมในฐานนะคนรักของโบ้ทเสียที เพราะแรงปราถนาและฮอร์โมนที่พุ่งพล่านของเด็กวัย 17 กำลังทะลักทลาย แต่ปรากฏว่าไอ้โบ้ทไม่ได้ยอมผมอย่างเดียว มันพลิกด้วย นี่ถ้าไม่รักโบ้ทมาก ทุกคนคิดว่าผมจะยอมมันมั้ย T-T

ตื่นเช้าวันถัดมาก็มีการต่อล้อต่อเที่ยงเรื่องใครหื่นมากกว่ากัน แล้วผมก็โดนโบ้ทเล่นลูกไม้กับผม มันมาทำให้ยากแล้วก็จากไป แต่ทุกท่านคิดว่าโบ้ทจะรอดน้ำมือผมไปไหมครับ ตอบได้คำเดียวเลยครับ “ไม่มีทาง” แล้วผมก็กดโบ้ทอีกรอบในห้องน้ำ

วันนั้นตอนบ่ายพวกเรามีทริปสั้นที่ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง มีผมกับโบ้ท ไอ้วินกับไอ้บัด ไอ้คริสกับไอ้บอล ผมอยากให้ไอ้บอลมันผ่อนคลายเมื่ออยู่กับเรามากขึ้น อีกอย่างจะได้พาโบ้ทไปเดินเที่ยวตลาดน้ำด้วย แต่คนที่ดีใจที่สุดรู้สึกจะเป็นไอ้บัดที่กระดี้กระด้ามากกว่าทุกคน เพราะมันก็ได้เดตกับไอ้วินที่เพิ่งแพ้พนันไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวแสบของผม จนต้องยอมเป็นแฟนกับไอ้บัดโดยปริยาย (หรือเต็มใจหว่า 555)

..........

งานบอลประเพณีงานที่ใหญ่และหนักที่สุดของประธานนักเรียนก็มาถึง ผมนี่มีแต่ประชุมๆๆ ทั้งประชุมกับโรงเรียนตัวเอง ทั้งประชุมกับอีกสามโรงเรียนที่เหลือ ไหนจะงานเอกสาร ไหนจะงานต่างๆที่ประดังประเดเข้ามา จนผมแถบจะไม่มีเวลาได้เจอโบ้ทเลย ผมเลยแก้ปัญหาด้วยวิธีการของผม ใช้อำนาจที่มีทั้งหมด ใช้ทั้งเล่ห์ทั้งกลทั้งมนต์ทั้งคาถา ผมไปหาโบ้ทไม่ได้ ก็เลยให้โบ้ทมาอยู่กับผมซะเลย

โบ้ทยังคงเหมือนเดิมเมื่อก่อนชอบทานอะไรก็ยังเป็นอย่างนั้น ก๋วยเตี๋ยวตีนไก่ที่โบ้ทชอบที่สุดคือก๋วยเตี๋ยวไก่สุรวงศ์ สมัยก่อนชอบยังไงเดี่ยวนี้ก็ยังชอบอยู่เหมือนเดิม ผมนั่งดูโบ้ททานอย่างมีความสุข ตัวผมเองยิ่งมีความสุขมากกว่าโบ้ทอีกนะครับ การที่เห็นคนรักเรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำให้เค้านี่ คนทำให้มีความสุขมากกว่าคนรับอีกนะครับ

วันซ้อมใหญ่ผมกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลยนะครับ นั่งเฝ้ามอนิเตอร์ตลอด หูก็คอยฟังวิทยุสื่อสาร ตาจ้องมอนิเตอร์ คอยเตือนคอยบอกคิว เพราะผมเป็นคนที่รู้เรื่องมากที่สุดในทีมก็ว่าได้ ยังดีที่ได้โบ้ทคอยหาข้าว หาน้ำให้ทาน และที่สำคัญที่สุดคือมีโบ้ทอยู่ใกล้ๆ อะไรๆผมก็ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว

งานวันซ้อมใหญ่ว่ายุ่งแล้วก็ไม่เท่าวันจริง ผมเข้าใจเลยว่ารุ่นพี่ๆที่เคยนั่งตรงนี้ทำงานตรงนี้มาก่อนรู้สึกอย่างไร ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องแก้กันสดๆ ต้องใช้ความรู้ความสามารถ ปฏิภาณไหวพริบทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาให้ได้และรวดเร็ว วันนั้นเหนื่อยมากจริงๆครับ แต่เพราะมีโบ้ท แบ่งเบาภาระผมไปได้เยอะเลยล่ะครับ เสร็จงานพวกเราไปผ่อนคลายกันด้วย เนื้อยางยากินิคุกันครับ ฉลองทีพิธีเปิดผ่านไปได้ด้วยดี ฉลองบอลคู่เปิดสนามที่ทีมโรงเรียนเราชนะอีกด้วย

.....

คืนนั้นฉลองกันหนักไปหน่อย จนต้องหิ้วไอ้ไปป์หัวหน้าชมรมฟุตบอลมานอนที่บ้านเราด้วยครับ และผมกับโบ้ทก็ถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์ของไอ้เกมส์ที่ชวนเราไปสวนน้ำเปิดใหม่ที่หัวหิน ผมคิดว่างานบอลจะมีอีกทีก็วันอังคาร วันนี้เพิ่งจะวันอาทิตย์น่าจะพักกันให้เต็มที ก็บอกโบ้ทไปว่าถ้าอยากไปก็ลุยกันเลย

ผมถึงกับอึ้งที่ไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวแสบผมถามไอ้ไปป์เรื่องแฟน ตอนที่อยู่บนรถระหว่างทางไปสวนน้ำที่หัวหิน ไม่คิดว่ามันจะถาม เพราะจริงๆแล้วก็เป็นเรื่องส่วนตัวของไปป์มัน แต่เมื่อถามไปแล้ว ผมเห็นไปป์ตอบคำถามบัดแบบไม่ถือสาก็โล่งใจ เพราะไปป์เองก็เพิ่งเสียเบิร์ดไปไม่นานนี้เอง

.....

สวนน้ำที่ไอ้เกมส์แนะนำมานี่สุดยอดจริงๆครับ สนุกและตื่นเต้นมากๆครับ

.....

พิธีปิดงานบอลประเพณีก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทุกอย่างราบรื่น แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้น ผมไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะกลับมาหลอกหลอนผมอีกครั้ง มันก็กำลังจะกลับมา

“เฮียค็อป” เฮียค็อปเป็นลูกพี่ลูกน้องผม และเฮียก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมกับโบ้ทต้องเลิกคบกัน....ตอนสมัยอยู่ม.3 แล้วตอนนี้ล่ะ......เฮียกำลังจะมาปั่นป่วนชีวิตผมอีกครั้งไหม

ตอนนั้นผมภาวนาว่าอย่าเพิ่งให้โบ้ทอย่าเพิ่งเดินมา แต่คำภาวนาของผมก็ไม่เป็นผล โบ้ทยกมือไหว้สวัสดีเฮียค็อปแบบคนที่ไม่รู้อะไร แต่สายตาจงเกลียดจงชังของเฮียผมสังเกตเห็นทันที แถมด้วยคำพูดที่สำหรับบ้านผมแล้วถือเป็นการไม่ให้เกรียติกับคู่สนทนาก็ถูกเอ่ยออกมาจากปากของเฮีย นั่นทำให้โบ้ทดูซึมๆไปในทันที

ผมกังวลเรื่องเฮียมากจนคิดว่าโบ้ทคงรู้สึก และโบ้ทก็ไม่อยากให้ผมเครียด ไม่อยากให้ผมไม่สบายใจ โบ้ทเลยอาสาขับรถให้กลับมาถึงบ้านก็ทำกับข้าวให้ทาน ผมทานกับข้าวฝีมือโบ้ทจนหมด และผมก็บอกกับตัวเองว่า ผมจะไม่มีวันให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีก

วันอาทิตย์ผมยังคงต้องมาตามดูความเรียบร้อยที่สนามกีฬา โดยที่ไอ้โบ้ทก็ช่วยอยู่ด้วยกันกับผมตลอด แล้วเฮียค็อปก็โทรมาย้ำเรื่องผมกับโบ้ทอีกรอบ ผมได้แต่ตอบรับคำเฮียไป แต่ในใจผมผมตัดสินใจแล้ว ผมจะไม่ยอมให้เฮียมามีอิทธิพลกับผมกับโบ้ทอีก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

................

ลอยกระทง เพราะงานบอลเพิ่งจะเรียบร้อย ช่วงที่ผ่านมาก็วุ่นวายจนลืมไปว่าวันนี้วันลอยกระทง ผมกับโบ้ทเพิ่งนึกออกเมื่อไอ้โอมที่มาส่งไอ้บีมที่หน้าโรงเรียน ชวนพวกเราไปลอยกระทงที่สะพานพระราม 8 ผมกับโบ้ทก็เลยตัดสินใจไปตามคำชวนของไอ้โอม นี่เป็นอีกครั้งในรอบหลายปีที่ผมไม่ต้องลอยกระทงคนเดียว เพราะคนสุดท้ายที่ผมลอยกระทงด้วยก็คือไอ้โบ้ท

ผมตั้งใจอธิฐานกับพระแม่คงคา “ขอให้ผมกับโบ้ทรักกันราบรื่น ให้ผ่านอุปสรรค์ต่างไปได้ด้วยดี ขอให้เรามั่นคงต่อกันอย่าได้หวั่นไหวกับอะไรก็ตามที่จะมาสั่นคลอนกับความรักของเรา” ผมมองกระทงของผมกับโบ้ทลอยไปจนสุดสายตา

ผมใจหายไม่น้อยเมื่อเห็นไอ้ไปป์เสียน้ำตา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำใจเมื่อต้องสูญเสียคนรักไปแบบไม่มีวันแม้จะได้เห็นหน้ากันอีก ไอ้ไปป์เพื่อนที่เคยเข้มแข็ง วันนี้ไปป์คนนั้นไม่มีเค้าหลงเหลืออยู่ ได้แต่โทษตัวเอง ผมได้แต่ปลอบมัน ให้กำลังใจมัน ที่ผ่านมาไปป์ก็เข้มแข็งขึ้นมากแล้ว แต่วันนี้มันก็แค่โดนจี้เข้าไปที่จุดเดิม เดี๋ยวเวลาจะเยี่ยวยามัน แล้วไปป์ก็จะผ่านมันไปได้ไปได้

การมาไหว้พระกันที่วัดสระเกตุ ได้ขึ้นไปสักการะพระธาตุบนยอดภูเขาทอง ทำให้จิตใจพวกเราสบายใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะไอ้ไปป์ ที่ได้ทำบุญไหว้พระ ผมกับโบ้ทก็รู้สึกดีที่ช่วยทำให้เพื่อนสบายใจขึ้น เราก็ได้แต่อธิฐานขอพรให้เรามีสติ และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เราจะได้ดูแลกันไปนานๆ

ไอ้เบลเสนอไอเดียชวนพวกเราไปเที่ยวเชียงคานกัน ดูโบ้ทจะตื่นเต้นกับทริปนี้ไม่น้อย ผมเลยปล่อยให้โบ้ทเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดทริป โบ้ทเองก็ดูมีความสุขที่จะหาสถานที่ที่จะพาเพื่อนๆไปเที่ยว นั่งหาข้อมูลอยู่หน้าคอม บางครั้งเรียกให้ผมไปช่วยตัดสินใจเลือกโรงแรม เลือกสถานที่ๆน่าจะแวะเที่ยว

ผมแกล้งเรียกร้องความสนใจจากโบ้ท เพราะโบ้ทมัวแต่วุ่นอยู่กับทริป จนบางทีผมก็แอบเซ็งๆ วิธีแก้เซ็งของผมก็คือจับโบ้ทกด ตอนแรกโบ้ทก็อิดออด แต่เจอลูกอ้อนผมทีไร ลูกแกะโบ้ทเสร็จผมทุกที

แต่ก็ไม่คิดว่าตื่นเช้ามาจะโดนลูกแกะโบ้ทที่ลอกคาบเป็นสิงโต แล้วผมจากหมาป่าเจ้าเล่ห์กลายเป็นกวางน้อย โดนโบ้ทจัดคืนแบบที่ผมเองก็ขัดขืนไม่ได้ T-T

แล้วเดี๋ยวผมจะหาโอกาสมาคุยกับคนอ่านใหม่นะครับ ไว้เจอกัน ขอบคุณที่ฟังผมเล่านะครับ
บอส จากรุวัฒน์ ^^

Game
See You Next Game

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
คนเขียนนะครับ^^

เพิ่งปรับคาแลคเตอร์ตัวละครใหม่อีกรอบ นะครับ ลองชอมกันดูว่าถูกใจกันไหมนะครับ (โดยเฉพาะ เกมส์ นะครับ^^)


Music inspired by Novel (MV ประกอบนิยาย) Destiny of B ชุลมุนวุ่นนัก...รักของนายตัวบี
>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=BjGcn-Mev1o
Update คลิปใหม่ล่าสุด 16/03/2015



คาแรกเตอร์ตัวละคร (Image Character) ในนิยายครับ
>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=gmTmmxE-iMQ
Update คลิปใหม่ล่าสุด 16/03/2015




ตัวอย่าง 18 เพลงประกอบนิยาย Destiny of B
18Track Musick inspire by novels Destiny of B Preview

>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=TstwrRw1zcA
Update คลิปใหม่ล่าสุด 16/03/2015
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2015 01:04:02 โดย destiny_of_b »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สนุกมากกกกกครับบบบบ ชอบๆๆ ชื่อ. บ กันเยอะจนตาลาย อิอิ :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะ

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 60th Game  – Move off

วันนี้ผมตื่นแต่เช้า หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ผมก็มานั่งลงกับข้าวของกองโต และหาทางเก็บของทังหมดลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปทริปถ้าลมหนาวกับเพื่อนๆแล้วก็ไอ้บอส
 
“หยิบเสื้อกันหนาวไปเผือสัก 2-3 ตัวดีกว่า” ผมพูดกับตัวเองขณะคิดว่าจะเอาอะไรเพิ่มไปอีก เพราะนี่ต้นธันวาแล้ว สถานที่ที่จะไปก็บนภูบนดอยทั้งนั้น แถมยังเป็นภาคอีสานตอนบนกับทั่วภาคเหนืออีกซึงหนาวแน่ๆ

“เตรียมถุงเท้า ผ้าพันคอ หมวกไปเพิ่มอีกดีกว่า” ผมตัดสินใจหลังจากลังเลอยู่นานว่าจะเอาไปดีไหม
“ก๊อก ๆ” เสียงเคาะประตูก่อนที่ประตูจะเปิดออก ร่างสูงโปร่งเดินผ่านประตูเข้ามาพร้อมกับลากกระเป๋าใบใหญ่สีเขียวเข้มเข้ามาด้วย
“เก็บของอยู่เหรอ” เสียงคุ้นชินดังขึ้นเมื่อเห็นผมนั่งจมอยู่กับกองเสื้อผ้าหน้าหน้าห้องน้ำ
“อืม อีกแปปเดียวเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” ผมหันไปบอกมัน
“ของบอสเรียบร้อยแล้วเหรอ” ผมถามมันมือก็ง่วนอยู่กับการเก็บของลงกระเป๋า
“เรียบร้อยแล้ว” มันตอบผมกลับมาและเดืนเข้ามาดูผม
“เสื้อกันหนาวหยิบไปหรือยัง” บอสยื่นหน้าเข้ามาถาม
“เตรียมแล้ว”
“ถุงเท้า ผ้าพันคอ หมวก หยิบมาแล้วใช่ไหม”  บอสไล่เช็ครายการ ผมชี้ไปที่กองผ้าด้านซ้ายมือ
“บ็อกเซอร์ ล่ะ” บอสยังคงไล่รายการต่อไป
“เรียบร้อย หมดแล้วเหรอแต่แพ็กอ่ะ”
“บอสเอาถุงมือมาเผือโบ้ทป่าว” ผมถามมันเพราะจะต้องยืมของมัน
“เรียบร้อยอยู่ในกระเป๋าแล้ว” มันตอบกลับมา
“เครื่องใช้ในห้องน้ำล่ะ ไม่ลืมแปรงสีฟันนะ” ไอ้บอสไล่มาจนถึงรายการนี้ที่ผมจะหยิบไปเผื่อมันด้วย
“เรียบร้อย อยู่นี่” ผมชี้ไปที่กระเป๋าใบเล็กที่เตรียมเครื่องใช้ในห้องน้ำของใช้อื่นๆ เช่น แชมพูสระผม โฟมล้างหน้า ครีมอาบน้ำ เปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีดโกนหนวด เจลใส่ผม โรลออน แล้วก็น้ำหอม เก็บไว้รวมกันอย่างดี

บอสเปิดกรเป๋าตัวเอง เอากระเป๋าเครื่องใช้เก็บเข้าไปในกระเป๋ามันแทน เพราะกระเป๋าผมท่าทางจะไม่ไหว

“เรียบร้อย เสร็จเสียที” ผมชูแขนขึ้นสองข้างโล่งอก
“ไปกัน” ผมหันไปบอกไอ้บอสหลังจากลุกขึ้นยืนเรียบร้อย
“หมับ” ข้อมือผมถูกบอสคว้าไว้
“บอสดีใจนะที่จะได้ไปเที่ยวกับโบ้ท” บอสพูดขึ้นมาหลังจากที่เราเก็บของกันเสร็จแล้วและเตรียมตัวจะลงไปข้างล่าง
“โบ้ทก็ดีใจครับ” ผมเดินเข้าไปสวมกอดบอส บอสกอดผมกลับมา ความรู้สึกอบอุ่นใจแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ผมโดนบอสหอมแก้มฟอดใหญ่ ผมก็ยื่นริมฝีปากไปประทับที่แก้มของบอสคืนฟอดใหญ่.....
“ไปกัน” บอสกระซิบบอกผม

เราเดินลงมาข้างล่าง ไอ้เบนซ์กับไอ้เบียร์ก็รอเราอยู่แล้วพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่อีกสองใบ ป๊ากับม๊านั่งดูทีวีรอไปส่งพวกเราที่บ้านไอ้เบลย่านรัชดาภิเษก ผมกับไอ้บอส ช่วยกันยกกรเป๋าไปไว้ท้ายรถตู้ Volkswaken สีน้ำเงินรถประจำของป๊า

“ป๊าไม่ห้ามเรื่องกินเหล้านะเด็กๆ แต่กินแล้วต้องมีสติ อะไรที่เสี่ยงและจะเป็นอันตรายก็ต้องระวังเอาไว้ อย่าสนุกจนคะนองนะ ลูกโตๆกันแล้ว ต้องดูแลตัวเองกัน ทำอะไรก็คิดว่ายังมีป๊ากับม๊าที่คอยเป็นห่วงอยู่นะลูก” ป๊าให้ข้อคิดให้พวกเราหลังจากที่ขึ้นมาบนรถ
“ครับ” พวกเรารับปากป๊า

ไม่นานรถก็มาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่บนถนนพระรามเก้าระห่างสถานี MRT พระรามเก้ากับศูนย์วัฒนธรรม ที่ตอนนี้มีรถบัส แบบ V.I.P 32 จอดรอพวกเราอยู่

“พวกผมไปนะครับป๊า ม๊า” ไอ้เบนซ์หันมาพร้อมกับยกมือไหว้ลาป๊ากับม๊า
“เดินทางปลอดภัยนะลูก โทรหาม๊าด้วยนะ” ม๊าหันมาอวยพรและกำชับกับพวกเราอีกรอบ
“โชคดีลูก” ป๊าอวยพร
“ไปแล้วนะครับ เด่วโบ้ทซื้อของมาฝากน้า” ผมเข้าไปสวมกอดม๊า ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้สวัสดี
“ขอบคุณที่มาส่งนะครับ” เบียร์ยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณป๊ากับม๊า
“ขอบคุณครับ ผมไปแล้วนะครับ” บอสยกมือขึ้นไหว้ป๊ากับม๊าอีกคน
“ม๊าฝากดูแลโบ้ทด้วยนะลูก” ม๊ากำชับไอ้บอส ก่อนจะยิ้มให้พวกเราอย่างอ่อนโยน ผมอดแปลกใจไม่ได้กับคำพูดม๊า หรือว่า ม่าม๊า จะรู้......

ลงมาจากป๊ากับม๊าพวกเราเดินเข้าไปในบ้าน ไอ้เบลยืนรอพวกเราอยู่แล้ว มันบอกให้วางกระเป๋าไว้ตรงหน้าบ้าน เดี่ยวพี่แม่บ้านจะช่วยกันยกไปให้พนักงานที่รถ แล้วไอ้เบลพาพวกเราสวัสดีพ่อกับแม่ พวกเราขอบคุณที่พวกท่านสนับสนุนรถบัสในทริปนี้กับของพวกเรา แล้วไอ้เบลก็พาพวกเราไปห้องนั่งเล่นข้างๆกันที่ไอ้พวกเพื่อนๆนั่งรอกันอยู่หน้าสลอน ตอนนี้เหลือแค่ไอ้เบสต์กับไอ้แดน ไอ้เบลปล่อยพวกเรานั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น แล้วมันก็ออกไปรอไอ้เบสต์กับไอ้แดน

ไม่นานไอ้เบสต์กับไอ้แดนก็เดินตามไอ้เบลมาที่ห้อง ทริปนี้ของพวกเริ่มต้นจากกรุงเทพ มีทั้งหมด 24 คน ผมไอ้บอส ไอ้เบนซ์ไอ้เบียร์ ไอ้แบงค์ไอ้อาร์ม ไอ้บีมไอ้โอม ไอ้ไบร์ทไอ้เกมส์ ไอ้บาสไอ้ปั๊ป ไอ้บูมไอ้นัท ไอ้บิวไอ้ริว ไอ้เบสต์ไอ้แดน ไอ้วินไอ้บัด ไอ้คริสไอ้บอล ไอ้ไปป์ แล้วก็ไอ้เบล

พวกเราเดินมาลาพ่อกับแม่ไอ้เบล แล้วทยอยกันประจำที่บนรถ แล้วทริป 11 วันท้าลมหนาวของพวกเราก็เริ่มต้นออกเดินทางกัน

พอขึ้นมาบนรถ รถบัสมีแถวที่นั่งทั้งหมดเพียง 8 แถว แถวละ 4 ที่นั่ง เบาะที่นั่งกว้างขวาง มีที่พักรองขา และที่พักเท้า ระหว่างเบาะก็ยืดขาได้สบายไม่อึดอัด มีทีวี LED ที่พับเก็บตรงเพดานของรถอีกสองเครื่อง และยังมีเครื่องเล่นคาราโอเกะติดมาให้ด้วย

รถบัสวิ่งมาตามถนนรัชดาภิเษก ก่อนจะขึ้นสะพานข้ามแยกรัชโยธินแล้วชิดซ้ายวนลงมาที่ถนนวิภาวดีฯขาออก ผ่านสนามบินดอนเมือง เรื่อยมาจนถึงรังสิต แล้วก็ตรงมุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี

ไอ้เบสต์กับไอ้แดนหลับอยู่หลังรถ คนอื่นๆนั่งกดมือถือเล่นไปตามเรื่อง ไอ้แบงค์กับไอ้เกมส์ ไอ้โอม นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่อย่างออกรถออกชาติตามประสาเมะๆ ส่วนไอ้เบสต์ ไอ้แดน ไอ้บิว ไอ้ริว ไอ้เบล ก็จับกลุ่มคุยกันตามประสาคออินดี้ๆ พวกไอ้บัดไอ้วิน ไอ้บอลกับไอ้คริส ก็นั่งเล่นเกมส์กันอยู่หลังรถ

ไม่นานรถก็เข้าตัวเมืองสระบุรีแล้วก็ต้องเลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่โคราช พอเลี้ยวมาได้ไม่นานก็ผ่านทางแยกเข้าอำเภอมวกเหล็ก วิ่งตามถนนมิตรภาพมาเรื่อยๆก็ถึง อำเภอปากช่อง

“นี่ถ้าเลี้ยวขวาตรงนี้ไปก็ ปาลิโอ แล้ว” ไอ้บอสชี้ให้ผมดูปากทางเข้า ผมเคยบ่นกับมันว่าอยากมา เพราะยังไม่เคยมา ยังโดนไอ้บอสแซวว่า เชยมากอยู่เลย
“วันหลังพาโบ้ทมาเที่ยวนะ” ผมหันไปอ้อนมัน
“อืม ได้สิไว้มาเที่ยกับโบ้ทจะพาเลยไปวังน้ำเขียวด้วยเลย” ไอ้บอสรับปาก

เลยปากช่องมาผมเห็นป้ายข้างนทางอีก 80 กิโลถึงโคราช

“โบ้ทงีบสักแปปนะ” ผมหันไปบอกไอ้บอส
“อืมม” มันเอามือมาช้อนหัวผมมาซบที่บ่ามัน ไม่ว่ายังไงไหล่นี้ก็พร้อมให้ผมพักพิงเสมอ ผมผล่อยหลับไปเพราะความง่วง

........


 “แวะกินกาแฟกันก่อนนะเพื่อน” เสียงไอ้เบลดังมาจากหน้ารถ

ผมค่อยๆลืมตาขึ้นและยกศรีษะตั้งตรง กระพริบตาถี่ไล่ความง่วง ตอนนี้รถบัสหยุดนิ่งอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงไอ้บอสถามผม มือไอ้บอสค่อยลูบผมจัดทรงให้ผมของผมอยู่
“โบ้ทหลับไปนานไหม” ผมหันไปถามไอ้บอส
“ไม่นานเท่าไรนะ”
“เมื่อยไหมอ่ะ” ผมถามมันเขินๆ เพราะอาศัยไหล่ไอ้บอสเป็นหมอนมา
“ไม่อ่ะ ไปหาไรกินกัน”  ไอ้บอสลุกขึ้นยืน มันยื่นมือมาให้ผม ผมเอื้อมไปจับมือไอ้บอสแล้วดึงตัวเองลุกขึ้น

สิ่งแรกที่สัมผัสได้หลังจากลงมาจากรถคือ อากาศสดชื่นเย็นสบายเพราะตอนนี้เราขึ้นมาอยู่บนที่ราบสูงกันแล้ว ผมกวาดตามองไปรอบ ๆ สถานที่รถหยุดพัก เป็นร้านกาแฟก่อนจะถึงเมืองโคราชนิดหน่อย มีจุดเด่นตรงมีหุ่นที่ทำมาจากเศษเหล็กตั้งอยู่เต็มหน้าร้านและจัดพื้นที่ไว้สำหรับถ่ายรูป ส่วนตัวร้านอยู่ใต้หุ่นเหล็กตัวใหญ่สุดที่เป็นรูปมังกรตัวใหญ่ยักษ์สีดำสนิท พวกเราลงไป 25 คน บวกกับพี่พนักงานขับรถอีก 2 แน่นจนล้นออกมาจากร้าน พนักงานในร้านกาแฟก็ชงกาแฟมือเป็นระวิง

หลังจากได้เครื่องเดิมกันครบแล้ว พวกเราก็มาถ่ายรูปกันตามหุ่นที่ทางร้านจัดไว้ให้ มีทั้งหุ่น คิงคองตัวใหญ่ที่มีม้านั่งให้นั่งถ่ายรูปอยู่ใต้กล้ามอกพี่คิงคอง ไอ้แบงค์วิ่งไปถ่ายรูปกับหุ่นรูปวูฟเวอร์รีนจาก the x men

“ไอ้โบ้ท กรูกับหมอนี่ใครหล่อกว่ากันวะ” ไอ้แบงค์ตะโกนถามแบบไม่กลัวคำตอบ
“พี่ ฮิวจ์ หล่อกว่าเยอะหว่ะ แค่กล้ามก็กินมรึงขาดแล้ว” ผมสนอง need ไอ้แบงค์ไปเต็มๆ  มันทำปากรูปสระอิใส่ผมกับมา
“ถ้าเป็นไอ้บอสถามล่ะมรึงจะตอบว่าไง” ไอ้แบงค์ยังไม่ยอมแพ้

แต่ที่หนักกว่าก็คือคุณชายบอสรับมุขไอ้แบงค์เดินเข้าไปขนาบอีกข้างของพี่วูฟเวอร์รีนกะเค้าด้วย
“บอสกับพี่ฮิวจ์ใครหล่อกว่ากันครับ” แล้วไอ้บอสก็ถามประโยคเด็ดผมถามผมกลับมา แล้วผมจะทำยังไงได้ละครับ ก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบไอ้บอสไป
“พี่บอสหล่อที่สุดครับ” ผมตอบไอ้สองแสบกลับไป หน้าเริ่มร้อนผ่าวด้วยความเขิน


เสียงโฮ่ฮาดังออกมารอบตัวผมจากไอ้พวกเพื่อเวรทั้งหลาย จนผมแถบจะมุดหน้าลงดินหนีไปขอนแก่นเสียให้รู้แล้วรู้รอด

หลังจากป่วนหน้าร้านกาแฟเค้ากันเสียยกใหญ่ก็ได้เวลาเดินทางต่อ ยังเหลือทางอีกยาวไกลเพราะถ้านับโคราชเป็นครึ่งทาง นี่ก็ยังไม่ถึงโคราชเลย  แต่อย่างน้อยผมก็อุ่นใจเพราะป้ายข้างทางบอกว่าเหลืออีก 20 กิโลเมตรก็ถึง นครราชสีมาแล้ว

รถมาหยุดอีกทีที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีให้พวกเราลงไปสักการะท่านเอาฤกษ์เอายามกันก่อนจะออกเดินทางกันต่อ รถบัสใช้เวลาอีกเกือบสามชั่วโมงก็มาถึงจุดหมายปลายทางที่ขอนแก่น พอจะเข้าเมืองขอนแก่น ไอ้เคนก็เอารถออกมารับพวกเราถึงแยกบายพาสก่อนเข้าตัวเมือง

“เดี่ยวไปบ้านกรูก่อนเอาของไปเก็บแล้วค่อยออกมาหาไรกินนะพวกมรึง” ไอ้เคนโผล่หน้าขึ้นมาที่หน้ารถแล้วบอกพวกเรา ก่อนมันจะวิ่งลงไปขับรถนำทางรถบัสของพวกเราไปที่บ้านของมัน

Game
See You Next Game

-----------------------------------------------------------------------------------
คนเขียนจะพยายามแทรกรูปประกอบลงไปเพื่อให้คนอ่านเห็นภาพชัดๆนะครับ ^^
เครรดิตรูปภาพอยู่ใต้รูปภาพนะครับ



Cr.รูปภาพจากคุณ วันหยุดไม่เคยพักรักไม่เคยมี @pantip ครับ


ทริปเดินทางวันนี้ครับ


-------------------------------------------------------------------------------------

ตอบคอมเมนท์ครับ^^

ตอบคอมเมนท์คุณ iceman555
คนเขียนดีใจนะครับที่คนอ่านชอบนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณครับ^^ ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วยนะครับ ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์นะครับ
ป.ล. นิยายเหลืออีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วนะครับ อิอิ

ตอบคอมเมนท์คุณ tarkung
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ ฝากตอนต่อๆไปด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ครับโผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2015 19:09:33 โดย destiny_of_b »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เป็นกรุ๊ปเที่ยวที่ใหญ่มาก ขนใส่รถทัวร์กันไปเลยทีเดียว  :laugh:
บอกว่าถึงไปป์เจอคนใหม่แต่ก็ไม่ลืมเบิร์ดแปลว่าอาจจะได้เจอจริงๆชิมิ
ดูๆทัวร์นี้เหนื่อยลากมากแน่นอนแถมคงโคตรเฮฮากันสุดๆมีบรรดาลิงทโมน 29 คน

โชคดีกับการท่องเที่ยวนะเด็กๆ //รู้สึกตัวเองแก่ ฮ่าฮ่าฮ่า

ปอลิง: มีรูปสถานที่ท่องเที่ยวมาให้ดูด้วยดีจังเลย   :mew1:

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 61st Game  – New friends

รถบัสเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ ริมถนนมิตรภาพที่อยู่เลยมหาวิทยาลัยขอนแก่นไปไม่ไกล บ้านหลังนี้มีบ้านอยู่สองหลังอยู่รั้วเดียวกัน เรือนใหญ่เป็นของครอบครัว ส่วนเรือนเล็กเป้นเรือนรับแขก จะเรียกว่าเรือนเล็กไม่เชิง เพราะไม่ได้เล็กเหมือนกับชื่อ

พวกผมลงมาสวัสดีพ่อกับแม่ไอ้เคน ที่รอต้อนรับอยู่ที่บ้าน ท่านทั้งสองใจดีให้ที่พักเราทั้งที่นี่แล้วก็ที่เชียงคาน แถมมือเย็นนี้ท่านยังเป็นเจ้าภาพเลี้ยงพวกเราด้วย โดยที่พ่อกับแม่ไอ้เคนจองร้านอาหารไว้แล้ว เป็นร้านสเต็กบุฟเฟ่ต์ชื่อดังของเมืองขอนแก่น ที่อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยขอนแก่น ไม่ไกลจากบ้านเท่าไร

พวกเราช่วยกันยกของเข้าไปเก็บที่เรือนหลังเล็ก ที่เรือนหลังเล็ก

“เดี๋ยวกรูแนะนำเพื่อนสนิทกรูให้พวกมรึงรู้จัก” ไอ้เคนเริ่มแนะนำเพื่อนสนิทมันที่กำลังจะเป็นเพื่อนใหม่เราให้พวกเรารู้จัก

“นี่ไอ้พลัส มันเรียนโรงเรียนนานาชาติกางเกงสีเขียวที่ขอนแก่น ไอ้พลัสเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียน เป็นรองหัวหน้าชมรมว่ายน้ำด้วย” ไอ้เคนแนะนำเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวสองสี หน้าตาคมสัน ให้พวกเรารู้จัก

“นี่ไอ้บรู๊ค มันเรียนโรงเรียนเอกชนที่เน้นภาษาจีนกางเกงน้ำเงินที่ขอนแก่น ไอ้บรู๊คเป็นหัวหน้าชมรมภาษาจีน” ไอ้เคนแนะนำเด็กตี๋หนุ่ม หน้าตาดีแบบคนไทยเชื้อสายจีน สูงโปร่ง ผิวขาว หน้าตาเป็นเทรนด์เกาหลี ให้พวกเรารู้จักอีกคน

“ไอ้พลัสกับไอ้บรู๊คก็นะ” ไอ้เคนพยักหน้าเป็นอันรู้กันว่าไอ้คู่นี้เป็นแฟนกัน

“นี่ไอ้พาย เป็นแฝดกับไอ้พลัสเรียนโรงเรียนนานาชาติกางเกงสีเขียวขอนแก่นนี่ล่ะ ไอ้พายเป็นหัวหน้าชมรมว่ายน้ำ” ไอ้พายเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวสองสี หน้าตาเหมือนไอ้พลัส ให้พวกเรารู้จัก

”นี่ไอ้เบรฟ นี่มันเพิ่งมาจากเชียงใหม่ และนี่แหละเจ้าภาพที่พักที่เชียงใหม่ของเราไอ้เบรฟมันเรียนโรงเรียนชายล้วนกางเกงน้ำเงินชื่อดังที่เชียงใหม่ มันก็เป็นหัวหน้าชมว่ายน้ำด้วย” ไอเบรฟเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี สูงโปร่ง ผิวสองสี รูปร่างนักกีฬา

“ไอ้คู่นี่ก็เหมือนไอ้คู่แรก แต่พิเศษตรงที่เป็นแฟนกันเพราะเป็นคู่แข่งว่ายน้ำกันมาก่อน”  ไอ้เคนเล่าซะไอ้เบรฟกับไอ้พายมองหน้ากันเขินๆ

“นี่ไอ้บอมบ์ เป็นเพื่อนสนิทไอ้เบรฟอีกที่อยู่เชียงใหม่เหมือนกัน มันเรียนโรงเรียนกางเกงสีกรมท่า ไอ้บอมบ์เป็นเจ้าภาพร่วมกับไอ้เบรฟเรื่องที่พักที่เชียงใหม่ ไอ้บอมบ์เป็นหัวหน้าชมรมแบดมินตัน” ไอ้เคนแนะนำเด็กหนุ่มอีกคนให้พวกเรารู้จัก ไอ้บอมบ์เป็นคนหน้าตาหล่อเหลา สูงโปร่ง ผิวขาว ตามสไตล์นักแบดมินตัน

“สุดท้ายและนี่ไอ้บลู แฟนไอ้บอมบ์เป็นเด็กโรงเรียนเอกชนกางเกงสีม่วงที่พิษณุโลก แล้วก็เป็นสปอนเซอร์ที่พักที่พิษณูโลกให้พวกเราด้วย ไอ้บลูเป็นหัวหน้าชมรมดนตรี มันเล่นไวโอลิน” ไอ้เคนแนะนำเด็กหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาว รุปร่างสูงโปร่งให้พวกเรารู้จักเป็นคนสุดท้าย

พอไอ้เคนแนะนำเพื่อนใหม่ทั้ง 6 คนให้พวกเรารู้จัก แล้วก็เริ่มแนะนำพวกเราทีละเริ่มจากผมกับไอ้บอส ไอ้เบนซ์ไอ้เบียร์ ไอ้แบงค์ไอ้อาร์ม ไอ้ไบร์ทไอ้เกมส์ ไอ้บีมไอ้โอม ไอ้บาสไอ้ปั๊ป ไอ้บูมไอ้นัท ไอ้เบสต์ไอ้แดน ไอ้บิวไอ้ริว ไอ้บัดไอ้วิน ไอ้บอลไอ้คริส ไอ้ไปป์ แล้วก็ไอ้เคน พอแนะนำตัวกันเสร็จพวกเราก็ช่วยกันยกของไปเก็บ ไอ้เคนกันห้องนอนไว้ให้พี่คนขับรถห้องหนึ่งด้วย

แล้วพวกเราทั้ง 31 ชีวิต กับพี่คนขับรถอีก 2 คนก็ออกมาทานข้าวที่พ่อกับแม่ไอ้เคนจองที่ไว้ให้แล้ว เป็นร้านสเต็กบุฟเฟ่ต์ร้านใหญ่ชื่อดังของจังหวัดนี้ อยู่ตรงข้ามหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ร้านนี้มีสเต็กที่จะมีพนักงานยืนทอดสเต็กร้อนๆให้เราเลย มีทั้งเนื้อหมูส่วนพ็อกช็อป เนื้อวัวที่เป็นทีโบนเลย และเนื้อไก่ชิ้นใหญ่ ใส้กรอกชิ้นยักษ์ แถมยังมีอีกหลายรสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสเต็กพริกไทยดำ ต้นตำหรับ มีสลัดบาร์ที่มีของให้เราเลือกตามใจ ที่ผมชอบที่สุดคงเป็นมันบด ที่ปรุงรสชาติได้อร่อย ขนาดไอ้เบียร์ยังชม ปิดท้ายด้วยของหวานทั้งขนมหวานและไอศกรีม สรุปพวกเราพุงกางกันออกจากร้าน

กลับมาถึงบ้านพวกเราก็แยกย้ายกันหาที่นอน พ่อกับแม่ไอ้เคนเตรียมที่เป็นฟูกแบบพับเก็บได้ไว้ให้พร้อมทั้งผ้าห่มเรียบร้อยเพราะบ้านติดแอร์ทั้งหลัง ทุกอย่างสะดวกสบาย

“พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะโบ้ท” บอสเตือนผมเพราะเห็นผมนั่งดูคลิปในยูทูปเพลินไปหน่อย
“อืม” ผมตอบมันกลับไปแล้วกดดับหน้าจอโทรศัพท์
“พรุ่งนี้ต้องตื่นมาแย่งห้องน้ำก่อนพวกมันจะตื่น”  ผมหันไปบอกไอ้บอส

จำนวนห้องน้ำ 3 ห้อง คนเกือบ 33 คนยังไงก็คงเป็นสภาพคอขวดเหมือนถนนบางสายในกรุงเทพฯอยู่ดี

“อาบกันเป็นคู่คงเร็วกว่านะ” ไอ้บอสเสนอไอเดีย
“หืม.....แน่ใจเหรอว่าจะไม่นาน อาจจะนานกว่าเดิมอีกนะ” ไอ้แบงค์ที่นั่งอยู่ข้างๆรีบเบรคไอเดียไอ้บอส ผมกับไอ้บอสนั่งอึ้งคิดอยู่แปปนึง
“555” แล้วผมกับไอ้บอสหัวเราะออกมาเกือบจะพร้อมกัน เพราะมันก็เพิ่งจะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเพราะอะไรถึงนานขึ้นกว่าเดิม

.......

ชั้นสองของบ้านมี 3 ห้องนอน กับอีก 1 ห้อง family room ห้องนอนใหญ่นอนได้ 8 คน ส่วนห้องนอนเล็กอีกสองห้องนอน นอนได้ห้องละ 6 คน ห้อง family room เอาที่นอนมาต่อกันได้ 4 ที่พอดี ชั้นล่างมี 1 ห้องนอนที่ไอ้เคนกันไว้ให้พี่คนขับรถ แล้วก็ดัดแปลงห้องนั่งเล่นข้างล่าง วางที่นอนเอาไว้อีก 8 ที่ ยังเหลือห้องรับแขกไว้นั่งเล่นกับห้องรับประทานอาหาร นี่แหละครับเรือนเล็กที่ไม่เล็กของไอ้เคน

ห้องนอนของผมเป็นห้องนอนใหญ่นอนกัน 8 คน มีผมไอ้บอส ไอ้แบงค์ไอ้อาร์ม ไอ้บีมไอ้โอม ไอ้ไบร์ทไอ้เกมส์
ส่วนห้องนอนเล็กห้องแรก มีไอ้เบนซ์ไอ้เบียร์ ไอ้บาสไอ้ปั๊ป ไอ้บูมไอ้นัท
ห้องนอนเล็กที่สองมี ไอ้เบสต์ไอ้แดน ไอ้บิวไอ้ริว ไอ้ไปป์
ห้องfamily room ชั้นสอง ไอ้บัดไอ้วิน ไอ้คริสไอ้บอล
ห้องนั่งเล่นข้างล่าง มีไอ้พลัสไอ้บรู๊ค ไอ้เบรฟไอ้พาย ไอ้บูลไอ้บอม์ ไอ้เบลไอ้เคน

คืนนี้ผมหลับอยู่ในอ้อมกอดขอไอ้บอส ความอุ่นใจที่อยู่ในวงแขนของไอ้บอส ทำให้ผมผล่อยหลับไปอย่างง่ายดาย

...............

ผมถูกปลุกด้วยการเขย่าตัวของบอสตั้งแต่ 05.30 เพราะตามกำหนดการคือต้องออกเดินทางตั้งแต่ 7.00น. และต้องรีบตื่นก่อนเพื่อปฏิบัติการแย่งห้องน้ำกันจะได้ไม่เกิดขึ้นกับเรา

บอสยื่นแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันเรียบร้อยส่งให้ผม ผมรับมาแล้วก็ยืนแปรงหน้ากระจก บอสเดินมายืนกอดผมจากด้านหลังแล้วก็ยิ้มตาหยีให้ผมขณะที่มือก็แปรงฟันไป บอกตรงๆครบโคตรน่ารักเลยแฟนผม แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ ผมก็รู้สึกถึงความร้อนจากบางอย่างที่ด้านหลังผม และบางอย่างที่กำลังขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ตาหยี่ๆนั้นเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์เพียงไม่กี่วินาที ลูกแกะโบ้ทชะตาขาดอีกแล้วครับท่าน ดีที่ผมรู้ชะตากรรมเตรียมอุปกรณ์เตรียมใสไว้ในช่องลับในกระเป๋าใส่เครื่องใช้ในห้องน้ำมาพร้อม

เอ๊ะ หรือที่มันปลุกผมขึ้นมาแต่เช้าก็เพื่อการนี้ นี่มรึงกำลังจะเอาคืนกรูใช่ไหม แมร่งโคตรเจ้าเล่ห์มากเลยนะ ไอ้หมาป่าหมาป่าบอส เหอะๆ

...........

เปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เจอไอ้เกมส์ที่อมยิ้มที่มุมปากรอรับพวกเราอยู่แล้ว

“อาบน้ำด้วยกันหรา” มันแซวพวกเรา ผมนี่ถึงกับหน้าร้อนผ่าว
“เออดิ” ไอ้บอสตอบแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หรา เสียงอะไรอ่ะเมื่อกี้อ่ะ” ไอ้เกมส์ยังคงแซวแบบต่อเนื่อง
“เสียงคนบอกรักกันหว่ะ”  ไอ้บอสหันมาอมยิ้มตอบไอ้เกมส์

“ไปไบร์ท เราไปบอกรักกันในห้องน้ำบ้างดีกว่า” ไอ้เกมส์ฉุดมือไอ้ไบร์ท ลอยตัวปริวเข้าไปในห้องน้ำ มืออีกข้างของไอ้เกมส์ก็คว้ากระเป๋าอุปกรณ์อาบน้ำแล้วเดินเข้าไปบอกรักกันให้องน้ำอีกคู่

“ตื่นกันแล้วเหรอ” ไอ้โอมงัวเงียตื่นขึ้นมาถามพวกเรา
“อืมตื่นแล้ว โอมกับบีมตื่นกันได้แล้ว” ผมหันไปบอกพวกมันสองคนที่นอนกอดกันกลมอยู่ในผ้าห่ม
“อาร์มครับ แบงค์ครับ ตื่นกันได้แล้ว” ไอ้บอสปลุกไอ้อาร์มกับไอ้แบงค์
“โอ๊ยๆๆๆ ตื่นแล้ว” ไอ้แบงค์สะดุ้งก่อนจะถลึงตัวลุกขึ้นมานั่งแบบยังละเมออยู่ ทำเอาไอ้บอสอดขำไม่ได้
ไอ้อาร์มเลยพลอยลุกขึ้นมานั่งด้วย เอามือลูบหลังไอ้แบงค์ที่ผวาตื่นขึ้น
“บอสมาปลุกหน่ะ” มันบอกไอ้แบงค์

ไอ้บอสเพิ่งเข้าใจว่าปลุกไอ้แบงค์ด้วยวิธีนี้ไม่ได้ ไอ้แบงค์มันขวัญอ่อนเวลานอนหลับ

.................

ไอ้เกมส์กับไอ้ไบร์ทเปิดประตูห้องน้ำออกมา
“นานจังวะ” ไอ้โอมบ่น
“โทษทีหวะบอกรรักกันานไปหน่อย” ไอ้เกมส์ตอบไอ้โอมกลับมา ส่วนไอ้ไบร์ทยืนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงอยู่ข้างไอ้เกมส์
“บอกรักเชี่ยไรวะในห้องน้ำ” ไอ้โอมแปลกใจ
“ไปถามไอ้เชี่ยโบ้ทกับไอ้บอสเลย” ไอ้เกมสัยักคิวไล่ไอ้โอมมาถามพวกผม คราวนี้ไอ้โอมก็เลยถึงบางอ้อ

“เชี่ยพวกนี้ กรูเข้าไปจะลื่นหัวแตกมั้ย สัส” ไอ้โอมแขวะพวกเรา
“ไปบีมเราไปเพิ่มความลื่นให้ไอ้แบงค์กับไอ้อาร์มลื่นหัวแตกกัน” มันหยิบถุงเครื่องใช้ในห้องน้ำก่อนจะลากไอ้บีมเข้าไปพร้อมกับมัน

“สัส พวกมรึงล้างพื้นด้วยก่อนออกมา” ไอ้แบงค์ตะโกนสั่งมันก่อนจะเข้าไป

ผมกับไอ้บอสช่วยกันเก็บทีนอนให้เข้าที่เข้าทาง ไอ้ไบร์ทกับไอ้เกมส์ก็ช่วยกันเก็บคนละไม้คนละมือ ไอ้อาร์มเริ่มไล่ไอ้แบงค์ที่ยังอาลัยที่นอนอ้อยอิ่งอยู่ตรงนั้นไปเตรียมของอาบน้ำ และเริ่มเก็บที่นอน
 
ผมเดินไปปลุกห้องอื่นๆทีละห้อง แล้วบอกให้ไอ้คริสไอ้บอล ไอ้บัดไอ้วินมาใช้ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ เพราะห้องน้ำบนชั้นสองอีกห้อง ต้องแชร์กับคนที่นอนห้องนอนเล็กอีกสองห้อง

ผมเดินลงมาปลุกพวกห้องข้างล่าง พี่ๆคนขับรถตื่นและไปเตรียมดูแลรถกันแล้ว ไอ้เบลกับไอ้เคนตื่นกันแล้ว ส่วนพวกไอ้บรู๊คไอ้พลัส ไอ้เบรฟไอ้พาย แล้วก็ไอ้บลูกับไอ้บอมบ์ก็ทยอยกันตื่น ผมเห็นพี่แม่บ้านช่วยกันยกข้าวต้มมาเตรียมให้พวกเราแล้ว

...................

หลังจากทานมื้อเช้าที่พ่อกับแม่ไอ้เคนเตรียมไว้ให้พวกเรา เก็บถ้วยเก็บชามกันเรียบร้อย พวกเราก็ไปขอบคุณแล้วก็ลาท่านกัน

“ไม่ต้องเกรงใจกันนะลูกๆ ที่เชียงคานพ่อให้คนดูแลที่นั่นเค้าเตรียมห้องไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เที่ยวกันให้สนุกนะ”  พ่อไอ้เคนบอกกับพวกเรา

พวกเราขอบคุณท่านกันอีกรอบ ก่อนที่จะขนของขึ้นรถ แล้วล้อก็เริ่มหมุ่นเป้าหมายของเราที่แรกในวันนี้คือ คุนหมิงเมืองเลย

Game
See you Next Game

-----------------------------------------------------------------------
มีของมาฝากอีกแล้วครับ^^

Music inspired by Novel Ver. 2 (MV ประกอบนิยาย) Destiny of B ชุลมุนวุ่นนัก...รักของนายตัวบี
>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=qSnlGIShTyo
วันที่ลงคลิป 20/03/2015



Music inspired by Novel (MV ประกอบนิยาย) Destiny of B ชุลมุนวุ่นนัก...รักของนายตัวบี
>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=BjGcn-Mev1o
Update คลิปใหม่ล่าสุด 16/03/2015



คาแรกเตอร์ตัวละคร (Image Character) ในนิยายครับ
>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=gmTmmxE-iMQ
Update คลิปใหม่ล่าสุด 16/03/2015




ตัวอย่าง 18 เพลงประกอบนิยาย Destiny of B
18Track Musick inspire by novels Destiny of B Preview
>>>ลิงก์สำหรับท่านที่กดชมจากหน้าเว็บไม่ได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=TstwrRw1zcA
Update คลิปใหม่ล่าสุด 16/03/2015


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอบคอมเมนท์ครับ^^

ตอบคอมเมนท์คุณ IsDeer
คงเป็นทริปที่เหนื่อยแน่ๆครับ มีลิงทโมนไปเป็นโขยง ขนาดนั้น 555+
คนอ่านอย่าพูดถึงเรื่องแก่ครับ คนเขียนสะเทือนใจ เอิ๊กกกกกก
จะพยายามลงรูปประกอบเรื่อยๆนะครับ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ^^
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ด้วยนะครับ

ป.ล คุณ IsDeer เข้าไปดู เกมส์ คนใหม่หรือยังครับ^^ ถ้ายัง กดวาร์ปไปเลยครับ^^

https://www.youtube.com/watch?v=BjGcn-Mev1o

ถ้าแบบเห็นหน้าชัดๆก็อันนี้เลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=qSnlGIShTyo

ออฟไลน์ Spelling_B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ไม่มีอะไรมาก และยังไม่ได้ลงตอนใหม่นะครับ แต่อยากจะบอกคนอ่านทุกๆท่านดังๆว่า

วันนี้ วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2558 เวลา 7.57

ผมเขียนนิยายเรื่องนี้ ตอนสุดท้าย ตอนที่ 78 เสร็จแล้วคราบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เหลือปรับปรุงให้ดี แต่เนื้อหาทั้งหมดเสร็จแล้วจบแล้วครับ    เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกก

จะค่อยๆทยอยเอาลงนะครับให้ได้อ่านกันนะครับ

นิยายเรื่องแรกของผมจบแล้ว 55555+

ขอบคุณครับ^^

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนานเลย เนื้อเรื่องไปไกลแล้ว แต่เห็นหนุ่มๆ มีความสุขกันก็ดีใจแล้วครับ

อีก 17 ตอนก็จะจบแล้วสิ ยังไม่รู้เรื่องในอดีตเลย

นิยายเรื่องแรกแต่แต่งได้ดีมาก อาจจะมีเรื่องการสะกดคำผิดนิดหน่อย แต่ไม่เสียอรรถรสครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2015 15:05:34 โดย kasarus »

ออฟไลน์ destiny_of_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@ 62nd Game  – Lazy day in Chiangkhan

รถบัสนำพวกเราทั้งหมด 31 คน วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 2 แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 12 ผ่านอีกด้านของมหาวิทยาลัยขอนแก่น มุ่งหน้าอำเภอชุมแพ ระหว่างทางต้องผ่านทางแยกเข้าไปอำเภอภูเวียง

“พวกมรึงดูไดโนเสาร์” ไอ้บีมตะโกนบอกให้พวกเราดูไดโนเสาร์ตัวโตตั้งอยู่กลางแยกที่จะเลี้ยวไปอำเภอภูเวียง
“ตัวแมร่งโคตรใหญ่” ไอ้ไบร์ทถึงกับอุทาน พวกเราก็เลยหันไปดูไดโนเสาร์ตัวโตของไอ้บีมกับไอ้ไบร์ทกัน
“น่าแวะไปเที่ยวเนอะ” ไอ้เกมส์เปรยขึ้นมา
“จริงๆก็น่าไปนะโว้ย แต่เสียดายที่เราไม่มีเวลา” ผมเองก็อยากไปพิพิพิทธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่อำเภอภูเวียง เพราะเป็นอีกทีที่ควรมาเวลามาขอนแก่น
“เอาไว้วันเที่ยวน่ามาบ้านกรู เดี๋ยวกรูพามาอีกรอบก็ได้” ไอ้เคนเสนอไอเดีย
“เออ มรึงรับปากแล้วนะ” ไอ้เกมส์หันไปย้ำแล้วมันก็เดินไปเกี่ยวก้อยสัญญากับไอ้เคน


Crรูปภาพจาก ทริปพาลูกเที่ยวอำเภอภูเวียง

เลยจากทางแยกรูปปั้นใดโนเสาร์มาไม่นานพวกเราก็มาถึงอำเภอชุมแพ รถบัสเราก็ผ่าเข้าไปกลางอำเภอชุมแพซึ่งเป็นอำเภอใหญ่อำเภอหนึ่ง เพราะอำเภอชุมแพเป็นชุมทางทางทิศตะวันตกของจังหวัดขอนแก่น แล้วรถบัสก็เลี้ยวขวาขึ้นทางหลวงหมายเลข 201 มุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดเลย

พอเลี้ยวมาไม่นาน ผ่านอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นอีกทีท่องเที่ยวยอดนิยม แต่เที่ยวนี้เราไม่มีเวลาที่จะปีนขึ้นไป

“หนาวหน้าใครจะมาปีนภูกระดึงกับกรูบ้าง” ไอ้เบสต์ตะโกนถามพวกเรา
“กรูก็อยากนะ แต่ไม่รู้สังขารจะไหวป่าว” ไอ้วินตะโกนคุยกับไอ้เบสต์
“ไหวดิวะ แค่ไอ้บัดมาด้วยมรึงก็มีแรงแล้ว” ไอ้เบสต์ตอบกลับมาทำเอาไอ้วินถึงกับอ้าปากหว่อ
“วี๊ดดดวิ่ววว” เสียงเป่าปากดังไปทั่วรถ
“ครับ ถ้าวินเดินไม่ไหวเดี๋ยวผมแบกวินเองนะครับ” ไอ้บัดผู้ไม่รู้จักคำว่าเขินกล่าวไว้
“เอาไว้หนาวหน้ามาเที่ยวกันอีก” ผมเลยตะโกนบอกพวกมัน
“งั้นหนาวหน้าต้องมีอีกทริปนะไอ้โบ้ท” ไอบิวหันมาบอกพวกเรา

ผ่านอุทยานแห่งชาติภูกระดึงมาไม่นาน รถบัสก็เลี้ยวซ้ายพาเราเข้าสู่อำเภอหนองหิน เพื่อไปจุดหมายเลขในทริปของพวกเรา คุนหมิงเมืองเลย

“ที่แรกที่เราจะไปคือ ภูป่าเปาะ นะ” ผมถือไมค์อธิบายที่ๆเราจะแวะที่แรก
“เดี่ยวเราต้องลงจากรถบัส แล้วใช้บริการรถสาธารณะของที่นี่” ผมอธิบายกับพวกเรา
“รถอะไรวะ ในป่าในเขาแบบนี้ มีรถสาธารณะด้วย” ไอ้บูมถามผม
“มีดิวะ มาอยู่กับชาวบ้านก็ต้องใช้รถชาวบ้านหว่ะ” ไอ้บลูอธิบายแทนผม
“แล้วรถชาวบ้านนั้นมันรถอะไรวะ” ไอ้บาสยังคงสงสัย
“นั่นไงมรึง อีแต๊ก” ไอ้บลูชี้ไปที่รถบริการสาธารณธที่จอดเรียงกันอยู่เพื่อรอรับพวกเรา
“เหยดด” ไอ้บาสถึงกับอุทาน

แล้วรถก็มาถึงจุดแรกที่เราแวะคือ ภูป่าเปาะ พอก้าวลงจากรถ ความเย็นยะเยือกปะทะเข้าหน้าพวกเรา หายใจออกมาเป็นไอน้ำกันหมดทุกคน ดีที่เตรียมเสื้อกันหนาวมากันแล้ว

“หนาวไหม” ไอ้บอสถามผม
“อืมม หนาวอ่ะ” ขนาดผมมีทั้งเสื้อกันหนาวและผ้าพันคอ
“ยืนมือมา” ไอ้บอสบอกผม ผมส่งมือไปไอ้บอสเอามือทั้งสองข้างมาจับมือผมแล้วถูกไปมา ผมมองหน้ามันแล้วก็ยิ้มอย่างสุขใจกับความเอาใจใส่ที่บอสมีให้กับผมเสมอ

รถอีแต๊กของชาวบ้านให้บริการอยู่ ขึ้นได้คันละ 10 คนราคาคนละ 60 บาท เท่านั้นพวกเรานั่งรถอีแต็กมาไม่นานก็ถึงจุดชมวิวแรก ภาพที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้ก็คือ ฟูจิเมืองเลย เป็นภูเขาที่มีชื่อจริงๆว่าภูหอ มีรูปร่างคล้ายๆกับภูเขาไฟฟูจิที่ปรเทศญี่ปุ่น ตอนนี้ยังไม่สายมากยังมีทะเลหมอกลอยตัวอยู่ด้านล่างแล้วมองเห็นภูหอเป็นยอดทะลุทะเลหมอกขึ้นมา ตรงด้านหน้ามีระเบียงที่ทำไว้ยืนไปบนยอดผาเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกัน
 
ตอนนี้มหกรรมถ่ายรูปแบบรัวๆ ก็เกิดขึ้น ที่หนักที่สุดก็คงเป็นไอ้เบลกับไอ้เคน ช่างถ่ายภาพประจำกลุ่มที่คอยสั่งให้พวกเราขยับซ้ายบ้างขวาบ้าง เพื่อให้รูปออกมาสวยตามประสาคนเล่นกล้อง สุดท้ายก็เป็นรูปหมูทั้ง 31 คน ที่ไอ้เบลกับไอ้เคนใช้ขาตั้งกล้องแล้วตั้งเวลาให้กล้องทำงานอัตโนมัติ เก็บเป็นภาพประทับใจที่แรกที่พวกเราแวะกัน

นั่งอีกแต๊กมาอีกไม่นานก็จะเป็นจุดชมวิวที่สอง ที่นี่มีเอกลักษณ์ตรงที่มีชิงช้าไม้อันใหญ่ ไว้ให้เราถ่ายรูปถ้าลมหนาวกัน ไอ้เบลกับไอ้เคน จัดให้พวกเราถ่ายรูปเป็นคู่ๆ แล้วถึงมาถ่ายแบบมวลหมู่กันปิดท้าย จนได้รูปสวยสมใจไอ้เบลกับไอ้เคน

พอถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วพวกเรานั่งอีแต็กกลับลงมาจากภูป่าเปาะ ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นออเดิร์ฟจานแรกในทริปนี้ พวกเราก็กลับมาขึ้นรถบัสแล้วเดินทางไปเป้าหมายหลักของพวกเราในวันนี้ สวนหินผางาม หรือ คุนหมิงเมืองเลย


Cr รูปภาพจาก wwwtaklong-com,เว็ปไซด์เที่ยวเมืองเลย, ไอ้คล้าวผจัญภัย @พันทิป


Cr.รูปภาพจากคุณphupapoa-002 @ พันทิป, www.thairath.com


...........


รถบัสเลี้ยวเข้ามาจอดตรงศุนย์บริการนักท่องเที่ยว พวกเราทยอยลงจากรถมาก็เจอภาพที่ประทับใจ เห็นภูเขาหน้าผ้าหินปูนขนาดใหญ่ตั้งตะหง่านอยู่ทามกลางต้นไม้ใหญ่น้อย มีป้ายใหญ่ทำจากหินอ่อนสีดำเขียนว่า สวนหินผางาม ตั้งเด่นอยู่ทามกลางสวนย่อมที่จัดไว้อย่างสวยงาม

“สวัสดีครับ” พี่ไกด์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานทักทายพวกเรา
“วันนี้มากันกี่ท่านครับ” พี่เจ้าหน้าที่ถามพวกเรากลับมา
“33 คนครับ” บอสตอบพี่กลับไปแทนพวกเรา

“คุนหมิงเมืองเลยหรือสวนหินผางาม เป็นกลุ่มภูเขาหินปูนขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ บนเขาเต็มไปด้วยโขดหินและหน้าผารุปร่างแปลกตา มีต้นไม้แคระขึ้นอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะต้นจันทน์ผา”  พี่เจ้าหน้าที่เริ่มอธิบายถึงที่นี่

“ภูเขาบางลูกสามารถเดินทะลุผ่านได้ บางลูกก็เป็นซอกหินสลับซับซ้อน เหมือนเขาวงกต มีเส้นทางชมธรรมชาติและสวนหิน เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงนะครับ” พี่เจ้าหน้าที่อธิบายคร่าวๆถึงที่ๆพวกเราจะเดินชมกันและนี่เป็นจุดแรกที่พวกเราจะได้ advanture กัน

ผมกับเพื่อนๆเดินมากันไม่นาน ก็เริ่มเห็นก้อนหินรูปร่างต่างๆ ตามที่พี่เจ้าหน้าที่อธิบายไว้ หินบางก้อนมีรูปทรงคล้ายๆหน้าคน อันนี้ออกแนวหลอนๆ  บางก้อนเป็นรูปเต่า สุนัขหมอบ นี่พวกเรายังไม่ได้เข้าเขาวงกตเลยนะครับ

ทางขึ้นเขาวงกตเป็นทางเดินขึ้นสู่ภูเขาที่เหมือนกำแพงหินใหญ่ ระหว่างทางตามโดหินมีพืชพรรณแปลกขึ้นให้เห็นเช่น เมื่อถึงกำแพงหินแล้วต้องเดินขึ้นบันใด เดินลัดเลาะต่อไปตามซอกหิน บางที่ต้องมุดลอดกันไป มีโพรงถ้ำให้เห็นตามลักษณ์ของเขาหินปูน แล้วพวกเราเดินลงมาที่สะพานเหล็กที่พาดผ่านไปตามป่าที่มีไม้เลื้อยคลุมโขดหิน พวกเราเดินมาเรื่อยๆ เราก็จะมาถึงหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยเพิงผาหินปูน

“โห สวยมากเลยพี่” ไอ้บัดถึงกับอุทาน เมื่อพวกเราเดินมาถึง
“ถ่ายรูปกัน” ไอ้เบลบอกให้พวกเรายืนรวมกลุม
“ไอ้ไปป์เข้ามาอีกนิด” ไอ้เบลบอกให้ไอ้ไปป์ขยับเข้ามาเพราะตกเฟรมไปแล้ว

“ที่ที่พวกเรากำลังยืนกันอยู่คือ แดนมหัศจรรย์ที่ 1 ที่เป็นเพิงพาหินขนานกันสองด้าน และจะเข้าสู่ชอ่งแคบที่เรียกกันว่าช่องอิสระนะครับ” พี่เจ้าหน้าที่อธิบายตอนที่พวกเรากำลังถ่ายรูปไปด้วย วิญญาณไกด์พี่เขาเข้มข้นมากครับ

พอถ่ายรูปกันเสร็จพวกเราก็เดินไปตามทางกันต่อทางเดินพาเข้าสู่ผาวงกตที่เป็นทางคดเคี้ยววกวนไปตามซอกผา มีโพร่งหินรูปร่างประหลาดมากมาย บางช่วงมีเถาวัลย์ห้อยลงมา ตรงนี้มีหินรูปร่างคล้าย หัวใจ คล้ายมงกุฎ พอเดินผ่านมาเรื่อยๆก็จะมาสู่จุดชมทิวทัศน์ที่เรียกกันว่าหอดูดาว เป็นจุดที่มองเห็นเทือกเขาหินปูนเป็นกำแพงล้อมรอบผืนป่าเบื้องล่างได้รอบทิศ จุดนี้ไอ้เบลกับไอ้เคน ก็จัดการเก็บรูปให้พวกเราทั้งเดี่ยว ทั้งคู่ และหมู่ พอเดินจากหอดูดาวจะตัดลงเขากลับลงมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เป็นอันว่าเสร็จจากคุนหมิงเมืองเลย

พวกเราขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่ที่ช่วยแนะนำพวกเรา จริงๆแล้วเดินมาเกือบชั่วโมงก็เล่นเอาหอบอยู่เหมือนกันเพราะต้องมุดต้องปีนกัน แต่ก็ได้ดูหินรูปร่างประหลาดเห็นบรรยากาศที่เรายืนอยู่ตรงกลางแล้วมีภูเขาล้อมรอบ แถมอากาศหนาวทำให้เดินกันอย่างสบายตัว

ไอ้บรูคกับไอ้พลัส ไอ้เบรฟกับไอ้พาย อาสาไปสั่งกาแฟที่ร้านกาแฟสดให้พวกเราหลังจากหากาแฟหาชาดื่มกันแก้กระหายเรียบร้อยก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อ


Cr.รูปภาพจากคุณ  sayan022 @ พันทิป,  รักจังเลย @ พันทิปwww.taklong.com

Cr.รูปภาพจาก คุณ  yong_pop @พันทิป, pgha @ พันทิป,  wanshalala @ พันทิป, www.taklong.com


.............


รถบัสมุ่งหน้าย้อนกลับออกมาทางเส้นทางเดิมก่อนจะเลี้ยวซ้ายึ้นทางหลวงหมายเลข 201 อีกครั้ง ไม่นานก็ผ่านแยกอำเภอวังสะพุง ถ้าเราเลี้ยวซ้ายก็จะไปเขตอนุรักษ์พันสัตว์ป่าภูหลวง เลี้ยวขวาก็จะไปจังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดอุดรธานีรถบัสวิ่งมาไม่นานก็ถึงจังหวัดเลย พวกเราแวะทานมื้อกลางวันกันใกล้ๆตัวเมืองเลยพวกเราแวะร้านข้าวมันไก่ อาหารจานด่วนของคนไทย

“กรูเอาไก่ต้ม ของกรูไก่ทอด ไก่ต้มด้วย กรูไก่เอาไก่ทอด” พวกมันกำลังสั่งกันแบบไม่ลืมหูลืมตาเพราะหิวจัด
“เด่วพวกมรึง เอางี้ ใครเอาไก่ต้มบ้าง ยกมือ” ไอ้เบนซ์กำลังจัดการความเรียบร้อยโดยที่ไอ้เบียร์กำลังนับ
“ใครเอาไก่ทอด ยกมือครับ” ไอ้เบียร์นับและจดตัวเลข ก่อนจะถือกระดาษไปสั่งที่หน้าร้าน

พออิ่มท้องกันแล้วก็ขึ้นรถมุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงคาน ที่เราจะพักและเที่ยวกันในคืนนี้ รถมาติดไฟแดงที่สามแยกจุดสิ้นสุดทางหลวงหมายเลข 201 เราเลี้ยวขาเข้าสู่อำเภอเชียงคาน แล้วก็เลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าสู่ถนนที่อยู่เกือบติดกับแม่น้ำโขง บรรยากาศบ้านไม้สองชั้นแบบเก่าที่เรียงลายอยู่เต็มสองฝากถนน ให้ภาพที่แปลกตาและน่าตื่นเต้นกับพวกเราไม่น้อย

สุดท้ายรถก็จอดให้พวกเราขนของลงที่พัก ที่พักเป็นบ้านไม้สองชั้นจำนวน 3 คูหาเรียงติดกัน อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ซึ่งปกติแล้วพ่อกับแม่เคน จะเปิดเป็น โฮมเสตย์ให้นักท่องเที่ยวแวะพัก แต่เพราะพวกเราจะมา ท่านก็เลยปิดให้พวกเราพักแทน พวกเราล่ะอดเกรงใจพวกท่านไม่ได้เพราะช่วงนี้เป็น Hi season ซะด้วย

พวกเราขนของลงกันเรียบร้อย รถบัสก็เข้าไปจอดในวัดเพราะตอนกลางคืนถนนเส้นนี้จะกลายเป็นถนนคนเดิน ปกติโฮมสเตย์หลังนี้มีห้องพักอยู่ประมาณ 18 ห้อง ใกล้เคียงกับจำนวนคนของพวกเรา ห้องไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตกแต่งไว้สวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกมีเท่าที่จำเป็น ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมมีจำนวนอยู่หลายห้องเรียงติดกันที่ชั้นล่างของบ้าน

ที่น่าตื่นเต้นคือมีระเบียงใหญ่ที่เป็นลานกว้างมีหลังคาอยู่ด้านหลังบ้านยื่นออกมารับวิวแม่น้ำโขง แม่น้ำสายใหญ่แบบเต็มตา ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำก็เป็นประเทศเพื่อนบ้านเราแล้ว บรรยากาศยามบ่ายกับวิวแบบนี้ประทับใจผมมาก

ผมชะโงกมองลงไปใต้เท้าเราเป็นถนนที่ใช้ได้แค่เดินกับจักรยานเท่านั้น ทอดยาวไปตลอดแนวแม่น้ำ น่าลงไปเดินกินลมชมวิวยามเย็นอย่างมาก

“แยกย้ายกันพักผ่อนใครอยากเดินเที่ยวตรงไหนอย่างไรก็ตามสบายเลยนะเพื่อนๆ” ผมบอกพวกมันที่รวมตัวกันครบที่ระเบียงหลังบ้าน
“แล้วเดี่ยว 18.00 น. ไปทานข้าวกัน”

“ไปป์มรึงไปกับพวกกรูป่าว” ผมเอ่ยปากชวนมันไปเดินเล่น
“ไม่เป็นไรมรึง มรึงไปกันสองคนเหอะ อุตส่าห์มาเที่ยวทั้งที” ไอ้ไปป์ปฏิเสธเราด้วยความเกรงใจ
“ไปเดินกับพวกกรูได้จริงๆนะ” ไอ้บอสย้ำกับไอ้ไปป์อีกที
“ไม่ต้องห่วงกรู กรูโอเค “มันหันมายิ้มกับพวกเรา
“เพราะไอ้เบิร์ดอยู่กับกรูทุกที” มันเอามือชี้ไปที่หัวใจมัน ผมกับบอสค่อยใจชื้นขึ้นมา เพราะก็อดห่วงมันไม่ได้ มันเป็นคนเดียวที่มาคนเดียว

ผมกับไอ้บอสเดินเลาะริมแม่น้ำโขงมาเรื่อย ถ่ายรูปเก็บเอาไว้กัน เซลฟี่กันซะส่วนมาก พอเดินสวนกับไอ้บูมกับไอ้นัทพวกเราทีก็ผลัดกันถ่ายรูปให้กัน เดินชมบรรยากาศเรือนแถวไม้ที่ทอดยาวสุดตา เป็นบรรยากาศที่หาดูได้ยากแล้วสำหรับบ้านเรา โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ผมประทับใจกับรูปแบบเรียบง่ายของที่นี่มากๆ

 “เหนื่อยไหม” บอสหันมาถามผมหลังจากกลับมาพักเอาแรงที่ห้อง
“ไม่อ่ะ” ผมตอบมันตอนแผ่อยู่บนเตียง
“มีความสุขไหม” บอสถามผม แล้วก็เอามือชันหัวตัวเองขึ้นมานอนตะแคงข้างๆผม
“โคตรสุขเลยล่ะ ยิ่งอยู่กับบอสโบ้ทก็ยิ่งมีความสุข” ผมยิ้มตาหยีตอบมันไป
“บอสก็มีความสุขที่ได้อยู่กับโบ้ทนะครับ” มันมือมาลูบหน้าแก้มผมอย่างเบามือ
“โบ้ทก็เหมือนกัน” ผมทำปากขยับจุ๊บๆ อ้อนให้บอสจูบ บอสค่อยๆกดหน้าลงมาจูบที่ริมฝีปากผมเบาๆ
“อ้อนจัง แค่นี้ก็หลงจะตายอยู่แล้ว” ไอ้บอสพูดจบก็หอมมาที่แก้มผมอีกฟอดใหญ่

ตกเย็นได้เวลานัดทานข้าวกัน พวกเราก็ค่อยๆเดินออกมาตามถนนที่ตอนนี้แปลสภาพเป็นถนนคนเดิน ร้านขายของต่างเปิดไฟกันสว่าง สีส้มสว่างไปตลอดถนน ไอ้บีมกับไอ้โอมตื่นเต้นกับถนนคนเดินมาก และแน่นอนที่เป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ผู้คนมากมายเดินกันเต็มถนน

เด็กหนุ่มหน้าตาดีทั้ง 31 คนเดินมากันเป็นกลุ่มการแต่งตัวก็ดูดีแต่และคนก็มีสไตล์ของแต่ละคนชัดเจน “แล้วจะเป็นจุดสนใจของผู้คนแถวนั้นไหม” “ตอบเลยว่า มากครับ” พวกเราเดินมากันไม่นานก็มาถึงร้านอาหารชื่อดังของอำเภอเชียงคาน ที่ใครมาก็ต้องมาทาน แน่นอนรวมถึงพวกเราด้วย แล้วมหกรรมการสั่งกับข้าวก็เริ่มต้นขึ้น

หลังจากทานกันอิ่มก็ได้เวลาเดินดูของกัน มีของขายมากมายโดยเฉพาะของที่ระลึก ผมยังอดซื้อฝากพ่อกับแม่ไม่ได้เลย ไอ้บอสก็ได้ของฝากที่บ้านมันด้วยเช่นกัน

“โอมๆลายนี้สวยไหมนะ” เสียงไอ้บีทหันไปถามไอ้โอมให้ช่วยเลือกเสื้อยืดที่ระลึก
“ตามใจบีมเลย” เสียงไอ้เกมส์ตอบกลับไป
“โอมชอบหรือเปล่าอ่ะ” ไอ้บีมยังคงย้ำถามเกมส์อีกครั้ง
“ทำไมอ่ะ ถ้าโอมไม่ชอบบีมจะไม่ใส่เหรอ” ไอ้โอมถามกลับ
“จิ๊” เสียงไอ้บีมจิปากใส่
“มึงนี่ก็ซื่อเนอะไอ้โอม” ไอ้บอสหันไปบ่นไอ้โอม
“ทำไมวะ” ไอ้โอมอดสงสัยไม่ได้
“ก็ไอ้บีมมันจะซื้อเสื้อคู่” ผมเอามือตบหลังไอ้โอมไล่ความซื่อบื้อของมันออกไปบ้าง
“อ๋อ” ไอ้โอมลากเสียงยาว
“ชอบครับ บีมเลือกตัวไหนมาโอมก็ชอบทั้งนั้นแหละ” ไอ้โอมหันไปง้อไอ้บีมแบบรัวๆ
“จริงเหรอมรึง” ผมแซวมันกลับ
“เออดิ ก็เมียกรูเลือกนี่” เจอคำนี้เข้าไปไม่เพียงแต่ไอ้บีมจะอ่อนระทวย แต่มันทำให้พวกเราตายกันยกกลุ่ม

กว่าจะกลับมาถึงที่พักก็เกือบ 3 ทุ่มแล้ว ไอ้บีมกับไอ้โอมแล้วก็ไอ้บลูกับไอ้บอมบ์กำลังจะไปซื้อเบียร์ที่ร้านมินิมาร์ทใกล้ๆ พวกมันตกลงกันไว้ที่ 3 ลัง กินกันให้พอหายเปรี้ยวปาก เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นมาใส่บาตรกันแต่เช้า พวกเราตั้งวงที่ตั้งที่ระเบียงใหญ่หลังบ้านที่ได้รับวิวแม่น้ำโขง ที่ตอนนี้มืดสนิท (แหม่ๆก็ต้องจินตนาการให้ได้บรรยากาศกันนิดนึงสิครับ)



Cr.รูปภาพจาก  blog คุณ iRoeng, FB คุณaranbris, www.painaima.com



Game
See you Next Game



...........................................


-----------------------------------------------

ตอบคอมเมนท์ครับ^^

ตอบคอมเมนท์คุณ Spelling_B
ขอบคุณสำหรับคำขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่ติดตามด้วยนะครับ^^

ตอบคอมเมนท์คุณ kasarus
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ เรื่องในอดีตมีเฉลยแน่นอนครับ ขอบคุณสำหรับคำติชม ด้วยนะครับ ผมจะนำไปปรับปรุงแก้ไขครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจแล้วก็คอมเมนท์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2015 12:02:39 โดย destiny_of_b »

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เป็นกรุ๊ปทัวร์ที่ใหญ่มาก ไปถึงไหนก็ครื้นเครงกันตลอด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด