ห้วงรักเสน่หา + เกียรติยศ กบฏหัวใจ โดย Rain-at-Rose
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ห้วงรักเสน่หา + เกียรติยศ กบฏหัวใจ โดย Rain-at-Rose  (อ่าน 293046 ครั้ง)

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
^
^
มาตามสัญญานะน้อง Asahi ขอบคุณที่เม้นต์นะ

คนอื่นๆ อ่านตามกันให้ทันเน้อ  อีก 4 วันจะมาต่อให้จ้า
ขอไปเที่ยวแป๊บบบบ  แล้วกลับมาจะมาต่อให้ทันทีเลย ขอโทษที่ต้องให้รอนะ


Wishing everyone a Merry Christmas na !!!

:L2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

pupper

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้วค๊าบบบบบบบ
คู่หมอธารกับภาณุก็ไปได้ด้วยดี
พ่อตาก็รับได้แล้ว
แต่ปัญหาที่สำคัญคือ ไผ่กับธี
จะยังไงกันต่อไปละครับ
ในเมื่อธียังสับสนกับรักฝังใจ
แต่ความรู้สึกในปัจจุบันที่กำลัง
จะมีใครมาแทนที่ และสำคัญสำหรับเขา
กว่าจะรู้ใจธีจะสายเกินไปไหม
น่าห่วงจริงๆคู่นี้

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
Merry X'mas

 :กอด1: :beat:

ที่รัก เที่ยวเผื่อเค้าด้วยนะ

รีบกลับมาล่ะ ไม่งั้น เค้าจะกินน้องซีให้หมดตัว :laugh:

ปล.เค้าพูดหวานมะตัวเอง..อิอิ หวานเนอะ..

ออฟไลน์ menano

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-0
^

^

^

โย่ววววววววว

มาจิ้มรีบน

 :z2:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4


เดี๋ยวมาอ่าน

มาส่งการ์ดก่อนค่า

merry x'mas na ka



----------------------------

เย้..ดีใจที่พ่อคุณหมอยอมอ่อนลงแล้ววววววววววว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2008 16:42:43 โดย 19NT »

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586



นะคะคนสวย

อิอิ

rain-at-rose

  • บุคคลทั่วไป


MERRY CHRISTMAS ค่ะ พี่พิม ^_^
  :mc3:

:mc1:   :mc2:  :pig3:

pupper

  • บุคคลทั่วไป
สุขสันต์วันพระคริสตสมภพครับ
ขอให้มีความสุขกันมากๆนะ
แล้วมาต่อตอนต่อไปนะครับ
ได้จิ้มคนแต่งด้วยอะ อิอิ

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
กลับมาแล้ว  เย้ๆ  :กอด1:

ผ่านคริสต์มาสไปแล้ว  วันพรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของปี 
สุขสันต์วันปีใหม่นะทุกคน  แฮปปี้ๆ  ขอให้ปีหน้าเป็นปีแห่งโชคนะจ๊ะ
 :L2:

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เกียรติยศ กบฏหัวใจ 36 Once Time Last Night / แค่คืนหนึ่ง (PART5)

“ไอ้ขิ่นโว้ย...”

เสียงของนายพลอินคานดั่งก้องกระท่อมหลังเล็ก เจ้าขิ่นโผล่หน้าออกมา เจ้าขิ่นมองเจ้านายที่นั่งกุมหน้าอก

“นาย...นายเป็นอะไรไป!”

ไอ้ขิ่นแตะบ่าร่างชราอย่างแผ่วเบา มองใบหน้าซีดขาว นางยะไข่ที่ออกหาผักนั้นรีบวิ่งเข้ามาดูอาการเช่นกัน

“ไม่เป็นไร...เอายา...ยามา”

ไอ้ขิ่นลุกขึ้นวิ่งตื๋อไปเอายามาให้ พร้อมกับน้ำ สายตาทอดมองกังวล

“นายพักก่อนเถอะ”

มันว่าพลางประคับประคองร่างชราภาพขึ้นไปนอนบนฟูกที่นางยะไข่ปูไว้ ดวงตาอ่อนล้าปิดสนิท ไอ้ขิ่นมองหน้ามารดา

“ท่านเครียดเกินไป”

นางยะไข่ว่าด้วยน้ำเสียงสงสาร ไอ้ขิ่นมีสีหน้าเศร้าๆเช่นกัน

“แต่ท่านก็ทำเพื่อพวกเราชาวเวียงวนรัฐะ”

แผ่นหลังของเด็กหนุ่มพิงพนังบ้านที่สร้างจากไม้ เก่าคร่ำคร่า

“ถ้าไอ้ทรราชมันไม่ทรยศ วันนี้ก็คงไม่มีแท้ๆ”

สายตาเศร้าสร้อยของไอ้ขิ่นเป็นประกายเพลิงวาวโรจน์จากความแค้นที่สั่งสม นางยะไข่มีสีหน้าซึมๆเซื่องๆ

“ฉันจะฆ่ามันแทนนาย แทนพ่อ แทนทุกๆคนที่ถูกมันกดขี่”

เจ้าขิ่นด่าว่านายพลคะฉิ่น นางยะไข่เช็ดน้ำตาคิดถึงสามี แต่แล้วต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืน ใบหน้าของนางลอกแลก นางยะไข่จับต้นแขนของบุตรชายไว้

“ใคร...ใครยิงปืน?”นางถาม

ไอ้ขิ่นเงี่ยหูฟัง“เสียงอยู่ไม่ไกลนี้เองจ้ะแม่”

ทั้งสองระแวดระวัง

“ฉันออกไปดูเองจ้ะ”

ยังไม่ทันไร มีกกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกรูเข้ามาใกล้นอาณาเขตลานบ้าน เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง สายตาไม่เชื่อ

“บ้านมันอยู่นั่น จับไปตัวเป็นๆคนอื่นฆ่าทิ้ง”

ไอ้ขิ่นบอกให้แม่และท่านนายพลที่เจ็บอยู่หนีไป ทว่ามันสายไปเสียแล้ว ร่างถูกตรึงด้วยปืนหลายกระบอก ชายฉกรรจ์ใบหน้าเหี้ยมเกรียมเดินมาใกล้ยังสามชีวิตที่คู้คุดอยู่ชิดผนัง

“มาหลบตัวแถวนี้เองรึท่านนายพลอินคาน”เสียงคุ้นหูเอ่ยทัก

ร่างของท่านนายพลถูกมัดไว้พร้อมๆกับนางยะไข่และไอ้ขิ่น ไม่มีสิทธิ์ที่จะดิ้นรนหนี

“ไอ้กฤษดา!”

นายพลอินคานที่ถูกจับมัดไว้ตวาด ไอ้ขิ่นก็เช่นกัน มันมองคนทรยศด้วยสายตาโกรธ แค้นเคือง

“ไอ้ชาติหมา!”

กฤษดาเดินเข้ามาใกล้ใช้เท้ายันหน้าอกของเด็กหนุ่มจนหงายหลังชนฝา

“เดี๋ยวมึงได้แดกลูกปืนแน่ไอ้เด็กปากดี”

เด็กหนุ่มไอโขลกๆ นางยะไข่มองดูบุตรที่ถูกคนชั่วถีบ ดวงตาหวาดหวั่นของนางกรุ่นขึ้น

“หึๆน่าสงสารท่านนายพลเหลือเกิน ถูกจับมัดไว้เหมือนกับหมาแบบนี้ คงไม่เชื่อสินะครับว่าข่าวรอดออกไปได้ไง คนที่ท่านส่งจดหมายไปให้ไง”กฤษดาซ้ำเติมเมื่อเห็นร่องรอยความรวดร้าวในแววตา

“แก...”

“คิดถึงสหายเก่าสินะครับ”

เสียงหัวเราะราวกับปีศาจชั่วช้าสามารย์ดังระคายหู นายพลอินคานหลับตาลง ในอกปวดแน่นทันทีจนตัวงอ ท่านไม่รับรู้อะไรแม้แต่เสียงกรีดร้องที่นางยะไข่และไอ้ขิ่นเรียกท่าน เสียงหัวเราะก้องกังวานดุจดังปีศาจร้ายเย็นยะเยือก

------------------------------------------------

ท่านลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองถูกขังในคุก ได้ยินเสียงฝีเท้าเคลื่อนเข้ามาใกล้ เหลียวมองตามเสียงและเงยหน้าไล้จากปลายเท้าไป พบเห็นรอยยิ้มแสยะพร้อมกับผู้ติดตามเบื้องหลังใบหน้าขึ้งโกรธ

“แก....”

นายพลอินคานสบถ เจ็บปวดเมื่อเห็นนายพลคะฉิ่นซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายมองดูผู้เป็นพี่น้องหลงอยู่ในอำนาจจนถึงกับโค่นล้มบัลลังก์ของพี่ชาย

“ดูท่าสบายดีนะครับพี่?”นายพลคะฉิ่นมองพี่ชายที่กระเสือกกระสนลุกขึ้น

“อ้ายชาติหมา! แม้กระทั้งพี่น้องแกยังฆ่าได้....แล้วไอ้ขิ่นกับแม่มันล่ะ?”สีหน้าของท่านนายพลหวาดหวั่นเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง

สีหน้าท่านนายพลคะฉิ่นผู้เป็นน้องเยียบเย็นเล่นเอาคนเป็นพี่รุ่มร้อนใจ มือกุมหน้าอก

“ถ้ามันตายพี่คงจะกระอักเลือดเลยสินะ?”นายพลคะฉิ่นเอ่ย มองดวงตาพี่ชายที่เหมือนมีเพลิงพิโรธแผดเผา

“ไอ้ขิ่นมันยังเป็นเด็ก ส่วนแม่ของมันไม่รู้อะไร ปล่อยมันไป!”นายพลอินคานตวาด

“ถ้าผมไม่ปล่อยล่ะพี่?”ดวงตาฉายความชั่วช้า จนพี่ชายเจ็บหัวใจขึ้นอีกระรอกจนต้องเอามือกุมหน้าอก

“ท่านครับ...อย่ากดดันท่านนายพลอินคานมากไปเลยนะครับเดี๋ยวจะกระเทือนถึงแผนการ”

นายพลคะฉิ่นจึงระงับอารมณ์“ก็ได้...”ร่างของนายพลผู้ชั่วช้าเดินสะบัดหนี

“ไอ้ฮาม...กูไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะทรยศ!”

ฮามชะงักไปเล็กน้อย ก่อนตัดใจเบือนหน้าหนี

“จัดการมัน เดี๋ยวเอามันไปต่อรองกับทางการไทย ไว้เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับลูกชายมัน”

นายพลอินคานได้ยินก็เกาะกรงแน่น“ไอ้คะฉิ่น แกคิดจะทำอะไรไผ่!”

สีหน้าของเสือชราเป็นห่วงบุตรยิ่งนัก นายพลคะฉิ่นหันหน้ามองผู้เป็นพี่ชาย

“จะบอกพี่ให้เอาบุญก็ได้ ลูกชายของพี่มันคิดว่ามันฉลาดที่จะอาศัยยืมมือทางฝั่งไทยให้เข้าช่วย...แต่ว่ามันคงจะโง่ที่เดินเข้ามาหากับดัก ถึงตอนนั้นทั้งพี่ทั้งลูกชายพี่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย! ฮาม! อย่าลืมทำตามที่สั่งล่ะ”

ผู้พันฮามค้อมศรีษะให้เจ้านาย มองอดีตนายเก่าที่นั่งในกรง ไร้เค้าความสง่าใดๆหลงเหลือ

“แกจะทำอะไร?”นายพลอินคานถาม

ฮามก้าวเข้ามา สีหน้าปรากฏแววสำนึกเสียใจ

“ไอ้ขิ่นกับนางยะไข่ล่ะ?”

นายพลอินคานถาม ทว่าฮามไม่ตอบอะไร สีหน้าของท่านนายพลซีดเผือดไป

“ฮาม...แก...”

ท่านนายพลอุทาน ก่อนที่ฮามจะใช้หลังมือฟาดสันคอนายพลจนสลบ ฮามมองดูผู้คุมก่อนจะแบกร่างท่านนายพลขึ้น สายตาสีดำเรียบเฉยจนไร้ความรู้สึกใดๆ

------------------------------------------------

ความสุข...เรียกได้ว่ามีความสุขจนล้นอก ต้นธารานั่งอยู่ภายในห้องอันแสนเงียบงัน ฟังเสียงราตรีผ่านพ้น ยิ้มกับความสุขที่อาจจะเริ่มในไม่ช้า....เพราะเขารู้ว่าความสุขมันมักลงเอยด้วยความเศร้าเสมอ ล้มตัวนอน จนกระทั่งเข้าสู่นิทรารมณ์ รุ่งสาง ต้นธาราออกมาข้างนอก มองค่ายที่เงียบสงบ อาการหนาวจนต้องกลับไปเอาเสื้อกันหนาวมาคลุมกาย มองเห็นคุณหมอมาริสาเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม

“ตื่นเช้าจังนะครับ”ชายหนุ่มทักมื่อเห็นคุณหมอสาวมาเยี่ยมตั้งแต่เช้า

“ค่ะ มาเยี่ยมคุณหมอธารก่อนออกไปทำงานน่ะค่ะ คิดว่าอาจจะมาเสียเทียวซะอีก”

“อ้อ....”

“แล้วคุณหมอธารเป็นอย่างไรบ้างคะ ดีขึ้นไหมคะ?”สายตาของหญิงสาวมองใบหน้าซีดๆของต้นธารา

“ก็ดีขึ้นครับ...ยังดีที่ได้รับบริจาคไขกระดูกเลยอาการดีขึ้น”

ตอบไปก็เงียบเมื่อเห็นสายตาสำรวจดูใบหน้าซีดๆ

“เห็นคุณหมอธารหายไปนานเลยนะคะ”หญิงสาวเอ่ย

ต้นธารายิ้มยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร คุณหมอมาริสาเหลือบสายตามองนาฬิกาก่อนจะลุกขึ้น หยิบกระเป๋าคล้องไหล่

“เดี๋ยวขอตัวก่อนนะคะ ได้เวลาไปทำงานแล้วน่ะค่ะ”

ต้นธาราผงกศีรษะ มองหญิงสาวออกไปจากห้อง

“ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะครับ”

ต้นธาราเอ่ยขอบคุณ ใบหน้าสวยหวานหันมายิ้มให้ ก่อนร่างเล็กจะหายไปตรงโค้งมุมประตู ต้นธาราทรุดนั่งยังเก้าอี้ไม้ตามเดิม ยกมือแนบหน้าอก ฟังจังหวะหัวใจที่เต้นแผ่วๆ เหม่อมองท้องฟ้าสดใสกับสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับตัวเอง

“ธารตื่นเช้าจังเลย”

สีหน้ายิ้มระรื่นของผู้กองภานุโผล่มาให้เห็นก่อน พร้อมกับขายาวๆกระโดดขึ้นมาบนบ้าน

“ก็...นอนไม่ค่อยหลับน่ะครับแล้วเมื่อเช้าคุณหมอมาริสามาเยี่ยมด้วย”

“อ้อ เห็นคุณหมอมาริสาบอกผมแล้วครับ”

ต้นธาราเขยิบให้ภานุนั่ง ทว่าก็นึกอะไรบางอย่างได้

“พ่อ...”

“ท่านออกงานราชการครับ”

ภานุตอบให้เสร็จศัพท์มองดวงตาสีน้ำตาลอย่างนึกรัก ยกมือลูบแก้มซีดเบามือ

“ว่าสิบ้านถึงเงียบๆ”

ต้นธาราซึ่งเบี่ยงตัวออกอย่างสุภาพมองใบหน้าขรึมๆของอีกฝ่าย

“แล้วที่ว่างานราชการ คืองานอะไรครับ คือ...ผมรู้สึกว่ามันวุ่นวายเหลือเกิน”

ภานุปล่อยมือที่แนบแก้มเปลี่ยนมากุมมือบางแทน

“งานทหารน่ะครับ ยุ่งยากแบบนี้แหละ”

ภานุกลบเกลื่อนด้วยการยิ้มให้ ต้นธาราก็ชักมือออกอย่างสุภาพจนแววตาคมดุฉายความสงสัย ต้นธาราทำสีหน้าเฉยๆ

“แล้วคุณไม่ทำงานล่ะ?”

“ก็บอกแล้วงานผมคือดูแลธารไง ท่านนายพลสั่งมา”

ภานุพูดด้วยยิ้มเจ้าเล่ห์ ต้นธาราถอนใจ

“ผมดูแลตัวเองได้ครับ ห่วงงานของผู้กองเสียมากกว่า เกรงว่าจะทำให้งานผู้กองเสีย”

ภานุหัวเราะร่วน“งานผมไม่ได้ยุ่งวุ่นวายอะไรหรอก”

ต้นธาราแย้มยิ้มนิดๆ พิศมองใบหน้ากร้าน

“ดูเหมือนว่าผู้กองจะปกปิดผมเหลือเกินนะครับ”

ต้นธาราเอ่ยอย่างสังเกตพลางเอียงคอให้ดูเหมือนตัวเองกำลังพูดเล่น ภานุได้ฟังก็ตีหน้าเรียบเฉย ต้นธาราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะถ้าหากเป็นงานที่ไม่อาจจะยุ่งได้ เขาก็จะไม่ยุ่ง

“ผมไม่ได้ปกปิดอะไรเลยนะ”ภานุว่าเอ่ยพร้อมมองต้นธาราด้วยสายตาเปี่ยมรัก

------------------------------------------------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
เป็นแค่เงาจริงๆสินะ...กิ่งไผ่รู้สึกขมขื่นใจ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ใช่อารมณ์ที่จะเอามาคิดเล็กคิดน้อย แต่...มันทำให้เศร้ายิ่งกว่าคำพูดใดๆ คนที่ธีรเดชชอบกลับเป้นคนที่เคยช่วยเหลือ เหม่อมองฟากฟ้าสีดำมืด สิ่งที่สำคัญกับหัวใจตอนนี้คงเป็นครอบครัว หน้าที่บ้านเมือง ตัวเขาเองที่ไร้สาระกับความรู้สึก มันพอแล้ว...พอ....ใบหน้าเหม่อเลื่อนลอย ลุกขึ้นจากเตียงมองดูทหารที่คุมอยู่หน้าห้อง ทรุดตัวจมอยู่กับเก้าอี้ กลุ่มผมสลวยพาดบนขอบโต๊ะไม้ หลายๆสิ่ง
รุมเร้าให้อึดอัด ลุกขึ้นมาคล้ายกับจะหาทางออกของสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในจิตใจก่อนที่จะนั่งลงตามเดิม เหม่อ...อยู่แบบนั้นจนกระทั่งประตูเปิดออก อาหารวางไว้บนถาดควันร้อนฉุยอยู่ในมือของร้อยตรีอานุภาพ

“อาหารครับ”

ร้อยตรีหนุ่มเอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อราวกับเป็นสิ่งไร้ชีวิต สายตาของกิ่งไผ่เพียงแต่ชายมองเท่านั้น ร้อยตรีอานุภาพจ้องเสี้ยวใบหน้าด้านข้างพลางเรียกอีกรอบ

“อาหารครับ”

ไร้ปฏิกิรยาโต้ตอบ อานุภาพมองแล้วจึงเฉยเสีย เตรียมฉวยถาดออกไปข้างนอก ทว่ากลับต้องชะงักเมื่อพบว่าร่างของกิ่งไผ่ลุกกะทันหัน

“ทำไมวันนี้มันเงียบนัก”

เอ่ยถามผู้ที่ควบคุมตนเอง ร้อยตรีหนุ่มไม่ตอบอะไรเพียงแต่ผายมือมาทางอาหาร กิ่งไผ่เมินเสีย มองร้อยตรีอานุภาพที่เดินออกจากห้องไป ทรุดนั่งไม่แตะต้องอาหารใดๆทั้งสิ้น รู้สึกถึงในใจมันอึมครึม อึดอัด มองด้านนอก เห็นแค่ร้อยตรีอานุภาพเท่านั้น เหลือบมองไปทางหน้าต่าง กิ่งไผ่ก้าวไปบนเตียง ล้มตัวนอนโดยที่ไม่แตะต้องอาหารใดๆเลยแม้แต่น้อย ลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆเข้ามาใกล้

“อ้าว ผู้กองธีกลับมาแล้วหรือครับ”ร้อยตรีอานุภาพทัก

เสียงทักทายทำให้กิ่งไผ่ลุกขึ้นจากเตียง สีหน้าของร้อยเอกหนุ่มยุ่งยากใจ ไม่ได้ทักร้อยตรีอานุภาพตอบ ธีรเดชเข้าไปในห้อง เหลียวมองหาร่างโปร่ง ชายหนุ่มพบว่านั่งเงียบๆจ้องหน้าอยู่แล้ว

“มีธุระอะไรครับ?”กิ่งไผ่ถาม สำเนียงอ่อนล้า

สายตาของร้อยเอกหนุ่มเหลือบมองอาหารที่ไม่พร่องเลย อยากจะถามด้วยความเป็นห่วงแต่มีเรื่องเร่งด่วนกว่าเลยไม่พูด กิ่งไผ่มองหน้าธีรเดช คนที่เขารัก...คนที่หัวใจดวงนี้ยอมรับแต่อีกฝ่ายไม่เคยมองเขา

“ผู้กอง คุณมีธุระอะไร?”กิ่งไผ่ถามเสียงห้วนเล็กน้อย

ธีรเดชจึงตื่นจากภวังค์หันมองใบหน้าบึ้ง“เรื่องของพ่อคุณ...”

ท่าทีบึ้งตึงเปลี่ยนเป็นสนใจทันที“ทำไม? ท่านเป็นอะไร?”กิ่งไผ่เอ่ย ใบหน้ากังวลเมื่อเห็นแววตาหนักใจ

“ทางเราออกไปสืบเรื่องของบิดาคุณมาแล้วได้รับข่าวว่าตอนนี้ตกไปในอุ้งมือของทางนายพลคะฉิ่น”

“ไม่จริง!”

“ข่าวที่สืบมาเป็นความจริงครับ ผมจำเป็นต้องรายงานต่อคุณ”

“พ่อไม่มีทางที่จะถูกจับไป ท่าน...”

ราวกับหินถล่มลงสู่ใจ กิ่งไผ่เม้มปากแน่น ใบหน้าขาวซีด ธีรเดชที่เป็นผู้มาบอกข่าวร้ายรู้สึกเห็นอกเห็นใจ ทว่าเขาไม่อาจทำอะไรไปมากกว่า

“คุณควรจะอยู่อย่างสงบ รู้สึกว่าทางนั้นจะรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ เห็นเรียกร้องตัวคืนเพื่อทำการลงโทษ ผมก็ยังไม่รู้รายละเอียดลึกๆหรอกข่าวเพิ่งส่งมาถึง”

กิ่งไผ่ลุกขึ้น“หึ...ไอ้พวกเลวมันเล่นอย่างนี้เองรึ”สายตากร้าวแค้นเคือง

ธีรเดชกลืนน้ำลายเมื่อเห็นท่าทีเลือดเย็นเฉกเช่นที่เคยเห็นตอนหลงอยู่ด้วยกันสองคน “คุณควรใจเย็น”

สายตาหวานคมตวัดมองผู้กองผู้แสนอ่อนโยน รอยยิ้มราวกับจะเชือดเฉือนพาดบนริมฝีปาก

“ผมควรใจเย็นได้หรือ?”

กิ่งไผ่พยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเอง มองใบหน้าของธีรเดชซึ่งยังไม่รู้เบื้องหลังของตัวเขาเอง

“ผมอาจจะไม่พูดอะไรได้มาก แต่ไม่อยากให้คุณผลีผลาม”

ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง ดวงตาสีดำสนิทจ้องดวงตาที่คิดถึง’คนที่ช่วยเหลือตน’ ในใจพยายามสงบแต่คลื่นลมที่ปั่นปวนมันย่อมสงบไม่ง่ายนัก

“ผมไม่เคยผลีผลาม...”

ธีรเดชมองใบหน้าเด็ดเดี่ยว ธีรเดชกังวลใจ เขาก้มหน้าลงไม่อยากเอาความรู้สึกมาปนกับหน้าที่ รู้ว่าพูดไป กิ่งไผ่ก็คงเจ็บปวด แต่...มันไม่อาจห้ามแล้วจริงๆ

“ผมห่วงคุณนะไผ่”

กิ่งไผ่มองหน้าธีรเดช ริมฝีปากที่เอื้อนเอ่ยคำๆนั้นออกมา ทำไมเขาถึงคิดว่ามันลำบากยากเย็นนักกว่าชายหนุ่มจะพูดออกมาได้สักคำ

“ห่วงหรือครับ?...ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของผู้กอง แต่ว่าผมไม่อาจอยู่ในฐานะที่จะรับความห่วงใยนั้นได้หรอก”

เอ่ยตัดเยื่อใยอย่างเยือกเย็น ให้อีกฝ่ายร้อนรน ธีรเดชอึดอัดใจ เป็นยิ่งกว่ามีดคมกริบ เป็นยิ่งกว่าเกราะอันแข็งแกร่งและธีรเดชก็ไม่กล้าที่จะฝ่าเข้าไป ในเมื่ออีกฝ่ายเจ็บแล้วจำ!

------------------------------------------------


ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
กิ่งไผ่ทำไมชีวิต  ถึงได้มีแต่เรื่องทุกข์

จะสมหวังกับเค้าบ้างม้ายยยยยยยยยยย :z3:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
จะปีใหม่แล้ว ไม่มีหวานๆให้อ่านบ้างหรอ สงสารไผ่  :z3:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
555  งั้นลงอีกทีหลังปีใหม่แล้วกันนะ

 :impress3:

 :o12:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
แปลว่าเศร้าต่อไปอีกชิมิ  :o12:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
^
^

ก็นะ  อย่างว่า...........  ไม่บอกหรอก  แบ่ๆๆ เดี๋ยวก็ไม่ลุ้นดิ

 :m20:



ปล  รักนะ เด็กโข่ง มีความสุขมากๆน้า :กอด1:



ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
รัก ฝาโอ่ง เหมือนกัน  :laugh: มีความสุขเช่นกันจ้า   :กอด1:

pupper

  • บุคคลทั่วไป
มันจะมีอะไรอีกละเนี่ย ภาณุปิดบังอะไรหรือเปล่า
แล้วกิ่งไผ่อีก โหย กิ่งไผ่กับธีรเดชเนี่ย อุปสรรรค
เยอะนะครับ อ่านแล้วปวดใจ อย่ารู้ตัวเมื่องต้อง
เสียเธอไป ไม่งั้นละก็คงไม่ได้กลับมาอีกแล้ว
ขอบคุณที่มาต่อนะครับ เมื่อไหร่อุปสรรคต่างๆนานา
จะหมดสิ้นไปสักที

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
สถานการณ์ตึงเครียดสุดๆ อีกแล้วกิ่งไผ่

 :o12:   :o12:

ปล. สุขสันต์ปีใหม่ด้วยนะค้าบ

มีความสุขมากๆ นะฮะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
Happy New Year 2009

      สุขกายสุขใจ

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

ท่านนายพลโดนกฤษดาจับตัวไปแล้ว

กิ่งไผ่นอนหลับมะเนี่ย  สงสารจัง

หมอธารช่วงนี้แฮบปี้ดีเนอะ

ผู้กองเอาใจตลอดเลย







กินเบียร์มั้ย

*ดื่ม*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2009 18:36:11 โดย 19NT »

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เศร้ารับปีใหม่

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
pupper  ชอบอ่านคอมเม้นต์ของ pupper จัง ยาวดี  อิอิ  ดูถ่ายทอดความรู้สึกของคนอ่านดี ชอบๆๆ ขอบคุณที่เม้นต์เช่นกันนะ
xeros  สุขสันต์วันปีใหม่เช่นกันจ้า หายไปนาน นึกว่าอ่านไม่ทันซะแล้ว  กิ่งไผ่ทำอะไรก็ผิดตลอดอ่ะนะ น่าสงสาร
Ken_krub ขอบคุณคุณเคนเหมือนกัน  ที่คอยให้กำลังใจมาตลอดเลยทุกเรื่องเลย  น่ารักมากมาย
RN  ที่จริงเราก็ HNY กันไปหลายรอบแล้วเนอะป้าเนอะ 555  ขอบคุณมากนะ
19NT  คุณน้องขี้เมา ปีใหม่นี้ไปเมาที่ไหนป่าวเนี่ย เอิ๊กส์สสสส  หมอธารเหมือนจะดีเนอะ  อ่านกันต่อไปจ้า
Poes  อิอิ  ว่าเราเป็นฝาโอ่ง แบร่ๆๆๆ ไม่รับเว้ยยยยย

อ่านต่อเลยแล้วกัน เพิ่มความตึงเครียดวันปีใหม่  :impress3:

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เกียรติยศ กบฏหัวใจ 37 Timeless / ทรยศ (PART 1)

ก็รู้...ว่ามันต้องลงเอ่ยเช่นนี้ มองดูอยู่ห่างๆ ด้วยหัวใจทรมานกับหน้าที่ที่ทับถม แม้ว่าจะขอคุยแต่อีกฝ่ายกลับเมินเฉยไปอย่างไม่ไยดี เฉยชา เครียดขรึม

“ดูท่าผู้กองจะเจอกับศึกหนักแล้วสินะ?”ภานุเอ่ยเย้า

คนที่กำลังเครียดทำหน้าหงิก“ผู้กองภานุไม่เคยโดนไม่รู้หรอกครับว่ามันเจ็บแค่ไหน”

ภานุหัวเราะหึๆก่อนตอบธีรเดช“ผมเจ็บมาเยอะ โดนมาเยอะ ทำไมจะไม่รู้ว่าความเจ็บปวดมันคืออะไร”ผู้กองภานุตอบกลับไปเบาๆ มองดูแผนที่เขตแดนเวียงนวรัฐะ

ธีรเดชถอนใจเล็กๆ หลังจากที่ผ่านพ้นการประชุม ชายหนุ่มนั่งถูมือใจเหม่อลอย มองร่างของกิ่งไผ่คุยเรื่องรายละเอียดกับผู้พันชานเนนเกี่ยวกับเรื่องของบิดา เสี้ยวหน้างดงามสงบ พอร่างของผู้กองภานุเดินออกมาจากห้อง ธีรเดชจึงลุกขึ้น

“ไม่เข้าไปคุยล่ะ?”ภานุเอ่ย มองใบหน้าเซื่องซึมราวกับจะรู้ถึงเรื่องราว

ธีรเดชส่ายหัว“ผมไม่กล้า แล้วเรื่องคุณหมอละครับเป็นยังไง?”เปลี่ยนเรื่องถามไถ่เรื่องความรักของอีกฝ่าย สายตาคู่ดุดันฉายร่องรอยความสุขบ่งบอกเป็นอย่างดี ธีรเดชแอบถอนใจเล็กๆ

“เรื่องของคุณหมอกับผมคุณไม่ต้องห่วงหรอกผู้กอง เรื่องของคุณเถอะน่าเป็นห่วงกว่า ไม่จัดการความรู้สึกให้ไวละก็....”ภานุเงียบไป ไม่พูดอะไรต่อ

ธีรเดชเข้าใจดี เขามองท้องฟ้า

“เกี่ยวกับงานในครั้งนี้ ผมจะจัดการความรู้สึกตัวเอง ว่าแต่ผมขอไปเยี่ยมคุณหมอได้ไหม อาการของคุณหมอเป็นไงบ้าง นับตั้งแต่มาพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ผมไม่ได้เจอเขาเลย”

ภานุนิ่งงันไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย “คุณหมอสบายดี ถ้าหากผู้กองธีอยากไปเยี่ยม คุณหมออยู่ที่บ้านครับ”

ธีรเดชได้ยินคำพูดตอนรับ แม้ว่ามันแสดงความยินดีต่อการให้พบ แต่ส่วนหนึ่งในใจของธีรเดชก็ไม่กล้าไป ในที่สุดก็เลี่ยงเสีย

“ถ้าสบายดี ผมก็หายห่วง”

สายตาคมกริบเหลือบมองคนข้างกาย ไม่ได้เอ่ยวาจาใดๆตอบโต้ เพียงหยุดมองดวงตากังวล

“ผมไม่คิดว่าคุณจะ...”

ธีรเดชถอนใจเฮือก“ผมรู้ดีว่าผู้กองภานุจะพูดอะไร แต่ความรู้สึกที่ผมมีให้ธารมันไม่มีวันแปรเปลี่ยน ถึงคนรับนั้นนั้นเขาคิดในความหมายอื่นก็ตาม”ดวงตามั่นคงกล่าวมองฟากฟ้ายามค่ำ

“แล้วไม่คิดว่าจะเปลี่ยนใจบ้างรึ?”

ธีรเดชกลืนน้ำลาย“การเปลี่ยนใจไม่ใช่เวลาเพียงแค่ระยะเดียว ผมรักธารมานานกว่าคุณซะอีก!”

“ผู้กองธี บางทีคุณน่าจะมองคนอื่นบ้าง”ภานุเอ่ยแนะ

ธีรเดชหัวเราะแผ่วๆ“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ เอ่อ...ผมขอตัวก่อน”

ธีรเดชเดินไปอีกทาง ปล่อยให้ภานุมองอย่างเห็นใจ อีกฝ่ายปราชัยในความรักในขณะที่เขาได้ครอบครองความรักของต้นธาราทั้งหมด

------------------------------------------------

“ขอโทษที่รบกวนครับ”

ผู้ที่กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างปิดสมุดในมือ เหลือบมองผู้ที่ก้าวเข้ามาใหม่ ลุกขึ้นต้อนรับ

“ผู้กองภานุ...มีอะไรอีกหรือ?”วงหน้าผุดผาดฉายรอยสงสัย

ภานุวางซองสีน้ำตาลลงตรงหน้า“เอกสารเกี่ยวกับเรื่องของพ่อคุณ”

มือบางหยิบซองเอกสารมาถือไว้แล้วยืนนิ่งไม่ไหวติง ภานุอาศัยช่วงนั้นกล่าวต่อ

“ทางฝ่ายนั้นรู้แล้วว่าคุณอยู่กับเรา ทางนั้นต้องการเรียกตัวกลับ”

สีหน้าของกิ่งไผ่เครียดขรึม “ข่าวไปเร็วจริงๆนะครับ”เอ่ยอย่างเรียบๆ แต่ดวงตาเป็นประกายเจ็บแค้น

“แล้วทางคุณจะทำเช่นไร?”

ร่างโปร่งฉายความอ่อนล้าในดวงตา

“ทางผู้พันชานเนนบอกให้นิ่งเฉย เพราะเรื่องนี้กระเทือนต่อหลายๆฝ่าย”

กิ่งไผ่ถอนใจเฮือก เขามองดูสมุดที่บันทึกข้อความบางสิ่งลงไป

“นิ่งเฉยงั้นรึ?”พอย้อกย้อนได้ก็ถามกลับ“แล้วคิดว่าผมสมควรจะทำเช่นไรล่ะ?”

ดวงตาส่อเค้าคิดบางอย่างในใจ ภานุเงียบไป กิ่งไผ่เชิญให้ผู้กองหนุ่มนั่งลงจ้องใบหน้ากร้านนิ่งๆ

“ผมไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ แต่ผมในตอนนี้ไม่มีกำลังอะไร การที่อยู่นิ่งเฉยแบบนี้แม้ไม่อาจทนก็ต้องทน เป็นผู้กองจะทำอย่างไรล่ะ?”กิ่งไผ่ย้อน

ภานุได้แต่มองใบหน้างามอย่างอับจน

“ผู้กอง...ตอนนี้คุณกำลังคบหาอยู่กับบุตรของท่านนายพลพิภพอยู่ใช่ไหม?”

นายทหารหนุ่มจ้องเขม็ง รอยยิ้มรู้ทันผุดบนสีหน้างดงาม

“หมายความว่าอย่างไร คุณถึงถามคำถามนั้น?”ภานุถามเสียงเข้ม

“แปลกใจสินะครับว่าผมทราบได้ไง ได้ยินตอนที่คุณพูดในครั้งแรกนะครับ ไม่คิดว่าคนที่ผู้กองปลงใจจะเป็นคนๆเดียวที่ได้ช่วยผมให้รอดตายจากการถูกผู้กองยิง...ได้ข่าวมาว่าเขาเป็นลุคีเมีย ตอนนี้หายดีรึยัง?”

ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ ดวงตาหวานคมจ้องเขม็งจับสังเกต ภานุอึ้งไปในบัลดล สายตาของชายหนุ่มจ้องเขม็งเข้าไปในดวงตาเยียบเย็น

“ตอนนี้คุณหมอได้รับการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกแล้ว คงเหลือแต่รอการพักฟื้นเพียงเท่านั้น”ภานุตอบไปตรงๆแล้วสังเกตอากับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

“งั้นก็...คงหายดี?”

“ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ยังคงอยู่ในระหว่างพักฟื้น”

คำตอบของภานุทำให้กิ่งไผ่ผงกหัว ดวงตาคู่นั้นไม่ส่อแววคำถามใดๆอีก

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมต้องขอตัว”

ภานุลุกขึ้น กิ่งไผ่ยิ้มส่งให้ รอยยิ้มนั่นดูจะไม่เป็นที่ไว้วางใจเลยในความรู้สึกของชายหนุ่ม

“เออ จริงสิครับ เห็นผู้กองธีระยะนี้ดูซึมๆบางที...เขาอาจจะคิดมากเรื่องของคุณ”ชายหนุ่มบอก

กิ่งไผ่เงยหน้ามองดวงตาเฉยเมย ภานุเอ่ยธุระจบเดินออกจากห้องปล่อยให้ดวงตาสีดำครุ่นคิดกับคำพูดที่ผู้กองภานุกล่าว ...เรื่องที่ต้องคิดมาก มันคือเรื่องอะไร?กิ่งไผ่ปัดความคิดที่คิดไปทางเรื่องร้ายทิ้ง

------------------------------------------------

สายตาสีน้ำตาลมองผู้ที่ก้าวขึ้นบ้านอันเงียบเหงา รอยยิ้มพิมพ์ใจมอบให้เป็นการต้อนรับ คล้ายกับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ร่างผอมบางลุกขึ้นมาตอนรับ วงแขนแกร่งกอดกระชับก่อนจะปล่อยออกอย่างเสียดาย มือหนาแตะใบหน้าขาวจัด

"ไม่มีงานแล้วหรือครับ"ดวงตาสีน้ำตาลมองอย่างไม่ใคร่สบายใจนัก

ภานุรั้งร่างผอมบางให้นั่งลง“ก็เลิกงานแล้ว”ใบหน้ากร้านยิ้มอย่างมีความสุขเฝ้ามองใบหน้าขาวซีดอย่างไม่รู้หน่าย

ต้นธารามองอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหยิบหนังสือที่อ่านค้างขึ้นมาอ่านต่อ

“น่าสงสารผู้กองธีนะ”ภานุเอ่ยขึ้นมาลอยๆ

ดวงตาสีน้ำตาลมองอย่างสงสัย“ทำไมล่ะ?”

คุณหมอปิดหนังสือที่อ่านค้างไว้ มองผู้ที่แวะเวียนมาเยี่ยมบ่อยๆ ภานุถูมือพลางเอ่ย

“ก็ยังไม่หยุดที่จะรักคุณทั้งๆที่มีคนให้ห่วงใยแท้ๆ”ผู้กองหนุ่มรำพึง

“ใครครับ?”คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างใคร่รู้

“ธารเคยพบกับเขาแล้วล่ะมั้ง”

พอพูดถึงตรงนี้ ต้นธาราพบกับความอึดอัดใจบนใบหน้ากร้านแต่แล้วผู้กองหนุ่มก็เสไปเรื่องอื่นเสีย

“แต่ก็ช่างเถอะ วันนี้ธารอาการเป็นอย่างไรบ้าง เหงาไหมที่ท่านนายพลไม่ว่างอยู่ด้วย?”

รอยยิ้มบางๆฉายบนสีหน้า“ไม่หรอกก็พ่อติดธุระนี่ อีกอย่างก็มีคุณหมอมาริสามาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว อ่านหนังสือไปแก้เบื่อ ไม่เหงาสักเท่าไร ยังดีกว่าอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

คำตอบทำให้ภานุลูบมือคนรักสัมผัสถึงความบอบบางราวกับจะแตกหัก

“ผมดีใจที่ธารมาที่นี่”

คุณหมอยิ้มน้อยๆกับคำพูดเหล่านั้น“รู้สึกว่า...ผู้กองชักจะหวาน ใจดีขึ้นนะ”

“ยังไม่ชินอีกหรือธาร เห็นคุณถามอีกแล้ว”

ต้นธาราเอียงคอนิดๆ“อยากจะชินแต่มันก็เขินนิดๆด้วยกับที่คุณใจดี”

“ผมจะใจดีกับคุณ ยอมทุกอย่างเลยดีไหม?”

ต้นธาราหัวเราะก่อนส่ายหัว

“ทำไมล่ะธาร?”

ภานุทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กๆที่ถูกขัดใจ เอนศีรษะซบอยู่กับตักดึงวงแขนมากอดไว้

“ก็...เป็นแบบเดิมละดีแล้ว เปลี่ยนมากไปไม่ใช่คุณ”

“ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อคุณนะธาร”

ต้นธาราได้ฟังก็ชักมือหนี ดึงรั้งร่างผู้องให้มองหน้าตน

“ผมขอบคุณกับทุกอย่างที่คุณมีให้นะครับ แต่การที่ทำทุกอย่างให้ผม ผมไม่อาจเห็นแก่ตัวได้”

“ธาร...พูดอะไรอย่างนั้น ผมเต็มใจทำนะครับ”

มือหนากุมมือบางไว้แนบริมฝีปากประทับเบาๆ ลมหายใจระบายออกอย่างเชื่องช้า

“ผมไม่อยากรั้งผู้กองไว้แบบนี้เลย”

ภานุเงียบไป จ้องดวงตาสีน้ำตาลหม่นๆ

“รั้งไว้หรือ?”

ริ้วความไม่เข้าใจปรากฏ ทำไมถึงไม่เข้าใจ ทั้งๆที่อีกฝ่ายโหยหา ทั้งๆที่รัก เหตุใดถึงพูดจาคลุมเครือไปในแง่ร้าย

“ผมก็แค่กังวล แม้ว่าจะเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกแล้วกลัวว่ามันไม่หาย ผมกลัวทำให้ผู้กองเสียใจที่ความพยายาม...มันไม่สำเร็จ”เสียงแผ่วเบาหวิว

มือหนาลูบหน้าทุกข์ทนเบามือ“ธารต้องหาย ไม่ต้องกังวลไปนะธาร “มองใบหน้าขาวขัดขมวดคิ้วมุ่น

“อย่ากังวลใจไปเลย คุณกังวลใจแบบนี้อีกแล้ว สัญญาแล้วไม่ใช่รึไงว่าคุณไปไหน ผมจะตามคุณไป ผมไม่อาจรักใครได้อีกแล้ว ผมไม่มีทางปล่อยมือจากคุณไปไหน ผมไม่ให้ใครช่วงชิงคุณไปเด็ดขาดแม้กระทั่งความตาย จำไม่ได้แล้วรึ?”

ต้นธาราผงกหัว เขาจำได้ดีก่อนตรวจองค์ประกอบเลือดชายหนุ่มก็พูดให้เขามีกำลังใจต่อสู้กับโรคร้าย มือบางถูกจับลูบคางสาก

“รุ้อะไรไหม ผมก็ลุ้นตัวโก่งเหมือนกันนะ ถ้าธารไม่หายผมจะทำไง ผลการรักษาอีกล่ะ ผมคงโทษตัวเองอีกแน่ๆถ้าช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย”

“ผู้กองช่วยผมได้เรื่องกำลังใจ”ต้นธาราเอ่ย

ภานุเอ่ยต่อราวกับคนเพ้อ“ตอนที่คุณอยู่ในห้องปลอดเชื้ออีก อยากอยู่ อยากให้กำลังใจมากกว่านี้ ถ้าไม่ติดงาน....”

“ผู้กองครับ งานมาก่อนน่ะถูกแล้ว”

ดวงตาทอดมองท้องฟ้าอมสีส้ม ยามเย็นที่หมดไปอีกวัน เงาของแสงอาทิตย์สาดต้องร่างที่นั่งอยู่บริเวณระเบียง สายลมพัดพลิ้วเบาๆให้เส้นผมบางส่วนปลิวไสว ภานุซบอยุ่บนตักผุดลุกขึ้น ลูบนิ้วนางบนข้อมือขาวซีด ก่อนมือหนาจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบตลับกล่องสีแดงหุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่เปิดฝาออกนำของที่บรรจุอยู่ภายในขึ้นมาสวมใส่นิ้ว ต้นธารามองการกระทำออกจะตกใจจนเกือบชักมือหนีด้วยซ้ำ ดวงตาสีน้ำตาลฉายถึงความประหลาดใจอย่างยิ่ง

“ธารอาจจะไม่ชอบ แต่ผมก็อยากให้มันอยู่บนนิ้วของธาร อย่าถอดออกนะ”

ภานุวิงวอนเมื่อเห็นอีกฝ่ายจะถอดแหวนออก ทองคำเนื้อเกลี้ยงสะท้อนเข้าแววตายามกระทบกับแสงยามเย็น

“ผู้กองไปหาซื้อจากไหนครับนี้ ซื้อมาตั้งแต่เมื่อไร?”ต้นธาราถามอย่างกังขา รู้สึกถึงแหวนเย็นชืดติดนิ้ว

ภานุหัวเราะในลำคอ“ของแม่ผมน่ะ มันนานมาแล้ว...พ่อผมให้แม่น่ะ”

“แต่มาให้ผมมันจะดีหรือ?”ต้นธาราถามทำท่าว่าจะถอดออกอีก

“ดีแล้ว...ที่จริงท่านบอกให้คู่หมั้นน่ะ แต่ผมก็ดันเลิกกับเธอเสียก่อน”

สีหน้าของคนที่หวนถึงอดีตทำให้สายตาที่เฝ้าดูอ่อนล้า

“แล้วตอนนี้คุณยังคิดถึงเธออยู่ไหม?”

“นิดหน่อยน่ะ”

คำตอบของชายหนุ่มทำให้ต้นธารารู้สึกปลาบแปลบใจ

“แต่คนที่ผมรักมากที่สุดคือคุณ”จับมือที่สวมแหวนให้

ต้นธารายิ้มทอดรอยยิ้ม“แล้วตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้างครับ?”

ภานุถอนใจ“ผมก็ไม่รู้หรอก นานแล้วที่ไม่ได้เจอหน้า เก็บแหวนวงนี้ให้ดีๆนะธาร”

สายตาสีน้ำตาลมองร่างสูงลุกขึ้น

“เดี๋ยวผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะ ช่วงเย็นๆจะมาอยู่เป็นเพื่อน วันนี้ท่านนายพลคงกลับดึก”

ต้นธาราผงกหัว มองร่างสูงที่เดินลงจากเรือน ก้มมองแหวนทองคำ ไม่ได้ดีใจ หรือตื่นเต้นใดๆเมื่อได้สิ่งแทนค่าหัวใจอีกฝ่าย ลูบคำเนื้อแหวนแข็งๆยกขึ้นมาแนบอก บางอย่างที่อยู่ในใจบอกให้ถอดมันออกเสียแม้ว่าจะนึกถึงใบหน้าแกร่งเสียใจถือมันไว้อย่างชั่งใจ จู่ๆแหวนวงน้อยก็ร่วงสู่พื้นเพราะความเผอเรอ เสียงแหวนหล่นร่วงลงบนพื้นสะท้อนในความสงัด ต้นธาราชายตามองดูทองคำเนื้อเกลี้ยง หยิบมันขึ้นมา สีของมันสะท้อนแดดเป็นประกาย สัญญา...ที่มอบให้แทนหัวใจ รอยยิ้ม สีหน้าใจดีของผู้ให้ทำให้ต้นธาราต้องสวมกลับคืนตามเดิม ลุกขึ้นเก็บหนังสือเข้าบ้าน หูได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆจึงออกมาดู เห็นบิดาและผู้พันชานเนนคุยกัน สักครู่ผู้พันชานเนนก็ทำความเคารพและเอ่ยอำลา

“พ่อกลับมาแล้วหรือครับ?”ต้นธาราถาม มองดูบิดาวางกระเป๋าเอกสารลงใบหน้าเครียดเคร่ง

“อื้ม...”ท่านนายพลพิภพกล่าว ต้นธาราเหลียวมองหาผู้พันหนุ่ม

“แล้ว...ผู้พันชานเนนละครับ?”

“ตอนนี้พักอยู่กับลุงอรุณน่ะลูก ปรึกษางานกัน ลูกเป็นไงบ้าง?”

“ผมสบายดีครับพ่อ เหนื่อยไหมครับ?”ต้นธาราถอยเข้ามาในตัวบ้าน

“นิดหน่อย เดี๋ยวพ่อก็ต้องไปที่เวียงวนรัฐะอีก ยุ่งเหลือเกิน ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวอีก”สีหน้าของนายพลพิภพดูอ่อนล้า

“ผมอยู่ได้ครับพ่อ”

บิดามองดูบุตรชายเพียงคนเดียว ท่านเข้ามาจับบ่า“ลูกเป็นสมบัติเดียวของพ่อ พ่อจะทำให้ลูกมีความสุขก็ยังไม่ได้”

“ผมมีความสุขครับพ่อ”

ไม่อยากนับเรื่องในอดีตเลย...เพราะมันรั้งจะขุดความขมขื่นใจของตัวเขาเองและบิดาขึ้นมาใหม่

“แล้วภานุล่ะ มันมาดูลูกรึเปล่า”ท่านรู้ถึงคำพูดนั่นจึงเปลี่ยนเรื่องเสีย

“ก็มาดูแลนี่ครับ ทำไมหรือครับ?”คนเป็นลูกถามอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวพ่ออาบน้ำแล้วจะออกไปหาลุงอรุณสักหน่อย คืนนี้ลูกนอนคนเดียวได้นะ?”

“ครับ...”

มองดูแผ่นหลังที่ดูวุ่นวายของบิดา ต้นธาราจัดเตรียมของให้ท่านซึ่งอาบน้ำได้ไม่นานก็มีคนมาเรียก

“จ่าแม้นครับพ่อ บอกว่ารถเตรียมพร้อมแล้ว”

นายพลผงกหัวรีบแต่งตัว

“โชคดีครับพ่อ”

ต้นธารายืนส่งบิดาขึ้นรถก่อนผลุบหายไปในบ้าน แสงไฟนีนอนสว่างจ้า มีแต่ความเงียบงันรายล้อมทรุดนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไม่ได้กลัวความมืดแม้แต่น้อย มองดูแหวน นั่งเงียบๆแบบนั้นก่อนจะผล่อยหลับไป

------------------------------------------------


ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
รุ้สึกถึงผ้าห่มอันอบอุ่น งัวเงียตื่นขึ้นก็มองเห็นภานุนอนเฝ้าอยู่ที่เก้าอี้ นอนคอพับคออ่อนดูท่าจะนอนไม่สบายนัก ลุกขึ้นจากเตียง กำลังงุนงง สงสัยว่าอีกฝ่ายเข้ามาได้อย่างไรเห็นท่านอนและผ้าห่มเลื่อนหลุดออกจากร่างไปก็ลุกจากเตียงหยิบขึ้นมาพาดท่อนแขน เขย่าตัวคนนอนหลับให้ตื่นจากนิทรารมณ์ ภานุงัวเงียตื่นขึ้นมาจ้องดวงตาสีน้ำตาลอบอุ่นนุ่มนวล

“นอนบนเตียงเถอะครับ”

ภานุขยับตัว บิดกายเมื่อยขบ

“มาตั้งแต่ตอนไหนครับ ผมจำได้ว่าตัวเองหลับอยู่ข้างนอก”ต้นธาราถามเบาๆ

“คุณนอนหลับตากยุงอยู่ ผมเลยอุ้มเข้ามาเองแหละ นี่ก็ดึกแล้วนอนเสียเถอะ เรื่องที่นอนของผมไม่ต้องจัดแจงให้หรอก”ภานุมองนาฬิกาพรายน้ำ หน้าปัดเรืองแสงสีเขียวเรืองๆในความสลัวราง

“ได้ไง ไม่เมื่อยคอแย่หรือครับ?”ต้นธาราว่า

ภานุบีบคอ“เอาเถอะ ธารเข้านอนซะ เรื่องเตียงอะไรนั่นเดี๋ยวผมก็หาเองแหละ”บอกปัดความช่วยเหลือ

ต้นธาราถอนใจเฮือก “ครับ”เขาถอยกลับไปนอน

ภานุห่มผ้าให้“หลับฝันดี”

ดวงตาสีน้ำตาลปิดลง ด้วยความอ่อนเพลียจึงผล่อยหลับไปในเวลาไม่นานนัก ภานุมองแล้วยิ้ม ชายหนุ่มออกไปนอนอีกห้อง แต่ก็หลับไม่ลง ลุกขึ้นมาดูคนที่หลับสนิท นอนเฝ้าอยู่เช่นเดิม จนกระทั่งผล่อยหลับไปทั้งสภาพนั้น รุ่งเช้า ชายหนุ่มจำต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด สายตาเหลือบมองผู้ที่ยังหลับอยู่ อดไม่ได้ต้องจูบหน้าผากลา รีบผลุนผันออกไปทำงาน เมื่อคืนหากไม่ได้ท่านนายพลไหว้วานเขาก็คงไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับต้นธาราจนถึงรุ่งสาง ขณะเดินก็นวดบ่าไปด้วยเพราะนอนตรงโซฟาทั้งคืน มองนาฬิกาบอกเวลาหกโมงเช้า รีบสาวเท้าเข้าทำงานอย่างกระฉับกระเฉงทันทีด้วยรอยยิ้มฉาบหน้า

------------------------------------------------

“ว่าอะไรนะ ทางเวียงวนรัฐะ ปฏิเสธไม่ให้เราเข้าไป บอกให้ส่งนักโทษไปแทน?”

เสียงอุทานปดังขึ้นตั้งแต่เช้า สีหน้าเครียดขรึมของท่านนายพลทั้งสองปรากฏทันทีทันใด

“เราส่งคำขอไปแล้วว่าขอเข้าไปในพื้นที่ ทำไมทางฝ่ายนั้นปฏิเสธ?”

“ทางฝ่ายนั้นต้องการให้ส่งคุณกิ่งไผ่เข้าแดนไปอย่างเดียว”

กิ่งไผ่ที่รับฟังหน้าเปลี่ยนสี ความตึงเครียดก่อขึ้นทันใด ภายในวงประชุมต่างมองหน้ากัน

“คำขอถูกปฏิเสธไปเพียงแค่พริบตาเดียว”

เรื่องหนักใจก่อเกิด ธีรเดชที่ทำงานกับผู้พันชานเนนอธิบายให้ฟังโดยที่จ้องใบหน้าขาวเชิด

“เราพยายามประณีประนอมกับทางฝ่ายนั้นแล้ว”

กิ่งไผ่ได้ฟังก็กำมือแน่น

“นับตั้งแต่ส่งข่าวไป ขอทำเรื่องเข้าเวียงนวรัฐะและชะลอการส่งตัว ดูท่าทางฝ่ายนั้นจะเคี้ยวยากกว่าที่คาด มันรู้แผนเรา”ผู้พันชานเนนเอ่ย

“ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องนายกฤษดาและพรรคพวก กล่าวหาว่าทางนายพลอินคานเป็นกบฏต้องการนำตัวไปส่งโทษ”

ทุกคำพูดทำให้กิ่งไผ่ทำหน้าเหมือนมีน้ำแข็งบางๆปกคลุม

“ทางนั้นบีบบังคับเรามาหรือ?”นายพลพิภพรำพึง

“เรื่องนี้ท่าจะยากกว่าที่คิด ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง แต่ถ้าทางนั้นขอตัวไป เราก็ไม่อาจขัด”

ธีรเดชโพล่งขึ้นมาทันทีทันใด“จะให้ส่งตัวไปจริงๆหรือครับ ท่านก็ทราบดีว่า...”

ผู้พันชานเนนถอนใจ เอ่ยขัด“อย่างไรเสียทางคุณกิ่งไผ่ก็ถือว่าเป็นกบฏอยู่ดี หากไม่ส่งตัวอาจจะเกิดปัญญาทั้งสองฝ่าย”

“เขาจะเป็นกบฏไปได้อย่างไร แล้วเรื่องที่ทางนายพลคะฉิ่นเจ้าเมืองนวรัฐะสบคบกับนายกฤษดาเพื่อค้ายาเล่า”

“เรื่องนั้นเป็นปัญหาที่เราจะจัดการต่อไป หากแต่เรื่องการเมืองในเวียงวนรัฐะเราไม่อาจสอดมือเข้ายุ่งเกี่ยว”

“ท่านนายพลครับทำไมท่านถึงตัดรอนน้ำใจผู้ที่ให้ข่าวเราเกี่ยวกับการค้ายาแบบนี้”ภานุที่นั่งฟังเงียบๆช่วยคัดค้าน

นายพลพิภพทำหน้าหนักใจ“เราไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ แต่มันจำเป็น เราเลือกไม่ได้ เรายังต้องรักษาสถานภาพของสองเขตแดนไว้ หากบุ่มบ่ามผลีผลามทางเรานั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายผิดพลาดและไม่อาจช่วยเขาได้เลย”

สายตาเย็นเยียบจ้องใบหน้าของท่านพลพิภพซึ่งทำสีหน้าเครียดเคร่ง

“เราควรคิดหาทางวิธีกว่านี้”นายพลอรุณเอ่ย มองกิ่งไผ่อย่างมีเมตตา

“ถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องยืดการส่งตัวไปอีกสักระยะ เอาละเลิกประชุมได้”นายพลพิภพเอ่ย

กิ่งไผ่ลุกจากที่ประชุม เขาทรุดนั่งเงียบๆยังซอกมุมหนึ่ง ธีรเดชเข้าไปหา แต่เขากลับชะงักเมื่อเห็นสายตาเย็นชาทอดมองมา เขาได้แต่มองคนที่เหน็ดเหนื่อยสิ้นหวัง กลับเข้าห้องโดยที่เขาได้แต่มองห่างๆ

“ผมควรทำอย่างไร?” ธีรเดชอ่อนใจ“ทั้งๆที่ผมสัญญาว่าจะช่วยเขาแท้ๆ”น้ำเสียงท้อแท้ สิ้นหวัง

“ผู้กองธีช่วยเขาเต็มทีแล้วล่ะ เรื่องนี้มันกระเทือนต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ ทางเวียงนวรัฐะต้องการตัวกิ่งไผ่ไปลงโทษในฐานะคิดกบฏต่อบ้านเมือง”

“หึ...เป็นการปกปิดและถอนรากถอนโคนสินะ”เอ่ยอย่างขมขื่นใจ ภานุบีบบ่าเบาๆ“ผม...”ธีรเดชพูดไม่ออกได้แต่เจ็บปวดอยู่ภายในใจ

------------------------------------------------

กิ่งไผ่นึกทบทวนแผนการในสมอง ไม่นึกเลยว่าทางเจ้าคนชั่วจะบีบรัดเขาถึงเพียงนี้ เขาห่วงใยบิดาจนแทบขาดใจ อยากร้องไห้แต่ก็ไม่มีคราบน้ำตาไหล มองฟากฟ้าผืนแผ่นเดียวกันแต่เขาก็ไม่อาจข้ามไปช่วยเหลือได้ ต้องทำอะไรสักอย่าง...แต่จะอะไรดีล่ะ ในเมื่อเขาไร้อาวุธและมีกำลังเพียงหนึ่งเดียว ขณะคิดก็นึกถึงแผนการที่ไม่อยากใช้เลย เพื่อพ่อ เพื่อบ้านเมือง เขาต้องทำ!ถ้าประสบความสำเร็จ ทางการไทยต้องตามเขาไปแน่และหาข้ออ้างเข้าถึงเวียงนวรัฐะได้ แม้ว่ามันต้องแลกกับความไว้วางใจก็ตาม เขาพร้อมที่จะทรยศต่อความไว้ใจ แม้แต่ผู้มีพระคุณ! สายตาหวานคมเยือกเย็นมองออกไปนอกหน้าต่าง ครุ่นคิดกำหนดแผนหนีทีไล่อยู่ในใจ

------------------------------------------------

ตกค่ำกิ่งไผ่รับประทานอาหารแล้วเข้านอนเร็วกว่าปกติ ทว่าเขาก็แอบลอบหนีออกทางหน้าต่าง มองลู่ทางหนีทีไล่ก่อนเร้นกายในเงามืด สายตามองบ้านพักที่ได้อาศัย แสงเทียนวอมแวมดับลง ห้องทั้งห้องตกอยู่ในเงามืดทันที แสงไฟสีส้มก็ลุกโพลง เสียงร้องตะโกนว่าไฟไหม้ดังก้อง เสียงฝีเท้าสับสนวิ่งไปยังทิศทางห้องของเขา คงกันได้สักระยะ กิ่งไผ่รีบหนีออกจากที่นั่น เป้าหมายต่อไปเขาอยู่ที่บ้านพักของท่านนายพลพิภพ เขาคาดการณ์ไว้ว่าคุณหมอต้นธาราผู้เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านนายพลต้องอยู่ที่นี่ มองตัวบ้านเงียบสงบ จึงเข้าทางหน้าต่าง เสียงฝีเท้าเบาดุจแมว ช่างเป็นโชคอะไรเช่นนี้ที่เห็นคุณหมออยู่เพียงลำพัง สายตากังวลมองออกไปข้างนอก กิ่งไผ่หยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่บนจานแอปเปิ้ลขึ้นมารัดคอจ่อมีดเข้ากับคอหอย ต้นธาราตกใจต่อการจู่โจมทว่าเขาถูกจับไว้ไม่ให้ดิ้นขัดขืน

“ถ้าไม่อยากตายบอกมาเก็บปืนไว้ที่ไหน”น้ำเสียงกระชาก

ต้นธาราดิ้น ส่งเสียงอู้อี้

“แกเป็นใคร!”ต้นธาราพยายามขัดขืน

“อยากตายรึไง?”ตวาดเสียงแหบ ต้นธารารู้สึกว่าคนที่จับตนไว้จะมีรูปร่างเท่าๆกัน

“บอกมาเร็วๆ”

น้ำเสียงร้อนรน มีดจ่อเข้าเนื้อจนเลือดซึม ปวดแปลบ ต้นธาราก็คิดจะขัดขืนอยู่ดี จึงถูกต่อยเข้าที่ท้องเบาๆ ร่างบางถึงกับทรุดทีเดียว ในขณะนั้นก็มองเห็นผู้ที่จับตนแล้วนัยน์ตาก็เบิกกว้าง

“ปืนอยู่ที่ไหน!”

กิ่งไผ่เดินหาดูพบกับปืนกระบอกหนึ่งในเกะเก็บของ กุมไว้พร้อมกับชี้ปลายกระบอกปืนไปทางหน้าผาก กดแนบให้ปลายกระบอกปืนเย็นเยียบติดกับผิวหนัง

“ลุกขึ้นเร็ว!”

ต้นธาราทำตามคำสั่ง

“ห้ามตุกติก ไม่งั้นคุณหมอได้กลับบ้านเก่าแน่ๆ”กิ่งไผ่ประกาศกร้าวและเขาสามารถสังหารทิ้งโดยไม่ลังเลหากเป็นตัวถ่วง ต้นธารารู้โดยสัญชาติญาณจึงเดินลงจากบ้านตามแรงกระชาก ไปยังชายป่า เดินแม้จะหกล้ม ดูท่าทางอีกฝ่ายจะร้อนรนมาก ใบหน้างามสะคราญมีรอยคิดหนัก วางแผนขั้นต่อไป ในที่สุดทั้งคู่ก็หยุด หอบหายใจถี่ๆ มองดูจันทร์เคียวลอยเด่นฟ้า ดวงตาสีดำสนิทยิ่งเจ็บปวด รำลึกถึงบทเพลงคลอริมหูได้ ตัดอารมณ์อันจะทำให้จิตใจสั่นคลอน มองใบหน้าขาวซีดมีเหงื่อผุดผาดตามวงหน้า ทั้งยังแดงก่ำ กลีบปากอ้าออกหอบหายใจเหน็ดเหนื่อย กิ่งไผ่กะเวลาให้พักชั่วครู่ เอ่ยสนทนากับคนที่เขาจับมาเป็นตัวประกัน

“คุณหมอจำได้ไหมว่าคุณหมอเคยช่วยผม”

สายตาของกิ่งไผ่สบกับต้นธาราซึ่งนิ่งงัน ผงกหัวเงียบๆ

“จำได้ ผมจะจำคนที่ผมช่วยชีวิตไม่ได้ได้อย่างไร?”ต้นธาราว่า

สายตาที่จ้องมองมาเย็นเยียบเหมือนไร้ชีวิตจิตใจ“ผมขอบคุณที่คุณหมอมอบชีวิตให้ผมในวันนั้น...ผมเสียใจที่ทำให้คนที่คุ้มครองคุณในวันนั้นสิ้นชีวิตแลกกับชีวิตผม”กิ่งไผ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ต้นธารายืนตัวตรง ใบหน้าขาวซีดยิ่งซีดมากกว่าปกติเพราะเหนื่อย ดวงตาสีน้ำตาลโหยหาอดีตที่ไม่มีวันที่จะลบเลือนไป

“ผู้กองนาคีเขาตายไปแล้ว คุณยังอยู่...ก็จงอยู่ในชีวิตที่ผู้กองมอบให้เถอะ”ต้นธาราเอ่ย ความรู้สึกที่ทิ้งไปแล้วสะท้านในหัวใจ

กิ่งไม้เม้มปากแน่น ชีวิต...จุดเริ่มต้นของแต่ละฝ่ายต่างเชื่อมโยงด้วยความเศร้าโศก ต้นธาราสูดลมหายใจลึกๆก่อนจะเอ่ยต่อเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่มีเจตนาร้ายจนถึงกับจะฆ่า

“แล้วการที่คุณลักพาตัวผมมานี่มีจุดประสงค์อะไร?”

“ตัวประกัน”กิ่งไผ่ตอบ ในใจที่สงบค่อยๆทุกข์ร้อนเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้

“ตัวประกันงั้นรึ?”

“ใช่คุณหมอจำเป็นต้องไปกับผม”กิ่งไผ่ว่า

“เพื่ออะไร?”ต้นธาราตั้งคำถาม สีหน้าเริ่มสงบนิ่ง

“ผมจำเป็นต้องหนีไปจากที่นี่ คุณเป็นตัวประกันชั้นดี ถ้าคุณข้ามไปถึงเวียงนวรัฐะได้พร้อมผมในฐานะตัวประกัน พ่อของคุณคงไม่ปล่อยให้ลูกชายคนเดียวไปตายในนั้นกระมัง?”กิ่งไผ่เอ่ยถึงแผนการ

สายตาสีน้ำตาลจ้องมองดวงตาสีดำสนิท“ผมเข้าใจว่าทางเราต้องยื่นมือช่วยเหลือคุณ”ต้นธาราเกลี้ยกล่อม

“ผมรอไม่ได้อีกแล้ว เวลามันบีบบังคับผม อีกอย่างทางการคุณคงไม่ยื่นมือช่วยเหลือจริงจังเพราะปัญหาการทูตระหว่างประเทศ”กิ่งไผ่ว่าพลางแนบปืนเข้ากับแผ่นหลังที่เครียดขึ้ง

“พวกเขาจะเล่นตุกติกอะไรกับคุณล่ะ?”ต้นธาราถาม พลางเดินตามแรงบังคับ

“คุณหมอรู้น้อยไป ทางผู้กองภานุคงไม่ได้พูดอะไรมากสินะ?”

ต้นธาราหันมองเมื่อได้ยินชื่อนี้

“เขาเป็นคนยิงผมให้บาดเจ็บ”

ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง ผู้กองภานุยิงกิ่งไผ่...กิ่งไผ่บาดเจ็บ...แล้ว..ในใจเต้นรัว ในหัวมึนงง

“เป็นอะไร?”

กิ่งไผ่จับสังเกตสีหน้าเซียวๆ ริมฝีปากเม้มแน่นได้

“เขายิงคุณ?”

“มันเป็นหน้าที่ของผู้กองนี่นะ”

มืออันสั่นเทากุมแน่น สิ่งที่ไม่เคยรู้...มันก็เหมือนกับว่าบาปมันเอ่อล้นมากขึ้นไปอีก... สายตาสีดำเย็นเยียบมองแววตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง กิ่งไผ่ยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ลากผู้มีพระคุณต่อชีวิตตัวเองมานั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวด้วย แม้หัวใจจะรู้สึกผิดเต็มระงับ แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก ต้องลากคนๆนี้ไปสบทบกับผู้ที่ยังจงรักภักดี ใช้ต้นธาราเป็นข้ออ้างในการจุดชนวน เพื่อหาทางช่วยเหลือบิดาให้เร็วที่สุด!

------------------------------------------------

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
โห บ้าซี ขนาดเน่อ  :jul3: ยายฝาโอ่ง

 :pigha2: :pigha2: :pigha2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :laugh:

ก็คนมันร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก รักน้องซี อิอิ

ยัยโอ่ง  ไม่ได้เป็นฝาเฟ้ย  ไม่รับๆๆๆ  :angry2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ไปถามใครๆดิว่าฝาโอ่งจิง  พิมฝาโอ่ง

พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง

พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง  พิมฝาโอ่ง

 :pigha2: :pigha2: :pigha2:

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
เข้ามาอ่านนิยาย

แต่รู้สึกหลอน หลอนนนนน

หลอนซีโว้ยยยยยยยยย

แอร๊ยยยยยย ตูหลอนนนนนนนนนนน :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด