ตอนที่ 5 ข้าวพองตื่นนอนขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวหนักๆ จนแทบต้องเดินเคาะหัวตัวเองลงมาจากห้องนอน เจอครูตัวใหญ่ทั้ง 2 คนรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
เครื่องดื่มสีเหลืองอ่อนวางอยู่บนโต๊ะ
“อะไรน่ะ”
“น้ำมะนาว แก้เมาค้าง” เกียบอก ขณะที่แอนดรูว์จิบกาแฟร้อน
ข้าวพองนิ่วหน้า นั่งลงที่โต๊ะกินข้าวเรียกหาอุบล “มัดผมให้หน่อย”
เกียมองดูแม่บ้านที่กำลังมัดผมหางม้าให้ข้าวพอง แล้วนึกถึงภาพของแม่ ทั้งที่นี่และที่ลอนดอน บรรยากาศที่โต๊ะอาหารเช้าที่ไม่แตกต่างกัน
แม่มักจะทำผมให้น้องสาวเวลานี้เสมอ
คงเพราะเผลอยิ้มออกมา ทำให้คนที่กำลังจิบน้ำมะนาวสงสัยต่อ “ยิ้มอะไร”
“แม่ครูก็ทำผมให้น้องสาวตอนกินข้าวเช้าเหมือนกัน”
....มันเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมอย่างยิ่งที่พูดถึงแม่กับคนที่เสียแม่กับพี่สาวไปในเวลาไม่นานนัก แต่มันก็ได้ผล เพราะข้าวพองดูครุ่นคิด....
“แม่เรา...แม่พองไม่เคยทำให้หรอก อุบลทำให้”
อุบลรีบเล่าเรื่อง “ตอนที่คุณผู้หญิงยังอยู่คุณข้าวพองไว้ทรงนักเรียนค่ะ เพิ่งมาไว้ยาวถึงไหล่ก็หลังจากที่คุณเพชรแยกไปอยู่คอนโดฯ ก็สัก 2 ปีได้ค่ะ”
“แล้วนึกไงถึงไว้ผมยาว”
ข้าวพองส่ายหน้า “ไม่รู้เหมือนกัน จู่ๆ ก็อยากไว้ให้ถึงไหล่ แล้วก็ให้อุบลมัดให้” หนุ่มตัวเล็กเหลือบตามอง “อย่ามาสั่งให้ตัดผมนะ”
“ไม่หรอก” เกียตอบตามตรง “มันเหมาะกับข้าวพองแล้ว”
กินอาหารเช้าเสร็จ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอ ข้าวพองก็ถามเรื่องแม่อย่างที่คิดไว้จริงๆ “พองทำให้คิดถึงแม่หรือเปล่า”
“นิดหน่อย แต่ครูโตจนไม่ได้สนใจมากไปกว่าเขาก็มีครอบครัวของเขา”
คิ้วสวยขมวดคิด “แม่พองเขา.........” หนุ่มตัวเล็กเปลี่ยนเรื่องดื้อๆ อาจเพราะในรถมีคนขับรถอยู่ด้วย “พองจำได้ที่เมื่อคืนครูไปรับมาจากร้าน แต่พองคิดว่าพองกินไปนิดเดียว”
เกียหันมามองหนุ่มตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“ข้าวพองอาจไม่ถูกกับเหล้าแบบนั้น หรือบางทีถ้าเราพักผ่อนน้อย สภาพร่างกายไม่แข็งแรง เราก็เมาพับไปง่ายๆเหมือนกัน”
ดวงตากลมมองสบตา แล้วส่ายหน้า แต่ไม่มีคำพูดอื่นอีก
*-*-*
ข้าวพองทิ้งตัวลงที่เก้าอี้เรียนแล้วเหยียดขายาว แล้วก็เปลี่ยนใจเป็นฟุบนอนกับโต๊ะ ป๋อมตบไหล่เบาๆ
“เฮ้ย แฮงค์มาเลยเหรอ”
“ไม่เชิงหรอก แต่ง่วงนอนว่ะ”
แป๋มทำจมูดฟุดฟิด “เออ คราวนี้ไม่ได้กลิ่นเหล้า” หญิงสาวจิ้มนิ้วที่หน้าผากเพื่อน “สาวๆ ไม่ชอบคนตัวเหม็น โอเคร๊”
“ช่างเหอะน่า” ข้าวพองหน้านิ่ว
...จริงนะ ไม่ได้ปวดหัวเมาค้างอะไรแล้ว แต่ง่วงเหมือนไม่ได้นอนเลย...
“ไปนอนห้องพยาบาลดีกว่า”
“แต่เช้าเลยเหรอ”
“เออ” ข้าวพองขยับลุก ขณะกดรับโทรศัพท์เดินสวนกับไทนี่ หว่องออกไป
“ข้าวพอง ไปไหน”
“ไปนอน”
“ห๊ะ อะไร ทำไมไปนอนตอนนี้”
ไทนี่เริ่มต้นการทำหน้าตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ของวันนี้
“อยากนอนตอนนี้ ก็ไปนอนตอนนี้ไง” ป๋อมบอก “วันนี้ข้าวพองเป็น Cat เซา”
“อ่า......”
แป๋มส่ายหน้า ผลักไหล่พี่ชาย “เมื่อคืนคงเที่ยวดึก แล้วตื่นเช้ามาเรียนก็เลยง่วง ไปขอนอนที่ห้องพยาบาล”
“อ่า อันนี้เข้าใจ”
“ไม่ๆ ข้าวพองเป็น Cat เซา Cat Hang Over Over hang cat” ป๋อมไม่เลิกแกล้งจนไทนี่ ชี้หน้าพลางหัวเราะขำ
“You’r NUTS.”
“นัทแครกเกอร์ดิ หรือนัทบัตเตอร์”
ป๋อมจะแกล้งเพื่อนต่างชาติ แต่แป๋มปวดหัว
“พอเหอะ ป๋อม ภาษาอังกฤษป๋อมกำลังทำให้แป๋มปวดหัวแต่เช้า”
*-*-*
หลังจากส่งข้าวพอง ก็คือเวลาที่เกียกับแอนดรูว์ต้องกลับมาเตรียมงาน
นั่นเป็นช่วงเวลาที่เกียคิดว่าข้าวพองกำลังแสดงความไว้ใจครูคนใหม่ แต่เมื่อเลิกเรียน ข้าวพองก็กลับไปเป็นน้องเล็กเอาแต่ใจเหมือนเดิม
เรื่องราวช่วงเย็นหลังเลิกเรียนมันเริ่มขึ้นเมื่อเกียกับธีระที่เป็นคนขับรถไปถึงโรงเรียน และต้องจอดรออยู่ที่ลานจอดรถนานกว่าหนึ่งชั่วโมง แล้วหนุ่มหน้าใสเดินกลับเข้ามาในโรงเรียนพร้อมผู้หญิงอีกคน
ข้าวพองมาจากข้างนอก!
และมากับไอรีน!
ท่าทางกอดอกหลังตรง สีหน้าเรียบเฉยเป็นไปโดยอัตโนมัติ และแน่นอนว่ามันต้องไปกระตุ้นต่อมไม่ยอมแพ้ของข้าวพองอย่างแรง
เด็กหนุ่มตวัดหางตามองคนตัวโต ขณะที่จับมือของหญิงสาวที่คล้องแขนไว้ แล้วเข้าไปนั่งในรถ คุยกันเรื่องภาพยนตร์ที่เพิ่งดูด้วยกันมาเมื่อบ่ายอย่างสนุกสนานจนถึงบ้าน
จะว่าไปข้าวพองกับไอรีนก็ไม่ได้ถึงกับนั่งซบไหล่ หรือกอดกันในรถ แต่เกียสลัดภาพที่ไอรีนซบไหล่ หรือโอบเอวข้าวพองเมื่อคืนไม่ออก
ยิ่งมาซ้ำเติมด้วยภาพตอนนี้
อารมณ์ก็เลยค่อนไปทางเคร่งเครียดและขุ่นมัว
แอนดรูว์ที่รออยู่ที่บ้านถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อเห็นข้าวพองพาไอรีนเข้าบ้าน แล้วหันไปมองสีหน้าเรียบเฉยของเกีย
“กูน่ะอีกไม่กี่วันก็ต้องกลับบ้าน แต่มึงคือคนที่อยู่” ฝรั่งผมทองกระซิบให้เกียเป็นคนออกคำสั่ง
เกียหันมามองหนุ่มตัวเล็ก “ห้องฝึกด้านหลังจัดเสร็จแล้ว”
ข้าวพองไม่ได้สนใจ ทั้งจะก้าวเดินผ่านเข้าไปในบ้าน
“ข้าวพองต้องฝึกยูโด” เกียพูดต่อ
ไอรีนหัวเราะคิก “ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้”
เกียหันมามองหญิงสาว แล้วกลับไปมองจ้องหนุ่มตัวเล็ก
ข้าวพองยักไหล่ไม่สนใจ จะเดินต่อแต่เกียชักเท้าไปยืนขวาง
อุบลที่ยืนมองอยู่ต้องเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย
“เรียนสักครึ่งชั่วโมงนะคะ แล้วอุบลจะทำของว่างอร่อยๆ ให้คุณข้าวพองกับคุณไอรีน”
แอนดรูว์ก็ช่วยอีกคน ด้วยการส่งยิ้มหวานให้กับหญิงสาว
เป็นยิ้มหวานที่มีไว้เพื่อโปรยเสน่ห์เพศตรงข้ามโดยเฉพาะ
“คงต้องรบกวนคุณแล้วละครับ”
สำเนียงภาษาไทยของแอนดรูว์กลับทำให้ไอรีนยิ้มเขิน หันไปบอกกับข้าวพอง “แค่ครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวไอรีนไปดูด้วย”
ข้าวพองเบ้หน้าเหนื่อยๆ แต่แอนดรูว์ไม่สนใจ “ให้เกียช่วยเปลี่ยนชุดฝึกให้นะครับ”
“ชุดอยู่ที่ห้องฝึกด้านหลังแล้ว” เกียพูดเสียงต่ำ จนแอนดรูว์ต้องแอบส่ายหน้า หันมาหาไอรีน
“เราคงต้องขอความช่วยเหลือจากคุณไอรีน” หนุ่มลอนดอนยกมือเหมือนจะโอบเอวไอรีนให้เดินไปรอที่ห้องรับประทานอาหาร
“ผมชื่อแอนดรูว์ เป็นเพื่อนกับเพียง เขาให้ผมหาครูพิเศษให้น้องชายของเขา พอดีเกียมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย ต้องออกจากงาน ก็เลยแนะนำงานนี้ให้”
แอนดรูว์แนะนำตัวเอง และครูคนใหม่ของข้าวพอง จากนั้นก็ถามไถ่เรื่องการเรียนของข้าวพองไปเรื่อย
อุบลมองท่าทีเป็นมิตรของแอนดรูว์แล้วหันไปมองเกียที่เดินตามข้าวพองไปทางห้องด้านหลัง อดไม่ได้ที่จะคิดว่า แอนดรูว์น่าจะเป็นครูของข้าวพองมากกว่า
อย่างน้อยแอนดรูว์ก็ยิ้มเก่งกว่า...
ภายในห้องฝึกที่กรุกระจกรอบ มีอุปกรณ์กีฬาหลายชนิดวางเรียงอยู่ที่ด้านหนึ่งของห้อง
ยอดที่เป็นยามกะกลางคืนยืนยิ้มกว้าง ส่งชุดฝึกให้กับข้าวพอง
เด็กหนุ่มเพียงแต่มอง แล้วขยับจะถอดเสื้อนักเรียนออก เกียต้องคว้าข้อมือไว้
“ไปเปลี่ยนในห้องน้ำสิ ห้องนี้กรุกระจกรอบ”
“มันก็เหมือนกันน่ะแหละ” หนุ่มตัวผอมทำน้ำเสียงหงุดหงิด “จะอะไรกันนักกันหนา”
“ไปเปลี่ยนเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นในห้องน้ำ หัดคิดอะไรให้มันรอบคอบให้เป็นนิสัย”
“นี่!” ข้าวพองเสียงดังใส่เกียทันที
“ยิ่งช้า ก็ยิ่งเสียเวลาที่จะได้อยู่กับแฟนนะ”
“ฮึ่ย!” ข้าวพองคว้าเสื้อผ้ามาจากมือของยอด เดินออกไปที่ห้องน้ำเล็กๆ ทางด้านนอก
ท่าทางโมโหจนยอดต้องหุบยิ้ม เกียบอกขอบคุณยอดอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อย ว่าแต่คุณครูฝรั่งอีกคนไม่ฝึกด้วยหรือครับ”
“เขาคุยกับไอรีนน่ะ”
ยอดทำตาโตแล้วกระซิบบอกกับเกียที่กำลังสวมชุดยูโดผูกสายสีดำไว้หลวมๆ “คุณเพียงเคยสั่งไว้ว่าไม่ให้เข้าบ้านอีก นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาออกจากงานไปแล้วกลับเข้าบ้านนะครับ”
เกียขมวดคิ้ว ส่วนยอดก็ให้ข้อมูลต่อ “พอคุณไอรีนมาสอนคุณข้าวพองได้อาทิตย์กว่าๆ คุณเพชรก็เสีย เจ้านายคุณอัคราน่ะครับก็ให้คุณไอรีนออกจากงาน แกคงคิดว่าพอคนนี้เข้าบ้านแล้วจะมีเรื่องซวยมังครับ แล้วคุณเพียงแกก็มาสั่งผมกับพี่ยิ่งที่อยู่กะกลางวัน ว่าอย่าให้คุณไอรีนเข้าบ้านอีก”
คนตัวโตคิดตาม ความเชื่อแบบนี้เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้
เมื่อข้าวพองกลับออกมา เกียก็เปลี่ยนใจบอกให้ยอดกลับไปพักผ่อน
“ไม่ให้ผมเป็นคู่ซ้อมให้ครูแล้วหรือครับ”
“ท่าทางอารมณ์ไม่ดีอย่างนี้ ไว้ครูสอนยอดพร้อมกับยิ่งตอนที่คุณข้าวพองไม่อยู่บ้านดีกว่า”
ยอดฉีกยิ้มกว้างแล้วรีบไปเปิดประตูให้ข้าวพองเดินเข้ามาในห้องฝึกทันที
เกียหยิบชุดยูโดสวมทับเสื้อยืดขนาดพอดีตัวกับกางเกงผ้ายืดความยาวแค่เข่าของข้าวพองไว้
“เคยฝึกยูโดมั้ย”
“ไม่”
เกียพยักหน้า “งั้นวิ่งรอบแมท..เสื่อสัก 10 รอบแล้วเราค่อยฝึกท่าพื้นฐาน”
ข้าวพองทำหน้าเมื่อย อดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางบ้าน
“แอนดรูว์อยู่เป็นเพื่อนแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
“ชริ”
เกียยิ้มจางๆ
....ท่าทางแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะชอบผู้หญิง....
“เป็นผู้ชายต้องเข้มแข็ง จะได้ดูแลคนรักได้”
“ทำเป็นรู้ดี” ข้าวพองเถียงทันที “ตัวเองน่ะพวกโดนทิ้งแหง อยู่บ้านก็หัวเน่า ทำงานก็กลายเป็นหมาพิการ” ด่าไปแล้วก็หันไปทำปากยื่นทางอื่น
เกียยักคิ้วข้างเดียว แล้วบอกให้ข้าวพองวิ่งตาม
….วันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุด คงต้องไปตรวจสมอง ว่าทำไมถึงไม่โกรธที่โดนด่าแบบนี้....
การฝึกยังไม่ทันจะไปถึงไหน ไอรีนก็มาหาข้าวพองที่ห้องฝึก โดยมีแอนดรูว์วิ่งตามมาด้วย
“พอง ไอรีนต้องกลับก่อนนะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“พี่นิรมลมาน่ะสิ ไม่รู้หมาที่ไหนมันโทรไปฟ้อง”
นิรมลมีสีหน้าบึ้งตึงเมื่อเดินตรงมาที่ห้องฝึกอีกคน
“ขอโทษนะคะน้องข้าวพอง”
นิรมลบอกกับข้าวพองแล้วหันไปจิกตาใส่ไอรีน “เชิญ”
“เขามากับพอง”
นิรมลหันมาหาน้องชายคนเล็ก “ทราบค่ะ แต่พี่นิทำตามคำสั่งของคุณพ่อกับคุณเพียง ถ้าจะโต้เถียงอะไรก็ไว้รอเถียงกับคุณพ่อกับคุณเพียงก็แล้วกัน”
“พี่สะใภ้ตามสั่ง” ไอรีนหันมาทำเสียงเยาะเย้ยใส่นิรมล
“ก็ไม่ใช่คนที่เขาตามไล่แล้วสาบส่งไม่ให้กลับมา เชิญย่ะ” นิรมลทำน้ำเสียงไม่แตกต่างกัน
ไอรีนยิ้มหวานทั้งโบกมือลาข้าวพอง แต่หันไปสะบัดหน้าใส่นิรมล ก้าวเดินฉับๆ ออกไป นิรมลหันมายิ้มเหนื่อยๆ ให้กับครูฝรั่ง 2 คน
“ค่ำนี้อย่าเพิ่งรีบกลับนะคะ คุณพ่อจะคุยกับคุณ 2 คนน่ะค่ะ” นิรมลทำขยิบตาไปทางข้าวพอง “เมื่อคืนท่านไม่อยู่ไปนอนอีกบ้าน แต่วันนี้จะแวะมา บอกว่าอยากคุยดัวย รอก่อนนะคะ”
“เหอะ” หนุ่มตัวเล็กส่งเสียงไม่พอใจ นิรมลก็เลยหันมาพูดด้วย
“น้องข้าวพองคะ”
“จะให้ทำอะไรอีกมั้ย ถ้าไม่จะไปอ่านการ์ตูนแล้ว”
“เพิ่งออกกำลังกายได้แค่ 5 นาทีเอง วิ่งอีกสัก 5 นาทีแล้วฝึกท่าพื้นฐานก่อน”
พอเห็นว่าเกียกำลังจะสอนต่อ นิรมลก็ขอตัว โดยมีแอนดรูว์รับหน้าที่เดินไปส่งเหมือนเคย
ดูๆ ไปแอนดรูว์คือหนุ่มเจ้าสเน่ห์ที่รับหน้าที่เจรจากับหญิงสาวทุกคน แล้วปล่อยให้เกียรับหน้าที่เรื่องข้าวพองโดยตรง ส่งนิรมลแล้วแอนดรูว์ก็กลับมาเป็นคู่ซ้อมให้เกีย
เพราะมีความเป็นมืออาชีพมากเกินไป เวลาที่แอนดรูว์โดนเกียจับทุ่มลงพื้น ถึงได้ดูสวยงามและรู้จังหวะที่จะลงพื้นได้ดี แต่พอมาถึงเวลาที่ข้าวพองจับเกีย มันกลับดูแปลกๆ
“เตะไงเนี่ย ตัวหยั่งกับสิบล้อ ขาหยั่งกะตอม่อสะพานหยั่งเงี้ยะ”
คนตัวเล็กเท้าเอว
“เตะไปเถอะน่า ไม่เป็นไรหรอก” แอนดรูว์บอก
แทนที่ข้าวพองจะเข้าประชิดตัวแล้วเตะขา จับทุ่ม เด็กหนุ่มกลับเตะเข้าที่หน้าแข้งของเกียตรงๆ แล้วกระโดดตัวลอยเสียเอง
“เจ็บอะ”
ครู 2 คนถึงกับหัวเราะเสียงดัง
“จะแกล้งเขาแล้วโดนเสียเอง” แอนดรูว์บ่นเป็นภาษาอังกฤษ เลยโดนข้าวพองชี้หน้า
“เราฟังสำเนียงอังกฤษออกนะ”
แอนดรูว์ยิ่งหัวเราะกว่าเดิม ส่วนเกียคุกเข่าลงดูหน้าแข้งของคนที่คิดเกเรใส่คนอื่น
“เตะเสียเต็มแรง แดงเป็นรอยอย่างนี้เดี๋ยวคงเขียว” หนุ่มลูกครึ่งหันมามองหน้าเพื่อน “วันนี้คงได้แค่นี้”
“คงงั้นแหละ” แอนดรูว์เห็นด้วย แล้วถามเจ้าตัว “เดินไหวมั้ย”
ที่จริงน่ะเดินไหว แต่ข้าวพองกำลังเกเร “ไม่ ขี่หลังหน่อยดิ”
เกียหันหลังให้ทันที ข้าวพองก็ขี่หลัง สีหน้าท่าทางมีความสุขมากจนแอนดรูว์ยิ้มขำ
....ลูกคนกลางกับน้องชายคนเล็ก....
*-*-*จบตอนที่ 5 *-*-*
ไม่อยากบ่นซ้ำเลยเดี๋ยวจะสงสัยว่าผมอายุเท่าไหร่ แต่ผมกำลังสงสัยอย่างจริงจัง (ไงล่ะ สำนวน
) ว่า ทำไมยิ่งโพสต์ จำนวนผู้อ่านยิ่งลดลง มันเกิดจากอะไรหนอ
ไหนๆ ก็คลิ๊กมาอ่านแล้ว บอกกันสักนิดเถิดว่า คิดอย่างไร? 
ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์นะจ๊ะ 