“Someday We'll Know”
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: “Someday We'll Know”  (อ่าน 191499 ครั้ง)

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
“Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #240 เมื่อ24-04-2014 09:37:55 »

ตอนที่ 10

ข้าวพองตื่นนอนด้วยอาการปวดหัวหนัก
...ก่อนนี้ไปกินเหล้ากับเพื่อน ไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย หลังๆมานี้ จะตื่นมาด้วยอาการแบบนี้เป็นระยะ...
“กูคออ่อน หรือเพราะกูกินเยอะจนมันสะสมอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกายหรือไงวะเนี่ย”
หนุ่มตัวเล็กเดินบ่นแล้วพออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็นึกได้
“วันอาทิตย์นี่หว่า มาทั้งพ่อทั้งพี่เพียง”
ข้าวพองกลับเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำสระผมอีกรอบ ถึงได้ลงมากินข้าวมื้อก่อนเที่ยง อุบลรีบเข้ามาดักทางด้วยการส่งน้ำมะนาวให้ก่อน แล้วถามว่าอยากได้ข้าวต้ม หรือจะรอมื้อเที่ยงพร้อมพ่อ
ข้าวพองจิบน้ำมะนาวชื่นใจแล้วถามหาว่าพ่อไปไหน
ถึงได้รู้ว่าคนที่ไม่คิดว่าจะอยู่บ้านในวันนี้ก็อยู่ด้วย ทั้งกำลังทำหน้าที่พาพ่อกับพี่เพียงชมห้องฝึกทางด้านหลัง
“ทำไมเขายังอยู่”
อุบลตอบตามที่ได้รับคำสั่งไว้ “เมื่อวานคุณครูไปรับคุณข้าวพองที่บ้านเพื่อนน่ะค่ะ แกก็เลยค้างที่นี่ พอเช้าคุณพ่อมาแต่เช้าก็เลยคุยกัน พอสายหน่อยคุณเพียงกับคุณนิก็มา คุณครูก็เลยไม่ได้กลับคอนโดฯ”
ข้าวพองถือแก้วน้ำมะนาวเดินไปหาพ่อ
แต่มโหธรหันมาเห็นน้องชายก็เดินเข้ามาหาก่อน
“คำสั่งให้เปลี่ยนครู ยังไม่อนุมัตินะไอ้เสือ”
“ชริ” น้องชายทำหน้าหงิกใส่ “แล้วให้เขาอยู่วันอาทิตย์เดี๋ยวก็ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มหรอก”
พี่ชายหันไปมองพ่อที่กำลังคุยกับเกียแล้วหันมาหาน้องชาย “ไปมีเรื่องอะไรกับเขาอีกล่ะ”
“ใครจะกล้า เขาหาเรื่องหนีกลับบ้านต่างหาก”
“ไอ้คนนี้” พี่ชายเอากำปั้นขยี้หัวน้องชาย “แล้วเขาเป็นคนอังกฤษ แกเรียนรู้อะไรจากเขามั่ง”
“อังกฤษแล้วไง เรียนรู้อะไร” คนนี้กวนประสาทกลับ
พี่ชายสายหน้า “ไหนอยากไปอังกฤษนักหนา เบื้องต้นเลยแกก็ต้องเรียนรู้ว่า ที่นั่นจะมีการแบ่งชั้น แบ่งสีผิวกันอยู่ในที แล้วอย่างที่เราเรียกเขารวมๆ ว่าคนอังกฤษ ที่จริงแล้วเขาไม่ชอบเลย เพราะสัญชาติที่แท้จริงเขาเป็นเวลส์ เป็นไอริช เป็นสกอตแบบนั้น”
“แล้วเกียเป็นอะไร”
“เวลส์” พี่ชายบอก ข้าวพองก็ถามต่อ
“แล้วไง”
“แต่ถึงจะเวลส์ เขาก็ยังมีไทยปนอยู่ด้วย แต่เรื่องเชื้อชาติเนี่ย เขาจะไม่พูด ไม่ล้อเลียนกันเพราะมันมีอยู่ในกฎหมาย ที่ต้องจำให้ดีก็คือ อะไรก็ตามที่มันถึงขนาดที่ต้องออกกฎหมายมาห้าม แสดงว่ามันรุนแรง”
ข้าวพองหูผึ่ง ฟังพี่ชายพูด “เราคนไทยเรียกกันเองว่าเป็นลาว เป็นเจ๊ก เป็นแขกเราไม่รู้สึกเพราะเราเรียกเขา”
“ต่อให้เรียกเราไอ้ไทยก็ไม่เห็นจะรู้สึก” ข้าวพองอดไม่ได้ที่จะเถียง
“ก็เออ” พี่ชายเขกคนหัวดื้อช่างเถียง “เราไม่รู้สึก ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้สึก ตอนที่อยู่เคยมีสกอตขี้เมาไปด่าแล้วก็เตะคนยูเครนในรถไฟ เรื่องใหญ่เลยนะ อย่างนักกีฬาผิวสีเนี่ยจะชัด เพราะเขาจะโดนบ่อย”
ข้าวพองเบ้หน้า “ไปดูบอล หรือไปฟังขี้เมาด่านักกีฬาก็ไม่รู้ ไม่เห็นสนุก”
“เออ แบบนั้นแหละ ยกตัวอย่างนักฟุตบอลจะชัดที่สุด เรียกว่าลิง หรือดำไม่ได้นะโว้ย”
ข้าวพองหยุดคิด “อย่างที่พี่เพียงกับพี่เพชรเคยเจอมาใช่มั้ย แล้วเกียก็เคยเจอเหมือนกันหรือเปล่า”
“ไว้ถามเขาสิ” พี่ชายตัดบทดื้อๆ “ส่วนฉันน่ะ ถือว่าเราไปเรียนไง แล้วก็อย่างที่แกบอกน่ะ เรียกอะไรก็ไม่ค่อยจะสนใจหรอก  แล้วฉันก็เลือกที่จะอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยเป็นส่วนใหญ่”
หนุ่มตัวเล็กบุ้ยปากไปหาคนที่ยังคุยกับพ่อ “ตัวยังกับตึกอย่างงั้น ใครจะกล้ามาแกล้ง”
“แกไง ไอ้ตัวปากเสีย ห้ามใช้คำพูดอะไรที่มันเป็นการแสดงการเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติเด็ดขาด” พี่ชายสรุป
“โหย.....” น้องเล็กทำเสียงโอดครวญ “พองเนี่ยนะ จะกล้า..”
“แกนั่นแหละตัวดี ย้ำอีกครั้ง เรียนรู้จากเขา แล้วก็ฝึกให้เป็นนิสัย ถ้าแกอยากไปอยู่อังกฤษ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ”
มโหธรยักไหล่ น้องชายก็พยักพเยิดไปที่พ่อ “ท่าทางถูกคอกันมากนะนั่น”
“แกนี่ชอบพูดเหมือนคนขี้อิจฉา”
น้องชายหันมาขวางพี่ชาย “ใครขี้อิจฉา ปกติไม่ค่อยเห็นพ่อพูดกับใครแบบนี้ไง” เว้นไปนิดก็ยอมรับ “แต่ก็ดี ไม่งั้นก็สั่งๆๆๆ ตลอด”
พี่ชายกอดคอน้องชายเดินกลับเข้ามาในบ้าน “เที่ยงนี้กินอะไรบอกอุบลไปหรือยัง”
“ยัง เพิ่งตื่น ยังแฮ้งอยู่เลย”
“เออ เมาเหล้าไม่เป็นไร แต่ขอเลยนะอย่าไปยุ่งกับยาเสพติด”
“รู้แล้วน่า” ข้าวพองตอบพี่ชายไม่เต็มเสียง แล้วเปลี่ยนมาชวยคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย

วันอาทิตย์ที่ปกติจะมีแต่พ่อกับพี่ชายและพี่สะใภ้ก็จริง แต่บางครั้งจะมีโทรศัพท์ของพ่อจากอีกบ้านหนึ่ง และหลายๆ ครั้งก็จะมีเพื่อนทางธุรกิจของพ่อ หรือพี่เพียงมาหาด้วย
แต่วันนี้มันคือวันแสนสบาย ได้นั่งเล่น นอนเล่น อ่านหนังสือ เล่นเกม อยู่ด้วยกัน 3 คนตลอดเวลา จนกระทั่งพ่อกดตัดสายโทรศัพท์ที่เข้ามาเป็นครั้งแรก
และข้าวพองไม่เห็นนิรมล ที่อุบลบอกว่ามาพร้อมกับมโหธรเมื่อช่วงสาย คาดว่าจะกลับไปแล้ว
ส่วนเกีย ก็คอยอยู่ใกล้ๆ ในระยะที่พอมองเห็นกันได้ตลอดเวลา ไม่ได้กลับไปคอนโดฯ เหมือนในสัปดาห์ก่อน
ก่อนมื้อเย็น ข้าวพองก็หันมาถามพี่ชายที่กำลังลดอายุมาเล่นเกมเพลย์อยู่กับน้องชาย “พี่นิไปไหน”
“อยู่บ้าน เขามาเมื่อเช้าแล้วให้กลับไปตอนหลังอาหารเช้า”
“ทำไมล่ะ”
พี่ชายทำหน้าตาเหมือนกินยาขม “ขี้เกียจตอบคำถามเรื่องเพชร”
ทั้งพ่อและเกียหันมามองหน้ามโหธร
“ยังไง” พ่อถาม
มโหธรวางเกมที่กำลังเล่นอยู่กับน้องชาย หันมาหาพ่อ
“ผมให้เขาปล่อยเพชรในร้านได้หลายชิ้น ก็ให้ค่าคอมฯ เขาทุกชิ้น แต่ตอนนี้เขามักจะมาถามว่ามีอันนั้นมั้ย อันนี้มั้ย ผมก็บอกว่า มีเท่าเห็นน่ะแหละ ก็อยากให้ผมไปหาของตามออร์เดอร์ให้ได้ ผมทำก่อสร้างนะไม่ได้ขายเพชร”
ข้าวพองหัวเราะหึหึพี่ชาย แล้วกลายเป็นหัวเราะร่วนเสียงดัง จนอีก 3 คนต้องพลอยหัวเราะตาม
“ไอ้ตัวเปี๊ยกนี่”
“พี่เพียงแหละ ไล่เมียกลับบ้านเพราะขี้เกียจขายของ” น้องชายเถียง
“ไมได้ขี้เกียจโว้ย แต่มันไม่ใช่ทาง ให้ไปหาเพชรตามสั่งเนี่ยนะ” มโหธรยิ่งทำหน้าพิกลหนักกว่าเดิม “อย่างกับเป็นเดลิเวอรี่”
“แม่กับพี่เพชรบอกว่ากำไรดี ความเสี่ยงน้อย” ข้าวพองเถียง
มีเสียงในลำคอที่แสดงความไม่เห็นด้วยมาจากพ่อ แต่เพราะพ่อหันไปมองนอกหน้าต่าง มโหธรก็เลยชวนน้องชายเล่นเกมต่อ

ทุ่มครึ่งนิรมลก็เดินมารับมโหธรกลับบ้าน ชายหนุ่มมีสีหน้าเหมือนเด็กเล็กไม่อยากไปโรงเรียน
“ที่จริงผมน่าจะมีเวลาจนถึงเที่ยงคืนนะ”
“คุณเพียงคะ” นิรมลทำเสียงดุ จนพ่อขำ

อีกไม่ถึง 10 นาที ก็เป็นโทรศัพท์ของข้าวพอง
ไทนี่ หว่องวัยรุ่นชาวจีนเพื่อนใหม่โทรมา
ข้าวพองรับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าตกใจ แล้วรีบมาหาเกียที่ยืนคุยอยู่กับยอดยิ่งที่ป้อมยามหน้าบ้าน
“จะกลับไปคอนโดฯ หรือเปล่า”
“ไม่ครับ เพราะคุณท่านมาลำพังไม่มีคนติดตามมาด้วย”
ทั้งอัคราและมโหธรต่างก็มีคนติดตามทั้งคู่ แต่วันนี้ทั้งคู่กลับแค่ให้มาส่งแล้วให้กลับไป
“ไปบ้านไทนี่กับพองหน่อยสิ”
เกียพยักหน้ารับคำสั่ง แต่บอกให้ไปบอกพ่อก่อนว่าจะออกไปข้างนอก
ข้าวพองพยักหน้าเร็วๆ แล้วรีบบอกก่อนที่จะกลับเข้าไปในบ้าน “เกียขับรถบ้านไปนะ ไม่ต้องให้ธีระไป”
“ครับ”
เพราะคำสั่งสุดท้ายทำให้เกียเดินตามข้าวพองเข้าไปในบ้าน เพื่อย้ำกับอัคราด้วยตัวเอง
“จะรีบกลับมาครับ เพราะคุณข้าวพองต้องไปโรงเรียนพรุ่งนี้”
ในระหว่างทางที่ไปบ้านไทนี่ ข้าวพองถามเกียในสิ่งที่สงสัยมาตลอดวัน
“บอกพ่อกับพี่เพียงให้อยู่กับพองใช่มั้ย”
“ไม่ได้บอกครับ”
ข้าวพองหันมามองด้วยแววตาที่ไม่เชื่อที่เกียบอก “แต่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ นายบอกพวกเขาแน่ๆ”
“พี่บอกกับเขาว่า คุณเสียคุณแม่ไป จากนั้นคุณมโหธรก็แยกบ้าน คุณพ่อแยกไปมีบ้านเล็ก แล้วคุณเพชรก็แยกไปจากนั้นคุณก็สูญเสียคุณเพชร”
“พอแล้ว” ข้าวพองกำมือที่เย็นเฉียบ
ปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่อยู่ในรถจนกระทั่งรถเลี้ยวเข้าซอยบ้านไทนี่หว่อง หนุ่มตัวเล็กก็พูดแผ่วเบา
“ขอบคุณนะ”
“ครับ”

บ้านหลังนั้นเปิดไฟที่โรงรถไว้ เมื่อเกียจอดรถที่หน้าบ้าน คนรับใช้หญิงคนเดิมก็มาเปิดประตูให้ แล้วชี้ไปที่ห้องด้านบน
เธอไม่ได้พูดอะไร แต่จากรูปหน้าและสีผิวที่ออกเหลืองทำให้เกียคาดว่า อาจเป็นแรงงานต่างด้าว
ข้าวพองไม่เคยเข้ามาที่บ้านนี้ แล้วก็อาจจะรออยู่ข้างล่าง ถ้าเกียไม่ได้เดินตามขึ้นมาด้วย
จนมาหยุดที่หน้าห้อง จู่ๆ ข้าวพองก็เกิดอาการกลัวขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ จนต้องหันมาหาคนตัวโตด้านหลัง
“เข้าไปด้วยกันนะ”
เกียพยักหน้า แล้วก้าวขึ้นมายืนบังข้าวพองเมื่อเคาะประตูแล้วบิดลูกบิดประตูเข้าไป
หนุ่มตัวเล็กห่มผ้าห่มผืนใหญ่ซุกตัวอยู่ที่มุมห้อง
ข้าวพองวิ่งแซงเข้าไปหา
“ไทนี่ เป็นอะไร”
ไทนี่กางแขนกอดข้าวพองทั้งผ้าห่ม ดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากแห้งผากที่มีร่องรอยของบาดแผล
“ข้าวพอง เรา....เราคิดว่าเราโดนข่มขืน”

ทั้งที่ใจกำลังร้องว่า โดนข่มขืนได้ยังไง เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ใครและที่ไหน แต่ข้าวพองกลับทำได้เพียงมองเพื่อนด้วยสีหน้าตกใจแล้วหันมาหาเกียเพื่อขอความช่วยเหลือ

“ครู ทำไงดี”
เกียคุกเข่าลงข้างหน้าหนุ่มตัวเล็กที่มีสีหน้าสับสนและหวาดกลัว
“ค่อยๆ เล่าให้ผมฟังนะครับ อะไรทำให้คุณคิดว่าโดนข่มขืน”

ดวงตายาวเรียวของไทนี่ตวัดไปที่เสื้อผ้าในตะกร้า เกียก็ลุกไปหยิบขึ้นมา
กลิ่นที่นำมาก่อนคือกลิ่นบุหรี่กับเหล้าที่จางลง เสื้อที่มีร่องรอยฉีกขาด กับรอยเลือดที่กางเกง
ตามหลักการเบื้องต้นมันก็เข้าข่าย
แต่คำถามอยู่ที่เวลา...

ไทนี่บอกด้วยนำเสียงสั่นๆ “เราตื่นมา มีคนนอนอยู่ข้างๆ หลายคนเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แล้วเราก็เจ็บก้น หันไปเห็นเสื้อผ้าก็รีบแต่งตัวออกมาเลย”
เกียนึกถึงภาพเมื่อคืนที่ไทนี่นั่งอยู่ในกลุ่มชายหนุ่มหลายคน
“รู้จักเขาหรือเปล่าครับ ถ้าให้ชี้ตัว จะชี้ได้มั้ย”
“ชี้ตัว!” ไทนี่ตื่นตกใจหันไปหาข้าวพอง “ไม่แจ้งความนะ ไม่นะ ถ้าพ่อรู้ ไทนี่โดนพ่อฆ่าตายแน่”

ข้าวพองลูบหลังให้ไทนี่ใจเย็นลง
ไทนี่เพิ่งย้ายมาเรียนได้ไม่นานนัก ทำให้แทบไม่มีเพื่อน ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะเคยเห็นพ่อของไทนี่มารับที่โรงเรียนอยู่ครั้งสองครั้ง แต่ก็แค่ยกมือสวัสดี

“ครู ทำไงดี”
ที่ผ่านมาข้าวพองไม่เคยใช้ประโยคที่ขอความช่วยเหลือแบบนี้ ยิ่งน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจแบบนี้ยิ่งไม่เคยได้ยิน
ใจที่มันลำเอียงเป็นทุนเดิม รู้สึกเป็นห่วงข้าวพองมากกว่าไทนี่
ทั้งที่ไทนี่คือคนที่ถูกทำร้าย...
...แต่มันก็มีบางสิ่งบางอย่างที่รบกวนในใจ บางสิ่งบางอย่างที่มันมากกว่าความลำเอียงที่ทำให้ไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดของหนุ่มคนนี้สักเท่าไหร่
มันมีคำถามที่ไม่ควรถามต่อหน้าข้าวพอง

เกียหันไปบอกข้าวพอง “ผมจะลงไปเอาถุงมาใส่เสื้อผ้าของคุณไทนี่ไปทิ้ง”
ปล่อยให้ข้าวพองอยู่กับไทนี่ด้วยความมั่นใจว่า ไทนี่จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ข้าวพองฟัง แล้วข้าวพองก็จะต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอีกต่อหนึ่งเช่นกัน
คนรับใช้ของไทนี่ยังนั่งดูละครโทรทัศน์ ท่าทางไม่ได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เกียชวนคนรับใช้คุย เริ่มจากการขอถุงพลาสติกไปใส่ของ แล้วก็ถามว่าไทนี่กลับมาเมื่อไหร่ หรือมีใครมาส่งบ้าง ถามไปเรื่อยว่าพ่อของไทนี่อยู่หรือไม่
แรกๆ คนรับใช้ชื่อปลาก็ไม่ค่อยกล้าเล่าอะไรเพราะพูดไทยไม่ชัด แต่พอเกียไม่ได้มีท่าทีสนใจกับสำเนียง ก็เล่าได้เรื่อยๆ จนพอจะจับความได้ว่าไทนี่กลับมาเมื่อบ่ายแล้วก็เก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่ได้ลงมากินข้าวเย็น ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ คือหิวเมื่อไหร่ก็จะลงมาอุ่นกับข้าวกินเอง
ส่วนเรื่องพ่อของไทนี่ เคยพบเจอกันเมื่อตอนที่มาทำงานที่บ้านนี้แล้วก็เห็นว่ามาอีก 2-3 ครั้ง ในรอบประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา
เกียรับฟังแล้วบอกขอบคุณ ปลาทำหน้าตาแปลกๆ เหมือนไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน

เมื่อกลับขึ้นมาที่ห้อง ข้าวพองกับไทนี่ยังนั่งอยู่ที่เดิมเหมือนก่อนที่จะลงไป
เกียบอกว่า หากไม่แจ้งความ ไม่พบแพทย์ก็ต้องดูแลรักษาตัวเอง
ทั้งไทนี่ และข้าวพองมีสีหน้าไม่เข้าใจ
“อย่างนี้นะครับ คุณไทนี่บอกว่า ไม่รู้อะไรเลยนอกจากตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการต่างๆ ที่ทำให้คาดว่าจะโดนข่มขืน เราไม่รู้ว่าพวกเขาใช้ถุงยาง หรือมีการป้องกัน หรือเขาจะใช้อะไรหรือเปล่า”
“หมายถึงพวกสิ่งของน่ะหรือ” ไทนี่ถาม
“ครับ” เกียพยักหน้า ขณะที่ข้าวพองมีสีหน้าแหยงๆ แต่ไทนี่กลับดูนิ่งกว่า
“อันนี้ไม่รู้”
“ครับ เพราะฉะนั้นมันอาจมีแผล อาจติดเชื้อ ติดโรคอะไรก็ได้”
“ต้องไป...ตรวจเลือดใช่มั้ย” ข้าวพองถาม
“ครับ”
ข้าวพองยิ่งมีสีหน้ากลัวกว่าเดิม ไทนี่พอหันมาเห็นหน้าเพื่อน ก็พลอยกลัวตามไปด้วย
“ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย” ไทนี่สารภาพ “กลัวแต่พ่อจะรู้ว่าหนีเที่ยว”
เกียบอกไปตามขั้นตอน “งั้นอย่างแรกเลย คุณไทนี่ต้องไปอาบน้ำทำความสะอาด ทานยา แล้วก็นอนพัก รอสักสองอาทิตย์ค่อยไปตรวจเลือด แต่ผมไม่แน่ใจว่าที่นี่ใช้ยาตัวไหน ยาบางตัวตรวจหลังจากนี้ 2 เดือน หรือ 6 เดือนก็มี”

ข้าวพองรอจนทุกอย่างเรียบร้อย บอกกับเพื่อนอีกครั้งว่าพรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วจะมาหาเสร็จแล้วก็กลับไป
จนกระทั่งอยู่ในรถด้วยกัน เกียถึงได้ถาม
“กลัวหรือ”
“อือ”
เกียจับมือนิ่มไว้ “แต่ข้าวพองก็เก่งนะ ดูแลเพื่อนได้”
“ดูแลอะไรเล่า เกียทำหมดทุกอย่างน่ะแหละ”
เกียอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม เพราะตอนนี้ข้าวพองเปลี่ยนมาเรียกชื่ออีกแล้ว
ข้าวพองทำหน้ายู่ๆ รู้ว่าเกียกำลังขำที่ตัวเองเรียกอีกฝ่ายกลับไปกลับมาอีกแล้ว “เออน่า ตอนนั้นพึ่งพาอาศัยกันได้ก็เป็นครู แต่ตอนนี้จับมือพองอยู่จะเป็นครูได้ไง”
“อ้อ...” เกียลากเสียงยาวแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ข้าวพองหันมามองหน้าคนขับรถ “พ่อไทนี่ท่าทางจะดุมาก”
เกียพยักหน้า “เท่าที่คุยกับปลา คนรับใช้น่ะครับก็ดูจะเป็นอย่างนั้น แล้วถ้าเรื่องนี้เกิดกับข้าวพอง ข้าวพองจะบอกพ่อกับพี่เพียงมั้ย”
ข้าวพองส่ายหน้า แล้วตอบช้าๆ “เรา...ใช้ยา นั่นมันเป็นเรื่องที่พ่อกับพี่เพียงรับไม่ได้อยู่แล้ว แล้วยังโดนอย่างนี้อีก เขาคงคลั่งตายแน่ๆ”
“มันมีวิธีง่ายๆ ที่จะไม่ทำให้พวกเขาคลั่งตาย คือต้องไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้”
“ใครจะไปคิด” ข้าวพองเถียงอุบอิบ
“ก็ต้องคิดได้แล้ว” เกียหันมามองหนุ่มข้างๆ แวบหนึ่ง เห็นสีหน้าหนักใจและความกลัวชัดเจน “ข้าวพองรู้ตัวเรื่องใช้ยาหรือครับ”
ข้าวพองถอนหายใจหนักๆ “รู้สิ แต่ไม่ค่อยอยากยอมรับว่าใช้”
“เจตนาใช้ หรือว่าโดนหยอด”
“มันก็...” ข้าวพองหันไปมองนอกหน้าต่าง “มั่วๆ ไปน่ะ”
“ข้าวพอง” เกียใช้เสียงเข้มขึ้น
หนุ่มตัวเล็กใช้มืออีกข้างเกาจมูกตัวเอง “มันก็ทั้ง 2 อย่างน่ะแหละ แต่พองไม่ติดหรอกนะ รู้ตัวเหมือนกันเวลาที่เมาเร็วกว่าปกติไรงี้ ก็จะอยู่นิ่งๆ เมื่อคืนก็ยังจำได้ที่เกียมารับน่ะ”
เกียกลับเป็นกังวลเพราะเมื่อคืนพูดอะไรหลายเรื่อง แต่ต้องผ่อนลมหายใจยาวเมื่อข้าวพองพูดต่อ
“แต่ก็ตื่นมาอีกทีก็สายละ เหม็นตัวเองสุดๆ เกียอาบน้ำให้พองหรือเปล่า”
เกียพยักหน้า ข้าวพองทำหน้าตาพิกล “แล้ว...ทำอะไรเราหรือเปล่า”
“เปล่า คนใช้ยา ไม่เห็นน่ากอด”
ข้าวพองเกาจมูกตัวเองอีกที “คุ้นๆ นะ”
“คุ้นอะไร”
“เนี่ย ไอ้ใช้ยา กับกอดเนี่ยมัน...คุ้นๆ”
“เมื่อคืน พี่บอกกับข้าวพองว่า ถ้าอยากให้กอดก็ต้องไม่ใช้ยา ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่อีก”
เกียแอบเติมประโยคลงไปอีก ขณะที่มองแก้มแดง
“ใครที่ไหนอยากให้กอด เกียน่ะแหละ...ชอบฉวยโอกาส”
ยิ่งเห็นหน้าแดงๆ ประกอบคำพูดแบบนี้ คำเตือนของแอนดรูว์กับแมรี่ ยิ่งห่างไกลออกไป
เกียจอดรถที่ข้างทาง หันมาหาข้าวพองเต็มตัว
“ข้าวพองครับ ข้าวพองเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับไทนี่ อย่าคิดว่าเรื่องร้ายๆ มันไม่มีวันเกิดขึ้นกับข้าวพอง พี่ยินดีที่ได้ดูแลข้าวพองด้วยชีวิต กันข้าวพองจากคนร้าย แต่ถ้าเป็นเรื่องของยาเสพติดนั่นเป็นสิ่งที่พี่ดูแลข้าวพองไม่ได้”
วินาทีแรกดวงตากลมดูเหมือนไม่เข้าใจ แล้วก็พยักหน้า “เกียกันพองจากมือปืนได้ แต่ยาเสพติดมันเป็นสิ่งที่ข้าวพองเสพเข้าไปเอง”
“ครับ”
“แต่เวลาไปบ้านเพื่อน ไปเที่ยวน่ะใครๆ ก็ใช้กัน ไอรีนยัง...”
นิ้วมือใหญ่แตะที่ริมฝีปากสวย “ข้าวพองครับ ไม่มีกฎกติกาว่าเราต้องใช้ยาทุกครั้งที่เราอยู่กับเพื่อนหรอกนะครับ”
“ก็..ไอรีน...”

เกียรู้แล้ว ว่าใครคือคนที่พาข้าวพองเข้าสู่ถนนสายนี้ ดวงตาของคนตัวโตแข็งกร้าวขึ้นวูบด้วยความไม่พอใจ

“ครั้งต่อไปที่จะไปเที่ยวกับเขา พี่จะไปด้วย”
“หือ”
“นะครับ นี่คือหน้าที่พี่”
ข้าวพองพยักหน้า ขยับตัวจากมือใหญ่ที่แตะปลายคาง แต่เกียก้มลงจูบแก้ม
ข้าวพองยกยิ้มที่มุมปาก ที่เครียด ที่กลัวสารพัด กลายเป็นขำ
“อีกละ”
“ก็ตอนนี้ข้าวพองไม่ได้ใช้ยา แล้ววันนี้ก็เป็นเด็กดีทั้งวัน สมควรได้รับคำชมเชย”
เกียจูบย้ำแก้มอีกครั้ง เมื่อถอนริมฝีปากออก ข้าวพองถึงกับบ่นอุบอิบ
“นี่เป็นรางวัลชมเชยเหรอ แล้วถ้าวันไหนเป็นการยกย่องแบบรางวัลชนะเลิศ ไม่ต้อง..........”

เกียมองใบหน้าแดงเรื่อที่หันไปมองนอกรถ รู้สึกอยากคว้ามากอดแน่นๆ
ข้าวพองมองสายตาอีกฝ่ายผ่านเงาสะท้อนในกระจก ดวงตาที่พาให้หัวใจวูบไหวแปลกๆ จนต้องหันกลับมามอง
“เกีย.....”
“ครับ”
ดวงตากลมมองริมฝีปากหนา ทั้งรู้สึกริมฝีปากตัวเองแห้งผาก
“เกีย.....”
เกียรู้ดีว่าข้าวพองต้องการอะไร
ริมฝีปากหนาขยับมาจดจ่อแต่ไม่สัมผัส
“ผมให้ได้ทุกอย่าง ขอเพียงข้าวพองไม่ใช้ยาเสพติดอีก”
“แต่ตอนนี้....”
“ตอนนี้พอแล้ว”
ข้าวพองกะพริบตากลมโต ความรู้สึกหวามไหวในอกถูกจับพลิกคว่ำ
“อะไรนะ”
“ของหวานน่ะ ต้องค่อยๆ ลิ้มรส รสหวานจะได้ติดอยู่ที่ปลายลิ้น และหัวใจของเราไปนานๆ”
เกียจูบที่ปลายคางสวย แล้วคว้ามือนิ่มมาจับไว้อีกครั้ง
บอกกับตัวเอง
....เสร็จจากงานนี้ กลับลอนดอน ต้องไปสารภาพบาปที่ทำร้ายหัวใจของข้าวพอง....
ความรู้สึกผิดที่เกาะกุมหัวใจหนาขึ้นทุกวัน
....ทำตามใจตัวเอง ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย....
พัวพันกันจนยุ่งเหยิง เพื่อที่วันหนึ่งเราจะจากไป แล้วทำให้คนๆ นี้ต้องเสียใจ.....
แล้วมันมีทางเลือกที่ดีกว่านี้หรือไง

*-*-*จบตอนที่ 10*-*-*

ขออภัยที่วันนี้สายสุดโต่ง เพราะมีพิมพ์ตก พิมพ์ผิด คำเรียกตัวเองสลับกันมั่วไปหมด  :เฮ้อ:
ตอนพิเศษยังไม่มีหรอกครับ ยังไม่มีอะไรที่เป็นเชื้อความคิดเลยสักนิด  :m23: อ่านเรื่องนี้กันต่อไป
ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์นะครับ
.น้ำชา.

ปล. อัั้ยย่ะ ขึ้นหน้าใหม่หล่ะ ดีใจๆๆๆๆๆ ขอบคุณมากครับ  :m3:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2014 13:36:28 โดย jivetea »

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #241 เมื่อ24-04-2014 11:01:26 »

สักวันนึงที่ต้องจากกัน จะทำใจกันได้เหรอ
ทั้ง 2 คนน่ะแหละ   :sad4:
เหมือนจะโหยหากันตลอดเวลา

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #242 เมื่อ24-04-2014 11:12:22 »

ข้อ1. นักเรียนต้องได้รางวัลชนะเลิศแบบได้เกียตินิยมด้วยนะ (นักเรียนจำม๊ะคืนได้ด้วยยยย )  o13 o13 o13

ข้อ 2. ทางเลือกของครูคือพานักเรียนไปด้วยเซ่ ห้ามทิ้งนักเรียนนะ  :katai1: :katai1:

ข้อ 3. เหมือนพี่สะใภ้เห็นเพชรดีกว่าสามีอีกนะเนี๊ยะ น่ากลัวๆๆๆ  :m16:

ข้อ 4. เกิดเป็นวัยรุ่น วุ่นวาย แท้  :mew5:

ข้อ 5.  ขอบคุณครับบบบบ  :mew1: :mew1:


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #243 เมื่อ24-04-2014 11:15:48 »

เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ มันคงมีทางออกที่ดีที่ต่างคนต่างก็ไม่เสียใจแหละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2014 13:16:19 โดย B52 »

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #244 เมื่อ24-04-2014 11:39:13 »

ตอนนี้พ่อกับพี่ พยายามให้เวลากับข้าวพอง ตอนพี่เพียงงอแงก็น่ารักดีนะ

เรื่องไทนี่ ไม่รู้จริงหรือหลอก แต่ไม่อยากให้พองเจอรีบๆเป็นเด็กดีนะพอง


ปล.น้องชาหายดีหรือยังจ๊ะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #245 เมื่อ24-04-2014 11:45:43 »

เพราะเรื่องของไทนี่ทำให้ข้าวพองกับเกียเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น
แต่อย่าเพิ่งคิดเรื่องจะกลับไปได้ไหมเกีย ทำเรื่องตอนนี้ให้เรียบร้อยก่อนเถอะ

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #246 เมื่อ24-04-2014 12:37:46 »

น้องน้ำชา หายป่วยแล้วรึ
เกีย ตกลงรักหลอกๆ หรือหลอกให้รัก เสร็จงานแล้วทิ้งเหรอ นิสัยเสีย
ข้าวพองหัวอ่อน ใจอ่อน ขาดความรัก ขาดหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
เกียก็รู้นี่ ทำไมยังไม่จริงใจกับพองอีก
ถ้าถึงวันที่ต้องจากกัน อิเกียคงทำใจได้สบายๆ สินะ
พองก็ต้องเข้มแข็งขึ้น ต้องโตขึ้น และต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้
ให้อิเกียมันกลับมาซบตักเราเอง ..มโนไปโน่นเลยตรู^^

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #247 เมื่อ24-04-2014 12:42:05 »

วัยรุ่นก็อย่างนี้แหละ อยากรู้อยากลอง ไม่คิดถึงผลที่จะตามมา
ถ้าไม่มีคนชี้ทางถูกผิดอาจถลำลึกจนหมดอนาคต
ข้าวพองยังโชคดีที่มีเกียคอยตามประกบ
เสียใจกับไทนี่ หว่องด้วยนะ ถึงจะยังไม่รู้เธอมาดีหรือมาร้ายก็ตาม
แต่บทเรียนนี้ก็น่าจะทำให้ข้าวพองมีสติยับยั้งในการไปปาร์ตี้ในครั้งต่อ ๆ ไป
อะไรคือหมดภารกิจนี้แล้วต้องจากกัน ไม่เข้าใจ อืม เข้าใจแต่รับไม่ได้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #248 เมื่อ24-04-2014 12:57:21 »

เด็กหนอเด็ก เห้อออ
ดีนะที่อย่างน้อยข้าวพองก็รู้ว่าตัวเองทำอะไรบ้าง

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #249 เมื่อ24-04-2014 15:58:21 »

เพื่อที่วันหนึ่งเราจะจากไป แล้วทำให้คนๆ นี้ต้องเสียใจ.....
แล้วมันมีทางเลือกที่ดีกว่านี้หรือไง   :mew2: ก็เอาน้องไปด้วยไงไหนๆ น้องก็อยากไปอยู่แล้วนิ

 :pig4: คะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
« ตอบ #249 เมื่อ: 24-04-2014 15:58:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #250 เมื่อ24-04-2014 18:30:48 »

หนักใจแทนเกีย  :ling2:

งานกับหัวใจตีกันให้วุ่น  ริจะใช้ความอ่อนโยนของผู้ใหญ่ใจดี

หลอกล่อให้เด็กน้อยไว้ใจ  สุดท้ายตัวเองนั่นแหละที่จะจเ็บปวดที่สุด

บวกเป็ด

 :pig4:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #251 เมื่อ24-04-2014 20:26:15 »

ความรู้สึกปนเปกันไปหมด แล้วเกียสงสัยอะไรในตัวไทนี่
อ้าก คิดไม่ออก  :ling1:

หน้าที่กับความรู้สึกแยกกันไม่ออกสินะ แต่อย่าให้เจ็บทั้งสองฝ่ายก็แล้วกัน
หรือมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้?

รอวันอาทิตย์ค่ะ  :กอด1:


ออฟไลน์ Annko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #252 เมื่อ24-04-2014 20:44:23 »

หัวใจกับหน้าที่สินะ
สงสารเกีย แต่สงสารน้องพองมากๆ
เนื้อเรื่องก็สนุก อ่านแล้วลุ้นๆดี
แบบแอบคิด(หรือเราคิดมาก) เหมือนจะเห็นใจไทนี่ แต่ก็สะดุดปมเล็กๆไม่ค่อยไว้ใจ ...อืม (--")

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #253 เมื่อ24-04-2014 20:56:48 »

อารายกาน......ยังไม่เริ่มก็จะจากแล้วเหรออิพี่เกีย....
แบบนี้หนูข้าวพองของแม่ก็แย่ซิเจ้าคะ.... :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #254 เมื่อ24-04-2014 21:18:12 »

อยากอ่านนอีก    พีเกียจะไปใหน ไม่สงสารน้องหรอออ

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #255 เมื่อ24-04-2014 22:12:50 »

อ่า...กลับมาอ่านก็เมื่อตอนที่ห้า
เลื่อนมาถึงบรรทัดท้ายแล้วแบบว่า...ต้องบอก
คือว่ามัน...มีเวลาอ่านทุกเรื่องที่คุ้นเคยนั่นล่ะ
แต่บางวันอ่านเช้าแล้วทิ้งช่วงไปจนดึกดื่น...หมดแรงเก็บรายละเอียด
ขอโทษน้องทีกับไจฟ์ที่จะมาเป็นบางตอน...อ่านทีละหลายๆ ตอนมันก็สนุกไปอีกแบบ ^^

อีกอย่าง...อาจเป็นเพราะนิยายแนวไจฟ์ทีมีมาไม่บ่อย
คนอ่านบางคนไม่คุ้นเคย เขาก็เลยไม่รู้จะบอกอะไร

ส่วนเรา...เรื่องชวนติดตามแบบนี้
ก็ไม่อยากจะทิ้งช่วง...เหมือนอ่านหนังสือแล้ววาง อ่านแล้ววาง
คิดแบบนี้ก็เลยทิ้งช่วงแล้วเก็บอ่านทีละหลายตอน...ปวดหัวกะความเรื่องมากเนาะ ^^"
เอาเป็นว่า FC ไม่ได้หายไปไหน...วนไปวนมาอยู่ใกล้ๆ นี่ล่ะ...ไปอ่านตอนที่ยังไม่ได้เก็บก่อนละนะ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #256 เมื่อ25-04-2014 00:04:35 »

ค่อยๆใช้หัวใจเรียนรู้กันไปเรื่อยๆเนอะ เป็นทั้งครู พี่ชาย เพื่อน อ๊าาาา อิจฉาข้าวพองสุดๆ เอารางวัลชมเชยไป ก่อน 555 ไอรีนนี่เองตัวร้าย นำนัองเราไปในทางที่ผิด ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับตัวเองด้วยนะ

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #257 เมื่อ25-04-2014 07:28:29 »

ชอบตอนนี้
เพราะมีพี่เกียชี้ให้เห็น
ข้าวพองคล้ายจะเห็นโลกชัดขึ้นนิดนึงแหละ
ยับยั้งชั่งใจน่าจะมากขึ้นนะคนเก่ง
แต่ไทนี่เค้า...
 :z3: :z3: :z3:
แงๆๆๆ
 :hao5:

และที่ชอบอีกอย่างคือ เกียไม่อยู่
555
ข้าวพองตอนเมื่อกี้บอกไม่รัก จะไปไหนก็ไป โทรบอกใครต่อใครให้ไล่ออกด้วย
อันนี้แมวจ๋อยอย่าแอบคิดถึงพี่ล่ะ

 :hao3:
บวกและเป็ดขอบคุณ
รออ่านตอนต่ออยู่
 :mew1:
ให้.น้ำชา.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2014 07:32:15 โดย puppyluv »

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #258 เมื่อ25-04-2014 11:10:46 »

สงสัยจัง.... ตัวเกียเองก้อสับสน ลังเล ระหว่างหน้าที่กับหัวใจ
ที่ชอบ คือ เกียมีจิตวิทยาในการสอนข้าวพองให้รู้จักการใช้ชีวิตมากขึ้น
แต่งงกับพฤติกรรมของไทนี่ ส่วนไอรีนคิดว่าอยากปอกลอกข้าวพองมกกว่า
และผู้ต้องสงสัยอีกมากมาย นิรมลก้อแปลกๆ   ไม่เดาแล้วรออ่านดีกว่า

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #259 เมื่อ25-04-2014 15:26:53 »

ตอนนี้ข้าวพองเป็นเด็กดี น่ารัก สมควรแก่การได้รับรางวัลจ้า
ไทนี่ นี่แบบยังไงจริงป่ะ แต่ดูนิ่งมากอ่ะ

งื้อออออ ทำไมตอนสุดท้ายมัน......... เจ็บ!!!
มันต้องมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เชื่อสิ :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
« ตอบ #259 เมื่อ: 25-04-2014 15:26:53 »





Love U All

  • บุคคลทั่วไป
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #260 เมื่อ25-04-2014 19:12:25 »

จะสงสารไทนี่  ก็รู้สึกได้ไม่เต็มที่  เพราะเกียมาจุดประเด็นบางอย่าง
คือแบบทั้งเรื่องเนี่ย  ไม่กล้าไว้ใจใครจริง ๆ

อ่านช่วงแรก ๆ เกียกับข้าวพองดูมุ้งมิ้งกันเชียว
แต่พอมาถึงตอนท้าย  ไหงหน่วงอย่างนี้เนี่ย
เกียถึงจะเป็นผู้ใหญ่แต่พอเป็นเรื่องแบบนี้ ก็มีสับสนเหมือนกันเนอะ
ก็ได้แต่หวังว่าเกียจะมีทางออกดี ๆ ให้ทั้งตัวเองและน้องนะ

ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #261 เมื่อ25-04-2014 22:16:24 »

เอาข้าวพองกลับไปอังกฤษด้วยเลย  :-[

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #262 เมื่อ26-04-2014 09:05:27 »

ไอรีนเลวอ่ะ บอกเลย พองยังเด็กอยู่เลย มาชักนำให้ลองยาได้ไงฟร่ะ ตอนแรกนึกว่าพองลองเองซะอีก เลวๆๆๆๆๆๆๆ

ไทนี่ก็ไม่รู้ยังไงกันแน่ ดูมีลับลมคมในพิกล ไม่รู้มาดีหรือมาร้าย ใสซื่อหรือมารยา น่ากลัวอยู่นะเนี่ย

ยังดีที่พองไม่ค่อยพยศเท่าไหร่แล้ว ดูจะไว้ใจเกียมากขึ้นด้วย เกียอย่าทำให้น้องเสียใจนะ สงสารน้องอ่า

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #263 เมื่อ26-04-2014 23:41:58 »

วิ่งตามมาอย่างรวดเร็วหลังจากติดคุก(กี้)อยู่นาน ได้ฤกษ์อ่านนิยายซะที ฮ่ะๆ

ออฟไลน์ @PurPle SuN@

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
«ตอบ #264 เมื่อ27-04-2014 06:56:35 »

พี่เกียคะ อะไร ยังไง คือจะทำให้น้องหลง น้องรัก แล้วพอเสร็จงานก็จะหนีกลับเหรอ ใจร้ายที่สุด

แต่ระดับข้าวพองแล้ว พี่คงไม่รอดมือ คอยดูกันต่อไป

ส่วนเรื่องถูกข่มขืนเนี่ย มันน่าสงสัยจริงๆด้วย

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
“Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
«ตอบ #265 เมื่อ27-04-2014 09:19:38 »

ตอนที่ 11

นายมลรัฐ หรือข้าวพอง ไม่ใช่เด็กเรียนแน่นอน และแน่นอนว่าการเดินเข้าห้องสมุด หรือการค้นคว้าหาข้อมูลใดๆ ก็ตามจากอินเทอร์เน็ตย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในสมอง
ตอนนี้ ไม่ได้คิดจะทำรายงานเลยสักนิด แต่กลับต้องเดินเข้าห้องสมุด
ห้องสมุดยุคใหม่หนังสือมากกว่าร้อยละ 80 เป็นหนังสือที่แทบไม่มีรอยช้ำ เว้นแต่คอมพิวเตอร์ที่ตั้งเรียงรายอยู่กลางห้อง ที่มีคนใช้งานอยู่เต็ม
ข้าวพองเดินตรงไปที่โต๊ะริมหน้าต่าง วางสมุดรายงานที่เย็บเล่มเรียบร้อยแล้วลงที่หน้าสาวสวมแว่น สองเปีย แต่หนุ่มคนที่นั่งข้างๆ หันมามองหน้า อ้าปากพูดไม่มีเสียงว่าเสร็จแล้วหรือ
ข้าวพองพยักหน้า
รายงานกลุ่มเล่มนี้ข้าวพองมีหน้าที่เดียวคือเอาไปเย็บเล่ม
เด็กสาวกระซิบถาม
“พองเอาออกไปเย็บเล่มข้างนอกโรงเรียนหรือ”
“อือ” ข้าวพองบอกแล้วเดินกลับออกมา โดยมีหนุ่มสาวคู่นี้เดินตามออกมาด้วย
ทันทีที่พ้นกรอบประตู หนุ่มตัวสูงก็รีบพูด
“ที่จริงไว้ส่งพรุ่งนี้ก็ได้”
“เย็นนี้เราจะไปบ้านไทนี่น่ะ”
“ไทนี่เป็นอะไร” ฝ่ายหญิงสาวถามพลางขยับแว่น “เกี่ยวกับที่บ้านเขาหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก” ข้าวพองบอกขณะที่เดินเรื่อยๆ กลับไปที่ห้องเรียน
“งั้นแป๋มไปด้วย” หญิงสาวดึงมือข้าวพองไว้
“ไปไหน ไปบ้านไทนี่น่ะเหรอ” ข้าวพองถาม เพราะที่ผ่านมา คู่แฝดป๋อมแป๋มไม่ค่อยได้สนใจความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ มากนัก

หนุ่มแฝดพี่ชื่อป๋อม ส่วนสาวแว่นคือแป๋มแฝดน้อง คู่แฝดเด็กเรียนของห้อง ทั้งคู่มีแผนจะไปเรียนต่อที่อเมริกาตั้งแต่ชั้นม.ปลาย แต่เนื่องจากปู่กับย่าเสียชีวิตในอุบัติเหตุร้ายแรง ทำให้ไม่ได้ไปเรียนต่อตามแผนที่วางไว้ ทั้งจะไปสอบเข้าเตรียมอุดมฯ ก็ไม่ทัน ทำให้ยังต้องเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ต่อไป
เท่าที่ข้าวพองรู้ก็คือ คู่แฝดคู่นี้เป็นประเภทเก่งสุดยอดจะเรียนที่ไหนก็ไม่เห็นว่าต่างกันตรงไหน
คนจะเก่งอยู่ที่ไหนก็เก่ง
แต่พ่อกับแม่ของแฝดมักจะบ่นเสียดายโอกาส
ส่วนเรื่องนิสัยไม่ค่อยยุ่งกับใคร แฝดคู่นี้อาการหนักกว่าข้าวพอง
ดังนั้นพอจู่ๆ ก็มาบอกว่าจะตามไปบ้านไทนี่เด็กใหม่ของห้องแบบนี้ ข้าวพองก็เลยแปลกใจ

“ไปได้มั้ย” แป๋มถามซ้ำ
“คงได้มั๊ง” ข้าวพองไม่แน่ใจ เรื่องที่เกิดขึ้นกับไทนี่ มันสมควรให้เพื่อนๆ รู้ด้วยหรือเปล่า คงต้องถามเกียดูก่อน
แป๋มทำหน้าตาแปลกๆ “ทำไมต้องมั๊งด้วยล่ะ ไทนี่ก็เพื่อนแป๋มเหมือนกันนะ”
“รู้แล้วน่าว่าเพื่อนกัน เดี๋ยวนะ” พองบอกขณะที่กดโทรศัพท์หาเกีย

คนนี้ก็อีกคน ที่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่รู้ทำไมถึงต้องไปเชื่อคำพูดของเขามากนัก
คนที่เดินเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการไปเสียทุกอย่าง
ออกคำสั่งตลอดเวลา
กำหนดเงื่อนไขไปทุกเรื่อง
และ....มีจูบอ่อนหวาน  มีอ้อมกอด และสัมผัสที่ชักจูงให้ต้องการมากขึ้นกว่าเดิม แล้วก็หยุดมันไว้ ให้ยิ่งต้องการมันมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

“ครู มีเพื่อนจะตามไปบ้านไทนี่ด้วยน่ะ ไปได้มั้ย”
ข้าวพองบอกทันทีที่เกียกดรับสาย …ก็ตอนนี้มีเพื่อนอยู่ใกล้ๆ เรียกชื่ออีกฝ่ายมันจะดูไม่ดีใช่มั้ยล่ะ
“เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับที่ไปเที่ยวด้วยกันหรือเปล่า” เกียถาม
“ไม่หรอก แฝดป๋อมแป๋มน่ะ เนิร์ดเกรดเอทั้งคู่”

ไม่เพียงแต่ไม่เที่ยว คู่นี้ยังแอนตี้นักเที่ยวทุกคน –ยกเว้นข้าวพอง- ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ที่ทำให้พี่น้องคู่นี้ ยังคุยกับข้าวพองทั้งที่รู้ว่าหนุ่มคนนี้ทั้งเที่ยว ดื่ม และใช้ยา
คนประหลาดมักถูกชะตากับคนประหลาด

“ไปได้สิ” เกียบอก
“แล้ว...ต้องบอกเขาเรื่องไทนี่ก่อนหรือเปล่า”
“ไว้บอกตอนอยู่ในรถก็ได้ พี่จะได้คุยด้วย”
“อือ”

ข้าวพองกดโทรศัพท์  เข้าใจว่าเกียต้องการบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คู่แฝดฟังด้วยตัวเอง
แล้วก็รู้ด้วยว่า เกียชอบเรียกตัวเองว่าพี่มากกว่าคำอื่นๆ
...ใจก็อยากเรียกอย่างนั้น แต่เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ใจมันก็ให้พื้นที่กับคนๆ นี้มากเกินไปจนกลัว..
....กันที่ไว้เล็กๆ ตรงที่ให้เป็นครูบ้าง เป็นการ์ดบ้างแบบนี้ไปอีกสักพักเถอะนะ...

“....พอง....”
ป๋อมเรียกคนที่เอาแต่จ้องมองโทรศัพท์ในมือ
“ครูของพองเขาไม่อยากให้เราไปหาไทนี่เหรอ”
“เขาให้ไป แต่บอกว่าเดี๋ยวเขาจะคุยกับเธอ 2 คนก่อน”
“แบบนี้แสดงว่าไทนี่มีเรื่องแหงๆ” แป๋มบอก
ข้าวพองพยักหน้า
“แล้วทำไมพองเล่าให้ฟังไม่ได้ล่ะ” แป๋มซัก
ข้าวพองได้แต่ทำสีหน้ายุ่งๆ อยากเล่าอยากบอกเหมือนกัน แต่จะให้บอกว่า ไทนี่เมายาแล้วโดนใครไม่รู้ข่มขืนงั้นหรือ
เพราะเท่าที่จำได้ บรรดาคนที่อยู่ในบ้านเพื่อนวันนั้น ก็ล้วนแต่คนรู้จัก แต่ก็นั่นแหละ พอไปเจอไทนี่ แล้วกลับมาบ้านตัวเอง ก็กลับเกิดความคิดเข้าข้างเพื่อนๆ ของตัวเองขึ้นมาว่า บางทีคนที่ทำร้ายไทนี่อาจไม่ใช่เพื่อนก็ได้
เดินมาถึงตึกเรียน เพื่อนต่างห้อง ที่อยู่ในกลุ่มที่ไปเที่ยวด้วยกันเมื่อคืนทักทาย แล้วเข้ามากอดคอ
“วันก่อนมีผู้ปกครองมารับกลับบ้านหรือพอง”
“งั้นแหละ”
“ไรวะงั้นแหละ” ไมเคิลคนที่ตัวโตที่สุดในกลุ่มถามด้วยรอยยิ้มกวนตีน
“ก็กูเมา จำได้แต่นั่งคุยอยู่กับเบซซี่ ตื่นมาอีกทีอยู่บ้านละ” ข้าวพองเล่าไปเรื่อย ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเพื่อนเนิร์ด 2 คนกำลังมองหน้ากันด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ  แล้วเดินไปรออยู่ห่างๆ 
ขณะที่แขนหนายังคล้องคออยู่ ไมเคิลก้มลงกระซิบ “ยาตัวใหม่ที่ไทนี่เอามา จะเอาไปใช้กับเบซซี่ก็ได้นะ”
ข้าวพองหันไปมองหน้าไมเคิล ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อนาทีก่อน เกียเพิ่งพูดอะไรที่คล้ายๆ กับให้ระมัดระวังคำพูด ก็คงจะถามคำถามออกไปทันที
แต่ตอนนี้ได้แต่ขมวดคิ้วคมไว้แน่น ซึ่งมันก็ทำให้ไมเคิลและกลุ่มเพื่อนหันไปหัวเราะกัน
“หรือระดับนายไม่ต้องใช้ เพราะเล่นกับสาวรุ่นน้าจนเชี่ยวแล้ว”
“เฮ่ย ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า” ข้าวพองหันไปมองแป๋มที่กำลังหันไปมองทางอื่น
“กูต้องเอารายงานไปส่งอาจารย์”
เพื่อนตัวใหญ่ตบไหล่บาง “เออ ไว้กูจะโทรหา”

อย่างที่คาด แป๋มถามทันทีที่เดินเข้าไปหา
“ข้าวพองยังใช้ยาอยู่อีกเหรอ”
ข้าวพองไม่ตอบ แต่เดินนำไปที่ตึกเรียน
ขณะที่แป๋มหันกลับไปมองไมเคิลและเพื่อนๆ ด้วยสายตาร้ายกาจจนป๋อมต้องดึงมือให้เดินตามมา
“อย่าไปยุ่งกับพวกเขา”
“ก็ไม่ชอบ มีสมองอยู่ดีๆ ก็ทำให้มันเสียหายด้วยความโง่”
แป๋มบ่นต่อโดยไม่สนใจท่าทีของพี่ชายกับข้าวพองเลยสักนิด

เลิกเรียนเกียและธีระก็มารอรับเหมือนเคย
ป๋อมกับแป๋มยกมือไหว้เกีย แล้วแป๋มก็เริ่มยิงถามคำถาม
“ไทนี่เป็นอะไรคะ”
“คุยกันในรถดีไหมครับ” เกียตอบยิ้มๆ
สาวคนนี้ท่าทางเอาเรื่องไม่ต่างจากหญิงสาวอีก 2 คนใกล้ตัวข้าวพอง จนชักสงสัยว่า พวงเพชรกับเพชรแท้ แม่กับพี่สาวที่จากไปแล้วของข้าวพองเป็นคนแบบไหน

เมื่ออยู่ในรถ ก่อนที่จะเล่าเรื่องของไทนี่ เกียสอบถามเรื่องของป๋อมกับแป๋มก่อน เพราะเท่าที่เคยมารับ-ส่ง เคยเห็น 2 คนนี้ก็จริง แต่ก็อยู่ในระยะไกล
ทั้งคู่เรียนที่เดียวกับข้าวพองมาตลอดเวลา 6 ปี แต่ก็กลับรวมกลุ่มกันเฉพาะตอนที่ทำรายงานเท่านั้น
สายตาที่เต็มไปด้วยคำตำหนิของเกียเมื่อมองข้าวพองทำให้ป๋อมต้องรีบทำความเข้าใจ
“ข้าวพองเขาโลกส่วนตัวสูงน่ะ”
“สูงมากๆๆๆ หยั่งกับเอเวอร์เรสต์” แป๋มเสริม
ข้าวพองโบกมือ “เออ”

…ไอ้แฝดเจ้าปัญหาคู่นี้ก็พวกโลกส่วนตัวสูงและไม่ค่อยสนใจใครเหมือนกันน่ะแหละ แต่ข้าวพองเกิดอาการขี้เกียจเถียง...

ป๋อมพูดต่อ “ข้าวพองเป็นพวกกรุ๊ปเอไง โลกส่วนตัวสูง ปากจัด รักจริง”
คนตัวเล็กหน้าร้อนผ่าวหันไปมองนอกหน้าต่าง จนคู่แฝดแอบกระทุ้งข้อศอกแบบรู้กัน แล้วหันมาถามเกีย
“เราแนะนำตัวไปแล้ว ครูบอกเราได้หรือยังว่าไทนี่เป็นอะไร”
“ไทนี่คิดว่าเขาโดนข่มขืน”
ป๋อมถาม “หมายความว่าไง คิดว่าโดนข่มขืน”
“เขาใช้ยา แล้วตื่นขึ้นมาโดยไม่มีเสื้อผ้า มีคนนอนอยู่ข้างๆ แล้วเขาก็กลับมาที่ห้องพร้อมกับบาดแผล” เกียสรุปเรื่อง จนข้าวพองต้องหันมามองหน้า
“ไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ครูไม่รู้ว่าเขาใช้ยาอะไร แล้วยาเสพติดแต่ละชนิดก็ออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน”
“ครูจะบอกว่า ไทนี่อาจเป็นฝ่ายชวนก็ได้งั้นเหรอ” แป๋มถาม
“ไทนี่ 18 หรือยัง” ป๋อมหันมาถามเพื่อนอีก 2 คนที่พากันส่ายหน้า “คงไม่หรอก เรายังไม่ได้เข้ามหา’ลัยกันนี่นะ”
“โห เบซซี่ที่ข้าวพองจีบอยู่ก็เพิ่ง 16 เองมั๊ง” แป๋มพาออกนอกเรื่อง จนข้าวพองต้องส่งเสียงเตือน
มีธีระที่ทำหน้าที่ขับรถและฟังเรื่องส่งเสียงหัวเราะ ทำให้แป๋มรีบหาพวก
“ข้าวพองนี่แหละ บุคคลสำคัญเลยแหละ ส่งยิ้มหวานให้สาวๆ ไปทั้งโรงเรียน ขนาดพี่คนนั้นไม่ได้เป็นครูแล้ว ยังแวะมาหาอยู่เรื่อยๆ”
“จะถามเรื่องไทนี่ไม่ใช่หรือไง” ข้าวพองเตือนให้กลับมาเรื่องเดิม อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองคนตัวโตที่เบาะด้านหน้า
เกียหันมาบอกกับ 2 หนุ่มสาวอีกครั้ง “ในฐานะที่เราเป็นเพื่อน ใครชวน ใครเริ่มเราไม่ได้ให้ความสำคัญมากไปกว่าการที่ เมื่อได้สติแล้วไทนี่คือคนที่ถูกทำร้ายมา เราก็ต้องตกลงกันว่า เราจะไม่ไปซ้ำเติมเขาเรื่องนี้”
ป๋อมชี้มาที่แป๋มทันที “ครูเตือนคนนี้เลย ชอบพูดมาก เมื่อเที่ยงก็ไปทักเรื่องยาต่อหน้าพวกไอ้ไมเคิล สักวันจะโดนมันแอบยัดยาบ้าให้”
เกียหันไปมองสายตาของข้าวพอง แต่กลับถามพี่น้องคู่แฝด
“ที่โรงเรียนใช้ยาเสพติดกันเยอะมั้ย”
“ไม่หรอก” ป๋อมบอกตามตรง “เขาเป็นกลุ่มของเขาน่ะ เราไม่ยุ่งกับเขา เขาก็ไม่ยุ่งกับเรา”
แต่แป๋มพยักหน้า “มีก็คือมี แล้วมันก็ทำให้คนอื่นเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่จะใช้ยา เคยมีคนเสนอขายยาให้แป๋มด้วย”
เกียหันมาให้ความสนใจทันที สาวแว่นหนาเล่าต่อ
“มันมียาอยู่ตัว พวกไมเคิลมันบอกว่า กินแล้วจะทำให้อ่านหนังสือแล้วจำได้ดีขึ้น แมทธิวไอ้เด็กเกรดเอเหรียญทองนั่น ใช้ยาแล้วอ่านหนังสือรวดเดียว 10 เล่ม 2 วัน 2 คืนไม่หลับไม่นอน เดินเข้าห้องสอบเสร็จกลับบ้าน แล้วหลับรวดข้ามวันข้ามคืน”
คนตัวโตหันไปมองหน้าข้าวพอง ที่รีบโบกมือ “ไม่ต้องมองพองเลยนะ ยาที่ทำให้อ่านหนังสือได้แบบนั้นน่ะ มันคนละแนวกันอยู่แล้ว”
บุคลิกเข้มๆ ของเกียทำให้ป๋อมบอกทุกอย่างที่รู้ “กินยาเพื่อไม่ให้หลับ กินยาเพื่อให้จำได้ เสร็จแล้วก็กินยาเพื่อให้หลับ สลับกันไปสลับกันมา ป๋อมเองก็เคยคิดจะใช้อยู่เหมือนกัน เพราะอยากได้คะแนนเต็ม 100 แต่พอหันไปเห็นแมทธิวที่มันใช้หนักขึ้นเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นตัวอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ ก็รู้สึกว่ามันน่ากลัว”
“แล้วก็มียาที่มันกินเวลาเที่ยวกัน ยาบ้าบออะไรไม่รู้ร้อยล้านชนิด” แป๋มช่วยเสริมให้เรื่องเว่อร์กว่าเดิมไปหลายเท่า
“ไม่ใช้ยาน่ะดีแล้ว” เกียรู้สึกเป็นห่วงหนุ่มสาว 3 คนตรงนี้อย่างจริงจัง “ยาเสพติดมีแต่จะทำลายตัวเราเอง”
“เหมือนแมทธิว แล้วก็ไทนี่ หว่องด้วย” แป๋มบอก ขณะที่หันไปมองป๋อมกับข้าวพอง
ข้าวพองดูเจื่อนไป แต่ป๋อมโวยวาย “ไม่ต้องมองมาทางนี้เลยนะ รุ่นนี้ฉลาดเองไม่ต้องพึ่งยา”

เมื่อถึงบ้านไทนี่ มีแม่บ้านออกมาเปิดประตูให้ ทั้ง 4 คนใช้เวลาเยี่ยมไม่นานนัก เมื่อไทนี่ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเหมือนในวันก่อน ทั้งบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเรียน
ไทนี่รอจนกระทั่งข้าวพองอยู่ตามลำพัง ถึงได้บอกว่า ไม่อยากไปตรวจเลือด ข้าวพองเข้าใจความกลัวของไทนี่เป็นอย่างดี แต่ก็คิดในใจไว้ว่าจะต้องไปคุยกับเกียอีกครั้ง เพราะดูท่าทีแล้วเกียอยากให้ไปตรวจเลือดเพื่อที่จะได้ดูแลรักษาตัวเองให้ดี
เกียบอกให้ทำทุกอย่างไปตามขั้นตอน แต่ก็เข้าใจไทนี่ว่าทำไมถึงไม่อยากทำ
แล้วยังมีเรื่องที่ไมเคิลมันบอกอีก
...ยาของไทนี่...
ข้าวพองได้แต่เอากำปั้นเคาะหน้าผากตัวเอง
...ถ้าบอกเกียไปทั้งหมดที่รู้ เขาจะช่วยไทนี่ไหม เขาจะยิ่งมองว่าเราก็แค่เด็กติดยา แล้วเขาก็จะ....
ทำอย่างไรดีวะ!

ออกจากบ้านของไทนี่ ธีระขับรถไปส่งคู่แฝดถึงบ้าน แม่ของคู่แฝดออกมารอรับถึงหน้าประตู  เกียกับข้าวพองลงจากรถไปสวัสดีแม่ พูดจาทักทายอย่างเป็นทางการ ข้าวพองปรับความสนใจกลับมาที่สิ่งกำลังเห็นอยู่ข้างหน้า
...ไอ้เรื่องที่ยังคิดไม่ตกเอาไว้ก่อน แต่คนนี้น่ะ เขาจะทางการไปไหน
...ที่ผ่านมา จะแม่หรือพี่เพียง ไปประชุมผู้ปกครองหรืองานโรงเรียนเจอกับผู้ปกครองคนอื่นๆ ไม่เห็นมีใครเป็นทางการขนาดนี้ นี่ถ้ามาครั้งหน้า เขาจะแวะซื้อพวกผลไม้ หรือดอกไม้มาให้แม่แฝดเนิร์ดด้วยมั้ยน่ะ....
คุยกันได้สัก 2 นาที พ่อของแฝดเนิร์ดก็เดินออกมาทักทายอีกคน
....เออใช่...บ้านเราก็เป็นอย่างนี้นะ
.....ตอนที่ทุกคนยังอยู่กันพร้อมหน้า ทั้ง พ่อ แม่ จะพากันทำเป็นเดินผ่านเวลาที่พี่เพียง หรือพี่เพชรพาเพื่อนมาบ้าน มีแต่เรานี่แหละที่ไม่เคยพาเพื่อนมาบ้าน 
แต่บ้านของไทนี่ไม่ใช่
ทุกครั้งที่ไป มีแต่คนรับใช้เพียงคนเดียว
พอคิดถึงไทนี่ มันก็พากลับมาที่เรื่องที่คิดไม่ตก ต้องเตือนตัวเองว่า กลับมาที่บ้านป๋อมก่อน อย่าหยุดอยู่ที่บ้านไทนี่ อันนั้นมันท่าทางจะเกินแรง
ผ่านไปพักใหญ่ ข้าวพองเริ่มยุกยิกเพราะยุงที่เริ่มรบกวน  ทำให้แม่ของคู่แฝดต้องตัดบทส่งแขก แต่ก็ยังไม่วายพูดคุยฝากเนื้อฝากตัวต่อไปอีกเกือบ 5 นาที ข้าวพองถึงได้ขึ้นรถกลับบ้าน
“ท่าทางไม่น่าจะสนิทกับใครง่ายๆ เลยนะเนี่ย” ข้าวพองบ่นให้กับกระจกหน้าต่างรถ
เกียแค่หันมาหัวเราะแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

เข้าบ้านอาบน้ำ แล้วลงมากินข้าว ข้าวพองถามเกียว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดฯ หรือเปล่า แต่เกียบอกว่าไม่
“ไทนี่ไม่กล้าไปหาหมอใช่มั้ย” เกียถาม
“อือ”
เกียเองก็เข้าใจความกลัวของไทนี่เหมือนกัน แต่ก็ยังต้องการให้ไปหาหมอ
“เรื่องไม่ได้เกิดกับตัวเองมันก็พูดง่าย” ข้าวพองบอก
“ข้าวพองรู้ได้ยังไงว่ามันไม่เคยเกิดกับพี่” เกียย้อนถาม
ดวงตากลมโตที่มองมาเต็มไปด้วยความสับสน
คนแบบเกียจะเคยโดนใครก็ไม่รู้ข่มขืนได้ยังไง หรืออาจเป็นเรื่องยาเสพติด.....
“เกียเคยโดนข่มขืนเหรอ”
พอเกียยิ้มมุมปาก ข้าวพองก็ชกไหล่หนาไปที “เกียแม่ง..”

จนกระทั่ง

“เกีย....”
“ครับ”
“เวลาที่เมายา ทุกอย่างมันมั่วๆ ไปหมดก็จริง” แล้วก็มีแต่คำถามกับความรู้สึกอึดอัดไม่ชอบใจ “แต่มีอยู่เรื่องที่ตอนแรกพองก็คิดว่าพองเพ้อไปเอง จนตอนที่คุยกับไทนี่วันนี้ ที่พองแน่ใจว่าพองไม่ได้เพ้อ”
หนุ่มตัวเล็กหันไปมองนอกหน้าต่างของห้องอาหาร ทำให้เห็นชัดเจนว่าแก้มใสแดงเรื่อ
“เกียบอกว่า เกียรักพองใช่มั้ย”
“ครับ” เกียไม่คิดที่จะปฏิเสธในเรื่องนี้อยู่แล้ว “และข้าวพองก็บอกว่า ไม่ได้รักพี่”
ข้าวพองหันมามองคนตัวโต แล้วพยักหน้า “ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รัก”
“ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ ไม่รักก็ไม่เป็นไร ขอแค่ข้าวพองต้องรักตัวเอง ดูแลชีวิตของตัวเองให้ดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและคนไม่ดีเท่านั้นเอง”

ข้าวพองมองหน้าเกียแล้วถอนหายใจหนัก
...ทำไมมันถึงยากนักนะ!..


*-*-*จบตอนที่11 *-*-*

วันก่อนมีเด็กสปอล์ยในเฟสว่า "ข้าวพองน่ะแหละตัวร้าย"  นั่นแหละ บอกมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ ครับ
ขอบคุณทุกคำแนะนำ
ตอนต่อไปมาวันอังคารครับ
.ไจฟ์ครับ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2014 09:24:20 โดย jivetea »

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
«ตอบ #266 เมื่อ27-04-2014 09:38:40 »

วุ้ย  ไทนี่นี่ชักยังไง  รึตัวพ่อจะใช้ให้มาตีสนิทข้าวพอง  :hao7:

แต่ที่ว่าข้าวพองร้ายน่ะก็เห็นด้วยนะ  จะแค่ไหนก็ว่ากันอีกที

เพราะนายเกียเองก็เจ้าเล่ห์ใช่ย่อย....เหมาะกันที่สุด   :laugh:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
«ตอบ #267 เมื่อ27-04-2014 09:48:30 »

ทำไมอ่านๆ ไป ไทนี่ดูไม่น่าเชื่อเลย 555

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
«ตอบ #268 เมื่อ27-04-2014 10:19:42 »

ด้วยคน ไทนี่ดูแปลกไปนะหรือคิดไปเอง ส่วนเกียก็ชอบแกล้งน้องซะจริง คนน้องก็ท่าทางยุขึ้นด้วย 555 เริ่มหนัาสนใจขึ้นมาแลัวใช่มั้ย รอตอนต่อไปจร้า

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
«ตอบ #269 เมื่อ27-04-2014 10:36:54 »

ชอบแฝดป๋อมแป๋มอ่ะ มีความคิดดี
"ข้าวพองอ่ะร้าย" -- ค่อยๆเผยมาแล้วกัน
จะได้เริ่มทำใจไว้ก่อนค่ะ  :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด