เวลา : วันนี้ (บทส่งท้าย) [แจ้งเรื่องเฮเดสและเจ้าชายค่ะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เวลา : วันนี้ (บทส่งท้าย) [แจ้งเรื่องเฮเดสและเจ้าชายค่ะ]  (อ่าน 153301 ครั้ง)

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 3.5) 25 มิ.ย. 57
«ตอบ #180 เมื่อ26-06-2014 00:59:56 »

เสร็จแบบสลด
 :katai1:
รักเขาแต่ทำร้ายเขา แล้วเขาจะรักตอบได้ยังไง

 :เฮ้อ:

 :pig4:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #181 เมื่อ26-06-2014 18:44:57 »

วันนี้... แค่มีเธอ
บทที่ ๔


“เธออยากได้อะไร”

“ม้าตัวใหม่ดีไหม”

“ชอบรึเปล่า”

ไม่ว่าจะอยากได้หรือไม่ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ สุดท้ายแล้วอานนท์ก็ได้ม้าสีขาวปลอดพันธุ์ดี ชั้นเลิศ สง่างามและราคาแพงลิบมาไว้ในครอบครองอยู่ดี แต่เขาไม่เคยขี่มันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

เจ้าชายศีลวัตไม่เคยทรงบังคับขืนใจเขาอีก ไม่ได้สั่งให้เขาใช้มือหรือใช้ปากถวาย ไม่มีการสั่งให้เขาช่วยตัวเองให้ทอดพระเนตร รวมทั้งไม่ได้เสด็จไปฝ่ายในเลยตลอดสองเดือน

สองเดือนหลังจากคืนนั้น อานนท์กลับเป็นเด็กชายวัยสิบขวบที่เคยปิดใจจากคนรอบข้างอีกครั้ง เขาพูดเท่าที่จำเป็น ไม่ยิ้ม ไม่มีสีหน้าอ่อนโยนให้ใครเห็น สีหน้าเดียวคือเฉยชาราวกับไร้ความรู้สึก แม้ขณะที่เจ้าเหนือชีวิตประทานจูบ





เจ้าชายศีลวัตโปรดปรานการจูบองครักษ์คนสนิทของพระองค์มาก ไม่มีวันไหนที่ไม่ทรงจูบอีกฝ่าย วันดีคืนดีก็โปรดให้เขามานอนร่วมพระที่ กอดเขาไว้ในอ้อมพระพาหา ลูบไล้ เล้าโลม ทว่าเมื่ออีกฝ่ายนอนนิ่ง ยอมให้กระทำโดยไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ พระองค์ก็ทรงข่มกลั้นพระอารมณ์ปรารถนาลงอย่างยากเย็น แล้วนอนกอดอีกฝ่ายไว้เฉยๆ ตลอดทั้งคืน

บางคืน ก็เป็นพระองค์เองที่เป็นฝ่ายเสด็จเข้าไปในห้องขององครักษ์หนุ่ม แล้วทำแบบเดียวกับที่เคยทำเมื่ออีกฝ่ายนอนอยู่บนพระที่ของพระองค์

ครั้งหนึ่งเมื่อองครักษ์หนุ่มต้องถวายงานในห้องสรงไม่ต่างจากสมัยเมื่อยังเป็นมหาดเล็ก เจ้าชายศีลวัตตรัสสั่งให้เขาอาบน้ำพร้อมกัน ครั้งนั้นเขาเกือบจะต้องเสียตัวอีกหน

“ให้ฉันเข้าไปได้ไหม”

เมื่อเขาไม่ตอบ พระองค์ก็ทรงจูบ แล้วถูไถท่อนลำแห่งความปรารถนาของพระองค์กับสะโพกของเขา เสียดสีอยู่เพียงแค่ภายนอกโดยไม่รุกล้ำ ถึงกระนั้นคนถูกกระทำก็รู้สึกว่าซอกหลืบบริเวณนั้นร้อนเป็นไฟ ถูกครอบงำด้วยตัณหาราคะไม่ต่างจากส่วนหน้าที่แข็งชันและร้อนระอุอยู่ในอุ้งพระหัตถ์

“ไปพร้อมกันนะ”

เขาเป็นองครักษ์ ต้องทำตามพระบัญชาเสมอ แต่ไม่รู้ว่าทำไม แม้แต่เรื่องเช่นนี้ก็ยังถูกทำให้เป็นไปตามรับสั่งของพระองค์ได้







“ลูกไม่ได้ไปฝ่ายในมาหลายเดือนแล้วนะ เบื่อนางพวกนั้นแล้วหรือศีลวัต”

พระนางเรวดีเสด็จมาถึงพระตำหนักของพระโอรสเพียงเพื่อรับสั่งถึงเรื่องนี้

“ช่วงนี้หม่อมฉันงานยุ่งพระเจ้าค่ะ”

คิดจะแข่งขันชิงดีกับเจ้าชายรัชทายาทแห่งเรืองอรุณไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าชายที่แม้จะทรงฉลาดเฉลียวแต่ก็เคยเกเรไม่เอาไหนมามากอย่างพระองค์ต้องทรงพยายามให้มากเป็นพิเศษ เพราะอีกฝ่ายทรงทำผลงานนำหน้ามาก่อนแล้วถึงห้าปี พระนางเรวดีซึ่งทรงทราบเรื่องแทบทุกเรื่องในพระบรมมหาราชวังทรงทราบดีว่าพระโอรสต้องทรงเพียรพยายามมากเพียงใดเพื่อจะได้มีผลงานให้เป็นที่ประจักษ์และชื่นชมของเจ้าหลวง รวมทั้งบรรดาข้าราชบริพารทั้งหลาย เพียงแต่เรื่องผู้หญิงก็เป็นเรื่องจำเป็นซึ่งจะทิ้งร้างเสียไม่ได้

มีเจ้าแผ่นดินองค์ไหนบ้างที่ยิ่งใหญ่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพามืออันบอบบางของผู้หญิงเลย

“ยุ่งแค่ไหนก็ควรจะแบ่งเวลาไปให้พวกนางบ้าง เรายังต้องอาศัยพ่อของพวกนางในวันข้างหน้า ควรจะเอาใจลูกสาวไว้ให้มาก ถือเสียว่าเป็นการผ่อนคลายไปในตัว”

“เอาไว้หม่อมฉันจะหาเวลาไปก็แล้วกันพระเจ้าค่ะ”

“ให้จริงเถอะจ้ะ ไม่ใช่แค่พูดตัดรำคาญแม่เท่านั้นนะศีลวัต”

พระโอรสทรงพยักพระพักตร์ส่งๆ ไป มีหรือพระมารดาจะไม่ทรงทราบ

“หรือถ้าเบื่อพวกนางแล้ว จะหาคนใหม่แม่ก็ไม่ว่า”

“หม่อมฉันยังไม่อยากได้สนม”

ทำไมอานนท์ยังไม่กลับมา

“หรือว่าถูกใจลูกสาวขุนนางคนไหนเข้า คิดจะตบแต่งจริงจัง”

“หม่อมฉันทูลแล้วว่ายุ่งมาก ไม่มีเวลาคิดเรื่องแต่งงานหรอกพระเจ้าค่ะ”

“เอาเถอะ ไม่มีก็ไม่มี ยังไงก็อย่าลืมไปหานางสนมของลูกบ้าง”







“ฉันคงจะต้องไปฝ่ายในบ้าง”

ปฏิกิริยาอันน้อยนิดของคนในอ้อมกอดเพียงพอแล้วที่จะทำให้คนบรรทมซ้อนหลังอยู่พระทัยชื้นขึ้นมา เจ้าชายหนุ่มทรงกอดคนของพระองค์ไว้แน่นขึ้น

“อยากให้เธอเข้าใจว่าฉันจำเป็นต้องทำ วันนี้ตาเฒ่ากลาโหมไม่พูดสนับสนุนฉันในที่ประชุมเลย แล้วยังถามถึงหลานสาว บอกว่านางมีจดหมายไปบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากจะกลับไปอยู่บ้าน ผู้หญิงคนนี้ฉันรู้อยู่แล้วว่าร้ายกาจ สักวันหนึ่งฉันจะลงโทษเสียให้สาสม”

ตลอดเวลา อานนท์ไม่พูดอะไรเลย แต่สะดุ้งขึ้นเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายทรงขบใบหู

“จะอนุญาตให้ฉันไปไหม”

จู่ๆ คนที่ทำหน้าตายมานานหลายเดือนก็นึกอยากจะหัวเราะขึ้นมา แต่แรกก็รับสั่งบอกมาแล้วว่าคงจะต้องไป จำเป็นต้องไป แล้วยังจะมาตรัสถามเขาทำไม

เขาเป็นใคร มีอำนาจอะไรไปห้ามพระองค์ได้

“ถ้าเธอไม่อยากให้ไป ฉันก็จะไม่ไป”

“เสด็จไปเถอะพระเจ้าค่ะ”

“ทำไม”

พระสุรเสียงห้วนสนิท นี่ล่ะ เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่พอพระทัยได้ทั้งนั้น

“เพื่ออำนาจ”

คนบรรทมซ้อนหลังทรงนิ่งอึ้งไปหลายอึดใจ ก่อนจะทรงขยับพระหัตถ์ลูบไล้ สอดผ่านเข้าไปใต้เสื้อนอนขององครักษ์คนสนิท สะกิดตุ่มไตเล็กๆ บนหน้าอก แล้วก็หมุนวนไปมาอย่างปลุกเร้า

“ถ้าเธอไม่ว่า ฉันก็จะไป”

ขณะที่ยอดอกข้างหนึ่งถูกบดบี้ ใบหูก็ถูกกัดเบาๆ ก่อนจะถูกเลียซ้ำอย่างเชื่องช้า อานนท์รู้ตัวแล้ว ว่าคืนนี้จะไม่เหมือนคืนที่ผ่านมา

“ฉันจำเป็นต้องสร้างฐานอำนาจ แต่วันใดที่ฉันเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน เธอจะเป็นรองแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น”

ไม่มีวันนั้นสำหรับฝ่าบาทหรอกพระเจ้าค่ะ... คนฟังคิด แต่ไม่ได้พูด

“ก่อนที่ฉันจะต้องไปหาคนอื่น เธอก็ยอมเป็นของฉันเถอะนะ”

บทเพลงแห่งความหฤหรรษ์แต่เพียงฝ่ายเดียวเริ่มต้นขึ้นแล้ว แม้จะไม่มีคำตอบจากคนถูกถาม

อนาคตข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่คืนนี้...



...ก็คงจะยาวนานไม่แพ้กัน







เมื่อมีครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อๆ มาก็ไม่ใช่เรื่องยาก ทุกครั้งก่อนที่เจ้าชายศีลวัตจะเสด็จฝ่ายใน อานนท์จะต้องถวายงานเสียก่อน และเกือบทุกครั้งที่พระองค์เสด็จกลับมาแล้ว เขาก็ต้องถวายงานซ้ำอีก ดีอยู่อย่างเดียว คือเขาไม่ต้องตามเสด็จไปฝ่ายในแล้ว ผู้ที่ทำหน้าที่ถวายอารักขาในเวลานั้นตอนนี้คือองครักษ์หญิงที่พระราชชายาทรงไว้วางพระทัย เรื่องนี้เจ้าชายศีลวัตตัดสินพระทัยเองโดยที่อานนท์ไม่ได้ทูลขอ

อย่างไรก็ดี คืนที่เจ้าชายหนุ่มเสด็จไปฝ่ายใน เขามักจะนอนไม่ค่อยหลับเสมอ

ครึ่งคืน ค่อนคืน หรือบางทีก็รุ่งเช้า เมื่อพระองค์เสด็จมาและตักตวงเรียกร้องเอาจากร่างกายเขาแล้ว ก็จะทรงกอดเขาที่เนื้อตัวเปลือยเปล่าเอาไว้นิ่งๆ แล้วกระซิบถามอยู่ข้างหูด้วยคำถามติดพระโอษฐ์

“เธอชอบอะไร”

“มีอะไรที่เธอชอบบ้างไหม อานนท์”

เขามักจะไม่ตอบ แต่เมื่อถูกรุกเร้าหนักเข้า คำตอบเดียวตลอดกาลก็คือ

“ไม่มีพระเจ้าค่ะ”

ถึงกระนั้นเขาก็ยังได้รับอะไรใหม่ๆ เสมอ ที่ทับกระดาษรูปสิงโตในห้องทำงานของเขาแกะสลักจากหยกเนื้อดีทั้งก้อน โคมไฟเป็นทองคำ แจกันประดับเป็นเครื่องเบญจรงค์ ผ้าที่ใช้ตัดเย็บเครื่องแบบของเขาเป็นผ้าเนื้อเดียวกับพระภูษาที่ใช้ตัดฉลองพระองค์ ช่างตัดเย็บก็เป็นคนคนเดียวกัน ผลไม้นอกฤดูกาลที่มีราคาแพงลิบลิ่ว เขาก็มีกินอยู่ไม่ได้ขาด แต่อานนท์ก็รู้ ว่ากับพระสนม พระองค์ก็ประทานของรางวัลให้อย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

พระสนมก็นับเป็น ‘เมีย’ เช่นกัน ได้รับของกำนัลจากพระองค์ก็สมควรแล้ว ไม่เหมือนกับเขา ที่พระองค์ทรงจ่ายค่าตัวให้ทุกครั้งที่ใช้บริการ... ราวกับเป็นโสเภณี

... ถ้ามีโอกาสได้เรียนหนังสือ ก็ต้องตั้งใจเรียนให้มากๆ นะ อานนท์ จะได้ไม่ต้องลำบาก ใช้ร่างกายแลกกับเงิน บางคนอาจจะพูดว่าผู้หญิงที่ทำอาชีพอย่างนี้สบาย ไม่ต้องทำงานหนักก็มีกินมีใช้ ได้แต่งตัวสวยๆ ทุกวัน แต่เขาไม่ได้คิดหรอก ว่าคนที่แม้แต่ความทุกข์ก็แสดงออกมาทางสีหน้าไม่ได้ ต้องกลืนเข้าไปในอกแล้วฝืนยิ้มแย้มทั้งที่อยากจะร้องไห้ มันทุกข์ทรมานแค่ไหน...

... ฉะนั้นอย่าไปดูถูกเหยียดหยามเขา...

เขาไม่เคยดูถูกใคร สมเพชก็เพียงแต่ตัวเองเท่านั้น

กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังคิด ว่าต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกหรือ ถึงจะหลุดพ้นจากการใช้ร่างกายแลกกับข้าวของเงินทองที่ไม่เคยอยากได้







ในวันที่เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณเสด็จออกนอกวังและอานนท์ไม่ได้เป็นเวรตามเสด็จ พระราชชายาเสด็จมายังพระตำหนักของพระโอรส ทำทีว่าเสด็จมาทรงเยี่ยมเจ้าของพระตำหนัก ทว่าจุดมุ่งหมายที่แท้จริงอยู่ที่องครักษ์คนสนิทของพระโอรส

ความลับไม่มีในโลก เรื่องนี้อานนท์รู้อยู่แล้ว เขาจึงไม่แปลกใจนักเมื่อพระนางเรวดีรับสั่งอย่างไม่อ้อมค้อมว่าพระองค์ทรงทราบว่าเขาต้องถวายงานพิเศษแบบไหน

“ศีลวัตงานยุ่ง ฝ่ายในก็อยู่ไกล เขาจะใช้องครักษ์ของตัวเองเป็นที่ระบายความเครียดบ้างฉันก็ไม่ว่าอะไร ไม่แปลกใจเลยสักนิดเพราะลูกฉันก็ดูจะถูกใจเธอมาตั้งแต่เมื่อก่อน ทั้งที่ฉันไม่เคยเข้าใจเลยว่าเขาถูกใจอะไรเธอ”

ใช่เพียงแต่ถ้อยรับสั่งเท่านั้น แม้แต่สายพระเนตรก็กวาดทอดตลอดตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อค้นหาตำแหน่งแห่งหนในตัวของอีกฝ่ายที่พระโอรสโปรดปราน

“ส่วนเธอ จะเอาดีทางลัดแบบนี้ฉันก็ไม่ถือสา เพียงแต่เธอต้องรู้ขอบเขตของตัวเอง เธอเป็นผู้ชาย พยายามให้ตายยังไงก็มีลูกเหมือนผู้หญิงไม่ได้ ศีลวัตจะต้องเป็นใหญ่ในวันข้างหน้า เขาต้องผูกใจพวกขุนนางเอาไว้ให้มาก ยิ่งถ้ามีลูกกับลูกสาวขุนนางที่มีอำนาจ ความสัมพันธ์ก็จะยิ่งแน่นแฟ้น เธออยู่ข้างกายเขา เป็นที่โปรดปรานขนาดนี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ดิบได้ดี เป็นเมียของเจ้าชายจะต้องใจกว้าง ใจคอคับแคบจะอยู่ไม่ยืน เพราะฉะนั้นจงแสดงความใจกว้างของเธอให้เขาเห็นเสียตั้งแต่วันนี้ วันหน้าไม่ว่าเขาจะมีลูกกับผู้หญิงอีกกี่คน เขาก็คงจะไม่ทอดทิ้งเธอเป็นแน่”

อานนท์รับฟังประโยคเหล่านั้นเข้าหูด้วยสีหน้าเรียบเฉย บอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร ที่สะดุ้งในใจขึ้นมาวูบหนึ่งตอนที่ได้ยินคำว่าเมีย ก็เพราะว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้อยู่ในสถานภาพนั้น

“ที่ฉันพูดมาทั้งหมดหวังว่าเธอจะเข้าใจ”

“กระหม่อมเข้าใจพระเจ้าค่ะ”

“ดี แล้วก็ไม่ใช่แค่เข้าใจเฉยๆ ต้องทำให้ได้ด้วย ศีลวัตปฏิเสธท่าเดียว ไม่ยอมให้นางสนมคนไหนมีลูกเลย เธอต้องเกลี้ยกล่อมให้เขายอมให้ได้ จะใช้มารยาท่าไหนก็ต้องทำ อ้อ ลูกคนแรก ถ้าได้จากมนัสวีก็จะดี หลานสาวเสนาฯ กลาโหมคนนี้ดูท่าลูกชายฉันจะถูกใจ หลังๆ มานี่ไปฝ่ายในทีไรก็เรียกหาแต่คนนี้”

มนัสวี... อานนท์ไม่ได้ตั้งใจเลย แต่ชื่อนี้ก็ฝังหัวเขาไปเสียแล้ว








“คืนนี้ฉันจะไปฝ่ายในนะ”

เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณรับสั่งบอกองครักษ์คนสนิทของพระองค์ทุกครั้งด้วยสีพระพักตร์เกรงใจราวกับจะขออนุญาต ทุกครั้งอานนท์ทูลรับว่าพระเจ้าค่ะเพียงคำเดียวด้วยสีหน้าเฉยเมย ทว่าคราวนี้องครักษ์หนุ่มกราบทูลเรียบๆ ว่า

“วันนี้เป็นเวรของกระหม่อมพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายหนุ่มแปลกพระทัย

“เธอ... จะไปด้วยหรือ”

อานนท์ไม่ได้ทูลตอบ แต่เพราะอยู่ด้วยกันมานานร่วมสิบปีแล้ว ทั้งยังเคยชินกับการสังเกตสีหน้า อารมณ์ความรู้สึกของอีกฝ่ายอยู่เสมอ เจ้าชายหนุ่มจึงทรงทราบว่าการนิ่งเฉยคราวนี้หมายถึงการตอบรับ แม้จะประหลาดพระทัย แต่สิ่งใดที่เป็นความต้องการของอานนท์ พระองค์ก็พร้อมจะประทานให้เสมอ

เว้นไว้แต่เพียงเรื่องเดียว







คืนนี้ อานนท์ได้รู้จักหญิงสาวที่ชื่อมนัสวีแล้ว แน่นอนว่าเขาเคยรู้จักนางมาก่อน เคยเห็น เคยได้ยินบทรักระหว่างนางกับเจ้าชายศีลวัตแล้ว เพียงแต่ผู้หญิงคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพัฒนาการได้อย่างรวดเร็วเกินกว่าคนอย่างเขาจะคาดคิดถึง มนัสวีในวันนี้จึงแตกต่างจากมนัสวีคนก่อนที่เขาเคยรู้จัก

นางสะสวย นางเย้ายวน ปราศจากความเขินอายอย่างสิ้นเชิง และแม้จะมองเห็น ก็ทำราวกับเขาไม่มีตัวตนอยู่ในห้อง

นางออดอ้อน นางอ่อนหวาน นางช่างเอาอกเอาใจ และทำทุกอย่างถวายอย่างเต็มอกเต็มใจ ผู้ชายคนหนึ่งปรารถนาอะไรจากผู้หญิงที่เปลือยกายอยู่ด้วยกันบนเตียงในยามค่ำคืนเล่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์เพศชายปรารถนาจากผู้หญิงในยามร่วมรัก

มนัสวีล้วนมี

อานนท์ละสายตาจากนางไม่ได้เลย

ขณะเดียวกัน เจ้าชายศีลวัตก็ไม่ได้ทอดพระเนตรมาทางเขาเลย พระองค์เอนองค์ลงบรรทมในท่าที่สบายที่สุด และปล่อยให้พระสนมคนงามถวายงาน ปรนเปรอความสุขสำราญให้อย่างเต็มความสามารถ

ครั้งหนึ่ง เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณเคยรับสั่งว่าจะประทานโทษทัณฑ์ให้ผู้หญิงคนนี้อย่างสาสม คืนนี้อานนท์ได้เห็นแล้ว ว่าพระองค์ประทานโทษทัณฑ์เช่นไรให้แก่นาง

การตีแก้มก้นขาวผ่องติดๆ กันดังสนั่น และขยับพระวรกายสวนขึ้นอย่างรุนแรงจนนางร้องครางลั่นห้องนั่นอย่างไรเล่า

เขาไม่เคยรู้เลย ว่าเจ้าชายศีลวัตโปรดการร่วมรักด้วยความรุนแรงเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร เพราะเวลาที่ทำกับเขา นอกจากครั้งแรกที่หอนารีแล้ว พระองค์ก็มีแต่ทรงอ่อนโยนกับเขาเสมอมา

จังหวะหนึ่ง คนที่โยกกายอย่างเร่าร้อนอยู่เหนือพระวรกายก็มองตรงมาทางเขา ก่อนจะยกยิ้มมุมปากให้อย่างคนที่รู้ตัวดีว่าเหนือกว่า

“ว้าย! ฝ่าบาท”

หญิงสาวหวีดร้องเมื่อถูกพลิกตัวไปอยู่เบื้องล่าง

อานนท์สะดุ้งเมื่อจู่ๆ เจ้าของสายพระเนตรคมกล้าก็พุ่งตรงมาราวกับลูกธนู

“อ๊ะ! ฝ่าบาท! จะเสด็จไปไหนเพคะ ฝ่าบาท”

ผ้าม่านโปร่งบางเหนือหัวเตียงถูกกระชากจนขาดออก หยาดน้ำที่ยังค้างอยู่บนแก้มขององครักษ์ประจำพระองค์คนสนิททำให้เจ้าชายหนุ่มทรงทราบว่าเมื่อครู่นี้แสงไฟไม่ได้ลวงตา

“ร้องไห้ทำไม”

อานนท์ยืนตัวแข็งอยู่ในท่าผงะ เขายังงุนงงอยู่ ไม่ต่างจากพระสนมคนงามที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เวลานี้ส่วนกึ่งกลางพระวรกายของเจ้าชายศีลวัตยังประกาศความปรารถนาอันแรงกล้า ซ้ำยังเปรอะเปื้อน เปียกชื้น แต่พระองค์กลับทรงยืนอยู่ตรงหน้าเขา แทนที่จะอยู่บนเตียง

“ว่ายังไง เธอร้องไห้ทำไม บอกฉันซิ อานนท์”

แขนสองข้างถูกบีบไว้แน่น องครักษ์หนุ่มไม่เจ็บ แต่เขายังพูดอะไรไม่ออก

ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เขาถูกพระราชชายาสั่งเฆี่ยนตอนอายุสิบเอ็ดขวบ เขาก็ไม่เคยเห็นเจ้าชายศีลวัตทรงร้อนรนกระวนกระวายจนน่าขำขนาดนี้อีกเลย แปลกที่แม้จะน่าขำถึงขนาดนี้แล้วแต่เขาก็ยังขำไม่ออก

“กระหม่อม...”

“จะมีอะไรเล่าเพคะ นอกจากเรียกร้องความสนพระทัย” คนกราบทูลเดินนวยนาดลงมาจากเตียง

“หุบปาก!”

“แต่ว่า...”

“ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ปรานี”

อานนท์ขยับตัว เขาสูดลมหายใจเข้าลึก และพยายามไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสายพระเนตรอาทรห่วงใยที่เห็นอยู่ตรงหน้า

“กระหม่อมไม่ได้เป็นอะไรพระเจ้าค่ะ”

“จะโปรดให้เขามาร่วมกับเราด้วย หม่อมฉันก็...”

“ใครอยู่ข้างนอก เข้ามา!”

นางพระกำนัลร่างใหญ่สองนางรุดเข้ามาตามรับสั่ง

“ลากตัวผู้หญิงคนนี้ออกไป ตบปากให้หนัก อย่าหยุดจนกว่าฉันจะสั่ง”

“รับด้วยเกล้าฯ เพคะ”

“ไม่นะเพคะ! ฝ่าบาท! หม่อมฉันผิดไปแล้ว ฝ่าบาท ประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วย”

องครักษ์หนุ่มยกมือขึ้นแตะพระพาหา ดวงพระเนตรวาวโรจน์ด้วยความกริ้วแปรเปลี่ยนเป็นอาทรได้อย่างเหลือเชื่อเมื่อหันกลับมามอง

“กระหม่อมขอประทานอภัยโทษแทนพระสนมพระเจ้าค่ะ”

เขาไม่เคยอยาก ไม่เคยรู้สึกยินดี หากว่าพระองค์จะทรงโหดร้ายกับคนอื่นเพื่อเขา อีกอย่าง พระสนมมนัสวีก็เป็นหลานสาวคนโปรดของเสนาบดีกลาโหม หากลงโทษนางสาหัส ย่อมมีปัญหากับเสนาบดีผู้เฒ่าแน่

“ได้ เธอขอ ฉันก็ให้”

สำหรับอานนท์ ไม่จำเป็นต้องตรัสถามเหตุผล ขอเพียงเขาออกปากทูลขอ ไม่ว่าอะไรพระองค์ก็ทรงยินดีจะประทานให้

“ยังไม่เอาตัวออกไป”

นางพระกำนัลสองนางรีบปฏิบัติตามรับสั่งทันที พระสนมมนัสวีไม่ปริปากกราบทูลอะไรอีกแม้แต่คำเดียว

“ไม่มีใครแล้ว ทีนี้บอกได้รึยังว่าร้องไห้ทำไม”

“กระหม่อมจะไปเอาฉลองพระองค์คลุมมาถวายพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายหนุ่มทรงยอมให้องครักษ์ประจำพระองค์ทำตามที่พูดแต่โดยดี อานนท์เดินไปหยิบฉลองพระองค์คลุมที่แขวนอยู่มาสวมถวาย ทั้งยังก้มหน้าผูกเชือกถวายอย่างเรียบร้อยตามความเคยชิน

สะท้านใจขึ้นมาเฮือกหนึ่งเมื่อถูกจับจูงให้ไปที่เตียง ทั้งที่ถูกแตะต้องมากกว่านี้ยังไม่หวั่นไหว พระหัตถ์ก็ขนาดเท่าๆ กับมือของเขา แต่กลับให้ความรู้สึกว่าใหญ่โตกว่ามาก

เจ้าชายศีลวัตทรงดึงมือของอีกฝ่ายให้นั่งลงเคียงข้าง อานนท์ผงะไปนิดหนึ่งเมื่อพระองค์ทรงยกพระหัตถ์ขึ้น แต่แล้วก็ยอมนั่งนิ่งให้พระองค์ทรงลูบแก้มที่แห้งสนิทไปแล้วแต่โดยดี

“เสียใจที่ฉันกอดคนอื่นหรือ”

“ไม่ใช่พระเจ้าค่ะ!”

เขาไม่ทันได้คิดด้วยซ้ำ แต่ก็ทูลตอบไปแล้วอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าถ้าตอบช้ากว่านี้จะประสบกับความหายนะ

“แล้วร้องทำไม”

คำถามเดิมๆ แต่พระองค์ตรัสถามซ้ำๆ ได้โดยไม่ทรงรำคาญ ทั้งที่ไม่ได้คำตอบจริงๆ เสียที

“กระหม่อมไม่ทราบพระเจ้าค่ะ”

“ไม่รู้ว่าร้องทำไม หรือไม่รู้สึกตัวว่ากำลังร้องไห้”

คนถูกถามรู้ตัวดีว่าความจริงคืออย่างหลัง แต่กลับทูลตอบตรงข้าม

“ไม่ทราบเกล้าฯ ว่าร้องทำไมพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณทรงนิ่งเงียบเนิ่นนาน ทอดพระเนตรมองเพียงนิ่งๆ เท่านั้น ไม่ได้คาดคั้นอะไรเลย แต่องครักษ์ประจำพระองค์คนสนิทกลับหลบสายพระเนตร

“เธอชอบฉันใช่ไหม”

เคยตรัสถามมาหลายอย่างแล้ว ทั้งของกิน ของใช้ ของตกแต่ง ของดูเล่น แต่ไม่เคยคิดจะตรัสถามคำถามนี้เลย เพราะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้ ความหวังพลันลุกโชนจนพระทัยเต้นโลดรุนแรง

“กระหม่อม...”

รอคอยอย่างตื่นเต้น จนแม้จะหายพระทัยก็ยังไม่กล้า

“ไม่บังอาจพระเจ้าค่ะ”

อยากจะแผดพระสุรเสียงอาละวาดให้ลั่นพระตำหนักอย่างเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ อย่างที่เคยทรงทำเสมอเมื่อไม่ได้ดั่งพระทัย ทว่าวันเวลาที่จะทรงทำเช่นนั้นได้ล่วงเลยมานานแล้ว เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณจึงได้แต่ทรงข่มกลั้นพระอารมณ์

เก็บกัก กลบฝังความผิดหวังเอาไว้ให้ลึกที่สุด
.
.
.
.
.
.
“งั้นก็กลับกันเถอะ”



tbc.

******************************

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #182 เมื่อ26-06-2014 18:46:27 »

fuku – ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวอานนท์ (กับพระสนมอีกหลายนาง?) ได้เป็นม่ายกันพอดี

Sar2288 – รักมาก แต่แสดงออกแบบผิดๆ ล่ะมั้งคะ ชุนคิดว่า ปัญหาจริงๆ คือสองคนนี้เขาเป็นเหมือนกันตรงที่ “ไม่พูด” ในเรื่องที่ควรจะพูด ส่วนตัวชุนเอง... ใช่เลยค่ะ ชอบคนมีความพยายาม ^^

teatimes – ตอนนี้เหมือนแย้มคำตอบนิดนึงเนอะ คือว่า ชุนไม่ชอบให้ตัวละครมีปัญหาเรื่องลูกน่ะค่ะ ก็เลยไม่ให้มี ส่วนเหตุผลในเรื่องก็คือ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องทายาทตัวจริง เจ้าชายจะเป็นคนอนุญาตน่ะค่ะ ว่าจะให้ใครมีลูกได้หรือไม่ให้มี ภีมเสนเขาเป็นรัชทายาท เลยต้องระวัง ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าลูกคนแรกจะให้เกิดจากเมียคนไหนดี (เท่ากับว่าต่อไปผู้หญิงคนนั้นจะได้เป็นรานีด้วย) ก็เจอศวัสซะก่อน ส่วนศีลวัตก็ ประมาณว่า แตกนอก แล้วก็ให้องครักษ์ที่ไว้ใจได้จัดการเรื่องให้สนมได้ดื่มยากันท้อง ทำนองนั้นค่ะ (แต่ว่าไม่ได้กล่าวถึง ไม่เป็นไรเนาะ)

lizzi – เมื่อความหึงและความหื่นเข้าตา สถานที่ก็หามีความสำคัญไม่ค่ะ (แถมยังไม่รู้สึกผิดเท่าไหร่อีกด้วย)

Inwoสูร – จะหนีรอดเร้อ อานนท์ ศีลวัตจับไว้แน่นขนาดนี้ ยากอยู่นะคะ แต่ก็ มีลุ้นอยู่ค่ะ

Iforgive – พูดได้ประโยคเดียวค่ะว่า ทำไมเดาเก่งอย่างเนนนนนนนนนนน้ ตามนั้นเลยค่ะ (นี่สินะ ที่เค้าเรียกันว่า สปอยลลลลล์)

ormn – ตอนนี้สงสารอานนท์ไปก่อนค่ะ วันหน้า อาจมีช่วงเวลาที่ได้สงสารศีลวัตบ้างล่ะ

Snowermyhae – ทบทวนดูแล้ว คิดว่า... น่าจะไม่มีโอกาสได้รู้ความรู้สึกของอานนท์แบบชัดๆ นะคะ ที่ชัดคือความรู้สึกของศีลวัต แต่ของอานนท์จะเป็นแบบ ให้คนอ่านเดาเองมากกว่าน่ะค่ะ ไม่พูดถึงชัดเจน

IsDeer – ความรัก... อาจจะยากสักหน่อยค่ะ แต่ความผูกพันก็คงจะทำให้... หวั่นไหว... มากขึ้นๆ (ถ้าศีลวัตทำตัวดีพอ แต่นิสัยก็แก้ยากเหลือเกิน แถมตัวละครของชุนยังเป็นประเภท ต้นเรื่องเป็นคนยังไง ท้ายเรื่องก็เป็นคนอย่างนั้น ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยสิคะ)

Phut – อ่านความคิดเห็นแล้วเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า เอ ถ้าอานนท์รักตอบนี่ ก็แสดงว่าจิตใต้สำนึกเป็นมาโซอยู่หน่อยๆ น่ะสิเนี่ย เริ่มอาจจะไม่ดี แต่ต่อไปคิดว่าน่าจะดีขึ้นนะคะ (มั้ง)

ตอนที่ ๔ นี้มี จุดห้า ด้วยนะคะ เป็นฉากหลังจากกลับถึงตำหนักแล้ว ไว้มาต่อพรุ่งนี้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2014 18:49:45 โดย ชุน »

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #183 เมื่อ26-06-2014 19:29:53 »

อานนท์รักเจ้าชายแหละ ใช่ไหมๆ
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง รักต้องห้ามสินะ :hao5:

ตอนนี้เจ้าชายมีมุมอ่อนโยน? เป็นไปได้!

แปลกใจกับที่อานนท์คิด ไม่มีวันนั้นสำหรับพระองค์

มันมีปม ต้องติดตาม ถึงจะเห็นสปอยจากเมนต์ก็เถอะ หุหุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2014 19:33:04 โดย Phut »

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #184 เมื่อ26-06-2014 19:30:01 »

โอยยยยยย!! หน่วง สงสารอานนท์เป็นที่สุด

ก่อนจะถามหาความรักจากเค้า บอกเค้าก่อนมั้ยองค์ชาย

ทำอย่างกับอานนท์เป็นโสเภณี อำนาจที่ได้มาพระองค์จะมีความสุขมั้ย

ซึม กับที่อานนท์คิดนะ ว่าต้องเรียนอะไรอีกเท่าไหร่ ถึงจะไม่ต้องเอาตัวเข้าแรก

สิ่งที่อานนท์อยากได้ คงเป็นศักศรี ให้บ้างเถอะ ให้อานนท์ได้ภูมิใจกับตัวเองบ้าง

ตอนนี้เกลียดศีลวัตจัง รักแต่ก็ทำร้ายได้อย่างเลือดเย็นที่สุด
 :pig4: นักเขียน

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #185 เมื่อ26-06-2014 20:44:33 »

คนสองคนรักกัน และรักกันมากกกกกกกก แต่ไม่เข้าใจกันเลย
และต่างฝ่ายต่างก็ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะรักตนเองด้วย
สงสารทั้งคู่ ศีลวัตทำทุกอย่างที่คิดว่าอานนท์จะพอใจ
อานนท์ยอมทุกอย่างเพราะคิดว่าชีวิตนี้ตัวเองไม่มีสิทธิทำอะไรเองได้
...
พระสนมร้ายนัก เดาว่าคงรู้เรื่องจากพระนางเรวดีเป็นแน่แท้
.... ได้แต่หวังว่า อานนท์จะได้อยู่กับศีล วัตไปจนแก่นะ
ตอนเลือกเชลยไม่ได้พูดถึง ชักหวั่นใจ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #186 เมื่อ26-06-2014 21:01:00 »

ยิ่งอ่านยิ่งสงสารอานนท์ เมื่อไหร่จะหมดเคราะห์ ได้หวานๆกันบ้าง

ออฟไลน์ puengkiss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #187 เมื่อ26-06-2014 21:13:54 »

สงสารเจ้าชายรักขัางเดียวไหมเนี้ย อานนท์เธอเป็นคนของรัชทายาทแน่ๆ ไม่นะอย่าหักหลังเจ้าชายเค้าน้าๆๆๆ :m31:

ออฟไลน์ saruwatari_guy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #188 เมื่อ26-06-2014 21:39:27 »

เฮ้อ เจ็บแทน เข้าใจความคิดเลย ไหนว่า จะ ทำโทษ ละไง ก็มีอะไรกับคนอื่น แบบ เต็มใจอยู่ดี หน่วงเบย

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #189 เมื่อ26-06-2014 21:48:31 »

 :hao5: สงสารทั้งคู่เลย
อานนท์ชีวิตก็น่าสงสาร ไม่กล้าอาจเอื้อมแม้จะรัก
ส่วนศีลวัตรักแต่ก็ต้องทำเพื่ออำนาจ

อยากจะให้ศีลวัตพาอานนท์หนีไปอยู่สองต่อสองจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
« ตอบ #189 เมื่อ: 26-06-2014 21:48:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #190 เมื่อ26-06-2014 22:42:43 »

 :hao5: :hao5: :hao5:รักของคู่นี้จะรันทดไปไหนนนนนนนนน :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #191 เมื่อ26-06-2014 23:47:44 »

ระหว่างสองคนนี้ บอกว่าผูกพันธ์ ยึดติด อยากครอบครอง มากกว่าจะรักอย่างเดียว
รักเป็นแค่เสี้ยวเดียวของทั้งคู่

นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทำร้ายอีกฝ่าย เย็นชา ไม่เข้าใจ

และไขว่ขว้าสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการเพื่ออะไรยังไม่รู้ด้วยซ้ำ

ฮ่วย สงสารอานนท์

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #192 เมื่อ27-06-2014 19:52:24 »

วันนี้... แค่มีเธอ
บทที่ ๔.๕


อานนท์รู้ดีว่าในยามที่เจ้าชายหนุ่มทรง ‘อารมณ์ค้าง’ มาจากฝ่ายในเช่นนี้ เขาจะต้องเผชิญกับอะไร เพียงแต่ผิดคาดที่แทนที่พระองค์จะทรงรุนแรงเร่าร้อน กลับทรงทำกับเขาอย่างนุ่มนวล สายพระเนตรที่ทอดมองลงมาทั้งจริงจังและดูเจ็บปวดอย่างประหลาด

ให้ความรู้สึกเศร้าเสียจนเขานึกอยากจะปลอบประโลมขึ้นมาอย่างแรงกล้า

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอ้าปากตอบสนองจูบของพระองค์ทั้งที่มีสติสมบูรณ์ ปฏิกิริยาที่แปลกไปแม้เพียงน้อยนิดกลับทำให้คนเบื้องบนทรงกระตือรือร้น มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างประหลาด

และแม้จะไม่ได้รับสั่งอะไร แต่สายพระเนตรตื่นเต้นราวกับได้เห็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่โตเช่นนั้นก็ทำให้คนถูกมองรู้สึกเขินอายขึ้นมาแปลกๆ ราวกับสาวน้อย

สิ่งหนึ่งที่เขาปฏิเสธไม่ได้ก็คือความรู้สึกสุขสมยามได้ร่วมรัก

แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ก็ตาม

แต่ความรู้สึกอิ่มเอมลึกล้ำในอกเช่นนี้เป็นความรู้สึกแปลกใหม่

และก่อนที่หัวใจของเขาจะรู้สึกแปลกมากไปกว่านี้... เขาต้องพูด

“ฝ่าบาท”

“หืม”

พระสุรเสียงอย่างนี้ แสดงว่ากำลังพระอารมณ์ดี แม้ว่าพระโอษฐ์และพระนาสิกที่เกลี่ยไปมาอยู่แถวๆ หลังหูของเขาจะไม่ค่อยดีเท่าไรก็ตาม

“เคยมีพระดำริจะมีพระโอรสหรือพระธิดาองค์น้อยๆ บ้างไหมพระเจ้าค่ะ”

เจ้าของอ้อมกอดที่พันธนาการตัวเขาไว้ทรงชะงักไป อานนท์เองก็รู้สึกเกร็ง ระมัดระวังตัวขึ้นมาทันทีเช่นกัน ทั้งยังไม่ยอมสบสายพระเนตร เมื่อพระองค์ทรงชะโงกพระพักตร์มามองหน้า

เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณไม่ใช่คนพระทัยเย็น แต่ยามที่พระองค์ทรงนิ่งเงียบเนิ่นนานเช่นนี้ คนคอยก็ใจคอไม่ดีเสียยิ่งกว่าตอนที่ถูกกริ้วเสียอีก

“วันที่ฉันไม่อยู่ เจ้าแม่พูดอะไรกับเธอ”

อา... ใครว่าคนที่เอาแต่หนีเรียนตั้งแต่เด็กจะกลายเป็นคนโง่กันเล่า

เจ้าชายศีลวัตทรงลุกขึ้นแล้ว อานนท์จึงจำต้องลุกขึ้นนั่งตาม องครักษ์หนุ่มหยิบเสื้อนอนขึ้นมาสวม และคนร่วมเตียงก็ไม่ได้ทรงว่าอะไร

“เรื่องแบบนี้เธอคิดเอง หรือเจ้าแม่สั่งให้เธอมาพูดกับฉัน”

“พระราชชายารับสั่งพระเจ้าค่ะ”

คนกราบทูลยังก้มหน้าก้มตาติดกระดุมเสื้อ ถ้าแม่ลูกจะทะเลาะกัน เขาก็ไม่เกี่ยวข้อง ที่จริงแล้วเขาไม่ควรจะเกี่ยวข้องมาตั้งแต่แรก

“เจ้าแม่จะรับสั่งอะไรเธอไม่ต้องสนใจ เธอเป็นคนของฉัน ฟังแต่คำสั่งของฉันเท่านั้นพอ”

“รับด้วยเกล้าฯ พระเจ้าค่ะ”

ใช่ว่าพระองค์จะไม่ทรงรู้สึกรู้สา เมื่ออีกฝ่ายกราบทูลด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยราวกับไร้ความรู้สึก แต่พระองค์ไม่ทรงทราบว่านอกจากประโยคนั้นแล้วจะต้องรับสั่งว่าอะไรจึงจะสื่อความหมายได้ตรงตามพระทัย

อานนท์เป็นของพระองค์... เขาเป็นของพระองค์เท่านั้น

เป็นมานานแล้ว และจะต้องเป็นตลอดไป

จนกว่าพระองค์จะไม่มีลมหายใจ

องครักษ์หนุ่มหันหน้าไปเผชิญพระพักตร์เมื่อพระหัตถ์ใหญ่คว้าคอแล้วดันให้ยื่นหน้าเข้าไปรับจูบ พระโอษฐ์อบอุ่นที่คุ้นเคยรุกรานเขาทั้งกายและใจ ค่อยๆ และเล็ม หยอกเย้า และกลืนกินเขาเข้าไปทีละน้อย จากจูบที่เนิบนาบ เชื่องช้า กลายเป็นดูดดื่มรุ่มร้อนตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

เมื่อพระองค์ทรงถอนพระโอษฐ์ออก อารมณ์ที่หลั่งไหลอยู่ในตัวก็เกือบจะกลายเป็นโหยหา

ลมหายพระทัยอุ่นๆ ยังรินรดใบหน้าของเขา ขณะเจ้าชายศีลวัตตรัสถามพระสุรเสียงเบา

“เธออยากให้ฉันมีลูกไหม”

ลมหายใจของคนถูกถามสะดุด อานนท์รีบปัดความรู้สึกปั่นป่วนออกจากใจ เขาพยักหน้า

“พระโอรสหรือพระธิดาองค์น้อยๆ คงจะทรง... น่ารัก”

พระพักตร์งามคมคายของคนคอยคำตอบบึ้งตึง สายพระเนตรขุ่นมัว ทว่าเพียงครู่เดียวก็ทรงยกมุมพระโอษฐ์ขึ้น ตรัสถามเยาะๆ

“อยากจะให้ฉันมีลูกกับใครล่ะ”

คราวนี้คนถูกถามนิ่งนาน ขยับปาก แล้วก็หุบนิ่ง ก่อนจะตัดสินใจ

“พระสนมวิไลเรขาพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายหนุ่มทรงพยักพระพักตร์ ไม่ตรัสถามเหตุผล

“ฝ่าบาท เดี๋ยวพระเจ้าค... อื้อ... อื้ม...”

อานนท์ถูกจูบอีกแล้ว คืนนี้เขาถูกจูบหลายครั้งจนปากบวม และครั้งนี้อีกฝ่ายก็คงไม่ทรงหยุดอยู่เพียงแค่จูบ เขาถูกผลักให้นอนลงอีกครั้ง เสื้อที่เพิ่งจะสวมเมื่อครู่นี้ถูกคนพระอารมณ์แปรปรวนทรงกระชากออกทีเดียวขาด กระดุมหลุดออกหมดทุกเม็ด ร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยร่องรอยของการร่วมรักทั้งเมื่อครู่และเมื่อครั้งที่ผ่านๆ มาปรากฏแก่สายพระเนตร

เขาไม่ใช่คนผิวขาว เนื้อตัวเป็นจ้ำแบบนี้มีตรงไหนน่าดูกัน

“รู้ไหม ฉันไม่เคยคิดจะมีความสุขเพียงคนเดียว อยากให้เธอมีความสุขด้วยทุกครั้ง ถ้าเธอบอกฉันว่าเธอเองก็มีความสุข ฉันคงจะมีความสุขมาก”

อานนท์ไม่พูดอะไรทั้งนั้น เขาไม่เคยแม้แต่ส่งเสียงร้องออกมาแม้ในเวลาที่เสียวกระสันสุดชีวิต และเจ้าชายศีลวัตก็ไม่ได้ทรงคาดหวังมากมายว่าอีกฝ่ายจะยอมพูด

“ไม่พูดก็ไม่เป็นไร แต่ครั้งนี้ฉันขอรุนแรงหน่อย เธอพูดเรื่องที่ฉันไม่อยากฟัง”

รับสั่งประโยคหลังไม่เข้ากับประโยคแรกๆ เลยแม้แต่น้อย ทว่าหัวใจของอานนท์เต้นแรงอย่างตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าตอนที่พระองค์รับสั่งว่าอยากเห็นเขามีความสุขเสียอีก

ภาพที่พระองค์ทรงรุนแรงกับหลานสาวของเสนาบดีกลาโหมยังติดตา ตกค้างในความรู้สึก

เพลิงพิศวาสโหมกระพือ ราวกับพระหัตถ์และพระโอษฐ์ของเจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณติดไฟ เคลื่อนไหวไปตรงไหนก็ปลุกเร้าความเสียวกระสันสั่นระริกให้ก่อกำเนิดได้อย่างไม่ยากเย็น พระองค์ไม่ได้ทรงโลมเล้าเขามากมายนัก ไม่นานสองขาของอานนท์ก็ถูกแหวกออกกว้าง เปิดโล่ง ช่องทางคับแคบถูกสอดชำแรกล้ำลึกจนเกือบสุดทางในคราวเดียว คนถูกสอดใส่เกือบจะหลุดเสียงร้องออกมาทว่ากัดปากไว้ได้ทัน

อานนท์หลับตาแน่น ก่อนจะลืมขึ้นอีกครั้งเมื่อเจ้าชายหนุ่มทรงลูบริมฝีปาก แวบเดียวที่เห็นแววอาทรอ่อนหวานอย่างไม่น่าเชื่อของอีกฝ่าย หัวใจของเขาก็พลันไหวสะท้าน ก่อนที่ตลอดทั้งร่างจะสะท้านหวั่นไหวเมื่อเจ้าชายหนุ่มทรงดึงมือที่ขยุ้มผ้าปูที่นอนของเขาให้ขึ้นไปโอบพระศอของพระองค์ไว้ ถอดถอนพระวรกายออกแล้วจ้วงแทงลงมาโดยไม่ปล่อยให้ตั้งตัว

เพลิงตัณหาลุกโพลง เผาผลาญร่างกายให้มอดไหม้ด้วยเชื้อปรารถนา สะโพกแน่นๆ ขององครักษ์หนุ่มถูกฟาดหนักๆ หลายครั้งติดกันราวกับจะลงทัณฑ์ คนถูกกระทำรุนแรงสั่นสะท้าน แก่นกายเบื้องหน้าเครียดระริกทั้งที่ไม่ได้ถูกแตะต้อง  ซาบซ่านสั่นกระสันไปทุกอณูเนื้ออย่างต่อเนื่องยาวนาน

เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นสายพระเนตรที่เปล่งประกายเจิดจ้าด้วยความเสน่หาอย่างไม่ปิดบัง เขาก็ถึงฝั่งอย่างฉับพลันและสั่นกระตุกอีกหลายครั้งด้วยความหวามใจลึกล้ำที่ยังตกค้าง

เจ้าชายศีลวัตทรงโน้มพระองค์ลงมาประทานจูบสั้นๆ ให้ครั้งหนึ่ง   รับสั่งพระสุรเสียงแหบพร่าทว่าหนักแน่นจริงจัง

“ถ้าเธออยากให้ฉันมีลูก ฉันก็จะมีลูก... กับเธอ”

“บ้า...” รับสั่งบ้าๆ

คนถูกด่าในเวลาที่ไม่คาดคิดทรงยกพระโอษฐ์ขึ้นขณะที่ยังทรงเคลื่อนไหวพระวรกายเนิบๆ

“กับเธอคนเดียวเท่านั้น อานนท์”   

อยู่ด้วยกันมานานแล้ว แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าอีกฝ่ายยิ้มแล้วหล่อเหลาจนลืมหายใจเช่นนี้มาก่อนเลย อารมณ์ปรารถนาของอานนท์เตลิดเพริด ลุกโชนขึ้นอีกอย่างง่ายดาย





tbc.

********************************



Phut – อานนท์รักศีลวัตมั้ย ก็... คงจะ ค่ะ แต่ตอนที่ร้องไห้นั่นไม่รู้ตัวจริงๆ นะคะ เขาไม่ได้มีความรู้สึกแรงกล้าอย่างศีลวัต แต่ถ้าให้เลือกระหว่างรัก กับไม่รัก ก็คงจะรัก (ล่ะมั้ง หุหุ)

Sar2288 – เนอะ เป็นชุน ถึงชุนชอบ ชุนก็ไม่บอกหรอก ตัวเองยังไม่เคยบอกเขาสักคำ ศีลวัตเขาก็คนตรงคนนึงนะคะ เขาพูดความรู้สึกของตัวเองได้หมดแหละค่ะ แต่ไม่ยักกะพูดคำนั้นสักที

iforgive – วิเคราะห์ได้แบบ ฉึก! ฉึก! ฉึก! มากค่ะ ตรงมาก ตอนรับเชลย มีพูดถึงนิดนึงนะคะ ตรงบทนำของพี่เขยน่ะค่ะ^^

Inwoสูร – คู่นี้เขาหวานๆ ขมๆ กันไปเรื่อยๆ นะคะ ความหวานขอให้เก็บเกี่ยวเอาระหว่างทางได้เลยค่ะ เพราะหลังจากจุดพีคของเรื่อง เฉลยทุกอย่างแล้วก็จะจบอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะไม่มีหวานส่งท้าย เพราะว่า service รายทางมาแล้วน่ะค่ะ

puengkiss – ดูจากตอนนี้แล้ว คาดว่าศีลวัตคงไม่ได้รักข้างเดียวล่ะค่ะ แต่กว่าจะเข้าใจตรงกันนี่ก็คงจะ... สักพัก ใหญ่ๆ เลยล่ะค่ะ

saruwatari_guy – หลังจากฉากนี้แล้ว คาดว่าความหน่วงจะคลายลง เพราะว่าถึงทำเหมือนกัน แต่ก็ด้วยความรู้สึกที่ต่างกันน่ะค่ะ (แต่ถ้าเป็นชุน ชุนก็ฝังใจนะ แล้วก็คงจะลืมยากด้วย)

IsDeer – หนีไปด้วยกันไม่ได้หรอกค่ะ ที่แน่ๆ คือ อานนท์ไม่ยอมหนีชัวร์ เขาก็มีเป้าหมายในชีวิตของเขาเองค่ะ หุหุ

ormn – คาดว่า... จะไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ จนกระทั่งบทสุดท้ายนะคะ เพราะฉะนั้น ขอให้เก็บเกี่ยวช่วงเวลาดีๆ เอาไว้เท่าที่จะเก็บได้เลยค่ะ

fuku – เป็นอีกความคิดเห็นหนึ่งที่ตรงใจนะคะ ชุนก็คิดว่า มันเป็นเรื่องของ ความผูกพัน ที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถแทรกแซงได้น่ะค่ะ (ในแง่ของความรู้สึกนะคะ แต่ที่จะแทรกแซงแน่ๆ ก็คือการเมือง)

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4) 26 มิ.ย. 57
«ตอบ #193 เมื่อ27-06-2014 20:08:52 »

มีพูดถึงอานนท์ตอนพี่เขยด้วยเหรอ เดี๋ยวจะย้อนกลับไปอ่านนะคะ

หุ หุ ชอบ4.5 จัง เป็นตอนที่อ่านอย่างมีความสุขนะ ถึงจะไม่สุดก็ตาม

ที่จริงแล้วอานนท์คงทั้งรักทั้งหวง แต่เป็นแค่องครักษ์งัย ก็เลยไม่กล้าเอ่ย คำนั้น

คนเป็นเชลย ยังรู้สึก มีสิทธิ์มากกว่า อย่างไทวา ที่ได้รับสิทธิ์พิเศษ เลยพูดได้ตรงๆ

อานนท์อยากลบรอย อยากให้ศีลวัต รุนแรงมากกว่านี้ ก็ลองส่งเสียงสักหน่อยจิ รับรอง

ศีลวัตดีใจตาย แค่อานนท์ตอยรับ นิดหน่อย กลับปลดปล่อยออกมาก็คงดีใจจะแย่แล้ว
 :pig4: นักเขียน รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อนะคะ
ไปอ่านมาแล้ว ตอนที่องค์ชายสามทูลขอไทวา
"พระองค์กลับเพียงแต่ปรายสายพระเนตรไปทางองครักษ์ประจำพระองค์คนสนิทแวบหนึ่ง" แวบเดียวจริงๆ จำไม่ได้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2014 20:25:35 โดย Sar2288 »

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #194 เมื่อ27-06-2014 20:27:32 »

ฮาาาา ชอบศีลวัตตอนนี้มากเลย เลือกอานนท์อย่างไม่ลังเล มั่นคงมาก เชียร์ให้พูดออกมาว่ารักกันเร็วๆ แต่คงจะไม่มีใครยอมพูด  :hao7:

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #195 เมื่อ27-06-2014 20:44:57 »

โฮกกกกคุณชุน กอดที ล้ำลึก รู้สึกบรรยายไม่ถูก

เหมือนกำแพงของอานนท์จะทลายลงทีละนิด เจ้าชายยยยหล่อมาก
ปกติไม่ชอบsmนะ แต่เรื่องนี้ทำให้เค้าเปลี่ยนจายยย ตั้งแต่เจ้าชายสามละ :heaven
 :L2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #196 เมื่อ27-06-2014 21:27:39 »

ศีลวัตชัดเจนมากกกกกกก ทะนุถนอมอานนท์ แต่ไม่ใช่อ้ะ อานนท์นางสาย M ฮ่ะ
ตายแล้ววววว ตาย ๆ ๆ ๆ ดี นะ ที่ ไม่ เจอกับองค์ชายสาม ไม่งั้นโป๊ะเชะเลย
.... ยิ่งอ่าน ศีล วัตยิ่งได้ใจค่ะ  ... รักแน่วแน่มากกกกกก

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #197 เมื่อ27-06-2014 21:35:04 »

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:หวังว่าคงจะไม่เศร้ามากแล้วนะ :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #198 เมื่อ27-06-2014 22:53:48 »

เค้าชอบประโยคนี้มากๆ "ถ้าเธออยากให้ฉันมีลูก...ฉันก็จะมีลูกกับเธอ...กับเธอแค่คนเดียว"  ประโยคนี้ทำกรี๊ดดด  :-[

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #199 เมื่อ27-06-2014 23:24:08 »

โอ๊ยเขิล เจอเจ้าชายหยอดเข้าไป
แบบนี้ค่อยน่าเป็นแม่ยกหน่อยนะศีลวัต ฮ่าๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
« ตอบ #199 เมื่อ: 27-06-2014 23:24:08 »





ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #200 เมื่อ28-06-2014 00:18:34 »

 :jul1: ว๊ายยยยยยย ขอเลือดด่วนเลยจ่ะ
เลือดจะหมดตัวเอา

ยังงี้ศีลวัตก็ต้องทำจนกว่าอานนท์จะท้องน่ะสิ  :z1:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 5) 28 มิ.ย. 57
«ตอบ #201 เมื่อ28-06-2014 15:48:51 »

วันนี้... แค่มีเธอ
บทที่ ๕


อานนท์ยังคงเป็นอานนท์ เขายังคงมีสีหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอ พูดน้อย และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เคยยินดีที่ต้องทำหน้าที่พิเศษที่แตกต่างจากองครักษ์คนอื่นๆ

แม้ว่าเวลาที่อยู่บนเตียง เขาจะกลายเป็นอีกคนหนึ่งก็ตาม

เจ้าชายศีลวัตก็ยังทรงเป็นเจ้าชายศีลวัตที่เอาแต่พระทัยของพระองค์เองไม่เคยเปลี่ยน นึกจะไม่เสด็จไปฝ่ายในอีกเลย พระองค์ก็ไม่เสด็จไปเสียดื้อๆ

และไม่มีเหตุผลประทานให้ใครทั้งนั้น

พระนางเรวดีเสด็จมาหาพระโอรสถึงพระตำหนักหลายครั้งเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เจ้าชายหนุ่มเสด็จไปหาพระสนมทั้งหลายบ้าง ทว่าเจ้าชายศีลวัตทรงทำหูทวนลมได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ส่วนอานนท์นั้นพระองค์ก็ไม่เคยทรงปล่อยให้อยู่ในพระตำหนักตามลำพังอีกเลย หากต้องเสด็จออกนอกพระราชวังก็จะโปรดให้อานนท์ตามเสด็จไปด้วยเสมอ ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นเวรขององครักษ์หนุ่มหรือไม่ก็ตาม

“เอาอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาเป็นใหญ่อย่างนี้ลูกจะเสียการใหญ่”

พระราชชายาเคยทรงเตือนพระโอรสด้วยพระอารมณ์เคร่งเครียดจริงจังหลายครั้งแล้ว ส่วนเจ้าชายศีลวัตก็เคยทูลถามพระมารดาครั้งหนึ่ง

“หม่อมฉันจำเป็นต้องเป็นเจ้าหลวงด้วยหรือพระเจ้าค่ะ”

ถึงตอนนี้ พระองค์ก็ชักจะทรงเลือนๆ ไปแล้วว่าตอนแรกพระองค์ปรารถนาจะแทนที่พระเชษฐาต่างพระมารดาเพราะอะไร

เพื่อจะได้มีอำนาจมากพอที่จะปกป้องคุ้มครองคนที่อยากจะปกป้อง... ใช่ไหม

ปกป้องจากใครเล่า ถ้าไม่ใช่พระมารดา

ในเมื่อตอนนี้พระองค์ก็ทรงทำได้แล้ว ยังจะต้องแสวงหาอำนาจเพิ่มขึ้นอีกทำไม บรรดาพระสนมทั้งหลายที่มีอยู่ พระองค์ก็จะทรงหาทางปลดออกไปให้หมดในเร็วๆ นี้

“ถามอะไรเหลวไหลอย่างนั้นศีลวัต ลูกเป็นเจ้าชายแห่งเรืองอรุณเหมือนกับองค์รัชทายาท ความสามารถก็ไม่น้อยกว่าพระองค์ ไม่มีอะไรที่ด้อยกว่าพระองค์เลยสักอย่าง แล้วยังมีแม่เป็นถึงพระราชชายา เป็นใหญ่ที่สุดในฝ่ายในเวลานี้ คิดดูสิว่ามีอะไรไม่เหมาะสม ลูกเหมาะสมจะเป็นเจ้าหลวงมากกว่าองค์รัชทายาทเสียอีกนะศีลวัต”

พระมารดาคงไม่ทรงสังเกต ว่าแม้จะแค่รับสั่งถึง ก็ยังทรงเรียกอีกฝ่ายว่า ‘องค์รัชทายาท’ ทุกคำ

เจ้าชายศีลวัตทรงพยักพระพักตร์เอาใจพระมารดาและไม่เคยทูลถามเรื่องนี้อีก ทว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำจริงๆ ก็คือเร่งสร้างความดีความชอบเท่านั้นซึ่งไม่ได้ฝืนพระทัยแต่อย่างใดเลย






เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณไม่ทรงรับพระสนมคนใหม่ และไม่ได้เสด็จไปฝ่ายในเลยตลอดสามปีต่อมา แม้จะมีคนรู้หลายคนว่าเป็นเพราะโปรดปรานแต่องครักษ์ประจำพระองค์คนสนิท แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดหรือแสดงความคิดเห็น

กระทั่งเจ้าชายหนุ่มมีพระชนมายุได้ยี่สิบห้าชันษา พระนางเรวดีก็ทรงดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย แต่แพทย์หลวงช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน เจ้าหลวงเสด็จไปทรงเยี่ยมถึงพระตำหนักและประทับอยู่ด้วยหลายคืนเพื่อเอาอกเอาใจ แต่แม้ว่าจะทรงรักและสงสารพระราชชายามากเพียงใด พระองค์ก็ยังไม่ทรงแต่งตั้งให้พระนางขึ้นเป็นองค์รานี

“ฉันให้สัญญากับแม่ของภีมเสนไว้แล้ว ว่าจะไม่ให้ใครแทนที่เขา”

คนที่ต้องเติมเต็มความปรารถนาของพระองค์จึงกลายเป็นพระโอรส

“ถ้าแม่ไม่ได้เป็นรานี แม่ก็ต้องได้เป็นพระราชมารดา”

เจ้าชายศีลวัตทรงทราบแล้วว่าเหตุใดพระมารดาจึงปรารถนาให้พระองค์ได้เป็นเจ้าหลวง

“ถ้าลูกไม่ช่วย ก็รอเห็นแม่ตายไปต่อหน้าได้เลย”






เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณไม่ทรงมีหนทางอื่นให้เลือก และความหวังที่จะให้เจ้าหลวงทรงเปลี่ยนรัชทายาทใหม่ก็ริบหรี่มาก      แผนการกำจัดเจ้าชายภีมเสนจึงเกิดขึ้น

“ให้อานนท์ไปทำ”

“เขาเป็นของหม่อมฉัน”

“เป็นอะไรของลูกล่ะ องครักษ์ หรือว่านางสนม”

“เจ้าแม่อย่าทรงหาเรื่องหงุดหงิดใส่หม่อมฉัน ที่หม่อมฉันไม่อยากให้เขาไป เพราะใครก็รู้ว่าเขาเป็นคนของหม่อมฉัน ถ้าพลาดแล้วถูกจับได้ เราจะพากันตายทั้งหมด”

พระมารดาทรงเม้มพระโอษฐ์

“แต่แม่ตัดสินใจแล้ว ลูกภูมิใจนักหนาไม่ใช่หรือว่ามีองครักษ์ฝีมือดี ให้มันไปทำงานนี้ ถ้าทำสำเร็จ แม่จะไม่ยุ่งเรื่องของลูกกับมันอีก จะเอาอกเอาใจมันยังไง หลงใหลมันแค่ไหนแม่ก็จะไม่ห้าม”

ข้อเสนอนี้เย้ายวนพระทัย

“แล้วถ้าไม่สำเร็จ”

“ลูกพร้อมจะตายไปกับมันไหมล่ะ”

พระองค์ทรงมีแผนรองรับอยู่แล้ว ที่ตรัสถามก็แค่ประชดเท่านั้น ไม่ทรงคาดคิดแม้แต่น้อย ว่าจะได้เห็นประกายอย่างหนึ่งในดวงพระเนตรของพระโอรส เป็นแววตาแห่งการตัดสินใจที่ทำให้พระองค์ทรงกลัวขึ้นมาอย่างจริงจัง






“เธอไม่จำเป็นต้องทำงานนี้ นี่ไม่ใช่คำสั่ง ฉันแค่บอกว่าเจ้าแม่ทรงคิดว่ายังไงเท่านั้น”

หน้าที่ขององครักษ์ประจำพระองค์คือปกป้องคุ้มครองพระองค์ ไม่ใช่นักฆ่า ขอเพียงอานนท์กราบทูลว่าไม่ต้องการทำ พระองค์ก็จะโปรดให้หาคนอื่น

“กระหม่อมยินดีรับงานนี้พระเจ้าค่ะ”

“เหตุผล”

“กระหม่อมต้องจงรักภักดีพระเจ้าค่ะ”

“ฉันถามความสมัครใจของเธอ ไม่ได้ถามหาความจงรักภักดี”

“กระหม่อมเต็มใจพระเจ้าค่ะ”

รู้สึกว่าเขาจะกราบทูลไปตั้งแต่ประโยคแรก

“ฉันถึงถามไงว่าทำไมถึงเต็มใจ”

เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณนี่ท่าจะทรงสับสน ตรัสถามวนไปวนมา

“หากพระราชชายาทรงเชื่อว่ากระหม่อมเหมาะสมและมีความสามารถพอจะทำงานนี้ได้สำเร็จ และฝ่าบาทประทานพระอนุญาต กระหม่อมก็รับอาสาพระเจ้าค่ะ”

คนฟังทรงรอ เผื่อจะทรงได้ยินเหตุผลอื่น แต่ก็ไม่มี






เมื่อเจ้าชายภีมเสนเสด็จไปตรวจราชการที่ชายแดน ขณะที่เสด็จผ่านซอกเขาโดยมีทหารตามเสด็จไปเพียงไม่กี่คน พระองค์ก็ทรงถูกคนร้ายกลุ่มหนึ่งลอบโจมตี โชคดีที่แม่ทัพชายแดนนำทหารมาสมทบได้ทันการณ์พระองค์จึงทรงปลอดภัย ทหารเสียชีวิตไปหลายนายแต่คนร้ายก็ถูกฆ่าตายเกือบทั้งหมดเช่นกัน มีเพียงคนเดียวที่หนีรอดไปได้แต่ก็บาดเจ็บสาหัสและคาดว่าน่าจะเสียชีวิตระหว่างการหลบหนี โชคร้ายที่เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมทำให้การสืบหาตัวคนบงการเป็นไปได้ยาก






เจ้าชายภีมเสนเสด็จกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว ทว่ากลับไม่มีข่าวอานนท์ พระนางเรวดีรีบเสด็จมาหาพระโอรสเพื่อห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวใดๆ เพราะจะเป็นพิรุธ ทว่าเจ้าชายศีลวัตไม่ทรงฟังเสียง เสด็จไปชายแดนใต้เป็นการลับด้วยพระองค์เองทันที หลังจากโปรดให้องครักษ์ประจำพระองค์ที่ล้วนแต่ไว้ใจได้ช่วยกันออกค้นหา ในที่สุดก็พบว่าองครักษ์หนุ่มรักษาตัวอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง

“อานนท์!”

สีพระพักตร์ดีพระทัยของเจ้าชายหนุ่มต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสีหน้าเรียบเฉยอยู่เป็นนิจขององครักษ์ประจำพระองค์คนสนิท

เจ้าของบ้านที่ช่วยเหลืออานนท์ไว้ได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวนมาก และเจ้าชายศีลวัตก็ทรงพาคนของพระองค์กลับวังไปพร้อมกันทันที

“ทำไมไม่ส่งข่าวมาหาฉัน”

“กระหม่อมเกรงจะถูกจับได้ ฝ่าบาทจะทรงเดือดร้อนไปด้วยพระเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้องคิดแทนฉัน ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ ฉันสั่งให้เธอส่งข่าว เธอก็ต้องทำ ต่อไปถ้าฉันติดต่อเธอไม่ได้อย่างนี้อีก เธอจะถูกลงโทษ”

องครักษ์หนุ่มมีบาดแผลฉกรรจ์ที่กลางหลัง เป็นแผลถูกฟันยาวและลึกจนเกือบจะทำให้ถึงแก่ชีวิต เขาคิดว่าเจ้าชายศีลวัตคงจะทรงรังเกียจไม่แตะต้อง แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม หลังจากบาดแผลของเขาหายดีจนสามารถถวายงาน ‘พิเศษ’ ได้เหมือนก่อน ก็ไม่รู้ว่าแผลกลางหลังของเขาถูกพระองค์ทรงจูบไปกี่ครั้งต่อคืน

เจ้าชายศีลวัตมักจะทาบพระโอษฐ์ไล่ไล้ไปตามรอยแผลของเขาเสมอ สีพระพักตร์และสายพระเนตรในยามนั้นของพระองค์เป็นเช่นไร เขาไม่เคยเห็น

ช่วงที่องครักษ์หนุ่มยังต้องรักษาตัว เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณทรงปฏิบัติต่อเขาราวกับเขาเป็นเด็กสามขวบ ให้อยู่แต่ในห้องและนอนพักทั้งวันทั้งคืน เวลาตื่นก็คือเวลากินข้าวกับเวลากินยา มือสองข้างของเขาไม่เป็นอะไร แต่กลับต้องยอมให้พระองค์ทรงป้อนข้าวราวกับเป็นง่อย

“ถ้ายังไม่อ้าปาก ฉันจะบีบปากแล้วยัดเข้าไป”

รับสั่งนี้ฟังดูคุ้นๆ คงไม่ใช่แค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ถูกลดอายุลงไปเป็นเด็กอีกครั้ง

อานนท์พยายามกล้ำกลืนความรู้สึกอับอายลงไปแล้ว แต่ก็ยังอดรู้สึกไม่ได้เมื่อเห็นสีพระพักตร์ที่ดูสนุกสนาน ขณะเดียวกันก็ดูอ่อนโยนอย่างประหลาดของเจ้าชายหนุ่ม

เขาต้องอาบน้ำด้วยความทุลักทุเลอยู่หลายวัน

“ฉันจะอาบน้ำให้ เธอจะได้ไม่ลำบาก”

รับสั่งมาอย่างนี้แล้วใครจะไปยอม ในเมื่อไม่ยอมก็ต้องอาบเอง เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ทรงยอมให้มหาดเล็กคนไหนถูกตัวเขาเลย





เจ้าชายศีลวัตทรงทะเลาะกับพระมารดาอย่างรุนแรงครั้งหนึ่งเพราะเรื่องงานที่เขาทำพลาด ขณะนั้นเขาถูกบังคับให้นอนแต่ไม่ได้หลับ พระราชชายาเสด็จเข้ามาในห้องของเขา แต่ถูกเจ้าชายหนุ่มทรงขอร้องกึ่งบังคับให้ออกไปข้างนอก

“โง่! ทำไมถึงโง่อย่างนี้นะศีลวัต”

อย่าว่าแต่พระราชชายาเลย แม้แต่อานนท์เองก็คิดว่าเจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณทรงโง่เขลานัก เขาทำงานพลาด แทนที่จะทรงลงพระอาญา กลับถึงกับดูแลเขาทั้งกลางวันกลางคืนด้วยพระองค์เอง เก็บเขาเอาไว้ในพระตำหนักโดยไม่กลัวว่าเขาจะทำให้พระองค์ทรงเดือดร้อน

“ได้แผลกลางหลังกลับมาชัดเจนขนาดนั้น ถ้าองค์รัชทายาทเกิดรู้เข้า เราจะไม่จบเห่กันหมดหรือ”

“แผลนั่น หม่อมฉันเป็นคนฟันเขาเองเพราะโมโห แบบนี้ถึงใครจะสงสัยก็ไม่กล้าพูด”

“ลูกน่ะหรือจะโกรธมัน เขารู้กันทั้งนั้นว่ามันเป็นตัวโปรด”

ถึงจะไม่ได้ยินการสนทนาทั้งหมด แต่องครักษ์หนุ่มก็รู้ว่าพระราชชายากริ้วทั้งเขาและพระโอรสของพระองค์มากแต่ก็ทรงทำอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าชายศีลวัตเองก็กริ้วพระมารดาเช่นกัน

ในยามโกรธเกรี้ยวจนถึงที่สุด เจ้าชายศีลวัตทรงโหดเหี้ยมกว่าพระมารดา

“อานนท์เป็นคนของหม่อมฉัน ต่อไปหม่อมฉันจะไม่ยอมให้เขาทำงานอย่างนี้อีก”






อานนท์ไม่ต้องทำ แต่การลอบปลงพระชนม์เจ้าชายภีมเสนยังเกิดขึ้นอีกสองครั้ง และล้มเหลวทุกครั้ง พระนางเรวดีทรงเครียดเสียจนพระพักตร์คล้ำ และความเครียดนั้นก็ถ่ายทอดมายังพระโอรสด้วย

อานนท์ลังเลอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจกราบทูลเรียบๆ

“ฝ่าบาท ทรงล้มเลิกความตั้งพระทัยเถิดพระเจ้าค่ะ”

“ทำไม เธอคิดว่าฉันไม่มีวันชนะเจ้าพี่ได้หรือ”

“กระหม่อมเพียงแต่คิดว่า หากองค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์อย่างไม่ปกติ คงจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากพระเจ้าค่ะ”

“ไม่อยากให้เจ้าพี่ภีมเสนสิ้นพระชนม์” เจ้าชายหนุ่มทรงเลิกพระขนง ขณะดวงพระเนตรโชนแสงกล้า “หลงรักเจ้าพี่เข้าแล้วรึไง”

“ไม่ใช่พระเจ้าค่ะ”

แต่คนฟังไม่ทรงเชื่อ อานนท์จึงตกเป็นเหยื่อพระอารมณ์กริ้วของเจ้านายตน ทั้งๆ ที่เป็นคนแข็งแรง กลับถูกเรียกร้องตักตวงเอาจนกระทั่งต้องนอนซม ลุกจากเตียงไม่ขึ้น ขนาดสลบไปแล้ว รู้สึกตัวอีกครั้งก็ยังถูกสอดใส่เข้ามาแรงๆ

ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนหัวค่ำของอีกวัน เขาจึงพบว่าร่างกายได้รับการทำความสะอาดและเปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว พระหัตถ์เย็นๆ ทาบลงบนหน้าผากเบาๆ แล้วลากลงมาแนบแก้มด้วยกิริยาอ่อนโยนราวกับจะแทนคำขอโทษ แต่ไม่มีคำนั้นออกจากพระโอษฐ์

นี่ไม่ใช่มือของคนใจเย็น แต่เป็นมือของคนเลือดเย็น เขาไม่ควรกราบทูลให้พระองค์ทรงล้มเลิกความตั้งใจเลย ถ้าไม่พูด ก็คงไม่เดือดร้อน

“ลุกไหวไหม กินข้าวแล้วก็กินยาเสียหน่อย เธอมีไข้”

ก็เพราะใคร... อานนท์หลับตาลงอีกหน

“ถ้าเธอหลับ ฉันจะขึ้นไปนอนด้วย แต่คงไม่นอนเฉยๆ”

คนฟังลืมตาโพลง

สิ่งที่เห็น คือรอยแย้มพระสรวลอาทร กับสายพระเนตรที่มีประกายลึกซึ้ง

องครักษ์หนุ่มหลับตาลงอีกครั้ง เพราะอีกฝ่ายทรงก้มลงมาจูบตรงกลางระหว่างคิ้ว รู้สึกว่าลมหายพระทัยอุ่นๆ รินรดใบหน้าและได้ยินเสียงกระซิบแผ่ว

“ขอโทษ”





tbc.


********************************


วันนี้งดตอบความคิดเห็นหนึ่งวันนะคะ เดี๋ยวเค้าจาปายเที่ยววววววว

คุณอ๊ายอาย - รามิเรสเอาไว้จบเรื่องเวลาก่อนแล้วค่อยลงค่ะ คิดว่าเร็วๆ นี้ล่ะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 4.5) 27 มิ.ย. 57
«ตอบ #202 เมื่อ28-06-2014 16:02:11 »

เป็นตอนที่จะสุขก็ไม่สุด จะเศร้าก็ไม่ไป

อานนท์เอ๊ยยยยยยย ศีลวัตเอ๊ยยยยยยยยย ถ้าปลดแอกที่แบกเอาไว้ไม่ได้จะทนได้อีกนานซักเท่าไหร่

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 5) 28 มิ.ย. 57
«ตอบ #203 เมื่อ28-06-2014 16:20:41 »

เครียดแทนอานนท์จริงๆ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 5) 28 มิ.ย. 57
«ตอบ #204 เมื่อ28-06-2014 16:24:04 »

เพราะแค้ต้องการความเป็นใหญ่ต้องการอำนาจเหนือใครๆ ไม่ว่าใครจะเดือนร้อนใครจะตายเพราะสิ่งที่ก้าวข้ามก็ไม่สนใจ เฮ้ออ ไม่รู้จะสงสารใครดีแล้ว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 5) 28 มิ.ย. 57
«ตอบ #205 เมื่อ28-06-2014 18:25:51 »

ดีอย่างที่เจ้าขายศีลวัตไม่ฟังแม่ 5555555
แต่เทอทำร้ายอานนท์เกิ๊นนนนนนน
เห้อ สงสารแต่อานนท์ ช้ำทั้งตัวทั้งใจ

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 5) 28 มิ.ย. 57
«ตอบ #206 เมื่อ28-06-2014 20:52:27 »

ปัจจัยสำคัญที่บ่มเพาะเจ้าชายให้เลือดเย็นคือพระมารดาสินะ
 :ling3:

 :pig4:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 5) 28 มิ.ย. 57
«ตอบ #207 เมื่อ28-06-2014 23:58:18 »

หลงมาอ่านเรื่องนี้
เลยได้บอกกับตัวเองว่า
ฉันพลาดเรื่องนี้ไปได้อย่างไร 555

ชายศีลวัตนี้จิตใช้ย่อยจริงๆ
สงสารก็เเต่อานนท์
มีอะไรก็ไม่พูด พูดไม่ได้ หรือไม่มีสิทธิ์พูด
เรื่องตอนเเรกที่ฆ่าคนที่ฆ่าเเม่ก็ยังเป็นปริศนา
เเต่ก็คงจะจริงที่ชายรัชทายาทช่วยไว้
เเต่ถ้าสุดท้าย
อานนท์ หรือ ชายศีลวัตตายไป
ฉันจะอยู่อย่างไร
จะหวังก็เเต่ให้ เเม่ของชายศีวัตตาย
ลูกชายนางจะได้อยู่กับอานนท์อย่างปกติ
เเต่ก็คงไม่หรอกเพราะชายศีลวัต นางไม่ปกติอยู่เเล้วนิเนอะ


อานนท์จะเป็นไงต่อไปละเนี่ย
ไม่อยากให้ตัวละครหลักต้องตายไปสักคนเลยนิ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 5) 28 มิ.ย. 57
«ตอบ #208 เมื่อ29-06-2014 00:12:28 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:มีแม่แบบนี้ก็คงต้องทำใจอะนะ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 5) 28 มิ.ย. 57
«ตอบ #209 เมื่อ29-06-2014 05:34:31 »

ขี้หึงสุด ๆ ... แต่ก็โครตรักอานนท์เลย ชอบศีลวัตก็ตรงนี้แหละ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด