เวลา : วันนี้ (บทส่งท้าย) [แจ้งเรื่องเฮเดสและเจ้าชายค่ะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เวลา : วันนี้ (บทส่งท้าย) [แจ้งเรื่องเฮเดสและเจ้าชายค่ะ]  (อ่าน 153333 ครั้ง)

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #240 เมื่อ02-07-2014 10:57:29 »

หวังว่าอานนท์จะรัก

และขอให้รักชนะทุกสิ่ง

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #241 เมื่อ02-07-2014 11:01:15 »

คุณชายภูวัน ทำให้เรารู้สึกว่าอานนท์เหมือนไม่มีความหมายต่อศีลวัต
สิ่งที่ศีลวัตพูดและทำต่ออานนท์  เป็นเราก็คิดแบบเดียวกับที่อานนท์คิด
รักมากงั้นเหรอ ... แล้วทำอะไรแบบนี้ล่ะ  เพื่ออะไร
.. สงสารอานนท์ชะมัด .. หญิงแม่น่าจะหัวใจวายตายไปซะนะ
นางเยอะอย่างและละโมภอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจริง ๆ

เพิ่มเติม ..
เข้ามาเดาว่า อานนท์เลือกที่จะไปอยู่บ้านที่ศีลวัตสร้างให้  ส่วนศีลวัต ไม่รู้มัน ชิ (เคือง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2014 16:14:09 โดย iforgive »

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #242 เมื่อ02-07-2014 15:40:57 »

สงสารอานนท์ ฮื้อออออ  นี่หรอที่บอกว่ารัก  ตอนนั้นก็บอกจะยกเลิกสนม  นี่เพิ่มไม่พอ ยังเอาผู้ชายมาอยู่อีก ไหนบอกรักอานนท์ไง โกหกชัดๆ

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #243 เมื่อ02-07-2014 17:59:35 »

อ่านแล้วเศร้า  ที่ศีลวัตว่า " ถ้าไม่สำเร็จ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเดียวดาย"  นี่คงไม่ได้หมายความว่าถ้าอานนท์ตาย เจ้าชายจะตายตามใช่ไหม   :hao5: 

อ่านแล้วหน่วงๆ สงสารศีลวัต และอานนท์ด้วย  ได้แต่หวังว่าตอนจบจะ happy  (ตามที่คุณชุนบอก  :mew4: )

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #244 เมื่อ02-07-2014 20:16:55 »

ดราม่าแบบหน่วงๆอะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #245 เมื่อ02-07-2014 21:00:58 »

เอิ่มม สิ่งที่อานนท์เลือก และศีลวัตก็ยอมรับ
ฟังดูดร่ามานะ งื้อออ

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #246 เมื่อ02-07-2014 21:08:21 »

โห เรื่องนี้มันหน่วงมาก  :katai1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #247 เมื่อ02-07-2014 23:11:21 »

ไม่รู้จะบรรยายอะไร ขอให้อานนท์ไม่ถูกจับได้ และภีมเสนไม่เป็นอะไร  :ling1: :ling3:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #248 เมื่อ03-07-2014 00:40:57 »

หรือว่าจะจบแบบทั้งคู่ออกจากวัง ไปอยู่กันสองต่อสอง  :a5:
ไม่ก็รอวันกลับมาพบกันอีกครั้ง

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
«ตอบ #249 เมื่อ03-07-2014 02:12:18 »

พึ่งได้มาอ่าน...อ่านแล้วหยุดไม่ได้ สักตอนเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 8) 2 ก.ค. 57
« ตอบ #249 เมื่อ: 03-07-2014 02:12:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #250 เมื่อ03-07-2014 07:34:52 »

วันนี้... แค่มีเธอ
บทที่ ๙



ข่าวใหญ่อีกครั้งหนึ่งในเวลาต่อมาไม่นาน คือเจ้าชายเสนาบดีกลาโหมแห่งเรืองอรุณทรงเฆี่ยนองครักษ์ประจำพระองค์คนสนิทปางตาย โทษฐานลักลอบคบชู้กับพระสนมที่เป็นสามัญชน คนที่ ‘รู้จริง’ ต่างทราบว่าคนที่พระองค์ทรงหึงหวงไม่ใช่พระสนม แต่เป็นองครักษ์หนุ่ม

องครักษ์ที่ถูกใช้แทนผู้หญิงมานาน แต่อยากจะกลับใจไปรักใคร่ผู้หญิงคนหนึ่งมากเสียจนยอมเสี่ยงพระอาญา

“คงจะรักมากจริงๆ นะ ฉันได้ยินมาว่าเคยขอแต่งงานด้วย แต่องค์ชายรองไม่ประทานพระอนุญาต”

“ที่จริงแล้วคุณอานนท์พบพระสนมคนนั้นก่อนใช่ไหม”

“ใช่ ได้ยินว่าช่วยชีวิตเอาไว้ หรือซื้อตัวมาจากหอบุปผานี่แหละ”

“ไม่ใช่ช่วยไว้จากคนของหอบุปผาชื่อดังหรอกหรือ ฉันได้ยินมาว่าพระสนมคนนี้สวยมาก หอบุรนารีต้องการตัวเลยไปขอซื้อตัว แต่พ่อของนางไม่ยอมก็เลยถูกฆ่าตาย คุณอานนท์ไปพบเข้าพอดีก็เลยต่อสู้กับคนของหอ ฆ่าพวกนั้นตายไปสองคนแต่เพราะเป็นคนขององค์ชายรองเรื่องก็เลยเงียบ”

“แล้วยังไงอีก เล่ามาเร็วๆ”

“ก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละ คุณอานนท์ขอประทานพระอนุญาตแต่งงาน ก็เลยถูกกริ้ว ผู้หญิงที่รักเลยกลายเป็นพระสนมไป”

“แต่ฉันได้ยินมาว่าองค์ชายรองเองก็ถูกพระทัยตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกันนะ องครักษ์กับเจ้าชาย เป็นเธอเธอจะเลือกใครล่ะ”

ข่าวที่ลือออกไปมีหลายกระแส ต่างๆ นานา อย่างไรก็ดี ที่แน่ๆ ก็คือเจ้าชายทหารทรงหักพระทัยประหารชีวิตองครักษ์ประจำพระองค์และพระสนมไม่ได้  จึงลงพระอาญาเฆี่ยนฝ่ายแรกอย่างสาหัสและเนรเทศไปให้พ้นพระพักตร์ ส่วนฝ่ายหลังนั้นต้องพระอาญากลายเป็นนางทาสอยู่ในเรือนเก่าโทรม

โชคดีเหลือเกินที่องครักษ์หนุ่มกัดฟันลากสังขารที่ชุ่มไปด้วยเลือดออกมาพบกับขบวนเสด็จของเจ้าหลวงพระองค์ใหม่ เขาพยายามจะหลบแล้ว ทว่าหมดกำลังเสียก่อน

อานนท์สลบอยู่หน้าอาชาทรงของเจ้าหลวงหนุ่มพอดี 






หลังจากนั้นสองวัน เจ้าชายศีลวัตก็ถูกเรียกให้เข้าเฝ้าพระเชษฐาต่างพระมารดาที่ห้องทรงพระอักษร เจ้าหลวงภีมเสนรับสั่งถามเรื่องทั่วๆ ไปก่อน  หลังจากนั้นจึงรับสั่งบอกเล่าเรื่องอดีตองครักษ์ประจำพระองค์คนสนิทของพระอนุชา

“เธอจะว่ายังไง ให้พี่ส่งตัวกลับไปให้ไหม”

“จะโปรดให้ทำอย่างไรก็สุดแท้แต่พระกรุณาเถิดพระเจ้าค่ะ แต่หม่อมฉันไม่รับคืน คนทรยศแบบนั้น  แค่ชื่อ หม่อมฉันก็ยังไม่อยากจะได้ยิน”

“เขาเป็นคนมีความสามารถ”

“แต่ชั่วช้าทรยศ”

“ไม่เห็นแก่ที่เขารับใช้เธอมานานบ้างหรือ”

“ขนาดรับใช้มานานยังบังอาจทรยศหม่อมฉันได้เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว เป็นเจ้าพี่ เจ้าพี่ทรงอภัยให้ได้ไหมพระเจ้าค่ะ”

“ได้ ถ้าพี่รัก”

สายพระเนตรของคนฟังไหวระริก ขบพระทนต์แล้วทูลตอบ

“หม่อมฉันไม่ใช่เจ้าพี่”

“ถ้าพี่จะขอไว้เป็นองครักษ์”

“ก็ขอให้ทรงระวังเอาไว้ว่ามันจะทรยศเจ้าพี่ด้วยอีกคน”

เจ้าหลวงหนุ่มแย้มพระโอษฐ์อย่างไม่ทรงเชื่อ

“พี่ไม่มีสนม”

นี่อย่างไรล่ะที่ทำให้พระองค์ทรงมีความหวัง พระเชษฐาต่างพระมารดามีพระชายาเป็นผู้ชาย แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้เป็นรานี แต่เจ้าหลวงหนุ่มก็ไม่ทรงมีผู้หญิงอื่นอีก ไม่มีใครว่าอะไรได้ เพราะพระชายาของพระองค์เคยช่วยชีวิตพระองค์เอาไว้ หากพระองค์ขึ้นเป็นเจ้าหลวงแทนที่ แล้วจะทรงมีแค่อานนท์บ้าง ใครจะบังอาจพูดอะไร ในเมื่อเขาเป็นคนสำคัญที่ทำให้แผนการของพระองค์สำเร็จ

จะถูกประณามว่าเป็นเจ้าหลวงทรราชย์ก็ช่าง โหดเหี้ยมอำมหิตก็เชิญ เมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ คำพูดทุกคำก็ถือเป็นสิ่งถูกต้อง






อานนท์กลายเป็นคนของเจ้าหลวงได้หลายเดือนแล้ว องครักษ์หนุ่มเป็นที่ไว้วางพระทัยและได้แสดงความสามารถหลายครั้งหลายหนอย่างที่แทบจะไม่เคยได้แสดงเลยตอนที่เป็นองครักษ์ประจำพระองค์ของเจ้าชายเสนาบดีทหาร

รายนั้นทรงแสดงฝีพระหัตถ์เองเสมอ

เจ้าชายศีลวัตทรงพบกับอดีตองครักษ์ประจำพระองค์บ้างตามงานพระราชพิธีต่างๆ ถ้าเลี่ยงได้ อานนท์ก็จะไม่มองพระองค์เลย แต่ถ้าบังเอิญได้สบสายพระเนตร สายตาที่มองมาก็เกือบจะว่างเปล่า ดูเฉยเมยได้อย่างแนบเนียน

แนบเนียนเกินไป เหมือนออกมาจากหัวใจจริงๆ

ต่างจากเจ้าชายทหารที่มักจะทอดพระเนตรมองอีกฝ่ายอยู่เสมอด้วยสีพระพักตร์ขัดเคืองและสายพระเนตรเจ็บปวดอยู่ลึกๆ

‘แสดง’ ได้อย่างแนบเนียนเช่นกัน... ราวกับมันไม่ใช่แค่การแสดง

พระองค์บรรทมในห้องที่อยู่ติดกันทุกคืน และไม่มีคืนไหนที่นอนหลับได้เต็มตา หลังเปลือกพระเนตรมักจะเป็นภาพแผ่นหลังที่ชุ่มไปด้วยเลือดขององครักษ์คนสนิทเสมอ วันเวลาที่พระราชชายาทรงรอคอย บัดนี้พระองค์เองก็ทรงรอคอยเช่นกัน

อานนท์เป็นของพระองค์ ทรงปล่อยให้อยู่ห่างพระองค์นานเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องเอากลับคืนมา






วันเฉลิมพระชนมพรรษาของเจ้าหลวงเป็นวันดี เหมาะที่จะทำการใหญ่ บริเวณพระลานหลวงถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลอง เจ้าหลวงประทับบนพระแท่นในพลับพลา เจ้าชายรองแห่งอันธกาลประทับเคียงข้าง ส่วนบรรดาเชื้อพระวงศ์และข้าราชบริพารน้อยใหญ่ต่างมีที่นั่งอยู่ทางซ้ายขวาของที่ประทับ ที่นั่งถูกจัดไว้เป็นแถวเป็นระเบียบ ลาดด้วยพรมผืนนุ่มเต็มลาน ก่อนจะวางโต๊ะตัวเตี้ยไว้ตามตำแหน่งต่างๆ บริเวณที่นั่งปูด้วยพรมขนสัตว์ผืนเล็กไว้อีกผืนหนึ่ง

ที่นั่งเหมือนกัน ความสำคัญอยู่ที่ตำแหน่ง คือยิ่งใกล้กับพลับพลาที่ประทับยิ่งมีฐานันดรหรือความสำคัญสูง เจ้าชายศีลวัตประทับที่โต๊ะตัวแรก ด้านขวาของเจ้าหลวง ส่วนพระราชชายาเรวดีประทับด้านหลังพลับพลาซึ่งถูกจัดไว้เป็นที่ของฝ่ายใน

คืนนี้ดวงจันทร์ทอแสงสว่างกระจ่างตา บรรยากาศเหมาะแก่การเฉลิมฉลอง เจ้าพนักงานดนตรีประโคมดนตรีขับกล่อมตลอดเวลา อาหารการกินพรักพร้อม ผู้คนพูดคุยกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สำหรับเชื้อพระวงศ์และบรรดาขุนนางชั้นสูงยังมีนางพระกำนัลคอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างกายอีกนางหนึ่ง

เจ้าชายศีลวัตทรงพาพระสนมวิไลเรขามา และโปรดให้ถวายงานอยู่ข้างๆ  ไม่ต้องไปนั่งบริเวณฝ่ายใน

หลังจากการดื่มถวายพระพร และเจ้าหลวงมีพระราชกระแสตอบแล้วก็เป็นเวลาของการแสดงต่างๆ เจ้าชายเสนาบดีทหารทอดพระเนตรโดยปราศจากความรื่นรมย์อย่างสิ้นเชิง

พระทัยเต้นเร็วกว่าปกติด้วยความกังวล เมื่อทรงหันไปทอดพระเนตรทางที่นั่งของฝ่ายใน ก็เห็นว่าพระมารดาดูจะทรงเก่งกาจกว่าพระองค์มากนัก เพราะมีรับสั่งกับพระสนมคนอื่นๆ ของพระองค์ด้วยสีพระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติ

เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณทรงขบพระทนต์ ถึงจะไม่ได้รับสั่ง แต่ก็ใช่ว่าพระองค์จะทรงรู้ไม่เท่าทัน  เหตุที่พระมารดายังทรงเป็นปกติอยู่ได้ เพราะหากเกิดเรื่องผิดพลาด คนที่ต้องรับเคราะห์จะมีเพียงแค่อานนท์คนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับพระองค์ทั้งสิ้น


แต่จะยังไงก็ช่าง พระองค์ทรงเชื่อว่าอานนท์จะต้องไม่ผิดพลาด และถึงผิดพลาด ก็จะไม่มีใครสืบสาวมาถึง

การแสดงประเภทสวยงามจบไปแล้ว ลานด้านล่างถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมสำหรับการแสดงฝีมือของทหารกรมกองต่างๆ และราชองครักษ์

การแสดงชุดแรกเป็นการต่อสู้จริงของกองราชองครักษ์ประจำพระองค์

เจ้าชายศีลวัตทอดพระเนตรองครักษ์หนุ่มผิวเข้มร่างสูงโปร่งในเครื่องแบบสีน้ำเงินขององครักษ์หลวงอย่างไม่วางตา ถ้าพระองค์ได้ขึ้นเป็นเจ้าหลวงเมื่อไร เครื่องแบบขององครักษ์หลวงจะต้องเป็นสีม่วงเข้มซึ่งเป็นสีประจำพระองค์เท่านั้น

การแสดงชุดนี้ตรึงสายตาของคนได้ทั้งงาน ในบรรดาราชองครักษ์ประจำพระองค์ชั้นสูงจำนวนสี่สิบนาย จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับรางวัลเป็นเหล้าพระราชทาน

อานนท์จับคู่กับราชองครักษ์ที่มีรูปร่างและส่วนสูงใกล้เคียงกัน นี่ไม่ใช่การแสดง แต่เป็นการต่อสู้จริง เขาจึงทุ่มเทฝีมืออย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งเพราะรู้ดีว่าจะมีสายพระเนตรคู่หนึ่งที่จับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลา

เขาอยากจะทำให้พระองค์ทรงทราบ ว่าคนอย่างเขามีฝีมือ ได้เรียนรู้และฝึกปรือมาเพื่อจะเป็นผู้ชายที่เข้มแข็ง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องให้ผู้ชายคอยปกป้อง

เป็นองครักษ์ที่ต้องอยู่เบื้องหน้าของเจ้าชายในยามมีภัย

ไม่ใช่นางบำเรอที่ร้องครวญครางอยู่ใต้พระวรกายในยามค่ำคืน

คืนนี้เท่านั้นที่พระองค์จะได้ทอดพระเนตรเห็น

พ้นจากคืนนี้ พระองค์จะไม่ทรงมีโอกาสอีกต่อไป

คนแล้วคนเล่าที่ถูกเขาเอาชนะ อานนท์เหงื่อโซมกาย แต่เรี่ยวแรงของเขายังมีอยู่เหลือเฟือราวกับไม่มีวันหมด เป้าหมายของการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ที่การเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายเท่านั้น

องครักษ์หนุ่มคงไม่นึกฝัน ว่าคนเดียวที่เขาอยากให้เห็นความสามารถจะไม่ได้นึกชื่นชมเขาเลย พระองค์เพียงแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความห่วงใย แวบหนึ่ง ทรงสงสัยเหลือเกิน

ว่าพระองค์พอจะทรงคิดเข้าข้างองค์เองบ้างได้ไหม

ทั้งที่ฝีมือเหนือกว่าพระองค์ จะปฏิเสธให้แข็งขัน ถึงขั้นถีบพระองค์ลงจากเตียงก็ย่อมได้ แต่ก็ยอมให้พระองค์ทรงเข้าไปในตัวทุกคืนๆ

แบบนี้... แปลว่ามีใจให้ได้ใช่ไหม

การต่อสู้ดำเนินมาจนถึงคู่สุดท้าย คู่ต่อสู้ขององครักษ์หนุ่มเป็นองครักษ์รูปร่างสูงหนากำยำ ฝีมือของทั้งสองคู่คี่สูสีกัน เจ้าชายศีลวัตเกือบจะทรงลุกจากที่นั่งหลายครั้งเมื่ออดีตองครักษ์ประจำพระองค์พลั้งพลาด แต่ก็ทรงสู้อดทน ขบพระทนต์เอาไว้แน่น พระเสโทผุดซึมพระนลาฏ พระสนมคนงามใช้ผ้าเช็ดหน้าหอมกรุ่นซับถวาย ทว่าถูกปัดมือออกอย่างไม่ไยดี

ในที่สุด อานนท์ก็เอาชนะคู่ต่อสู้ได้สมใจ

องครักษ์หนุ่มที่เดินขึ้นบันไดมายังพระลานชั้นบนนั้นสง่างามสะกดสายตา แม้แต่คนที่เคยทอดพระเนตรเห็นเขามาจนทุกรูขุมขนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ว่า

คืนนี้ เขาสง่างามเป็นพิเศษ

เจ้าหลวงมีรับสั่งชื่นชมและตรัสสั่งให้นำเหล้าที่จะเปิดในโอกาสพิเศษเท่านั้นมาสามขวด

เจ้าชายศีลวัตทรงนิ่วพระพักตร์อย่างกังวลทันที มีสามขวดเหมือนๆ กันอย่างนี้ อานนท์รู้ได้ยังไงว่าต้องใส่ยาพิษลงไปในขวดไหน

แล้วขวดที่สาม... สำหรับใคร

“อานนท์เคยเป็นคนของเธอมาก่อน เขามีความสามารถขนาดนี้พี่ต้องชื่นชมเธอด้วยที่ฝึกเขามาดี เพราะฉะนั้นมาดื่มด้วยกัน”

มหาดเล็กยกถาดทองบรรจุน้ำจัณฑ์สีใสในขวดแก้วเจียระไนทรงสวยกับถ้วยแก้วใบเล็กมาถวายแล้ว จะไม่ทรงรับก็จะผิดสังเกต

เจ้าชายทหารทรงยกขวดแก้วขึ้นมา ครั้นทอดพระเนตรเห็นพระนามาภิไธยย่อสลักอยู่บนจุกแก้วจึงค่อยคลายพระทัย ปล่อยให้พระสนมวิไลเรขารินถวาย

เจ้าหลวงทรงรับน้ำจัณฑ์ที่มหาดเล็กผู้ถวายงานใกล้ชิดคุกเข่ารินถวายแล้วเช่นกัน ทว่าอานนท์กลับไม่รับถ้วยเหล้าที่มหาดเล็กใส่ถาดยื่นให้ บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที ทว่าเจ้าหลวงทรงคลี่คลายได้ด้วยการรับสั่งถามอย่างมีพระอารมณ์ขัน

“เธอไม่ดื่มเหล้าหรือ”

“ขอเดชะฯ พระอาญามิพ้นเกล้า เกล้ากระหม่อมขอเปลี่ยนเป็นถ้วยใบใหญ่กว่านี้พระเจ้าค่ะ”

ขุนนางและนายทหารระดับสูงหลายคนพลันหัวเราะอย่างถูกใจ ขณะเจ้าหลวงโปรดให้เปลี่ยนตามคำขอ ครั้นได้มาแล้ว องครักษ์หนุ่มก็สั่งให้มหาดเล็กรินเหล้าลงไปเพียงหนึ่งในสาม

“ดื่มให้ความเก่งกล้าสามารถของเธอ”

“เดี๋ยวพระเจ้าค่ะ”

ทั้งเจ้าหลวงและเจ้าชายศีลวัตต่างทรงชะงัก บรรยากาศชักจะไม่ดีขึ้นมาอีกรอบ เจ้าหลวงดูจะไม่ทรงแปลกพระทัยเท่าใดนัก ขณะเจ้าชายศีลวัตทรงขมวดพระขนงอย่างสงสัย

“กระหม่อมขอพระราชทานรางวัลเป็นน้ำจัณฑ์ในพระหัตถ์ได้หรือไม่พระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายทหารทรงตกตะลึง

“บังอาจ!” คิดจะทำอะไร

“ไม่เป็นไร ศีลวัต” เจ้าหลวงทรงโบกพระหัตถ์ “มารับไปสิ”

องครักษ์หนุ่มเดินเข้าไปตามพระบัญชา

... หรือว่าอานนท์จะเปลี่ยนแผน...

พระเสโทเม็ดใหญ่ผุดซึมพระพักตร์งามคมคายของเจ้าชายทหาร

มหาดเล็กรับถ้วยน้ำจัณฑ์จากพระหัตถ์มาส่งให้องครักษ์หนุ่ม เขารับเอาไว้และวางลงบนถาดที่มหาดเล็กอีกนายหนึ่งยังถือรออยู่ เจ้าชายศีลวัตทรงขบพระทนต์แน่นจนเส้นพระโลหิตขึ้นข้างขมับ ก่อนจะงุนงงอีกหน เมื่อองครักษ์หนุ่มหันหน้ามาทางพระองค์เป็นครั้งแรก

“กระหม่อมขอประทานพระเมตตาเป็นครั้งสุดท้ายเถิดพระเจ้าค่ะ”

“เธอจะทำอะไร”

พระสุรเสียงเคร่งเครียดดังลอดพระทนต์ ทว่าคนถูกถามเพียงกราบทูลเรียบๆ

“ขอประทานน้ำจัณฑ์ในถ้วยของฝ่าบาทพระเจ้าค่ะ”

ต่างฝ่ายต่างมองตากันนิ่ง เนิ่นนาน

“ให้เขาไปเถิด ศีลวัต”

เมื่อเจ้าหลวงตรัสสั่ง พระองค์ก็มีแต่ต้องปฏิบัติตาม

อานนท์รินเหล้าอีกสองถ้วยลงไปในถ้วยใบใหญ่ของตนและเทเหล้าจากขวดแก้วของตนเองลงบนพื้นพรม ทหารองครักษ์ลุกฮือ เตรียมจะเข้าไปกุมตัว ทว่าเจ้าหลวงทรงยกพระหัตถ์ขึ้นห้าม

องครักษ์หนุ่มก้มหน้าไม่มองใคร เพียงยกถ้วยเหล้าขึ้นแล้วสาดลงคอในคราวเดียว

มีดสั้นสองเล่มถูกซัดออกจากอกเสื้อเกือบพร้อมกัน เสียงขวดน้ำจัณฑ์สองขวดแตกเปรื่อง แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่คนซัดกระอักเลือดคำโต

“อานนท์!”

เจ้าของชื่อทรุดลงคว่ำหน้า ทว่าหน้ากลับไม่กระแทกพื้น

คนที่รับตัวเขาเอาไว้ได้ ยังคงเป็นคนเดิมที่เขาไม่อยากจะเห็นพระพักตร์

งานเลี้ยงกลายเป็นความวุ่นวายโกลาหล       อานนท์ได้ยินสรรพเสียงอึงอล แม้แต่คนที่ถนัดสั่งอยู่เป็นประจำยังแทบจะสั่งไม่ถูก

“เจ้าแม่! ยาถอนพิษอยู่ไหนพระเจ้าค่ะ”

โง่จริง อย่างที่พระนางเรวดีเคยรับสั่งน่ะถูกแล้ว ถ้าไม่พูดออกมาก็ไม่มีใครสงสัยแท้ๆ

“พูดเรื่องอะไร ศีลวัต เลอะเลือนแล้วลูก”

“ภูวัน! ไอ้เดรัจฉาน! ไปตามมันมาเดี๋ยวนี้”

“เตชินทร์ รีบไปลากตัวมันมา ให้มันเอายาถอนพิษมาด้วย”

“อานนท์! อานนท์! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ ห้ามตาย! ตายไม่ได้ เธอเป็นของฉัน!”

“โอ้ก!”

คนกระอักเลือดออกมาอีกคำโตเบือนหน้าหนี ความเจ็บปวดทรมานแผ่ซ่านทั่วท้องและโพรงอก

แต่เขาไม่เสียใจ

“อานนท์! อานนท์! อานนท์!”

คนถูกพิษแน่นิ่งไปแล้ว

ก่อนจะหลับตาลง สายตาของอานนท์ไม่มีแววอาลัยหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย ในขณะที่เจ้าชายศีลวัตทรงหลั่งน้ำพระเนตรทะลักทลายต่อหน้าธารกำนัลอย่างไม่อาย





tbc.


****************************************

คิดว่า
จะลงตอนที่ 10 พรุ่งนี้
ตอนที่ 11 วันจันทร์
และบทส่งท้ายสั้นๆ วันอังคารนะคะ

Enjoy  waiting! ค่ะ ^^

ออฟไลน์ iGiG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #251 เมื่อ03-07-2014 08:14:04 »

แง้ อานนท์ อย่าตายน้า อย่าให้มีใครต้องตายเลยนะคะคุณชุน T - T
เศร้า วันนี้ต้องทำงานไม่รู้เรื่องแน่เลย
เฝ้ารอค่ะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #252 เมื่อ03-07-2014 09:05:39 »

อานนท์อย่าเป็นไรนะ หรือว่าจะถูกเนรเทศทั้งคู่ ออกไปอยู่ด้วยกันสองคน ฮือออ  :ling1:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #253 เมื่อ03-07-2014 09:05:42 »

'พระองค์ทรงเชื่อว่าอานนท์จะต้องไม่ผิดพลาด และถึงผิดพลาด ก็จะไม่มีใครสืบสาวมาถึง'
ตอนแรกอ่านประโยคนี้ คิดว่าเจ้าชายทหารทำไมเห็นแก่ตัวอย่างนี้ ไม่รักเลยเหรอ

แต่พอตอนอานนท์ โดนยาพิษ กับรี่เข้ามาเป็นคนแรก โดยไม่กลัวคนสงสัยเลย
แต่ศีลวัต มันจะช้าไปไหม มีเวลามากมายที่จะซื้อใจด้วยใจ ทำดีให้แก่กัน
แต่ก็ได้แต่ทำร้ายจิตใจกันตลอด

อานนท์เท่มากๆ เลยตอนนี้ ชอบจริงๆ

รอบทสรุปจากนักเขียน ลุ้นๆ :pig4:
"หรือว่า ที่ชื่อตอน วันนี้ เพราะ สำหรับสองคนนี้ จะไม่มีวันพรุ่งนี้"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2014 09:10:17 โดย Sar2288 »

ออฟไลน์ KMprince

  • kyumin QingYu
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #254 เมื่อ03-07-2014 09:12:12 »

อ่านพรุ่งนี้แค่ตอนแรก ก็โอ้ สนุกอะ สนุกมากๆ
ฉันพลาดไปได้เยี่ยงไร เดี๋ยวตอนที่เหลือ กลับบ้านก่อนค่อยอ่าน
ตอนนี้ทำงานอยู่ ฟินไม่ถนัด หุหุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2014 09:17:03 โดย KMprince »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #255 เมื่อ03-07-2014 10:15:36 »

หลายข้อความ หลายคำพูด ที่อ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจ เศร้าใจไปกับทั้งคู่  โดยเฉพาะกับอานนท์ที่บอกว่า
.. คืนนี้เท่านั้นที่พระองค์จะได้ทอดพระเนตรเห็น
พ้นจากคืนนี้ พระองค์จะไม่ทรงมีโอกาสอีกต่อไป ...

อานนท์คิดไว้แล้ว  วางแผนไว้แล้ว  แต่คิดจากสิ่งที่มองเห็น ได้ยิน และสัมผัสได้จากศีลวัต
เราคนอ่านรู้ใจศีลวัตทุกอย่าง ยังคิดว่าถ้ามาพูดหรือทำแบบนี้กับกรู  กรูจะรู้จะเข้าใจกับเมิงไหม ห๋า
อานนท์กดตัวเองลงต่ำต้อยซะยิ่งกว่าต่ำต้อย  ตั้งแต่โดนย่ำยีต่อหน้านริดาแล้ว
ยิ่งมาเจอคุณชายภูวัน  และคำล่ำลือที่ว่าศีลวัตหลงใหลผู้ชายคนนั้นยิ่งไปกันใหญ่
สำหรับอานนท์คงคิดแล้วว่าการมีชีวิตอยู่ไม่มีประโยชน์อะไรกับใคร  แม้แต่ตัวเอง
สิ่งสุดท้ายที่อานนท์ทำคือตอบแทนบุญคุณภีมเสนและการปกป้องศีลวัตไปด้วยกัน
อานนท์พูดถูกที่บอกว่า ... หลังจากนี้พระนางเรวดี จะไม่มายุ่งกับเราอีกต่อไป
เพราะอานนท์คิดไว้แล้วว่าจะไม่มีเขา ... ดังนั้น คำว่าเราก็ไม่จำเป็น
... อ่านตอนนี้แล้ว ช้ำใจจังเลย  สงสารอานนท์มาก ๆ ศีลวัตจะเข้าใจบ้างไหม
จะเข้าใจบ้างหรือเปล่า ... ว่าจริง ๆ แล้วอานนท์ก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรู้สึกเหมือนคนอื่น ๆ เหมือนกัน

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #256 เมื่อ03-07-2014 10:26:55 »

ฮึก... อ่านแล้วสงสาร  ทำไมอานนท์ชอบย้ำจังเลยว่าจะไม่มีพรุ่งนี้สำหรับศีลวัต  คงไม่ใช่ตอนสุดท้ายแล้วคนที่อานนท์ต้องทรยศจริงๆคือศีลวัตหรอก :mew4: 

อ่านแล้วหน่วงจิต  ได้แต่ย้ำกับตัวเองว่ามันจะจบแบบแฮปปี้  แต่นี่... มันจะไปแฮปปี้ที่ตรงไหนนะ! :o211:

ได้แต่รอ  ร๊อ รอ  ตอนจบ :ling1:


ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #257 เมื่อ03-07-2014 10:27:37 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:ตูเครียดดดดดดดดดดดด :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #258 เมื่อ03-07-2014 12:10:07 »

อานนท์ อย่าเป็นอะไรนะ  :hao5:

อยากรู้อะ แม่เจ้าชายจะทำไงโดนพูดขนาดนี้  :hao6:

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #259 เมื่อ03-07-2014 12:11:23 »

 :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
« ตอบ #259 เมื่อ: 03-07-2014 12:11:23 »





ออฟไลน์ KMprince

  • kyumin QingYu
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #260 เมื่อ03-07-2014 20:18:31 »

อ่าน พรุ่งนี้ ถึงตอนที่ 5 คะ
แบบว่าพิรุณเนี่ยเคยเป็นหนึ่งในสนมองค์รัชทายาทสินะ
แล้วที่มาปฏิบัติกับศวัสเหมือนต้องการซึมซับร่องรอยที่องค์รัชทายาททำบนตัวศวัสเลยอะ
เธอนี่ไม่น่าไว้ใจเลย


ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #261 เมื่อ03-07-2014 21:11:34 »

เทอๆ เราจุกง่ะ แบบนี้
โถ่อานนท์ อิสระที่รอคอยคือแบบนี้สินะ งื้ออ

ออฟไลน์ KMprince

  • kyumin QingYu
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #262 เมื่อ03-07-2014 21:49:21 »

 :ling3:
อ่านพรุ่งนี้จบแล้วคะ
ทำเอาแทบร้องไห้
ดีนะจบแฮ็ปปี้
รักสองคนนี้อะ หุหุ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #263 เมื่อ04-07-2014 00:27:09 »

แอบกังวลกับตอนจบแล้วนะเนี่ย  :ling2:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 9) 3 ก.ค. 57
«ตอบ #264 เมื่อ04-07-2014 01:10:47 »

อานนท์ ทำร้ายตัวเองแบบนี้ทำไม?!?!

แต่เอ๊ะ ไม่ sad ending นี่....งั้นลุ้นต่อๆๆ

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 10) 4 ก.ค. 57
«ตอบ #265 เมื่อ04-07-2014 07:23:11 »

วันนี้... แค่มีเธอ
บทที่ ๑๐



คุกหลวงไม่ได้มีสภาพเลวร้ายมากนัก แต่ก็แตกต่างจากพระตำหนักอันงดงามแสนสะดวกสบายราวฟ้ากับเหว  ถึงกระนั้นคนถูกคุมขังก็ไม่ได้สนพระทัยเลยแม้แต่น้อย

ตลอดคืนไม่ได้เอนองค์ลงบรรทมหรือหลับพระเนตรลงแม้เพียงชั่วครู่ ได้แต่ทรงดำเนินกลับไปกลับมาในห้องขังแคบๆ ด้วยพระทัยที่ร้อนเป็นไฟ และสบถด่าผู้คุมด้วยพระสุรเสียงอันดังเป็นระยะ โทษฐานที่ไม่สามารถกราบทูลได้ว่าอดีตองครักษ์ประจำพระองค์เป็นอย่างไร

“เจ้าหลวงเสด็จ”

เจ้าชายเสนาบดีทหารทรงหันขวับ ดวงพระเนตรแดงก่ำเป็นประกายเจิดจ้าขึ้น

“เจ้าพี่! อานนท์เป็นยังไงบ้างพระเจ้าค่ะ ได้ยาถอนพิษแล้วหรือยัง”

เจ้าหลวงหนุ่มทอดพระเนตรพระอนุชาต่างพระมารดาอยู่ครู่หนึ่ง

เสื้อผ้าเปื้อนเลือด หลุดลุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิง สิ้นสภาพความสง่างามที่เคยเห็นอยู่เป็นนิจ ทั้งสีหน้าและแววตาล้วนปราศจากความแค้นเคือง ไม่มีแววหวั่นกลัวหรือแม้แต่อดสูอับอาย

เพียงหนึ่งเดียวที่มองเห็น คือความกังวลและห่วงใยอันท่วมท้น

“ลูกชายหัวหน้าเผ่าเวณุปฏิเสธข้อกล่าวหาของเธอ เขาไม่รู้เรื่องยาพิษ หมอหลวงกำลังช่วยกันหาทางรักษาอยู่ แต่ดูแล้วคงมีหวังไม่มาก พิษกระจายไปทั่วตัว”

“ไม่ต้องให้หมอหลวงดูพระเจ้าค่ะ แค่ไปเค้นคอไอ้เดรัจฉานนั่นมาเท่านั้น หรือไม่ก็ถามจากเจ้ามะ...” พระอนุชาทรงเก็บกลืนบางคำลงคอ จะทรงพาพระมารดามาตกตายด้วยไม่ได้

“มันต้องมีพระเจ้าค่ะ ถ้าไม่มีก็ให้มันทำขึ้นมา”

“แล้วพี่จะถามดูอีกที”

“ก็ไปถามสิพระเจ้าค่ะ! จะทรงรออะไร ไป!”

“ฝ่าบาท โปรดทรงระวังพระวาจาด้วยพระเจ้าค่ะ”

“หุบปาก!”

ราชองครักษ์ประจำพระองค์เจ้าหลวงนิ่วหน้า ทว่าก็ทนมองสบสายพระเนตรคมกล้าไม่ได้นาน

“ช่างเถอะ” เจ้าหลวงไม่ทรงถือสา “แล้วพี่จะมาใหม่”

“เจ้าพี่”

เจ้าหลวงทรงหันกลับไป

พระอนุชาซึ่งบัดนี้กลายเป็นนักโทษทรงยึดลูกกรงไว้แน่น ก่อนจะคลายออกแล้วคุกพระชานุลงทั้งสองข้าง เจ้าหลวงทรงไล่ให้ราชองรักษ์ประจำพระองค์ออกไปยืนรอข้างนอก เมื่ออยู่กันเพียงลำพัง เจ้าชายทหารจึงกราบทูลหนักแน่น

“ได้โปรดทรงช่วยอานนท์ด้วยพระเจ้าค่ะ เรื่องทั้งหมด หม่อมฉันเป็นคนผิดเอง จะทรงเชือดเนื้อเถือหนังหรือจะทรมานหม่อมฉันยังไงก็ได้ แต่ขอให้ทรงช่วยเขา อย่าให้เขาตาย”

ปลายพระสุรเสียงสั่นพร่า ความตายไม่น่ากลัวเลยสำหรับพระองค์ แต่สำหรับความตายของอดีตองครักษ์ประจำพระองค์ แค่ทรงคิดถึง พระหัตถ์ก็สั่นระริก

“ไม่ต้องห่วง ก่อนจะมีการสอบสวน เขายังไม่ควรตาย”






เจ้าชายศีลวัตบรรทมไม่หลับเลยแม้แต่งีบเดียว พระองค์ไม่ทรงได้ข่าวอานนท์มาหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว คราบเลือดบนฉลองพระองค์แห้งกรัง เจ้าของเลือดจะกำลังนอนพักรักษาตัวหรือนอนรอความตายกันแน่ เผลอหลับพระเนตรลงทีไร ก็เห็นแต่ภาพแผ่นหลังแข็งแรงแตกยับลงกับมือและสายตาว่างเปล่าปราศจากความอาลัยในชีวิต

หลังจากทรงดำเนินกลับไปกลับมาจนพื้นแทบสึก ก็ทรงเปลี่ยนเป็นทุบผนังห้องระบายพระอารมณ์แทน สองสามชั่วโมงต่อมา มหาดเล็กตำหนักหลวงก็ถือรับสั่งมากราบทูลข่าวสารว่า อาการของอานนท์ทรุดหนักมาก บุตรชายของหัวหน้าเผ่าเวณุยังคงยืนกรานว่าไม่รู้เรื่อง และไม่มียาถอนพิษ หมอหลวงเองก็จนปัญญา

สายพระเนตรของเจ้าชายหนุ่มฉายประกายกร้าว เจ็บช้ำพระทัย

“ไปกราบทูลเจ้าหลวง ว่าฉันขอเข้าเฝ้าเจ้าแม่”

“พระเจ้าค่ะ”

พระองค์ทรงทราบว่าเวลาอย่างนี้ไม่ควรจะพบกับพระมารดาให้เป็นที่สงสัย ทว่าเมื่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เพราะใครเป็นคนเริ่ม ก็อดจะทรงแค้นเคืองไม่ได้ ไม่ปรานีคนของพระองค์ก็ช่างเถิด แต่ก็ควรจะปรานีพระองค์บ้าง






พระราชชายายังคงความสง่างามตามปกติไว้ได้ทุกประการ มีเพียงสายพระเนตรเท่านั้นที่ฉายแววกังวลพระทัยอย่างลึกล้ำเมื่อพบพระพักตร์ของพระโอรส

“ศีลวัต เป็นยังไงบ้างลูก ทำไมหน้าซูบตาแดงขนาดนี้ ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นความผิดของมันต่างหาก มันไม่ใช่คนของลูกแล้วแต่ยังมาให้ร้าย...”

“เจ้าแม่”

พระโอรสทรงตัดบทพระสุรเสียงเยือกเย็น พระนางเรวดีทรงนิ่งชะงัก

“เจ้าแม่ทรงฉลาดเฉลียว หม่อมฉันเชื่อว่าต้องทรงหาทางช่วยเขาได้”

ยาถอนพิษต้องอยู่กับพระมารดา หากพระมารดาจะทรงช่วย ย่อมมีวิธีส่งยาถอนพิษไปให้อานนท์ได้โดยที่พระนางไม่ทรงเดือดร้อน

“ศีลวัต ลูก...”

“ช่วยเขา”

ดวงพระเนตรคมกล้าไหวระริก ดุจแมลงปอกรีดปีกบนท้องน้ำ

“เขาเป็นชีวิตของหม่อมฉัน”






สามวันต่อมา เจ้าหลวงก็เสด็จไปที่คุกหลวงอีกครั้งพร้อมกับข่าวที่ทำให้คนโทษทอดถอนพระทัยอย่างโล่งอกได้เป็นครั้งแรกตลอดหลายวันอันยาวนาน

“ถึงจะปลอดภัย แต่ก็ยังต้องพักรักษาตัวอีกหลายวัน”

แค่นั้นก็พอ ขอแค่ยังมีลมหายใจ

“พี่ยังไม่ได้ให้คนสอบปากคำ แต่เขาเขียนจดหมายทิ้งไว้ฉบับหนึ่ง สารภาพว่าเป็นคนผิดทุกอย่าง”

“เขาทำเพราะหม่อมฉันสั่งพระเจ้าค่ะ”

เจ้าหลวงแย้มพระสรวลจางๆ สายพระเนตรฉายแววรู้ทันและปรานี ทำเอาพระอนุชาต้องกราบทูลอย่างหนักแน่นอีกครั้ง

“หม่อมฉันยินดีรับพระอาญา”

“เหล้ามีสามขวด เธอว่ายาพิษอยู่ในขวดของใคร”

คนถูกถามทรงนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ ไม่น่าจะมีหลักฐานหลงเหลือให้ตรวจสอบอีกแล้ว ตอนนั้นใครเลยจะสนใจขวดเหล้าที่แตก ถ้ากราบทูลไปว่าน่าจะอยู่ในขวดของอานนท์ คนที่น่าสงสัยก็จะกลายเป็นเจ้าหลวงเสียเอง

“ย่อมต้องอยู่ในขวดของเจ้าพี่ เพราะหม่อมฉันสั่งให้เขาใส่ลงไปเอง”

“เขาเป็นแค่องครักษ์ จะใช้วิธีอะไรใส่ยาพิษลงไปในเหล้าพิเศษที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างดี”

เจ้าชายทหารทรงชะงัก เรื่องนี้พระองค์ไม่ทรงทราบ ก่อนที่พระมารดาจะทรงหาวิธีที่แนบเนียนได้ อานนท์ก็ลอบส่งข่าวมากราบทูลเสียก่อน ว่าเขาหาทางใส่ยาพิษลงไปได้แล้ว และวางแผนเอาไว้อย่างไร

“พี่เป็นคนวางแผนให้เขาเอง”

“หมายความว่ายังไงพระเจ้าค่ะ”

“อานนท์ทรยศ”

เจ้าชายศีลวัตทรงตกตะลึง

“สำหรับเธออาจจะเป็นอย่างนั้น แต่สำหรับพี่ เขาแค่จงรักภักดี”

คนฟังทรงขมวดพระขนงแนบแน่น พระอุระขยายออกกว้าง แต่พยายามจะทรงระงับพระอารมณ์

“หลายปีก่อน ตอนที่พี่อายุสิบห้าสิบหก” นั่นก็เท่ากับยี่สิบปีมาแล้ว “พี่บังเอิญไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกผู้ชายสามคนรุมข่มขืนอยู่ในป่า นางมีลูกชายอายุสักเจ็ดแปดขวบมาด้วย ถึงพี่จะช่วยเอาไว้ได้ทั้งแม่ทั้งลูก แต่ผู้หญิงคนนั้นกำลังป่วยมาก สุดท้ายจึงสิ้นใจตาย ฝากลูกชายไว้กับพี่ พี่ให้คนพาไปส่งที่บ้านพ่อของเด็ก  แต่เจ้ากรมทหารม้าดูแลลูกชายคนเล็กที่เกิดจากผู้หญิงในหอบุปผาไม่ดีนัก พี่เคยถามเขาว่าอยากจะเข้าวังมาเป็นคนของพี่ไหม แต่เขาก็อดทนอยู่ในบ้านเจ้ากรมต่อ และขอให้พี่ทำให้พ่อของเขาไม่เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน” เจ้าหลวงทรงยกมุมพระโอษฐ์ขึ้นนิดหนึ่ง

“นับว่าเป็นเด็กที่เลือดเย็นคนหนึ่ง จริงไหม แต่เขาก็อยู่ที่บ้านนั้นแค่สองปี เพราะมีวาสนาดี ได้เข้าวังมาเป็นเพื่อนเล่นของเจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณเสียก่อน”

เจ้าชายรองแห่งเรืองอรุณทรงฟังจนมึนชา พระวรกายชาวาบตลอดตั้งแต่พระเศียรจรดพระบาท ความจริงอันข่มขื่นและน่าขำซัดสาดเข้ามาเต็มพระพักตร์ราวกับเข็มนับพันเล่ม

“อานนท์ติดหนี้ชีวิตพี่ เขาเป็นคนของพี่ตั้งแต่อายุแปดขวบ”

เจ้าชายศีลวัตทรงกำพระหัตถ์ หลับพระเนตร

... ฉันซื้อเธอมา...

... เธอเป็นของฉัน...

... ฉันสั่งอะไรเธอก็ต้องทำ...

ช่างน่าขำเหลือเกิน อานนท์คงจะหัวเราะอยู่ในใจทุกครั้งที่ได้ยิน

“พี่ซื้อเขาด้วยชีวิตของเดนมนุษย์สามคน ส่งดาบให้เขาฆ่าคนพวกนั้นด้วยตัวเอง”

เจ้าชายทหารทรงลืมพระเนตร ทั้งประหลาดพระทัยและตกตะลึง

“แต่เขาไม่กล้าฆ่า จนถึงตอนนี้คงยังไม่เคยฆ่าใครเลย แม้แต่เธอ เขาก็ฆ่าไม่ลง”

พระทัยของคนฟังเต้นระรัว

“ทรงหมายความว่ายังไงพระเจ้าค่ะ”

วันนี้ ดูจะมีหลายเรื่องที่ทำให้พระองค์ทรงประจักษ์ว่าเป็นคนโง่

“ยาพิษอยู่ในขวดเหล้าของเธอ พี่สั่งให้เขาฆ่าเธอเอง”

เจ้าชายเสนาบดีทหารทรงนิ่งขึงตะลึงงัน เนิ่นนาน ก่อนที่ในที่สุดจะเผยแย้มพระสรวลออกมา

“หึ”

เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ แม้ประกายสายพระเนตรก็ยังพราวพรายอย่างอ่อนโยน

“ถึงจะขัดคำสั่ง แต่ก็ยังไม่ถือว่าเสียหายมาก ที่ผ่านมายังมีความดีความชอบ บอกแผนการของเธอให้พี่รู้ทุกครั้ง ฉะนั้นพี่คงจะเลี้ยงไว้ต่อไป”

พระอนุชาไม่รับสั่งอะไร แต่สีพระพักตร์แสดงการยอมรับ เงียบอยู่ครู่หนึ่ง จึงกราบทูลถามเรื่องที่คิดขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน

“ตอนที่เขาพาคนไปดักปลงพระชนม์ที่ช่องเขา เจ้าพี่จำเป็นต้องให้เขาบาดเจ็บขนาดนั้นด้วยหรือพระเจ้าค่ะ” ถ้าผิดพลาดเพียงน้อยนิด ก็คงจะถึงมือมัจจุราชไปแล้ว

“แผลกลางหลังนั่น เขาเป็นคนขอเอง”

“เพราะอะไรพระเจ้าค่ะ”

“เพราะเขาอยากให้เธอรังเกียจจนไม่อยากแตะต้อง”

คนฟังทรงกำพระหัตถ์แน่นจนสั่นสะท้าน ก่อนจะค่อยๆ คลายออก

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“เรื่องอะไร”

“ที่เสด็จมาและรับสั่งบอกให้หม่อมฉันทราบก่อนตาย” ทั้งที่จะโปรดให้เจ้าพนักงานสอบสวนทำหน้าที่นี้และไม่ต้องรับสั่งบอกก็ได้

“โทษของเธอจะถูกตัดสินพรุ่งนี้”

“แค่หม่อมฉันคนเดียวใช่ไหมพระเจ้าค่ะ”

“ยังจะมีใครอีกหรือ”

พระเชษฐาและพระอนุชาต่างพระมารดาทรงสบสายพระเนตรกันนิ่งๆ ก่อนที่ฝ่ายหลังจะทรงค้อมพระเศียรลงจนต่ำที่สุดและนิ่งอยู่ในท่านั้นเนิ่นนาน

“เป็นพระกรุณา”

พระมารดาของพระองค์ ถึงอย่างไรพระองค์ก็ทรงรัก

“เธออยากจะขออะไรเป็นครั้งสุดท้ายไหม”

คนถูกถามทรงนิ่งคิด ก่อนจะทูลตอบ

“หม่อมฉันขอ...”








tbc.




*****************************



เพื่อไม่ให้ค้าง... คำขอของศีลวัตคือขอพบอานนท์เป็นครั้งสุดท้าย

และเมื่อเจ้าหลวงไปถามความสมัครใจของอานนท์... เขาก็ยอมพบนะคะ จะได้เคลียร์กันไปให้จบๆ

ส่วนพระนางเรวดี... อาจมีบทลงโทษนิดหน่อย แต่จะพูดว่า “รอดตัวไป” ก็พูดได้อยู่นะคะ

คนที่รับกรรมเต็มๆ ... มีแค่ศีลวัต

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 10) 4 ก.ค. 57
«ตอบ #266 เมื่อ04-07-2014 07:50:45 »

หม่อมฉันขอ...ตอนต่อไปด่วน!!
ไม่อยากรอถึงวันจันทร์อ่ะคุณชุน....

อยากร้องไห้จริงๆ สงสารเจ้าชายจัง ปวดใจ... :hao5:

ออฟไลน์ iGiG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 10) 4 ก.ค. 57
«ตอบ #267 เมื่อ04-07-2014 08:01:02 »

แง้ ขอต่อเลยได้ไหมคะ พรุ่งนี้ก็ได้ สงสารศีลวัต อานนท์ด้วย เมื่อคืนถึงกับเก็บไปฝัน   
อย่าให้มีใครตายเลยนะคะคุณชุน T_T

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 10) 4 ก.ค. 57
«ตอบ #268 เมื่อ04-07-2014 08:12:57 »

คนแต่งใจร้ายมาก  ให้รอถึงวันจันทร์ รู้ไหมมันทรมานคนอ่านมากเลยนะ  แง ๆ ๆ
... คนที่รับกรรมเต็ม ๆ คือ ศีลวัต ... รับกรรมยังไงว๊า
ขอให้ได้อยู่ด้วยกันเถอะนะ  อ่านตอนนี้แล้วสงสารศีลวัตจัง  รักอานนท์มากมายก่ายกอง

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
Re: เวลา : วันนี้ (บทที่ 10) 4 ก.ค. 57
«ตอบ #269 เมื่อ04-07-2014 08:33:47 »

มี แอบ สปอยด์ !!!!! . . . .  โฮกกกกก

แต่อย่า โกหกนะ ต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด