“ ส้มแบบนี้ใช้ได้มั๊ย " หยิบขึ้นมาให้ผมดู ผมส่ายหน้ามันก็หันไปหยิบลูกอื่น " ลูกนี้ "
“ กูเลือกส้มไม่เป็น " บอกแค่นั้นไอ้โรมก็ลดมือที่กระตือรือร้นที่จะเลือกส้มลงทันที " มองอะไร กูบอกตั้งแต่ก้าวขาออกมาจากโรงพยาบาลแล้วว่ากูเลือกส้มไม่เป็น "
“ พามาเปลืองน้ำมันจริงๆ "
“ กูขอร้องมึงเมื่อไหร่ "
“ ขอโทษนะครับ " มันหันไปหาผู้หญิงสวยคนที่กำลังยืนเลือกส้มอยู่ท่าทางเชี่ยวชาญของเธอเงยหน้ามองมันก่อนจะยิ้มหวาน
“ ค่ะ มีอะไรคะ " เตรียมพร้อมบอกเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่พร้อมเฟสบุ๊คเต็มที่
“ ช่วยเลือกส้มผมหน่อยได้มั๊ยครับ "
“ ได้สิค่ะ จะเอากี่ลูกละค่ะ "
“ สัก สองกิโลก็พอครับ " มันว่าเธอก็หยิบๆจับๆสองสามทีก่อนจะใส่มันลงไปในถุง
“ ชอบกินส้มเหรอคะ " เธอถามแต่ไม่โรมส่ายหน้า
“ จะเอาไปให้ลูกสาวนะครับ " มือที่กำลังเลือกส้มนั้นหยุดชะงัก เธอเงยหน้าขึ้นมองมันก่อนจะหยิบส้มสองสามผลแถวนั้น ส่งให้
“ นี่ค่ะ ขอตัวนะคะ " ว่าจบแล้วก็ตัดบทเดินไป ไอ้โรมหันหน้ามาหาผมมันเริกคิ้วขึ้นถาม
“ กูทำอะไรผิดไปเปล่าวะ "
“ ไม่รู้สิ กูไม่เคยจีบผู้หญิง " ว่าแบบนั้นผมกลั้นขำจนแทบจะร้องไห้ ไอ้โรมถอนหายใจพร้อมกับเทส้มทั้งถุงลงในกระบะ " ถามจริงมึงไม่เคยจีบผู้หญิงเลยรึไง "
“ ไม่เคย "
“ หมายความว่าไงวะ แม่อลิซนี่มึงไม่ได้จีบมารึไง " ผมหัวเราะแต่ไอ้โรมเงียบ รอยยิ้มของผมเริ่มหดลง " โรม "
“ ก็ไม่ได้จีบมา " ว่าแค่นั้นก่อนจะเดินไปที่อื่นแบบทันที
“ อะไรของมันวะ " ถามแค่นั้นต้องโมโหขนาดนั้นเลยรึยังไงวะ แผ่นหลังของมันเดินไปเลือกส้มแบบอื่นอยู่อีกฝั่ง ผมหันมองไปรอบๆป้าแม่บ้านคนนึงที่กำลังเลือกผลไม้ " ขอโทษนะครับคุณป้า ผมขอถามอะไรหน่อย "
“ จ้ะ ว่าไง "
“ คือผมจะซื้อส้มไปให้เด็กกินนะครับ คุณป้าพอช่วยแนะนำผมหน่อยได้มั๊ยครับ "
“ ได้สิ นั่นส้มแบบนั้นเด็กๆชอบ หลานป้าก็ชอบ ส้มจีนกินง่ายไม่เมล็ดด้วย เปรี้ยวอมหวานนิดๆ แช่เย็นกินอร่อย " เธอว่าก่อนจะชี้ไปที่ส้มที่จัดเป็นถุงๆ
“ เหรอครับ แต่ว่าผมเลือกไม่เป็น "
“ ป้าสอนให้ " เธอว่าแบบใจดีก่อนจะเดินนำผมไปที่ล๊อคของส้มจีน หยิบถุงนึงขึ้นมาเธอลูบๆคลำๆสองสามครั้ง " ส้มที่อร่อยเปลือกจะเรียบๆแล้วก็บาง เวลากดลงไปรู้สึกถึงเนื้อไม่ใช่แบบลมๆ แต่ว่าทั้งถุงนี้คงไม่ไม่อร่อยทั้งหมด เลือกเอาถุงสวยๆก็พอ "
“ ขอบคุณนะครับ " ยกมือไหว้เธอ เธอยิ้มก่อนจะยืนดูสักพัก
“ สองถุงนี้สวย เอาไปทั้งสองถุงเลยก็ได้นะจ้ะ "
“ ขอบคุณนะครับคุณป้า " รับส้มมาสองถุงผมเดินเข้าไปหามันที่ไม่ได้เลือกส้มแต่กำลังถอนหายใจอยู่ สะกิดหลังมัน
“ อะไร "
“ ส้ม " ยื่นออกไป ไอ้โรมรับไว้
“ ไหนบอกเลือกส้มไม่เป็น "
“ ทีหลังถ้าไม่ให้ถามก็บอก กูไม่ได้อยากรู้เรื่องมึงขนาดนั้น " ว่านั้นผมเดินออกมา ไอ้โรมเดินตามมันดึงผมไว้ให้เดินตามไปเช็คบิลผลไม้กับมัน เค้าเตอร์ที่ยืนรอคิวมีขนมที่วางขายล่อใจเด็ก ลูกอมช็อคโกเล็ตแล้วก็ขนมชิ้นเล็กๆ วางส้มสองถุงลงบนสายพานไอ้โรมดึงอมยิ้มออกมาสองอันวางไว้ข้างกับส้มสองถุงนั้น คงซื้อไปให้อลิซผมคิดแบบนั้น
“ มึงจะซื้ออะไรอีกรึเปล่า ถ้าไม่มีเราจะได้ไปกินข้าวกันเลย "
“ ไม่มี "
“ ลิปมันละ " หันมาถามชะงักไปสักพัก
“ อ้อ ที่เพื่อนกูฝากอะนะ ค่อย มาซื้อก็ได้ กูว่ามันคงยังไม่รีบใช้ "
“ รีบใช้เถอะ ปากแห้งมากเลยนะ " หันมองมันไอ้โรมอมยิ้มก่อนจะหันไปทางอื่น " อื้ม กูหมายถึงเพื่อนมึงไง "
“ กินก่อนเถอะ โซนเครื่องลำอางมันอยู่ชั้นบน "
“ โอเคงั้นก็กินก่อน " มันว่าก่อนจะเดินนำหน้าผมไป ไอ้โรมหันหน้ามาถาม " อยากจะกินอะไร "
“ มึงถามกูตอนที่เดินนำกูไปแล้วนะเหรอวะ "
“ ก็แค่ถามตามมารยาทเพราะยังไงมึงก็ต้องบอกว่า อะไรก็ได้อยู่แล้ว "
“ รู้ได้ไงไอ้สัด กูจะกินพิซซ่าเว้ย " บอกแบบนั้นมันก็พยักหน้ารับ
“ พอดีเลยร้านที่กูจะพามึงไปกินพิซซ่าก็อร่อย " ยักคิ้วให้แต่ผมถอนหายใจออกมา อะไรๆก็ดูเหมือนจะเข้าข้างและเป็นใจให้มึงหมดเลยนะไอ้สัด
ร้านอาหารที่อยู่กลางห้างผมคุ้นร้านนี้เพราะเคยไปกินอยู่สองสามครั้ง แต่ไม่ใช่สาขานี้ สาขาของห้างผมยังไม่เคยกิน เดินผ่านตู้เค้กผมนึกถึงอลิซที่คิดว่าวันนี้ก็คงไปโรงเรียน
“ กินอะไรสั่งเลย "
“ เลี้ยง "
“ ตอบแทนที่ช่วยเลือกส้มให้ไง " ท้าวคางมองมันที่โรมที่กำลังก้มดูเมนูอาหารอยู่ " ทำไม "
“ ก็ตั้งใจจะพามาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ " ว่าแค่นั้นผมก้มลงเลือกเมนูอาหาร " สั่งเป็นเครปเนื้อครับ แล้วก็แฮมเบอร์เกอร์หมู "
“ สปาเก็ตตี้มีสซอส แล้วก็จานแบ่งสองจานครับ " ว่าแค่นั้นเรายื่นเมนูให้พยักงานมันก็มองหน้าผม " ไหนบอกอยากจะกินพิซซ่า "
“ ก็ตอนนี้ไม่อยากกินแล้ว " คือมึงจะให้กูบอกได้ไงว่าตอแหล " ว่าแต่มึงเถอะ ท่าจะชอบจริงๆนะ ไอ้สปาสเก็ตตี้มีสซอสเนี้ย "
“ ก็พอแดกได้ "
“ จริงๆที่นี่ สปาเก็ตตี้หมูกรอบอะไรสักอย่างนึงนี่เหละ อร่อย "
“ แล้วทำไมไม่สั่ง " ผมไม่ตอบรู้สึกไม่อยากจะพูดกับมันขึ้นมาดื้อๆเพราะที่กูพูดกูไม่ได้บอกว่าจะแดก มันก็เป็นแค่การชวนคุย ไอ้โรมเป็นพวกกวนตีนปากไม่มีหูรูด มันนึกจะพูดมันก็พูด ชอบกวนชอบสอดน่ารำคาญ แต่ก็ไม่ถึงกับรำคาญ บางทีผมเองก็สับสนในความรู้สึกของผมเองชะมัด
นั่งกินข้าวกันไปเงียบๆ อร่อยทุกอย่างเลยครับโดยเฉพาะสปาเก็ตตี้เพราะที่นี่เด่นเรื่องนี้ ไอ้โรมดูเป็นคนกินไม่เก่งมันเอาแต่กินแฮมเบอร์เกอร์กับเครป กินสปาเก็ตตี้แค่ไม่กี่คำ ผมไม่ได้สั่งยังกินเยอะกว่า
“ ขอบคุณที่เลี้ยงนะมึง "
“ รอบหน้าเลี้ยงกูบ้างละกัน " บอกแบบนั้นตอนที่เดินออกจากร้านอาหาร ผมเดินเลี่ยงทำเป็นลืมไม่ผ่านบันไดเลือนที่ต้องขึ้นไปโซนเครื่องลำอางเดินนำมันไปฝั่งลิฟต์ด้านหลังของห้าง เพื่อไปลานจอดรถ
“ กูไม่ได้ลืมง่ายขนาดนั้นนะ อิน " ว่าเสียงเรียบๆ เสียงเท้าของมันเดินหันหลังกลับไปที่โซนเครื่องสำอาง ผมถอนหายใจตอนที่มันก็ไม่ลืมหยุดรอเพื่อมองว่าผมเดินไปด้วยรึเปล่า
“ ค่อยให้เพื่อนกูมาซื้อก็ได้นี่หว่า ไม่เห็นต้องรีบร้อน " แต่ถึงจะพูดแบบนั้น มันก็หยุดรอจนกว่าผมจะเดินเข้าไปใกล้
หลงเข้ามาในโซนเครื่องลำอางที่นานๆครั้งจะมา ผมหยิบโทรศัพท์พิมพ์ข้อความกับไอ้พิงค์ เพื่อถามร้านของสินค้าที่มันแนะนำ ร้านเล็กๆที่อยู่โซนหลังสุด เป็นลิปมันแบบที่มีรูปผึ้งเป็นโลโก้สินค้า
“ สวัสดีค่ะ " พนักงานขายทัก ผมเดินเข้าไปไอ้โรมยืนรอห่างออกไปก้าวนึง " สนใจลิปตัวไหนคะ "
“ ลิปมันครับ พอดี คือเพื่อนผมปากแห้งเลยฝากมาซื้อ "
“ สนใจแบบไหนดีคะ "
“ มีหลายแบบเหรอครับ " หันไปถามเธอที่ยิ้มออกมา ก็ทำไมวะลิปมันมันก็แค่ลิปมันมึงจะมีทำไมหลายๆแบบ
“ ก็มีแบบผสมผลไม้ตัวนี้จะหอม แบบผสมเปปเปอร์มินต์ตัวนี้จะเย็นๆ แล้วก็มีแบบผสมน้ำผึ้ง แบบป้องกันแสงแดด " และอีกเยอะแยะมากมาย ผมยืนฟังเธอพูดจนได้ยินเสียงหัวเราะจากด้านหลัง ผมคิดว่ามันคิดเหมือนผมว่าแค่ลิปมันมึงจะอะไรหนักหนา
“ เอาแบบที่ขายดีที่สุดมาแท่งนึงครับ "
“ ไม่มีกลิ่นส้มเหรอครับ " ไอ้โรมว่า
“ ไม่เอากูไม่ชอบกลิ่นส้ม " บอกมันแต่ไอ้โรมขมวดคิ้ว
“ ไหนบอกซื้อให้เพื่อน "
“ ก็เพื่อนกูไม่ชอบกลิ่นส้มไง "
“ งั้นรับเป็นแบบผสมเปปเปอร์มินต์นะคะ ลูกค้าจะดูสินค้าอื่นเพิ่มเติมมั๊ยคะ " ส่ายหน้าตอนที่ยื่นบัตรเครดิตให้ เธอเดินไปคิดค่าเสียหาย
“ จริงๆ หน้ามึงก็มีริ้วรอยอยู่นะ เวลายิ้มรอยตีนกาตรงหางตา "
“ หยุด " ชี้หน้ามันไอ้โรมหันหน้าไปสนใจพวกแท่งลิปแบบอื่น มันเปิดแล้วก็ดม
“ หอมดีวะ สีม่วงอันนี้ " เหล่ผมนิดๆก่อนจะปิดแล้วหันไปสนใจอย่างอื่น
“ เรียบแล้วค่ะ ลูกค้าเซ็นต์ตรงนี้นะคะ " ยื่นสมุดเล่มสีดำให้ผมเซ็นต์ลายเซ็นลงไปก่อนจะยื่นกลับให้เธอ " ขอบคุณนะคะ "
“ ครับ " รับถุงสินค้าเดินออกมาจากโซนพร้อมกับไอ้โรมที่ผิวปากสบายใจ
“ ดูแลหน้าตาตัวเองบ้างเถอะ คิดว่าหน้าตาดีแล้วจะไม่มีตีนการึไง "
“ มึงดูแลตัวเองเถอะ " ว่าแค่นั้นมันก็หัวเราะ
“ กูนะ ต้องหาคนดูแล กูไม่ต้องดูแลตัวเองหรอก " เอื้อมลงไปตบกระเป๋าตังค์ตัวเอง " กูมีนี้ก็พอ "
“ ไม่ง่ายเลยว่ะ ที่จะหาคนหลงตัวเองแบบมึง "
“ กูว่าก็ไม่ง่ายเลยเหมือนกันที่จะเจอคนแบบมึง " มันมองหน้าผม ในรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นมันยักไหล่ขึ้นก่อนจะเดินนำผมไป
“ หมายความว่าไงว่ะไอ้สัด "
ฟังเพลงร๊อคหูแตกระหว่างขับรถกลับโรงพยาบาล เอื้อมมือไปหรี่เพลงให้เบาลงไอ้โรมก็เปิดให้ดังขึ้น ผมทำได้แน่นั่งนิ่งๆมองทางข้างหน้าที่รถก็กำลังติด
“ มึงไม่ใช้รึไงลิปนะ ปากเริ่มลอกแล้วนะ " เสียงทักของมันทำเอาผมจับปากตัวเอง มันไม่ถึงกับนุ่มก็จริงแต่ก็ไม่คงไม่ได้ลอก กลีบปากออกจากแข็งๆตรงเกือบด้านใน ทำไมกูต้องรู้สึกกังวลอะไรขนาดนั้น
“ เลิกมองปากกูสักทีได้มั๊ยวะ มึงเป็นเหี้ยอะไรกับปากกูนักหนา พูดถึงอยู่ได้ "
“ ก็ปากมึงแห้ง " ว่าแบบนั้นก่อนมือข้างนึงจะยื่นเข้ามาจับปากของผม โรมลูบเบาๆก่อนคลึงมันทั้งปากบนและปากล่าง
“ พอแล้ว ไอ้สัด "ผมสะบัดออก ก่อนจะเอียงตัวออกจากมันแอบรู้สึกแปลกๆตอนที่มันสัมผัสแบบนั้นกับปากของผม
“ หึ " แล้วทำไมเสียงหัวเราะในลำคอที่โคตรเจ้าเล่ห์ของมัน ต้องทำกูหงุดหงิดแบบเสียหน้าขนาดนี้ด้วยวะ
จอดรถที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลไอ้โรมดับเครื่องก่อนจะเดินลงมาพร้อมกับผม มันเรียกผมไว้ " อิน "
“ อะไร "
“ ไปแบบไม่ขอบคุณสักคำเลยนะมึง "
“ ขอบคุณ " บอกแบบนั้นมันก็ยกยิ้ม ยืนนิ่งมองหน้ากันสักพักไอ้โรมก็เปิดประตูหลังมันหาอะไรสักอย่างก่อนจะยื่นให้ผม เป็นอมยิ้มที่มันซื้อที่ห้างรสสตอเบอรี่
“ วันนี้ที่หงุดหงิดใส่ตอนชวนไปเลือกส้ม "
“ แล้วไง " มองมันที่ไม่ได้มองหน้าผม ท่าทางที่เหมือนไม่ค่อยได้ขอโทษใคร
“ โทษ " ว่าด้วยเสียงเรียบๆมือที่ยื่นอมยิ้มให้ผมนั้นดูมั่นคงแต่ก็แอบสั่น ไม่ได้ยื่นมือไปรับนานจนมันก็เงยหน้าขึ้นมา " ทำไมเรื่องมากวะ เอาไปดิ "
“ ไม่เอา "
“ ทำไม นี่มึง "
“ จะเอาอีกอัน " ว่าสวนมันขึ้นไปไอ้โรมขมวดคิ้ว " กูไม่ชอบกินสตอเบอรี่ "
“ เอ้าเหรอ ? แต่มันเป็นรสอมยิ้มที่กูชอบมากเลยนะ " หันไปหยิบอมยิ้มอีกอันให้ผม รับเอาไว้ผมกำแน่นน่าแปลกที่ใจสั่นกับแค่คำพูดแบบนั้น น่าแปลกที่กลับอยากจะกินอมยิ้มอีกอันขึ้นมาทันทีเพราะรู้ว่าอีกคนชอบมากแท้ๆแต่กลับเลือกที่จะให้เรา
ก็ยอมรับ กูไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน
“ อิน..” เหมือนไม่ได้ยินเสียงเรียกนี้ ตอนนั้นก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเงียบไปนานเท่าไหร่ รู้อีกทีหลังคอของผมที่รู้สึกอุ่นนั้นมีมือนึงรองมันอยู่ ก่อนที่ปากจะเป็นลำดับต่อมาที่รู้สึกอุ่น
' อย่านะอิน ' ผมบอกตัวเองแบบนั้น แต่ตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นมือที่หยุดนิ่งหรือแม้แต่ลิ้นแต่ตอบรับรอยจูบดูดดื่มนั่น ตอนนั้นไม่มีใครฟังผมทั้งนั้น
“ ปากแห้ง อย่าลืมทาลิปนะอิน " พูดแบบนั้นข้างหูตอนที่ถอดริมฝีปากออกจากผม ถอนหายใจออกมาผมรู้ว่าตอนนั้นหน้าคงแดงจนได้แต่หลบ
“ กูรู้แล้วน่า "
...............................................
เคยบอกว่าถ้าแต่งถึง 10 ตอนแล้วจะรู้ได้ว่าใครคู่ใคร
ขอถอนคำพูดนะ #คนอ่านรุมตบ ขอโทษนะคะ แต่อยากจะบอกว่า
อย่าตัดสินอะไรเพียงแค่ โรมจูบอิน หรือ อินกับไฟท์เอากัน
การจูบกันหรือเอากัน ไม่ได้ได้หมายว่ามันจะจบลงด้วยการรักกันตลอดไป
คนเรามันต้องมีอะไรหลายๆ ที่ทำให้เรารู้สึกกับใครสักคนไปจนตายว่ามั๊ย
มันต้องเจอปัญหา ต้องตัดสินใจ ต้องมีอะไรๆมากกว่าความสุข
เรื่องนี้มันแบบ คนอายุมากขึ้น ความคิดมันสูงขึ้น ความเห็นแก่ตัวมันมากขึ้น
เรื่องนี้ค่อนข้างแต่งยาก มึนๆงงๆดราม่าจนอยากจะเปิดเรื่องน้องฟู่กับไอ้ฟู่แล้วเขียนแบบฟิวๆบีทีเอสมากเค่อะ
จำได้มั๊ย คนที่ด่าไฟที่ ร.พ. เด็กน่ารักที่ทั้งฮิมและเทมบอกว่าน่ารัก กร้ากกกกก
รู้สึกตัวเองยังคงงมอยู่ในวังวนของบีทีเอสไม่หลุดออกไปสักที TT
หนมฝากแท็ก #choiceไฟท์อิน ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
