ตอนที่ 38 รถจอดลงตรงหน้าคอนโด ผมหันมองไฟท์ที่หันไปมายิ้มให้ มือหนายื่นมาลูบหัวผมก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด " ไฟท์ "
“ ไปเถอะ "
“ ไม่มีอะไรจะพูดแล้วนะ " ผมถาม อีกคนก็พยักหน้า
“ อื้ม ไม่มี "
“ งั้นกูไปก่อนนะ " พยักหน้าให้ ผมเดินลงจากรถแล้วก็ยืนอยู่ตรงนั้น ไฟท์เปิดกระจกลงถาม
“ ทำไมยังไม่เข้าไป "
“ รอให้มึงไปก่อน "
“ มึงเข้าไปเถอะ กูจะรอจนกว่ามึงเข้าไปข้างใน " มองหน้าไฟท์ก่อนจะพยักหน้า ผมปล่อยมือจากรถที่กำลังจับ ถอยหลังเดินเข้าไปด้านในช้าๆ กดขึ้นลิฟท์ไปด้านบนของคอนโดที่ยังคงจำได้ดี
สถานที่ที่เราซื้อมันไว้เพื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในอดีต ประตูห้องห้องเดิม ผมยืนอยู่ตรงนั้นมองเบอร์ห้องที่ไม่ผิดไปจากเก่า กำมือของตัวเองแน่นอยากจะเอื้อมขึ้นเคาะประตูแต่มันก็ทำได้แค่ค้างอยู่ตรงนั้น หัวใจเต้นแรง มือของผมเริ่มสั่น
“ ป๊า มีใครมายืนอยู่หน้าบ้านเราก็ไม่รู้ "
“ แอล " ผมหันไปตามเสียงที่เรียก โรมยืนอยู่ตรงนั้น มือหนาคู่นั้นกำลังกุมมือเล็กๆของเด็กคนนึง เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่ทำให้ผมหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น หวนคิดถึงผู้หญิงคนนึง คนที่เคยทำให้ผมเจ็บเหมือนตายทั้งเป็น
“ อ่า อื้ม " พยักหน้าให้มัน โรมก็เดินเข้ามาใกล้
“ มีอะไรรึเปล่า "
“ เปล่ามี ไม่มีอะไร " ผมส่ายหน้า ตอนที่มองไปรอบๆ สุดท้ายก็หันกลับมามองหน้าเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง ผมจ้องเธอที่กำลังสนใจขนมที่ถืออยู่ในมือ " คือ หน้าเหมือนกันเลยนะ "
“ ก็พ่อลูกกัน "
“ อื้ม นั่นสินะ " พยักหน้าลงอีกครั้ง โรมก็เดินเข้ามาใกล้ประตูก่อนจะหยิบกุญแจขึ้นมาไข
“ ป๊าขา คุณอาคนนี้ เป็นเพื่อนของป๊าเหรอ " เสียงใสๆของเธอถาม โรมหันไปยิ้มก่อนจะตอบ
“ ใช่ครับ เพื่อนป๊าเอง อลิซสวัสดี เพื่อนป๊าด้วยนะครับ "
“ ค่ะ สวัสดีคะ หนูชื่ออลิซนะคะ "
“ สวัสดีครับ อาชื่อ อาแอลนะ ยินดีที่ได้รู้จักครับผม " ยิ้มแห้งๆตอบกลับไปให้เธอ มือเล็กๆล้วงเข้าไปในถุงที่ถือก่อนจะยื่นลูกอมสีแดงเม็ดนึงมาให้ผม
“ หนูให้คุณอาแอลนะคะ "
“ ขอบคุณมากครับ " รับลูกอมไว้ในมือ ผมเงยหน้ามองหน้าโรมที่หันหลังลูกสาวให้เข้าไปในห้อง
“ จะเข้ามา กินอะไรข้างในก่อนรึเปล่า "
“ ได้เหรอ " ผมถาม
“ ที่มึงมาที่นี่ก็เพราะว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับกูอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ " ประตูถูกเปิดออกกว้าง ภาพที่ผมเห็นแตกต่างจากเมื่อก่อน แต่ถ้าจะให้พูดจริง มันไม่มีอะไรเหมือนก่อนอีกแล้ว ไม่มีอะไรที่เหมือนเมื่อก่อน ไม่ว่าจะสถานที่ สิ่งของ หรือ บุคคล
ก้าวขาเดินเข้าไปด้านใน ผมเลื่อนเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงโต๊ะกินข้าวนั่งลง มองไปรอบๆ โรมที่วุ่นวายอยู่กับลูกสาวของตัวเอง อลิซเดินไปนั่งที่โซฟามือเล็กๆหยิบขนมขึ้นมาเปิด
“ ป๊าเปิดขนมให้หนูหน่อย "
“ ดึกแล้ว ไม่กินขนมแล้วนะครับ " โรมหยิบขนมใส่ลงในถุงไว้ตามเดิม เด็กน้อยก้ทำหน้างอ
“ แต่หนูอยากกิน ชิ้นเดียวก็ได้นะคะ ก่อนอาบน้ำ นะๆ น้า " สองแขนกอดคอพ่อตัวเองก่อนจะหอมแก้ม " ให้หนูกินนะ ชิ้นเดียวเอง "
“ ทำไมดื้อจัง หื้ม ? "
“ แค่ชิ้นเดียวเอง อลิซคงอยากจะกินจริงๆ ไม่อยากจะกินจริงๆ คงไม่ขอหรอก อลิซรู้อยู่แล้วว่ากินขนมตอนกลางคืนไม่ดี ถูกมั้ยครับ " ผมถามเด็กตัวเล็กที่หันมามองหน้าก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้าอย่างแรง " อาแกะให้ เอามาให้อาสิครับ " ผมยื่นมือไปหา หัวใจของตัวเองเต้นแรงในทุกคำพูดที่พูดออกไป อลิซวิ่งเข้ามาหาถุงขนมถูกยื่นมาให้ก่อนสองมือเล็กจะค้ำคงกับตักของผม
“ อาแอลใจดีจังเลย "
“ แต่แค่ชิ้นเดียวนะครับ "
“ ค่ะ " ฉีกถุงเวเฟอร์ส่งไปให้ แก้มน่ารักค่อยๆเคี้ยวมัน ท่าทางมีความสุขจนทำให้ผมยิ้ม
“ อลิซเคี้ยวช้าจังเลยนะ "
“ อาอินสอนหนูไว้ว่า ถ้าอยากจะกินขนมอร่อยๆนานๆ ต้องเคี้ยวช้าๆค่ะ ถ้าหนูกินเร็วๆมันจะหมดเร็ว "
“ อย่างงั้นเหรอครับ "
“ ค่ะ " พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะยื่นขนมมาให้ผม " อาแอลชิมมั้ยคะ อร่อยนะ หนูให้ "
“ ไม่ล่ะ ครับ ขอบคุณมาก " ผมบอกก่อนจะหยิบถุงขนมมาถูกปิดเอาไว้ ก่อนจะตั้งไว้บนโต๊ะ " กินเสร็จแล้ว อย่าลืมไปอาบน้ำนะ "
“ ค่ะ "
“ ขอกูอาบน้ำให้ลูกแปปนึง เดี๋ยวจะมาคุยด้วย "
“ อื้ม ตามสบายเลย " พยักหน้าให้อีกคน ก่อนจะหลบตาโรมที่จ้องมาเหมือนกับจะตั้งคำถาม
“ ป๊าแล้ววันนี้อาอินไปไหน ทำไมอาอินไม่มาหาหนู "
“ ป๊าก็ไม่รู้เหมือนกันครับ คงต้องถามจากอาแอลเค้าละมั้งครับ แต่ตอนนี้นางฟ้าของป๊าไปอาบน้ำก่อนนะ ไปกันเลย " เสียงที่ค่อยๆหายเข้าไปในห้อง
ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะมองไปรอบๆห้อง ห้องเดิมที่ยังคงมีความทรงจำอยู่ทุกที่ ชั้นใต้ทีวีที่ผมเลือก โซฟาตัวเดิมที่เราช่วยกันขนเข้ามา ผมยืนยิ้มให้กับมันตอนที่หวนคิดถึงความทรงจำเหล่านั้น ตอนที่เข้ามาจัดบ้านใหม่ๆ ผมมักจะบอกกับโรมว่า อันนี้ซื้อมาไว้ใส่อะไร ชั้นใต้ทีวีของเราอันนี้เป็นแบบยาว ชั้นบนเป็นที่วางของโล่งๆ เพราะชอบดูหนังด้วยกันทั้งคู่ก็เลยเอาไว้ใส่ดีวีดีหนังเรื่องที่ชอบ ส่วนชั้นล่างที่ล็อคได้เราเอาไว้ใส่ของมีค่าของเรา ของเกี่ยวกับความทรงจำต่างๆ
“ กุญแจ กุญแจอยู่ในดีวีดีหนังเรื่องที่สามนับจากซ้าย " ทวนความจำของตัวเองก่อนจะหยิบมันออกเปิดดู " ยังอยู่อยู่ที่เดิมจริงๆด้วย " คงเพราะไม่ได้ดูหนังละมั้ง จริงๆอาจจะเป็นผมคนเดียวที่ชอบดูหนังส่วนอีกคนอาจเพราะผมชอบก็เลยตามใจพาไปดูด้วยตลอด
ไขกุญแจเปิดลิ้นชักใต้ตู้อันเก่า ผมยิ้มออกมาทันทีตอนเห็น ทุกอย่างในนั้นยังเหมือนเดิม แม้กระทั้งกล่องที่เก็บตั๋วหนังที่ไปดูด้วยกัน ผมหยิบอัลบั้มภาพอันบนขึ้นมาเปิดดู ภาพตอนสมัยเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ แล้วไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันครั้งแรก มีแม้แต่ภาพตอนที่เราฉลองครบรอบห้าปีที่คบกัน ไล่นิ้วมือไปตามภาพพวกนั้น รอยยิ้มที่มีความสุขเหล่านั้น
ก่อนจะหยิบอัลบั้มอีกอัลบั้มขึ้นมาเปิดดู ภาพที่ต่างออกไปจากอัลบั้มแรก มันเป็นภาพของตัวผมเองกับโรมที่กำลังจูบกัน บางทีก็เป็นภาพเปลือยที่ใช้แค่ผ้าห่มปิดเฉพาะส่วนเอาไว้ จำได้ว่าสมัยก่อนมันชอบถ่ายภาพแบบนั้น ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เวลาจูบกันบางทีก็ชอบถ่ายภาพแบบตั้งเวลาให้กดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจูบกันเสร็จ ผมรู้ว่ามันชอบถ่าย แต่ไม่คิดว่ามันจะล้างแล้วเอามาเก้บเอาไว้
“ ทำอะไรอยู่ "
“ เปล่า " ผมปิดภาพพวกนั้นลงทันที หัวใจของผมเต้นแรงตอนที่รีบยัดอัลบั้มภาพที่ตัวเองกำลังดูใส่ลงในตู้ หันมามองมันที่ย่อตัวอยู่ข้างๆแล้วผมถึงกับต้องผละออกเพราะความใกล้ " อลิซ หลับแล้วเหรอ "
“ อื้ม หลับแล้ว " บอกแบบนั้น โรมที่นั่งข้างกันมันหยิบอัลบั้มภาพที่ผมใส่ไว้ที่เดิมขึ้นมาดู " มึงนั่งดูภาพพวกนี้อยู่เหรอ "
“ เอ่อ ก็ ก็เปล่าหรอก กูแค่อยากรู้ว่ากุญแจมันยังอยู่ที่เดิมรึเปล่า "
“ งั้นเหรอ " เสียงตอบมาพร้อมกับอัลบั้มภาพที่ถูกปิดลงอย่างแรง โรมที่กำลังกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองมันหันมาถามผม " มึงมาทำไม ไหนตอนแรกบอกว่าไม่อยากจะคุยอะไรกับกูทั้งนั้นไง แล้วทำไมอยู่ๆถึงมา "
“ คุณอินให้มา "
“ อิน ? หมายความว่าไง "
“ คุณอินให้มาเคลียร์กับมึง " ผมเงยหน้าขึ้นมองโรม มันถอนหายใจออกมาทันที ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งตรงข้างๆผม
“ แล้วมึงก็เชื่อมัน ทั้งๆที่มึงไม่รู้เลยเหรอว่า ที่มันให้มึงทำแบบนั้นก็เพราะว่า ตัวมันเองอยากกลับไปหาไอ้ไฟท์ตังหาก แค่อยากกลับไปหาไอ้ไฟท์เลยให้มึงถอยออกมา เพื่อให้มันง่ายต่อการเค้าไปหาก็เท่านั้น โดนหลอกแล้วละ " โรมว่า พลางเปิดตู้เย็นแล้วรินน้ำขึ้นดื่ม " กินน้ำมั้ย "
“ ก็ดี " พยักหน้าก่อนจะลุกเดินตามมันเข้าไปในครัว " แต่กูไม่คิดว่าเค้าจะคิดอย่างงั้น คุณอินบอกว่า เค้ารักมึงแต่เค้าแค่รู้สึกว่ามันไม่โอเค ถ้ามึงยังคิดถึงกู "
“ แล้วยังไง มึงเลยกลับมากู เพื่อให้อินสบายใจว่า ถึงจะกลับมาอยู่ด้วยกันสักพัก ก็ไม่เป็นอะไรงั้นเหรอ เราจะไม่รู้สึกอะไร " มือหนาบีบขวดน้ำที่ตัวเองถือไว้แน่น สายตาโกรธจ้องมองหน้าผม " มึงคิดว่าหัวใจกูเป็นอะไร ถึงได้มาทำอะไรเล่นๆกันแบบนี้ ขนาดหมามันยังไม่ต้องทดลองอยู่กับคนเลี้ยงแล้ว แล้วกูเป็นเหี้ยอะไรของพวกมึง ที่จะต้องทำแบบนั้น "
“ โรม " มันเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ จนแผ่นหลังของผมแนบชิดติดกับกำแพง " เดี๋ยว ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด "
“ ถามหน่อย แล้วกูจะได้อะไรจากสิ่งที่พวกมึงทำกันอยู่ ได้เอามึงรึเปล่า " มือหนายันเข้ากับข้างกำแพง รอยยิ้มที่ยกยิ้มตรงมุมปากทำเอาผมกลืนน้ำลาย " ถ้ากลับมาลองคบกันดูอีกครั้ง กูจะได้เอามึงจริงๆอีกครั้งรึเปล่า "
“ พูดเหี้ยอะไรของมึง " ผมบอกอีกคนก็ยกยิ้มหัวเราะ โรมถอยห่าง
“ ไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นหรอก กูกับมึง ไม่มีวันกลับไปเป็นแบบเดิมได้หรอก เป็นคนที่เกลียดขี้หน้ากันก็ดีแล้ว กูทำมึงไว้ขนาดนั้น ยังจะหน้าด้านไปขอมึงเป็นเพื่อนอีก พอมาคิดตอนนี้กูมันสิ้นคิดจริงๆ " วางขวดน้ำลงตรงเค้าเตอร์ครัว " กูไม่ควรหวังว่าจะเป็นแม้เพื่อนกับคนที่กูเคยทำให้เค้าเจ็บเจียนตาย จริงมั้ย "
ผมกัดปากของตัวเองแน่น ตอนที่ฟังมันพูดแบบนั้น ขาที่หยุดนิ่งก็ค่อยๆเดินเข้าไปหา ผมหยิบแก้วใบที่มันเพิ่งกินน้ำเสร็จวางลงในอ่าง ก่อนจะหันไปบอกมัน " กูบอกกี่ทีแล้ว ว่าอย่าตั้งแก้วตรงขอบเค้าเตอร์มันจะตกลงมาแตก ถ้ากินเสร็จแล้วก็ตั้งไว้ในอ่าง ถ้าไม่อยากล้างกูจะล้างให้เอง แค่วางให้มันถูกที่ "
“ แอล "
“ กูไม่อยากให้มึงต้องเป็นแบบนี้ " มือผมเอื้อมไปจับบนหน้าของมัน ลูบเบาๆก่อนยิ้ม " อย่าคิดเลย ถ้าตอนนี้มึงจะคิดว่าทำไมกูถึงมาที่นี่ แล้วมาเพราะอะไร คุณอินจะทำเพื่ออะไร มึงลืมไปได้มั้ย มองหน้ากูนี่ กูยืนอยู่ตรงนี้ ถึงเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันไม่ได้ แต่จากกันด้วยดีเถอะมึง จากกันด้วยดี ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างเจ็บอยู่แบบนี้ ให้เรื่องราวที่ผ่านมามันเป็นความทรงจำนึงที่แม้คิดถึงแต่เราก็ไม่รู้สึกอะไร ดีกว่าพอคิดถึงมันทีไร ก็ทำให้ปวดใจทุกครั้ง มันไม่ดีกว่าเหรอ " โรมเงียบไปผมเองก็ถอนหายใจออกมา " บางทีคุณอินอาจจะแค่กำลังคิดว่า ถ้าได้ลองอยู่กับคนที่ตัวเองชอบทั้งคู่ อะไรคือคนที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมากกว่า คนที่ทำให้เค้ารู้สึกว่าขาดไม่ได้ เค้าไม่ผิดหรอกที่เลือกไม่ได้ คนที่ไม่รู้ มักไม่ผิด "
“ อิน ก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่แรกแล้ว " ผมหันไปมองมันที่ถอนหายใจออก โรมยิ้ม " ครั้งแรกที่เจอกันกูรู้สึกว่า ไอ้หมอนี่สวยจัง ปากร้ายที่คอยด่าว่ากูเป็นพ่อคนที่ไม่เอาไหน แต่ถึงจะพูดแบบนั้น มือก็คอยดูแลอลิซอยู่ไม่ห่าง มันเป็นความรู้สึกประทับใจในตอนแรก แต่ไม่รู้ทำไมพอได้เจอกันบ่อยๆ ก็กลายเป็นว่าเริ่มชอบ อินที่กูค่อยๆรู้จักมันมีคนที่มันชอบอยู่แล้ว เป็นเพื่อนสนิทของตัวเองที่เจ้าตัวยอมทำให้ทุกอย่างทั้งๆที่เพื่อนมันคนนั้นกลับไม่ได้ให้อะไรมันคืนมาเลย กูตอนที่เห็นมันเป็นแบบนั้นก็คิดว่า จะจีบดู อยากให้อินเห็นว่ากูจะเป็นคนที่สามารถให้มันคืนได้ ทั้งความรักแล้วก็ความสุข อีกอย่างหลังๆเลยคือ กูอยากเริ่มชีวิตใหม่ ตอนนั้นอินเองก็บอก ว่ามันรักใครอีกคนอยู่ แต่เพราะกูมั่นใจเอามากๆว่า ยังไงก็ต้องทำให้มันรักได้อยู่แล้ว ก็เลยไม่มีถอย คงเพราะคิดมาตลอดว่าตัวเองดีกว่า แต่ก็ลืมว่า ในความรัก เก่ง ไม่ได้ช่วยอะไร ตอนที่เค้าเลือกเค้าไม่ได้มองว่าเราเก่งแค่ไหน แต่เค้าเลือกว่า เค้ารักใครตังหาก อย่างอื่น ไม่เกี่ยวอะไรเลย "
“ พูดเหมือน คุณอินจะไม่เลือกมึงเลยนะ "
“ ก็เค้าไม่ได้รักกู "
“ เคยเอากันรึยัง " พอถามออกไปแบบนั้อีกคนก็นิ่งสักพัก ก่อนจะพยักหน้าโรมยกยิ้ม " หลายรอบแล้วละสิ "
“ หรือของมึงยังไม่เคย "
“ ไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย ของกูเกี่ยวอะไรกัน กำลังคุยเรื่องของมึงอยู่นะ "
“ หึ "
“ กูอยากจะบอกว่า คนแบบคุณอินถ้าเค้าไม่ชอบไม่รักก็ไม่ให้เอาหรอกนะ ตอนนี้มึงโกรธเค้า มึงมองแต่ด้านแย่ๆ แล้วตอนที่เค้าทำดีกับมึง ทำไมต้องโกรธแล้วไม่มองบ้าง อารมณ์ร้อนๆจะได้แย่ลง กูว่าเค้าคงรักเธอมากเลยใช่มั้ยละ อลิซนะ "
“ อื้ม แบบชนิดที่ไม่เคยเจอจากใครเลยละ "
“ ถ้าไม่รักก็ไม่ทำให้หรอก " ผมบอก อีกคนก็หันหน้ามายิ้ม
“ ที่มึงมานี่บอกอะไรกันแน่ จะมาเคลียร์เรื่องของเรา หรือจะพูดให้กูกับอินคืนดีกัน "
“ อยากจะทำทุกอย่าง อยากให้มึงมีชีวิตที่ดี แล้วก็ อยากกลับมาลองอยู่กับมึงสักพัก "
“ ในฐานะอะไร " โรมถาม
“ ไม่รู้สิ " อยากจะตอบว่าแฟนแต่ดูเหมือนปากมันจะไม่กล้าพูดออกไปเสียแบบนั้น " เอาเป็นว่า ขออยู่ที่นี่สักพักแล้วกัน "
“ นอนที่ไหนดีละ ห้องนี้ก็มีแค่สองห้อง "
“ ห้องเดียวกับมึงได้มั้ย "
“ แน่ใจนะ "
“ ทำไมต้องทำหน้าเหี้ยแบบนั้น " ผมหุบยิ้ม แต่อีกคนกลับหัวเราะออกมา
“ ก็เปล่า แต่ไอ้ไฟท์จะได้แฟนคนเดิมกลับไปรึเปล่า อันนี้รับปากไมไ่ด้นะ กลางคืนเวลาหลับไปแล้ว กูควบคุมอะไรไม่ค่อยได้ "
“ ไม่ทิ้งนิสัยเดิมเลยนะมึง "
“ นิสัยอะไร "
“ ไม่ต้องมาแกล้งกูเลย " ทำท่าจะโยนแก้วในอ่างใส่ อีกคนก็หัวเราะชอบใจ แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น โรมเดินไปที่หน้าทีวี มันเก็บของที่ผมเอาออกมาดูไว้ตรงที่เดิมก่อนจะล็อค " ตอนแรกคิดว่าที่ขอนอน เพราะดูภาพพวกนั้นแล้วเกิดอารมณ์ซะอีก "
“ มึงจะบ้ารึไง "
“ ตอนนี้มึงจะยังเซ็กซี่เหมือนตอนนั้นมั้ยนะ " ผมเริ่มเงียบไป อีกคนก็หันมามอง " นี่ แอล "
“ หื้ม "
“ ตอนนั้นน่ะ มึงมีความสุขมั้ย "
“ ตอนไหน "
“ ตอนที่เราคบกันไง กูความสุขมากเลยนะ ความสุขซะจนไม่คิดเลย ว่าวันนี้มันจะเกิดขึ้น " ไม่มีใครเคยคิดหรอก ผมเองก็ไม่เคยคิด ผมอยากจะตอบมันแบบนั้น
“ มีความสุขสิ ไม่มีความสุขจะอยู่ด้วยกันทำไม "
“ อยากกลับไปเป็นเหมือนตอนนั้น "
“ จะพยายามนะ "
“ ว่าไงนะ "
“ บอกว่า จะพยายามเป็นเหมือนตอนนั้นให้ พยายามเป้นเหมือนตอนนั้นแต่มาอยู่ในตอนนี้ เมื่อก่อนกูเคยหนีมึงไปเพราะรับไม่ได้ที่มึงมีลูก แต่ว่า กูจะพยายามดูนะ เพราะถ้าไม่ได้ ก็จะได้บอกมึงได้ว่า ไม่ไหวจริงๆ คงไม่ได้ "
“ แบบนั้น เลยตัดสินใจมาใช่มั้ย "
“ ก็ค้างคากับเรื่องนั้นมาตลอด " ผมเปิดน้ำล้างแก้วใบนึงที่ตั้งอยู่ในอ่าง พยายามหยุดการสนทนาของเราลง ผมหวนคิดถึงวันที่ผมไป ผมในตอนนั้นที่รับไม่ได้กับการที่เลี้ยงลูกคนอื่นผมทิิ้งมันไปโดยไม่ให้เหตุผล มันเจ็บที่ต้องทิ้งมัน มันเองก็เจ็บที่ถูกผมทิ้ง ทุกคนเจ็บเหมือนเป็นความเจ็บปวดที่ยังค้างคา
“ กูไม่โทษที่มึงไปหรอก ตลอดเวลาที่ผ่านมา กูก็เข้าใจมันดี " โรมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง " กูผิดมาตั้งแต่ต้น "
“ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ "
“ ถ้าเรากลับมารักกันอีก จะทำยังไง "
“ เรื่องนั้นมันอยู่นอกเหนือสิ่งที่กูจะตอบได้ "
“ แสดงว่าไม่ขัดข้อง " มันแซว " คราวนี้กูต้องเป็นคนที่เลือกระหว่างมึงกับอินรึเปล่า "
“ แน่ใจเหรอ ว่าคุณอินเค้าจะเลือกมึงน่ะ "
“ ถ้าไม่เลือกก็ดีสิ จะได้เหลือแค่มึงกับกู "
" มึงตอบเร็วไปนะ " ผมว่า " แล้วคิดว่าจะมีความสุขจริงๆเหรอ ถ้าเค้าไม่เลือกมึง แน่ใจนะ ว่าจะไม่เสียใจ "
“ อย่าพูดอะไรแบบนั้นได้มั้ย "
“ ก็คิดว่าจะแน่ "
“ ดูหนังกันมั้ย " โรมรูดีวีดีหนังเรื่องนึงขึ้นมา มันโบกไปมาผมก็พยักหน้า
“ เอาสิ แต่ขอไปอาบน้ำก่อน มีชุดนอนให้ยืมสักชุดมั้ย "
“ มี เดี๋ยวไปจัดการให้ "
เดินเข้ามาในห้องนอนผมมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดมองโรมที่พยายามหาชุดนอนสักชุดมาให้ผม ผมสังเกตเห็นตู้สองตู้ ที่มันเปิดไว้ ตู้นึงเป็นตู้ที่มีเสื้อผ้าไซต์เล็กหน่อย น่าจะเป็นของคุณอิน ส่วนอีกตู้ที่มันกำลังค้นน่าจะเป็นของมันเอง
“ ตัวนี้ใส่ได้มั้ย " ผมหยิบชุดนอนคุณอินมาชุดนึง ตอนที่ยื่นไปให้มันดู อีกคนก็เอาไว้ที่เดิม
“ ตู้นี้ใส่ไม่ได้ "
“ ของคุณอินว่างั้น "
“ ถ้าให้มึงใส่กูได้โดนมันฆ่านะสิ "
“ กลัวเค้าฆ่า หรือ กลัวเค้างอน "
“ พูดมากจังนะ มึงน่ะ " โรมหันมาบอก มันยิ้มเขินๆ ก่อนจะโยนเสื้อเชิ้ตของมันเองมาให้ คงเป็นตัวเก่าที่ใส่มานานแล้ว ผมพลิกป้ายที่อยู่ตรงริมปกเสื้อ กากบาทตัวไขว้กันสีขาวยังติดอยู่บนนั้น สัญลักษณ์ของเสื้อทุกตัวที่ผมซื้อให้ทุกครั้งก็จะเย็นสัญลักษณ์ไว้ให้ด้วยเหมือนกัน
“ ยังเก็บไว้ใส่อยู่อีกเหรอ เสื้อตัวนี้นะ "
“ ทำไมจะไม่เก็บ ก็ไม่ได้ดูเก่าอะไร "
“ ตัวนี้ซื้อมาตอนไหนนะ "
“ ตอนที่กูได้งานครั้งแรก " ผมพยักหน้าก่อนจะรับผ้าขนหนูที่อีกคนยื่นมาให้
“ แล้วมีกางเกงในตัวใหม่สักตัวมั้ย "
“ ไม่มี " มันบอกก่อนจะยกยิ้มแล้วมองต่ำ " แต่ไม่ต้องใส่ก็ได้นะ "
“ ไอ้บ้า หามาให้เลยนะ "
“ ครับๆ " พยักหน้าให้ผม ขาที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ กระจกบานใหญ่ฉายภาพของตัวผม ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกก่อนจะถอนหายใจออกมา
" ไฟท์ จะเป็นยังไงบ้างวะ " พูดกับตัวเองออกมาแบบนั้นตอนที่หวนคิดถึงคำพูดของโรมที่บอกว่า อะไรคือสิ่งที่คุณอินจะทำ พอคิดได้แบบนั้นใจมันก็บีบแน่นอย่างบอกไม่ถูก " ก็แค่เคลียร์เรื่องเก่าๆให้จบก็เท่านั้น ไม่ต้องคิดมากหรอก " ผมบอกตัวเองก่อนจะยิ้มให้กับคนในกระจก ไฟท์เองมันก็มีเรื่องเก่าๆของมัน ผมเองก็เคลียร์เรื่องเก่าๆของผม
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ผมกดส่งไลน์ไปหาไฟท์ สติกเกอร์เป็นรูปรอยยิ้มถูกส่งออกไปก่อนจะเป็นข้อความ " เป็นยังไง อาบน้ำรึยัง กินข้าวรึยัง "
“ กินเรียบร้อยแล้วครับ ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง " ข้อความตอบกลับรวดเร็วจนต้องแอบยิ้ม
“ ตอบเร็วผิดปกตินะมึง "
“ กำลังรออยู่ " ผมยิ้มออกมาตอนที่อีกคนตอบออกมาแบบนั้น
“ คุณอิน ไปหารึเปล่า "
“ ก็แผนมัน มันก็ต้องมาสิ "
“ นี่รู้ด้วยเหรอ "
“ ไม่ใช่เมื่อวานเพิ่งเป็นเพื่อนกันสักหน่อยนี่ครับ เด็กน้อย คืนนี้จะนอนกันยังไง ที่นั่นมีกี่ห้องนอน "
“ สองห้องนอน ลูกโรมนอนไปแล้วห้องนึง ก็เหลือห้องนึง "
“ มึงไปนอนที่หน้าโซฟาสิ " ไฟท์บอก
“ ไม่เอาอะ ยุงกัด "
“ ให้กูไปรับมั้ย "
“ ไม่เอาอะ ไม่อยากเป็นก้าง เค้าอุตส่าห์ไล่กูออกมาแล้ว " ผมหัวเราะกับคำพูดที่ตัวเองพิมพ์ ก่อนวินาทีถัดมานั้นจะกลายเป็นเสียงโทรศัพท์แทนที่ข้อความที่ส่งกลับมาหา " โทรมาทำไม "
“ เป็นห่วง "
“ เรื่องที่นอนนะเหรอ "
“ อื้ม "
“ กูก็ห่วงมึง "
“ เรื่อง " ไฟท์ถามก่อนจะหัวเราะ
“ ทุกเรื่อง "
“ ไม่ต้องห่วงอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด "
“ พูดแบบนี้ มาต่อยกูเลยมั้ย สัด " สบถออกไป อีกคนก็หัวเราะเสียงดังตอบกลับมา " นี่ ไฟท์ "
“ หื้ม ? “
“ ช่วยเคลียร์เรื่องเก่าของตัวเองให้จบไปด้วยนะ อย่าปิดใจตัวเองนัก เปิดใจของมึงคิดซะว่า ถ้าเค้าไม่ใช่เพื่อนสนิท จะรักกันได้เปล่า คุณอินนะ เค้าก็แค่อยากจะรู้เรื่องนั้น ใช่ก็แค่ใช่ ไม่ใช่ก็แค่ไม่ใช่ "
“ แล้วถ้าใช่ขึ้น "
“ เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่อยู่หลังเรื่องนี้ กูไม่เป็นไรหรอกไฟท์ ยังไงไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ก็แค่ผิดหวัง เท่านั้นเอง " ผมยิ้ม แต่ปลายสายกลับเงียบลงไป " สิ่งที่กูหวังก็คือ มึงจะหาคำตอบได้จริงๆ ไม่ใช่ว่า ปฎิเสธเพราะเค้าเป็นเพื่อนสนิท แต่อยากให้มึงคิดให้ดี แล้วตอบตัวเองว่า ถ้าเค้าไม่ใช่เพื่อนสนิทของมึง มันจะเป็นยังไง เค้าไม่ใช่แน่ๆ หรือตลอดว่ามึงโกหกตัวเองมาตลอด "
“ หึ นี่เป็นไปกับเค้าอีกคนแล้วเหรอ "
“ ไม่อย่างงั้น ก็ไม่มีวันจบหรอก ไม่อย่างงั้น เค้าก็ไม่ปล่อยมึงไปสักที กูเองก็ยังยึดติดกับอดีต มึงก็ไม่มีความสุขจริงๆ โรมก็ไม่มี ถ้าไม่ทำแบบนี้ ถ้าไม่ลองเดินกลับไปที่เดิมแล้วหาว่าอะไรคือปมปัญหา ทุกอย่างก็ยังต้องเป็นแบบเดิมกูคิดว่าคงไม่มีใครมีความสุขได้จริงๆหรอก "
“ คงเหมือนผูกเชือกไว้เป็นปม ยิ่งพยายามหนี เชือกก็ยิ่งตึงปมก็ยิ่งแน่น ก่อนที่จะแน่นกว่านี้ก็ต้องกลับไปคลายปมให้ออก แต่เต ถ้าเราคลายปมไม่ออก กูตัดมันซะ "
“ ไฟท์ " ทุกอย่างเงียบ ผมยืนนิ่งอยู่นาน ตอนที่หันไปมองหน้ากระจกที่ฉายภาพตัวเองอีกครั้ง " นี่ไฟท์ ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกกูว่าเตแล้วนะ ชื่อเตนะไม่ใช่ชื่อของกูหรอก ต่อไปนี้ เรียกกูว่า แอลนะ จริงๆ กูชื่อแอล "
“แอล น่ารักดีนิ " ผมยิ้มให้กับคนปลายสาย " งั้นฝันดีนะ ดูแลตัวเองดีๆละ "
“ มึงเองก็ด้วย ฝันดีครับ "
ผมวางโทรศัพท์ลงบนเค้าเตอร์ เงยหน้ามองตัวเองอีกครั้ง " กูจะไม่หนีความจริงอีกแล้ว จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง แล้วปมทุกอย่างที่มี กูปลดมันออกเอง "
...................................................................
เรื่องบางเรื่อง เราควร ปิด เพื่อ เปิด มัน
สำหรับหนม หนมคิดว่า ไม่มีใคร ไม่รักตัวเองหรอก
แต่บางครั้ง การรักตัวเอง และเห็นแก่ตัว ก็แค่ เส้นบางๆ ที่กั้นกัน
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ
ใครมีทวิตหนมฝากแท็ก #Choiceต้องเลือก
ด้วยนะคะ
ขออภัยหากมีคำผิด
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
