ตอนพิเศษที่ 5 “ ทีส วาดกลับมาแล้ว " เสียงที่ตะโกนเข้ามาในห้อง ไม่ใช่เสียงที่เรียกชื่อของผม หันไปตามเสียงคนที่เดินเข้ามายิ้มแห้งๆก่อนจะวิ่งไปหาเจ้าตัวน้อยที่วิ่งไปหาเจ้านายของมันด้วยความซื่อสัตย์ ท่าทางคลอเคลียและออดอ้อนของสุนัขของผมที่เหมือนมันกำลังหลงเจ้าของ กับแฟนของผมเอง ที่ใส่ใจหมามากกว่าแฟนตัวเองซะอีก " หมอ ทีสกินข้าวยัง "
“ ถามมันดิ " ผมบอกอีกคนก็ขมวดคิ้ว
“ มันตอบได้ที่ไหนละ "
“ กินแล้ว " ผมตอบก่อนจะตบเบาะโซฟาข้างๆให้อีกคนเข้ามานั่งใกล้ วาดที่อุ้มทีสเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ
“ แล้วหมอกินข้าวยัง "
“ ถามหมาก่อนแฟนตัวเองอีกเนอะคนเรา " ผมบอกอีกคนก็ยิ้มกว้าง " ยัง "
“ อ้าว ทำไมยังไม่กิน "
“ ที่บ้านมีแต่อาหารหมา จะกินได้ไง " อย่างที่ผมบอก ที่นี่แฟนเจ้าของบ้านสนใจหมายิ่งกว่าใคร อาหารไอ้ทีสมีไม่เคยขาด แต่อาหารคนมีบ้างไม่มีบ้างไม่ค่อยได้สนใจ
“ อะไรหมอ เมื่อสองวันก่อนเพิ่งซื้อเข้ามาเองนะ " วาดวางทีสลองบนโซฟา มันที่หันมองผมก่อนจะโดนผลักหัวไปทีนึง
“ มองอะไร " พอถามไปแบบนั้น ไอ้ตัวเล็กก็วิ่งไปหาวาดที่เดินไปที่ตู้เย็นทันที ออดอ้อนออเซาะที่เท้าวาดก็ก้มลงมาถามมัน
“ อะไรครับ ทีส จะให้วาดอุ้มเหรอ เดี๋ยวก่อนนะ วาดหาข้าวให้หมอกินก่อน " อีกคนบอก ผมก็ถอนหายใจออกมา ลุกขึ้นจากโซฟาเดินตรงเข้าไปหาผมกอดเอวอีกคนจากข้างหลัง วาดก็หันมามอง " มีอะไรหมอ "
“ กอดไม่ได้เหรอ "
“ ก็ได้แหละ " วาดบอก แต่มือก็เหมือนจะดึงแขนผมออกอยู่แบบนั้น อยู่ด้วยกันมาตั้งนานแต่อาการขี้อายขี้เขินก็ไม่เคยหายไปจากความรู้สึกของใครคนนี้สักที วาดยังเขินแม้กระทั้งตอนที่ผมกอด หรือทำอะไรมากกว่านั้น ทั้งๆที่ก็ ว่าไม่ใช่ครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่เริ่มทำอีกคนก็เริ่มขัดเขิน " ถอยออกไปหน่อยสิครับ กำลังจะหาอะไรให้กินไง "
“ ออกไปหาอะไรกินเป็นเพื่อนหน่อย "
“ ตอนนี้นะเหรอ " วาดหันมาถามก่อนจะหันไปมองเวลา " สามทุ่มแล้วนะหมอ "
“ ก็ยังไงละ ก็แค่สามทุ่มเอง "
“ อยากกินอะไรละครับ "
“ ขับรถออกไปก่อน แล้วค่อยคิด "
“ พรุ่งนี้หมอมีเวรไม่ใช่เหรอ " วาดหันมาถาม " กินอะไรง่ายๆ แล้วรีบนอนดีกว่าพรุ่งนี้เวรห้องฉุกเฉินนะ "
“ นี่ นายเป็นหมอฟันหรือว่านักสุขภาพกันแน่ ฉันเริ่มสงสัยแล้วนะ " หันตัวเองขึ้นให้พิงกับตู้เย็น ผมที่ค้ำสองมือกั้นตัวเค้าไว้ เอ่ยถ่ามอีกคนก็ถอนหายใจออกมา
“ ก็พรุ่งนี้หมอต้องใช้พลังงานเยอะ ต้องใช้สมาธิ จะเกิดความผิดพลาดไม่ได้นะ ทำไมไม่รีบนอนละ "
“ อยากอยู่กับแฟนอะ " คำพูดสั้นๆที่บอกอีกคน วาดยิ้มหวานให้ผม
“ ก็ยืนอยู่ตรงนี้ไง "
“ เหรอไหนละ " ทำเป็นมองหา อีกคนก็กอดเอวผมเอาไว้ ใบหน้าหวานที่ซบลงมาถาม
“ ถ้าแบบนี้ จะเห็นรึยังละ "
“ เห็นแล้ว " ผมบอกก่อนจะกอดอีกคนกลับไป ความอบอุ่นที่กำลังรู้สึกมีความสุขเราได้ยินเสียงกระดิ่งห้อยคอของทีสวิ่งไปมาวนรอบตัวเราสองคนเป็นระยะ ผมว่าถ้าพูดพูดได้มั้นคงถาม ว่าทำไมไม่กอดมันด้วยอีกคน
“ โฮ่ง! โฮ่ง! "
“ ยุ่งน่า " เอาเท้าเขี่ยทีสออกให้พ้นทาง วาดที่เห็นแบบนั้นก็หันมองก่อนจะหันมาดุผม
“ เอาเท้าเขี่ยทีสแบบนั้นได้ไง สงสารมัน มันตัวเล็กนิดเดียว "
“ เลิกสนใจมันสักทีเถอะน่า สนใจฉันบ้าง "
“ อิจฉาหมาเหรอหมอ "
“ เออ " ตอบออกไปตรงๆอีกคนก็กลั้นขำ
“ มันน่าตลกตรงไหนวะ " ผมถาม
“ แล้วทำไมต้องทำหน้าซีเรียสขนาดนั้นด้วยละ " วาดหันมาถามก่อนจะก้มลงไปอุ้มทีสขึ้นมา มือที่ลูบหัวหมา รอยยิ้มที่ยิ้มให้ มีความสุขเวลาอยู่ผมเสียอีก
“ มานี่เลยมา " คว้าเอาทีสที่วาดอุ้มโยนลงไปบนโซฟา ผมคว้าเอากุญแจรถมือถือแล้วก็กระเป๋าตังค์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะแล้วลากอีกคนที่กำลังจะเดินไปดูหมาของผมด้วยความเป็นห่วงออกไปนอกห้องทันที
“ เดี๋ยวๆ ไปไหน " วาดถาม มืออีกข้างยื่นมาเหมือนจะหยุดผมไว้ " เดี๋ยวก่อนๆ ให้วาดกลับไปดูทีสก่อน เมื่อกี้หมอโยนมัน มันอาจจะตกลงขาหักก็ได้ "
“ มันไม่ได้กระดูกเปราะขนาดนั้นนะ " ผมบอก มันก็ไม่ใช่หมาแฟชั่น เป็นหมาล่าสัตว์ด้วยซ้ำไปแต่แค่พันธุ์เล็กมันก็เท่านั้น
“ แต่ว่า "
“ นี่! สนใจกันบ้างสิ " หันไปขึ้นเสียงใส่อีกคน วาดที่กำลังดึงดันก็หยุดลง " สนใจกันบ้าง "
“ รู้แล้ว " เสียงเบาๆตอบรับก่อนจะออกเดินมาตามผม มือที่จับแน่นผมเริ่มคลายมันออกเบาๆ เราลงลิฟท์กันไปเงียบๆไม่มีใครพูดอะไรสักคำ วาดที่เหลือบมองผมเป็นระยะ เหมือนอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมา คงคิดว่าผมงอน แต่ผมก็งอนจริงๆนั่นแหละ มีอย่างที่ไหน กลับบ้านมาสนใจแต่หมาไม่ได้สนใจแฟนเลยสักนิด ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า เวลาของเราสองคนที่จะได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองต่อวัน วันนึงมันน้อยมากแค่ไหน
วาดทำงานเป็นทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลในช่วงเช้า ส่วนเย็นถึงดึกก็ไปอยู่เวรที่คลีนิก ผมเองก็เป็นหมอแผนกฉุกเฉินที่บางทีก็ต้องออกเวรไม่ตรงเวลา บ้างก็เข้าเวรเช้า บ้างก็กลางคืน เวลาที่ไม่ค่อยจะตรงกันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันก็อยากจะทำอะไรสองต่อสองด้วยกันมากที่สุด แต่เหมือนอีกคนจะไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะกลับบ้านมาสิ่งที่วาดสนใจเป็นอันดับแรก คือ ทีส ไม่ใช่ เซฟ
“ หมอ โกรธเหรอ "
“ ทำไมต้องโกรธละ "
“ ก็วาดสนใจแต่ทีส ไม่สนใจหมอ " อีกคนบอกผมก็หันไปมอง
“ ก็รู้ตัวนะ แต่ทำไมยังทำละ "
“ ก็..” อีกคนที่กำลังเถียง มองหน้าวาดที่เหมือนจะพูดไม่ออก ผมเลยตอบแทน
“ นายรักมันมากกว่าฉัน "
“ ไม่ใช่แบบนั้น " วาดเถียง " ก็ไม่เชิงแบบนั้นทีเดียวหรอก "
“ แล้วมันยังไง "
“ ก็.. "
“ ก็อะไร "
“ จะพูดยังไงให้หมอเข้าใจดีละ "
“ ฉันเป็นคนเข้าใจยากเหรอ ในความคิดของนายนะ หื้ม ? “ ยื่นมือเคาะหัวอีกคนเบาๆ วาดส่ายหน้าก่อนจะยิ้ม
" ก็ไม่เชิงว่าแบบนั้น "
“ แล้วยังไง " จ้องลึกลงในในแววตาคู่นั้น วาดที่ทำหน้าลำบากใจ ทำเอาผมอดยิ้มไม่ได้เลยครับ
“ ก็วาดเลี้ยงมันมาตั้งแต่มันเด็กๆ ตั้งเริ่มคบกับหมอแล้วนะ "
“ อ่าห๊ะ "
“ ก็เหมือนว่า เรามีกันอยู่สามคน ความรู้สึกที่วาดมีให้หมอ มันก็แบบนึง ความรู้สึกที่ทีสนะ ไม่รู้สิ จะว่าไงดีละ แบบในบ้านของเรามี วาด มีหมอ แล้วก็มีทีส " ร่างเล็กตรงหน้าของผมก้มหน้าลงต่ำ " ไม่รู้จะอธิบายยังไงอะหมอ "
“ แต่ฉันรู้นะ ว่านายหมายถึงอะไร " ก้มหน้าลงไปบอกอีกคนก็นิ่งไป วาดที่กำลังรอฟังคำตอบผมยิ้มก่อนจะลูบหัวอีกคน " คงอยากจะบอกว่า ทีสก็เหมือนลูก ส่วนเราก็เหมือนพ่อกับแม่ของมัน เวลาแม่กลับบ้านก็ต้องอยากดูแลลูกก่อนพ่อ อยู่แล้วมันเป็นเรื่องปกติ จะบอกแบบนั้นใช่มั้ย "
“ หมอเข้าใจได้น่าขนลุกดีนะ เข้าใจได้เข้าข้างตัวเองสุดๆเลย " วาดว่าก่อนจะเดินออกไปจากลิฟท์ทันทีที่มันลงดิ่งมาถึงชั้นลานจอดรถ
“ หรือว่าไม่จริง " ผมถาม อีกคนก็ถอนหายใจ
“ จะไปกินมั้ยข้าวน่ะ เปิดประตูรถได้แล้ว " วาดขู่ผมที่ยังคงยืนอมยิ้มมองเค้าอยู่แบบนั้น ท่าทางน่ารักเวลาจับความคิดอีกคน น่ารักจนอยากจะแกล้งนานๆ " หมอ "
“ ยอมรับมาก่อนสิ ว่าเรื่องนั้นน่ะ ฉันเข้าใจนายถูกต้องแล้ว "
“ ทำไมต้องยอมรับด้วยละ "
“ ก็อยากจะฟังจากปาก " ผมบอกแต่ดูเหมือนอีกคนจะเขินจนไม่ยอมเล่นตามน้ำกับผมอีกแล้ว เดี๋ยวนี้วาดแผนเยอะ ถ้าถูกทำให้จนมุมมากๆ ถ้าไม่ตอบก็ชอบแกล้งงอนผมไปเลย
“ ถ้าหมอยังเรื่องมาก เข้าใจถูกแล้วจะยังให้ผมพูดซ้ำอีก งั้นไม่ไปแล้วนะ กลับไปดูแลทีสดีกว่า " วาดที่ทำท่าจะเดินกลับขึ้นไปทำเอาผมต้องปลดล็อคเสียทันที เห็นมั้ยละ มันผิดจากที่คิดไว้ที่ไหน " ก็แค่นั้นแหละ "
ขับรถออกจากคอนโดมาบนถนนที่กำลังติดแต่ไม่มากเท่ากับเลิกงานเท่าไหร่ ผมมองซ้ายดูขวาก่อนจะหันไปถามอีกคนที่ก็มองออกไปนอกหน้าต่างรถ ตอนที่รถจอดติดไฟแดงผมก็ถาม
“ กินอะไรดี "
“ อ้าว พี่อยากกินอะไรละครับ "
“ กินวาดได้มั้ย " คนฟังที่หันมามองหน้าผมด้วยหางตา ผมยิ้ม " ก็พรุ่งนี้เราหยุดไม่ใช่เหรอ "
“ หยุดที่ไหนละ พรุ่งนี้ผมเข้าเวรที่คลีนิคนะ "
“ ก็ช่วงเย็นไม่ใช่รึไง ก็บ่ายห้าโมงไปแล้วไม่ใช่เหรอ " พอผมถามอีกฝ่ายก็เงียบก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบาๆ
“ ไปกินก๋วยจั๊บที่ซอย 38 กันดีกว่าครับ "
“ เปลี่ยนเรื่องอีกแล้วนะ " ยื่นมือไปหยิกแก้มอีกคนที่กำลังแอบยิ้มไม่ให้ผมเห็น เราเลี้ยวรถเข้าซอยก่อนจะจอดลงตรงข้างทางที่สามารถจอดรถได้ " ไปกัน "
“ ครับผม "
“ กินอะไรกันดีละ " ผมถามอีกคนที่มองไปยังทางข้างหน้า มือที่เอื้อมไปจับมืออีกคนไว้
“ ก๋วยจั๊บไง หรือหมอจะกินโจ๊ก " วาดที่หันมาบอกก่อนจะยื่นมือขึ้นมาเช็ดอะไรบางอย่างบนหน้าให้ " หน้าหมอดูเพลียๆนะ "
“ มันก็เป็นของมันแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ "
“ นั่นนะสิ ลืมไป ว่าประกอบอาชีพนี้เค้าไม่ให้นอน "
“ หึ " ผมยกยิ้มก่อนจะเดินตรงไปที่ร้านก๋วยจั๊บที่อีกคนบอกไว้ตั้งแต่แรก " ก๋วยจั๊บแล้วกันนะ "
“ อื้ม " พยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงตรงโต๊ะที่ว่าง " หมอกินคนเดียวนะ ไม่ค่อยหิว "
“ อ้าว "
“ ทำไมกินคนเดียวไม่ได้เหรอ " วาดถามก่อนจะยื่นมือมาจับหน้าผม " เดี๋ยวช่วยกิน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะ "
“ ก๋วยจั๊บหนึ่งครับ ข้าวเปล่าหนึ่ง แล้วก็ขอถ้วยเปล่าหนึ่งใบด้วยครับ " ผมหันไปสั่งวาดก็มองไปรอบๆ " อยากกินไอติมกะทิไข่แข็งอะ "
“ ไปซื้อสิ " เชิดหน้าไปตรงร้านข้างหน้าก่อนจะยื่นกระเป๋าตังค์ให้
“ ผมมีเงินอยู่แล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ " บอกแบบนั้นอีกคนก็เดินไปที่ร้านไอติมที่อยู่ห่างกันไม่มาก สายตาที่มองเหล่าท๊อปปิ้งที่เลือกตักใส่ไอติมเดาว่าต้องมีแต่พวกของเชื่อมแน่ๆ เพราะวาดเป็นคนที่ชอบกินของหวาน
“ นี่ครับ " ก๋วยจั๊บถูกวางลงตรงหน้า หยิบตะเกียบกับช้อนมาเช็ดก่อนจะเริ่มกิน เพียงคำเดียวที่ตักเข้าปากไปคนที่เดินไปซื้อไอติมก็กลับมานั่งลงข้างๆ
“ กินมั้ยหมอ " วาดถามก่อนจะตักไอติมมาจ่อปากผม
“ ของเชื่อมทั้งนั้นเลยนะ เดี๋ยวก็อ้วนหรอก "
“ กินก๋วยจั๊บตอนนี้มันต่างอะไรกันละ " วาดบอก ผมก็ยิ้ม มือที่ตักไอติมชะงักลงเล็กน้อย สายตาที่เอาแต่จ้องของเชื่อมตรงหน้า วาดทิ้งของเชื่อมที่ต้องกินคู่ไอติมลงในถ้วยก่อนจะตักแค่ไอติมขึ้นขึ้น
“ นี่อย่าบอกนะ ว่ากลัวอ้วน มันไม่กลมไปมากกว่านี้แล้ว "
“ หมอ " วาดเรียกผมด้วยเสียงจริงจัง
“ หื้ม ? มีอะไร "
“ ผมอ้วนจริงๆเหรอ " หลุดยิ้มออกมากับคำถามของอีกคน " นี่จริงจังอยู่นะ จะยิ้มแบบนั้นทำไม มันตลกนักเหรอ "
“ แล้วอ้วนมันไม่ดียังไง "
“ ยังจะมาถามอีก มันก็ไม่ดีนะสิ "
“ ไม่ดียังไง ดีออกจะตายไป เวลากอด เวลาจับเต็มไม้เต็มมือดีออก ดีกว่าผอมๆแห้งๆเหมือนแต่ก่อน " บอกอีกคนแบบนั้นวาดก็ถอนหายใจออกมา จริงๆก็ไม่ได้อ้วนขนาดนั้นแค่เด็กมันกำลังเติบโตมีเนื้อมีหนังมากกว่าแต่ก่อนที่ผอมมากๆ " เมื่อก่อนดูเหมือนคนขาดการดูแล เดี๋ยวนี้เหมือน ปุ๋ยถึง น้ำถึง ดินดี กินๆเข้าไปเถอะน่า อ้วนยังไงก็รัก อ๊ะ กินนี่ " ผมคีบหมูในถ้วยก๋วยจั๊บให้อีกคนที่ก็อ้าปากรับก่อนจะเคี้ยว
“ อร่อยอะ "
“ หึ "
“ ขอกินข้าวหน่อย " ข้าวคำนึงที่ถูกตักขึ้นไปกินกับน้ำซุปในถ้วยก๋วยจั๊บร้อนๆ " อร่อยอะหมอ "
“ ทั้งไอติม ทั้งข้าวเลยนะ "
“ ไหนบอกอ้วนยังไงก็รัก " วาดที่กำลังเงยหน้าขึ้นถาม " โกหกกันเหรอ "
ผมได้แต่ยิ้มพูดไม่ออกกับความน่ารักที่ใช้สายตากลมๆตั้งคำถาม ได้แต่มองอีกคนกินแต่นั่นก็แค่สองคำ แล้ววาดก็วางช้อนก่อนจะกินไอติมของตัวเองต่อ
“ หมอ กินเสร็จยัง "
“ อีกสองคำสุดท้าย ทำไมครับจะไปกินอะไร "
“ จะไปซื้อไส้กรอกให้ทีส "
“ รักกันจังเลยนะ " ผมบอก วาดก็ยิ้ม
“ น่าๆคุณพ่อทีสอย่างอนนักเลย กินเสร็จแล้วจ่ายเงินแล้วยืนรอตรงนี้นะ " บอกแค่นั้นก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้คนเป็นพ่ออย่างผมนั่งยิ้มอยู่คนเดียวกับถ้วยก๋วยจั๊บที่กำลังจะหมด
จ่ายเงินเสร็จผมก็ออกมายืนหน้าร้านตามคำสั่งของอีกคน วาดที่เดินกลับมาพร้อมกับถุงลูกชิ้นสองถุงแล้วก็โจ๊ก สองสายตาที่ยังมองไปรอบๆแม้ผมก็รออยุ่ก็ไม่ได้ใส่ใจ
“ ซื้ออะไรมาเยอะแยะ " ผมถามอีกคนก็ยกถุงที่ถือขึ้นอธิบาย
“ อันนี้ลูกชิ้นของทีสสี่ไม้ กินวันนี้สอง พรุ่งนี้อีกสอง ส่วนอันนี้ลูกชิ้นเอ็นไก่ของหมอกับวาด หมอชอบ แล้วก็อันนี้โจ๊กของหมอ เอาไว้กินพรุ่งนี้ก่อนออกไปทำงานตอนเช้า แล้วก็มีของวาดด้วยเราจะได้กินด้วยกัน "
“ อ้วนแน่ๆ "
“ ไม่อ้วนหรอกน่า กลับบ้านกันเถอะ "
“ เอาลูกชิ้นมากินหน่อย "
“ ไม่ใส่น้ำจิ้มมานะ แยกมา หมอไม่ชอบใช่มั้ย " วาดถามผมก็พยักหน้า รู้ใจที่สุดไม่มีใครรู้ใจเท่านี้อยู่แล้ว วาดเป็นคนใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็ไม่เคยมองข้าม น่ารักแล้วก็ทำให้ผมหลงรักมากขึ้นทุกวัน " อร่อยมั้ย "
“ อร่อย " ผมบอกก่อนจะจับมืออีกคนเดินจูงไปขึ้นรถที่จอดไว้ " ซื้อมากี่ไม้ "
“ ซื้อห้าไม้ เผื่ออร่อย " วาดบอกก่อนจะเอาหยิบลูกชิ้นขึ้นมากินบ้าง เราเดินกินกันไปเรื่อยจนถึงรถ
“ พรุ่งนี้หมอทำงานแปดโมงเช้านะ "
“ ครับผมทราบแล้ว " ผมเปิดประตูรถ วาดก็เข้ามานั่งข้างในจัดของกินไว้ที่เบาะหลังเรียบร้อย
“ ทีสไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง เมื่อกี้หมอโยนมันแรงรึเปล่า ตกลงไปบนโซฟาแน่ใช่มั้ย "
“ แน่สิ มั้ง "
“ อย่ามั้งสิ " วาดบอก " นิสัยไม่ดีอยู่ๆมาโยนหมาเค้า "
“ หมาใครพูดให้ดี " หันไปบอกอีกคนที่ทำหน้ามุ้ยใส่ ยื่นมือไปบีบแก้มกลมๆที่สะบัดหน้าหนีมือผม
“ หมาหมอ แต่หมอแม่งโคตรไม่ดูแล ปล่อยให้เป็นภาระของวาดตั้งแต่หมอเอามันมาเลี้ยงจนถึงตอนนี้ สรุปมันเป็นหมาที่หมอแค่จ่ายตังค์ซื้อมาเท่าไหร่แหละ แต่มันเป็นหมาวาดแล้ว "
“ ครับๆ คุณแม่น้องทีส งั้นกลับบ้านกันนะ ไปดูลูกกันจะเป็นยังไงบ้างน้า "
" เงียบไปเลยนะ ไอ้หมอบ้า "
“ ว่าเหรอ นี่หัดว่าเหรอ " ผมหันไปหาเรื่องอีกคนที่ยิ้มกว้างออกมา
“ รีบขับรถไปเลย สมชาย เร็วๆ "
“ ทำไมต้องสมชาย " ขมวดคิ้วถามอีกคน
“ ก็ในละครคนชับรถจะชื่อ สมชาย ไม่ใช่เหรอ "
“ นี่นายเห็นว่าฉันเป็นคนขับรถเหรอ "
“ ก็ไม่รู้สินะ แล้วแต่จะคิดเลยแล้วกัน " หันหน้าออกนอกหน้าต่างแบบไม่ใส่ใจ น่าหมั่นใส้เสียจนผมต้องดึงเข้ามาหอมแก้ม " หอม รีบกลับบ้านเลย หอมกันอยู่ได้ "
“ บ่นจังนะ ก็กำลังขับไปเดี๋ยวนี้แหละครับ "
“ กินลูกชิ้นอีกมั้ย วาดป้อน "
“ เอาสิ " ลูกชิ้นลูกกลมๆถูกป้อนเข้ามาใส่ปาก คนป้อนที่กำลังยิ้ม ผมเองก็กำลังยิ้ม มองออกไปตรงถนนข้างหน้าที่ค่อนข้างโล่ง บางทีเรื่องราวของอดีตที่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น มันอาจจะต้องเกิดขึ้นเพื่อทำให้ผม มาเจอใครคนนี้ก็ได้ พอคิดแบบนั้นแล้ว ก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนั้นดีจังเลยนะ ที่เค้าไม่เลือกผม
“ ทีส วาดกลับมาแล้ว " ประตูคอนโดที่เปิดออก วาดเอ่ยทักคนที่อยู่ในนั้นเหมือนปกติ เสียงเห่าทักกลับของมัน กระโดดไปมาอยู่ตรงเท้าของอีกคนที่ก็ตั้งของไว้บนโต๊ะก็ยกขึ้นมาอุ้ม " วาดซื้อของมาฝากทีสด้วยนะ เดี๋วจะหั่นให้กินนะ " วางมันลงบนพื้นทีสก็ยืนรออยู่ตรงนั้น มันไม่ได้ดีใจเวลาเจอผมเท่าไหร่หรอก ยกเว้นจะหายไปหลายๆวัน " หมอไปอาบน้ำได้แล้วนะ ดึกแล้ว "
“ นี่เมียหรือแม่ ถามหน่อย "
“ ตอนเช้าอย่าบ่นว่า ง่วงนอนให้ได้ยินแล้วกัน " วาดตอบกลับก่อนจะวางจานข้าวทีสที่หั่นไส้กรอกเป็นชิ้นเล็กๆให้เรียบร้อย ส่วนของที่เหลือกับอาหารที่ซื้อมาก็ถูกจัดเข้าไปในตู้เย็นจนหมด
“ โอ๋ๆ งอนเหรอ " ผมเดินเข้ามากอดอีกคน วาดที่กำลังนิ่งผมก็ดึงอีกคนให้เดินเข้ามาในห้อง " อาบน้ำกัน "
“ อาบคนเดียวสิ มาชวนอาบน้ำทำไม " วาดหันมาบอกตอนที่ผมทำท่าจะปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนของเจ้าตัว
“ ก็อยากจะอาบน้ำด้วยกัน "
“ ไม่อาบหรอก อาบทีไร ขาดทุนทุกที ไม่เคยได้อาบน้ำเลย หมอน่ะ โรคจิต หื่นกาม "
“ ก็มีแฟนน่ารัก " ผมบอก ตอนที่ก้มลงหอมแก้มวาดที่กำลังมองผมนิ่งๆ " มันก็ต้องหื่นใส่กันบ้าง หรืออยากให้ไปหื่นใส่คนอื่น "
“ ก็ได้ แต่ไปแล้วอย่าคิดกลับมานะหมอ "
“ ไม่เอาอะ กลัวคนแถวนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่ง "
“ ใครจะไปทำแบบนั้นกัน " วาดบอกก่อนจะก้มหน้าลง
“ ปากแข็งจริงนะ " ก้มลงมองอีกคนที่เหลือบตาไปมองที่อื่น ผมยิ้มตอนที่วาดหันกลับมามองแล้วถาม
“ หมอ "
“ หื้ม ว่าไง "
“ ไม่ชอบที่เปียกๆอะ ... คือ ถ้าจะทำ ขอที่แห้งๆนะ " เสียงพูดเบาๆที่ทำให้ผมยิ้มออกมา เผลอดึงอีกคนเข้ามากอดไว้แน่นอีกครั้งผมหอมแก้มวาด อีกคนก็กอดผมไว้
ขาของผมเดินหน้า ขาของวาดที่เริ่มถอยหลัง ผมดึงร่างบางในอ้อมกอดลงนอนราบกับเตียงกว้าง แววตากลมที่เงยหน้าขึ้นมองแม้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่อีกคนก็มักตื่นเต้นทุกครั้งที่ผมจะเริ่มทำอะไรแบบนี้ หอมแก้มนิ่มตอนที่ร่างนั้นเริ่มหดเกร็งตัว ผมเผลอหัวเราะออกมาอีกคนก็ตีเข้าที่หลัง
“ เจ็บนะครับ "
“ แล้วหัวเราะอะไรละหมอ นิสัยเสีย "
“ ก็กี่หนแล้ว ยังเกร็งตัวอยู่อีกเหรอ "
“ พูดเหมือนบ่อย " วาดบ่นก่อนจะถอนหายใจออกมา " แต่ก็ไม่รู้สิ ก็ตื่นเต้นนิ ไม่รู้จะเจออะไรบ้าง "
“ เจอลูกชายฉันเหมือนทุกทีนั่นแหละ " ผมบอกอีกคนก็จ้องหน้าผม ในแววตาที่กำลังมีอะไรบางอย่างหอมแก้มนั่นอีกครั้งก่อนจะเลื่อนลงมาจูบลงบนริมฝีปากของอีกคน แทรกลิ้นเข้าไปก่อนจะกอดไว้แน่น วาดตอบรับลิ้นของผมด้วยความไม่ประสา ผมเผลอยิ้มออกมาตอนที่ผละออกแล้วหอมแก้มอีกคนวาดก็ยิ้ม " วาด "
“ ครับ "
“ พี่รักนะ วาด " บอกแบบนั้นก่อนจะจูบลงบนหน้าผากของอีกคน
“ วาดก็รักหมอ "
“ ไหนเคยบอกว่าไงจำไม่ได้แล้วเหรอ " ผมหอมแก้มอีกคนที่ยิ้มกว้างออกมา
“ วาดรักพี่เซฟเหมือนกันนะ " จูบลงบนปากสวยนั้น ไม่มีอะไรมีความสุขได้มากกว่านี้อีกแล้ว แค่ได้กอด ได้จูบ ได้อยู่ด้วยกัน สำหรับผมนั่นคือความสุขที่สุดแล้ว " หมอ "
“ หื้ม " ผมเรียกผมตอนที่ผมกำลังจูบลงบนซอกคอขาวของอีกคน ปลดกระดุมเสื้อที่กำลังใส่เผยผิวใต้ร่มผ้าที่เนียนนุ่ม
“ วาดจะไปเรียนต่อเมืองนอกนะ "
ทุกอย่างหยุดนิ่งลงตรงนั้น ผมมองหน้าอีกคนที่กำลังจ้องหน้าผม วาดลุกขึ้นมานั่ง สองแขนที่กอดผมไว้ เสียงเบาๆที่พูดอยู่ข้างหูของผม ราวกับมีดคมปลายแหลมที่กรีดลงมาบนหัวใจ
“ นานเท่าไหร่ "
“ สองถึงสามปี "
“ ไม่ให้ไปได้มั้ย " สองแขนที่ผมกอดร่างบางนั้นกลับ วาดซบหน้าลงบนไหล่ของผม
“ พ่อจะให้วาดไป หมอ..”
“ จะทิ้งกันไปแล้วเหรอ "
“ ไม่พูดแบบนั้นสิ ไม่ได้ทิ้งกันสักหน่อย อีกแปปเดียวก็กลับมา "
“ สำหรับฉัน ในช่วงเวลาที่ไม่มีนาย ไม่เคยผ่านไปเร็วหรอก "
“ หมอ "
“ นายจะให้ฉันอยู่คนเดียวได้ยังไง ทั้งๆที่เราอยู่ด้วยกันมาตลอด ใครจะเป็นคนปลุกฉันตอนเช้า ใครจะดูแลทีสให้ ใครจะเป็นคนบอกแม่ค้าว่า โจ๊กที่ฉันกินไม่ใส่ขิง คนที่จะทำแต่ของที่ฉันชอบ คนที่ฉันจะนอนกอด คนที่คอยทำให้ยิ้ม คนที่ทำให้ฉันมีความสุข นายจะให้ฉันอยู่ยังไง ถ้าไม่มีนาย "
“ หมอ " เสียงที่เรียกผมซ้ำ วาดที่กอดผมไว้ซบกน้าลงบนไหล่ก่อนจะร้องไห้ออกมา ความอุ่นของน้ำตาที่ไหลซึมลงบนเสื้อของผม
" ฉันไม่ให้นายไป ไม่ให้ไป " ผมกอดอีกคนไว้แบบนั้น จะทำยังไงถ้าไม่วาด ผมอาจจะเป็นคนเข้มแข็งที่เคยผ่านความรักครั้งนึงมาได้ แต่หนนี้ ผมไม่รู้ ว่าผมจะเข้มแข็งพอสำหรับมันรึเปล่า
...........................................
ใครคิดถึงคู่นี้บ้าง หวังว่าจะยังมีคนรอคู่นี้อยู่นะคะ
ฝากแท็ก #Choiceต้องเลือก ในทวิตกับเฟส ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่า

ตอนนี้มาตามสัญญา รายละเอียดเรื่องการจองและการโอนเงินเรื่อง Choice รักที่ต้องเลือก
มาแล้วค่าาาาาาาาา
สามารถอ่านได้ ที่ข้างล่างนี้เลยจ้า
ประกาศ !! เปิดจองนิยายเรื่อง : Choice รักที่ต้องเลือกเปิดจองและโอนเงินตั้งแต่วันนี้ – 20 สิงหาคม 2558
หนังสือสามารถจัดส่งได้ภายในวันที่ 15 กันยายน 2558
รายละเอียดของหนังสือ
ผู้เเต่ง : K.Kanom
ขนาด : A5 กระดาษถนอมสายตา
จำนวนหน้า : 1000+ ( หนังสือมีจำนวน 2 เล่ม )
แบ่งเป็นเนื้อหา
ตอนหลัก 44 ตอนจบ
ตอนพิเศษ 15 ตอน ( อาจมีบวกลบเพิ่มเติม )
- เรื่องราวของโรมอิน
- เรื่องราวของเซฟวาด ( 5 – 6 ตอน )
- เรื่องของเต
- เรื่องของไฟท์
ของเเถม : ที่คั่น , โปสการ์ด , สมุดโน๊ต
ราคา : 900 ( ไม่รวมค่าจัดส่ง)
รูปแบบหน้าปกหนังสือ
( ตัวอย่างภาพปกแบบร่าง การลงสียังเป็นแบบร่าง ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ )

เนื้อเรื่องย่อ
สิ่งที่เรารักที่สุด ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้มาครอบครอง
สิ่งที่เราเลือก ก็ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
สิ่งที่เราเสียใจ ก็ไม่ได้จำเป็นว่าเราจะต้องจดจำ
สิ่งที่เรายึดติด ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีเสมอไป
เพราะ
สิ่งที่เห็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็น
สิ่งที่เป็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ใช่
สิ่งใช่ อาจจะไม่ใช่ สิ่งที่รัก
และ
สิ่งที่รัก ก็อาจจะไม่ใช่ สิ่งที่คงอยู่
Choice รักที่ต้องเลือก
วิธีการสั่งจองและโอนเงิน
1. กรอกรายละเอียดดังต่อไปนี้
ชื่อจริง – นามสกุล =
ที่อยู่ ( อย่างชัดเจนและโดยละเอียด ) =
จำนวนหนังสือที่ต้องการสั่ง =
อีเมล์ =
2. ส่งมาที่อีเมล์ fic.kanom@ฮอตเมล์.com
#คุณจะได้รับอีเมล์ตอบกลับ เรื่องรหัสผู้สั่งจอง เรื่องการโอนเงิน ( บัญชีธนาคาร ) และการแจ้งชำระการโอนเงินภายในอีเมล์ตอบกลับค่ะ
3. เมื่อโอนเงินแล้ว กรอกรายละเอียดดังนี้
รหัสผู้สั่งจอง
ชื่อจริง – นามสกุล
ที่อยู่
ภาพถ่าย สลิปบัตรการโอนเงิน
เวลาที่โอนเงิน
ส่งมาที่อีเมล์ fic.kanom@ฮอตเมล์.com
4. รอรับอีเมล์ตอบกลับ เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่
ทวิตเตอร์ // @realkanom
เพจเฟสบุ๊ค // หนมมี่ผู้ใสซื่อ
ฝากด้วยนะคะ
