ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 11] 22 ก.ย. 58 หน้า 6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 11] 22 ก.ย. 58 หน้า 6  (อ่าน 43386 ครั้ง)

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ มาต่ออีกนะคะ

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
ได้กลับมาอ่านงานของคุณเดหลีอีกครั้งตั้งแต่รอยรักจำหลักใจ ปกติจะไม่อ่านเรื่องที่ไม่จบแต่เรื่องนี้ก็ทำให้อ่านจนได้
แล้วก็ต้องค้างรอเหมือนตอนรอยหลักฯ แต่ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ 555

เรื่องนี้ภาษาที่ใช้ก็ยังดีเช่นเคย แต่เพราะเป็นอะไรที่ดูจะไกลตัวไปสักหน่อยเวลาอ่านเลยต้องค่อยๆ อ่านทำความเข้าใจนิดนึง
สารภาพค่ะว่ามีแอบเบื่อตอนพูดถึงเรื่องในวงแพทย์อยู่บ้าง ใจอยากกดข้ามสุดๆ 55
ชอบเวลาที่ษิตอยู่กับพี่ลภหรือพี่พัทธ์บรรยากาศมันดีมากๆ ค่ะ อ่านแล้วก๊าวใจอยากให้อยู่ด้วยกันนานๆ
ผู้ชายอย่างหมอลภหมอพัทธ์นี้คือผู้ชายในฝันเลย เป็นแบบที่ชอบ อายุมากกว่าใจดี อิอิ
แต่พอหมอพิธานโผล่มาเท่านั้นแหละรู้สึกอึดอัดแทนหมอแกเลย คนอะไรจะเก็บไว้กับตัวขนาดนั้น ไม่อยากคิดถึงตอนระเบิด
จะว่าเข้าใจคนที่เป็นแบบนี้ก็ใช่นะ แต่บางทีก็หงุดหงิดแทนค่ะ 55
อ่านเรื่องราวฝั่งหมอพิธานแล้วก็เห็นใจนะ แต่ถ้าตัดสินใจเคลียร์ไปเลยตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่เก็บกดถึงตอนนี้
หวังว่าพี่ลภจะกลับมากู้ศรัทธารักได้อีกครั้ง แม้จะชอบทำให้ถูกเข้าใจผิดครั้งแล้วครั้งเล่าก็เหอะ
ส่วนหมอพัทธ์ก็ขอให้จีบน้องษิตติดไวๆ นะคะ รายนั้นก็ดูไม่คิดอะไรเล้ยยย
เป็นเด็กจะว่าซื่อก็บอกไม่ถูก แต่ใสๆ อย่างนี้ล่ะน่ารักดีค่ะ ><
ขอเพียงแต่ยัยเง็กจะไม่มาวุ่นวายให้เกิดเรื่องอีกนะ ไม่ชอบคนแบบนี้เลยจริงๆ เห็นแล้วรำคาญ
สักวันเธอต้องได้รับผลตอบแทนกับสิ่งที่เธอทำ จำไว้! #อุ๊ย #อินไปหน่อย

หวังว่าจะได้อ่านตอนต่อไปจากคุณเดหลีเร็วๆ นี้นะคะ จะมาเฝ้ารอเรื่อยๆ
 :mew1:

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
บทที่ 11

รักษิตเดินตามจนเจอเพื่อนร่วมวอร์ดที่กำลังจะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มทำรายงานกันกับเขาและอนันต์อยู่ตรงส่วนล้างมืออีกฝั่ง โล่งใจได้ไม่นานที่ไม่ถึงกับต้องเปลี่ยนชุดใหม่เข้าไปตามถึงห้องพักรอเคส ทัศนีย์ก็เอ่ยกับเขาก่อนด้วยเสียงขุ่นๆ

“มาทำไมอีก เธอจะเข้าเคสนี้ด้วยหรือ”

คนถูกถามงงไปอึดใจ ตอบว่า “เปล่า... จะมาบอกเรื่องรายงาน พอดีเราอยู่กลุ่มเดียวกัน มีเอ้อีกคน”

อีกฝ่ายถอนใจเฮือกใหญ่ โบกมือข้างหนึ่งเป็นทำนองให้เขาพูดเร็วๆ

“เรารีบ จะเตรียมตัวเข้าเคส”

รักษิตไม่ถือสาท่าทางนั้น บอกว่า “พักกลางวันแล้ว ไปกินข้าวด้วยกันก่อน จะได้คุยเรื่องรายงานพร้อมกับเอ้ทีเดียวเลย”

ทัศนีย์มองเขาราวกำลังเผชิญกับคนที่พูดไม่รู้เรื่องที่สุดอยู่ “เราบอกว่าเรากำลังจะเข้าเคส!”

ฉับพลันนั้นเองรักษิตก็ได้ยินเสียงท้องร้อง ซึ่งเขาแน่ใจว่า... ไม่ใช่ท้องตัวเองแน่

“นี่...”

ทัศนีย์หน้าแดงแปร๊ด แผดเสียงใส่เขา “แล้วคิดว่าใครที่ทำให้เราไม่ได้กินข้าว!”

รักษิตพยายามทำใจให้เย็น ถึงไม่คิดว่าเป็นความผิดตัวเองเสียทีเดียวเรื่องชนกันอย่างโชคร้ายที่สุดในห้องผ่าตัด แต่เขาก็ไม่อยากเสียเวลาไปต่อล้อต่อเถียงกับเพื่อนผู้หญิง ไม่คาดว่าที่ยังไม่โต้ตอบกลับยิ่งกระพือแรงอารมณ์อีกฝ่าย เมื่อทัศนีย์พูดเสียงขึ้นจมูกว่า 

"ฮึ... ก็ไม่เป็นไรอยู่แล้วนี่ จะดูอะไร จะเข้าเคสไหนตอนไหนก็ได้ เพราะสนิทกับเฟลโลว์!"

พูดเสร็จก็สะบัดหน้าจากไป รักษิตถึงกับมึน ถ้าอาจารย์หรือแพทย์ประจำบ้านอนุญาต นักศึกษาแพทย์ก็สามารถเข้าดูการผ่าตัดได้นอกเหนือไปจากที่ได้รับมอบหมาย นักศึกษาแพทย์ทุกคนมีสิทธิ์นั้นเท่าเทียมกัน ทัศนีย์อาจจะเคยเห็นเขาทักทายหรือแม้แต่ติดรถของลภกลับบ้านโดยที่เขาไม่รู้

แต่นอกจากไม่เคยคิดจะขออะไรเป็นกรณีพิเศษแล้ว คนอย่างนายแพทย์ลภก็ไม่มีทางมาให้สิทธิพิเศษกับเขาเหนือคนอื่นอีกเหมือนกัน เรื่องนี้เขารู้จักอีกฝ่ายดี

รักษิตได้แต่เดินกลับลงไป กินข้าวที่เพื่อนมีน้ำใจซื้อเผื่อเอาไว้ให้อย่างไม่รับรู้รสชาติ พออนันต์รู้เรื่องก็ได้แต่ส่ายศีรษะ เขาเองยังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้ อาจลองอีเมลหัวข้อให้ไปก่อน... แล้วแบ่งส่วนรับผิดชอบอีกที เพราะถ้าล่าช้าออกไปคนเดือดร้อนไม่ใช่แค่เขาหรืออนันต์ เจ้าตัวเองก็ไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไร ยิ่งกังวลกับคะแนนและเกรดอยู่

กินข้าวเสร็จเขาแยกกันกับเพื่อน ขึ้นไปบนวอร์ด เดินผ่านเคานเตอร์ข้างหน้ารู้สึกคุ้นตากับคนที่หันหลังกำลังโน้มตัวคุยกับพยาบาลจนต้องเหลียวมอง แต่ตอนนี้ เขาไม่ได้อยู่อายุรกรรม... ได้ยินเสียงพยาบาลที่เพิ่งกลับเข้ามาทักขึ้น

“มาหาเพื่อนหรือหมอ... หมอพิธานแกไม่อยู่หรอก ไปออกเฉพาะทางกับอาจารย์”

รักษิตก็เลยเดินห่างออกไป ส่วนธีรพัทธ์ที่ไม่ทันเห็นรุ่นน้องตอบว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมกำลังจะกลับวอร์ด พอดีโดนตามมาดูคนไข้เหนื่อย”

“แหม แต่พี่เห็นหน้าหมอก็หายเหนื่อยล่ะ” คนทักว่า

“พักนี้ผมเยินจริงครับ... โทรมสุด”

“เยินยังไงก็ยังหล่อน้าหมอ” พยาบาลอาวุโสตรงเคาน์เตอร์แซวต่อ ก่อนแพทย์ประจำบ้านออร์โธปิดิกส์อีกคนจะแหย่ “ย้ายวอร์ดเลยป้า... อยู่นี่มันไม่เจริญตาเท่าเมด!”

พยาบาลค้อนควักเรสิเดนท์ผู้อาจหาญนั้น เพราะใครๆ ย่อมรู้ว่าเรียกพยาบาลว่าพี่ได้อย่างเดียวไม่ว่าใกล้เกษียณขนาดไหน

“แผนกเราก็มีหมอพิธานไง” คนถูกเรียกว่าป้าจะส่งประกวดประขันให้จงได้ “แต่แกชอบทำหน้าเช้ย เฉย...”

ธีรพัทธ์ยิ้มขัน กวาดตาไปรอบๆ เห็นรุ่นน้องอยู่เสียสุดมุมห้อง กำลังคิดว่าจะเดินไปหาเองก็พอดีหันมาเจอกรองพรที่ท่าทางรีบๆ แต่ยังอุตส่าห์ทักเขา “ไง... มาดูคนไข้เหรอ”

“ครับ เสร็จแล้วล่ะ”

กรองพรไม่ติดใจ เหลียวไปเหลียวมาพลางบ่น “น้องเรามันหายไปไหนหมด... อ้าวษิต ษิต!”

หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านกวักมือเรียกรุ่นน้องมาจนได้ บอกว่า “เอาเอกสารนี่ไปให้อาจารย์กอบที่ห้องประชุมตึกนู้นแล้วอยู่ช่วยอาจารย์แป๊บนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”

รุ่นน้องรับคำ ธีรพัทธ์เลยถือโอกาสเดินมาด้วย เย้าเมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่ายออกจะยุ่งๆ

“เป็นไงขึ้นวอร์ดใหม่แล้ว ชอบออร์โธไหม”

รุ่นน้องพยักหน้า ธีรพัทธ์เลยแหย่ต่อ “ชอบมากกว่าเมดหรือยัง”

รักษิตไม่ตอบหรืออาจจะไม่ได้ยิน เงียบไปอึดใจค่อยถามขึ้น

“พี่พัทธ์เคยพูดกับใครแล้วเขาไม่ค่อยฟังบ้างไหม”

ธีรพัทธ์มองคนที่เดินข้างกันอย่างขำเต็มที ตอบว่า “ก็น้องไง”

“หือ?” รักษิตมองหน้าเขากลับอย่างเหรอหราจนธีรพัทธ์อดหัวเราะไม่ได้ ต้องบอก

“เอ้า ว่ามา คิดเรื่องอะไรอยู่”

รุ่นน้องมีท่าทีลังเล แต่ก็พูดออกมาในที่สุด “คือ... ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาเข้าใจดี เหมือนสื่อสารกันแล้วไปไม่ถึง”

คนฟังต้องถาม “ใครเหรอ”

คราวนี้อีกฝ่ายหยุดไปนิดก่อนจะบอกว่า “... คนไข้”

หากคำตอบกลับง่ายดายกว่าที่เขาคาด

“... บางทีก็ต้องปล่อยไป ให้ธรรมชาติคัดสรรเสียบ้าง”   

“พี่พัทธ์เอาจริงน่ะ”

ดูท่ารุ่นน้องจะคิดว่าเขาพูดอะไรใครก็ฟังสิท่า...
             
“ไม่ได้บอกให้ไม่ทำงาน เจออีกก็พูดเหมือนเดิม พูดเรื่องเดิมนี่แหละ หาวิธีต่างๆ นานา” หมออายุรกรรมอย่างเขาย่อมรู้ซึ้งถึงการปากเปียกปากแฉะเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนไข้เป็นอย่างดี “แต่พอถึงจุดหนึ่งต้องปลง จริงๆ... น้องอย่าไปแบกเรื่องทุกอย่างไว้กับตัวเองหมด ไม่ไหว”

รักษิตเม้มปากท่าทางครุ่นคิดจนธีรพัทธ์ต้องเอ่ยแกมหัวเราะ “อย่าเพิ่งเครียด เป็นเอ็กซ์เทิร์นหนักกว่าอีกนะ”

“ผมกำลังคิดว่า สำหรับเคสนี้... มันจะเร็วไปหรือเปล่า”

... ที่จะยอมแพ้แล้วปล่อยทุกอย่างไปตามยถากรรม อย่างน้อยก็ต้องลองคุยกันอีกสักที

“ก็ไม่บอกพี่ตรงๆ นี่” รอยยิ้มอย่างรู้ทันจุดขึ้นเมื่อธีรพัทธ์หันมองคนข้างกันเต็มตา “จะได้ให้คำแนะนำถูก”

เห็นสีหน้ารุ่นน้องแล้วก็ขำอีก ด้วยอาชีพและสาขาที่เรียนทำให้เขาเป็นคนจับสังเกตไว เรื่องสีหน้าท่าทีของคู่สนทนานับได้ว่าทัดเทียมกับความละเอียดของจิตเวชแม้จะมีจุดประสงค์ต่างกันอยู่เล็กน้อย กับคนไข้เขาต้องสนใจอยู่แล้วด้วยหน้าที่การงาน ส่วนรุ่นน้องคนนี้ เขาก็... สนใจเหมือนกัน 
 
ฝ่ายรักษิตคิดว่าเขาควรแก้ปัญหาด้วยตัวเองเสียบ้าง ตอนอยู่อายุรกรรมธีรพัทธ์ช่วยเขามามากแล้ว ปัญหาเพียงการรับมือกับเพื่อนร่วมวอร์ดเขาควรจะจัดการให้ได้

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้ถ้าผมผ่านไปไม่ได้ ปีหน้าจะทำยังไง ยิ่งต้องวนนอกตอนเป็นเอ็กซ์เทิร์นอีก ไม่โตซักที”

ธีรพัทธ์ยิ้ม รุ่นน้องหันไปเห็นเข้าพอดี เลยต้องบอกว่า “ดีที่ยังไม่ลืมเรื่องวนนอกโรงพยาบาลพี่”

“ไม่ใช่จะมีชิฟชวนไปทำงานด้วยบ่อยๆ” รักษิตว่าพลางหัวเราะ แล้วเอ่ยต่อ “... ทำไมพี่พัทธ์พูดเหมือนผมจะลืมอยู่เรื่อย”

“เปล่า...” รุ่นพี่ตอบ แต่ฉุกคิดเหมือนกันว่าตัวเองยังมีเรื่องของเพื่อนติดอยู่ในใจ จนเผลอกังวลถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือเขาอาจจะคิดไกลไปถึงตอนรุ่นน้องต้องใช้ทุนหลังเรียนจบแล้ว

ซึ่งถ้าเป็นไปได้... เขาก็อยากจะชวนอีกครั้ง   

“พอดี คิดถึงรุ่นพี่เมื่อก่อนมั้ง บางทีพูดๆ กันไว้แล้วไม่ได้ไป”

“ผมว่าคงสุดวิสัยจริงๆ” รักษิตก็เป็นรักษิต มองโลกในแง่ดีอยู่วันยังค่ำ

“... อย่างญาติน้อง ที่ตอนนี้เป็นเฟลโลว์” ธีรพัทธ์ไม่รู้ว่าเขาจะเลี่ยงไม่ออกชื่อทำไม ในเมื่อรักษิตก็รู้อยู่แล้วว่าลภเป็นแพทย์ประจำบ้านตอนที่เขายังเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ แต่เอาเถอะ “พี่เคยได้ข่าวว่าเขาจะไปทำงานต่างจังหวัดอยู่เหมือนกัน หลังเรียนจบ”

รุ่นน้องขมวดคิ้วหน่อยๆ สีหน้าแสดงความฉงนแท้จริง “ผมไม่รู้เรื่องนี้เลย พี่ลภพอจบก็ทำงานที่บริษัท คุณแม่บอกว่า พี่ลภจะทำตรงนี้อยู่แล้วตั้งแต่ต้น หมายถึงพี่เขารู้ตัวอยู่แล้วตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา”

นั่นมันก่อนลภจะเข้าเป็นแพทย์ประจำบ้านที่นี่อีก... คำตอบนั้นทำให้ธีรพัทธ์ข้องใจอยู่บ้าง และยิ่งทำให้เขาสงสัยว่าเรื่องนี้มีเหตุผลไม่สอดคล้องกันอยู่หลายจุด แต่ยังไม่อยากจะกวนใจรักษิตให้ลึกลงไป เขาเข้าใจดีว่านักศึกษาแพทย์ในปีที่ห้า ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนขึ้นเป็นเอ็กซ์เทิร์นมีเรื่องให้หนักหัวสมองมากพออยู่แล้ว จึงเฉไฉไปว่า

“คนอื่นน่ะช่างเถอะ น้องนั่นแหละ อย่าปล่อยพี่รอเก้อนะ...”

ประโยคนั้นทำให้รุ่นน้องคลายสีหน้าลง และธีรพัทธ์ก็มองรอยยิ้มของอีกฝ่ายด้วยความโล่งใจ


... รักษิตแยกไปแล้ว เอาเอกสารไปให้อาจารย์ตามที่หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านสั่ง ธีรพัทธ์เลี้ยวซ้ายเพื่อกลับอายุรกรรม ก็พอดีปะเข้ากับ ‘ญาติ’ รุ่นน้องอย่างจัง

จนได้...

ความจริงถ้าเดินเจอเรสิเดนท์ด้วยกันเองหรือเฟลโลว์ในโรงพยาบาล ไม่ใครก็ใครจะต้องกำลังรีบไปที่ไหนสักแห่งอยู่ตลอด ที่ผ่านมาเขาสวนกับหมอลภบ้างหลังเหตุการณ์ในห้องฉุกเฉินก็ผงกศีรษะได้ตามมารยาท แต่นั่นก่อนที่เขาจะได้คุยกับพิธาน และมีเรื่องที่เพิ่งรู้จากรุ่นน้องยังคุกรุ่นอยู่

ลภกำลังเดินคุยงานมากับแพทย์ประจำบ้านศัลยศาสตร์กลุ่มหนึ่ง จนรุ่นน้องเหล่านั้นปลีกตัวแยกย้ายธีรพัทธ์จึงก้าวเข้าไป บอกอย่างไม่มีอารัมภบทว่า “จำเป็นอะไรก็ตาม แต่ถ้าต้องผิดสัญญาเหตุผลมันก็ควรฟังขึ้นบ้างถึงจะมีคนฟัง”

ลภไม่มีท่าทีประหลาดใจที่จู่ๆ แพทย์รุ่นน้องก็พูดขึ้นเช่นนั้น ถามกลับเรียบๆ “หมอคิดว่าเหตุผลที่ฟังขึ้นอย่างเช่น...?”

ถึงจะหงุดหงิดอยู่บ้างที่เฟลโลว์ถามด้วยน้ำเสียงเหมือนทดสอบภูมิความรู้เขาในวอร์ด แต่ธีรพัทธ์ก็ตอบว่า “ถ้าไม่ใช่คอขาดบาดตายเจียนตายกันจริงๆ ผมก็ไม่รู้แล้ว”

ลภมองเขาด้วยสายตาอ่านไม่ออก แล้วจึงถอนใจ “หมอมีอะไรจะพูดก็พูดตรงๆ เลยแล้วกัน”

เมื่ออีกฝ่ายไม่อ้อมค้อม ธีรพัทธ์ก็ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องเกริ่นนำ “ถ้าต้องประจำบริษัทแน่ ก็ไม่น่าสัญญาอะไรที่รู้อยู่แล้วว่าจะทำไม่ได้”

“งานที่นั่นแค่ชั่วคราวเท่านั้น”

“ชั่วคราวอะไรนานป่านนี้!” ธีรพัทธ์พยายามลดเสียงด้วยรู้ตัวว่ายืนกันอยู่ตรงทางเดิน คราวนี้ไม่ได้คำตอบ หรือลภอาจจะไม่คิดว่าต้องตอบ จึงบ่นอย่างขัดใจ

“รู้อย่างนี้ ไม่เป็นพยานเสียก็ดี”

“เรื่องที่ผมเคยให้หมอช่วย ไม่เกี่ยว” ลภบอก “พิธานคือคนที่ผมไว้ใจมากที่สุดไม่เปลี่ยนแปลง”

มีอะไรบางอย่างในน้ำเสียงประโยคสุดท้ายนั้นที่ทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะพุ่งทะลุปรอทของเขาลดระดับลงมา ธีรพัทธ์เตือนตัวเองเสมอตั้งแต่แรกว่า นี่คือเรื่องส่วนตัวของทั้งคู่... ต่อไปจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพิธาน ถึงแม้เขาจะเคืองนายแพทย์ลภมากขนาดไหน แต่เพื่อนของเขาไม่ได้ต้องการการปกป้อง และเด็ดเดี่ยวพอที่จะพิจารณาตริตรอง ชั่งน้ำหนักได้ด้วยตนเอง

ตัดเรื่องส่วนตัวออกไป ให้ภายภาคหน้าทั้งสองคนคงสถานะไว้เพียงเพื่อนร่วมงาน พิธานก็เป็นแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถและจรรยาบริบูรณ์คนหนึ่ง ในฐานะเพื่อนร่วมวิชาชีพ ธีรพัทธ์ไม่คิดว่าอีกฝ่ายมีอะไรให้สงสัย คำพูดของนายแพทย์ลภบอกชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความวางใจอย่างสนิทนั้น... ยังคงเดิม
 
เมื่อนาทีต่อมาโทรศัพท์ตามตัวทั้งเขาและลภดังขึ้นเกือบจะพร้อมกัน ต่างฝ่ายต่างต้องผละไปทำหน้าที่... ทิ้งทางเดินอันขวักไขว่วุ่นวายระหว่างตึกของโรงพยาบาลไว้เบื้องหลัง

   
“หมอ... มาเช้าจัง ทานข้าวก่อนไหมคะ คนไข้ยังไม่ลงมาเลย”

พิธานเพียงตอบปฏิเสธสั้นๆ และบอกให้พยาบาลที่ทักเขาทานก่อนได้ตามสบาย ท่าทางคนนี้จะยังใหม่... เพราะไม่เช่นนั้นคงชินกับการมาถึงก่อนเวลาผ่าตัดของเขาจนไม่แปลกใจไปแล้ว

ครู่ต่อมาศาสตราจารย์นายแพทย์กอบชนม์จึงตามมาสมทบในห้องพักรอเคสพร้อมแพทย์ประจำบ้านต่อยอดจากศัลยศาสตร์หลอดเลือดคนเดิมที่เขาพยายามจะชินเหมือนกันกับเวลาอีกหนึ่งปีกว่าๆ ที่ต้องพบหน้าอยู่ในโรงเรียนแพทย์ ดูอย่างกรณีคนไข้สงสัยลิ่มเลือดอุดตันนั่น ที่จริงอาจจะนอนให้ยาที่อายุรกรรมก่อนก็ได้ แต่สุดท้ายก็ไพล่มาฝากที่ศัลย์...

พิธานหวังว่าหากเขาจดจ่ออยู่ที่คนไข้และงานในหน้าที่แล้ว คนอื่นและเรื่องอื่นจะถูกกันออกไปวงนอกสุดของความสนใจด้วยเช่นกัน

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว การผ่าตัดจึงดำเนินไปตามปกติ ดูจะราบรื่นดีจนกระทั่งมีการเชื่อมต่อหลอดเลือดหรือที่เรียกว่าอนาสโตโมซิส เลือดจากคนไข้ก็ฉีดกระเด็นมาทางศัลยแพทย์พอดิบพอดี

"ว้าย!" พยาบาลส่งเครื่องมือที่เห็นเหตุการณ์เข้าร้อง

"เข้าตาหรือเปล่า" อาจารย์ถามทันที

"เปล่าครับ" ลภตอบหลังจากนิ่งไปครู่

อุบัติเหตุในการทำงานเกิดขึ้นได้เสมอ ที่ผ่านมาเขาคิดว่าตัวเองเป็นศัลยแพทย์ที่พยายามละเอียดรอบคอบมากที่สุดคนหนึ่ง แต่อนาสโตโมซิสอาจส่งผลให้วิถีเลือดพุ่งมาแบบเดาทิศทางไม่ได้...

“ไม่แน่ว่าจะไม่เข้าครับอาจารย์” คนพูดคือพิธาน เสียงที่ลอดผ่านหน้ากากฟังไม่ชัดนักว่าผู้พูดรู้สึกเช่นไร

“นั่นสิ... เอางี้ หมอออกไปล้างแล้วรอก่อน”

ที่อาจารย์เห็นด้วยคงเป็นเพราะว่ายังมีโอกาสที่เลือดจะกระเซ็นเข้าทางด้านข้างที่แว่นกันได้ไม่หมด... ลภจำเป็นต้องออกจากห้องผ่าตัด ครู่หนึ่งอาจารย์กอบชนม์จึงออกมาหลังมีสตาฟอีกท่านสามารถเข้าช่วยได้ด้วย นอกจากแพทย์ประจำบ้านรุ่นน้องของพิธานที่ตามมาเข้าห้องผ่าตัดอีกคน

"เขียนบันทึกรายงานหัวหน้าภาคศัลย์ไว้ แล้วหมอไปตรวจเลือดเทียบ" อาจารย์เอ่ยรวดเร็ว “ถึงผลเลือดคนไข้จะเป็นลบหมดตอนนี้ แต่เราก็ต้องทำตามระเบียบ”

“ไม่ใช่แค่นั้นครับ อาจารย์” ลูกศิษย์ที่เพิ่งเดินตามมาทีหลังบอก สีหน้าพิธานหนักใจเมื่อพูดว่า “... คนไข้มีรอยเข็มฉีดยา... หลายรอย กับผื่นที่น่าจะเกิดขึ้นจากการเสพยาโดยฉีดเข้าเส้น”

ผลเลือดของคนไข้เป็นลบก็จริง แต่กับผู้ที่มีร่องรอยเคยเสพยา หมายถึงความเสี่ยงต่อเอชไอวีเพิ่มสูงขึ้นเพราะเขาอาจใช้เข็มร่วมกับคนอื่น ดังนั้นผลลบตอนนี้อาจเป็นเพราะว่ายังตรวจไม่เจอก็ได้ ยิ่งเคสที่ไม่ได้เซ็ตแบบฉุกเฉิน อาจจะตรวจเลือดก่อนการผ่าตัดนับเป็นสัปดาห์ กระทั่งว่าตรวจเลือดเรียบร้อยแล้วคนไข้ค่อยใช้เข็มฉีดยามาเสพก็ยังเป็นไปได้ เพราะไม่ได้นอนอยู่โรงพยาบาลตลอด

“อย่างนั้นหรือ” อาจารย์มีท่าทางเคร่งเครียดขึ้น “หลังคนไข้ฟื้น หมออาจจะต้องไปคุยกับเขาอีกที เพราะเราคงต้องขอเขาตรวจเลือดซ้ำ นี่ล้างดีแล้วใช่ไหม จะได้ไปเจาะเลือดต่อ”

“ครับ” แค่เรื่องล้างตาเองลภคิดว่าไม่เหนือบ่ากว่าแรงคนที่เรียนมาจนจะจบซับบอร์ดอย่างเขา แต่อาจารย์กลับหันไปสั่งลูกศิษย์ในภาค

“หมอช่วยดูหน่อย... เดี๋ยวผมต้องกลับเข้าไปแล้ว”

ลภจึงต้องล้างตาอีกครั้งโดยคราวนี้มีคนช่วย

“เอียงศีรษะหน่อย” เสียงพิธานเรียบเหมือนเคย แต่เปิดเปลือกตาเขาไว้อย่างเบามือ ขณะเทน้ำเกลือปลอดเชื้อให้ไหลผ่าน

ใบหน้าของพิธานถูกม่านน้ำบดบังเอาไว้จนเขาเห็นเพียงความพร่าเลือน

เมื่อเสร็จ พิธานก็บอกว่า “คุณไปเจาะเลือดเลยแล้วกัน ผมจะเข้าช่วยอาจารย์ต่อ”

ลภได้แต่มองตามคนที่หันหลังกลับไปล้างขัดมือใหม่ เขาอาจจะหวังมากเกินไป ตาฝาด... ที่เห็นร่องรอยห่วงกังวลปรากฎขึ้นในสีหน้าแววตานั้น


เขาไปเจาะเลือด เขียนบันทึกแจ้งหัวหน้าภาค แล้วกลับไปทำงานต่อ จนคะเนได้เวลาที่คนไข้น่าจะฟื้นและได้พักผ่อนบ้างแล้วจึงขึ้นลิฟต์ไปวอร์ด

ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นสี่ ผู้ก้าวเข้ามาไม่ใช่ใครอื่น พิธานไม่พูดอะไร

ลภคิดว่าจุดหมายปลายทางของทั้งเขาและอีกฝ่าย อาจจะเป็นที่เดียวกัน... แม้เพียงแค่ชั่วคราวก็ตามที

ช่วงเย็นวันนี้ลิฟต์ว่างกว่าปกติ เมื่อพิธานยังไม่ออกจากลิฟต์ เขาจึงถามขึ้น “ธานจะไปดูคนไข้เมื่อเช้าหรือ”

พิธานเพียงแต่พยักหน้า

"... ห่วงพี่หรือ"

อีกคนที่ตาจับอยู่กับเลขชั้นลิฟต์บอก "อาจารย์ติดเคส แล้วผมก็เข้าผ่าตัดร่วม มีสิทธิ์ไปคุยกับคนไข้"

ลภถอนหายใจ หากรอยยิ้มผุดขึ้นบางเบา "ตอบเสียยาว แค่ ใช่ หรือ ไม่ ก็พอ”

ในลิฟต์มีเพียงความเงียบ สิ่งที่ยังเคลื่อนไหวมีแต่ตัวเลขแสดงชั้นของลิฟต์ที่ขยับอย่างเชื่องช้าเท่านั้น


ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
คุณ milkteabeige ขอบคุณมากค่าสำหรับการอ่าน นี่ษิตยังจัดการนีน่าไม่ได้เลย 55 แต่รอก่อนเถอะ ป.ล. พี่พัทธ์มาล่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะที่อินนะ สำหรับคุณแม่ แกคงมีเหตุผลของแกแน่นอน แต่ไม่รู้ฟังขึ้นป่าวนะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ถึงจะมาช้าแต่จะพยายามค่ะ

คุณ iforgive มากเลยค่ะ 55 เป็นคนน่าหมั่นไส้

คุณ i c u ขอบคุณแม่ยกพิธานค่ะ อิอิ ฝากเชียร์ต่อด้วยน้า

คุณ pim-lovemj น้องษิตเป็นคนดีน่ะค่ะ 55 ดีไป๊ ไม่จัดคืนบ้างไรบ้าง สองคนนั้นมาแล้วค่ะ มาแบบเรื่อยๆ 55

คุณภาณุเมศพลัง กว่าฝั่งพี่ลภจะมานี่... ก็พิธานไม่ฟังอ้ะ พี่ลภแกจะพูดกับลมฟ้าอากาศที่ไหนล่ะ ผิดจังหวะกันจริงๆ แหละ พี่ลภแกก็มีเรื่องต้องทำนะ แต่การสื่อสารผิดพลาด... ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจ

คุณ malula เด๋วก่อนค่ะ นีน่านี่ไม่รู้จะโดนอะไร 55 หมอพิธานแกไม่อยากเฮิร์ตแล้วนะ

คุณ myd3ar ขออภัยที่ต้องรอนานอีกแล้ว... มาแล้วค่ะ

คุณบัวน้อย ไร่แตงโม ขอบคุณมากๆ ค่ะที่อ่านเรื่องนี้ด้วยน้า คนเขียนช้าสุดเลยเรื่องนี้ 55 มีประเด็นอื่นในเรื่องแวดวงวิชาชีพเขาอยู่บ้างน่ะค่ะ แต่จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นนะ คนอ่านจะได้อ่านหนุกๆ นะ พิธานแกเป็นคนนิสัยแบบนี้เองอะ เข้าหายากพอออกไปแล้วก็ไม่ต้องกลับเข้ามาอีกเลย 555 โฟกัสเรื่องงานดีก่า ตอนนั้นแกไม่รู้จะเคลียร์กะใครค่ะ หมอลภก็ไม่อยู่ล่ะ กว่าจะกลับมาก็... นะ น้องษิตแกฉลาดแต่แกอาจจะหัวช้ากับบางเรื่อง ดีมากค่ะเรียกเง็กด้วยชื่อจริงๆ ของนาง 55 จะพยายามมานะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีคนอ่านค่ะ... ตอนนี้คนเขียนเพลียมากงานหนักมากกก เหนื่อยมากจริงๆ และเพลียตัวเองที่มาต่อไม่ได้เร็วกว่านี้ ยังไงก็ต้องขอบคุณคนอ่านมากๆ เลยนะคะ

จริงๆ แล้วพี่พัทธ์อาจจะรู้อะไรมากกว่าที่เราคิดก็ได้นะ (ถ้าเราเชื่อว่าน้องษิตแกพูดจริงทุกคำนะ... 55 ถ้าเราเชื่อน้องษิตไม่ได้ก็ไม่รู้จะเชื่อใครละ)

ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามอ่านกันค่า รักคนอ่าน
:กอด1: 

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อึมครึมจริง ๆ คู่ของพิธานเนี่ยะ  เฮ้อ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หมอลภนี่ก็น่าโมโหเสียจริง เหตุผลไรก็ไม่พูด จะให้คนทั้งโลกมาเข้าใจได้ยังไง
คนที่รอด้วยความไม่รู้อะไร มันท้อนะเฮ้ย แล้วที่แย่คือพอไม่รู้อะไรเลยคิดเลยเถิดไปต่าง ๆ นานา
อุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะทำให้หมอลภหมอพิธานได้กลับมาเคลียร์ปัญหาคาใจกันเสียที
หมอพัทธ์หยอดหนักมาก แต่น้องษิตจะรู้หรือไม่เป็นอีกเรื่องเนาะ

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
ยัยเง็กทำตัวน่ามคานอีกแล้ว ชีวิตเคยเจอคนแบบนี้เหมือนกันนะคะ เข้าใจความรู้สึกน้องษิตเลย
พูดไปเท่าไหร่เขาก็ไม่รับแบบนี้มีแต่เหนื่อยอ่ะ มันต้องให้ธรรมชาติคัดสรรอย่างที่หมอพัทธ์ว่าจริงๆ
ตอนนี้สั้นๆ แต่พี่หมอเขามีโอกาสหยอดโอกาสทำคะแนนจากน้องได้เสมอ (แต่น้องจะเข้าใจไหมนั้นอีกเรื่อง 555)
สกิลจีบขั้นสูงมากกกอยากให้พี่ลภมาดูเป็นตัวอย่างจุง
แบบหมอลภมันน่าตีไปหน่อยค่ะ เล่นตัวมากหรือมีเหตุผลที่ทำให้ต้องอมพะนำกัน?
(ตอนนี้มีปริศนามาให้ติดตามอีกล่ะว่ามีคดีอะไรกันมาก่อนอีก)
นี่ถ้าไม่มีอุบัติเหตุในห้อง OR จะเรียกความเห็นใจจากคนแบบหมอพิธานคนซึนได้ไหมฮึ
รายนี้ก็ยังคงเส้นคงวาความใจแข็งเหมือนเดิมเป็นห่วงก็บอกว่าห่วงสิจะอ้อมทำไม ยังไงสุดท้ายก็โดนหมอลภจับได้อยู่ดี หุหุ
แต่ก็ดีค่ะปากแข็งแบบนี้คนอ่านจะได้เจอฉากพี่หมอง้างปากบ่อยๆ
เราชอบเวลาพี่ลภคุยกะหมอพิธานมากเลย แลดูกรุ้มกริ่มบอกไม่ถูกค่ะ ><

ตอนนี้อ่านง่ายขึ้นนะคะ ฉากบลีดดิ้งก็อ่านเข้าใจง่ายดีค่ะ
ความจริงทำเคสแล้วเจอแบบนี้มันก็ซีเรียสอยู่นะคะ แต่ทำไมเราอ่านตอนบลีดดิ้งแล้วแอบขำก็ไม่รู้
คือในหัวนี่คิดไปถึงเลือดกระฉูดพุ่งใส่หน้าหมอเหมือนในฮันนิบาลไปซะงั้น
สงสัยจะดูฉากนั้นมากไปหน่อย แทนที่จะเป็นห่วงหมอลภเลยขำแทน (ไม่เป็นไรมีหมอพิธานคอยเป็นห่วงแล้วนะ *ตบไหล่ๆ*)
หวังแต่ว่าหมอจะไม่ติดเชื้อนะคะ ไม่งั้นคนอ่านนี่แหละค่ะจะโศกก่อน TT______TT

รอคุณเดหลีมาต่อตอนหน้านะคะ *แจกหัวใจ*
 :L2:

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พี่หมอพัทธ์มาแล้วๆๆ ชอบบรรยากาศระหว่างพี่หมอพัทธ์กับน้องษิตมากๆ ค่ะ ชอบความใจดีของพี่หมอพัทธ์มากๆ

น้องษิตเป็นคนจิตใจดีมาก เมื่อไหร่นางคนนั้นจะเข้าใจอะไรๆ ซักทีนะ คือแบบเจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้ บางทีก็ต้องปลงบ้างค่ะ เหมือนที่พี่หมอพัทธ์ว่าไว้ อย่าแบกโลกไว้ทั้งใบ

ส่วนคู่อึมครึมของเรา พี่ลภคงต้องใช้เวลามหาศาล กว่าจะกระเทาะกำแพงหัวใจของหมอพิธานได้

ขอบคุณคุณเดหลีมากๆ ค่ะ ยังไงก็รออยู่ตลอดนะคะ ตามเก็บเรื่องสั้น(สมาคมขนสั้น)ของคุณเดหลีเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ ชอบมากกก ยังรู้สึกว่าตอนนั้นทำไมถึงไม่ยอมอ่าน 5555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ขอแอบปักหมุดตรงนี้ค่ะ
ติดตามนะคะ

 :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หายไปนานเลยนะคะ โปรดทราบคิดถึงมากค่ะ

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
 :sad4:

ยังคงเฝ้ารออย่างเหนียวแน่นค่ะ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เพิ่งเข้ามาอ่านจ้าสนุกกว่าที่คาดเยอะเลย

ออฟไลน์ basanti

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พลาดอย่างแรงเลยเพิ่งมาเห็นเรื่องใหม่ของคุณเดหลี ชอบงานของคุณเดหลีมากโดยเฉพาะรอยรัก...จำหลักใจ  :-[

ขออนุญาตทำสารบัญให้นะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-04-2016 16:15:27 โดย basanti »

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ยังรอคอยคุณเดหลี อย่างมีความหวังค่ะ

 :sad4:

ออฟไลน์ LALYNN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยังรออ่านงานคุณเดหลีอยู่นะคะ  :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด