ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 11] 22 ก.ย. 58 หน้า 6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 11] 22 ก.ย. 58 หน้า 6  (อ่าน 43401 ครั้ง)

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :mew2: รับทราบคร่า จะรออ่านนะคะ

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
นี่ก็การงานรุมเร้าไม่แพ้กันค่ะ ป่วยก็ยังต้องฝืนสังขารไปทำงาน
เพราะมันคือความรับผิดชอบ อยากได้หมอๆในเรื่องนี้มาดูแลจัง
ลำเอียงไปทางรักษิตซะด้วยสิ ถึงจะยังฝึกอยู่ก็เถอะ ฮี่ๆๆๆ

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :m32: แว๊บเข้ามา +เป็ด และมาปูเสื่อรอน้องรักษิตจร้า
 :m1: ตอนนี้เค้าขอสมัครเป็น รักษิต FC ยังทันมั๊ยคร้าาาาาา
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ pim_onelove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
ปักหมุดว่ายังรออยู่นะค๊า

ออฟไลน์ Nemasis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
คิดถึงบรรดาคุณหมอแล้ววว

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
อ่านรวดเดียว คุณเดหลีไม่เคยทำใหเผิดหวัง
ดีเทลแน่นมาก แต่อ่านเพลินมากเช่นกัน

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #96 เมื่อ10-12-2014 05:36:19 »

บทที่ 8

รักษิตรู้สึกตัวตื่นตอนกลางดึก มองนาฬิกาหัวเตียงก็พบว่าเกือบเที่ยงคืนแล้ว ในห้องมืด มีเพียงแสงไฟจากโถงชั้นบนลอดเข้ามาเป็นลำจาง เมื่อค่ำพอถึงบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าจากโรงพยาบาล ฝืนกินอะไรไปนิดหน่อยลภจึงปล่อยให้เขานอน ได้ยินเสียงบอกแว่วๆ ว่านั่งทำงานอยู่แค่ข้างนอกนี้ ประตูทิ้งแง้มไว้เพื่อจะเรียกได้

เขาลุกไปล้างหน้าล้างตา พอเดินออกไปนอกห้องก็เห็นภาพอย่างที่นึกเอาไว้ โถงชั้นบนจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนกลายๆ มีทั้งโซฟาตัวใหญ่และโทรทัศน์ เสียแต่ไม่ค่อยมีผู้ใช้ตรงจุดประสงค์เท่าใดนัก โคมส่องสว่างอยู่ดวงเดียวสาดกระทบแฟ้มเอกสารที่ยังเปิดค้าง รักษิตนึกรู้ว่าคงเป็นงานจากบริษัท เพราะอีกฝ่ายมักจะมีท่าทีเคร่งเครียดเช่นนี้เสมอ ต่างกับเวลาอื่น

คนจดจ่อกับงานอย่างมีสมาธิเงยหน้าขึ้นทันทีที่รู้ว่าเขาเข้าไปใกล้ เอ่ยถาม

“เป็นไง... ยังปวดท้องอยู่ไหม”

“นิดหน่อย... แต่ดีขึ้นแล้วครับ”

“ไข้ล่ะ...”

รักษิตยกมือทาบหน้าผากตัวเอง “ไม่น่ามีนะ”

ลภวางมือจากงาน ดูจนแน่ใจว่าอาการเขาเรียบร้อยดีแล้ว จึงบอก “โทรหาแม่เสียหน่อย หรือจะให้พี่โทร?” 

ยังผลให้คนฟังรีบปฏิเสธ “... อย่าดีกว่า ไม่เป็นไรแล้ว คุณแม่กังวลเปล่าๆ”

ความเคยชินทำให้รักษิต ‘ไม่เป็นไร’ เสมอมาเพราะมีคนป่วยหนักกว่าอยู่ในครอบครัว แต่คนที่เขาปิดบังไม่ได้ก็มี... ความจริงลภมักติดต่อคุณตรีรัตน์ด้วยเรื่องงาน มีเพียงเรื่องเกี่ยวกับเขาเป็นข้อยกเว้น

อีกฝ่ายยังมองมาอย่างชั่งใจอยู่ครู่ ในที่สุดก็พูดว่า “งั้นลงไปข้างล่างกัน... พี่จะไปชงกาแฟ”

รักษิตไม่หิว และยังไม่อยากนอนต่อ จึงตามลงไปโดยดี นั่งลงที่โต๊ะติดกับส่วนเตรียมอาหาร หลังจากปฏิเสธว่าไม่อยากกินอะไรไปอีกครั้งแล้ว ก็มีถ้วยกระเบื้องเคลือบพิมพ์ลายแมวการ์ตูนชื่อเฟลิกซ์สีขาวดำกำลังยิ้มแป้นมาวางตรงหน้า ก่อนคนวางจะหันกลับไปชงกาแฟของตัวเองต่อ

รักษิตมองถ้วยชาที่ยังร้อนกรุ่น มองตัวการ์ตูนแมวส่งยิ้มให้เขาเหมือนเดิมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน แล้วก็หลุดปากออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

“พี่ลภ... ไม่มาเป็นพี่ชายษิตจริงๆ นะ...”

ถ้าเป็นเวลาปกติเขาอาจจะไม่พูดก็ได้ แต่วันนี้เขาป่วย... เพิ่งจะหาย ถือว่าตามใจตัวเองวันหนึ่งแล้วกัน

รักษิตโตเกินจะอยากใช้อะไรที่มีเจ้าเฟลิกซ์อยู่แล้ว แต่มันเป็นตัวแทนความทรงจำเก่าๆ ตอนยังเด็ก ถ้าเกิดเจ็บไข้ขึ้นมา ต้องกินยา เมื่อก่อนใช้ถ้วยใบนี้ เห็นตาโตๆ รอยยิ้มกว้างๆ ของมันแล้วเขาก็รู้สึกสบายใจทุกครั้ง

คนที่ยังใช้ช้อนคนกาแฟอยู่เพียงแต่ชะงักนิดหนึ่งเท่านั้น ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย ตอบว่า “... พี่ก็เป็นพี่ของษิตจริงๆ”

“ไม่ใช่อย่างนั้น...” รักษิตถอนใจ “พี่ลภก็รู้ว่าษิตหมายความว่ายังไง...”

อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไร รักษิตถอนใจอีกครั้ง เขาแค่คิดว่า ในเมื่อไม่มีใครหลงเหลืออยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกาหรือที่นี่ บางที เขากับคุณตรีรัตน์ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดกับคำว่าครอบครัวของนายแพทย์ลภในเวลานี้ก็ได้

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก่อนที่รักษิตจะทันพูดอะไรมากไปกว่านั้น ลภรับสายจากมือถือ

“ครับ... คืนนี้ผมก็กำลังดูอยู่ จะส่งอีเมล์ให้ตรวจทานพรุ่งนี้เช้า”

เท่านั้นเขาก็นึกรู้ว่าแม่โทรมา พอดีกับลภเอ่ยพลางเหลือบมาทางเขา “ษิตหรือครับ...”

รักษิตรีบไขว้มือเป็นรูปกากบาท ขืนเขาพูดโทรศัพท์กับแม่ตอนนี้คุณตรีรัตน์ได้ซักฟอกเขาสะอาดปะไร อันที่จริงรักษิตไม่เคยมีปมเรื่องคิดว่าแม่ลำเอียงหรือไม่รัก อาจจะมีบ้างตอนยังเด็กมากๆ ที่ตั้งแต่เกิดมาจำความได้ ทั้งปู่ย่าพ่อแม่ก็ดูจะรุมให้ความสนใจพี่สาว แต่อีกไม่นานเขาก็เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร รวมทั้งที่แม่ทำงานหนักมาตลอดด้วย ถึงไม่อยากให้มีเรื่องกังวลเพิ่มมากกว่าเดิมเพราะตัวเองเป็นสาเหตุ

เมื่อลภไม่ได้ตอบ ปลายสายจึงเข้าใจว่าลูกชายไม่ได้กลับมาค้างบ้าน ทำให้พูดเลยไปเรื่องอื่น ปรากฎว่าในที่ประชุมนั้นคุณตรีรัตน์เผอิญได้พบกับผู้ที่เคยแสดงความประสงค์จะบริจาคเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลพอดี เมื่อได้พูดคุยก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าคือโรงพยาบาลใดรวมทั้งผู้บริจาคเองก็ทราบจากอาจารย์หมอว่ามีการติดต่อบริษัทไว้แล้วด้วย

ลภเกือบถอนใจ นึกโล่งอกที่ไม่ต้องนำเสนอสินค้ากับอาจารย์ในภาคอีก เรื่องขายไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัดเลย ไม่แคล้วปลายสายคงตำหนิเขาที่ล่าช้า จริงตามนั้น เพียงแต่คุณตรีรัตน์อาจจะยังอยู่ในอารมณ์ดีที่เรื่องสำเร็จลุล่วง จึงไม่ได้พูดให้มากความนัก

วางสายกันแล้ว รักษิตจึงได้บอก

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ษิตโทรหาคุณแม่เอง”

“อืม...”

“คุณแม่บ่นอะไรพี่ลภอีกหรือเปล่า”

คราวนี้อีกฝ่ายหลุดหัวเราะเล็กน้อย ตอบว่า “ก็ทั่วไป... ษิตอย่าห่วงเลย ดึกแล้วขึ้นไปนอนเถอะ พี่ก็จะไปทำงานต่อเหมือนกัน”

รักษิตยังเห็นแสงไฟลอดผ่านจากภายนอกอยู่อีกนานก่อนเคลิ้มหลับในคืนนั้น


พิธานเคาะประตูห้องทำงานหัวหน้าภาคก่อนจะเปิดเข้าไป หลังราวนด์เช้าอาจารย์เรียกพบเขา บอกว่ามีเรื่องเกี่ยวกับคนไข้

อาจารย์กำลังพูดโทรศัพท์อยู่ ทำมือให้ลูกศิษย์รอสักครู่ จึงได้บอกว่า

“ผมพบสตาฟศัลย์ตอนขึ้นมา ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องของเราโดยตรง แต่ถือว่าช่วยคนไข้หน่อยแล้วกันหมอ เคสที่หมอเคยดูอยู่ ดีเอ็มฟุตนะ กลับมา คราวนี้แผลไม่ดีเลย ถามถึงหมอ สตาฟศัลย์เลยบอกผมว่าถ้ามีเวลา ให้หมอไปดูคนไข้ แล้วก็ไปพบหน่อย”

ที่อาจารย์กอบชนม์พูดถึงคือแผลเกิดจากเบาหวานที่เท้า เคสนี้พิธานเคยช่วยดูตั้งแต่ตอนไปเวียนศัลยศาสตร์ตอนเข้าเรียนแพทย์ประจำบ้านออร์โธปิดิกส์ใหม่ๆ... แต่ความที่เป็นคนไปดูบ่อย แทนพี่แทนอาจารย์บ้าง คนไข้จึงจำเขาได้และถามถึงทุกครั้งแม้ว่าแพทย์ประจำบ้านคนนั้นจะกลับไปอยู่ในวอร์ดของตัวเองแล้ว เขารีบรับคำ จากที่ฟังอาจารย์คราวนี้ก็น่าเป็นห่วงจริงๆ เพราะแผลขาดเลือดร่วมด้วย จากการที่หลอดเลือดตีบจนอุดตัน

พอว่างจากวอร์ดตัวเองหน่อย เขาก็รีบไปดูคนไข้ที่วอร์ดศัลย์ก่อนไปแผนกผู้ป่วยนอกของออร์โธปิดิกส์ตอนบ่าย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะตำหนิคนไข้ว่าทำไมถึงปล่อยให้เป็นขนาดนี้กว่าจะมาหาหมอ เขาคุยกับญาติกับคนไข้อยู่พักเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ก่อนจะไปพบอาจารย์ภาคศัลยศาสตร์ที่อาจารย์กอบชนม์ให้ชื่อมา

อาจารย์คุยกับเขา อย่างน้อยการที่คนไข้ได้รับการประเมินให้ผ่าตัดทางเดินของเลือด ที่เรียกกันว่ารีวาสคูลาไรเซชั่นโดยใช้วิธีบายพาส คือใช้เส้นเลือดเทียมต่อข้ามส่วนที่ตันไปนั้น ก็ยังมีโอกาสหลีกเลี่ยงการต้องตัดนิ้วหรือเท้าไปได้มากกว่ากลุ่มที่ใช้วิธีนี้รักษาไม่ได้ แต่แล้วอาจารย์ก็บอกสิ่งที่ทำให้เขานิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แม้อาจารย์จะไม่ทันสังเกตก็ตาม

“ผมเข้าใจว่าถ้าหมอไปคุย คนไข้จะฟังขึ้นอีกมาก ต่อจากนี้มีอะไรหมอปรึกษาหมอลภนะ... เขาเคยทำบายพาสมาแล้วคล้ายๆ กันได้ผลดี ผมก็คอยดูอยู่ แต่เรื่องรายละเอียดหมอไปคุยกับเขาโดยตรงได้เลย เคสนี้เขาก็น่าจะได้ทำด้วย”

พิธานไม่มีทางเลือกนอกจากรับคำอีกครั้ง ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ เรียนที่เดียวกัน สาขาคาบเกี่ยว จะช้าจะเร็ว ไม่เจอกันอีกในห้องผ่าตัดก็ต้องได้ทำเคสด้วยกันอยู่ดี เขาตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าถ้าเพื่อการรักษาคนไข้ ทำงานร่วมกันบ้างไม่นับว่าเป็นอย่างไร อีกไม่ถึงสองปี ก็ต่างคนต่างจบ ต่างคนต่างแยกย้ายไป... เหมือนเดิม

มีอะไรต้องกลัว

แต่กระนั้นยังต้องสูดหายใจลึกก่อนเคาะประตู พิธานรู้ว่าห้องทำงานของเฟลโลว์หน่วยศัลยศาสตร์หลอดเลือดใช้ร่วมกัน ตั้งโต๊ะกระจายในห้องเล็กๆ นั้นอยู่สามสี่โต๊ะ แต่ในเวลานี้ก็มีเพียงนายแพทย์ลภเท่านั้น

คนที่นั่งอ่านวารสารทางการแพทย์อยู่หลังคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่เปิดค้างอยู่เงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจนิดๆ แต่แล้วคงรู้ว่าเขามาด้วยเรื่องอะไร ยิ้มให้พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ข้างหน้าให้นั่ง

ชั่วเวลาที่ลภปิดโน้ตบุ๊คลง ช่วยไม่ได้ที่คนนั่งตรงข้ามจะสังเกตเห็นสีหน้าอิดโรยเล็กน้อยและรอยไรที่เริ่มขึ้นเขียวอ่อนจางบริเวณคาง

ทำงานดึก? เถอะ... ทำงานสองที่ก็เหนื่อยทั้งนั้น

... ไม่ใช่เรื่องของเขาไม่ใช่หรือ เรื่องของเขามีแต่ปรึกษาเคสคนไข้เท่านั้น
 
พิธานทำอย่างนั้นไปจนเกือบบ่ายโมง โดยที่เฟลโลว์ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนเขาเหลือบดูนาฬิกาพบว่าได้เวลาต้องไปแผนกผู้ป่วยนอก

ลภลุกขึ้นยืนเมื่ออีกฝ่ายเดินเกือบถึงประตู ก่อนจะห้ามตัวเองทันก็พูดออกไปแล้วว่า “อย่าลืมกินข้าว เดี๋ยวปวดท้องอีกเหมือนเมื่อก่อน”

พิธานหยุดนิดเดียว แต่ก็ปิดประตูตามหลังให้อย่างเรียบร้อยโดยไม่พูดอะไร

ลภทรุดตัวลงนั่งอีกครั้ง เขาพยายามจะไม่ให้การกระทำหรือความรู้สึกของเขาเป็นภาระของอีกฝ่าย ‘เมื่อก่อน’ เคยดีอย่างไร... ‘ตอนนี้’ ก็ยังมีอยู่เช่นกัน ไม่ใช่หรือ...


รักษิตนั่งเขียนรายงานอยู่บนวอร์ดจนท้องร้อง พักหลังงานทับถมจนเขาต้องเร่งปั่นบนวอร์ดให้รู้แล้วรู้รอดไม่ว่าจะเป็นเวรหรือไม่ก็ตาม แต่พอชักดึกก็ระเห็จลงมา คิดว่าจะไปอาบน้ำให้ตาสว่างแล้วเขียนต่ออีกหน่อยก่อนนอน ที่หอคงมีมาม่าอยู่บ้าง

เขาพบธีรพัทธ์ที่ใต้ตึก ทันทีที่เห็นหน้ารุ่นพี่ก็ว่า “หายยัง...”

รักษิตพยักหน้าอย่างแข็งขัน อีกฝ่ายก็ยิ้มแล้วพูดต่อ “หายแล้วก็ไปกินข้าวกัน”

เขาอาจจะทำหน้างง แต่รุ่นพี่อธิบายเป็นเหตุเป็นผลอย่างยิ่ง “มีอะไรออกไปเยอะเราก็ต้องเติมเข้าไปใหม่สิ”

รักษิตไม่ปฏิเสธเพราะหิวอยู่ไม่น้อย จะได้ไม่ต้องเบียดบังมาม่ารูมเมตและซื้อใช้คืนทีหลัง รุ่นพี่พาเขาลัดเลาะออกไปพลางว่า “ร้านข้าวต้มลุง รั้วฝั่งโน้น เคยกินหรือเปล่า”

เขาส่ายหัว “มีด้วยหรือครับ”

“น้องๆ สมัยนี้... พลาดของดี ว่าไม่ได้ ลุงเปิดแล้วแต่อารมณ์ ติสต์แตกสุดๆ" 

เจอร้านเข้าพอดี ธีรพัทธ์จึงว่า "นี่มาแล้วเจอแสดงว่าเรามีวาสนาต่อ... การได้กินข้าวต้มลุงนะ"

โต๊ะสังกะสีเอียงไปหน่อย แต่ไม่ขัดอารมณ์คนพามาซึ่งสั่งกับข้าวอย่างไม่บันยะบันยังจนรุ่นน้องเริ่มท้วง “เดี๋ยวกินไม่หมด”

“น้องนั่นแหละกินเข้าไปเยอะๆ” อีกฝ่ายกลับว่าอย่างนั้น “เรียนหนัก ผอม...”

“ตอนมัธยมผมเป็นเด็กอ้วนด้วยซ้ำ” รักษิตหัวเราะ “... ใครสั่งก็ต้องรับผิดชอบ”

รุ่นพี่ตอบโต้ด้วยการตักกับข้าวให้เขาจนพูนมองไม่เห็นข้าวต้ม แล้วบอกให้รับผิดชอบร่วมกัน

รักษิตคิดถึงเมื่อเช้า อาจารย์ถามแล้วเกือบตอบไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาน่าจะเคยรู้ อยู่ดีๆ นึกไม่ออกเสียอย่างนั้น อดเปรยออกมาไม่ได้ แต่ธีรพัทธ์กลับบอก

“เรื่องลืมเป็นเรื่องปกติ”

พอเห็นสีหน้ารุ่นน้อง ธีรพัทธ์ก็เหลือบตาขึ้นบน คิดถึงเพื่อนตัวเองที่กำลังอยู่เวรว่าจะทำหน้าอย่างไรหากได้ยินคำตอบแบบนี้ แล้วจึงแก้ “เอาใหม่ ไม่ใช่เรื่องปกติ แต่... เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้”

รุ่นน้องตักกับข้าวคืนให้เขาบ้าง ธีรพัทธ์พูดต่อ “เชื่อสิ ถ้ายังเป็นหมออยู่น้องจะลืมอีกหลายหน สำคัญที่ว่ายังไงเราต้องไม่ทำให้คนไข้เกิดอันตราย และเราต้องมีวิธีหาคำตอบ”

รักษิตฟังเขาอยู่เงียบๆ

“ตอนใช้ทุน อยู่โรงพยาบาลคนเดียว พี่เคยจำโดสยาเด็กไม่ได้”

“แล้ว... ทำไงครับ” คนฟังถามเบาๆ คิดไปว่า หากกำลังรักษาโดยมีสายตาพ่อแม่คนไข้มองมาด้วยความหวังแล้ว เป็นเขาเองคงรู้สึกกดดันไม่น้อยทีเดียว

“ก็เปิดหนังสือดูมันตรงนั้นแหละ” โรงพยาบาลชุมชนที่ธีรพัทธ์เคยไปใช้ทุนในปีที่สองนั้นเล็กมาก อินเตอร์เน็ตไม่ใช่สิ่งที่เข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย สามเดือนแรกไม่มีคนช่วย ธีรพัทธ์เคยต้องอยู่เวรทุกวันมาแล้ว วิ่งรอกดูทั้งคนไข้ในและนอก มีอะไรขึ้นมาพยาบาลตามเขาคนเดียว

พอนึกย้อนกลับไปยังอัศจรรย์ใจว่าผ่านมาได้อย่างไร

“... พ่อแม่เด็กไม่ว่าอะไรหรือครับ” รุ่นน้องถามอย่างออกจะทึ่งหน่อยๆ บางที ญาติก็คาดหวังให้หมอดำรงตนเป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลา

“เราตั้งใจจะช่วยลูกเขาน่ะ... สรุป รอด แต่เอาเป็นว่าถ้าเป็นในเมืองหรือสมัยนี้ คนไข้ ญาติคนไข้ไม่เหมือนกัน เราต้องมีวิธี ขอตัวออกไปแป๊บหนึ่ง ถามรุ่นพี่ ค้นจากฐานข้อมูล... ไม่รู้ก็ต้องไปทำให้รู้ อย่าไม่รู้แล้วดันทุรัง”

เคสของเขาที่ต่างจังหวัดนั้นพ่อแม่คนไข้เป็นชนกลุ่มน้อยด้วยซ้ำ... เพียงแต่พยายามขอบคุณที่เขาช่วยลูก กลุ่มนี้ก็เป็นอีกกลุ่มที่มักมาโรงพยาบาลด้วยอาการเพียบหนัก ธีรพัทธ์รู้ว่าหากไม่หนักหนาจริงๆ จะไม่ยอมมา ด้วยปัจจัยด้านการหาเลี้ยงชีพ การเงิน เวลา อะไรอีกหลายๆ อย่าง

“ผมรู้สึกว่าตอนนี้ญาติ คนไข้บางคนไม่ไว้ใจเรา” รุ่นน้องว่า “ไปโอพีดี หรืออยู่ที่อีอาร์ บางทีญาติเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปถ่ายคลิป ตอนทำงาน โดนไปหลายคน เราก็ไม่อยากให้เขาเอาไปลง อาจจะตีความผิด”

“สมัยก่อนไม่มีนะ ใช้เพจเจอร์ ตอนพี่เข้าปีหนึ่งโทรศัพท์ยังหน้าจอขาวดำ ที่พอถ่ายรูปได้ก็ออกมาห่วย” ธีรพัทธ์เอ่ยพลางหัวเราะ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “แต่พี่ว่า... เรากับคนไข้จะอยู่กันด้วยความระแวงไม่ได้น่ะ หมอรักษาไประแวงไป ญาติเฝ้าไประแวงไป แทนที่จะพูดกันให้รู้เรื่อง ปัญหามันเกิดเพราะอย่างนี้”

โลกที่ใช้ความตั้งใจดีเป็นเกราะคุ้มกันภัยได้คงจะเป็นโลกที่สวยงาม แต่โลกในความเป็นจริงบางทีก็ไม่ใช่เช่นนั้น

รุ่นน้องว่า “สาธุ...”

ธีรพัทธ์ขำ ถึงจะรู้ว่าหมายถึงเห็นด้วย แต่นักศึกษาแพทย์ปีห้าหน้ายังเด็กมาพูดแบบนี้เขาก็ขำอยู่ดี ท่าทางโตมากับคนแก่ เหมือนตอนไปเจอกันที่อยุธยา เพื่อนของรักษิตเล่าให้ฟังว่าแม่เจ้าตัวมีลูกตอนอายุไม่น้อยแล้ว

“น้องครับ...” ธีรพัทธ์ลากเสียงจนรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงข้ามอดหัวเราะตามไม่ได้ “พี่ยังเป็นคนนะไม่ใช่พระปิดทองมาจากไหน... ที่ยังไม่เม้งแข่งกับญาตินี่ก็พยายามคิดว่าเขาทุกข์ มีปัญหา ถึงได้มา”

รักษิตพยักหน้า คนเราแสดงออกซึ่งความทุกข์ใจ ความเป็นห่วงไม่เหมือนกัน เขาคิดว่าตัวเองคงต้องเพิ่มความอดทนอีกไม่น้อย แต่เป็นหมอไม่ได้รักษาร่างกายอย่างเดียว การเยียวยาจิตใจบ้างก็ไม่ใช่แค่หน้าที่ของจิตแพทย์ รักษิตยังจำได้ถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เขาได้อ่านตั้งแต่ปีต้นๆ ที่ระบุว่าการอธิบาย ให้ความมั่นใจแก่คนไข้นั้น ช่วยลดทอนความเจ็บปวดทางร่างกายได้ดีกว่าการให้ยาชาโดยปราศจากการพูดคุยเสียอีก

บางที หมอก็มีความสามารถทำอะไรได้ถึงขนาดนั้นในการช่วยเหลือคนไข้... น่าเสียดายที่โลกสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยการเร่งรีบ แข่งขัน ความสัมพันธ์ที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเชิงธุรกิจ มีผู้ให้บริการ มีลูกค้า... ทำให้อาจจะหลงลืมแง่มุมเช่นนั้นไป


ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #97 เมื่อ10-12-2014 05:46:06 »

บทที่ 8 (ต่อ)

หลังข้าวต้มมื้อดึก รักษิตก็คิดว่าตัวเองควรจะรีบอาบน้ำนอนแล้วตื่นมาก่อนเวลาขึ้นวอร์ดเพื่อปั่นรายงานต่อจะดีกว่า เขาเตรียมตัวแยกกับธีรพัทธ์ที่ใต้หอ ไม่ลืมขอบคุณอีกหลายครั้ง ก็พอดีเจอศิวัชเดินมากำลังจะขึ้นตึก

ศิวัชแทบจะล็อกคอเขา ค่าที่เจอกันยากเย็นพักนี้ เอาเข้าจริงหลังเหตุการณ์อาหารเป็นพิษหฤโหดนั่นก็แทบไม่ได้เจอกันเลยรวมทั้งเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนด้วย เพียงแต่รับรู้ว่ายังอยู่กันดีผ่านกรุ๊ปในไลน์เท่านั้น

เพื่อนไม่ลืมทักทายรุ่นพี่ ที่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เดินกลับหอตัวเอง ศิวัชจึงเปิดฉากเจรจาตรงนั้นและเริ่มเรื่องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ษิต ถือว่าเพื่อนขอร้องนะ”

“หือ?” รักษิตยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

“งานอำลาซีเนียร์ เล่นกีตาร์หน่อยนะ”

“เอาเวลาที่ไหนซ้อมอีกไม่กี่วัน” คนถูกขอร้องตอบ “ไม่ได้เล่นนานแล้วด้วย”

ธีรพัทธ์ที่ยืนฟังอยู่เพิ่งรู้ว่ารุ่นน้องในสายมีความสามารถพิเศษเพิ่มมาอีกอย่าง อดนึกไม่ได้ว่าถ้าเล่นเป็น อย่างรุ่นน้องถ้าไม่เล่นอีก... น่าเสียดาย

“ถือว่าเพื่อนขอร้อง” ศิวัชกลับไปประเด็นเดิม “แทนน้องรหัส... อยากร้องเพลงนี้ลาซีเนียร์ เอ้านี่ ส่งคอร์ดมาเสร็จสรรพ ดูให้น้องมันหน่อยน่ะ”

รักษิตก้มลงดูตามเพื่อนบอก น้องผู้หญิง สายรหัสปีสี่ของศิวัชคนนี้เขาก็รู้จัก ดูอยู่ครู่จึงว่า “คุ้นๆ นะ... แต่ไม่แน่ใจจะหัดทันไหม”

“เห็นใจน้องมันน่า” ศิวัชว่า “มีลิงค์ให้ไปฟังด้วย เพราะดีนา หูดีๆ ฝีมือเทพๆ ยังงี้ เดี๋ยวก็เล่นได้ ไม่ยากหรอก”

รักษิตมองคนไม่ได้เล่น ซึ่งพูดว่าไม่ยากเต็มปากเต็มคำแล้วถอนใจ “มีอะไรอยากบอก บอกพี่เขาตรงๆ ไม่ได้หรือ”

ธีรพัทธ์เกือบขำอีกแต่พยายามทำหน้านิ่งไว้ ศิวัชว้ากเพื่อนเสียทันที “เอ๊ะ! ไม่เข้าใจจิตใจน้องมันมั่งเลย ไม่เคยชอบใครรักใคร แล้วเกิดไม่เข้าใจกัน เหลือแค่โอกาสสุดท้ายก่อนไม่ได้เจอกันอีกนานบ้างเรอะ”

รักษิตมองเพื่อนอย่างอึ้งหน่อยๆ ศิวัชสรุปท้อแท้ “เออ... ไม่เคย”

“พี่ไม่เห็นรู้เลยว่าน้องเล่นกีตาร์เป็นด้วย” ธีรพัทธ์ได้จังหวะพูดขึ้น ตอนเจอกันครั้งแรกคราวที่ออกเวชศาสตร์ชุมชน พอมีเวลาชุมนุมกัน คนอื่นในชั้นปีคว้าเอากีตาร์ไปเล่น รักษิตก็เพียงแต่นั่งฟังเท่านั้น

ศิวัชรีบขยายความ “พี่... ตอนปีหนึ่งษิตมันอยู่ชมรมดนตรีสากลของมหาวิทยาลัยเทอมหนึ่งเล่นไม่รู้กี่งาน พอปีสอง เลิก...”

“ไม่มีอะไร... เรียนหนักขึ้นเลยห่างๆ ไป ห่างแล้วก็ไม่ค่อยได้จับอีก” เพื่อนว่าเรื่อยๆ “เอ้า บอกซึ่งหน้าไม่ได้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวลองเล่นดู บอกน้องเขาด้วยพี่จะพยายาม พากันไปล่มบนเวทีห้ามโกรธกัน...”

“ระดับนี้แล้วไม่ล่มหรอก” ศิวัชมั่นอกมั่นใจ “ขอบใจหลาย สงสารน้องมัน เดี๋ยวบอกก่อน คงดีใจน่าดู”

ธีรพัทธ์โบกมือลารุ่นน้องทั้งสองคน เขาอาจคิดโยงไปเอง แต่รักษิตน่าจะมีเหตุผลอื่นในการวางกีตาร์ ตอนปีสองอย่างนั้นหรือ...
ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็รู้สึกดีใจที่รุ่นน้องยังกลับมาเล่นอีกครั้ง


หลายวันต่อมารักษิตกำลังกินข้าวอย่างทำเวลาอยู่ในโรงอาหารกับญาดาผู้เดินเจอกันโดยบังเอิญตอนที่เกตุวดีกับอนันต์เดินเข้ามาพอดี ญาดารีบเรียกทั้งคู่ ท่าทางดีอกดีใจเพราะพออยู่ในวอร์ดที่ยุ่งหนักๆ แค่เผอิญเจอกันกับเพื่อนตามทางเดินก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว

ระหว่างที่อนันต์ไปซื้อข้าว และรับอาสาจะซื้อมาเผื่อเกตุวดีด้วยนั้น ญาดาก็ว่า “ช่วงนี้ชีวิตเวียร์สุด... พี่ดุอาจารย์ดุโอ๊ย”

‘เวียร์’ ย่อมาจากภาษาอังกฤษคือซีเวียร์ หมายถึงอาการหนักหรือรุนแรง ซึ่งหมู่แพทย์ยังใช้กันอย่างทั่วไปในศัพท์ประจำวันถ้าประสบปัญหามรสุมกระหน่ำหนักหน่วง

“หมอเด็กใจดีแต่กับเด็กนั่นแหละ” ญาดายังพูด “ทุกอย่างต้องเป๊ะ! ก่อนลงมานี่เลย พี่เดนท์ถาม พอนิ้งตอบ นางทำหน้านิ่งแล้วบอกว่า ‘น้องอยู่นิวบอร์น ก็ตอบเหมือนนิวบอร์นดีเนอะ’ โอยตาย... นางด่าว่าสมองฉันเท่าเด็กแรกเกิดจ้ะ นี่หน้าม้านถึงหลัง”

เกตุวดีกับรักษิตได้แต่ปลอบไปตามเรื่องตามราว เพราะอีกไม่นานก็จะลงวอร์ดกันแล้ว ส่วนตัวเกตุวดีเองนั้นไปนิติเวช เลคเชอร์เก้าโมง เป็นที่อิจฉาของมนุษย์ผู้ต้องตื่นมาราวนด์เช้าทั้งหลาย

“พอไปเมดขอให้นิ้งเจอพี่ดีๆ น่ารักๆ ด้วยเถอะ...” ญาดาภาวนา “เมดหนักอยู่แล้วพี่ดุอีกนี่ตายเลย”

“พี่พัทธ์ไงใจดี” รักษิตพูดโดยอัตโนมัติ และยังคิดว่าเพื่อนคงเห็นด้วยเพราะเคยเจอกันแล้ว

ญาดาทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะว่า “เออ พูดถึง... ได้ยินจากวอร์ดษิต แก๊งยายเง็กกลัวตอนประเมินกันจัง คิดว่าหวั่นตามหัวหน้าแก๊ง แต่ก็แปลกเพราะพี่พัทธ์ไม่น่าลำเอียง ไม่งั้นอาจารย์ไม่ให้ช่วยตลอดหรอก...”

“พี่พัทธ์จะลำเอียงเรื่องอะไร” เกตุวดีว่า “อีกอย่างเขาไม่ใช่คนประเมินคนเดียว แก๊งนั้นมากลัวเรื่องนี้ แทนที่จะกลัวเรื่องเขียนรายงานคนไข้เนี่ยนะ”

“นั่นน่ะสิ นิ้งได้ยินยังแปลกใจ”

รักษิตกำลังจะพูดว่าเขาเห็นด้วยกับเกตุวดี ก็พอดีอนันต์ซึ่งนั่งจ้วงข้าวเงียบๆ อยู่พักหนึ่งเกิดสำลักกะทันหัน รักษิตรีบเลื่อนน้ำให้ พอเริ่มจะดีขึ้นญาดาจึงว่า

“เอ้อ้วน! รู้อะไรแล้วไม่เล่า... เห็นเงียบๆ ข่าวเพียบนะยะ”

สองคนที่เหลือในโต๊ะหันไปมองอย่างประหลาดใจ แต่การณ์กลายเป็นว่าญาดานั้นเดาถูก พอถูกคะยั้นคะยอหนักเข้าอนันต์จึงได้อุบอิบว่า “นี... น่าว่าษิตไปสนิทกับ... ชิฟ คือพี่พัทธ์เขาอาจจะอยากให้ษิตเป็นพ่อสื่อ ก็เลยเลี้ยงข้าว อะไรอย่างนี้ เลยกลัวจะเอียง...”

“บ้าไปใหญ่” ญาดาพูดทันที “พี่พัทธ์เขาเป็นชิฟเดนท์ เขาก็เลี้ยงรุ่นน้องตามธรรมเนียม ยิ่งษิตเป็นน้องในสายด้วย น้องคนอื่นเขาก็เลี้ยง ไม่มาคิดอะไรกับเด็กๆ อย่างพวกเราหรอก”

ส่วนเกตุวดีพูดแค่ "โธ่เอ๊ย"

รักษิตถือช้อนค้าง ลืมหิวไปชั่วขณะ ที่ธีรพัทธ์จะชอบเพื่อนผู้หญิงคนใดคนหนึ่งในกลุ่มของเขานั้นคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเจอกันอยู่ไม่กี่หน แถมตอนเจอเขาไม่ว่าในวอร์ดหรือที่อื่นก็ไม่เห็นให้ช่วยเรื่องนี้สักนิด แต่จะแก้ความเข้าใจผิดเรื่องรุ่นพี่ ‘เอียง’ อย่างไรดี ธีรพัทธ์เป็นกันเองกับเขา แต่ก็สอนคนอื่นอย่างสนิทสนมเช่นเดียวกัน ที่ญาดาว่าเลี้ยงน้องคนอื่นด้วยก็จริง เป็นพี่ที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด

ได้แต่คิดว่าคนอื่นในวอร์ดนอกจากเพื่อนกลุ่มทัศนีย์เองสองสามคนแล้ว ไม่น่ามีใครเชื่อไปด้วย

“ยายเง็กหล่อนหวงคะแนนน่ะซี นึกว่าพี่เขาสนิทกับใคร จะประเมินให้สูง” ญาดายังว่า “ทำไมคณะไม่เปลี่ยนคนที่เวียนด้วยกันเป็นรอบไป... เฮ้อ นี่ยังอยู่สายเดียวกับษิตอีกนาน”

รักษิตยังไม่กังวลเรื่องนั้นมากเท่าสิ่งที่อาจจะมีผู้เข้าใจธีรพัทธ์ผิดๆ แต่เขาก็ไม่เจอทัศนีย์อีก ได้ข่าวว่าลาครึ่งวัน พอถึงตอนเย็นทั้งๆ ที่เคยบอกน้องรหัสของศิวัชว่าจะซ้อมกันสักเที่ยวสองเที่ยวก่อนก็ต่างคนต่างยุ่ง ลงจากตึกได้เขารีบกลับหอไปเอากีตาร์ ปะกับรุ่นน้องที่ดูออกจะเครียดและประหม่าจึงได้แต่บอกให้ทำใจให้สบายๆ ถ้าจะใช้เสียงเพลงเป็นสื่อก็ต้องปล่อยไปตามนั้น ตัวเขาเองมีเวลาแค่ถอดเสื้อกาวน์ยัดลวกๆ ไว้ในกระเป๋าแล้วขึ้นเวทีเลย

รักษิตตั้งสาย ความคุ้นชินเริ่มหลั่งไหลมาสู่มือและนิ้วอีกครั้ง... งานจัดในห้องประชุมชั้นล่างห่างจากตึกคนไข้ในเพื่อไม่ให้อึกทึกรบกวน เป็นส่วนสำหรับจัดงานต่างๆ อยู่แล้ว ประตูเปิดแง้มไว้เล็กน้อยติดต่อกับบริเวณที่จัดอาหารไว้ภายนอก ประดับไฟสีงดงาม
เขามองรุ่นน้องที่ยืนอยู่หน้าไมโครโฟน พยักหน้าให้

ขอให้เสียงเพลงและความหมายไปถึงคนที่น้องอยากบอก เขาจะตั้งใจสนับสนุนด้วยท่วงทำนอง... อำลารุ่นพี่ ที่อีกไม่นานก็จะต้องออกไปจากรั้วโรงเรียนแพทย์ แยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ เหลือไว้แต่ความทรงจำเท่านั้น


เสียงเพลงแว่วมาเบาๆ ล่องลอยถึงหน้าตึกศัลยกรรม เพียงแค่ปิดประตูก็คงไม่ได้ยินอะไรอีก พิธานหยุดยืนนิ่ง เสียงกีตาร์กังวานเข้ากันดีกับเสียงคนร้อง หวานใสเจือเศร้า

… There’s a rumour I don’t love you anymore
and there’s a rumour that I finally closed the door…


เขาเงยหน้าขึ้น สบตาเข้ากับคนที่เพิ่งก้าวออกจากตึกศัลยกรรม อีกฝ่ายก็หยุดชะงักไปเช่นกัน

Reality’s so far away from all the rumours that I don’t love you anymore…


ภายในงานการแสดงยังดำเนินต่อไป จนแพทย์ประจำบ้านที่เพิ่งจะปลีกตัวได้และเข้ามาอย่างเงียบเชียบไม่เป็นจุดสนใจ

“อ้าว พัทธ์ นึกว่าจะไม่มา” เพื่อนเรสิเดนท์อายุกรรมปีเดียวกับเขาทักขึ้น พลางขยับเก้าอี้ว่างให้นั่ง

“ไม่มาได้ไง เอ็กซ์เทิร์นรู้จักแทบหมดทุกคนขนาดนี้” เพื่อนอีกคนเย้าขึ้น

“มากินข้าว” ธีรพัทธ์ตอบยิ้มๆ

“มากินข้าวหรือมาดูนักร้อง”

“ดูทำไมนักร้อง” หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านว่า “เงียบๆ จะฟังเพลง”

… My hearts breaking but I’ll never show it
When everybody sees me I look pretty happy
And when I lay down and close my eyes
You’ll always be right here with me…


“น้องที่ร้องน่ารักดี” เพื่อนร่วมโต๊ะยังกระซิบกระซาบไม่เลิก “ร้องให้ใครไม่รู้... พัทธ์มันตั้งใจฟังเชียว”

“น้องปีสี่กับพี่เดนท์ก็เป็นคู่ที่คิวท์ดีนาเว้ย”

ธีรพัทธ์บอกให้เพื่อนเงียบอีก ก่อนจะว่า “ก็บอกว่าไม่ได้ชอบนักร้อง... ชอบเสียงกีตาร์”


There’s a rumour that I found somebody else…

“ผ่าตัดเรียบร้อยดี...” ลภเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน “พรุ่งนี้ธานไปคุยอีกที คนไข้คงสบายใจขึ้น”

พิธานรู้อยู่แล้ว ถ้าเป็นเรื่องผ่าตัด การรักษา... เขาฝากไว้กับคนคนนี้ได้ ฝากไว้อย่างวางใจ และไม่สงสัยเลยจนนิดเดียว

“ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยตอบเบาๆ

แต่ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าไม่มีใครอยากอภิปรายรายละเอียดเรื่องการผ่าตัดในตอนนี้ เงียบกันไปครู่ลภจึงเหลียวไปทางงาน ยิ้มนิดหนึ่งบอกว่า “คิดถึงงานอำลาซีเนียร์เมื่อก่อน”

เมื่อก่อน... ก่อนที่พิธานจะออกไปใช้ทุน และยังมีเส้นทางเดินของชีวิตร่วมกัน

ต่างคนต่างเงียบกันไปอีก พลุสว่างวาบขึ้นจากที่ไกลๆ ลภเงยหน้ามอง รอยยิ้มนิดๆ ยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก และพิธานก็มองรอยยิ้มนั้น

... ถึงคนจะไม่ใช่ของเขาอีกแล้ว แต่ความทรงจำยังเป็นของเขา

“เมื่อก่อน จำได้ไหม ตอนที่...” แต่แล้วคนพูดก็กลับเงียบไปเสียเอง แววตาปรากฎรอยร้าวขึ้นวูบ

พิธานพูดเรียบๆ ใครจะรู้ว่าเขากำลังบอกตัวเองอยู่เช่นกัน "ผมคิดว่า... ความทรงจำที่ดีไม่ควรทำให้เป็นทุกข์"

"ตรงกันข้าม...” อีกฝ่ายบอก “ยิ่งดี ยิ่งสวยงาม ก็จะยิ่งเสียดาย พอเสียดาย ก็เกิดทุกข์ บางทีเสียดายในสิ่งที่ทำ บางที... เสียดายในสิ่งที่ไม่ได้ทำ”

ลภพยายามคิดว่าเส้นทางนั้นผิดที่ใด ต้นรัก... แม้ปลูกไว้ไกลตาแต่ยังใกล้หัวใจ แค่ได้รู้ว่ามีอยู่ก็ดีพอแล้ว ไม่ใช่ว่าคนตรงหน้าเขาคิดเหมือนกันหรอกหรือ

เสียงเพลงยังล่องลอยมาถึง ใกล้จบเต็มทีแล้ว

… Like you’d never let me go...

“พี่ไม่อยากให้ทุกอย่างเหลือแค่ความทรงจำ ในเมื่อเรายังอยู่ที่นี่ ตรงนี้ ทั้งคู่ มันไม่ควรเป็นแค่ความทรงจำ” เสียงบอกนั้นหนักแน่นนัก “เรา... ยังมีเวลา...”

“ไม่ถึงสองปี” พิธานเอ่ยเสียงเบา

... พอเรียนจบ ลภก็ยังคงมีภาระงานที่บริษัทใหญ่โตนั้นเหมือนเดิม และเขาก็ต้องกลับไปใช้ทุนเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

“พี่ก็คงมีเวลาแค่นั้น” อีกฝ่ายตอบเสียงเบาพอกัน ดุจรับรู้ ที่ว่ามีเวลานั้นไม่ใช่นานนัก

แม้เส้นทางที่ผ่านมาจะเคี้ยวคดไปบ้าง หากลภแน่ใจ... หัวใจของเขายังตรง ไม่เคยลดเลี้ยวไปไหนเลย

... Forget the rumours that I don’t love you anymore…


ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 10] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #98 เมื่อ10-12-2014 06:02:43 »

คุณ B52 จริงค่ะ ฝากอ่านตอนใหม่ด้วยน้า

คุณ warin ขอบคุณที่อ่านค่ะ ลุ้นต่อน้า จริงๆ ก็ไปแบบช้าๆ ทั้งคู่ล่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้พี่ลภค่ะ (ยังต้องการอีกมากค่ะ 55)

คุณ malula คือมันมีหลายอย่างมากระหว่างสองคนนี้ แล้วก็ยังไม่สามารถเคลียร์กันไปได้ด้วย แต่หลังจากบทนี้จะได้รู้เพิ่มขึ้นอีกนะคะ พัทธ์ษิตนี่ก็เรื่อยๆ กันแบบนี้ล่ะค่ะ 55

คุณภาณุเมศพลัง มาค่ะ งั้นน่าจะชอบบทนี้นะ อิอิ พิธานเป็นคนใจแข็งมากจริง แต่ด้วยลักษณะนิสัยบวก... อะไรที่เคยโดนๆ มา ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจค่ะ

คุณ titansyui ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ BeeRY อย่าลืมอ่านตอนนี้น้า อิอิ

คุณ iforgive อาจจะ... ได้แต่ฝากให้อ่านต่อไปนะคะ

คุณ pim_onelove ขอบคุณมากๆ ที่อ่านค่ะ แล้วคนเขียนก็เว้นช่วงไปเสียนาน ยังไงก็ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณที่รอนะ

คุณ sweetbasil นี่ต้องถามว่า เข้าใจกันผิดเรื่องอะไรบ้างน่ะ (มีหลายเรื่องเรอะ)

คุณ fonny1987 ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า เบื้องหลังมีแน่ๆๆ

คุณ Nemasis มาแล้วน้า ฝากด้วยน้า ช้าตลอดเลย T_T

คุณ pim-lovemj ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณที่รอนะ มาเลยค่ะน้องษิต fc

คุณ Sillyfoolstupid งานเยอะเหมือนกันค่ะ งานนั่นก็ความรับผิดชอบ นิยายนี่ก็ความรับผิดชอบเหมือนกันค่ะ เหอ พยายามเขียนต่อไป รักษิตนี่ fc เยอะนะนี่

คุณ Millet ขอบคุณที่มาอ่านเรื่องนี้ด้วยค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้วค่ะ... ขออภัยรอบทิศ กะว่าจะมาได้ปลายตุลาแล้วก็ล่าช้ามานี่ นอกจากงานแล้วยังมีปัญหาข้อมือ (ไม่ใช่ด้วยวัยนะ อิอิ) แต่หมอออร์โธเรานี่คงวัยราวเดียวกับอาจารย์กอบ...

นี่ทุกคนก็ดูมีพัฒนาการไปในทางดีนะ (หรือเปล่า) ได้แต่ฝากให้อ่านต่อด้วยค่า ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆๆ เช่นเคยนะคะ
  :กอด1:

ป.ล. ลิงค์แมวเฟลิกซ์น้า เผื่อนึกไม่ออก http://pawesomecats.com/wp-content/uploads/2013/10/Felix-the-cat.jpg
แล้วนี่เพลงฉบับเต็มของ August Empire ชื่อ There's a rumour ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=P9wXcIkuuXg เพรานะ ช้อบชอบ

ออฟไลน์ ปุยหมาม่วง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-7
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #99 เมื่อ10-12-2014 09:57:42 »







ขอถามหน่อยนะคะ

ผลงานของคุณเดหลีตอนนี้มี
สมาคมขนสั้น บริษัทบำบัดโสด รอยรักจำหลักใจ แล้วก็เรื่องนี้ ถูกต้องมั้ยคะ

มีเรื่องอื่นอีกมั้ย พอดีชอบผลงานของคุณเดหลีมากกก มีเรื่องไหนพลาดไปมั้ย

แล้วก็ คุณเดหลีมีแฟนเพจให้ติดตามมั้ยคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
« ตอบ #99 เมื่อ: 10-12-2014 09:57:42 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #100 เมื่อ10-12-2014 09:58:09 »

คู่ของรักษิตดูเห็นหนทางสว่างไสวกว่าอีกคู่มากเลย
รอติดตามกันต่อไป

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #101 เมื่อ10-12-2014 10:24:46 »

หายไปนานเลย ดีใจค่ะได้อ่านตอนใหม่แล้ว ถึงมันจะหน่วงกับคู่นั้นเหมือนเดิมก็เถอะ สนุกดี

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #102 เมื่อ10-12-2014 13:26:45 »

อ่านครั้งแรกค่ะ... ชอบนะ คนเขียนเขียนได้ดี
น้องษิต อยากให้ตัวเองกับแม่เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ของพี่ลภ เข้าใจว่าคงจะรักอย่างพี่ชายเลยล่ะ แต่ดูเหมือนแม่น้องษิตจะไม่คิดอย่างงั้นนะ รู้สึกเหมือนพี่ลภเป็นคนรับใช้อ่ะ คือมันดูเป็นการบังคับจิตใจกันมากไป อะไรที่ไม่ชอบก็ยังต้องทำ
ส่วนพี่ลภนี่ก็ยังคลุมเครือว่าเรื่องราวเป็นยังไง แต่ทำเหมือนตัวเองเป็นหนี้ชีวิต(หรืออะไรซักอย่าง)ที่ต้องชดใช้ให้ครอบครัวนี้อ่ะ
เป็นอารมณ์แบบชีวิตนี้จะไม่มีอิสระแล้วใช่มั้ย จะทำอะไรก็ต้องขอ'แม่น้องษิต' คือชีวิตนี้ไม่ได้เป็นของตัวเองเหรอ
เราแอบรู้สึกหม่นๆและหน่วงในใจพอสมควรกับการกระทำของพี่ลภ แต่เข้าใจว่าจะต้องมีสาเหตุแน่ ซึ่งรอให้เปิดเผยอยู่
เป็นอะไรที่บีบคั้นจิตใจนะเวลาอ่านตอนของพี่ลภ มันดูเศร้าๆ กับตอนที่ษิตอยู่กับแม่หรือนึกถึงคนที่บ้านอะไรอย่างงี้อ่ะ บางทีก็นึกๆไปว่าผู้หญิงคนนี้สามารถทำให้คนที่อยู่ด้วยรู้สึกเหมือนถูกบังคับ(ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้)ตลอดเวลา ซึ่งมันไม่ควรจะใช้สำหรับคำว่า'บ้าน'เลยอ่ะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #103 เมื่อ10-12-2014 16:07:26 »

เมื่อก่อนก็คิดว่าเป็นหมอนี่ก็ดี เงินดี ฐานะทางสังคมก็ดี พ่อแม่สมัยนี้ก็อยากให้ลูกเป็นหมอ
แต่พอโตมากลับรู้สึกต่างออกไป สิ่งเหล่านั้นที่เราคิดว่าดี มันต้องแลกกับอะไรตั้งหลายอย่าง ที่สำคัญที่สุดคือ เวลา :mew5:
ตอนที่พูดถึงหมอพิธานกับหมอลภมันเศร้าจริงๆ แม้จะยังไม่รู้เรื่องในอดีตมากนัก (ก็คนเขียนยังอุบไว้นี่นา :katai1:)
แต่นิยายคุณเดหลีมีแต่รอยยิ้มนะ เราเชื่อว่าสุดท้ายมันต้องจบลงด้วยดีแน่นอน :กอด1:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #104 เมื่อ10-12-2014 17:24:50 »

เป็นเรื่องที่ละเมียดละไมจริงๆ
แต่ความอึมครึมยังอยู่

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #105 เมื่อ10-12-2014 19:07:18 »

เพิ่ฃมาอ่านครั้งแรก คิดไม่ผิดเลยค่ะที่กดอ่าน ภาษาบรรยายตัวละครละเมียดดีมากๆ หลงรักหมอษิตที่สุดเลย หมอพัทธ์ก็ใจดีมาก หรือใจดีกับน้องรักเป็นพิเศษ ส่วนคู่ลภพินี่หน่วงจริงๆ สรุป ชอบมากๆ ค่ะ จะรอตอนต่อไปนะคะคุณหมอ 5555

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #106 เมื่อ10-12-2014 21:42:33 »

อ่านเรื่องนี้ แล้วศรัทธาอาชีพ หมอ มากขึ้นเลยค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #107 เมื่อ10-12-2014 23:51:57 »

 :katai2-1: เค้ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับบรรยากาศมุ้งมิังระกว่างพี่พัทธ์และน้องรักษิต.
รอติดตามเสมอค่า คนเขียนก้อห้ามทิ้งกันน้าาาาา

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #108 เมื่อ11-12-2014 00:22:04 »

 :m3: บรรดาหมอๆน่ารักอ๊าาาาา อ่านแล้วแอบหลงปลื้มหมอเบาๆ
หุหุ เข้ามาอ่านครั้งแรกจ้าคนแต่งจ๋า สู้ๆนะคร๊า  :กอด1:

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #109 เมื่อ11-12-2014 10:03:57 »

คุณเดหลีหายไปน๊านนานนน....ตอนที่เห็นเรื่องนี้มีอัพเดท นึกว่าตาฝาด หวังว่าสุขภาพร่างกายจะดีขึ้นแล้วนะคะ

คู่พัทธ์ษิต  feel good มากค่ะ พัทธ์นี่จะหลุดปากจีบเด็กเรื่อยเลย ต่อให้หลุดปากจริง น้องษิตก็คงงงๆ ไม่ค่อยเก็ต ดังนั้นพัทธ์ค่อยๆเล็มไปนะคะเพราะว่า “น้องปีห้ากับพี่เดนท์ก็เป็นคู่ที่คิวท์ดีนาเว้ย”

เพลงนี่เพลงประจำตัวคู่พี่ลภพิธานใช่ไหมคะ555 ตีหน้าขรึมว่าไม่รักไม่แคร์ ทั้งที่อดแคร์เขาไม่ได้ อีกใจก็กลัวว่าสุดท้ายทุกอย่างจะซ้ำรอยเดิม เลยได้แต่ปลุกปลอบให้ตัวเองใจแข็งไว้ แต่พี่ลภเป็นคนชัดเจน หวังว่าคงทำให้ทิฐิของพิธานค่อยๆละลายได้ในที่สุดนะคะ

ขอบคุณคุณเดหลีและจะติดตามตอนต่อไปค่ะ 
ปล.แอบเห็นด้วยกับคห.บนๆว่าคุณเดหลีน่าจะมีแฟนเพจนะคะ  เหล่าแม่ยกจะได้ไปตามทวง เอ้ย ตามไปกดไลค์ติดตามผลงานกันได้ใกล้ชิดขึ้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
« ตอบ #109 เมื่อ: 11-12-2014 10:03:57 »





ออฟไลน์ Once

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #110 เมื่อ11-12-2014 18:05:26 »

ชอบมาก มาต่อบ่อยๆนะครับ

ออฟไลน์ Nemasis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #111 เมื่อ12-12-2014 03:11:00 »

คชหมอพิธานกับหมอลภยับทำให้เราหม่นหมอง อุมครึม ไปอีก เวลาอ่านถึงตอนของคู่นี้เหมือนมีหมอกลงเลย

ปอลอ ดีใจได้อ่านต่อแล้วนึกว่าตาฝาด ฮี่ๆ

ออฟไลน์ pim_onelove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #112 เมื่อ14-12-2014 10:56:54 »

เหล่าคุณหมอกลับมาแล้ววววววว ฮิ้ววววววววววววว

คู่หนึ่งก็เริ่มฟินมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอีกคู่ก็ยังอึมครึมไม่หายช่างแตกต่างกันจริงๆ เหอๆ


ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #113 เมื่อ14-12-2014 23:39:25 »

ดีจังเลยหมอพัทธ์สนใจน้องษิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนน้องก็ห่วงพี่เช่นกันสินะ
หมอลภกับหมอพิธานนี่คิดจะมีความสุขกันไหม ดาร์กเหลือเกิน

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #114 เมื่อ27-01-2015 10:09:17 »

หายไปจากเล้าเกือบ 2 ปีค่ะ กลับมานี่งงๆ เลย
เลื่อนๆ หาเรื่องที่น่าอ่าน สะดุดที่ชื่อ 'เดหลี'
รีบกดเข้ามาโดยไม่คิดเลยค่ะ

และที่ดีใจกว่านั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของ 'หมอ'

เราค่อนข้างฝังใจกับเรื่องแนวหมอ เพราะส่วนใหญ่ที่เจอ
จะพายเรือออกจากฝั่งไปซักพัก แล้วก็จมน้ำกลางทางทุกที
เสียใจ แต่ก็ยังชอบแนวนี้อยู่

เราวางใจเรื่องภาษา เพราะไม่วางจะกี่เรื่องภาษาของคุณเดหลีสวยตลอด
อ่านรื่นไม่มีสะดุด แล้วยังรู้สึกอินเหมือนกับไปขึ้นวอร์ดด้วยกันอีก

คือรู้สึกว่าพี่ลภดูเป็นผู้ใหญ่ ดูอบอุ่น แต่เหมือนเรื่องจะมืดมนนิดๆ
อ่านไปอ่านมา กลับปลื้มพี่พัทธ์ แอบเชียร์พี่พัทธ์กับน้องษิตน๊าาา~


คิคิ คุณเดหลีมาต่อไวๆ นะคะ ปักหมุด ปูเสื่อนั่งรอตอนต่อไปอย่าใจจดใจจ่อค่ะ

 :katai2-1:

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #115 เมื่อ12-02-2015 21:01:06 »

สวัสดีค่ะ เดหลีเองค่ะ เขียนตอนใหม่อยู่ เหลืออีกหน่อย คงได้ลงในเร็วๆ นี้ (ช้าจริงๆ แต่ช่วงนี้จำเป็นเลยค่ะ มีหลายเรื่องต้องจัดการ แต่ก็ไม่ได้จะทิ้งนะ) พอดีเข้ามาบอร์ดก็ตกใจเพราะว่าล็อกอินเข้ามาไม่ได้แล้ว ขึ้นว่าไม่พบชื่อผู้ใช้งานนี้ค่ะ นี่ก็สมัครเข้ามาใหม่ ใช้ชื่อเดิม แต่ไปทำอะไรกับกระทู้ที่เคยตั้งไม่ได้แล้วค่ะ T_T เสียดายเป็ดที่คนอ่านเคยบวกให้จัง

ไปดูกระทู้ของโม พบว่าจะลบยูสที่ไม่ล็อกอินนานเกินสามเดือน (แต่เรายังไม่ถึงนะ...) ก็เลยพีเอ็มหาผู้ดูแลบอร์ดไปค่ะ ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะก็คงใช้ยูสใหม่นี้ต่อนิยายที่กระทู้เดิมได้แหละ แต่ว่าจะเปลี่ยนหัวข้อที่เคยตั้งไม่ได้ คนอ่านก็จะไม่รู้ว่าเราอัพเดตตอนใหม่แล้วนี่สิ ถ้าดูแต่หัวข้อ นานไปๆ เกินหกเดือนก็อาจจะดูเป็นไม่มาต่อนานได้ เสี่ยงกระทู้ถูกย้ายอีก ตอนนี้ก็รอผู้ดูแลท่านตอบมาอยู่ค่ะ

ก็เลยมาแจ้งก่อนให้คนอ่านทราบว่า คนเขียนไม่ได้ลบยูสเองแล้วหนีหายไปนะคะ T^T ยังเขียนอยู่แต่ว่าคงมาลงช้าน่ะค่ะ (แต่ก็ยังไม่เกินสามเดือนถึงขนาดบอร์ดต้องลบยูสเค้าน้า...)

รักและคิดถึงคนอ่านทุกคนนะคะ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #116 เมื่อ12-02-2015 22:38:25 »

ขอบคุณที่มาส่งข่าวนะคะ

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #117 เมื่อ13-02-2015 08:27:54 »

ฮืออออ ดีใจจังค่ะ

นึกว่าคุณเดหลีจะไม่กลับมาต่อแล้ว T^T


ขอบคุณที่มาแจ้งข่าวค่ะ

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #118 เมื่อ13-02-2015 10:44:44 »

วิธีแก้ ก็มีอยู่นะคะ ถ้าไม่ได้ยูสเก่าคืน

คือตั้งกระทู้ ใหม่เลย 1กระทู้ แล้วขอให้โมช่วยเอา อันเก่า ไปรวม(ต่อจากกระทู้อันใหม่ซึ่งจะแก้ไขหัวข้อได้ปกติ)

กระทู้และข้อความทั้งหมดในนิยายก็จะคงอยู่  เปลี่ยนหัวข้อได้

แต่ข้อเสียก็คือ...... เดาเอาว่า หมายเลขกระทู้ (ลิ้งค์) อาจจะเปลี่ยนไปด้วย ไม่ดีสำหรับคนที่เซพนิยายเป็นลิ้งค์ไว้อ่าน

ยังไงต้องถามแอดมินและโมอีกทีนะคะว่าทำแบบนี้ได้ไหม

ออฟไลน์ pim_onelove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: ฝากไว้ในมือเธอ [บทที่ 8] 10 ธ.ค. 57
«ตอบ #119 เมื่อ13-02-2015 13:04:43 »

เข้ามาให้กำลังใจคุณเดหลีค่ะ

ดีใจที่กำลังจะได้อ่านตอนใหม่แล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆๆ  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด