<< OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>  (อ่าน 79096 ครั้ง)

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
น่าสนใจๆ ตามมาจากเรื่อง X คร๊า

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                           Only Love is real

                              ให้รักนำทาง

                       บทที่ 11 เวลาแห่งการทำลายล้าง

ก้องภพหลับสนิทเมื่อราตรีกาลล่วงผ่านมา แม้ห้องในโรงแรมที่พักจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่อากาศ

ในเดือนสุดท้ายของปี ก็ทำให้เขาต้องนอนขดอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่น ต่างจากอีกคนที่นอนอยู่เคียงข้าง

โรงแรมราคาถูกแม้จะสะอาด แต่ก็ไม่สะดวกสบายนัก เตียงที่มีให้ก็เป็นเพียงเตียงห้าฟุตเล็กๆ เพียงเตียง

เดียวที่ดูเหมือนจะเล็กเกินไปสำหรับชายหนุ่มตัวใหญ่สองคนที่ต้องขดตัวนอนอยู่ด้วยกัน

อากาศหนาวเย็นของภาคเหนือตอนล่างไม่เป็นผลต่อสิงขรเลย เขานอนกระสับกระส่ายเหงื่อชื้นเต็มลำคอ

เนื่องด้วยจิตใต้สำนึกสั่งให้เขารู้ว่าอะไรคือผิดชอบชั่วดี

แม้จะรู้ว่ามันคือความจำเป็นที่ต้องทำ และคนที่เขากำจัดไปก็ไม่ใช่คนดีนัก แต่เขาก็รู้ว่าทั้งหมดมันก็ไม่ใช่สิ่ง

ที่ถูกต้อง

ความรู้สึกผิดปรากฏรูปร่างอยู่ในความฝัน เป็นวิญญาณร้ายที่โผล่มาหลอกหลอนและเป็นฝ่ายรุมทำร้ายเขา

ส่วนตัวเขาเองได้แต่ปัดป้องและตะโกนขับไล่

ผู้หมวดหนุ่มสะดุ้งตื่นมาเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์จากคนที่นอนอยู่ด้านข้าง เขาลุกขึ้นนั่ง

อย่างรวดเร็วและหันไปมองหนุ่มน้อยอย่างตกใจ

ภาพที่เห็นคือสิงขรที่เปลือกตายังคงปิดสนิท แต่สองมือยกโบกไล่และส่งเสียงร้องตะโกนขับไล่อะไร

บางอย่าง

“ไม้ เฮ้ย! เป็นอะไรวะ ตื่นก่อน ไม้”

ผู้หมวดหนุ่มเขย่าตัวคนที่ยังคงนอนหลับตาแรงๆพลางส่งเสียงปลุก

สิงขรผวาเฮือก ผุดลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว ลำคอและแผ่นหลังชื้นไปด้วยเหงื่อ ดวงตาสับสนเงยขึ้นสบตา

กับก้องภพ

“เฮ้ย ฝันร้ายอะไรหรือเปล่าวะ ละเมอเสียงดังมากเลย” 

ก้องภพใช้มือจับที่ต้นแขนของสิงขรพลางถามอย่างเป็นห่วง

สิงขรมองสบตากับแววตาห่วงใยด้วยความเต็มตื้น เขาโผกอดและซุกหน้ากับแผ่นอกกว้างแกร่งนั้น

แล้วน้ำตาก็หยาดหยดมา

ก้องภพเองเมื่อเจออาการแบบนี้จากหนุ่มน้อย เขาก็นิ่งงันไปชั่วครู่ ก่อนที่จะยกมือขึ้นลูบผมสิงขรเบาๆด้วย

ความสงสาร

“เป็นอะไรไปวะไม้ โตขนาดนี้แล้วยังร้องไห้เป็นเด็กอีก”

ก้องภพถามอย่างอ่อนโยน

สิงขรนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของก้องภพอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะคลายอ้อมกอดที่ยึดตัวผู้หมวดหนุ่มไว้แล้วเงยหน้า

มาสบตากับก้องภพ

“ถ้าสมมติว่าวันหนึ่ง พี่ก้องรู้ว่าผมเป็นคนไม่ดีทำผิดร้ายแรงมาก พี่จะยกโทษและจะยังดีกับผมเหมือนอย่าง

วันนี้ไหม”

ก้องภพนิ่งอึ้ง เขาสบตากับตาหวานที่บัดนี้แดงเรื่อไปด้วยคราบน้ำตา แล้วหัวใจก็อ่อนยวบ เขายกมือขึ้นปัด

ปอยผมเปียกชื้นที่ตกลงมาปรกหน้าผากมนนั้นแล้วก็อดใจไม่อยู่ที่จะหอมเบาๆที่หน้าผากของเด็กหนุ่ม

“มันอยู่ที่ว่าเจตนาแกคืออะไร ถ้าแกทำเพราะมันจำเป็น และแกสำนึกได้ว่ามันผิดจริง พี่ก็พร้อมจะอภัยให้

แก”

ก้องภพยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้สิงขรจนหมด สิงขรเอียงแก้มสัมผัสอุ้งมือนั้นความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนอย่าง

ที่ไม่เคยมีมาก่อนประทับมันไว้อยู่ในส่วนลึก เขาอยากจะให้เวลาหยุดอยู่แค่นี้แม้จะรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้

“ดึกแล้ว นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ต้องเริ่มทำงานแล้ว”

ก้องภพดึงตัวสิงขรมาอยู่ในอ้อมแขน พร้อมล้มตัวลงนอน หนุ่มน้อยซุกร่างเข้ากับอกอุ่นนั้น ก้องภพลูบหลัง

สิงขรอย่างเบามือ จนกระทั่งเขาหลับไปในอ้อมกอดนั้นตลอดทั้งคืน








กลุ่มอากาศค่อยๆหมุนวน แล้วเกาะกลุ่มเกิดเป็นมวลร่าง มันค่อยๆชัดเจนขึ้น จนปรากฏเป็นร่างสูงโปร่งใน

ชุดดำสง่าผ่าเผย หากใบหน้าหวานซึ้งราวกับอิสตรีนั้นจะดูดีกว่านี้ ถ้าผู้เป็นเจ้าของจะไม่อยู่ในอารมณ์โกรธ

เกรี้ยวบึ้งตึง

เขาปรากฏร่างอยู่ในบ้านทรงไทยเก่าแก่หลังใหญ่ ที่ปลูกอยู่ในบริเวณเชิงเขาสูง อากาศที่หนาวเย็นไม่ได้ช่วย

ในอารมณ์คุกรุ่นนั้นดีขึ้นมาเลย

นึกไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นมาได้เมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา เมื่อพบเจอกับชายคนนั้น

ชายคนที่เขาคิดว่าเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ไม่มีพิษสง กลับมีพลังที่หยุดเขาให้นิ่งอยู่กับที่เคลื่อนไหวไม่ได้

ดีแต่ว่าวันนี้ยังคงเป็นคืนเดือนแรม ที่เขาจะมีพลังเวทมากเป็นพิเศษจึงสามารถสลัดพลังนั่น แล้วร่ายมนต์

สลายร่างหลุดรอดมา

มันเป็นใคร...เสียดายที่เขายังไม่เห็นหน้า

จะใช่คนที่ปู่ของเขาเคยเล่าให้ฟังก่อนเสียชีวิตหรือไม่ ว่ามันคือตระกูลที่ทำลายล้างครอบครัวของเขาจนหมด

สิ้น เหลือเพียงปู่ที่หนีรอดพาตัวเขาที่ยังเป็นทารกในขณะนั้นมาหลบอยู่ท่ามกลางขุนเขา แล้วเฝ้าฝึกฝนพร้อม

กับตั้งความหวังไว้ที่เขา ว่าจะนำความยิ่งใหญ่กลับคืนมา

แต่ปู่ก็อยู่ไม่ทันวันนั้น วันที่เขาจะอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ วันที่เขาจะตามหา “วัตถุ” ในตำนาน แล้วทำ

พิธีกรรมยิ่งใหญ่เพื่อกลายเป็น ผู้ยิ่งใหญ่ ที่จะมาเกิดทุก 500 ปี

แล้วก็ตามฆ่าพวกมันให้หมด อย่างที่ปู่ต้องการ

ชายหนุ่มเดินมาสบตาตัวเองในกระจก พร้อมกับสัญญา

อีกไม่นานนี้แล้ว ที่เขาจะอายุครบ 20 ปี และตอนนี้ “วัตถุ”บางชิ้นก็ได้มาอยู่ในความครอบครองของเขา

เหลืออีกเพียงไม่กี่ชิ้นหรอกนะ

แล้วพวกแกจะได้สูญสิ้นด้วยฝีมือของเขา

เขามองหน้าและสบตากับเงาในกระจก ที่สะท้อนกลับมา

ใบหน้าที่เหมือนกับสิงขรไม่มีผิดเพี้ยน








ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
สนุกมากๆชอบนิยายแนวนี้แต่งให้จบนะคะ :L2:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                          Only Love Is Real

                             ให้รักนำทาง

                        บทที่ 12 อะไรคือความจริง


ก้องภพเดินแกมวิ่งเข้าไปในแผนกนิติเวชของโรงพยาบาลอย่างรีบร้อน เมื่อได้รับข่าวไม่ค่อยดีจากสายสืบ

ของเขา ว่าพบศพอาจารย์สักยันต์นอนตายอยู่ข้างถนน

ผู้หมวดหนุ่มแสดงตัวกับตำรวจท้องที่และสอบถามรายละเอียดต่างๆอย่างเคร่งเครียดที่อีกเบาะแสหนึ่ง

ของเขาต้องดับสูญไป

เขาเดินตรงไปที่เตียงผ่าพิสูจน์ศพ ใส่ถุงมือแล้วชันสูตรพร้อมกับนายแพทย์นิติเวช

ชายคนดังกล่าวเลือดออกทางปากและจมูก และที่สำคัญเมื่อตรวจเอ็กซ์เรย์แล้วพบว่ามีตะปูจำนวนหนึ่ง

อยู่ในช่องท้อง เป็นเหตุให้ระบบอวัยวะภายในฉีกขาด

ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นมือข้างหนึ่งของผู้ตายที่อยู่ฝั่งเดียวกับที่เขายืนอยู่กำแน่นภายในเหมือนซ่อน

วัตถุอะไรบางอย่างไว้แต่ศพนั้นแข็งตัวเกินกว่าที่เขาจะแกะมันออกโดยไม่ให้เจ้าหน้าที่คนอื่นผิดสังเกต

เขาเพ่งสายตาไปที่มือนั่น แล้วบังคับให้มันค่อยๆคลายตัว

พลังเพียงเล็กน้อยเขาก็สามารถหยิบมันขึ้นมาใส่กระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครรู้







สิงขรนั่งนิ่ง ใจสงบแหงนมองพระพุทธรูปอยู่ในวิหาร เขาก้มลงกราบพระด้วยความเคารพก่อนที่

จะนั่งขัดสมาธิ อธิษฐาน

รู้ว่าตัวเองทำผิดศีลข้อ 1 ฆ่าคนตายมาหลายคน แต่เขาเชื่อว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะป้องกันภัยอันตราย

จากความชั่วอันเลวร้ายยิ่งกว่า

“หากลูกยังพอมีบุญบารมีหลงเหลืออยู่บ้าง ลูกขอให้พระพุทธองค์ช่วยลูกด้วย ให้ลูกหาของศักดิ์สิทธิ์ชิ้น

สุดท้ายเจอก่อนคนๆนั้น ขอให้ลูกป้องกันมิให้เขาผู้นั้นก่อการชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ”

หนุ่มน้อยปิดตาลง ทำจิตสงบรำลึกถึงพระรัตนตรัย ก่อนที่จิตจะนิ่ง ดำดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ

แสงสว่างสดใสสีเขียว ปรากฏให้เห็นในฌานของสิงขร แล้วมันก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นราวกับสีของ

ปีกแมลงทับ มันวาวแม้จะอยู่ในที่มืด ภาพนั้นชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ และไกลขึ้น กว้างขึ้น ราวกับกล้องของ

ภาพยนตร์ที่หมุนให้เห็นโดยรอบ

สิงขรระงับความลิงโลดใจไว้ เขาพยายามเก็บรายละเอียดทั้งหมด ก่อนที่ภาพเหล่านั้นจะจางหายไป

หนุ่มน้อยค่อยๆลืมตาขึ้นจากสมาธิ เขายิ้มอย่างเบิกบาน ก่อนที่จะก้มลงกราบพระอย่างเคารพอีกครั้ง







เมื่อเสร็จจากการตรวจชันสูตรร่างของอาจารย์สักยันต์แล้ว ก้องภพก็หามุมสงบอยู่ตามลำพังเขาล้วงวัตถุที่ได้

จากมือของชายผู้นั้นแล้วแบมือออกดู มันคือ ตะปูงอๆดอกหนึ่ง

ผู้หมวดหนุ่มเชื่อว่า ก่อนตายชายผู้นี้อาจจะพอมีสติหลงเหลือใช้คาถาต่อสู้ แต่ก็คงไม่สำเร็จจึงพอจะ

หลงเหลือหลักฐานชิ้นนี้ จนมันตกมาถึงมือเขา

พลังจิตกล้าแกร่งของเขา ไม่ได้มีแค่เพียงเคลื่อนย้าย หยุดสิ่งของเหมือนคนในตระกูลเท่านั้น

แต่หากยังมี พลังอย่างอื่นที่นอกเหนือกว่า

นั่นคือ สัมผัสที่ย้อนอดีตได้เมื่อจับสิ่งของที่เขาต้องการรู้ แต่เขาจะใช้มันเมื่อจำเป็นเท่านั้น

ก้องภพกำมือให้ตะปูนั้นอยู่ในอุ้งมืออีกครั้ง เขาหลับตาลง ตั้งสมาธิ ให้จิตตัวเองจดจ่อกับตะปูในอุ้งมือ

ภาพที่ปรากฏคือ ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ตัวโคร่ง และหมวกแก๊ปคุ้นตา ยืนอยู่ต่อหน้า

ชายคนนี้ คนๆนั้นยืนนิ่งก่อนที่จะแบมือเผยให้เห็นตะปูหลายดอก แล้วเขาก็ท่องมนต์

ก้องภพสะดุ้งเฮือก เหงื่อไหลเหมือนอาบน้ำ เขาจ้องตะปูในมือแทบจะไม่เชื่อสายตา

“ไอ้ไม้”






สิงขรบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยขบ เมื่อคร่ำเคร่งกับการสเก็ตภาพอยู่นานจนรอบตัวของเขาเต็มไปด้วย

แผ่นกระดาษที่ใช้ได้บ้าง ใช้ไม่ได้บ้าง  หนุ่มน้อยหยิบกระดาษถ่ายเอกสารธรรมดาแผ่นหนึ่งที่ตอนนี้เต็มไป

ด้วยรอยดินสอขึ้นมาดูอย่างพอใจ

ภาพที่ปรากฏนั้นคล้ายกับแผนที่ลายทางชี้ทางไปถึงสิ่งที่เขากำลังตามหา จากสิ่งที่เขาเห็นเมื่อนั่งสมาธิ

ช่วงสาย ก่อนที่จะกลับมาเขียนไว้ที่ห้องในโรงแรมเพื่อกันลืม

หนุ่มน้อย หยิบกีตาร์คู่ใจที่หอบหิ้วกันมาจากกรุงเทพมาตั้งคอร์ด แล้วกรีดสายเบาๆทดสอบเสียง ก่อนที่

จะเล่นเพลงฮิตในช่วงนี้



ใจส่งถึงใจเธอ มือจับกันไว้ มองตาแล้วเข้าใจ ไม่ต้องเอ่ยคำ

เดินเกี่ยวแขนกันไป ถ่ายทอดความรัก จงอย่าสนใจใคร ฉันอยู่ใกล้เธอ

เปี่ยมด้วยความรัก ต่อเธอ

ขอให้ความรัก ที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรัก ที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์

ขอให้ความรัก ที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรัก ที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์

คืนเปลี่ยนแม้วันผ่าน กาลเปลี่ยนปรวนแปร รักเรามั่นคงแน่ มิเปลี่ยนแปรไป

เราหล่อหลอมดวงใจ เป็นหนึ่งเดียวกัน คงจะไม่มีวัน เหินห่างกันไกล

เปี่ยมด้วยความรัก ต่อเธอ

(เพลง รักนิรันดร์ /ปั่น ไพบูลเกียรติ เขียวแก้ว/2528)




ก้องภพเปิดประตูเข้ามา ทันได้ยินเสียงคนที่อยู่ในความคิดคำนึงนั้นกำลังร้องเพลงรัก

เขามองหนุ่มน้อยอย่างสับสน

ตลอดทางจนมาถึงโรงแรม เขานึกย้อนไปถึงวันที่พบเจอสิงขรใกล้ๆบ้านของอาจารย์สักยันต์ที่เขาสงสัยว่า

หนุ่มน้อยไปทำไมแถวนั้น

แม้กระทั่งเมื่อค่ำคืนผ่านมา ที่หนุ่มน้อยในอ้อมกอดตลอดคืนเอ่ยถาม

“ถ้าสมมติว่าวันหนึ่ง พี่ก้องรู้ว่าผมเป็นคนไม่ดี ทำผิดร้ายแรงมาก พี่จะยกโทษและจะยังดีกับผมเหมือนอย่าง

วันนี้ไหม”

จนถึงตอนนี้ เขารู้ถึงสาเหตุที่สิงขรถามแล้ว ขาดแต่ที่มาของคำถามเท่านั้น

ก้องภพเดินมาหยุดหน้าสิงขร แล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นต่อหน้าหนุ่มน้อย สิงขรยิ้มกว้างอย่างสดใส

“กลับมาแล้วหรือ พี่ก้อง งานเสร็จแล้วหรือ”

ผู้หมวดหนุ่ม สบตาสดใสนั้นอย่างกังขาในความรู้สึกของตัวเอง ร่างอุ่นในอ้อมกอดตลอดคืนยังคงประทับ

อยู่ในความรู้สึก และยังโหยหาอยู่ตลอดเวลา เขาคงจะตัดสินใจได้ไม่ยากถ้าเพียงคนตรงหน้าจะไม่ใช่

“คนใช้เวทมนตร์”

สิงขรสบตาคู่นั้นอย่างสงสัย ทำไมวันนี้คนที่เขาคิดถึงตลอดวันถึงได้ดูแปลก ราวกับเป็นคนแปลกหน้า

“พี่ก้องเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ก้อง อุ๊บ..” 

เสียงของหนุ่มน้อยถูกดูดกลืนด้วยริมฝีปากของคนแกร่งกว่า ก้องภพดึงตัวสิงขรมาแล้วบดเบียดริมฝีปาก

อย่างเร่าร้อน สับสน จนสิงขรรู้สึกเจ็บ แต่นั่นก็ยังน้อยว่า ความรู้สึกที่หวิวไหวแทบจะขาดใจ ก่อนที่ผู้หมวด

หนุ่มจะปล่อยให้เป็นอิสระ

ก้องภพยกมือประคองแกมบังคับใบหน้าของสิงขรให้สบตากับเขา

“บอกพี่ที ไม้ ว่าแกเป็นใคร”

หนุ่มน้อยมองสบตาอย่างงงงัน

“อะไร พี่ก้อง พี่เป็นอะไร ถามอะไรอย่างนั้น”

“อย่ามาเฉไฉ” 

ก้องภพตะคอกเสียงดุ

“บอกพี่มาว่าแกเป็นใครกันแน่”

เขาบังคับให้ใบหน้านั้นเข้ามาใกล้เพียงแค่ปลายจมูกกั้น ก่อนที่จะส่งเสียงต่ำหนักถามออกไป

“ทำไมพี่เห็นแก ใช้เวทมนตร์ฆ่าคน”







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2014 14:43:59 โดย Belove »

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                         Only Love Is Real
       
                            ให้รักนำทาง

                           บทที่13 ชะตากรรม

หัวใจของสิงขรกระตุกวูบ  เขาสบตากับแววตาผิดหวังที่มองมาอย่างไร้เรี่ยวแรง

ในที่สุดก็ถึงวันนี้ วันที่เขารู้ดีว่ามันต้องมาถึง เพียงแต่ไม่คาดคิดว่ามันจะมาเร็วมาก

เร็วมากเสียจนเขายังไม่ได้ดื่มด่ำกับความสุขที่เพียงแค่เริ่มจะเกิดขึ้นในชีวิต

ดวงตาหวานซึ้งบัดนี้แดงเรื่อ เอ่อไปด้วยน้ำตาก่อนที่มันจะหยดไหลรินลงมาผ่านร่องแก้ม

“ผมจำเป็น ถ้าพี่ก้องรู้เหตุผล พี่จะเข้าใจ

หนุ่มตาหวานกัดฟันพูด

“แกก็บอกมาสิว่าอะไรคือเหตุผลของแก พี่จะได้เข้าใจ

ก้องภพตะคอกเสียงดังด้วยความเสียใจ

สิงขรเบือนหน้าหนีไปทางอื่น พยายามกลั้นสะอื้นกลืนน้ำตาลงไปไม่ให้มันไหลออกมาอีก แต่ดูเหมือน

จะยากเต็มที

“ผมบอกพี่ไม่ได้หรอก บอกไปพี่ก็ไม่เข้าใจ

ก้องภพสบถเสียงดัง เขาขยุ้มคอเสื้อของหนุ่มน้อยอย่างโกรธจัด

“บอกไม่ได้หรือว่าไม่กล้าบอกกันแน่ ว่าแกคือลูกหลานของตระกูลเวทมนต์ ที่ทำชั่วมานับพันปี

สิงขรชะงักกับคำพูดประโยคนั้นของก้องภพ เขาหันหน้ามาสบตากับผู้หมวดหนุ่มอย่างสงสัย

เต็มที่แล้วก้องภพควรจะรู้เพียงแค่เขาเป็นฆาตกรฆ่าคน แต่ไม่ใช่กับประโยคที่เขาหลุดพูดมาแน่นอน

ทันทีที่คิดสงสัย เขาท่องมนต์ง่ายๆ ในใจ แล้วสิงขรก็ใช้ฝ่ามือนาบไปกับท่อนแขนของก้องภพอย่าง

รวดเร็ว

ก้องภพสะดุ้งเฮือก ฝ่ามือของสิงขรร้อนฉ่าดังเปลวไฟ ผู้หมวดหนุ่มพยายามสะบัดแขนให้พ้นจากฝ่ามือของ

หนุ่มน้อยแต่ไม่สำเร็จ สิงขรวางมือนิ่งเฉยราวกับทากาวไว้

เมื่อไม่มีทางเลือก ก้องภพกัดฟันเพ่งกระแสจิตแล้วพุ่งพลังตรงไปหาสิงขร จนร่างของหนุ่มน้อยกระเด็นไป

กระแทกกับผนังห้อง

ภายในห้องเงียบสงัดราวกับป่าช้า สิงขรพยุงร่างบางของตนหยัดยืนขึ้นมา เขามองก้องภพอย่างไม่เชื่อสายตา

“เฮ้ย..ไม้ พี่ขอโทษ”

ก้องภพเองก็มองหนุ่มน้อยอย่างเป็นห่วง เขาถลันเข้าไปหาสิงขรหวังจะเข้าไปช่วยประคอง แต่ก็ต้องชะงัก

อยู่กับที่ เมื่อสิงขรยกมือห้าม

“อย่าเข้ามา

สิงขรเอ่ยเสียงแข็ง หนุ่มตาหวานเหยียดตัวตรงเป็นสง่าก่อนเอ่ยถามก้องภพด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“พี่เป็นใครกันแน่พี่ก้อง อย่าบอกผมนะว่าพี่คือคนจากตระกูลที่มันทำลายล้างครอบครัวของผม

จนผมไม่เหลือใคร

ก้องภพยืนอึ้ง เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“ถ้าพี่จะบอกว่า ใช่ ล่ะ

กลับมาเป็นสิงขรที่ยืนอึ้ง น้ำตาที่แห้งเหือดไปได้เพียงชั่วครู่ กลับหลั่งรินลงมาอีกครั้ง

นี่คือ ชะตากรรมของเขา ...ใช่ไหม 

หนุ่มน้อยถามตัวเอง นี่คือกรรมที่ย้อนมาสนองโดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า

นอกจากจะต้องต่อสู้กับคนที่มีอำนาจเหนือกว่าเพื่อความถูกต้อง เขายังต้องห้ำหั่นกับคนๆนี้ คนที่เขา

เพิ่งรู้ตัวว่า รักสุดใจ

สิงขรมองหน้าสบตาก้องภพอีกครั้งราวกับจะฝังไว้ในความทรงจำให้ขึ้นใจ แล้วค่อยๆก้าวเดินถอยหลังไปที่

ประตูห้อง เมื่อสิงขรเปิดประตูได้ เขาพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

ก้องภพใจหายวาบ เขาวิ่งพรวดพราดตามออกมานอกห้อง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหนุ่มน้อย

“ไม้ ไอ้ไม้ โว้ย!!”

ก้องภพโมโหแทบเป็นบ้า  เขาวิ่งตามหาสิงขรจนมาหยุดยืนอยู่กลางถนนหน้าโรงแรม รถยนต์ที่ขับผ่านไป

มาต่างก็เบรกและบีบแตรไล่แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอ

“ไอ้ไม้

ก้องภพตะโกนขึ้นฟ้าอย่างเจ็บปวด






ก้องภพเดินคอตกกลับเข้าห้อง ยิ่งเมื่อเห็นสภาพที่ยังมีข้าวของของสิงขรรวมไปถึงกีตาร์ตัวเก่งตัวนั้น แล้ว

เขาก็หมดเรี่ยวแรงเอาดื้อๆ

เขาทรุดตัวลงนั่งตรงจุดที่หนุ่มน้อยนั่งเล่นกีตาร์อยู่เมื่อสักครู่นี้ แล้วถอนหายใจ

นี่คือชะตากรรมของเขา

เขาคงต้องยอมรับกับภาระที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด 

สายตาเหลือบไปเห็นกองกระดาษมากมายที่เป็นผลงานของสิงขร เขาหยิบมันขึ้นมาพิจารณาทีละใบ

มีทั้งใช้ได้บ้าง ใช้ไม่ได้บ้างแล้วเขาก็เจอใบหนึ่ง ใบที่สมบูรณ์ที่สุด ก้องภพมองแล้วค่อยๆคิดตาม

มันเหมือนแผนที่ผสมลายแทง เป็นรูปภูเขาและทางเดินพร้อมทั้งตัวอักษรตัวเล็กที่อธิบายประกอบไว้

จนกระทั่งถึงจุดหมายที่เป็นถ้ำอยู่ในภูเขาสูง

ชายหนุ่มนึกถึงตอนที่เขาถามสิงขรว่ามาที่จังหวัดนี้ทำไม

“มาตามหาของที่หาอยู่

คำตอบดูคลุมเครือเสียเหลือเกิน

แล้วก้องภพก็นึกขึ้นได้ถึงตำนานในหนังสือเก่าแก่ของตระกูลที่เคยอ่านจนขึ้นใจ





...สำหรับผู้นำนั้นมีความเชื่อว่า ทุก 500 ปีจะมีผู้มีบุญญาบารมีมาเกิด คนผู้นั้นจะเป็นผู้นำที่

ยิ่งใหญ่ เมื่อผู้นำคนนั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จะต้องประกอบพิธีกรรมลับ พร้อมกับ

ของศักดิ์สิทธิ์ที่จะปรากฏขึ้นเมื่อผู้นำคนนั้นพร้อมเต็มที่ ..

..และหากวันใดที่ผู้นำประกอบพิธีกรรมสำเร็จ จะเกิดอาเพศยิ่งใหญ่แก่บ้านเมือง...






สมองของก้องภพแล่นวาบ นี่คือสิ่งที่สิงขรต้องดั้นด้นมาตามหา มันอยู่ในป่าบนภูเขาสูงแถบนี้เอง

ชะตากรรมสินะ

ผู้หมวดหนุ่ม เยาะเย้ยตัวเองในใจ เขาและสิงขรจึงได้เจอกันบ่อยครั้งเกินจำเป็นเพื่อที่จะให้

เขารู้ว่า คนที่เขาต้องกำจัดคือคนๆนี้

ก้องภพพลิกกระดาษไปจนถึงแผ่นสุดท้าย เขาก็ต้องอึ้ง

มันไม่ใช่ภาพลายแทงหรือแผนทิศเหมือนแผ่นอื่น แต่มันเป็นภาพสเก็ตใบหน้าคนที่ต่อให้คนตามัวคนไหน

มามอง ก็ต้องมองออกว่าเป็นตัวเขา

เป็นภาพก้องภพ ที่ยิ้มอย่างยียวนที่เขาทำบ่อยๆ เวลาอยู่กับหนุ่มน้อย 

ก้องภพพยายามควบคุมมือที่สั่นเทาก่อนจะพลิกไปดูข้างหลังกระดาษแผ่นนั้น

                           
                           “รักนิรันดร์


ลายมือสวย เป็นระเบียบ เขียนไว้ลอยๆอยู่กลางแผ่นกระดาษ ก้องภพใช้ปลายนิ้วลูบไปที่ตัวอักษรนั้น ราวกับ

จะเรียกให้คนเขียนมาอยู่ใกล้ๆ

ก้องภพกลั้นสะอื้น เขานำกระดาษแผ่นนั้นมาแนบที่หน้าอก เหมือนหวังว่ามันจะช่วยเยียวยาความเจ็บปวดที่

ท่วมท้นขึ้นมาอย่างมหาศาล



แค่สามพยางค์ในกระดาษ มันทำให้เขามั่นใจในความรู้สึกของตนเองที่มีต่อสิงขรแล้วว่ามันคืออะไร

แค่สามพยางค์ในกระดาษ มันทำให้เขารู้ว่า ต่อให้ชะตากรรมเป็นอย่างไร แต่เขาจะลุกขึ้นสู้เพื่อเปลี่ยนแปลง

ชะตากรรมที่เลวร้ายนั่นให้ได้

ก้องภพก็พับกระดาษภาพใบหน้าตนและแผ่นแผนที่อย่างดี เขายันตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อลุกไปเก็บของ

เตรียมเดินทาง

เดินทางไปต่อสู้กับชะตากรรมของเขา



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2014 12:59:09 โดย Belove »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ก้องภพสู้ๆนะ
อ่านเจอครั้งแรก เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ไม้น่าจะอธิบายก่อนนนนนน

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                          Only love is Real

                               ให้รักนำทาง

                               บทที่14 อันตราย


สิงขรพุ่งสายตาตรงไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่

ภาพที่เห็นคือ ขุนเขาสลับซับซ้อนกว้างใหญ่ไพศาลราวกับต้นไม้ใหญ่น้อยเหล่านั้นจะกวักมือร้อง

เรียกให้เขาก้าวเข้าไป เพื่อตามหาสิ่งสำคัญ

หนุ่มน้อยหลับตาลงระลึกถึงเจ้าป่าเจ้าเขา ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วเขาก็ก้าวตรงเข้าไปในป่าลึก

กระเป๋าเป้สะพายหลังบอกให้รู้ว่าสิงขรพร้อม แค่ไหนสำหรับการเดินทางครั้งสำคัญนี้กับสิ่งที่หอบ

หิ้วมา ทั้งของกินและน้ำดื่ม เขามั่นใจว่าจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยสิ่งที่เตรียมมาและบวกกับ

เวทมนตร์ที่มี

แล้วก้าวเดินครั้งสำคัญก็เริ่มต้น สิงขรเริ่มต้นการเดินสู่ผืนป่าดงดิบผืนใหญ่ของประเทศเพียงลำพัง

เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ

การอยู่เพียงลำพังทำให้สมาธิกระเจิดกระเจิงได้มาก หนุ่มน้อยนึกย้อนไปถึงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่

ต้องแยกทางเดินกับชายผู้นั้น ชายคนที่ทำให้หัวใจของเขาพองโตราวกับลูกโป่งยักษ์ แต่มันก็

แตกดับอย่างรวดเร็วและรุนแรงเพียงเพราะต่างคนต่างรู้ถึงความจริงที่อีกฝ่ายปิดบังไว้

น้ำตาไหลลงมาหนึ่งหยด สิงขรรีบใช้หลังมือป้ายมันออกไป และบอกกับใจตัวเองว่า ที่มันไหล

ออกมา เป็นเพราะเขาเหนื่อยจากการเดินตลอดทั้งวัน

หาใช่เป็นเพราะคิดถึงก้องภพ

ตะวันเริ่มอ่อนแรงโรยรา บรรยากาศเย็นเยียบมาเยือนอย่างรวดเร็ว ด้วยเป็นช่วงปลายปีทำให้

กลางวันสั้นนัก สิงขรเริ่มหยุดยืนอย่างอ่อนล้า กระเป๋าเป้ที่หิ้วมาหนักอึ้งราวกับน้ำหนักมันจะ

เพิ่มขึ้นได้

เขารู้สึกเมื่อยขบไปหมดทั้งขาและไหล่บาง หนุ่มน้อยวางมันลงกับพื้นก่อนที่กวาดสายตามอง

โดยรอบ

หนุ่มใช้เวทมนตร์ชะงักเมื่อเห็นอะไรบางอย่างส่องแสงแวววาวเป็นจุดคู่กัน อยู่ไกลออกไปไม่มาก

และดูเหมือนมันจะเคลื่อนที่เข้ามาเงียบๆ ในความมืด

สิงขรหนาวเยือกไปทั่วสันหลัง บอกได้ทันทีว่ามันคือแววตาของสัตว์ร้ายในป่าใหญ่ เขามองสบตาคู่

นั้นไว้ พลางเดินถอยหลังช้าๆ

แต่ดูเหมือนเจ้าของแววตาคู่นั้นจะไม่ยอมแพ้ มันเคลื่อนที่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปรากฏตัวต่อหน้า

สิงขร

หนุ่มน้อยใจหายวูบ มันคือเสือลายพาดกลอนตัวเขื่อง ที่ดูท่าจะหิวโซ เจ้าตัวลายเดินนิ่งสงบตรงมา

ทางเขาเรื่อยๆ  สิงขรสบตากับเจ้าตัวลายอย่างตื่นตระหนก ณ วินาทีนี้ เขานึกไม่ออกเลยว่าจะค้นหา

เวทบทใดมาต่อสู้กับสัตว์หน้าขนดุร้ายเยี่ยงนี้

สิงขรค่อยๆก้าวไปด้านหลังอย่างหวาดกลัวอีกครั้ง และก้าวเดินครั้งนี้ เขาพลาด!

หนุ่มน้อยพลาดไปเหยียบกิ่งไม้แห้งกิ่งใหญ่ มันทำให้เขาเสียหลักหงายหลังลงไปกับพื้น

และวินาทีนี้เองที่นักล่ามืออาชีพไม่ปล่อยให้พลาด

เจ้าตัวลายตัวเขื่อง โดดกระโจน มากลางอากาศเพื่อตะครุบเหยื่อ สิงขรหลับตาแน่นทำใจรับสภาพ

เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที

ปังงงง

เสียงระเบิดของอะไรบางอย่างดังขึ้นใกล้ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องของสัตว์หน้าขนตามมา หนุ่ม

น้อยลืมตามองอย่างตกใจ

เจ้าตัวลาย มีเลือดออกที่สีข้าง ดูมันอ่อนแรงลง แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ มันค่อยๆพยุงตัวขึ้นยืนและเบน

เป้าหมายใหม่อย่างโกรธเกรี้ยว สิงขรมองตามไปที่ต้นเหตุแล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิม

ผู้ชายที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดการเดินทางในป่าใหญ่ ปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิด เขายืนจังก้าถือ

ปืนพกในอุ้งมืออย่างทะมัดทะแมง จ้องตรงไปที่เจ้าลายพาดกลอนตัวนั้นอย่างไม่ให้คลาดสายตา

เจ้าลายเดินตรงมาหาเขาอย่างอาฆาต ก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่ศัตรูอีกครั้ง

สิงขรแทบไม่เชื่อสายตากับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง

เสือลายพาดกลอนตัวเขื่อง ลอยหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ  ก่อนที่ก้องภพจะเหนี่ยวไกปืน ยิงเข้าที่กลาง

ระหว่างดวงตาคู่นั้นเข้าเต็มๆ

แล้วเจ้าเสือตัวนั้นก็ตกลงมากระแทกพื้นเสียงดังสนั่น นิ่งสงบ ก้องภพยังไม่ไว้วางใจ

เขาก้าวเดินและใช้ปืนเล็งอย่างระมัดระวังไปที่เจ้าลายตัวนั้น ก่อนที่จะใช้เท้าเขี่ยเพื่อตรวจสอบให้

มั่นใจเมื่อเห็นว่าสัตว์ร้ายตายสนิท ผู้หมวดหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วเก็บปืนเข้าที่เอว ก่อน

หันขวับมาทางสิงขร







สิงขรสะดุ้งโหยงเมื่อสบตากับแววตาโกรธเกรี้ยว บึ้งตึงคู่นั้น ให้เขาจ้องกับเสือเสียยังดีกว่าต้องมา

มองตากับคนที่เดินย่างสามขุมเข้ามา และทรุดตัวลงนั่งอยู่เบื้องหน้าของเขา

ก้องภพเอื้อมมือมาบีบคางสิงขร

รู้สึกเจ็บจนสิงขรต้องนิ่วหน้า ส่วนอีกมือก้องภพกระชากต้นแขนของหนุ่มน้อย ให้ลุกขึ้นมายืนต่อ

หน้าเขา

“ทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างไหม ถ้าพี่มาไม่ทันผลมันจะเป็นยังไง

ก้องภพตวาดเสียงดังจนสิงขรตัวสั่น ตอนนี้คนที่เขาคิดถึงน่ากลัวยิ่งกว่าเสือเสียอีก

“คิดจะเดินทางเข้าป่าทั้งที่ไม่เคย ดูสิ ทิ้งรอยไว้เต็มไปหมด อาวุธก็ไม่มี แล้วก็รู้อยู่ว่าตัวเองซุ่มซ่าม

แค่ไหน รู้บ้างไหมว่าพี่เป็นห่วง

สิ้นสุดคำนั้น มือที่บีบคางหนุ่มน้อยอยู่ก็ดึงใบหน้าเข้ามาใกล้ ส่วนมือที่กระชับต้นแขนไว้นั้นก็

เปลี่ยนมาเป็นเหนี่ยวตัวหนุ่มน้อยเข้ามาแนบแน่น  แล้วก้องภพก็บดริมฝีปากลงไปบนปากนุ่มนั้น

รวดเร็วและรุนแรงราวกับจะเป็นการลงโทษเด็กดื้อ อุ้งมือที่กระชับบนคางเรียวบังคับไม่ให้สิงขร

หนีหน้าไปกับบทลงทัณฑ์นั้น และยิ่งคนที่แกร่งกว่าใช้ขาข้างหนึ่งเข้าเกี่ยวล็อคเบียดแน่นกับท่อน

ล่างของสิงขรไว้ เท่านี้หนุ่มน้อยก็ดิ้นไม่หลุด

จุมพิตรุนแรงยาวนานจนสิงขร เจ็บที่ริมฝีปากไปหมด กว่าที่ก้องภพจะคลายความโกรธขึ้งลง แล้ว

เขาก็เพิ่มความเรียกร้องไปกับจุมพิตนั่น มือที่บีบคางคลายความแน่นเหนียว เขาเปลี่ยนมือนั้นมาวาง

แนบแก้มเนียนอย่างเบามือ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปวางแนบที่ต้นคอหนุ่มน้อยแล้วกระชับให้รับกับ

ปลายลิ้นอุ่นที่เปิดทางเข้าไปซอกซอนในช่องปากของสิงขร

มาถึงตอนนี้ สิงขรมืออ่อนเท้าอ่อนไปหมดกับความหวานที่ได้รับจากก้องภพอย่างกระทันหัน จน

แทบจะหมดแรงไปกองกับพื้น

ก้องภพค่อยๆ ถอดถอนริมฝีปากตัวเองอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนที่จะใช้สองมือประคองใบหน้าสิงขรไว้ให้

สบตากับเขา ผู้หมวดหนุ่มใช้หน้าผากตนเองไปชิดกับหน้าผากของสิงขร

“เจ้าไม้บ้า แกรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน จะหนีมาเพื่ออะไร ทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่องก่อน

เขาพูดเบาๆ กับใบหน้าที่ใกล้ชิดนั้น

สิงขรได้ยินน้ำเสียงอบอุ่นแล้วก็อดไม่ได้ ที่ขอบตาจะร้อนผ่าว ไปด้วยความปวดใจ

“พี่ก้องจะตามมาทำไม พี่ก็รู้ความจริงแล้วไม่ใช่หรือว่าผมเป็นใคร ทำเลวไว้แค่ไหน ฆ่าคนตายไปกี่

คนแล้ว พี่จะสนใจผมทำไม

“พี่รู้ว่าแกฆ่าคนตาย แต่ที่พี่สัมผัสได้จากตรงนี้

ก้องภพวางมือไปบนหน้าอกข้างซ้าย ซึ่งเป็นที่ตั้งของหัวใจสิงขร

“พี่รู้ว่าแกไม่ได้เลวโดยสันดาน ถึงได้ตามมาถามหาสาเหตุว่าแกทำเพื่ออะไร แล้วอีกเหตุผลหนึ่งก็

คือ...

ก้องภพปล่อยสิงขรให้เป็นอิสระจากอ้อมกอด แล้วล้วงไปหยิบภาพวาดที่พับอย่างดีในกระเป๋าเสื้อ

แจ็คเก็ตมาคลี่ต่อหน้าหนุ่มน้อย

“พี่จะมาถามคนวาดรูปนี้ ว่าเขาคิดกับคนในรูปอย่างที่เขาเขียนไว้ด้านหลังจริงหรือเปล่า

ก้องภพถาม ก่อนที่จะพลิกให้เห็นข้อความด้านหลังภาพ ที่มีคำว่า  “รักนิรันดร์”










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-08-2014 19:04:39 โดย Belove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
สองคนช่วยกันมันต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้สิ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ seraty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
สนุกๆๆๆๆมาต่อไว๐ๆๆๆๆๆๆนะ

ออฟไลน์ makone

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กรี๊ดดดดดดด ใกล้ไคลแม็กแล้วหรือยังค่ะ ตกลงสิงขรก็ต้องการมากำจัดฝาแฝดที่คิดจะทำผิดใช่ไหมค่ะ  :hao4: :hao4:
ร่วมมือกับก้องภพเลยสิงขร  :n1: แล้วกำจัดคนนั้นทิ้งไปซะ
อยากเห็นทั้งคู่  :hao6:  :hao6: กันสักที

 :katai5: :katai5: :katai5:

รออ่านอยู่ค่ะ สนุกมากกกกกก  :impress2: :impress2:

สงสารชะตากรรมของทั้งคู่  :mew4:

แต่ปัจจุบันสร้างใหม่ได้นะ  :mew1: ลบเรื่องราวเลวร้ายในอดีตลงซะ

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
อร๊าย  พีเรียดแบบนี้.... จัดมาเลยค่ะ เขินนนนนน

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                          OnLy Love is Real

                              ให้รักนำทาง

                            บทที่ 15 คืนนี้


ผืนฟ้ากว้างแปลงร่างเป็นพรมสีดำมืด ระยิบระยับดารดาษไปด้วยดวงดาวที่แข่งกันอวดแสงพราวตา

หยอกล้อกับดวงจันทร์เพียงครึ่งดวงที่ลอยโผล่พ้นตีนฟ้า

เปลวไฟสีแดงส้มยังคงคุโชนอยู่ภายใต้ผืนป่าใหญ่ นอกจากจะเอาไว้ย่างเนื้อเสือที่ก้องภพเฉือนแบ่งมาแล้ว 

ยังช่วยคลายความหนาวเหน็บให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้าง

ผู้หมวดหนุ่มส่งเนื้อที่ย่างจนสุกได้ที่ส่งให้สิงขร แต่หนุ่มน้อยเบ้ปากพลางสั่นหน้า

“ไม่เอา พี่ก้อง มันเหม็นสาบ ผมไม่เคยกิน

ก้องภพยกนิ้วขึ้นมาดีดมะกอกที่หน้าผากหนุ่มน้อย ก่อนเอ็ดเบาๆ

“ไม่เคยกินก็ต้องกิน เดินมาทั้งวันแล้วต้องกินให้มีแรง คนอะไรจะมาเดินป่าก็เตรียมตัวมาไม่พร้อมไหนดูซิ

เตรียมอะไรมาบ้าง

ก้องภพยัดเยียดกิ่งไม้ที่เสียบกับเนื้อเสือย่างใส่มือหนุ่มน้อย แล้วถือวิสาสะหยิบเป้ของสิงขรมาเปิดดูสัมภาระ

ข้างใน

“เฮ้ย! ไม้ แกเอาอะไรมาเยอะแยะแต่มันไม่เหมาะกับการเดินป่าเลยว่ะ นี่อะไร ปลากระป๋อง  ขนมปัง

น้ำผลไม้ มันก็โอเคแหละนะ แต่ว่า..

เขาหันไปมองหนุ่มน้อยอย่างเอ็นดู

“แกรู้ไหม ความเหนื่อยล้าจากการเดินในป่า จะทำให้ข้าวของที่แบกอยู่ มันเหมือนมีน้ำหนักเพิ่มอีกสิบ

เท่าตัว

สิงขรพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ พลางใช้มือค่อยๆ ฉีกเนื้อเสือมาดมๆ ก่อนจะส่งเข้าปากแล้วเคี้ยวหนึบๆ

หนุ่มน้อยจึงรู้ตัวเองว่าหิวโหยเพียงใด เมื่อเขากินมันเรื่อยๆจนเกือบหมดไม้

ก้องภพส่งกระบอกน้ำมาให้ เมื่อสิงขรทำท่าเหมือนเนื้อจะติดคอ หนุ่มน้อยมองอย่างขอบคุณแล้วยกขึ้นดื่ม

อย่างกระหาย

“พี่ก้องตามผมมาถูกได้ยังไง

หนุ่มน้อยเอ่ยถาม ก้องภพจึงควักแผนที่ ที่สิงขรเขียนไว้มาให้ดู

“พี่พยายามแกะจากแผนที่ที่แกเขียนไว้ จนเดาไว้ว่ามันคือแถวนี้ แล้วก็ลองตามรอยแก ซึ่งไม่ยากเลย

ก้องภพเอื้อมมือไปโยกหัวสิงขร ก่อนดึงตัวให้มานั่งใกล้เขา

“แกทิ้งรอยไว้เยอะเลย ทั้งกิ่งไม้ที่เหยียบ ทั้งเศษถุงขนมที่แกกินแล้วโยนทิ้งไว้ตามทาง จนพี่มาเจอแกกำลัง

เล่นอยู่กับไอ้ลายนี่แหละ

“พี่ทำงานอะไร บอกผมได้ไหม

อยู่ๆ สิงขรก็ถามอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จนก้องภพชะงัก

“ผมสงสัยตั้งแต่พี่มาตามหาคนสักยันต์แล้ว ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะเชื่อเรื่องนี้

ก้องภพถอนใจก่อนตอบ

“พี่เป็นตำรวจ มาทำคดีคนตายที่ถูกเสกตะปูเข้าท้อง” 

คำตอบนั้น ทำให้สิงขรหน้าเผือดลง

“แล้วพี่จะจับผมไหม เมื่อพี่รู้แล้วว่าเป็นผม

ก้องภพถอนหายใจอีกครั้งก่อนที่จะหันไปสบตากับตาคู่หวานนั้น

“พี่ไม่รู้หรอกว่าต้องจับแกหรือเปล่า แต่ตอนนี้เราหยุดมันไว้ก่อนได้ไหม

ผู้หมวดหนุ่มถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก แล้วนำมันไปคลุมบนไหล่บางของสิงขร  ก่อนจะดึงตัวให้หนุ่มน้อยมา

นั่งชิดใกล้จนไหล่เกยกัน ก้องภพใช้แขนโอบบ่าคู่นั้นไว้

“ยังไม่ตอบเลยว่าคิดยังไงที่วาดรูปพี่ แล้วเขียนคำนั้นไว้

เพียงแค่ก้องภพเริ่มต้นที่จะรุก สิงขรก็รู้สึกร้อนซู่ไปทั่วใบหน้าราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

“โอ๊ย..จะถามอะไรนักหนานะ

หนุ่มตาหวานแสดงออกโดยการโวยวายขึ้น แล้วพยายามจะแกะมือของก้องภพให้พ้นจากการเกาะเกี่ยว

ผู้หมวดหนุ่มได้แต่หัวเราะแล้วก็ยิ่งกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น

“ถ้าไม่บอก พี่ไม่ปล่อยจริงๆด้วย เร็วบอกมา

ก้องภพก้มหน้างุด ข่มความเขินอายไว้ แล้วพยักหน้าน้อยๆ

“ก็อย่างนั้นแหละ

เขาพูดเบาๆ 

“อย่างที่เขียน

“อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย

ก้องภพยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะแกล้งแซวเสียงดัง

“โอ๊ย..ไอ้พี่ก้อง

หนุ่มน้อยชักมีโมโหสะบัดตัวออกจากการโอบ ก้องภพรีบดึงสิงขรให้กลับมาท่าเดิม

“พี่ขอโทษ ไม่แซวแล้ว ดีกันนะ

ก้องภพพูดก่อนยิ้มอย่างอบอุ่น

“แล้วพี่คิดยังไง

สิงขรหักห้ามความเขินอาย ก่อนหันไปมองคนข้างๆ แล้วเอ่ยถาม

“ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่ารู้สึกยังไง แต่ตอนนี้ดีใจ

ชายหนุ่มหันไปหอมที่ขมับของคนด้านข้าง

“ดีใจที่รู้ว่าเราคิดตรงกัน

เขาโอบกระชับไหล่บางไว้ให้คลายหนาว

“พี่ขออะไรอย่างได้ไหม

เขาหันไปถามคนข้างๆ สิงขรหันมามองเป็นเชิงสงสัย

“ขอให้วันนี้เราวางทุกอย่างไว้ ทั้งเรื่องหน้าที่ ความรับผิดชอบและสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปไว้ก่อนแล้วขอให้

เหลือแค่เราสองคนเหลือแค่พี่ก้องกับไม้แค่นี้ได้ไหม

สิงขรสบตากับดวงตายาวรีอบอุ่นคู่นั้น ก่อนพยักหน้าให้อย่างเต็มใจ

ก้องภพยิ้มตอบ ก่อนจะดึงร่างที่บางกว่าให้เข้ามาซึมซับความอบอุ่นของอ้อมกอด สิงขรโอบกอดร่างนั้น

อย่างโหยหาความอบอุ่น แล้วนิ่งอยู่ในท่านั้น

เปลวไฟสีส้มแดง ค่อยๆมอดไหม้ไปตามแรงของฟืนที่ลดน้อยลง เหลือแต่ควันคุกรุ่นที่ลอยขึ้นสู่เบื้องบน

เหลือทิ้งไว้แต่บรรยากาศหนาวเย็น

แต่ก้องภพกับสิงขร กลับไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นนั้นเลย เมื่อความอบอุ่นนั้นได้บังเกิดขึ้นในหัวใจของคน

สองคน




















ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
แวะมาให้กำลังใจคนเขียนจ้า  จุ๊บุ ๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อ่านแล้วเขิลดี
ไม้นี่โก๊ะจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
แล้วอีกคนเป็นใครฝาแฝดเหรอ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                     Only Love is real

                         ให้รักนำทาง

                       บทที่ 16 สิ่งที่ต้องการ


สิงขรยืนนิ่งก่อนจะปาดเหงื่อที่ลำคออย่างเหน็ดเหนื่อย แม้จะเป็นวันที่ใกล้จะล่วงเข้าปีใหม่ที่อากาศเย็น

เยือก แต่บนเขาสูงตอนบ่ายจัดกลับร้อนระอุ

“พี่ก้องหยุดก่อนเถอะ

หนุ่มน้อยร้องเรียกผู้หมวดหนุ่มที่เดินนำหน้าอยู่ไม่ไกล ก้องภพหันกลับมาเห็นสิงขรหยุดนิ่ง เขาจึงเดินย้อนกลับ

มาหา

“เป็นอะไร เหนื่อยมากเลยหรือ พักดื่มน้ำก่อนไหม

เขาถามสิงขรอย่างเป็นห่วง พลางยื่นกระติกน้ำส่งให้ 

สิงขรรับกระติกน้ำมาแล้วค่อยๆยกขึ้นจิบช้าๆ อย่างที่ก้องภพเคยสอนไว้ ว่าไม่ควรดื่มน้ำเร็วและเยอะเกินไป

เมื่อกระหายน้ำกลางป่าก่อนที่เขาจะทอดสายตาไปยังเทือกเขากว้างใหญ่

“ผมว่าเรามาผิดทางกันหรือเปล่า ผมรู้สึกคุ้นๆว่า ตรงนี้เมื่อวานเราก็มา

หนุ่มน้อยเอ่ยขอคำปรึกษา สิงขรมองไปรอบๆ

“พี่ก็ว่าคุ้นๆนะ แต่ถ้าเรามาตามที่แกวาดไว้ มันก็น่าจะใกล้ถึงถ้ำที่แกจะมาแล้ว แต่นี่ทำไมยังไม่ถึง

หนุ่มน้อยนิ่งคิด ในโลกของไสยศาสตร์ที่เขาคุ้นเคย มันมีอะไรมากมายกว่าที่ก้องภพรู้มากนัก

“ผมว่า เราเดินซ้ำทางเดิมแล้วพี่ก้อง

เขารำพึงเบาๆ แต่ก็ทำให้ก้องภพขมวดคิ้วนิ่งคิด

สิงขรถอนหายใจ ก่อนหลับตาลงแล้วตั้งจิตอธิษฐานถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกกล่าวถึงความจำเป็นต้องดั้นด้น

มาถึงที่นี่ เขาเชื่อว่าความตั้งใจดีของเขาจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดี



ทันทีที่สิงขรลืมตาขึ้น สิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้หนุ่มน้อยยิ้มได้อย่างพอใจ ต่างจากก้องภพที่ถึงกับอ้าปากค้างเมื่อ

เห็นภาพตรงหน้า

ต้นไม้ใหญ่ขนาดหลายคนโอบหลายต้น ค่อยๆเคลื่อนย้ายตัวเอง ราวกับภาพสามมิติ เผยให้เห็น ภูเขาสูง

ขนาดย่อม ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าโดดเดี่ยวแยกห่างจากภูอื่นๆในเทือกเขา

ผู้หมวดหนุ่มก้มลงมองแผนที่ในมือ สลับกับภูเขาลูกนั้น ขึ้นๆลงๆอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อภูเขาลึกลับ

ที่ปรากฏขึ้นเติมเต็มให้รูปในแผนที่นั้นสมบูรณ์แบบ

“เฮ้ย เป็นไปได้ยังไงวะ

ก้องภพสบถออกมา สิงขรก้าวมายืนเคียงข้าง

“ไม่มีอะไรหรอกพี่ก้อง แค่เจ้าป่าเจ้าเขาบังตาจนเราเดินทางช้าไปสามสี่วันเองพี่ ไป เถอะ เสียเวลามาหลาย

วันแล้ว เร่งกันหน่อย

หนุ่มน้อยตบไหล่คนที่ยืนข้างกายพลางชักชวนให้ก้าวเดินต่อไป






ก้องภพและสิงขรเดินทางมาถึงปากถ้ำเมื่อแสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้วน่าแปลกที่เมื่อยืนอยู่ตรงจุด

นี้ เสียงหรีดหริ่งเรไรที่เคยร้องลั่นดังก้องป่ากลับสงบเงียบ จนวังเวง

ก้องภพสบตากับสิงขรเป็นเชิงถาม ว่าหนุ่มน้อยจะทำเช่นไรต่อเมื่อมาถึงที่นี่

“ผมจะเข้าไป

สิงขรตัดสินใจ

“รอเช้าไม่ดีกว่าหรือ เข้าไปตอนนี้มันอันตรายนะ

ก้องภพทักท้วง

“ไม่ได้หรอกพี่ก้อง ต้องตอนกลางคืนอย่างนี้แหละ เหมาะแล้ว

สิงขรล้วงหยิบไฟฉายในกระเป๋าเป้ มาส่องเข้าไปภายในถ้ำ แล้วก้าวเดินนำไปด้านใน



ภายในถ้ำมืด และอับชื้นมีเพียงแสงไฟฉายของสิงขรที่ส่องแสงนำทาง

จนก้าวล่วงมาถึงกลางถ้ำที่กว้างกว่าส่วนที่เขาทั้งสองเดินผ่านมา หยดน้ำเล็กๆ หยดลงมาอย่างสม่ำเสมอ

จนส่วนหนึ่งของถ้ำเป็นแอ่งน้ำขนาดย่อมและปรากฏหินย้อยส่องแสงล้อเล่นกับแสงไฟในมือสิงขร

หนุ่มน้อยมองไปรอบๆถ้ำ ก่อนจะหลับตาลงทำสมาธิ แล้วท่องอะไรบางอย่างที่ก้องภพไม่เข้าใจออกมา

แผ่วเบาแทบจับใจความไม่ได้ แล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง

สิงขรเดินตรงไปที่ผนังถ้ำด้านหนึ่ง โดยมีก้องภพเดินตามไปอย่างใกล้ชิด สิงขรจ้องไปที่ผนังพลางส่อง

ไฟฉายไปที่จุดๆหนึ่ง แล้วก็เกิดรอยยิ้มพึงใจ

มันคือของเหลวข้นเหนียวปริมาณเพียงเล็กน้อยติดหนึบอยู่ที่ผนังถ้ำ เมื่อส่องไฟไปมันส่องแสงเป็นสีเขียว

ใสแวววาวคล้ายสีปีกแมลงทับ  ก้องภพแทบไม่เชื่อสายตา

“ไม้ อย่าบอกนะว่าที่แกบากบั่นมาถึงนี่เพราะไอ้เจ้าสิ่งนี้

ผู้หมวดหนุ่มหลุดคำพูดออกมา

ของเหลวเหนียวข้นเหมือนมีชีวิตเมื่อได้ยินเสียงก้องภพ มันขยายตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนส่องแสงเขียวสดขึ้นราว

กับไม่พอใจ ยิ่งเมื่อผู้หมวดหนุ่มทำท่าจะเข้าไปจับ มันทำท่าจะซึมหายเข้าไปในผนังถ้ำ

“พี่ก้อง อย่าทำอย่างนั้น

หนุ่มน้อยรีบห้ามเสียงหลง ก่อนจะค้นหยิบกล่องใบน้อยออกมาจากเป้อย่างรวดเร็ว

กล่องใบน้อยมีฝาปิด และที่ฝามีอักขระโบราณที่ก้องภพอ่านไม่ออก สิงขรเปิดฝามันออกแล้วท่องมนตร์

เบาๆ ก่อนที่จะยื่นแขนให้กล่องใบน้อยอยู่ใต้ของเหลวเหนียวข้นนั้น

ก้องภพแทบจะตาเหลือกกับภาพที่เห็น เมื่อเจ้าของเหลวสีเขียว ค่อยๆไหลลงมาเข้าสู่ภายในกล่องด้วยตัวของ

มันเองจนหมด  แล้วสิงขรก็ปิดฝายิ้มกริ่ม

“ไอ้ไม้ แกบอกพี่มาที ว่าสิ่งที่แกตามหามันคืออะไร

หนุ่มน้อยหันไปสบตากับก้องภพ

“เราเรียกว่า เหล็กไหล ขอรับพี่ก้อง









สิงขรค่อยๆ เดินลงจากปากถ้ำอย่างอารมณ์ดี เมื่อเขาได้ในสิ่งที่ต้องการโดยมีก้องภพเดินตามมาติดๆ 

ป่ากว้างไม่ได้มืดมิดนักเมื่อออกมาจากถ้ำ เนื่องด้วยแสงจันทร์ดวงใหญ่เกือบเต็มดวงนั้นส่องแสงสกาวไปทั่ว

ป่าแต่เมื่อเดินลงไปได้เพียงครึ่งทาง เขาก็ต้องชะงักงันและขนลุกเย็นวาบไปตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อเงยหน้า

เห็นเงาร่างที่ยืนขวางทางอยู่ไม่ไกลในความมืด

ก้องภพที่เดินตามมาหยุดเกือบไม่ทัน และเมื่อเขาเงยหน้ามองก็เป็นอีกคนที่นิ่งอึ้ง

“เฮ้ย อะไรอีกวะเนี่ย

ก้องภพอุทานอย่างไม่เชื่อสายตา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2014 22:32:45 โดย Belove »

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ตามมาอ่านอีกเรื่อง โพสต์ได้ยาวดีจัง ขออ่านก่อนนะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                      Only love is real

                         ให้รักนำทาง

                       บทที่ 17 ปะทะ


ร่างโปร่งบางคุ้นตาในชุดดำกลมกลืนกับความมืดค่อยๆก้าวเดินมาช้าๆ และเมื่อมาหยุดยืนในที่โล่ง

แสงจันทร์ที่พาดผ่านทำให้มองเห็นใบหน้านั้นชัดเจนขึ้น

ก้องภพถึงกับนิ่งอึ้ง และมองหน้าบุคคลที่มาใหม่กับคนที่ยืนเคียงข้างสลับไปมา

จะไม่ให้ผู้หมวดหนุ่ม ประหลาดใจได้อย่างไร ในเมื่อสองคนนี้หน้าตาราวกับพิมพ์เดียวกัน

เพียงแต่คนที่ยืนเคียงข้างเป็นคนที่เขารู้จัก แต่สิงขรอีกคนนั่นเล่า

ก้องภพนึกย้อนความทรงจำไปถึงวันที่ไล่ตามใครคนหนึ่งที่ตลาดในเมือง แล้วคนๆนั้นหายวับไปต่อหน้า

ต่อตา และเขาก็เห็นเพียงแค่เบื้องหลัง จะใช่คนๆนี้หรือไม่

สิงขรคนใหม่ยิ้มเยือกเย็นส่งผ่านหน้าเขาอย่างไม่สนใจใยดีไปที่สิงขรคนเก่าที่ยืนเคียงข้างเขา

“ทำงานใช้ได้นี่ ได้ของมาในเวลาที่เหมาะสมพอดี ส่งมาให้เราเถอะ” 

สิงขรในชุดดำเดินมาหยุดอยู่หน้าสิงขนคนเก่า แล้วแบมือเป็นเชิงขอ ก้องภพเห็นสิงขรคนที่เขารู้จักรีบเดิน

ถอยหลังพลางหยิบกระเป๋าเป้มากอดไว้อย่างหวงแหน

“ไม่ได้ เราให้ไม่ได้หรอก เราไม่อยากให้นายทำเลวไปมากกว่านี้”

สิงขรในชุดดำใบหน้าเครียดบึ้งตึงอย่างรวดเร็ว เขาสาวเท้าไปใกล้สิงขรคนเก่าที่เดินถอยหลังขึ้นเนิน

อย่างหวาดกลัว

“บังอาจมาก คิดเหรอว่าจะขัดขวางเราได้ ลืมไปแล้วใช่ไหม ว่าเราเป็นใคร”

หนุ่มน้อยในชุดดำตวาดก้อง และเพียงวูบเดียวเขาก็เข้าถึงตัวคนที่คิดหนี แล้วใช้มือบีบคางสิงขรไว้

จนหน้าเหยเก ก่อนที่จะใช้อีกมือทาบไปที่ลำตัวของสิงขร

แสงแดงวาบสว่างขึ้นจากฝ่ามือ สิงขรคนเก่าตาเหลือกลานตะโกนก้องขึ้นอย่างเจ็บปวด

“โอ๊ย!!”

ก้องภพได้สติ เขารีบมองไปที่ร่างในชุดดำ แล้วส่งพลังผลักร่างนั้นจนกระเด็นห่างจากร่างคนที่เขารัก

ร่างของสิงขรคนที่ถูกทำร้ายร่วงลงทรุดนั่งกับพื้น ผู้หมวดหนุ่มถลาไปประคองอย่างเป็นห่วง

“นี่มันอะไรกันไอ้ไม้ ไอ้คนๆนี้มันเป็นใคร”

เขาตะโกนถามเสียงดัง ก่อนหันไปสบตากับสิงขรในชุดดำ




สิงขรในชุดดำนึกย้อนไปถึงวันที่เขาประทะพลังงานนั่นครั้งแรกที่ตลาด เขาเบิกตากว้าง

หรือว่าคนๆนี้จะเป็น...

เขาตะโกนเสียงดังจนสิงขรที่บาดเจ็บสะดุ้งเฮือก

“ทำไมมากับมันได้ รู้ว่ามันเป็นคนในตระกูลศัตรู ทำไมถึงพามันมา จะพามันมากำจัดเราใช่ไหม ไอ้คนทรยศ”

สิงขรที่ก้องภพประคองอยู่ส่ายหน้าปากคอสั่น

“ไม่ เราไม่ได้คิดกำจัดนาย เราไม่ได้ทรยศ แค่เราไม่อยากให้นายทำชั่วมากไปกว่านี้”

“หุบปาก”

สิงขรในชุดดำตวาดอย่างโมโหสุดขีด ดวงตาคมกริบจ้องไปที่แววตาแดงเรื่อของอีกคน ก่อนที่จะ

กระตุกยิ้มที่มุมปาก

“อ้อ เข้าใจแล้ว แกรักกับมันใช่ไหม ไอ้วันนั้นที่ความรู้สึกน่ารำคาญนั่นเกิดขึ้น เป็นเพราะแกมีอะไรกับ

ไอ้ผู้ชายคนนี้แล้วใช่ไหม”

สิงขรในชุดดำนึกไปถึงวันที่เขาออกจากฌานมาพักร่าง แล้วก็มีความรู้สึกหวามประหลาดผุดขึ้นมาใน

หัวสมอง ก่อนที่เขาจะส่งพลังเตือนไปที่หนุ่มน้อยตรงหน้า

“รักกันมากนัก ก็ตายๆไปซะทั้งคู่ อย่าอยู่ขัดขวางงานเราเลย”

สิงขรในชุดดำจ้องตรงมาที่ก้องภพและสิงขรคนเก่าอย่างโกรธขึ้ง แล้วเขาก็ท่องมนตร์

หนุ่มน้อยที่บาดเจ็บตาเบิกโพลงเมื่อเดาทางได้ เขาผลักร่างผู้หมวดหนุ่มไปอีกทางก่อนลำแสงสีแดง

ที่ปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือของสิงขรในชุดดำจะมาถึงตัว แล้วอาบไล้ร่างเขาไว้

“อ๊ากสสส” 

สิงขรคนเก่าตะโกนลั่น ตัวเหยียดแอ่นเกร็ง ตาเบิกโพลงอย่างเจ็บปวด

“ไอ้ไม้”

ก้องภพตะโกนอย่างเป็นห่วง ก่อนจะหันไปมองคนที่ทำร้ายคนที่เขารัก แล้วเพ่งพลังกระแทกร่างสุดแรงเกิด

จนร่างในชุดดำกระเด็นล้ม และลำแสงนั่นหยุดลง

ร่างของสิงขรคนเก่าร่วงลงไปนอนกับพื้นราวกับใบไม้ที่ตกจากต้น ส่วนสิงขรในชุดดำใช้มือกุมหน้าท้อง

ด้วยความเจ็บปวด และพยุงตัวเองลุกขึ้น ก่อนที่จะมองมาทางก้องภพอย่างเคียดแค้น

เขาหักห้ามความเจ็บปวดไว้ ท่องมนตร์อีกบท ส่งพลังนั้นมาทางก้องภพโดยตรง

ก้องภพกระโจนหลบ แต่ลำแสงนั่นก็เฉียดท่อนแขนเขาไปจนเกิดรอยไหม้สีกระดำกระด่างอยู่บนเนื้อแขน

เมื่อผู้หมวดหนุ่มหันกลับมามองอีกที สิงขรในชุดดำก็หันหลังวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ก้องภพรีบวิ่งตามไปอย่าง

กระชั้นชิด

แต่ร่างในชุดดำนั่น อยู่ๆ ก็กลายเป็นฝุ่นควันหนาหนัก ก่อนจะกระจายตัวอย่างรวดเร็ว

แล้วก้องภพก็มองไม่เห็นสิงขรในชุดดำอีกเลย




ก้องภพมองตามอย่างเจ็บใจที่ปล่อยให้ทายาทสายเวทมนตร์คนสำคัญที่เขาเฝ้ารอมานาน

หลุดรอดไปได้เขา

สัญญากับตัวเอง ว่าเขานี่แหละจะเป็นคนกำจัดทายาทในตำนานคนนี้ ให้สิ้นซาก

ส่วนสิงขรในชุดดำ ก็โกรธไม่น้อยไปกว่ากัน ที่ไปดูถูกคนสายพลังจิต

ผู้ชายคนนี้กล้าแกร่งกว่าที่คิด เถื่อนดิบกว่าที่คาด

แต่ไม่เป็นไร..เขาเชื่อมั่นในเลือดทุกหยาดที่ไหลวนในร่างเขาเองนี่แหละ

จะเป็นคนกำจัดเจ้าผู้ชายทายาทสายพลังจิตคนนั้นเพื่อความมั่นคงของตระกูล





ก้องภพรุดกลับไปหาร่างที่นอนกองอยู่กับพื้นอย่างเป็นห่วง เขาคุกเข่าลงประคองร่างบางขึ้นมาแนบอก

สิงขรตัวร้อนผ่าว แถมบางส่วนในร่างกายมีรอยดำไหม้

“ไอ้ไม้ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ อยู่กับพี่ก่อน พี่รักแกนะโว้ย”

ก้องภพตะโกนใส่ร่างที่ไม่ได้สติ และลมหายใจแผ่วเบาในอ้อมกอด





DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่ก้องเก่งนะเนี่ย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                      Only love is real

                         ให้รักนำทาง

                        บทที่18 ช่วยชีวิต



ความรู้สึกละล้าละลังเกิดขึ้นกับผู้หมวดหนุ่ม เขาไม่เคยมีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลคนที่บาดเจ็บ

จากเวทมนตร์เลย จึงไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไรกับร่างที่หายใจรวยรินอยู่นี้

ห่วงหรือก็แสนห่วงสิงขรคนนี้ ส่วนอีกคนหนึ่งเขาบอกได้เลยว่าแค้นแสนแค้น

ถ้าสิงขรคนนี้เป็นอะไรไป เขาจะตามไปจัดการอีกคนหนึ่งให้สิ้นซากด้วยน้ำมือของเขา




ก้องภพกึ่งประคองกึ่งลากตัวสิงขรที่ไม่ได้สติ ให้มานอนหลบน้ำค้างที่ใต้ต้นไม้ เขาสละเสื้อที่ติดมา

ในกระเป๋าเป้ของเขาปูรองบนพื้นดิน ก่อนจะนำร่างบางของหนุ่มน้อยมานอนพักไว้ที่นี่

เป็นเวลาดึกสงัดแล้ว อากาศหนาวเหน็บจับใจ  ร่างที่อ่อนแอของสิงขรเริ่มออกอาการสั่นสะท้านจากตัว

ที่ร้อนราวกับไฟ ผู้หมวดหนุ่มถอดแจ็คเก็ตลายทางตัวหนาของตัวเองมาห่มเพิ่มความอบอุ่นให้สิงขร

ชายหนุ่มร่างแกร่งเหลือเสื้อยืดตัวบางห่อหุ้มร่างกาย รู้สึกหนาวจนขนลุก แต่เขายอมสละเพื่อให้สิงขรอาการ

ดีขึ้น

เขาเร่งก่อกองไฟใกล้ๆ เพื่อขับไล่ความหนาวเย็นและป้องกันสัตว์ร้าย ก็พอจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง

ก้องภพลุกไปใช้มือแตะที่แขนของหนุ่มน้อยอีกครั้ง อุณหภูมิยังไม่ลดลงเลย การใช้มนตราในการทำร้ายผู้อื่น

ผลมันช่างรุนแรงยิ่งนัก

ผู้หมวดหนุ่มล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้ใบเก่ง แล้วควานหาจนเจอผ้าขนหนูผืนเล็กที่มักจะติดกระเป๋าไว้

แล้วคิดหาน้ำที่จะมาเช็ดตัว เขายกกระติกน้ำขึ้นมาดู ยังคงเหลือน้ำอยู่เต็มกระติกแต่ถ้าใช้หมดแล้ว

จะไม่มีเอาไว้เผื่อยามกระหาย คิดไปถึงน้ำในบ่อที่พบในถ้ำ แต่ถ้าเขากลับขึ้นไป มันก็ไกลเกินกว่า

ที่จะทิ้งสิงขรไว้คนเดียวได้

ก้องภพค่อยๆเทน้ำจากกระติกลงบนผ้าขนหนูช้าๆ น้ำแต่ละหยดมีค่าเสมอเมื่ออยู่ในป่า ก่อนที่เขาจะบรรจง

เช็ดตัวให้หนุ่มน้อยเพื่อลดไข้จากปลายแขนเข้าสู่หัวใจ ผู้หมวดหนุ่มค่อยๆ เลิกเสื้อยืดของหนุ่มน้อยขึ้น

“โธ่เว้ย”

เขาสบถเสียงดังลั่นเมื่อมองเห็น รอยช้ำเป็นสีม่วงคล้ำขนาดใหญ่ที่กลางลำตัว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สิงขร

ไม่ได้สติอยู่ในตอนนี้

ก้องภพตัดใจข่มความแค้นลง แล้วมุ่งความสนใจมาที่หนุ่มน้อยตรงหน้า เขาบรรจงเช็ดตัวให้สิงขรเท่าที่

จะทำได้ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มเนียนที่บัดนี้ขาวซีด

“ไม้ แกอย่าเป็นอะไรนะ พี่ยังฟังแกร้องเพลง รักนิรันดร์ ไม่จบเพลงเลย ลุกขึ้นมาร้องเพลงให้พี่ฟังก่อน

นะ”









ก้องภพแหงนหน้ามองดวงตะวันชิงพลบลับขอบฟ้าอย่างโผเผล ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าที่เขานั่งเฝ้าพลางดูแล

สิงขรอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อดึกสงัดที่ผ่านมาจวบจนกระทั่งหนึ่งวันผ่านไป เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะสิ้นแสงลงอีก

รอบ

เขายกกระติกน้ำขึ้นส่อง ไม่มีน้ำเหลืออีกแล้ว มันหมดไปตั้งแต่เมื่อบ่ายที่เขาประคองสิงขรมาดื่มน้ำหยด

สุดท้าย นั่นหมายความว่า ตอนนี้เขาและสิงขรขาดน้ำและอาหารโดยสิ้นเชิง

ตัวที่ร้อนราวกับไฟของสิงขรเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ยังคงมีอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติอยู่เล็กน้อย ลำตัวที่มีรอยไหม้

ช้ำจางลงบ้างแล้ว แต่หนุ่มน้อยก็ยังไม่ได้สติ นี่สิที่ก้องภพเป็นห่วง

เขานั่งชันเข่าแล้วซุกหน้าลงกับเข่าของตนอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพึมพำจากสิงขร

ผู้หมวดหนุ่มผวาเข้าไปหาร่างที่เริ่มขยับตัว แขนสองข้างไขว่คว้าอากาศ พึมพำไม่ได้สติ เขาจับมือสองข้าง

ของสิงขรไว้ในอุ้งมือ

“ไม้ ไอ้ไม้ ตื่นได้แล้ว พี่อยู่นี่”

เขาเรียกสติหนุ่มน้อยกลับคืนมา

สิงขรลืมตาช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ กะพริบตาเพื่อปรับระดับสายตาให้คงที่ จึงได้เห็นใบหน้าที่วนเวียนอยู่ใน

ความคิดลอยเด่นอยู่ตรงหน้า

“พี่ก้อง”

หนุ่มน้อยค่อยๆเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ก้องภพยินดีอย่างที่สุด

“เป็นยังไงบ้าง ไม้”

ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยอย่างสงสาร สิงขรหลับตาลงอีกครั้งแล้วพึมพำอย่างยากเย็น

“เจ็บคอ”

มันเนื่องมาจากอาการขาดน้ำนั่นเอง ก้องภพก้มมองริมฝีปากนุ่มที่ตอนนี้กลับซีด แตกระแหงเป็นขุยอย่าง

สะท้อนใจ เขาภาวนาครั้งสุดท้ายขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ก่อนที่จะเททุกสิ่งทุกอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้

ของเขา

ส้มป่าลูกเล็กตกลงมาจากกระเป๋าร่วงลงสู่พื้นดินดังตุ้บ ก้องภพรีบตะครุบมันไว้อย่างดีใจ เขารีบเข้ามา

ประคองสิงขรให้มาอยู่ในอ้อมแขนข้างหนึ่งของเขาแล้วแกะเปลือกส้มออกส้มป่าลูกเล็กเก่าแคระแกนที่

เก็บไว้หลายวันแทบจะไม่มีน้ำ ก้องภพบรรจงบีบมันที่มุมปากแตกซีด เพื่อให้น้ำจากกลีบส้มค่อยๆไหลเข้า

ไปเพิ่มความชุ่มฉ่ำในช่องปากของคนที่อยู่ในอ้อมแขน



ถึงตอนนี้ ผู้หมวดหนุ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่ดวงตาและแสบชื้นที่จมูกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาแปลกใจจนต้องตั้งคำถามจากตัวเอง คำตอบที่ได้คือ เขากำลังจะร้องไห้

ร้องไห้ให้กับชะตากรรมที่น่าสงสารของคนที่เขายอมรับกับตัวเองว่า รักสุดใจ

สิงขรเผยอริมฝีปากรับอย่างอัตโนมัติด้วยความหิวกระหาย จนกระทั่งส้มกลีบสุดท้ายจากมือของก้องภพ

สิงขรลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสติกลับคืนมามากขึ้น เขาสบตากับคนที่ประคองเขาไว้ในอ้อมแขน

“ขอบคุณนะ พี่ก้อง”

หนุ่มน้อยเอื้อมมือไปไล้ที่ใบหน้าของก้องภพเบาๆ ความรักที่มีให้มันมากล้น จนกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำใส

ไหลกลิ้งลงมาตามร่องแก้ม

ก้องภพก้มลงไปจูบพรมบนใบหน้าและเปลือกตาซับน้ำตาให้จนแห้งสนิท ก่อนจะเลื่อนลงไปจุมพิตเบาๆ

ที่ริมฝีปากแห้งแตกระแหงนั้น เนิ่นนาน

ดวงตาสองคู่สบกันอีกครั้ง เมื่อผู้หมวดหนุ่มถ่ายถอนริมฝีปากออก

“พี่ก้อง”

สิงขรเอ่ยขึ้น

“ถ้าผมจะขอให้พี่มอบความสุขให้ผมสักครั้งในชีวิต พี่จะให้ได้ไหม”




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2014 12:57:54 โดย Belove »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด