<< OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>  (อ่าน 79068 ครั้ง)

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                             Only Love Is Real

                                                               ให้รักนำทาง


                                                             บทที่
19 ความสุข


ก้องภพก้มลงไปจูบที่เปลือกตาหวานซึ้งอีกครั้งแทนคำตอบ เขาวางสิงขรอย่างเบามือลงบนเสื้อที่เขาปูไว้

ให้หนุ่มน้อยนอนตลอดเวลาที่ไม่ได้สติ

ผู้หมวดหนุ่มถอดเสื้อยืดของสิงขรออกช้าๆ เผยให้เห็นชัดถึงรอยช้ำไหม้เกือบตลอดทั้งลำตัว เขาเอื้อมมือไปแตะ

เบาๆอย่างสงสาร ก่อนที่จะก้มลงไปพรมจูบทั่วบริเวณเหล่านั้นราวกับจะปลอบประโลม แล้วเขาก็ปลด

กางเกงยีนส์ของสิงขรออกไปจากตัวจนเจ้าของร่างนอนสั่นสะท้านเปลือยเปล่าอยู่ท่ามกลางความมืดมิด

ในป่ากว้าง

ก้องภพปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองตามมา แล้วเอนตัวแนบกายทาบทับร่างที่อุณหภูมิเริ่มร้อนราวกับไฟสุม

เขาเอียงหน้าไปจุมพิตริมฝีปากแตกซีดนั่นอีกครั้ง คราวนี้เขาขบเม้มและดูดดึงริมฝีปาก ก่อนจะส่งปลายลิ้น

อุ่นเข้าไปคลุกเคล้าในช่องปากของหนุ่มน้อย มือแกร่งวางทาบไปบนเนื้อตัวลูบไล้อย่างหวงแหน

เขาถอนจุมพิตก่อนที่จะลากริมฝีปากมาขบเม้มไปทั่วร่าง หนวดเคราดกครึ้มของผู้หมวดหนุ่มบดไถไป

ตามเนื้อตัวยิ่งเพิ่มความรัญจวนจนคนที่อ่อนประสบการณ์ต้องบิดกายและส่งเสียงครางแทบไม่เป็นภาษา

สิงขรสะท้านราวกับมีคนนำน้ำแข็งมาวางบนร่างทุกครั้งที่มือและริมฝีปากที่มีไรหนวดของก้องภพสัมผัส 

มันช่างอ่อนโยนที่เขาแตะต้อง แต่มันก็ทำให้หนุ่มน้อยสะดุ้งอยู่ร่ำไป จนต้องแอ่นกายรับสัมผัสที่ไม่มีว่างเว้น

ก้องภพแยกขาของสิงขรออก เขาเลื่อนตัวเองจนจุดกึ่งกลางร่างทั้งสองมาบรรจบกัน ก้องภพโน้มตัวไปจุมพิต

ที่หน้าผากมนของสิงขร แล้วเกลี่ยผมที่เริ่มยาวรุงรังมาปรกหน้าเบาๆ มือสากกอบกุมสิ่งหวงแหนของอีกฝ่ายไว้

บดเบียดด้วยปลายนิ้ว ปลุกเร้าอารมณ์จนหนุ่มน้อยหอบหายใจเร็วถี่ยิบ สองแขนเรียวคล้องไปรอบคอเหนี่ยวให้

ร่างกายยิ่งแนบเนื้อ เสียงครางแผ่วหลุดออกมาล่องลอยไปกับสายลมหนาวยามราตรี

ผู้หมวดหนุ่มส่งปลายนิ้วไปทักทายเส้นทางรัก นวดคลึงเบาๆ จนคิ้วโก่งที่ขมวดแน่นเพราะรู้สึกเจ็บเริ่มคลายลง

เขารอจนถ้ำน้อยเริ่มชื้นแฉะได้ที่ ก้องภพจึงได้กระซิบเสียงกระเส่าที่ข้างหู

“ความสุขของพี่ คือการที่ไม้มีความสุข”     

ทันทีที่เขาพูดจบ ก้องภพก็แทรกกายที่แข็งแกร่งเข้าไปในร่างของสิงขร

หนุ่มน้อยสะดุ้งเฮือก ความเจ็บแปลบซ่านเข้ามาจนแทบจะตะโกนก้อง แต่มันก็ถูกดูดซับด้วยริมฝีปากของ

ก้องภพจนเสียงนั้นกลายเป็นแค่เสียงอึกอักอยู่ในลำคอ

สิงขรเขยิบตัวหนีตามสัญชาตญาณ แต่ก้องภพก็รั้งสะโพกนั้นไว้ ผู้หมวดหนุ่มขยับตัวให้หนุ่มน้อยรู้สึก

สบายขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะยกสะโพกสิงขรขึ้นสูงอีกเล็กน้อย แล้วเขาก็ดันร่างตัวเองจนสุดตัว

สิงขรเกร็งร่างรับ สองมือของเขาตะปบเข้าที่แผ่นหลังของผู้หมวดหนุ่ม แล้วกอดรัดร่างนั้นให้แน่นเข้าด้วย

สัญชาตญาณ จนก้องภพเองก็เผลอครางเบาๆ แม้ริมฝีปากจะยังคลอเคลียอยู่ที่ยอดอกสีสวยของหนุ่มน้อย

ที่เขาทั้งงับ โลมเลียจนมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเขา

ความรู้สึกแปลกใหม่เริ่มเกิดขึ้นแทนความเจ็บปวด ก้องภพควบคุมจังหวะจนสิงขรต้องบิดกายและคราง

เบาๆ เมื่อความรัดรึงบีบเค้นเริ่มมาเยือน

“โอ๊ะ..พี่ก้อง ผม..ผม..อื้อ..

หนุ่มน้อยครางไม่เป็นภาษา แทบบอกความรู้สึกไม่ถูกเมื่อกล้ามเนื้อส่วนนั้นมันเร้นรัดอย่างที่เขาบังคับตัวเอง

ไม่ได้  ยิ่งผู้หมวดหนุ่มคุมเกมส์ถี่กระชั้นเขายืดตัวสูงและดึงสะโพกหนุ่มน้อยให้รับกับหน้าขาก่อนเร่งจังหวะ

สุดท้ายเร็วรัว

กล้ามเนื้อในร่างหนุ่มน้อยบีบอัดอย่างชัดเจน จนสิงขรรู้สึกเหมือนมีพลุระเบิดไปทั่วร่าง แสงระยิบระยับ

พร่างพราวอยู่ในหัว

ความปีติเป็นสุขเกิดขึ้นในใจมหาศาล จนผลิตเป็นหยาดน้ำตาหยดรินลงมาจากหางตาลงสู่พื้นดิน








สิงขรในชุดดำสะดุ้งเฮือกอยู่บนที่นอนในบ้านกลางหุบเขา เมื่ออยู่ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็พุ่งตรงจู่โจมเข้ามา

แทนที่ความเจ็บปวดที่ได้รับจากการต่อสู้ มันเป็นความรู้สึกหวามไหวประหลาดที่เขาไม่รู้จักมาก่อน จนตัว

สั่นสะท้านไปทั้งร่าง

เขาใช้สองแขนกอดตัวเองไว้ แล้วนอนคู้ตัวเหมือนเด็กในครรภ์มารดา ราวกับมันจะช่วยกำจัดเจ้าความรู้สึก

บ้าๆ นี่ออกไปได้สำเร็จ








แสงแห่งอรุโณทัยขับเคลื่อนจนขอบฟ้าทิศตะวันออกเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ อากาศที่หนาวเหน็บก่อให้เกิด

ฝ้าละอองแห่งไอหมอกระเรี่ยอยู่ตามพื้นดินบนเขาสูงจนมองแล้วคล้ายกลุ่มไอสีขาวได้ล้อมรอบยอดภูสูง

เหล่านั้นไว้

สิงขรค่อยๆกะพริบตาเมื่อตื่นจากหลับใหลในท่านอนตะแคงคุดคู้อยู่ ก่อนที่เขาจะตั้งสติและสำรวจตัวเอง

แล้วหนุ่มน้อยก็ร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้าเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อราตรีที่ผ่านมา

และยิ่งรู้สึกถึงท่อนแขนที่พาดผ่านลำตัวกอดรัดจนไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวเหน็บ มาจากคนที่ยังหลับสนิท

อยู่เบื้องหลัง ความอบอุ่นก็ยิ่งบังเกิดขึ้นในใจ จนอดอมยิ้มอยู่คนเดียวไม่ได้

ท่อนแขนแกร่งที่วางแนบลำตัวขยับรัดจนร่างสิงขรแนบไปกับคนที่เป็นเจ้าของท่อนแขนนั้น

ก่อนที่หนุ่มน้อยจะรู้สึกถึงจุมพิตเบาๆที่ต้นคอ

“ตื่นแล้วหรือ

เสียงอบอุ่นดังขึ้นใกล้ๆหูของสิงขร  ก้องภพดึงร่างที่นอนตะแคงหันหลังให้หันกลับมานอนสบตากับเขาจน

ได้   ผู้หมวดหนุ่มจูบเบาๆที่หน้าผากของหนุ่มน้อย

“สวัสดีปีใหม่นะ ไม้

สิงขรอ้าปากหวอ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นมากมายจนเขาแทบจะลืมวันลืมคืนไป

แล้ว

“สวัสดีปีใหม่ฮะ พี่ก้อง

หนุ่มตาหวานอมยิ้ม ทักทายตอบ

“เมื่อคืนหลับสนิทดีไหม

ก้องภพถามเจือรอยยิ้ม จุดประกายแดงเรื่อ ไปทั่วแก้มเนียนของอีกฝ่าย

“จะสนิทได้ไงเล่า พี่ก้องนี่นะ

สิงขรก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาวิบๆวับๆของอีกฝ่าย

ก้องภพหัวเราะอย่างพอใจ ก่อนจูบแรงๆที่แก้มเนียนนั้น แล้วเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับช่วยพยุงสิงขรให้ลุกนั่ง

“หิวแล้ว ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาวันกว่า จะออกไปหาอาหาร ก็กลัวแกจะเป็นอันตราย

ก้องภพพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น ก่อนที่จะหันไปพิจารณาสิงขร เมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ยามเช้าส่อง

เต็มที่

ใบหน้าที่ขาวซีดเมื่อวันที่ผ่านมา วันนี้ดูแจ่มใสมีเลือดฝาดมากขึ้น ตัวที่ร้อนราวกับไฟก็ลดลงจนแทบจะเป็น

ปกติ รอยไหม้ช้ำที่กลางลำตัวก็จางลง จนไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง

“พี่จะออกไปหาอาหารกับน้ำ แกอยู่ดูแลตัวเองพอได้แล้วใช่ไหม

เขาป้อนคำถามไปที่ธนทัต หนุ่มน้อยพยักหน้าอย่างมั่นใจ

“งั้นก็ดีแล้ว รอพี่อยู่ที่นี่ พี่ไปไม่นานหรอก

ก้องภพยิ้มให้ ก่อนที่จะจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากของสิงขรแล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินลงไปจากเนินเขา

ทันทีที่ร่างของก้องภพลับสายตา รอยยิ้มที่หนุ่มน้อยมีก็ค่อยๆลดลง จนเหลือแต่สีหน้าที่เป็นกังวล

วันนี้คือวันปีใหม่ เวลาที่มีดูจะน้อยลงไปเรื่อยๆ เมื่อนึกถึงพิธีกรรมที่ใครอีกคนต้องการให้เกิดขึ้น

โชคดีที่เมื่อวันที่พบเหล็กไหลได้ก้องภพช่วยไว้ และเป็นวันพระจันทร์ข้างขึ้น ทำให้พลังของอีกคนลดน้อย

ถอยลงไม่เช่นนั้น ของศักดิ์สิทธิ์ชิ้นสุดท้ายนี้ต้องตกไปถึงมือคนๆนั้นอย่างแน่นอน

สิงขรเงยหน้ามองท้องฟ้าราวกับจะมองให้ทะลุไปถึงคนที่ขีดเส้นชะตากรรมของเขาไว้ ถ้ามันเป็นทางเดียว

ที่เขาจะช่วยไม่ให้ความเลวร้ายบังเกิดขึ้นได้ เขาจะยอมรับมัน

หนุ่มน้อยคว้ากระเป๋าเป้ที่บรรจุสิ่งสำคัญไว้ แล้วหยิบกล่องที่บรรจุเหล็กไหลขึ้นมา  เหล็กไหลสีเขียวนี้

นับว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีค่ามาก เหล็กไหลมีชีวิตของมันเอง ชอบความเย็น เงียบ และที่สำคัญ มันจะอยู่กับ

คนดี

สิงขรนั่งขัดสมาธิ วางกล่องบรรจุเหล็กไหลตรงหน้า ก่อนที่จะระลึกถึงพระรัตนตรัย เขาบอกกล่าวถึง

วัตถุประสงค์อยู่ในใจ พลางอธิษฐาน แล้วจึงกำหนดใจทำสมาธิ

จนเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็บังเกิด


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2014 13:36:05 โดย Belove »

ออฟไลน์ omelet

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ตามจนถึงตอนล่าสุดล่ะคะ

ชอบมากๆนะคะ รอติดตามอ่านอยู่คะ ดูยังมีปม/ความลับอยู่ไม่น้อย

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
จะเกิดอะไรขึ้นกับเหล็กไหลล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                Only love Is Real

                                                     ให้รักนำทาง

                                               บทที่ 20 ทำไมต้องมีอีกคน


ของเหลวเหนียวข้นสีเขียวใสคล้ายกับปีกแมลงทับ ค่อยๆ ลอยออกจากกล่อง สูงขึ้น สูงขึ้น

มันมาหยุดอยู่กลางศีรษะของสิงขร สงบนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเลื่อนต่ำลงมาวางตัวแนบสนิทกับกลุ่มผมนุ่ม

ของเขา และค่อยๆ ซึมลงเข้าไปในร่างของสิงขรจนหมด แล้วร่างของหนุ่มน้อยก็ปรากฏเป็นไอสว่างสีเขียว

นวลไปตลอดทั้งตัว

ก้องภพเดินขึ้นเนินเขากลับมา เขาหอบหิ้วทั้งผลไม้กระติกใส่น้ำดื่ม รวมทั้งปลาแม่น้ำตัวเขื่องกลับมาด้วย

แต่เมื่อเห็นคนที่เขานอนกอดตลอดทั้งคืนมีสภาพอย่างนี้ก็ตกใจจนแทบสิ้นสติเขาโยนเสบียงทั้งหลาย ลงบน

พื้นแล้วรีบวิ่งมาที่ร่างของหนุ่มน้อย

“ไอ้ไม้

ก้องภพเรียกเสียงดัง สิงขรค่อยๆ เรียกตัวเองให้คืนจากสมาธิ แล้วกะพริบตาปริบๆมองก้องภพที่ยืนหน้าเครียด

“เสียงดังไปได้พี่ก้อง

หนุ่มน้อยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ ไอสีเขียวจางหายไปจนหมด

“นี่เกิดอะไรขึ้นกับแก

คราวนี้เป็นก้องภพบ้างที่ยืนมองตาปริบๆ

ให้ตายสิ! เมื่อไหร่เขาจะคุ้นชินกับพวกวิชาอาคมเสียทีนะ

“ก็แค่หาที่เก็บที่ปลอดภัยให้เหล็กไหลเท่านั้นเอง

หนุ่มน้อยยักไหล่

“แกอย่าบอกนะ ว่าไอ้ที่เก็บอะไรของแกน่ะ มันคือ…”

ก้องภพนิ่งงันเมื่อคิดถึงสิ่งที่สิงขรทำลงไป

“ถูกแล้วพี่ก้อง ที่เก็บเหล็กไหลที่ดีที่สุด ก็คือร่างของผม

หนุ่มน้อยพูดเสียงเบา ยอมรับตรงๆ

ก้องภพใจหายวาบ เขาถลาเข้าไปเกาะกุมไหล่ทั้งสองของสิงขร

“แล้วแกลองบอกพี่มาซิ ว่าถ้าแกอีกคนหนึ่งที่มันเลวสิ้นดี คิดจะเอาเหล็กไหลไปให้ได้ มันจะต้องทำยังไง

สิงขรเงียบไปพักใหญ่ เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ดวงตาที่เงยขึ้นมาสบตากับผู้หมวดหนุ่มนั้น

จริงจัง ชัดเจน ก่อนที่จะพูดเน้นทีละคำ

“มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้น คือเขาจะต้องฆ่าผม










บ้านทรงไทยใต้ถุนสูงสร้างจากไม้สักมั่นคงแข็งแรง ตั้งอยู่โดดเดี่ยวในหุบเขาที่มีภูเขาสูงล้อมแทบจะทุกด้าน

เหมือนเป็นปราการชั้นเยี่ยมที่ช่วยปกป้องจากอันตราย

มันก็เหมือนตัวเขาที่จำเป็นจะต้องสร้างปราการทางจิตใจปกป้องตัวตนไว้  เมื่อรับรู้ถึง “หน้าที่” ตั้งแต่ยังเด็ก

ใครจะเข้าใจถึงความขมขื่นของเด็กชายคนหนึ่งที่ครอบครัวถูกกำจัดไปหมด เหลือรอดเพียงผู้เป็นปู่วัยชรา

ที่หอบหิ้วกันมาอยู่ที่นี่ และเพียรพยายามที่จะสั่งสอนให้ผู้เป็นหลานได้กอบกู้เกียรติยศกลับคืนมา

“จำไว้นะ สิงขร”

ผู้เป็นปู่มักจะเรียกเขาด้วยชื่อจริงอยู่เสมอ

“หลานเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านมนตรายิ่งกว่าใครในตระกูลเราที่ปู่เคยรู้ ปู่เชื่อว่าหลานนั่นเอง

คือคนในตำนาน คนที่จะเป็นจอมเวทที่ยิ่งใหญ่ หลานต้องฝึกตนเองเพื่อเตรียมพร้อมกับการ

ก้าวไปสู่จุดนั้น และปู่เชื่อว่าหลานทำได้”

ผู้เป็นปู่ยื่นตำราเก่าแก่กว่าที่เขาเคยเห็นมาตรงหน้า เขารับมันมาถือไว้ในมือน้อย

“ปู่รู้ว่าหลานเข้าใจทุกอักขระในมนตรา หลานต้องศึกษามัน พิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่เพื่อก้าว

ไปสู่ความเป็นเจ้าแห่งจอมเวท จงเตรียมตัวเตรียมใจเสีย ความรู้สึกอ่อนแอที่อยู่ในจิตใจ

หลานต้องกำจัดให้หมดสิ้น”

นั่นคือเหตุผลว่าทำไม จึงต้องมีเขาอีกคน กำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้







“ถึงเวลาที่จะเล่าให้พี่ฟังหรือยังว่าแกคือใคร แล้วไอ้แกอีกคน มันคือใคร”

ก้องภพถามขึ้น เมื่อเขาและสิงขรเริ่มต้นเดินทางกลับออกไปจากป่ากว้างแห่งนี้

“ผมก็คือคนที่ต้องทำงานให้เขา ในงานที่เขาทำไม่ได้ อย่างเช่นมาหาเหล็กไหลนี่ไง”

สิงขรตอบแบบกำปั้นทุบดิน ไม่ได้ให้ความกระจ่างใดๆแก่ก้องภพแม้แต่น้อย

“ทำไมหน้าเหมือนกันอย่างกะแกะ เป็นแฝดกันเหรอ” 

ผู้หมวดหนุ่มพยายามถามต่อ สิงขรนิ่งคิด

“ก็คงคล้ายๆอย่างนั้นแหละ พี่ก้อง เพราะความรู้สึกบางอย่างเราก็สื่อถึงกันได้ ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในสมาธิ”

“อย่างเช่นวันนั้นใช่ไหม วันที่เรา เอ่อ..จูบกันครั้งแรก”

คำถามนั้นเรียกเลือดฝาดขึ้นมาบนใบหน้าหนุ่มน้อย เมื่อย้อนคิดไปถึงวันแรกที่ต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน

ในโรงแรม แล้วเกิดเหตุแนบชิดแต่ก็ต้องหยุดมันลงด้วยพลังอะไรบางอย่างที่ขัดขวางไว้

“ก็อะไรทำนองนั้น”

สิงขรตอบอุบอิบ

“แล้วทำไมแกสู้มันไม่ได้ล่ะ”

ก้องภพยังคงตั้งคำถาม แม้จะกำลังเดินไต่ลงจากที่สูง

“ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นผู้นำนี่ ต้องเขาโน่นแหละ อัจฉริยะตัวจริง ผมมันก็แค่ไอ้คนอ่อนแอคนนึง”

สิงขรค่อนขอดตัวเองเสียงขื่น จนก้องภพต้องหยุดเดิน แล้วหันมาสบตา

“เป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว ถ้าเก่งแล้วต้องเหี้ยมโหด พี่ก็ไม่ไหวนะ พี่รักแกที่แกเป็นแบบนี้แหละ”

คำบอกรักง่ายๆนั่นเรียกเลือดลมมาเลี้ยงบนใบหน้าสิงขรได้ไม่น้อย

เขาทุบหลังก้องภพดังพลั่กแก้เขิน ก่อนที่จะรุนหลังให้ผู้หมวดหนุ่มเดินนำต่อ

“แล้วมันมีชื่อไหม พี่จะได้เรียกมันเวลาด่าได้ถูกตัว”

สิงขรนิ่งไปอีกรอบ คนๆนั้นมีชื่อแน่ จริงๆแล้ว ต้องถามเขาต่างหาก ว่าเขามีชื่อหรือเปล่า

“เขาชื่อ สิงขร”

“มันจะทำอะไรต่อไป ไอ้เจ้าสิงขรนี่” 

ก้องภพยังคงทำหน้าที่ซักฟอกต่อ

“ก็หาของศักดิ์สิทธิ์ให้ครบสามอย่าง ตามที่ตำราประกอบพิธีกรรมบอกไว้ เขาได้ไปสองอย่างแล้วคือ

เขี้ยวเสือไฟ กับ คตแก้วกายสิทธิ์ เหลืออย่างสุดท้ายคือเหล็กไหลในตัวผมนี่แหละ”

“แกจะต้องทำอย่างไรต่อล่ะไม้”

“หน้าที่ของผม คือ หนี”

สิงขรตอบเสียงจริงจัง

“เขาจะต้องประกอบพิธีกรรมในวันเกิดของเขา คืออีก สามเดือนข้างหน้า ผมมีหน้าที่คือหนี

ไม่ให้เขาฆ่าผมให้นานที่สุด อย่างน้อยก็ต้องหลังวันเกิดของเขา”




ไม่มีทางที่มันจะมาฆ่าแกได้ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่....

ก้องภพคิดในใจเพราะเขานี่แหละ จะตามหา และฆ่าไอ้คนที่หยิ่งยโสนั่นให้ตายไปตามบรรพบุรุษ

ก่อนถึงวันเกิดครบรอบยี่สิบปีของมัน

เขาสาบานในใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2014 13:52:57 โดย Belove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ปมเรื่องสิงขรและสิงขรนี่ต้องค่อยๆ คลายนะ
เดี๋ยวเรางง 555555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ความรู้สึกสื่อถึงกัน!!!!!
แล้วถ้าฆ่าสิงขรคนนั้น แล้วสิงขรคนนี้ล่ะจะไม่เป็นไรเหรอ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ  :mew1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
แฟนตาซีย้อนยุค น่าสนใจ

ทำไมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนไม้เป็นร่างอาคมของสิงขรเลย
อย่างนี้ถ้าฆ่าสิงขร ไม้จะตายด้วยรึเปล่า

รออ่านจ้ะ

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ลุ้นตามตลอดเลย
แต่แอบกลัวว่าถ้าสิงขรตาย
ไม้จะยังมีชีวิตได้มั้ย
ตกลงไม้เป็นใครกันแน่ ‼︎‼︎

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                            Only Love Is Real
                                               ให้รักนำทาง

                                          บทที่
21 เดินทางอีกครั้ง

“ถ้าแกจะหาที่หลบไอ้โหดนั่นให้พ้นละก็ ที่นี่แหละปลอดภัยที่สุดแล้ว


ก้องภพพูดขึ้นเมื่อเปิดประตูรั้วบ้านหลังหนึ่งแล้วเกาะเกี่ยวแขนสิงขรให้ก้าวเข้าไป เมื่อเขาและสิงขรเดินทาง

กลับมาจนถึงกรุงเทพ

สิงขรแหงนหน้ามองบ้านไม้สองชั้นที่สร้างกึ่งไทยปนยุโรปหลังเก่าแต่ยังคงความแข็งแรงหลังนั้น ก่อนที่จะ

หันมามองก้องภพอย่างสงสัย ผู้หมวดอมยิ้มแล้วหันมาตอบคำถามในใจหนุ่มน้อย

“บ้านพี่เองแหละ รกหน่อยนะ หนุ่มโสดอยู่คนเดียวก็เป็นอย่างนี้แหละ พ่อไม่อยู่ไปเมืองนอก”

“อ้าว แล้วทำไมพี่ไม้ไม่หาสาวมาดูแลให้ล่ะ จะได้ไม่รก”

สิงขรเอ่ยคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบที่แท้จริงสักเท่าไหร่นักออกมา ทำให้แขนแกร่งของอีกฝ่ายที่เกาะเกี่ยว

อยู่นั้นเลื่อนมาเป็นกุมมือเรียวนุ่มไว้ แล้วจับจูงให้เดินตามเข้าไปในบ้าน

“เมื่อก่อนก็มีเยอะคนมาดูแลน่ะ แต่คงต้องเลิกหมดแล้ว เจอตัวจริงแล้วนี่”

ก้องภพหันมาสบตาหวานซึ้งคู่นั้นอย่างมีความหมาย จนเจ้าของดวงตาต้องหลบสายตาไปทางอื่นด้วยความ

เก้อเขิน

“ทำเป็นพูดไป เดี๋ยวพอเจอคนอื่นพูดโน่นพูดนี่ใส่ ขี้คร้านพี่จะรีบถีบหัวส่งผมน่ะสิ”

คำพูดประโยคนั้นทำให้ก้องภพชะงัก เขาดึงสิงขรให้หยุดเดินอยู่ที่เชิงบันได มือที่จับจูงมือนุ่มปล่อยออก

ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองดึงไหล่ของสิงขรให้มาสบตากับเขา

“อย่าพูดอย่างนั้น ชีวิตของพี่ไม่เคยขึ้นอยู่กับสังคม พี่ไม่ได้สนใจว่าใครจะพูดยังไง เพียงแต่ช่วงแรกก็แค่ไม่

มั่นใจความรู้สึกของตัวเอง แต่เมื่อมั่นใจแล้ว ถึงตายพี่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ”

ผู้หมวดหนุ่มเอียงหน้าแล้วบรรจงกดริมฝีปากไปที่ปากนุ่มแนบสนิท และเมื่อเขาถอนจุมพิต สองมือที่กุม

ไหล่หนุ่มน้อย ก็ดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด มือแกร่งลูบที่ศีรษะสิงขรเบาๆ

“เชื่อมั่นในตัวพี่นะไม้”

สิงขรซุกหน้าลงกับบ่าที่รองรับ สองแขนของเขาสอดรอบตัวก้องภพแล้วกอดตอบ นึกขอบคุณทุกความรู้สึก

ที่ชายคนนี้มีให้

ผู้หมวดหนุ่มดันตัวสิงขรออกจากอ้อมกอดเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่บ่า เขาเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาให้

หนุ่มน้อยอย่างเบามือ

“อ้าว ร้องไห้อีกแล้ว ขี้แยเป็นเด็กน้อยเลยนะมึง ไปพักผ่อนกันเหอะ กว่าจะมาถึงบ้านเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว”

เสียงพูดดังๆนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากสิงขรได้แม้จะยังยกหลังมือเช็ดน้ำตาตัวเองอยู่ ก้องภพดึงแขนหนุ่ม

น้อยให้เดินตามขึ้นบันไดไปชั้นสอง

“แล้วพี่จะให้ผมอยู่ห้องไหนล่ะ”

คำถามนั้นจุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาบนใบหน้าคนที่เดินนำ

“แล้วมึงจะถามทำไม ในเมื่อคำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว ว่าพี่ไม่ยอมให้มึงนอนที่อื่นนอกจากห้องและเตียงของ

พี่”
 










ก้องภพลืมตาโพลงในความมืดเมื่อดึกสงัด เขาหันไปมองคนที่นอนตะแคงซุกร่างอยู่ข้างๆอย่างสำรวจ

เมื่อมั่นใจว่าสิงขรหลับสนิทเขาก็ค่อยๆดึงแขนของหนุ่มน้อยที่วางพาดลำตัวของเขาอย่างเบามือ แล้วลุกออก

จากเตียงเดินด้วยฝีเท้าเบากริบไปที่โต๊ะเก้าอี้ตัวเล็กมุมห้อง

ผู้หมวดหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์ใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วรูดซิปช่องเล็กที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าล้วงหยิบ

อะไรบางอย่างออกมา

เศษผ้าขาดสีดำชิ้นเล็กคือสิ่งที่ก้องภพหยิบมันออกมาจากกระเป๋า มันคือเศษผ้าที่มาจากสิงขรอีกคนหนึ่ง

ที่ถูกกิ่งไม้ในป่าเกี่ยวจนขาด เมื่อครั้งต่อสู้กับเขา

ด้วยความช่างสังเกตและสัญชาตญาณของอาชีพตำรวจ เขาจึงได้หลักฐานสำคัญชิ้นนี้มา มันจะเป็นตัวเบิก

ทางชั้นเยี่ยมที่จะทำให้เขาควานหาตัวทายาทแห่งมนตรามากำจัดให้ได้

ก้องภพกำมันไว้ในมือแล้วหลับตาลงส่งกระแสจิตไปที่เศษผ้าสีดำชิ้นเล็ก ภาพของคนที่หน้าตาพิมพ์เดียวกับ

คนที่เขารักวิ่งปราดผ่านมา ราวกับภาพยนตร์ที่ถูกฉายด้วยความเร็วแล้วก็ปรากฏภาพของบ้านทรงไทยหลัง

หนึ่งแวบเข้ามาในสมอง ชายหนุ่มรีบบันทึกลงไปในความทรงจำก่อนที่ภาพนั้นจะเลือนหายไป

ผู้หมวดหนุ่มค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น  รอยยิ้มพึงใจเกิดขึ้นบนใบหน้า แผนการเดินทางเพื่อกำจัดทายาทแห่ง

เวทมนตร์ เริ่มเกิดเป็นรูปร่างในห้วงแห่งความคิด

เขาจึงไม่ได้เห็นคนที่หลับสนิทบนเตียงนุ่มเบื้องหลัง ลืมตามองเขาด้วยความสงสัยตั้งแต่เขาลุกไปจากเตียง

แล้ว



12มกราคม 2529

“พี่จะไปทำงานต่างจังหวัด แกอยู่คนเดียวที่นี่ได้ไหม รับรองปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์”

ก้องภพพูดขึ้นตอนเช้าตรู่ของวัน เมื่อเขาคิดว่าร่างกายที่อ่อนล้าจากการเดินทางกลับจากภูเขาสูง มาพักผ่อนที่

บ้านหลายวันแล้ว ได้รับการฟื้นฟูสภาพจนกลับมาแข็งแกร่งและพร้อมที่จะเดินทางไกลอีกครั้ง

สิงขรเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ก้องภพยกแก้วกาแฟตรงหน้าขึ้นจิบโดยไม่ยอมสบตา

“ก็ไปสืบคดีทั่วๆไปนี่แหละ มันก็ต้องทำงานบ้างนะ เดี๋ยวโดนไล่ออกกันพอดี”

“แล้วพี่ก้องจะไปเมื่อไหร่”

หนุ่มน้อยถามอย่างนึกเป็นห่วง

“ก็ไปวันนี้แหละ”

ก้องภพถอนหายใจแล้วลุกเดินมาใกล้ เกี่ยวกระหวัดให้ร่างที่บางกว่าเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน เขากดริมฝีปากไป

ที่ไรผมหนุ่มน้อยอย่างหวงแหน ดวงตามีแววกังวลซ่อนอยู่

“อยู่คนเดียวก็ต้องระวังตัวด้วยนะ รู้ไหม”

สิงขรขมวดคิ้ว สบตาคู่นั้นอย่างค้นหา

“มันต้องเป็นผมไม่ใช่หรือที่ต้องบอกให้พี่ระวังตัว”

สิงขรลอบถอนหายใจ เขาปล่อยร่างบางนั้นให้เป็นอิสระ ก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋เป้คู่ชีพที่เตรียมพร้อมจะ

เดินทางมาแบกไว้ที่หลัง แล้วเดินมาหยุดยืนต่อหน้าและโน้มตัวไปจูบเร็วๆที่เรียวปากนุ่มนั้น

เขาหันหลังให้สิงขรแล้วเดินตรงออกไปจากตัวบ้าน แต่ก็ต้องหยุดยืนนิ่งอยู่กลางทางเดินก่อนถึงประตูรั้ว

เมื่อได้ยินเสียงเรียกดังขึ้น

“พี่ก้อง”

สิงขรก้าวยาวๆ มาหา แล้วดึงแขนให้ผู้หมวดหนุ่มหันมาเผชิญหน้า ดวงตาสองคู่สบกันอย่างล้ำลึก ก่อนที่

ร่างทั้งสองจะผวามากอดกัน

เรียวปากนุ่มของสิงขรเป็นฝ่ายกดเบียดแนบสนิท ก้องภพเผยอริมฝีปากให้อย่างเต็มใจและเรียกร้อง หนุ่ม

น้อยขบเม้มริมฝีปากของคนรักไว้อย่างอาวรณ์

“ปลอดภัยกลับมานะพี่ก้อง ไม่ว่าจะทำอะไรขอให้คิดเยอะๆ บางครั้งสิ่งเดียวที่พี่คิดจะทำ มันอาจจะส่งผลถึง

หลายสิ่งที่จะตามมา”

หนุ่มน้อยเอ่ยอย่างจริงจัง ดวงตาแดงเรื่อ

“และอย่าลืม ว่ามีผมที่คอยให้พี่ก้องกลับมาอย่างปลอดภัยอยู่ที่นี่ อย่าลืมนะ”

ก้องภพเอื้อมมือไปวางบนศีรษะของสิงขร เขายิ้มให้หนุ่มน้อยที่หน้าหวานราวกับผู้หญิงตรงหน้า

“พี่ไม่มีวันลืม”

เขาให้คำมั่น ก่อนที่จะตัดใจกลับหลังเดินตรงไปที่ประตูรั้ว

 
สิงขรหลับตาลงเพื่อที่จะไม่ต้องเห็นภาพที่ก้องภพก้าวเดินออกจากประตูรั้วนั้น
 







 --------------------------------------------------------------------


คนอ่านอาจจะสงสัยว่าทำไม เวลาในเรื่องมันต้องเป๊ะ
ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้มีที่มาจากแฟนฟิคนะคะ
แล้วคู่จิ้นที่นำมาแต่ง พระเอกเกิด 21 มกราคม
ส่วนนายเอกเกิด 30 มีนาคม
ซึ่งมันจะมีผลต่อเนื่องในเนื้อเรื่องเพื่อความฟินของขาจิ้นน่ะค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2014 22:08:55 โดย Belove »

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ขอบคุณครับ รอตอนต่อไปอยู่ครับ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
เราก็สงสัยเหมือนกันนะว่าถ้าสิงขรคนนึงต้องตายแล้วอีกคนล่ะถ้าสองคนเป็นแฝดก็คงอยู่ได้แต่ถ้าไม่ใช่แฝดแต่เป็นอีกหนึ่งคนที่แยกออกมาจากคนเดียวกันมันจะอยู่ได้เหรอ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                                  Only Love is real

                                                                    ให้รักนำทาง

                                                                  บทที่ 22 ต่อสู้


17 มกราคม 2529


ก้องภพวางกระเป๋าเป้ลงบนพื้นอย่างเหนื่อยล้า เขาเงยหน้ามองบ้านทรงไทยเก่าแก่ภายใต้การบดบังจาก

ต้นไม้ใหญ่อย่างพึงพอใจ ตระกูลแห่งเวทมนตร์เลือกชัยภูมิการซ่อนตัวได้ไม่เลวเลย เมื่อคิดถึงความ

ยากลำบากในการที่เขาติดตามหานานนับเป็นสัปดาห์

รั้วกว้างสร้างจากศิลาแกร่งหนา เก่าแก่ ถูกปกคลุมไปด้วยเถาไม้เลื้อยหลากชนิด ประตูรั้วเหล็กกล้า มีรอย

สนิมเกาะแต่ยังคงความแข็งแรงให้เห็นได้ชัด

ผู้หมวดหนุ่มกระตุกยิ้ม ถึงเวลาที่เขาจะทำลายล้างทายาทที่เหลือของคนที่ใช้มนตราให้สิ้นซาก ไม่นึกกลัว

เลยสักนิด เมื่อเขาเดินตรงไปที่รั้วเหล็กตรงหน้า แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ต้องชะงักเมื่อปรากฏบางสิ่งโผล่พ้นมา

จากพื้นดินตรงหน้าแนวกำแพงสูง

ร่างของซากศพเดินได้หลายตนยืดตัวสูงขึ้น พวกมันมองมาทางปรปักษ์เช่นเขาอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะพุ่ง

ตรงเข้ามาหมายเอาชีวิต

ก้องภพขมวดคิ้ว เขายื่นสองแขนออกไปจนสุดแล้วกำหนดพลังออกมา

ราวกับพลังนั้นจะระเบิดออกมาจากสองแขน อสุรกายบางตนก็ระเบิดแหลกสลาย บางตนก็คล้ายกับถูกบีบ

รัดที่คอจนขาดกระเด็น เวลาเพียงไม่นาน ทุกอย่างก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

คนมาเยือนเดินตรงเข้าสู่ประตูรั้ว ลองออกแรงขยับแต่ก็ไม่สำเร็จ จนเขาต้องออกแรงใช้พลังพิเศษอีกครั้ง






เปลือกตาที่ปิดบังดวงตาคมอยู่เปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าของรู้สึกถึงพลังงานแปลกปลอมบางอย่างที่รุกล้ำ

อาณาเขตเข้ามา ไม่เลวเลยที่ผ่านบรรดาอสุรกายเข้ามาจนถึงเขตภายในได้ แววตาที่เคยหวานบัดนี้วาวโรจน์

ไปด้วยไฟแห่งความแค้น

ร่างกายที่บาดเจ็บจากการปะทะโดยไม่ได้ตั้งตัว ตอนนี้ได้ถูกฟื้นฟูจนกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง และ

เขาพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้า

มาเลย..ไอ้คนที่มาจากตระกูลที่สร้างความหายนะให้กับชีวิตของเขา สิงขรคนนี้ยินดีต้อนรับ







ทันทีที่ก้องภพก้าวผ่านบันไดขั้นบนสุดเข้าสู่เขตตัวเรือนไทย เขาก็รู้สึกหนาวยะเยือกอย่างไม่รู้สาเหตุ ตาขวา

กระตุกรุนแรงจนเขาต้องยกมือมาปิดเปลือกตาไว้อยู่ชั่วครู่  ก้องภพค่อยๆมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง

แล้วจึงตัดสินใจก้าวเดินต่อไปจนผ่านเข้ามาในห้องโถงกว้างผู้หมวดหนุ่มพยายามมองหาผู้เป็นเจ้าของบ้าน

แต่ทุกอย่างกลับเงียบสงบ

เงียบเกินไป

เขาบอกตัวเอง เมื่อเทียบกับการต้อนรับก่อนเข้าสู่อาณาเขตเมื่อสักครู่ ก้องภพไม่เชื่อว่าจะไม่มีผู้ใดอาศัยหลบ

ซ่อนอยู่ในบ้านหลังนี้

ชายหนุ่มชะงักเมื่อหางตาของเขาเหลือบไปเห็นห้องเล็กมืดที่มีทางเข้าอยู่ถัดไปจากห้องนี้ เขายืนชั่งใจอยู่ชั่ว

ครู่ก่อนตัดสินใจก้าวเข้าไป

เมื่อเท้าสองข้างของเขาก้าวผ่านเข้ามาภายในห้องเล็กทุกสิ่งทุกอย่างก็พลันชะงักงัน


ร่างของก้องภพหยุดนิ่งอยู่กับที่ เหมือนถูกพันธนาการไว้ด้วยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น เขาพยายามดิ้นรนที่

จะทำให้ตนเองได้รับอิสระจากการถูกจำกัดการเคลื่อนไหว แต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นเท่าไร ก็ดูเหมือนเชือก

ล่องหนนี้จะยิ่งรัดแน่นขึ้นไปอีก

“จะดิ้นรนไปทำไม ถ้ารู้ว่าทำไปแล้วก็ไม่ได้ผล

น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้นที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง ก่อนที่แสงสว่างจะเจิดจ้าไปทั่วห้อง แล้วก้องภพก็ต้องอึ้ง เมื่อ

เห็นร่างผู้เป็นเจ้าของบ้านปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าไม่ไกลจากเขา

ถ้าไม่นับว่าเคยพบเจอกันมาแล้วถึงสองครั้ง นี่ก็จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญหน้ากับทายาทแห่งมนตราอย่าง

ชัดเจน

ใบหน้าและรูปร่างไม่มีส่วนไหนเลยที่จะไม่เหมือนคนที่เขารักจนหมดใจ ยกเว้นแววตาคู่นั้น

แววตาที่ไม่มีความร่าเริงสดใส สนุกสนานชวนให้เบิกบานอย่างอีกคน แต่กลับฉายโชนแต่รังสีแห่งความ

โกรธแค้น เกลียดชัง ชวนให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียน

“ก็นับว่าเก่งพอตัวที่มาถึงนี่ได้ แต่รู้ใช่ไหม ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด ที่จะกำจัดเราได้

ร่างโปร่งบางเดินอย่างสง่า และดูยะโสในสายตาของก้องภพ มาหยุดยืนต่อหน้าเพียงเอื้อมมือถึง ผู้หมวด

หนุ่มพยายามดิ้นรนให้พ้นสภาพที่ทำอะไรไม่ได้นั้น แต่ก็ไม่สำเร็จ

“โธ่เว้ย แน่จริงก็ปล่อยกูสิวะ ไอ้พ่อมดหมอผี

เขาตะโกนด่าทอดังลั่น ด้วยความหงุดหงิดที่ทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้

คำเรียกที่ศัตรูตรงหน้าใช้ ยิ่งทำให้แววตาคู่นั้นโชนแสงคุกรุ่นหนักขึ้นไปกว่าเดิม สิงขรก้าวพรวดมาเพียง

ก้าวเดียวเขาก็ถึงตัวก้องภพ มือเรียวยื่นเข้ามาทาบที่แผ่นอกของเขาแล้วมันก็ร้อนวาบขึ้น

อ๊ากกกสสส

ก้องภพร้องลั่นอย่างเจ็บปวด ร่างแกร่งถึงกับดิ้นรนให้หลุดพ้นอย่างทุรนทุราย แต่ก็ไม่เป็นผล

เขายังไม่สามารถต่อกรกับคนที่อยู่ตรงหน้าได้แม้แต่นิดเดียว

สิงขรชักมือกลับออกมา เมื่อสาแก่ใจที่จะสร้างความเจ็บปวดเบื้องต้นให้กับคนๆนี้ คนที่บรรพบุรุษของมัน ทำให้

เขาบ้านแตกสาแหรกขาด กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่เด็ก มันจะมาเข้าใจอะไร

กับความทุกข์ทรมานที่เขาต้องทนรับและแบกมันไว้แต่เยาว์วัย

เขายกมือขึ้นมาบีบคางของผู้หมวดหนุ่มจนแน่น แล้วสิงขรก็มองลึกเข้าไปในดวงตาของก้องภพ




ก้องภพชะงักงันเมื่อสบตากับดวงตาวาวโรจน์ที่เก็บซ่อนอารมณ์ลึกล้ำมหาศาล ราวกับภูเขาไฟที่รอวันปะทุ 

มีทั้งความเกลียดชัง โหยหา ว้าเหว่ อย่างไม่น่าเชื่อว่าคนที่อายุเพียงเท่านี้จะมีความรู้สึกที่รุนแรงเช่นนี้

ดวงตาคู่นั้นตรงดิ่งเข้าไปในใจเขาราวกับจะให้ทะลุเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ

แต่แล้วสติของก้องภพก็กลับคืนมา เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ดูหมิ่นจากใบหน้าหวานๆตรงหน้า

สิงขรยิ่งออกแรงบีบกรามของก้องภพจนแทบหัก ก่อนจะพูดให้ก้องภพเกิดความแปลกใจ

“ไม่เคยคิดมาก่อนใช่ไหม  ว่าจะต้องมาเสียทีคนอย่างเรา คุณสายสืบพญายม นายตำรวจชื่อดังแห่งกอง

ปราบ















ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
โอ๊ยยยย ค้างคาสุดๆไปเลยงานนี้!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
รออออออออ

ค้างคามากกก

สิงจรทั้ง2เป็นคนๆเดียวกันสินะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                              Only Love Is Real

                                                                 ให้รักนำทาง

                                                         บทที่ 23 ความสับสนที่เกิดขึ้น


ก้องภพหงุดหงิดถึงขีดสุดเมื่อรู้ว่าสิงขรมีข้อมูลส่วนตัวของเขา แต่เขาเองกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนๆนี้เลย

นี่เขาประมาทเกินไปใช่ไหม

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมสิงขรอีกคนหนึ่งจึงได้เกรงบุคคลนี้มากมายนัก เมื่อเขาได้เผชิญหน้าครั้งสำคัญ

หนุ่มน้อยคนนี้ ไม่ได้มีแค่พรสวรรค์ด้านมนตราเพียงอย่างเดียว แต่ประกอบด้วยความชาญฉลาดของ

มันสมองยิ่งทำให้ความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

ผู้หมวดหนุ่มพยายามตั้งสติเรียกความมั่นใจกลับคืนมา เขาค่อยๆ รวบรวมสมาธิกำจัดบ่วงรัดร่างกายที่มอง

ไม่เห็น

ก้องภพยิ้มเยาะใส่หนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“ไม่มีทางหรอก แกก็รู้ดี ว่าพวกแกไม่มีวันที่จะชนะ

สิ้นสุดประโยคนั้น โทสะของสิงขรก็พุ่งถึงขีดสุด เขายกมือขึ้นเตรียมทำร้ายก้องภพอีกครั้ง แต่คราวนี้ก้องภพ

ไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกทำร้ายฝ่ายเดียว

ร่างที่หลุดจากพันธนาการโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ พุ่งตรงเข้าชนโครมที่ร่างบางของสิงขร จนหงายหลังไปกับ

พื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว โดยมีร่างที่หนากว่าของก้องภพล้มทับมาด้วยกัน

สิงขรพยายามดิ้นรนให้พ้นจากการถูกคุกคาม สองมือที่ยังเป็นอิสระปัดป่ายป้องกันตัว ข้างหนึ่งถึงกับต่อย

เข้าที่ปลายคางของก้องภพ

“โอ๊ย!”

ผู้หมวดหนุ่มถึงกับนับดาวไปชั่วเสี้ยววินาที หมัดของคนผอมๆนี่ก็หนักใช่เล่น

ก้องภพยื้อยุดจับแขนสองข้างของสิงขรได้เป็นผลสำเร็จ เขายึดแขนสองข้างนั้นไปเหนือศีรษะของสิงขร

แล้วล็อคมันติดกับพื้นด้วยมือของเขา

สิงขรโกรธราวกับไฟไหม้ป่า  เขามองหน้าก้องภพด้วยโทสะ ก่อนที่จะเริ่มท่องบริกรรมคาถา

แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ เมื่อถูกขัดขวางจากคนที่หยุดเขาไว้ด้วยวิธีการที่เขาก็ไม่คาดคิด

ก้องภพหยุดการท่องมนต์ของสิงขรไว้ด้วยการปิดปากหนุ่มน้อยโดยใช้ปากของเขา ริมฝีปากประกบแน่น

รุนแรงอย่างไม่ปราณีปราศรัย เขาลงโทษความอหังการ์นั้นด้วยการขบเม้มรุนแรงที่ริมฝีปากของสิงขรจน

แทบจะห้อเลือด โดยไม่สนว่าสิงขรจะดิ้นขลุกขลักอยู่ภายใต้ร่างของเขา

แปลกที่ปรากฏความคุ้นเคยขึ้นมาในความรู้สึก โทสะของก้องภพบรรเทาเบาบางลง  แล้วกลับบังเกิดความ

พลุ่งพล่านอย่างอื่นมาแทนที่ ความรุนแรงลดลงจนริมฝีปากนั้นกลายเป็นขบเม้มดึงดูด เขาใช้ลิ้นดุนบังคับริม

ฝีปากของสิงขรให้เปิดกว้าง แล้วส่งปลายลิ้นเข้าไปคลุกเคล้า

สัมผัสที่เปลี่ยนไปทำให้สิงขรแทบคลั่ง ร่างกายที่ออกแรงต่อต้านในตอนแรก มาถึงตอนนี้กลับสั่นไหวอย่าง

ที่เขาบังคับมันไม่ได้ หัวใจของเขาเต้นแทบระเบิด ยิ่งเมื่อลิ้นอุ่นของก้องภพ เข้าไปซอกซอนทั่วทั้งโพรงปาก

แขนทั้งสองข้างที่พยายามสะบัดให้หลุดจากการเกาะกุมกลับหมดแรงเอาดื้อๆ

ก้องภพปล่อยมือที่จับล็อคแขนของสิงขรไว้ แล้วสอดมือเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีดำ วางมือแนบไปกับเนื้อ

เนียนที่ซ่อนอยู่ เมื่อมาถึงตอนนี้ร่างของสิงขรก็สั่นสะท้านไปหมด










หนุ่มน้อยที่ยืนรดน้ำต้นไม้ในเขตบ้านไม้ทรงยุโรปหลังเก่ากลางเมืองหลวงสะดุ้งเฮือก สายยางที่ถืออยู่หลุด

ร่วงลงจากมือ ก่อนที่เขาจะยกมือกุมศีรษะ เมื่อความหวามไหวประหลาดรุนแรง พุ่งตรงเข้ามาในสมอง จน

ปวดหัวแทบระเบิด เขากลั้นใจส่งพลังเข้าไปสกัดความรู้สึกรุนแรงในหัวสมองนั้น จนกระทั่งหมดเรี่ยวแรง

ขาสองข้างหมดแรงจนล้มลงไปนอนกองอยู่กลางสนามหญ้า







ก้องภพกำลังเตลิดไปกับอารมณ์จนลืมทุกสิ่งอย่างรอบตัว ร่างที่สั่นสะท้านอยู่ภายใต้ร่างเขายิ่งก่อเร้า

ให้เขาย่ามใจมากขึ้น

พลังบางอย่างจู่โจมเข้ามาในหัวสมอง รวดเร็ว รุนแรง จนเขาต้องร้องอุทานเสียงดัง และปล่อยสิงขรเป็น

อิสระอย่างกะทันหัน

หนุ่มน้อยผวาสูดลมหายใจเข้าเหมือนคนจมน้ำอยู่หลายเฮือก จนสติกลับคืนมาแล้วเขาก็ผลักร่างก้องภพจน

กระเด็นออกจากการทาบทับ ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

เขาใช้มือกุมที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง ราวกับจะปลอบให้มันหยุดสั่นระรัว พร้อมกับมองหน้าก้องภพอย่าง

คาดไม่ถึง

ผู้หมวดหนุ่มเอง ก็ไม่คิดว่ารูปการจะออกมาอย่างนี้ เขามองหนุ่มน้อยอย่างขอลุแก่โทษ แต่สายตาที่ได้รับ

กลับมา มันยิ่งคุโชนยิ่งกว่าเก่า คราวนี้เขาเห็นน้ำใสที่คลอในหน่วยตาด้วยความแค้นเคือง

สิงขรก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนจะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป

“เฮ้ย เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งไป

ก้องภพรีบวิ่งตามไป แม้จะรู้ว่าร่างนั้นจะต้องหายลับไปจนได้

เขามาหยุดยืนอยู่ที่บันไดบ้าน แล้วนั่งลงกุมขมับ กับความสับสนที่เกิดขึ้นในจิตใจ








ร่างที่โผลเผลขึ้นมาจากสนามหญ้าเดินช้าๆมานั่งที่เก้าอี้ข้างสนาม สิงขรเอื้อมมือไปวางตรงตำแหน่งของ

หัวใจ เผื่อบางทีอาการที่มันเต้นระรัวอาจจะดีขึ้น

มันต้องเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง กับคนที่เชื่อมความรู้สึกกับเขาได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นมันต้องรุนแรงพอที่จะทำให้

คนที่เย็นชาอย่างนั้น มีปฏิกิริยาโต้ตอบในหัวสมอง

หรือว่า

อย่าเลย อย่าให้เรื่องที่เขาหวาดหวั่นจะเป็นเรื่องจริง สิงขรตื่นตระหนกในใจ เขารีบวิ่งอย่างรีบร้อนเข้าไปใน

ตัวบ้าน แล้วรื้อค้นหาบางสิ่งบางอย่าง จนกระทั่งพบในตู้เอกสาร

สูติบัตรแจ้งเกิดของก้องภพอยู่ในมือ เขามองวันเดือนปีตกฟาก ของผู้หมวดหนุ่มแล้วคำนวณในใจอย่าง

คล่องแคล่ว ในเมื่อวิชาจับยามสามตาเป็นวิชาพื้นฐานของคนที่ใช้อาคมอย่างพวกเขา

มือที่ถือกระดาษแผ่นนั้นสั่นระริก เมื่อผลจากการคำนวณแจ้งชัด หนุ่มน้อยวิ่งขึ้นไปบนชั้นสอง รีบโยนของ

จำเป็นลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว

สิงขรก้าวออกมาจากประตูรั้ว และปิดมันลงอย่างแน่นหนา เขาจำเป็นต้องออกเดินทางอีกครั้ง

ก้องภพกำลังตกอยู่ในอันตราย!




ออฟไลน์ mcooky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อเถิดหนาคนดี ติดตามและเป็นกำลังใจให้คนเขียน

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                            Only Love Is Real

                                                                  ให้รักนำทาง

                                                           บทที่ 24 อะไรคือสันติวิธี


20 มกราคม 2529

ก้องภพปาดเหงื่อที่หน้าผากอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อเดินวนเวียนอยู่ในหุบเขาสูงอยู่หลายวันแต่ก็ยังหาตัว

สิงขรไม่พบ ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าคนยะโสที่ทำให้เขาสับสนนั้นจะหนีไปได้ไกลจนเขายังตามหาตัวไม่

เจอ จนบัดนี้


เคยสอบถามจากสิงขรอีกคนถึงวิชาล่องหน จึงได้รู้ว่า มันใช้ได้เพียงชั่วเวลาไม่นานจึงเอาไว้ใช้ยามจำเป็น

เท่านั้น เขาจึงไม่เชื่อว่าทายาทแห่งตระกูลเวทมนตร์ จะหลุดรอดสายตาเขาไปได้

ผู้หมวดหนุ่มไตร่ตรอง ถึง “พลังพิเศษ” อีกอย่างหนึ่งของเขาที่จะใช้ในการตามหาสิงขร เพราะรู้ว่า

ความสามารถพิเศษนี้ใช้พลังงานจากร่างกายสูง จนอาจจะไม่ปลอดภัยที่จะใช้มัน


….แต่ถ้าจำเป็น เขาก็พร้อมที่จะเสี่ยง


ก้องภพตัดสินใจยืดกายเต็มความสูง หลับตาลงเปิดโสตประสาทการรับรู้ทางเสียงแทนการมองด้วยตา

เสียงต่างๆปรากฏให้ได้ยินรอบทิศไม่เว้นแม้แต่เสียงสัตว์ป่าทั้งหลาย เขาค่อยๆ ใช้พลังพิจารณาอย่างละเอียด

ก่อนจะได้ยินเสียงสายน้ำที่ตกลงมาจากที่สูง และเสียงหายใจของมนุษย์


ใช่แน่นอน ก้องภพลิงโลด เขาพยายามจับทิศทางเสียงของสายน้ำจนแน่ชัด แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมา

ผู้หมวดหนุ่มเซไปข้างหน้าอย่างอ่อนแรง กำลังลดน้อยถอยลงไปกับการทุ่มเทในครั้งนี้จนแทบจะหมด

ก้องภพค่อยๆ เดินไปยังทิศทางของน้ำตกอย่างมั่นใจ










สายน้ำสีขาวที่ตกจากผาสูงฟุ้งกระจาย แตกเป็นฟองละเอียดนวลเย็นตาเมื่อถึงพื้นน้ำเบื้องล่าง

ทัศนียภาพอันสวยงามเหล่านี้กลับไม่ได้ทำให้สิงขรรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย  เมื่อเขารับรู้ถึงการมาเยือนอีก

ครั้งของศัตรูหมายเลขหนึ่ง

คิดไป เขาก็นับถือชายผู้ใช้พลังจิตคนนี้อยู่เหมือนกัน ที่สามารถตามหาเขาจนพบเป็นครั้งที่สอง

แล้วก็อดโมโหตัวเองไม่ได้เช่นกันในวันนั้น เมื่อถูกจู่โจมถึงตัวอย่างไม่คาดคิด ซ้ำร้ายกลับรู้สึกวาบหวามไปกับ

สิ่งที่ถูกกระทำจนเกือบเสียเชิง



ก้องภพก้าวเข้ามาจนอยู่ไม่ไกลจากร่างโปร่งบางที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่บนโขดหินริมธารน้ำ

มองผ่านๆก็เหมือนหนุ่มน้อยที่ทอดสายตาชมทิวทัศน์งาม แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่ จะประมาทไม่ได้อีกแล้ว

กับคนๆนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ เขาจะให้รู้ไม่ได้เลยว่า แค่แรงทรงกายยังแทบไม่มี


“เรามาคุยกันอย่างสันติวิธีดีกว่าไหม” 


เขาทักทายคำแรกด้วยการเสนอทางเลือก

สิงขรหันหน้ามามองผู้หมวดหนุ่มด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะผินร่างกลับมายืนเผชิญหน้ากับก้องภพที่

ยืนระดับต่ำกว่าอยู่บนพื้นดิน


“อะไรคือสันติวิธี”


หนุ่มน้อยเลิกคิ้วถาม


“ทำไมถึงเพิ่งมาคิดสันติวิธีตอนนี้ ทำไมนายไม่ไปบอกบรรพบุรุษของนายว่าให้มาคุยกันอย่างสันติวิธี

กับครอบครัวของเรา ไม่ใช่ฆ่าครอบครัวของเราจนหมด จนเราไม่เหลือใคร”


สิงขรค่อนขอดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จนความรู้สึกวูบไหวด้วยความสงสารเจือเข้ามาในความรู้สึกของ

ก้องภพ


“ก็พวกแกมันหลอกให้คนหลงใหลมัวเมาไปกับไสยศาสตร์ งมงายไม่เข้าเรื่อง แล้วก็ไปทำชั่วช้าสารพัด” 


ก้องภพตอบโต้ด้วยเหตุผลที่เขาได้ยินมาตลอดชีวิต จุดประกายโทสะในแววตาสิงขร

ดูท่ามันคงเป็นสันติวิธีไม่ได้เสียแล้ว

หนุ่มน้อยตาดุ เดินลงมาจากโขดหิน ตรงมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของเขา ก่อนจะตั้งคำถามที่ตอบยาก


“แล้วพวกไหนบ้างที่ต้องมัวเมาไปกับไสยศาสตร์ คนที่มีความอ่อนแอในจิตใจ มีปัญหาชีวิตมากมายที่แก้ไม่

ตก ถามหน่อย พวกเขาจะหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจากที่ไหน ถ้าไม่มาพึ่งพวกเรา”


สิงขรแค่นยิ้มที่มุมปาก เมื่อเห็นก้องภพเถียงไม่ออก


“เราทำให้พวกเขากลับไปมีความหวังอีกครั้ง แม้มันจะริบหรี่ แต่มันก็เป็นแสงสว่างเล็กๆ ช่วยพวกเขา ยามที่

ชีวิตมืดมิด ส่วนพวกนายที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนดี…”


สิงขรสบตากับก้องภพตรงๆ อย่างเคียดแค้น


“กลับมาฆ่า  มาทำลายพวกเราเพียงเพราะอยากโชว์ให้คนอื่นเห็นว่าพวกนายเก่งกาจ นี่นะหรือคือคำว่า

ดีของพวกนาย แล้วมันต่างอะไรกับพวกบ้าอำนาจที่คิดว่าตัวเองดีแต่คนอื่นเลวหมด”




“แต่พี่ก้องไม่ใช่คนอย่างนั้น เชื่อเราเถอะ”


น้ำเสียงกระหืดกระหอบของบุคคลที่สามแทรกเข้ามา จนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมองพร้อมกัน


“ไอ้ไม้ มาที่นี่ได้ไง”


ก้องภพไม่อยากจะเชื่อสายตาเมื่อเห็นคนที่เขารักมายืนอยู่ตรงนี้ แต่หนุ่มน้อยกลับมุ่งความสนใจไปที่สิงขร

อีกคนหนึ่ง เขาเข้าไปเกาะแขนสิงขรในชุดดำเพื่อขอร้อง


“เอามือออกไปจากตัวเรา ไอ้คนทรยศ”


สิงขรชุดดำตวาดอย่างฉุนเฉียวเมื่อเห็นคนที่เหมือนตัวเองอย่างไม่มีผิดเพี้ยน


“เราไม่ได้ทรยศ แต่เราไม่อยากให้นายทำพิธีบ้าๆนั่น ตอนนี้นายก็เก่งกว่าคนอื่นมากแล้ว นายจะอยาก

กลายเป็นไอ้เจ้าแห่งเวทนั่นทำไม นายก็รู้ว่ามันไม่ได้มีผลดีต่อร่างของนายสักนิด”


ก้องภพยืนมองคนสองคนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกันเถียงกันอย่างไม่เข้าใจ อะไรคือร่างใหม่ของเจ้าแห่งเวท

เขาไม่รู้เรื่องเลย


“มันเป็นสิ่งที่เราตัดสินใจแล้ว เอาเหล็กไหลมาให้เรา แล้วไสหัวไปให้พ้น”


สิงขรชุดดำแบมือต่อหน้า แต่สิงขรคนที่ผู้หมวดหนุ่มเรียกว่าไม้ยืนหน้าซีดเผือด


“อย่าบอกนะว่า…”


ทายาทแห่งมนตราสบถออกมา ก่อนที่จะผลักร่างของอีกคนล้มจนหงายหลังแล้วเตรียมเข้าไปทำร้ายซ้ำ


“ไอ้ไม้”


ก้องภพตะโกนอย่างเป็นห่วง ก่อนที่จะถลาเข้าไปผลักอกสิงขรในชุดดำ จนเซไปอีกทาง แล้วจึงเข้าไปประคอง

สิงขรที่นั่งกองอยู่กับพื้น

สิงขรชุดดำโมโหถึงขีดสุด


“รักกันนักก็ตายไปพร้อมกันเลย”


ทายาทแห่งมนตราท่องบริกรรมคาถา ดวงตาคุโชนไปด้วยไฟแห่งโทสะ แล้วเขาก็จ้องไปที่ก้องภพ

ลำแสงไฟสีแดงเพลิง พุ่งตรงออกจากดวงตาของสิงขรในชุดดำ เล็งไปสู่ร่างของชายผู้ใช้พลังจิต ที่มัว

กังวลอยู่ในความห่วงใยที่มีต่อคนรัก

ก้องภพที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวหันกลับไปมองลำแสงที่พุ่งมาอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ เขาหลับตาลงเมื่อ

รู้ว่าคงหลบไม่พ้น และวาระสุดท้ายของชีวิตเขาได้มาถึงแล้ว

ร่างของก้องภพกระเด็นไปด้านข้าง ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงระเบิดเผาไหม้อยู่ใกล้หู เมื่อเสียงนั่นเงียบลง

เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด



กลายเป็นร่างของสิงขร ที่หยุดนิ่งอยู่กับที่แล้วค่อยๆล้มลงไปกองกับพื้น ด้วยร่างกายที่ดำไหม้และลมหายใจ

ที่ขาดห้วง














ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
อะไร๊... นี่มันอะไรกัน เคลียร์ซิ... แบบนี้มันไม่โอ!!!!

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ยังไงต่อไม้จะตายมั้ย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                                  Only love is real

                                                                      ให้รักนำทาง

                                                                  บทที่ 25 จุดเริ่มต้น


สรรพเสียงทุกอย่างนิ่งสนิท มีเพียงเสียงของสายน้ำที่ยังคงแสดงให้รู้ว่าโลกยังไม่หยุดหมุน

ก้องภพจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อสายตา รวมถึงบุคคลต้นเหตุเจ้าของลำแสงแห่งไฟนั่นด้วย

ว่าคนที่นอนกองอยู่กับพื้นจะกล้าสละตัวเองผลักก้องภพจนพ้นทาง และใช้ร่างของตนรองรับลำแสงแห่งการ

ทำลาย จนต้องอยู่ในสภาพนี้


ไม่จริง!!!


ก้องภพตะโกนไม่เป็นภาษาอย่างคลุ้มคลั่ง เขาถลาเข้าประคองร่างที่ดำไหม้นั้น ก่อนที่จะมองไปยังคนที่ลงมือ

ทำอย่างโกรธเกรี้ยว

กลายเป็นดวงตาของก้องภพที่คุโชนด้วยไฟแห่งโทสะ พลังทั้งหมดที่ยังคงเหลือถูกส่งไปกระแทกร่างของ

สิงขรในชุดดำจนกระเด็น


“ถ้าไอ้ไม้เป็นอะไรไป กูจะฆ่ามึง”


สิงขรชุดดำ ค่อยๆเหยียดกายเต็มความสูง ดวงตายังคงเย็นชาไร้ความรู้สึก 


เอาเถอะ ...


เขาจะปล่อยให้ทายาทแห่งตระกูลที่ได้ทำลายล้างครอบครัวของเขา ได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดที่มาจากการ

สูญเสียดูบ้าง ก็คงไม่เลวนัก

สิงขรหันหลัง เดินตัวตรงเข้าไปในเขตป่ากว้าง ทิ้งให้ร่างที่เหมือนตนราวกับพิมพ์เดียวนอนหายใจรวย

รินอยู่ในอ้อมกอดของก้องภพ



ก้องภพใจแทบสลาย เขามองใบหน้าขาวซีดแตกต่างจากร่างที่ร้อนไหม้อย่างสงสาร มือแกร่งที่เคยมั่นคง

บัดนี้ สั่นระริกอย่างที่เขาควบคุมไม่ได้ ค่อยๆเอื้อมไปวางบนแก้มเนียน


“ไม้ แกทำอย่างนี้ทำไม แกทำทำไม”


เขาคร่ำครวญเสียงสั่นไหว ยิ่งแทบขาดใจ เมื่อเห็นสิงขรสะดุดกับลมหายใจของตนเอง


“ผมยังไม่ได้บอกพี่...”


สิงขรเอ่ยเสียงอย่างยากเย็น ดวงตาแดงก่ำเพ่งมองใบหน้าของก้องภพ


“ผมเป็นร่างที่... เค้าเสกขึ้นมา ผมเป็น... เป็นอีกความคิดหนึ่งของเขา. . ”


สิงขรพยายามที่จะยกมือขึ้น ก้องภพคว้ามือที่ไหม้ดำนั้นมาจูบที่กลางฝ่ามือและยกมาแนบแก้มของเขา


“ขอร้อง...อย่า อย่าฆ่า พี่จะเห็นผมในตัวเขา ได้ไหม..”


ดวงตาคู่หวานชื้นไปด้วยหยาดน้ำ ก่อนจะหยาดหยดลงมา


“แต่มันทำแกเจ็บ มันทำให้แกเป็นอย่างนี้ แกจะปกป้องมันทำไม” 


ก้องภพตะโกนเสียงดัง


“เพราะเขาก็คือ..ผม ...อย่าให้เขาทำสำเร็จ ...อย่าให้เขาได้เหล็กไหลไป รับปาก..ได้ไหม..”


ก้องภพเจ็บปวดไปกับคำขอนั้น แม้กระทั่งวินาทีนี้ เขายังอยากจะพุ่งไปหักคอไอ้โหดชาติชั่วนั่น

แต่เมื่อสบตากับดวงตาคู่หวานที่ขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็ต้องกล้ำกลืนมันไว้ ด้วยการพยักหน้ารับ

สิงขรยิ้มอย่างอ่อนแรงเป็นการขอบคุณ ก่อนที่ลมหายใจจะสะดุดอีกครั้ง


“สะ..สุขสันต์วัน กะ..เกิดนะ พี่ก้อง..”


คำพูดตะกุกตะกักอย่างเหนื่อยอ่อนนั้น ทำให้ความอดทนของผู้หมวดหนุ่มขาดสะบั้น ก้อนสะอื้นที่แล่น

มาจุกที่ลำคอ ไม่สามารถกลั้นไว้ได้ น้ำตาจากผู้ชายแข็งแกร่งที่ไม่เคยมี บัดนี้ไหลรินเป็นทางหยดลงมา

ต้องแก้มเนียนในอ้อมแขน



จะมีความสุขได้อย่างไร ถ้าจะต้องจำไปทุกปี ว่าทุกครบรอบวันเกิดของเขา คือวันตายของคนที่เขารัก



สิงขรมองภาพพร่าเลือนนั้นราวกับจะเก็บมันไว้ในลึกที่สุดในหัวใจ คุ้มแล้วที่จะสละชีวิตที่ไม่มีค่าของ

เขาให้กับคนที่รักที่สุด เมื่อเขารู้แล้วว่าดวงของก้องภพถ้าไม่ “ถึงฆาต” ก็ต้อง “เสียของรัก”

เขาเลือกแล้ว ที่จะเป็น “ของรัก” ที่คนตรงหน้าจะสูญเสียไป

แค่เห็นก้องภพยังมีลมหายใจอยู่ต่อหน้า เขาก็เป็นสุขที่สุด


“ขอโทษ..ที่..คง ...ไม่ได้ร้องเพลงรักนิรันดร์ ..ให้ ..พี่ฟัง อีกแล้ว..”


ลมหายใจของหนุ่มน้อยขาดเป็นช่วง เขาอ้าปากหายใจอย่างหิวโหยอากาศเพื่อต่อชีวิตให้ยาวนานขึ้น

แม้เพียงวินาทีเดียวก็ยังดี

ก้องภพดึงร่างนั้นมากอดแนบอก แนบแก้มลงไปกับใบหน้าของสิงขร


“ไม้ พี่จะรอ พี่จะฟังเพลงที่ไม้ร้อง อยู่ร้องเพลงให้พี่ฟังก่อน พี่สัญญา พี่จะฟังทุกๆเพลงของไม้เลยนะ”


ก้องภพคร่ำครวญ เมื่อลมหายใจของคนที่รักหยุดนิ่งเป็นระยะ และเปลือกตาหรุบต่ำ

สิงขรพยายามลืมตาอีกครั้ง เพื่อมองหน้าคนที่รักจนสุดใจเป็นครั้งสุดท้าย



ถ้าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง ขอให้เขาเกิดมาเป็นตัวจริง ขอให้เขาได้พบและรักกับคนๆนี้ทุกชาติทุกภพ



สิงขรอธิษฐาน ก่อนที่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายจะขาดช่วงในอ้อมกอดของก้องภพ


“ไอ้ไม้.....”


ก้องภพตะโกนทั้งน้ำตา ร่างบางที่กกกอด ค่อยๆ รางเลือนเบาบาง กลายเป็นฝุ่นจางๆลอยไปตามสายลม

เหลือทิ้งไว้เพียงกิ่งไม้เก่าๆ ที่ตัดแต่งเป็นรูปคน และ ของเหลวข้นสีเขียวใส







สิงขรหยุดชะงักกลางป่า

เมื่อรับรู้ถึงมวลอากาศบางเบาที่ไหลวนอยู่รอบตัว ก่อนที่จะกำซาบเข้าไปในตัวเขาทุกอณูขุมขน

เขาถอนหายใจ

ขอต้อนรับการกลับคืนสู่ร่าง สิงขร






 :ling2: :ling2: :ling2: :ling2:












ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
กรี๊ดแปป... มันดราม่าสุดๆไปเลยอ่ะงานนี้ เจ็บปวดดดดดด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด