<< OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>  (อ่าน 79004 ครั้ง)

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                                    Only Love Is Real

                                                                       ให้รักนำทาง

                                                                    บทที่ 26 ผู้มาเยือน


14 กุมภาพันธ์ 2529


เขาเหม่อมองกรอบรูปที่อยู่ตั้งอยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะหยิบมาเพ่งมองลึกเข้าไปในนั้นราวกับจะให้เจ้าของมัน

ลุกขึ้นมาคุยด้วย เหมือนเช่นทุกๆวัน

ก้องภพถอนหายใจ

ใบหน้าที่เคยฉายชัดด้วยความหล่อคม มาถึงวันนี้ผู้เป็นเจ้าของปล่อยให้รกเรื้อไปด้วยหนวดเครา

ขาดการเอาใจใส่ดูแล


วันนี้เป็นวันแห่งความรัก วันที่ทุกคนบนโลกเฉลิมฉลองกับคนที่ตนเองรัก ยกเว้นเขา

กรอบรูปในมือ ไม่มีรูปอะไรเป็นพิเศษนอกจากรูปภาพวาดด้วยดินสอที่บ่งบอกว่าคนในรูปนั้นคือก้องภพ

เฉพาะวันนี้ เขาแกะด้านหลังของกรอบรูปออกแล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาเพียงเพื่อจะพลิกไปด้านหลัง

ที่ซ่อนอยู่ ก้องภพใช้ปลายนิ้วไล้เบาๆอย่างคิดถึง


“รักนิรันดร์


คำง่ายๆ สั้นๆ แต่มันทำให้เขาปวดร้าว และคิดถึงคนที่เขียนมันขึ้นมาจับใจ




“แยกร่างเหรอ ลูกไปเจอมางั้นเหรอ


ผู้เป็นบิดาโทรศัพท์ทางไกลมาจากต่างประเทศ ก้องภพถือโอกาสนี้ถามข้อข้องใจที่เขาไม่เข้าใจ


“ก็เคยได้ยิน แต่ว่ามันก็ยากนะ ต้องคนฝีมือถึงจริงๆ จึงจะทำสำเร็จ เค้าว่ากันว่ามันจะแยกจิตใจ ความรู้สึก

ความประพฤติที่ไม่เหมือนกัน ออกจากตัวคนนั้น งงไหมลูก


“พ่ออธิบายเพิ่มได้ไหมครับ ผมยังไม่เข้าใจเลย


ผู้หมวดหนุ่มถามกลับ


“คนเรานี่นะก้อง มีทั้งความคิดที่ดีและไม่ดีอยู่ในตัวเราเองทั้งสองด้าน ขึ้นอยู่กับว่าด้านไหนจะมีอิทธิพลที่

มากกว่าสามารถหยุดความคิดของอีกฝั่งได้ ในกรณีที่ลูกเล่ามา พ่อเดาเหตุการณ์ได้ว่า ปู่ของทายาทคนนั้น

คงต้องเตรียมพร้อมให้หลานขึ้นเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์โดยการแยกเอาจิตใฝ่ดี ออกไปไว้กับอีกคน เพื่อให้ตัว

จริงนั้นมีแต่ความเข้มแข็งและโหดเหี้ยม จะได้ไม่มีความลังเลในการกระทำการใดๆต่อจากนั้น

“พ่อครับ แล้วถ้าเจ้าตัวที่เสกขึ้นมาเกิดตายไปล่ะพ่อ จิตมันจะคืนเข้าร่างเดิมไหม แล้วเจ้าตัวหลักมันจะจำ

เรื่องที่เกิดขึ้นกับไอ้เจ้าตัวเสริมได้ไหม


ก้องภพถามอย่างมีความหวัง


“อืม พ่อไม่มั่นใจเรื่องนี้เลยลูก ว่าแต่ทำไมถามเรื่องนี้เยอะจัง มีอะไรหรือเปล่าก้อง”


“เอ่อ ไม่มีหรอกครับพ่อ”


ผู้หมวดหนุ่มปฏิเสธก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นบิดาอยู่อีกครู่หนึ่งจึงวางหู

ก้องภพหันไปมองกีตาร์ตัวที่ตั้งอยู่ข้างเตียง แล้วหยิบมันขึ้นมากรีดนิ้วไปที่สายเบาๆ

หวังไว้ในใจลึกๆ ว่าผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงของมันจะกลับมาเล่นให้ฟัง








เพล้งงงง

แก้วน้ำใบใสลอยละลิ่วไปกระทบกับผนังบ้านจนแตกละเอียด เศษแก้วร่วงพรูกระจายเต็มพื้น

ไม่ใช่เพราะด้วยเวทอันใด แต่เป็นเพราะผู้เป็นเจ้าของบ้านขว้างมันเพื่อระบายอารมณ์อัดอั้นของตัวเอง

สิงขรไม่เข้าใจ

ว่าทำไมทุกครั้งที่เผลอไผล จะต้องมีใบหน้าของไอ้คนที่ใช้พลังจิตมาวนเวียนอยู่ในความคิด

แล้วเมื่อใบหน้านั้นปรากฏ หัวใจเจ้ากรรมก็พาลเต้นรัวอย่างโหยหา จนเขาไม่มีสมาธิที่จะฝึกวิชาใดๆ ทั้งที่รู้

ว่าเวลามันได้ใกล้เข้ามาทุกขณะ

ซ้ำร้าย ของศักดิ์สิทธิ์ชิ้นสุดท้ายยังอยู่ในมือของผู้ชายคนนั้นอีก

เขาหลับตาลง อยู่ๆ ภาพบ้านทรงยุโรปเก่าแก่ก็ปรากฏขึ้นในห้วงแห่งความคิด เหมือนเป็นบ้านที่เขาคุ้นเคย

ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าไม่รู้จักบ้านหลังนี้มาก่อน

หนุ่มน้อยตาคมลืมตาขึ้น คงต้องไปเยือนผู้เป็นเจ้าของ เพื่อชิงเหล็กไหลมาประกอบพิธีกรรมให้ทันเดือน

หน้า

เพื่อเหล็กไหลหรอกนะ หาใช่เพราะความคิดถึงเจ้าของบ้าน

สิงขรบอกตัวเอง







เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด


 ฝากไปทีได้ไหมนกเจ้าวานนำข่าวไป


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ


 หากเจอเขาเจ้าจงบอกเถิดหนา


 อย่ารอช้ารีบเอื้อนเอ่ยเร็วพลัน


 บอกว่าฉันคอยรัก คอยรอ คอยพะนอเฝ้ารอทุกวัน


 


 เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด


 ฝากไปทีได้ไหมนกเจ้าวานนำข่าวไป


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย ๆ ด้วยความปวดร้าวใจ


 


 เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด


 โปรดนำคำพูดไปนกเจ้าวานนำติดไป


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ


 บอกให้เขาคืนหวนกลับมาหาปลอบวิญญาให้ไออุ่นแก่ฉัน


 อย่าทอดทิ้งให้ฉันเดียวดาย จงคืนมาแนบใจนิรันดร์


 


 เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด


 โปรดนำคำพูดไปนกเจ้าวานนำติดไป


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ

(กุ้ง ตวงสิทธิ์ เรียมจินดาและวงเพื่อน 2528)




ก้องภพเอื้อมมือไปกดปิดเครื่องเล่นเทป แล้วถอนหายใจ

เพลงโปรดที่เคยฟังจนขึ้นใจ แต่ยังไม่เคยเข้าใจในความหมาย มาวันนี้ทุกพยางค์ในเพลงช่างแจ่มชัด

อยู่ๆ มวลอากาศในห้องก็เริ่มเกาะตัวหนาขึ้น มากขึ้น เด่นชัดจนเกิดเป็นร่างของใครบางคน ยืนอยู่เบื้องหลัง

ก้องภพกระตุกยิ้มโดยไม่หันไปมอง


“มาจนได้นะ ไอ้ชาติชั่ว


เขากล่าวต้อนรับผู้มาเยือนที่เฝ้ารออยู่นานแล้ว











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2014 13:13:08 โดย Belove »

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โหย กะลังสนุกเลย จัดหนักเลยก้องภพ ส่งมอบเหล็กไหลขาวขุ่นให้แทน :oo1: :oo1:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
คนดีตายแต่คนชั่วกลับยังอยู่

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                            Only Love Is Real

                                                               ให้รักนำทาง

                                                           บทที่ 27 จิตใต้สำนึก


หัวใจของสิงขรกระตุกวูบ ที่ในสายตาของคนตรงหน้าเขาก็มีสิทธ์เป็นเพียง “ไอ้ชาติชั่ว” คนหนึ่งเท่านั้น

ก็คงจะเป็นอย่างนั้นในเมื่อเขาเป็นคนกำจัด “คนรัก” ของคนๆนั้น ใครจะมองเป็นคนดีได้

ช่างเถอะ...

สิงขรกำจัดความรู้สึก “แปลกๆ” ทิ้งไป เขาสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความเชื่อมั่นที่ดูเหมือนจะ

ลดน้อยถอยลงตั้งแต่อีกจิตหนึ่งกลับคืนสู่ร่าง


“ก็แค่มาขอของคืน เอามาให้เราซะ เราก็จะไปแล้ว


สิงขรปั้นเสียงหยิ่งยโสอย่างที่เคยเป็นยิ่งสร้างความคุกรุ่นให้แก่ผู้หมวดหนุ่มจนต้องลุกขึ้นยืนแล้วหันมา

ประจันหน้ากับสิงขรอย่างรวดเร็ว


“ไม่ให้ มีอะไรไหม


ก้องภพเลิกคิ้วถามด้วยเสียงกวนอารมณ์ จนสิงขรเริ่มหงุดหงิด


“มันเป็นของเรา นายไม่มีสิทธิ์ยึดมันไว้ หรือว่านายกลัวว่าถ้าเราได้ไปแล้วเราทำพิธีสำเร็จ นายจะสู้เรา

ไม่ได้


“ไม่ได้กลัวโว้ย แต่มันไม่ใช่ของของมึง มันเป็นของไอ้ไม้ที่ลำบากไปตามหา ในขณะที่มึงนั่งสบายอยู่


ในบ้าน คอยเวลาแย่งชิงมาจากมันต่างหาก

ก้องภพพูดอย่างเดือดดาล

สิงขรกระตุกยิ้มที่มุมปาก


“ก็มันเป็นหน้าที่ที่มันต้องทำอยู่แล้วนี่ไม่เห็นจะแปลก มันเกิดมาเพื่อทำตามคำสั่ง จะต้องไปสนใจอะไร

กับแค่ ไอ้กิ่งไม้แห้งๆที่มารวมกับจิตที่มันอ่อนแออย่างนั้น



ความอดทนของก้องภพที่มีน้อยอยู่แล้วหมดสิ้นลงทันทีเมื่อสิงขรพูดประโยคนั้นจบลง  เขากระโจนพรวด

เดียวก็ถึงตัวสิงขร โดยที่หนุ่มน้อยยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ

มือสองข้างของก้องภพล็อคแน่นที่ข้อมือของสิงขร แล้วเขาก็ใช้ร่างดันให้สิงขรถอยหลังไปกระแทกผนัง

ด้านหลังอย่างแรง


ยังไม่ทันที่สิงขรจะร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด ก้องภพก็ปิดปากเขาอย่างรวดเร็ว และรุนแรง

ริมฝีปากที่กดเบียดลงไปเต็มไปด้วยโทสะ ราวกับว่ากลีบปากบางของสิงขรนั้นเป็นแค่เครื่องมือระบาย

ความโกรธเกรี้ยวที่ผู้หมวดหนุ่มมีต่อคนที่ถูกกระทำอยู่ตรงหน้า เขาขบเม้มริมฝีปากล่างของหนุ่มน้อยจนห้อ

เลือด


ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นในความรู้สึกที่สูญเสีย ยิ่งอีกร่างมาให้เห็นหน้าและย้ำเตือนความรู้สึกคิดถึง โหยหา เขาก็ยิ่ง

ระบายความคลุ้มคลั่งอย่างไม่ปราณี

สิงขรตะโกนร้องในใจอย่างเจ็บปวดที่กลายเป็นเครื่องรองรับอารมณ์เกรี้ยวกราดของก้องภพ

ศักดิ์ศรีที่ยังเต็มเปี่ยมทำให้เขาพยายามอ้าปากและใช้ฟันกัดเข้าที่ริมฝีปากของก้องภพอย่างรวดเร็ว


“โอ๊ย !!!


ก้องภพร้องลั่น มือที่จับล็อคแขนของหนุ่มน้อยปล่อยลงโดยอัตโนมัติมากุมที่ปากของตัวเอง

สิงขรได้ที มือที่เป็นอิสระจึงได้ฟาดหลังมือเข้าที่ใบหน้าก้องภพอย่างแรง จนหน้าของผู้หมวดหนุ่มหันไป

ตามแรงนั้น

เมื่อหันกลับมาอีกที มุมปากนั้นมีคราบเลือด ที่หนุ่มน้อยก็ไม่มั่นใจว่าจากฟันที่กัดหรือจากหลังมือของ

เขากันแน่ซึมออกมา

แต่ที่มั่นใจคือโทสะที่ระเบิดอยู่ในดวงตาคู่ยาวรีนั่น ทำให้เขาหนาวจับใจ!!




สิงขรคิดหาทางหนีให้พ้นพายุแห่งความเกรี้ยวกราด เขาเตรียมท่องมนต์เพื่อพาตนเองไปให้พ้นจาก

เหตุการณ์บ้าๆนี้

แต่ไม่สำเร็จ..

ดวงตาของก้องภพลุกวาบขึ้น ก่อนที่จะกระชากแขนของสิงขรแล้วเหวี่ยงจนร่างบางนั้นเซถลาไปบนเตียง

ที่ตั้งอยู่ โดยที่สิงขรยังไม่ทันจะเริ่มท่องคาถา

สิงขรผวาลุกจากท่วงท่าที่เสียเปรียบ แต่ก็ไม่ทันเมื่อก้องภพพุ่งตัวมาคร่อมอยู่บนร่าง พลางดึงแขนของ

หนุ่มน้อยออกจากกันดันไปเหนือศีรษะ แล้วอุ้งมือแกร่งก็ล็อคมันติดกับที่นอนนุ่มด้วยมือเพียงข้างเดียว


“คิดจะหนีด้วยเวทมนตร์ของมึงหรือ ไม่มีทางหรอกโว้ย


ก้องภพตะคอกใส่หน้า


“กูจะทำให้มึงเจ็บ เจ็บยิ่งกว่าที่ไอ้ไม้มันโดนแกทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจเป็นร้อยเท่า


ก้องภพใช้มือข้างที่เหลือกระชากเสื้อเชิตสีดำจนกระดุมหลุดกระเด็น ผ้าบางส่วนขาดวิ่น เขาฝังใบหน้าลงไป

ที่ซอกคอหนุ่มน้อย แล้วขบไปแรงๆ

สิงขรสะดุ้งเฮือกตั้งแต่จุดแรกที่ก้องภพโจมตี หนุ่มน้อยตาหวานพยายามที่จะสะบัดตัวไปให้พ้นจากร่างที่

ทาบทับไว้แต่ดูเหมือนยิ่งขยับตัวเท่าใด ก็ยิ่งถูกก้องภพกดเบียดเพิ่มน้ำหนักมากขึ้น จนอยู่ภายใต้แรงบังคับ

ของคนที่อยู่เบื้องบน

ก้องภพขบเม้มไล่จากซอกคอ ทุกที่จะทิ้งรอยแดงจางๆไว้ ลงมาจนถึงยอดอกที่พุ่งชูชัน ผู้หมวดหนุ่มจึงดูดดึง

เข้าไว้ในปาก  ใช้ปลายชิวหาโลมเลีย ก่อนที่จะเม้มมันเข้าไว้ด้วยริมฝีปากของเขา

สิงขรแอ่นกายผวาเมื่อสัมผัสนี้มาถึง เขานึกเจ็บใจที่ร่างกายสะท้านตอบรับโดยไม่ฟังคำสั่งจากสมอง แขนที่

ตอนแรกพอจะมีแรงต้านอยู่บ้าง ตอนนี้กลับอ่อนแรงจนคล้ายเป็นอัมพาต

มือที่กระชากเสื้อจนขาดวิ่น เปลี่ยนมาพยายามที่จะรูดซิปกางเกงผ้าเนื้อดี แต่มันไม่ถนัด ก้องภพจึงออก

แรงกระชากอีกครั้ง แล้วถือโอกาสตอนที่สิงขรตกอยู่ในวังวนของเขากระชากมันออกไปจากต้นขาของ

สิงขรรวมถึงปราการด่านสุดท้าย

สิงขรนึกเจ็บใจที่ใส่กางเกงตัวนี้มา แต่ที่เจ็บใจกว่าคืออาการที่ร่างกายตอบรับเมื่อก้องภพเลื่อนใบหน้าไปที่

จุดกึ่งกลางของลำตัวของเขาแล้วขบเม้มมันไว้ ปลายลิ้นชำนาญของผู้หมวดหนุ่มถูกใช้งานอย่างมี

ประสิทธิภาพ ทั้งขบเม้ม โรมเร้า จนแกนกลางนั้นแทบจะจมหายไปในช่องปาก


“อื้อ ฮัก ฮัก”


ก้องภพไม่ต้องจับล็อคแขนของสิงขรแล้วในตอนนี้ เมื่อหนุ่มน้อยกลับเป็นฝ่ายจับดึงรั้งที่เส้นผมของผู้หมวด

หนุ่มแทนพร้อมส่งเสียงครางเป็นระยะ  สิงขรได้ยินเสียงคำรามในลำคออย่างพอใจจากคนที่บุกจู่โจม

น้ำตาของสิงขรไหลจากหางตาลงมาเปื้อนที่ไรผมอย่างเจ็บใจ ที่ทำอะไรก้องภพไม่ได้ ซ้ำร้ายร่างกายยังตอบ

รับสัมผัสจากคนๆนี้ เหมือนเป็นสัมผัสที่คุ้นเคยและโหยหา

ก้องภพยกตัวขี้น เขาปลดเข็มขัดและจัดการถอดกางเกงตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้มือแยกขาของสิงขร

ให้กว้างออก แล้วดันตนเองเข้าไป

หนุ่มน้อยเบิกตากว้างอยู่ภายใต้การดึงดันของร่างที่ทาบทับไว้ ความเจ็บปวดที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวจู่โจมจน

ต้องร้องอุทานออกมาตามที่จิตใต้สำนึกสั่งการ


“พี่ก้อง ผมเจ็บ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2014 09:37:26 โดย Belove »

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
เมื่อจิตกลับมารวมกันก็ต้องรอดูว่าฝ่ายไหนจะชนะจิตชั่วหรือจิตดี

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
หวังว่าจิตฝ่ายดีจะดึงความรู้สึก ความนึกคิดมามีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆนะ

ว่าแต่ว่าพี่ก้องคะ น้องบอกเจ็บทีนี้ จะปราณีน้องมั้ย :mew2:

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1


รอรอรอ รออ่านต่ออยู่น้า . :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จิตดีกลับเข้าร่างแล้วสิงขรน่าเอ็นดูอ่ะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                                 



                                              Only love is real

                                                  ให้รักนำทาง

                                             บทที่ 28 พบเพื่อลา
 


ก้องภพชะงักตัวอยู่บนร่างบางนั้นอย่างงงงันเมื่อได้ยินคำเรียกที่คุ้นหู ก่อนที่จะสบตากับแววตาที่ยังเลื่อนลอย


คู่นั้น



“ขอร้อง อย่า อย่าฆ่า พี่จะเห็นผมในตัวเขา ได้ไหม..”


คำขอสุดท้ายของคนที่รักสุดใจดังขึ้นมาในความทรงจำ เขามองลึกเข้าไปในดวงตาที่เคยหยิ่งยโส แต่ตอนนี้

เขากลับเห็นดวงตาที่คุ้นเคยแอบซ่อนอยู่


แต่มันหยุดไม่ได้เสียแล้ว...



ก้องภพถอนหายใจลึกยาว มือแกร่งลูบที่ไรผมเปียกชื้น




“ยังเจ็บอยู่ไหม”


เขาถามเบาๆ หนุ่มน้อยเบื้องล่างนิ่งงันพลางเม้มปากแทนคำตอบ


“เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะไม้”



 ก้องภพกระซิบที่ข้างหู ก่อนที่จะเริ่มขยับตัวอีกครั้งช้าๆ และอ่อนโยน

ร่างแกร่งยกขาหนุ่มน้อยให้สูงขึ้นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด และเปิดทางให้ช่องว่างนั้นกว้างขึ้น

เขาค่อยๆขยับเอว จนเห็นว่าคนเบื้องล่างคลายความเจ็บปวดลงแล้ว และพร้อมที่จะเดินทางไปพร้อมเขา

ก้องภพจึงยกขาสองข้างของสิงขรให้เกี่ยวกระหวัดรอบลำตัวของเขาไว้ มือหนึ่งของผู้หมวดหนุ่มกุมแน่น

และเค้นคลึงไปที่เนื้ออ่อนของสิงขร พร้อมกับเร่งจังหวะการเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น

จนกระทั่งเขารู้สึกบีบอัดรุนแรงที่ท้องน้อยเมื่อถูกกล้ามเนื้อของอีกฝ่ายรัดแน่นเป็นจังหวะ

ก้องภพรุกเร้ารัวเร็ว จนทุกอย่างระเบิดขึ้นภายในร่างของสิงขร เขาครางเสียงต่ำผสานกับเสียงร้องที่

ไม่เป็นภาษาของหนุ่มน้อย

ก่อนที่เขาจะซบหน้าลงกับร่างของคนเบื้องล่าง แล้วจุมพิตเบาๆเป็นรางวัล

แล้วสิงขรก็หลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของเขาตลอดคืน


 














อากาศในตอนเช้ายังคงเย็นชื้น แสงจากขอบฟ้าเริ่มเป็นสีแดงเรื่อ ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาให้เห็นเด่นชัด

ก้องภพตื่นนานแล้ว แต่ยังไม่ยอมขยับตัว กลับกระชับอ้อมแขนรัดคนที่นอนหันหลังให้แน่นมากขึ้น

มองเห็นรอยแดงที่ลำคอของคนที่อยู่ในอ้อมแขนแล้ว ผู้หมวดหนุ่มถึงกับถอนหายใจที่ปล่อยให้ความเดือด

ดาลเข้าครอบงำ จนทำรุนแรงถึงเพียงนี้

ร่างบางที่นอนหันหลังเริ่มขยับตัวช้าๆ ก่อนที่จะยกหัวหันหน้ามาสบตากับเขา แล้วก็ชะงัก

สิงขรทำท่าจะลุกออกจากที่นอน แต่คนที่นอนเอกเขนกอยู่ก็คว้าเอวบางให้กลับมาดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อม

กอดอีกครั้ง แถมยังคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมมิดหัว



“จะรีบตื่นไปไหนล่ะ ยังไม่สว่างดีเลย หนาวด้วย”


ผู้หมวดหนุ่มพึมพำเบาๆ พลางใช้คางกดศีรษะ ให้ร่างนั้น

นิ่งอยู่ในอ้อมกอด


“ปล่อยนะ ปล่อยเรา”


เสียงอู้อี้นั้นลอดออกมา จนก้องภพถอนหายใจอย่างรำคาญ


“อยากให้ปล่อย ก็ดูสภาพตัวเองตอนนี้ก่อนนะ จะออกไปไหนได้ เอาสิ ถ้าอยากไปจริงๆ ก็เชิญเลย”


ว่าแล้วก้องภพก็กระชากผ้าห่มออก แล้วปล่อยตัวหนุ่มน้อยจากอ้อมกอด


ก้องภพผวาลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ก่อนจะก้มไปสำรวจตัวเองแล้วก็ต้องอึ้ง เมื่อร่างกายไร้อาภรณ์ใดๆ

ติดกาย แถมยังมีรอยแดงจางๆเป็นหลักฐานจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาอยู่แทบทั้งตัว

หนุ่มน้อยหน้าแดงก่ำ ยื้อยุดผ้าห่มจากมือก้องภพแล้วมาคลุมรอบตัว เลือดแห่งความกระดากยิ่งลามไปถึงใบ

หูเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะหึหึมาจากก้องภพ

สิงขรแทบจะหลับตาไม่ทัน เมื่ออยู่ๆร่างที่เปล่าเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ของคนตรงหน้าก็ขยับกายลุก

นั่ง แล้วดึงตัวเขาไปกอดไว้ทั้งผ้าห่ม


“หลับสบายไหมเมื่อคืนน่ะไม้”


 เสียงพูดอ่อนโยนดังขึ้นใกล้ๆหู แต่กลับเรียกการต่อต้านจากหนุ่มน้อยอีกครั้ง



“อย่ามาเรียกเราว่าไม้”


ร่างที่อยู่ภายใต้การปกคลุมของผ้าห่มพยายามผลักไส


“คนที่เรียกเราว่าไม้มีคนเดียว คือแม่ของเรา ที่เหลือเราไม่อนุญาต”


หนุ่มน้อยเสียงแข็งแต่มีหรือที่ผู้หมวดหนุ่มจะสนใจ


“แหม ก็เพิ่มโควต้าให้อีกสักคนมันจะยากเย็นอะไร จะเรียกไม้ ใครจะทำไม ไม้ ไม้ ไม้”


ก้องภพลอยหน้าลอยตาพูด สิงขรได้แต่เม้มปากด้วยความขัดเคือง


“ว่าแต่ตอนนี้หิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันนะ”


อยู่ๆผู้หมวดหนุ่มก็ชวนง่ายๆ สิงขรส่ายหน้า


“ไม่ได้ เราต้องไป เอ่อ ไปอาบน้ำก่อน”


 สิงขรก้มหน้างุด ก้องภพลอบยิ้มอย่างนึกเอ็นดู


“เออ นั่นสินะต้องอาบน้ำก่อน อาบด้วยกันนะ ประหยัดน้ำ”


สิงขรตาเหลือกเมื่อได้ยินก้องภพพูดจบ หนุ่มน้อยส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ก้องภพก็ไม่ได้ให้โอกาส

เขาลุกขึ้นดึงผ้าห่มออกจากตัวสิงขร แล้วคว้าร่างบางแบกขึ้นบ่า เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยกันอย่างง่ายดาย









สิงขรนั่งหน้ามุ่ยเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากคนที่นั่งตรงข้ามบนโต๊ะอาหาร พลางก้มหน้าดูสภาพตนเอง

ร่างบางอยู่ในชุดของก้องภพที่ประกอบด้วยเสื้อยืดตัวเก่าและกางเกงยีนสีซีด ที่เมื่ออยู่บนร่างเขามันดูใหญ่

เทอะทะราวกับเด็กที่ขโมยชุดผู้ใหญ่มาใส่ และยิ่งไม่คุ้นตาเมื่อเขาเคยแต่ใส่ชุดดำมาตลอด


“กินข้าวกันก่อน ทำสุดฝีมือเลยนะ” 


ก้องภพเชื้อเชิญ พลางตักกับข้าวใส่จานให้สิงขร และบังคับขู่เข็ญให้หนุ่มน้อยกินไปจนตลอดมื้ออาหาร
 














สิงขรหยิบกรอบรูปที่บรรจุรูปสเก็ตของก้องภพขึ้นมาดู ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก เมื่อก้องภพเดิน

มาใกล้  หนุ่มตาหวานวางมันลงที่เดิมก่อนเอ่ยถาม


“หมอนั่นวาดล่ะสิ”


ก้องภพไม่ตอบแต่กลับดึงแขนสิงขรไว้ให้หันมาสบตา


“ไอ้ที่คิดจะทำอยู่เลิกคิดเลิกทำได้ไหม”


 ก้องภพเอ่ยถามจริงจัง


“แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ ที่เคยบาดหมางกันมาแต่อดีต ก็เลิกแล้วต่อกัน ผมจะลืมด้วยเรื่องที่คุณกำจัดเจ้าไม้

เพราะอย่างไร คุณกับมันก็คือคนๆเดียวกัน”



สิงขรสบตาก้องภพอย่างค้นคว้า พบแต่ความจริงจังจริงใจอยู่ในแววตานั้น


“มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ ที่นายจะลืม”


สิงขรย้อนถามเสียงขื่น เขาดึงความเป็นตัวเองกลับคืนมาจนสำเร็จต่อหน้าก้องภพ


“แต่มันไม่ง่ายสำหรับเราที่ต้องแบกเกียรติยศของครอบครัวไว้บนบ่ามาตลอดชีวิต”


สิงขรท่องมนต์บทง่ายๆในใจ แล้วเป่าลมใส่ก้องภพเบาๆโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

อยู่ๆ ก้องภพก็รู้สึกง่วงงุนอย่างประหลาด เขาเซไปมา ก่อนที่สติจะดับวูบลง

สิงขรประคองร่างแกร่งไม่ให้ล้ม พลางจัดให้นอนที่โซฟารับแขก หนุ่มน้อยมองหน้าก้องภพอีกครั้ง

ดวงตาถือดีเมื่อครู่บัดนี้แดงเรื่อ สิงขรโน้มตัวไปจุมพิตที่ปากแดงนั้นเบาๆ


“ขอโทษนะ ที่ทำอย่างที่พี่ต้องการไม่ได้ พี่ก้อง ลาก่อน”
 












ร่างบางเดินตรงไปที่ห้องนอน ก่อนที่จะนิ่งคิดถึงสถานที่ที่ก้องภพจะเก็บเหล็กไหลไว้

สิงขรเดินไปที่กีตาร์ที่วางอยู่มุมห้อง แล้วหยิบมันขึ้นมาคว่ำหน้าลง เขาค่อยๆขยับจนกล่องเล็กๆที่อยู่

ภายในกีตาร์เลื่อนและตกลงมาใส่มือ

หนุ่มน้อยลูบกีตาร์อย่างรักใคร่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างจะค่อยๆจางลง กลายเป็นมวลอากาศที่หมุนวน

และจางหายจนหมดในที่สุด


 


 
 
 

อย่าลืมไปอ่าน เพลิงพ่าย กันด้วยนะคะ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.0




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2014 21:52:29 โดย Belove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
หลงรักเรื่องนี้ เพิ่งเข้ามาอ่านแล้ววางไม่ลงเลยค่ะ :L2:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
(ใจ)แข็งจริงๆนะ สิงขร ไม่สงสารพี่ก้องเหรอ
จัดซักดอก ก่อนลา :hao6: :hao6: 5555

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3
สิงขรทำไมไม่ปล่อยวางล่ะลูก? ภาระแบกไว้มันหนักนะ

ความพยาบาทคือของหวาน แต่เสพมาก ๆ ก็เบาหวานรับประทานนะลูก

ขอให้รักนำทางให้สิงขรไม่ตัดสินใจผิด เฮียก้องรออยู่นะครับผม

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                                 Only love is real

                                                                  ให้รักนำทาง

                                                            บทที่ 29 ตามหาหัวใจ


ก้องภพรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเกือบบ่าย เขาสะบัดศีรษะไล่ความง่วงงุนก่อนตั้งสติ

และเมื่อสติมา เขาก็ฉุกคิดได้ ชายหนุ่มลุกพรวดจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปในห้องนอน แล้วหยิบกีตาร์ขึ้นมา

เขย่า

เงียบสนิท

ผู้หมวดหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งพิงเตียงอย่างหมดแรง และยกมือกุมศีรษะ

แค่กำลังจะเริ่มต้น ก็จบลงอย่างไม่เป็นท่า

ป่านนี้ สิงขรคนนั้นจะไปได้ไกลแค่ไหน แล้วกว่าเขาจะตามตัวได้ ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด





เสียงโทรศัพท์ดังจากห้องรับแขก ปลุกเขาให้ตื่นจากความกลัดกลุ้ม ก้องภพโผเผลไปรับสาย


    “ก้อง เมื่อวานที่คุยกับลูกเรื่องทายาทคนนั้น เราต้องรีบแล้วนะ”


ผู้เป็นบิดาโทรศัพท์ทางไกลน้ำเสียงร้อนรน


    “เดี๋ยวครับพ่อ ใจเย็นค่อยๆพูด มีอะไรนะครับ”


    “ก็เรื่องที่เราคุยกันเรื่องไอ้พิธีกรรมอะไรนั่น จำได้ไหมก้อง ต้องรีบตามหาตัวคนๆนั้นโดยเร็ว เพราะพ่อไปหา

ข้อมูลมาแล้ว ฤกษ์ทำพิธีของพวกมัน ต้องภายในวันที่ 30 เดือนมีนานะก้อง”

ชายหนุ่มยังงงไม่หาย


    “ทำไมล่ะพ่อ ทำไมต้องก่อนวันนั้น”


    “ลูกดูข่าวบ้างไหม เดือนหน้าดาวหางฮัลเล่ย์ ดาวหางที่คนไทยเชื่อว่าเป็นดาวมฤตยูจะผ่านโลกของเราไงลูก

แล้วดาวหางนี่แหละ ที่พวกนั้นมันเชื่อว่า จะช่วยส่งเสริมให้พิธีมันสำเร็จ”


ก้องภพยกมือขึ้นนวดขมับอีกครั้งเมื่อวางสายจากผู้เป็นบิดา พยายามนึกย้อนกลับไปถึงรายละเอียดที่เคยคุย

กับสิงขร


    “เขาจะต้องประกอบพิธีกรรมในวันเกิดของเขา คืออีก สามเดือนข้างหน้า ผมมีหน้าที่คือหนีไม่ให้เขาฆ่า

ผมให้นานที่สุด อย่างน้อยก็ต้องหลังวันเกิดของเขา


“แล้ววันเกิดมัน วันที่เท่าไหร่ล่ะ” เขาถามต่อในวันนั้น


    “30 มีนาคม”
















สิงขรเดินใจลอยกลับเข้าไปในป่า

เมื่อก่อนหัวใจของเขาเคยมั่นคงด้วยความรับผิดชอบต่อวงศ์ตระกูลที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เกียรติยศ

กลับคืนมา

แต่เมื่อใครบางคนผ่านเข้ามาในชีวิต มันทำให้เขาต้องหยุดฟัง เสียงของหัวใจบ้าง

เพียงแต่ถ้ามันจะเดินไปด้วยกันได้ คงจะดีไม่น้อย


อะไรบางอย่างปรากฏขึ้นในลานสายตา สิงขรหันขวับไปมอง

ร่มคันเล็กสีน้ำตาลเข้มปักวางอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มุ้งหยาบที่คลุมร่มอยู่ถูกพับเก็บขึ้นเหนือร่ม

พระภิกษุชราน่ากราบไหว้ นั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่ ใต้ร่มใบเล็ก ให้ความรู้สึกเย็นตา เย็นใจ

หนุ่มน้อยเดินตรงเข้าไปหยุดตรงหน้า แล้วทรุดตัวก้มกราบ

พระภิกษุลืมตามองอย่างเอ็นดู


   “จะไปไหนเล่า พ่อหนุ่ม”


สิงขรอึ้ง นั่นสิเขาจะไปไหน


    “ยังไม่ทราบเลยครับหลวงตา ว่าจะไปไหน”


    “หลงทางมาหรือไง ถึงไม่รู้ใจตนว่าจะไปทางไหน”


พระภิกษุยิ้มให้อย่างปราณี


    “เลือกทางไหนก็ได้ที่ทำให้ลูกสบายใจ และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน”


   “แม้ว่าทางนั้นจะไม่ได้ทำให้เรามีเกียรติ มีศักดิ์ศรีหรือครับ หลวงตา”


    “อะไรคือเกียรติ คือศักดิ์ศรีของลูก เอามาวางให้หลวงตาดูหน่อยได้ไหม”


พระภิกษุถามในสิ่งที่สิงขรตอบไม่ได้


    “สิ่งที่จำเป็นในชีวิตคือปัจจัย 4  อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค แสดงว่าเกียรติยศ ศักดิ์ศรี

ก็ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต ใช่หรือเปล่า”


สิงขรเงยหน้าสบตากับพระภิกษุอีกครั้ง


    “ถามใจของเจ้าให้แน่ ว่าจะเลือกทางไหน”


พระภิกษุกล่าวสอนอีกครั้งก่อนหลับตาลง สิงขรก้มลงกราบอีกครั้งก่อนลุกเดินจากไปด้วยหัวใจที่ยังหนักอึ้ง









20 มีนาคม 2529

ก้องภพทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดแรงทั้งตัวและใจ ทั้งงานหลักอาชีพตำรวจที่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ ก็ยัง

ไม่สามารถหาคำตอบไปให้เบื้องบนได้ ว่าคนที่ฆ่าคนด้วยคุณไสยคือใคร แม้คำตอบนั้นจะชัดแจ้งอยู่ในใจ

แล้วยังมีคดีอื่นที่ได้รับมอบหมายเพิ่มขึ้นอีก

ทั้งเรื่องของคนที่หนีไปพร้อมทั้งขโมยหัวใจ ความรู้สึกของเขาไปด้วย

กี่ครั้งที่พยายามตามหา ไม่ว่าจะออกตามหรือใช้พลังพิเศษ เขาก็ยังไม่พบวี่แววของสิงขร

จนแทบจะยอมแพ้

ที่เป็นห่วงที่สุดคือการตัดสินใจของสิงขรในการประกอบพิธีกรรม ที่เขาไม่รู้เลยว่าถ้าทำสำเร็จอะไรจะเกิด

ขึ้นกับคนที่เขามีใจให้

ก้องภพหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน จิตเริ่มสงบเมื่อใกล้เข้าสู่ภาวะแห่งการหลับใหล

ภาพป่ากว้างคุ้นตาปรากฏในภวังค์ ก่อนที่จะตามมาด้วยถ้ำลึกที่มืดมิด

ผู้หมวดหนุ่มลืมตาโพลง ทำไมเขาไม่ได้คิดถึงที่นี่ ที่ที่มีความสำคัญต่อเขาและสิงขรอีกแห่งหนึ่ง

ก้องภพกระโจนลุกจากเตียงเตรียมเคลียร์งานที่ค้างอยู่ และเดินทางอีกครั้ง

รอก่อนนะ ไม้










29 มีนาคม 2529

แสงแดดยามบ่ายจัดยังคงส่องลอดคบไม้ใหญ่ ให้เห็นปากทางเข้าถ้ำ  แต่เมื่อมองเข้าไปภายในกลับเห็นแต่

ความมืดมิด

ก้องภพยืนพักอยู่ที่ปากทางเข้าถ้ำอย่างเหน็ดเหนื่อย กว่าจะมาได้เขาต้องจัดการงานอีกหลายอย่าง

และกว่าจะเดินทางกลางป่ามาถึงที่นี่ ก็ล่วงเข้าไปจนถึงวันสุดท้ายที่จะเกลี้ยกล่อมให้สิงขรเปลี่ยนใจ

เขาก้าวเข้าไปในถ้ำหลังจากที่ปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืด จนมาถึงภายในถ้ำที่เป็นห้องโถงใหญ่

ร่างคุ้นตาใส่ชุดดำยืนหันหลัง กลมกลืนกับความมืด หันขวับมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงผู้ลุกล้ำ

ก้องภพยิ้มอย่างดีใจ ส่วนสิงขรมองอย่างตกใจที่ก้องภพพบเจอเขาได้ในที่สุด

ผู้หมวดหนุ่มผวาเข้ามากอดร่างนั้นจนแน่น


    “ไม้ หนีมาทำไม รู้ไหมว่าเป็นห่วงแค่ไหน คิดถึงแค่ไหน”


สิงขรหลับตาลง กลั้นสะอื้น ปล่อยให้น้ำตาไหลรินผ่านร่องแก้ม























ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ยอมๆเหอะสิงขร อย่าเยอะ เลือกเอาระหว่างพิธีกรรม กะ พิธีกาม 555 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ยอมๆเหอะสิงขร อย่าเยอะ เลือกเอาระหว่างพิธีกรรม กะ พิธีกาม 555 :laugh: :laugh:


ชอบความเห็นรีนี้อ่ะ
เห็นแนวทางแล้วนะไม้ เอิ๊กๆ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ ipookza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
มาต่อเร็วๆนะ กำลังสุนกเลย พึ่งเคยอ่านสนุกมากค่ะ แนวนี้หาคนแต่งยากจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                                  Only Love is real

                                                                       ให้รักนำทาง

                                                                     ที่ 30 พิธีกรรม


สิงขรไม่อยากจะยอมรับกับตัวเองจนกระทั่งตอนนี้ว่าผู้ชายคนที่กอดเขาจนแน่น ช่างมีอิทธิพลต่อเขา

เหลือเกิน

มือที่แนบอยู่กับลำตัวค่อยๆยกขึ้นอย่างลังเล และเมื่อยอมรับใจของตนได้ สองมือนั้นก็กอดตอบจนแนบแน่น

สิงขรฝังใบหน้าตัวเองลงกับบ่ากว้างที่รองรับ แล้วร้องไห้อย่างไม่อาย

ก้องภพปล่อยให้หนุ่มน้อยร้องไห้อยู่พักหนึ่ง  แล้วเขาก็ดันตัวสิงขรออก เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตา


“ทำไมรู้ว่าเราอยู่ที่นี่” 


สิงขรเอ่ยถาม


“ก็เพราะคุณขโมยหัวใจของผมมาด้วย ผมเลยต้องมาตามที่หัวใจของผมมันอยู่ และพามันกลับ


สิงขรสบตาก้องภพในความมืด ดวงตาคู่นั้นช่างกระจ่างชัดอยู่ในความรู้สึก มีแต่ดวงตาของเขาที่อับแสงลง

จนต้องหลบสายตา


“เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ นายก็รู้


หนุ่มน้อยพูดเสียงขื่น ก้องภพประคองใบหน้านั้นให้หันกลับมาสบตาเขาอีกครั้ง


“มันเป็นไปได้ ถ้าคุณอยากให้เป็น


ก้องภพโน้มตัวไปจุมพิตที่หน้าผากสิงขร


“แค่ตอบผมสักคำว่าคุณรักผม เหมือนอย่างที่ผมรักคุณหรือเปล่า


สิงขรมองสบตาก้องภพ ก่อนที่จะตอบอย่างมั่นใจ


“เรารักนาย


ก้องภพยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบนั้น เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะหนุ่มน้อยเบาๆ


“ถ้าคุณรักผม ไหนลองเรียกผมว่าพี่ก้องทีสิ แล้วเลิกใช้คำแทนตัวเองว่าเราด้วย


“พี่ก้อง ผมรักพี่


สิงขรเอ่ยอย่างกระดาก แต่นั่นก็ทำให้ก้องภพดีใจเป็นที่สุด

เขาบรรจงมอบรางวัลให้สิงขรด้วยจุมพิตที่อ่อนหวานที่สุด จนหนุ่มน้อยสะท้านไปทั้งร่างก่อนที่สิงขร

จะปล่อยใจและกายไปกับคนที่เขายอมรับกับตนเองแล้วว่ารักจนหมดใจ

เพราะครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้รู้จักความสุข สิงขรบอกกับตัวเอง











เสียงลมพัดเสียดสีกับกิ่งไม้แว่วมาจากภายนอก กลิ่นไอความชื้นลอยมาปะทะจมูก เวลานั้นได้มาถึงแล้ว

สิงขรลุกขึ้นยืน ลำตัวเหยียดตรงหน้าเชิด เตรียมก้าวเท้าออกเดิน


“จะไปไหน


เสียงดุดังขึ้นจากคนที่ลุกตามอย่างรวดเร็ว


“มันถึงเวลาแล้ว


สิงขรตอบเสียงเย็นชา ก้องภพรีบลุกมาดักหน้าและยึดต้นแขนสองข้างของสิงขรไว้


“พี่ไม่ให้ไป ทำไมล่ะไม้ ความรักของพี่มันเปลี่ยนใจไม้ไม่ได้เลยหรือ ที่พี่ดั้นด้นมาที่นี่มันไม่มี

ความหมายเลยใช่ไหม


ก้องภพตัดพ้อ


“พี่ไม่เข้าใจผมหรอก ว่าผมต้องแบกรับอะไรบ้าง พี่รู้ไหม ผมฝันเห็นพ่อแม่ ฝันเห็นปู่ทุกคืน พวกเขามาทวง

คำสัญญาจากผม ผมต้องนอนฝันร้ายทุกคืนพี่รู้บ้างไหม ผมทรยศพวกเขาไม่ได้


“ไม่ได้


ก้องภพกางแขนกั้น


“ไม่มีทางที่ไม้จะผ่านพี่ไปได้ ถ้าพี่ไม่ตายเสียก่อน


“พี่อย่าบังคับผม


สิงขรตะโกนก้องไปทั่วถ้ำ แต่ก้องภพยังคงยืนนิ่งที่เดิม


ดวงตาคู่หวานลุกวาบ สิงขรท่องมนต์ แล้ววางมือไปที่ลำตัวของก้องภพจนตัวแดงวาบ ก้องภพร้องลั่นก่อนที่

จะทรุดตัวลงด้วยความเจ็บปวด สิงขรเดินตัวตรงผ่านร่างนั้นไป

เขาหันกลับมาอีกครั้งเมื่อเกือบลับสายตา


“ลาก่อน พี่ก้อง” 


แล้วร่างนั้นก็เลือนหายไป









พยับเมฆลอยต่ำปกคลุมท้องฟ้า แสงอัสนีบาตสว่างแปลบปลาบ ส่องให้ร่างที่ยืนเด่นบนยอดเขายิ่งดูน่า

เกรงขาม

สิงขรยืนนิ่งอยู่หน้าแท่นที่วางของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามเพื่อรอเวลาเที่ยงคืนตรง ที่จะก้าวเข้าสู่วันใหม่

นี่เป็นภาระที่เขารับผิดชอบ ภาระที่เขาเตรียมตัวรับมันตั้งแต่วัยเยาว์ บัดนี้มันถึงเวลาแล้ว

ลำแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าด้านหนึ่งก่อนที่มันจะเดินทางมาจนใกล้ยอดเขา

มาแล้วสินะ ดาวมฤตยูในตำนาน

สิงขรเริ่มท่องมนต์บทที่เตรียมไว้จนขึ้นใจ เร็วขึ้น ดังขึ้น เสียงฟ้าฝนยิ่งกระหน่ำตอบรับและเมื่อแสงแห่ง

ดาวหางใกล้จะตรงหัว ของศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นก็เริ่มมีแสงสว่างเรืองรอง

ยกเว้นเหล็กไหล

สิงขรเพ่งตามองอย่างแปลกใจ


“มันไม่สำเร็จหรอกไอ้ไม้ ในเมื่อเหล็กไหลในกล่องนั้นน่ะ มันเป็นของปลอม


สิงขรหันไปมองอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียง แล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่า

ก้องภพที่ยืนตัวงอ ด้วยอาการบาดเจ็บถือกล่องใส่เหล็กไหลเรืองแสงในมือ!!

เขาเดินตรงเข้ามาใกล้ พลางเลิกคิ้วถาม


“แกคิดว่าพี่จะโง่ เก็บของสำคัญไว้ให้หาได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ


สิงขรมองอย่างเจ็บใจ ยิ่งลำแสงแห่งดาวหางส่องตรงหัว แสงจากของศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งเรืองรองท้องฟ้ายิ่ง

ปั่นป่วน ลมพัดจนยอดไม้หักโค่น ฟ้าแลบแปลบปลาบ ส่งเสียงร้องดังลั่น


“พี่ก้อง ส่งมาให้ผม เดี๋ยวนี้


สิงขรตะโกนอย่างร้อนรน แต่ก้องภพได้แต่ยืนกระตุกยิ้มอย่างสะใจ


“อยากได้ ก็เข้ามาเอาเองสิ


สิงขรไม่มีทางเลือก เขาโผเข้าใส่ก้องภพแต่ก็ต้องกระเด็นออกมา เมื่อผู้หมวดหนุ่มใช้พลังของเขาต้านไว้

ทายาทแห่งมนตราไม่ยอมแพ้ สิงขรท่องมนต์รัวเร็ว เกิดลำแสงแดงวาบขึ้นที่ฝ่ามือ แล้วเขาก็สะบัดใส่

ก้องภพ แต่คนใช้พลังจิต ใช้สายตาเพ่งมองผลักลำแสงนั้นจนคลาดร่างเขาไปนิดเดียว

ผู้หมวดหนุ่มเงยหน้ามองลำแสงสีแดงบนท้องฟ้านั่นแวบหนึ่งแล้วก็รู้ว่ามันถึงเวลาแล้ว เมื่อลำแสงของมัน

แดงก่ำ ก่อนที่จะพุ่งวาบเข้าหาแท่นพิธี

ก้องภพตัดสินใจเพ่งสายตาไปที่สิงขรใช้พลังผลักร่างของหนุ่มน้อยให้เสียหลักล้ม

เขาเบนพลังนั้นไปผลักแท่นพิธีจนมันกระเด็นจากพื้นลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วเขาก็ขว้างกล่องเหล็กไหล

ลอยละลิ่วไปใกล้แท่นพิธี

ลำแสงพุ่งวาบจากดาวหางตรงดิ่งเข้าหาแท่นพิธี จนเกิดเป็นไอหนาสีแดงกลางอากาศ  ท้องฟ้าลั่นครืน

แล้วแสงอสุนีบาตก็ฟาดเปรี้ยงลงมา



ก้องภพกระโจนเข้าบังร่างสิงขรก่อนที่สายฟ้าจะฟาดลงถึงพื้นดิน

ลำแสงสีแดงของดาวหางแล่นผ่านท้องฟ้าไปอีกด้านหนึ่ง สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ปกติ เมฆฝนคล้อยผ่านจน

เหลือเพียงละอองบางเบา เวลาแห่งพิธีกรรมผ่านพ้นไปแล้ว

สิงขรเหลือบตามองอย่างเจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะรู้ดีว่ามันเกิดจากความหวังดี

ก้องภพปล่อยตัวสิงขรให้เป็นอิสระ เขาสบตาหนุ่มน้อยอย่างดีใจที่ไม่เกิดอะไรขึ้น

เขาเอื้อมมือมาจับเบาๆที่ใบหน้าของสิงขร





แต่แล้ว มันกลับตกลงพร้อมร่างกายของก้องภพที่ทรุดลงไปนอนกองกับพื้น







เพื่อนนักอ่านสาวกเรื่อง X-theme the series

รบกวนตอบโพลเรื่องรวมเล่มด้วยนะคะ

http://goo.gl/forms/We7Ud6pLWh

ขอบคุณค่ะ






















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2014 21:44:42 โดย Belove »

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
มาต่อด่วนจ้า
ติดมากกกกกกกกกกก
สนุกมากกกกกกกกก

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                              Only love is real

                                                                ให้รักนำทาง

                                                              บทที่ 31 รักนิรันดร์


“พี่ก้อง” 


สิงขรตกใจสุดขีดกับสภาพที่เขายังไม่รู้สาเหตุ หนุ่มน้อยรีบถลาเข้ามาสำรวจร่างของก้องภพ ก่อนที่จะ

พบว่าแผ่นหลังของผู้หมวดหนุ่มเต็มไปด้วยรอยไหม้เกรียม


“พี่ก้อง พี่ถูกฟ้าผ่าหรือ


สิงขรร้องลั่นจนแทบจะขาดใจ


ก้องภพตาค้าง หัวใจของเขาหยุดเต้น สิงขรรีบวางร่างนั้นกับพื้นดิน แล้วกดไปที่ตำแหน่งของหัวใจรัวเร็ว


“พี่ก้อง พี่ต้องไม่เป็นอะไรนะ ต้องอยู่กับผมนะ


สิงขรตะโกนอย่างเสียสติ เมื่อก้องภพไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น

ร่างที่หยุดหายใจ ผวาเฮือก ตาที่ค้างอยู่เบิกกว้างก่อนที่จะกลับมามองหนุ่มน้อยอย่างห่วงใย


“ไม่เป็นไร ใช่ไหม


กลับเป็นเสียงที่แผ่วเบานั้นที่เป็นฝ่ายถาม สิงขรน้ำตาไหลพราก


“ไม่ ผมไม่เป็นไร


ก้องภพยิ้มอย่างอ่อนแรง ลมหายใจอ่อนระโหย


“ดีแล้ว


มือของเขาค่อยๆเอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้สิงขร


“อย่า ร้องไห้ พะ พี่รัก มะ ไม้ นะ” 


เขาสำลักเฮือก สูดลมหายใจทางปากอีกครั้ง


“สุขสันต์วันเกิด


ลมหายใจนั้นขาดห้วง สิงขรดึงร่างนั้นมากอดแล้วตะโกนลั่นไม่เป็นภาษาอย่างเจ็บปวดที่สุดในชีวิต


“พี่ก้อง.....








5 ปีผ่านไป


อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวาพุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ

สะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมธัมมัง นะมัสสามิ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆสังฆัง นะมามิ





พระภิกษุหนุ่มรูปงามเช็ดถูโบสถ์จนสะอาดเอี่ยม จึงมานั่งต่อหน้าพระประธาน

เมื่อจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้ว จึงได้นั่งขัดสมาธิ ทำใจให้สงบแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร

โดยเฉพาะแผ่เมตตาให้กับคนๆนั้น ที่ยังมีร่องรอยเจือจางอยู่ในใจตลอดเวลา แม้จะคลายความรุ่มร้อนเสียใจ

ลงมากแล้วเมื่อผันชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์หันหลังให้กับวิชาอาคมโดยสิ้นเชิงตั้งแต่วันนั้น วันที่คนที่ยึด

หัวใจไว้ได้จากไป

จิตใจที่ติดอยู่ในไฟแห่งโทสะเลือนหาย ความเย็นใจเย็นกายสร้างความสงบให้ พระภิกษุหนุ่มปวารณาตน

จะรับใช้พุทธศาสนาไปจนกว่าร่างนี้จะสิ้นอายุขัย และกรรมเก่า

ดวงตาคู่หวานจับจ้องไปที่องค์พระอย่างสงบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดลงช้าๆ

วางกิเลสและนิวรณ์ทั้งปวง ก่อนที่จะเข้าสู่สมาธิ

คำอธิษฐานที่เคยมีล่องลอยมาอาบไล้ราวกับสายลม


ถ้าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง ขอให้เขาเกิดมาเป็นตัวจริง ขอให้เขาได้พบและรักกับคนๆนี้ทุกชาติทุกภพ









ธันวาคม พ.ศ.2534

พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

พบภิกษุหนุ่ม ละสังขาร ท่านั่งสมาธิ ชาวบ้านแห่กราบไหว้


                                                                            จบบริบูรณ์






บทส่งท้าย


อธิศหันกลับไปมองก็ต้องอึ้งกับภาพที่เห็นชายหนุ่มที่ก้าวลงมาจากรถยุโรปคันใหญ่เงาวับนั้น

กลับเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นที่ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าเขาเสียอีก

หน้าหวานใสนั้นขัดกับบุคลิกที่ดูขรึมเชิด หน้าตรงหลังตรงไม่เหลือบแลสิ่งใดราวกับคนทั้งโลกไร้ค่า

สำหรับเขาคนนั้น


หนุ่มหน้าหวานลงมายืนเต็มตัว มองตรงไปที่รถคันเกิดเหตุ

นี่คือครั้งแรกที่อธิศสาบานได้ว่าเพิ่งเคยเจอและได้ยินเสียงของผู้ชายที่ยืนนิ่งห่างไปไม่ไกลนัก 

แต่เขาเองไม่รู้เหตุผลว่าทำไม ชายหนุ่มที่ดูหยิ่งยะโสคนนี้ถึงได้มีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจของเขาได้

มากมายขนาดนี้

หรืออาจจะเป็นเพราะความตี่นเต้นและความกลัว ชายหนุ่มถามตัวเอง แต่ก็สามารถตอบได้ในทันทีว่าไม่ใช่

ความรู้สึกในใจมันวูบไหวประหลาด เหมือนกับได้พบสิ่งที่รอคอยมานาน





“คุณเชื่อเรื่อง Soulmate ไหม”

หนุ่มตาชั้นเดียวตั้งคำถามขึ้นมาอีก



“คนที่คุณคุ้นเคยและเกิดมาเพื่อกันและกันไปทุกๆชาติ คนที่คุณรู้ว่าเขาเกิดมาเพื่อคุณ ผมเชื่อนะว่ามันมีจริง

แล้วผมก็เชื่อว่าคุณจะพบคนๆนั้นจนได้



ทำไมจะไม่เชื่อ ...


ธีทัตตะโกนในใจ เขาหลับตาลงเหมือนจะไม่อยากให้คนตรงหน้ามองเห็นความจริงในแววตาและความรู้สึก

ที่ลึกล้ำ

ก็ไม่ใช่เพียงแค่แวบแรกที่สบตาในคืนวันนั้นแล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกหรือ ที่ทำให้เขาและอธิศได้มายืนอยู่ตรงนี้



“พี่ซันจำได้ไหมว่าเคยถามผมเรื่อง Soulmateคนที่คุ้นเคยและเกิดมาเพื่อกัน”

หนุ่มตาหวานเป็นฝ่ายเอ่ยถามบ้าง อธิศยิ้มให้ รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ


“พี่คือคนนั้นของผม


ธีทัตพูดเสียงหนักแน่น อธิศยิ้มให้อีกครั้งอย่างยินดีที่ได้ยิน





จากเรื่อง รักได้ไหมผู้ชายธรรมดา
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40152.0





 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------






สอบถามเรื่องรวมเล่ม X-theme  The seriesใครเคยอ่านแวะไปตอบโพลให้บ้างนะคะ

http://goo.gl/forms/aqLzva7wcw ขอบคุณค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2014 19:47:34 โดย Belove »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ไม่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้แป๊บเดียว จบแล้วง่าาา
บรรยานความรุ้สึกไม่ถูกเลย
ช่วงก่อนจบมันเป็นอะไรที่ทั้งสุขทั้งเศร้าน่าดู
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นัค๊าา

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โหยยยยย จบแล้วเหรอ ขัดใจอยู่นุดนุงนะ  :ling1:
แต่ยังไงก็ขอบคุณคนแต่งน้าาาาา :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
เศร้านะ... แต่ซึ้ง... ไม่น่าตายเลยเธอเอ๋ย.... กระซิกๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด